Chapter 76

  ตอนที่ 76


"เฮ่อ!"  ไจ่ไจ๋ถอนหายใจยาวพร้อมกับพลิกตัวกลับไปกลับมาเป็นรอบที่ร้อยได้แล้ว หลังจากที่เขานั่งดูรูปอยู่กับพี่ชายทั้งสามคนอยู่นั้นจู่ๆก็มีภาพเบลอๆแว๊บขึ้นมาในสมองเป็นระยะๆ นั่นทำให้เขารู้สึกปวดหัว แต่พอมานอนแล้วกลับหลับไม่ลง

"ตีสองกว่าแล้วหรอเนี่ย"  ว่าพลางเหลือบมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่ข้างเตียง

"ทำไมรูปที่เห็นเราถึงรู้สึกคุ้นมากแต่ก็ยังจำพวกเขาไม่ได้ซักทีนะ"  ไจ่ไจ๋รำพันกับตัวเอง  

"งั้นต้องลองอีกครั้ง"  เงียบไปครู่หนึ่งก็พูดกับตัวเองอย่างตัดสินใจแล้วลุกจากเตียงไปเปิดประตูอย่างเบามือ เขามองซ้ายขวาก่อนจะเดินย่องออกมาอย่างเงียบเชียบที่สุดเพราะไม่อยากให้ใครตื่นขึ้นมาตอนนี้

"ท่าจะเข้านอนกันหมดแล้ว"  พึมพำเบาๆเพราะข้างล่างปิดไฟมืด ไจ่ไจ๋สูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเดินลงไปข้างล่างแล้วตรงไปที่ชั้นเก็บอัลบั้มรูป

"ไม่เปิดไฟดีกว่า"  ไจ่ไจ๋คุยกับตัวเองก่อนจะยกโคมไฟเล็กๆบนโต๊ะมาตั้งตรงหน้าแล้วเปิดเพื่ออาศัยความสว่างดูรูปพวกนั้น

"อ๊ะ! มีแมวด้วย"  อุทานออกมาเบาๆเมื่อเห็นเจ้าพีพีและถางถางนอนอยู่บนโซฟาอย่างสบาย

"นอนสบายเชียวนะพวกแก"  ไจ่ไจ๋พูดกับแมวทั้งสองตัวยิ้มๆแล้วเดินไปลูบตัวพวกมันอย่างเอ็นดู เจ้าแมวทั้งสองตัวก็ต่างลุกขึ้นมาอ้อนไจ่ไจ๋กันใหญ่

"ไม่เล่นด้วยนะ พวกแกอย่าเสียดังเดี๋ยวคนข้างบนจะตื่นกันหมด"  ไจ่ไจ๋จุ๊ปากเตือนแมวทั้งสองตัวเบาๆ

"เอ....ว่าแต่.....พวกแกเป็นแมวของใครเนี่ย?"  แล้วไจ่ไจ๋ก็ทำหน้าสงสัยเพราะจำเจ้าสัตว์เลี้ยงแสนรักสองตัวนี้ไม่ได้

"หรือจะเป็นแมวที่เราเลี้ยงเองหว่า?"  ขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิดเพราะถ้าหากเขาไม่ได้รู้จักมักคุ้นกับมันเจ้าสองตัวนี้คงไม่ยอมเข้าใกล้แน่เพราะนิสัยแมวนั้นจะไม่ยอมเข้าหาใครง่ายๆ

"นอกจากพวกเขาสามคน เราก็จำเจ้าสองตัวนี้ไม่ได้ด้วยหรอ? ทำไมเป็นแบบนี้หละ?"  แล้วก็ตั้งคำถามกับตัวเองอย่างสงสัย

"เอาเถอะๆๆๆ พวกแกไปนอนไป ชั้นจะดูรูปอย่ามากวนหละ"  ว่าแล้วก็จับเจ้าแมวทั้งสองตัวไปนอนที่โซฟาตามเดิม ซึ่งทั้งสองตัวก็พอจะรู้ว่าเจ้านายไม่อยากให้ยุ่งเลยนอนอยุ่ตรงนั้นไม่มาป้วนเปี้ยนกวนใจอีก ไจ่ไจ๋มองพวกมันอีกครั้งก่อนจะทรุดตัวนั่งที่พื้นแล้วเริ่มเปิดอัลบั้มรูปพวกนั้นดู

"รูปเราตอนเด็กๆ"  ไจ่ไจ๋ยิ้มเล็กน้อยในขณะดูรูปเหล่านั้น แล้วเปิดดูไปเรื่อยๆอัลบั้มแล้วอัลบั้มเล่าจนเจอรูปที่ครั้งเขาและพี่ชายไปตั้งแคมป์กัน พอเจอภาพเหล่านั้นแล้วไจ่ไจ๋ก็ชะงักไปเพราะมีในหัวเขาเริ่มเห็นภาพในตอนที่เขาไปเที่ยวที่นั่นกับพี่ชายทั้งสามคน ภาพที่พวกเขาสี่คนนอนอยู่ในเต๊นท์เดียวกัน ภาพที่เขาโวยวายที่โดนเคนแกล้งจนต้องวิ่งไปฟ้องพี่ใหญ่ และภาพที่ทั้งเขาและเคนต่างคนต่างงอนกันจนมาคืนดีกันที่สวนดอกไม้แห่งหนึ่ง ขอบตาของไจ่ไจ๋เริ่มร้อนผ่าวเพราะภาพต่างๆของพี่ชายเริ่มแล่นผ่านเข้ามาเหตุการณ์แล้วเหตุการณ์เล่ามาจนถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่เขาจะตกบันได
'นายมันถูกตามใจจนเคยตัว! ทำอะไรไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของคนอื่น! เอาตัวเองเป็นใหญ่! เอาแต่ความพอใจของตัวเองเป็นหลัก!'  เสียงของเคนดังขึ้นในห้วงความคิด แล้วภาพที่พี่ชายผลักไสเข้าออกมาจากห้องก็ปรากฏแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ ไจ่ไจ๋จำได้ว่าตัวเองไม่มีเรี่ยวแรงเหลืออยู่เลยจึงเดินอย่างไร้จุดหมายและคิดอยากจะให้ตัวเองลืมเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นหรืออยากให้ภาพก่อนหน้านั้นเป็นแค่ความฝัน 

"เป็นแบบนี้นี่เอง"  ไจ่ไจ๋พูดกับตัวเองพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงอาบแก้มเขารู้แล้วว่าทำไมตัวเองถึงจำพี่ชายทั้งสามคนไม่ได้เลย เพราะตอนที่เกิดเรื่องเขาคิดอย่างเดียวก็คืออยากลืมเท่านั้น แล้วก็ต้องร้องไห้หนักขึ้นเมื่อคิดถึงภาพพี่ชายคนกลางเมื่อหลายวันที่ผ่านมา พี่ชายที่ดูเซื่องซึมสีหน้าเหมือนจะมีแต่ความทุกข์ แต่ต่อหน้าเขากลับต้องปั้นหน้ายิ้มแย้มก็เพียงเพราะไม่อยากให้เขาคิดมาก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพี่ชายคนนี้ก็ไม่เคยหันหลังให้เขา ไม่เคยเลยแม้แต่ครั้งเดียว

"ผมขอโทษครับพี่ ผมขอโทษ"  ไจ่ไจ๋พึมพำออกมาเบาๆก่อนจะฟุบหน้าลงร้องไห้อย่างสุดกลั้น


- ที่ห้องนอนเจอร์รี่ -

"เฮ่อ!"  เคนนอนพลิกตัวกลับไปกลับมาอยู่นานมากแล้ว ตั้งแต่ตอนหัวค่ำหลังจากที่น้องเล็กขอตัวกลับห้องและก็เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องไม่ลงมาอีก เขาก็โดนพี่ชายบังคับให้ขึ้นมานอนแต่ว่าเขากลับข่มตาหลับไม่ลงเพราะในใจรู้สึกไม่สงบและพะว้าพะวงอยู่ตลอด

"คอแห้งจัง"  เคนบ่นกับตัวเองแล้วขยับตัวลุกขึ้นอย่างระมัดระวังเพราะพี่ชายคนโตกำลังหลับสนิท 

"น้ำหมด"  เมื่อยกเหยือกน้ำบนโต๊ะข้างเตียงนอนขึ้นมาเคนก็ทำหน้าเซ็งๆเพราะดึกดื่นขนาดนี้แล้วเขาก็ขี้เกียจจะเดินลงไปในครัวอีก แต่ตอนนี้เขาคอแห้งมากและต้องการดื่มน้ำ

"ไปก็ไป"  พูดกับตัวเองแล้วลุกขึ้นจากเตียง

"เสี้ยวเทียน"  น้ำเสียงงัวเงียของพี่ชายดังขึ้นทำให้เคนต้องหันกลับไปมอง

"ชั้นจะลงไปดื่มน้ำข้างล่าง"  เคนบอกพี่ชายเบาๆ

"ในเหยือก...."  เจอร์รี่ขยี้ตาพร้อมกับชี้ไปที่เหยือกน้ำ

"หมดแล้ว"  เคนบอกพี่ชายพร้อมกับยกเหยือกน้ำให้ดู

"ให้ชั้นลงไปเอาให้มั๊ย?"  เจอร์รี่ถามน้องต่อ

"ไม่ต้องหรอก ขอบคุณ"  เคนส่ายหน้าแล้วเดินกลับมาที่เตียง

"นายนอนไปเถอะ"  ว่าแล้วก็ห่มผ้าให้พี่ชาย พี่ใหญ่ยิ้มให้น้องบางๆก่อนจะหลับตาลงแต่โดยดีเพราะหลายวันมานี้เขาเองก็พักผ่อนไม่เพียงพอเช่นกัน เมื่อห่มผ้าให้พี่ชายเสร็จแล้วเคนก็เปิดประตูออกไปอย่างเงียบเชียบ 

"ทำไมวันนี้อากาศมันเย็นๆเนี่ย"  พูดกับตัวเองเบาๆเพราะรู้สึกถึงความเย็นที่ปะทะเข้ามา แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะหิวน้ำเต็มทีแล้ว เคนเดินลงจากบันไดก็เดินเลยเข้าห้องครัวเพื่อไปดื่มน้ำโดยไม่ได้สังเกตอะไร จนเมื่อดื่มน้ำเสร็จก็ค่อยมานั่งลงที่โต๊ะกินข้าว

"เสียงอะไรวะ?"  เคนขมวดคิ้วเพราะเหมือนตัวเองจะได้ยินเสียงอะไรดังแว่วๆมา

"ตีสองกว่า"  แล้วก็เหลือบมองนาฬิกาบนฝาผนังก่อนจะขนลุกขึ้นมาเฉยๆ

"บ้านเราไม่เคยมีอะไรแบบนี้นี่หว่า"  เคนพาลนึกไปถึงสิ่งลี้ลับ แต่ก็เงี่ยหูฟังให้ชัดๆ

"เสียงร้องไห้หรอ?"  พูดกับตัวเองแล้วขยับตัวลุกขึ้นอย่างเงียบเชียบที่สุด 

"ผีหรือโขมยวะ?"  เริ่มนึกขึ้นมาได้ก็หันไปหยิบมีดปลายแหลมขึ้นมาถือไว้ในมือเพื่อป้องกันตัว 

"แต่โขมยที่ไหนจะมานั่งร้องไห้"  พูดกับตัวเองอย่างหวั่นๆ ตอนนี้ในใจของเขาเอนเอียงไปทางสิ่งลี้ลับประมาณ 80% แล้ว

"เอาวะ! แหกปากหน่อยเจอร์รี่มันคงตื่น"  เคนตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วก็ก้าวยาวๆออกจากห้องครัว กลัวก็กลัวอยากรู้ก็อยากรู้

"อ๊ะ!"  เมื่อเขามองไปที่ห้องนั่งเล่นก็เห็นแผ่นหลังที่คุ้นเคยนั่งอยู่ที่พื้นโดยที่เอาแขนเท้าโต๊ะและฟุบหน้าอยู่

"ไจ่ไจ๋นี่นา"  ความกลัวทั้งหมดมลายหายไปหมดมีแต่ความเป็นห่วงเท่านั้น เคนไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปเปิดไฟ

"ไจ่ไจ๋ เป็นอะไรหรือเปล่า?"  ร้องถามทำลายความเงียบขึ้นมา ไจ่ไจ๋เงยหน้ามาน้ำตายังไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง

"เป็นอะไรไป? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าบอกพี่ได้นะ....."  เคนแทบจะร้องไห้ตามเมื่อเห็นสภาพน้องเป็นแบบนี้และก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรอีกไจ่ไจ๋ก็โผเข้ากอดเขาแน่น

"พี่กลาง!!"  เคนนิ่งงันแทบไม่เชื่อในสิ่งที่เพิ่งได้ยินไป เขายังมึนงงอยู่ว่าตัวเองหูฝาดหรือเปล่า

"พี่กลาง! พี่กลางครับ!"  ประโยคต่อมาที่เรียกเขาซ้ำๆนั้นทำให้เคนถึงกับน้ำตาไหลด้วยความดีใจ เขาพูดอะไรไม่ออกได้แต่กอดน้องชายแน่น เขารู้ได้ทันทีว่าเขาได้น้องชายกลับคืนมาแล้ว   

"พี่กลาง....ผม....ผม....."  ไจ่ไจ๋เองอยากจะพูดอะไรหลายๆอย่างกับพี่ชายแต่ตอนนี้กลับพูดอะไรไม่ออกเช่นกัน สองพี่น้องกอดกันอยู่อย่างนั้นและเคนก็เป็นฝ่ายผละตัวออก

"เด็กโง่....ร้องไห้อีกแล้ว....."  ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้น้องอย่างแผ่วเบา 

"พี่กลางก็ด้วย"  ไจ่ไจ๋ย้อนพร้อมกับเอามือเช็ดน้ำตาให้พี่ชายเช่นกัน

"นายรู้มั๊ยว่าพี่รอฟังนายเรียกพี่กลางมานานขนาดไหน?"  สายตาของเคนนั้นอ่อนโยน

"แล้วพี่รู้มั๊ยว่าผมคิดถึงอ้อมกอดของพี่มากแค่ไหน?"  ไจ่ไจ๋เองก็ย้อนถามพี่ชาย เคนจึงหัวเราะออกมาได้แล้วรั้งตัวน้องชายเข้ามากอดอีก

"ไจ่ไจ๋....น้องพี่กลับมาแล้วจริงๆ....."  เคนว่าพร้อมกับกอดรัดน้องชายอย่างรักใคร่ แล้วก็พาน้องมานั่งที่โซฟาก่อนจะเริ่มซักถาม

"นายจำได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?"  เคนตั้งคำถามกับน้อง 

"ก็ก่อนหน้าพี่จะเข้ามาไม่นานนักหรอก"  ไจ่ไจ๋ว่าแล้วซบหน้าลงที่อกพี่ชาย เคนลูบหัวน้องอย่างเอ็นดู

"ยังงัย?"  ถามน้องชายต่อไปอีก

"ผมนั่งดูรูป.....แล้วภาพทุกอย่างก็วิ่งเข้ามาในหัวผม.....ทุกอย่าง....."  ไจ่ไจ๋เน้นประโยคหลัง

"นายจำได้ทุกอย่างแล้ว?"  เคนถามย้ำน้องชายอีกรอบ ซึ่งไจ่ไจ๋ก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับพี่ชายก่อนจะพยักหน้ารับด้วยท่าทางเศร้าๆ

"เป็นอะไรไปอีก?"  เมื่อเห็นน้องมีท่าทีสลดลงก็ถามอย่างเป็นห่วง

"ผมขอโทษครับพี่กลาง"  คำพูดของน้องนั้นเคนรู้ดีว่าน้องกำลังพูดถึงเรื่องอะไร

"ไม่เป็นไรหรอก แค่เสื้อเปียกน้ำตาของนายแค่นี้ไม่ถึงกับขี้เกลือขึ้นหรอกมั้ง?"  เคนเลยแกล้งพูดเป็นเรื่องตลกไป

"พี่กลาง! ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น"  ไจ่ไจ๋ทำหน้าดุใส่พี่ชาย 

"งั้นหรอ? พี่เข้าใจผิดซะแล้ว"  เคนยิ้มพร้อมกับเอานิ้วจิ้มที่แก้มน้องชายเบาๆ

"ไจ่ไจ๋....ช่างมันเถอะ เรื่องทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว"  เงียบไปครู่หนึ่งก็พูดกับน้องด้วยท่าทางจริงจัง

"ถ้าพี่รู้แต่แรกว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้พี่จะไม่โวยวายใส่นายเลยแม้แต่คำเดียว"  ไจ่ไจ๋ซบหน้าลงที่อกพี่ชายอีกครั้ง

"พี่ไม่ผิดที่ทำแบบนั้น เพราะถ้าเป็นใครก็ต้องโกรธ"  ไจ่ไจ๋พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ

"ผิดสิ กับอีแค่แมวสองตัวพี่ดันอาละวาดใส่นายซะเละเลย"  เคนว่าพร้อมกับลูบไล้เส้นผมของน้องชายเล่น

"พี่กลางรู้มั๊ยว่าผมจำเจ้าพีพีกับถางถางไม่ได้ด้วยเหมือนกัน"  ไจ่ไจ๋เงยหน้าขึ้นมาบอกกล่าวกับพี่ชาย เคนเลิกคิ้วเมื่อได้ยิน

"หลังจากที่ผมนั่งดูรูปกับพวกพี่แล้วผมก็รู้สึกแปลกๆ เลยขอตัวขึ้นไปข้างบนใช่มั๊ย? แต่ผมไม่ได้นอนหลับหรอกเพราะมันกระสับกระส่ายนอนไม่หลับเลยตัดสินใจจะลงมานั่งดูรูปพวกนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลย"  ไจ่ไจ๋เล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่ชายฟัง

"แต่พอลงมาผมเห็นเจ้าสองตัวนั่นนอนอยู่บนโซฟาผมกลับจำพวกมันไม่ได้"  เคนก้มหน้าลงมองน้องชายเมื่อได้ยิน

"สรุปว่านายลืมทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเรื่องก่อนที่นายจะตกบันไดใช่มั๊ย?"  ย้อนถามน้องชายกลับไป

"ก็ใช่...."  ไจ่ไจ๋ตอบแล้วเงียบไปครู่หนึ่ง

"ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกันมั๊ย? แต่ก่อนที่ผมจะตกบันไดผมเอาแต่นึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นมันน่าจะเป็นแค่ความฝันหรือไม่งั้นก็ให้ผมลืมเรื่องทั้งหมดนั้นไปซะ"  คราวนี้เคนเป็นฝ่ายเงียบไปบ้าง

"แย่จัง ผมเพียงแต่อยากลืมเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้อยากลืมพวกพี่เลยแม้แต่นิดเดียว"  แล้วไจ่ไจ๋ก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ

"จะไปสนใจอะไรอีกเล่า? ตอนนี้นายก็กลับมาจำพวกพี่ได้แล้วหนิ"  เคนพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงเพราะไม่อยากให้น้องคิดมาก

"ตอนนี้จำได้แล้ว ห้ามลืมอีกเด็ดขาดเลย"  แกล้งทำหน้าเข้มในขณะที่พูด

"ไม่มีทาง ต่อไปนี้ผมจะจดบันทึกไว้ทุกวัน ต่อไปหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกผมจะไม่พยายามหนีหน้าหายไปไหน"  ไจ่ไจ๋พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

"ยังคิดจะมีครั้งต่อไปอีกหรอ? แค่นี้พี่ก็กลุ้มจะแย่แล้ว"  เคนว่าพร้อมกับบีบจมูกน้องไปด้วย ตอนนี้เขารู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก

"นั่นงัย! ผมมีเรื่องต้องคิดบัญชีกับพี่กลาง"  ว่าแล้วไจ่ไจ๋ก็ทำเสียงดุๆ

"อะไร? คิดบัญชีอะไร?"  เคนย้อนถามเสียงสูง

"ยังจะมาถามอีก! ทำไมหลายวันมานี่พี่กลางถึงไม่ยอมกินไม่ยอมนอน? ดูซิ....ผอมจนจำแทบไม่ได้แล้ว"  เคนได้ยินก็หัวเราะอย่างขำๆ

"ไอ้บ้า! พูดซะเว่อร์เลย พี่ก็กินทุกวันแหละ"  เคนต่อว่าน้องชายเบาๆ

"ถ้าพี่ใหญ่กับพี่รองไม่บังคับพี่จะยอมกินมั๊ยฮึ?"  ย้อนถามพี่ชายอย่างเอาเรื่อง

"ไม่เกี่ยวซักหน่อย ถ้าหิวก็กินเองนั่นแหละ"  เคนแก้ตัวแล้วทำท่าไม่รู้ไม่ชี้

"ยังจะมาเถียงอีก"  ว่าพลางทำหน้ามุ่ยใส่พี่ชาย

"ไจ่ไจ๋ คนที่คอยบ่นพี่น่ะมีตั้งสองคนแล้วนายไม่ต้องมาร่วมวงด้วยก็ได้"  พูดต่อว่าน้องแบบอ้อมๆ เพราะกลัวน้องจะบ่นตัวเองอีก

"คนเขาเป็นห่วงยังจะทำเป็นรำคาญอีก"  ไจ่ไจ๋แหวใส่พี่ชายแล้วขยับตัวหนี

"ไม่ได้รำคาญซักหน่อย พี่ยังไม่ทันพูดเลยซักคำ"  เคนเถียงน้องยิ้มๆ

"ไม่คุยด้วยแล้ว"  ไจ่ไจ๋พูดจบก็ทำท่าจะลุกขึ้นแต่เคนก็รีบดึงตัวน้องไว้ก่อน

"จะไปไหน?"  น้องเล็กหันมาทำตาขวางใส่

"ไปนอนน่ะสิ ปวดหัว"  พูดด้วยน้ำเสียงแข็งๆเล็กน้อย

"ปวดหัวหรอ? ไปทำอะไรมาถึงได้ปวดหัว? เดี๋ยวพี่หายาให้กินนะ"  เคนว่าแล้วก็กระวีกระวาดไปหายาให้น้องชาย ไจ่ไจ๋มองตามพี่ชายด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง

"พี่กลางครับ"  ร้องเรียกพี่ชายที่กำลังวุ่นอยู่กับการหายาแก้ปวด

"เดี๋ยวๆๆๆ เจอแล้วนี่ เดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำให้"  เคนว่าแล้วก็รีบเข้าไปในครัวรินน้ำใส่แก้วมาให้น้องชาย

"พี่กลาง ผมไม่ได้ปวดหัวจริงๆซักหน่อย"  ไจ่ไจ๋บอกพี่ชายไปตามตรง

"อ้าว! ก็เมื่อกี้นายพูดเองหนิ"  เคนทำหน้าแปลกใจ

"ผมก็พูดไปงั้นๆเอง"  ไจ่ไจ๋อธิบาย

"เหมือนกันคำพูดติดปากน่ะเข้าใจมั๊ย?"  เคนได้ยินดังนั้นก็ผลักหัวน้องชายเข้าให้

"ไอ้เด็กบ้า! ทำให้พี่ตกใจอีกแล้ว!"  ต่อว่าน้องชายจบก็ยื่นน้ำให้น้องดื่ม

"กินเข้าไปให้หมดเลย"  พูดจบแล้วก็เดินเอายาไปเก็บ ไจ่ไจ๋ยิ้มแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่มก่อนจะเดินไปกอดเอวพี่ชาย

"ขอบคุณมากนะครับพี่กลาง ขอบคุณที่เป็นพี่ชายที่แสนดีของผมเสมอ"  เคนไม่ว่าอะไรเพียงแต่ยิ้มอย่างดีใจกับสิ่งที่ได้ยิน

"เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ผมรู้ว่าพี่ไม่เคยทอดทิ้งผมเลย ไม่ว่าผมจะเป็นยังงัย"  พูดจบไจ่ไจ๋ก็กอดพี่ชายแน่นขึ้น

"เฮ่อ! ทำงัยได้? ก็พี่ดันมีน้องชายอยู่คนเดียวนี่นา"  เคนแกล้งพูดเล่นบ้าง

"ถ้าลองมีน้องสาวอีกซักคน นายอาจจะตกกระป๋องก็ได้"  ไจ่ไจ๋ได้ยินดังนั้นตีแขนพี่ชาย

"ไม่ได้! ต่อให้มีน้องสาวหรือน้องชายอีกพี่กลางก็ต้องรักผมที่สุด ไม่งั้นได้เห็นดีกันแน่!"  พูดด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น

"อื้ม!! พี่ก็ต้องรักนายที่สุดอยู่แล้ว ไอ้ตัวแสบ....."  เคนจูบเบาๆที่หน้าผากน้องชาย

"ไป.....ขึ้นไปนอนกันดีกว่า"  แล้วก็จูงมือน้องชายไว้

"ไม่นอน! แล้วพี่กลางก็ห้ามนอนด้วย"  ไจ่ไจ๋ทำเสียงแข็ง

"เอ้า! เมื่อกี้นายบอกว่าง่วง"  เคนขมวดคิ้วเพราะเริ่มเอาใจน้องไม่ถูก

"นี่กี่โมงแล้ว?"  ไจ่ไจ๋ถามพี่ชาย

"จะตีสี่"  เคนเหลือบมองนาฬิกาก่อนจะตอบคำถามน้องชาย

"ตอนนี้น่ะมันเป็นเวลาที่ดึกเกินกว่าจะเข้านอน"  ไจ่ไจ๋พูดต่อทันทีที่พี่ชายพูดจบ

"แล้วมันก็เช้าเกินไปที่จะตื่น"  เคนพูดต่อคำน้องอย่างรู้ทัน

"ใช่!"  ไจ่ไจ๋ผงกหัวแรงๆ

"งั้น....."  เคนทำเสียงเป็นเชิงถาม

"งั้นก็ขึ้นไปข้างบนแต่ไม่ต้องนอน"  น้องเล็กตอบ

"แล้วเราจะทำอะไร?"  เคนถามอีกแต่ไจ่ไจ๋ก็ตอบอย่างรวดเร็ว

"ก็ต้องคุยกัน เพราะผมมีเรื่องอยากคุยกับพี่เยอะแยะเลย"  เคนหัวเราะเบาๆแล้วเอามือขยี้หัวน้องชาย 

"ไป....งั้นเราไปคุยกัน....."  พูดจบสองพี่น้องก็จูงมือกันเดินขึ้นบันได บรรยากาศในบ้านเริ่มกลับมาอบอุ่นอีกครั้ง


- ตอนเช้า -

"อรุณสวัสดิ์ครับพี่ใหญ่! อรุณสวัสดิ์ครับพี่รอง!"  เสียงทักทายนั้นทำให้เจอร์รี่และแวนเนสที่เพิ่งเดินงัวเงียตามกันลงมาถึงกับตาสว่าง

"นาย....นายเรียกพี่สองคนว่ายังงัยนะ?"  แวนเนสถามน้องอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อหูตัวเอง

"พี่ใหญ่กับพี่รองงัยครับ"  ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับยิ้มหวานจ๋อย เคนมองไปทางพี่ชายทั้งคู่ยิ้มๆแต่ไม่พูดอะไรเพียงแต่นั่งจิบกาแฟต่อ

"หมายความว่า.....นาย.....นายจำ....."  เจอร์รี่ตื่นเต้นจนพูดแทบไม่ถูกแต่คำตอบของน้องก็ทำให้เขาต้องเก้อ

"ยังจำไม่ได้หรอกครับ แต่คุณเสี้ยวเทียนบอกว่าหากผมเรียกคุณสองคนแบบนี้แล้วพวกคุณคงดีใจมาก"  คำพูดนั้นทำเอาเคนแทบสำลักกาแฟ

"พี่พูดหรอ?"  ร้องถามน้องเล็กขึ้นมาพร้อมกับทำหน้าเป็นเชิงถาม

"อ้าว! ก็คุณบอกผมเองนี่ว่าไม่อยากให้ผมเรียกพวกคุณแบบห่างเหิน"  เคนอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าน้องเล็กกำลังแกล้งพี่ชายทั้งสองคน

"แล้วคุณก็ยังบอกอีกว่าถ้าทุกเช้าผมพูดอรุณสวัสดิ์แล้วทำแบบนี้....."  ไจ่ไจ๋พูดยังไม่ทันจบประโยคก็เดินเข้าหอมแก้มพี่ชายคนโตฟอดใหญ่ เจอร์รี่ได้มองน้องชายคนเล็กตาปริบๆกับท่าทางที่เปลี่ยนไปราวกับคนละคน

"ไจ่ไจ๋"  แวนเนสเรียกน้องชายด้วยต้องการจะถามแต่ไจ่ไจ๋กลับเดินเข้าไปหอมแก้มเขาด้วย

"อื้ม! คุณก็ไม่ต้องน้อยใจไปนะ ผมจะปฏิบัติกับพวกคุณเหมือนกันทุกคน"  ไจ่ไจ๋พูดด้วยสีหน้าระรื่น ในขณะที่เคนได้แต่นิ่วหน้า

"เมื่อคืนผมมาคิดดูแล้วว่าในเมื่อผมรู้ทั้งรู้ว่าพวกคุณเป็นพี่ชายผม งั้นทำไมผมถึงต้องทำตัวห่างเหินกับพวกคุณอีก งั้นต่อไปนี้ผมจะยอมเรียกพวกคุณเหมือนเดิมแล้วผมจะพยายามเป็นน้องชายคนเล็กของพวกคุณให้เหมือนกับที่แล้วๆมา"  เจอร์รี่กับแวนเนสได้แต่หันไปมองตากันปริบๆ

