BlogGang.com : : tuk-tuk@korat : ร้อยเอ็ด - ทัวร์ตามรอยหลวงปู่

ร้อยเอ็ด - ทัวร์ตามรอยหลวงปู่ - ตอน 13 ... วัดกลางมิ่งเมือง

พาพี่สาวทัวร์รอบนี้ ไปรับที่สนามบินอุดรธานี

ไปหนองบัวลำภู เลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ลงมาถึงเมืองเมืองอุบล

จากนี้จะวนกลับ ไปตามเส้นทาง ทล.23 หรือถนนแจ้งสนิท ผ่านยโสธร

สู่เมืองสาเกตนคร ... ชื่อเมืองโบราณที่ตั้งอยู่บริเวณจังหวัดร้อยเอ็ด

เป็นเมืองที่มีเมืองขึ้น 101 เมือง มีทางเข้าเมือง 11 ประตู

เป็นลักษณะเมืองสมัยทวาราวดี ... ที่แดนอิสานมีเมืองลักษณะนี้อยู่ทุกจังหวัด คือ

มักตั้งอยู่บนเนืน มีลำน้ำไหลผ่าน

มีกำแพงดินและคูเมืองล้อมรอบมีกำแพงดินและคูเมืองล้อมรอบ

ภายในเมืองมีสระน้ำ บางเมืองมีสระอยู่หน้าประตูเมือง

... ตอนที่ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์จันเสน เขาเล่าว่าเพราะเพื่อป้องกันน้ำท่วม ...

ต่อมาพระยาขอมผู้ครองนครหนองหานหลวง (สกลนคร)

ได้ทำลายสาเกตนคร เพราะผู้ครองนครสาเกตไม่ตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรม

กลายเป็นเมืองร้างจนมีผักกุ่ม ขึ้นรอบเมืองจึงเรียกว่า บ้านกุ่มฮ้าง

อยู่กลางบึงใหญ่ ซึ่งวันที่ไปกำลังลาดยาง จึงอดขับรถวน

หลังสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ผู้ย้ายเมืองหลวงจากหลวงพระบางมาเวียงจันทน์

ล้านช้างกลับมารุ่งเรือง และร่มเย็น อีกครั้งในสมัยพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช

... ตรงกับสมัยสมเด็จพระนารายณ์ต่อกับพระเพทราชาแห่งอยุธยา ...

ทรงเป็นผู้ที่มีความยุติธรรม แม้พระราชโอรสได้กระทำความผิด

พระองค์ก็ลงโทษตามอาญาถึงขั้นประหารชีวิต

ทำให้เมื่อพระองค์เสด็จสวรรคตจึงไม่มีผู้สืบสันตติวงศ์

จึงเกิดการแย่งชิงอำนาจขึ้น

พระยาเมืองจันผู้เป็นเสนาบดีได้ชิงราชสมบัติขึ้นเป็นกษัตริย์

พระนามว่า พระยาจันทสีหราชเมืองแสน

ฝ่ายพระองค๋เจ้าหล่อ หลานของของพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช

ขุนนางบางส่วนก็พาหนีภัยไป ขณะพระชนมายุได้ 3 พรรษา

หลังจากนั้นหนึ่งปีขุนนางได้กลับมาตีเวียงจันทน์คืนได้

และสถาปนาพระองค๋เจ้าหล่อขึ้นครองราชย์เมื่อพระชนมายุ 4 พรรษา

เจ้านันทนราชเจ้าเมือง มรุกขนคร ... ท่าแขก ตรงข้าม นครพนม ...

