Chapter 44

ตอนที่ 44

"ทำแบบนี้จะดีหรอพี่กลาง?" ไจ่ไจ๋แทบจะตะโกนถามพี่ชายเพราะบรรยากาศในห้องอาหารกึ่งผับมีแต่เสียงอึกทึกครึกโครม

"ทำอะไร?" เคนย้อนถามน้องทั้งๆที่รู้ดีว่าน้องกำลังพูดถึงเรื่องอะไร

"ก็พี่พาผมมานั่งในที่แบบนี้ พี่ใหญ่รู้เข้าจะทำยังงัย? ไจ่ไจ๋ตอบด้วยสีหน้าไม่สบายใจ

"นี่.....ก่อนมาพี่ก็ถามความสมัครใจของนายแล้วนะ จะมามีปัญหาอะไรตอนนี้อีก?" เคนเริ่มทำหน้าขรึมเพราะติดไม่พอใจที่ไจ่ไจ๋มัวแต่ห่วงหน้าพะวงหลัง

"ก็พี่ใหญ่สั่งผมไว้ว่าถ้าพี่กลางพามานั่งดื่มนั่งกินในที่แบบนี้ให้ปฏิเสธ" น้องเล็กตอบด้วยสีหน้าเจื่อนลงเพราะกลัวโดนพี่ชายดุ แต่เคนกลับหัวเราะ

"นายจะบ้าหรืองัย! ที่นี่ก็มีแค่เราสองคน ถ้าเราไม่พูดแล้วพี่ใหญ่จะรู้ได้ยังงัยฮึ?" ย้อนถามน้องชายกลับไป

"นายนี่ขี้กังวลจนเกินไปแล้ว แถมยังหัวอ่อนจนเข้าขั้นอีกต่างหาก" ต่อว่าน้องต่ออีก

"เรื่องอะไรมาว่าผมหละ? ผมก็แค่ไม่อยากโกหกพี่ใหญ่แล้วก็ไม่อยากทำให้พี่เขาเป็นห่วงก็เท่านั้นเอง" ไจ่ไจ๋พูดแย้งขึ้นมาบ้าง

"ไจ่ไจ๋เอ้ย.....เรื่องบางเรื่องน่ะนายไม่จำเป็นต้องรายงานให้พี่ใหญ่เขารู้ก็ได้ นายมาเที่ยวนะไม่ได้มาทำวิจัยให้พี่ใหญ่ถึงจะได้ต้องเล่าทุกอย่างที่ทำให้พี่เขารับรู้ทั้งหมด" เคนอธิบายให้น้องฟังอย่างอ่อนใจ

"อ้าว! แล้วถ้าพี่เขาโทรมาตอนนี้หละ?" ไจ่ไจ๋ย้อนถามกลับไป เคนไม่ตอบเพียงแต่หยิบโทรศัพท์มือถือของน้องชายมาแล้วกดปิดเครื่อง

"พี่กลาง! เดี๋ยวพี่ใหญ่เขาติดต่อไม่ได้ก็พลอยจะเป็นห่วงอีกนะ" ไจ่ไจ๋ขัดขึ้นทันที

"ช่างพี่ใหญ่เถอะน่า! ดึกป่านนี้แล้วถ้ายังจะโทรมาอีกหละก็ถือว่าเสียมารยาทอย่างแรง" เคนพูดยังไม่ทันขาดคำโทรศัพท์มือถือของตัวเองก็ดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นพี่ใหญ่ที่โทรมา

"ใครโทรมาอ่ะพี่กลาง?" ไจ่ไจ๋ถามเมื่อเห็นเคนทำหน้ายิ้มๆ

"คนไม่มีมารยาทโทรมา" คำตอบนั้นทำเอาไจ่ไจ๋หัวเราะก๊าก

"ไม่รับหรอ?" ถามต่ออีกเมื่อเห็นเคนไม่สนใจที่จะรับสายนั้น

"จะรับให้โดนด่าทำไมหละ?" เคนว่าแล้วก็เลื่อนแก้วเหล้ามาให้น้องชาย

"พี่หมั่นไส้มัน ปล่อยให้กังวลใจเล่นซักพักก่อนแล้วค่อยโทรกลับ" น้องเล็กได้ยินก็ย่นจมูกใส่พี่ชาย

"พี่กลางอ่ะนะ หาเรื่องใส่ตัวอยู่เรื่อย แล้วนี่ถ้าพี่ใหญ่ต่อว่าเรื่องที่ผมปิดมือถือจะทำยังงัยเนี่ย?" ต่อว่าพี่ชายต่ออีก

"นายก็บอกไปสิว่าหลับแล้ว แบตหมดเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เรื่องแค่นี้ต้องให้สอนอีกหรืองัย?" เคนตอบคำถามนั้นอย่างคล่องแคล่ว

"แหม.....ใครมันจะไปลื่นเป็นปลาไหลเหมือนพี่กลางหละ?" น้องเล็กยอกย้อนแล้วยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม

"นี่! ชมหรือด่าเนี่ย?" เคนเอื้อมมือมาดึงแก้มน้องอย่างหมั่นไส้แกมเอ็นดู

"ชมสิครับ....." ไจ่ไจ๋ตอบยิ้มๆแล้วขยับเข้าไปหอมแก้มพี่ชายอย่างประจบ เคนหัวเราะแล้วเอามือขยี้หัวน้องเบาๆ ในขณะนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือของเคนก็ดังขึ้นมาอีก

"คนไม่มีมารยาทโทรมาอีกแล้ว" เคนบอกน้องชายพลางหัวเราะไปด้วย

"รับเถอะครับพี่กลางอย่าแกล้งพี่เขาอีกเลย" ไจ่ไจ๋เตือนให้พี่ชายเลิกเล่น

"รับอยู่แล้วหละ ขืนให้มันโทรมาเป็นรอบที่สามคืนนี้พี่โดนเทศน์หูชาแน่ๆ" เคนว่าแล้วเอานิ้วจิ้มหน้าผากน้องชายเบาๆ

"นั่งรอตรงนี้ห้ามไปไหน พี่จะเข้าไปรับโทรศัพท์ในห้องน้ำเดี๋ยวเดียว" สั่งกำชับน้องชายเอาไว้พร้อมกับขยับตัวลุกขึ้น

"ทราบแล้วครับ" ไจ่ไจ๋รับคำแล้วยิ้มให้พี่ชาย เคนยิ้มตอบแล้วขยี้หัวน้องอีกครั้งก่อนที่จะเดินไปเข้าห้องน้ำ หลังจากพี่ชายลุกไปแล้วไจ่ไจ๋ก็ตักอาหารบนโต๊ะกินอย่างเอร็ดอร่อย และในระหว่างที่ไจ่ไจ๋กำลังนั่งกินอาหารเพลินๆก็มีชายหนุ่มสองคนเดินเข้ามาหา

"ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าคนที่มาด้วยไปไหนแล้ว?" คำทักทายนั้นทำให้ไจ่ไจ๋เงยหน้าขึ้นมอง เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะมั่นใจว่าไม่เคยรู้จักผู้ชายสองคนนี้มาก่อน

"เอ่อ....พวกคุณ....." ไจ่ไจ๋เอียงคอทำหน้างงๆ

"ถ้าไม่รังเกียจเราขอนั่งด้วยได้หรือเปล่า?" หนึ่งในนั้นว่าและโดยไม่รอคำตอบก็นั่งลงข้างไจ่ไจ๋ทันที ไจ่ไจ๋ขยับตัวหนีอย่างตกใจ

"คือ....ผมจำไม่ได้ว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อน พวกคุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับ?" ไจ่ไจ๋มองคนทั้งสองด้วยท่าทีไม่ไว้ใจ

"เราไม่เคยรู้จักกันจริงๆนั่นแหละ แต่ต่อจากนี้เราอาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้ จริงมั๊ย?" ชายคนเดิมพูดพร้อมกับเอื้อมมือจะมาจับมือไจ่ไจ๋แต่ไจ่ไจ๋ชักมือหลบทัน

"น้องชาย ไม่เห็นต้องตกใจเลย ยังงัยเราก็เป็นพวกเดียวกันอยู่แล้ว ไม่อยากมีเพื่อนประเภทเดียวกันหรอ?" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ทำตาโตพอจะรู้แล้วว่าชายทั้งสองคนนั้นไม่ได้เป็นผู้ชายแท้ๆ ไจ่ไจ๋ยิ้มไม่ออกได้แต่มองหาพี่ชายอย่างเดียว

"แฟนน้องหน้าตาดีเหมือนกันนี่ แต่พี่ถูกใจน้องมากกว่า" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็สะดุ้ง

"ผม....ผมไม่ได้เป็นแบบนั้นนะครับ คือ.....คนที่มาด้วยน่ะเขาเป็นพี่ชายผม" รีบแก้ตัวพัลวัน

"ไม่ต้องอายหรอก พี่สังเกตตั้งแต่เข้ามาแล้ว น้องกับแฟนน่ารักดีออกเดี๋ยวกอดกันเดี๋ยวหอมแก้มกัน" ไจ่ไจ๋อ้าปากค้างเมื่อได้ยินเช่นนั้น

"มีอะไรน่ะไจ่ไจ๋!" ในตอนนั้นเองเคนก็เดินกลับมาพร้อมกับส่งเสียงถามค่อนข้างดัง เขาเองก็ตกใจที่เห็นน้องนั่งตัวลีบโดยมีชายอีกสองคนมาร่วมโต๊ะด้วย

"พี่กลาง!!" ไจ่ไจ๋เห็นหน้าพี่ชายก็ดีใจลุกพรวดเดียวไปเกาะแขนพี่ชายแน่น

"เกิดอะไรขึ้นไจ่ไจ๋? ใครทำอะไรนายหรือเปล่า?" เคนเห็นท่าทีของน้องก็พลอยตกใจไปด้วย

"มะ....ไม่ได้เป็นไร......" ตอบแบบตะกุกตะกักแล้วส่งสายตาไปที่คนแปลกหน้าสองคนนั้น

"พวกคุณเป็นใคร?" เคนหันขวับกลับไปถามด้วยน้ำเสียงกระตุกเล็กน้อย

"ใจเย็นๆ เราแค่อยากรู้จักเท่านั้นเอง" คำตอบนั้นทำเอาเคนลืมตัวมองชายตรงหน้าทั้งคู่ตั้งแต่หัวจรดเท้า

"ต๊าย! เสียมารยาท! ดูมองเข้า!" หนึ่งในนั้นต่อว่าต่อขานขึ้นมา เคนจึงค่อยรู้สึกตัว

"เขาเป็นแบบนั้นอ่ะ" ไจ่ไจ๋กระซิบบอกพี่ชาย

"รู้แล้ว! เห็นแค่นี้ก็รู้แล้ว!" เคนกระซิบกลับแล้วหันมายิ้มแหยๆให้ชายแปลกหน้าทั้งสองคน

"คือผมกับน้องไม่ใช่......" เคนตั้งท่าจะอธิบายแต่ก็โดยพูดแทรกขึ้นมาก่อน

"จะอายอะไรกัน พี่เห็นน้องสองคนจู๋จี๋กันตั้งแต่เข้ามาแล้ว เห็นหมดแล้ว ไม่ต้องปิดบังหรอก" หนึ่งในนั้นว่าพลางยิ้มหวานให้

"นี่มันน้องชายผมไม่ใช่แฟน!!" เคนพูดเสียงดังจนคนรอบข้างหันมามอง

"เพิ่งคบกันหละสิ ก็แบบนี้แหละแรกๆก็อาย" คู่สนทนาไม่ฟังเสียงซ้ำยังพูดต่อด้วยท่าทางสบายๆ เคนทำหน้าบอกไม่ถูกก่อนที่จะนึกอะไรขึ้นมาได้

"ไจ่ไจ๋ เอาบัตรประชาชนออกมาซิ" หันไปบอกน้อง แม้จะงงๆแต่ไจ่ไจ๋ก็หยิบบัตรประชาชนมาให้พี่ชายซึ่งเคนก็หยิบของตัวเองออกมาด้วยเช่นกัน

"นี่ครับ เราเป็นพี่น้องกันจริงๆ พ่อแม่เดียวกันเลย" เคนให้ดูหลักฐานเพื่อยืนยัน

"จริงด้วย ตกลงเป็นพี่น้องกันหรอเนี่ย?" สองคนนั้นดูพลางซุบซิบกันเอง

"เชื่อแล้วว่าเป็นพี่น้องกันจริงๆ แต่ว่าน้องชายคุณน่ารักนะ" หนึ่งในนั้นพูดกับเคน ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ยึดแขนพี่ชายเอาไว้แน่น เคนหันมามองน้องชายแล้วก็อดที่จะขำไม่ได้

"ยกให้เอามั๊ยครับ?" ย้อนถามยิ้มๆ

"พี่กลาง!!" ไจ่ไจ๋ตีแขนพี่ชายดังเพี๊ยะ

"ท่าทางเขาคงไม่ยอมหรอก แต่ถ้าเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ก็มาหาพี่ได้แถวๆนี้นะ" หันมาพูดหยอกไจ่ไจ๋เล่น
ด้วย แต่ไจ่ไจ๋กลับซุกหน้าหลบข้างหลังพี่ชายไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาเลย

"กลัวอะไร?" หลังจากผู้มาเยือนจากไปแล้วเคนก็หันมาถามน้องขำๆ ไจ่ไจ๋มองพี่ชายด้วยสีหน้าบึ้งตึง

