Ili Pikas ตัวแบบ Pikachu ใกล้สูญพันธุ์แล้ว
เรื่องสำคัญ ตอนนี้ยังมี Ili pika เหลือน้อยกว่า 1,000 ตัว Li Wei Dong ลิ เว่ย ตง ให้สัมภาษณ์ ภาพนี้เป็นการถ่ายภาพมันได้อีกครั้งหลังจากผ่านมา 20 ปีแล้ว จะขอใช้คำว่า Pika/Pikas แทนการระบุว่า กระต่าย สัตว์พื้นเมืองขนาดเล็กเลี้ยงลูกด้วยนมในเขตทุรกันดาร ที่มีชื่อเรียกว่า Ili pika ยังไม่เป็นที่รับรู้จากรัฐบาลจีนว่า พวกมันตกอยู่ในสภาวะใกล้สูญพันธุ์แล้ว รวมทั้งหลายคนก็ต่างไม่ใยดีกับพวกมัน Li Wei Dong นักอนุรักษ์ธรรมชาติระบุว่า " สัตว์ที่หายากมากและบางคนบอกว่า พวกมันสวยงามน่ารักกว่าหมีแพนด้า Panda สัตว์โลกที่น่ารักรูปร่างเหมือนหมีตัวน้อย ประมาณการว่ามีน้อยกว่า 1,000 ตัวแล้ว พวกมันอาศัยอยู่ที่แถบภูเขาเทียนซาน Tian Shan ในเขตปกครองตนเองพิเศษซินเกียงอุยกูร์ Xinjiang Uyghur ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน " ภูเขาเทียนซาน จัดว่าเป็นภูเขาที่สวยงามของจีน แต่การเดินทางไปมาสมัยก่อนลำบากมาก มีตำนานเรื่องนักบู้/นักสู้บู้ลิ้ม สำนักเทียนซาน ในนวนิยายกำลังภายในเรื่อง แปดเทพอสูรมังกรฟ้า Li Wei Dong ค้นพบตัว Pika สายพันธุ์นี้ หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ Ochotona iliensis ในปี 1983(2525) แล้วตั้งชื่อตามแซ่ Li ของเขาว่า Ili pika 9 กรกฎาคมปีที่แล้ว Li ได้ใช้เวลาในการค้นหา และถ่ายภาพสัตว์ที่หายากนี้ได้อีกครั้ง นับตั้งแต่ที่พบครั้งสุดท้ายตอนต้นปี 1990(2533) เขาประมาณการว่าจำนวนของพวกมัน ลดลงไปมากกว่า 70% ตั้งแต่การค้นพบคราวนั้น " ผมพบสัตว์สายพันธุ์นี้และเฝ้ามองพวกมัน กำลังตกอยู่ในสภาวะอันตราย ถ้าพวกมันสูญพันธุ์ไปในช่วงอายุผม ผมรู้สึกผิดบาปในใจมากเช่นกัน " เขาให้สัมภาษณ์กับ CNN ในปี 2008(2551) สัตว์น้อยเหล่านี้อยู่ในบ้ญชีรายการ สัตว์ที่ตกอยู่ในสภาวะอันตรายใกล้จะสูญพันธุ์ จากสมาพันธ์อนุรักษ์ธรรมชาตินานาชาติ International Union for Conservation of Nature แต่ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่หรือทีมงานใดเลย ที่เข้ามาศึกษาหรือปกป้องพวกมัน ตามคำบอกเล่าของ Li The Ili pika ถ่ายภาพโดย Li Wei Dong ในวันที่ 9 กรกฏาคม 2014(2557) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดลำตัวยาว 20 เซนติเมตร อาศัยอยู่ตามหน้าผาหินและหาหญ้ากินตามเทือกเขาสูง ผลจากภาวะโลกร้อน ทำให้ถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกมันลดลงไปมาก อุณหภูมิที่สูงขึ้นกว่าเดิม ธารน้ำแข็งบนภูเขาที่ลดน้อยลงไปมาก ทำให้พื้นที่น้ำแข็งปกคลุมบนเทือกเขาเทียนซาน Tian Shan ล่าถอยออกจากจุดเดิมไปมากเช่นกัน (คนเริ่มบุกรุกขึ้นไปบนเขาได้ง่ายขึ้น) มีผลกับการหากินของ Ili pika ต้องเคลื่อนย้ายไปหากินใกล้กับยอดเขามากขึ้น แต่เดิมพวก Ili pika จะหากินในช่วงระดับ ความสูงระหว่าง 3,200 ถึง 3,400 เมตร แต่ตอนนี้พวกมันต้องหากิน ในระดับความสูงกว่า 4,100 เมตร