กรกฏาคม 2556

 
1
2
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
31
 
 
5 กรกฏาคม 2556
All Blog
กรรมตามหน้าที่

กรรมตามหน้าที่

ตอนนี้เราเริ่มต้องลงลึกกันเรื่องกรรมกันแล้วล่ะเพราะกรรมแบบที่ผ่านมา 2 วันนั้นเป็นอะไรที่อธิบายด้วยภาษาง่ายๆ ทั้งที่จริงๆแล้วกรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อนซับซ้อน ประมาณทับกันไปทับกันมาจนคนที่ไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้อาจไม่กระดิกหูเลยด้วยซ้ำ(อย่าว่าแต่เข้าใจ)

คนที่เข้าใจเรื่องกรรมได้ดีที่สุดในยุคเราแต่เป็นสมัยก่อนคือสมเด็จฯเพียงพระองค์เดียวเพราะนอกจากจะสามารถมองเห็นอดีตและอนาคตได้แล้วยังต้องสัมผัสได้ถึงความสัมพันธ์ของเหตุและผลของกรรมด้วย (และมีเรื่องอื่นๆอีกที่เกินกว่าความเข้าใจของเราๆ)

แต่ใครอยากรู้ว่ามันเป็นไปได้อย่างไรขอแนะนำให้ไปปฏิบัติธรรม ถึงจุดนึกแล้วจะสัมผัสกับเรื่องกรรมได้แน่นอน

เราเองถ้าไม่รู้ไม่เห็นจากการปฏิบัติธรรมเราก็คงไม่ได้รู้อะไรดีๆ เกี่ยวกับกรรมหรอก ถึงแม้จะเป็นการเห็นเพียงครั้งเดียว(แถมเป็นกรรมของคนอื่น) แต่อีก 2-3 ครั้ง เราก็รับรู้ได้ถึงกรรมของตัวเองและช่วยตัวเองเอาไว้ได้เพียง 1 ครั้ง (เอาไว้จะค่อยๆ เล่าทีหลัง

เพราะเหตุนี้เอง เราถึงรู้กรรมเป็นเรื่องน่ากลัวมากๆ(อยากใส่ไม้ยมกซัก 2.2 ล้านๆ ตัวจริงๆ)

ใครที่บอกว่ามาเถอะ ฉันขอรับกรรมน่ะขอให้คิดให้ดีๆ เพราะกรรมร้ายน่ะ จะมาในรูปแบบที่เราต้องรับทุกข์ทรมานจนคาดไม่ถึงเลยเชียวล่ะ

มาว่ากันในเรื่อง “กรรมหน้าที่” กันดีกว่าเล่าเรื่องชักเยอะไปแล้ว

กรรมตามหน้าที่แบ่งได้เป็น 4 ประเภทคือ

1. ชนกกรรม (กรรมนำเกิด) คือการที่จะเกิดเป็นอะไรนั้นไม่ใช่ว่าอยากจะเกิดเป็นนั่นเป็นนี่ก็ทำได้นะมันต้องมีเหตุจากกรรมที่เคยทำมาก่อน ประกอบด้วยอีก 2-3 เรื่องถึงจะพามาให้เกิดเป็นเราได้แล้วก็ไม่ได้หมายความว่าคนเราถ้าฆ่าเจ้าสิ่งนั้นมากๆ แล้วจะเกิดเป็นสิ่งนั้นเสมอไปอย่างนักวิทยาศาสตร์ที่ฆ่าหนูทดลองเยอะๆไม่ได้หมายความว่าชาติหน้าจะเกิดเป็นหนูทดลอง แต่อาจจะเกิดเป็นเทวดาเพราะช่วยคนเอาไว้เยอะ คือทำบุญมากกว่าทำบาปว่างั้นเถอะแต่ไม่ใช่ว่ากรรมฆ่าหนูจะหมดไปหรอกนะ มันยังอยู่เพียงแต่กรรมดีมันส่งผลก่อนเท่านั้นเอง ส่วนกรรมชั่วน่ะเค้ารอได้ (อย่าเผลอละกัน)ดังนั้นนี่คงเป็นคำตอบส่วนนึงว่าทำกรรมอะไรถึงได้เกิดเป็น “อมีบา” ผมเองก็ไม่เข้าใจคนถามเหมือนกันว่าเค้าอยากเกิดเป็นอมีบาหรือไง ถึงถามแบบนี้