"ผมจะกลับห้องพัก!" พูดจบก็ลุกขึ้นทันที

"เฮ้ย! ไปคนเดียวเดี๋ยวโดนฉุดหรอก" เคนร้องเตือนน้องชายขำๆแต่ไจ่ไจ๋ได้ยินแล้วก็ชะงักรู้สึกกลัวกับคำพูดของพี่ชายเหมือนกัน

"ลุกเดี๋ยวนี้เลยนะพี่กลาง!!!" กระแทกเสียงใส่พี่ชายหน้าหงิกหน้างอ

"โอเคๆๆๆ ไปก็ได้" เคนยอมตามน้องแต่ไม่วายแอบขำอีกด้วย เขารีบเรียกเก็บเงินแล้วพาน้องกลับไปที่ห้องพักทันที

"นายนี่เสน่ห์แรงจริงๆเลยนี่หว่า ฮ่าๆๆๆ!!!" เมื่อกลับเข้าห้องพักแล้วเคนก็แซวน้องอีก ไจ่ไจ๋เลยยิ่งหน้างอหนักกว่าเก่า

"ถ้าพี่มาช้ากว่านี้สงสัยนายเสร็จแน่" พูดต่อพลางหัวเราะร่วน

"อย่าพูดมากได้มั๊ย? คิดแล้วขนลุก!" ไจ่ไจ๋แหวใส่แล้วเอามือลูบแขนตัวเองไปด้วยก่อนที่จะเดินไปนั่งหน้ากระจกแล้วส่องดูหน้าตัวเองหันซ้ายทีขวาทีอย่างสำรวจ

"ทำอะไรของนายวะ?" เคนถามเมื่อเห็นน้องทำท่าทางดังกล่าว

"พี่.....หน้าผมนี่มันเหมือนเป็นแบบนั้นจริงหรอ?" จู่ๆไจ่ไจ๋ก็ถามไจ่ไจ๋ขึ้นมาอย่างสงสัย เคนได้ยินก็หัวเราะออกมาอีกรอบ

"หน้าตานายน่ะไม่เหมือนหรอก แต่ท่าทางอาจจะมีเข้าข่าย" ได้ยินดังนั้นไจ่ไจ๋ก็เปลี่ยนสายตามามองหน้าพี่ชาย

"หมายความว่างัย? พี่ว่าผมตุ้งติ้งงั้นหรอ? ผมไม่เคยทำอะไรแบบนั้นซักหน่อย" พูดอย่างพาลหาเรื่องพี่ชาย

"ไม่ใช่เรื่องตุ้งติ้งหรอก แต่ไอ้เรื่องที่นายชอบกอดประจบใครไปทั่วน่ะสิ ผู้ชายแมนๆที่ไหนเขาจะทำแบบนั้น" เคนตอบน้องชายยิ้มๆ

"ผมไปกอดใครคนอื่นที่ไหนกัน จะมีก็แต่พวกพี่กับพ่อแม่เท่านั้นแหละที่ผมจะกอด" น้องเล็กเถียงกลับ

"แล้วคนอื่นที่เขาเห็นจากภายนอกเขาจะรู้มั๊ยว่านายกอดกับคนในครอบครัวน่ะ วันหลังดูสถานที่หน่อยก็ดี" น้องเล็กหันไปค้อนใส่คนพูด

"ก็พี่นั่นแหละตัวดี ชวนผมไปนั่งกินข้าวในนั้นทำไมก็ไม่รู้!" โทษพี่ชายหน้าตาเฉย

"ฮึ! แล้วไอ้ตอนแรกที่ถามใครมันกระดี๊กระด๊าอยากจะไปกันหละ?" เคนย้อนเจ้าน้องชายตัวดีเข้าให้ ไจ่ไจ๋เบ้ปากใส่แล้วถามพี่ชายต่อ

"แล้วเมื่อกี้พี่ใหญ่ว่ายังงัย?" เคนได้ยินก็หัวเราะหึๆในลำคอ

"ไม่รู้เหมือนกัน พี่ฟังไม่ทันเพราะมันด่าเป็นชุดเลย หาว่าพี่จงใจไม่รับโทรศัพท์ รู้ดีอย่างกับตาเห็นแหนะ" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็หัวเราะด้วยเช่นกัน

"ผมว่านะพี่ใหญ่ต้องมีญาณวิเศษแน่ๆเลย เพราะไม่ว่าเราจะทำอะไรพี่เขาก็รู้หมดทุกเรื่องแม้จะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วยก็ตาม" พูดนินทาพี่ชายคนโตแบบติดตลก

"พี่ก็ว่างั้นแหละ ยังคิดอยู่เลยว่าตอนนั้นที่มันโดนปล้นน่ะมันตายไปแล้วจริงๆหรือเปล่า? แล้วที่เราเห็นๆกันอยู่ทุกวันนี้เป็นวิญญาณมันหรือเปล่าเนี่ย?" เคนเองก็พลอยผสมโรงกับน้องไปด้วย

"หูยยย.....พี่กลางอย่าพูดแบบนี้สิ....." ไจ่ไจ๋ได้ยินเช่นนั้นก็พูดเป็นเชิงปรามพี่ชาย

"นี่.....นายคงไม่คิดว่าที่พี่พูดเป็นเรื่องจริงหรอกนะ ไม่ใช่ว่ากลับไปนายไม่กล้าเข้าใกล้พี่ใหญ่เพราะนึกว่าพี่เขาเป็นวิณญาณนะไจ่ไจ๋" พูดดักคอน้องชายขึ้นมาก่อนเพราะรู้ดีว่าน้องเป็นคนขี้กลัว

"พี่กลาง! พูดจาอะไรไม่เห็นดีเลย ไม่เอาไม่คุยด้วยแล้ว ไปอาบน้ำดีกว่า" พูดจบไจ่ไจ๋ก็เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพาดที่บ่า

"ระวังเวลาล้างหน้าหน่อยนะ ไม่แน่เวลาลืมตาขึ้นมาอาจจะ......" เคนพูดค้างไว้แค่นั้นเพราะโดนน้องชายแหวใส่เสียก่อน

"พี่กลาง!!!" คราวนี้น้องเล็กแหวใส่พี่ชายด้วยสีหน้าจริงจัง

"อะไรเล่า! พี่หมายถึงว่าเวลาล้างหน้าต้องแน่ใจว่าล้างสะอาดแน่แล้วถึงค่อยลืมตาไม่งั้นฟองสบู่เข้าตาแล้วมันจะแสบ คิดไปถึงไหน?" เคนเฉไฉแก้ต่างให้ตัวเองหน้าตาเฉย แต่เมื่อเห็นน้องยังยืนมองด้วยสีหน้าบึ้งตึงเคนก็แอบยิ้มแบบเจ้าเล่ห์