ได้ยกทัพมาตีเวียงจันทน์ จับพระองค๋เจ้าหล่อสำเร็จโทษแล้วขึ้นครองเมืองเวียงจันทน์

พระไชยองค์เว้หรือพระไชยองค์เวียด

เชื้อพระวงศ์พระเจ้าไชยเชษฐาที่ 1 ซึ่งครอบครัวได้ลี้ภัยไปอยู่เมืองเว้ เมืองหลวงเวียดนาม

ได้นำกำลังจากเวียดนามเข้ายึดนครเวียงจันทน์ จับเจ้านันทราชสำเร็จโทษ

แล้วราชาภิเษกพระองค์เองขึ้นเป็นกษัตริย์ "ล้านช้างร่มขาว (เศวตฉัตร) เวียงจันทน์"

ทรงตั้งท้าวลองพระโอรส เป็นเจ้าอุปราช (อุปฮาด) ครองเมืองหลวงพระบาง

แต่ไม่ได้รับการยอมรับเพราะพระองค์มีความใกล้ชิดกับเวียดนาม

เจ้ากิ่งกิสราชกับเจ้าองค์คำ พระราชนัดดาของพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช

ที่เคยหนีไปประทับยังเมืองหงสา (แขวงไซยะบูลี)

ได้ยกทัพเข้ามาชิงเมืองหลวงพระบางจับท้าวลองสำเร็จโทษ และจะยกทัพเข้าตีกรุงเวียงจันทน์

พระไชยองค์เว้จึงมีพระราชสาส์นขอความช่วยเหลือจากสมเด็จพระเพทราชา

ทางกรุงศรีอยุธยาจึงไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่ายให้ยุติ การรบและแบ่งปันเขตแดนต่อกัน

ทำให้หลวงพระบางกลายเป็น อาณาจักรล้านช้างร่มขาวหลวงพระบาง

ฝ่ายพระนางสุมังคลา

หลานของพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช และพระมารดาของพระองค๋เจ้าหล่อ ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ฺ

ก็ได้หนีภัยที่จะถูกยกให้เป็นมเหสีของพระยาจันทสีหราชเมืองแสน

ไปพึ่งเจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็ก

เจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็กพร้อมทั้งญาติโยมและเจ้าแก้วมงคลลูกศิษย์เชื้อสายพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช

หนีออกจากเวียงจันทน์ทางใต้ไปซ่อนตัวอยู่ที่บ้านงิ้วพันลำโสมสนุก

ณ ที่นั้นเจ้านางสุมังคละได้ประสูติพระโอรสนามว่า เจ้าหน่อกษัตริย์

ต่อมานางแพงเจ้าเมืองนครกาละจำบากนาคบุรีศรี หรือ จำปาสัก ชาวพื้นเมือง

ได้อาราธนาเจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็กมาปกครองบานเมือง

เจ้าราชครูหลวงฯ ปกครองบ้านเมืองได้ระยะหนึ่ง

ชาวเมืองบางพวกได้ซ่องสุมคนเป็นโจร เที่ยวปล้นสะดม

จะปราบปรามโดยการเที่ยวอบรมสั่งสอนก็ไม่ได้ผล

จะปราบปรามโดยลงอาญา ก็เป็นการเสื่อมเสียทางพรหมจรรย์

ท่านจึงให้คนไปเชิญเจ้าหน่อกษัตริย์

มาพิธีราชาภิเษกเป็นกษัตริย์ปกครองนครจำปาสักในปี พ.ศ. 2257

ทรงพระนามว่า พระเจ้าสร้อยศรีสมุทรพุทธางกูร

อาณาจักรล้านช้างร่มขาวปาสัก

ได้ประกาศอาณาเขตแยกออกจากเวียงจันทน์

ปกครองดินแดนทางภาคใต้

เมื่อบ้านเมืองสงบเรียบร้อยแล้ว เจ้าสร้อยศรีสมุทพุทธางกูร ก็เริ่มหาเมืองขึ้น

โดยให้มีการสร้างบ้านเมืองขึ้นใหม่

ได้ให้จารย์แก้วคุมไพร่พลสามพันคนเศษ มาสร้างเมืองขึ้นใหม่ที่บ้านเมืองทุ่ง

(อำเภอสุวรรณภูมิ) เรียกว่า เมืองทุ่งหรือเมืองทง ขึ้นตรงต่อนครจำปาศักดิ์

จารย์แก้วปกครองเมืองทุ่งอยู่ได้นานสิบหกปีก็ถึงแก่กรรม

จารย์แก้วมีบุตรสองคนคือท้าวมืดกับท้าวทน

พระเจ้าสร้อยศรีสมุทรพุทธางกูรจึงทรงแต่งตั้งท้าวมืดเป็นเจ้าเมืองทุ่ง

และท้าวทนเป็นอุปราช

เมื่อท้าวมืดถึงแก่กรรม ท้าวทนจึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองแทนพี่ชาย

