ภาพ“คืนฝนตก”โดยบางกอกโพสต์คว้าภาพข่าวยอดเยี่ยม-ข่าวทัวร์ศูนย์เหรียญของเดลินิวส์คว้ารางวัลดีเด่น



สมาคมนักข่าวฯประกาศผลรางวัลอิศรา อมันตกุลปี 2559 ข่าวทัวร์ศูนย์เหรียญของเดลินิวส์ได้รางวัลดีเด่น ส่วนภาพข่าวรางวัลยอดเยี่ยมคือภาพ “คืนฝนตก”โดยปฏิภัทร จันทร์ทอง หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์และยังมีข่าวอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและข่าวเทคโนโลยี

 

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มูลนิธิอิศรา อมันตกุล ชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม และชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดประกวดข่าวยอดเยี่ยมและภาพข่าวยอดเยี่ยมรางวัลอิศรา อมันตกุล รางวัลข่าวอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดีเด่น ของชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม และรางวัล ITPC Award  ของชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ มีพิธีมอบรางวัลผลการประกวดข่าวและภาพข่าวประเภทต่างๆ ในวันที่ 5 มีนาคม 2560  เวลา 19.00 น. ณ ห้องวอเตอร์เกท บอลรูม โรงแรมอมารีวอเตอร์เกท ประตูน้ำ  

สำหรับผลงานที่ได้รับรางวัลประจำปี 2559  มีดังนี้

รางวัลอิศรา อมันตกุล ประเภทข่าว มีผลงานข่าวส่งเข้าประกวด 9 ข่าวจากหนังสือพิมพ์ ฉบับ ปรากฎผลงานข่าวที่เข้ารอบสุดท้ายจำนวน 4 ข่าว ดังนี้

1. ข่าว “ตีแผ่พฤติกรรมแสบ ทัวร์ศูนย์เหรียญ เชื้อโรคร้ายการท่องเที่ยวไทย-จีน กำราบหัวโจก หมดสิ้นทัวร์ด้อยคุณภาพ” โดยกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์เดลินิวส์

2. ข่าว “มหากาพย์รถเมล์เอ็นจีวี สะดุดปมแจ้งเท็จ-เลี่ยงภาษี” โดยกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

3. ข่าว “กระตุ้นรัฐบาลคืนสิทธิ(สุขภาพ)คนไทยไร้บัตรประชาชน” โดยกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติชน และ

4.ข่าว “จุดประกายประกันสังคมเพิ่มสิทธิสุขภาพผู้ประกันตนให้เท่าเทียม” โดยกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติชน

ผลการตัดสินประจำปี 2559  ไม่มีผลงานข่าวที่ได้รับรางวัลข่าวยอดเยี่ยม แต่มีผลงานข่าวที่ได้รับรางวัลดีเด่น 1 รางวัล ได้แก่ ข่าว “ตีแผ่พฤติกรรมแสบ ทัวร์ศูนย์เหรียญ เชื้อโรคร้ายการท่องเที่ยวไทย-จีน กำราบหัวโจก หมดสิ้นทัวร์ด้อยคุณภาพ”โดยกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ได้รับโล่และเงินรางวัล 30,000 บาท และรางวัลชมเชยอีก รางวัล ได้แก่ ข่าว “จุดประกายประกันสังคมเพิ่มสิทธิสุขภาพผู้ประกันตนให้เท่าเทียม” โดยกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติชน และข่าว“มหากาพย์รถเมล์เอ็นจีวี สะดุดปมแจ้งเท็จ-เลี่ยงภาษี” โดยกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ได้รับโล่และเงินรางวัล  20,000  บาท

