Chapter 73
ตอนที่ 73
"ปิ๊นๆๆๆ!!!" เสียงบีบแตรติดๆกันหลายครั้งนั้นทำให้ไจ่ไจ๋ต้องเหลียวไปทางต้นเสียง
"ไจ่ไจ๋!! มาทำอะไรแถวนี้!" เจอร์รี่ร้องเรียกน้องชายเพราะหลังจากที่ซื้อของกันเสร็จแล้วแวนเนสก็โทรหาน้องเล็กแต่โทรศัพท์กลับติดต่อไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจกลับมาบ้านก่อน
"อ้าว!" ไจ่ไจ๋รู้สึกดีใจอยู่ลึกๆที่เจอพี่น้องทั้งสามคน เพราะวันนี้เขาเองก็รู้สึกเหงาๆจึงนั่งรถเล่นมาเรื่อยๆแล้วสุดท้ายก็มาเดินเล่นอยู่ในซอยบ้านตัวเอง
"ขึ้นมาเร็วไจ่ไจ๋!" เคนรีบเปิดหน้าต่างแล้วร้องเรียกน้องชาย ไจ่ไจ๋ทำท่าลังเล
"เร็วๆสิ! เดี๋ยวมีรถตามมาเขาจะบีบแตรไล่เอา" เมื่อได้ยินดังนั้นไจ่ไจ๋จึงตัดสินใจเดินมาขึ้นรถ
"ไปเที่ยวไหนกันมาครับ?" เอ่ยถามตามมารยาทเพราะเขาเองก็ไม่รู้จะคุยอะไรดี
"ความจริงวันนี้พี่ตั้งใจจะไปหานายที่คอนโด ว่าจะซื้อกับข้าวไปทำทิ้งไว้ให้เพราะนายเองก็ไม่ถนัดเรื่องงานครัวอยู่แล้ว" เคนตอบอย่างกระตือรือร้นเพราะดีใจที่เจอน้องชาย
"แต่พี่ใหญ่กับพี่รองไม่ยอมพาไป ดันไปทะเลกันซะนี่" แล้วก็พูดต่อว่าพี่ชายทั้งสองคนอีก
"น่าสนุกจัง! ไปทะเลกันด้วย" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็รู้สึกอิจฉาพี่น้องทั้งสามคนที่ไปเที่ยวกันสนุกสนาน
"พี่ก็บอกให้ไปรับนายไปด้วยแต่ไอ้สองคนนี่มันไม่ยอม หาว่าจะทำให้นายอึดอัด" เคนฟ้องฉอดๆ
"พวกนายเห็นมั๊ยหละว่าน้องอยากไปกับเรา" เจอร์รี่กับแวนเนสหันไปสบตากันเล็กน้อย "ไจ่ไจ๋ สบายดีหรือเปล่า?" แล้วเจอร์รี่ก็ถามน้องเล็กออกมาเพราะเขาสังเกตสีหน้าเหงาๆของน้องชายได้
"สบายดีครับ" ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับยิ้มเจื่อนๆ ในตอนนั้นก็มาถึงบ้านพอดี
"พี่ซื้อพวกอาหารทะเลตากแห้งมาฝากนายเยอะเลย เดี๋ยวก่อนกลับเอาไปด้วยนะ ว่าแต่เย็นนี้อยู่กินข้าวที่บ้านกับพวกพี่นะ" เคนพูดคุยกับน้องชายอย่างร่าเริง
"เอ่อ....ผม....เกรงใจพวกคุณจัง....." ไจ่ไจ๋ตอบด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม
"เกรงใจอะไรวะ? นายน่ะเป็นน้องพี่นะ!" แวนเนสพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกันเองทำให้ไจ่ไจ๋รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
"ไป....เข้าบ้านกัน....." แล้วแวนเนสก็ชักชวนไจ่ไจ๋เข้าไปในบ้าน ก้าวแรกที่ก้าวเข้ามาไจ่ไจ๋ก็มีความรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเพราะเหมือนกับว่าเขาได้กลับมาในที่ที่คุ้นเคย
"ไจ่ไจ๋ อยากดื่มน้ำอะไร? เดี๋ยวพี่ไปทำให้" เคนรีบกระวีกระวาดบริการน้องชายเต็มที่
"นี่! อย่ายุ่งกับน้องให้มากนักเลย น้องมันหากินเองได้น่า นายน่ะไปหิ้วข้าวของบนรถลงมาให้หมดเลยไป!" เจอร์รี่ทำเสียงดุๆกับเคน
"นายก็ไปหิ้ว....." เคนทำท่าจะเถียงแต่พี่ใหญ่ขยับมือเคนก็เผ่นพรวดออกไปข้างนอกทันที
"ฮ่าๆๆๆ!!!" แวนเนสหัวเราะท่าทางของเจ้าน้องชายตัวแสบซึ่งพลอยทำเอาไจ่ไจ๋หัวเราะไปด้วย
"คุณเสี้ยวเทียนนี่กลัวคุณเจอร์รี่จริงๆนะครับ" ไจ่ไจ๋ว่าพลางหัวเราะไปด้วย
"กลัวที่ไหนกันหละ? ถามพี่รองดูสิว่าวันนี้มันอาละวาดกับพี่ขนาดไหน?" เจอร์รี่ตอบพร้อมกับส่ายหน้าไปมาก่อนจะนั่งลงข้างน้องชาย
"วันนี้ตั้งใจจะมาหาพวกพี่หรือเปล่า?" คำถามต่อมานั้นทำให้ไจ่ไจ๋เงียบไป เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกคิดถึงชายหนุ่มสามคนนี้
"น้องก็ต้องคิดถึงบ้านนั่นแหละ ไปอยู่คอนโดคนเดียวมันน่าเบื่อออก" แวนเนสเป็นคนตอบคำถามนั้นแทน
"ครับ พอดีไม่มีอะไรทำก็เลยนั่งรถเล่นมาเรื่อยๆ พอผ่านแถวนี้ก็เลยลงมาว่าจะเดินเข้ามาดูเหมือนกันว่าพวกคุณอยู่บ้านกันหรือเปล่า" ไจ่ไจ๋ตอบออกมาตามตรง
"ดีจังที่เจอ ไม่งั้นมาเก้อแหงๆ" พูดต่อพร้อมกับยิ้มบางๆ
"งั้นคืนนี้ก็ค้างที่นี่สิ เพราะนี่ก็เริ่มมืดแล้วข้าวปลาอาหารยังไม่ได้ลงมือทำกันเลย" เจอร์รี่เอ่ยชวนน้อง
