ป้าอิ๋วหายตัวไปแค่ 2 วัน คนตามหาตัวกันให้ควั่กกกกกก แค่อยากลองเล่น "ลักหยบ" ดูว่าใครจะคิดถึงมั่ง แค่นั้นแหละ อิอิ และก็ไม่ผิดหวัง คนที่ตามหาคือคนที่คาดเอาไว้ ขอบคุณทุกๆ คนนะจ๊ะ ที่คิดถึงกัน
ที่จริงเมื่อวาน เป็นวันครบรอบ 1 ปี ของการมีบล็อกของป้าอิ๋วค่ะ กะว่าจะรีวิวรวมเมนูซะหน่อย แต่ไม่ว่างได้ทำเลย ก็เลยตามเลยค่ะ เอาเมนูอื่นมาละกันค่ะ อาหารดองไว้เยอะ พอสมควรค่ะ ทำแล้วก็ขี้เกียจเขียนซะงั้น
คำว่า แกงคั่ว มันเรียกน้ำลายสอ ได้จากใครหลายๆ คนที่ชื่นชอบในการทานแกงนะคะ โดยเฉพาะป้าอิ๋วค่ะ สมัยวัยรุ่นนี้ ต้องทานข้าวแกงเท่านั้น อาหารจานเดียวอื่นๆ ทานได้แต่ไม่ชอบค่ะ หลังๆ อายุเยอะ เริ่มเพลาๆ ลงค่ะ แต่ก็ยังชอบทานแกงอยู่ตามประสาคนใต้น่ะค่ะ
ยอดมะระขี้นก คนแถวนี้เขาเรียกยอดมะระป่าค่ะ ใบและเถาลักษณะเดียวกับตำลึง แต่ใบมีขนและรอยหยักลึกกว่า แถมรสชาดต่างจากตำลึงโดยสิ้นเชิง ขึ้นชื่อว่ามะระ แล้วไม่ชมเนี่ย เขาบอกว่าอย่าเกิดมาเป็นมะระเลยค่ะ เขาก็ถกเถียงกันในวงการของเขาละเนอะ (วงการไรเนี่ย
)
วันนั้น ไปตลาดแล้วซื้อยอดมะระขี้นกมาเนี่ย ก่อนหน้านี้ ก็ซื้อสะเดามากำหนึงแล้วค่ะ กลับมาบ้าน นึกขึ้นได้ว่า มะระจีน ยังอยู่ในตู้เย็นอยู่เลย
.แหง่วววววววว ทำไมฉันซื้อมาแต่ของขมล่ะเนี่ย
มีเหตุผลเดียวละค่ะ น้องๆ
..คำตอบอยู่ท้ายรีวิวนี้จ้า มะระกำนั้น 10 บาทค่ะ เยอะ นั่งเด็ดใบกันหน้ามืด ดีนะที่นั่งดูละครไปด้วย
ปลาซาดีน ชอบจัง เพราะเนื้อหนาเยอะ ซื้อมาโลหนึง มี 8 ตัว 50 บาทจ้า
.เอามาย่างแกะเอาแต่เนื้อปลา 4 ตัวได้มาจานนั้นแหละ แกะง่ายค่ะ จริงๆ ปลาย่างเขานิยมใช้ปลาโอกันค่ะ ราคาถูก ตัวละกิโล ก็ 50 บาทเหมือนกัน แต่เนื้อไม่ค่อยหวาน ไม่เอาดีกว่า
.
