ใ จ ส บ า ย ธรรมะทั้งหลายถ้าหากว่าเรามาพิจารณาแล้ว
มันจะมารวมอยู่ที่ใจ เป็นใจที่สบาย เป็นใจที่สงบระงับ
ผู้ใดมีธรรมะอยู่ในใจนะ ใจสบายจริงๆ สบายหลาย
มันอยู่ในลักษณะอาการหยุดอยู่.... สบาย
ทำไมมันถึงสบายใจ
มันรู้เรื่อง มันรู้เท่านี่
รู้เท่าอย่างไร คือรู้เรื่องของมัน
ถึงแม้มันทุกข์อยู่ มันละไม่ได้ ก็รู้อยู่ว่ามันเป็นอย่างนั้น .... มันก็เลยสบาย
เหมือนแม่น้ำมูลอย่างนี้แหละ มันก็ไหลไป
ถ้ามีบุรุษคนหนึ่งไปตั้งใจพิจารณา
ไปยืนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ เห็นน้ำไหลไปทางเมืองพิบูลนั้น
น้ำไหลไปทางทิศใต้ มันก็ไหลไป มีใบไม้ มีเรือแพนาวา
มันก็ไหลไปตามน้ำ
บุรุษคนนี้เห็นน้ำไหลไปทางทิศใต้ก็สบาย ไม่ได้คิดที่จะให้มันไหลไปทางทิศเหนือ
นั่นคือ คิดไปตามน้ำ รู้เรื่องของมันแล้ว
ถ้าคนไม่รู้เรื่องก็อยากให้น้ำไหลไปทางเหนือ มันก็ไปไม่ได้
ไปยืนอยู่ตรงนั้นก็ทุกข์อยู่
ไปนอนอยู่ที่บ้านถ้าคิดอยากให้น้ำไหลไปทางเหนือ
ก็จะเป็นทุกข์อยู่อย่างนั้นเพราะคิดผิด มันเป็นเรื่องอย่างนั้น พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท)
วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
จากหนังสือ ทางแห่งความสุข
มรดกธรรม เล่มที่ ๑๘ น.๓๗-๓๘
www.facebook.com/LuangPorChah
ขอขอบคุณ
ภาพ.......จากอินเตอร์เน็ท
เครื่องแต่งบล็อก ..... จากบล็อกชมพร /บล็อกญามี่
และคำธรรมโดย.. พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท)
วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
จากหนังสือ ทางแห่งความสุข มรดกธรรม เล่มที่ ๑๘ น.๓๗-๓๘
www.facebook.com/LuangPorChah
ธรรมสวัสดี
ร่มไม้เย็นค่ะ