ฝนเริ่มตก ... ได้เวลา กิน - เที่ยว อิสานแล้ว ... # 4 แวะไปเรื่อยถึงบึงกาฬ
ต้องเขียนไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ลืมว่าภาพเหล่านี้เราไปได้แต่ไดมา วันนี้จะเริ่มเลาะแม่น้ำโขงจากหนองคาย เลี้ยวขวาไปทางจังหวัดนครพนม ที่จริงก็กะแวะไปชมบ้านเมืองเขาทุกอำเภอ แต่เดี๋ยวนี้เขามีบายพาสหมด ทำให้เลยมั่ง เพราะคนขับไม่ค่อยดูทางแยก แถมทางที่แยกเข้าเลาะแม่น้ำโขงมักจะอยู่ตรงโค้งหักศอกเพื่อบายพาสอ้อมเมืองไปเลย ก็เลยเลย
จากหนองคาย (A) ไปตามทางหลวงหมายเลข 212 ผ่าน อ.โพนพิสัย อ. รัตนวาปี ไปพักค้างคืนที่บึงกาฬ (B) ที่กำลังจะได้เป็นจังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย สีม่วงคือเส้นทางที่ไป สีเทาคือแม่น้ำโขง ถนนหมายเลข 13 คือทางหลวงของ สปป.ลาว
ก่อนออกจากอำเภอเมืองหนองคาย ซ้ายมือจะผ่านวัดโพธิ์ชัยที่เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระใส
ถนนจะเป็นสองเลนใหญ่ ถนนดีมาก ๆ คงเพราะมีรถบรรทุกวิ่งไม่มาก
สองข้างทางปลูกข้าวกันแล้ว แถวนี้น่าอิจฉาที่มีแหล่งน้ำดีมาก ๆ ที่มองเห็นเขาแสดงว่าเป็นฝั่งลาว
มีแผงขายกล้วยน่าทานมาก ๆ
แถวบ้านเดื่อ วัดหลวง เริ่มใกล้ชิดแม่น้ำโขงอีกครั้ง จะมีจุดเชิญชวนให้ไปชมบั้งไฟพญานาคหลายจุด
มาถึงโพนพิสัยแล้วที่จริงอยากวิ่งเลียบโขงแต่เลยเข้าบายพาสไปแล้ว โพนพิสัยอยู่ห่างจากหนองคาย 45 กิโลเมตร
ข้ามห้วยหลวง ที่ผ่านโพนพิสัยลงสู่แม่น้ำโขง
ก็จะเลี้ยวซ้ายเข้าตัวอำเภอ ... ด้านบนของภาพมืดเพราะฟิล์มกระจกรถ
น่าจะเป็นย่านตลาด
เลี้ยวขวาเข้าถนนเลียบโขง แล้วเลี้ยวซ้ายอีกทีเพื่อเข้าไปที่ท่าเทียบเรือแม่น้ำโขง ที่เป็นจุดผ่อนปรนตรงกับ บ้านหนองแก้ว แขวง บอลิคำไซ สปป.ลาว
ท่าเรือฝั่งตรงข้าม
ซอยที่เลี้ยวเข้ามาจอด
ที่ว่าการอำเภอเก่า ปัจจุบันใช้ตึกใหม่ขวามือในภาพ
ทะลุเมืองออกมาวิ่งถนน 212 ใหม่
ยังติดใจริมโขงเลยเลี้ยวเข้าไปอีกทีเมื่อเลยรัตนวาปี ( อยู่ห่างหนองคาย 63 กิโลเมตร
แถวนี้เขาจะปลูกยางพารามาก ตรงจุดที่เล็กลง ต่องขยายกูเกิลสุด ๆ ถึงเจอว่ามีถนนต่อกัน
กลับออกมาแล้วค่ะ เรากำลังวิ่งชนโขง เขาอยู่ฝั่งโน้นค่ะ
รถคันนี้ขับช้า ... ไม่ถึงบึงกาฬซะที
ที่สุดท้ายที่แวะก่อนเข้าบึงกาฬ คือ วัดอาฮงศิลาวาส อยู่ ต.ไคสี อ.บึงกาฬ
ใครเอาป้ายไปติดก็ควรรับผิดชอบด้วย
เป็นช่วงที่แม่น้ำโขงจะแคบสุด วัดนี้ทางฝั่ง สปป.ลาว
มีแก่งอาฮง
และที่หน้าทางขึ้นโบสถ์จะมีแก่งหินที่ว่ากันว่าเป็นจุดที่แม่น้ำโขงลึกสุดและมีน้ำวน เรียกว่าเป็นสะดือแม่น้ำโขง แก่งนี้จะมองเห็นในช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. ของทุกปี ว่ากันว่าเป็นจุดเกิดบั้งไฟพญานาค หลังสุดเป็นถ้ำลึกที่สุดของแม่น้ำโขง เรียกว่า สะดือแม่น้ำโขง หน้าแล้งเคยมีคนเอาเชือกผูกก้อนหินหย่อนลงไปจนสุดวัดความลึกได้ถึง 98 วา
ว่ากันอีกว่า บริเวณแก่งอาฮงเป็นถ้ำขนาดใหญ่ มีปากถ้ำลอดภูเขาไปทะลุที่เขางู ตรงข้ามกับแก่งอาฮงในฝั่งลาว มีข้อสังเกตอีกว่า บั้งไฟฯที่พุ่งขึ้นบริเวณนี้จะมีสีแตกต่างจากที่อื่นคือ มีสีเขียว แทนที่จะเป็นสีแดงอมชมพูเหมือนจุดอื่น ๆ ชาวบ้าน 2 ฝั่งโขง จึงมีคติความเชื่อกันว่า บริเวณนั้นคือ เมืองหลวงของบาดาล หรือ พิภพพญานาค
ตอนหน้าไปเที่ยวบ้านคุณเป็ดสวรรค์
Create Date : 22 มิถุนายน 2553 |
|
35 comments |
Last Update : 4 กรกฎาคม 2553 15:51:08 น. |
Counter : 4345 Pageviews. |
|
|
เพิ่งรู้เรื่องสะดือน้ำโขงก็วันนี้แหละ
แต่รู้ว่ามีคนเรียกกัน.. ไม่รู้ว่าอยู่ไหน
อ่านหนังสือเรื่องแม่โขงของคุณปองพล อดิเรกสาร
แล้วจินตนาการไปเรื่อย
เพราะเมื่อก่อน แม่โขงไม่เคยแห้ง
เลยมีเรื่องราวหลากหลาย....
ผ่าฝนไหมครับนั่น