เจ้าของ Kickass Torrents พลาดท่าถูกจับโดยละม่อมจากข้อมูลของ Apple และ Facebook



สินค้าและบริการด้านเนื้อหาความบันเทิง เช่น ภาพยนตร์เพลงหรืออื่นๆ นั้นจัดว่าเป็นตลาดหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการละเมิดลิขสิทธิ์มาอย่างต่อเนื่อง ในบางครั้งหน่วยงานที่ต่อสู้เพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาเหล่านี้ก็สามารถจัดการกับบรรดาอ่าวเรือโจรเหล่านี้ได้อย่างเด็ดขาด เช่นกรณีของ Piratebay ในอดีตจนมีชื่อเรียกกันตามมาว่าอ่าวโจรแตก หรือที่เป็นอดีตตามไปเมื่อเร็วๆ เองอย่าง Kickass Torrents (KAT) เว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ชื่อดังที่ถูกเพ่งเล็งอย่างไม่วางตามาตลอด 8 ปีของการติดตามสืบหาข้อมูล

ซึ่งการจับกุม Artem Vaulin เจ้าของเว็บไซต์ KAT เมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมาในประเทศโปแลนด์ ทางตอนกลางภูมิภาคยุโรป เกิดขึ้นได้เนื่องจากเจ้าของเว็บไซต์ชื่อฉาวกระฉ่อนชาวยูเครนนี้ ใช้บัญชีอีเมลล์ส่วนตัวของเขาในการซื้อสินค้าจากร้านออนไลน์ iTunes Store ทำให้สามารถระบุตัวตนบัญชีออนไลน์ของเจ้าตัวได้ และด้วยความย่ามใจของเขาเอง ที่ใช้บัญชีอีเมลล์ดังกล่าวในการเชื่อมต่อกับหน้า Facebook Fanpage ทำให้ถูกยืนยันมัดแน่นว่าตรงกับข้อมูลอ้างอิงจากที่อยู่ตาม IP Address ซึ่งเป็นที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์ของ KAT ได้ในที่สุด และนำมาสู่การถูกเข้าจับกุมตัวโดยละม่อม ซึ่งจะได้ถูกส่งตัวเป็นนักโทษไปยังสหรัฐเพื่อดำเนินคดีฟ้องร้องต่อไป

สำหรับเว็บไซต์ KAT ก่อนที่เจ้าของจะถูกจับกุมได้นั้น ถือว่าเป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่มีผู้แวะเวียนคลิกเข้าชมกว่า 50 ล้านคลิกจากผู้ใช้งานแบบไม่ซ้ำเลขกันต่อเดือน อีกทั้งถูกจัดลำดับว่าเป็นเว็บยอดนิยมในลำดับที่ 69 ด้วย แม้ว่าจะถูกร้องเรียนให้ Google ถอดการจัดอันดับเว็บไซต์จากการใช้เครื่องมือค้นหาไปเมื่อปี 2013 จากทางสมาคมภาพยนตร์แห่งสหรัฐอเมริกา (MPAA) ก็ตามที

ที่มา macstroke




 

Create Date : 24 สิงหาคม 2559    
Last Update : 24 สิงหาคม 2559 6:40:01 น.
Counter : 730 Pageviews.  

สงครามชิงที่ดิน โดย วสิษฐ เดชกุญชร



หลังจากที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งที่ 36/2559 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2559 วางมาตรการในการแก้ไขปัญหาครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมโดยมิชอบด้วยกฏหมาย โดยให้ผู้ครอบครองที่ดินออกจากที่ดินที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายและรื้อถอนทำลายสิ่งปลูกสร้างในที่ดินนั้น และหากไม่ปฏิบัติตามก็จะให้เจ้าหน้าที่ยึด รื้อถอนหรือทำลายเอง

 

เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามคำสั่งของหัวหน้าคสช. มาโดยลำดับ โดยเริ่มยึดที่ดินคืนใน 25 จังหวัดที่มีผู้ครอบครองโดยผิดกฎหมายเป็นจำนวนกว่าสี่แสนไร่