"เอ่อ...." ไจ่ไจ๋ทำท่าไม่แน่ใจ
"นอนบ้านตัวเองมันจะเป็นอะไรไป?" แวนเนสว่าพร้อมกับทำหน้าอย่างต้องการคำตอบ
"ผมขอดูสถานการณ์ก่อนแล้วกัน ไม่ได้บอกพี่กลอเรียไว้ด้วยว่าจะไม่กลับไปที่คอนโด" ไจ่ไจ๋ตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้
"เดี๋ยวพี่โทรบอกเอง" แวนเนสออกตัวแล้วควักโทรศัพท์มือถือออกมากดหาคนรักทันที
"อ้าว! ผมยังไม่ทันรับปากเลย" ไจ่ไจ๋ทำหน้าเหวอๆเมื่อแวนเนสเดินออกไปคุยโทรศัพท์กับกลอเรียอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
"หึๆๆๆ พี่สามคนอยากให้นายกลับมาอยู่บ้านกันจะตาย คืนนี้นอนนี่แหละนะแล้วถ้าไม่ชอบพรุ่งนี้ค่อยกลับคอนโดก็ได้" เจอร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ไจ่ไจ๋มองสายตาอ่อนโยนของเจอร์รี่แล้วก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น
"ก็ได้ครับ" รับปากในที่สุด ในตอนนั้นเองเคนก็ถือของเข้ามาพร้อมกับบ่นอุบ
"ของตั้งเยอะตั้งแยะให้ชั้นแบกคนเดียว ไร้น้ำใจที่สุด!" เสียงบ่นของเคนทำให้เจอร์รี่กับไจ่ไจ๋หันมายิ้มให้กัน แล้วไจ่ไจ๋ก็ขยับตัวลุกขึ้นไปช่วย
"ผมช่วยเองครับ" ว่าแล้วก็ดึงถุงจากมือเคนมาถือ
"พี่ไม่ได้ว่านายนะไจ่ไจ๋ แต่พี่ว่าคนบางคนที่เป็นพี่ชายซะเปล่าไม่คิดจะช่วยน้องเลย" เคนว่าพร้อมกับปรายตาไปทางเจอร์รี่
"เดี๋ยวเถอะ! ว่าชั้นเหรอ?" เจอร์รี่โวยวาย
"ชั้นพูดชื่อนายซะเมื่อไหร่กัน?" พูดจบเคนก็หันไปทางไจ่ไจ๋
"เอาไปไว้ในครัวกัน วันนี้เดี๋ยวพี่จะทำของโปรดนายเยอะๆเลย" พูดจบก็เดินนำน้องชายเข้าไปในครัว
"อ้าว! ไปไหนกันแล้วหละ?" แวนเนสเดินเข้ามาเมื่อไม่เห็นน้องชายอีกสองคนก็เอ่ยถามพี่ชาย
"ไปในครัวโน้น! นายน่ะหัดสั่งสอนไอ้น้องสุดที่รักของนายหน่อยนะ มันจะทำให้ชั้นเส้นเลือดในสมองแตกซักวันแน่" เจอร์รี่เริ่มมาพาลกับแวนเนส
"อะไรวะ? ถามแค่นิดเดียวนายก็มาด่าชั้นอีกแล้ว" แวนเนสบ่นก่อนจะส่ายหน้าไปมาแล้วเดินไปนั่งที่โซฟา
"วันนี้ต้องชมความคิดของนาย ที่เราไม่ไปหาน้องตั้งแต่แรก" แล้วก็เริ่มบทสนทนากับพี่ชาย
"แหงหละ.....ก่อนจะทำอะไรชั้นไตร่ตรองถี่ถ้วนแล้วเสมอ ฉะนั้นวันหลังช่วยกรุณาเชื่อฟังพี่ชายคนนี้หน่อยนะ" ไม่วายพูดว่ากระทบน้องไปด้วย
"บ่นอีกแล้ว" แวนเนสบ่นอุบก่อนจะกดรีโมทเปิดโทรทัศน์ดูเป็นการตัดบทเพราะขี้เกียจฟังพี่ชายบ่นอีก
"ใครไปเอายามาทาให้น้องหน่อยสิ!" แล้วจู่ๆเสียงเคนก็ร้องขึ้นมาทำให้พี่ชายทั้งสองคนรีบลุกขึ้นทันที
"ไจ่ไจ๋เป็นอะไร!?" ถามขึ้นพร้อมกันอย่างตกใจ
"โดนน้ำมันกระเด็นใส่น่ะสิ รีบเอายามาทาเร็วๆเดี๋ยวพอง" เคนตอบพร้อมกับจูงมือน้องชายมานั่งลงที่โซฟา
"นิดหน่อยเองครับ คุณเสี้ยวเทียนก็ตกใจเกินไป" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับทำหน้าเหยๆ
"พี่บอกแล้วว่าเดี๋ยวพี่ทำเอง นายไม่น่าทำเลย ดูสิ....เจ็บตัวอีกแล้ว....." เคนว่าพร้อมกับรับยามาจากมือแวนเนสแล้วรีบเปิดทาให้น้องชาย
"ผมขอโทษ ก็แค่อยากจะช่วยคุณเท่านั้นเอง" ไจ่ไจ๋ทำเสียงอ่อยๆเพราะรู้ว่าตัวเองทำให้ทุกคนวุ่นวายไปหมด
"หึๆๆๆ" เจอร์รี่หัวเราะเบาๆในขณะที่ยืนดูเจ้าน้องชายทั้งสามคน
"ขำอะไร? น้องเจ็บแบบนี้ยังมีหน้ามาหัวเราะอีก" เคนต่อว่าพี่ใหญ่เข้าให้
"ชั้นขำเพราะสิ่งเดียวที่ไจ่ไจ๋ไม่เคยเปลี่ยนก็คือ ถ้าเข้าครัวทีไรมีเจ็บตัวทุกทีแบบนี้น่ะสิ" เจอร์รี่ให้เหตุผล ได้ยินเช่นนั้นแวนเนสเลยพลอยหัวเราะออกมาด้วย ในขณะที่เคนไม่ขำด้วยเพราะห่วงน้อง
"เออใช่! เข้าไปทำกับข้าวทีไรนายต้องโดนน้ำมันกระเด็นใส่ทุกที บางทีก็เป็นแผลพองเลย" แวนเนสพลอยผสมโรง
"ผมก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรเรื่องงานครัวไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่" ไจ่ไจ๋พูดเขินๆ
"เผาน้องอยู่ได้ หัดทำตัวให้เป็นประโยชน์ซะบ้าง เข้าไปช่วยชั้นทำเลยเร็วๆ" เคนต่อว่าพี่ชายทั้งคู่
"สั่งจริงๆเลยนะ!" เจอร์รี่ต่อว่าน้องชายอย่างหมั่นไส้