"งั้นหรอ? ถ้านายทำแบบนี้ได้ทุกวันก็ดี พวกพี่สามคนคงดีใจมาก"  เจอร์รี่พูดกับน้องเล็กด้วยสีหน้าบอกไม่ถูก

"ผมรับรองเลยว่าต่อไปนี้จะไม่มีคำพูดที่ห่างเหินอีกแล้วครับพี่ใหญ่"  คำรับรองนั้นทำให้เจอร์รี่ได้แต่พยักหน้ายิ้มๆ เขานึกอยากจะกอดน้องแต่กลับไม่กล้าเพราะวันนี้น้องดูแปลกๆ แต่ไจ่ไจ๋รู้ทันจึงตรงเข้ากอดพี่ชายซะเอง

"หลายวันมานี้ผมทำให้พี่ใหญ่ต้องวุ่นวายไม่น้อย ขอโทษจริงๆครับ"  พี่ใหญ่ก้มมองน้องชายอย่างไม่อยากจะเชื่อว่านี่เป็นความจริง

"ไม่หรอก อย่าคิดมากเลย"  เอามือตบหลังน้องชายเบาๆแล้วยิ้มให้ ไจ่ไจ๋ยิ้มตอบแล้วเข้าไปกอดแวนเนสบ้าง

"ผมก็ต้องขอโทษพี่รองแล้วก็ต้องขอบคุณพี่มากด้วย"  แวนเนสกอดน้องชายแน่นด้วยความคิดถึงเพราะหลายวันมานี้แม้น้องจะอยู่ตรงหน้าแต่เขากลับเข้าถึงน้องไม่ได้เลย

"ไม่ต้องหรอก เพราะการที่นายทำแบบนี้มันก็เท่ากับเป็นสิ่งตอบแทนที่คุ้มค่ามากแล้ว"  แวนเนสว่ากอดน้องแน่นขึ้น เคนได้แต่มองเจ้าน้องชายตัวแสบเล่นละครตาปริบๆ

"วันนี้ผมกับพี่กลางไปตลาดกันแต่เช้าเลย ตอนนี้อาหารเช้าเสร็จแล้วด้วยงั้นผมเข้าไปจัดโต๊ะให้นะครับ"  หลังจากผละตัวออกจากแวนเนสแล้วไจ่ไจ๋ก็พูดอย่างร่าเริงก่อนจะเดินเข้าไปในครัวอย่างอารมณ์ดี 

"เสี้ยวเทียน"  เจอร์รี่ก็หันไปเรียกน้องชายอีกคนหลังจากที่น้องเล็กเดินหายไปแล้ว

"เฮ้ย! ชั้นไม่รู้เรื่องอะไรนะ น้องตัดสินใจแบบนี้เอง"  เคนรีบปฏิเสธเพราะกลัวว่าหากพี่ชายทั้งสองคนจับได้ขึ้นมาว่าความจำของน้องเล็กกลับมาแล้วแต่เขายังรวมหัวกับเจ้าน้องชายตัวแสบปกปิดพี่ชายต่อคงได้โดนเทศน์ยาวแน่

"ชั้นยังไม่ได้ว่าอะไรเลย แค่จะถามว่าเมื่อคืนทำไมไม่กลับเข้ามานอน?"  หรี่ตามองน้องชายอย่างต้องการคำตอบเพราะท่าทางของน้องเล็กวันนี้มีอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้เขาคลางแคลงใจเป็นอย่างมาก เพราะคนเราไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปได้เพียงชั่วข้ามคืน

"ชั้น.....ชั้น.....ชั้นแค่ไม่อยากรบกวนนายก็เลยกลับไปฟังเพลงที่ห้อง พอดีลุกแล้วก็ตาสว่างหลับต่อไม่ลง"  เคนหาข้อแก้ตัวในทันที ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่กล้าบอกพี่ชายว่าน้องเล็กความจำกลับคืนมาแล้ว

"งั้นหรอ? แต่ทำไมชั้นเข้าไปดูในห้องนายแล้วไม่เห็นหละ? แถมไฟข้างล่างก็เปิดสว่างด้วย"  พี่ใหญ่แกล้งถามน้องไปอย่างนั้นแต่ทำเอาเคนถึงกับสะดุ้ง

"ชั้น....คงลืมปิดไฟมั้ง? แล้วที่นายไม่เห็นก็อาจจะเป็นเพราะชั้นอยู่ในห้องน้ำ"  เคนรีบหาข้ออ้าง

"ทำไมทำตัวลุกลี้ลุกลนชอบกล?"  แวนเนสเอ่ยแทรกขึ้นมาเมื่อเห็นน้องชายดูรีบร้อนผิดสังเกต

"อะไรเล่า! มาหาเรื่องกันแต่เช้าอีกแล้ว!"  เคนแกล้งแหวใส่พี่ชายเป็นการกลบเกลื่อนแล้วตัดบททันที

"ชั้นจะไปช่วยน้องจัดโต๊ะ"  พูดจบก็รีบหมุนตัวเข้าไปในห้องครัวทันที

"มันทำตัวมีพิรุธนะ"  แวนเนสหันมาพูดกับพี่ใหญ่

"อืม.....ชั้นก็ว่างั้นแหละ"  เจอร์รี่ตอบรับพร้อมกับทำหน้าครุ่นคิด

"แล้วเมื่อคืนนายไม่ได้ลงมาดูหรอกหรอว่าทำไมไฟข้างล่างถึงเปิดทิ้งไว้"  แวนเนสถามพี่ชายต่อ

"เปล่า ชั้นไม่ได้ออกจากห้องเลย ที่พูดเมื่อกี้ก็แค่จะดูท่าทางของมันเท่านั้นแหละ ทำตัวน่าสงสัยจริงๆ"  เจอร์รี่ตอบแล้วมองหน้าแวนเนส

"หรือว่าไจ่ไจ๋?"  แวนเนสรู้ทันความคิดพี่ชายจึงพูดออกมา เจอร์รี่ไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่ยักไหล่แล้วหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านปล่อยให้แวนเนสได้แต่หน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่คนเดียว


- ในครัว -

"อุ๊ย!"  ไจ่ไจ๋อุทานออกมาเมื่อโดนเคนผลักหัวซะจนหน้าทิ่ม

"พี่กลางผลักหัวผมทำไม?"  หันไปทำตาขวางใส่

"แล้วนายจะหลอกพวกมันสองคนทำไม? แถมเอาชื่อพี่ไปเป็นกันชนอีกนะ"  เคนว่าพร้อมกับถลึงตาใส่น้องชาย

"แหม.....บอกเลยก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ"  ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับยิ้มหวาน

"เซอร์ไพรส์บ้าบออะไรวะ? วันนี้พ่อกับแม่จะกลับมาถึงด้วย"  ประโยคหลังเหมือนจะบ่นๆ

"ไม่ต้องห่วง ผมส่งข้อความไปบอกพ่อกับแม่แล้วหละ เชื่อว่าถ้าเครื่องลงเมื่อไหร่พ่อแม่ต้องโทรหาผมคนแรกแน่นอน"  ไจ่ไจ๋ว่าอย่างไม่ร้อนใจ

"สนุกนักนะทำให้คนอื่นเขาหัวปั่นได้แบบนี้"  ไม่วายต่อว่าน้องชายอีก

"โธ่! พี่กลางไม่เห็นหรอ? เวลาที่ผมความจำเสื่อมนี่พี่ใหญ่กับพี่รองเกรงใจผมจะตาย จะทำอะไรก็เห็นดีไปหมด จะไปค้างบ้านเพื่อนก็ไม่ห้ามด้วย"  น้องเล็กจีบปากจีบคอพูดทำให้เคนเกิดอาการคันไม้คันมือขึ้นมา

"เกรงใจนายแต่มันไม่เกรงใจพี่น่ะสิ! เห็นหรือเปล่าว่าวันๆมันเอาแต่จู้จี้จุกจิกกับพี่ เดี๋ยวต้องกินข้าวเดี๋ยวต้องนอนเดี๋ยวต้องอาบน้ำเดี๋ยวต้องไปโน้นไปนี่ โอ้ย! อยากจะบ้า!"  เคนบ่นเป็นชุดทำให้ไจ่ไจ๋ได้แต่หัวเราะ

"ก็ถ้าผมยังจำพวกพี่ไม่ได้ก็เท่ากับว่าพี่กลางกลายเป็นน้องเล็กของพี่เขาสองคนเลยนะ แบบนี้ไม่ดีหรอ?"  ย้อนถามพี่ชายอย่างขำๆ

"ไม่ดี! ไม่ชอบ!"  เคนตวัดเสียงตอบหน้ามุ่ย

"งั้นต่อไปอย่ามาน้อยใจเวลาที่พี่ใหญ่กับพี่รองสนใจผมมากกว่าหละ"  ได้ทีพูดดักคอพี่ชาย

"ไม่มีทาง! เรื่องแบบนี้พี่ไม่เคยคิดหรอก!"  เคนว่าแล้วก็หันหลังให้น้องชาย

"แน่นะ?"  ไจ่ไจ๋กอดเอวพี่ชายพร้อมกับย้อนถาม

"แน่สิ!"  เคนตอบเสียงหนักแน่น

"ผมจะคอยดู"  พูดจบไจ่ไจ๋ก็เดินกลับไปจัดโต๊ะต่อ ในตอนนั้นเสียงโทรศัพท์ของไจ่ไจ๋ก็ดังขึ้น

"แม่โทรมา"  ไจ่ไจ๋บอกเคนอย่างร่าเริงแล้วกดรับสายทันที

"แม่!"  ร้องทักทายมารดาอย่างดีใจ

"นี่มันเรื่องอะไรกันลูก?"  เสียงแม่นั้นค่อนข้างเครียด ทำให้ไจ่ไจ๋หน้าเจื่อนลง

"ก็อย่างที่ผมส่งข้อความไปบอกนั่นแหละ"  ไจ่ไจ๋ตอบแล้วรีบเปลี่ยนเรื่อง

"แม่มาถึงแล้วหรอ? เดี๋ยวผมออกไปรับนะ"  เสนอตัวอย่างยินดี

"ไม่ต้องหรอก พ่อไปเรียกแท๊กซี่แล้ว"  แม่ปฏิเสธ

"ตกลงลูกคงไม่ได้เล่นละครทั้งหมดเพื่อหาทางอ้อนให้พ่อกับแม่กลับบ้านใช่มั๊ย?"  คำพูดของแม่ทำเอาไจ่ไจ๋อ้าปากค้าง

"แม่อ่ะ! มองผมในแง่ร้ายอีกแล้ว ผมจะทำเรื่องแบบนั้นได้ยังงัย? ไม่เชื่อถามพี่กลางดูเองไม่อยากคุยกับแม่แล้ว"  ไจ่ไจ๋ทำเสียงงอนๆแล้วส่งโทรศัพท์ให้พี่ชาย

"ครับแม่?"  เคนเอ่ยทักแม่

"เจ้าน้องชายตัวแสบของลูกก่อเรื่องอีกแล้วใช่มั๊ยจ๊ะ?"  แม่ถามเคนกลับมา

"ไม่ใช่หรอกครับแม่ เรื่องทั้งหมดเป็นความจริง"  เคนตอบคำถามนั้นด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน

"แล้วอันที่จริงมันก็เป็นความผิดของผมเอง"  พูดต่อด้วยสีหน้าเศร้าลง

"ไม่ใช่ซะหน่อย! พี่กลางพูดอะไรบ้าๆอีกแล้ว!"  ไจ่ไจ๋ได้ยินเช่นนั้นก็หันมาปฏิเสธเสียงแข็ง เมื่อเสียงของลูกชายคนเล็กดังแว่วมาแม่ก็หัวเราะออกมาได้

"เสี้ยวเทียนจ๊ะ เดี๋ยวแม่กลับไปถึงแล้วค่อยคุยกันถึงเรื่องนี้นะ"  แม่บอกกับเคนด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

"แล้ววันนี้พี่ใหญ่กับพี่รองไปทำงานหรือเปล่า?"  ถามถึงลูกชายอีกสองคนด้วย

"ยังไม่เห็นไปเลย สงสัยคงรอพ่อกับแม่ก่อนมั้งครับ"  เคนตอบแล้วเอามือผลักหัวน้องชายที่เอนเข้ามาใกล้เพราะจะฟังว่าพี่ชายคุยอะไรกับแม่

"งั้นลูกบอกพี่เขาสองคนด้วยนะจ๊ะว่าพ่อแม่กำลังจะออกจากสนามบิน"  แม่สั่งเสียเคน

"ได้ครับ เออ....แม่....."  เคนรับปากแล้วก่อนจะเอามือผลักหัวน้องชายอีก

"ว่างัยจ๊ะ?"  แม่ย้อนถามกลับมา

"ไจ่ไจ๋มันยังไม่ยอมบอกพี่ใหญ่กับพี่รองว่าความจำมันกลับมาแล้ว แถมเอาชื่อผมมาอ้างกับพี่เขาสองคนอีก"  เคนได้ทีเอ่ยปากฟ้องทันที

"ขี้ฟ้อง!"  ไจ่ไจ๋ต่อว่าพี่ชายแบบไม่ออกเสียงในขณะที่เคนยิ้มยียวนให้น้องชาย

"แม่กลับมาจัดการมันให้ด้วยนะ ไม่อย่างนั้นพี่เขาสองคนจะเข้าใจผิดว่าผมร่วมกับมันปิดบังไม่ยอมบอก"  ไจ่ไจ๋เริ่มหน้ามุ่ยที่พี่ชายฟ้องแม่ฉอดๆ

"ได้จ๊ะ ฝากบอกน้องชายคนดีของลูกด้วยว่ากลับไปถึงแม่มีเรื่องคุยด้วย"  เคนยิ้มร่าเมื่อได้ยิน

"ได้ครับ งั้นไม่กวนแม่แล้ว กลับมาดีๆนะครับ แล้วเจอกัน"  พูดจบเคนก็กดวางสาย

"ขี้ฟ้องนักนะ!"  ไจ่ไจ๋ต่อว่าพี่ชายทันที

"ช่วยไม่ได้นายอยากหาเรื่องเอง พี่แค่ช่วยเอาเรื่องมาให้นายเท่านั้น"  เคนพูดอย่างอารมณ์ดี

"ฮึ!"  ไจ่ไจ๋ทำเสียงในลำคอแล้วทำท่าจะเดินออกไป

"จะไปไหน?"  เคนร้องถามขึ้นมาก่อน

"จะไปโดดลงมาจากบันได จะได้ความจำเสื่อมอีกรอบ"  ไจ่ไจ๋ตวัดเสียงตอบทำเอาเคนหัวเราะก๊าก

"ไอ้บ้า! แค่นี้ทำงอน....."  เคนว่าแล้วก็ละมือจากการจัดโต๊ะ

"ถ้านายอยากแกล้งพี่ใหญ่กับพี่รองต่อไปพี่จะช่วยนายเองเพราะตอนนี้พ่อแม่กลับมาความปลอดภัยของพี่มีแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์"  เคนรั้งตัวน้องชายเข้ามากอดแล้วพูดด้วยเบาๆ

"จริงนะ"  น้องเล็กย้ำคำ เคนไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่ทำหน้าเจ้าเล่ห์แล้วยักคิ้วให้น้อง จากนั้นสองคนพี่น้องก็หัวเราะกันอย่างร่าเริง




 

Create Date : 17 มิถุนายน 2557    
Last Update : 25 กันยายน 2557 22:01:43 น.
Counter : 904 Pageviews.  

Chapter 75

  ตอนที่ 75


"ทำไมมานอนตรงนี้หละ?"  เสียงแวนเนสที่ร้องเรียกทำให้เจอร์รี่ค่อยลืมตาขึ้นมา เขากระพริบตาถี่ๆก่อนจะมองหน้าน้องชายที่จ้องเขาอยู่

"มีงานหรอวันนี้?"  เอ่ยถามน้องด้วยน้ำเสียงแหบแห้งพลางขยับตัวลุกขึ้น

"อืม...."  แวนเนสตอบพร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อย

"ทำไมไม่นอนที่ห้องหละ?"  ถามพี่ชายต่ออีก

"ไม่มีอะไรหรอก"  เจอร์รี่ตอบแล้วเอามือเสยผมให้เข้าที่เข้าทาง

"เสี้ยวเทียนหละ?"  ถามหาน้องชายอีกคน

"มันยึดเตียงชั้นไปน่ะสิชั้นถึงระเห็จออกมานอนตรงนี้"  ตอบแบบติดตลกเพราะไม่อยากให้น้องคิดมาก

"เราหละเป็นงัย?"  ถามน้องต่ออีก

"ก็ไม่เป็นไรหนิ"  แวนเนสตอบพร้อมกับหลบตาพี่ชาย

"งั้นก็ดี ไปทำงานซะจะได้ไม่ต้องคิดอะไรมาก"  เอื้อมมือมาขยี้หัวน้องเบาๆ

"แล้วนายหละ?"  แวนเนสถามพี่ชายบ้าง

"ขอดูสถานการณ์ก่อน ถ้าไม่มีอะไรมากก็ว่าจะเข้าบริษัทเหมือนกัน"  พูดจบก็พยักหน้าให้น้องคล้ายจะตัดบท แต่แวนเนสก็พูดขึ้นอีก

"ให้ชั้นเอาเสี้ยวเทียนไปด้วยดีมั๊ย? นายจะได้ไม่ต้องห่วงโน้นกังวลนี่"  เสนอขึ้นมาเพราะรู้ว่าพี่ชายเป็นห่วงน้อง

"ไม่เป็นไรหรอกชั้นดูมันเอง ขืนนายเอามันไปด้วยเวลามันดื้อขึ้นมาจะคุมไม่อยู่"  แวนเนสหัวเราะเฝื่อนๆก่อนจะพยักหน้า

"เออนี่.....เรื่องที่เกิดขึ้นน่ะชั้นบอกพ่อแม่แล้วนะ"  แล้วเจอร์รี่ก็บอกน้องชายไปตรงๆ

"หา!!?? บอกไปแล้วหรอ?"  แวนเนสอุทานอย่างตกใจ

"แล้วพ่อแม่ไม่ตกใจแย่หรอ?"  ซักไซร้พี่ชายต่ออีก

"ก็ตกใจเหมือนกัน และก็บอกว่าจะรีบกลับมาทันที"  ตอบคำถามนั้นจบก็ถอนหายใจ

"ชั้นโดนสวดไปหลายยกเหมือนกัน ที่มีเรื่องอะไรแล้วไม่รีบบอก"  แวนเนสมองพี่ชายอย่างเห็นใจ เขารู้ดีว่าความรับผิดชอบของพี่ชายนั้นใหญ่หลวงมากนัก

"แล้วชั้นก็คุยกับพ่อแม่แล้วด้วยว่าหากความทรงจำของไจ่ไจ๋ยังไม่กลับคืนมาในเร็ววัน ชั้นจะให้แม่พาเสี้ยวเทียนไปอยู่กับแม่ซักระยะ"  แวนเนสนิ่งไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น

"เมื่อคืนมันอาละวาดอีกหรอ?"  ย้อนถามพี่ชายกลับไป

"ไม่เชิงหรอก แต่น้องมันเสียใจแล้วก็เอาแต่โทษตัวเองตลอด ชั้นเลยไม่อยากให้น้องอยู่กับสภาพแวดล้อมเดิมๆ บางทีการได้ไปพักผ่อนไกลๆซักช่วงนึงอาจทำให้น้องสงบลงก็ได้"  คำอธิบายของพี่ชายนั้นทำให้แวนเนสไม่รู้จะพูดอะไรต่อเพราะแม้เขาไม่อยากให้น้องไปไหนไกลหูไกลตาแต่เขาก็ต้องเลือกหนทางที่ดีที่สุดสำหรับน้อง

"ชั้นเลยบอกนายไว้ก่อน แล้วจะหาทางบอกไจ่ไจ๋อีกทีแต่รายนั้นคงไม่ยากเย็นอะไรเพราะน้องก็จำเราไม่ได้อยู่แล้ว"  แวนเนสพยักหน้ารับอีกครั้งก่อนจะพูดตัดบท

"ก็เอาตามนั้น งั้นชั้นไปทำงานก่อนนะ"  ว่าแล้วก็หมุนตัวจะออกจากบ้าน

"เสี่ยวจือไม่มารับหรอ?"  ถามน้องไล่หลังไป

"เปล่า ชั้นจะนั่งแท๊กซี่ไป"  พูดจบก็เปิดประตูเดินออกไปทันที หลังจากน้องออกไปแล้วเจอร์รี่ก็ถอนหายใจเบาๆก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นเดินไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ เมื่อเดินออกมาก็เจอไจ่ไจ๋ที่เดินงัวเงียลงมา

"ตื่นแล้วหรอ? หลับสบายมั๊ย?"  เจอร์รี่เอ่ยทักแล้วปั้นรอยยิ้มสดใสให้น้องชาย

"สบายครับ ขอโทษนะครับที่ตื่นสาย"  ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับยิ้มแหยๆรู้สึกอายที่ตื่นสายกว่าคนอื่น

"ปกตินายก็ตื่นสายอยู่แล้วนี่"  เจอร์รี่พูดยิ้มๆ 

"หิวหรือยัง? พี่ต้มข้าวต้มไว้เดี๋ยวจะออกไปซื้อกับข้าวมาให้"  ถามน้องชายต่ออีก

"ไม่ต้องหรอกครับ คือว่า.....ผมออกไปซื้อให้พวกคุณดีกว่า"  ไจ่ไจ๋รีบปฏิเสธเพราะรู้สึกเกรงใจที่ตัวเองไม่ได้ช่วยทำอะไร 

"พี่คงหิวตายก่อนแน่เลย กว่านายจะอาบน้ำเสร็จ"  เจอร์รี่แกล้งพูดแหย่น้อง

"แหม....ผมล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็ออกไปซื้อได้แล้ว รอเดี๋ยวเดียวนะเดี๋ยวผมไปซื้อให้!"  พูดจบก็วิ่งจู๊ดเข้าห้องน้ำทันที ท่าทางของน้องเล็กทำให้เจอร์รี่หัวเราะออกมาได้

"ไม่ต้องรีบหรอก พี่พูดเล่นพี่ไม่ได้หิวอะไรเลย"  เจอร์รี่ร้องบอกน้องชายก่อนจะเดินมานั่งลงที่โซฟาแล้วหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน ตอนนั้นเองเคนก็เดินลงมาจากบันได

"อ้าว....มาทำหน้างอใส่พี่ใหญ่อีกแล้ว"  เจอร์รี่เหลือบตาขึ้นมองเมื่อเห็นน้องยืนค้ำหัวเขาพร้อมกับทำหน้ามุ่ยใส่

"เมื่อคืนบอกชั้นว่าจะช่วยจัดรูป จนป่านนี้รูปทุกใบยังกองอยู่ที่เดิมเลย"  พูดด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด

"วันอื่นยังมีเวลาอีกตั้งเยอะ"  เจอร์รี่แย้งก่อนจะตบที่ว่างข้างๆ

"นั่งลงมานี่ ยืนค้ำหัวผู้ใหญ่ได้ยังงัย?"  เคนเบ้ปากแต่ก็ทรุดตัวนั่งลงกับพี่ชาย

"แวนเนสหละ?"  ถามถึงพี่ชายอีกคน

"ออกไปทำงานตั้งแต่นายยังนอนอุตุอยู่ข้างบนแล้ว"  เจอร์รี่ตอบแล้วยิ้มบางๆ

"แล้วมันเป็นยังงัยบ้าง?"  ถามพี่ชายต่ออีก

"เราน่ะเอาแต่เป็นห่วงคนอื่นตัวเองเอาให้รอดก่อนเถอะ"  ว่ากระทบน้องชายไปในตัว

"นี่! ตอนนี้ชั้นไม่เป็นแล้ว ถึงจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกชั้นก็รับมือได้ทุกอย่าง"  เคนพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

"ตอนนี้ทำเป็นพูดดีไป เดี๋ยวตกดึกหน่อยก็ร้องไห้วิ่งหาพี่ใหญ่อีก"  เคนได้ยินก็ตีแขนพี่ชายอย่างขัดใจที่พี่ชายชอบพูดขัดคอเขาตลอด

"โอ้ย! มาตีชั้นทำไมเนี่ย!"  เจอร์รี่โวยวายใส่น้อง ในตอนนั้นเองไจ่ไจ๋เดินออกมาจากห้องน้ำพอดีเขาหยุดยืนมองสองพี่น้องเงียบๆ

"ก็ชั้นพูดอะไรนายก็ขัดตลอด เออออกับชั้นซักเรื่องได้มั๊ย!?"  ตวัดเสียงพูดกับพี่ชาย

"เออออกับนายก็เท่ากับให้ท้ายเวลานายทำตัวเกเรน่ะสิ"  พี่ใหญ่ได้ทีพูดแขวะน้องอีก

"ชั้นทำตัวเกเรที่ไหน?"  เคนเริ่มโวยวายขึ้นมาบ้าง

"โอโห.....ถามแบบนี้จะให้ชั้นตอบยังงัยหละ? เพราะถ้าให้ตอบจริงๆคงต้องคุยกันเป็นเดือน"  พี่ใหญ่ไม่วายแหย่น้องอีก เพราะแม้ในใจเขาจะรู้สึกเจ็บแต่อย่างน้อยการได้เห็นน้องโวยวายใส่ก็ยังดีกว่าการที่น้องนิ่งเงียบเป็นไหนๆ

"ไม่คุยด้วยแล้ว! ลุกเลยไปช่วยกันข้างบน!"  แล้วเคนก็ดึงแขนพี่ชายเป็นการใหญ่

"เฮ้ยๆๆๆๆ!!! เรื่องอะไรมาฉุดกระชากชั้นแบบนี้หละ? คิดจะทำอะไรฮึ?"  พี่ใหญ่เป็นฝ่ายโวยวายบ้าง

"ไอ้บ้า!! ชั้นไม่พิศวาสนายหรอก! ไปช่วยกันจัดเรียงรูปต่อเร็วๆ!"  ออกคำสั่งกับพี่ชายแล้วเร่งพี่ชายยิกๆ

"เรื่องอะไรชั้นต้องช่วย นายรื้อออกมาเองก็เก็บเองสิ วันนี้ไม่หลงกลนายง่ายๆหรอก"  เจอร์รี่ว่าแล้วก็นั่งลงตามเดิม

"ได้!! งั้นชั้นก็ไม่ทำเหมือนกัน เพราะยังงัยมันก็ไม่ใช่ห้องนอนของชั้นจะรกยังงัยก็ช่างมัน!"  แล้วเคนก็นั่งลงบ้าง

"อ้าวเฮ้ย!! อยากมีเรื่องหรืองัย? นายเป็นคนรื้อก็ต้องเป็นคนเก็บสิเรื่องอะไรมาทิ้งของเละเทะในห้องชั้น"  เจอร์รี่ถลึงตาใส่น้องชาย

"ห้องนายแล้วชั้นเกี่ยวอะไรด้วย? ห้องนายรกแล้วมันกงการอะไรของชั้น?"  เคนลอยหน้าลอยตาถามพี่ชาย คราวนี้พี่ใหญ่เงื้อมือขึ้นเคนที่ระวังตัวอยู่แล้วจึงรีบลุกหนีได้ทันก่อนจะโดนฝ่ามือพิฆาตของพี่ชาย

"เดี๋ยวโดนแน่!"  พี่ใหญ่ชี้หน้าน้องพร้อมกับพูดขู่ ไจ่ไจ๋ที่ยืนมองอยู่นานจึงหลุดหัวเราะออกมากับการทะเลาะกันเหมือนเด็กๆของทั้งสองคน

"อ้าว! มาอยู่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่"  เคนอุทานก่อนจะร้องทักน้องชายเพราะเพิ่งเห็น

"ออกมาทันดูพวกคุณสองคนปะทะคารมกันแหละครับ"  ไจ่ไจ๋ตอบขำๆแล้วพูดต่อ

"ผมจะออกไปซื้อกับข้าว พวกคุณจะเอาอะไรเป็นพิเศษมั๊ย?"  เคนหันไปมองพี่ชายก่อนจะหันกลับมาทางน้องชายอีก

"พี่ไปด้วย"  พูดกับน้องเล็กอย่างกระตือรือร้น

"ไม่ต้องเลย ให้น้องไปแหละดีแล้ว กว่านายจะล้างหน้าล้างตาอาบน้ำเสร็จได้หิวตายกันพอดี"  เจอร์รี่พูดแย้งขึ้นมา

"ชั้นไม่อาบก็ได้ ไปแบบนี้แหละ"  เคนเถียงพี่ชายก่อนจะลุกมายืนข้างน้อง

"น้องมันคงอยากเดินกับนายหรอก น้ำท่าไม่อาบหน้าตาไม่ล้างออกไปเดินข้างนอกอายคนอื่นแย่เลย"  เจอร์รี่ตอกกลับน้องชายอีก

