กระทรวงพาณิชย์คาดระบายข้าวในสต๊อกของรัฐหมดพฤษภาคม 2560



กระทรวงพาณิชย์คาดระบายข้าวสต็อกรัฐหมดภายใน พ.ค.60 นี้ ประเดิมรอบแรกข้าวคุณภาพเพื่อการบริโภค เปิดประมูล 2.87 ล้านตัน กำหนดเปิดยื่นซองเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ ผู้เข้าร่วมประมูล ในวันที่ 14 ก.พ.60

 

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2560  นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เปิดประมูลข้าวสารในสต็อกรัฐบาลเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 1 ปี 2560 ปริมาณรวม 2.87 ล้านตัน จาก 274 คลัง ใน 41 จังหวัด โดยเป็นข้าวเกรด P, A, B และ C ประกอบด้วยข้าว 17 ชนิด ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2, ข้าวหอมจังหวัด, ข้าวขาว 5%, ข้าวปทุมธานี 5%, ข้าวขาว 10%, ข้าวขาว 15%, ข้าวขาว 25% เลิศ, ข้าวปทุมธานี, ข้าวเหนียวขาว 10%, ข้าวท่อนหอมมะลิ, ข้าวท่องหอมจังหวัด, ข้าวท่อนปทุมธานี, ปลายข้าวหอมมะลิ, ปลายข้าวหอมจังหวัด, ปลายข้าวปทุมธานี, ปลายข้าว A1 เลิศ และปลายข้าว A1   

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้เชิญผู้สนใจเข้ามารับฟังการชี้แจงเงื่อนไขการประมูล ซึ่งได้รับความสนใจจากเอกชนพอสมควร โดยจะเปิดให้ผู้สนใจเข้าดูสภาพข้าวในคลังสินค้า ระหว่างวันที่ 6-10 กุมภาพันธ์ เปิดยื่นซองเอกสารคุณสมบัติ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ และ ยื่นซองประมูลในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ โดยคาดว่ากระบวนการพิจารณาจะแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้

“ข้าวที่นำออกมาประมูลครั้งนี้ เป็นข้าวที่มีคุณภาพสามารถบริโภคได้ หากขายได้หมด ก็จะเหลืออีก 5.2 ล้านตัน ซึ่งเป็นข้าวที่ไม่สามารถบริโภคได้ แต่ไปเป็นอาหารสัตว์ได้ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเท่านั้น โดยคาดว่าในเดือนมีนาคมจะเปิดประมูลอีกรอบหนึ่ง และตั้งเป้าจะระบายสต็อกให้หมดในเดือนเมษายน-พฤษภาคมปีนี้”นางดวงพร กล่าวและว่า ปัจจุบันภาระค่าใช้จ่ายปริมาณ 8 ล้านตันอยู่ที่วันละ 17 ล้านบาทต่อตัน

นางดวงพร กล่าวด้วยว่า ส่วนความคืบหน้าการส่งมอบข้าวให้กับเอกชนหลังจากที่ภาครัฐได้เปิดประมูลข้าวในรอบที่ผ่านๆ มา นั้นยังมีบางส่วนที่ยังไม่สามารถส่งมอบได้ตามกำหนด เพราะมีการระบุว่าคุณภาพข้าวไม่เป็นไปตามเงื่อนไข ซึ่งได้มอบหมายให้ทั้งองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) และองค์การคลังสินค้า(อคส.) รวบรวมรายชื่อเอกชนที่ประสบปัญหาดังกล่าวและจะเชิญมาหารือเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาต่อไปเพราะไม่อยากให้เป็นปัญหากระทบต่อความเชื่อมั่นในการเข้าร่วมประมูลข้าวในสต็อกของรัฐบาล