"เออ! ก็ชอบให้สั่งหนิถึงจะทำ! ไม่พูดก็ไม่เคยคิดจะช่วยเลย!" เคนพูดจบก็หมุนตัวกลับเข้าห้องครัวไปทันที
"ดูมันนะ....." เจอร์รี่บ่นก่อนจะส่ายหน้าไปมา
"พี่เข้าไปช่วยมันเอง นายอยู่คุยเป็นเพื่อนน้องนี่แหละ" สั่งแวนเนสเสร็จก็หมุนตัวเดินตามเคน
"เข้าไปช่วยมันทำไม่ใช่เข้าไปทะเลาะกันมันอีกนะโว้ย! แล้วอาหารน่ะกินวันนี้นะ!" แวนเนสตะโกนไล่หลังไปก่อนจะหัวเราะเบาๆแล้วนั่งลงกับไจ่ไจ๋
"พวกคุณนี่ครื้นเครงกันดีจัง" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับรอยยิ้มที่เปิดเผยมากขึ้น
"พวกเราก็เป็นแบบนี้แหละ" แวนเนสตอบแล้วเงียบไป
"จำอะไรได้บ้างหรือเปล่า?" ถามน้องชายต่ออีก ไจ่ไจ๋สบตากับคู่สนทนาก่อนจะส่ายหน้าเล็กน้อย
"ผมรู้ว่านี่คือบ้านของผม แต่เรื่องของพวกคุณ....." ก่อนที่น้องจะพูดจบแวนเนสก็แทรกขึ้นมาก่อน
"ไม่เป็นไรหรอก ช่างมันเถอะ! เรื่องแบบนี้ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป" แวนเนสกลับมาทำเสียงร่าเริงอีกครั้ง
"วันหลังจะมาก็โทรมาบอกพี่ก่อนนะจะได้อยู่รอ แล้วถ้าวันไหนพวกพี่จะไปเที่ยวกันก็จะโทรไปบอกนายเหมือนกัน" ไจ่ไจ๋ยิ้มบางๆ
"เกรงใจพวกคุณจัง" ไจ่ไจ๋พึมพำ
"เกรงใจอะไรอีกแล้ว! เป็นพี่น้องกันทำไมต้องเกรงใจขนาดนี้" แวนเนสพูดด้วยท่าทางสบายๆ ก่อนจะเปลี่ยนสายตาไปดูโทรทัศน์ต่อ ไจ่ไจ๋นั่งกวาดสายตาไปรอบๆบ้าน เขารู้ว่าที่นี่คือบ้านของเขาเพราะทุกอย่างมีอยู่ในความทรงจำ
"อ๊ะ....ผมขอดูรูปหน่อยนะครับ" เมื่อกวาดสายตามองไปมาไจ่ไจ๋ก็เห็นอัลบั้มรูป เขาจึงอยากลองดูให้แน่ใจว่าชายหนุ่มสามคนนี้เป็นพี่ชายของเขาจริงหรือไม่
"จะขอทำไมหละ? บ้านนี้ก็ของนายอยากทำอะไรก็ทำไปไม่ต้องมาขอหรอก" แวนเนสว่าแต่แล้วก็ฉุกคิดอะไรขึ้นได้ว่าหากน้องดูรูปแล้วน่าจะจำพวกเขาได้ เมื่อเป็นดังนั้นเขาจึงปิดโทรทัศน์แล้วเลื่อนตัวลงมานั่งกับน้อง
"อัลบั้มนี้เป็นรูปที่พวกเราสี่คนถ่ายด้วยกัน" แวนเนสบอกพร้อมกับหยิบอัลบั้มภาพที่รวมรูปของพวกเขาสี่พี่น้องถ่ายไว้ด้วยกันตั้งแต่เด็กๆขึ้นมา ไจ่ไจ๋มองดูหน้าปกอัลบั้มนั้นในใจก็เริ่มรู้สึกกลัวว่าหากความจริงเขาเป็นน้องชายคนเล็กของบ้านนี้เขาจะทำใจรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นยังงัยดี
"เอ่อ....ผมว่า.....ผมไม่อยากดูแล้ว....." ไจ่ไจ๋ปฏิเสธก่อนแวนเนสจะทันได้เปิด
"ไม่อยากดูหรอ?" แวนเนสเงยหน้าขึ้นมามองน้องชาย เมื่อเห็นสีหน้าวิตกกังวลของน้องแล้วแวนเนสจึงสอดอัลบั้มภาพนั้นเก็บดังเดิม เขาไม่อยากทำให้น้องรู้สึกไม่ดี
"ขอโทษนะครับ ขอไปสูดอากาศข้างนอกหน่อย" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็ลุกออกไปหน้าบ้าน โดยที่แวนเนสมองตามอย่างเป็นห่วงแต่เขาก็ตัดสินใจปล่อยให้น้องได้คิดอะไรคนเดียว แวนเนสนั่งนิ่งงันอยู่ครู่หนึ่งก็เดินเข้าไปในครัวสมทบกับพี่น้องอีกสองคน
"มีอะไรให้ช่วยมั๊ย?" แวนเนสเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
"เข้ามาทำไม? ไปอยู่เป็นเพื่อนน้องสิ!" เคนทำเสียงแข็งใส่พี่ชาย แต่เมื่อเห็นสีหน้าของพี่ชายแล้วก็เอะใจ
"น้องหละ?" ถามพี่ชายต่ออีก
"ขอไปเดินเล่นข้างนอกน่ะ" แวนเนสตอบแล้วถอนหายใจ
"เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?" พี่ใหญ่ถามแวนเนสต่อทันทีเพราะสีหน้าของน้องบ่งบอกว่าคงมีอะไรบางอย่าง
"เอ่อ....คือว่า....." แวนเนสพูดไม่เต็มเสียง
"เมื่อกี้น้องจะขอดูรูปพวกเรา พอชั้นจะเปิดให้ดูน้องกลับไม่อยากดูขึ้นมาเฉยๆ" คำพูดนั้นทำให้ทั้งเจอร์รี่และเคนเงียบไป
"ชั้นว่าเหมือนน้องกลัวว่าจะรู้ความจริง ชั้นเลยกลัวว่าหากน้องกลับมาจำพวกเราได้สภาพจิตใจของน้องจะแย่ลงไปกว่าเดิมหรือเปล่า?" แวนเนสพูดสีหน้าและท่าทางซีเรียส
"เพราะชั้นแท้ๆเลย" เคนพึมพำออกมาสีหน้าเศร้าลงทันตาเห็น
"อย่าโทษตัวเองสิ เรื่องแบบนี้ใครมันอยากให้เกิดกัน?" เจอร์รี่พูดปลอบใจน้องแต่ก็ค่อนข้างเห็นด้วยกับสิ่งที่แวนเนสบอก
