สงครามครั้งสุดท้าย แห่งรัตติกาลทไวไลท์
The Twilight Saga : Breaking Dawn Part 2 VIDEO สงครามแวมไพร์ที่จะเกิดขึ้นในช่วงไคลแมกซ์ ถือเป็นการ แนะนำให้รู้จักกับกลุ่มแวมไพร์ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม แวมไพร์เดนาลี พันธมิตรของครอบครัวคัลเลน กลุ่มแวมไพร์ จากอียิปต์ นำโดย เบนจามิน ที่มีความสามารถในการควบคุม ธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ รวมถึง การ์เร็ต แวมไพร์เร่ร่อน เจ้าเสน่ห์ ที่เป็นเพื่อนเก่าของ เอ็ดเวิร์ด 15 พฤศจิกายนนี้ เรื่องย่อ เบลล่าทรมานอย่างมากในการกลายร่างเป็นแวมไพร์ ในที่สุด เธอก็กลายเป็นแวมไพร์อย่างสมบูรณ์ พร้อมกับ สัญชาตญาณใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งการเคลื่อนไหว การคิด คำนวณที่รวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ ความกระหาย และ ความแข็งแกร่ง ที่เหนือกว่าแวมไพร์ทุกตน ตอนนี้เธอ กลายเป็นแวมไพร์เกิดใหม่แล้ว เบลล่าพบว่าเธอสามารถ ควบคุมความกระหายได้อย่างดี เธอสามารถควบคุม ตนเองได้ แต่ ก็ยังไม่มีใครให้เธอพบ เรเนสเม วันหนึ่ง ขณะที่เบลล่าออกล่าเหยื่อพร้อมกับเอ็ดเวิร์ด เธอ ได้กลิ่นหอมหวานยวนใจของเลือดมนุษย์ เบลล่ากระโจน เข้าใส่ทันทีตามสัญชาตญาณ แต่แล้วเธอก็กลับหยุด ตัวเองได้ แล้วหันกลับไปยังจุดเดิม นั่นทำให้ทุกตน รวมทั้งเอ็ดเวิร์ดประหลาดใจมาก เพราะแวมไพร์เกิดใหม่ มักจะควบคุมตนเองไม่ได้ แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะ หยุดยั้งตัวเองเรื่องของความกระหายเลือดมนุษย์ได้ เอ็ดเวิร์ดคิดว่านี่คือพรสวรรค์หรือความสามารถพิเศษ ของเบลล่า เอ็ดเวิร์ดเริ่มแน่ใจในเรื่องการควบคุมตัวเอง ของเบลล่า เหมือนกับพวกคัลเลนตนอื่นๆ เขาจึงตัดสินใจ ให้เธอพบเรเนสเม เบลล่าดีใจมาก เรเนสเมช่างเป็นสิ่ง พิเศษสุด เธอมีความสามารถพิเศษ สามารถสื่อสารกับ คนที่สัมผัสเธอโดยไม่ต้องพูด เธอสามารถทำให้เห็นสิ่งที่ เธอต้องการบอกได้ด้วยภาพ เหมือนความฝัน เรเนสเม โตขึ้นทุกวัน เธอชอบอ่านหนังสือที่มีคำกลอน ไม่ชอบ อ่านนิทานภาพแบบเด็กอื่น และไม่ชอบให้อ่านเรื่องซ้ำๆ วันหนึ่ง ขณะที่เรเนสเม เจคอบ และเบลล่า ออกล่าด้วยกัน เบลล่าพบแวมไพร์ตนหนึ่งกำลังเฝ้ามองพวกเธอ นั่นคือเอริน่า คู่ของโลรองต์ (ที่ถูกฆ่าตาย) เอริน่าเมื่อรู้ว่าเบลล่ารู้ตัว เธอคำรามแล้วหนีไป นี่ทำให้เบลล่ากังวลใจอย่างมาก จนกระทั่งวันหนึ่ง อลิซมองเห้นผ่านนิมิตของเธอ มันช่าง น่ากลัว ราวกับว่าเธออยู่ในความมืดดำของหลุมฝังศพ พวกโวลตูรีกำลังมุ่งหน้ามาทางฟอร์คส์ เพื่อกำจัดพวกเขา ทั้งหมด มันชัดเสียจนไม่มีทางเป็นอื่นไปได้ นี่คือความจริง