2. อุปัตถัมภกกรรม (กรรมที่ช่วยอุปถัมภ์ค้ำจุน)เป็นกรรมมีหน้าที่ร่วมกับกรรมอื่นๆ โดยเฉพาะชนกกรรม เช่นบางคนเกิดมาแล้วรวยเกิดมาจน เกิดมาแล้วพิการ เกิดมาหล่อ เกิดมาสวย หรือเกิดมาแล้วมีโรคประจำตัว

3. อุปปีฬกกรรม (กรรมมีหน้าที่เบียดเบียนกรรมอื่น)จะว่าไปแล้วก็เป็นกรรมที่ตรงข้ามกับ “อุปัตถัมภกกรรม” คือกรรมข้อ 2 น่ะคอยสนับสนุน แต่กรรมข้อ 3 นี่ คอยขัดขวาง เช่นเกิดเป็นคนด้วยชนกกรรมแล้ว เจออุปัตถัมภกกรรมจากการที่เคยบริจาคทานเอาไว้มากมาย ก็เลยมาเกิดในบ้านคนรวยแต่ความรวยนั้นเกิดจากการเบียดเบียนข้าทาสบริวารในบ้าน เรียกง่ายๆ คือใช้แรงงานทาสแล้วเอาเงินไปทำบุญเลี้ยงคนอื่น แบบนี้ก็อาจจะทำให้รวยน้อยลงกว่าที่ควรหรือไม่ก็มีโรคประจำตัว ทำให้รวยด้วยทุกข์ด้วย

4. อุปฆาตกกรรม หรืออุปัทเฉทกกรรมอันนี้เป็นกรรมแบบเร่งด่วนที่ทำให้ชีวิตพลิกผันได้ในชั่วข้ามคืนเช่นใครเกิดมาจนแสนจน พอถึงเวลากรรมนี้ทำงาน ก็อาจถูกรางวัลที่ 1แบบฉับพลันก็เป็นได้ แต่ยังไม่หมดนะ ถูกแล้วหัวใจวายตาย อันนี้ก็เป็นอุปฆาตกกรรม อีกเหมือนกันหรือคนที่รวยแสนรวย แต่มีเหตุให้ยากจนในเวลาอันรวดเร็ว (เช่นเล่นการพนันจนหมดตัว) แบบนี้ก็เหมือนกัน

ขอยกตัวอย่างจากครูบาอาจารย์หน่อยละกัน

องคุลิมาลก่อนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ได้เคยฆ่าคนเป็นจำนวนมาก เมื่อตายแล้วจะต้องตกนรกแน่นอนแต่เมื่อสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ก็ไม่ต้องตกนรก เพราะไม่ต้องเกิดอีก ด้วยอำนาจของอรหัตตมรรคกุศลกรรม (บุญ) ที่เกิดขึ้นตัด อกุศลชนกกรรม (บาป)ที่ได้ทำในภพนี้และภพก่อนให้หมดไป ไม่ต้องรับผลกรรมที่ทำไว้

เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อนละกันเนอะออกไปกินก๋วยเตี๋ยวแล้วกลับมาทำงานต่อดีกว่า




Create Date : 05 กรกฎาคม 2556
Last Update : 5 กรกฎาคม 2556 10:22:56 น.
Counter : 832 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปีกไม้หอม
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]



เป็นนักเขียน
เป็นอาจารย์
เป็นพ่อบ้าน
เป็นพ่อครัว
เกิดในตระกูลหมอดู

รับสอน VBA บน Access และ VBA บน Excel ทั่วราชอาณาจักร
รับแนะแนวทางชีวิตด้วยไพ่ทาโร่ต์และเบอร์มือถือ
New Comments