"น้องไม่เห็นว่าอะไรซักคำ"  เคนย้อนก่อนจะมองหน้าไจ่ไจ๋

"เอ่อ.....คุณเพิ่งจะตื่นไปอาบน้ำอาบท่าก่อนเถอะครับ เดี๋ยวพอผมซื้อกับข้าวกลับมาเราจะได้กินข้าวกันงัย"  ไจ่ไจ๋พยายามปฏิเสธอย่างนุ่มนวล เคนเลยทำหน้าเศร้าลงเพราะรู้ว่าน้องไม่อยากให้เขาไปด้วย

"ไปเถอะไจ่ไจ๋"  เจอร์รี่พูดตัดบทแล้วพยักหน้าให้น้องชายคนเล็ก ไจ่ไจ๋มองไปทางเคนแว๊บหนึ่งก่อนจะเดินออกจากบ้านไป

"น้องไม่ยอมรับชั้น"  หลังจากน้องเดินออกไปแล้วเคนก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ

"คิดอะไรแบบนั้น"  พี่ใหญ่พูดเป็นเชิงปลอบ

"นายก็เห็นว่าถ้าหากน้องต้องอยู่กับชั้นตามลำพังน้องจะหลีกเลี่ยงทุกที แต่กับนายกับแวนเนสน้องไม่เห็นเป็นแบบนั้นเลย"  สายตาของเคนดูเจ็บปวด

"นายคิดมากอีกแล้ว น้องไม่ได้เป็นแบบที่นายคิดหรอก น้องก็บอกแล้วงัยว่าอยากให้นายอาบน้ำอาบท่าให้สบายตัวแล้วจะได้มากินข้าวพร้อมๆกัน"  ว่าพลางตบไหล่น้องเบาๆ

"นายไม่ต้องมาปลอบใจชั้นหรอก ชั้นเห็นสีหน้าท่าทางของน้องชั้นก็รู้แล้ว"  เคนน้ำตาซึม

"แต่ก็สมควรแล้วที่น้องจะเกลียดชั้นเพราะถ้าไม่ใช่เพราะชั้นน้องก็ไม่อยู่ในสภาพแบบนี้หรอก"  พี่ใหญ่ถอนหายใจที่น้องเอาแต่โทษตัวเองอีกแล้ว

"เสี้ยวเทียน.....เอาอีกแล้วนะ"  พูดเตือนน้องด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ

"ช่วงนี้ชั้นควรออกไปอยู่ที่อื่นซักพัก"  เคนว่าแล้วเงยหน้ามองพี่ชาย

"ชั้นมัวแต่อยากเจอหน้าน้องอยากคุยอยากถามอะไรหลายๆอย่างแต่น้องกลับเอาแต่หลบหน้าชั้นเอาแต่พวกนายเป็นกำบัง ในเมื่อชั้นเป็นคนทำให้น้องอึดอัดชั้นก็น่าจะไป....."  พูดกับพี่ชายด้วยน้ำเสียงจริงจัง ในขณะที่สองคนพี่น้องคุยกันนั้นก็ไม่รู้เลยว่าไจ่ไจ๋ที่ออกจากบ้านไปนั้นยังไม่ได้ไปไหนเพียงแต่ยืนฟังพวกเขาสองคนอยู่

"ถ้านายอยากทำอย่างนั้น ก็รออีกซักสองสามวัน"  เจอร์รี่เองก็ไม่ห้ามน้อง

"พ่อแม่คงจะกลับมาถึงในวันพรุ่งนี้แล้วพี่จะให้แม่พานายกลับไปด้วยเลย"  เคนอึ้งไปเพราะไม่นึกว่าจะเร็วขนาดนี้แต่ก็ต้องยอมจำนนเพราะเขาไม่มีทางเลือกแล้ว ไจ่ไจ๋ที่ยืนมองอยู่นั้นนิ่งงันเมื่อได้เห็นว่าเคนนั้นรักเขามากแค่ไหน 

"เอาแบบนั้นก็ได้"  แล้วเคนก็ตอบรับอย่างยากลำบาก

"เสี้ยวเทียน ไม่ใช่ว่าพี่อยากจะผลักไสไม่ให้นายได้อยู่ใกล้ชิดกับน้องหรอกนะ แต่มันน่าจะดีกว่าการที่ต้องมาเจอหน้ากันแล้วมีแต่ความอึดอัด"  เจอร์รี่ว่าพร้อมกับดึงตัวน้องเข้ามากอดเอาไว้

"ชั้นรู้"  เสียงเคนตอบรับสั่นเครือ ในตอนนั้นเองไจ่ไจ๋ก็มีความรู้สึกบางอย่างที่คุ้นเคยภาพตรงหน้านั้นเหมือนกับว่าเขาเคยเห็นและเคยเกิดขึ้นมาแล้ว

"ขอแค่น้องมีความสุขชั้นก็ยอมทั้งนั้น"  คำพูดของเคนนั้นทำให้ไจ่ไจ๋หันหลังกลับแล้วเดินออกจากบ้านไปเงียบๆ ในขณะที่เดินไปตามทางนั้นไจ่ไจ๋พยายามนึกเรื่องราวของตัวเองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เขาคิดถึงภาพของชายหนุ่มทั้งสามคนที่อาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน 

"พี่ชาย.....เรามีพี่ชายจริงๆน่ะหรอ....."  พึมพำกับตัวเองเบาๆเพราะไม่ว่าจะนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก

"เอาอะไรดีไจ่ไจ๋ วันนี้มาคนเดียวหรอ?"  แล้วไจ่ไจ๋ก็หลุดออกจากห้วงความคิดของตัวเองเมื่อมีเสียงร้องทัก

"เอ่อ....สวัสดีครับ"  ไจ่ไจ๋เอ่ยทักทายพ่อค้าเจ้าประจำที่เขามักมาซื้ออาหารเช้ากิน

"พี่ชายไม่มาด้วยหรอวันนี้?"  ถามไจ่ไจ๋อย่างสนิทสนม

"อ้อ วันนี้ผมมาคนเดียว"  ไจ่ไจ๋ตอบแล้วมองกับข้าวหลากหลายตรงหน้า

"วันนี้ที่บ้านมีข้าวต้ม ผมเลยอาสาเดินออกมาซื้อกับข้าวซักสามสี่อย่าง"  ว่าแล้วไจ่ไจ๋ก็เลือกกับข้าวที่กินกับข้าวต้มยื่นให้พ่อค้าก่อนจะทำท่าลังเล

"เอาอะไรเพิ่มอีกมั๊ย?"  เมื่อเห็นสีหน้าของไจ่ไจ๋แล้วพ่อค้าคนเดิมก็เอ่ยถาม

"เอ่อ....ไม่ครับ แต่ว่าปกติแล้วคุณเสี้ยวเทียน เอ้ย! พี่ชายผมจะเป็นคนออกมาซื้อกับข้าวหรอครับ?"  พ่อค้ารับถุงกับข้าวที่ไจ่ไจ๋หยิบมาใส่ถุงให้พร้อมกับขมวดคิ้วกับคำถามนั้น

"เธอก็มากับพี่ชายบ่อยไปไม่ใช่หรอ? ทำไมวันนี้ถามอะไรแปลกๆ"  ไจ่ไจ๋เริ่มรู้สึกตัวจึงแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อน

"เปล่าหรอกครับ ช่างเถอะ! ทั้งหมดเท่าไหร่ครับ?"  พูดจบก็ควักเงินจ่ายให้แล้วหมุนตัวเดินกลับบ้านทันที จนเมื่อกลับมาถึงก็พบเจอร์รี่นั่งอยู่คนเดียว   

"คุณเสี้ยวเทียนหละครับ?"  ไจ่ไจ๋ถามเจอร์รี่เมื่อกลับมาก็ไม่เห็นเคนแล้ว

"ขึ้นไปอาบน้ำข้างบนน่ะ สั่งไว้ว่าถ้านายกลับมาก็กินกันก่อนเลยไม่ต้องรอ"  คำตอบนั้นทำให้ไจ่ไจ๋รู้สึกไม่ค่อยดีเพราะรู้ว่าเคนกำลังเสียใจที่เขาชอบทำตัวห่างเหิน

"ไม่เป็นไร ผมรอได้"  ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับมาช่วยเจอร์รี่แกะกับข้าวใส่ถุง

"ไม่ต้องรอหรอก กินกันก่อนเถอะ"  เจอร์รี่แย้งพร้อมกับชวนให้น้องกินข้าว

"งั้นผมขึ้นไปตามคุณเสี้ยวเทียนก่อน"  พูดจบไจ่ไจ๋ก็เดินขึ้นบันไดไปปล่อยให้เจอร์รี่ได้แต่มองตามอย่างงงๆ

"คุณเสี้ยวเทียนครับ"  ไจ่ไจ๋เคาะประตูห้องเคนพร้อมกับร้องเรียก

"คุณอาบน้ำเสร็จหรือยัง? ผมจะรอกินข้าวนะ!"  ไจ่ไจ๋ร้องบอกในขณะที่เคาะประตูไปด้วย ผ่านไปครู่หนึ่งบานประตูก็ถูกเปิดออกเคนยังอยู่ในชุดเดิม

"อ้าว! คุณยังอาบน้ำไม่เสร็จหรอกหรอ?"  ไจ่ไจ๋ถามอย่างสงสัย

"ยังเลย พอดี.....พี่คุยโทรศัพท์อยู่น่ะ"  เคนตอบด้วยสีหน้าเศร้าๆ

"นายกินข้าวกับพี่ใหญ่ก่อนนะ ไว้พี่ค่อยลงไปกินทีหลัง"  พูดจบเคนก็ปิดประตูโดยไม่รอคำตอบรับใดๆอีก ไจ่ไจ๋มองบานประตูก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วเดินลงไปข้างล่าง

"คุณเจอร์รี่ครับ คุณเสี้ยวเทียนไม่สบายหรือเปล่า?"  ไจ่ไจ๋เอ่ยถามเจอร์รี่ไปตามตรง

"ทำไมหรอ?"  เจอร์รี่ย้อนถามกลับไป

"ผมว่าท่าทางเขาดูไม่ค่อยสบาย"  ไจ่ไจ๋ตอบ

"เป็นเพราะผมใช่มั๊ย?"  พี่ใหญ่ได้ยินก็หยุดมือที่กำลังตักข้าวแล้วเหลียวกลับมามองน้องชาย

"ผมรู้ว่าเขาเครียดเรื่องที่ผมจำพวกคุณไม่ได้"  ไจ่ไจ๋พูดต่อโดยไม่มองหน้าคู่สนทนา

"ผมก็พยายามอยู่ ผมพยายามนึกเรื่องราวทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับผมแต่ว่า....."  ก่อนที่ไจ่ไจ๋จะพูดจบเจอร์รี่ก็ดึงตัวน้องชายเข้ามากอด

"ช่างมันเถอะไจ่ไจ๋ ถ้านึกไม่ออกก็อย่าพยายามเลย"  ไจ่ไจ๋ค่อนข้างตกใจที่จู่ๆเจอร์รี่ก็กอดเขา ตอนแรกไจ่ไจ๋ตั้งใจจะผลักเจอร์รี่ออกแต่เขากลับรู้สึกว่าอ้อมกอดนั้นเป็นอ้อมกอดที่เขาคุ้นเคย

"นายอย่าคิดมากเลยนะ พี่ไม่อยากให้นายต้องพลอยเครียดไปอีกคน"  พูดจบเจอร์รี่ก็ผละตัวออกแล้วสบตากับน้องตรงๆ

"พรุ่งนี้พ่อแม่คงมาถึงไว้ตอนนั้นเราค่อยคุยกันอีกที แต่ตอนนี้นายทำใจให้สบายไม่ต้องกังวลกับอะไรทั้งนั้น"  บอกกับน้องชายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ไจ่ไจ๋มองคนตรงหน้าน้ำตาคลอพูดอะไรไม่ออก

"กินข้าวกันนะ"  พูดจบเจอร์รี่ก็หันไปตักข้าวแล้วมาวางที่โต๊ะ

"ขอบคุณครับ"  ไจ่ไจ๋พึมพำเบาๆ แล้วบรรยากาศบนโต๊ะก็มีแต่ความเงียบ


- ตอนเย็น -

"พี่ใหญ่"  แวนเนสเอ่ยทักทายพี่ชายเบาๆ เจอร์รี่ละสายตาจากจอโทรทัศน์มาทางน้องแล้วพยักหน้าให้

"น้องชายของนายสองคนไปไหนซะหละ?"  ถามหาเคนกับไจ่ไจ๋ เจอร์รี่ลอบถอนหายใจเบาๆก่อนตอบ

"ขลุกตัวอยู่แต่ในห้องกันทั้งคู่"  เว้นวรรคไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ

"เสี้ยวเทียนไม่ยอมลงมากินข้าวกินปลาตั้งแต่เช้าแล้ว ส่วนไจ่ไจ๋พอกินมื้อเช้าเสร็จก็ขึ้นไปหมกตัวอยู่แต่ในห้องเหมือนกัน"  แวนเนสได้ยินก็เริ่มมีสีหน้าคร่งขรึม

"เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?"  นั่งลงข้างพี่ชายพร้อมกับสอบถามอีก

"ไม่มีอะไรหรอก"  เจอร์รี่ตอบแล้วก็ถอนหายใจอีก

"ชั้นว่าจับมันสองคนให้ห่างกันบ้างน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด เพราะอยู่ด้วยกันแบบนี้แล้วต่างคนก็ต่างคิดว่าเป็นความผิดของตัวเอง"  แล้วก็เริ่มต้นสนทนากับน้อง

"เสี้ยวเทียนมันก็เอาแต่โทษตัวเองว่าเป็นเพราะมันน้องถึงความจำเสื่อม ไจ่ไจ๋เองก็คิดว่าเพราะตัวเองจำไม่ได้ถึงได้ทำร้ายความรู้สึกเสี้ยวเทียน เฮ่อ!"  แวนเนสมองพี่ชายก่อนจะพลอยถอนหายใจออกมาด้วย

"ถ้าพ่อแม่กลับมาน่าจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นนะ"  แวนเนสให้ความเห็น

"อืม ชั้นถึงตัดสินใจบอกพ่อแม่งัย"  เจอร์รี่เองก็เห็นด้วย

"ชั้นเองก็รู้สึกแย่เหมือนกันที่ดูแลน้องไม่ดี เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นชั้นก็คงต้องพิจารณาตัวเองแล้วหละ"  พูดจบก็ยิ้มแบบเศร้าๆ

"ไอ้บ้า.....นายก็ไปบ้าตามพวกมันสองคนด้วยหรอ? จะโทษตัวเองไปทำไมในเมื่อนายก็จัดการทุกอย่างอย่างดีที่สุดแล้ว"  แวนเนสพูดเป็นเชิงต่อว่าพี่ชายแต่ก็มีการให้กำลังใจด้วย

"แต่เห็นน้องไม่มีความสุขชั้นก็รู้สึกแย่จัง"  เจอร์รี่แย้งขึ้นพร้อมกับส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย

"ชั้นรู้ว่าลึกๆแล้วนายก็เสียใจไม่น้อย"  เงยหน้ามองน้องชายแล้วพูดออกมาตรงๆ

"แต่ชั้นก็ต้องขอบใจนายหละนะที่อย่างน้อยก็ยังพอจะควบคุมตัวเองได้ ถือว่าช่วยชั้นได้เยอะเลย"  แวนเนสยิ้มบางๆก่อนจะส่ายหน้า

"เมื่อคืนชั้นก็ทำให้นายปวดหัวเหมือนกันสิ แต่พอได้ระบายออกมาบ้างมันก็ดีขึ้นนะ"  พี่ใหญ่ยิ้มให้น้องแล้วพยักหน้า ในตอนนั้นเคนก็หอบพวกอัลบั้มรูปเดินลงมา

"แวนเนส กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?"  เคนเอ่ยถามพี่ชายด้วยสีหน้าอิดโรย

"ซักพักแล้ว ทำอะไรน่ะ?"  แวนเนสตอบก่อนจะย้อนถามน้องชาย

"ชั้นนั่งจัดอัลบั้มรูปทั้งหมดเนี่ย อะ.....ช่วยเก็บเข้าที่หน่อย"  ว่าแล้วเคนก็ขอให้พี่ชายช่วย

"หมกตัวอยู่ในห้องทั้งวันก็เพราะนั่งจัดรูปเนี่ยนะ?"  เจอร์รี่ย้อนถามน้องชายแต่ก็ขยับตัวมาช่วย

"ก็นายไม่ยอมช่วยหนิ"  เคนพูดด้วยสีหน้ามุ่ยๆ

"ใครจะไปรู้หละ? ไม่เห็นลงมาบอกนี่นา"  เถียงจบก็ทรุดตัวนั่งลงที่พื้นแล้วจัดเรียงอัลบั้มตามที่น้องชายเรียงมาไว้หมดแล้ว

"นายคิดว่าจะได้ผลหรอ?"  แวนเนสถามขึ้นมาลอยๆหลังจากที่ทั้งหมดพากันเงียบไปครู่หนึ่ง

"ก็ยังดีกว่าไม่ได้ลองทำอะไรเลย"  แม้จะตอบแบบนั้นแต่สีหน้าเคนฉายแววท้อแท้ให้เห็น

"พวกนายว่าการที่น้องกลับมาอยู่บ้านมันจะช่วยให้ดีขึ้นหรือว่าแย่ลง?"  แล้วเคนก็ถามพี่ชายทั้งคู่ขึ้นมาบ้าง

"มันก็ต้องดีขึ้นสิ"  เจอร์รี่ตอบแบบเข้าข้างตัวเอง

"หรอ? แต่ชั้นว่าไม่เห็นดีเลย ตอนแรกชั้นคิดง่ายๆว่าแค่น้องได้เข้ามาเหยียบตัวบ้านความทรงจำทุกอย่างก็จะกลับมา แต่ทีไหนได้มันไม่ได้ผลอะไรเลย น้องไม่มีท่าทีว่าจะจำได้เลยแม้แต่นิดเดียว"  เคนพูดออกไปตามความคิดของตัวเอง

"เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลา นายจะให้ปุ๊บปั๊บก็จำได้ทันทีเลยหรืองัย? นี่มันชีวิตจริงนะไม่ใช่ละคร"  แวนเนสแย้งพร้อมกับเปลี่ยนเรื่องเพื่อเป็นการตัดบท

"แล้วนายน่ะข้าวปลาไม่ยอมกินอีกแล้วนะ! รีบไปหาอะไรใส่ท้องเดี๋ยวนี้เลย!"  ปรับสีหน้าให้ดูจริงจังขึ้น

"ก็ชั้นไม่หิว"  เคนตอบเสียงแผ่วเพราะไม่รู้สึกอยากอาหารเลย

"ไม่หิวก็ต้องกิน! วันทั้งวันไม่กินอะไรเลยได้ที่ไหน!"  เอ็ดใส่น้องชายอีกก่อนจะหันมาต่อว่าพี่ใหญ่ด้วย

"นายก็ตามใจมันไม่เข้าเรื่อง น้องไม่กินข้าวกินปลาก็ไม่ทักท้วงไม่ว่าอะไรเลย"  เจอร์รี่อ้าปากค้างที่โดนแวนเนสต่อว่า

"ไม่ต้องเถียงเลย! นายแหละตัวดี!"  แวนเนสต่อว่าพี่ชายอีกก่อนที่พี่ชายจะทันได้เถียงหรือแก้ตัว

"ชั้นจะนับหนึ่งถึงสามถ้ายังไม่ยอมขยับหละก็นายโดนแน่"  หันกลับมาพูดกับน้องชายที่ยังคงนั่งนิ่งด้วยน้ำเสียงเอาจริง

"หนึ่ง!.....สอง!....."  เมื่อแวนเนสเริ่มนับเจอร์รี่ก็เป็นฝ่ายลุกขึ้นแล้วไปดึงน้องชายคนกลางให้ลุกขึ้นด้วย

"ไปกับพี่ใหญ่นะ"  บอกน้องด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแล้วพาน้องเดินเข้าไปในห้องครัว โดยมีแวนเนสที่มองตามอย่างเหนื่อยใจ หลังจากแวนเนสนั่งเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่พักนึงไจ่ไจ๋ก็เดินลงมา 

"กลับมานานแล้วหรอครับ?"  ไจ่ไจ๋เอ่ยทักแวนเนสออกมาก่อน ในบรรดาชายหนุ่มสามคนแวนเนสดูจะเป็นคนเดียวที่ไจ่ไจ๋กล้าเข้าหามากที่สุด

"พักใหญ่ๆแล้วหละ วันนี้นอนตีพุงสบายเลยสิ"  แล้วก็ย้อนถามน้องกลับไป

"ก็นอนทั้งวันเลยครับ"  ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับยิ้มเจื่อนๆ

"เอ่อ.....คุณแวนเนสครับ....."  แล้วก็เรียกแวนเนสเบาๆ

"ไจ่ไจ๋ ไหนๆเราก็มาอยู่บ้านเดียวกันแล้ว นายอย่าเรียกพี่แบบเป็นทางการขนาดนี้เลย"  แวนเนสพูดกับน้องชายตรงๆ

"ถ้าไม่คุ้นปากพี่อนุญาตให้เรียกแต่ชื่ออย่างเดียวได้"  ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ทำหน้าบอกไม่ถูก

"เรียกแต่ชื่อคงไม่เหมาะมั้งครับ คุณแก่กว่าผมตั้งหลายปี"  ไจ่ไจ๋แย้งด้วยสีหน้าแหยๆ

"เอ่อ....ตามใจนายแล้วกัน"  แวนเนสนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรเรียกร้องอะไรที่จะมำให้น้องลำบากใจจึงบอกปัด

"ผมเรียกคุณว่าพี่ชายแล้วกันนะครับ"  ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับมองหน้าคู่สนทนาอย่างรอคำตอบ

"ได้เลยไอ้น้องชาย!"  แวนเนสค่อยยิ้มออกเขาตบไหล่น้องชายเบาๆ

"ไม่เบื่อหรอ? วันๆนั่งๆนอนๆอยู่กับบ้านแบบนี้?"  แล้วก็ชวนน้องชายคุย

"ก็ไม่รู้จะทำอะไรเหมือนกัน"  ไจ่ไจ๋ไม่ตอบรับแต่ก็ไม่ปฏิเสธ

"แฟนก็ดันไม่อยู่เที่ยวด้วยหละสิ"  แวนเนสแกล้งพูดล้อน้องชาย ทำให้ไจ่ไจ๋ยิ้มออกมาได้

"ก็มีโทรคุยกันแหละครับ"  แวนเนสยิ้มกับคำตอบนั้น

"ถ้างั้นไว้ไปกับพี่มั๊ยหละ? ที่กองถ่ายมีอะไรให้เล่นเยอะนะ"  เอ่ยชวนน้องชาย

"ผมไปได้หรอ? ผมไปได้จริงๆอ่ะ?"  ย้อนถามกลับไปอย่างดีใจเพราะถ้าเป็นแวนเนสแล้วเขาไม่ตะขิดตะขวงใจแต่อย่างใดเลยหากว่าจะต้องไปไหนมาไหนด้วยกัน

"ได้สิ นายเองก็ชอบขอไปกับพี่อยู่บ่อยๆ"  แวนเนสตอบพร้อมกับส่ายหน้ายิ้มๆ

"เออนี่....พี่ถามอะไรหน่อยได้มั๊ย?"  แล้วก็เกริ่นนำขึ้นมา

"ได้สิครับ ถามมาได้เลย"  ไจ่ไจ๋ตอบแบบไม่ต้องคิด

"ตั้งแต่นายกลับเข้าบ้านมายังไม่รู้สึกว่าพอจะจำพวกพี่สามคนได้เลยหรอ?"  ไจ่ไจ๋มองหน้าแวนเนสครู่หนึ่ง

"ไม่รู้สิ แต่บางครั้งเห็นพวกคุณพูดคุยกันมันเหมือนกับว่าผมเคยเห็นภาพแบบนั้นมาแล้ว"  คำตอบนั้นทำให้แวนเนสดีใจมากอย่างไม่ต้องสงสัย

"จริงหรอ! นายรู้สึกแบบนั้นจริงๆนะ? ไม่ใช่ว่าแกล้งพูดปลอบใจพี่หละ?"  ถามย้ำน้องชายอีกครั้ง

"ครับ ผมเองก็ไม่แน่ใจแต่บางคำพูดที่พวกคุณคุยกันผมรู้สึกเหมือนกับว่ามันเป็นประโยคที่คุ้นเคยแล้วน่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นแล้ว"  แวนเนสยิ้มกว้างอย่างยินดี

"นี่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีแล้วหละ"  แวนเนสว่าซึ่งไจ่ไจ๋เองก็พยักหน้าเห็นด้วย

"ผมก็อยากจำพวกคุณ....เอ่อ.....พวกพี่.....ได้เร็วๆเหมือนกันเพราะผมสงสารคุณเสี้ยวเทียนเขา"  ไจ่ไจ๋พูดกับแวนเนสตรงๆ

"ไอ้เจ้านั่นมันก็บ้าๆบอๆแบบนี้แหละ นายอย่าเก็บเอาคำพูดมันมาใส่ใจเลย ปล่อยไปซักพักเดี๋ยวก็หาย"  แวนเนสไม่อยากให้น้องคิดมาก

"คุณ เอ้ย! พี่ครับ ผมขอถามหน่อยว่า.....ก่อนหน้าที่ผมจะตกบันไดจนจำพวกพี่ไม่ได้ ผมกับคุณเสี้ยวเทียนทะเลาะกันรุนแรงมากหรอ?"  คำถามนั้นทำให้แวนเนสทำหน้าเจื่อนๆ

"พี่เองก็ไม่รู้แน่เพราะตอนที่พวกนายสองคนเถียงกันพี่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่วิ่งมาตอนนายกลิ้งตกบันไดลงมาจนสลบไปแล้ว"  แวนเนสว่าก่อนจะถอนหายใจ

"แต่ก็คงร้ายแรงพอดูเพราะดูจากสภาพของเจ้าพี่กลางมันก็แย่เอาการ"  ไจ่ไจ๋เองก็ถอนหายใจเบาๆเช่นกัน

"ไม่น่าหละคุณเสี้ยวเทียนเขาถึงได้ดูเศร้านัก"  พูดอย่างเห็นใจเคน

"อย่าคิดมากเลย เรื่องนั้นปล่อยมันทิ้งไปเถอะ ตอนนี้เอาแค่นายสบายใจก็พอแล้ว เมื่อสมองปลอดโปร่งเผื่อความทรงจำจะได้มีที่ว่างแทรกกลับมาได้"  พูดแบบติดตลกเพื่อสร้างบรรยากาศไม่ให้ตึงเครียด แล้วก็ได้ผลเพราะไจ่ไจ๋หัวเราะออกมาได้

"คุณ เอ้ย! พี่ตลกจัง"  พอเห็นน้องยิ้มได้แวนเนสก็ค่อยหัวเราะได้บ้าง

"ดูท่านายจะไม่คุ้นเอาซะเลยนะที่ต้องเรียกพี่แบบนี้"  ไจ่ไจ๋เอามือเกาหัวพร้อมกับยิ้มแหยๆ

"ไม่ค่อยคุ้นครับ แต่ผมบอกแล้วงัยว่าจะพยายาม"  ไจ่ไจ๋แก้ตัวพร้อมกับรับปาก

"ขอบใจมาก"  แวนเนสว่าพร้อมกับตบไหล่น้องชายเบาๆ ในตอนนั้นพี่น้องอีกสองคนก็พากันเดินออกมาจากในครัว

"อิ่มแปล้กันแล้วสิ"  แวนเนสเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองไปทางพี่น้องทั้งคู่

"กินแล้วก็ต้องอิ่มน่ะสิ"  เจอร์รี่ตอบแบบกวนๆเพราะรู้ว่าเคนคงเงียบตามเคย

"คุยอะไรกันอยู่?"  ถามต่อแล้วพาเคนเดินเข้ามาสมทบ

"เรื่องทั่วๆไป ไม่มีอะไรมากหรอก"  แวนเนสตอบยิ้มๆ 

"แต่เมื่อกี้น้องบอกว่าเวลาที่เห็นพวกเราคุยกันแล้วบางทีก็รู้สึกว่ามันเป็นภาพที่คุ้นเคย"  คำขยายความของแวนเนสทำให้เคนที่ดูหงอยๆเปลี่ยนสีหน้าทันที

"จริงหรอ? นายรู้สึกแบบนั้นจริงหรอไจ่ไจ๋?"  ถามน้องชายอย่างมีความหวัง

"ครับ ผมรู้สึกเป็นบางเหตุการณ์นะ ไม่รู้พวกคุณจะเข้าใจมั๊ย? แต่ผมรู้สึกเหมือนกับว่าภาพนี้ผมเคยเห็นมาแล้ว"  คำยืนยันของไจ่ไจ๋ทำให้ทั้งเคนดีใจเป็นอย่างมาก เจอร์รี่เองก็ยินดีกับสิ่งที่ได้ยินไม่น้อย

"ดีจัง!"  เคนอุทานออกมาด้วยความดีใจ

"งั้น.....เอายังงัยดีหละ? พี่ว่าเรามาเริ่มกันที่.....อืม...."  เคนทำท่าครุ่นคิดเพื่อจะหาเรื่องมาคุยกับน้องชาย

"นี่ๆๆๆ เปลี่ยนท่าทีเร็วจังเลยนะ เมื่อกี้ยังทำหน้าอย่างกับคนเบื่อโลก"  แวนเนสอดที่จะพูดแขวะน้องไม่ได้