ด้าน นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ช่วงนี้ถือเป็นจังหวะที่เหมาะสมต่อการระบายข้าวสต๊อกรัฐบาล เพราะขณะนี้ตลาดไม่มีข้าวออกมา คาดว่าข้าวนาปรังของไทยจะออกมาอีกครั้งในช่วงเดือน มี.ค. อีกประมาณ 1 ล้านตันข้าวเปลือก เช่นเดียวกับข้าวเปลือกของเวียดนาม ดังนั้น ในช่วงนี้ จึงแทบไม่มีข้าวในตลาด แต่ต้องดูปริมาณที่ระบายออกมา หากระบายจำนวนมาก อาจจะกระทบต่อจิตวิทยาในระยะสั้น ที่ทำให้ราคาข้าวในตลาดลดลงบ้าง แต่จะเป็นผลดีในระยะยาว เพราะจะส่งสัญญาณไปที่ตลาดต่างประเทศว่าสต๊อกข้าวไทยเหลือน้อยแล้ว และมีผลผลักดันให้ราคาปรับขึ้น

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2560    
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2560 14:42:56 น.
Counter : 313 Pageviews.  

การถ่วงดุลย์อำนาจในระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐระหว่างคำสั่งประธานาธิบดีและคำสั่งศาลกรณีผู้ลี้ภัยอพยพและ



ระบอบประชาธิปไตยสหรัฐจะเห็นได้ชัดในเรื่องของการถ่วงดุลย์อำนาจ (Check and Balance)ระหว่างคำสั่งของประธานาธิบดีและคำพิพากษาของศาล กรณีผู้ลี้ภัยอพยพและคนเข้าเมือง ภายหลังจากฝ่ายบริหารออกคำสั่งมาก็เกิดการประท้วงของประชาชนทั้งในสหรัฐและทั่วโลก แม้ว่าฝ่ายบริหารจะมีเหตุผลว่าเพื่อความปลอดภัยของสังคมอเมริกันและคนอเมริกันก็ตาม แต่ก็ไม่เพียงพอเพราะประชาชนเห็นว่าเป็นการเลือกปฎิบัติต่อชาวมุสลิม

 

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2017 นายดอนัลด์ ทรัมพ์ ประธานาธิบดีสหรัฐได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร (Executive Order) หลายเรื่องคำสั่งดังกล่าวเป็นเหมือนนโยบายที่รัฐบาลจะทำ แต่ประเด็นที่มีการคัดค้านและประท้วงอย่างหนักก็คือเรื่องผู้ลี้ภัยอพยพและคนเข้าเมือง (Refugees & Immigrants)ที่รัฐบาลทรัมพ์ระบุไว้คือ 1.ห้ามผู้ลี้ภัยอพยพเข้าสหรัฐเป็นเวลา 120 วัน 2.ผู้ลี้ภัยอพยพจากประเทศซีเรียห้ามตลอดไป 3.ผู้ถือพาสปอร์ตจาก 7 ประเทศประกอบด้วยอิหร่าน,อิรัก,ลิเบีย,โซมาเลีย,ซูดาน,ซีเรียและเยเมนห้ามเข้าสหรัฐเป็นเวลา 90 วัน

จากนั้นเกิดการประท้วงลุกลามทั้งในสหรัฐและทั่วโลกเพราะเห็นว่าคำสั่งดังกล่สวเป็นการเลือกปฏิบัติกับชาวมุสลิมที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญสหรัฐใน First Amendment จนกระทั่งรัฐวอชิงตันได้มอบหมายให้อัยการสูงสุดของรัฐยื่นฟ้องคำสั่งของฝ่ายบริหารต่อศาลชั้นต้นรัฐบาลกลาง,ซีแอตเติ้ล (U.S.District Court, Seattle) คำฟ้องสรุปได้ว่า คำสั่งของประธานาธิบดี...ทำให้ครอบครัวชาวรัฐวอชิงตันแตกแยก,เป็นอันตรายต่อชาวรัฐวอชิงตันหลายพันคน,ทำลายเศรษฐกิจรัฐวอชิงตัน,ทำอันตรายต่อบริษัทที่ใช้รัฐวอชิงตันเป็นฐานบริษัท,เป็นการแทรกแซงอธิปไตยของรัฐวอชิงตันซึ่งยังยินดีที่จะต้อนรับบรรดาผู้ลี้ภัยอพยพและคนเข้าเมือง”

