Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
31 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 

โกรธน่ะ โกรธได้ แต่ ... (Anger Management)



ช่วงนี้ ดิฉันรู้สึกว่า การดำเนินชีวิตของพวกเราแต่ละคนค่อนข้างตึงเครียด ในแต่ละวัน เราจะเจอแต่ปัญหาใหญ่ ๆ เช่น ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ที่ทำมาหากิน ปัญหาจุกจิก ปัญหาเล็กน้อยจิปาถะ ที่รบกวนเราตลอดเวลา ถ้าเราไม่มีภูมิคุ้มกันที่ดีพอ เมื่อเจอปัญหาทำนองนี้มากเข้า เราก็จะเพาะเชื้อนิสัยไม่ดีเอาไว้กับตัวเราทุกวัน ๆ นิสัยขี้โกรธ วู่วาม ใจร้อน มุทะลุ ใจร้อน ฉุนเฉียว จะต้องได้รับการแก้ไข เพราะว่ามันเป็นบ่อเกิดแห่งอุปสรรคอย่างรุนแรง เป็นเครื่องกีดขวางการพัฒนาและความก้าวหน้าแห่งชีวิต แล้วคุณล่ะ มีวิธีการอย่างไร เมื่อใจคุณกระทบกับเหตุการณ์ไม่ดีในชีวิตประจำวัน


คนวู่วามเก่งในการหาศัตรูมากกว่ามิตร แล้วจะทำอย่างไร ใจของเราจะเย็นลงได้ มีผู้รู้แนะนำวิธีการใหญ่ ๆ หลายอย่าง สุดแต่ว่าใครจะเหมาะกับแบบไหน ก็ลองเลือกใช้กันนะคะ แต่ดิฉันขอรวบรวมเป็น 2 แบบใหญ่ ๆ ให้พิจารณาดูก็แล้วกัน

แบบที่ 1
1.ตั้งสติค่ะ ตั้งสติ เมื่อรู้สึกโกรธ ให้รีบตั้งสติทันที เพราะคุณกำลังจะกลายเป็นคนบ้า แยกเขี้ยวยิงฟันให้คนรอบข้างชม
2.พยายามรักษาสุขภาพกายและสุขภาพจิต การออกกำลังกายทำให้ร่างกายแข็งแรง ชีวีสดใส ระบายความโกรธ และความเครียดได้ดี
3.ปล่อยวางมันไป ฝรั่งเขาว่า Let it go ทุกสิ่งตกอยู่ในกฏแห่งไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ปล่อยวางเรื่องเล็ก ๆ ก่อนก็ได้ ฝึกมันไปทุกวัน แล้วมันก็จะดีเอง ตัวเราเอง บางทียังทำอะไรไม่ถูกใจเรา 100 เปอร์เซ็นต์เลย แล้วคุณจะให้คนรอบข้างมาเอาใจคุณทุกวินาทีได้อย่างไร
4.ใจกว้าง อย่ามองปัญหาในมุมแคบ คุณต้องรู้ว่า ทุกคนมองโลกไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะเป็นพี่น้องเกิดจากพ่อแม่ท้องเดียวกันก็ตามเถิด แต่ไม่ใช่ว่าการมองโลกจะเป็นไปในทำนองเดียวกัน
5.มีธรรมะในใจ ข้อนี้ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว
6.ตระหนักถึงผลดีของการเป็นคนใจเย็น เช่น กลายเป็นคนใจเย็น มีบุคลิกลักษณะดี สุขุมรอบคอบ ฯลฯ
7.ออกไปจากเหตุการณ์นั้น ๆ ชั่วคราว
8.เล่าเรื่องให้เพื่อนฝูง ญาติ ครู พระสงฆ์ ฟัง เพื่อระบายความอัดอั้นตันใจออกไปเสียบ้าง
9.หัดสร้างอารมณ์ขันให้กับตัวเอง
10.ระวังเรื่องเหล้าเบียร์ ยาเสพติดที่ทำให้ไม่มีสติครองกาย
11.พยายามหาวิธีหลีกเลี่ยงความโกรธ
12.อย่าตั้งความหวังกับผู้อื่นมากนัก
13.พักผ่อนให้เพียงพอ
14.ให้นึกถึงครอบครัวของเรา หรือคนที่รักเราให้มาก
15.หาสมุดบันทึกสำหรับระบายความโกรธ
16.รู้จักชื่นชมผู้คนรอบข้าง
17.หากิจกรรมสร้างสรรค์อื่น ๆ ทำ

เป็นอย่างไรคะ มีอักตั้งมากมายหลายวิธีการสำหรับการคลายโกรธ คุณอาจจะเพิ่มเติมในสิ่งที่คุณที่คุณถนัด และเหมาะสมกับตัวคุณก็ได้ค่ะ ถ้าเป็นภาษาอังกฤษจะเรียกว่า Anger Management

วิธีการข้างบนเป็นวิธีสร้างสรรค์ที่เบี่ยงเบน หรือทำลายให้ความโกรธหลุดออกไปจากใจของเรา