"ยุ่ง!"  เคนต่อว่าพี่ชายพร้อมกับถลึงตาใส่ ทำให้บรรยากาศเริ่มกลับมามีสีสันอีกครั้ง

"รู้แล้วๆๆๆ นายจำตอนที่ไปตั้งแคมป์ได้หรือเปล่า?"  เคนถามน้องชายอย่างนึกขึ้นได้

"ตั้งแคมป์? ผมจำได้ว่าเคยไปตั้งแคมป์เมื่อไม่นานมานี่เอง"  คำตอบนั้นทำให้พี่ชายทั้งสามคนถามต่อพร้อมกัน

"นายไปกับใคร?"  เสียงประสานราวกับนัดหมายกันนั้นทำให้ไจ่ไจ๋ได้แต่ทำตาปริบๆ

"ผมจำไม่ได้"  ไจ่ไจ๋พูดพร้อมกับทำหน้าแหยๆ เล่นเอาพี่ชายทั้งสามคนคอตก

"ไม่เป็นไร งั้น.....ตอนที่ไปเที่ยวสวนสนุก"  เคนถามน้องขึ้นมาอีก

"จำได้ครับ ตอนนั้นเข้าบ้านผีสิงผมเจออะไรแปลกๆด้วย"  ทันทีที่ได้ยินเช่นนี้เจอร์รี่กับแวนเนสก็หันไปมองหน้ากันทันที เพราะเจอร์รี่เป็นคนเดียวที่รู้ว่าแวนเนสเป็นคนแกล้งจับขาน้องเล็กในบ้านผีสิงนั้น

"ยังงัย?"  แวนเนสถามต่ออย่างกระตือรือร้น

"ผมรู้สึกเหมือนมีใครมาจับขาผม พูดแล้วขนลุก"  ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับเอามือลูบแขนตัวเอง

"แล้วตอนนั้นนายไปกับใคร?"  เจอร์รี่ถามน้องชายต่อ

"เอ่อ.....ผมไปกับ.....กับเพื่อนมั้ง?"  ตอบแบบไม่ค่อยแน่ใจ จนเมื่อเห็นสายตาสามคู่จ้องมองเขาอยู่คนเดียวก็ได้แต่ยิ้มเฝื่อนๆ

"ผมไปกับพวกคุณหรอ?"  ย้อนถามกลับไป ซึ่งคำตอบที่ได้รับก็คือการพยักหน้าโดยพร้อมเพรียง

"แย่จัง"  ไจ่ไจ๋พึมพำพร้อมกับเอามือทุบหัวตัวเองเบาๆที่จำพี่ชายไม่ได้ซักที

"ไม่แย่หรอก ดีซะอีกที่อย่างน้อยนายก็จำรายละเอียดอย่างอื่นได้"  แวนเนสยแย้งขึ้นอย่างร่าเริง

"นั่นสิ"  เจอร์รี่สนับสนุนอีกแรง

"งั้นเอาอย่างนี้"  เคนแทรกขึ้นมาแล้วลุกขึ้นไปหยิบอัลบั้มรูปที่เพิ่งจัดเรียงเสร็จมาสดๆร้อนๆ

"มาดูรูปกันดีกว่า"  ว่าแล้วก็ส่งอัลบั้มภาพให้น้องชาย ไจ่ไจ๋รับมาด้วยความรู้สึกแปลกๆ

"อันนี้จำได้หรือเปล่า? นี่พี่ใหญ่ นี่พี่รอง อันนี้พี่ ส่วนนี่ก็นายงัย"  เคนรีบเปิดอัลบั้มภาพแล้วอธิบายให้น้องฟังเป็นฉากๆ

"อันนี้ถ่ายกันที่บ้านเรานี่แหละ แต่ตอนนั้นหน้าบ้านยังไม่ได้ปูสนามหญ้าเลย"  ไจ่ไจ๋มองดูรูปภาพพวกนั้นก่อนจะมีความบางอย่างแล่นเข้ามาในหัว เขาจำได้ว่าเขาเคยออกไปเล่นที่หน้าบ้านและหน้าตาในวัยเด็กของของพี่ชายทั้งสามคนนั้นก็คุ้นมาก

"รูปนี้....."  ไจ่ไจ๋พูดเพียงเท่านั้นก็เงยหน้ามองพี่ชายทั้งสามคนที่มองเขาอยู่อย่างมีความหวัง

"ผมคุ้นมาก แต่ก็ยังนึกไม่ออก"  คำตอบนั้นทำให้พี่ชายทั้งสามคนไม่รู้จะยิ้มหรือร้องไห้ดี

"ไม่เป็นไรหรอก ถือว่าดูเล่นๆแล้วกัน"  เจอร์รี่พูดปลอบใจน้อง ไจ่ไจ๋ไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่ก้มหน้าเปิดดูรูปต่อๆไป 

"เป็นอะไร?"  แวนเนสสะกิดเคนพร้อมกับถามแบบไม่ออกเสียงเมื่อเห็นเคนมีสีหน้าเศร้าลงอีก 

"เปล่า"  เคนตอบเบาๆ ในใจรู้สึกท้อแท้เพราะเขานึกว่าหากน้องได้ดูรูปพวกนี้แล้วจะสามารถจำพวกเขาได้จริงๆ

"อันนี้รูปคุณหรอ?"  แล้วไจ่ไจ๋ก็ยื่นอัลบั้มรูปนั้นมาให้เคนดูพร้อมกับเอ่ยถาม

"อืม พี่เองแหละ"  เคนตอบพร้อมกับฝืนยิ้มให้น้องชาย 

"น่ารักจัง"  ไจ่ไจ๋เอ่ยชมแล้วดึงกลับไปนั่งดูต่อ แต่แล้วเขาก็เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมาอย่างฉับพลัน

"ไจ่ไจ๋"  เจอร์รี่สังเกตเห็นน้องหน้าซีดๆก็ร้องเรียกอย่างเป็นห่วง

"เป็นอะไรหรอ?"  ถามย้ำอีกครั้งแต่ไจ่ไจ๋กลับรีบปิดอัลบั้มภาพในมือลง

"ไม่มีอะไร ผมขอตัวนะครับ"  พูดจบก็ลุกเดินขึ้นห้องไปอย่างรวดเร็วปล่อยให้พี่ชายทั้งสามได้แต่มองตามอย่างงงงวย





 

Create Date : 17 มิถุนายน 2557    
Last Update : 25 กันยายน 2557 22:01:29 น.
Counter : 966 Pageviews.  

Chapter 74

ตอนที่ 74 


"น่าตบกะโหลกมันซักที! หมั่นไส้นัก! สั่งอยู่ได้....."  แวนเนสบ่นอุบกับพี่ชาย เพราะหลังจากกินข้าวเสร็จแล้วเคนก็สั่งให้เขากับพี่ชายมาล้างจานและเก็บห้องครัวให้สะอาดเรียบร้อย โดยให้เหตุผลว่าเพราะพี่ชายสองคนไม่ช่วยทำอาหาร

"หึๆๆๆ ชั้นว่ามันก็ยุติธรรมดี"  เจอร์รี่หัวเราะเบาๆในขณะที่ช่วยกันกับแวนเนสล้างจานที่กองพะเนินอยู่ตรงหน้า

"แล้วนายเห็นมั๊ย? มันแกล้งเอาจานมาใส่โน้นใส่นี่ทั้งๆที่บางอย่างแค่ล้างน้ำเปล่าก็สะอาดแล้ว มันก็ดันทำให้เลอะจนได้"  แวนเนสยังบ่นน้องชายต่อ

"ดูซิเนี่ย.....ไอดอลชื่อดังกลับต้องมาโดนไอ้น้องบ้ามันจิกหัวใช้อย่างกับทาสมัน"  เจอร์รี่เหลือบมองคนขี้บ่นก่อนจะส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ

"ก็นายชอบแหย่มันนักนี่ ทำให้มันแค้นมากๆระวังตัวไว้เถอะ.....ซักวันจะโดนมันเอาคืนแบบพูดอะไรไม่ออก"  แวนเนสได้ยินก็หัวเราะ

"มันก็ปากดีไปอย่างนั้นแหละ ลองชั้นเอาจริงขึ้นมาบ้างมันก็ไม่กล้าหือด้วยหรอก"  แวนเนสพูดอวดตัว

"เก่งจะตายแล้วนายน่ะ!"  พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับเอาศอกกระทุ้งใส่สีข้างน้องอย่างหมั่นไส้

"แหงหละครับ.....น้องพี่คนนี้เก่งทุกเรื่องนะจะบอกให้"  แวนเนสว่าพลางทำหน้าทะเล้น

"เก่งทุกเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องน่ะสิ"  เจอร์รี่ต่อให้อย่างทันควัน

"อ้าว! พูดแบบนี้มาเตะกันเลยดีกว่า!"  แวนเนสแกล้งพูดท้าและไม่ทันขาดคำเจอร์รี่ก็เตะก้นน้องชายเข้าให้ตามคำท้า

"โอ้ย! เอาจริงหรอวะ?"  แวนเนสร้องครางพร้อมกับเอามือลูบก้นตัวเอง

"เดี๋ยวจะโดนยิ่งกว่านี้! ริอาจมาท้าเตะท้าต่อยกับชั้นหรอ?"  พูดด้วยน้ำเสียงดุๆ

"ขอโทษคร้าบบบบ....."  แวนเนสลากเสียงยาวพร้อมกับยกมือไหว้พี่ชายปะหลกๆ

"ทะเล้นนัก!"  เอามือที่เลอะฟองน้ำยาล้างจานทุบหัวน้อง

"เฮ้ยๆๆ!!! เดี๋ยวผมเสียหมด ว้า....จะทุบก็ล้างมือก่อนสิ"  แวนเนสบ่นอุบ

"โทษทีนะ....มือชั้นไวเท่าความคิด"  ว่าแล้วก็ยักคิ้วให้น้องอย่างกวนๆ

"เดี๋ยวผมชั้นร่วงหมดหัวขายไม่ออกแล้วทำงัย?"  พูดด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอดใส่พี่ชาย

"ขายไม่ออกก็ให้ฟรีแบบแถมเงินด้วยงัย"  พูดต่อคำน้องยิ้มๆ

"ชั้นไม่ใช่สิ่งของนะที่จะได้เอาไปลดแลกแจกแถม"  กระแทกเสียงใส่พี่ชายอีก

"อ้าวหรอ? นึกว่าใช่ซะอีก"  เจอร์รี่ว่าพลางหัวเราะในลำคอ แวนเนสเลยได้แต่ทำหน้ามุ่ย

"โอ๋....พูดเล่นแค่นี้ทำงอนไปได้ ถึงนายจะขายไม่ออกถึงนายจะไม่มีใครพี่คนนี้ก็ยังอยู่กับนายเสมอแหละ"  พูดพร้อมกับเอานิ้วจิ้มไปที่ปลายจมูกน้องชายเบาๆ

"เอาอีกละ มือไม่ล้างอีกแล้ว"  แวนเนสประท้วงหน้ามุ่ยไม่หาย

"แหม.....สำอางค์จริงๆเลยนะ โดนแค่นี้ไม่ตายหรอก"  กัดฟันพูดอย่างหมั่นไส้ก่อนจะส่งจานใบสุดท้ายให้น้องชาย

"โน้น.....ไอ้ตัวแสบที่เราห่วงกันนักหนาว่ามันจะเครียดจนกินยาตายน่ะนั่งคุยจ้ออยู่นั่น"  พยักเพยิดให้ดูเคนที่นั่งชวนน้องเล็กคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้อย่างสนุกสนาน

"หึๆๆๆๆ แบบนี้คงไม่ตายแล้ว"  แวนเนสพูดยิ้มๆ

"เออ! แล้วนายมีนัดกับมันไม่ใช่หรอ?"  ถามพี่ชายอย่างนึกขึ้นได้

"นัด?"  เจอร์รี่ทำหน้างงๆ

"ก็นายบอกว่าถ้ากินข้าวเสร็จให้มันไปรอที่ดาดฟ้างัย"  แวนเนสเตือนความจำพี่ชาย

"อ๋อ! ฮ่าๆๆๆ!!!"  เจอร์รี่เองก็เพิ่งนึกขึ้นได้

"ไม่หรอก ชั้นก็แค่ขู่มันเท่านั้นเอง ไม่ได้จะตีมันจริงๆหรอก"  บอกกับแวนเนสไปตรงๆ

"โธ่! แทนที่จะแก้แค้นมันให้ชั้น"  แวนเนสทำท่าเสียดาย

"เดี๋ยวพี่จะตีเราแทน! ชอบไปยั่วให้น้องมันโมโหอยู่เรื่อย!"  ต่อว่าเจ้าน้องชายตัวป่วนซะเลย

"อ้าว.....แบบนี้ไม่ดีนะครับ"  แวนเนสร้องคราง

"หึๆๆๆ"  เจอร์รี่หัวเราะก่อนจะส่ายหน้าไปมา

"ว่าแล้วก็ไปแกล้งมันต่อดีกว่า"  ว่าพลางทำหน้าเจ้าเล่ห์

"นายก็ล้างมือล้างไม้แล้วตามออกไปสิ"  พูดจบก็เดินออกไป

"อ้าว! ว่าแต่ชั้นชอบแกล้งมัน นายก็เหมือนกันแหละ"  แวนเนสต่อว่าพี่ชายไล่หลังพร้อมกับรีบล้างมือแล้วก็วิ่งตามออกไปด้วยเช่นกัน 

"คุยอะไรกันอยู่?"  แวนเนสเอ่ยถามน้องชายทั้งคู่

"งานที่ให้ทำเสร็จแล้วหรอ?"  เคนถามพี่ชายเสียงห้วนเพราะไม่นึกว่าพี่ชายจะทำเสร็จกันเร็ว

"เสร็จหมดแล้ว!"  แวนเนสเน้นคำทั้งประโยค

"คุณเสี้ยวเทียนกำลังเล่าเรื่องสมัยเรียนให้ฟังครับ สนุกๆทั้งนั้นเลย"  ไจ่ไจ๋ตอบคำถามนั้นแทนเคน

"สนุกหรอ? พี่ว่ามีแต่เรื่องไร้สาระมากกว่า"  แวนเนสแขวะกัดน้องชายอีก

"ตัวเองมีสาระตายหละ!"  เคนเถียงกลับพร้อมกับทำท่าเงื้อง่าใส่พี่ชาย

"เสี้ยวเทียน! เรื่องที่พี่ใหญ่บอกลืมแล้วหรืองัย?"  เจอร์รี่แกล้งพูดเตือนขึ้นมา ได้ยินเช่นนั้นเคนก็หันไปมองหน้าพี่ชาย

"ไปเลยไป! ขึ้นไปที่ดาดฟ้าเลย!"  แวนเนสได้ทีร่วมแกล้งน้องด้วย

"นายก็ไปเองสิ!!"  เคนแหวใส่แวนเนสอย่างหมั่นไส้

"เดี๋ยวเถอะ!"  เจอร์รี่แกล้งดุน้อง

"เอ่อ.....ทำไมต้องให้คุณเสี้ยวเทียนไปที่ดาดฟ้าด้วยหละครับ?"  ไจ่ไจ๋เอ่ยถามขึ้นมาอย่างไม่ค่อยเข้าใจ

"ก็เพราะบนดาดฟ้ามีไม้เรียวหลายขนานให้พี่ใหญ่เลือกใช้ทำโทษเด็กเกเรงัย เด็กดีแบบนายไม่เคยโดนเรียกขึ้นไปหรอก"  แวนเนสตอบคำถามนั้นพร้อมกับยิ้มกว้าง

"โอโห.....ขนาดนั้นเลย....."  ไจ่ไจ๋ไม่รู้ว่าแวนเนสพูดจริงหรือพูดเล่นจึงได้แต่ยิ้มแหยๆ

"ว่างัยเสี้ยวเทียน? พี่บอกว่าหลังกินข้าวเสร็จให้ทำอะไร?"  เจอร์รี่แกล้งถามย้ำน้องชาย 

"ตายแน่! โดนหนักแน่หละคราวนี้!"  แวนเนสพูดเย้าแหย่น้องราวกับเป็นกองเชียร์

"เสี้ยวเทียน"  เจอร์รี่เรียกน้องชายอีกครั้ง เคนถลึงตาใส่แวนเนสก่อนจะเดินเข้าไปกอดพี่ชายคนโต

"พี่ใหญ่อย่าตีชั้นเลยนะ"  เคนพูดขอร้องพี่ชาย ทำให้พี่ชายทั้งสองคนถึงกับอมยิ้มส่วนไจ่ไจ๋เองก็รู้นึกขำท่าทางของเคนเช่นกันเพราะไม่นึกว่าเคนก็อ้อนพี่ชายเป็น

"ไม่ตีได้ยังงัย? วันนี้นายเกเรมากแถมยังเถียงพี่รองเขาฉอดๆ"  เจอร์รี่แกล้งทำเสียงจริงจัง

"แต่แวนเนสมัน....."  เคนทำท่าจะเถียงแต่พอเห็นพี่ใหญ่ทำตาดุใส่จึงเปลี่ยนคำพูดใหม่

"แต่พี่รองเขาก็ชอบพูดให้ชั้นโมโหนี่"  พูดโทษแวนเนสด้วย

"ยังงัยเขาก็เป็นพี่"  พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับมองหน้าเจ้าน้องชายตัวแสบ

"ก็เลยจะทำอะไรชั้นก็ได้ทั้งนั้นใช่มั๊ย?"  เคนย้อนถาม

"พูดประชดพี่หรอ?"  ทำเสียงดุใส่น้องอีก

"ไม่ได้ประชด"  ว่าแล้วเคนก็ซบหน้าลงที่ไหล่พี่ชายเพราะหวังว่าพี่ชายจะใจอ่อนไม่ลงโทษเขา

"เถียงอีกแล้ว ขึ้นไปบนดาดฟ้าเลย"  ว่าแล้วก็ดันตัวน้องชายออกก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น

"ไม่เอา!"  เคนขืนตัวไว้ไม่ยอมลุกพร้อมกับพยายามแกะมือพี่ชายที่จับแขนเขาออกด้วย

"คุณเจอร์รี่เอาจริงหรอครับ?"  ไจ่ไจ๋กระซิบถามแวนเนสเบาๆ

"ไม่หรอก ลองเจ้าหมอนี่มันอ้อนอย่างกับแมวแบบนี้พี่ใหญ่ตีมันไม่ลงหรอก"  แวนเนสตอบพร้อมกับพยักเพยิดให้ดูเจอร์รี่กับเคน

"พี่ใหญ่ครับ.....ไม่เอานะ.....อย่าตีชั้นเลย....."  เคนกอดแขนพี่ชายพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

"แล้วจะดื้อกับพี่อีกมั๊ย?"  ย้อนถามน้องชายกลับไป เคนก็ส่ายหน้าแทนคำตอบ

"ถ้าว่าง่ายแบบนี้แต่แรกพี่ใหญ่ก็ไม่ต้องเก๊กดุอยู่ตั้งนานหรอก"  พูดจบก็นั่งลงข้างน้องชาย เคนจึงค่อยรู้ตัวว่าที่พี่ชายดุเขานั้นเป็นการแกล้งเท่านั้น         

"ฮ่าๆๆ!!!"  แวนเนสกับไจ่ไจ๋ประสานเสียงหัวเราะขึ้นมาพร้อมกันเมื่อได้เห็นเคนหน้างอเหมือนเด็กถูกขัดใจ

"ไปนอนแล้ว!"  พูดจบเคนก็ลุกขึ้นจะเดินขึ้นห้องแต่เจอร์รี่ดึงแขนน้องไว้ก่อน

"เดี๋ยวสิ....เมื่อกี้ยังคุยกับน้องสนุกๆไม่ใช่หรอ? คุยต่อสิ ไจ่ไจ๋กำลังฟังเพลินๆเลย"  พูดพลางหัวเราะไปด้วย

"หมดอารมณ์!"  กระแทกเสียงเสร็จก็หันไปค้อนใส่น้องเล็กเข้าให้ด้วยโทษฐานที่ร่วมหัวกับพี่ชายหัวเราะเยาะเขาด้วย

"ทำงอนไปได้.....โอเคๆๆๆ ถ้าจะนอนก็เข้าไปนอนห้องพี่ใหญ่นะ"  พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับปล่อยตัวน้อง

"ทำไมชั้นต้องนอนห้องนายด้วย?"  เคนย้อนถาม

"เมื่อกี้บอกว่าจะไม่ดื้อกับพี่งัย"  ทวงคำสัญญากับน้อง

"วุ่นวายชะมัด!"  พูดจบเคนก็เดินปังๆออกไปทั้งที่จริงเขาไม่ได้โกรธพี่น้องทั้งสามคนแต่รู้สึกเขินมากกว่า

"คุณเสี้ยวเทียนนี่เหมือนเด็กเลยนะ"  หลังจากเคนออกไปแล้วไจ่ไจ๋ก็เอ่ยขึ้น

"บางทีมันก็ทำตัวเหมือนคนแก่อายุสี่สิบเลยแหละ"  แวนเนสพูดต่อคำน้องพลางหัวเราะไปด้วย

"ไหนเมื่อกี้บอกว่าเจ้านั่นมันเล่าเรื่องสนุกๆให้นายฟังอยู่หรอ? ดูสิ.....นายเลยอดฟังต่อเลย"  เจอร์รี่ว่าพร้อมกับบ่นเคนไปด้วย

"ครับ คุณเสี้ยวเทียนเล่าวีรกรรมตอนสมัยที่เขาเรียนอยู่ให้ผมฟัง"  ไจ่ไจ๋ตอบแล้วพูดต่อ

"บางเรื่องฟังดูคุ้นหูมากเลย"  พอได้ยินเช่นนี้เจอร์รี่กับแวนเนสก็หันขวับมามองหน้าน้องเล็กพร้อมกัน

"เอ่อ.....ผมก็ไม่รู้นะว่าได้ยินมาจากที่ไหน.....แต่มันเหมือนกับว่าเคยฟังเรื่องแบบนั้นมาแล้ว"  คำพูดขยายความต่อนั้นทำให้พี่ชายทั้งสองคนไม่รู้จะทำหน้ายังงัยดี

"แหงสิ.....เด็กเกเรส่วนใหญ่ก็มักจะมีวีรกรรมเด็ดๆคล้ายๆกันแหละ"  แวนเนสแกล้งพูด

"แต่ผมไม่ใช่เด็กเกเรนะครับ ถึงผมจะไม่เรียบร้อยมากแต่ก็ไม่ใช่คนที่แก่นเซี้ยวอะไรเหมือนกับที่คุณเสี้ยวเทียนเล่าให้ฟัง"  ไจ่ไจ๋รีบแก้ตัวขึ้นมาทันที

"พี่รู้ว่านายไม่ใช่เด็กเกเร เพราะพี่เห็นนายมาตลอด"  เจอร์รี่พูดพร้อมกับยิ้มบางๆ อย่างน้อยเขาก็คิดว่านี่น่าจะเป็นเรื่องที่ดีเพราะสิ่งที่น้องได้รับฟังนั้นน้องก็สามารถจำได้แม้มันจะเลือนลางไปหน่อยก็ตาม

"ไหนนายลองบอกพี่มาหน่อยสิว่าการไปเที่ยวครั้งไหนที่นายจำได้ไม่รู้ลืม?"  ถามน้องชายต่อซึ่งแวนเนสเองก็หันมาตั้งอกตั้งใจฟังคำตอบของน้องชายเช่นกัน

"ก็คงเป็นครั้งที่ได้ไปกับพ่อแม่น่ะครับ ไปทะเลกันนี่แหละ"  ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับทำหน้าครุ่นคิด

"จำได้ว่าตอนนั้นได้ไปพักที่บ้านพักแห่งนึงที่สวยมาก บ้านหลังนั้นค่อนข้างใหญ่อยู่ติดกับทะเลเลย บรยากาศก็ดีมากด้วย"  คำพูดของน้องทำให้พี่ชายทั้งคู่หันไปสบตากันอีกครั้ง

"บ้านหลังนั้นมีต้นไม้ใหญ่ๆที่หน้าบ้าน แล้ววันนั้นนายโดนหินบาดที่เท้าเพราะไม่ได้ใส่รองเท้าตอนที่ออกไปหยิบขนมบนรถใช่มั๊ยหละ?"  แวนเนสพูดแทรกขึ้นมา

"เอ่อ.....ตอนนั้นพวกคุณก็ไปด้วยหรอ?"  ไจ่ไจ๋ย้อนถามกลับมาอย่างไม่แน่ใจ

"นายจำไม่ได้เลยหรอว่ามีพวกพี่อยู่ด้วย?"  แวนเนสถามต่อด้วยสีหน้าเศร้าลง ไจ่ไจ๋เม้มปากก่อนจะมีความทรงจำบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวแต่มันก็เลือนลางเต็มที

"ไจ่ไจ๋.....เป็นอะไรหรือเปล่า?"  เมื่อเห็นน้องทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเจอร์รี่ก็ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง

"ผมก็ไม่รู้"  ไจ่ไจ๋พูดเสียงแผ่ว 

"งั้นอย่าคุยต่อเลย นายไปพักผ่อนดีกว่าไป....."  พูดตัดบทแล้วไล่ให้น้องขึ้นไปนอนพักผ่อนเพราะกลัวน้องจะไม่สบายใจ

"งั้นผมขอขึ้นไปพักบนห้องนะ"  ไจ่ไจ๋เองไม่ปฎิเสธเขาขยับตัวลุกขึ้นแล้วเดินขึ้นบันไดไปเงียบๆ

"ทำไมนายรีบไล่น้องขึ้นไปหละ? เมื่อกี้เหมือนน้องจะนึกอะไรได้แล้ว"  แวนเนสหันมาต่อว่าพี่ชาย

"นายไม่เห็นสีหน้าของน้องหรืองัย? น้องมันดูเหมือนจะยังสับสนกับตัวเองอยู่ถ้าเรายังซักไซร้เข้าไปมากๆน้องจะเครียดเอาง่ายๆนะ"  พี่ใหญ่อธิบาย

"บ้าชะมัด!! ทำไมน้องถึงจำพวกเราไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว!"  แวนเนสสถบออกมาอย่างหงุดหงิด หลายวันมานี่แม้แวนเนสจะทำตัวร่าเริงเป็นปกติแต่เจอร์รี่ก็รู้ดีว่าแวนเนสนั้นก็รู้สึกเครียดไม่ต่างอะไรไปจากเขาและเสี้ยวเทียน

"ใจเย็นๆน่า.....โวยวายไปแล้วจะได้อะไรขึ้นมา?"  พูดเป็นเชิงเตือนน้องชาย

"ชั้นกลัวจัง กลัวว่าน้องจะจำพวกเราไม่ได้ตลอดไป"  แวนเนสพูดกับพี่ชายน้ำตาคลอ

"มานี่มา....."  เจอร์รี่โน้นตัวน้องชายมากอดไว้ แวนเนสก็นิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น โดยไม่รู้เลยว่าไจ่ไจ๋แอบยืนมองอยู่ตรงบันไดนั้นด้วยความกลุ้มใจ

- ที่ห้องนอนของเจอร์รี่ -

"อ้าว....ไหนบอกว่าจะขึ้นมานอนแล้วนี่มาเล่นซนอะไรในห้องพี่ใหญ่กันฮึ?"  เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วเจอร์รี่ก็พบว่าบนเตียงของเขามีข้าวของวางอยู่กระจัดกระจายโดยมีเคนกำลังนั่งหยิบโน้นจับนี่อยู่

"ชั้นเอาพวกรูปถ่ายออกมาจัดใหม่ ชั้นกะว่าจะจัดให้มันเป็นไปตามวันที่ได้ถ่ายไว้ แล้วจะเอาไปให้น้องดู แบบนี้สมองของน้องอาจจะประมวลผลตามลำดับเวลาแล้วมันอาจจะช่วยให้น้องจำพวกเราได้งัย"  เคนอธิบายให้พี่ชายฟัง เจอร์รี่มองรูปถ่ายที่กระจัดกระจายบนเตียงเขาก่อนจะทรุดตัวนั่งลงข้างน้อง 

"นายมั่นใจหรอว่าถ้าน้องเห็นรูปพวกนี้แล้วจะกลับมาจำพวกเราได้จริงๆ"  เคนได้ยินก็เงยหน้ามองพี่ชาย

"ถึงจำไม่ได้ในทันทีก็ต้องคุ้นๆบ้างแหละ หลักฐานตำตาแบบนี้คงปฏิเสธได้ยากแล้วหละ"  พูดอย่างมั่นอกมั่นใจ พี่ใหญ่ยิ้มบางๆเมื่อเห็นท่าทางมั่นใจของน้องชาย

"พอนายเริ่มดีขึ้นพี่รองของนายก็แย่ลงซะอีก"  พูดคล้ายจะพึมพำกับตัวเอง

"แวนเนสเป็นอะไร?"  เคนย้อนถามหน้าเปลี่ยนสีไปทันที

"ก็ไม่เท่าไหร่หรอก ตั้งแต่เกิดเรื่องก็มีแต่เจ้าพี่รองน่ะที่ดูเหมือนจะไม่สะดุ้งสะเทือนเวลาที่น้องทำตัวหมางเมินห่างเหินกับพวกเราแบบนั้น"  เจอร์รี่ตอบพร้อมกับขยายความ