"ถ้ากลัวพี่เข้าไปอาบน้ำให้นายก็ได้ เอามั๊ยหละ?" พอได้ยินพี่ชายพูดเช่นนั้นน้องเล็กก็หน้าแดง

"ไม่ต้องยุ่งเลย" พูดจบก็คว้าหมอนใกล้มือปาใส่พี่ชายแต่เคนก็รับไว้ได้ทันซ้ำยังหัวเราะเจ้าน้องชายขี้กลัวไปด้วย

"ไม่ให้ยุ่งงั้นพี่กลับห้องก็ได้ นอนเองแล้วกันวันนี้" พูดจบก็ทำท่าจะลุกขึ้นแต่ถูกน้องชายโถมตัวเข้าใส่จนหงายหลังไปบนเตียง

"ถ้ากล้าหนีผมไปก็ลองดูสิ!" พูดจบไจ่ไจ๋ก็เอามือจี้เอวพี่ชายเป็นการแก้แค้น เคนหัวเราะเสียงดังลั่นแล้วเอามือผลักร่างน้องชายเป็นพัลวัน

"ไม่หนีๆๆๆ!!! ฮ่าๆๆๆ!!! พอแล้วไจ่ไจ๋!!!" เคนร้องขอให้น้องชายหยุด ไจ่ไจ๋มองหน้าพี่ชายที่หัวเราะจนน้ำตาไหลแล้วก็อดที่จะขำไม่ได้แต่ยังแกล้งทำหน้าบึ้งใส่

"ชอบแกล้งดีนัก! คอยดูกลับไปผมจะฟ้องพี่ใหญ่ คราวนี้ได้มีคนโดนตีจนก้นลายกันบ้างหละ" เคนเบ้ปากใส่แล้วเอื้อมมือไปบีบจมูกน้องชายขี้ฟ้อง

"กลัวจะแย่แล้วครับ.....จะไม่แกล้งน้องชายคนนี้อีกแล้ว....." กัดฟันพูดกับเจ้าน้องชายตัวดี

"ดีมาก! ให้รู้ซะมั่งว่าใครเป็นใคร" ไจ่ไจ๋ได้ทีพูดข่มพี่ชาย

"เฮ้ย! เดี๋ยวยันโครมไปโน้นเลย! หนอย! เล่นด้วยหน่อยแล้วเอาใหญ่เลยนะ" เคนทำตาดุใส่น้อง น้องเล็กเลยกลายเป็นฝ่ายยิ้มแหยๆบ้าง

"ล้อเล่น.....อื้ม!!.....อย่าเพิ่งไปไหนนะครับอยู่เป็นเพื่อนกับผม......" ไจ่ไจ๋หอมแก้มพี่ชายพร้อมกับเอ่ยปากอ้อนแต่ยังพูดไม่ทันจบเคนก็ต่อประโยคให้อย่างเสร็จสรรพ

"อยู่เป็นเพื่อนกับผมจนกว่าผมจะหลับ เพราะไม่อย่างนั้นแล้วคืนนี้ผมคงต้องเปิดไฟสว่างโร่แล้วนั่งตาค้างทั้งคืนเพราะกลัวผีแน่ๆ" ไจ่ไจ๋ทำจมูกย่นเมื่อพี่ชายรู้ทันเขาทุกที

"ไปๆๆๆ รีบไปอาบน้ำเลย พี่รออยู่นี่แหละรับรองว่าไม่ไปไหนหรอก" แล้วเคนก็ไล่ให้น้องไปอาบน้ำเสียทีเพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว น้องเล็กเองก็รีบลุกเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างว่าง่ายเพราะกลัวว่าต่อล้อต่อเถียงด้วยอีกแล้วพี่ชายจะหนีเขาไปจริงๆ



- วันต่อมา -

"ตื่นแล้วก็รีบอาบน้ำแล้วเอาบัตรอาหารเช้าลงไปกินข้าวซะ วันนี้เรือจะเทียบท่ารับนักท่องเที่ยวถ้าอยากเที่ยวก็อย่าโอ้เอ้" ไจ่ไจ๋อมยิ้มเมื่ออ่านข้อความของพี่ชายคนกลางที่เขียนโน๊ตไว้ให้เขา จากนั้นก็รีบอาบน้ำแล้วลงไปถือบัตรอาหารเช้าลงไปที่ห้องอาหาร

"ที่เดียวนะคะ" พนักงานรับบัตรมาพร้อมกับถามย้ำไจ่ไจ๋

"ที่เดียวครับ" ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้พนักงานหญิงคนนั้น

"เชิญทางนี้ค่ะ" นำทางไจ่ไจ๋มานั่งและแนะนำว่าเช้านี้มีอาหารอะไรบ้าง จนเมื่อแนะนำเสร็จแล้วก็เชิญให้ไจ่ไจ๋ไปตักอาหารตามอัธยาสัย

"กินอะไรดีน้า....." ไจ่ไจ๋มองดูอาหารหลากหลายชนิดที่วางเรียงรายอยู่พลางครุ่นคิดอย่างตัดสินใจ

"เอาไข่ดาว เบคอน ไส้กรอก แล้วก็โกโก้ร้อนซักถ้วยก่อนดีกว่า เออ....ซีเรียลด้วยก็ดี....." เมื่อตัดสินใจได้แล้วไจ่ไจ๋ก็ลงมือตักอาหารมานั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย ไจ่ไจ๋กินไปพลางมองผู้คนที่เริ่มทยอยเข้ามากินอาหารเช้าอย่างเพลิดเพลินใจ ในวันนี้เขาไม่รู้สึกประหม่าเหมือนในวันแรกแล้วเพราะในวันแรกที่พี่ชายสั่งให้เขาลงมากินข้าวคนเดียวนั้นเขาได้แต่เงอะๆงะๆทำอะไรไม่ค่อยถูก แต่เขาก็รู้สึกดีที่อย่างน้อยเขาก็ได้ประสบการณ์เล็กๆน้อยๆกลับไปบ้างแล้ว

"อืม....อร่อยจัง!" ไจ่ไจ๋พึมพำกับตัวเองแต่ยังรู้สึกไม่ค่อยอิ่มจึงมองหาของกินต่อ

"เอาขนมปังปิ้งซักสองแผ่น น้ำส้มคั้นแก้วนึง แล้วก็ข้าวต้มอีกซักชามน่าจะอิ่มกำลังดี" ว่าแล้วไจ่ไจ๋ก็ลุกขึ้นไปตักอาหารแล้วกลับมานั่งกินต่อ จนเมื่อกินเสร็จแล้วไจ่ไจ๋ก็ลุกจะออกไปเดินรับลมเล่นข้างนอก แต่ในขณะที่เขาเดินออกตรงทางออกนั้นก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาชนเขาอย่างจัง