ท้าวมืดมีบุตรสองคนคือ ท้าวเชียงและท้าวสูน

ทั้งสองคนไม่พอใจที่ไม่ได้เป็นเจ้าเมืองสืบแทนบิดา

จึงได้คบคิดกับกรมการเมืองที่เป็นสมัครพรรคพวกของตน

นำความขึ้นกราบบังคมทูลขอพึ่งพระบรม โพธิสมภาร สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ หรือเจ้าฟ้าเอกทัศน์ แห่งกรุงศรีอยุธยา

พร้อมได้นำทองคำแท่งจำนวนมากไปถวายในคราวเข้าเฝ้า

พร้อมกับทูลขอกองทัพจากกรุงศรีอยุธยาไปช่วยรบกับท้าวทน

ทรงปรดเกล้าฯ ให้พระยาพรหมกับพระยากรมท่าเป็นแม่ทัพ

เดินทางมาพร้อมกับท้าวเชียงและท้าวสูน

เมื่อเดินทางใกล้ถึงเมืองทุ่ง ท้าวทนทราบข่าว

จึงพาครอบครัวและไพร่พลอพยพไปอยู่ ณ บ้านกุดจอก

เมื่อพระยาพรหมและพระยากรมท่าเข้าเมืองแล้ว

ได้ติดตามไปนำตัวท้าวทนมาว่ากล่าวตักเตือนให้คืนดีกันกับท้าวเชียงและท้าวสูนผู้เป็นหลาน

ท้าวเชียงกับท้าวสูนก็ได้ครองเมืองทุ่งและเมืองทุ่งจึงขาดจากการปกครองของนครจำปาศักดิ์ มาขึ้นต่อกรุงศรีอยุธยาตั้งแต่บัดนั้น

ท้าวเชียงและท้าวสูนเห็นว่าเมืองทุ่งมีชัยภูมิไม่เหมาะ เพราะตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเซ (ลำน้ำเสียว)

ถูกน้ำเซาะตลิ่งพังทุกปี

จึงได้ย้ายไปตั้งเมืองใหม่ที่ ดงท้าวสารและเรียกชื่อใหม่ว่า เมืองสุวรรณภูมิ

ส่วนท้าวทนซึ่งอพยพครอบครัวและไพร่พลไปอยู่ที่บ้านกุดจอก

ได้ขออนุญาตทั้งบ้านกุ่มร้างซึ่งเป็น เมืองร้างขึ้นเป็นเมือง

ให้ชื่อว่า เมืองร้อยเอ็ด และให้ท้าวทนเป็นพระขัติยะวงษาเจ้าเมืองคนแรก

แวะวัดกลางมิ่งเมือง

เพื่อไปชมสิมศิลปะล้านช้างซึ่งเราเชื่อว่าสร้างพร้อมกับเมืองร้อยเอ็ด

ปราสาทพระพุทธมิ่งเมือง

หน้าบันรูปเทพพนม โก่งคิ้วไม้แกะลายดอกพุดตาน

พระพุทธรูปศิลปะล้านช้าง เสมาฝังอยู่บนพื้นพระอุโบสถ

ฮูปแต้มเล่าเรื่องทศชาติชาดก เขียนโดยรอบนอกพระอุโบสถ

ภาพ 1 เหนือประตูหน้าด้านหน้า ปีมะเส็ง และ ปีมะเมีย

จันทกุมารชาดก

ในภาพเป็นตอนที่พระอินทร์เหาะลงมาหักฉัตร เพื่อช่วยจันทกุมารจากพิธีบูชายัญ

ภูริทัตชาดก

ในภาพเป็นตอนที่พราหมณ์ก็ร่ายมนต์อาลัมพายน์ เข้าไปจับภูริทัตต์ไว้กด ศีรษะอ้า ปากออก เขย่าให้สำรอกอาหารออกมา และทำร้าย จนภูริทัตต์เจ็บปวดแทบสิ้นชีวิต แต่ก็มิได้โต้ตอบ

ที่ยังดูไม่ออก วานท่านผู้รู้วานบอกด้วยค่ะ

วนขวาของพระประธาน ไปรอบพระอุโบสถ

ภาพ 2 ปีมะโรง

สารถีอัญเชิญไปเทศน์บนสวรรค์ = เนมิราช สังเกตว่ามีพญานาคอีกแล้ว

ภาพ 3 ปีเถาะ

?