"ต่อไปบ้านเราก็จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว" พูดจบเคนก็เดินไปนั่งฟุบหน้าลงกับโต๊ะกินข้าว
"นายออกไปก่อน" เจอร์รี่บอกกับแวนเนสแบบไม่ออกเสียง แวนเนสมองไปที่เคนอย่างเป็นห่วงแต่ก็ยอมออกไปแต่โดยดีเพราะรู้ว่าพี่ใหญ่ต้องปลอบน้องได้ดีกว่าเขาแน่ๆ
"เสี้ยวเทียน" เจอร์รี่เรียกน้องชายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่เคนไม่ตอบรับอะไรเพราะน้ำตาของเขากำลังไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
"ร้องไห้ทำไม? ไม่กลัวไจ่ไจ๋มาเห็นเข้าแล้วจะโดนหัวเราะเยาะเอาหรอ?" แกล้งพูดปลอบน้องแบบตลกๆ
"ชั้นยอมให้น้องหัวเราะชั้นซะยังดีกว่าให้สถานการณ์มันเป็นแบบนี้ ตอนนี้น้องมาอยู่กับเราก็มีแต่ความอึดอัดน้องไม่มีความสุขเลย ต่อให้ความทรงจำของน้องกลับมามันก็เท่านั้น" เคนเงยหน้าขึ้นมาพูดกับพี่ชายทั้งน้ำตา เจอร์รี่เอามือโยกหัวน้องชายไปมาเบาๆ
"คิดอะไรแบบนั้น? ถ้าความทรงจำของน้องกลับมาบ้านของเราก็จะต้องกลับมาเหมือนเดิมสิ" พูดปลอบใจทั้งที่ในใจก็กลัวจะเป็นอย่างที่น้องพูดอยู่เหมือนกัน
"ไจ่ไจ๋มันคงหัวเราะจนน้ำหูน้ำตาไหลแน่ถ้าเกิดความทรงจำของน้องกลับคืนมาจริงๆ เรื่องนี้คิดๆไปน่าขำออกนะ" พยายามพูดให้ดูเหมือนเป็นเรื่องตลกทั้งๆที่รู้ว่าน้องไม่ขำด้วยเลย
"ต่อไปอาจจะเป็นเรื่องขำๆที่พวกเราจะเอามาพูดเล่นกันไม่รู้จบก็ได้" เคนไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่ฟุบหน้าลงไปที่โต๊ะแล้วร้องไห้ออกมาอีก
"เฮ่อ....." เจอร์รี่ถอนหายใจแล้วลากเก้าอี้ตัวข้างๆน้องออกมาทรุดตัวนั่ง
"เรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้วร้องไห้ไปก็เท่านั้น ตอนนี้เรื่องสำคัญที่สุดก็คือเราต้องทำทุกวิถีทางที่จะให้น้องจำพวกเราได้อีกครั้ง" ว่าพลางลูบหัวน้องไปด้วย
"แม้มันอาจแลกมาด้วยความเจ็บปวดของน้องแต่พี่ไม่มีวันยอมปล่อยให้น้องของพี่กลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับพี่หรอก" พี่ใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"แล้วนายหละ? นายจะยอมให้เป็นแบบนั้นหรอ?" เคนส่ายหน้าไปมาทั้งๆที่ยังฟุบหน้าอยู่ที่โต๊ะกินข้าว
"ถ้าอย่างนั้นก็เลิกร้องไห้แล้วมาทำกับข้าวต่อให้เสร็จได้แล้ว ไจ่ไจ๋รอกินอยู่เดี๋ยวน้องก็หิวแย่เลย" การยกเอาน้องเล็กขึ้นมาอ้างนั้นได้ผลกับเคนเสมอ เพราะหลังจากจบคำนั้นเคนก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วขยับตัวลุกขึ้น
"เดี๋ยว.....มาให้พี่ใหญ่เช็ดหน้าเช็ดตาก่อนซิ.....ดูหน้าตัวเองเข้าดูได้ที่ไหน" พี่ใหญ่ดึงตัวน้องชายมาก่อนจะล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกงหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดหน้าเช็ดตาให้น้องชาย
"นายออกไปข้างนอกเถอะ เดี๋ยวตรงนี้ชั้นจัดการเอง เสร็จแล้วจะไปเรียก" เคนพูดด้วยน้ำเสียงปนสะอื้น
"ไม่ให้พี่ใหญ่ช่วยหรอ?" ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ เมื่อน้องส่ายหน้าเจอร์รี่ก็ไม่เซ้าซี้อีกเพราะรู้ว่าน้องอยากสงบสติอารมณ์เงียบๆ
"เสร็จแล้วออกไปเรียกด้วยหละ อย่าแอบกินคนเดียวหมดนะ" ประโยคหลังพูดแหย่น้องชายเล่น ซึ่งเคนก็ได้ยิ้มแบบฝืนๆก่อนจะหันกลับไปทำกับข้าวต่อ เจอร์รี่ส่งสายตามองน้องชายอีกครั้งอย่างเป็นห่วงก่อนจะตัดใจเดินหมุนตัวออกไป
- ที่สนามหน้าบ้าน -
"มาอยู่กันตรงนี้เอง" เจอร์รี่ที่เดินตามหาน้องชายทั้งสองคนเอ่ยทักเมื่อเห็นแวนเนสกับไจ่ไจ๋นั่งคุยกันอยู่ตรงชิงช้า
"ทำกับข้าวเสร็จแล้วหรอ?" แวนเนสทำเสียงร่าเริง
"ยังหรอก รายนั้นน่ะหาว่าชั้นเกะกะเลยโดนไล่ออกมาเนี่ย" เจอร์รี่เองก็พูดแบบติดตลก
"ผมมารบกวนหรือเปล่าครับ? ลำบากคุณเสี้ยวเทียนแย่เลย" ไจ่ไจ๋พูดขึ้นอย่างเกรงใจ