พวกมันต้องถอยร่นที่ทำมาหากินไปอีกแล้ว พวกมันเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างสันโดษ ชอบอยู่ตามลำพัง(อย่างโดดเดี่ยว) ไม่ชอบส่งเสียงร้องเหมือนกับ Pikas สายพันธุ์อื่น ดังนั้นถ้ามีสัตว์นักล่าเหยื่อมาใกล้บริเวณที่พวกมันอยู่ Ili pika จึงไม่สามารถร้องเตือนภัยซึ่งกันและกัน เชื้อโรคอาจจะเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่ทำให้จำนวนประชากรพวกมันลดลง ในปี 1983(2526) Li พบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดนี้ ด้วยความบังเอิญเป็นครั้งแรก ไม่มีใครรู้ว่าพวกมันอยู่กินกันอย่างไรมากนัก 2 ปีต่อมา Li จึงพบพวกมันอีก 2 ตัว และได้รับการยืนยันว่า พวกมันเป็นสัตว์สายพันธุ์ใหม่ของโลก ในช่วง 10 ปีต่อมา Li กับเพื่อนร่วมงาน ต่างลงมือกันศึกษานับจำนวนพวกมัน ในจุดที่ตั้งฐานเพื่อศึกษาแตกต่างกันรวม 14 แห่ง IIi pika สร้างแรงบันดาลใจให้ Ken Sugimori (杉森建 Sugimori Ken) วาดตัวการ์ตูน Pikachu ในหนังเรื่อง Pokemon ในปี 1996(2539) หลังการค้นพบ 13 ปี Credit : //goo.gl/djFjrM ต่อมาในปี 1992(2535) Li ต้องยุติการศึกษา Ili pika เพราะย้ายไปทำงานที่สถาบันอนุรักษ์สภาพแวดล้อมซินเกียง Xinjiang Academy of Environmental Protection ในเขตปกครองตนเองพิเศษที่อูรุมไคว่ Urumqi ในช่วง 10 ปีให้หลัง ไม่มีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ili pika อีกเลย รวมทั้งไม่มีใครพบเห็นพวกมันอีกด้วย ในปี 2002(2545) กับ 2003(2546) Li ได้ร่วมมือกับทีมงานอาสาสมัคร เริ่มทำการศึกษานับจำนวน(สำมะโนครัว)พวกมันอีกครั้ง หลังจากใช้เวลาถึง 37 วัน ในการเดินทางสำรวจในบริเวณภูเขาแห่งนี้ ตามเส้นทางที่แตกต่างกันถึง 7 สาย แต่ทุกคนต่างกลับมาด้วยมือเปล่า(ไม่พบเห็นพวกมันเลย) อย่างไรก็ตามจากการวิเคราะห์และแกะรอยสัตว์ Li ร่วมกับนักชีววิทยา Andrew Smith จาก Arizona State University สามารถประมาณการได้ว่า Ili pika มีจำนวนประชากรลดลงอย่างมาก คาดว่ามี Ili pika จำนวน 2,000 ตัว ลดลงจากจำนวน 2,900 ตัวจากช่วงปี 1990(2533) รายงานวิจัยมีการตีพิมพ์เผยแพร่ในปี 2005(2548) ได้ตั้งข้อสังเกตว่าสัตว์พวกนี้ตกอยู่ใน สภาวะอันตรายใกล้สูญพันธุ์แล้ว ในปี 2007(2550) Li ขอเกษียณอายุก่อนกำหนด เพื่อทุ่มเทตนเองอย่างเต็มที่ในการค้นหา IIi pika นักอนุรักษ์ธรรมชาติ Li Wei Dong ชี้ให้เห็นจุดที่พวกเขาพบ Ili pika ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2014(2557) ปีที่แล้ว Li กับอาสาสมัครรวม 20 คน ได้เริ่มต้นสำรวจพื้นที่แห่งนี้อีกครั้ง ด้วยการใช้กล้องอินฟราเรด infrared cameras (สะท้อนความร้อนจากแหล่งต้นกำเหนิด ทำให้สามารถมองเห็นรูปร่างในที่มืดได้) ในวันที่ 2 ของการเดินสำรวจภาคสนาม ในที่สุดพวกเขาสามารถพบ Pika ตัวหนึ่ง มันกระโดดลงเหนือเท้าของ Li ขณะที่กำลังจะถ่ายภาพมัน บรรดาอาสาสมัครเลยให้ฉายามันว่า " กระต่ายน้อยมหัศจรรย์ " " ผลการศึกษาประมาณการว่า