"โอ้ย!" ไจ่ไจ๋ตัวเซไปตามแรงปะทะนั้น

"เฮ้ย! เดินยังงัยกันวะไม่มองบ้างเลย!" น้ำเสียงโกรธเกรี้ยวนั้นทำให้ไจ่ไจ๋อึ้งไป เขาเงยหน้ามองป้ายที่เขียนไว้อย่างชัดเจนว่าเป็นทางออก

"มองหน้าแบบนี้จะหาเรื่องหรืองัย!?" หนุ่มใหญ่คู่กรณีจ้องหน้าไจ่ไจ๋ตาเขม็ง คนรอบข้างต่างพากันหันมามอง ไจ่ไจ๋เองก็ไม่อยากมีเรื่องจึงเป็นฝ่ายเอ่ยขอโทษออกไปก่อน

"ขอโทษครับ ผมซุ่มซ่ามเองที่ไม่ทันดู" พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแล้วทำท่าจะเดินเลี่ยงออกไปแต่ชายคนนั้นกระชากแขนไจ่ไจ๋ไว้ไม่ยอมให้ไป

"ง่ายแค่นี้หรืองัย!? รู้หรือเปล่าว่าชั้นเป็นใคร?" ไจ่ไจ๋ได้ยินดังนั้นก็เริ่มโกรธจึงมองคู่กรณีด้วยแววตาแข็งกร้าว แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรชายคนนั้นก็เงื้อนหมัดขึ้นจะชกไจ่ไจ๋

"ผั๊วะ!!!" แต่แล้วกลับมีหมัดหนักๆซัดเข้าที่หน้าคนอวดเก่ง

"พี่กลาง!!" ไจ่ไจ๋ร้องอุทานเมื่อเห็นว่าเป็นพี่ชายที่สวนหมัดใส่คู่กรณีตรงหน้าจนล้มลง แล้วทำท่าจะเข้าไปซ้ำแต่เสียงเอะอะของผู้คนรอบข้างก็ดังขึ้นพร้อมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบนเรือที่วิ่งกรูกันเข้ามาห้ามทัพไว้

"แกเป็นใครวะ!! กล้าดียังงัยมาชกหน้าชั้น!!" คู่กรณีของไจ่ไจ๋ถึงกลับเลือดขึ้นหน้าชี้หน้าเคนแล้วตวาดใส่เสียงดัง

"แล้วคุณเป็นใคร!? กล้าดียังงัยมาหาเรื่องน้องชายผม!?" เคนไม่ตอบแต่ย้อนถามกลับไปด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยวไม่แพ้กัน

"น้องแกมันเดินซุ่มซ่ามมาชนชั้นน่ะสิ!" ชายคนนั้นตวาดใส่เคนอีก

"คุณตาบอดหรืองัย? ป้ายเขาเขียนไว้ชัดเจนว่านี่มันทางออก แล้วคุณเดินสวนทางเข้ามานี่มันถูกต้องแล้วหรืองัย!?" เคนตวาดกลับไปพร้อมกับชี้ไปที่ป้ายอย่างโมโห

"พวกคุณสองคนหยุดเถียงกันได้แล้ว!" เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพูดแทรกคนทั้งคู่ ก่อนที่จะหันไปสั่งลูกน้องคนอื่น

"พาไปสงบสติอารมณ์กันก่อนแล้วค่อยสอบสวน" จบคำนั้นเข้าหน้าที่ก็ตรงเข้าคุมตัวเคนและชายคนนั้นไว้

"พี่กลาง!" ไจ่ไจ๋เองก็ถึงกลับหน้าเสียที่เรื่องบานปลายมาถึงขนาดนี้

"นายไม่เป็นไรนะไจ่ไจ๋?" หันไปถามน้องชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

"ไม่เลยครับ" ไจ่ไจ๋ส่ายหน้าขอบตาร้อนผ่าวเหมือนน้ำตาจะไหลให้ได้

"ไม่ต้องกลัวนะ" เคนพูดปลอบใจน้องชายแล้วเดินตามเจ้าหน้าที่ไปแต่โดยดี ไจ่ไจ๋เองก็เดินตามไปด้วยแต่เมื่อถึงห้องสำหรับคุมตัวไจ่ไจ๋ก็ถูกห้ามไม่ให้เข้าไป

"พี่ชายผมไม่ผิดนะครับ เขาแค่ช่วยผม....." ไจ่ไจ๋พยายามบอกเจ้าหน้าที่

"เราจะสอบสวนเรื่องราวทั้งหมดเองครับ คุณรอข้างนอกก่อน" เจ้าหน้าที่บอกกับไจ่ไจ๋ก่อนจะพาตัวเคนเข้าไปในห้องนั้น ไจ่ไจ๋มองตามพี่ชายอย่างเป็นห่วงแล้วเดินวนอยู่หน้าห้องนั้น

"ไจ่ไจ๋" เสียงเรียกนั้นทำให้ไจ่ไจ๋เปลี่ยนสายตาไปยังต้นเสียงก็พบว่าเป็นพ่อของกลอเรีย

"คุณอา" ไจ่ไจ๋ก้มหัวทักทายด้วยสีหน้าหนักใจ

"ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวอาช่วยไกล่เกลี่ยให้" พ่อของกลอเรียพูดด้วยน้ำเสียงปลอบโยนอยู่ในที ไจ่ไจ๋พยักหน้ารับแล้วฝืนยิ้มให้ พ่อของกลอเรียจึงเคาะประตูแล้วแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าเคนเป็นลูกน้องของเขา เจ้าหน้าที่จึงยอมให้เข้าไปด้วย ในระหว่างนั้นไจ่ไจ๋ก็นั่งรออย่างกระวนกระวาย จนผ่านไปครู่ใหญ่ทุกคนก็ทยอยกันออกมาจากห้องนั้น

"พี่กลาง" ไจ่ไจ๋รีบลุกขึ้นไปหาพี่ชาย เคนกอดคอน้องแล้วตบไหล่น้องเบาๆ

"หมดเรื่องแล้ว" เคนบอกน้องแล้วยิ้มให้ ไจ่ไจ๋สวมกอดพี่ชายอย่างโล่งใจ ในขณะนั้นคู่กรณีก็เดินตามออกมาแล้วมองสองพี่น้องก่อนจะเดินจากไปโดยไม่พูดอะไร

"เขาว่ายังงัยบ้าง?" ไจ่ไจ๋สอบถามพี่ชาย

"ก็ไกล่เกลี่ยกันได้" เคนตอบน้องสั้นๆแล้วหันไปก้มหัวให้พ่อของกลอเรีย

"ขอบคุณมากนะครับหัวหน้า" เอ่ยขอบคุณขึ้นมาเบาๆ

"ลำบากหน่อยนะ" คำตอบนั้นทำให้ไจ่ไจ๋สงสัยแต่ก็ยังไม่ได้ถามอะไรออกมาในตอนนั้น

"งั้น.....ไปพักผ่อนเถอะ" พูดจบก็ตบไหล่เคนแล้วเดินจากไป ไจ่ไจ๋มองตามพ่อของกลอเรียก่อนที่จะหันมามองหน้าพี่ชาย

