จีนส่งทหารเข้าเวเนซุเอลา ![]() กองทัพปลดแอกจีนชุดที่ผ่านการฝึกมาอย่างดี ได้เดินทางเข้าเวเนซุเอลา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ตามโครงการร่วมมือระหว่าง ปักกิ่ง กับ คาราคัส (กองทัพปลดแอกจีน มีชื่อเต็มว่า กองทัพปลดแอกสาธารณรัฐประชาชนจีน ก่อตั้งโดยพลพรรคเหมาเจ๋อตุง แต่มักเรียกกันว่า กองทัพปลดแอกจีน ตามหนังสือฝ่ายซ้ายเก่า) ตามรายงานข่าวแจ้งว่า มีทหารกองทัพปลดแอกจีนมากกว่า 120 นาย เดินทางมาถึงเกาะ Margarita แล้ว เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม(อาหารและยา) และอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับกองทัพเวเนซุเอลา กองทัพปลดแอกจีนเดินทางตามมา หลังจากที่รัสเซียได้ส่งทหารจำนวนหนึ่งเข้ามาแล้ว เพื่อฝึกอบรมการกองทัพเวเนซุเอลาบำรุงรักษาเฮลิคอปเตอร์ การเคลื่อนไหวของทหารรัสเซียในเวเนซุเอลา ได้สร้างความตึงเครียดให้กับรัฐบาลสหรัฐ และสมาชิกรัฐสภาสหรัฐหลายนายด้วยเช่นกัน “ Maduro ต้องไปให้พ้นจาก #Venezuela เพราะเชื้อเชิญพวกทหารจาก Cuba และ Russia มันกับลูกน้องมันกำลังปล้น Venezuela ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนทุกคนต้องลุกขึ้นสู้ เพื่อกอบกู้อธิปไตยจาก Russia และ Cuba, #HandsOffVenezuela ” Mike Pompeo U.S. Secretary of State ทวีตเตอร์วันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวทางทหารรัสเซียและจีน แสดงถึงแสนยานุภาพที่ท้าทายรัฐบาลสหรัฐ ที่กำลังเพียรพยายามโค่นล้มประธานาธิบดี Nicolas Maduro แม้ว่าสหรัฐจะพยายามส่งความช่วยเหลือ ทางด้านมนุษยธรรม(อาหารและยา)ให้กับเวเนซุเอลาผ่านทางโคลัมเบีย แต่รัฐบาล Maduro กลับมองว่า มีนัยแอบแฝงแบบลับลวงพราง ด้วยการส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับฝ่ายต่อต้านรัฐบาล โดยลอบลำเลียงเข้ามาพร้อมกับอาหารและยา (แบบรัสเซียช่วยเหลือพวกกบฎในยูเครน) ตามรายงาน Stockholm International Peace Research Institute เวเนซุเอลาสั่งซื้ออาวุธจากจีน ในช่วงปี 2010-2014 ถึง 349 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่วนมากมักจะเป็นอุปกรณ์ที่เรียบง่าย มีความสลับซับซ้อนในการใช้งานไม่มากนัก เช่น เรดาห์ และเครื่องบินฝึกหัด รถยนต์ลำเลียง และชิ้นส่วนอะไหล่ต่าง ๆ ฯลฯ แต่ในปี 2017 เรื่มมีการสั่งซื้อ รถถัง กระสุน เครื่องแบบและยุทธภัณฑ์ของทหาร ปริมาณพอ ๆ กับการสั่งซื้ออุปกรณ์/อะไหล่จากรัสเซีย ตามรายงานล่าสุดของ LA Times ทั้งรัสเซียและจีนต่างเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ในเวเนซุเอลา " ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาในปี 2016 จีนให้เวเนซุเอลายืมเงินประมาณ 62 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่คารากัสชำระหนี้ด้วยน้ำมันดิบ มอสโกในช่วงหลายปีที่ผ่านมาให้เงินกู้ยืมและลงทุน ในเวเนซุเอลาประมาณ 17 พันล้านเหรียญสหรัฐ และในเดือนธันวาคมรัฐบาลทั้งสองได้ลงนามในข้อตกลงใหม่ โดยรัสเซียจะลงทุน 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในภาคผลิตน้ำมันและขุดหาแร่ทองคำในเวเนซุเอลา จีนและรัสเซียเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของเวเนซุเอลา ทั้งสองประเทศคือ พลังขับเคลื่อนหลักทางเศรษฐกิจ ที่ทำให้รัฐบาล Maduro ที่กำลังล้มเหลวเดินหน้าต่อไปได้ ท่ามกลางความสามารถชำระหนี้ได้กับการล้มละลาย ในเวลาเดียวกัน ” ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินวิเคราะห์ ทัศนคติที่แตกต่างกันระหว่างจีนและรัสเซีย ในเรื่องพันธะสัญญาทางการเงินในเวเนซูเอลา จีนเป็นประเทศที่ เน้นผลตอบแทนมากขึ้น ด้วยการแลกเปลี่ยนวัตถุดิบน้ำมันราคาถูกและผลตอบแทนอื่น ๆ ขณะที่รัสเซียเป็นประเทศ อุดมการณ์มากขึ้น โดยมอสโกได้รับการยกย่องว่า มีความมุ่งมั่นในการหยุดยั้งการขยายทางการทหารของสหรัฐฯ และการตั้งค่ายรอยึดหัวหาดสหรัฐ - และอยู่ห่างจากสหรัฐอเมริกาไม่ไกลนัก ... สำหรับรัสเซียการลงทุนและการใช้กำลังทหารเพื่อปกป้องเวเนซูเอล่า ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในพื้นที่ใกล้กับสหรัฐ เครมลินพยายามเลียนแบบและทำตามในสิ่งที่เห็นว่า นโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯและนาโต้ ที่มักเข้าไปแทรกแซงประเทศในยุโรปตะวันออก และอดีตสหภาพโซเวียต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยูเครน " (ปิดล้อมรัสเซียผ่านกลุ่มประเทศบริวาร เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ กลุ่ม Nato) ตามข้อเท็จจริงแล้ว การกล่าวโทษของมอสโก เกี่ยวกับการแทรกแซงของสหรัฐในเวเนซุเอลานั้น มีพลังมากกว่าอย่างที่เห็นได้ชัดเจน (เพราะผิดหลักการสหประชาชาติ) จีนยังได้เรียกร้องให้มีการเจรจาและการเจรจาต่อรอง เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติการณ์ในเวเนซุเอลา นักวิเคราะห์ชาวอเมริกันหลายคนสันนิษฐานว่า แม้ว่าจีนอาจสูญเสียความเชื่อมั่นในประธานาธิบดี Nicolas Maduro แต่ก็ยังตัดสินใจที่จะเดินหน้าต่อไป ด้วยการมุ่งเน้นไปทางรูปธรรมในการปล่อยสินเชื่อให้กับเวเนซุเอลา