Bloggang.com : หอมกร : 9 นิสัยเสีย ที่ทำให้อ้วน

9 นิสัยเสีย ที่ทำให้อ้วน

วันนี้ได้รับสาระดีดีจากคุณพิม แห่งห้องลุมพินีค่ะ
เธอบอกว่าเอามาฝากจาก "บางกอกทูเดย์"
จขบ. เห็นว่าน่าสนใจดีเลยขออนุญาตเอามาฝากกันนะคะ

1.กินข้าวเร็วเกินไป
การกินข้าวเร็วมาก ๆ จนแทบไม่เคี้ยวหรือกินแล้วกลืนเลย
ทั้ง ๆ ที่คนอื่นยังเคี้ยวอยู่ แต่เรากินหมดเรียบร้อยแล้วนั้นไม่ดี
แน่ ๆ เพราะว่าการกินข้าวเร็วนั้น กระเพาะอาหารยังไม่ทันรับรู้
ถึงความรู้สึกอิ่มเลย จึงทำให้ยังรู้สึกหิวอยู่ทั้ง ๆ ที่เพิ่งกินไป
ดังนั้น ทางที่ดีควรค่อย ๆ กินจะดีกว่า หากไม่ได้จะรีบไปไหน
ที่สำคัญควรดื่มน้ำเยอะหน่อย จะได้อิ่มไว ๆ ค่ะ

2.ดูโทรทัศน์ไป กินไป
นี่ก็เป็นสาเหตุใหญ่อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อ้วน ยิ่งหากดูกีฬาแล้วล่ะก็
ถ้าจะให้สนุกยิ่งขึ้นก็ต้องมีน้ำอัดลมกับขนมขบเคี้ยวไว้กินระหว่างดู
ถึงจะเชียร์กีฬาสนุก แต่โค้กกับขนมขบเคี้ยวเหล่านั้นต่างก็แคลอรี่สูงทั้งคู่
ร่วมทั้งสองอย่างหากกินในคราวเดียวกันก็ปาเข้าไปไม่ต่ำกว่า 500 แคลอรี่
นี่เฉพาะอาหารว่าง แต่ถ้าเรากินของเหล่านี้เป็นอาหารหลักแล้วไม่อ้วน
ก็ให้รู้ไป พฤติกรรมแบบนี้เรียกว่ากินแล้วไม่ค่อยคำนึงถึง
เพราะกินไปเรื่อย ๆ หมดก็ไปเอามากินอีก
ลองเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ได้ไหมว่า เชียรืกีฬาไป กินผลไม้ไป
จะเป็นการเชียร์กีฬาที่ส่งผลดีต่อสุขภาพอย่างแท้จริงค่ะ

3.เสียดายของ
ตั้งแต่เด็ก ๆ เราจะได้รับการอบรมสั่งสอนว่าอย่าทานข้าวเหลือ
สงสารชาวนาที่ต้องปลูกข้าวด้วยความยากลำบาก แม้จะอิ่มแล้ว
แต่ก็ต้องกินให้หมด แต่บางทีการลดความสงสารของชาวนาลง
แล้วหันมาสงสารตัวเราเองบ้างด้วยการกินแต่พออิ่ม
ไม่ต้องรับผิดชอบต่อสังคมขนาดต้องกินให้หมด
แล้วต้องมาเสียเงินสำหรับลดน้ำหนักอีก ไม่คุ้มเอาเสียเลยค่ะ
4.เครียดแล้วกิน
อาการเครียดแล้วกินนั้น น่าจะเป็นอาการทางจิตชนิดหนึ่ง
ประมาณว่า ประชดออะไร ไม่พอใจ หรือเครียด ก็เอาอาหารเป็นที่ระบาย
อย่างเช่นเวลาอกหัก คนโดยมากมักจะกินข้าวไม่ลง
แต่ก็มีบางคนที่กลับกลายเป็นเวลาแห่งการกินแหลก
แต่ผลที่ตามมาก็ต้องนั่งกลุ้มใจกับน้ำหนักที่เพิ่มพูนขึ้นค่ะ