ถามอากู๋ว่า ทศชาติชาดก งู อากู๋ตอบว่าเรื่องมโหสถ

สามารถรู้ว่างูตัวผู้ตัวเมียต่างกันอย่างไร แต่ไม่มั่นใจนะคะ

ภาพ 4 ปีขาล

ชนกชาดก ในภาพเป็นตอนเรือแตก ตัวอักษรข้างล่างภาพเขียนว่าพระชนก ...

ทางขวา เป็นยักษ์น้าวศร = สุวรรณสาม

ภาพ 5 ปีฉลู

ซูมดูมีชื่อเมืองมิถิลา = มโหสถ

ภาพ 6 ปีชวด

ยกราชรถ = เตมีย์ตอนที่ลองกำลังตนเอง

ภาพ 7 ปีมะแม

ทัศพร = เวสสันดร กัณฑ์ทศพร ตอนแรกเลย

ภาพ 8 ปีวอก

ภาพ 9 ปีระกา

มีคนมาทูลขอราชรถจากพระเวสสันดร ต่อไปที่ภาพ 10 ... ทรงพระดำเนินแทนจะทรงรถ

ภาพ 10 ปีจอ

เมืองเจตราช เวสสันดรชาดก พรเเวสสันดอกออกเดินทางพร้อมครอบครัว

อีกด้านนางอมิตตาเมียถูกชาวบ้านเยาะเย้ย

ภาพ 11 ปีกุล

เวสสันดรชาดก ในภาพชูชกโดนสุนัขไล่กัด กัณหา ชาลีซ่อนใต้ใบบัว

ภาพ 12 ด้านหลังพระอุโบสถ

ด้านบนเป็นพระแม่ธรณีบีบมวยผม มารผจญพระพุทธเจ้า

ด้านล่างสองข้างภาพถัดไป

ภาพ 13

มุมล่างซ้าย ชูชกมาขอกัณหา ชาลีกับพระเวสสันดรในศาลา เหนือขึ้นไปชูชกจูงกัณหา ชาลีไป

ภาพ 14

ภาพชูชกท้องแตกตาย ... เวสสสันดรชาดก

เพราะตั้งใจมาชมฮูปแต้ม

จึงตั้งใจถ่ายภาพมาให้ชมเท่าที่ทำได้

ก็ได้รอบโบสถ์ค่ะ

special thanks ... คุณผู้ชายในสายลมหนาว ค่ะ

Create Date : 30 พฤศจิกายน 2558

Last Update : 7 มีนาคม 2565 16:03:30 น.

19 comments

Counter : 3055 Pageviews.

โอกาสที่ภาพจะถูกแดดถูกฝนมีมากกว่า
สีครามยังติดแน่นราวกับวาดบนกระเบื้อง
เห็นแล้วนึกถึงพันธุ์ไม้ต่างๆในสมัยนั้นครับ
+

โดย: Insignia_Museum

วันที่: 30 พฤศจิกายน 2558 เวลา:19:59:04 น.

สุดยอดเลยครับ ใส่ใจรายละเอียดจริงๆ เก็บมารอบเลย

น่าเสียดายที่ภาพดูพุพังไปตามกาลเวลา โดนแดดโดนฝนมันก็มีโอกาส แต่ผมว่าโดนความชื้นเล่นงานทากว่าครับ

+

โดย: คุณต่อ (toor36

) วันที่: 1 ธันวาคม 2558 เวลา:0:57:29 น.

thx u crab

โดย: Kavanich96

วันที่: 1 ธันวาคม 2558 เวลา:4:23:38 น.