"แต่เมื่อกี้ชั้นก็ได้เห็นว่าแวนเนสเองก็สะเทือนใจไม่น้อยเลยกับการที่ไจ่ไจ๋จำพวกเราไม่ได้"  เคนได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับวางทุกอย่างในมือลงทันที

"จะไปไหน?"  เจอร์รี่ร้องถามเมื่อเห็นน้องลุกขึ้น

"ไปดูแวนเนสมันหน่อย ถ้ามันรู้สึกแย่แบบนั้นไม่ควรให้มันอยู่คนเดียว"  เคนให้เหตุผลแล้วทำท่าจะเดินไปแต่พี่ชายก็ดึงมือไว้ก่อน

"ไม่ต้องหรอก ชั้นปลอบมันเสร็จก็ส่งมันเข้านอนแล้ว ตอนนี้หลับปุ๋ยไปแล้วหละ"  ได้ยินเช่นนั้นเคนก็สบตากับพี่ชายก่อนจะพยักหน้าแล้วนั่งลงตามเดิม

"ทำไมจู่ๆมันถึงเป็นแบบนั้นหละ?"  เคนเองก็รู้สึกเป็นห่วงแวนเนสไม่น้อย

"ความจริงตอนแรกก็นั่งคุยกันดีๆแหละ แต่พอคุยไปถึงเรื่องที่เคยไปเที่ยวด้วยกันน้องก็จำได้ทุกอย่างยกเว้นพวกเราสามคน"  สีหน้าของพี่ใหญ่เองก็ดูเศร้าๆไปเหมือนกัน 

"พี่ใหญ่"  เคนเรียกเบาๆแล้วขยับเข้าไปกอดพี่ชาย 

"หืม?"  เจอร์รี่ตอบรับคำน้องอย่างใส่ใจ

"อย่าเพิ่งนอนนะ มาช่วยชั้นเรียงรูปพวกนี้ก่อนเพราะบางอันชั้นก็จำไม่ได้ว่าไปมาตั้งแต่เมื่อไหร่"  เคนเปลี่ยนเรื่องพูดเมื่อเห็นบรรยากาศไม่ค่อยดี 

"เจ้าเล่ห์น่ะเรา เล่นรื้อออกมาซะกระจัดกระจายแล้วจะมาให้พี่ใหญ่ช่วยเก็บใช่มั๊ย?"  พี่ใหญ่เริ่มยิ้มออกด้วยรู้ว่าที่น้องทำแบบนี้ก็เพราะไม่อยากให้เขารู้สึกเศร้า

"รู้ทันทุกทีเลย"  เคนแกล้งทำหน้าขัดใจเหมือนเด็กๆ พี่ใหญ่ขยี้หัวน้องอย่างเอ็นดู แม้หลายวันมานี้เจ้าน้องชายตัวแสบจะทำให้เขาเป็นห่วงและปวดหัวไม่น้อยแต่พอเวลาที่เขารู้สึกแย่ลงเจ้าน้องชายคนนี้กลับเป็นคนเดียวที่ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นได้

"ไหนพี่ดูซิว่านายจัดไปถึงไหนแล้ว?"  ว่าแล้วก็มานั่งช่วยน้องดู

"โอโห.....ขุดออกมาตั้งแต่สมัยเด็กๆเลยหรอ?"  เมื่อเห็นรูปในวัยเด็กของพวกเขาเจอร์รี่ก็อุทานออกมา

"ใช่แล้ว อันนี้ไปเที่ยวสวนสนุกกัน แต่ชั้นจำไม่ได้เลยว่าไปมาเมื่อไหร่?"  เคนว่าแล้วก็หยิบรูปเซ็ตที่พูดถึงให้พี่ชายดู

"อ้อ! อันนี้ไปช่วงปิดเทอมตอนที่ไจ่ไจ๋กลับมาอยู่บ้านงัย ตอนนั้นน้องรบเร้าพ่อแม่ว่าอยากไปสวนสนุก พอน้องกลับมาพ่อแม่ก็เลยพาไป"  เจอร์รี่ดูรูปแล้วก็ตอบคำถามน้อง

"แล้วตอนที่เข้าบ้านผีสิงไจ่ไจ๋มันร้องไห้ซะผีกระเจิงหมดเลยใช่เปล่า?"  เคนพอนึกออกจึงต่อความกับพี่ชายอย่างขำๆ

"ใช่แล้ว พ่อต้องอุ้มมันวิ่งออกมาแทบไม่ทัน คนที่เข้าไปเล่นรอบนั้นไม่ได้ตกใจผีในบ้านหรอกแต่ตกใจเสียงร้องไห้ของน้องเรานี่แหละ"  เจอร์รี่เองก็พลอยขำไปด้วยเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้น

"นายเองก็ใช่ย่อยกอดพี่ใหญ่ซะแน่นเชียว"  สำทับน้องชายต่อด้วย

"อะไร? ชั้นเปล่าซักหน่อย"  เคนรีบเถียงทันที

"ยังจะมาเถียงอีก"  พี่ใหญ่ต่อว่าน้องพร้อมกับเอานิ้วจิ้มหน้าผากน้องเบาๆด้วย

"เถียงสิ ก็มันไม่เป็นควาจริงนี่ คนที่กลัวน่ะนายต่างหากนายเป็นคนมากอดชั้นเอง"  เคนเถียงพี่ชายฉอดๆ

"น้อยๆหน่อยเถอะ! ชั้นนี่นะที่กลัว? สับสนอะไรหรือเปล่าไอ้น้องชาย?"  เอามือผลักหัวน้องเบาๆ

"นายนั่นแหละที่สับสน แก่แล้วทำเป็นจำไม่ได้"  เคนลอยหน้าลอยตาพูดเสร็จแล้วก็นั่งจัดเรียงรูปต่อ

"พ่อคนหนุ่ม! ถ้าความจำดีขนากนั้นแล้วเมื่อกี้ทำไมถึงนึกไม่ออกว่ารูปพวกนี้ไปถ่ายกันตั้งแต่เมื่อไหร่?"  ย้อนถามน้องชายต่ออย่างไม่ยอมจบ

"ชั้นก็ถามทดสอบความจำของนายเท่านั้นแหละ ตาแก่!"  เคนพูดเหน็บแนมพี่ชาย

"ปากร้ายเหลือเกินนะ! ชั้นแก่กว่านายแค่ไม่กี่ปีเอง!"  ว่าพลางหยิกแก้มน้องอย่างหมั่นไส้

"แก่กว่าไม่กี่ปีก็ถือเป็นรุ่นเดียวกันงั้นหรอ?"  ถามพี่ชายกลับไป

"แหงหละ! ถ้าเดินข้างนอกเวลาไปไหนมาไหนด้วยกันใครๆก็นึกว่านายน่ะเป็นเพื่อนชั้นด้วยซ้ำไป"  เจอร์รี่เองก็ไม่ยอมแพ้

"งั้นหรอเพื่อน?"  เคนได้ทีเอามือขยี้หัวพี่ชาย

"นี่!!!!!"  เจอร์รี่น้ำเสียงเปลี่ยนทันที

"เป็นเพื่อนกันเขาก็เล่นกันแบบนี้แหละ"  ทำหน้าซื่อตาใสเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอพี่ชายชี้หน้าก็แสร้งทำเป็นมองไม่เห็น

"เกเรใหญ่แล้วนะ!"  พูดพร้อมกับบิดเนื้อที่หลังมือน้องชายเต็มแรง เล่นเอาเคนร้องลั่น

"โอ้ย!! ไม่เอาแล้ว!!!!!"  เคนร้องห้ามเมื่อเห็นพี่ชายทำท่าจะซ้ำอีก

"ถ้ากล้ามาเล่นอะไรลามปามชั้นอีกจะจับมาถอดเล็บทีละนิ้วเลย!"  พูดขู่น้องชายแล้วก็ปล่อยมือน้อง 

"อู้ยยย......เจ็บบบบ....."  เคนถูที่หลังมือตัวเองพร้อมกับสูดปากร้องเบาๆ

"เจ็บแหละดีจะได้จำแม่นๆหน่อย!"  เจอร์รี่พูดซ้ำเติมน้องอีก จึงโดนเคนค้อนใส่

"อยากโดนอีกหรืองัย?"  ถามเจ้าน้องชายจอมเกเร

"จะจัดก็รีบทำเข้าสิ ชั้นจะได้หลับได้นอนซักที"  พูดกระตุ้นน้องชายอีก เคนได้ยินดังนั้นก็จัดการรวบภาพถ่ายทั้งหมดบนเตียงขึ้นมา

"อ้าว.....ก็ไหนจะจัดงัยหละ?"  เจอร์รี่อุทานเมื่อเห็นน้องทำท่าจะเก็บหมด

"ไม่จัดแล้วหมดอารมณ์!"  เคนตอบเสียงห้วน

"ฮึ! แค่นี้ทำงอน!"  พี่ใหญ่ยิ้มออกมาได้อีกครั้ง

"มา.....พี่ใหญ่ช่วย....."  ว่าแล้วก็เอามือตบที่เตียงเบาๆเป็นเชิงให้น้องวางรูปถ่ายทั้งหมดนั้นลงมาอีกครั้ง

"ไม่เอาแล้ว! ชั้นง่วง!"  เคนกระแทกเสียง

"เฮ่อ! เอาใจยากจริงๆเลยไอ้น้องคนนี้!"  บ่นออกมาดังๆให้น้องได้ยิน
"ง่วงก็มานอนเดี๋ยวพี่จัดต่อให้"  บอกกับน้องด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ เคนที่หน้ามุ่ยๆจู่ๆก็ยิ้มที่มุมปากเพราะนึกหาทางเอาคืนพี่ชายได้แล้ว

"ก็ได้ อะ....."  ว่าแล้วเคนก็ส่งรูปถ่ายทั้งหมดในมือให้พี่ชายแล้วโดดขึ้นเตียงนอนแผ่หรา เจอร์รี่ได้แต่ส่ายหน้าแล้วเอารูปถ่ายทั้งหมดลงไปกองที่พื้นก่อนจะทรุดตัวนั่งแล้วเริ่มจัดเรียงรูปทั้งหมดใหม่อีกครั้ง

"ไม่ใช่ๆๆๆ อันนี้มันเซ็ตเดียวกับอันนั้นที่ไหนเล่า!"  แล้วเคนก็ลุกขึ้นหันหน้ามาที่ปลายเตียงแล้วนอนชันศอกมองพี่ชายที่กำลังนั่งจัดการกับสิ่งที่เขาทำค้างอยู่

"แต่ชั้นว่ามันรูปเซ็ตเดียวกันนะ"  เจอร์รี่ว่าพร้อมกับทำหน้างงๆ

"แล้วอันนี้นายจัดแล้วไม่ใช่หรอ?"  ถามน้องต่ออีก

"ยังไม่ได้จัดซักหน่อย"  เคนส่ายหน้าปฏิเสธทันทีเพราะจะแกล้งพี่ชาย

"แล้วอันไหนที่นายจัดเสร็จแล้วหละ?"  ถามน้องต่ออย่างพาซื่อ

"ยังไม่ได้จัดเลย"  เคนตอบหน้าตาเฉย

"อ้าว! แต่เมื่อกี้ชั้นเห็นนายเอารูปตั้งไว้เป็นกองๆแยกกันนั่นยังไม่ได้จัดอีกหรอ?"  เริ่มขมวดคิ้ว

"เปล่า ชั้นก็วางไว้เฉยๆ"  เคนตอบพี่ชายหน้าตาย

"งั้นพรุ่งนี้ค่อยทำแล้วกัน มันเยอะเกินไปตาลาย"  พูดจบก็ทำท่าจะลุกขึ้นแต่เคนรีบท้วง

"ไม่ได้นะ!! ถ้ารูปพวกนี้มันอาจจะสามารถทำให้น้องกลับมาจำพวกเราได้งั้นทำไมนายถึงไม่รีบทำหละ?"  เคนรีบให้เหตุผล 

"พี่ไม่รีบขนาดนั้น"  เจอร์รี่ตอบอย่างพอจะรู้ว่าตัวเองถูกเจ้าน้องชายจอมกวนแกล้งอีกแล้ว

"แต่นายจะทนดูแวนเนสร้องไห้ได้อีกหรอ?"  ยกเอาแวนเนสขึ้นมาอ้าง

"ไม่เป็นไร มันร้องไห้ชั้นก็ปลอบก็เท่านั้นเอง"  พูดจบก็ทำท่าจะกอบรูปถ่ายทั้งหมดนั้นเข้าด้วยกัน

"เฮ้ยๆๆๆๆ!!!! อย่าโกยมารวมกันหมดสิ กองพวกนั้นชั้นจัดหมดแล้ว!"  อารามตกใจเคนจึงหลุดปากออกมาเอง จนเมื่อพูดออกไปแล้วก็รีบเอามือปิดปากตัวเอง

"เอ่อ.....นอนดีกว่า....."  แล้วก็รีบขยับตัวไปล้มตัวนอนหนุนหมอนทันที

"ฮึ! ไอ้แสบเอ้ย....."  พี่ใหญ่บ่นพึมพำก่อนจะตัดสินใจกองรูปถ่ายทั้งหมดไว้แบบเดิมแล้วมานั่งลงที่เตียง

"เดี๋ยวจะมีเด็กดื้อบางคนโดนพี่ใหญ่ตีก้นก่อนนอนแหงๆ"  พูดเปรยขึ้นมาลอยๆ เคนได้ยินจึงรีบขยับตัวมากอดพี่ชายทันที

"หึๆๆๆ"  เจอร์รี่หัวเราะเจ้าน้องชายตัวแสบพลางส่ายหน้าไปมาก่อนก้มลงจูบแรงๆที่หน้าผากน้อง

"ไม่เล่นแล้ว พี่ใหญ่จะไปปิดไฟจะได้นอนกันซักที"  ว่าพร้อมกับแกะมือน้องชายที่กอดตัวเองออกแล้วเดินไปปิดไฟดวงใหญ่ แล้วกลับมาล้มตัวนอนลงข้างน้อง

"ได้เข้าไปดูน้องบ้างหรือเปล่า?"  เคนเอ่ยถามพี่ชายในความมืด

"เปล่า ชั้นไม่อยากเข้าไปวุ่นวายกับน้อง"  เจอร์รี่ตอบไปตามตรงแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้น้องกับตัวเอง

"ถ้าน้องกลับมาจำพวกเราอีกไม่ได้เลยหละ?"  น้ำเสียงเคนเริ่มเป็นกังวล

"นายอุตส่าห์ลุกขึ้นมาจัดเรียงรูปซะขนาดนี้น้องต้องจำได้สิ"  พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับเอามือลูบหัวน้อง

"ชั้นกลัว"  เคนพูดเสียงแผ่ว

"ตอนแรกชั้นกลัวว่าน้องจะจำเราไม่ได้แต่พอคิดได้ว่าหากน้องกลับมาจำพวกเราได้จริงๆแล้วทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม"  เคนพูดระบายความรู้สึกในใจให้พี่ชายฟัง

"นายรู้มั๊ยว่าก่อนเกิดเรื่องชั้นต่อว่าน้องรุนแรงขนาดไหน? ชั้นพูดในสิ่งที่รู้ว่ามันจะทำให้น้องต้องเจ็บ แต่ชั้น......"  เคนพูดอะไรต่อไม่ออกเพราะรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกอยู่ที่คอ

"เสี้ยวเทียน เราคุยกันแล้วนะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้น มันเป็นอุบัติเหตุ"  เจอร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแล้วดึงตัวน้องเข้ามากอด

"หากน้องไม่ตกบันไดเสียก่อนบางทีเหตุการณ์หลังจากนั้นมันอาจจะร้ายแรงมากกว่านี้ก็ได้"  เคนไม่ตอบเพราะรู้สึกเหมือนน้ำตากำลังจะไหล 

"ถ้าเพียงตอนนั้นชั้นยอมยกโทษให้น้อง ถ้าชั้นกอดน้องแล้วบอกว่าไม่เป็นไร.....มันก็จะไม่เป็นไร....."  พูดจบเคนก็ร้องไห้สะอึกสะอื้น คำพูดนั้นทำให้พี่ใหญ่เองถึงกับน้ำตาซึม

"เพราะทิฐิของชั้นเพราะอารมณ์โกรธเพราะ....."  เคนพูดต่อไม่ออกเพราะรู้สึกว่าพี่ชายกอดเขาแน่นขึ้น

"เสี้ยวเทียน......นายรู้มั๊ยว่าทำไมชั้นถึงไม่ยอมให้นายนอนที่ห้องคนเดียว ก็เพราะชั้นกลัวว่านายจะเป็นแบบนี้งัย"  เจอร์รี่ว่าทั้งๆที่ยังกอดน้องชายแน่น

"นายทำให้ชั้นเป็นห่วงเพราะการที่นายเอาแต่โทษตัวเองแบบนี้"  คำพูดนั้นแม้จะต่อว่าน้องชายแต่น้ำเสียงที่ใช้กลับอ่อนโยน

"ชั้นก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้ คืนทุกคืนชั้นลองหาเหตุผลที่จะยกโทษให้ตัวเองแต่ชั้นหาเหตุผลข้อนั้นไม่ได้เลย เพราะไม่ว่ายังงัยชั้นก็ผิดเต็มประตู"  เคนพูดพลางสะอื้น

"มันทรมานมากเลยนายรู้หรือเปล่า?"  พี่ใหญ่กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เขารู้ว่าสภาพจิตใจของน้องตอนนี้ไม่ได้ดีขึ้นกว่าเดิมเลย ตรงกันข้ามมันกลับยิ่งแย่ลงทุกวันแม้การแสดงออกต่อหน้าพี่น้องจะเหมือนปกติ แต่จริงๆแล้วน้องยังเจ็บปวดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอด

"นิ่งซะ....."  เจอร์รี่เองก็ต้องใช้ความพยายามจัดการกับอารมณ์ของตัวเองอยู่นานก่อนจะเอ่ยปลอบใจน้องชายออกมาได้

"ชั้นเกลียดตัวเองจัง"  เคนเอาแต่โทษตัวเอง พี่ใหญ่ดันตัวน้องออกก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดไฟที่หัวเตียง

"เสี้ยวเทียน พี่รู้ว่านายเจ็บนายทรมานแต่การที่นายทุกข์ร้อนแบบนี้พี่เองก็เจ็บไม่น้อยไปกว่านายหรอก"  พูดกับน้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"เรื่องบางเรื่องมันก็อยู่เหนือการคาดการณ์ของเรา เรื่องบางอย่างแม้เราจะรู้ล่วงหน้าแต่ก็ใช่ว่าจะจัดการมันได้ดีทั้งหมด"  เคนซบหน้าลงที่หมอนแต่ก็นิ่งฟังในสิ่งที่พี่ชายพูด

"ความผิดพลาดบางอย่างเราอาจจะกลับไปแก้ไขไม่ได้ แต่สิ่งที่เราทำได้คือเดินต่อไปอย่างเข้มแข็ง ถ้านายมัวแต่เหลียวกลับมามองสิ่งที่นายทำอะไรไม่ได้แล้วนายก็เดินต่อไปไม่ถูกแน่"  ว่าพร้อมกับเอามือลูบหัวน้องไปด้วย

"พรุ่งนี้พี่จะโทรหาพ่อกับแม่"  เคนได้ยินก็รีบลุกขึ้นมาทันที

"อย่านะ อย่าทำให้พวกเขาต้องเป็นห่วงเลย"  ร้องห้ามพี่ชายอย่างไม่เห็นด้วย

"พวกเขาเป็นพ่อแม่เรา ไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเราก็ต้องบอกให้เขารับรู้"  เจอร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"แล้วพี่ว่านายไปอยู่กับพ่อแม่ซักพักเถอะ"  เงียบไปครู่หนึ่งก็เอ่ยออกมา

"ชั้นไม่ไป! ชั้นไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าความทรงจำของน้องจะกลับมา!"  เคนปฏิเสธพลางร้องไห้ไปด้วยเมื่อรู้ว่าพี่ชายจะบังคับให้เขาไปอยู่เมืองนอกกับพ่อแม่เพื่อที่ไม่ให้เขาต้องเผชิญหน้ากับน้องชายต่อไป

"เสี้ยวเทียน! นายอยากให้พี่บ้าตายหรืองัย!?"  พี่ใหญ่ตวาดใส่น้อง

"ลำพังแค่ไจ่ไจ๋เป็นแบบนี้พี่ก็เสียใจมากพออยู่แล้ว ยังต้องมาเห็นนายทุกข์ร้อนกังวลใจทุกวันทุกคืนโดยที่พี่ช่วยอะไรไม่ได้เลย รู้หรือเปล่าว่าพี่คนนี้เจ็บมากกว่านายกี่ร้อยเท่า?"  เคนมองหน้าพี่ชายแล้วอึ้งไป

"นายรู้มั๊ยว่าพี่ปวดใจขนาดไหนที่เห็นน้ำตาของพวกนายแล้วก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย"  เจอร์รี่พูดมาถึงตรงนี้ก็มีน้ำตาเอ่อล้นขึ้นมาที่ขอบตา

"พี่เองก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเข้มแข็งต่อไปได้อีกนานแค่ไหน"  เจอร์รี่บอกกับน้องตรงๆ ในเวลานี้เขาเองก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครได้อีกเพราะอาการของน้องชายแต่ละคนทำให้เขารู้สึกท้อใจ เคนเอามือปาดน้ำตาก่อนจะขยับเข้าไปกอดพี่ชาย

"ชั้นขอโทษ"  เคนพูดกับพี่ชายเสียงแผ่ว เจอร์รี่กอดน้องชายแน่นปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ ผ่านไปครู่ใหญ่เขาก็คลายอ้อมแขน

"นอนได้แล้ว"  บอกน้องด้วยน้ำเสียงแหบๆ เคนไม่พูดว่าอะไรเพียงแต่ล้มตัวนอนลงแต่โดยดี พี่ใหญ่เอามือเช็ดหน้าเช็ดตาให้น้องแล้วนั่งมองดูจนน้องหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย จนเมื่อน้องหลับแล้วเขาก็ห่มผ้าให้น้อง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบเชียบ




 

Create Date : 17 มิถุนายน 2557    
Last Update : 13 กรกฎาคม 2557 12:08:49 น.
Counter : 3601 Pageviews.  

Chapter 73

ตอนที่ 73


"ปิ๊นๆๆๆ!!!"  เสียงบีบแตรติดๆกันหลายครั้งนั้นทำให้ไจ่ไจ๋ต้องเหลียวไปทางต้นเสียง

"ไจ่ไจ๋!! มาทำอะไรแถวนี้!"  เจอร์รี่ร้องเรียกน้องชายเพราะหลังจากที่ซื้อของกันเสร็จแล้วแวนเนสก็โทรหาน้องเล็กแต่โทรศัพท์กลับติดต่อไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจกลับมาบ้านก่อน

"อ้าว!"  ไจ่ไจ๋รู้สึกดีใจอยู่ลึกๆที่เจอพี่น้องทั้งสามคน เพราะวันนี้เขาเองก็รู้สึกเหงาๆจึงนั่งรถเล่นมาเรื่อยๆแล้วสุดท้ายก็มาเดินเล่นอยู่ในซอยบ้านตัวเอง

"ขึ้นมาเร็วไจ่ไจ๋!"  เคนรีบเปิดหน้าต่างแล้วร้องเรียกน้องชาย ไจ่ไจ๋ทำท่าลังเล

"เร็วๆสิ! เดี๋ยวมีรถตามมาเขาจะบีบแตรไล่เอา"  เมื่อได้ยินดังนั้นไจ่ไจ๋จึงตัดสินใจเดินมาขึ้นรถ

"ไปเที่ยวไหนกันมาครับ?"  เอ่ยถามตามมารยาทเพราะเขาเองก็ไม่รู้จะคุยอะไรดี

"ความจริงวันนี้พี่ตั้งใจจะไปหานายที่คอนโด ว่าจะซื้อกับข้าวไปทำทิ้งไว้ให้เพราะนายเองก็ไม่ถนัดเรื่องงานครัวอยู่แล้ว"  เคนตอบอย่างกระตือรือร้นเพราะดีใจที่เจอน้องชาย

"แต่พี่ใหญ่กับพี่รองไม่ยอมพาไป ดันไปทะเลกันซะนี่"  แล้วก็พูดต่อว่าพี่ชายทั้งสองคนอีก

"น่าสนุกจัง! ไปทะเลกันด้วย"  ไจ่ไจ๋ได้ยินก็รู้สึกอิจฉาพี่น้องทั้งสามคนที่ไปเที่ยวกันสนุกสนาน

"พี่ก็บอกให้ไปรับนายไปด้วยแต่ไอ้สองคนนี่มันไม่ยอม หาว่าจะทำให้นายอึดอัด"  เคนฟ้องฉอดๆ

"พวกนายเห็นมั๊ยหละว่าน้องอยากไปกับเรา"  เจอร์รี่กับแวนเนสหันไปสบตากันเล็กน้อย
"ไจ่ไจ๋ สบายดีหรือเปล่า?"  แล้วเจอร์รี่ก็ถามน้องเล็กออกมาเพราะเขาสังเกตสีหน้าเหงาๆของน้องชายได้

"สบายดีครับ"  ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับยิ้มเจื่อนๆ ในตอนนั้นก็มาถึงบ้านพอดี

"พี่ซื้อพวกอาหารทะเลตากแห้งมาฝากนายเยอะเลย เดี๋ยวก่อนกลับเอาไปด้วยนะ ว่าแต่เย็นนี้อยู่กินข้าวที่บ้านกับพวกพี่นะ"  เคนพูดคุยกับน้องชายอย่างร่าเริง

"เอ่อ....ผม....เกรงใจพวกคุณจัง....."  ไจ่ไจ๋ตอบด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม

"เกรงใจอะไรวะ? นายน่ะเป็นน้องพี่นะ!"  แวนเนสพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกันเองทำให้ไจ่ไจ๋รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย

"ไป....เข้าบ้านกัน....."  แล้วแวนเนสก็ชักชวนไจ่ไจ๋เข้าไปในบ้าน ก้าวแรกที่ก้าวเข้ามาไจ่ไจ๋ก็มีความรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเพราะเหมือนกับว่าเขาได้กลับมาในที่ที่คุ้นเคย

"ไจ่ไจ๋ อยากดื่มน้ำอะไร? เดี๋ยวพี่ไปทำให้"  เคนรีบกระวีกระวาดบริการน้องชายเต็มที่

"นี่! อย่ายุ่งกับน้องให้มากนักเลย น้องมันหากินเองได้น่า นายน่ะไปหิ้วข้าวของบนรถลงมาให้หมดเลยไป!"  เจอร์รี่ทำเสียงดุๆกับเคน

"นายก็ไปหิ้ว....."  เคนทำท่าจะเถียงแต่พี่ใหญ่ขยับมือเคนก็เผ่นพรวดออกไปข้างนอกทันที

"ฮ่าๆๆๆ!!!"  แวนเนสหัวเราะท่าทางของเจ้าน้องชายตัวแสบซึ่งพลอยทำเอาไจ่ไจ๋หัวเราะไปด้วย

"คุณเสี้ยวเทียนนี่กลัวคุณเจอร์รี่จริงๆนะครับ"  ไจ่ไจ๋ว่าพลางหัวเราะไปด้วย

"กลัวที่ไหนกันหละ? ถามพี่รองดูสิว่าวันนี้มันอาละวาดกับพี่ขนาดไหน?"  เจอร์รี่ตอบพร้อมกับส่ายหน้าไปมาก่อนจะนั่งลงข้างน้องชาย

"วันนี้ตั้งใจจะมาหาพวกพี่หรือเปล่า?"  คำถามต่อมานั้นทำให้ไจ่ไจ๋เงียบไป เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกคิดถึงชายหนุ่มสามคนนี้

"น้องก็ต้องคิดถึงบ้านนั่นแหละ ไปอยู่คอนโดคนเดียวมันน่าเบื่อออก"  แวนเนสเป็นคนตอบคำถามนั้นแทน

"ครับ พอดีไม่มีอะไรทำก็เลยนั่งรถเล่นมาเรื่อยๆ พอผ่านแถวนี้ก็เลยลงมาว่าจะเดินเข้ามาดูเหมือนกันว่าพวกคุณอยู่บ้านกันหรือเปล่า"  ไจ่ไจ๋ตอบออกมาตามตรง

"ดีจังที่เจอ ไม่งั้นมาเก้อแหงๆ"  พูดต่อพร้อมกับยิ้มบางๆ

"งั้นคืนนี้ก็ค้างที่นี่สิ เพราะนี่ก็เริ่มมืดแล้วข้าวปลาอาหารยังไม่ได้ลงมือทำกันเลย"  เจอร์รี่เอ่ยชวนน้อง

"เอ่อ...."  ไจ่ไจ๋ทำท่าไม่แน่ใจ

"นอนบ้านตัวเองมันจะเป็นอะไรไป?"  แวนเนสว่าพร้อมกับทำหน้าอย่างต้องการคำตอบ

"ผมขอดูสถานการณ์ก่อนแล้วกัน ไม่ได้บอกพี่กลอเรียไว้ด้วยว่าจะไม่กลับไปที่คอนโด"  ไจ่ไจ๋ตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้

"เดี๋ยวพี่โทรบอกเอง"  แวนเนสออกตัวแล้วควักโทรศัพท์มือถือออกมากดหาคนรักทันที

"อ้าว! ผมยังไม่ทันรับปากเลย"  ไจ่ไจ๋ทำหน้าเหวอๆเมื่อแวนเนสเดินออกไปคุยโทรศัพท์กับกลอเรียอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