5. ให้รางวัลโดยการกิน
นี่ก็เป็นนิสัยหนึ่งที่ชอบเป็นกันนัก เวลาดีใจหรือทำอะไร
ประสบความสำเร็จ ต้องมีการนัดฉลองกัน ทั้งฉลองสอบได้
ฉลองได้ลูกค้าใหม่ ฉลองวันเกิดฉลองกันได้ทุกวี่ทุกวัน
ลองเปลี่ยนวิธีการให้รางวัลมาเป็นแบบของขวัญ หรือไปเที่ยว
หรืออะไรก็ได้ ที่ไม่ต้องมาโยงกับการกิน เท่านี้ความอ้วนก็จะไม่ถามหาค่ะ

6.กินอาหารคาว ต้องตามด้วยของหวาน
ไม่รู้ทำไมต้องเป็นสูตรแบบนี้ ที่กินอาหารคาวแล้ว
ก็ต้องตบท้ายด้วยของหวาน อย่างพวกกล้วยบวชชี แกงบวดฟักทอง
ถั่วดำ และอีกสารพัดกินแบบนี้มาอย่างต่อเนื่อง
นาน ๆ ไปจะไม้อ้วนได้ยังไงไหว ลองเปลี่ยนของหวานที่เคยกินอยู่
เป็นผลไม้จะดีกว่า อย่าง แอปเปิ้ล ฝรั่ง แตงโม
ได้ทั้งความหวานอร่อยและได้ทั้งสุขภาพที่ดีตามมาด้วยค่ะ

7.ต้องเอาให้คุ้ม
ไปกินบุฟเฟต์ กินเท่าไรก็ได้ อย่างนี้ต้องกินให้เยอะ ๆ เอาให้คุ้ม
ตักพูนจาน กินจนหมด อิ่มแล้วแต่ยังไม่คุ้ม ต้องไปตักเอามากินอีก
คนที่ไปกินอาหารแบบบุฟเฟ่ต์เกือบทุกคนจะมีความรู้สึกแบบนี้กัทั้งนั้น
คือจะตั้งหน้าตั้งตากินและตั้งหน้าตั้งตาตักเพื่อให้คุ้มกับราคาที่เสียไป
จนไม่รู้ตัวว่ากินเข้าไปเยอะขนาดไหนแล้ว หากใครมีพฤติกรรมแบบนี้
ควรเลิกเสียเถอะ เพราะนอกจากที่จะจุกเพราะกินมากไปแล้ว
ต้องมานั่งกลุ้มเรื่องน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ๆ แบบไม่คุ้มกันเลยค่ะ

8.ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ
หลายครั้งที่เราพยายามลดน้ำหนัก แต่พอไม่ค่อยลดก็รู้สึกท้อใจแล้ว
หันกลับไปกินมากเหมือนเดิมหรืออาจจะมากกว่าเดิม
แถมยังยอมรับโดยดุษฎีว่า ความอ้วนยังไงก็ต้องอยู่ติดตัวคู่กับเราไป
ทั้งชีวิตแน่ ๆ อย่าไปเชื่อแบบนั้น เราต้องสู้เข้าไว้
พยายามให้กำลังใจตัวเองในการลดน้ำหนัก
อาจจะหาแรงผลักดันอื่น ๆ มาช่วยเสริม เช่น เสื้อผ้าสวย ๆ
หรือสุขภาพที่ดี มาเป็นแรงกระตุ้นให้เรามีกำลังใจที่จะลดต่อไป
หากยอมแพ้วันนี้ก็ต้องแพ้ไปตลอด
แต่หากสู้ เราก็ยังมีหวังเอาชนะได้เช่นกันค่ะ