ด้วยข้อตกลงแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อ (เฉือนน้ำเฉือนเนื้ออีกฝ่าย) เพราะสมมติฐานแบบง่าย ๆ นั้นในเชิงรูปธรรมคือ การมาถึงของทหารกองทัพปลดแอกจีนอย่างฉับพลัน บนเกาะ Margarita ที่มีชื่อเสียงในฐานะสถานที่พักผ่อนยอดนิยม มีหาดทรายและป่าชายเลน วินด์เซิร์ฟ ว่าวบิน เหตุผลอีกอย่างหนึ่งอาจเป็นได้ว่า จีนประเมินแล้วว่าความตึงเครียดจะเพิ่มขึ้นในเวเนซุเอลา และความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง จากการแสวงหาอำนาจของคู่กัดประธานาธิบดีคนปัจจุบัน กับประธานาธิบดีที่สหรัฐแต่งตั้งและมีหลายชาติรับรอง (50 ชาติจากร่วม 200 ชาติ) และความขัดแย้งที่แหลมคนอาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคตอันใกล้นี้ ด้วยปัญหาผู้ลี้ภัยที่อพยพออกไปจากเวเนซุเอลา แล้วหวนกลับมากู้ชาติ/สร้างปัญหาตามมา จากการสนับสนุน/ให้ท้ายของวอชิงตัน การเข้ามาของทหารจีนในครั้งนี้ เพื่อลดแรงกดดันการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของคารากัส ในขณะเดียวกันก็สร้างความสมดุลหรือดุลยภาพที่เกิดขึ้น ในสถานการณ์ตราบเท่าที่ทั้งสองฝ่าย ต่างยังไม่ได้รับประโยชน์อย่างเด็ดขาด (ไม่มีมิตรแท้ ไม่มีศัตรูที่ถาวร ผลประโยชน์ร่วมกันจึงเจรจาได้) แต่ภาวะสงครามที่กำลังจะก่อตัวอาจจบลงได้ เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสูญเสียความอดทน และถูกบีบบังคับให้มีการประลองกำลังกัน ซึ่งดูเหมือนจะไม่น่าเป็นไปได้ในเวลานี้ ส่วนการประเมินของผู้เชี่ยวชาญรัสเซีย ในขณะที่คู่ชกมวยที่ยังไม่แสดงตัวตน เกิดขึ้นมากมายทั้งฝั่งอเมริกากับพันธมิตรละตินอเมริกาของสหรัฐ ถึงแม้ว่าจะคาดหวังว่า สหรัฐจะดำเนินการอย่างรวดเร็ว แต่เรื่องที่ยากลำบากอย่างแท้จริงก็คือ ไม่มีท้อง/พลัง แม้ว่าหลายคนออกมาเรียกร้องให้กองทัพเวเนซุเอลาเข้าแทรกแซง เพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในเวเนซุเอลา เพราะแม้ว่าทหารจะยึดอำนาจได้แต่บริหารไม่ได้ จากภาวะวิกฤติขาดแคลนอาหาร/ยา สาธารณูปโภค การบริหารทหารใช้คำสั่งกับอำนาจได้ แต่การบริหารประชาชนยุ่งยากกว่ามาก นโปเลียนเคยพูดว่า กองทัพเดินด้วยท้อง เพราะถ้าไม่มีอาหาร/ยา ส่งเสบียงให้ทหารก็อดอยาก/อดตาย จากการถอดบทเรียนการพ่ายแพ้การรบในรัสเซีย เพราะฤดูหนาวที่หนาวเย็นและแสนยาวนาน จนทหารฝรั่งเศสบางส่วนตกเป็นเชลย/ทาส ตัองใช้แรงงานในรัสเซียตราบจนวันตาย มีในร่องรอยวรรณกรรมรัสเซียหลายเรื่องมาก ที่เขียนแบบสะใจที่มีชัยชนะเหนือทหารฝรั่งเศส โดยนโปเลียนหนีตายพร้อมกับสมุนได้เพียงไม่กี่คน