"พูดอะไรแบบนั้น พี่บอกแล้วงัยว่าพี่กลางของนายน่ะมันเป็นพ่อบ้าน หน้าที่ทำอาหารก็เป็นของมันซะส่วนใหญ่" แวนเนสพูดกับน้องชายด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง
"แต่เวลากินสิ่งที่ห้ามพูดเลยก็คืออาหารที่มันทำไม่อร่อยเพราะไม่งั้นมื้อนั้นอดกันหมดทั้งบ้านแน่ ดีไม่ดีจะพาลไม่มีอะไรตกถึงท้องไปอีกสามมื้อ" พูดจบแวนเนสก็หัวเราะร่า ทำให้ไจ่ไจ๋เริ่มรู้สึกผ่อนคลายแล้วหัวเราะตามออกมาด้วย
"แต่คุณบอกผมว่าคุณเสี้ยวเทียนเป็นเชฟบนเรือสำราญไม่ใช่หรอ? แบบนี้คงไม่มีคำว่าไม่อร่อยแน่นอน" ไจ่ไจ๋เอ่ยขึ้นมาบ้าง
"ถ้ามันทำอาหารบนเรือสำราญน่ะพี่รับรองว่าต้องอร่อยทุกอย่างแน่ๆ แต่ถ้าทำที่บ้านก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์มันด้วย ถ้าวันไหนไปแหย่มันมากๆจนมันโวยวายหละก็จะได้กินอาหารรสชาติแบบเผ็ดไฟแลบเลย" เจอร์รี่เป็นคนตอบคำถามนั้นแทน
"หึๆๆๆๆ พวกคุณนี่ตลกจัง" ไจ่ไจ๋รู้สึกขำคำพูดของเจอร์รี่
"ถ้านายกลับมาอยู่บ้านเรา ไม่นานนายจะรู้ฤทธิ์ของไอ้พี่ชายตัวแสบของนายแน่" แวนเนสพูดแทรกขึ้นมา ทำให้ไจ่ไจ๋ทำหน้าเจื่อนลง
"พี่รู้นะว่ามันอาจจะทำใจรับได้ยากซักหน่อย แต่พวกพี่เองก็มีความรู้สึกไม่ต่างจากนายตอนนี้หรอก" เงียบกันไปพักหนึ่งเจอร์รี่ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน
"นายอาจจะไม่ยอมรับพวกพี่สามคนก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ก็ขอให้พวกพี่สามคนได้ทำหน้าที่ของพี่ชายต่อไปเถอะ" ไจ่ไจ๋นิ่งเงียบกับสิ่งที่เจอร์รี่พูด
"กลับมาอยู่ที่บ้านเถอะนะไจ่ไจ๋ ถ้ามีเรื่องอะไรที่พวกพี่ทำให้นายอึดอัดก็บอกกันได้ตรงๆ พวกพี่ก็จะพยายามปรับตัว" ไจ่ไจ๋มองหน้าเจอร์รี่แล้วเปลี่ยนสายตาไปที่แวนเนส
"ไม่ใช่ว่าผมไม่ยอมรับพวกคุณสามคนนะครับ" ไจ่ไจ๋เอ่ยขึ้นเบาๆ
"จริงๆแล้วผมรู้สึกดีใจเสียอีกที่ได้รู้ว่าตัวเองมีพี่ชาย โดยเฉพาะพี่ชายที่แสนดีอย่างพวกคุณสามคนด้วยแล้วผมคิดว่าตัวเองต้องเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกแน่ๆ" คำพูดนั้นทำให้ทั้งเจอร์รี่และแวนเนสหันไปมองหน้ากัน
"ถ้าถามผมว่าตอนนี้ผมเชื่อหรือเปล่าว่าพวกคุณเป็นพี่ชายของผม คำตอบที่พวกคุณจะได้รับก็คือตอนนี้ผมเชื่ออย่างสนิทใจเลย" ไจ่ไจ๋พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"นายเชื่อแบบนั้นจริงหรอ?" แวนเนสถามย้ำอย่างดีใจ ซึ่งไจ่ไจ๋ก็พยักหน้าแทนคำยืนยันอีกครั้ง
"แต่ที่ผมไม่อยากกลับมาอยู่ที่บ้านก็เพราะว่าผมยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับพวกคุณได้ดีเท่าที่ควร" คำพูดต่อมานั้นทำให้เจอร์รี่กับแวนเนสมองหน้าไจ่ไจ๋อย่างไม่ค่อยเข้าใจ
"ผมหมายถึงว่าเวลาพวกคุณแสดงออกกันก็มักจะไม่มีการเสแสร้ง ถ้าโมโหก็คือต่อว่ากันตรงๆแต่ถ้าเป็นห่วงพวกคุณก็พูดตรงๆเหมือนกัน....." ไจ่ไจ๋อธิบาย
"คือผมคิดว่าตัวเองคงทำแบบพวกคุณไม่ได้" จบคำพูดนั้นพี่ชายทั้งสองคนก็ยิ้มออกมาได้
"โธ่! เรื่องแค่นี้เอง....." แวนเนสว่าเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
"ผมรู้ว่าสำหรับพวกคุณมันเป็นเรื่องปกติ แต่ผมคิดว่าพี่น้องผู้ชายเนี่ยเวลาแสดงออกต่อกันมันก็จะเป็นไปแบบเอ่อ....ยังงัยหละ?....." ไจ่ไจ๋เองก็อธิบายไม่ถูก
"โผงผาง" เจอร์รี่ต่อคำให้น้องชาย
"ครับ....อะไรประมาณนั้น....." ไจ่ไจ๋พยักหน้า
"ซึ่งผมคิดว่าพวกคุณน่ะ ค่อนข้างจะ.....ละเอียดอ่อนมาก......" จบคำของไจ่ไจ๋เจอร์รี่กับแวนเนสก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน
"ตกลงเรื่องที่นายกังวลก็เพราะเรื่องนี่หรอกหรอ? นายไม่ต้องห่วงหรอกเพราะถ้านายไม่ชอบพวกพี่จะไม่ทำแบบนั้นกับนายเลย" แวนเนสว่าพร้อมกับตบไหล่น้องชายไปด้วย
"เอ่อ.....ความจริงผมว่าการแสดงออกแบบนั้นมันก็ดีนะครับเพียงแต่ผมไม่คุ้น.....เท่านั้นเอง....." ไจ่ไจ๋รีบแก้ตัวเพราะกลัวว่าคำพูดของเขาจะทำให้ชายหนุ่มทั้งสองคนคิดไปไกล
