Group Blog All Blog
|
กรรมตามหน้าที่ กรรมตามหน้าที่ ตอนนี้เราเริ่มต้องลงลึกกันเรื่องกรรมกันแล้วล่ะเพราะกรรมแบบที่ผ่านมา 2 วันนั้นเป็นอะไรที่อธิบายด้วยภาษาง่ายๆ ทั้งที่จริงๆแล้วกรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อนซับซ้อน ประมาณทับกันไปทับกันมาจนคนที่ไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้อาจไม่กระดิกหูเลยด้วยซ้ำ(อย่าว่าแต่เข้าใจ) คนที่เข้าใจเรื่องกรรมได้ดีที่สุดในยุคเราแต่เป็นสมัยก่อนคือสมเด็จฯเพียงพระองค์เดียวเพราะนอกจากจะสามารถมองเห็นอดีตและอนาคตได้แล้วยังต้องสัมผัสได้ถึงความสัมพันธ์ของเหตุและผลของกรรมด้วย (และมีเรื่องอื่นๆอีกที่เกินกว่าความเข้าใจของเราๆ) แต่ใครอยากรู้ว่ามันเป็นไปได้อย่างไรขอแนะนำให้ไปปฏิบัติธรรม ถึงจุดนึกแล้วจะสัมผัสกับเรื่องกรรมได้แน่นอน เราเองถ้าไม่รู้ไม่เห็นจากการปฏิบัติธรรมเราก็คงไม่ได้รู้อะไรดีๆ เกี่ยวกับกรรมหรอก ถึงแม้จะเป็นการเห็นเพียงครั้งเดียว(แถมเป็นกรรมของคนอื่น) แต่อีก 2-3 ครั้ง เราก็รับรู้ได้ถึงกรรมของตัวเองและช่วยตัวเองเอาไว้ได้เพียง 1 ครั้ง (เอาไว้จะค่อยๆ เล่าทีหลัง เพราะเหตุนี้เอง เราถึงรู้กรรมเป็นเรื่องน่ากลัวมากๆ(อยากใส่ไม้ยมกซัก 2.2 ล้านๆ ตัวจริงๆ) ใครที่บอกว่ามาเถอะ ฉันขอรับกรรมน่ะขอให้คิดให้ดีๆ เพราะกรรมร้ายน่ะ จะมาในรูปแบบที่เราต้องรับทุกข์ทรมานจนคาดไม่ถึงเลยเชียวล่ะ มาว่ากันในเรื่อง กรรมหน้าที่ กันดีกว่าเล่าเรื่องชักเยอะไปแล้ว กรรมตามหน้าที่แบ่งได้เป็น 4 ประเภทคือ 1. ชนกกรรม (กรรมนำเกิด) คือการที่จะเกิดเป็นอะไรนั้นไม่ใช่ว่าอยากจะเกิดเป็นนั่นเป็นนี่ก็ทำได้นะมันต้องมีเหตุจากกรรมที่เคยทำมาก่อน ประกอบด้วยอีก 2-3 เรื่องถึงจะพามาให้เกิดเป็นเราได้แล้วก็ไม่ได้หมายความว่าคนเราถ้าฆ่าเจ้าสิ่งนั้นมากๆ แล้วจะเกิดเป็นสิ่งนั้นเสมอไปอย่างนักวิทยาศาสตร์ที่ฆ่าหนูทดลองเยอะๆไม่ได้หมายความว่าชาติหน้าจะเกิดเป็นหนูทดลอง แต่อาจจะเกิดเป็นเทวดาเพราะช่วยคนเอาไว้เยอะ คือทำบุญมากกว่าทำบาปว่างั้นเถอะแต่ไม่ใช่ว่ากรรมฆ่าหนูจะหมดไปหรอกนะ มันยังอยู่เพียงแต่กรรมดีมันส่งผลก่อนเท่านั้นเอง ส่วนกรรมชั่วน่ะเค้ารอได้ (อย่าเผลอละกัน)ดังนั้นนี่คงเป็นคำตอบส่วนนึงว่าทำกรรมอะไรถึงได้เกิดเป็น