|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ทำงานอย่างไรให้มีความสุข
สวัสดีเช้าวันทำงานอันสดใสของสัปดาห์ วันนี้ จขบ. ขอนำเสนอเรื่อง ทำงานอย่างไรให้มีความสุข ของคุณ ณรงค์ หลักกำจร ค่ะ ติดตามกันได้เลย
ในสภาวะปัจจุบันสภาพความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคม โดยเฉพาะสังคมเมืองมีความสับสนวุ่นวาย ต้องดิ้นรนแย่งชิงความได้เปรียบกันอยู่ตลอดเวลา เพื่อความอยู่รอดของตนเองเป็นหลัก
การจะให้ตัวเองมีชีวิตรอดอยู่ในสังคมได้อย่างที่เรียกว่า ไม่เป็นภาระกับสังคมก็คงหนีไม่พ้นการมีงานทำ หากจะกล่าวถึงการมีงานทำก็จะต้องมองไปถึงว่า ใครทำงานอะไร มีงานทำที่ถูกใจ หรือมีรายได้พอ ที่จะเลี้ยงตัวเองได้เพียงใด
ดังนั้นเมื่อทุกคนจะต้องทำงานตามเหตุผลความจำเป็น ซึ่งคงไม่มีใครหาคำตอบได้ดีที่สุดเท่ากับตัวเราเองแล้ว การจะทำอย่างไรให้ทำงานอย่างมีความสุข นำไปสู่เป้าหมายที่คาดหวังไว้ จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะให้ความสำคัญ
ชีวิตคนทำงานส่วนใหญ่ต้องใช้เวลา อยู่กับงานประมาณวันละ 7-8 ชั่วโมง เป็นอย่างต่ำหรือประมาณ 1 ใน 3 ของเวลา 24 ชั่วโมงในแต่ละวัน การเสริมสร้างความสุขในการทำงานจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะนอกจากจะทำให้ชีวิตมีความสุขแล้ว ยังทำให้ผลงานออกมาดี มีประสิทธิภาพ เป็นที่น่าพอใจ
จะรู้ได้อย่างไรว่าไม่มีความสุขในการทำงาน คนที่ไม่มีความสุขในการทำงาน มักมีลักษณะต่างๆ ให้สังเกตได้ ดังนี้ ด้านร่างกาย : มักจะเจ็บป่วยบ่อยๆ เช่น ปวดศีรษะ ไมเกรน ปวดท้อง เป็นไข้หวัด ภูมิแพ้ ปวดหลัง ปวดไหล่ อ่อนเพลีย ใจสั่น นอนไม่หลับ ความดันโลหิตสูง ฯลฯ ทำให้ต้องลาป่วย หรือขาดงานเป็นประจำ
ด้านจิตใจ : มักจะวิตกกังวล คิดมาก คิดฟุ้งซ่าน หลงลืมง่าย หงุดหงิด โกรธง่าย ไม่มีสมาธิในการทำงาน ใจน้อย เซ็งชีวิต ซึมเศร้า หวาดระแวง ไม่มีความสุข ทำให้ใบหน้าเคร่งเครียด เศร้าหมอง ไม่น่าดู และยังขัดแย้งกับคนใกล้ชิดได้ง่ายด้วย
ด้านพฤติกรรม : มักจะสูบบุหรี่จัด ดื่มสุรามากขึ้นอาจใช้ยากระตุ้น หรือยาเสพติดต่างๆ ชอบชวนทะเลาะจู้จี้ขี้บ่น เก็บตัว ฯลฯ ทำให้เสียความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิด ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน และยังทำให้เสียการเสียงานด้วย
จากลักษณะอาการต่างๆ ข้างต้น หากเกิดขึ้นกับใครๆ ก็พอจะประมาณตัวเอง ได้แล้วว่าไม่มีความสุขกับการทำงานแน่นอนแล้ว ดังนั้นจึงขอเสนอวิธีเสริมสร้างความสุขในการทำงาน ได้แก่
*พัฒนาทักษะในการทำงาน สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนเราไม่ค่อยมีความสุข ในการทำงานคือ ต้องทำงานที่ไม่ถนัด งานที่ยาก งานที่ไม่ตรงกับความรู้ความสามารถ ทำให้หมดกำลังใจในการทำงาน ดังนั้นหาก สามารถพัฒนาตนเองให้มีความรู้ความสามารถ ในการทำงานมากขึ้น โดยการใฝ่หาความรู้เพิ่มเติม อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ ตำรา ดูโทรทัศน์ สมัครเข้ารับการฝึกอบรมระยะสั้น หาโอกาสเรียนต่อนอกเวลาทำงน จะช่วยให้ทำงาน ได้คล่องขึ้น ผิดพลาดน้อยลง ประสบความสำเร็จมากขึ้นได้