"เอาเถอะ พี่รับรองว่าจะไม่ทำให้นายอึดอัดเลย" แวนเนสรับรองด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"เอ่อ...." ไจ่ไจ๋ยิ้มแหยๆ
"งั้นนายก็ยอมกลับมาอยู่บ้านแล้วใช่มั๊ย?" เจอร์รี่ถามแทรกขึ้นมาอีก ซึ่งแวนเนสก็มองไจ่ไจ๋อย่างต้องการคำตอบด้วยเช่นกัน
"ก็....ก็ได้.....เอางั้นก็ได้ครับ....." ไจ่ไจ๋ตอบแบบไม่เต็มเสียงเท่าไหร่นักแต่ในใจของเขาเองนั้นก็อยากกลับมาอยู่ที่บ้านเช่นกัน
"เย้!!! ชั้นจะไปบอกเสี้ยวเทียน รับรองว่าจะต้องได้เห็นหมูกระโดดแหงๆ" พูดจบแวนเนสก็วิ่งแจ้นเข้าไปในบ้านทันที
"ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้" เจอร์รี่บ่นเจ้าน้องชายคนรองที่วิ่งตื่อออกไปพร้อมกับส่ายหน้ายิ้มๆ
"อีกเดี๋ยวเจ้าพี่กลางคงทำกับข้าวเสร็จแล้ว นายอยากจะขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าให้สบายตัวก่อนมั๊ย?" แล้วเจอร์รี่ก็หันมาถามน้องชายคนเล็ก
"ไม่เป็นไรหรอกครับ" ไจ่ไจ๋ตอบด้วยท่าทางเกรงใจ ทั้งๆที่อยู่บ้านตัวเองแต่เขากลับรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนมาอาศัยเท่านั้น
"ตอนอยู่คอนโดปกตินายทำอาหารกินเองหรือเปล่า?" เจอร์รี่ชวนน้องชายพูดคุยเรื่องทั่วๆไป
"เปล่าหรอกครับ ส่วนใหญ่พี่กลอเรียจะจัดการเรื่องนี้ให้ แต่ถ้าพี่กลอเรียไม่ว่างผมก็จะเดินออกไปกินหน้าคอนโดหรือไม่ก็กินพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป" ไจ่ไจ๋ตอบตามความเป็นจริง
"หึๆๆๆ พี่ว่าแล้วนายต้องกินของพวกนี้เป็นอาหารหลักแหงๆ" เจอร์รี่หัวเราะเบาๆเพราะนึกอยู่แล้วว่าจะได้รับคำตอบแบบนี้
"ผมว่ามันก็อร่อยดีนะครับแถมสะดวกอีกด้วย" ไจ่ไจ๋แย้งขึ้น
"ก็ใช่ แต่มันไม่ค่อยมีสารอาหารอะไร" เจอร์รี่ว่าก่อนจะพูดต่อ
"นี่ถ้าเจ้าพี่กลางมันรู้ว่านายกินของพวกนี้บ่อยๆนะรับรองว่ามันต้องบ่นพี่ไปสามวันเจ็ดวันแน่" คำพูดนั้นทำให้ไจ่ไจ๋ยิ้มงงๆ
"ทำไมคุณเสี้ยวเทียนถึงต้องบ่นคุณด้วยหละครับ?" ย้อนถามกลับไป
"ก็มันเซ้าซี้ให้พี่พามันไปตลาดซื้อพวกของสดไปทำอาหารทิ้งใส่ตู้เย็นให้นายอุ่นกินได้ตลอดงัย แต่พี่ไม่อยากโผล่หน้าไปให้นายอึดอัดทุกวันพี่ก็เลยไม่ยอมพามันไป มันเลยงอนจนพาลไปทั่ว ถึงต้องพามันไปเที่ยวทะเลนี่งัย" คำตอบนั้นทำให้ไจ่ไจ๋หัวเราะออกมาได้
"คุณเจอร์รี่ปฏิบัติกับน้องๆเหมือนพวกเขาเป็นเด็กเลยเนอะ" พูดออกมาตามความรู้สึกของตัวเอง
"ก็ใช่.....ถึงแม้น้องพี่ทุกคนจะโตๆกันหมดแล้วแต่พี่ก็ยังทำใจยอมรับไม่ได้ซักที" เจอร์รี่เองก็ตอบพลางหัวเราะไปด้วย
"ถ้าเป็นไปได้พี่อยากให้พวกนายสามคนเป็นเด็กตัวเล็กๆตลอดไป เพราะพวกนายจะได้อยู่กับพี่ตลอดไป" ไจ่ไจ๋ยิ้มกับคำพูดนั้น
"คุณแวนเนสกับคุณเสี้ยวเทียนนี่โชคดีจังที่มีพี่ชายแบบคุณ" คำพูดนั้นทำให้เจอร์รี่สบตากับน้องตรงๆ
"ได้ยินนายพูดแบบนี้แล้วรู้สึกแปลกๆจัง น้องตัวเองแท้ๆมาเรียกพี่ชายแบบเป็นทางการแบบนี้" เจอร์รี่ว่าพร้อมกับยิ้มให้น้องบางๆ
"เอ่อ....คือว่า....." ไจ่ไจ๋ทำหน้าเจื่อนลง
"ไม่เป็นไรหรอก ถ้าไม่คุ้นก็แล้วแต่นายเถอะ" เจอร์รี่รีบบอกเพราะกลัวน้องชายจะรู้สึกอึดอัด
"ผม....ผมจะพยายามแล้วกัน....." ไจ่ไจ๋ตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้
"ได้ ยังงัยก็ได้ทั้งนั้นแหละ" ตอบน้องชายจบก็พูดตัดบท
"พี่ว่าเราเข้าบ้านกันดีกว่า ป่านนี้พี่กลางมันน่าจะทำกับข้าวเสร็จแล้ว" ไจ่ไจ๋ไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่พยักหน้ารับแล้วขยับตัวลุกขึ้นตมมเจอร์รี่
- ในบ้าน -
"ทำเสร็จแล้วไม่เรียกเลยนะ จะแอบกินกันสองคนเหรอ?" พี่ใหญ่เอ่ยปากทำลายความเงียบในห้องครัว
"เพิ่งเสร็จ กำลังจะออกไปตามพอดี" เคนตอบคำถามนั้นก่อนจะหันไปฝืนยิ้มให้น้องเล็ก ไจ่ไจ๋มองหน้าเคนแล้วก็รู้สึกไม่ค่อยดีเพราะสีหน้าของเคนดูเศร้าๆ
"พี่รองบอกแล้วใช่มั๊ยว่าน้องจะกลับมาอยู่บ้านกับเราแล้ว" พี่ใหญ่ถามเคนพร้อมกับโยกหัวน้องไปมาเบาๆ