รางวัลอิศรา อมันตกุลประเภทภาพข่าว

รางวัลอิศรา อมันตกุล ประเภทภาพข่าวมีผลงานภาพข่าวส่งเข้าประกวด 91 ภาพ จากหนังสือพิมพ์ 8 ฉบับ ผลงานภาพข่าวที่เข้ารอบ 5 ภาพสุดท้ายได้แก่  1.ภาพ “เตะฟุตบอล ”โดยนายธนิต กาละจิตต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 2. ภาพ“คลองวัวเดิน”โดยนายปฏิภัทร จันทร์ทอง หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ 3.ภาพ “คืนฝนตก”โดยนายปฏิภัทร จันทร์ทอง หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ 4.ภาพ“ร่ำไห้”โดยนายวิศิษฐ์ แถมเงิน หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ และ 5. ภาพ “ตบะแตก” โดยนายสุพจน์ ศิลปงาม หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ผลการตัดสินรางวัลอิศรา อมันตกุล ประเภทภาพข่าว ประจำปี 2559  ภาพข่าวรางวัลยอดเยี่ยม ได้แก่ ภาพ “คืนฝนตก” โดยนายปฏิภัทร จันทร์ทอง หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ได้รับโล่และเงินรางวัล 50,000 บาท

ภาพข่าวที่ได้รับรางวัลชมเชยลำดับที่ 1 จำนวน รางวัลได้แก่ ภาพ“ร่ำไห้”โดยนายวิศิษฐ์ แถมเงิน หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์  และภาพ “ตบะแตก”โดยนายสุพจน์ ศิลปงาม หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ได้รับโล่และเงินรางวัลๆ ละ 20,000 บาท

ผลงานภาพข่าวที่ได้รับรางวัลชมเชยลำดับที่ จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ภาพ“เตะฟุตบอล”โดยนายธนิต กาละจิตต์ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และ ภาพ “คลองวัวเดิน”โดยนายปฏิภัทร จันทร์ทอง หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ได้รับโล่และเงินรางวัลๆ ละ 10,000 บาท โดยนายวันชัย วงศ์มีชัย นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและนายพงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร ประธานมูลนิธิอิศรา อมันตกุล เป็นผู้มอบรางวัล

รางวัลข่าวอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

รางวัลข่าวอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดีเด่น ของชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สนับสนุนเงินรางวัลโดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีผลงานข่าวส่งเข้าประกวดจำนวน ข่าว จากหนังสือพิมพ์  ฉบับ

ผลการตัดสินรางวัลข่าวอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดีเด่น ประจำปี 2559  ไม่มีผลงานข่าวใดได้รับรางวัลดีเด่น แต่มีรางวัลชมเชย 3 รางวัล ได้แก่ผลงาน

1.ข่าว “ทวงสิทธิโฉนดทะเล “คน-ธรรมชาติ”อยู่ร่วมกัน อย่างสอดคล้องสมดุล โดยกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์เดลินิวส์

2.ข่าว “ชาวบ้านแหงชักธงรบ อิทธิพลการเมือง ผลประโยชน์ทับซ้อน โค่นป่าทาเหมือง” โดยกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์

3.ข่าว“ข้าวโพดแสนไร่ รุกป่า ต้นเหตุปัญหาหมอกควัน”โดยกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ได้รับโล่และเงินรางวัล รางวัลละ 10,000 บาท บาท โดยนางสาวปริตตา หวังเกียรติ ประธานชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม และนายสากล ฐินะกุล อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นผู้มอบรางวัล

รางวัลข่าวสายเทคโนโลยี

รางวัลข่าว ITPC Award ครั้งที่ 11  ประจำปี 2559  ของชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีผลงานข่าวส่งเข้าประกวดจำนวน 3 ข่าว จาก สังกัด ได้แก่1. ข่าว “Carrying on a legacy” โดยกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์  2.ข่าว “โจรแจกหนัง” โดยกองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์  3.ข่าว“โครงการเน็ตหมู่บ้าน ‘เต่าเรียกพี่’ โดยกองบรรณธิการหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ

ผลการตัดสินข่าว ITPC Award ครั้งที่ 11 ประจำปี  2559  ไม่มีผลงานข่าวใดได้รับรางวัลดีเด่น แต่มีรางวัลชมเชย 1 รางวัล ได้แก่ผลงานข่าว“โจรแจกหนัง”โดยกองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์ ได้รับโล่ห์และเงินรางวัล 20,000 บาท โดยอาจารย์บรรยงค์ สุวรรณผ่อง ที่ปรึกษาชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นผู้มอบรางวัล

รางวัลอิศรา อมันตกุล จัดประกวดครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2515 เพื่อเป็นการรำลึกถึงนายอิศรา อมันตกุล นักหนังสือพิมพ์ผู้ล่วงลับและอดีตนายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยคนแรก ถือเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการริเริ่มและบุกเบิกงานข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนในประเทศไทย

ไขปมดราม่า!"ภาพหญิงกางร่มบังพระบรมฉายาลักษณ์" จากช่างภาพผู้ลั่นชัตเตอร์//www.posttoday.com/social/hot/463421

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 11 มีนาคม 2560    
Last Update : 11 มีนาคม 2560 11:09:42 น.
Counter : 341 Pageviews.  