ทีนี้ ดิฉันจะพาคุณมาอีกทางหนึ่งค่ะ บางท่านอาจจะทราบอยู่แล้ว และหลาย ๆ ท่านอาจจะปฏิบัติอยู่ในชีวิตประจำวันแล้วก็เป็นได้

ก่อนอื่น ขอถามประสบการณ์ของคุณผู้อ่านก่อนค่ะว่า ตามธรรมดาเวลาคุณโกรธอยู่นี่ เคยสังเกตไหมว่า ร่างกายของคุณมีอากัปกิริยาท่าทางอย่างไร และจิตใจข้างในของคุณเป็นอย่างไร

ดิฉันคิดว่า ร่างกายของคุณและของดิฉันก็มีอวัยวะเหมือน ๆ กัน อาจจะผิดแผกแตกต่างกันนิด ๆ หน่อย ๆ คุณมีจิตใจ ดิฉันก็มีจิตใจ

เอาเป็นว่า ดิฉันขอยกตัวอย่างของดิฉันเองก็แล้วกันนะ

จริง ๆ แล้ว ตอนที่ดิฉันโกรธ ตัวเองจะไม่รู้หรอกค่ะว่าร่างกายเป็นอย่างไร รู้แต่ว่าร่างกายมันร้อนเดือด และเลือดขึ้นหน้าเป็นริ้ว ๆ ใจมันดิ้น มีแรงอัดหน้าอกเป็นระลอก เหมือนคลื่นที่กำลังซัดสาดเข้าหาฝั่งยังไงยังงั้น

บางทีเหตุการณ์หรือคนที่ทำให้เราโกรธน่ะไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว มันจากสลายหายล่องหนไปหมดแล้ว แต่ความโกรธที่อยู่ในใจเราก็ยังคงอยู่ มันไม่จากเราไปด้วย บางที่มันยังแหลมหน้าเข้ามาให้เห็นอีกเป็นระยะ ๆ ให้เราคันหัวใจเล่น ๆ

บางครั้ง เวลาตัวโกรธค่อย ๆ คลายจางไป เราก็ยังลากมันให้กับมาอยู่ในคอกใจเราก่อน 'มานี่ ยังไม่ให้ไป ยังไปใหนไม่ด้าย อยู่กันก่อน' อะไรทำนองนั้น

แล้วเราก็โกรธ หงุดหงิดอยู่อย่างนั้น อยู่เป็นวัน ๆ

มาถึงตอนนี้ คุณผู้อ่านอาจจะสงสัยและรำคาญว่า 'รู้แล้วน่า แล้ววิธีการล่ะ เมื่อไหร่จะเปิดเผยออกมาได้ซักที ลึกลับมากนักเหรอ'

ไม่ลึกลับหรอกค่ะ วิธีการน่ะ ดิฉันแบไต๋หมดเปลือกออกมาตั้งแต่ตอนต้นของ 'อีกทางหนึ่ง' นั่นแล้ว และคุณ ๆ ก็อ่านวิธีการจนจบแล้วด้วย

ถ้ายังงง ๆ ก็ไม่ต้องงงล่ะค่ะ คือว่า เวลาที่คุณโกรธน่ะ ก็ให้มันโกรธไป เพียงแต่ รู้ว่า 'โกรธ' ก็พอแล้ว

โกรธ ก็รู้ว่า 'โกรธ'
รำคาญ ก็รู้ 'รำคาญ'
โมโห ก็รู้ว่า 'โมโห'
หงุดหงิดงุ่นง่าน ก็รู้ว่า 'หงุดหงิดงุ่นง่าน'


ดูมันไปตรง ๆ นั่นแหละ อย่างที่ชาวบ้านเรียกว่า 'รู้อย่างซื่อ ๆ' นั่นแหละ ไม่ต้องทำอะไรมากไปกว่านั้น

อ๊าว แล้วรู้อยู่อย่างนั้น มันจะได้ประโยชน์อันหยัง

มีสิ ก็รู้มันจนกว่ามันดับ
มันเกิดขึ้นอีก ก็รู้ว่ามันเกิดขึ้นอีก
มันดับลงอีก ก็รู้ว่ามันดับลงอีก

ลองเล่นดูนะคะ แล้วคุณจะรู้ว่า ความโกรธก็เกิดดับเองได้ โดยคุณไม่ต้องไปทำอะไรกับมัน
นี่แหล่ะคือ ไตรลักษณ์ ล่ะ เดี๋ยวมันก็เกิดขึ้น เดี๋ยวมันก็ดับไป

อ่ะ สงสัยล่ะสิ ตอนนี้สงสัย ก็รู้ว่ากำลัง 'สงสัย' นะคะ ไม่ต้องทำอะไรมากไปกว่านั้น

นี่ล่ะค่ะ รู้ทุกข์ ถึงธรรม




 

Create Date : 31 ตุลาคม 2551
1 comments
Last Update : 31 ตุลาคม 2551 19:10:17 น.
Counter : 834 Pageviews.

 

 

โดย: อัสติสะ 7 พฤศจิกายน 2551 21:00:11 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.