"หึๆๆๆ พี่สามคนอยากให้นายกลับมาอยู่บ้านกันจะตาย คืนนี้นอนนี่แหละนะแล้วถ้าไม่ชอบพรุ่งนี้ค่อยกลับคอนโดก็ได้"  เจอร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ไจ่ไจ๋มองสายตาอ่อนโยนของเจอร์รี่แล้วก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น

"ก็ได้ครับ"  รับปากในที่สุด ในตอนนั้นเองเคนก็ถือของเข้ามาพร้อมกับบ่นอุบ

"ของตั้งเยอะตั้งแยะให้ชั้นแบกคนเดียว ไร้น้ำใจที่สุด!"  เสียงบ่นของเคนทำให้เจอร์รี่กับไจ่ไจ๋หันมายิ้มให้กัน แล้วไจ่ไจ๋ก็ขยับตัวลุกขึ้นไปช่วย

"ผมช่วยเองครับ"  ว่าแล้วก็ดึงถุงจากมือเคนมาถือ

"พี่ไม่ได้ว่านายนะไจ่ไจ๋ แต่พี่ว่าคนบางคนที่เป็นพี่ชายซะเปล่าไม่คิดจะช่วยน้องเลย"  เคนว่าพร้อมกับปรายตาไปทางเจอร์รี่

"เดี๋ยวเถอะ! ว่าชั้นเหรอ?"  เจอร์รี่โวยวาย

"ชั้นพูดชื่อนายซะเมื่อไหร่กัน?"  พูดจบเคนก็หันไปทางไจ่ไจ๋

"เอาไปไว้ในครัวกัน วันนี้เดี๋ยวพี่จะทำของโปรดนายเยอะๆเลย"  พูดจบก็เดินนำน้องชายเข้าไปในครัว

"อ้าว! ไปไหนกันแล้วหละ?"  แวนเนสเดินเข้ามาเมื่อไม่เห็นน้องชายอีกสองคนก็เอ่ยถามพี่ชาย

"ไปในครัวโน้น! นายน่ะหัดสั่งสอนไอ้น้องสุดที่รักของนายหน่อยนะ มันจะทำให้ชั้นเส้นเลือดในสมองแตกซักวันแน่"  เจอร์รี่เริ่มมาพาลกับแวนเนส

"อะไรวะ? ถามแค่นิดเดียวนายก็มาด่าชั้นอีกแล้ว"  แวนเนสบ่นก่อนจะส่ายหน้าไปมาแล้วเดินไปนั่งที่โซฟา

"วันนี้ต้องชมความคิดของนาย ที่เราไม่ไปหาน้องตั้งแต่แรก"  แล้วก็เริ่มบทสนทนากับพี่ชาย

"แหงหละ.....ก่อนจะทำอะไรชั้นไตร่ตรองถี่ถ้วนแล้วเสมอ ฉะนั้นวันหลังช่วยกรุณาเชื่อฟังพี่ชายคนนี้หน่อยนะ"  ไม่วายพูดว่ากระทบน้องไปด้วย

"บ่นอีกแล้ว"  แวนเนสบ่นอุบก่อนจะกดรีโมทเปิดโทรทัศน์ดูเป็นการตัดบทเพราะขี้เกียจฟังพี่ชายบ่นอีก

"ใครไปเอายามาทาให้น้องหน่อยสิ!"  แล้วจู่ๆเสียงเคนก็ร้องขึ้นมาทำให้พี่ชายทั้งสองคนรีบลุกขึ้นทันที

"ไจ่ไจ๋เป็นอะไร!?"  ถามขึ้นพร้อมกันอย่างตกใจ

"โดนน้ำมันกระเด็นใส่น่ะสิ รีบเอายามาทาเร็วๆเดี๋ยวพอง"  เคนตอบพร้อมกับจูงมือน้องชายมานั่งลงที่โซฟา

"นิดหน่อยเองครับ คุณเสี้ยวเทียนก็ตกใจเกินไป"  ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับทำหน้าเหยๆ

"พี่บอกแล้วว่าเดี๋ยวพี่ทำเอง นายไม่น่าทำเลย ดูสิ....เจ็บตัวอีกแล้ว....."  เคนว่าพร้อมกับรับยามาจากมือแวนเนสแล้วรีบเปิดทาให้น้องชาย

"ผมขอโทษ ก็แค่อยากจะช่วยคุณเท่านั้นเอง"  ไจ่ไจ๋ทำเสียงอ่อยๆเพราะรู้ว่าตัวเองทำให้ทุกคนวุ่นวายไปหมด 

"หึๆๆๆ"  เจอร์รี่หัวเราะเบาๆในขณะที่ยืนดูเจ้าน้องชายทั้งสามคน

"ขำอะไร? น้องเจ็บแบบนี้ยังมีหน้ามาหัวเราะอีก"  เคนต่อว่าพี่ใหญ่เข้าให้

"ชั้นขำเพราะสิ่งเดียวที่ไจ่ไจ๋ไม่เคยเปลี่ยนก็คือ ถ้าเข้าครัวทีไรมีเจ็บตัวทุกทีแบบนี้น่ะสิ"  เจอร์รี่ให้เหตุผล ได้ยินเช่นนั้นแวนเนสเลยพลอยหัวเราะออกมาด้วย ในขณะที่เคนไม่ขำด้วยเพราะห่วงน้อง

"เออใช่! เข้าไปทำกับข้าวทีไรนายต้องโดนน้ำมันกระเด็นใส่ทุกที บางทีก็เป็นแผลพองเลย"  แวนเนสพลอยผสมโรง

"ผมก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรเรื่องงานครัวไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่"  ไจ่ไจ๋พูดเขินๆ

"เผาน้องอยู่ได้ หัดทำตัวให้เป็นประโยชน์ซะบ้าง เข้าไปช่วยชั้นทำเลยเร็วๆ"  เคนต่อว่าพี่ชายทั้งคู่

"สั่งจริงๆเลยนะ!"  เจอร์รี่ต่อว่าน้องชายอย่างหมั่นไส้

"เออ! ก็ชอบให้สั่งหนิถึงจะทำ! ไม่พูดก็ไม่เคยคิดจะช่วยเลย!"  เคนพูดจบก็หมุนตัวกลับเข้าห้องครัวไปทันที

"ดูมันนะ....."  เจอร์รี่บ่นก่อนจะส่ายหน้าไปมา

"พี่เข้าไปช่วยมันเอง นายอยู่คุยเป็นเพื่อนน้องนี่แหละ"  สั่งแวนเนสเสร็จก็หมุนตัวเดินตามเคน

"เข้าไปช่วยมันทำไม่ใช่เข้าไปทะเลาะกันมันอีกนะโว้ย! แล้วอาหารน่ะกินวันนี้นะ!"  แวนเนสตะโกนไล่หลังไปก่อนจะหัวเราะเบาๆแล้วนั่งลงกับไจ่ไจ๋

"พวกคุณนี่ครื้นเครงกันดีจัง"  ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับรอยยิ้มที่เปิดเผยมากขึ้น

"พวกเราก็เป็นแบบนี้แหละ"  แวนเนสตอบแล้วเงียบไป

"จำอะไรได้บ้างหรือเปล่า?"  ถามน้องชายต่ออีก ไจ่ไจ๋สบตากับคู่สนทนาก่อนจะส่ายหน้าเล็กน้อย

"ผมรู้ว่านี่คือบ้านของผม แต่เรื่องของพวกคุณ....."  ก่อนที่น้องจะพูดจบแวนเนสก็แทรกขึ้นมาก่อน

"ไม่เป็นไรหรอก ช่างมันเถอะ! เรื่องแบบนี้ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป"  แวนเนสกลับมาทำเสียงร่าเริงอีกครั้ง

"วันหลังจะมาก็โทรมาบอกพี่ก่อนนะจะได้อยู่รอ แล้วถ้าวันไหนพวกพี่จะไปเที่ยวกันก็จะโทรไปบอกนายเหมือนกัน"  ไจ่ไจ๋ยิ้มบางๆ

"เกรงใจพวกคุณจัง"  ไจ่ไจ๋พึมพำ

"เกรงใจอะไรอีกแล้ว! เป็นพี่น้องกันทำไมต้องเกรงใจขนาดนี้"  แวนเนสพูดด้วยท่าทางสบายๆ ก่อนจะเปลี่ยนสายตาไปดูโทรทัศน์ต่อ ไจ่ไจ๋นั่งกวาดสายตาไปรอบๆบ้าน เขารู้ว่าที่นี่คือบ้านของเขาเพราะทุกอย่างมีอยู่ในความทรงจำ 

"อ๊ะ....ผมขอดูรูปหน่อยนะครับ"  เมื่อกวาดสายตามองไปมาไจ่ไจ๋ก็เห็นอัลบั้มรูป เขาจึงอยากลองดูให้แน่ใจว่าชายหนุ่มสามคนนี้เป็นพี่ชายของเขาจริงหรือไม่

"จะขอทำไมหละ? บ้านนี้ก็ของนายอยากทำอะไรก็ทำไปไม่ต้องมาขอหรอก"  แวนเนสว่าแต่แล้วก็ฉุกคิดอะไรขึ้นได้ว่าหากน้องดูรูปแล้วน่าจะจำพวกเขาได้ เมื่อเป็นดังนั้นเขาจึงปิดโทรทัศน์แล้วเลื่อนตัวลงมานั่งกับน้อง

"อัลบั้มนี้เป็นรูปที่พวกเราสี่คนถ่ายด้วยกัน"  แวนเนสบอกพร้อมกับหยิบอัลบั้มภาพที่รวมรูปของพวกเขาสี่พี่น้องถ่ายไว้ด้วยกันตั้งแต่เด็กๆขึ้นมา ไจ่ไจ๋มองดูหน้าปกอัลบั้มนั้นในใจก็เริ่มรู้สึกกลัวว่าหากความจริงเขาเป็นน้องชายคนเล็กของบ้านนี้เขาจะทำใจรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นยังงัยดี

"เอ่อ....ผมว่า.....ผมไม่อยากดูแล้ว....."  ไจ่ไจ๋ปฏิเสธก่อนแวนเนสจะทันได้เปิด 

"ไม่อยากดูหรอ?"  แวนเนสเงยหน้าขึ้นมามองน้องชาย เมื่อเห็นสีหน้าวิตกกังวลของน้องแล้วแวนเนสจึงสอดอัลบั้มภาพนั้นเก็บดังเดิม เขาไม่อยากทำให้น้องรู้สึกไม่ดี

"ขอโทษนะครับ ขอไปสูดอากาศข้างนอกหน่อย"  ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็ลุกออกไปหน้าบ้าน โดยที่แวนเนสมองตามอย่างเป็นห่วงแต่เขาก็ตัดสินใจปล่อยให้น้องได้คิดอะไรคนเดียว แวนเนสนั่งนิ่งงันอยู่ครู่หนึ่งก็เดินเข้าไปในครัวสมทบกับพี่น้องอีกสองคน

"มีอะไรให้ช่วยมั๊ย?"  แวนเนสเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

"เข้ามาทำไม? ไปอยู่เป็นเพื่อนน้องสิ!"  เคนทำเสียงแข็งใส่พี่ชาย แต่เมื่อเห็นสีหน้าของพี่ชายแล้วก็เอะใจ

"น้องหละ?"  ถามพี่ชายต่ออีก

"ขอไปเดินเล่นข้างนอกน่ะ"  แวนเนสตอบแล้วถอนหายใจ

"เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?"  พี่ใหญ่ถามแวนเนสต่อทันทีเพราะสีหน้าของน้องบ่งบอกว่าคงมีอะไรบางอย่าง

"เอ่อ....คือว่า....."  แวนเนสพูดไม่เต็มเสียง

"เมื่อกี้น้องจะขอดูรูปพวกเรา พอชั้นจะเปิดให้ดูน้องกลับไม่อยากดูขึ้นมาเฉยๆ"  คำพูดนั้นทำให้ทั้งเจอร์รี่และเคนเงียบไป

"ชั้นว่าเหมือนน้องกลัวว่าจะรู้ความจริง ชั้นเลยกลัวว่าหากน้องกลับมาจำพวกเราได้สภาพจิตใจของน้องจะแย่ลงไปกว่าเดิมหรือเปล่า?"  แวนเนสพูดสีหน้าและท่าทางซีเรียส

"เพราะชั้นแท้ๆเลย"  เคนพึมพำออกมาสีหน้าเศร้าลงทันตาเห็น

"อย่าโทษตัวเองสิ เรื่องแบบนี้ใครมันอยากให้เกิดกัน?"  เจอร์รี่พูดปลอบใจน้องแต่ก็ค่อนข้างเห็นด้วยกับสิ่งที่แวนเนสบอก

"ต่อไปบ้านเราก็จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว"  พูดจบเคนก็เดินไปนั่งฟุบหน้าลงกับโต๊ะกินข้าว

"นายออกไปก่อน"  เจอร์รี่บอกกับแวนเนสแบบไม่ออกเสียง แวนเนสมองไปที่เคนอย่างเป็นห่วงแต่ก็ยอมออกไปแต่โดยดีเพราะรู้ว่าพี่ใหญ่ต้องปลอบน้องได้ดีกว่าเขาแน่ๆ

"เสี้ยวเทียน"  เจอร์รี่เรียกน้องชายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่เคนไม่ตอบรับอะไรเพราะน้ำตาของเขากำลังไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย

"ร้องไห้ทำไม? ไม่กลัวไจ่ไจ๋มาเห็นเข้าแล้วจะโดนหัวเราะเยาะเอาหรอ?"  แกล้งพูดปลอบน้องแบบตลกๆ

"ชั้นยอมให้น้องหัวเราะชั้นซะยังดีกว่าให้สถานการณ์มันเป็นแบบนี้ ตอนนี้น้องมาอยู่กับเราก็มีแต่ความอึดอัดน้องไม่มีความสุขเลย ต่อให้ความทรงจำของน้องกลับมามันก็เท่านั้น"  เคนเงยหน้าขึ้นมาพูดกับพี่ชายทั้งน้ำตา เจอร์รี่เอามือโยกหัวน้องชายไปมาเบาๆ

"คิดอะไรแบบนั้น? ถ้าความทรงจำของน้องกลับมาบ้านของเราก็จะต้องกลับมาเหมือนเดิมสิ"  พูดปลอบใจทั้งที่ในใจก็กลัวจะเป็นอย่างที่น้องพูดอยู่เหมือนกัน

"ไจ่ไจ๋มันคงหัวเราะจนน้ำหูน้ำตาไหลแน่ถ้าเกิดความทรงจำของน้องกลับคืนมาจริงๆ เรื่องนี้คิดๆไปน่าขำออกนะ"  พยายามพูดให้ดูเหมือนเป็นเรื่องตลกทั้งๆที่รู้ว่าน้องไม่ขำด้วยเลย

"ต่อไปอาจจะเป็นเรื่องขำๆที่พวกเราจะเอามาพูดเล่นกันไม่รู้จบก็ได้"  เคนไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่ฟุบหน้าลงไปที่โต๊ะแล้วร้องไห้ออกมาอีก

"เฮ่อ....."  เจอร์รี่ถอนหายใจแล้วลากเก้าอี้ตัวข้างๆน้องออกมาทรุดตัวนั่ง

"เรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้วร้องไห้ไปก็เท่านั้น ตอนนี้เรื่องสำคัญที่สุดก็คือเราต้องทำทุกวิถีทางที่จะให้น้องจำพวกเราได้อีกครั้ง"  ว่าพลางลูบหัวน้องไปด้วย

"แม้มันอาจแลกมาด้วยความเจ็บปวดของน้องแต่พี่ไม่มีวันยอมปล่อยให้น้องของพี่กลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับพี่หรอก"  พี่ใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

"แล้วนายหละ? นายจะยอมให้เป็นแบบนั้นหรอ?"  เคนส่ายหน้าไปมาทั้งๆที่ยังฟุบหน้าอยู่ที่โต๊ะกินข้าว

"ถ้าอย่างนั้นก็เลิกร้องไห้แล้วมาทำกับข้าวต่อให้เสร็จได้แล้ว ไจ่ไจ๋รอกินอยู่เดี๋ยวน้องก็หิวแย่เลย"  การยกเอาน้องเล็กขึ้นมาอ้างนั้นได้ผลกับเคนเสมอ เพราะหลังจากจบคำนั้นเคนก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วขยับตัวลุกขึ้น

"เดี๋ยว.....มาให้พี่ใหญ่เช็ดหน้าเช็ดตาก่อนซิ.....ดูหน้าตัวเองเข้าดูได้ที่ไหน"  พี่ใหญ่ดึงตัวน้องชายมาก่อนจะล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกงหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดหน้าเช็ดตาให้น้องชาย

"นายออกไปข้างนอกเถอะ เดี๋ยวตรงนี้ชั้นจัดการเอง เสร็จแล้วจะไปเรียก"  เคนพูดด้วยน้ำเสียงปนสะอื้น

"ไม่ให้พี่ใหญ่ช่วยหรอ?"  ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ เมื่อน้องส่ายหน้าเจอร์รี่ก็ไม่เซ้าซี้อีกเพราะรู้ว่าน้องอยากสงบสติอารมณ์เงียบๆ

"เสร็จแล้วออกไปเรียกด้วยหละ อย่าแอบกินคนเดียวหมดนะ"  ประโยคหลังพูดแหย่น้องชายเล่น ซึ่งเคนก็ได้ยิ้มแบบฝืนๆก่อนจะหันกลับไปทำกับข้าวต่อ เจอร์รี่ส่งสายตามองน้องชายอีกครั้งอย่างเป็นห่วงก่อนจะตัดใจเดินหมุนตัวออกไป

- ที่สนามหน้าบ้าน -

"มาอยู่กันตรงนี้เอง"  เจอร์รี่ที่เดินตามหาน้องชายทั้งสองคนเอ่ยทักเมื่อเห็นแวนเนสกับไจ่ไจ๋นั่งคุยกันอยู่ตรงชิงช้า

"ทำกับข้าวเสร็จแล้วหรอ?"  แวนเนสทำเสียงร่าเริง

"ยังหรอก รายนั้นน่ะหาว่าชั้นเกะกะเลยโดนไล่ออกมาเนี่ย"  เจอร์รี่เองก็พูดแบบติดตลก

"ผมมารบกวนหรือเปล่าครับ? ลำบากคุณเสี้ยวเทียนแย่เลย"  ไจ่ไจ๋พูดขึ้นอย่างเกรงใจ

"พูดอะไรแบบนั้น พี่บอกแล้วงัยว่าพี่กลางของนายน่ะมันเป็นพ่อบ้าน หน้าที่ทำอาหารก็เป็นของมันซะส่วนใหญ่"  แวนเนสพูดกับน้องชายด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง

"แต่เวลากินสิ่งที่ห้ามพูดเลยก็คืออาหารที่มันทำไม่อร่อยเพราะไม่งั้นมื้อนั้นอดกันหมดทั้งบ้านแน่ ดีไม่ดีจะพาลไม่มีอะไรตกถึงท้องไปอีกสามมื้อ"  พูดจบแวนเนสก็หัวเราะร่า ทำให้ไจ่ไจ๋เริ่มรู้สึกผ่อนคลายแล้วหัวเราะตามออกมาด้วย

"แต่คุณบอกผมว่าคุณเสี้ยวเทียนเป็นเชฟบนเรือสำราญไม่ใช่หรอ? แบบนี้คงไม่มีคำว่าไม่อร่อยแน่นอน"  ไจ่ไจ๋เอ่ยขึ้นมาบ้าง

"ถ้ามันทำอาหารบนเรือสำราญน่ะพี่รับรองว่าต้องอร่อยทุกอย่างแน่ๆ แต่ถ้าทำที่บ้านก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์มันด้วย ถ้าวันไหนไปแหย่มันมากๆจนมันโวยวายหละก็จะได้กินอาหารรสชาติแบบเผ็ดไฟแลบเลย"  เจอร์รี่เป็นคนตอบคำถามนั้นแทน

"หึๆๆๆๆ พวกคุณนี่ตลกจัง"  ไจ่ไจ๋รู้สึกขำคำพูดของเจอร์รี่

"ถ้านายกลับมาอยู่บ้านเรา ไม่นานนายจะรู้ฤทธิ์ของไอ้พี่ชายตัวแสบของนายแน่"  แวนเนสพูดแทรกขึ้นมา ทำให้ไจ่ไจ๋ทำหน้าเจื่อนลง

"พี่รู้นะว่ามันอาจจะทำใจรับได้ยากซักหน่อย แต่พวกพี่เองก็มีความรู้สึกไม่ต่างจากนายตอนนี้หรอก"  เงียบกันไปพักหนึ่งเจอร์รี่ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน

"นายอาจจะไม่ยอมรับพวกพี่สามคนก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ก็ขอให้พวกพี่สามคนได้ทำหน้าที่ของพี่ชายต่อไปเถอะ"  ไจ่ไจ๋นิ่งเงียบกับสิ่งที่เจอร์รี่พูด

"กลับมาอยู่ที่บ้านเถอะนะไจ่ไจ๋ ถ้ามีเรื่องอะไรที่พวกพี่ทำให้นายอึดอัดก็บอกกันได้ตรงๆ พวกพี่ก็จะพยายามปรับตัว"  ไจ่ไจ๋มองหน้าเจอร์รี่แล้วเปลี่ยนสายตาไปที่แวนเนส

"ไม่ใช่ว่าผมไม่ยอมรับพวกคุณสามคนนะครับ"  ไจ่ไจ๋เอ่ยขึ้นเบาๆ

"จริงๆแล้วผมรู้สึกดีใจเสียอีกที่ได้รู้ว่าตัวเองมีพี่ชาย โดยเฉพาะพี่ชายที่แสนดีอย่างพวกคุณสามคนด้วยแล้วผมคิดว่าตัวเองต้องเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกแน่ๆ"  คำพูดนั้นทำให้ทั้งเจอร์รี่และแวนเนสหันไปมองหน้ากัน

"ถ้าถามผมว่าตอนนี้ผมเชื่อหรือเปล่าว่าพวกคุณเป็นพี่ชายของผม คำตอบที่พวกคุณจะได้รับก็คือตอนนี้ผมเชื่ออย่างสนิทใจเลย"  ไจ่ไจ๋พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"นายเชื่อแบบนั้นจริงหรอ?"  แวนเนสถามย้ำอย่างดีใจ ซึ่งไจ่ไจ๋ก็พยักหน้าแทนคำยืนยันอีกครั้ง

"แต่ที่ผมไม่อยากกลับมาอยู่ที่บ้านก็เพราะว่าผมยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับพวกคุณได้ดีเท่าที่ควร"  คำพูดต่อมานั้นทำให้เจอร์รี่กับแวนเนสมองหน้าไจ่ไจ๋อย่างไม่ค่อยเข้าใจ

"ผมหมายถึงว่าเวลาพวกคุณแสดงออกกันก็มักจะไม่มีการเสแสร้ง ถ้าโมโหก็คือต่อว่ากันตรงๆแต่ถ้าเป็นห่วงพวกคุณก็พูดตรงๆเหมือนกัน....."  ไจ่ไจ๋อธิบาย

"คือผมคิดว่าตัวเองคงทำแบบพวกคุณไม่ได้"  จบคำพูดนั้นพี่ชายทั้งสองคนก็ยิ้มออกมาได้

"โธ่! เรื่องแค่นี้เอง....."  แวนเนสว่าเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

"ผมรู้ว่าสำหรับพวกคุณมันเป็นเรื่องปกติ แต่ผมคิดว่าพี่น้องผู้ชายเนี่ยเวลาแสดงออกต่อกันมันก็จะเป็นไปแบบเอ่อ....ยังงัยหละ?....."  ไจ่ไจ๋เองก็อธิบายไม่ถูก

"โผงผาง"  เจอร์รี่ต่อคำให้น้องชาย 

"ครับ....อะไรประมาณนั้น....."  ไจ่ไจ๋พยักหน้า

"ซึ่งผมคิดว่าพวกคุณน่ะ ค่อนข้างจะ.....ละเอียดอ่อนมาก......"  จบคำของไจ่ไจ๋เจอร์รี่กับแวนเนสก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน

"ตกลงเรื่องที่นายกังวลก็เพราะเรื่องนี่หรอกหรอ? นายไม่ต้องห่วงหรอกเพราะถ้านายไม่ชอบพวกพี่จะไม่ทำแบบนั้นกับนายเลย"  แวนเนสว่าพร้อมกับตบไหล่น้องชายไปด้วย

"เอ่อ.....ความจริงผมว่าการแสดงออกแบบนั้นมันก็ดีนะครับเพียงแต่ผมไม่คุ้น.....เท่านั้นเอง....."  ไจ่ไจ๋รีบแก้ตัวเพราะกลัวว่าคำพูดของเขาจะทำให้ชายหนุ่มทั้งสองคนคิดไปไกล

"เอาเถอะ พี่รับรองว่าจะไม่ทำให้นายอึดอัดเลย"  แวนเนสรับรองด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"เอ่อ...."  ไจ่ไจ๋ยิ้มแหยๆ

"งั้นนายก็ยอมกลับมาอยู่บ้านแล้วใช่มั๊ย?"  เจอร์รี่ถามแทรกขึ้นมาอีก ซึ่งแวนเนสก็มองไจ่ไจ๋อย่างต้องการคำตอบด้วยเช่นกัน

"ก็....ก็ได้.....เอางั้นก็ได้ครับ....."  ไจ่ไจ๋ตอบแบบไม่เต็มเสียงเท่าไหร่นักแต่ในใจของเขาเองนั้นก็อยากกลับมาอยู่ที่บ้านเช่นกัน

"เย้!!! ชั้นจะไปบอกเสี้ยวเทียน รับรองว่าจะต้องได้เห็นหมูกระโดดแหงๆ"  พูดจบแวนเนสก็วิ่งแจ้นเข้าไปในบ้านทันที

"ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้"  เจอร์รี่บ่นเจ้าน้องชายคนรองที่วิ่งตื่อออกไปพร้อมกับส่ายหน้ายิ้มๆ

"อีกเดี๋ยวเจ้าพี่กลางคงทำกับข้าวเสร็จแล้ว นายอยากจะขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าให้สบายตัวก่อนมั๊ย?"  แล้วเจอร์รี่ก็หันมาถามน้องชายคนเล็ก

"ไม่เป็นไรหรอกครับ"  ไจ่ไจ๋ตอบด้วยท่าทางเกรงใจ ทั้งๆที่อยู่บ้านตัวเองแต่เขากลับรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนมาอาศัยเท่านั้น

"ตอนอยู่คอนโดปกตินายทำอาหารกินเองหรือเปล่า?"  เจอร์รี่ชวนน้องชายพูดคุยเรื่องทั่วๆไป

"เปล่าหรอกครับ ส่วนใหญ่พี่กลอเรียจะจัดการเรื่องนี้ให้ แต่ถ้าพี่กลอเรียไม่ว่างผมก็จะเดินออกไปกินหน้าคอนโดหรือไม่ก็กินพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป"  ไจ่ไจ๋ตอบตามความเป็นจริง

"หึๆๆๆ พี่ว่าแล้วนายต้องกินของพวกนี้เป็นอาหารหลักแหงๆ"  เจอร์รี่หัวเราะเบาๆเพราะนึกอยู่แล้วว่าจะได้รับคำตอบแบบนี้

"ผมว่ามันก็อร่อยดีนะครับแถมสะดวกอีกด้วย"  ไจ่ไจ๋แย้งขึ้น

"ก็ใช่ แต่มันไม่ค่อยมีสารอาหารอะไร"  เจอร์รี่ว่าก่อนจะพูดต่อ

"นี่ถ้าเจ้าพี่กลางมันรู้ว่านายกินของพวกนี้บ่อยๆนะรับรองว่ามันต้องบ่นพี่ไปสามวันเจ็ดวันแน่"  คำพูดนั้นทำให้ไจ่ไจ๋ยิ้มงงๆ

"ทำไมคุณเสี้ยวเทียนถึงต้องบ่นคุณด้วยหละครับ?"  ย้อนถามกลับไป

"ก็มันเซ้าซี้ให้พี่พามันไปตลาดซื้อพวกของสดไปทำอาหารทิ้งใส่ตู้เย็นให้นายอุ่นกินได้ตลอดงัย แต่พี่ไม่อยากโผล่หน้าไปให้นายอึดอัดทุกวันพี่ก็เลยไม่ยอมพามันไป มันเลยงอนจนพาลไปทั่ว ถึงต้องพามันไปเที่ยวทะเลนี่งัย"  คำตอบนั้นทำให้ไจ่ไจ๋หัวเราะออกมาได้

"คุณเจอร์รี่ปฏิบัติกับน้องๆเหมือนพวกเขาเป็นเด็กเลยเนอะ"  พูดออกมาตามความรู้สึกของตัวเอง

"ก็ใช่.....ถึงแม้น้องพี่ทุกคนจะโตๆกันหมดแล้วแต่พี่ก็ยังทำใจยอมรับไม่ได้ซักที"  เจอร์รี่เองก็ตอบพลางหัวเราะไปด้วย

"ถ้าเป็นไปได้พี่อยากให้พวกนายสามคนเป็นเด็กตัวเล็กๆตลอดไป เพราะพวกนายจะได้อยู่กับพี่ตลอดไป"  ไจ่ไจ๋ยิ้มกับคำพูดนั้น

