ศาลหลักเมืองยะลา : ศูนย์กลางความรัก ศรัทธา และผังเมืองสวยที่สุดในประเทศไทย
สวัสดีวันพฤหัสค่ะ
มาทักทายกันแล้ว ที่จริงสาวไม่ได้หายไปไหนเลย แต่เป็นเพราะว่าสาวลืมข้อมูลสำคัญประกอบบล็อกที่สาวเตรียมทำในวันนี้ บล็อกวันนี้สาวตั้งใจทำมาก นอกจากจะทำลงบล็อกแล้ว สาวเตรียมจะเอาข้อมูลตั้งกระทู้ในพันทิบด้วย ^ ^ มาเข้าเรื่องกันดีกว่า ช่วงที่สาวกลับบ้านที่ยะลารอบนี้ สาวตั้งใจทำหลายอย่าง ทั้งอยากทำข้อมูลทางประวัติศาสตร์เรื่องสนามโรงพิธีช้างเผือก และ อยากไปไหว้เจ้าพ่อหลักเมือง(เรียกเจ้าพ่อจนติดปาก)
ซึ่งจำได้ว่าตอนเด็กๆ งานสมโภชหลักเมือง เป็นงานที่เราตื่นเต้นกันมาก เพราะเป็นงานประจำปีที่มีของขายมากมาย ครั้นเมื่อโต ก็ยังแวะเวียนมาเสมอ ชอบให้อาหารปลาที่นี่ค่ะ รอบบริเวณศาลจะร่มรื่น น่านั่งเล่น ยิ่งเหงาๆแล้วให้อาหารปลานะคะ เพิ่มความสุขให้ได้มากเลย จึงถือเป็นความทรงจำที่สวยงาม สำหรับศาลเจ้าพ่อหลักเมืองแห่งนี้
กลับบ้านรอบนี้ หลังจากที่เสร็จธุระที่ห้องประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา นั่นคือแวะไปเอาหนังสือสมุดภาพ ยะลา เย็นศิระเพราะพระบริบาล เรียบร้อยแล้ว สาวเลยแวะไป ทีแรกตั้งใจจะไหว้เฉยๆ แล้วไปเก็บภาพที่ สนามโรงพิธีช้างเผือกต่อ แต่เมื่อเห็นบรรยากาศแล้ว ทำให้คิดว่าที่นี่สวยขึ้นเยอะเลย ทำข้อมูลที่นี่ดีกว่า อีกทั้งเวลาก็น้อยมาก เพราะสาวจะต้องกลับตรังภายในอีกสองชั่วโมงข้างหน้าแล้ว สนามโรงพิธีช้างเผือกค่อยรอบหน้าก็ได้ สาวเลยเก็บภาพไว้เยอะ (แต่ก็ยังไม่พอใจ ไว้แก้ตัวใหม่)
หมายเหตุ บล็อกนี้จะมีข้อมูลสองส่วน ส่วนแรกเป็นข้อมูลประวัติของศาลหลักเมือง และ ส่วนที่สองเป็นเรื่องราวของผังเมืองของจังหวัดยะลา ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีผังเมืองสวยที่สุดในประเทศไทย ส่วนสาเหตุที่เอามาลงที่นี่เพราะ ศูนย์กลางใยแมงมุม คือศาลเจ้าหลักเมืองแห่งนี้ (ข้อมูลบล็อกนี้เยอะหน่อยนะคะ)
ก่อนจะไปชมภาพกัน เรามารู้จักหนังสือเล่มนี้กันก่อน สมุดภาพ ยะลา เย็นศิระเพราะพระบริบาล
สมุดภาพเล่มนี้จังหวัดยะลาได้จำทำขึ้น โดยได้ประมวลภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ที่เสด็จพระราชดำเนินมาทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในจังหวัดยะลา ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๒ จนถึงปัจจุบัน โชคดีที่ข้อมูลที่สาวต้องการมีครบถ้วนพอดี รวมถึงเรื่องของ ศาลเจ้าหลักเมืองยะลาด้วย
ศาลากลางยะลาปี พ.ศ. ๒๕๐๒
ศาลหลักเมืองยะลา
หลักเมืองอันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวยะลานี้ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากล้นเกล้าล้นกระหม่อม โดย พ.ต.อ.พิเศษ ศิริ คชหิรัญ ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้รับพระราชทานจากพระหัตถ์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ ได้อัญเชิญมาถึงจังหวัดยะลา โดยขบวนรถด่วน เมื่อวันที่ ๒๑ เดือนเดียวกัน โดยมีขบวนแห่ของบรรดาพ่อค้า ประชาชน ลูกเสือ ครู นักเรียน สมาชิกสภาวัฒนธรรมหญิง สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา สมาชิกจังหวัด สมาชิกสภาและพนักงานเทศบาล และข้าราชการในจังหวัดยะลา เข้าสู่ปะรำพิธีในวันเดียวกัน และเริ่มประกอบพิธีทางศาสนาทั้งในทางศาสนาพุทธ อิสลาม พราหมณ์ พร้อมทั้งทางไสยศาสตร์ โดยมีพระเถระผู้ใหญ่ ผู้ทรงคุณวุฒิ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ทางสำนักพระราชวังร่วมกระทำพิธีทั้งกลางวันและกลางคืน และได้ฤกษ์พิธีฝังหลักเมือง ในวันที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ จากนั้นก็มีมหรสพฉลอง ๗ วัน ๗ คืน นับตั้งแต่วันที่ ๒๕ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๕
มาถึงข้อมูลอีกส่วนที่สาวค้นเจอมา เห็นว่าเป็นประโยชน์ เลยเอามาเสริม ขอบคุณที่มา ที่มา นภดล
//www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=25020.0
เดิมจังหวัดยะลามิได้อยู่ในที่ปัจจุบัน ได้โยกย้ายสถานที่ตั้งถึง ๔ ครั้ง ครั้งแรกอยู่ที่ตำบลยะลอกูเบ (อยู่ระหว่างเขตอำเภอยะหากับอำเภอเมืองยะลา) ครั้งที่ ๒ ย้ายตัวเมืองมาตั้งที่ตำบลท่าสาป ริมฝั่งแม่น้ำปัตตานี ครั้งที่ ๓ ย้ายไปตั้งที่ตำบลสะเตง ครั้งที่ ๔ ย้ายมาตั้งที่ตำบลบ้านนิบง อันเป็นที่ตั้งเมืองในปัจจุบัน การที่ต้องย้ายที่ตั้งเมืองบ่อย ๆทำให้ข้าราชการภายใต้การดำริของ พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาขณะนั้น และประชาชนชาวยะลาได้พร้อมใจกันก่อสร้างหลักเมืองขึ้นที่บริเวณศูนย์วงเวียนหน้าศาลากลางจังหวัด
หลักเมืองยะลา เป็นสถานที่สำคัญเพราะเป็นเสาหลักของจังหวัดยะลา ทำให้เมืองนครยะลามีความร่มเย็นเป็นสุข ไม่ต้องโยกย้ายสถานที่ไปที่ไหนอีกต่อไป ประชาชนต่างก็ไปกราบไหว้บูชาหลักเมืองกันเป็นนิจ และทุกปีจะมีการจัดงานฉลองสมโภชศาลเจ้าพ่อหลักเมือง มีการออกร้านของหน่วยราชการต่าง ๆ มีพ่อค้าประชาชนมาแสดงงานอาชีพมากมาย ตลอดจนมีมหรสพให้ชมกันตลอดทั้ง ๗ วัน ๗ คืน นับตั้งแต่วันที่ ๒๕ - ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๐๕ และยึดถือเป็นงานสมโภชประจำปีตลอดมาจนกระทั่งปัจจุบัน
เพิ่มเติมให้นิดนะคะ ช่วงหลังจัดงานเพิ่มเป็น ๙ วัน ๙ คืน คือ ตั้งแต่วันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒ มิถุนายน ส่วนปีที่เพิ่ม สาวไม่แน่ใจว่าเริ่มปีไหน แต่ปัจจุบันเพิ่มเป็น ๑๑ วัน ๑๑ คืนแล้ว