มาเข้าสูตรอาหารดีกว่าค่ะ
เนื้อปลา จริงก็ใช้ปลาอะไรก็ได้ค่ะ แกะเอาแต่เนื้อๆ ป้าอิ๋วใช้ปลาซาดีนข้างบนนะแหละค่ะ 4 ตัวค่ะ
ยอดมะระขี้นก แกะเป็นใบๆ
เครื่องแกงเผ็ด 4 ช้อนโต๊ะ+ กะปิ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
กะทิ 1 กล่อง วันนี้ใช้กะทิธัญพืชค่ะ สภาวะกะทิแพงๆ ใช้ดีจริงๆ เลยค่ะ
น้ำเปล่า 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย เล็กน้อย เกลือ หรือน้ำปลาเล็กน้อย
น้ำมันพืชสำหรับผัดเครื่องแกง 2-3 ช้อนโต๊ะ
วิธีปรุง
เอาน้ำมันพืชใส่กะทะ ตั้งไฟให้ร้อน แล้วใส่เครื่องแกงที่ผสมกับกะปิแล้วลงผัดๆ ให้หอมค่ะ เครื่องแกงป้าอิ๋วไม่แดงหรอกค่ะ เพราะใช้พริกสด
ใส่กะทิกล่องลงไปค่ะ แล้วตามด้วยน้ำเปล่า คอยจนเดือด
ใส่เนื้อปลาลงไป จนเดือดอีกครั้ง
ใส่ยอดมะระขี้นกลงไป ดูเยอะนะคะ แต่กดๆ แล้วมันยุบลงไปก็ได้นิดเดียวค่ะ พอๆ กับน้ำแกงเราค่ะ
ชิมรสและปรุงเพิ่มด้วยเกลือและน้ำตาลทรายค่ะ ใครไม่ชอบหวานก็ไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ
ที่บอกให้ชิมก่อนปรุง เพราะเราไม่รู้ว่าเครื่องแกงเรา หรือกะทิ รสชาดเป็นอย่างไร บางครั้งเครื่องแกงซื้อมาใส่เกลือเยอะ ก็เค็มเกินไปก็มีค่ะ ถ้ากะปิเราเค็มเข้าไปอีก ก็ปรุงยากค่ะ
แล้วก็ตักเสริฟค่ะ เครื่องแกงป้าอิ๋วทำเอง เลยไม่เผ็ดมากค่ะ แต่อาหารแกงแบบใต้ๆ ต้องหาผักเหนอะทานด้วยค่ะ จะได้ไม่เผ็ดและอร่อยสดชื่นค่ะ และสำหรับแกงถ้วยนี้ ป้าอิ๋วจะกระซิบบอกว่า หากใครไม่ชอบทางแกงขี้เหล็กเพราะเหตุผลว่ามันขม ก็ต้องมองข้ามแกงถ้วยนี้ไปอย่างเร็วเลยค่ะ เพราะแกงถ้วยนี้ ขมกว่าแกงขี้เหล็กแน่นอนค่ะ เพราะฉะนั้น แกงถ้วยนี้ ต้องแกงให้ถึงเครื่อง มันกะทิ รสชาดเข้มข้นค่ะ ใครเซียนอาหารขมๆ ต้องแวะมาเลยค่ะ รับรองถูกใจแน่นอนค่ะ
ป้าอิ๋วไม่แน่ใจว่า เพื่อนๆ จะหาซื้อได้ไม๊นะคะ ผักพื้นบ้านแบบนี้ ปลอดสารพิษแน่นอนค่ะ ลองไปเดินตลาดท้องถิ่นหรือตลาดนัดดูนะคะ ทุกตลาด ป้าอิ๋วว่าเขามีผักพื้นบ้านขายค่ะ
สมัยป้าอิ๋วเพ่งเป็นวัยรุ่นแต่ตอนนั้น ฝีมือทำอาหารก็พอตัวสำหรับเด็กๆ รุ่นเดียวกันเพราะแม่ให้เข้าครัวมาตั้งแต่เล็กๆ ป้าอิ๋วไปทำกับข้าวที่บ้านเพื่อน เขาซื้อเครื่องแกงเผ็ด หมูและถั่วฝักยาวมาวางไว้ ป้าอิ๋วก็เอามาผัดพริกแกงให้เธอทาน เธอทานแล้วก็พูดว่า อืม เครื่องแกงที่ซื้อเขาแบบนี้ก็อร่อยดีเหมือนกันนะ
.
ป้าอิ๋วจำมาจนอายุปูนนี้เลยค่ะ แหม๋ ทำไมไม่ชมว่าเราทำอาหารแล้วปรุงได้อร่อยล่ะจ๊ะ เพราะเครื่องแกงเจ้านี้ เธอก็ซื้อมาประจำ ก็ไม่เห็นทำอร่อยเลยนี่
.อิอิ ตอนนั้นไม่พูดนะคะ แค่คิดในใจค่ะ
เพราะฉะนั้น การทำอาหารทุกอย่าง ต้องชิมและปรุงค่ะ และก็ต้องรู้จักแก้ปัญหาค่ะ เค็มไป ทำอย่างไร หวานไปแก้ด้วยอะไร ไม่อร่อย ก็ทิ้งไปเลย กร๊ากกกกกก
.ถ้าไม่อร่อย ก็อย่ามาเรียกให้ป้าอิ๋วไปแก้ให้นะคะ คงจัดให้ไม่ได้ค่ะ ป้าอิ๋วจะบอกอย่างนี้แหละค่ะ อิอิ
คำตอบที่ว่าป้าอิ๋วซื้อแต่ของขม ก็เพราะ ป้าอิ๋วแก่แล้วไง
กร๊าก ถ้าเป็นเป็นผู้ชายก็เข้าสุภาษิท ชอบของขม ชมเด็กสาว ค่ะ อย่างนี้ ต้องถาม โกติณ-ปลายแป้นพิมพ์ ดูกันเองนะเคอะ ว่าเป็นเช่นไร
.กร๊ากกกกก
วันนี้ขอให้อร่อยกับเมนูผักพื้นบ้านกันถ้วนหน้านะคะ พบกันใหม่ เมนูถัดไปนะคะ