"คุณแวนเนสกับคุณเสี้ยวเทียนนี่โชคดีจังที่มีพี่ชายแบบคุณ"  คำพูดนั้นทำให้เจอร์รี่สบตากับน้องตรงๆ

"ได้ยินนายพูดแบบนี้แล้วรู้สึกแปลกๆจัง น้องตัวเองแท้ๆมาเรียกพี่ชายแบบเป็นทางการแบบนี้"  เจอร์รี่ว่าพร้อมกับยิ้มให้น้องบางๆ

"เอ่อ....คือว่า....."  ไจ่ไจ๋ทำหน้าเจื่อนลง

"ไม่เป็นไรหรอก ถ้าไม่คุ้นก็แล้วแต่นายเถอะ"  เจอร์รี่รีบบอกเพราะกลัวน้องชายจะรู้สึกอึดอัด

"ผม....ผมจะพยายามแล้วกัน....."  ไจ่ไจ๋ตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้

"ได้ ยังงัยก็ได้ทั้งนั้นแหละ"  ตอบน้องชายจบก็พูดตัดบท

"พี่ว่าเราเข้าบ้านกันดีกว่า ป่านนี้พี่กลางมันน่าจะทำกับข้าวเสร็จแล้ว"  ไจ่ไจ๋ไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่พยักหน้ารับแล้วขยับตัวลุกขึ้นตมมเจอร์รี่

- ในบ้าน -

"ทำเสร็จแล้วไม่เรียกเลยนะ จะแอบกินกันสองคนเหรอ?"  พี่ใหญ่เอ่ยปากทำลายความเงียบในห้องครัว

"เพิ่งเสร็จ กำลังจะออกไปตามพอดี"  เคนตอบคำถามนั้นก่อนจะหันไปฝืนยิ้มให้น้องเล็ก ไจ่ไจ๋มองหน้าเคนแล้วก็รู้สึกไม่ค่อยดีเพราะสีหน้าของเคนดูเศร้าๆ

"พี่รองบอกแล้วใช่มั๊ยว่าน้องจะกลับมาอยู่บ้านกับเราแล้ว"  พี่ใหญ่ถามเคนพร้อมกับโยกหัวน้องไปมาเบาๆ

"อืม....รู้แล้ว....."  เคนพยักหน้าพร้อมกับตอบรับเบาๆ

"นายแน่ใจหรอว่าอยากกลับมาอยู่บ้าน? ความจริงถ้านายไม่อยาก....."  เคนเอ่ยพูดแต่ไจ่ไจ๋พูดแทรกขึ้นมาก่อน

"ครับ ผมอยากกลับมาอยู่ที่นี่ อยู่ที่คอนโดมันเหงาเพราะกลางวันพี่กลอเรียกับมี่เฟิงก็ไปทำงานที่ร้าน ผมเองตามไปทุกวันก็เกะกะสาวๆซะเปล่าๆ แถมช่วงนี้หลิงหลิงยังกลับไปอยู่บ้านอีกด้วยกว่าจะกลับมาหออีกครั้งก็คงเกือบเปิดเทอม"  ไจ่ไจ๋พูดเสียงเจื้อยแจ้ว

"คุณไม่ต้องกลัวผมอึดอัดหรอก เพราะผมมั่นใจว่าผมจะต้องปรับตัวเข้ากับพวกคุณได้แน่ๆ มีแต่พวกคุณซะอีกที่จะอึดอัดที่ผมกลับมาอยู่ด้วยแบบนี้"  ได้ยินน้องว่าเช่นนั้นเคนก็รีบส่ายหน้า

"ไม่นะไจ่ไจ๋ พี่ไม่อึดอัดเลยแม้แต่นิดเดียว พี่ดีใจซะอีกที่นายกลับมาบ้านด้วยความเต็มใจ"  สีหน้าเศร้าๆของเคนกลับมีรอยยิ้มขึ้นมานั่นทำให้ทั้งเจอร์รี่และแวนเนสต่างพากันโล่งอก เพราะเมื่อกี้หน้าตาของน้องชายอย่างกับคนอมทุกข์

"เอาหละๆๆๆ ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วก็กินข้าวกันซักทีนะ พี่รองหิวแล้ว....."  แวนเนสพูดตัดบทขึ้นมาด้วยการชักชวนพี่ๆน้องๆกินข้าว

"ทีเรื่องแบบนี้หละเร็วเชียวนะ เมื่อกี้บอกให้ช่วยล้างจานก็ไม่ยอมทำ!"  เคนหันไปแหวใส่พี่ชายคนรอง

"อ้าว! ก็บอกว่าเดี๋ยวกินเสร็จแล้วจะล้างให้นายก็ไม่ยอมต้องล้างให้เสร็จตอนนั้นเดี๋ยวนั้นมันอะไรนักหนาวะ!"  แวนเนสเถียงน้องชายกลับ

"ก็ถ้วยชามหม้อกะทะมันกองเต็มเคาเตอร์นั้นนายไม่รำคาญหูรำคาญตาบ้างหรืองัย!?"  เคนเองก็ไม่ยอมแพ้

"ไม่! ไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย"  แวนเนสลอยหน้าลอยตาตอบ

"เอาอีกแล้วนะ ทะเลาะกันอีกแล้ว เดี๋ยวพี่ใหญ่ตีคนละทีดีมั๊ย?"  เจอร์รี่ทำหน้าดุๆใส่น้องชายทั้งคู่ แล้วแวนเนสกับเคนก็ส่ายหน้าแทนคำตอบพร้อมกัน ไจ่ไจ๋ยืนมองดูสามพี่น้องพร้อมกับรอยยิ้มเขารู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

"มาไจ่ไจ๋.....มาช่วยพี่ตักข้าวดีกว่าเดี๋ยวไอ้ตัวอ้วนนั่นมันจะพาลบ่นนายด้วยว่าไม่ยอมช่วยทำอะไร"  แวนเนสหันไปพูดกับน้องเล็กด้วยสีหน้าอมยิ้ม

"นี่!! นายไม่ต้องมาแอบด่าชั้นหรอก! แล้วนายนั่นแหละที่ต้องตักข้าวไม่ต้องเอาน้องมาอ้าง!!"  เคนแหวใส่พี่ชายแว๊ดๆ

"ไจ่ไจ๋.....นายไปนั่งรอเถอะไป.....เดี๋ยวตักข้าวเสร็จก็กินได้แล้ว"  พูดกับน้องเล็กต่อด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

"ดูมันนะ! กับชั้นมันแว๊ดๆใส่แต่กับ.... โอ๊ย!! ไอ้บ้านี่เอาจริงหรอวะ!!"  แวนเนสหยุดพูดกระทันหันแล้วเปลี่ยนมาเป็นเสียงร้องแทนเมื่อเคนขว้างทัพพีในมือใส่เขา

"ก็อยากพูดมากทำไมหละ!? สั่งอะไรแล้วก็ไม่ยอมทำ!"  เคนแหวใส่พี่ชายอีก

"เสี้ยวเทียน! เกินไปแล้วนะแบบนี้!"  พี่ใหญ่ดุน้องชายคนกลางเสียงเข้ม

"ก็มัน......"  เคนอ้าปากจะเถียงแต่พอเห็นสายตาพี่ใหญ่แล้วก็ไม่กล้า

"นี่แหนะ!"  เจอร์รี่ใช้มือตีเจ้าน้องชายจอมโวยวายทีหนึ่งแรงพอสมควร

"ถ้าพี่เห็นเราทำแบบนี้อีกพี่จะทำโทษหนักกว่านี้อีกหลายเท่าเลย"  เคนหน้ามุ่ยแล้วเดินไปนั่งลงข้างน้องเล็ก

"นายก็เหมือนกัน! โตจะตายอยู่แล้วยังไปนั่งทะเลาะกับน้องอยู่ได้"  หันมาว่าแวนเนสด้วยอีกคน

"ก็มันน่าทะเลาะด้วยมั๊ยหละ? อย่าให้มีโอกาสนะจะจับเตะให้กลิ้งเป็นลูกบอลเลย"  ไม่วายพูดอาฆาตน้องชายไว้ด้วย

"ชั้นจะเตะนายก่อนน่ะสิ!"  เคนเถียงแวนเนสเบาๆ ไจ่ไจ๋มองชายหนุ่มทั้งสองคนอย่างขำๆ 

"เดี๋ยวพรุ่งนี้ชั้นจะซื้อนวมมาให้คนละคู่ และชกกันให้ตายไปข้างนึงเลยนะ"  เจอร์รี่พูดแทรกก่อนที่น้องชายทั้งคู่จะเถียงกันมากกว่านี้

"อะไรกันก็ไม่รู้ เรื่องเล็กๆน้อยๆก็ยังเอามาเถียงกันได้เป็นวันๆ"  บ่นเสร็จก็ถอนหายใจ

"หิวแย่แล้วสิไจ่ไจ๋ พี่ชายของนายสองคนนี่แย่ชะมัด....."  พูดกับไจ่ไจ๋แต่ไม่วายแอบแขวะน้องชายอีกสองคนไปด้วย

"ไม่หรอกครับ ดูพวกคุณเถียงกันก็สนุกดี"  ไจ่ไจ๋ตอบยิ้มๆก่อนจะถามแวนเนสกับเคน

"พวกคุณเถียงกันแบบนี้แล้วโกรธกันจริงหรือเปล่าเนี่ย?"  คำถามนั้นแวนเนสกับเคนตอบขึ้นพร้อมกันอย่างโดยไม่ต้องนัดหมาย

"โกรธ!"  ไจ่ไจ๋ทำหน้าเจื่อนลงเมื่อได้ยินน้ำเสียงแข็งๆของคนทั้งคู่

"ยังอีก!"  คราวนี้พี่ใหญ่ทำหน้าตาจริงจัง

"เดี๋ยวพี่ตักข้าวให้นะ"  เคนว่าแล้วก็เดินไปตักข้าวมาสองจาน วางตรงหน้าน้องเล็กจานนึงส่วนอีกจานก็วางตรงที่ตัวเอง

"อ้าว! แล้วของชั้นสองคนหละ?"  แวนเนสถามแทรกขึ้นมาทันที

"จานอยู่โน้น! หม้อข้าวอยู่โน้น! ทัพพีก็อยู่โน้น!"  เคนเน้นทีละประโยคอย่างชัดเจนก่อนจะหันมาทางไจ่ไจ๋

"ลงมือได้เลยไจ่ไจ๋ อะ.....พี่รู้ว่าอันนี้ของโปรดนาย....."  ว่าแล้วก็ตักกับข้าวใส่จานให้น้องชาย

"ฮึ! ดูฤทธิ์มันนะ"  แวนเนสหันไปยักคิ้วกับเจอร์รี่ก่อนจะลุกขึ้นไปตักข้าวให้ตัวเองและพี่ชาย

"เอ่อ....ขอบคุณครับ แต่ว่ารอกินพร้อมกันดีกว่านะครับ"  ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับมองไปทางแวนเนสที่ยืนตักข้าวอยู่

"ชักช้าอยู่ได้! จะให้น้องหิวตายหรืองัย?"  เคนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงห้วนๆ

"น้องคนไหนจะหิวตายไม่ทราบครับ?"  แวนเนสย้อนถามอย่างยียวน

"ไอ้....."  เคนชี้หน้าจะด่าแวนเนสแต่พี่ใหญ่เอามือเคาะที่โต๊ะเป็นการเตือน

"ฝากไว้ก่อนเถอะ!"  เคนจึงได้แต่พึมพำเบาๆ           

"เสี้ยวเทียน! กินข้าวเสร็จแล้วขึ้นไปรอพี่ที่ดาดฟ้า!"  เจอร์รี่ประกาศเสียงเข้มเมื่อเห็นว่าน้องชายยังทำท่าชวนทะเลาะให้ได้ แวนเนสได้ยินเช่นนั้นก็รีบทำตัวสงบเสงี่ยมเพราะกลัวจะโดนแบบน้องด้วย

"อะ....ข้าวได้แล้ว....."  แวนเนสวางจานข้าวลงตรงหน้าพี่ชายพร้อมกับพูดด้วยสีหน้าซื่อๆเหมือนตัวเองไม่ได้มีส่วนทำอะไรเลย

"นายก็ระวังตัวไว้เถอะ!"  พี่ใหญ่ชี้หน้าแวนเนสเป็นการคาดโทษ แวนเนสจึงได้แต่ยิ้มแหยๆ

"บนดาดฟ้ามีอะไรหรอ?"  ไจ่ไจ๋ถามแวนเนสเบาๆเพราะสงสัยว่าทำไมคำขู่แค่นั้นถึงทำให้เคนเงียบกริบได้ทันที 

"มีสิ่งที่จะทำให้คนที่ถูกเรียกขึ้นไปเดินสะอื้นกลับลงมาได้"  แวนเนสตอบพร้อมกับยักคิ้วให้น้องเล็กก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง  

"โอโห! กับข้าวน่ากินทั้งนั้นเลย"  ไจ่ไจ๋มองชายหนุ่มทั้งสามคนยิ้มๆ เขารู้สึกอบอุ่นกับการปฏิบัติต่อกันของสามพี่น้อง

"อร่อยมั๊ยไจ่ไจ๋?"  เคนถามน้องชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

"อร่อยมากเลยครับ!"  ไจ่ไจ๋เอ่ยชมอย่างจริงใจ

"สมแล้วที่คุณเป็นเชฟ พวกคุณสองคนนี่โชคดีจังได้กินแต่ของอร่อยๆทุกวันเลย"  ไจ่ไจ๋ชมเคนก่อนจะหันไปพูดกับเจอร์รี่และแวนเนสด้วย

"โชคดีที่มีของร่อยกินแต่โชคร้ายที่ต้องโดนมันสับโขกอย่างที่นายเห็นน่ะสิ"  แวนเนสลอยหน้าลอยตาพูด

"ทีอย่างนี้ไม่ว่ามันบ้างหละ? ทีกับชั้นพูดอะไรนิดหน่อยก็หาเรื่องจะลงมือกับชั้นเรื่อยเลย!"  เคนหันไปพาลใส่พี่ใหญ่

"แหนะ! อย่ามางอแงกับพี่นะ! เรานั่นแหละที่ป่วนคนอื่นเขาไปทั่วใครพูดอะไรไม่ถูกใจนิดหน่อยก็โวยวายใส่"  เจอร์รี่ต่อว่าเจ้าน้องชายตัวดีกลับไป

"คุณเสี้ยวเทียนครับ อันนี้ทำยังงัยหรอ? ผมว่ารสชาติมันต่างจากที่อื่นนะ"  ไจ่ไจ๋เห็นว่าเคนค่อนข้างหงุดหงิดจึงถามทะลุกลางปล้องขึ้นมา

"ไหน? อ๋อ! อันนี้ไม่ยากหรอก"  เคนหันกลับมาสนใจน้องชายแล้วเริ่มอธิบาย

"ก็ตอนหมักเนื้อไก่ก็แค่บีบเลมอนใส่ลงไปหน่อย แค่นี้มันก็จะมีกลิ่นเลมอนและรสเปรี้ยวแซมนิดหน่อยทำให้กินแล้วไม่ค่อยเลี่ยนเหมือนไก่ทอดทั่วๆไป"  เคนอธิบาย

"แต่นายอาจไม่ค่อยชอบเพราะนายชอบแบบใส่พริกไทยเยอะๆนี่นา"  พูดต่ออย่างรู้ใจน้องชาย

"ก็ชอบแหละครับถึงได้ถามงัยว่าทำยังงัย"  ไจ่ไจ๋ตอบก่อนจะเหลือบมองแวนเนสที่ยกนิ้วโป้งให้

"งั้นก็ต้องกินให้เยอะๆ มื้อนี้พี่เลือกทำแต่ของโปรดนายทั้งนั้นเลย"  ว่าแล้วเคนก็ตักโน้นตักนี่ให้น้องชายอย่างใส่ใจโดยไม่สนใจคนร่วมโต๊ะอีกสองคนเลยแม้แต่นิดเดียว




 

Create Date : 17 มิถุนายน 2557    
Last Update : 13 กรกฎาคม 2557 12:01:13 น.
Counter : 982 Pageviews.  

Chapter 72

  ตอนที่ 72


"เสี้ยวเทียน....ถึงแล้ว...."  เมื่อถึงที่หมายแล้วพี่ใหญ่ก็หันไปเรียกน้องชายคนกลางที่ยังคงนอนหลับอยู่

"สงสัยยานอนหลับของนายออกฤทธิ์อีกแล้วมั้ง?"  แวนเนสพูดติดตลก

"จะบ้าหรอ! กินไปตั้งแต่เมื่อวานยังจะมาออกฤทธิ์อีกหรืองัย"  เจอร์รี่แหวใส่น้องชายก่อนจะเปิดประตูลงจากรถแล้วไปเปิดประตูด้านหลังเพื่อปลุกน้องชายอีกครั้ง

"เสี้ยวเทียน"  เขย่าตัวพร้อมกับร้องเรียก เคนนิ่วหน้าก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นมา 

"งัยหละ? ทีนี้หลับยาวเชียวนะ"  แวนเนสเอ่ยปากพูดกับน้องแต่เคนทำหน้ามุ่ยใส่พี่ชายไม่ยอมตอบว่าอะไร พี่ใหญ่อมยิ้มเล็กน้องเพราะรู้ว่าเคนยังงอนที่โดนแวนเนสดุ

"เฮอะ! พูดด้วยก็ไม่ยอมพูดด้วย จริงๆเลยไอ้นี่"  แวนเนสบ่นก่อนจะดับเครื่องแล้วเปิดประตูรถลงไปยืนบิดขี้เกียจ

"ไปเร็ว....ลงไปเที่ยวกัน"  เจอร์รี่ชวนน้องชาย

"ชั้นไม่ได้อยากเที่ยวซักหน่อย"  เคนตอกกลับแต่เมื่อหันไปเห็นท้องทะเลก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที

"ทะเลนี่น่า!"  ว่าแล้วก็รีบลงจากรถวิ่งไปทางชาดหาดทันที 

"อ้าว! เปลี่ยนอารมณ์เร็วอะไรแบบนี้วะ"  เจอร์รี่ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับต่อว่าเจ้าน้องชายตัวแสบด้วย

"ตามไปเถอะว่ะ เดี๋ยวมันวิ่งลงทะเลทั้งชุดนั้นแล้วจะยุ่ง"  แวนเนสว่าแล้วก็ชวนพี่ชายเดินตามเคนไปด้วย

"นี่ๆๆๆ.....เล่นอยู่แถวนี้พอห้ามลงน้ำนะ"  พี่ใหญ่ดึงตัวน้องชายที่ทำท่าจะเดินลงไปในน้ำทะเล เคนได้ยินก็ทำหน้ามุ่ยใส่

"งั้นทำไม....."  เคนอ้าปากจะพูดตอบโต้พี่ชายแต่ก็ต้องเงียบเสียงลงเมื่อแวนเนสพูดแทรกขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง

"ห้ามลงน้ำเพราะไม่มีชุดเปลี่ยนฟังเข้าใจมั๊ย?"  เจอร์รี่แอบยิ้มอย่างสะใจที่แวนเนสปราบเคนได้อยู่หมัด

"พูดคำเดียวให้รู้เรื่องนะ!"  เมื่อเห็นน้องไม่กล้าแวนเนสจึงได้โอกาสข่มน้องต่อ เคนไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่นั่งคุกเข่าตรงนั้นแล้วเอามือกอบทรายเล่น

"หึๆๆๆ"  เจอร์รี่หัวเราะเจ้าน้องชายตัวแสบก่อนจะนั่งยองๆลงข้างน้องบ้าง

"โตป่านนี้แล้วยังเล่นก่อกองทรายอีกหรอ?"  พูดแซวน้องยิ้ม เคนไม่ตอบแต่ยังคงเล่นทรายต่อ เขานึกไปถึงตอนที่น้องเล็กกับเขาไปเที่ยวทะเลกันสองคน เมื่อคิดเช่นนี้แล้วสีหน้าของเคนก็เศร้าลงอีก

"พี่ใหญ่ช่วยแล้วกัน อยากจะทำเป็นรูปอะไรหละ?"  ถามน้องต่ออีก แต่เคนก็ยังคงส่ายหน้า

"ชั้นช่วยด้วยคน"  เมื่อดูท่าว่าน้องจะดูหงอยๆแวนเนสก็เปลี่ยนท่าทีโดยเร็ว แต่เคนก็ยังคงทำไม่สนใจ

"สร้างฐานทัพกันดีมั๊ย? แล้วเดี๋ยวเราหาก้อนหินมาปาถ้าของใครพังเร็วคนนั้นแพ้"  แวนเนสพูดง้อน้องชายต่ออีก แต่กลับโดนน้องชายเอาทรายปาใส่

"เฮ้ย!!!"  แวนเนสรีบลุกขึ้นยืนเอามือขยี้ตาทันที

"เสี้ยวเทียน! ทำไมทำพี่รองแบบนั้น!"  พี่ใหญ่ดุเคนก่อนจะลุกขึ้นมาดูแวนเนส

"เป็นยังงัยบ้าง? อย่าขยี้ตาสิ"  ดึงมือน้องชายออกเพื่อดูว่าน้องเจ็บหรือเปล่า

"ถ้าตาบอดไปทำงัย! เล่นบ้าอะไรวะ!"  แวนเนสแหวใส่น้องชาย น้ำตาไหลพรากเพราะทรายเข้าตา

"เสี้ยวเทียน!....."  เจอร์รี่หันมาทำท่าจะเล่นงานน้องชายจอมเกเรก็ถูกน้องชายตัวแสบโผเข้ากอด

"ไปกินอาหารทะเลร้านนั้นกันนะพี่ใหญ่"  โดนลูกอ้อนเช่นนี้เข้าไปเล่นเอาเจอร์รี่ถึงกับไม่กล้าดุต่อ เขาลอบถอนหายใจก่อนจะบีบจมูกน้องอย่างหมั่นไส้

"ไอ้ตัวแสบ!"  กัดฟันต่อว่าน้องชายเบาๆ 

"ไป....กินก็กิน....หิวแล้วสิเราน่ะ"  แวนเนสยืนอ้าปากค้างที่พี่ชายไม่ยอมต่อว่าอะไรน้องเลยซักคำซ้ำยังเอาอกเอาใจอีกต่างหาก

"เฮ้ย!! มันทำชั้นเกือบตาบอดนะยังจะไปโอ๋มันอีก!"  แวนเนสประท้วงขึ้นมาทันที

"น้องมันหิว ให้มันกินก่อน"  เจอร์รี่ตอบหน้าตาเฉย

"นายนั่นแหละจะทำมันเสียนิสัย! แทนที่จะชำระความกับมันก่อนกลับไปโอ๋มันอย่างไม่มีเหตุผล! แบบนี้ชั้นไม่ยอมด้วย!"  แวนเนสวีนใส่พี่ชายขึ้นมาบ้าง

"ไม่ยอมก็ไปรอที่รถเลยไปหรืออยากจะกลับบ้านก่อนก็เชิญ น้องมันกินไม่ได้นอนไม่หลับมาตั้งหลายวันพอมันร้องจะกินข้าวแล้วยังจะไม่ให้มันกินอีกหรืองัย!?"  พี่ใหญ่ไม่เข้าข้างซ้ำยังเอ็ดใส่อีกต่างหากเล่นเอาแวนเนสพูดอะไรไม่ออก

"จะไปไม่ไป?"  ถามย้ำน้องชายอีกครั้ง แวนเนสค้อนใส่แต่ไม่ตอบว่าอะไร

"ก็แค่นี้แหละต้องทำให้เป็นเรื่อง"  เจอร์รี่บ่นแล้วกอดคอน้องชายคนกลางเดินไปที่ร้านขายอาหารทะเลโดยมีแวนเนสเดินตามไปอย่างกระฟัดกระเฟียด

"ไหน....อยากกินอะไรบ้าง?"  เจอร์รี่กางเมนูแล้วขยับตัวเข้าไปใกล้เคนพร้อมกับเอ่ยถาม แวนเนสมองพี่น้องทั้งคู่ด้วยสีหน้ามุ่ยๆ

"เอาปลาเผา กุ้งเผา เอาปูด้วย"  เคนตอบพร้อมกับชี้ไปที่เมนูอาหาร

"ได้....แล้วปลาหมึกย่างเอามั๊ย?"  ถามน้องชายต่ออีก ซึ่งเคนก็พยักหน้า

"นายหละ?"  เจอร์รี่ยังมีแก่ใจหันไปถามแวนเนสด้วย

"ชั้นเอา...."  เมื่อพี่ชายถามแวนเนสก็มีท่าทีดีใจก่อนจะเปิดปากพูดแต่เคนก็พูดแทรกกับพนักงานที่เดินมารับรายการอาหารเสียก่อน

"เอาปลาเผาตัวนึง กุ้งเผาหนึ่งกิโล ปูเผาสามตัว แล้วก็ปลาหมึกย่าง ต้มยำรวมมิตรทะเล เอ็นหอยผัดฉ่า"  เคนสั่งรายการอาหารเสียยืดยาว

"รับข้าวมั๊ยคะ?"  พนักงานถามกลับมา

"เอาข้าวโถนึง"  เคนตอบ

"แล้วเครื่องดื่มหละคะ?"  ถามต่ออีก

"เอา....."  เคนยังไม่ทันตอบเจอร์รี่ก็ชิงตอบแทนขึ้นมาก่อน

"น้ำเปล่าครับ"  คำตอบนั้นทำให้เคนให้ไปมองหน้าพี่ชายเพราะไม่อยากกินน้ำเปล่า

"ตกลงนายเอาอะไร?"  เจอร์รี่ไม่สนใจสายตาของเคนที่มองมาแต่กลับหันไปถามแวนเนสแทน

"ชั้นเอา....."  แวนเนสทำท่าจะตอบแต่เคนก็พูดแทรกขึ้นมาอีก  

"ขอป่อเปี๊ยะทอดอีกที่นึง"  พนักงานจดรายการอาหารตามนั้น

"ผม....."  แวนเนสอ้าปากจะสั่งแต่เคนก็แทรกขึ้นมาอีกจนได้

"พอแค่นี้ก่อนครับ เดี๋ยวกินไม่หมด"  คำพูดของเคนทำให้พนักงานถึงกับอมยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับ

"ได้ค่ะ รอซักครู่นะคะ"  พูดจบก็หมุนตัวเดินออกไป

"นายดูมันนะ! ดูว่ามันร้ายกาจแค่ไหน!"  เมื่อพนักงานเดินออกไปแล้วแวนเนสก็เอ่ยปากฟ้องพี่ชายทันที เจอร์รี่เองก็นึกขำเพราะรู้ว่าเคนกำลังแก้แค้นที่โดนแวนเนสดุวันนี้

"เจอร์รี่! ร้านนี้บรรยากาศดีนะ เสียดายที่น้องไม่ได้มาด้วย"  เคนไม่สนใจแวนเนสที่เปิดปากฟ้องพี่ชายฉอดๆ

"หึๆๆๆ"  พี่ใหญ่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาแต่ก็ยักคิ้วให้แวนเนส

"วันหลังเราค่อยพาน้องมาก็ได้"  หันไปพูดตอบเคนโดยมีแวนเนสที่เงื้อมือขึ้นทำท่าจะทุบหัวเจ้าน้องชายตัวแสบซักที

"นี่....เมื่อกี้พี่ยังไม่ได้สะสางเรื่องที่เราทำเกเรกับพี่รองเลยนะ"  เมื่อได้ยินพี่ชายพูดเช่นนี้เคนก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ในขณะที่แวนเนสทำหน้าสะใจที่พี่ชายจะแก้แค้นคืนให้

"อาทิตย์หน้าพาน้องมาอีกครั้งนะ"  เคนยังแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ชวนพี่ชายคนโตคุยต่ออีก

"เสี้ยวเทียน ไม่ต้องมาออกนอกเรื่องเลย เดี๋ยวเราต้องโดนพี่ใหญ่ตี"  เจอร์รี่แกล้งทำเสียงดุ

"ใช่! ตีให้มันเจ็บๆเลย! มันหาเรื่องชั้นแถมยังแกล้งชั้นอีกด้วย"  แวนเนสพูดยุยง

"นายก็หุบปากเหมือนกัน พี่พูดกับน้องอยู่"  เอ็ดใส่แวนเนสเข้าให้ด้วย เคนแอบมองพี่ชายคนรองพร้อมกับยิ้มที่มุมปากอย่างสะใจที่แวนเนสโดนพี่ชายดุ

"ที่เราปาทรายใส่พี่รองเมื่อกี้มันผิดรู้มั๊ย?"  ปรับสีหน้าให้ดูจริงจังขึ้น 

"ไม่รู้"  เคนตีหน้าซื่อส่ายหัวตอบพี่ชาย 

"นี่งัย! เห็นหรือยังว่ามันกวนเบื้องล่างขนาดไหน ซัดมันให้ซักสองสามเปรี้ยงเถอะ"  แวนเนสอดที่จะพูดแทรกขึ้นมาไม่ได้