ศาลหลักเมืองยะลา ได้รับการบูรณะและสร้างใหม่ เมื่อปี ๒๕๔๕ โดยได้ รองศาสตราจารย์ ดร.ภิญโญ สุวรรณคีรี สถาปนิกสาขาสถาปัตยกรรมไทย นักการศึกษาสถาปัตยกรรมไทยประเพณี ศิลปินแห่งชาติและราชบัณฑิตสำนักศิลปกรรม ประเภทสถาปัตยศิลป์ เป็นผู้ออกแบบให้ ตามไปดูรูปเพิ่มได้ในกระทู้ที่สาวทำไว้เมื่อปี ๒๕๕๐ สาวเขียนชื่อผู้ออกแบบผิด (ขออภัยด้วยค่ะ )
//topicstock.pantip.com/library/topicstock/2007/09/K5841356/K5841356.html
โดยในปี ๒๕๔๕ เป็นปีที่ยะลาโดดเด่นมาก เพราะจังหวัดยะลามีกิจกรรมมากมาย นอกจากการบูรณะศาลหลักเมืองใหม่แล้ว จังหวัดยะลา โดยการนำของ นายกิตติ กิตติโชควัฒนา ได้จัดงานฉลองเมืองยะลาครบรอบ ๒๑๒ ปีด้วย ปีนั้นสาวอยู่ยะลาพอดี มีการนำคนที่เกิดยะลาแต่ไปทำงานที่อื่นกลับมาเยี่ยมบ้านเกิด โดยขบวนรถไฟ ภาพกิจกรรมช่วงนั้นเป็นสิ่งที่สาวประทับใจไม่รู้ลืม
ข้อมูลครบแล้ว แล้วเราไปชมภาพในปัจจุบันที่เพิ่งจัดสวนใหม่กันค่ะ สาวถามมาได้ความว่า คนที่ดูแลคนใหม่ ออกเงินค่าใช้จ่ายในการตกแต่งเองทั้งหมด
ป้ายต้อนรับน่ารัก
มาดูอีกด้าน
ตุ๊กตาสวยๆ รอต้อนรับมากมาย
เราไปไหว้พระกันก่อน ทอนดอกไม้ ธูป เทียน ที่นี่ มีอาหารปลาด้วยนะคะ
ขวามือของอาคาร ตกแต่งได้ร่มรื่น
ด้านซ้ายมือ
ระหว่างทางไปด้านบน
มาถึงด้านบนค่ะ
มีพระให้ไหว้ด้วย
ไหว้เสร็จก็ถ่ายรูปต่อ เริ่มจากเพดานค่ะ
เสร็จแล้วออกไปด้านนอกกัน ถ่ายเสาไฟก่อน
มองไปด้านล่าง จากศาลาที่สาวทอนธูป
ก่อนที่สาวจะพอไปดูมุมอื่น เรามารู้จักเรื่องราวของ "ผังเมืองยะลา" กันสักนิด
ผังเมืองยะลา จนได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่มีผังเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงามที่สุด วันนี้สาวเอาข้อมูลผู้วางผังเมืองนั่นคือพระรัฐกิจวิจารณ์ (สวาสดิ์ ณ นคร) มาเสริมให้
พระรัฐกิจวิจารณ์ (พ.ศ. ๒๔๒๔ - มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๓) เป็นอดีตนายกเทศมนตรีเมืองยะลาและผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นผู้วางรากฐานผังเมืองยะลา จนได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่มีผังเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงามที่สุดทั้งยังสร้างตลาดนิบง ชาวยะลาเรียกสั้น ๆ ว่า พระรัฐ
ในช่วงที่พระรัฐกิจวิจารณ์ดำรงตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองยะลา ได้ใส่ใจในการสร้างเมืองยะลาอย่างจริงจัง โดยเริ่มตั้งเมืองยะลาที่ตำบลนิบง เริ่มตั้งแต่การวางผังเมืองเป็นวงเวียน ๑ วงเวียน ๒ และ ๓ เตรียมจัดผังสำหรับก่อสร้างสถานที่สำคัญของทางราชการ เช่น ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าราชการอำเภอเมืองยะลา ศาลจังหวัด และสถานีตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พระรัฐกิจวิจารณ์ได้จัดหาศูนย์กลางของตัวเมืองร่วมกับบิดาของนายอดุลย์ ภูมิณรงค์ โดยปักหลักไว้และมีก้อนหินเป็นเครื่องหมาย ซึ่งต่อมาจุดศูนย์กลางนี้ก็คือที่ที่เดียวกับผังหลักเมืองยะลาในสมัยของผู้ว่าราชการจังหวัด พ.