9.ออกกำลังกายแล้วกินเยอะขึ้น
พฤติกรรมแบบนี้เป็นกันหลายคน คิดแต่ว่าเวลาออกกำลังกาย
เราก็ใช้พลังงานไปเยอะแล้ว ฉะนั้นต้องให้รางวัลด้วยการ
กินเยอะขึ้นกว่าเดิม ผลที่ตามมาก็คือ "อ้วน" เท่าเดิม
ที่ออกกำลังกายไปกลับกลายเป็นคืนกลับมาหมด
หลายคนคิดว่าการออกกำลังกายทำให้กินเยอะขึ้นหรือเปล่า
ตอบได้เลยว่า ไม่จริง ที่กินเยอะนั่นเป็นเรื่องของจิตใจเรามากกว่า
ยกตัวอย่าง หากออกกำลังกายโดยการวิ่ง 1 ชั่วโมง
อย่างมากก็เผาผลาญพลังงานไปได้ประมาณ 600 แคลอรี
จำนวนแคลอรี่เผาผลาญไปจำนวนนี้ หากกินอาหารที่มีไขมันสูง
เช่น มันฝรั่ง น้ำอัดลม มันก็เกิน 600 แคลอรีแล้วค่ะ

อ้วนได้ก็ผอมได้ค่ะ หากเราตั้งใจจริงที่จะลดน้ำหนัก
และหลีกเลี่ยงพฤติกรรม 9 แบบที่กล่าวมา
แค่นี้ก็หุ่นสวยและสุขภาพดีก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วค่ะ
(อะแฮ่ม จขบ. ว่ามันเลี่ยงยากอยู่นา แต่ก็ขอเอามาฝากกันค่ะ
เผื่อใครบางคนที่ตั้งใจจะลดหุ่นจริงๆ)

สำหรับวันนี้จบแค่นี้ดีกว่า เฮ้ออัพบล็อกเหนื่อยจังมีอะไรกินบ้างนะเนี่ย

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2550

Last Update : 3 พฤศจิกายน 2550 20:54:41 น.

25 comments

Counter : 525 Pageviews.

ดีใจจังได้มาเจิมคนแรกเลย.....

สวัสดีค่ะคุณหอมกร ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ มดทิพย์ขอบพระคุณมากนะค่ะที่ร่วมอนุโมทนาบุญในครั้งนี้

ขอให้คุณหอมกรและครอบครัวมีความสุข เจอแต่สิ่งที่ดีในชีวิต ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยค่ะ

แล้วจะหลังไมค์มาบอกอีกทีค่ะว่าได้รับแล้ว

โดย: มดทิพย์

วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:17:15 น.

ขออีกทีนะค่ะ....อยากจะบอกว่า9นิสัยนี้เป็นของมดทิพย์ทุกข้อเลยค่ะ

ว่าแล้วเชียวทำไมถึงอ้วน เศร้าค่ะ อ้วนเกินไป ขอบคุณมากค่ะที่นำความรู้มาฝากคนอ้วนอย่างมดทิพย์

โดย: มดทิพย์

วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:21:32 น.

โห ถ้าไม่ทำตามนี่จะมีโอกาสอ้วนใช่เปล่า
จะฝ่าฝืนทุกข้อเลย จะได้อ้วน ๆ ขึ้นมาบ้าง

โดย: 9A

วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:21:57 น.

ขอบอกเลยว่าเป็นข้อหนึ่งกับข้อสามค่ะ อิอิ

โดย: เชอรี่ (JAN_CHERRY

) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:22:04 น.

ว่าไปแล้วเราเองก็เข้าข่ายนิสัยเสียที่ชอบกินแบบนี้เหมือนกันนะเนี่ย
เข้ามาอ่านบล็อกนะจ๊ะ และอยากบอกว่าอยากได้โค้ดเพลงนี้จังเลย จะกรุณาบ้างมั้ยเนี่ย ขอบคุณล่วงหน้าละกันนะ

โดย: อมฤตาลัย

วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:49:24 น.

สวัสดีค่ะ เราเป็นอย่างข้อหนึ่งกับข้อหกหละ

เรื่องเสียดายของนี่ หลังๆ ไม่ค่อยเป็นแล้วค่ะ แหะๆ

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:54:28 น.

กี้เป็นทุกข้อที่กล่าวมาเลยค่ะ...แย่จังเลย...ชีวิตนี้ต้องพึ่งอาหารเสริม ควบคุมน้ำหนักตลอด..พูดแล้วเศร้า emo

เอ..แปลกจังวันนี้คุณหอมกรอัพบล๊อกวันเสาร์ด้วย.. emo

มีความสุขวันหยุดสุดสัปดาห์นะคะ...ไนท์ ไนท์ จุ๊บ จุ๊บ

โดย: ShoesMonster

วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:57:17 น.

