Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
16 มกราคม 2555

เหตุการณ์ รศ. 112 (3)



ภาพทหารสยามในประเทศลาว ปี 1893

พ.ศ. 2428 สงครามปราบฮ่อครั้งที่ 3 ได้จัดกำลังเป็น 2 กองทัพ
ยกทัพไปปราบฮ่อในแขวงเมืองพวนและแขวงเมืองหัวพันทั้งห้าทั้งหก
เป็นครั้งแรกที่สยามใช้โดยใช้กำลังทหารจากกรุงเทพที่ได้รับการฝึกอย่างยุโรป
และยังมีลูกระเบิดและปืนกลที่สะดวกแก่การขนย้ายมากกว่าปืนใหญ่

โดยจัดเป็นสองกองทัพ คือกองทัพฝ่ายใต้และกองทัพฝ่ายเหนือ
กองทัพฝ่ายใต้มีนายพันเอก พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคมเป็นแม่ทัพ
ยกไปปราบฮ่อในแคว้นเมืองพวน ตั้งกองบัญชาการกองทัพอยู่ที่เมืองหนองคาย
แล้วให้พระอมรวิไสยสรเดช (โต บุนนาค) ยกทัพหน้าไปตีค่ายฮ่อที่ทุ่งเชียงคำ
พวกฮ่อได้หนีไปในเขตญวน กองทัพไทยจึงรื้อค่ายฮ่อที่ทุ่งเชียงคำเสีย

กองทัพฝ่ายเหนือมีนายพันเอก เจ้าหมื่นไวยวรนาถ (เจิม แสง-ชูโต) เป็นแม่ทัพ
ยกไปปราบฮ่อในแคว้นหัวพันห้าทั้งหก ไปชุมนุมทัพที่เมืองพิชัยต่อไปยังเมืองน่าน
ตั้งกองบัญชาการกองทัพที่เมืองหลวงพระบาง จากนั้นได้เคลื่อนกำลังเข้าสู่หัวพันห้าทั้งหก

เมื่อปราบฮ่อในแคว้นนี้ได้แล้วจึงได้ยกกำลังไปปราบฮ่อในแคว้นสิบสองจุไท
แต่ประสบปัญหาหลายประการเพราะเป็นช่วงฤดูฝน ขาดแคลนเสบียงอาหาร
ยารักษาโรคและเครื่องเวชภัณฑ์ แต่ด้วยความสามารถของแม่ทัพ
คือนายพันเอก จมื่นไวยวรนาถ (เจิม แสง-ชูโต) ทำให้พวกฮ่อยอมจำนน

พ.ศ. 2430 สงครามปราบฮ่อครั้งที่ 4 หัวหน้าฮ่อที่จงรักภักดีต่อไทยได้ถึงแก่กรรม
พวกฮ่อได้แตกออกเป็นก๊กเป็นเหล่า และได้ไปเข้าเป็นพวกกับฝรั่งเศสมากขึ้น
กองทัพฝรั่งเศสจึงได้รุกเข้ามาในสิบสองจุไท มาประจันหน้ากับกำลังทหารไทย
ที่ตั้งรักษาเมืองแถง

พ.ศ. 2431 นายพลตรีพระยาสุรศักดิ์มนตรี จึงยกกองทัพใหญ่จากหลวงพระบาง
ไปเมืองแถง ม.ปาวีได้เข้าพบแม่ทัพไทย แจ้งว่าสิบสองจุไทและหัวพันทั้งห้าทั้งหก
เป็นเมืองขึ้นของญวนขอให้ทัพไทยถอยออกไปให้พ้นเขต แต่แม่ทัพไทยได้ยืนยันสิทธิ
และอำนาจของไทยเหนือดินแดนดังกล่าวและปฏิเสธไม่ยอมถอนทหารจนกว่าจะได้รับคำสั่ง