ไพศาล พืชมงคลแนะหลังถอดสมณศักดิ์ธัมมชโยแล้วยังเหลือธุระของคณะสงฆ์และรัฐบาล อย่างไรบ้าง ?



เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2560 นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์เฟซบุ๊ค Paisal Puechmongkol ถึงการดำเนินการหลังมีพระราชโองการโปรดเกล้าฯถอดถอนสมณศักดิ์พระธัมมชโยโดยระบุว่า

 

หลังจากมีพระราชโองการโปรดเกล้าถอดถอนสมณศักดิ์ ธัมมชโยแล้วต่อไปนี้ ยังเหลือธุระของคณะสงฆ์ และรัฐบาลคือ

1. เรื่องการสึกหรือให้พ้นจากสมณเพศก็เป็นอำนาจ ของเจ้าคณะ ไม่ว่าเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอหรือเจ้าคณะจังหวัดหรือเจ้าคณะภาคหรือเจ้าคณะหนก็สามารถสึกได้ทั้งสิ้น

ต่างกับก่อนหน้านี้ ถ้าหากยังดำรงสมณศักดิ์อยู่ ผู้ที่จะสึกได้ก็มีเจ้าคณะหนกับเจ้าคณะภาคเท่านั้น

การสั่งและกำกับการให้สุด เป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของเจ้าคณะหนกลาง ที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรงและโดยเฉพาะ

หรือในกรณีเจ้าพนักงานจับกุมธัมมชโยได้ก็มีอำนาจสึกหรือให้สละสมณเพศเสียได้

2. เรื่องเร่งด่วนมากอีกเรื่องหนึ่งคือ การแต่งตั้งเจ้าอาวาส

เพราะตอนนี้ไม่มีเจ้าอาวาสมานานแล้ว มีแต่ผู้รักษาการเจ้าอาวาสซึ่งตั้งไว้ในต่างประเทศ จึงต้องรีบตั้งเจ้าอาวาสโดยเร็วที่สุดและอำนาจในการตั้งเจ้าอาวาสเป็นอำนาจของเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี

ก็ขออาราธนาพระเดชพระคุณรีบแต่งตั้งพระดีเป็นเจ้าอาวาสโดยเร็ว

เพื่อให้เจ้าอาวาสได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารวัดหรือคณะมัคทายกวัดแล้วบริหารจัดการวัดให้เป็นไปตามกฎหมาย

ขับไล่พวกอลัชชีผีเปรตออกไปจากวัดป้องกันไม่ให้ เหล่าพาลต่างๆเข้ามาก่อความวุ่นวายภายในวัด

แล้วสำรวจบริหารจัดการทรัพย์สินของวัดให้เป็นไปตามกฎหมายและเจตนารมณ์ของสาธุชนทั้งหลายต่อไป

ผู้ที่ต้องรับผิดชอบสั่งการและกำกับในเรื่องนี้ ก็คือเจ้าคณะหนกลางอีกนั่นแหละ

3. การตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาหรือจำเลยที่หนีหมายศาล ซึ่งที่ผ่านมาทำไม่ได้ เพราะมีการตั้งรัฐอิสระตั้งป้อมค่ายระดมมวลชนมาขัดขวางการปฏิบัติของเจ้าพนักงาน จนต้องมีคำสั่งตามมาตรา๔๔มากว่า 20 วันแล้วก็ยังไม่สามารถบังคับการตามหมายของศาลได้

เป็นกรณีร้ายแรงและเป็นปัญหาความมั่นคงของประเทศชาติ

ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของผู้มีอำนาจที่จะต้องเร่งดำเนินการ ให้อำนาจอธิปไตยทั้งหลายของชาติสามารถดำเนินการได้