วอชิงตันก็ดูเหมือนจะกลัวว่า การแทรกแซงทางทหารใด ๆ อาจมีผลในทางเชิงลบและอาจเกิดความโกลาหลตามมา และที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้น คือ ชาวบ้านเวเนซุเอลาจะต่อต้านสหรัฐ รวมทั้งความวุ่นวายที่ตามมาในละตินอเมริกาอีกหลายประเทศ เพราะหลายประเทศในละตินอเมริกา ในตอนนี้ผู้บริหารมักจะมาจากพวกฝ่ายซ้ายในอดีต ที่ผ่านการเลือกตั้งจากระบบประชาธิปไตย เช่น อุรุกวัย ชิลี อาร์เจนตินา ต่างมีหนี้แค้นหนี้รอการชำระ เพราะสหรัฐหนุนหลังพวกเผด็จการในอดีต ทำให้หลายประเทศตอนนี้มีการเช็คบิล/ติดตามจับกุมมาลงโทษ อดีตเจ้าหน้าที่รัฐ พลเรือน หรือแนวร่วมที่เคยบริหารจัดการ คุก ทหาร ศาล ตำรวจ โรงพยาบาล โรงเรียน ข้าราชการ แนวร่วม การมาถึงของทหารรัสเซียในเวเนซูเอลา ทำให้เกิดปฏิกิริยาทางประสาทในวอชิงตัน (หัวร้อน) เพราะกระทรวงต่างประเทศมอสโก ระบุเมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา มีการใช้ถ้อยคำแถลงการณ์ที่รุนแรงโดย John Bolton ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ " การส่งยุทธภัณฑ์และกำลังทหารรัสเซีย ไปยังเวเนซุเอลาหรือที่อื่น ๆ ในซีกโลก ก็ด้วย ความจงใจที่จะสร้างหรือขยายการปฏิบัติการทางทหาร เราจะพิจารณาการกระทำที่ยั่วยุนั้น เป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศในภูมิภาค ” แถลงการณ์ของ Bolton ![]() แต่กระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย ตอบโต้วาทกรรมของ Bolton ว่า " ถึงแม้ว่าในทางภูมิศาสตร์ Chukotka Peninsula ของรัสเซียตั้งอยู่ในซีกโลกตะวันตก มอสโก ไม่มีความจงใจที่จะ สร้างหรือขยายการปฏิบัติการทางทหาร ในเวเนซุเอลาและที่อื่น ๆ ในซีกโลก ขอบอกว่า ไร้สาระมากในการที่สหรัฐฯ พยายามข่มขู่รัสเซียด้วยการลงโทษต่าง ๆ และปิดล้อมด้วยมาตรการต่าง ๆ (เช่น ห้ามกลุ่มนาโตค้าขาย ยึดทรัพย์สินรัสเซีย) เพราะความร่วมมือรัสเซียกับเวเนซุเอลาถูกกฎหมายระหว่างประเทศ ที่มา https://reut.rs/2YOEL87 ทั้งนี้ เพราะแผนการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง อย่างรวดเร็วในคารากัสล้มเหลว (ฝ่ายที่สหรัฐสนับสนุน) เพราะความเชื่อมั่นในตนเองของวอชิงตัน จึงปล่อยให้สมัครพรรคพวกสหรัฐในละตินอเมริกาและยุโรปตะวันตก ต้องรีบเร่งจดจำ/สนับสนุนนักต้มตุ๋นโดยไม่รู้ตัว นักต้มตุ๋นที่ชาวบ้านไม่ได้เลือกตั้งขึ้นมาในฐานะหัวหน้าของเวเนซุเอลา การกระทำดังกล่าวขัดกับหลักสากลระหว่างประเทศและเสียมารยาททางการทูต มอสโกยืนยันว่า พร้อมจะทำทุกสิ่งภายในอำนาจของเรา