"อืม....รู้แล้ว....." เคนพยักหน้าพร้อมกับตอบรับเบาๆ
"นายแน่ใจหรอว่าอยากกลับมาอยู่บ้าน? ความจริงถ้านายไม่อยาก....." เคนเอ่ยพูดแต่ไจ่ไจ๋พูดแทรกขึ้นมาก่อน
"ครับ ผมอยากกลับมาอยู่ที่นี่ อยู่ที่คอนโดมันเหงาเพราะกลางวันพี่กลอเรียกับมี่เฟิงก็ไปทำงานที่ร้าน ผมเองตามไปทุกวันก็เกะกะสาวๆซะเปล่าๆ แถมช่วงนี้หลิงหลิงยังกลับไปอยู่บ้านอีกด้วยกว่าจะกลับมาหออีกครั้งก็คงเกือบเปิดเทอม" ไจ่ไจ๋พูดเสียงเจื้อยแจ้ว
"คุณไม่ต้องกลัวผมอึดอัดหรอก เพราะผมมั่นใจว่าผมจะต้องปรับตัวเข้ากับพวกคุณได้แน่ๆ มีแต่พวกคุณซะอีกที่จะอึดอัดที่ผมกลับมาอยู่ด้วยแบบนี้" ได้ยินน้องว่าเช่นนั้นเคนก็รีบส่ายหน้า
"ไม่นะไจ่ไจ๋ พี่ไม่อึดอัดเลยแม้แต่นิดเดียว พี่ดีใจซะอีกที่นายกลับมาบ้านด้วยความเต็มใจ" สีหน้าเศร้าๆของเคนกลับมีรอยยิ้มขึ้นมานั่นทำให้ทั้งเจอร์รี่และแวนเนสต่างพากันโล่งอก เพราะเมื่อกี้หน้าตาของน้องชายอย่างกับคนอมทุกข์
"เอาหละๆๆๆ ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วก็กินข้าวกันซักทีนะ พี่รองหิวแล้ว....." แวนเนสพูดตัดบทขึ้นมาด้วยการชักชวนพี่ๆน้องๆกินข้าว
"ทีเรื่องแบบนี้หละเร็วเชียวนะ เมื่อกี้บอกให้ช่วยล้างจานก็ไม่ยอมทำ!" เคนหันไปแหวใส่พี่ชายคนรอง
"อ้าว! ก็บอกว่าเดี๋ยวกินเสร็จแล้วจะล้างให้นายก็ไม่ยอมต้องล้างให้เสร็จตอนนั้นเดี๋ยวนั้นมันอะไรนักหนาวะ!" แวนเนสเถียงน้องชายกลับ
"ก็ถ้วยชามหม้อกะทะมันกองเต็มเคาเตอร์นั้นนายไม่รำคาญหูรำคาญตาบ้างหรืองัย!?" เคนเองก็ไม่ยอมแพ้
"ไม่! ไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย" แวนเนสลอยหน้าลอยตาตอบ
"เอาอีกแล้วนะ ทะเลาะกันอีกแล้ว เดี๋ยวพี่ใหญ่ตีคนละทีดีมั๊ย?" เจอร์รี่ทำหน้าดุๆใส่น้องชายทั้งคู่ แล้วแวนเนสกับเคนก็ส่ายหน้าแทนคำตอบพร้อมกัน ไจ่ไจ๋ยืนมองดูสามพี่น้องพร้อมกับรอยยิ้มเขารู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
"มาไจ่ไจ๋.....มาช่วยพี่ตักข้าวดีกว่าเดี๋ยวไอ้ตัวอ้วนนั่นมันจะพาลบ่นนายด้วยว่าไม่ยอมช่วยทำอะไร" แวนเนสหันไปพูดกับน้องเล็กด้วยสีหน้าอมยิ้ม
"นี่!! นายไม่ต้องมาแอบด่าชั้นหรอก! แล้วนายนั่นแหละที่ต้องตักข้าวไม่ต้องเอาน้องมาอ้าง!!" เคนแหวใส่พี่ชายแว๊ดๆ
"ไจ่ไจ๋.....นายไปนั่งรอเถอะไป.....เดี๋ยวตักข้าวเสร็จก็กินได้แล้ว" พูดกับน้องเล็กต่อด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
"ดูมันนะ! กับชั้นมันแว๊ดๆใส่แต่กับ.... โอ๊ย!! ไอ้บ้านี่เอาจริงหรอวะ!!" แวนเนสหยุดพูดกระทันหันแล้วเปลี่ยนมาเป็นเสียงร้องแทนเมื่อเคนขว้างทัพพีในมือใส่เขา
"ก็อยากพูดมากทำไมหละ!? สั่งอะไรแล้วก็ไม่ยอมทำ!" เคนแหวใส่พี่ชายอีก
"เสี้ยวเทียน! เกินไปแล้วนะแบบนี้!" พี่ใหญ่ดุน้องชายคนกลางเสียงเข้ม
"ก็มัน......" เคนอ้าปากจะเถียงแต่พอเห็นสายตาพี่ใหญ่แล้วก็ไม่กล้า
"นี่แหนะ!" เจอร์รี่ใช้มือตีเจ้าน้องชายจอมโวยวายทีหนึ่งแรงพอสมควร
"ถ้าพี่เห็นเราทำแบบนี้อีกพี่จะทำโทษหนักกว่านี้อีกหลายเท่าเลย" เคนหน้ามุ่ยแล้วเดินไปนั่งลงข้างน้องเล็ก
"นายก็เหมือนกัน! โตจะตายอยู่แล้วยังไปนั่งทะเลาะกับน้องอยู่ได้" หันมาว่าแวนเนสด้วยอีกคน
"ก็มันน่าทะเลาะด้วยมั๊ยหละ? อย่าให้มีโอกาสนะจะจับเตะให้กลิ้งเป็นลูกบอลเลย" ไม่วายพูดอาฆาตน้องชายไว้ด้วย
"ชั้นจะเตะนายก่อนน่ะสิ!" เคนเถียงแวนเนสเบาๆ ไจ่ไจ๋มองชายหนุ่มทั้งสองคนอย่างขำๆ
"เดี๋ยวพรุ่งนี้ชั้นจะซื้อนวมมาให้คนละคู่ และชกกันให้ตายไปข้างนึงเลยนะ" เจอร์รี่พูดแทรกก่อนที่น้องชายทั้งคู่จะเถียงกันมากกว่านี้
"อะไรกันก็ไม่รู้ เรื่องเล็กๆน้อยๆก็ยังเอามาเถียงกันได้เป็นวันๆ" บ่นเสร็จก็ถอนหายใจ
"หิวแย่แล้วสิไจ่ไจ๋ พี่ชายของนายสองคนนี่แย่ชะมัด....." พูดกับไจ่ไจ๋แต่ไม่วายแอบแขวะน้องชายอีกสองคนไปด้วย
"ไม่หรอกครับ ดูพวกคุณเถียงกันก็สนุกดี" ไจ่ไจ๋ตอบยิ้มๆก่อนจะถามแวนเนสกับเคน