แต่เมื่อบ่ายวันที่ 20 สิงหาคม 2559 ขณะเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ทหาร กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.)และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกำลังรื้อถอนรีสอร์ตและร้านค้าที่สร้างขึ้นโดยผิดกฎหมายบนภูทับเบิก ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ปรากฏว่าราษฎรซึ่งเป็นชาวเขาเผ่าม้งจำนวนประมาณ 300 คน ได้นำรถยนต์ไปปิดกั้นมิให้เจ้าหน้าที่ขึ้นหรือลงภูทับเบิก และให้ร่วมกันหาทางออกใหม่ โดยตัวแทนทางราชการที่มีอำนาจตัดสินใจและตัวแทนของชาวบ้าน ทั้งยังเรียกร้องให้ทหารไปร่วมเป็นหลักในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

ใช่แต่เท่านั้น ราษฎรเผ่าม้งเหล่านั้นยังเรียกร้องให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาตามกฎหมายที่ดินที่ชาวบ้านอาศัยมานานพึงมีพึงได้ และให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญที่ประกาศใช้แล้วนั้น แก้ไขปัญหาชาวบ้านที่ถูกดำเนินคดีและบังคับคดีแล้วให้เกิดความชอบธรรมให้มากที่สุด โดยไม่รื้อถอนและไม่ฟ้องร้องเพิ่มอีก

หลังจากที่เจรจากันอยู่นานประมาณ 2 ชั่วโมงเจ้าหน้าที่ก็ยอมหยุดการรื้อถอนและเคลื่อนย้ายกำลังลงจากภูทับเบิก แต่ข้อเรียกร้องอื่นๆ ของราษฎรชาวเผ่าม้งนั้นยังไม่เป็นที่ยุติ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นตัวอย่างของปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในจังหวัดอื่นๆ ภูทับเบิกเป็นที่อาศัยและปลูกฝิ่นของราษฎรเผ่าม้งมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ทางราชการเคยให้จัดสรรเป็นนิคมสร้างตนเองประมาณปี 2510 เกิดปัญหาถูกแทรกซึมโดยผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์และกลายเป็นสนามรบ มีการต่อสู้กันอย่างรุนแรงและยืดเยื้อ เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก หลังปี 2525 เมื่อเหตุการณ์สงบลง ราษฎรเผ่าม้งก็กลับเข้าไปมอบตัว รัฐบาลตั้งศูนย์พัฒนาสงเคาระห์ชาวเขาขึ้น ให้อาศัยประกอบอาชีพทางเกษตรกรรม โดยเฉพาะปลูกกระหล่ำปลีขาย แต่ภูมิประเทศอันเป็นเป็นป่าเขาที่สงบเย็นร่มรื่นและงดงาม ดึงดูดให้มีคนไปเที่ยวเป็นจำนวนมาก ในที่สุดจึงเกิดการก่อสร้างที่พัก รีสอร์ต และร้านค้าขึ้นเป็นจำนวนมากเพื่อสนองความต้องการ และเกิดการรุกทื้นที่ป่าโดยมิชอบด้วยกฎหมายอย่างกว้างขวาง

ปัญหาที่เกิดขึ้นบนภูทับเบิกนั้นจะไม่เกิดขึ้นเลยหากเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบเอาใจใส่ดูแลและป้องกันระงับเสียตั้งแต่ต้นมือ แต่เพราะปล่อยปละละเลยหรือหาประโยชน์โดยมิชอบ การทำผิดกฎหมายจึงเกิดขึ้นและลุกลามออกไปดังที่ปรากฏ

เป็นที่คาดหมายว่า ปัญหาที่ภูทับเบิกคงจะไม่ยุติลงโดยเร็ว แต่คงยืดเยื้อต่อไปอีก ขณะที่การเจรจายังดำเนินต่อไปนี้ สิ่งที่เจ้าหน้าที่ควรปฏิบัติก็คือห้ามมิให้นักท่องเที่ยวเข้าไปใช้ความสะดวกจากโรงแรมรีสอร์ตหรือที่พักที่สร้างขึ้นโดยกฎหมาย พร้อมๆกันนั้นการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็ควรจะแพร่ข่าวให้นักท่องเที่ยวรู้ว่าการเข้าไปพักในโรงแรมรีสอร์ตหรือที่พักเหล่านั้นเป็นการสนับสนุนการกระทำที่ผิดกฎหมาย

ถ้ายังยอมหรืออนุญาต เจ้าของโรงแรม รีสอร์ตหรือที่พักเหล่านั้นก็จะยังได้รับประโยชน์จากธุรกิจที่ผิดกฎหมายต่อไปอีก และจะยิ่งทำให้การดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ทำได้ยากหรือไม่สัมฤทธิผลในที่สุด

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 23 สิงหาคม 2559    
Last Update : 23 สิงหาคม 2559 17:04:19 น.
Counter : 242 Pageviews.  