อ๋า....ว่าแล้วเชียววว

เป็นมันซะทุกข้อ

ต้องละลดเลิกเสียบ้างแล้ว เหอะ ๆ

ขอบคุณนะคะที่เอามาเผยแพร่

โดย: ดุ่บดั่บ (PoYoKo

) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:27:49 น.

ดี.ไม่เป็นอะไรแบบนั้น
แต่จะเป็นคนเครียดแล้วนอน
อยากแต่จะนอน
แล้วพอเครียดมากขึ้นก็จะเริ่มอาเจียน
เป็นอาการทางจิต อิอิ
ไม่เหมาะที่ใครจะลอกเลียนแบบล่ะน๊า

โดย: d__d (มัชชาร

) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:48:47 น.

สวัสดีครับ

อ่านไปงั้นแหละ...เพราะ เซียน ไม่อ้วนครับ...อิ อิ ก็อีกชื่อนึงชื่อเรียว อ่ะ

.....
จากบล็อก ทราบนานแล้วครับ เรื่องกฐินบล็อกแก๊ง
ไม่คิดทำบุญไถ่บาปหรอกครับ เพราะไม่เคยคิดว่าตัวเองมีบาป ต้องไถ่... ถึงมี มันก็ไถ่กันไม่ได้หรอก

และ หลักการทำบุญทำทาน ต้องไม่ทำให้ตนเองหรือคนอื่นเดือดร้อน
ตอนนี้ กฐินเฉพาะของเจ้านายหน่วยเหนือถึงหน่วยใต้... ก็เกินเงินเดือนแล้ว
(สงสัยกลัวลูกน้องไม่ได้ทำบุญ ขยันทำกฐินส่งซองมากันซะจริง... ให้ทำบุญตามแต่จิตศรัทธา แต่ห้ามต่ำกว่าห้าร้อยบาท...เฉพาะเดือนนี้หมดไปหลายพันแล้ว...เจ้านายได้หน้า แต่ว่าลูกน้องเสียตังค์)... ดังนั้น กฐิน ผ้าป่า อื่นๆที่ไม่บังคับ ก็ ขอเว้นก่อนละกันครับ..
ไม่ได้ใจบาปหรือไม่อยากทำบุญนะ...แต่ตอนนี้ บุญมันจุกถึงคอหอยแล้ว
เฉพาะที่บังคับนี่ก็แทบ อ้วกเพล้ง แล้ว

มีความสุข นะครับ

โดย: เซียน_กีตาร์

วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:7:35:25 น.

555 ไม่บอกว่าเป็นข้อไหน หวัดดีในวันหยุดครับ

โดย: boatboat

วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:49:08 น.

เพื่อนพูดถูกเป๊ะเลย....อยากมีเงินเลยต้องทำงาน..ทู๊กวันเลย..อยากมีเยอะด้วย..ตอนนี้ก็เลยซื้อหวยทูกงวดเหมือนกัน...5555555555

โดย: tai (taibangplee

) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:27:09 น.

คิดถึงคุณหอมกรวันอาทิตย์ เลยแวะมาหา วันอาทิตย์ ค่า...

ไปเที่ยวที่ไหนเอ่ย วันนี้...

...

กี้ญาติเต็มบ้านอีกแล้ววันนี้..เหนื่อยเลย emo

โดย: ShoesMonster

วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:48:36 น.

อิ อิ หนูมะได้เป็นไฮโซจ้ะ แต่บางอารมณ์ชอบทำตัวไฮโซ

คลายเครียด & รักสวยรักงาม จ้ะ...เจ้
หนูมะเน้นเรื่องกินแพง ๆ เน้นเรื่องไร้สาระค่ะ

ป.ล. เจ้รู้ไหมปีนี้คลอเรสเตอรอลหนูลดจาก 189 เหลือ 156 กำลังงง ๆ อยู่เหมือนกันว่ามีสาเหตุจากอะไร

แต่ออกกำลังกายมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะค่ะ

//www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L5984766/L5984766.html

โดย: ปุ๊กกี้&คิตตี้ (ปุ๊กกี้&คิตตี้

) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:08:02 น.