เรื่องนี้ต้องเข้าใจว่ารัฐวอชิงตันเป็นรัฐที่มีบริษัทไฮเทคตั้งฐานเศรษฐกิจอยู่จำนวนมากพอๆกับรัฐแคลิฟอร์เนีย  รัฐวอชิงตันจะต้องว่าจ้างนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากทั่วโลกมาร่วมงาน อีกทั้งยังมีนักศึกษา-นักวิชาการ-อาจารย์ที่รัฐเป็นผู้อุดหนุนให้ทุนการศึกษาเพื่อความก้าวหน้าของรัฐ จึงทำให้รัฐได้รับผลกระทบเพราะมีบุคคลเหล่านี้ติดอยู่ในต่างประเทศ เหตุที่เป็นคนถือพาสปอร์ตจาก 7 ประเทศ

ต่อมา นายเจมส์ รอบาร์ท ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นรัฐบาลกลาง,ซีแอตเติ้ล หลังจากรับฟังคดีระหว่างอัยการสูงสุดรัฐวอชิงตันกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐในฐานะจำเลยแล้วชี้ขาดให้คำสั่งของฝ่ายบริหารระงับใช้บังคับชั่วคราว (temporary restraining order) มีผลทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์เป็นต้นไปมีระยะเวลา 4 เดือนพร้อมกับออกคำชี้แจงรายละเอียดถึงการพิพากษาครั้งนี้  ดังนั้คำสั่งของฝ่ายบริหารที่ออกมาก่อนหน้านี้ 120 วันก็จะถูกลบล้างไปโดยอัตโนมัติ

อย่างไรก็ตามเมื่อเย็นวันที่ 4 มกราคมกระทรวงยุติธรรมสหรัฐผู้ทำหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลกลางได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ภาค 9 (ตั้งอยู่ซาน ฟรานซิสโก ดูแลคดีทางภาคตะวันตกของสหรัฐ) โดยศาลอุทธรณ์ที่มีผู้พิพากษา 3 คนจะทำหน้าที่ชี้ขาดคดี เช่นอาจยืนตามศาลชั้นต้นหรืออาจไม่เห็นด้วยกับศาลชั้นต้นและให้คำสั่งฝ่ายบริหารมีผลบังคับใช้เหมือนเดิม  ซึ่งจะต้องรอฟังต่อไป

การใช้อำนาจของฝ่ายบริหารออกคำสั่งก็ดี การยื่นฟ้องของประชาชนผู้เสียหายก็ดี การตัดสินชี้ขาดของศาลก็ดี ทำให้เห็นกระบวนการยุติธรรมของสหรัฐในระบอบประชาธิปไตยที่เกิดการถ่วงดุลย์อำนาจกัน ไม่ใช่ว่าฝ่ายบริหารมีอำนาจในการบริหารแล้วจะออกคำสั่งได้ตามอำเภอใจ

อีกด้านหนึ่ง ปัญหาทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นนั้นมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา,ประเทศยุโรปในนามกลุ่มเนโต้ (NATO) และประเทศมุสลิมบางประเทศทำสงครามปราบปรามการก่อการร้ายในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะประเทศซีเรียนั้นสหรัฐต้องการโค่นล้มนายอัล-อัดซาด ประธานาธิบดีซีเรียนับตั้งแต่ปรากฎการณ์“อาหรับสปริง” แต่นายอัล-อัดซาด ไม่ยอมลงจากอำนาจ สหรัฐจึงสนับสนุนทหารกลุ่มซีเรียเสรีขึ้นมาฝึกทหารและป้อนอาวุธให้ การสู้รบขยายตัวเป็นสงครามกลางเมือง มีผู้อพยพหนีตาย หนีความอดอยาก เหตุเกิดตั้งแต่ปี 2011

ประเทศที่ไปก่อกรรมทำเข็ญในซีเรียจะต้องรับผิดชอบผู้อพยพ  ประเทศเพื่อนบ้านอยู่รอบข้างที่ไม่มีส่วนรู้เห็นก็ต้องรับผิดชอบผู้อพยพ,ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศยุโรปต้องรับผิดชอบมากด้วย นี่คือต้นเหตุแห่งปัญหา คำสั่งของนายดอนัลด์ ทรัมพ์ เป็นเพียงการแก้ปัญหาปลายเหตุ แต่ปัญหาปลายเหตุกลับกลายเป็นปัญหาใหม่ประทุขึ้นมาอีกระลอกไม่สิ้นสุด หากไม่รีบระงับอาจจะกลายเป็นความขัดแย้งครั้งใหญ่ตามมาได้

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2560    
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2560 10:39:58 น.
Counter : 260 Pageviews.  

