Chapter 92

ตอนที่ 92
"กลับมาแล้วครับ!!"  เคนตะโกนบอกหลังจากลงจากรถแท๊กซี่โดยมีข้าวของพะรุงพะรังวางอยู่ข้างตัว
"พี่กลาง!!!!"  ไจ่ไจ๋ที่กำลังเล่นกับเจ้าพีพีและถางถางอยู่หน้าบ้านผละตัวออกจากเจ้าแมวสุดรักทั้งสองตัวแล้ววิ่งตื่อไปรับพี่ชายทันที
"ทำไมกลับมาเงียบๆหละ? ถึงแล้วน่าจะโทรบอกจะได้ขับรถไปรับ"  ไจ่ไจ๋ต่อว่าพี่ชายแต่ก็มีแก่ใจช่วยหิ้วข้าวของด้วย
"จะไปรับทำไมให้วุ่นวาย พี่นั่งแท๊กซี่กลับมาเองก็สะดวกดีแล้ว"  เคนตอบพร้อมกับเอามือขยี้หัวน้องชายด้วยความเอ็นดู
"ไม่เจอหน้ากันตั้งหลายอาทิตย์ คิดถึงพี่หรือเปล่า?"  เคนถามน้องต่อ และแทนคำตอบไจ่ไจ๋สวมกอดพี่ชายทั้งที่มือยังถือของอยู่ทำให้เคนยิ้มหน้าบาน
"ไอ้เรื่องอ้อนนี่หละขอให้บอกเก่งเป็นที่หนึ่ง"  เคนแซวน้องชายยิ้มๆ ในตอนนั้นสมาชิกคนอื่นๆก็พากันเดินออกมาต้อนรับเขาด้วย
"จะกลับทำไมไม่โทรมาบอกก่อน? จะได้ไปรับ"  เจอร์รี่ต่อว่าน้องชายเช่นเดียวกับที่ไจ่ไจ๋ว่าแล้วเดินมาช่วยน้องถือของอีกแรง
"น้องไม่อยากให้วุ่นวายน่ะ มาถึงก็ดีแล้ว แม่คิดถึงจังเลย"  แม่ตอบแทนเคนเสร็จสรรพก่อนจะเดินมากอดลูกชาย
"คิดถึงแม่เหมือนกันครับ"  เคนพูดกับแม่เบาๆเพราะกลัวโดนพี่น้องแซวว่าได้ทีอ้อนแม่
"โอ๋กันดีจังเลย แบบนี้พวกเราไม่ต้องอยู่ก็ได้ใช่มั๊ย?"  แวนเนสเปรยขึ้นลอยๆ
"ปากนายยังเหมือนเดิมเลยนะ"  เคนแขวะพี่ชายหน้าตายก่อนจะหันไปยิ้มให้พ่อ
"ทำไมพ่อดูสมบูรณ์ขึ้นหละครับ?"  แซวพ่อต่ออีก
"ก็หมู่นี้แม่กับพี่น้องของลูกชวนพ่อไปกินนู้นกินนี่ตลอดเลย ถึงได้แปลงร่างเป็นแบบนี้"  พ่อตอบพร้อมกับโบ้ยความผิดไปให้คนอื่น ทำให้สมาชิกคนอื่นพากันหัวเราะ
"เข้าบ้านกันก่อนดีกว่า มีอะไรค่อยเข้าไปคุยในบ้าน"  แม่พูดตัดบทเพราะเห็นว่าขืนยังยืนอยู่ตรงนี้ข้ามวันบรรดาลูกชายก็คงมีเรื่องแซวกันไม่หมด เมื่อจบคำแม่ทุกคนก็ทยอยพากันเดินเข้าบ้าน 
"พี่กลางอยากดื่มน้ำอะไร? เดี๋ยวผมเอามาให้"  ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายอย่างเอาใจ
"พี่ขอน้ำเปล่าเย็นๆก็พอ ขอบใจมากนะ"  เคนตอบน้องชาย ไจ่ไจ๋ได้ยินก็รีบวิ่งเข้าไปในครัวทันที
"ดูมันนะ.....พี่ชายคนโปรดกลับมาก็ไม่สนใจใครอีกเลย"  แวนเนสต่อว่าน้องชายไล่หลัง
"ทำไม? อิจฉาชั้นหรอ?"  เคนถามแหย่กลับไป แต่แวนเนสมีสีหน้าสลดลงเล็กน้อย