เพื่อส่งเสริมการเจรจาระดับชาติในเวเนซุเอลา อย่างไรก็ตามมอสโกก็ส่งสัญญาณทางอ้อมเช่นกันว่า แนวคิดในการจัดตั้งฐานทัพทหารในเวเนซูเอลานั้น เพราะจะได้อยู่ใกล้กับชายฝั่งของสหรัฐ สรุปย่อที่มา https://bit.ly/2OKjt6Z เห็นได้ชัดว่าท่าทีทางการทหารรัสเซียดูรอบคอบ ด้วยการสนับสนุนให้จีนเปลี่ยนไปใช้บทบาทเชิงรุกอย่างเปิดเผย ไม่จำเป็นต้องพูดว่ารัสเซียและคิวบา จะต้อนรับการเปลี่ยนแปลงของจีนครั้งนี้ เพราะการปรากฏตัวของรัสเซียและคิวบาในเวเนซุเอลา ยังสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลของทรัมป์ แต่การมาถึงของกองทัพปลดแอกจีน กลับกลายเป็นยาขม/ยาหม้อใหญ่ (ยากจะกลืนกิน) แม้ว่าข้อเท็จจริง จีนกำลังเข้าร่วมรัสเซียในครั้งนี้ เพื่อจะปกป้องผลประโยชน์ที่สำคัญในเวเนซุเอลา(การให้กู้ยืม) เพราะทั้งมอสโคว์และปักกิ่ง ต่างได้ตั้งข้อสังเกตล่าสุดว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ตั้งใจจะพูดคุยกับฝ่ายรัสเซียและจีนเกี่ยวกับเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีพอ ๆ กับการบอกว่า ท่านไม่ได้พิจารณาการแทรกแซงทางทหารใด ๆ ตามคำพูดเชิงโวหาร/วาทกรรมโดยเจ้าหน้าที่ของสหรัฐอเมริกา (โบ้ยว่าลิ่วล้อ/ทหารเลวพูดเองเออเองไม่เกี่ยวกับท่าน) ที่มา https://bit.ly/2K43r9h การที่กองทัพปลดแอกจีนมาเวเนซุเอลานั้น ทำให้เกมเล่นสหรัฐที่ใช้สถานการณ์วิกฤติล้อมเวเนซุเอลาต้องเปลี่ยน เพราะจีนได้ถ่ายทอดความพร้อมและความสามารถในการกอบกู้รัฐบาล Maduro ที่ถูกปิดล้อม ด้วยการส่งอาหาร/ยา ซ่อมแซมสาธารณูปโภค (เพื่อแลกเปลี่ยนกับน้ำมันดิบราคาถูก) ปักกิ่งไม่เพียงแค่ตอกย้ำว่า เป็นผู้มีส่วนได้เสีย แต่ยังยืนยันถึงอิทธิพลที่ขยายตัวทั่วโลก แน่นอนแม้ว่าจีนอ้างว่า ยึดหลักคำสอนของ Monro อย่างมั่นคง แต่ช่วงเวลานี้ สถานการณ์แบบนี้มีความสำคัญในเวทีการเมืองโลก หลักการมอนโรสหรัฐ คือ ปิดประเทศไม่ยุ่งกับใคร แต่อย่ามายุ่งกับอิทธิพล/พื้นที่ในทวีปอเมริกา ในช่วงการรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็วางตัวเป็นกลางก่อนในคราแรก แต่พออาวุธพร้อมคนพร้อมก็ร่วมมือกับอังกฤษในการรบ และสนับสนุนรัสเซียจนได้กลายเป็นคอมมิวนิสต์ เพื่อทำให้ชาติยุโรปวิตกจริตกับภัยคอมมิวนิสต์ พร้อมกับปล่อยเงินกู้หากินกับประเทศในยุโรป ที่ต้องหาเงินมาบูรณะฟื้นฟู/ป้องกันประเทศ ทั้งยังฉีกแบ่งซีกโลก/ขั้วอำนาจมหาอำนาจ เยอรมันนี/อาณาจักรออตโตมัน จากมหาอำนาจกลายเป็นมหาอนาถหลายปี เรียบเรียง/ที่มา https://bit.ly/2UdsD1O https://bit.ly/2WNcyN7 