Ili pika เหลือน้อยกว่าจำนวน 1,000 ตัวแล้ว สัตว์น้อยสายพันธุ์นี้มีโอกาสสูญพันธุ์ได้ตลอดเวลา พวกมันไม่ได้อยู่ตามพื้นที่เดิมที่พวกมันเคยอยู่อีกแล้ว " Li บอก Li ใช้เงินทุนส่วนตัวในการวิจัยศึกษาครั้งนี้ รวมทั้งเงินที่ได้รับจากการบริจาคสนับสนุน และเงินช่วยเหลือเป็นครั้งคราวจากองค์การต่าง ๆ เช่น World Wide Fund for Nature //wwf.panda.org Li เล่าว่าเขาต้องจ่ายเงินส่วนตัวมากกว่า 32,000 เหรียญสหรัฐ(ประมาณ 960,000 บาท) ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาและค่าใช้จ่ายจำนวนมากหมดไปกับน้ำมันเชื้อเพลิง แต่สิ่งที่ทำให้ Li เศร้าใจมากที่สุด ไม่ใช่เรื่องการไม่ค่อยมีเงินทุน แต่เป็นการขาดการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่รัฐ ในการดูแลปกป้อง Ili pika และสถานะการณ์ที่เลวร้าย ที่เกิดขึ้นกับ Pikas สายพันธุ์อื่นด้วยเช่นกัน Ili pika ไม่ได้อยู่ในรายการ บัญชีสัตว์ป่าหวงห้ามของรัฐ China's List of Wildlife under Special State Protection ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายสัตว์ป่าหวงห้ามภายในประเทศจีนปี 1988(2531) The country's 1988 Wildlife Protection Law เจ้าหน้าที่จากกรมอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชพันธุ์ป่าไม้ สังกัดกระทรวงป่าไม้ กล่าวแต่เพียงว่า กำลังอยู่ในขั้นตอนปรับปรุงรายการบัญชี แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดอื่นเพิ่มเติม Li กับบรรดาอาสาสมัครต่างเรียกร้อง ให้มีการตั้งหน่วยงานอนุรักษ์ธรรมชาติ เพื่อช่วยเหลือปกป้องส้ตว์น้อยเหล่านี้ " ผมตอนนี้อายุเกือบ 60 ปีแล้ว อีกไม่นานผมคงปีนเขาเทียนซานไม่ไหวแล้ว ผมได้แต่หวังเพียงว่าจะมีหน่วยงาน ที่ช่วยให้คนได้ศึกษาเรื่องนี้ และปกป้องพวกมัน Ili pika " บริเวณเทือกเขาเทียนซานที่ค้นพบ IIi pika ผู้เขียนบทความเรื่องนี้ร่วมกับ Shen Lu (ไม่มีภาพถ่าย) เรียบเรียง/ที่มา //goo.gl/3W2nM0 //goo.gl/LPp5TU //goo.gl/ZpyB10 ข้อมูลเพิ่มเติม Credit : //goo.gl/FK4hD0 Xinjiang Uyghur Autonomous Region (เขตปกครองตนเองพิเศษซินเกียงอูยกูร์-พื้นที่สีแดง) Credit : //goo.gl/5oNq4s เทือกเขาเทียนซาน กั้นพรมแดนระหว่างจีนกับเคอร์กีสถาน ภาพถ่ายยอดเขาข่านทังกรี Khan Tengri ที่มีความสูง 7,010 เมตร Credit : //goo.gl/tHQ9qi ภาพถ่ายจากอวกาศเทือกเขาเทียนซาน เดือนตุลาคม 1997(2550) ภาพทะเลสาบไอสิคคัล Issyk-Kul Lake ในทางเหนือสุดของเคอร์กีสถาน Kyrgyzstan Credit : //goo.gl/tHQ9qi
รายงานวิจัย //goo.gl/iOXYWk
ข้อมูลสัตว์ที่ตกอยู่ในสภาวะใกล้สูญพันธุ์ //goo.gl/bv5MJB
Create Date : 30 มีนาคม 2558 |
|
1 comments |
Last Update : 1 มีนาคม 2559 21:37:56 น. |
Counter : 2109 Pageviews. |
|
|
|
อุ้มแวะมาอ่านเป็นคนแรก
เจิมมมมมมมมมมมมมมมมม
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ravio Education Blog ดู Blog