"อิจฉาสิ เพราะหมู่นี้เจ้าไจ๋มันไม่ยอมเข้าหาชั้นเลย"  คำตอบของแวนเนสทำเอาเคนได้แต่ยิ้มแหยๆ เขาพอจะเข้าใจสาเหตุว่าทำไมไจ่ไจ๋ถึงเป็นแบบนั้น ซึ่งส่วนนึงก็เพราะเรื่องที่แวนเนสประกาศว่าอยากแต่งงาน และดูท่าพ่อแม่เองก็จะสนับสนุนเต็มที่ด้วย
"คิดมาก! ก็นายเล่นไม่ยอมรับงานเอาแต่อยู่บ้านทุกวันน้องมันก็เบื่อหน้านายสิ"  เคนแกล้งพูดติดตลก ซึ่งก็ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลงได้จริงๆ
"ไม่ใช่ไม่รับโว้ย! แต่พอมีข่าวอย่างนั้นออกมาชั้นก็ถูกต้นสังกัดสั่งห้ามทำตัวเป็นข่าวซักพัก"  แวนเนสแก้ตัว
"อ้อหรอ? นึกว่าเงินมันมีมากจนนอนกลุ้มใจว่าจะเอาไปใช้ยังงัยหมดซะอีก"  แวนเนสยิ้มออกมาได้เมื่อได้ต่อคำกับเจ้าน้องชายตัวดีอีกครั้ง
"ถ้าเป็นแบบนั้นนายคงจะเสนอตัวมาช่วยชั้นใช้สินะ"  แขวะน้องกลับไปบ้าง
"แน่นอน.....นายเป็นพี่ชายสุดที่รักของชั้นหนิ ช่วยกันแค่นี้เรื่องจิ๊บจ๊อย"  เคนลอยหน้าลอยตาตอบ
"เฮอะ! พี่ชายสุดที่รัก!"  เจอร์รี่แกล้งพูดลอยๆขึ้นมาบ้าง
"ทำไม? อิจฉาแวนเนสสิเรา"  แม่แซวลูกชายคนโตบ้าง
"ไม่เคยอิจฉา ดีใจซะอีกที่ผมไม่ใช่พี่ชายสุดที่รักของมัน ไม่งั้นคงซวยมากกว่านี้"  เจอร์รี่ตอบประชด
"ทำไม? ชั้นทำอะไรให้นายซวยมิทราบ? นายน่ะควรจะภูมิใจที่มีน้องอย่างชั้นต่างหาก น้องที่น่ารักแบบนี้จะไปหาได้จากไหนอีก?"  เคนแหวใส่พี่ชายทันควัน
"โชคดีที่หาอีกไม่ได้แล้ว ไม่งั้นชั้นคงปวดประสาทตายวันละหลายรอบ!"  พี่ใหญ่ตอกกลับทำเอาเคนต้องกลายเป็นคนนั่งหน้ามุ่ย ในตอนนั้นไจ่ไจ๋ก็ถือถาดน้ำที่มีน้ำดื่มเย็นๆออกมาครบคน
"วันนี้น้องเราใจดีผิดปกติ นึกว่ามันจะถือมาแก้วเดียวซะอีก"  แวนเนสว่าพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำมาถือ
"พูดมาก! เดี๋ยวให้ไปเอาเองซะเลย!"  น้องเล็กตวัดเสียงใส่ 
"พี่กลางครับ คราวนี้กลับมานานหรือเปล่า?"  ก่อนจะหันมาอ้อนพี่ชายคนกลาง
"อะไรวะ? มานั่งก้นยังไม่ทันร้อนจะไล่พี่ไปอีกแล้วหรืองัย?"  เคนแกล้งโวยวาย
"ไม่ใช่ซักหน่อย! ผมถามเพราะไม่อยากให้พี่กลางรีบกลับไปทำงาน อยากให้พี่กลางอยู่บ้านนานๆ"  พูดพลางกอดแขนพี่ชายไปด้วย ท่าทางของน้องเล็กทำให้คนอื่นๆพากันอมยิ้ม
"จะหาคนทำโน้นทำนี่ให้กินทั้งวันหละสิ? พี่ว่าตอนนี้ตัวนายดูตันๆไปหมดแล้วนะ"  เคนแซวน้องชายยิ้มๆ
"บ้า! ผมไม่ได้อ้วนขึ้นซักหน่อย!"  เมื่อโดนแหย่กลับมาไจ่ไจ๋ก็โวยวาย
"หรอจ๊ะ? แต่เมื่อวานมีใครนะมาบ่นกับแม่ว่ากางเกงมันคับให้แม่พาไปซื้อใหม่น่ะ"  แม่ถามเจ้าลูกชายตัวดีบ้าง