และเพื่อการนี้ใครที่รู้ตัวว่าเคยอุปถัมภ์ค้ำชูธัมมชโยก็ดีหรือเคยรับประโยชน์ใดๆก็ดีควรจะสำนึกตัวว่า ต้องทำอย่างไรแล้วรีบทำอย่างนั้นเสียอย่าให้เป็นอุปสรรคหรือขัดขวาง การบังคับตามหมายของศาลอีกเลย

ขอให้เห็นแก่แผ่นดินเห็นแก่ราษฎรบ้างเกิด

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 06 มีนาคม 2560    
Last Update : 6 มีนาคม 2560 23:42:44 น.
Counter : 267 Pageviews.  

ตรังพบกล้วยไม้ดินชนิดใหม่ของโลก ตั้งชื่อว่า "ว่านแผ่นดินเย็นเมืองตรัง"



เจ้าหน้าที่สวนพฤกษศาสตร์ในจังหวัดตรัง ค้นพบกล้วยไม้ดินชนิดใหม่ของโลก ในพื้นที่ป่า 2 แห่งของจังหวัด ให้ชื่อว่า "ว่านแผ่นดินเย็นเมืองตรัง"

 

วันที่ 4 มี.ค. 2560 - นายวิโรจน์ ตันธนาภินันท์ รักษาราชการในตำแหน่งหัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์เขาช่อง กล่าวว่า ว่านแผ่นดินเย็นเมืองตรัง ชื่อพฤกษศาสตร์ Nervilia trangensis S.W.Gale , Suddee & Duangjai , sp.nov.ined. วงศ์ Orchidaceae กล้วยไม้ดินชนิดใหม่ของโลก พบในป่าดิบชื้นที่ที่สวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย อำเภอย่านตาขาว และสวนพฤกษศาสตร์เขาช่อง อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นผืนป่าดิบชื้น ทั้งนี้ ดอกกับใบออกไม่พร้อมกัน ออกดอกช่วงต้นฤดูฝนก่อนออกใบ อยู่ระหว่างการเตรียมเขียนตีพิมพ์ โดย ดร.สเตฟาน เกล ผู้เชี่ยวชาญกล้วยไม้ชาวอังกฤษ ปัจจุบันปฏิบัติงานอยู่ท่าฮ่องกง นายสมราน สุดดี นักพฤกษศาสตร์จากสำนักงานหอพรรณไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ ผศ.ดร. สุธีร์ ดวงใจ อาจารย์ภาควิชาชีววิทยาป่าไม้ คณะวนศาสาตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คำระบุชนิด “Trangensis” หมายถึงจังหวัดตรัง แหล่งที่พบกล้วยไม้ชนิดนี้ ตัวอย่างต้นแบบเก็บรักษาไว้ที่หอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช "ว่านแผ่นดินเย็นเมืองตรัง" ค้นพบครั้งแรกโดยเจ้าหน้าที่สวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย นายประสงค์ โพธิ์เอี่ยม ได้ส่งภาพถ่ายมาให้หอพรรณไม้ตรวจสอบ