"พวกคุณเถียงกันแบบนี้แล้วโกรธกันจริงหรือเปล่าเนี่ย?" คำถามนั้นแวนเนสกับเคนตอบขึ้นพร้อมกันอย่างโดยไม่ต้องนัดหมาย
"โกรธ!" ไจ่ไจ๋ทำหน้าเจื่อนลงเมื่อได้ยินน้ำเสียงแข็งๆของคนทั้งคู่
"ยังอีก!" คราวนี้พี่ใหญ่ทำหน้าตาจริงจัง
"เดี๋ยวพี่ตักข้าวให้นะ" เคนว่าแล้วก็เดินไปตักข้าวมาสองจาน วางตรงหน้าน้องเล็กจานนึงส่วนอีกจานก็วางตรงที่ตัวเอง
"อ้าว! แล้วของชั้นสองคนหละ?" แวนเนสถามแทรกขึ้นมาทันที
"จานอยู่โน้น! หม้อข้าวอยู่โน้น! ทัพพีก็อยู่โน้น!" เคนเน้นทีละประโยคอย่างชัดเจนก่อนจะหันมาทางไจ่ไจ๋
"ลงมือได้เลยไจ่ไจ๋ อะ.....พี่รู้ว่าอันนี้ของโปรดนาย....." ว่าแล้วก็ตักกับข้าวใส่จานให้น้องชาย
"ฮึ! ดูฤทธิ์มันนะ" แวนเนสหันไปยักคิ้วกับเจอร์รี่ก่อนจะลุกขึ้นไปตักข้าวให้ตัวเองและพี่ชาย
"เอ่อ....ขอบคุณครับ แต่ว่ารอกินพร้อมกันดีกว่านะครับ" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับมองไปทางแวนเนสที่ยืนตักข้าวอยู่
"ชักช้าอยู่ได้! จะให้น้องหิวตายหรืองัย?" เคนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
"น้องคนไหนจะหิวตายไม่ทราบครับ?" แวนเนสย้อนถามอย่างยียวน
"ไอ้....." เคนชี้หน้าจะด่าแวนเนสแต่พี่ใหญ่เอามือเคาะที่โต๊ะเป็นการเตือน
"ฝากไว้ก่อนเถอะ!" เคนจึงได้แต่พึมพำเบาๆ
"เสี้ยวเทียน! กินข้าวเสร็จแล้วขึ้นไปรอพี่ที่ดาดฟ้า!" เจอร์รี่ประกาศเสียงเข้มเมื่อเห็นว่าน้องชายยังทำท่าชวนทะเลาะให้ได้ แวนเนสได้ยินเช่นนั้นก็รีบทำตัวสงบเสงี่ยมเพราะกลัวจะโดนแบบน้องด้วย
"อะ....ข้าวได้แล้ว....." แวนเนสวางจานข้าวลงตรงหน้าพี่ชายพร้อมกับพูดด้วยสีหน้าซื่อๆเหมือนตัวเองไม่ได้มีส่วนทำอะไรเลย
"นายก็ระวังตัวไว้เถอะ!" พี่ใหญ่ชี้หน้าแวนเนสเป็นการคาดโทษ แวนเนสจึงได้แต่ยิ้มแหยๆ
"บนดาดฟ้ามีอะไรหรอ?" ไจ่ไจ๋ถามแวนเนสเบาๆเพราะสงสัยว่าทำไมคำขู่แค่นั้นถึงทำให้เคนเงียบกริบได้ทันที
"มีสิ่งที่จะทำให้คนที่ถูกเรียกขึ้นไปเดินสะอื้นกลับลงมาได้" แวนเนสตอบพร้อมกับยักคิ้วให้น้องเล็กก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง
"โอโห! กับข้าวน่ากินทั้งนั้นเลย" ไจ่ไจ๋มองชายหนุ่มทั้งสามคนยิ้มๆ เขารู้สึกอบอุ่นกับการปฏิบัติต่อกันของสามพี่น้อง
"อร่อยมั๊ยไจ่ไจ๋?" เคนถามน้องชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"อร่อยมากเลยครับ!" ไจ่ไจ๋เอ่ยชมอย่างจริงใจ
"สมแล้วที่คุณเป็นเชฟ พวกคุณสองคนนี่โชคดีจังได้กินแต่ของอร่อยๆทุกวันเลย" ไจ่ไจ๋ชมเคนก่อนจะหันไปพูดกับเจอร์รี่และแวนเนสด้วย
"โชคดีที่มีของร่อยกินแต่โชคร้ายที่ต้องโดนมันสับโขกอย่างที่นายเห็นน่ะสิ" แวนเนสลอยหน้าลอยตาพูด
"ทีอย่างนี้ไม่ว่ามันบ้างหละ? ทีกับชั้นพูดอะไรนิดหน่อยก็หาเรื่องจะลงมือกับชั้นเรื่อยเลย!" เคนหันไปพาลใส่พี่ใหญ่
"แหนะ! อย่ามางอแงกับพี่นะ! เรานั่นแหละที่ป่วนคนอื่นเขาไปทั่วใครพูดอะไรไม่ถูกใจนิดหน่อยก็โวยวายใส่" เจอร์รี่ต่อว่าเจ้าน้องชายตัวดีกลับไป
"คุณเสี้ยวเทียนครับ อันนี้ทำยังงัยหรอ? ผมว่ารสชาติมันต่างจากที่อื่นนะ" ไจ่ไจ๋เห็นว่าเคนค่อนข้างหงุดหงิดจึงถามทะลุกลางปล้องขึ้นมา
"ไหน? อ๋อ! อันนี้ไม่ยากหรอก" เคนหันกลับมาสนใจน้องชายแล้วเริ่มอธิบาย
"ก็ตอนหมักเนื้อไก่ก็แค่บีบเลมอนใส่ลงไปหน่อย แค่นี้มันก็จะมีกลิ่นเลมอนและรสเปรี้ยวแซมนิดหน่อยทำให้กินแล้วไม่ค่อยเลี่ยนเหมือนไก่ทอดทั่วๆไป" เคนอธิบาย
"แต่นายอาจไม่ค่อยชอบเพราะนายชอบแบบใส่พริกไทยเยอะๆนี่นา" พูดต่ออย่างรู้ใจน้องชาย
"ก็ชอบแหละครับถึงได้ถามงัยว่าทำยังงัย" ไจ่ไจ๋ตอบก่อนจะเหลือบมองแวนเนสที่ยกนิ้วโป้งให้
"งั้นก็ต้องกินให้เยอะๆ มื้อนี้พี่เลือกทำแต่ของโปรดนายทั้งนั้นเลย" ว่าแล้วเคนก็ตักโน้นตักนี่ให้น้องชายอย่างใส่ใจโดยไม่สนใจคนร่วมโต๊ะอีกสองคนเลยแม้แต่นิดเดียว
Create Date : 17 มิถุนายน 2557 | | |
Last Update : 13 กรกฎาคม 2557 12:01:13 น. |
Counter : 982 Pageviews. |
| |
|
|
|