ฉันเคยรัก (Je l'aimais)
ผู้แต่ง: Anna Gawalda
ผู้แปล: อธิชา มัญชุนากร
สำนักพิมพ์ : วงกลม
พิมพ์ครั้งแรก พฤศจิกายน 2547
ราคา 120 บาท

ฉันเคยรัก เป็นนวนิยายรักปวดใจ พล็อตใหม่ รับประกันความขม โดย "แอนนา กาวาลดา" นักเขียนหญิงแนวร่วมสมัย เจ้าของผลงาน Bestseller ในฝรั่งเศสติดต่อกันมากกว่า 4 ปี

ฉากของนวนิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นข้าง ๆ เตาผิงในบ้านหลังหนึ่ง ไม่มีเหตุการณ์ตื่นเต้นระทึกใจ มีแต่บทสนทนาระหว่างผู้ที่กำลังจะกลายเป็นอดีตลูกสะใภ้และพ่อสามี ที่สั่นสะเทือนข้างในของผู้อ่านอย่างรุนแรง คุยกันไปเรื่อย ๆ แต่ทว่า 'โดน' คนอ่านอย่างเต็มๆ กับคำถามที่ว่า "จะปล่อยให้คนที่สิ้นรักเราแล้วจากไปมีชีวิตที่มีความสุข หรือจะรั้งไว้ให้เขาอยู่อย่างไร้ความสุขกับเรา"

มาติดตามและค้นหาคำตอบของคำถามสากล ตราบเท่าที่คนทุกชาติทุกภาษายังรักและเลิกรักกันอยู่ ได้ในเล่มนี้

* * * * * *


เป็นหนังสือที่ต้องรับรู้ก่อนอ่านว่า..ยืดยาด เนิบนาบ ไปไม่ถึงไหน ไม่มีเหตุการณ์เร้าใจ ไม่มีลุ้นเลยแม้แต่น้อย เป็นเรื่องที่จะทำให้เราร้องว่า "น่าเบื่อชะมัด" เอาง่าย ๆ แต่เป็นเรื่องที่ชวนให้ครุ่นคิดเรื่องความรัก (แบบผู้ใหญ่) ได้ดีเล่มหนึ่ง

ความ "น่าจะน่าเบื่อ" ที่ว่านี้แหละที่ทำให้จขบ. ไม่ค่อยสนใจเล่มนี้เท่าไหร่ แต่อยากรู้มาตลอดว่าเล่มนี้เป็นเรื่องอะไรกันแน่ รู้แต่มีพ่อสามีกับลูกสะใภ้คุยกันเรื่องรักร้างกันทั้งเรื่อง ...แต่คุยอะไรกันนะ? อยากรู้จัง วันก่อนเลยตัดสินใจไขข้อข้องใจนี้เสียที

ตัวเอกในการเดินเรื่องมีแค่ 2 คน คือ โคลเอ้ ลูกสะใภ้ที่เพิ่งโดนสามีทิ้งไป กับ ปิแอร์ พ่อสามีผู้เงียบขรึมเฉยชา แต่กลับเสนอตัวเป็นผู้พาอดีตลูกสะใภ้มาเปลี่ยนบรรยากาศ

เรื่องช่วงแรกเป็นห้วงความคิดของโคลเอ้ ที่ยังแอบหวังว่าสามีจะติดต่อกลับมา ยังนึกถึงภาพหวานชื่นในอดีตกับสามี ยังเคว้งคว้างกับชีวิตของตนเอง แล้วน้ำเสียงของปิแอร์ก็เริ่มเพิ่มน้ำหนักในเรื่อง จนสุดท้าย แย่งบทเด่น (จขบ. คิดว่าความจริง เรื่องของปิแอร์เป็นเรื่องหลักในเล่ม เรื่องของโคลเอ้เป็นแค่บทเสริมเพื่อปูทางเข้าเรื่องหลัก) กลายเป็นการเล่าถึงรักแท้ในชีวิตของเขาที่ขลาดเขลาเกินกว่าจะก้าวออกจากกรอบเดิม

แน่นอนว่าเรื่องจบหลังเล่าจบ ไม่มีข้อสรุปว่าโคลเอ้คิดยังไง เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง ทิ้งไว้แต่อารมณ์อ้อยอิ่งในใจคนอ่าน เป็นเรื่องที่อ่านเพลิน ถ้าคนอ่านผ่านชีวิตมาแล้วพอสมควร (พยายามเลี่ยงคำว่า 'แก่' แล้วนะ 555)