*พัฒนาทักษะการดำเนินชีวิต คนที่ไม่ค่อยมีความสุขในชีวิต มักจะเป็นคนที่มองโลกในแง่ร้าย ขาดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ชอบใช้อารมณ์ มากกว่าเหตุผล เอาแต่ใจตนเอง เข้ากับผู้อื่นไม่ค่อยได้ ฯลฯ ดังนั้น หากสามารถพัฒนาตนเองให้มีทักษะในการดำเนินชีวิต ได้ดีขึ้น ก็จะทำให้มีความสุขมากขึ้น
ทักษะการดำเนินชีวิตที่ควรพัฒนา ได้แก่ *การตัดสินใจ โดยใช้เหตุผล ไม่ใช่อารมณ์ *การแก้ปัญหา โดยแก้ที่สาเหตุที่เป็นจริง ไม่เข้าข้างตัวเอง และก็ไม่โทษผู้อื่น ทุกปัญหามีทางออกเสมอ ถ้าคิดไม่ออกก็อย่าอายที่จะปรึกษาผู้อื่น *การคิดริเริ่มสร้างสรรค์ คิดและทำในสิ่งใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ชีวิตดีขึ้น คิดทางบวก ชีวิตนี้ยังมีหวังอย่าเพิ่งท้อแท้เสียก่อน *การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นผู้ฟังที่ดีตั้งใจฟังเวลาคนอื่นพูด โดยหมั่นเอาใจเขามาใส่ใจเรา หัดวิเคราะห์ความต้องการของผู้อื่น จะได้ตอบสนองได้อย่างถูกต้อง ไม่เอาแต่ใจตนเอง *การควบคุมอารมณ์ โดยระมัดระวัง อย่าโกรธจัดจนก้าวร้าว หรือคิดมาก ใจน้อย จนชีวิตหดหู่ ให้ยิ้มสู้เข้าไว้แล้วอารมณ์จะค่อยๆ ดีขึ้นเอง
* พัฒนาสิ่งแวดล้อมในสถานที่ทำงาน สถานที่ทำงานเปรียบได้กับบ้านที่สองของเรา จึงควรดูแลให้น่าอยู่ น่าทำงาน อยู่เสมอ เพื่อความสุขในการทำงาน เช่น
*ดูแลโต๊ะทำงานให้สะอาด จัดของให้เป็นระเบียบ เพื่อจะได้หยิบใช้ได้สะดวก ไม่ต้องอารมณ์เสีย เพราะหาของไม่พบ *หาของที่จะช่วยเตือนให้มีกำลังใจในการทำงาน วางไว้ใกล้ๆ ตัว เช่น ภาพครอบครัว คนรัก ของที่ระลึกเมื่อครั้งหน่วยงานส่งไปดูงานต่างประเทศ ของขวัญที่ลูกค้าให้เพื่อตอบแทนน้ำใจ ที่ได้รับบริการที่ดี บทกลอนเตือนใจ เป็นต้น *จัดวางกระถางต้นไม้ แจกันดอกไม้ ไว้ในบริเวณที่ทำงาน เพื่อสร้างความสดชื่น ให้กับสถานที่ทำงาน *เปิดเพลงเบาๆ ขณะทำงาน เพื่อช่วยให้ ผ่อนคลายและทำงานได้อย่างเพลิดเพลิน *ช่วยกันออกความคิด และลงมือลงแรง สละเวลา จัดสถานที่ทำงานให้น่าอยู่ น่าทำงาน เพื่อความสุขร่วมกัน
จากที่กล่าวมาข้างต้นจะพบว่า วิธีเสริมสร้างความสุขในการทำงาน หรือทำงนให้มีความสุขนั้น มีแนวทางอยู่ 3 ประการ คือ การพัฒนาทักษะในการทำงาน การพัฒนาทักษะในการดำเนินชีวิต และการพัฒนาสิ่งแวดล้อมในการทำงาน
แต่เมื่อมนุษย์มิใช่เครื่องจักรมีชีวิตจิตใจ การทำงานที่จะต้องพบกับปัญหาอุปสรรค การตัดสินใจตลอดจนภาวะแวดล้อมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมากมายสิ่งที่ตามมาก็คือ ความเครียดจากการทำงานดังนั้นเมื่อ มีความเครียดทางออกก็มีหลายวิธี ได้แก่
*การออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬากับเพื่อนๆ หลังเลิกงาน *การไปพบปะสังสรรค์ รับประทานอาหารกับเพื่อนฝูง *การดูละครโทรทัศน์ ดูภาพยนตร์ ฟังเพลง *การเล่นกับลูกๆ หรือเล่นกับสัตว์เลี้ยง *การรดน้ำต้นไม้ ดูแลไม้ดอกไม้ประดับที่บ้าน *การทำการฝีมือ เย็บปักถักร้อย *การซ่อมแซมของใช้ในบ้าน ตกแต่งบ้าน *การอ่านหนังสืออ่านเล่น หนังสือธรรมะ *การสวดมนต์ไหว้พระ การทำสมาธิ โดยการทำใจให้สงบ หายใจเข้าออกเป็นจังหวะช้าๆ และนับลมหายใจไปเรื่อยๆ
