ปกของอัลบั้มรูปถ่ายช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำจากผิวหนังมนุษย์ ![]() ปกอัลบั้มภาพถ่าย WWII ทำจากผิวหนังมนุษย์ที่ตายแล้วถูกถลกหนังมาทำ นค่ายกักกันของนาซีเยอรมัน ตามความเห็นผู้เชี่ยวชาญพิพิธภัณฑ์ อัลบั้มรูปถ่ายสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่น่าสยดสยอง ทำจากผิวหนังของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ ของค่ายกักกันนาซีเยอรมันถูกพบว่า มีการวางขายตลาดค้าของเก่า bric-a-brac ในโปแลนด์ อัลบั้มสงครามโลกครั้งที่ 2 ชุดนี้ ได้นำส่งมอบให้กับภัณฑรักษ์ Auschwitz Memorial Museum หลังจากผู้ซื้อสังเกตว่าปกมี รอยสัก ผมมนุษย์ และมีกลิ่นเหม็น ผู้เชี่ยวชาญพิพิธภัณฑ์ได้วิเคราะห์ปกอัลบั้มแล้ว และได้ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ว่า ผิวหนังมาจากผู้ต้องขังที่ตายในค่าย Buchenwald ของนาซีเยอรมัน " เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยเลย นี่คือพยานหลักฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ " ![]() อัลบั้มภาพถ่ายพร้อมกับสมุดบันทึก สงคราม WWII ที่ล่มสลาย ได้ส่งมอบให้กับภัณฑรักษ์ Auschwitz Memorial Museum หลังจากผู้ซื้อสังเกตว่ามีรอยสัก เส้นผมคน และ กลิ่นเหม็น ![]() ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า หนังสือเล่มนี้คือ พยานหลักฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติได้อย่างไม่ต้องสงสัย ค่ายกักกันแห่งแรกนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1937 เป็นค่ายกักกันแห่งแรกของฮิตเลอร์ Buchenwald มีชื่อเสียงโด่งดังมาก ในการประหารชีวิตนักโทษ การทดลองในสภาพที่เลวร้าย และความเลวทรามโหดร้ายของผู้คุม หนึ่งในนั้นคือ Ilse Koch ซึ่งเป็นที่รู้จักในฉายา Bitch of Buchenwald ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นแรงบันดาลใจ สร้างตัวละคร Hanna Schmitz ในค่ายผู้พิทักษ์นาซี เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัล The Reader ที่นำแสดงโดย Kate Winslet Karl-Otto Koch ผู้บัญชาการคุกแห่งนี้ กล่าวถึงพฤติกรรมของ Ilse Koch ภริยาว่า ชอบขับควบม้าตรวจตราแล้วใช้แส้เฆี่ยนตีนักโทษ ถ้ามีนักโทษชายที่มีรอยสักที่น่าสนใจ จะถูกสังหารทิ้ง หลังจากนั้นผิวของนักโทษ ก็จะนำมาเปลี่ยนเป็นของตกแต่งภายใน ความสนใจของเธอยังรวมไปถึงการผลิต โคมไฟ ปกหนังสือ อัลบั้มภาพถ่าย และการใช้นิ้วหัวแม่มือทำหน้าที่เป็นสวิตช์ไฟ พยานในค่ายกักกันบอกว่า เธอกำลังช่วย Erich Wagner แพทย์นาซีเยอรมัน เก็บผิวหนังมนุษย์ในค่ายกักกัน เพื่อทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก โดยของที่ระลึกทำจากหนังมนุษย์ มากกว่า 100 ราย ที่มีหลายรายการกลายเป็นของที่ระลึก Nazi book on the study of Tattoos by Infamous Buchenwald Concentration Camp SS Doctor Erich Wagner หลังจาก Erich Wagner ถูกทหารอเมริกันจับตัวได้ ในช่วงตอนท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ก็หลบหนีออกมาได้และยังคงเป็นนายแพทย์ อยู่ในประเทศเยอรมนีโดยใช้ชื่อปลอม จนกระทั่งถูกจับกุมตัวได้ในปี 1958 แต่ก็ฆ่าตัวตายในอีกหนึ่งปีต่อมาในคุก ![]() จากรายงานของผู้รอดชีวิตในค่ายกักกัน Buchenwald ผิวหนังมนุษย์ได้ถูกนำมาผลิตข้าวของต่าง ๆ เหมือนกับวัสดุที่ใช้ผลิตสิ่งของในชีวิตประจำวัน Karol Konieczny อดีตนักโทษในค่ายรำลึกว่า " ฉันห่อข้าวของต่าง ๆ ที่ได้รับของมาจาก เพื่อนร่วมงานของฉันที่ทำปกหนังสือในค่ายแห่งนี้ " ![]() Ilse Koch (ในภาพ) ที่ผู้ต้องขังรู้จักในฉายา Bitch of Buchenwald และต่อมากลายเป็นแรงบันดาลใจ Hanna Schmitz ตัวละครในค่ายผู้พิทักษ์นาซี เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัล The Reader นำแสดงโดย Kate Winslet ![]() ![]() ข้าวของสะสม มีอวัยวะภายในของนักโทษในค่ายกักกัน Buchenwald มีซากศพมนุษย์สองหัว (บนซ้าย) และตัวอย่างของผิวหนังที่มีรอยสัก (เบื้องหน้า) " แน่นอนว่าใคร ๆ ก็เดาได้ง่ายว่า ปกนี้ทำจากหนังมนุษย์ซึ่งมาจากทรัพยากรของ SS(หน่วยรบพิเศษนาซีเยอรมัน) แนวความคิดการทำแบบนี้คือ เอกสารลับบ่งบอกถึงพฤติกรรมโหดร้าย และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของนาซีเยอรมัน ผลการวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ปกทั้งสองเล่มนี้ (สมุดบันทึก/อัลบั้มภาพถ่าย) ทำจากหนังมนุษย์ เพราะเทคโนโลยีและองค์ประกอบเหล่านี้ มาจากแหล่งทำปกหนังสือที่เดียวกัน การใช้ผิวหนังมนุษย์เป็นวัตถุดิบในการผลิตนั้น เกี่ยวข้องโดยตรงกับพฤติกรรมของ Ilse Koch ที่มันพร้อมกับสามีได้จารึกชื่อเลวร้าย ไว้ในประวัติศาสตร์ในฐานะฆาตกรค่ายกักกัน Buchenwald แม้จะมีฟ้องร้อง Ilse Koch หรือ Bitch of Buchenwald แต่ก็พ้นข้อกล่าวหาในคดีอาชกรสงครามที่ Nuremberg " Elzbieta Cajzer หัวหน้าพิพิธภัณฑ์ Auschwitz Museum Collections กล่าว ในส่วนของการวิเคราะห์ครั้งนี้ นักวิจัยพิพิธภัณฑ์ได้ทำการวิเคราะห์เปรียบเทียบกับของสะสม ที่เป็นปกสมุดบันทึกที่ทำจากผิวหนังของ ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ Holocaust ![]() Ilse Koch ที่ศาลคดีอาชกรสงคราม Nuremberg แม้ว่าจะมีหลักฐานว่ามันคือ Bitch of Buchenwald แต่ก็พ้นจากข้อกล่าวหาว่าไม่มีความผิดในที่สุด Elzbieta Cajzer กล่าวว่า " ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบเปิดเผยถึงเนื้อหา ว่าเป็นผิวหนังของมนุษย์และมีความคล้ายคลึงกันมาก จากตัวอย่างของโครงสร้างที่ 6 และ 6.6 ที่สังเคราะห์ออกมา โครงสร้างของโพลิเมอร์ polymers ที่ใช้สำหรับการผลิตเส้นใยสังเคราะห์เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก แต่กว่าจะคิดค้นผลิตขึ้นมาได้ก็หลังปี 1935 (มีการผลิตในเชิงอุตสาหกรรมได้น้อยมาก) ข้อมูลเรื่องนี้จึงช่วยให้เราสามารถตรวจสอบ ปกหนังสือที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะปกหนังมนุษย์เป็นเรื่องของความแปลกใหม่ ทางด้านเทคนิคและการผลิตที่มีจำนวนจำกัด " ภายในอัลบั้มมีภาพ/โปสการ์ดอยู่ราว 100 ภาพ ส่วนใหญ่เป็นภาพถ่ายทั่วไปและภาพถ่ายในมุมกว้าง ผลการวิจัยของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ภาพในอัลบั้มเป็นของครอบครัวชาวบาวาเรีย ที่เดินทางมาเป็นแขกรับเชิญ ในรีสอร์ทเพื่อสุขภาพในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แน่นอนว่าอัลบั้มนี้ถูกมอบให้เป็นของขวัญพิเศษ โดยผู้ดูแลค่ายกักกันค่าย Buchenwald ![]() Corpses of prisoners and surviving inmates of the Auschwitz Concentration operate... คุกแห่งนี้คือค่ายกักกันที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของนาซีเยอรมัน มีคนนับแสนคนที่ตายในคุกแห่งนี้ และนักโทษจำนวนหนึ่ง ถูกนำมาใช้ทดสอบทางการแพทย์อย่างโหดร้ายทารุณอย่างเหลือเชื่อ นักโทษมากกว่า 250,000 คน มีทั่งชาย หญิง และเด็ก มาจากทั่วยุโรป ต่างถูกนำมาคุมขังที่คุก Buchenwald ใกล้กับ Weimar เยอรมนี นักโทษราว 56,000 คนมีทั้งชาวยิว คนรักร่วมเพศ ชาวยิปซี นักโทษชาวโซเวียตรัสเซีย ที่เชื่อกันว่าตายในกำแพงคุกแห่งนี่ นอกจากนี้ยังมีนักโทษที่เป็น คนวิกลจริต คนพิการ นักโทษการเมือง คนสอนศาสนาที่ต่อต้านนาซีเยอรมัน มีการติดตั้งรั้วลวดหนามไฟฟ้ารอบกำแพงคุก หอคอยตรวจตรา