ลูกอวัยวะเพศบวมแดง ในใจครุ่นคิดไม่เอะใจ วันนี้เจอเต็มๆแทบล้ม เมื่อรู้คนนี้เป็นคนทำ !??



ตร.กรุงเก่ารวบหนุ่มใบ้ คนงานก่อสร้าง เมาข่มขืนลูกสาวหัวหน้างาน ด.ญ.วัย 2 ขวบเศษ เพื่อนคนงานเห็นหายไป ออกตามหา เจอคาหนังคาเขา กระโดดถีบ แจ้งตร.จับทันควัน

เมื่อ เวลา 00.20 น.วันที่ 12 ก.พ. พ.ต.ท.ธานินทร์ ผิวละเอียด รองผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังชุดสืบสวนจับกุมตัวนายวาที ไรสูงเนิน อายุ 23 ปี ซึ่งพิการเป็นใบ้ ภายในแคมป์คนงานก่อสร้างในวัดสนามไชย หมู่ 3 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยาในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี หลังนายแมน (นามสมมติ) อายุ 47 ปี หัวหน้าคนงานก่อสร้าง และภรรยาพาด.ญ.ยุ้ย (นามสมมติ) ลูกสาววัย 2 ขวบ 3 เดือน เข้าแจ้งความ
นายแมน กล่าวว่า เมื่อช่วงค่ำพวกคนงานนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่แคมป์ ซึ่งนายวาทีก็รวมอยู่ด้วย สักพักลูกสาวของตนที่วิ่งเล่นอยู่ได้หายตัวไป มีคนงานผ่านไปเห็นนายวาทีกำลังนอนค่อมตัวน้องยุ้ย ถอดกางเกงลงมาถึงหัวเข่า จึงได้กระโดดเตะและช่วยด.ญ.ยุ้ยออกมาได้ ก่อนแจ้งตำรวจมาควบคุมตัว ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์ สังเกตเห็นอวัยวะเพศของน้องยุ้ยบวมแดง แต่ไม่คิดว่าเป็นอะไรมากจึงไม่ได้พาไปพบแพทย์ สำหรับนายวาที ตนช่วยเหลือให้มาทำงานด้วย 8 เดือนแล้ว เพราะสงสารเห็นเป็นใบ้เดินอยู่ริมถนน ซึ่งนายวาทีก็มาช่วยงานทั่วไปและชอบมาเล่นกับลูกสาว เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา นายวาทีไปยืนสำเร็จความใคร่ที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งจนถูกชาวบ้านและ พนักงานรุมทำร้ายบาดเจ็บมา แต่ตนก็ไม่ได้เอะใจจนกระทั่งมาเกิดเรื่องขึ้น
ด้าน เจ้าหน้าที่พยายามจะสื่อสารเพื่อสอบถามผู้ต้องหาแต่ก็ไม่รู้เรื่อง เนื่องจากยังอยู่ในอาการเมาและโวยวายตลอดเวลา ต้องควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์และประสานผู้เชี่ยวชาญภาษามือมาสอบสวนดำเนินคดี พร้อมจะส่งตัวด.ญ.ยุ้ย ตรวจร่างกายและสอบป.วิอาญาต่อไป
ที่มา updatesiam




 

Create Date : 23 สิงหาคม 2559    
Last Update : 23 สิงหาคม 2559 13:55:18 น.
Counter : 244 Pageviews.  