อมีบา ผมเองก็ไม่เข้าใจคนถามเหมือนกันว่าเค้าอยากเกิดเป็นอมีบาหรือไง ถึงถามแบบนี้ 2. อุปัตถัมภกกรรม (กรรมที่ช่วยอุปถัมภ์ค้ำจุน)เป็นกรรมมีหน้าที่ร่วมกับกรรมอื่นๆ โดยเฉพาะชนกกรรม เช่นบางคนเกิดมาแล้วรวยเกิดมาจน เกิดมาแล้วพิการ เกิดมาหล่อ เกิดมาสวย หรือเกิดมาแล้วมีโรคประจำตัว 3. อุปปีฬกกรรม (กรรมมีหน้าที่เบียดเบียนกรรมอื่น)จะว่าไปแล้วก็เป็นกรรมที่ตรงข้ามกับ อุปัตถัมภกกรรม คือกรรมข้อ 2 น่ะคอยสนับสนุน แต่กรรมข้อ 3 นี่ คอยขัดขวาง เช่นเกิดเป็นคนด้วยชนกกรรมแล้ว เจออุปัตถัมภกกรรมจากการที่เคยบริจาคทานเอาไว้มากมาย ก็เลยมาเกิดในบ้านคนรวยแต่ความรวยนั้นเกิดจากการเบียดเบียนข้าทาสบริวารในบ้าน เรียกง่ายๆ คือใช้แรงงานทาสแล้วเอาเงินไปทำบุญเลี้ยงคนอื่น แบบนี้ก็อาจจะทำให้รวยน้อยลงกว่าที่ควรหรือไม่ก็มีโรคประจำตัว ทำให้รวยด้วยทุกข์ด้วย 4. อุปฆาตกกรรม หรืออุปัทเฉทกกรรมอันนี้เป็นกรรมแบบเร่งด่วนที่ทำให้ชีวิตพลิกผันได้ในชั่วข้ามคืนเช่นใครเกิดมาจนแสนจน พอถึงเวลากรรมนี้ทำงาน ก็อาจถูกรางวัลที่ 1แบบฉับพลันก็เป็นได้ แต่ยังไม่หมดนะ ถูกแล้วหัวใจวายตาย อันนี้ก็เป็นอุปฆาตกกรรม อีกเหมือนกันหรือคนที่รวยแสนรวย แต่มีเหตุให้ยากจนในเวลาอันรวดเร็ว (เช่นเล่นการพนันจนหมดตัว) แบบนี้ก็เหมือนกัน ขอยกตัวอย่างจากครูบาอาจารย์หน่อยละกัน องคุลิมาลก่อนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ได้เคยฆ่าคนเป็นจำนวนมาก เมื่อตายแล้วจะต้องตกนรกแน่นอนแต่เมื่อสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ก็ไม่ต้องตกนรก เพราะไม่ต้องเกิดอีก ด้วยอำนาจของอรหัตตมรรคกุศลกรรม (บุญ) ที่เกิดขึ้นตัด อกุศลชนกกรรม (บาป)ที่ได้ทำในภพนี้และภพก่อนให้หมดไป ไม่ต้องรับผลกรรมที่ทำไว้ เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อนละกันเนอะออกไปกินก๋วยเตี๋ยวแล้วกลับมาทำงานต่อดีกว่า
|
ปีกไม้หอม
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?] เป็นนักเขียน เป็นอาจารย์ เป็นพ่อบ้าน เป็นพ่อครัว เกิดในตระกูลหมอดู รับสอน VBA บน Access และ VBA บน Excel ทั่วราชอาณาจักร รับแนะแนวทางชีวิตด้วยไพ่ทาโร่ต์และเบอร์มือถือ
Link |