ผู้บังคับการทหารฝรั่งเศสในแคว้นสิบสองปันนาคือ นายพันตรี เปนเนอแกง
จึงได้ทำสัญญากับพระยาสุรศักดิ์มนตรี เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ.2431 ความว่า
1. ในระหว่างที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้ข้อตกลงกันทหารฝรั่งเศสจะตั้งอยู่ในสิบสองจุไท
ทหารไทยจะตั้งอยู่ในหัวพันทั้งห้าทั้งหกและเมืองพวน ต่างจะไม่ล่วงเข้าไปในเขตซึ่งกันและกัน

2.ที่เมืองแถงนั้นไทยและฝรั่งเศสจะตั้งอยู่ด้วยกันจนกว่ารัฐบาลทั้งสองฝ่ายจะตกลงกันได้
3.ไทยและฝรั่งเศสจะช่วยกันปราบฮ่อที่เป็นโจรผู้ร้ายอยู่ตามเขตแดนของตนให้สงบราบคาบ

พระยาสุรศักดิ์มนตรีได้ถอยทัพใหญ่มาอยู่ที่หลวงพระบาง ฝ่ายฝรั่งเศสพยายามจะให้
ทหารไทยที่เมืองแถงถอยลงมา แต่แม่ทัพไทยปฏิเสธเด็ดขาด และแจ้งว่าพร้อมที่จะรบ
ทำให้ฝรั่งเศสต้องสงบ เมื่อเห็นเหตุการณ์สงบลงสยามจึงถอนกองทัพจากหลวงพระบาง




อนุสาวรีย์ของนายปาวี ซึ่งปัจุบันถูกเก็บรักษาไว้ในสถานทูตฝรั่งเศสประจำกรุงเวียงจันทน์

พ.ศ. 2434 ได้โปรดเกล้าให้รวมหัวเมืองฝ่ายเหนือ และจัดแบ่งออกเป็นภาค ๆ
เพื่อสะดวกในการปกครอง โดยมีข้าหลวงไปประจำรักษาเป็นภาค ๆ ดังนี้

ภาคลาวกาว มีเมืองอุบล เมืองจัมปาศักดิ์ รวมเมืองใหญ่ 21 เมือง
เมืองขึ้นอีก 43 เมือง มีกรมหลวงพิชิตปรีชากร เป็นข้าหลวงใหญ่
ภาคลาวพวน มีเมืองหนองคาย เมืองขอนแก่น รวมเมืองใหญ่ 11 เมือง
เมืองขึ้นอีก 36 เมือง มีกรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม เป็นข้าหลวงใหญ่

ภาคลาวเฉียง มีเมืองเชียงใหม่ เมืองลำปาง เมืองลำพูน เมืองน่าน เมืองแพร่
และเมืองขึ้นของหัวเมืองเหล่านั้น มีพระยาไกรโกษา เป็นข้าหลวงใหญ่
ภาคลาวพุงขาว มีเมืองหลวงพระบาง สิบสองปันนา สิบสองจุไท หัวพันทั้งห้าทั้งหก
มีกรมหมื่นสรรพสิทธิประสงค์ เป็นข้าหลวงใหญ่

4 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2435 รัฐสภาฝรั่งเศสด้วยมติที่เกือบเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้ดำเนินการ
เกี่ยวกับข้อขัดแย้งเรื่องเขตแดนกับไทยโดยทันที โดยให้รัฐบาลใช้วิธีการที่ดีที่สุด
ที่จะทำการให้สำเร็จโดยเร็ว โดยเสียเงินและเลือดเนื้อน้อยที่สุด

2 มีนาคม พ.ศ. 2435 ฝรั่งเศสได้มีคำสั่งไปยังกงสุลฝรั่งเศสประจำกรุงเทพ
ให้แจ้งต่อรัฐบาลสยามว่า ฝรั่งเศสจะไม่ยอมให้ผู้ใดล่วงล้ำเขามาในเขตแดน
ฝั่งซ้ายลำน้ำโขงอีกต่อไป ให้ถือว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของฝรั่งเศสแล้ว