นี่ไม่ใช่เรื่องของภรรยาที่ฟูมฟายหลังโดนทิ้ง ไม่ใช่เรื่องของตาแก่หวนหารักแท้ที่จากไป แต่เป็นการปลอบใจภรรยาที่เจ็บปวดกับความรักอย่างมากในขณะนี้ ด้วยเรื่องราวความรักแต่หนหลังอีกเรื่อง ที่ผู้รักเลือกทางที่จะประนีประนอม เหนี่ยวรั้งตัวเองไว้ เลี่ยงการเสียใจมาก ๆ จนมันกลายเป็นบาดแผลที่ไม่มีวันหายสนิท ติดตัวเขาไปตลอด แม้ว่าจะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับลูกหลาน


* * * หลังจากนี้ จะ Spoil แล้ว * * *


ถ้าตัดสินแบบไม่ยึดติดกับอารมณ์ ภาพรวมของตัวละครในเรื่องนี้จะออกมาน่าเกลียด-สมจริงดี

ผู้ชายคนหนึ่งทิ้งครอบครัวและลูกไปเริ่มชีวิตใหม่กับชู้ / ผู้ชายอีกคนนอกใจภรรยานานถึง 5 ปี เขารักผู้หญิงคนใหม่จริงแต่สุดท้ายก็ทำเหมือนเธอเป็นกิ๊กเท่านั้น / ผู้หญิงคนใหม่ก็หยิบยืมสามีชาวบ้านโดยไม่คิดสงสารภรรยาตัวจริง / ส่วนพวกภรรยาที่ไม่ได้ทำผิดศีลธรรม..ก็โคตรน่าเบื่อเลย บางทีการโดนทิ้งหรือนอกใจนี่อาจเป็นเพราะความน่าเบื่อนี้ก็ได้
อ้อ แล้วไอ้อาการ "รู้ว่าเขาเป็นอื่นแต่แกล้งไม่รู้" เพื่อยึดตำแหน่งภรรยาไว้นี่มันก็..อือม์ จะบอกว่าน่าสงสารหรือน่าสมเพชดี?

แต่จะมองภาพรวมให้ทุกคนมีเหตุผลมาอธิบายการกระทำของตัวเองก็ได้
ผู้ชายที่ทิ้งครอบครัวไปกล้าที่จะเผชิญหน้าความจริง--ว่าความรักนี้มันจบลงแล้ว เขากล้าลงมือทิ้งมันไปเพื่อเริ่มต้นใหม่ / ผู้ชายที่มีกิ๊กเชื่อว่าเขาดีกว่าพวกนอกใจเมียคนอื่น เพราะเขาไม่ได้ทิ้งครอบครัวไปและยังอยู่เป็นหลักให้ลูก ๆ / ผู้หญิงที่ยอมเป็นกิ๊กหาทางออกด้วยการนัดเจอกันเฉพาะในต่างประเทศ ไม่เซ้าซี้ถามเรื่องอื่นเวลาเจอกัน ความรักนี้จึงหวานชื่นอยู่เสมอ (หรือไม่เธอก็คงแอบคิดว่าเธอทำไปเพราะรัก)

แต่ที่แน่ ๆ คือทุกคนคงแอบทุกข์ใจบ้างไม่มากก็น้อย

ตัวละคร 2 ตัวที่ไม่มีส่วนเล่าเรื่อง แต่ก็แอบโดดเด่นเช่นกัน
- ซูซาน ภรรยาของปิแอร์ ผู้รับบท "ภรรยา" อย่างแท้จริง
การตัดสินใจของเธอเมื่อแรกรู้ว่าสามีนอกใจ หลังปล่อยให้เวลาผ่านไป และตัดสินใจยกเรื่องนี้มาพูดกับเขา ...เป็นอะไรที่จขบ. คิดว่าสมจริงมาก สงสาร ยกย่อง แต่ก็แอบสมเพชผู้หญิงชนิดนี้เล็กน้อย
- มาทิลด์ คู่รักวัยอ่อนของปิแอร์ที่นัดเจอกันในต่างประเทศ จขบ. ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งไปอีกแบบ หรือจะมองว่าฉลาดในการใช้ชีวิตก็ได้