นอกจากนี้ เพื่อให้การทำงานไม่เกิด อาการเบื่อหรือเซ็งกับงานที่ทำ ก็ควรจะ กำหนดเป้าหมายชีวิตให้ชัดเจน มิใช่ทำงานไปวันๆ และมองไม่เห็นอนาคต กล่าวคือ ท่านแนะนำว่า ให้วางเป้าหมายชีวิตให้ชัดเจน มิใช่ทำงานไปวันๆ และมองไม่เห็นอนาคต กล่าวคือ ท่านแนะนำว่า ให้วางเป้าหมายในชีวิตในการทำงานให้ชัดเจน มีกำหนดเวลาที่แน่นอนมีวิธีปฏิบัติที่สามารถกำหนดได้จริง จะช่วยให้เกิดความกระตือรือร้น และสนุกกับการทำงานมากขึ้นได้ ซึ่งสามารถกำหนดเป้าหมายชีวิตการทำงานได้ทั้งระยะสั้น ว่างานนั้นที่ควรเสร็จเมื่อใด และทำให้ได้ตามนั้น ก็จะเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง ส่วนระยะยาวก็ควรมองอนาคตว่าอีก 5 ปี 10 ปี เราควรจะอยู่ที่ตำแหน่งใด ยังจะทำหน้าที่เดิมหรือไม่ ถ้าจะเปลี่ยนงานจะเป็นงานอะไรต้องการคุณสมบัติอะไร เรามีคุณสมบัติตามนั้นหรือยัง เราจะได้รู้ว่าจะต้องพัฒนาตัวเองอย่างไรต่อไป ซึ่งการมีความหวังหรือคาดการณ์อนาคตที่ดีอยู่ข้างหน้า จะช่วยให้สามารถอดทนฟันฝ่าอุปสรรคปัจจุบันไปได้ และทำให้รู้สึกสนุกกับงานมากขึ้นกว่าเดิมด้วย
ที่นำเสนอมาตั้งแต่ต้น เป็นแนวทางที่ท่านผู้เชี่ยวชาญ ทางด้านสุขภาพจิตแนะนำ ส่วนท่านใดแนะนำก็คง ไม่ต้องไปลงรายละเอียด รู้แต่ว่าถ้าทำได้อย่างน้อยสักครึ่งหนึ่ง ก็คงทำให้อะไรที่แย่ๆ ดีขึ้นมากกว่าเดิมแน่นอน ท้ายที่สุดกระผมเองก็ขอออกตัวก่อนว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถควบคุมชีวิตให้ได้ตามที่แนะนำสักเท่าไร แต่ก็พยายามปฏิบัติอยู่เหมือนกัน หากท่านใดปฏิบัติอยู่แล้ว ก็ถือว่าท่านเป็นผู้ที่โชคดีและมีความสุขกับการทำงานแล้ว ส่วนท่านที่จะลองปฏิบัติก็ยังไม่สายเกินไปครับ
ที่มา : วารสารกรมประชาสัมพันธ์ ปีที่ 9 ฉบับที่ 102 มิถุนายน 2548
Create Date : 27 สิงหาคม 2550 |
|
25 comments |
Last Update : 27 สิงหาคม 2550 11:25:52 น. |
Counter : 1256 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: aom_mY67 27 สิงหาคม 2550 8:39:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: azamiya 27 สิงหาคม 2550 15:00:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) 27 สิงหาคม 2550 18:14:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 27 สิงหาคม 2550 21:42:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: aom_mY67 28 สิงหาคม 2550 18:17:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: weraj 28 สิงหาคม 2550 20:57:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: อามมี่ IP: 124.157.165.153 25 กันยายน 2550 18:46:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: หอมกร 26 กันยายน 2550 13:49:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: โดเรมน25 IP: 61.90.148.18 17 เมษายน 2551 22:56:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: หอมกร 16 มีนาคม 2566 21:50:39 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 65 คน [?]
|
ทำงานราชการมีจิตใจรักชาติไม่น้อยกว่าใคร จากเดิมทำบล็อกหลากหลายที่ตนเองสนใจ ปัจจุบันเน้นแปะเรื่องราวจากภาพยนตร์ไว้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเพื่อการตัดสินใจไปดู
|
|
|
|
|
|
|
555 ที่ 1 ต้องเป็นของเราเท่านั้น