https://bit.ly/2OOJGBd ![]() Chinese PLA Navy’s hospital ship “The Peace Ark” arrives at the port in la Guaira, Venezuela, September 22, 2018. ![]() China’s PLAAF conducted its first airdrop and air delivery training exercise รัสเซียส่งทหารเข้าเวเนซุเอลาเพื่อส่งสัญญาณเตือนประธานาธิบดีสหรัฐ ![]() รัสเซียส่งทหารรับจ้างหน่วยรบพิเศษเข้าไปในเวเนซุเอลา ![]() ลัทธิมอนโร (Monroe Doctrin) เกิดขึ้นโดย เจมส์ มอนโร ประธานาธิบดีคนที่ 5 ของสหรัฐ แถลงเมื่อ 2 ธ.ค.1823 กล่าวถึงจุดมุ่งหมายที่จะนำพาประเทศอเมริกาให้อยู่ในความสงบ ไม่ต้องการให้ชาติยุโรปเข้ามาแทรกแซงทางด้านการเมืองหรือแสวงหาดินแดนในทวีปอเมริกา ซึ่งอังกฤษ ฝรั่งเศส ปรัสเซีย ออสเตรีย ต่างก็สนใจให้ความช่วยเหลือทางการทหารแก่สเปน ในการปราบปรามอาณานิคมในอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ (เม็กซิโก โบลิเวีย เป็นต้น) ซึ่งเป็นความพยายามของชาติต่าง ๆ ที่จะเข้าครอบครองดินแดนแถบนี้ (กันท่าชาวบ้านไม่ให้เข้ามาในทวีปนี้ ซึ่งจะเป็นภัยคุกคามกับสหรัฐเองในอนาคต) หลักการสำคัญคือ อเมริกาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับอาณานิคมของสเปนในทวีปอเมริกา หากชาติยุโรปเข้ามาแทรกแซงประเทศในทวีปอเมริกา อเมริกาจะถือว่าการกระทำนั้นเป็นภัยคุกคามต่อประเทศอเมริกาด้วย อเมริกาจะไม่ยอมให้ประเทศใดในทวีปยุโรปเข้ามาแสวงหาอาณานิคมในทวีปอเมริกาอีกต่อไป ลัทธิมอนโรสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างความมั่นคงและรักษาผลประโยชน์ให้กับอเมริกาเอง เป็นลักษณะการป้องกันตนเองเนื่องจากอเมริกายังไม่มีความเข้มแข็งพอ แต่ภายหลังเมื่ออเมริกามีความเข้มแข็งมากขึ้น หลักการมอนโรกลายเป็นเครื่องมือที่อเมริกา ใช้เข้าควบคุมประเทศในละตินอเมริกาอย่างอิสระเต็มที่ โดยไม่มีชาติอื่นใดเข้าขัดขวาง และถือได้ว่า หลักการมอนโร คือ การประกาศอย่างเป็นทางการของอเมริกา ที่กำหนดให้ประเทศในละตินอเมริกาเป็นเขตอิทธิพลของอเมริกา พัฒนาการ - ปธน. โฟล์ค นำหลักการมอนโรถูกนำมาใช้อย่างจริงจัง ในปี 1848 ถือกำหนดเขตการสร้างอาณานิคมที่จำเพาะใช้แต่กลุ่มทวีปอเมริกาเหนือเท่านั้น และดำเนินนโยบายทางการทูตของชาติยุโรปต่อชาติเกิดใหม่ในละตินอเมริกา จะไม่ยอมให้สเปนยกคิวบาให้กับชาติอื่น(เพราะใกล้ชิดอเมริกามาก) - ปธน. รูสเวลท์ นำหลักการนี้มาใช้อีก 50 ปีต่อมา หลักการมอนโรได้เปลี่ยนไปเป็นการรุกรานประเทศละตินอเมริกา เพราะอเมริกามีความเข็มเข็งแล้ว เช่น การผนวกดินแดนเท็กซัส การซื้อที่ดินของแม็กซิโก