สรุปว่า เป็นเรื่องรักที่เป็นผู้ใหญ่มาก เดินเรื่องได้สวยแบบเรียบ ๆ (จขบ. คิดว่ามันสวยสไตล์ฝรั่งเศส คือไม่สะดุดตา แต่แอบเท่ห์นิดหน่อย)


ประโยคที่ชอบ

"คนที่ไม่แน่วแน่จะหาข้ออ้างได้เก่งมาก เก่งมาก ๆ เลยล่ะ"

"ฉันพอใจที่จะเห็นเธอเศร้ามาก ๆ ในวันนี้ มากกว่าจะเศร้าน้อย ๆ ไปตลอดชีวิต"



Create Date : 27 กันยายน 2549
Last Update : 27 กันยายน 2549 8:41:58 น.
Counter : 1031 Pageviews.

21 comments
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ มาช้ายังดีกว่าไม่มา
(2 ม.ค. 2567 07:30:30 น.)
๏ ... รามคำแหง แรงคำหาม ... ๏ นกโก๊ก
(2 ม.ค. 2567 14:22:51 น.)
BUDDY คู่หู คู่ฮา multiple
(3 ม.ค. 2567 04:49:04 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
  
ใช่แล้วค่ะ
หลังๆ กลายเป็นเรื่องของปิแอร์ไปเลย

เคยเขีบยถึงไว้ในบล็อกนานแล้วเหมือนกัน
คนที่ถูกทิ้งว่าเจ็บปวดแล้วนะ
แต่เรื่องนี้มันให้มุมมองของคนที่ขมขื่นกับการยอมไม่ทิ้ง (ภรรยา) กับสิ่งที่เขาต้องเก็บกดเอาไว้

มันแสดงให้เห็นความเจ็บปวดของทุกฝ่ายจริงๆ

เดี๋ยวจะปันใจไปเที่ยว( จริงๆ ทำงาน ) แล้วเหมือนกัน
โดย: grappa วันที่: 27 กันยายน 2549 เวลา:9:17:58 น.
  
จริง ๆ ต้องส่งงานเช้านี้ แต่ยังไม่เริ่มเลย
ปันใจไปดูหนังแผ่น ก็เจอแผ่นเสีย

ดวงช่วงนี้นี่มันยังไงกันน้า
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 27 กันยายน 2549 เวลา:9:27:20 น.
  
เป็นหนังสือที่คิดว่าไม่อ่านจะจรรโลงใจเรามากกว่า

ไม่ชอบรสขมอ่ะ
โดย: กระปุกกลิ้ง วันที่: 27 กันยายน 2549 เวลา:10:56:04 น.
  
ชีวิตครอบครัวเป็นเรื่องซับซ้อนเกินกว่าจะตัดสินใจแทนคนอื่นได้ว่า

อย่างไหนดีกว่ากันกันแน่

"ฉันพอใจที่จะเห็นเธอเศร้ามาก ๆ ในวันนี้ มากกว่าจะเศร้าน้อย ๆ ไปตลอดชีวิต"

ประโยคนี้เท่เหลือหลาย
โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 27 กันยายน 2549 เวลา:12:24:30 น.
  
กลืนน้ำลายดัง เอิ๊ก!!!
เป็นโรคกลัว "ความน่าจะเบื่อ" มันจะพาลให้ไม่กล้าแตะต้องหนังสือเล่มอื่นไปด้วย
โดย: สายลมอิสระ วันที่: 27 กันยายน 2549 เวลา:12:28:24 น.
  
อ่านรอบแรก วางไปตั้งแต่ไม่ถึงครึ่งเล่ม
หยิบมาอ่านอีกที ....เศร้า
โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 27 กันยายน 2549 เวลา:12:43:40 น.
  
โชคดีที่ไม่ได้ซื้อ

เพราะท่าทางจะอ่านไม่จบ
โดย: Masaomi วันที่: 27 กันยายน 2549 เวลา:13:27:02 น.
  
สังเกตตัวเองว่า

รสนิยมความชอบในการอ่านของตัวเองมีการเปลี่ยนแปลงไปตามวัยนะคะนี่

บางเรื่องบางแนวที่เคยไม่ชอบ อ่านแล้วไม่อิน กลายเป็นเริ่มๆ อินและชอบไปแล้ว (อย่างนิยายญี่ปุ่นเป็นต้น สมัยวัยรุ่นนี่อ่านไม่ได้เลย เบื่อมาก แต่โตมาหน่อยนี่ชอบซะงั้น)

เพราะงั้นแนวนี้ สงสัยต้องรออ่านค่ะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 27 กันยายน 2549 เวลา:14:19:17 น.
  