ทนายวัดพระธรรมกายเข้ารับทราบข้อหาร่วมกันฟอกเงิน-สมคบฟอกเงินเจ้าตัวปฏิสธขอให้การชั้นศาล



ทนายวัดพระธรรมกาย สัมพันธ์ เสริมชีพ พร้อมพวกเข้ารับทราบข้อหาจากดีเอสไอร่วมกันฟอกเงิน สมคบฟอกเงิน เจ้าตัวปฏิเสธตลอดข้อหาขอให้การชั้นศาล เผยยังเป็นทนายให้พระธัมมชโยแต่ไม่ทราบจะมอบตัวเมื่อใด

 

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2559 ที่กรมสวนสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)  นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความวัดพระธรรมกาย พร้อมพวกรวม 4 คน เข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีฟอกเงิน กรณีที่มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทเอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 แทนนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด และนำเงินจากสหกรณ์ไปซื้อหุ้นบริษัทดังกล่าว ต่อมานายสัมพันธ์โอนหุ้นคืนให้นายศุภชัย

คดีนี้พ.ต.ท.บรรณฑูรย์ ฉิมกรา ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 เป็นผู้แจ้งข้อหาและสอบปากคำ  

จากนั้นพ.ต.ท.บรรณฑูรย์เปิดเผยว่า นายสัมพันธ์ให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อหา โดยขอให้การสู้คดีในชั้นศาล แต่ได้พิมพ์นิ้วมือเป็นต้องหาในคดีและรับทราบข้อหาแล้ว โดยพนักงานสอบสวนแจ้ง ข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินกับนายสัมพันธ์กับพวกรวม 4 คน

พ.ต.ท.บรรณฑูรย์เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ดีเอสไอเคยเรียกนายสัมพันธ์มาให้การในฐานะพยานถึงเหตุผลในการถือครองหุ้นแทนนายศุภชัย การโอนหุ้นและรายการโอนตามที่ปรากฏหลักฐานแสดงต่อราชการ แต่นายสัมพันธ์ไม่สามารถชี้แจงได้ และขอชี้แจงเป็นเอกสารในภายหลัง แต่ก็ไม่มีการส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม พนักงานสอบสวนจึงมีความเห็นให้เรียกนายสัมพันธ์พร้อมกรรมการบริหารบริษัท เอ็ม-โฮมฯเข้ารับทราบข้อกล่าวหา เพราะมีพฤติการณ์ปิดบังทรัพย์สินที่ได้มาจากการซื้อหุ้นด้วยเงินสหกรณ์คลองจั่นฯ และเป็นการทำนิติกรรมอำพราง

คดีนี้เป็นพิเศษที่ 99/2558 ผู้ต้องหาทั้งหมด 4 คนประกอบด้วย นายสัมพันธ์ เสริมชีพ, นายจำลอง ทับสุวรรณ์, นายบันลือ กองไชย และ นายธวัชกิตต์ ธนานันท์ตระกูล   โดยนายจำลองได้ให้ทนายความมารับทราบแทนเพราะขณะนี้ยังบวชอยู่ เมื่อสึกแล้วจะเข้ารับทราบข้อหา

ต่อมานายสัมพันธ์ให้สัมภาษณ์ว่าตนจะส่งเอกสารชี้แจงเพิ่มเติมภายหลัง เพราะขณะนี้ไม่ได้เป็นกรรมการบริษัทแล้ว  เรื่องเกิดจากสหกรณ์ต้องการซื้อที่ดินในพื้นที่คลองหลวงที่เป็นทรัพย์สินของบริษัท เอ็ม-โฮม  นายศุภชัย จึงนำเงินสหกรณ์คลองจั่นฯไปลงทุนซื้อหุ้นของบริษัท

ในส่วนของตนและกรรมการบริษัทคนอื่นๆ เข้าไปเกี่ยวข้องเพราะได้รับสิทธิ์เทคโอเวอร์จากบริษัท ซึ่งตามสัญญาสหกรณ์คลองจั่นต้องจ่ายเงิน 1,000 ล้านบาท หลังชำระหนี้ประมาณ 900 ล้านบาท จะเหลือส่วนต่าง เป็นค่านายหน้าและกำไรประมาณ 30-40 ล้านบาท จะแบ่งผลประโยชน์กัน 3 คน ระหว่างตน,นพ.บรรลือ  กองไชย และนายจำลอง ทับสุวรรณ์