"ไป....ไปที่ห้องพักของนายดีกว่า......" เคนพูดตัดบทก่อนที่น้องจะทันได้ถามอะไรออกมา

"แล้วพี่กลางไม่ต้องทำงานต่อหรอ?" เคนอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะยิ้มให้น้องแล้วจูงมือน้องกลับมาที่ห้องพัก

"พี่กลางครับ ตกลงว่าผู้ชายคนนั้นเขา......" ไจ่ไจ๋ยังถามไม่ทันจบเคนก็ชิงตอบก่อน

"เขายอมจบเรื่อง" เคนตอบพร้อมกับลูบหัวน้องชายไปด้วย

"พอดีพ่อของพี่กลอเรียเขาช่วยพูดให้น่ะ แต่ก็พูดเป็นเชิงขู่ว่าถ้าจะเอาเรื่องกันให้ถึงที่สุดเรือเทียบท่าเมื่อไหร่ก็ต้องไปโรงพักให้ตำรวจจัดการ ไอ้หมอนั้นมันก็กลัวอยู่เหมือนกันเพราะมันเป็นคนหาเรื่องนายก่อนมันเลยยอมจบเรื่องเพราะมันรู้ตัวว่าผิดเหมือนกัน" ไจ่ไจ๋ได้ฟังก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ

"เพราะผมแท้ๆเลยทำให้พี่กลางเดือดร้อน" พูดตำหนิตัวเองด้วยสีหน้าเศร้าๆ

"พูดอะไรแบบนี้หละ? ถ้าพี่ไม่ทำแบบนี้พี่เองนี่แหละที่จะเสียใจที่ปกป้องนายไม่ได้" น้องเล็กมองหน้าพี่ชายแล้วขยับเข้าไปกอด

"ทำไมจู่ๆพี่ถึงเข้ามาช่วยผมได้หละ?" ถามพี่ชายต่ออีก

"พอดีพี่เอาอาหารมาเติมแล้วได้ยินเสียงเอะอะพอดี พอหันไปเห็นว่าเป็นนายพี่ก็เลยจัดการไอ้หมอนั้นซะ" เคนตอบคำถามน้องด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

"พ่อของพี่กลอเรียตำหนิพี่หรือเปล่าครับ?" ไจ่ไจ๋ถามต่ออีก เคนลูบหัวน้องอย่างแผ่วเบาแล้วยิ้มบางๆ

"ไม่หรอก" แม้พี่ชายจะพูดเช่นนั้นแต่ไจ่ไจ๋ก็พอจับน้ำเสียงไม่สบายใจของพี่ชายได้

"พี่กลาง.....บอกผมมาตรงๆเถอะครับว่ามีเรื่องอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่า?" ผละตัวออกจากอ้อมกอดของพี่ชายแล้วถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"บอกว่าไม่มีอะไรงัยหละ ถามเซ้าซี้จัง" เคนแกล้งต่อว่าน้องชายเพราะไม่อยากบอกน้องว่าเขาถูกลงโทษโดยการให้พักงานหนึ่งเดือนและไม่จ่ายเงินเดือนให้ด้วย

"ผมไม่เชื่อ มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น พี่อย่าปิดบังผมเลย" น้องเล็กรู้ดีว่าพี่ชายต้องมีเรื่องบางอย่างที่ไม่อยากบอกเขา พอโดนคาดคั้นเอาหนักขึ้นเคนเลยได้แต่ถอนหายใจยาว

"ไม่มีอะไรหรอก พี่ก็แค่ถูกลงโทษให้พักงานตามกฎของบริษัท" เมื่อเห็นว่าน้องคงซักไม่เลิกเคนเลยบอกไปตรงๆ น้องเล็กได้ยินก็มีสีหน้าตกใจ

"อะไรนะ! พี่ถูกลงโทษหรอ? ไม่ยุติธรรมเลย! พี่ไม่ได้ทำผิดอะไรซักหน่อย!" พอตั้งสติได้ไจ่ไจ๋ก็โวยวายยกใหญ่

"ไจ่ไจ๋....." เคนพยายามจะบอกน้องว่าไม่เป็นไรแต่ไจ่ไจ๋กลับไม่สนใจฟัง

"ผมจะไปบอกพ่อพี่กลอเรียว่าเรื่องนี้พี่ไม่ผิด แล้วผมจะไปเอาเรื่องไอ้หมอนั่นที่มันหาเรื่องผมก่อน เรือเทียบท่าเมื่อไหร่ผมจะไปแจ้งความ!" ไจ่ไจ๋ลุกพรวดจะออกไปเอาเรื่อง ตอนนี้เขาโกรธมากจริงๆ

"ไจ่ไจ๋!! อย่า! ไม่ต้อง......ไม่ต้องทำแบบนั้น....." เคนรีบดึงน้องมากอดไว้เพราะรู้ดีว่าน้องกำลังโกรธ

"ช่างมันเถอะ พี่ไม่เป็นไรหรอก เงินเก็บพี่ก็มีเยอะนะ มีพอซื้อขนมให้นายได้ทุกเดือนแม้จะไม่ได้ทำงานเลยด้วย" เคนพยายามพูดปลอบน้องชายแบบติดตลก

"ส่วนไอ้หมอนั่นก็ปล่อยมันเถอะ แล้วมันจะได้รับกรรมเองนั่นแหละ" แม้พี่ชายจะพยายามปลอบโยนแต่ไจ่ไจ๋ก็ยังไม่หายโมโห

"ผมไม่ยอมหรอกพี่กลาง! พี่ถูกพักงานได้ยังงัย? ไม่มีเหตุผลเลย!" ไจ่ไจ๋พูดเสียงแข็ง

"เรื่องนั้นโทษใครไม่ได้หรอก.....ไจ่ไจ๋.....พี่ว่านายควรจะดีใจนะที่พี่จะได้อยู่บ้านกับนายไปตลอดทั้งเดือนเลย" ต่อให้พี่ชายพยายามนำทางให้เห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยมากแค่ไหนแต่ไจ่ไจ๋ก็ยังไม่หายโมโห

"ผมนี่แย่จริงๆ สร้างปัญหาให้พี่อีกแล้ว" พูดตำหนิตัวเองแล้วทิ้งตัวนั่งลงตามเดิม

"อย่าโทษตัวเองสิ นายไม่ได้ทำผิดอะไรเลยนะ พี่ต่างหากที่ผิดเพราะพี่ดูแลนายไม่ดีปล่อยให้โดนไอ้หมอนั่นรังแก" ไจ่ไจ๋ไม่พูดว่าอะไรเพียงแต่สบตากับพี่ชายด้วยแววตาอ่อนลง