ในปี 1902 ปธน. รูสเวลท์กล่าววาทกรรม สหรัฐอเมริกา คือ ผู้พิทักษ์อเมริกา - ปธน. ทาฟท์ ใช้ นโยบายดอลลาร์ นำเงินเข้ามาช่วยเหลือละตินอเมริกาด้วยการปล่อยกู้ และวุฒิสมาชิก เฮนรี่ คอเบต ลอดจ์ แถลงการ ห้ามต่างชาติซื้อที่ดินในละตินอเมริกา - ปธน. วิลสัน เสนอแผนตะบองใหญ่ (Big Stick) ประกาศว่า ประเทศที่เจริญแล้ว (อเมริกา) จะต้องช่วยเหลือประเทศที่อ่อนแอ (ละตินอเมริกา) ตัวอย่างลัทธิมอลโรในคิวบาและปานามา คิวบา ถูกกำหนดให้เป็นรัฐอารักษ์ขาแห่งแรกของอเมริกา เพราะอเมริกามีผลประโยชน์ในคิวบามากกว่าประเทศอื่น และมีภูมิศาสตร์ใกล้ชิดกัน เมื่อคิวบาได้รับเอกราชในปี 1898 เกิดจากการช่วยเหลือของอเมริกา รัฐธรรมนูญฉบับแรกจึงเป็นไปตามประสงค์ของอเมริกา คือ ให้สิทธิแก่อเมริกาเข้าแทรกแซงได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ทั้งในเรื่อง สังคม เศรษฐกิจและการเมือง คิวบาต้องยอมขายหรือให้เช่าที่ดินเพ่อใช้เป็นฐานทัพเรือของอเมริกา (ตอนนี้ยังมีเกาะกวนตาโม ที่เคยใช้คุมขังพวกต้องสงสัยว่าร่วมมือกับบิลลาเดิน) อเมริกาแทรกแซงคิวบา 6 ครั้งใหญ่ ๆ ด้วยกันคือ ปี 1905 ส่งทหารเพื่อเข้ายึดอำนาจของคิวบา จากการขัดแย้งทางการเมืองระหว่างฝ่ายอนุรักษ์นิยมและฝ่ายเสรีนิยม ปี 1909 ส่งทหารเข้าควบคุมการจลาจลที่คนผิวดำไม่พอใจคนผิวขาว ปี 1913 เข้าแทรกแซงการเมืองโดยสนับสนุนฝ่ายอนุรักษ์นิยม ปี 1921 – 1925 แทรกแซงการเกิดคอรัปชัน ปี 1925 — 1933 ส่งทหารปราบปรามเผด็จการในคิวบา ปี 1963 สนับสนุนพวกกบฏยึดอ่าวหมู เพื่อโค่นล้มคาสโต ที่ยึดอำนาจตั้งแต่ปี 1959 แล้วไม่ยอมขึ้นกับอเมริกา แต่ผลคือแพ้จนหมดรูป ปานามา อเมริกาสนใจปานามาเพราะพื้นที่นี้แคบที่สุดในอเมริกากลาง อเมริกาได้ให้การสนับสนุนกลุ่มต่อต้านแถบตอนเหนือของโคลัมเบีย จนสามารถแยกตัวจัดตั้งสาธารณรัฐปานามาได้ในปี 1904 อเมริกาประกาศรับรองปานามาและรัฐบาลใหม่ทันที โดยอเมริกาเองได้รับสิทธิมากมาย เข้าแทรกแซงกิจการต่าง ๆ โดยเฉพาะอำนาจเด็ดขาดในการควบคุมคลองปานามา (ที่ใช้เดินเรือตัดข้ามมหาสมุทรแทนการเดินอ้อมแหลมตอนใต้) มีสิทธิตั้งฐานทัพทหารอเมริกาในปานามา โดยอ้างว่า เพื่อรักษาความปลอดภัยแก่สาธารณะชน และเส้นทางผ่านระหว่างมหาสมุทรคือ แอตแลนติกและแปซิฟิก และเพื่อรักษาไว้ซึ่งกฏหมายรัฐธรรมนูญอันเป็นกฏหมายสูงสุดของประเทศ ลัทธิมอนโร มีผลต่อประเทศในละตินอเมริกา และสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนชาวละตินอเมริกาเป็นอย่างมาก เกิดการต่อต้านอย่างรุนแรง