หลังจากนั้น จึงได้มีการติดตามเก็บตัวอย่าง และพบเพิ่มเติมที่สวนพฤกษศาสตร์เขาช่อง โดย ผศ.ดร.สุธีร์ ดวงใจ อาจารย์คณะวนศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ กล้วยไม้ดิน หัวใต้ดินรูปทรงไข่แกรมรูปรี เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.8-1 เซนติเมตร ดอกกับใบออกไม่พร้อมกัน ออกดอกช่วงต้นฤดูฝนก่อนออกใบ ใบชูขึ้นสูงเหนือพื้นดินเล็กน้อย สีเขียวอ่อนถึงเข้ม เป็นมัน รูปหลายเหลี่ยมเกือบกลม กว้าง 4-6.5 เซนติเมตร ยาว 3.5-6.5 เซนติเมตร เป็นร่องตามเส้นใบตามยาว ปลายแหลม ขอบเรียบ โคนเว้าลึกรูปหัวใจ ขอบใบด้านโคนใบอาจซ้อนทับกัน มีเส้นจากโคนใบ 5-9 เส้น ก้านใบสีเขียว ยาวได้ถึง 3 เซนติเมตร ช่อดอกตั้งตรง ยาวได้ถึง 18 เซนติเมตร มีดอก 1 ดอก ก้านช่อดอกมีกาบสั้นและบางหุ้ม ใบประดับรูปไข่แกมรูปใบหอก ปลายแหลม ดอกชี้ลงในแนวเฉียง ยาว 1.8-2 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงและกลีบดอกสีเขียวเข้ม มีขีดประสีม่วง กลีบปากสีขาว รูปไข่กลับแกมรูปช้อน มี 3 แฉก มีแต้มสีม่วงและแถบสีเหลืองตามยาวกลางกลีบ หูกลีบปากรูปสามเหลี่ยม ตั้งขึ้น ปลายแหลม รังไข่รวมก้านดอกมีร่องตื้นๆ ตามยาว ออกดอกช่วงต้นฤดูฝนตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเมษายน ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ขุดว่านแผ่นดินเย็นเมืองตรัง ทำการปลูกขยายพันธุ์ภายในเรือนเพาะชำด้นไม้หายาก เพื่อเพิ่มจำนวนให้มากๆ และถือเป็นพันธุ์ไม้ที่หายาก ต้องมีการอนุรักษ์รักษาไว้ หากมีประชาชนลักลอบขุดแล้วนำไปปลูกจะมีความผิดตามกฎหมาย ทั้งจำและปรับ

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 05 มีนาคม 2560    
Last Update : 5 มีนาคม 2560 8:52:39 น.
Counter : 398 Pageviews.  

กระทรวงคลังออกประกาศนำเงินเข้า-ออก 4.5 แสนบาทและเงินตราต่างประเทศ 1.5 หมื่นดอลลาร์ต้องแจ้งกรมศุลกากร



กระทรวงการคลังออกประกาศ 3 ฉบับนำเงินเข้า-ออก 1.5 แสนบาท เงินตราต่างประเทศเท่ากับ 1.5 หมื่นดอลลาร์ ตราสารเปลี่ยนมือจะต้องแจ้งศุลกากร ป้องกันการฟอกเงินรวมทั้งเงินสนับสนุนการก่อการร้าย เผยทำเป็นมาตรฐานสากลเหมือนประเทศอื่นๆ

 

มื่อวันที่ 3 มีนาคม 2560 นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแผ่ประกาศกระทรวงการคลัง 3 ฉบับ ซึ่งเป็นการปรับปรุงประกาศฉบับเดิม หลังจาก พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 มีผลบังคับใช้

ประกาศกระทรวงการคลังดังกล่าวกำหนดจำนวนเงินตรา เงินตราต่างประเทศ หรือตราสารเปลี่ยนมือ ที่บุคคลผู้ส่งหรือนำออกไปนอก หรือเข้ามาในประเทศ จะต้องแจ้งรายการต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ศุลกากรในขณะที่ผ่านศุลกากรทุกแห่ง ดังนี้

1.กรณีเงินตราไทยที่เป็นธนบัตรหรือเหรียญกษาปณ์ที่มีมูลค่าเกินกว่า 450,000 บาท

2.กรณีเงินตราต่างประเทศที่เป็นธนบัตรหรือเหรียญกษาปณ์ที่มีมูลค่ารวมกันแล้วเกินกว่า 15,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือเทียบเท่า

3.กรณีตราสารเปลี่ยนมือ (ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน เช็ค หรือตราสารอื่นใดที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด) ที่ไม่ระบุชื่อผู้รับเงินและไม่มีข้อกำหนดห้ามเปลี่ยนมือ

(ก) กรณีตราสารเปลี่ยนมือที่ระบุจำนวนเงินเป็นเงินบาท อันมีมูลค่ารวมกันแล้วเกินกว่า 450,000 บาท

(ข) กรณีตราสารเปลี่ยนมือที่ระบุจำนวนเงินเป็นเงินตราต่างประเทศ อันมีมูลค่ารวมกันแล้วเกินกว่า 15,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือเทียบเท่า