แต่ปรากฎว่านายศุภชัยจ่ายเงินมาเพียง 280 ล้านบาท  ทำให้บริษัทต้องแบ่งขายที่ดินบางส่วนเพื่อนำเงินไปชำระหนี้ให้กับสถาบันการเงินเจ้าหนี้ 3 ราย ไม่เช่นนั้นอาจถูกยึดทั้งที่ดินและเงินมัดจำ

ส่วนการทำหน้าที่ทนายความให้กับพระธัมมชโยนั้น ยังทำหน้าที่รับผิดชอบคดีของวัดพระธรรมกาย   ที่ผ่านมาไม่มีโอกาสได้พบกับพระธัมมชโย  มีเพียงสัปดาห์ก่อนที่พบกับแพทย์ที่ทำการรักษาอาการทราบเพียงว่า ยังคงอาพาธ  จึงยังตอบไม่ได้ว่าพระธัมมชโยจะเข้ามอบตัวเมื่อใด 

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 23 สิงหาคม 2559    
Last Update : 23 สิงหาคม 2559 6:23:15 น.
Counter : 273 Pageviews.  

เผยส่งออกอาหารครึ่งปีแรกขยายตัวดี มีมูลค่า 4.7 แสนล้านบาท คาดทั้งปีนี้อยู่ที่ 9.72 แสนล้านบาท



สถาบันอาหาร เผยยอดส่งออกอาหารครึ่งปีแรกขยายตัวดี มีมูลค่า 4.7 แสนล้านบาท คาดมูลค่าส่งออกอาหารไทยทั้งปีนี้อยู่ที่ 9.72 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 สูงกว่าที่ประเมินไว้ต้นปีร้อยละ 5.6

 

วันที่ 22 สิงหาคม 2559 นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงภาพรวมการส่งออกอาหารไทยในช่วง 6 เดือนแรก (มกราคม-มิถุนายน 2559) ว่ามีมูลค่า 4.74 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าส่งออกหลักขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและมูลค่าเกือบทุกกลุ่มสินค้า อาทิ กุ้ง น้ำผลไม้ สับปะรดกระป๋อง น้ำตาลทราย นมพร้อมดื่ม และกะทิสำเร็จรูป โดยตลาดส่งออกที่ขยายตัวสูงมากคือ กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนที่ขยายตัว 32.9% ส่วนตลาดส่งออกอื่นพบว่าขยายตัวดีเช่นกัน ได้แก่ ญี่ปุ่น และสหรัฐ เนื่องจากสินค้าหลัก อาทิ สับปะรดกระป๋อง กุ้งแช่แข็ง กลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้คาดการณ์ ภาพรวมการส่งออกอาหารไทยช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2559 จะมีมูลค่า 235,629 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยจากหลายประเทศประสบภัยแล้ง ทำให้ต้องนำเข้าสินค้าอาหาร โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าพื้นฐานจำพวกข้าว แป้ง และน้ำตาล ประกอบกับค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในช่วง 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเอื้อต่อการส่งออก รวมถึงเศรษฐกิจและการค้ากลุ่ม CLMV ขยายตัวต่อเนื่อง ทำให้มีความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอาหาร ซึ่งจะทำให้ภาพรวมการส่งออกอาหารไทยทั้งปีนี้(59)จะมีมูลค่า 972,000 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากเดิมที่ประมาณการณ์ไว้ช่วงต้นปีมีมูลค่า 950,000 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5.6 เนื่องจากความเชื่อมั่นสินค้าประมงไทยมีแนวโน้มดีขึ้น

“สินค้าส่งออกหลักที่คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ น้ำตาลทราย ไก่ ปลาทูน่ากระป๋อง กุ้ง น้ำผลไม้ สับปะรดกระป๋อง เครื่องปรุงรส อาหารพร้อมรับประทาน กะทิสำเร็จรูป นมพร้อมดื่ม ส่วนสินค้าส่งออกที่คาดว่าจะมีมูลค่าส่งออกลดลง ได้แก่ ข้าว และมันสำปะหลัง” นายยงวุฒิกล่าว

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 22 สิงหาคม 2559    
Last Update : 22 สิงหาคม 2559 14:19:00 น.
Counter : 297 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.