Apple เชือด Samsung ครองแชมป์ยอดขายสมาร์ทโฟนในไตรมาสส่งท้าย 2016



ความเคลื่อนไหวต่อเนื่องภายหลังจากที่ Apple ได้จัดการแถลงข่าวผลประกอบการไตรมาสแรกตามปีปฏิทินของบริษัทไปแล้ว ซึ่งเกิดการทำสถิติใหม่ขึ้นหลายอย่างลบคำปรามาสได้เป็นอย่างดี (ข่าว) ล่าสุดก็มีอีกหนึ่งสถิติที่น่ายินดีด้วยเช่นกัน โดยอ้างอิงจากผลการสำรวจของ Strategy Analystics พบว่ายอดขายเครื่องสมาร์ทโฟนระหว่างไตรมาสสุดท้ายของปี 2016 นั้นได้ส่งให้ Apple เป็นแชมป์ส่งท้ายปีในไตรมาส 4/2016 ไปแบบคาบเส้นด้วยเช่นกัน

โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 17.8 เปอร์เซ็นต์จากยอดขายรวม 78.3 ล้านเครื่อง ในขณะที่คู่แข่งเบอร์หนึ่ง Samsung ได้ส่วนแบ่งตลาดไป 17.7 เปอร์เซ็นต์จากยอดขายรวม 77.5 เปอร์เซ็นต์ สำหรับคู่แข่งอีกรายที่สถาปนาตัวเองขึ้นมาท้าชิง Huawei มีส่วนแบ่งตลาดไตรมาสสุดท้ายอยู่ที่ 10.2 เปอร์เซ็นต์จากยอดขาย 44.9 ล้านเครื่อง

ผลงานรวมตลอดทั้งปี 2016 ของ Apple นั้นสามารถขายโทรศัพท์ iPhone ทุกรุ่นไปได้ 215.4 ล้านเครื่อง คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 14.5 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ช่วงเดียวกันของปี 2015 นั้นสามารถทำยอดขายได้ 231.5 ล้านเครื่อง มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ 16.1 เปอร์เซ็นต์

ที่มา macstroke




 

Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2560    
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2560 6:47:19 น.
Counter : 225 Pageviews.  

ทุบไม่เลี้ยง Apple เดินหน้าสร้างสถิติใหม่ ยอดขายรวม iPhone 78.3 ล้านเครื่อง



บอกได้เลยว่าหนึ่งในวันสำคัญของ Apple นอกจากงานแถลงข่าวรอบพิเศษแล้วนั้น ก็คงจะเป็นการแถลงผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทในแต่ละปีนั้นเองครับ ซึ่งก็ไม่เป็นที่ผิดหวังสำหรับสามเดือนแรกในขวบปี 2017 ระหว่างเดือนตุลาคมถึงธันวาคมที่ผ่านมาสำหรับ Apple ได้ผ่านพ้นไปแล้วด้วยการทำสถิติใหม่ๆ เกิดขึ้นหลายอย่างในไตรมาสนี้ อันเป็นผลมาจากการเปิดตัวของสินค้าเรือธง iPhone 7 Plus, Apple Watch Series 2 เช่นเดียวกับ MacBook Pro with Touch Bar ล้วนสามารถยืนหยัดแข่งขันในตลาดได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งจะสรุปเอาใจความกันได้ตามต่อไปนี้

รายได้รวมอยู่ที่ 7.84 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (เปรียบเทียกับ $7.59 หมื่นล้าน)
ธุรกิจทำกำไรอยู่ที่ 1.79 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (เปรียบเทียบกับ $1.84 หมื่นล้าน)
เงินปันผลต่อหุ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 3.36 เหรียญสหรัฐ (เปรียบเทียบกับ $3.28 เหรียญ)

iPhone สร้างยอดได้รวม 78.3 ล้านเครื่อง (เพิ่มขึ้นจาก 74.8 ล้านเครื่อง)
iPad สร้างยอดขายได้รวม 13.1 ล้านเครื่อง (ลดลงจาก 16.1 ล้านเครื่อง)
Mac สร้างยอดขายได้รวม 5.4 ล้านเครื่อง (เพิ่มขึ้นจาก 5.3 ล้านเครื่อง)

