เอพีวิเคราะห์เศรษฐกิจไทยยังไม่ชัดเจนหลังในหลวงสวรรคต“หุ้นและค่าเงินยังแกว่ง”เผยปิดตลาดหุ้นบวก 59.12



สำนักข่าวเอพีวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจไทยบอกยังไม่ชัดเจน มีองค์ประกอบหลายประการต้องพิจารณา ผู้ว่าธปท.ขอความร่วมมือสื่อกรองข่าวก่อนนำเสนอป้องกันการตื่นตระหนก เผยตลาดหุ้นไทยปิดตลาด 14 ตุลาคมบวก 4.18 % เพิ่ม 59.12 จุด

 

สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงเทพฯเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2016 ด้วยการวิเคราะห์ผลกระทบถึงภาวะเศรษฐกิจไทยยังไม่ชัดเจน (Likely impact of Thai king's death on economy unclear) หลังจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสวรรคต โดยระบุว่าตลาดหุ้นและค่าเงินบาทยังแกว่งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังข่าวของพระองค์เผยแพร่ออกมา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2016  สิ่งที่จะต้องจับตาดูมีองค์ประกอบ ดังนี้

ราคาหุ้น : ตลาดหุ้นไทยลดลงหลังจากที่สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ที่พระอาการทรุดลง ถือเป็นครั้งแรกที่แถลงการณ์ใช้วลีเช่นนี้กับพระอาการ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมการซื้อขายในตลาดหุ้นลดลงเกือบ 7 % แต่เมื่อปิดตลาดหุ้นกลับมาลดลง 4.1 %  ทั้งนี้อาจเป็นไปได้ที่มีการขายออกทั้งจากเจ้าหน้าที่และบรรดากลุ่มนำทางการเมืองของไทย

สำหรับการซื้อขายตลาดหุ้นไทยเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2559 สรุปภาพรวมตลาดซื้อขายหลักทรัพย์ หลังปิดตลาดที่ระดับ 1,471.94 จุด เพิ่มขึ้น +59.12 จุด หรือ +4.18% มูลค่าซื้อขาย รวม 59,594.82 ล้านบาท

ค่าเงินบาท : เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 35.23 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐหรือค่าเงินบาทลด 1.3 % เทียบกับวันที่ 13 ตุลาคม, ทั้งนี้เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมลด 1.1 % และวันที่ 13 ลดอีก 0.2 %  อย่างไรก็ตามค่าเงินบาทลดเช่นนี้เปรียบเทียบไม่ได้กับเงินบาทถูกโจมตีค่าเงินเมื่อปี 1997 (พ.ศ.2540) ส่งผลกระทบไปยังค่าเงินประเทศภูมิภาคอย่างกว้างขวาง นักวิเคราะห์เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยอาจเข้าแทรกแซง หากมีความจำเป็นเพื่อสนับสนุนค่าเงินบาท  

ภาพรวมเศรษฐกิจ  :  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ในพระบรมโกศ ทรงเป็นกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่พระองค์ทรงเป็นศูนย์รวมของจิตใจชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสถานการณ์การเมืองไทยเกิดภาวะวิกฤติ  นักวิเคราะห์เชื่อว่าประเทศไทยจะยังคงสงบ เหตุเพราะพสกนิกรยังอยู่ในอาการเศร้าโศกและไว้ทุกข์ อีกทั้งไม่มีกลุ่มไหนที่อยากจะเข้ามามีปัญหากับคสช. อย่างไรก็ตามยังมีบางคนเฝ้ารอถึงการเสด็จขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมารต่อจากพระราชบิดา หลายคนเชื่อว่าย่อมแตกต่างกันไป

การเมือง : ความวิตกด้านการสืบราชสันตติวงศ์ เป็นปัญหาที่วิตกกันมาหลายทศวรรษ โดยเฉพาะความวุ่นวายทางการเมืองในอดีต เหตุเพราะกลุ่มนิยมกษัตริย์ได้ควบคุมขั้นตอนทางการเมือง แทนที่จะเป็นนักการเมืองดำเนินการ  นักวิเคราะห์กลุ่มยูเรเซีย( the Eurasia Group)กล่าวว่าการเลือกตั้งทั่วไปกำหนดไว้ปี 2017 แต่อาจจะมีการเลื่อนออกไปถึงต้นปี 2018 เหตุหนึ่งเพราะมีการประกาศไว้ทุกข์ 100 วัน อันอาจจะส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมโดยรวมทางธุรกิจ   

แนวโน้มเมื่อเร็วๆนี้ : เศรษฐกิจประเทศไทยต้องพึ่งพิงการส่งออกอย่างมาก แต่ปัจจุบันความต้องการของตลาดหลักเช่นจีนและสหรัฐกลับมีความต้องการลดลง ไทยประกาศว่าจะลดความยากจนลง ธนาคารโลกชี้ว่าคนไทยประมาณ 10 % ยังตกอยู่ในภาวะยากจน  อัตราความเติบโตทางเศรษฐกิจอาจไม่ถึง 3 % หากการตัดสินใจล่าช้าและอัตราการบริโภคลดลงในช่วงที่อยู่ในระหว่างไว้ทุกข์ อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีการแถลงว่าวันที่ 13 ตุลาคมเสด็จสวรรคต แต่วันที่ 14 ตุลาคมตลาดก็ยังเปิดดำเนินการ จึงเชื่อว่าผู้นำคงหลีกเลี่ยงไม่ให้เศรษฐกิจเกิดความยุ่งเหยิง    