4. กรณีเงินตรา เงินตราต่างประเทศ หรือตราสารเปลี่ยนมือ ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วมีมูลค่าเกินกว่า 450,000 บาทหรือเทียบเท่า

สำหรับออกประกาศกระทรวงการคลังทั้ง 3 ฉบับ ก็เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของพ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 ในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ตามมาตรฐานของ Financial Action Task Force (FATF)

สหรัฐให้รายงานเข้า-ออกเกิน 10,000 ดอลลาร์

รายงานข่าวเปิดเผยว่ามาตรการให้รายงานการนำเข้า-ออกประเทศทำกันมานานในหลายๆประเทศ อาทิเช่นสหรัฐอเมริกา ทุกคนสามารถนำเงินเข้า-ออกเท่าไรก็ได้ แต่หากนำเงินเข้า-ออกเกิน 10,000 ดอลลาร์จะต้องแจ้งด้วยการกรอกจำนวนเงินตามแบบฟอร์ม FinCEN 105 ให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรบริเวณที่เราเดินทางเข้า-ออกรับทราบ  เพราะหากไม่แจ้งเมื่อถูกจับได้จะถูกยึดเงินและอาจถูกดำเนินคดีไปด้วยในคราวเดียวกัน

พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559

//library2.parliament.go.th/giventake/content_nla2557/law104-111259-27.pdf

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 05 มีนาคม 2560    
Last Update : 5 มีนาคม 2560 6:32:56 น.
Counter : 270 Pageviews.  

การบินไทย TG 963 “สตอกโฮล์ม-ภูเก็ต-กรุงเทพฯ”ถูกขู่วางระเบิดสั่งลำเลียง 267 ผู้โดยสารลง-ตรวจสอบ



เครื่องการบินไทยจากสวีเดน-ภูเก็ต-กรุงเทพฯถูกขู่วางระเบิดเดินทางล่าช้า การบินไทยเผยต้องตรวจสอบความปลอดภัย ผู้โดยสารและลูกเรือเกือบ 300 คนถูกลำเลียงลงมาพักโรงแรมใกล้สนามบิน คาดบินได้วันที่ 3 มีนาคม

 

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2560 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ชี้แจงเหตุเที่ยวบิน ทีจี 963 สตอกโฮล์ม - ภูเก็ต - กรุงเทพฯ ออกเดินทางล่าช้า เนื่องจากต้องมีการตรวจสอบด้านความปลอดภัยตามมาตรฐานรักษาความปลอดภัยและขั้นตอนของท่าอากาศยานนานาชาติอาร์ลันดา (Arlanda Airport) โดยได้รับความร่วมมือจากผู้โดยสาร ล่าสุด เที่ยวบินดังกล่าวคาดว่าจะออกเดินทางได้ในวันนี้ (3 มีนาคม 2560)

กรณีเที่ยวบิน ทีจี 963 ของบริษัท การบินไทย เส้นทางจากกรุงสตอกโฮล์มประเทศสวีเดน – ภูเก็ตมีผู้โดยสาร 267 คนบวกลูกเรือและกัปตัน 19 คน มีกำหนดออกเดินทางประมาณ 21.30 น วันที่ 2 มีนาคม จากท่าอากาศยานนานาชาติอาร์ลันดา กรุงสตอกโฮล์ม ถูกขู่วางระเบิด จึงมีการเคลื่อนย้ายผู้โดยสารลงจากเครื่องเข้าพักที่โรงแรม ขณะที่เครื่องยังจอดอยู่ตรงบริเวณลานบิน และยังไม่อนุญาตให้นำกระเป๋าและสัมภาระทั้งหมดของผู้โดยสารและลูกเรือออกจากเครื่อง

เรืออากาศเอกปรารถนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคงและมาตรฐานการบิน THAI เปิดเผยว่า เที่ยวบินที่ทีจี 963 เส้นทาง สตอกโฮล์ม - ภูเก็ต - กรุงเทพฯ ออกเดินทางล่าช้า โดยเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2560 เวลาประมาณ 16.45 น. (เวลาท้องถิ่น) เที่ยวบินดังกล่าวเตรียมออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติอาร์ลันดา เมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ขณะทำการขับเครื่องบิน (TAXI) ออกจากบริเวณหลุมจอด