"เดี๋ยวนายนั่นแหละจะโดน ชอบพูดแทรกคนอื่นจริงเชียว!"  เอ็ดใส่แวนเนสอีก

"ก็มัน....."  แวนเนสชี้หน้าน้องชายแต่พูดอะไรไม่ออก

"ฮัดเช้ย! ฮัดเช้ย!"  เคนจามออกมาติดกันเพราะรู้สึกคันจมูก

"อ้าว....นั่งตากลมหน่อยเดียวหวัดจะมาเยือนซะแล้ว มาเปลี่ยนที่กับพี่ใหญ่เลย"  เมื่อเห็นดังนั้นเจอร์รี่จึงบอกให้น้องเปลี่ยนที่กับตัวเองเพราะน้องนั่งติดริมด้านในโดยมีลมทะเลพัดมาอยู่ตลอด

"อ้าวเฮ้ย! เรื่องเมื่อกี้ยังไม่จัดการไม่เสร็จเลยมาโอ๋มันอีกแล้ว"  แวนเนสเอ่ยปากประท้วงขึ้นมาอีก

"ยังไม่เสร็จตรงไหนอีก?"  เจอร์รี่ย้อนถามแวนเนสหลังจากที่เปลี่ยนที่กับเคนเรียบร้อยแล้ว

"ก็เมื่อกี้นายบอกจะตีมันที่มันปาทรายเข้าตาชั้นนี่"  แวนเนสพูดเตือนความจำ

"ตีมันได้ยังงัย? ก็น้องมันบอกว่ามันไม่รู้ว่าที่ทำน่ะมันผิด"  พี่ใหญ่พูดแก้ตัวแทนน้องหน้าตาเฉย ทำให้เคนถึงกับยิ้มร่า

"หา??"  แวนเนสอุทานออกมาอย่างงงงวย

"เออ! เข้าข้างมันเข้าไปสิ มันจะเสียคนก็เพราะนายเนี่ยแหละ!"  แวนเนสพูดอะไรไม่ออกจึงต่อว่าพี่ชายซะเลย

"คอยดูนะถ้าไจ่ไจ๋ความจำกลับคืนมาได้เมื่อไหร่ ชั้นจะไม่ยอมไปไหนกับพวกนายสองคนอีกเลย!"  พูดขู่พี่น้องด้วยสีหน้างอนๆ แต่เจอร์รี่กับเคนไม่ได้กลัวคำขู่นั้นซ้ำยังหันไปหัวเราะกันอีกด้วย

"ชั้นพูดจริงนะ! เย็นนี้จะไปค้างกับไจ่ไจ๋ด้วย!"  แวนเนสพูดต่อด้วยสีหน้ากระเง้ากระงอด

"โอ๋....ทำเป็นงอนไปได้....."  เจอร์รี่เอื้อมมือไปผลักหัวน้องชายเบาๆ 

"ไม่ต้องมายุ่งเลย!"  แวนเนสว่าแล้วก็นั่งกอดอกแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

"พี่รองงอนแล้ว"  พี่ใหญ่พูดกับเคนโดยไม่ออกเสียง

"ช่างมัน"  เคนตอบอย่างไม่แยแส

"แหนะ! อยากโดนพี่ใหญ่ตีจริงๆหรืองัย?"  พูดขู่น้องเบาๆ เคนทำหน้ามุ่ยใส่พี่ชาย

"ขอโทษพี่รองซะ วันนี้เราเกเรกับพี่เขามากนะ"  พูดเป็นเชิงบังคับให้เคนขอโทษ

"ขอโทษก็ได้"  เคนเอ่ยขึ้นมาลอยๆ

"พูดดีๆ"  พี่ใหญ่เตือนน้องชายอีกครั้ง

"ขอโทษ!"  เคนพูดอย่างเสียไม่ได้

"แวนเนส น้องขอโทษน่ะ"  เมื่อเห็นว่าแวนเนสยังทำฟอร์มไม่สนใจจึงพูดเจาะจงกับน้องชายคนรองด้วย

"ไม่ได้ยิน"  แวนเนสได้ทีแกล้งน้องชายกลับไปอีก

"พูดดังๆให้พี่รองได้ยิน"  หันมาสั่งเคนอีกครั้ง

"เดี๋ยวนี้!"  เมื่อเห็นน้องทำท่าอิดออดก็ทำเสียงเข้มขึ้นตามลำดับ

"ขอโทษ!!"  เคนพูดเสียงดังฟังชัด

"ขอโทษมดหรอ? เหยียบจนมันตายแล้วค่อยขอโทษแบบนี้มันจะได้อะไรขึ้นมา?"  แวนเนสแกล้งย้อนน้องชายกลับไป

"นี่! น้องขอโทษแล้วยังจะกวนมันอีกนะ!"  ทำตาขวางใส่แวนเนส

"จะไปรู้หรอ? อยู่ดีๆก็พูดขอโทษ ระบุชื่อก็เปล่าชั้นก็เข้าใจไปตามนั้นสิ"  แวนเนสลอยหน้าลอยตาพูด เคนหมั่นไส้แวนเนสจึงเอื้อมมือจะคว้าแก้วน้ำของตัวเองขึ้นมาแต่เจอร์รี่รู้ทันความคิดน้องจึงคว้าแก้วนั้นตัดหน้าไปวางที่ฝั่งของตัวเอง

"โอ้ย!"  เคนร้องออกมาพร้อมกับสะบัดมือไปด้วยเพราะโดนพี่ชายตีมือ

"ทำไมเราถึงเกเรแบบนี้?"  เจอร์รี่ดุน้องชายจริงจัง เคนเริ่มหน้ามุ่ยแต่ไม่กล้าเถียง

"ฮ่าๆๆ!!!"  แวนเนสหัวเราะเยาะน้องแบบไม่ปิดบังทำให้เจอร์รี่เปลี่ยนสายตาไปทางแวนเนส

"เอ่อ....แหะๆๆๆ....."  แวนเนสเกาหัวแกรกๆพร้อมกับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

"เดี๋ยวจะโดนด้วยอีกคน! พอกันทั้งพี่ทั้งน้อง! แหย่กันไปแหย่กันมาอยู่ได้!"  พี่ใหญ่เลยดุน้องทั้งสองคน

"ทำตัวเป็นเด็กๆ"  ว่าแล้วก็ถอนหายใจดังเฮือกก่อนจะส่ายหน้าไปมา ในตอนนั้นพนักงานก็เอาอาหารมาเสริฟพอดี แวนเนสจึงถือโอกาสสงบศึกกับน้องชายด้วยการพูดง้อ

"กินกุ้งนะเสี้ยวเทียนเดี๋ยวชั้นแกะให้"  ว่าแล้วก็หยิบกุ้งขึ้นมาแกะให้น้องชาย เคนเบ้ปากใส่พี่ชายเล็กน้อยแต่ไม่ตอบว่าอะไร

"ไม่อยากกินใช่มั๊ย?"  เมื่อเห็นเจ้าน้องชายตัวแสบทำหน้าทำตาใส่แวนเนส เจอร์รี่ก็ถามขัดคอน้องชายขึ้นมา

"อยากสิ! ถ้าไม่อยากกินแล้วจะสั่งมาทำไมหละ?"  เคนว่าแล้วก็รับกุ้งตัวที่แวนเนสแกะให้มาจิ้มน้ำจิ้มแล้วเอาเข้าปากทันที

"ปากเก่งนักนะ!"  พี่ใหญ่เอามือทุบหัวน้องเบาๆก่อนจะส่ายหน้าไปมาอีกครั้ง 

- ที่ชายหาด -

"เฮ่อ!"  เสียงถอนหายใจของน้องชายที่นั่งอยู่ตรงกลางทำให้เจอร์รี่และแวนเนสหันมาทางต้นเสียงพร้อมกัน

"เป็นอะไร?"  พี่ใหญ่เป็นคนเอ่ยถามน้องขึ้นมา หลังจากกินข้าวกันเสร็จแล้วสามคนพี่น้องก็พากันมานั่งรับลมอยู่ที่ชายหาดซึ่งสถานที่นี้ไม่ค่อยมีคนมากนัก

"เปล่า.....แต่พอเห็นทะเลแล้วชั้นถึงงานของชั้นน่ะ"  เคนตอบแล้วเอาหัวพิงที่ไหล่ของพี่ชายคนโต

"ไม่ได้ชอบหยุดพักผ่อนอยู่บ้านแบบนี้หรอกหรอ?"  แวนเนสแซวน้องชายขึ้นมา

"พักผ่อนบ้าอะไร? ชั้นกลับมาบ้านแต่ละทีมีเรื่องให้ปวดหัวยิ่งกว่าเวลาทำงานอีก"  เคนสวนกลับพี่ชายทันควัน

"แล้วใครเป็นคนก่อเรื่องปวดหัวขึ้นมาไม่ทราบครับคุณน้องชายที่รัก?"  เจอร์รี่ย้อนถามเป็นเชิงประชดพร้อมกับบีบจมูกน้องเบาๆ

"ใช่.....ชั้นมันตัวปัญหานี่นา ไปถึงไหนก็มีแต่เรื่องยุ่งทั้งนั้น"  เคนเงยหน้าขึ้นมาพูดประชดพี่ชาย

"ทำไมชอบพูดจาประชดประชันพี่ใหญ่แบบนี้นะ เราน่ะทำตัวไม่น่ารักเลย"  ต่อว่าน้องชายเข้าให้

"ไม่เป็นไรเสี้ยวเทียน ถึงพี่ใหญ่จะว่านายไม่น่ารักแต่สำหรับชั้นแล้วนายน่ารักเสมอนะ"  แวนเนสรีบพูดยอน้องชายขึ้นมาก่อน

"นายห้ามมาว่าน้องชายของชั้นนะ ถึงมันจะดื้อไปหน่อย เกเรไปนิด แต่น้องชั้นมันก็น่ารักนะโว้ย"  หันไปพูดประโยคนี้กับพี่ชายยิ้มๆ 

"เออๆๆๆ.....ตามสบายเลย เวลามันแผลงฤทธิ์อย่ามาทำตาละห้อยให้ชั้นจัดการให้แล้วกัน"  เจอร์รี่เองก็พูดโต้ตอบน้องชายแบบขำๆเช่นกัน

"ไม่หรอก เรื่องนี้ชั้นจัดการเองได้"  แวนเนสว่าแล้วก็ขยี้หัวน้องชายอย่างหมั่นไส้

"ไม่ต้องมายุ่งเลย!"  เคนตวัดเสียงพร้อมกับค้อนใส่พี่ชาย

"อ้าวนี่! ชั้นเข้าข้างนายนะ"  แวนเนสแย้งขึ้นมา

"เข้าข้างบ้าอะไร!? วันนี้นายด่าชั้นตั้งหลายครั้ง"  เคนเถียงกลับไปอีก

"ก็นายทำตัวให้น่าด่ามั๊ยหละ? ทั้งเกเรทั้งงอแง"  แวนเนสเถียงน้องชายด้วยเช่นกัน

"ก็ไหนบอกว่าเข้าข้างชั้นงัย? คนที่เข้าข้างกันเขาไม่ด่ากันหรอก!"  การโต้เถียงของน้องชายทั้งสองคนทำให้เจอร์รี่ได้แต่หัวเราะ

"ขำอะไร!?"  น้องชายทั้งสองคนแหวใส่พี่ชายพร้อมกัน

"ขำเด็กสองคนทะเลาะกัน"  เจอร์รี่ตอบทั้งที่ตัวเองยังไม่หยุดหัวเราะ

"น้องชายสุดที่รักของนายนั่นแหละทำตัวเกเร สั่งสอนมันซะหน่อยสิ เล่นเถียงชั้นฉอดๆเนี่ย"  แวนเนสหันฟ้องพี่ชายคนโตทันที

"อ้าว....เมื่อกี้เพิ่งบอกห้ามไม่ให้ชั้นแตะต้องน้องรักของนายอยู่แหมมๆ ไหงกลับลำเร็วแบบนี้หละ?"  พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับส่ายหน้ายิ้มๆ

"ไม่อยากเถียงด้วยแล้ว ไปดีกว่า"  เคนว่าแล้วก็ลุกขึ้นพร้อมกับปัดทรายที่ติดมือออก

"จะไปไหน?"  เจอร์รี่ถามน้องชายแต่ก็ขยับตัวลุกขึ้นด้วย

"กลับบ้าน!"  พูดจบก็หมุนตัวเดินไปที่รถ 

"ดูมันนะเอาแต่ใจขนาดไหน มันน่าตีนัก!"  แวนเนสบ่นพร้อมกับมองตามน้องชาย

"หึๆๆๆ...."  เจอร์รี่หัวเราะเบาๆก่อนจะวาดแขนออกไปกอดคอแวนเนส

"ไปกันเถอะ เดี๋ยวมันเปลี่ยนใจไม่อยากกลับบ้านแล้วจะยุ่ง"  พูดจบก็พาแวนเนสเดินตามน้องชายคนกลางไป

"นายไปนั่งข้างหน้าเลย ชั้นจะนั่งคนเดียว"  เคนพูดดักพี่ชายคนโตที่ทำท่าจะขึ้นมานั่งข้างหลังกับเขา

"ใหญ่เหลือเกินนะเรา! สั่งคนโน้นคนนี้อยู่ได้"  เจอร์รี่ต่อว่าน้องแต่ก็ยอมทำตามความต้องการนั้น

"นายขับดีกว่า ชั้นง่วง"  แวนเนสพูดแทรกขึ้นอีกครั้งก่อนที่พี่ใหญ่จะทันก้าวขาขึ้นรถ

"เฮ่อ! พวกนายนี่นะไม่เคยอำนวยความสะดวกให้ชั้นบ้างเลย"  บ่นอุบอิบแต่ก็เดินอ้อมมารับกุญแจรถจากแวนเนสมาแล้วขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับรถ

"ก่อนกลับไปซื้อพวกอาหารทะเลตากแห้งก่อนนะ แล้วเดี๋ยวแวะเอาเข้าไปให้ไจ่ไจ๋ด้วย เผื่อน้องหิวจะได้ทอดกินได้ ดีกว่ากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นไหนๆ"  เคนออกคำสั่งกับพี่ใหญ่อีก

"เฮ่อ! นายนี่วุ่นวายไม่เข้าเรื่อง ชั้นบอกแล้วงัยว่าปล่อยให้น้องได้มีอิสระบ้าง บางทีสมองโล่งๆความจำอาจจะกลับมาก็ได้"  เจอร์รี่บ่นน้องต่อ

"นายไม่ห่วงน้องหรืองัย? น้องมันเคยใช้ชีวิตอยู่คนเดียวนานๆซะเมื่อไหร่?"  เคนเถียงพี่ชายกลับ เจอร์รี่ถอนหายใจอย่างยอมจำนนไม่ต่อล้อต่อเถียงกับน้องอีก

"เดี๋ยวคิดก่อนว่าจะซื้ออะไรดี"  เคนพึมพำต่ออยู่คนเดียวก่อนจะครุ่นคิดซื้อข้าวของไปให้น้องเล็ก

"เอาปลาหมึกตากแห้ง ปลาเค็ม ปลาตากแห้ง แล้วก็พวกปลาหมึกทรงเครื่อง กุ้งแห้ง เอ.....อะไรอีกดีหว่า?"  เคนนั่งพูดอยู่คนเดียวในขณะที่แวนเนสสะกิดให้พี่ชายดูเจ้าน้องชายตัวดีที่นั่งคิดห่วงแทนน้องเล็กทุกเรื่อง

"นี่ๆๆๆ เดี๋ยวแวะห้างด้วยดีกว่า ชั้นว่าซื้อพวกนมกับธัญญหารสำเร็จรูปทิ้งไว้ให้น้องก็ดี มีประโยชน์แล้วก็ทำกินง่ายอีกต่างหาก"  แล้วเคนก็นึกออกจึงสั่งพี่ชายต่อไป

"ตกลงเราไม่ได้ฟังในสิ่งที่พี่ใหญ่พูดเลยใช่มั๊ย?"  เจอร์รี่พูดเป็นเชิงต่อว่าน้องชาย

"พูดอะไร? ไม่รู้เรื่อง"  เคนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

"ไม่มีการแวะที่ไหนทั้งนั้น กลับบ้านก็คือกลับบ้าน"  เมื่อพี่ชายยืนกรานดังนี้เคนก็เริ่มหน้ามุ่ย

"งั้นจอดรถเลย ชั้นไปเองก็ได้"  พูดเสียงแข็งกับพี่ชาย

"อวดเก่ง! กระเป๋าเงินได้เอาติดตัวมาหรือเปล่า?"  แวนเนสพูดแทรกขึ้นมา เคนได้ยินก็อึ้งไปนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ได้หยิบกระเป๋าเงินติดตัวมาด้วยเพราะนึกว่าจะไปหาน้องเล็กเท่านั้น

"จะลงใช่มั๊ย? ชั้นจะได้จอดรถข้างหน้าให้"  พี่ใหญ่ได้ทีซ้ำเติมน้อง 

"ก็จอดสิ! ถึงไม่มีเงินชั้นก็มีปัญญาหาทางกลับเองได้!"  เคนเริ่มทำตัวดื้อแพ่งกับพี่ชายอีก

"ได้!"  เจอร์รี่รู้สึกหมั่นไส้จึงจอดรถเอาจริงๆและเคนก็เปิดประตูลงจากรถไปจริงๆเช่นกัน

"อ้าวเฮ้ย!!"  แวนเนสอุทานเมื่อเห็นน้องชายเปิดประตูลงไปแล้วเดินดุ่มๆต่อไปโดยไม่ยอมเหลียวกลับมามองเลย

"นายจะบ้าหรอ!? รู้ๆอยู่ว่าไอ้นี่มันยุขึ้นยังจะประชดมันอีก!"  แวนเนสหันมาต่อว่าพี่ชายพร้อมกับชี้ไปทางร่างน้องชายที่ก้าวเดินฉับๆอย่างไม่สนใจใคร

"ปล่อยมัน! ดูสิจะอวดเก่งไปได้ซักแค่ไหน?"  เจอร์รี่พูดเสียงห้วนเพราะหงุดหงิดที่เคนชอบทำประชดเขา

"นายก็เกินไป ชั้นจะไปตามมันกลับมา"  แวนเนสว่าแล้วก็ทำท่าจะลงจากรถแต่โดนพี่ชายดึงแขนไว้

"ไม่ต้องตาม! ชั้นจะรอดูว่ามันจะไปยังงัยต่อ"  แวนเนสหันกลับมาทางพี่ชาย

"นี่นายจะแกล้งมันหรอ?"  ย้อนถามพี่ชายด้วยสีหน้าบอกไม่ถูก

"ถ้ามันมีปัญญาเดินกลับไปจนถึงบ้านได้ชั้นก็จะตามดูมันไปเรื่อยๆแบบนี้แหละ"  พูดจบเจอร์รี่ก็เคลื่อนรถออกไปช้าๆ 

"เฮ่อ! พอกันทั้งคู่"  แวนเนสบ่นแต่ก็ไม่ได้คัดค้านอะไรเพราะรู้ว่าเดี๋ยวน้องชายก็ต้องเหนื่อยจนไปต่อไม่ไหว แต่แล้วเขาก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นเคนเดินเลี้ยวเข้าไปในสถานีตำรวจ

"มันจะทำอะไร!?"  แวนเนสร้องขึ้นเสียงดัง เจอร์รี่เองก็หักรถเข้าจอดทันที 

"เฮ้ย!! ไอ้บ้านี่....."  แวนเนสอุทานขึ้นมาอีกเมื่อเห็นเคนเดินดุ่มๆเข้าไปในโรงพัก

"ไอ้เด็กบ้า!"  เจอร์รี่พึมพำก่อนจะเปิดประตูเดินตามน้องชายเข้าไป ทิ้งให้แวนเนสได้แต่นั่งงงอยู่คนเดียว

"เสี้ยวเทียน!!!"  เคนหันมามองพี่ชายก่อนจะทำหน้าอย่างผู้ชนะ

"เอ่อ....ตกลงคุณหลงทางจริงหรือเปล่าครับ? แล้วคุณคนนี้รู้จักกับคุณหรือเปล่า?"  ตำรวจหนุ่มถามอย่างงงๆ เพราะเมื่อเคนแจ้งว่าหลงทางมากลับบ้านไม่ได้เพราะกระเป๋าเงินหายอยากขอร้องให้เจ้าหน้าที่ช่วยพาเขากลับไปส่งแล้วเจอร์รี่ก็โผล่พรวดเข้ามา

"ขอโทษนะครับ เขาเป็นน้องชายผม"  เจอร์รี่บอกกล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วหันไปทำหน้าเข้มใส่น้อง

"เขานี่แหละครับที่ทิ้งผมลงข้างทาง"  เคนเอ่ยปากฟ้อง

"ไอ้....."  เจอร์รี่ชี้หน้าน้อง

"เดี๋ยวๆๆๆ.....คุณสองคนอย่างเพิ่งเถียงกัน ตกลงว่าพวกคุณเป็นพี่น้องกันจริงหรือเปล่า?"  ตำรวจนายนั้นถามต่อ

"ก็ใช่"  เคนตอบ

"ขอโทษนะครับ ที่นี่เรามีงานมากพออยู่แล้ว ถ้าคุณสองคนมีปัญหาภายในครอบครัวก็รบกวนเคลียร์กันให้จบตรงนี้ดีกว่า"  สองพี่น้องเหลือบตามองหน้ากันแว๊บหนึ่ง

"ขอโทษครับที่ผมดูแลน้องไม่ดี ผมจะพาน้องกลับเดี๋ยวนี้แหละครับ"  พูดจบก็คว้ามือน้องชายจับไว้แน่นเพราะกลัวน้องจะดื้อแพ่งขึ้นมาอีก

"งั้นก็เชิญครับ แล้วค่อยๆคุยกันดีๆอย่าใช้กำลังกันหละ"  ตำรวจหนุ่มรายนั้นพูดทิ้งท้ายก่อนจะส่ายหน้าไปมาแล้วขอตัวไปทำงานที่ค้างไว้ 

"มานี่เลย!"  เจอร์รี่ลากตัวน้องชายออกมาจากสถานีตำรวจ พอพ้นเขตโรงพักก็เงื้อมือขึ้นหมายจะฟาดเจ้าน้องชายจอมเกเรเสียให้เข็ดแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเคนพูดดักคอไว้ก่อน

"ตำรวจบอกว่าห้ามใช้กำลัง แถวนี้ใกล้คุกใกล้ตะรางนะจะบอกให้"  พี่ใหญ่พูดอะไรไม่ออก เคนยิ้มที่มุมปากก่อนจะเดินขึ้นไปนั่งบนรถอย่างสบายอารมณ์

"ไอ้แสบ! ไม่คิดว่ามันมากเกินไปหรืองัย?"  แวนเนสต่อว่าน้องชายทันที

"ไม่เห็นจะมีอะไรมากเกินไปเลย ตำรวจก็ต้องบริการประชาชนอยู่แล้ว"  เคนตอบพร้อมกับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เมื่อเห็นพี่ชายคนโตขึ้นมานั่งบนรถแบบกระแทกกระทั้น

"งัยหละพี่ชาย? เจอพิษของไอ้หมอนี่เข้าไปหน้างอเชียว"  เจอร์รี่ทำตาขวางใส่แวนเนสแต่ไม่พูดอะไรเพีงแต่สตาร์ทรถแล้วออกรถทันที

"อย่าลืมแวะซื้อของนะ"  เคนพูดแทรกเป็นเชิงสั่งพี่ชายกลายๆ พี่ใหญ่เม้มปากพร้อมกับมองเจ้าน้องชายตัวดีผ่านกระจกมองด้านหลังรถ

"แล้วแวะห้างต่อด้วย"  เมื่อประสานสายตากับพี่ชายเคนก็สั่งต่ออีก

"หึๆๆๆ"  แวนเนสแอบหัวเราะเบาๆที่พี่ชายคนโตไม่กล้าเถียงอะไรน้องอีกเลย เพราะรู้ดีว่าหากไม่ยอมตามใจเจ้าน้องชายตัวแสบคนนี้แล้วจะโดนแผลงฤทธิ์ใส่ขนาดไหน

"แวนเนส.....นายโทรบอกน้องด้วยว่าเดี๋ยวจะเข้าไปหา"  หันไปสั่งแวนเนสด้วยอีกคน

"คร้าบบบบ....คุณน้องชายสุดที่รัก"  แวนเนสรับคำแบบติดประชดเล็กน้อย

"ครับแล้วยังเฉยอีก"  เคนแหวใส่เมื่อเห็นพี่ชายไม่มีทีท่าว่าจะโทรหาน้องตามที่เขาบอก

"รอใกล้ๆก่อนสิโว้ย! โทรไปตอนนี้เดี๋ยวน้องก็รอแหงกพอดี"  แวนเนสตวัดเสียงพร้อมกับทำถลึงตาใส่น้องชาย เคนไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่นั่งมองข้างทางอย่างอารมณ์ดี

"นี่ๆๆๆ!!! จอดตรงข้างหน้านะ"  เมื่อผ่านไปได้ครู่หนึ่งเคนก็ร้องบอกพี่ชายคนโตเพราะข้างหน้ามีร้านขายพวกอาหารทะเลตากแห้งอยู่ เจอร์รี่บ่นอุบอิบแบบไม่ออกเสียงแต่ก็เลี้ยวรถเข้าไปจอดตามความต้องการของน้องชาย เมื่อรถจอดสนิทเคนก็ยื่นมือไปตรงช่องระหว่างเบาะรถในตอนหน้า พี่ใหญ่เห็นก็ตีมือน้องเข้าให้ด้วยความหมั่นไส้

"โอ้ย! ไม่ได้ให้ตี!"  เคนโวยวายพร้อมกับทำหน้ามุ่ยใส่

"จะไปรู้หรอ อยู่ดีๆก็ยื่นมือมา"  พี่ใหญ่แกล้งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้บ้าง เคนเบ้ปากใส่พี่ใหญ่ก่อนจะยื่นมือไปตรงหน้าแวนเนส

"ขอตังค์หน่อย จะไปซื้อของให้น้อง"  พี่ชายทั้งสองคนสบตากันแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

"นายบอกจะซื้อให้น้องเองไม่ใช่หรอ? เกี่ยวอะไรกับชั้นหละ?"  แวนเนสยังทำลีลาไม่ยอมให้

"นี่! ไม่ใช่น้องของชั้นคนเดียวซักหน่อย"  เคนตวัดเสียงใส่พี่ชาย

"แต่นายบอกว่าจะซื้อเองหนิ"  แวนเนสยังกวนน้องชายต่อ

"ก็ได้! ถึงไม่มีเงินชั้นก็มีปัญญาเอาของมาได้! คนเยอะออกจะตายของหายไปนิดหน่อยคนขายไม่ทันสังเกตหรอก!"  พูดจบก็เปิดประตูลงไปจากรถทันที

"เฮ้ย!!! ไอ้บ้านี่!!!"  เจอร์รี่กับแวนเนสร้องขึ้นพร้อมกันก่อนจะรีบตาลีตาเหลือกวิ่งตามน้องไปในทันที โดยไม่รู้เลยว่าเคนที่เดินลิ่วๆนำอยู่นั้นแอบยิ้มเพราะรู้ว่าพี่ชายต้องตามลงมาแน่

"มานี่!!!"  เมื่อเดินตามน้องทันแล้วพี่ใหญ่ก็คว้าตัวน้องไว้ก่อนจะประเคนฝ่ามือหนักๆลงที่ร่างน้อง เล่นเอาเคนสะดุ้งโหยงเพราะไม่ทันตั้งตัว

"โอ้ย! เจ็บนะ!"  เคนร้องออกมาเบาๆพร้อมกับทำหน้ามุ่ยใส่พี่ชาย 

"เดี๋ยวหาไม้ได้ก่อนจะเจ็บกว่านี้!"  พี่ใหญ่ชี้หน้าพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงดุๆ

"คิดจะทำอะไร? ใครสั่งใครสอนให้ทำอะไรบ้าๆแบบนี้!"  ดุน้องชายต่ออีก 

"คนที่เลี้ยงมานั่นแหละที่สอน"  เคนพูดเถียงเบาๆ

"เสี้ยวเทียน!!!"  พี่ใหญ่ทำเสียงเข้มขึ้นมากกว่าเดิม 

"แวนเนส.....ไปซื้อของกัน"  เคนรีบเข้าไปกอดแขนแวนเนสแล้วพาเดินห่างจากพี่ใหญ่ในทันทีเพราะขืนอยู่ที่เดิมเขาตายคาที่แน่

"ฤทธิ์มากเหลือเกินนะนายน่ะ"  แวนเนสต่อว่าน้องชายแต่ก็เดินตามแรงดึงของน้อง

"ก็มันชอบขัดใจชั้นหนิ ทำโน้นก็ไม่ได้ทำนี่ก็ไม่ได้"  เคนแก้ตัวพร้อมกับเหลียวไปมองพี่ใหญ่ที่เดินตามมาด้วยสีหน้าบึ้งตึง

"รู้ทั้งรู้ว่าเจอร์รี่มันเป็นคนยังงัยนายก็ชอบไปกวนโมโหมันอยู่เรื่อย คราวนี้ถ้าโดนมันตีชั้นไม่ช่วยเด็ดขาด"  แวนเนสต่อว่าน้องอีก

"เรื่องนั้นไว้ค่อยว่ากัน"  เคนว่าแล้วก็ชวนพี่ชายไปเลือกซื้อของให้น้องเล็กอย่างสบายอารมณ์




 

Create Date : 17 มิถุนายน 2557    
Last Update : 13 กรกฎาคม 2557 12:01:00 น.
Counter : 1018 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  
 
 

loving_zai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




[Add loving_zai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com