ความไม่แน่นอน : นักวิเคราะห์เชื่อว่าการเปลี่ยนผ่านรัชกาลครั้งนี้เป็นไปอย่างนุ่มนวลไม่มีปัญหาใด แต่การไร้เสถียรภาพอาจจะเกิดได้ระหว่างคนเมืองที่มีอิทธิพลในการกำหนดสิ่งต่างๆกับคนในชนบทที่ยังยากจน  ทหารเข้ายึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งถึง 2 ครั้งในรอบทศวรรษที่ผ่านมา  สถานการณ์กลับสงบเงียบหลังจากการทำรัฐประหารครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2014

แต่หากมีการประท้วงเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ทำรายได้ถึง 10 % ของ

จีดีพี  ในอดีตประเทศไม่สงบ(การชุมนุมประท้วง)ทำให้ประเทศเสียหายในการแข่งขันด้านต่างๆ,การก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานหยุดชะงักและนักลงทุนหายไป สิ่งนี้คือองค์ประกอบของความไม่แน่นอน   

“การขาดการลงทุนจะบั่นทอนกำลังการผลิตทางเศรษฐกิจในอนาคต”คริสตัล แทนและ กาเร็ธ ลีเธอร์ แห่ง Capital Economics เขียนไว้ในรายงานเมื่อเร็วๆนี้ “ในที่สุดแล้วก็ยังเป็นเรื่องยากที่คาดเดาแนวโน้มระยะกลางทางเศรษบกิจของประเทศไทย จนกว่าภาพการเมืองที่จะออกมาชัดเจนมากขึ้น”  บรรทัดล่างคือว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะมองโลกในแง่เกี่ยวกับแนวโน้มระยะกลางของไทยจนกลายเป็นภาพการเมืองที่ชัดเจน”

ธปท.ขอสื่อมวลชนพิจารณากรองข่าวก่อนนำเสนอป้องกันการตื่นตระหนก

ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 14 ตุลาคม 2559 นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พร้อมผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของ ธปท. ร่วมแสดงความอาลัยต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ และแสดงความอาลัยโดยยืนไว้อาลัยร่วมกันเป็นเวลา 9 นาที

นายวิรไท กล่าวว่า ที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งมีบางเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบทำให้ตลาดเงินและตลาดทุนของไทยเกิดความผันผวนอย่างมาก โดย ธปท. ยืนยันจะติดตามสถานการณ์ตลาดเงินของไทย ทั้งตลาดเงินตราต่างประเทศและตลาดพันธบัตรอย่างใกล้ชิด เพราะต้องพิจารณาถึงความมั่นใจของตลาดให้เป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นปกติ

ทั้งนี้ ธปท.พร้อมที่จะให้การสนับสนุนทั้งในรูปแบบของเงินบาทและเงินดอลล่าร์สหรัฐ หากประเทศมีความต้องการสภาพคล่องเพิ่มขึ้น และพร้อมดูแลให้ตลาดเงินของประเทศสามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง

ส่วนตลาดพันธบัตรและอัตราแลกเปลี่ยนในขณะนี้ มีเสถียรภาพค่อนข้างดี แต่อาจจะมีความผันผวนบ้างเล็กน้อยเป็นบางเวลา โดย ธปท. ก็ได้ขอความร่วมมือจากสถาบันการเงินต่างๆ ให้ช่วยกันดูแลเสถียรภาพของตลาด ไม่ให้ผันผวน รวมถึงให้คำแนะนำลูกค้าอย่างเหมาะสม

นอกจากนี้ ยังได้ให้สถาบันการเงินต่างๆ ช่วยดูแลให้ธุรกรรมต่างๆ ของทั้งลูกค้า และประชาชนทั่วไป ให้เป็นไปได้อย่างต่อเนื่องและราบรื่น และยังขอความร่วมมือจากสื่อมวลชน ให้ช่วยกันกรองข่าวและนำเสนอข่าวในลักษณะที่มีแหล่งข่าวน่าเชื่อถือ ชัดเจน ตรงไปตรงมา เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก หรือทำให้เกิดความผันผวนมากขึ้น

“ข้าพเจ้า คณะผู้บริหารและพนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย ได้รับทราบด้วยความโทมนัสอย่างยิ่ง และขอร่วมกันถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศว่า เราทั้งหลายจะปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท มุ่งมั่นแน่วแน่แก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชน สร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่แผ่นดิน ในโอกาสนี้ขอเชิญชวนให้เราทั้งหลาย ร่วมตั้งจิตภาวนาตามหลักศาสนาของตนและอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือ เพื่ออธิษฐานให้ดวงพระวิญญาณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศสถิตในสรวงสวรรค์ และทรงอภิบาลคุ้มครองราชอาณาจักรไทย และพสกนิกรของพระองค์ ให้มีความสงบร่มเย็นและสันติสุข ดุจดังที่ประเทศไทยมีมาโดยตลอด ภายใต้ร่มพระบารมียาวนาน 70 ปี” นายวิรไทกล่าว  

ที่มา thaitribune




Create Date : 14 ตุลาคม 2559
Last Update : 14 ตุลาคม 2559 20:38:25 น. 2 comments
Counter : 283 Pageviews.

 
SkEPY5 //www.FyLitCl7Pf7kjQdDUOLQOuaxTXbj5iNG.com


โดย: JimmiXzS IP: 188.165.201.164 วันที่: 14 ตุลาคม 2559 เวลา:20:54:52 น.  

 
qd5Hf0 //www.FyLitCl7Pf7kjQdDUOLQOuaxTXbj5iNG.com


โดย: JimmiXzS IP: 188.165.240.145 วันที่: 14 ตุลาคม 2559 เวลา:23:15:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.