อีกทั้งยังสร้างความไม่พอใจกับนานาประเทศ จนเมื่อ ปธน. ฮูเวอร์ ประกาศนโยบายพื่อนบ้านที่ดี (Good Neighbor Policy) ในปี 1933 ลัทธิมอนโรจึงคลายความเข้มข้นลง โดยให้กิจการภายในประเทศกลุ่มละตินอเมริกาดำเนินไปตามแต่ละประเทศ แต่อเมริกาก็ยังเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ และบางครั้งยังสนับสนุนรัฐบาลเผด็จการในละตินอเมริกา (เช่น โค้นล้มรัฐบาลฝ่ายซ้ายในชิลี สนับสนุนเผด็จการอาร์เจนตินา อุรกวัย) Credit : วาทิน ศานติ์ สันติ ข้อมูลเพิ่มเติม https://bit.ly/2HUB4by ![]() เรื่องเล่าไร้สาระ ยุทธวิธีใช้ทหารเลวด่าท้าทายนักรบ แบบให้คนออกมาด่า/หาเรื่อง รัสเซียกับจีน มีมาตั้งแต่ยุคสมัยสงครามเลียดก๊ก แบบคนจีนรุ่นเก่าบอก ใครอ่านเลียดก๊กจนจบ คบไม่ได้ยิ่งกว่าคนอ่านสามก๊กสามจบ เลียดก๊ก คือ ซือแป๋/ปรมาจารย์ของสามก๊ก เพราะครบเครื่องทั้งเรื่องดีเรื่องเลว เรื่องการแบ่งแยกแล้วปกครอง/ทำลาย ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร มีแต่ผลประโยชน์ที่จีรังยั่งยืน บ้านเมืองวุ่นวายสับสนมากที่สุด มีการเกิดขึ้นมาทั้งปราชญ์ กับ เปรต เช่น เล่าจื๊อ ขงจี๊อ หานเฟย ซุ่นหวู่ หลี่ซือ ซางหยาง เม่งจื๊อ ฯลฯ ก่อนที่จิ๋นซีฮ่องเต๊จะรวมชาติจีนได้ในที่สุด แล้วปฏิวัติให้มีภาษาจีน/ระบบชั่งตวงวัด ที่เป็นระบบมาตรฐานจนกระทั่งทุกวันนี้ ด้วยการสังหารคนหลายคน เผาหนังสือทิ้งทั้งหมด (เหลือแต่หนังสือเกษตรกรรม การแพทย์ และวิทยาการ) การเผาหนังสือได้ ก็เผาคนได้เช่นกัน ดังที่เกิดมาหลายครั้งแล้วในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่จีน กรีก โรมัน ออตโตมัน เยอรมันนี ไทย ไทยในยุครัฐบาลหอย มีการเผาหนังสือฝ่ายซ้าย หรือหนังสือที่เข้าข่ายว่าปลุกระดมมวลชนจำนวนมาก หลังจากที่ทหารเลวออกมาท้ารบ/ด่าท้าทาย นักรบจริงค่อยเลือกที่จะออกมารบ หรือออกมาห้ามปรามทหารเลว เรียกว่าเลือกได้ทั้งสองอย่างตามที่ต้องการ แบบได้หมดสดชื่นเลย เรื่องแบบนี้มักจะใช้มากในการเจรจาต่อรองทางการค้า การเมืองระหว่างประเทศ/คู่ศึกทั้งสองฝ่าย ถ้ากรณีที่เสียประโยชน์ มักจะเป็นแบบกูไม่ได้พูด มันพูดเอง เดี๋ยวกลับไปจะตบปาก/จัดการให้ แต่จริง ๆ มีการเตี๊ยมกันมาก่อนแล้ว หรือ ทางฝรั่งเรียกว่า Mutt and Jeff ที่พวกตำรวจ/ทหาร/โจร ในเมืองนอกชอบใช้กัน คือ คนหนึ่งด่า กระทืบ ซ้อม ผู้ต้องสงสัยให้รับสารภาพ อีกคนหนึ่งมาปลอบโยน ให้ข้าวให้น้ำให้ยาผู้ต้องสงสัย เพื่อสร้างน้ำใจจนผู้ต้องสงสัยยอมสารภาพกับคนใดคนหนึ่ง แบบเรียกว่า เข้าทางโจรในที่สุด หรือเตะอ้อยเข้าปากช้าง |
บทความทั้งหมด
|