ซึ่งทาง Tim Cook ได้ให้สัมภาษณ์ในการแถลงข่าวครั้งนี้ระบุว่า ไตรมาสแรกระหว่างช่วงเทศกาลช๊อปปิ้งซื้อของขวัญส่งท้ายปีที่ผ่านไปของ Apple นั้นเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้น สามารถสร้างสถิติตัวเลขใหม่ๆ เกิดขึ้นได้หลายอย่าง เช่น รายได้ต่อไตรมาสสูงสุด ยอดขายเครื่อง iPhone ดีที่สุดตลอดกาล เช่นเดียวกับผลงานในหมวดของ Apple Watch, Mac ที่กลับมาอยู่ทิศทางบวกเติบโตขึ้น อีกทั้งรายได้จากกลุ่มบริการ อย่างเช่น Apple Music และ App Store นั้นก็เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งไปพร้อมๆ กัน นอกจากนั้นอุตสาหกรรมการพัฒนาสมาร์ทโฟนเองก็ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและจะสามารถพัฒนาไปได้อีกมากในอนาคตก้าวต่อไป

ที่มา macstroke




 

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2560    
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2560 10:26:53 น.
Counter : 282 Pageviews.  

ท้องถิ่นเข้มแข็ง ประชาชนเป็นสุข โดย อุดร ตันติสุนทร



เมื่อไม่นานมานี้ ผมและนายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ กรรมการมูลนิธิส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้เดินทางไปศึกษาดูงานที่ เทศบาลนครคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ครั้งที่ 2 หลังจากไปครั้งที่ 1 เมื่อปีที่แล้ว การไปศึกษาดูงานครั้งนี้เพื่อต้องการให้รู้แน่ชัดว่า “การกระจายอำนาจให้แก่องค์กรท้องถิ่น” นั้น เป็นการทำให้ท้องถิ่นเจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดี ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างในเมืองชนบทได้อย่างแท้จริง

 

ไปดูงานเทศบาลนครคุนหมิง ครั้งที่ 2 โดย อุดร ตันติสุนทร

หน่วยงานต่างๆ ที่ประกอบเป็นรัฐบาล เทศบาลนครคุนหมิง มีด้วยกันทั้งหมดถึง 40 หน่วยงาน

วันนี้ท่านทั้งหลายก็ทราบโดยทั่วไปแล้วว่าเศรษฐกิจประเทศจีนยกฐานะขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของโลกแล้ว และเชื่อว่าจะเป็นอันดับ 1 ของโลกได้ภายใน 10 ปีข้างหน้านี้

สรุปแล้ว รัฐบาลไทยต้องรีบกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นตามอย่างที่ประเทศจีนทำโดยเร็ว

การบริหารด้วยการกระจายอำนาจจากส่วนกลางไปยังท้องถิ่น ดังจะเห็นได้ว่าประเทศต่างๆ ในโลกปัจจุบันแม้กระทั้งในประเทศลัทธิคอมมิวนิสต์ก็ยังได้มีการผลักดันและเปลี่ยนแปลงไปสู่การมีรัฐบาลท้องถิ่นที่มาจากการเลือกตั้งอย่างเสรีของประชาชน การปกครองท้องถิ่นนำมาซึ่งการมีส่วนร่วมของประชาชน กลายเป็นคำศักดิ์สิทธิ์หรือคาถาของโลกในปัจจุบัน โดยเฉพาะในประเทศที่ต้องการเร่งพัฒนาความมั่งคั่งทางด้านเศรษฐกิจ

อรุณรุ่งของการปกครองท้องถิ่น

ในปี 2003 ธนาคารโลกได้มีการส่งเสริมให้เกิดการปกครองท้องถิ่นในประเทศที่กำลังพัฒนา พร้อมๆกันนี้ธนาคารโลกได้มีการศึกษาอย่างกว้างขวางในเรื่องของพัฒนาการทางด้านการปกครองท้องถิ่นของประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออก และตะวันตกเฉียงใต้ โดยทำการเปรียบเทียบ ประเทศกัมพูชา, จีน, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์,ไทยและเวียดนาม ตัวชี้วัดหนึ่งที่ใช้วัดระดับการพัฒนาการของการปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ สัดส่วนงบประมาณค่าใช้จ่ายที่อยู่ในอำนาจของการบริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ในจังหวัด อำเภอและเมืองใหญ่) พบผลที่น่าประหลาดใจอย่างยิ่งว่า ประเทศไทยอยู่ในระดับล้าหลังมากที่สุด