อ้อ...อ้อ น้ำหนักลดมากิโลนึงแล้วด้วย

โดย: ปุ๊กกี้&คิตตี้ (ปุ๊กกี้&คิตตี้

) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:09:02 น.

กำลังอัพอยู่อย่าเร่งสิ.. emo

....

เขียนไม่เสร็จซะที เพราะคุณสามีกวนใจเหลือเกิน..มันเลยเคิก..ในการเขียน .55555 (เข้าใจมั้ยเนี่ย คำว่า เคิก น่ะ) emo

โดย: ตนที่คิดถึ้ง คิดถึง คุณหอมกรค่ะ (ShoesMonster

) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:13:04 น.

จริง ๆ แล้วหนูก็ไม่ชอบออกกำลังกายเหมือนกันจ้ะ

แต่อยากสุขภาพแข็งแรง เพราะปวดบ่อยเหลือเกิน เป็นโน่นเป็นนี่

แต่ตรวจร่างกายทีไร ทุกอย่างเปอร์เฟ็คท์
<หมายถึง ผลเลือด นะคะ อย่างอื่น เช่น ระบบทางเดินอาหาร ความเครียด ปวดนู่นปวดนี่ ไม่รวม>

มันเป็นไฟลท์บังคับค่ะ พี่หอมเริ่มซีคะ ต้องทำได้แน่ ๆ

โดย: ปุ๊กกี้&คิตตี้ (ปุ๊กกี้&คิตตี้

) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:49:32 น.

แวะมาเยี่ยม คับ ++ ระหว่างปฎิบัติหน้าที่ เหตุการณ์ปกติคับ ++

โดย: พญาคชสาร

วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:55:15 น.

เป็นข้อ 1 - 5 เลยนะเนี่ย

แถมอีกนิสนึง คือ ชอบลืมไปว่า กำลังลดน้ำหนักอยู่ เอิ๊ก ๆ เลยกินซะเต็มคราบเลย คุคุคุ

โดย: oou (oksayyes

) วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:43:22 น.

ขอบคุณ คุณ oou ที่มาเยี่ยมกันนะจ๊ะ

โดย: หอมกร

วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:07:29 น.

พระเจ้า...บอกมาเก้าข้อ
ข้าพเจ้าตรงเป๊ะทุกข้อเลยว่อยยยย

อร๊ากกก ชาตินี้จะผอมกะเค้าบ้างมั้ยเนี่ยย แงๆๆๆ

โดย: N'SinE

วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:24:03 น.

เอ สงสัยว่า ผมคอมเม้นท์ แล้วมันไม่ขึ้น หรือว่า อะไรหนอ อย่างไรก็ตาม ผมรู้สึกยินดีที่ได้เข้ามาพานพบครับ

โดย: POL_US

วันที่: 6 ธันวาคม 2550 เวลา:16:37:37 น.

น่าสนใจครับ
เอาคำเด็ดๆ จากหนังสือ 90 วันฯ มาแจม
เขาบอกว่า ให้ทานมื้อเช้าเป็นพระราชา มื้อเที่ยงเป็นราชินี และมื้อเย็นเป็นเจ้าหญิง คือทานมื้อเย็น้อยๆ

และให้ทานก่อนจะนอน 3 ชม. เป็นอย่างน้อย

เคล็ดลับความผอมอีกสามข้อ คือ ควบคุมอาหาร, ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอครับ

ลองดูเพิ่มเติมที่ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=amp-atom&month=02-2008&date=20&group=3&gblog=75

โดย: คนขับช้า IP: 203.130.145.67 วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:13:34 น.

มันยังใช้ได้จนทุกวันนี้นะ

โดย: หอมกร

วันที่: 16 มีนาคม 2566 เวลา:19:56:00 น.

โดย: หอมกร

วันที่: 16 มีนาคม 2566 เวลา:19:56:17 น.