สิ่งที่อลิซเห็นคือเอริน่าพบเรเนสเม และเธอรู้ว่าเรเนสเม ไม่ใช่มนุษย์ (เอริน่าคิดว่าเธอคือ เด็กอมตะผู้ซึ่งจะต้อง ถูกฆ่า หากพวกโวลตูรีรู้ความจริงข้อนี้ เพราะเด็กอมตะ เป็นตัวอันตราย ควบคุมสัญชาตญาณของตัวเองไม่ได้ และจะทำให้พวกแวมไพร์ถูกเปิดโปง) พวกโวลตูรีคงมา เพื่อกำจัดเรเนสเม นอกจากนั้นก็เป็นข้ออ้างที่จะทำลาย พวกคัลเลน (กลุ่มแวมไพร์อาวุโสที่สุดรองจากโวลตูรี ซึ่งอาจ สั่นคลอนบัลลังก์ของโวลตูรีได้หากต้องการ) รวมทั้ง เอ็ดเวิร์ด และ อลิซ ผู้ซึ่งมีพรสวรรค์ที่ทรงพลังยิ่ง (เอ็ดเวิร์ด ผู้อ่านใจ, อลิซ ผู้มีนิมิต มองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า) ทุกคน อยู่ในความตึงเครียด เพราะไม่มีทางที่จะชนะหากต่อสู้กับโวลตูรี และยิ่งรู้ว่าไม่มีทางหนี เจคอบรู้เรื่องนี้แล้ว แน่นอนพวกหมาป่า ก็รู้ด้วย พวกเขาเตรียมพร้อมจะสู้ แต่นั่นไม่มีประโยชน์ เบลล่า รู้ดี มีแต่พวกเขาจะเอาชีวิตมาทิ้งเท่านั้น ทุกคนถูกพิพากษาแล้ว พวกคัลเลนแยกย้ายกันออกตามหาเหล่าแวมไพร์ที่รู้จัก เพื่อให้กลับมารวมตัวกันที่บ้านคัลเลน เพื่อหวังว่าพวกเขา จะเป็นพยานต่อโวลตูรีได้ว่าเรเนสเมไม่ใช่เด็กอมตะ เบลล่า เอ็ดเวิร์ด และเรเนสเม อยู่รอต้อนรับที่บ้านคัลเลน แน่นอนในความคุ้มกันของพวกฝูงหมาป่า กลุ่มแวมไพร์แรกที่ มาถึงคือ กลุ่มเดนาลี (ธัญญา เคท อิลิซาร์ - คาร์เมน) ลิซาร์ เคยอยู่กับพวกโวลตูรีมีพลังพิเศษ สามารถล่วงรู้ได้ว่าแวมไพร์ ตนใดมีอำนาจพิเศษอะไรบ้าง พวกเดนาลีตกใจมากเมื่อพบ เรเนสเม เช่นเดียวกับเอริน่า พวกเขาคิดว่าเธอคือเด็กอมตะ แต่เมื่อสัมผัสเรเนสเมพวกเขาหลงรักเธอแทบจะทันที อลิซและแจสเปอร์ส่งเพื่อนมาอีกสองตน นั่นคือ ปีเตอร์ ชาร์ล็อต ต่อมา คาร์ไลล์ได้ส่งเพื่อนมาอีกสองกลุ่ม กลุ่มที่มาถึงก่อนเป็น แวมไพร์จากไอร์แลนด์ (ชิวอน - เลียม, แม็กกี้) ตามด้วยพวก แวมไพร์จากอียิปต์ (อามุน - เคบิ, เบนจามิน - เทีย) ชิวอนนั้น เป็นแวมไพร์สาวรูปร่างสูงใหญ่ เคลื่อนที่ได้พลิ้วไหวสง่างาม และ ดูสงบนิ่ง แต่น่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน ส่วนคู่ของเธอ - เลียม เป็นแวมไพร์หนุ่ม หน้าตาราบเรียบปราศจากการแสดงความรู้สึกใด ส่วนแม็กกี้เป็นแวมไพร์สาวร่างเล็ก ผมสีแดง เธอมีความสามารถ พิเศษ สามารถล่วงรู้ได้ทันทีว่าใครพูดจริงหรือว่าโกหก ดังนั้น เมื่อแม็กกี้ประกาศว่าเอ็ดเวิร์ดพูดความจริงเกี่ยวกับเรเนสเม ทั้ง ชิวอนและเลียมต่างก็เชื่ออย่างหมดใจ โดยยังแตะเรเนสเมด้วยซ้ำ เอ็มเมตต์และโรสส่งพวกนักเดินทางพเนจร (แวมไพร์) มาให้ ตนแรกที่มาถึงคือการ์เร็ต เขาเป็นแวมไพร์ผมยาว ดวงตาสีทับทิม คาร์ไลล์ พาเพื่อนมาด้วยตนหนึ่ง