สิ่งที่น่าฉงนไปยิ่งกว่านั้นคือ ประเทศที่มีการปกครองโดยระบบศูนย์รวมอำนาจมากที่สุด อย่าง จีนและเวียดนาม มีลำดับความเข้มข้นในการรับผิดชอบของท้องถิ่นสูงสุด

ซึ่งธนาคารโลกได้บอกว่าจีนได้มีการพัฒนาโครงสร้างการกระจายอำนาจแบบพึ่งพาหรือร่วมมือระหว่างกัน ขององค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่นมากที่สุดในภูมิภาค แต่ประเทศที่มีระบบการปกครองแบบเปิดและเป็นประชาธิปไตยอย่าง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย กลับมีการพัฒนาในการปกครองท้องถิ่นที่อ่อนแอกว่า

สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่สะท้อนอำนาจทางการเมืองที่รวมอยู่ที่ศูนย์กลาง ส่วนจีนและเวียดนามได้ทำการกระจายอำนาจการจัดการในหลายๆเรื่อง โดยเฉพาะด้านการบริหารงบประมาณ และมีการปฏิรูปการคลังท้องถิ่น แต่ก็ยังไม่ได้เพิ่มอำนาจทางการเมืองให้กับระดับท้องถิ่น ส่วนประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย มีการเลือกตั้งไล่ไปตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนถึงระดับชาติ และมีที่ทำการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมานานแล้ว แต่กลับยังมีการกระจายอำนาจในระดับที่ไม่สูงมากนัก

ดังนั้นในการปฏิรูปโครงสร้างการปกครองท้องถิ่นจึงต้องทบทวนหรือวิเคราะห์ให้เห็นกันอย่างถ่องแท้ถึงความแตกต่างและความสัมพันธ์ระหว่างการกระจายอำนาจทางการเมือง รวมถึงการกระจายอำนาจทางการบริหารออกจากกัน

หรือเมื่อวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2010 มีการจัดสัมมนาทางวิชาการระดับนานาชาติ ได้รับความร่วมมือจาก วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมูลนิธิส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ว่าด้วยเรื่องการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นของประเทศต่างๆ มีศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยมิสซูรี, มิชิแกน, แคลิฟอร์เนีย, จีน, ญี่ปุ่น, แอฟริกาใต้ ผู้แทนธนาคารโลก รวมทั้งศาสตราจารย์ ดร.ชาติชาย ณ เชียงใหม่, รศ.ดร.ดิเรก ปัทมสิริวัฒน์ จากนิด้า

โดยศาสตราจารย์ Gayl D. Ness จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ได้บรรยายถึงชีวิตของประชาชนที่อยู่ในท้องถิ่นต่างๆ ว่า สมควรที่รัฐบาลกลางต้องเอาใจใส่อย่างมากที่สุด และได้อ้างอิงถึงการวิเคราะห์ของธนาคารโลกว่า “ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ให้ความสำคัญขององค์กรท้องถิ่นที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชนมากยิ่งกว่าประเทศใด ในเอเชีย”

ซึ่งผลสรุปการวิเคราะห์ของธนาคารโลก สัดส่วนของงบประมาณค่าใช้จ่ายที่อยู่ในอำนาจการอนุมัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดังนี้ จีน 69%, เวียดนาม 48%, อินโดนีเซีย 32%, ฟิลิปปินส์ 26%, กัมพูชา 17% และไทยมาเป็นอันดับสุดท้าย 10%

โดยสรุป การปกครองระบบประชาธิปไตยที่เข้าใจกันคืออำนาจของรัฐบาลกลางเป็นใหญ่ สามารถจะแบ่งเงินไปพัฒนาท้องถิ่นได้มากหรือน้อยแล้วแต่รัฐบาลกลาง ของไทยเรารัฐบาลกลางแบ่งให้ท้องถิ่น 10% ส่วนรัฐบาลจีนแบ่งให้ท้องถิ่น 69%

