ผลการสู้รบที่ Lone Pine ทหารออสเตรเลียเสียชีวิตประมาณ 2,300 ราย และทหารตุรกีเสียชีวิตประมาณ 7,000 ราย
Detail from The taking of Lone Pine, 1921, oil-on-canvas, by Fred Leist.
หลังจากการสู้รบยุติลง ทหารออสเตรเลียบางรายได้หยิบกรวยสนหลายลูก (กรวยสนจะมีเมล็ดสนอยู่ภายในหลายเมล็ดมาก) กรวยสนที่ปะปนอยู่กับกิ่งก้านและต้นสน ที่ทหารตุรกีตัดลงมาเพื่อทำที่กำบังในค่ายคูสนามรบ ทหารออสเตรเลียหลายคนได้หยิบกรวยสนกลับบ้านที่ออสเตรเลีย มีความเชื่อกันว่า จ่า Keith McDowell จากกองพันที่ 23 ได้หยิบกรวยสนจากซากต้นสนที่เหลือเป็นต้นสุดท้าย (Lone Pine Tree) ท่านได้ใส่กรวยสนไว้ในกระเป๋าเป้สะพายหลังของท่าน เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการรบที่ผ่านมา และเมื่อท่านเดินทางกลับถึงบ้านที่ออสเตรเลีย ท่านได้มอบกรวยสนลูกนี้ให้กับ Emma Gray ป้าของท่าน ที่พักอาศัยอยู่ใกล้กับ Warrnambool รัฐ Victoria
หลายปีต่อมา Emma Gray ได้นำกรวยสนลงดินเพื่อปลูก และมีต้นกล้า 4 ต้นที่งอกขึ้นมา ซึ่งต้นกล้าดังกล่าวได้มีการนำไปปลูก ในสถานที่ต่าง ๆ 4 แห่งในรัฐ Victoria Wattle Park และ Shrine of Remembrance ใน Melbourne Soldiers Memorial Hall ที่ The Sisters ใกล้กับ Terang และ Warrnambool Botanic
สิบตรี Benjamin Smith จากกองพันที่ 3 ทหารอีกคนหนึ่ง ได้หยิบกรวยสนจากสถานที่รบและส่งกลับไปให้แม่ที่ออสเตรเลีย อีก 13 ปีต่อมา แม่ของ Benjamin Smith พยายามที่จะเพาะต้นสน และเมล็ดสนงอกขึ้นบางส่วน มีเพียงกล้าสน 2 ต้นที่รอดตาย ต้นหนึ่งจึงปลูกไว้ที่บ้านเกิดของเธอ Inverell ในรัฐ New South Wales และอีกต้นนำไปปลูกที่ Australian War Memorial ใน Canberra
ในทุก ๆ ปีเมล็ดต้นสนหลายร้อยเมล็ด จะถูกเก็บรวบรวมจากต้นสนเหล่านี้ และนำไปปลูกไว้ทั่วประเทศออสเตรเลีย เพื่อรำลึกถึงการสู้รบที่รุนแรงที่เมือง Gallipoli เมื่อ 100 กว่าปีก่อน ทุกวันนี้ยังสามารถซื้อกล้าของต้นสน Lone Pine ได้ที่ Australian War Memorial และที่ The Gallipoli lone pine
A trench at Lone Pine after the battle, showing Australian and Turkish dead on the parapet.
1st Battalion troops having taken 80 yards of a Turkish trench, waiting near Jacob's Trench for relief by the 7th Battalion. Photo credit: Australian War Memorial
Photo credit: ArchivesACT/Flickr
Lone Pine at the Australian War Memorial in Canberra. Photo credit: Bidgee/Wikimedia
Lone Pine at Wattle Park, Melbourne. Photo credit: Melburnian/Wikimedia