คุณกระปุกกลิ้ง
มันก็ไม่ได้ขมมากหรอกค่ะ ที่น่ากลัวคือความจืดมากกว่า 555
(ขอสารภาพว่าหนึ่งส่วนสามแรกของเล่มนี้ เล่นเอาเกือบวางเหมือนกัน)

คุณ ~:พุดน้ำบุศย์:~
ใช่เลยค่ะ เรื่องครอบครัวนี่ตัดสินแทนกันไม่ได้เลย
ชอบอ่านเรื่องรักสามเส้าของฝรั่งแบบนี้อยู่อย่าง คือเขามักแต่งได้เป็นกลาง
ส่วนใหญ่ อ่านแล้วจะเข้าข้างฝ่ายภรรยา ภรรยาน้อยหรือสามีก็ได้
ไม่เหมือนนิยายไทยที่ตัวร้ายก็จะร้ายตกขอบไปเลย หมดสิทธิ์ได้คะแนนเห็นใจ

คุณสายลมอิสระ
อือม์ ไม่รู้นะ เราอ่านตอนเบื่ออยู่แล้วน่ะ เบื่อ+เบื่อ= neutral มั้ง?
คือก็อ่านวาง อ่านวางไปทีละช็อตน่ะ มาอ่านรวดเดียวตรงครึ่งหลัง
อ่านจบก็ไม่ได้เบื่อนะ ได้อารมณ์ละเมียดเหมือนนั่งจิบกาแฟกึ่งขมกึ่งหวานน่ะ
(ที่แน่ ๆ คือให้อารมณ์ "ฉันโตแล้ว" มากเลย)

คุณแพนด้ามหาภัย
เราก็เบื่อครึ่งแรกเหมือนกันค่ะ รู้สึกว่าตรงช่วงที่เป็นน้ำเสียงโคลเอ้นี่ไม่ค่อยน่าอ่าน
มาสนุกตอนปิแอร์เล่าเรื่องนี่แหละ
ว่าแต่..เศร้าเหรอ? ดัชมิลล์นี่ท่าจะเซนซิทีฟกว่าเราแฮะ

คุณ Masaomi
แล้วจะต้องมีสักวันที่คุณอยากอ่านเล่มนี้ค่ะ สองปีก่อน เราก็คิดแบบคุณเลย
แต่มันตะหงิด ๆ ติดใจ อยากรู้เรื่องทั้งหมด เลยต้องหามาอ่านจนได้นี่แหละ

คุณสาวไกด์ใจซื่อ
ใช่เลยค่ะ สมัยก่อนเราจะอ่านเรื่องสั้นไม่ได้เลย มาปีนี้พัฒนาแล้ว อ่านได้สนุกดี
เรื่องแนวผู้ใหญ่หรือเดินทางนี่ก็เคยไม่ชอบ แต่เดี๋ยวนี้ก็เริ่มอ่านได้ละ
...อีกหน่อยจะอ่านได้หมดทุกแนว แล้วก็จะยากจนกว่าเก่าร้อยเท่าทวีคูณ
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 27 กันยายน 2549 เวลา:15:03:12 น.
  
แวะมาดูหนังสือจ้า

จขบ สบายดีน๊า
โดย: Malee30 วันที่: 27 กันยายน 2549 เวลา:15:30:54 น.
  
แวะมาดูหนังสือจ้า

จขบ สบายดีน๊า
โดย: Malee30 วันที่: 27 กันยายน 2549 เวลา:15:31:22 น.
  
อ่านไปคุยกับเพื่อนไปเลยอ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง ตอนนี้กองหนังสือทับตายอยู่ ไว้สักวันอาจจะอยากอ่าน
โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 27 กันยายน 2549 เวลา:20:18:45 น.
  
เหอๆ เนาะ

ถ้าอ่านได้หมดทุกแนว จะยิ่งจน ถูกต้องที่สุด


จน..เครียด..ซื้อหนังสือ...จน..เครียด..ซื้อหนังสือ

เอ..หรือต้องเปลี่ยนเป็น

จน..อ่านจบ..ซื้อหนังสือ จน..อ่านจบ..ซื้อหนังสือหว่า




อ้อ..ไปยืมเรื่องเล็กในเมืองใหญ่จากคุณ unwell นะคะ ก่อนเจ้าของบล็อกจะปิดให้ยืม
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 27 กันยายน 2549 เวลา:20:22:05 น.
  