เป็นเครื่องยืนยันว่าประชาชนในจีนที่อยู่ในท้องถิ่นนั้นสำคัญจริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่โฆษณาชวนเชื่อ

หน่วยงานต่างๆ ที่ประกอบเป็นรัฐบาล เทศบาลนครคุนหมิง มีด้วยกันทั้งหมดถึง 40 หน่วยงาน ดังนี้

1.คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปเทศบาลนครคุนหมิง

2.คณะกรรมการอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเทศบาลนครคุนหมิง

3.กองการศึกษาเทศบาลนครคุนหมิง

4.กองวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเทศบาลนครคุนหมิง

5.คณะกรรมการกิจการชนชาติส่วนน้อยเทศบาลนครคุนหมิง

6.กองสันติบาลนครคุนหมิง

7.กองการตรวจสอบเทศบาลนครคุนหมิง

8.กองบริหารราชการฝ่ายพลเรือนเทศบาลนครคุนหมิง

9.กองศาลยุติธรรมเทศบาลนครคุนหมิง

10.กองการคลังเทศบาลนครคุนหมิง

11.กองทรัพยากรมนุษย์และสวัสดิการสังคมเทศบาลนครคุนหมิง

12.กองแหล่งทรัพยากรบนดินแห่งชาติเทศบาลนครคุนหมิง

13.กองการคมนาคมข่นส่งเทศบาลนครคุนหมิง

14.กองรักษาสิ่งแวดล้อมเทศบาลนครคุนหมิง

15.กองการวางแผนผังเมืองเทศบาลนครคุนหมิง

16.กองการเคหะสถานและการสร้างเมืองเทศบาลนครคุนหมิง

17.กองบริหารจัดการเมืองในทุกด้านเทศบาลนครคุนหมิง

18.กองการเกษตรเทศบาลนครคุนหมิง

19.กองการป่าไม้เทศบาลนครคุนหมิง

20.กองงานกิจการทางน้ำเทศบาลนครคุนหมิง

21.กองงานกิจการค้าเทศบาลนครคุนหมิง

22.กองอนามัยเทศบาลนครคุนหมิง

23.คณะกรรมการประชาชนและการคุมกำเนิดเทศบาลนครคุนหมิง

24.กองวัฒนธรรม การกระจายเสียง โทรทัศน์ และพลศึกษาเทศบาลนครคุนหมิง

25.กองตรวจสอบบัญชีเทศบาลนครคุนหมิง

26.กองสถิติเทศบาลนครคุนหมิง

27.กองการท่องเที่ยวเทศบาลนครคุนหมิง

28.กองงานศาสนาเทศบาลนครคุนหมิง

29.กองการตรวจสอบควบคุมดูแลการผลิตและความปลอดภัยเทศบาลนครคุนหมิง

30.กองควบคุมศูนย์ดูแลทะเลสาบเตียนฉือเทศบาลนครคุนหมิง

31.กองการส่งเสริมการลงทุนเทศบาลนครคุนหมิง

32.สำนักงานกิจการต่างประเทศและชาวจีนโพ้นทะเลเทศบาลนครคุนหมิง

33.กองงานภูมิทัศน์เทศบาลนครคุนหมิง

34.สำนักงานระบบกฎหมายรัฐบาลประชาชนเทศบาลนครคุนหมิง

35.กองงานเสบียงอาหารเทศบาลนครคุนหมิง

36.กองงานบริหารหน่วยงานรัฐบาลประชาชนเทศบาลนครคุนหมิง

37.สำนักงานเกษตรเพื่อช่วยเหลือพัฒนาเกษตรรัฐบาลเทศบาลนครคุนหมิง

38.สำนักงานการป้องกันภัยทางอากาศประชาชนแห่งเทศบาลนครคุนหมิง

39.สำนักงานนโยบายและแผนงานรัฐบาลเทศบาลนครคุนหมิง

40.สำนักงานการเงินรัฐบาลเทศบาลนครคุนหมิง

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2560    
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2560 2:44:43 น.
Counter : 344 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.