เขาคือ อลิสแตร์ แวมไพร์จาก อังกฤษผู้รังเกียจสังคม เขาชอบอยู่อย่างโดดเดี่ยวมานับศตวรรษ และแล้วก็มีการมาเยือนของมิตรแวมไพร์อีกคู่หนึ่ง เป็นการมาเยือน อย่างนึกไม่ถึง พวกอเมซอนนั่นเอง ซาฟรีนา - เซนนา พวกเขาแลดู ป่าเถื่อน ดวงตาแดงฉาน ลอกแลก การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วแปลกๆ ขณะเดียวกัน เอ็ดเวิร์ดเริ่มฝึกการต่อสู้ให้เบลล่าแต่ไม่นานนัก เขาก็ ขอให้แวมไพร์ตนอื่นๆ สอนแทน ซึ่งส่วนใหญ่ยินดีจะสอน ที่สำคัญ ซาฟรีนาสอนการใช้เกราะกำบังของเธอ โดยมีเอ็ดเวิร์ดเป็นเหยื่อล่อ ต่อมา เคทผู้ซึ่งสามารถแผ่กระแสไฟฟ้าได้ ใช้กระแสไฟฟ้าของเธอ แต่ที่ดูจะทำให้เกราะของเบลล่าทรงพลังขึ้นก็เมื่อเคทใช้กระแสไฟฟ้า กับเรเนสเม เกราะของเบลล่าแผ่กว้างขึ้นอย่างมากมาย จากนั้นมี แขกผู้ไม่ได้นัดหมายตามมาอีกสองตน นั่น คือพวกโรมาเนียนผู้ โกรธแค้นโวลตูรีจากการถูกชิงอำนาจมานับสหัสวรรษ พวกเขาคิดว่า พวกคัลเลนเตรียมตัวโค่นล้มโวลตูรี จึงคิดมาร่วมด้วย คาร์ไลล์ อธิบายว่าเป็นเพราะพวกเขาต้องการปกป้องเรเนสเมต่างหาก และแล้ววันนั้นก็มาถึงพวกโวลตูรี นำโดย ไกอัส และ อาโร องครักษ์ และเหล่าภรรยา มากันทั้งหมด และมีแวมไพร์ที่ตามมาเป็นพยานด้วย พวกเขาพบเบลล่า ซึ่งกลายเป็นแวมไพร์แล้ว และพบเรเนสเมในที่สุด อาโร ต้องยอมรับว่าเธอไม่ใช่เด็กอมตะ แต่นั่นไม่ได้ทำให้พวกโวลตูรี หยุดและกลับไป จริงๆ แล้วพวกเขามาเพื่อจุดประสงค์อื่นๆ ที่มากกว่านั้น คือกวาดล้างพวกคัลเลน แวมไพร์กลุ่มใหญ่ที่สุดรองจากพวกเขา พวกโวลตูรีแสร้งทำประชุมกัน แต่ก็ให้ เจน จัดการพวกคัลเลนโดยไม่ให้ รู้ตัว เจนสามารถส่งพลังจิตแผดเผาใครก็ได้ให้ทรมานจนกว่าจะตาย เริ่มที่คาร์ไลล์ เอ็ดเวิร์ด ผู้อ่านใจได้ รู้ทันทีว่าเจนจัดการคาร์ไลล์ คาร์ไลล์ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เบลล่านั่นเอง เกราะกำบังแสนวิเศษของเธอ เธอปกป้องพวกเธอได้ทุกตนเจนโกรธแค้นแสนสาหัสที่เบลล่ามาขวางเธอ ไว้ได้ เชลซี สมุนโวลตูรีอีกคนพยายามจัดการต่อ ตามด้วยอเล็กฝาแฝด ของเจน ไม่มีใครใช้พลังผ่านเกราะของเบลล่าได้เลย ในที่สุดโวลตูรี ต้องยอมกลับไป เพราะไม่สามารถหาข้ออ้างใดๆ มาทำลายล้างพวกคัลเลน เบลล่า เอ็ดเวิร์ด และเรเนสเม ได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ตลอดไป ขอบคุณข้อมูลดีดีและภาพประกอบสวยๆ จาก เว็บไซด์ต่างๆ ด้วยจ้า
Create Date : 13 พฤศจิกายน 2555
55 comments
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2555 22:38:33 น.
Counter : 9433 Pageviews.
More Dream Catcher Comments
------------------------
ราตรีสวัสดิ์ค่ะคุณหอมกร