21 มีนาคม พ.ศ.2435 ผู้สำเร็จราชการอินโดจีนได้มีคำสั่งใจความว่า
รัฐบาลฝรั่งเศสได้ตกลงใจที่จะกำจัดการรุกล้ำเขตแดนที่ฝ่ายไทยกระทำอยู่
การนี้คงจะกระทำได้โดยง่าย แต่เกรงว่าในขณะที่เรากำลังดำเนินการอยู่
ทางแม่น้ำโขงตอนล่าง ฝ่ายไทยคงจะหาทางก่อเหตุเป็นศัตรูแก่เราทางประเทศญวน
จำเป็นต้องเพิ่มกำลังตามชายแดนให้มีมากขึ้น จึงให้ดำเนินการทุกแห่งพร้อมกัน

ฝรั่งเศสเริ่มดำเนินการรุกล้ำแบ่งกำลังออกเป็นสามกอง ใช้ทหารอาสาสมัครญวน
แลเขมรเป็นส่วนใหญ่ โดยมีนายทหารฝรั่งเศสเป็นผู้บังคับบัญชา
กองที่ 1 มุ่งเข้ายึดเมืองสตึงเตรงและเมืองสีทันดร
ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงตอนล่างเหนือกรุงพนมเปญขึ้นไปต่อชายแดนลาวในปัจจุบัน

สภาพของแม่น้ำโขงระหว่างสองเมืองนี้ มีเกาะแก่งอยู่มากเรือเดินไม่สะดวก
จำเป็นต้องยึดเมืองสีทันดรเพื่อสะดวกในการคมนาคมกับเมืองอื่นที่อยู่ทางเหนือขึ้นไป
โดยใช้กำลังทหารญวน 200 คน และใช้กำลังทหารเขมรเป็นจำนวนมากเดินทางด้วยเรือ
เข้าขับไล่กำลังของไทยที่ตั้งรักษาด่านอยู่ที่ตำบลตะบงขลา และเสียมโบก

2 เมษายน พ.ศ.2436 ได้รุกมาถึงเมืองสตึงเตรง ขับไล่ข้าหลวงคือหลวงพิพิธสุนทร (อิน)
ให้ออกไปอยู่เมืองท่าราชปริวัตรซึ่งอยู่ทางฝั่งขวาของลำน้ำโขง
4 เมษายน พ.ศ.2436 กำลังทหาร 400 คน เข้ายึดเมืองสีทันดร ซึ่งมีพระประชาคดีกิจ (แช่ม)
รักษาการณ์อยู่ มีการต่อสู้กันเล็กน้อย

10 เมษายน พ.ศ.2436 กรมหลวงพิชิตปรีชากรข้าหลวงใหญ่อุบลได้เกณฑ์กำลังคน
จากหัวเมืองต่าง ๆ เช่น ศรีษะเกษ ขุขันธ์ สุรินทร์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด สุวรรณภูมิ
และยโสธร ให้พระศรีพิทักษ์ (หว่าง) ข้าหลวงเมืองขุขันธ์ คุมกำลังไปตั้งรักษาอยู่
ที่เมืองมโนไพร และเมืองเซลำเภา

ให้นายสุจินดาคุมทหาร 100 คน และกำลังคนอีก 500 คน ไปตั้งรับอยู่ที่ดอนสาคร
พระประชาคดีกิจ ให้ท้าวรกิติกาคุมคนเมืองอุบล 500 คนไปสมทบกับนายสุจินดา




 

Create Date : 16 มกราคม 2555
2 comments
Last Update : 19 มกราคม 2555 16:37:31 น.
Counter : 3902 Pageviews.

 

ทัพหน้า ก็คือศาสนาเลยนะคะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 18 มกราคม 2555 16:08:23 น.  

 

พยายามอ่านช้าๆ ค่ะ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 22 กุมภาพันธ์ 2556 16:52:22 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]