สตง.ให้เช็คอดีตอธิบดีสรรพากรคนใด ปล่อยปละละเลยภาษีหุ้นชินวัตร



สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ทำหนังสือถึงกระทรวงการคลัง เช็คบิล อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ปล่อยปละละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปมหุ้นชินวัตร ย้ำการตรวจสอบไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง

 

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผย เกี่ยวกับกรณีการเรียกเก็บภาษีขายหุ้นชินวัตร ที่จะหมดอายุความในวันที่ 31 มีนาคมนี้ ว่าทาง สตง.ได้มีการทำหนังสือถึงกระทรวงการคลัง เพื่อให้มีการตรวจสอบเรื่องราวในอดีต ตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 มีอธิบดีกรมสรรพากรคนใด เจ้าหน้าที่คนใดบ้าง ที่เกี่ยวกับกรณีภาษีหุ้นชินวัตร และไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด จนทำให้เรื่องดังกล่าวบานปลายมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดปล่อยปละละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ เบื้องต้น ได้รับคำตอบว่ากำลังตรวจสอบภายในอยู่ ซึ่งทาง สตง. ก็จะพยายามติดตามต่อไป เพื่อหาคนที่ ละเลย ละเว้น การปฏิบัติหน้าที่ มาดำเนินการตามกฏหมาย ต่อไป

ทั้งนี้ นายพิศิษฐ์ ย้ำว่า การตรวจสอบของ สตง. ในกรณีดังกล่าว ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองแต่อย่างใด แต่เป็นการทำหน้าที่ในฝ่ายตรวจสอบ เพื่อสร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้องให้กับสังคม และเป็นการตรวจสอบให้เจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการตามกฏหมายที่ถูกต้องเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเท่านั้น

นายกฯ ย้ำ ไม่ใช้ ม.44 คดี ‘หุ้นชินคอร์ป’ ยึดกฏหมายปกติ กำชับ สรรพากร ต้องทำให้จบภายใน มี.ค.นี้ จี้คลังตั้ง กรรมการสอบทุกขั้นตอน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวผ่านรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ทางสถานีโทรทัศน์ รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า สำหรับประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ กรณีการประเมินภาษีการขายหุ้นกลุ่มชินคอร์ป ซึ่งต้องเป็นไปตามกฎหมาย เพื่อรักษาผลประโยชน์ให้กับประชาชนและประเทศชาติ โดยยึดหลักของกฏหมาย ว่าเป็นการโอนและซื้อขายหุ้น ที่กระทำโดยสุจริตหรือไม่ เพราะที่ผ่านมานั้น ศาลฎีกาเคยตัดสินแล้วว่า มีการโอนกันหลายทอดมีเจตนาที่แยบยล แสวงประโยชน์จากช่องว่างของกฎหมาย จนมีผลกำไร สังคมก็เชื่อว่าไม่สุจริต เพราะเป็นการเลี่ยงภาษี

ส่วนอีกประเด็นคือการใช้ช่องว่างทางกฎหมายเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ทำให้ประเทศชาติเสียรายได้ ในขณะที่อยู่ในตำแหน่ง มีอำนาจ มีหน้าที่ต้องรักษากฎหมาย รักษาผลประโยชน์ของชาติโดยรวม จึงต้องมีคุณธรรม จริยธรรมมากกว่าบุคคลทั่วไป ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นสมควรแล้วหรือไม่ ก็ไปพิจารณากัน เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ต่อสู้กันให้ถูกต้อง

ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สตง., ปปช., ปปง., ปปท. และ กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ต้องมีความโปร่งใส เป็นธรรม ไม่ขัดหลักนิติธรรม และไม่ให้ใช้มาตรา 44 ในการที่ขยายเวลา ขยายอายุความแต่ประการใด ยังคงเป็นกระบวนการยุติธรรมตามปกติในการประเมินภาษีจากเจ้าของหุ้นที่แท้จริงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

ดังนั้น สิ่งที่เกิดตามมา คือ กรมสรรพากร ต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ตามกฎหมาย ก่อนสิ้นเดือนมีนาคมนี้ และกระทรวงการคลัง ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนทุกขั้นตอน เพื่อสร้างบรรทัดฐานที่ดีให้กับหน่วยงานราชการอื่นๆ ต่อไป ส่วนหกลังจากนั้น ก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของศาล

ที่มา thaitribune




Create Date : 18 มีนาคม 2560
Last Update : 18 มีนาคม 2560 18:52:35 น. 0 comments
Counter : 286 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.