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
การาืองเที่ยว การเดินทาง ทำให้เรา ได้เห็นอะไรใหม่ๆ ได้เรียนรู้ เรื่องราว และ ศิละ สมัยโบราณ ได้ดี นะคะ ^^

โดย: kwan_3023

วันที่: 1 ธันวาคม 2558 เวลา:7:39:38 น.

ตามมาเที่ยวค่ะ

โดย: blog pu

วันที่: 1 ธันวาคม 2558 เวลา:9:20:31 น.

2.สารถีอัญเชิญไปเทศน์บนสวววค์ = เนมิราช สังเกตว่ามีพญานาคอีกแล้ว
3.ทางขวา ฤาษีกับงู = นึกไม่ออก
4. ทางขวา เป็นยักษ์น้าวศร = สุวรรณสาม ทางซ้ายที่วงไม่รู้เหมือนกัน
5. ซูมดูมีช่อเมืองมิถิลา = มโหสถ
6. ยกราชรถ = เตมีย์ตอนที่ลองกำลังตนเอง
7.ซูมดูมีคำว่าทัศพร = เวสสันดร กัณฑ์ทศพร ตอนแรกเลย
8. 9 10 11 12 13 14 เวสสันดร

โดย: ผู้ชายในสายลมหนาว

วันที่: 1 ธันวาคม 2558 เวลา:9:37:39 น.

ปราสาทพระพุทธมิ่งเมือง สวยเลยค่ะ รูปทรงแปลกตา
วัดเก่ามักคู่กับตำนานพื้นบ้าน เป็นการเก็บรักษาวัฒนธรรมด้วยค่ะ

โดย: ที่เห็นและเป็นมา

วันที่: 1 ธันวาคม 2558 เวลา:16:43:13 น.

ตามมาไหว้พระด้วยค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
คนบ้านป่า Pet Blog ดู Blog
mastana Literature Blog ดู Blog
อุ้มสี Food Blog ดู Blog
ชมพร About Weblog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog

โดย: เนินน้ำ

วันที่: 1 ธันวาคม 2558 เวลา:17:36:34 น.

เมื่อเช้ามาอ่านแต่ไม่จบ มัวแต่ดูภาพ
แล้วต้องออกไปธุระ เพิ่งจะกลับมาอ่านต่อ

จะว่ามัวแต่ดูภาพก็ไม่ถูกนักหรอกนะ
บล็อกยาวด้วยอ่ะจิ ไม่ว่า เนอะ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ALDI Klaibann Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog

จบแระ ไปก่อนน้าาา พอใจแล้ว

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า

) วันที่: 1 ธันวาคม 2558 เวลา:19:38:50 น.

จังหวัดร้อยเอ็ดเคยผ่านบ่อย ๆ แต่ไม่เคยได้ลงเที่ยวชมเลยค่ะ ... วัดนี้สวยมากเลยนะคะ ศิลปะล้านช้าง .... ชอบฮูปแต้มเล่าเรื่องทศชาติชาดกจังค่ะ โทนสีสวยดี ถาพสวยด้วย ... นึกไปถึงจานชุด Blue and White ของฝรั่งด้วย

tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog

โดย: Tristy

วันที่: 2 ธันวาคม 2558 เวลา:10:01:08 น.

แวะเข้ามาเที่ยวด้วยคนครับ ^________^

โดย: PZOBRIAN

วันที่: 2 ธันวาคม 2558 เวลา:11:45:16 น.

ปราสาทพระพุทธมิ่งเมืองสวยมากค่ะพี่ตุ๊ก
ต้องตามรอยพี่ตุ๊กไปไหว้ที่นี่สักวันค่ะ

โดย: อุ้มสี

วันที่: 2 ธันวาคม 2558 เวลา:12:04:02 น.

ประวัติอย่างละเอียดของเมืองร้อยเอ็ดมาแล้ว ผมเคยเรียนหนังสือที่ร้อยเอ็ดวิทยาลัยมา5ปี ประมาณปี2500-2505 จากม.2-5 แล้วก็ไปต่ออำนวยศิลป์กรุงเทไม่เคยทราบประวัติเมืองละเอียดแบบนี้เลยครับ

โดย: คนโคราช (Ni.Somsak

) วันที่: 2 ธันวาคม 2558 เวลา:15:59:15 น.