กัปตันได้รับแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัย จึงได้ดำเนินการปฏิบัติตามขั้นตอนมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยและตามขั้นตอนของท่าอากาศยานนานาชาติอาร์ลันดา และได้นำเครื่องบินลำดังกล่าวไปจอดรอรับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานนานาชาติอาร์ลันดา

การบินไทยและผู้โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าวได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานนานาชาติอาร์ลันดา ในการตรวจสอบด้านการรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี และเมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่แล้ว เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายสูงสุดการบินไทยจึงได้นำผู้โดยสารเข้าพักที่โรงแรมเพื่อรอเวลาออกเดินทางใหม่ คาดว่าเที่ยวบิน ทีจี 963 จะออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติอาร์ลันดาภายในวันนี้ (3 มีนาคม 2560)

หนังสือพิมพ์สวีดิช  Aftonbladet รายงานว่าเครื่องบินของการบินไทย TG963 ถูกขู่วางระเบิด โดย สเวน-อีริก โอลสัน โฆษกตำรวจสตอกโฮล์มกล่าวว่า “ศูนย์บัญชาการของเราได้รับรายงานถึงเที่ยวบินที่ถูกระบุแน่ชัดว่าถูกขู่  คำขู่มาจากโทรศัพท์  ไม่ใช่จากเราโดยตรง ผมพูดได้เพียงแค่นี้” ตำรวจไม่ได้เพิกเฉยกับการขู่ครั้งนี้และไม่นึกว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น   

หนังสือพิมพ์สวีดิชรายงานด้วยการอ้างจากเจ้าหน้าที่ว่าเที่ยวบินของการบินไทย TG963 ซึ่งจะออกเดินทางเวลา 20.45 น.ของคืนวันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม จากสตอกโฮล์มมายังภูเก็ต อันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองไทย

หนังสือพิมพ์รายงานว่าผู้โดยสารคนหนึ่งบนเครื่องบินกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตำรวจขึ้นมาถึงเครื่องบินในระหว่างที่เครื่องกำลังแท็กซี่ออกจากหลุมบิน  

“ทำให้เรานั่งอยู่บนเครื่องเกือบ 2 ชั่วโมง”อุลริก้า สเตน ผู้โดยสารที่เดินทางมาประเทศไทยพร้อมกับครอบครัวกล่าวกับผู้สื่อข่าว โดยระบุว่าตำรวจขึ้นมาถึงเวลาประมาณ 23.30 น. จากนั้นสั่งอพยพผู้โดยสารลงจากเครื่องบิน ตำรวจสั่งให้ทุกคนถือพาสปอร์ต,กระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือติดตัวลงจากเครื่องเท่านั้น

น.ส.สเตนกล่าวว่า เราได้รับการแจ้งให้ทราบทุก 30 นาทีว่าขณะนี้มีปัญหาทางเทคนิค ตำรวจไม่ได้บอกผู้โดยสารเกี่ยวกับระเบิด จนกระทั่งผู้โดยสารลงจากเครื่องบินหมดทุกคนแล้ว จึงรู้เรื่อง  

รายงานข่าวเปิดเผยว่าเมื่อเวลา 02.00 น.(เวลาสวีเดน)ของวันที่ 3 มีนาคมหรือตรงกับเวลา 08.00 น.วันที่ 3 มีนาคม(เวลาประเทศไทย) เครื่องบินของการบินไทยยังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบหาระเบิดทุกแง่มุม  ส่วนผู้โดยสารถูกลำเลียงนำมาพักที่โรงแรมใกล้กับสนามบิน  คาดว่าการตรวจสอบจะกระทำถึงเช้าวันที่ 3 มีนาคมเพื่อความปลอดภัย

รายงานข่าวเปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามผู้โดยสารทุกคนว่าในระหว่างเครื่องกำลังแท็กซี่นั้นได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติใดๆหรือสิ่งอันเป็นที่สงสัยบนเครื่องหรือไม่

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 04 มีนาคม 2560    
Last Update : 4 มีนาคม 2560 5:38:21 น.
Counter : 308 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.