"พี่กลาง.....ถ้าผมไม่มีพี่อยู่ด้วยไม่รู้ว่าป่านนี้ผมจะเป็นยังงัย ขอบคุณมากนะครับ" เคนได้ยินก็ยิ้ม

"ไม่ต้องหรอก พี่บอกแล้วงัยว่าพี่มีน้องชายแค่คนเดียว ถ้าพี่ปกป้องนายไม่ได้ก็แย่แล้วหละ" พูดจบก็รั้งตัวน้องชายมากอดไว้ ไจ่ไจ๋เองก็ซุกหน้าลงที่อ้อมอกของพี่ชายอย่างอุ่นใจ


- เวลาต่อมา -

"เดินเร็วๆสิไจ่ไจ๋!" เคนเร่งน้องชายที่เดินงัวเงียลงจากเรือเพราะเพิ่งโดนพี่ชายลากขึ้นมา

"โธ่! กำลังหลับสบายๆเลย" ไจ่ไจ๋บ่นแต่ก็เดินไปตามแรงจูงของพี่ชาย

"งั้นกลับไปนอนมั๊ย? ไม่ต้องเที่ยวมันเแล้ว" เคนว่าพร้อมกับทำหน้าหาเรื่องน้อง

"ไม่เอาๆๆๆ เที่ยวสิครับพี่กลาง ว้าว! อากาศดี๊ดี....." ไจ่ไจ๋รีบทำเสียงประจบทันทีอย่างรู้งาน เคนส่ายหน้าไปมาแล้วเอามือขยี้หัวน้องชายอย่างหมั่นไส้

"เรือจะอยู่เทียบท่านานมั๊ยครับพี่กลาง?" ไจ่ไจ๋หันมาถามพี่ชายต่อ

"ก็ราวๆสองชั่วโมงได้ คงไปไหนไกลๆไม่ได้หรอก" เคนตอบน้องชาย

"อืม....ไม่เป็นไร เดินเล่นแถวนี้ก็พอ พี่กลางเอากล้องถ่ายรูปมาด้วยหรือเปล่า?" น้องเล็กว่าแล้วถามพี่ชายต่ออีก

"เอามาสิ ว่าแต่นายแบบน่ะพร้อมจะให้พี่ถ่ายรูปให้หรือยัง?" เคนย้อนถามน้องกลับยิ้มๆ

"พร้อมแล้ว แต่ว่าอย่าลืมจ่ายค่าตัวนะ" พูดจบไจ่ไจ๋ก็ยืนเก๊กท่าให้พี่ถ่ายรูปทันที เคนหัวเราะแล้วคว้ากล้องมากดชัดเตอร์ถ่ายภาพให้น้องชาย

"นี่ๆๆๆ ไม่อายชาวบ้านเขาบ้างหรืองัย?" เคนต่อว่าน้องชายที่เก๊กท่าตลกๆให้เขาถ่ายรูป

"อยู่กับพี่กลางจะอายทำไม?" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็เร่งให้พี่ชายถ่ายรูปให้เขาอีก

"นายกับไอ้พี่รองนี่เหมือนกันเลย เจอกล้องหน่อยไม่ได้ เต๊ะท่าซะน่าเตะเชียว" เคนพูดพาดพิงไปถึงพี่ชายคนรอง

"หึๆๆๆ" น้องเล็กไม่ว่าอะไรเพียงแต่หัวเราะในลำคอเท่านั้น

"เออ! ผมถ่ายภาพให้พี่บ้างดีกว่า" ว่าแล้วก็เดินมาแย่งกล้องจากมือพี่ชาย

"ไม่เอา! นายถ่ายรูปไม่สวย ถ่ายออกมาทีไรดูไม่ค่อยจะได้เลย" เคนแย้งแล้วดึงกล้องกลับคืนมา

"แหม.....กะอีแค่ถ่ายรูปจะอะไรนักหนา แค่ถ่ายไว้ดูเป็นที่ระลึกก็พอแล้วไม่ต้องเน้นภาพสวยฝีมือดีหรอกน่า ไม่ได้เอาไปส่งประกวดซักหน่อย ไป.....ไปยืนตรงนั้น!" บ่นพี่ชายเสร็จก็ชี้นิ้วให้พี่ชายไปยืน

"ถ้าถ่ายออกมาแล้วพี่ดูอ้วนนะจะด่าให้......" เคนบ่นงึมงำเพราะกลัวน้องจะถ่ายรูปออกมาแล้วตัวเองไม่หล่อเพราะกล้องแบบนี้เป็นกล้องแบบของมืออาชีพที่มีออพชั่นให้ปรับเปลี่ยนเยอะมาก

"เอาหละนะ.....หนึ่ง....สอง.....สาม!" เคนยิ้มเต็มทีเมื่อได้ยินเสียงน้องชายนับแต่แล้วไจ่ไจ๋กลับลดกล้องลง

"อ้าว! ทำไมไม่ถ่ายหละ?" เคนโวยวายเมื่อเห็นว่าน้องยังไม่ได้ถ่ายภาพให้ตัวเอง

"ผมลืมไปว่าปุ่มกดมันอยู่ตรงนี้" น้องเล็กว่าพลางหัวเราะแหะๆ

"ไอ้บ้า! แค่ปุ่มกดยังไม่รู้ว่าจะกดตรงไหนงั้นก็อย่าถ่ายเลย!" ในขณะที่เคนกำลังโวยวายไจ่ไจ๋ก็กดถ่ายภาพพี่ชายทันที

"เฮ้ย!!! ถ่ายภาพอะไรของนายวะ?" เคนเลยยิ่งโวยวายใหญ่ ไจ่ไจ๋หัวเราะร่าแล้วกดถ่ายภาพพี่ชายอีกหลายภาพ

"ไจ่ไจ๋! อย่ากดมั่วดิวะมันเปลืองฟิล์ม!" พูดจบก็เดินเข้าไปแย่งกล้องถ่ายรูปออกมาจากมือน้องชาย

"ก็ผมอยากได้รูปของพี่กลางที่ดูเป็นธรรมชาตินี่นา ตอนนี้ได้สมใจแล้ว ฮ่าๆๆๆ!!!" ไจ่ไจ๋ให้เหตุผลพร้อมกับหัวเราะไปด้วย

"ธรรมชาติบ้าบออะไรวะ! หูยยย.....ออกมาต้องไม่หล่อแหงๆ....." พูดจบก็อดที่จะบ่นงึมงำต่อไม่ได้

"อ้อ! เพิ่งรู้ว่าพี่กลางกลัวตัวเองจะไม่หล่อด้วย....." ไจ่ไจ๋ได้ยินก็เอ่ยแซวแต่เคนหันมาทำตาขวางใส่ก็ปั้นยิ้มหวานให้แทน