สุนัขและยามรักษาการ นักโทษต่างตกอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เลวร้าย บางคนตายเพราะโรคขาดอาหาร หรือตายเพราะติดเชื้อโรค/ตายเพราะการทดลองทางการแพทย์ ![]() นักโทษมากกว่า 250,000 คนมาจากทั่วยุโรป ถูกนำมาคุมขังที่ Buchenwald ใกล้กับ Weimar เริ่มเปิดดำเนินการในปี 1937 จนกระทั่งปิดทำการหลังจากนั้นอีก 8 ปีต่อมา ![]() นักโทษราว 56,000 คน มีทั้งชาวยิว คนรักร่วมเพศ คนยิปซี(Roma) นักโทษชาวโซเวียตรัสเซีย ที่เชื่อกันว่าล้มตายภายในกำแพงคุก ทั้งยังมีนักโทษที่เป็น คนวิกลจริต คนพิการ นักโทษการเมือง คนสอนศาสนาที่ต่อต้านนาซีเยอรมัน ![]() นักโทษในช่วงแรก ๆ คือ นักโทษการเมืองที่ต่อต้านนาซีเยอรมัน แต่หลังวัน Kristallnacht ที่โจมตีชาวยิวในปี 1938 มีชาวยิวราว 10,000 คนถูกส่งมาที่คุก Buchenwald และบางส่วนถูกนำไปทดสอบทางการแพทย์ที่แสนโหดร้าย ด้านหน้าประตูใหญ่ทางเข้าคุกมีคำขวัญว่า Jedem das Seine หรือ to each his own ทางใครทางมัน วลีฮิตที่มีการถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์กันมากในเยอรมันจนถึงทุกวันนี้ นักโทษในช่วงแรก ๆ คือ นักโทษการเมืองที่ต่อต้านนาซีเยอรมัน แต่หลังวัน Kristallnacht ที่โจมตีชาวยิวในปี 1938 มีชาวยิวราว 10,000 คนถูกส่งมาที่คุก Buchenwald และบางส่วนถูกนำไปทดสอบทางการแพทย์ที่แสนโหดร้าย การทดลองทางการแพทย์เริ่มต้นในปี 1941 บางครั้งเป็นการทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีน และมีการฉีดฮอร์โมนเพื่อแก้ไขอาการรักร่วมเพศ ในเดือนกุมภาพันธ์ 1945 คาดว่ามีนักโทษราว 112,000 คนอยู่ที่คุกแห่งนี้ และในตอนที่สงครามโลกครั้งที่ 2 ใกล้จะยุติลงแล้ว คุกแห่งนี้คือ สถานที่ใช้แรงงานทาสหลัก ในการผลิตปัจจัยอาวุธยุทโธปกรณ์ จนถึงขนาดมีการวางรางรถไฟเชื่อมต่อคุกแห่งนี้ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการขนส่ง ![]() การทดลองทางการแพทย์เริ่มต้นในปี 1941 บางครั้งเป็นการทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีน และมีการฉีดฮอร์โมนเพื่อแก้ไขอาการรักร่วมเพศ ![]() Dwight D. Eisenhower ผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพพันธมิตรในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เดินทางมาเยี่ยมชมคุกแห่งนี้หลังจากได้รับการปลดปล่อย ได้เขียนถึงความน่าสะพรึงกลัวที่ท่านเห็นในคุกแห่งนี้ " ไม่มีอะไรที่ทำให้ผมตกใจได้มากกว่าคุกแห่งนี้ " Pictured: การสร้างรั้วขึ้นมาใหม่และประตูทางเข้าหลักในทุกวันนี้ หน่วยทหาร SS ของนาซีเยอรมันยิงทิ้งนักโทษเป็นประจำ หรือจับนักโทษแขวนคอจนกระทั่งตายที่เตาเผาศพ นักโทษราว 21,000 คนถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ โดยกองกำลังสหรัฐในเดือนเมษายนปี 1945 แต่นักโทษราว 28,000 คนถูกโยกย้ายออกไป โดยนาซีเยอรมันก่อนวันที่จะมีการปลดปล่อยทาสให้เป็นไท ภาพต่าง ๆ ในคุกที่น่าตกตะลึงถูกพบเห็นโดยกองทหารสหรัฐฯ ที่พบผู้รอดชีวิตและกองศพที่ผอมแห้งแรงน้อย Dwight D. Eisenhower ผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพพันธมิตรในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เดินทางมาเยี่ยมชมคุกแห่งนี้หลังจากได้รับการปลดปล่อย ได้เขียนถึงความน่าสะพรึงกลัวที่ท่านเห็นในคุกแห่งนี้ " ไม่มีอะไรที่ทำให้ผมตกใจได้มากกว่าคุกแห่งนี้ " ระหว่างปี 1945 - 1950 คุกแห่งนี้ถูกใช้โดยสหภาพโซเวียต เป็นค่ายกักกันพิเศษสำหรับนักโทษนาซีเยอรมัน ทุกวันนี้ คุกแห่งนี้กลายเป็นอนุสรณ์สถานแด่ผู้ที่เสียชีวิต เรียบเรียง/ที่มา https://dailym.ai/2PVTQll https://bit.ly/2TvLbZ7 |
บทความทั้งหมด
|