ตามมาอ่านค่ะ
โดย: Mutation วันที่: 27 กันยายน 2549 เวลา:22:43:00 น.
  
เวลา+วัย=ความเหมาะสม
น่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้อ่านนิยายแต่ละเล่ม "เข้าใจ" มั้งค่ะ
กาลครั้งหนึ่ง อ่านงานของนากิบ มาห์ฟูซ แล้วมึนตึบ
ปัจจุบัน ฮืม...กลมกล่อม
โดย: สายลมอิสระ วันที่: 28 กันยายน 2549 เวลา:0:06:43 น.
  
คุณ Malee30
สบายดีค่ะ ขอบคุณที่แวะมานะคะ

บีทาเก้น
นี่ไปยืมอะไรมากี่เล่มกันแน่เนี่ย? ชักสงสัย

คุณสาวไกด์ใจซื่อ
ตอนนี้เราใช้สูตร จน..เครียด..ซื้อหนังสือ ค่ะ
ผลที่ได้คือ ยิ่งจน..ยิ่งเครียด..ยิ่งซื้อหนังสือ

คุณ Mutation
ขอบคุณที่แวะมาค่ะ

คุณสายลมอิสระ
เรายังไม่ถึงระดับอ่านนากิบแล้วกลมกล่อมนะ
ปกติจะอ่านแล้วหลับ คร่อกกกก
วู้ยยยย ดีใจ "อ่อนวัย (ทางปัญญา)" กว่าสายลมล่ะ
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 28 กันยายน 2549 เวลา:4:08:13 น.
  
โดย: สายลมอิสระ วันที่: 28 กันยายน 2549 เวลา:8:08:16 น.
  
แอ๋ เรื่องนี้น่าสนใจอะค่ะ

ช่วงนี้กำลังนิยมความขม ฮา
โดย: Clear Ice วันที่: 28 กันยายน 2549 เวลา:8:42:42 น.
  
"จะปล่อยให้คนที่สิ้นรักเราแล้วจากไปมีชีวิตที่มีความสุข หรือจะรั้งไว้ให้เขาอยู่อย่างไร้ความสุขกับเรา"

แต่ก่อนประโยคนี้โดนจริง ๆ ค่ะ แต่ก็ผ่านไปนานแล้ว

ถ้าวันไหนหายเบื่อคงต้องไปหามาอ่านบ้างละ

วันนี้จะส่งเรื่องเล็กให้คุณสาวไกด์นะคะ

บังเอิญจริง ๆ เมื่อวานกะจะเอาหนังสือของเราไปส่งให้คุณพี่สาวไกด์ และเอาเรื่องเล็กไปส่งคืนคุณยาคูลท์ แต่ทำอีท่าไหนไม่ทราบ หยิบมาผิดเล่ม เลยต้องมาส่งวันนี้แทน เหมือนจะรู้ว่ามีคนจะยืมต่อ
โดย: unwell วันที่: 28 กันยายน 2549 เวลา:11:57:57 น.
  
คุณสายลมอิสระ


คุณ Clear Ice
โอ้ จะผันตัวไปเป็นน้ำตาลขมไปแล้วเหรอ น้อง?

คุณ unwell
อือม์ สงสัยอยู่ค่ะว่าเรื่องนี้เหมาะสำหรับให้คนอกหักอ่านรึเปล่า? ไม่รู้ว่าจะยิ่งอ่านยิ่งเศร้า หรืออ่านแล้วทำใจได้

เรื่องหนังสือนี่เป็นความบังเอิญที่ดีจริง ๆ ค่ะ
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 28 กันยายน 2549 เวลา:13:26:37 น.
  
เพิ่งหยิบเรื่องนี้มาอ่านได้ไม่นานเอง
อ่านรวดเดียวจบเลยอะ
ชอบๆ ไม่น่าเชื่อว่าทั้งเรื่องจะไม่มีอะไรนอกจากบทสนทนา แต่ก็อ่านเพลินดี
..เฮ้ เรายังไม่แก่นะ!!!
โดย: ลูกหนอน. วันที่: 13 ตุลาคม 2549 เวลา:1:14:12 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Yum-cha.BlogGang.com

ยาคูลท์
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 30 คน [?]

บทความทั้งหมด