"ไอ้ทะเล้น! ไม่ต้องมายุ่งกับกล้องของพี่อีกเลย!" เคนทำเสียงห้วนใส่น้อง

"โอ๋ๆๆๆ ล้อเล่นเองครับ มา.....เรามาถ่ายรูปคู่กันบ้างดีกว่า" พูดจบก็ดึงกล้องจากมือพี่ชายแล้ววิ่งไปขอให้คนแถวนั้นช่วยถ่ายรูปให้ตัวเองกับพี่ชาย

"ขอบคุณมากนะครับ" หลังจากที่ถ่ายภาพเสร็จแล้วไจ่ไจ๋ก็เอ่ยขอบคุณคนถ่ายภาพให้อย่างสุภาพ เคนมองน้องชายแล้วอดที่จะยิ้มไม่ได้

"อืม.....นายพัฒนาขึ้นเหมือนกันนะ เพราะเมื่อก่อนเวลาจะเข้าไปไหว้วานใครนายจะอายไม่ค่อยกล้า" เมื่อน้องเดินกลับมาส่งกล้องคืนให้เคนก็เอ่ยชมน้อง

"แหงสิ! เพราะผมได้เรียนรู้ความหน้าด้านมาจากใครแถวๆนี้!" พูดจบก็ดีดตัวออกห่างจากรัศมีเท้าที่พี่ชายขยับยกขึ้นมาจะเตะเขา

"ไจ่ไจ๋! ไอ้น้องบ้า! มาให้เตะซะดีๆเลย!" เคนชี้หน้าน้องพร้อมกับโวยวาย น้องเล็กหัวเราะก่อนที่จะวิ่งหนีพี่ชายซึ่งเคนก็วิ่งตามน้องไปด้วย

"ฮ่าๆๆๆ!!!" ไจ่ไจ๋มานั่งลงหัวเราะบนม้านั่งข้างทางเมื่อเห็นพี่ชายยืนหอบแฮ่กๆห่างออกไปไม่ไกลนัก

"โอ๋.....เหนื่อยมั๊ยครับ? มานั่งพักเร็ว....." แล้วก็ลุกไปจูงมือพี่ชายมานั่ง

"นี่แหนะ!" เขกหัวน้องชายดังโป๊กแล้วนั่งหอบแฮ่กๆอยู่อย่างนั้น ไจ่ไจ๋อมยิ้มแล้วควักผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเหงื่อบนใบหน้าให้พี่ชาย

"กวนนักนะเราน่ะ!" เคนต่อว่าน้องแต่ก็ยอมให้น้องเช็ดหน้าให้ น้องเล็กหัวเราะเบาๆแล้วนั่งเอนตัวพิงพนักม้านั่งนั้น

"ถ้าพี่ใหญ่กับพี่รองมาด้วยคงจะดีไม่น้อยเลยเนอะ" พูดเปรยขึ้นมาลอยๆ เคนได้ยินก็เหลือบมองน้องชาย

"คิดถึงพวกพี่เขาหละสิ" พูดอย่างรู้ใจน้อง ซึ่งน้องเล็กก็พยักหน้ายอมรับตามนั้น

"ไว้คราวหน้าเราชวนพี่เขาสองคนมาด้วยดีมั๊ย?" เคนว่าพร้อมกับวาดแขนออกไปกอดคอน้องชาย

"ดีครับ" ไจ่ไจ๋หันมายิ้มให้แล้วทั้งคู่ก็นั่งสูดอากาศกันเงียบๆอยู่พักหนึ่ง

"พี่กลางครับ แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นจะบอกพี่ใหญ่มั๊ย?" ไจ่ไจ๋เอ่ยถามขึ้นมา คำถามนั้นทำเอาเคนเสียวสันหลังวาบ ถ้าพี่ใหญ่รู้เข้าเขาคงโดนพี่ชายเล่นงานตายแน่เพราะพี่ชายไม่ชอบให้เขาก่อเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร

"ไจ่ไจ๋.....นายอย่าเพิ่งบอกให้พี่ใหญ่รู้ถึงเรื่องวันนี้เลยนะ ไว้พี่จะหาทางบอกพี่ใหญ่เอง" บอกน้องชายด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ

"ผมรู้ครับพี่กลาง พี่ไม่ต้องห่วงนะผมจะไม่มีวันพูดถึงเรื่องนี้ให้พี่ใหญ่รู้เด็ดขาด ผมสัญญา....." ไจ่ไจ๋ให้คำมั่นกับพี่ชายเพราะพอจะรู้ว่าต่อให้พวกเขาเล่าความจริงออกไปพี่ชายก็ไม่เข้าข้างพวกเขาแน่เพราะเรื่องการชกต่อยกับคนอื่นนั้นพี่ใหญ่ถือเป็นความผิดร้ายแรง

"ขอบใจมาก" เคนกล่าวขอบคุณพร้อมกับยิ้มเฝื่อนๆ

"เรื่องนี้ผมต้องเป็นคนรับผิดชอบเต็มๆ ถ้าไม่ใช่เพราะผมขี้ขลาดพี่กลางก็คงไม่เดือดร้อน พี่ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก" น้องเล็กพูดกับพี่ชายด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"เด็กโง่.....นายไม่ได้ขี้ขลาดเลยซักนิดเดียว และก็เลิกโทษตัวเองซักทีเพราะเรื่องนี้น่ะมันจบแล้ว" เคนว่าพร้อมกับเอามือตบแก้มน้องชายเบาๆอย่างรักใคร่

"เราไปเดินเล่นกันต่อดีกว่า ตรงสุดทางโน้นมีร้านไอติม สนใจมั๊ย?" เคนเปลี่ยนเรื่องโดยการชวนน้องไปกินของโปรดเพราะไม่อยากให้น้องต้องมานั่งโทษตัวเองอีก

"จริงหรอ? งั้นเรารีบไปกันเลย!" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ตอบรับอย่างดีใจลืมเรื่องซีเรียสไปได้ในทันที

"ร้านตรงนั้นน่ะหรอพี่กลาง ดีจัง! กำลังอยากกินไอติมอยู่พอดีเลย" ว่าแล้วก็ลุกขึ้นอย่ากระฉับกระเฉง

"หึๆๆๆ เด็กหนอเด็ก....." เคนมองท่าทางของน้องชายด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก

"ตรงนั้นแหละ ไป.....ไปกินไอติมกัน....." ว่าแล้วเคนก็ลุกขึ้นพร้อมกับยื่นมือไปจูงมือน้องแล้วพาเดินไปยังที่หมาย



Create Date : 30 ธันวาคม 2550
Last Update : 30 ธันวาคม 2550 21:30:46 น. 0 comments
Counter : 1178 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

loving_zai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




[Add loving_zai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com