ต.อ. (พิเศษ) ศิริ คชหิรัญ ดังที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้
ผังเมืองยะลานั้นจัดได้ว่าเป็นผังเมืองที่สวยงามมีมาตรฐาน กล่าวคือ วางรูปข่ายใยแมงมุม มีวงเวียนซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ชั้นในสุดเป็นหลักเมือง รอบวงเวียนชั้นในเป็นที่ตั้งสถานที่ราชการ เช่น ศาลากลางจังหวัด ศาลจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ และสถานีตำรวจ ถัดออกไปเป็นวงเวียนที่ ๒ เป็นบ้านพักข้าราชการแผนกต่าง ๆ วงเวียนที่ ๓ เป็นโรงพยาบาล สถานศึกษา และบ้านเอกชน และวงเวียนที่ ๔ เป็นย่านอุตสาหกรรมและการค้า ถนนที่มาจากอำเภอต่างๆ จะมารวมกันที่บริเวณหลักเมือง แม้ว่าการกำหนดผังเมืองที่แท้จริงจะเป็นของกรมโยธาธิการ แต่ก็ได้แนวผังเมืองเดิมมาจากแนวคิดของพระรัฐกิจวิจารณ์นั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลและรูปประกอบจาก วิกิพีเดีย
เมื่อรู้ที่มากันแล้ว เรามาวนขวากัน เริ่มจาก ศาลากลางจังหวัดยะลา
เส้นนี้ไปเบตงค่ะ
จากนั้นจะเป็นสวท.ยะลา ใกล้ๆถนนเส้นข้าวสวท.จะเป็นทางเข้าวนขวัญเมืองยะลา (ไม่ได้ถ่ายรูปมา) จากนั้นเป็นศาลจังหวัด
ถนนข้างศาลจะสามารถออกฝั่งสาธารณสุข ประกอบด้วย สำนักงานสาธาณสุข ศูนย์แม่และเด็ก วิทยาลัยพยาบาล และโรงพยาบาลยะลา ซึ่งใกล้ศูนย์เยาวชน สถานที่ออกกำลังกายของยะลา
จากศาล ไปอีกฝั่งจะเจอสถานีตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ถนนข้างโรงพักนี้จะมีต้นประดู่ยาว ช่วงหน้าประดูบาน ถนนเส้นนี้จะสวยมาก เพราะจะเห็นสีเหลืองของประดู่ร่วงเต็มถนน
ถัดจากสถานีตำรวจ ก็จะเป็นที่ว่าการอำเภอเมือง เป็นอันครบรอบ
เสร็จแล้วเราก็มาดูที่ให้อาหารปลากัน ที่นี่จะแบ่งสระแบ่งล็อก ตามวงเวียนค่ะ ปลามีทุกสระ
มาดูอีกด้านกัน
มีอ่างล้างมือด้วย
มีสวนสัตว์เล็กๆ
เห็นตัวนี้คิดถึงพี่หนุ่ยกับพี่โจน
ปิดท้ายด้วย พระแม่ธรณีบีบมวยผม
หิวหรือยังคะ ไปกินข้าวกันค่ะ มีข้าวยำใบยอ ข้าวเหนียวปลาเค็ม ข้าวใส่ปลาป่นของแมว และขนมหัวมัน ภายในใส่น้ำตาลอร่อยมากค่ะ
ส่งท้ายด้วยรูปผังเมืองยะลาค่ะ
ขอบคุณที่มารูป ป๋าโด่ง จากโอเคเนชั่น
//www.oknation.net/blog/print.php?id=524869
ขอบคุณทุกๆคนสำหรับการติดตามค่ะ
Create Date : 26 กรกฎาคม 2555 |
|
48 comments |
Last Update : 26 กรกฎาคม 2555 16:29:53 น. |
Counter : 10848 Pageviews. |
|
|
|