"ฮ่าๆๆ!!!"  จบคำแม่เสียงหัวเราะก็ประสานขึ้นมาพร้อมกัน
"แม่อ่ะ! กางเกงคับมันไม่ได้หมายความว่าผมอ้วนขึ้นซักหน่อย! แต่กางเกงมันหดลงต่างหาก!"  น้องเล็กของบ้านโวยวายหน้าง้ำหน้างอเมื่อตัวเองกลายเป็นเป้าของการถูกแซว
"กางเกงมีหดลงด้วยหรอวะ? ไม่ได้เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ย"  แวนเนสได้ทีผสมโรง
"มีสิ! ไม่เชื่อก็ไปเอาของผมมาดูได้เลย"  ไจ่ไจ๋เถียงข้างๆคูๆ แต่พอเห็นเคนยังหัวเราะไม่เลิกก็เริ่มพาล
"ขำนักหรืองัย!? ตัวเองน่ะอ้วนที่สุดในบ้านแล้วยังมีหน้ามาหัวเราะอีก!"  ไม่พูดเปล่าแต่แถมกำปั้นทุบลงไปที่หัวไหล่พี่ชายดังบึ้ก
"ไจ่ไจ๋!!"  เสียงพ่อแม่และพี่ชายอีกสองคนเอ็ดขึ้นมาพร้อมกัน ในขณะที่เคนเอามือลูบไหล่ตัวเองป้อยๆ
"ก็พี่กลางเริ่มก่อน!"  เจ้าตัวเล็กยังเถียงข้างๆคูๆ
"นี่แหนะ! ยังจะมาเถียงอีก!"  แม่เลยตีมือเจ้าจอมเกเรเข้าให้พร้อมกับดุอีกรอบ 
"แม่ตีผมทำไม? ก็พี่กลางเริ่มก่อนจริงๆหนิ"  เมื่อโดนตำหนิอย่างจริงจังไจ่ไจ๋ก็เริ่มงอแง 
"ยังกล้าเถียงแม่อีกหรอ?"  แม่ว่าพร้อมกับทำท่าจะซ้ำเข้าให้อีกทีแต่เคนรีบยกมือห้าม
"อย่าตีน้องเลยครับแม่ ผมก็เริ่มก่อนจริงๆแหละ"  เคนแก้ตัวแทนแล้วโอบไหล่น้องเล็กไว้พร้อมกับบีบเบาๆเพื่อปลอบโยน ไจ่ไจ๋หันไปซบหน้าลงที่อกพี่ชายแล้วร้องไห้ออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เล่นเอาแต่ละคนมองหน้ากันไปมาเลิ่กลั่ก
"ไม่เป็นไรนะ แม่ไม่ได้ตั้งใจดุนายหรอก ไม่ต้องร้องไห้ โอ๋ๆๆๆๆ.....เดี๋ยวพี่ให้นายตีพี่คืนแรงๆเลยก็ได้" เคนลูบหลังปลอบใจน้อง ในขณะที่คนอื่นยังอึ้งๆกันอยู่
"ไจ่ไจ๋...."  แม่เองก็เริ่มเป็นห่วงเพราะลูกชายไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แม้จะเกเรขนาดไหนแต่ก็ไม่เคยโมโหจนต้องร้องไห้ออกมาเองแบบนี้
"ไม่เป็นไรหรอกครับแม่"  เคนพูดกับแม่โดยไม่ออกเสียงพร้อมกับลูบหัวน้องเบาๆ
"ไปเดินเล่นกับพี่ข้างนอกดีกว่านะ"  ก้มลงพูดกับน้องชายเบาๆ ไจ่ไจ๋พยักหน้ารับทั้งที่ยังซุกหน้าอยู่แนบอกพี่ชาย
"เดี๋ยวมานะครับ"  เคนหันมาบอกสมาชิกคนอื่นๆแล้วโอบไหล่น้องชายพาเดินไปข้างนอก ท่ามกลางสายตาเป็นห่วงของคนที่เหลือ
"ทำไมเป็นแบบนี้เนี่ย"  เจอร์รี่พึมพำขึ้นมาคนแรก
"พ่อว่าบางทีหลายวันมานี้น้องอาจจะกดดันกับเรื่อง....."  พ่อหยุดไว้แค่นั้นไม่ได้พูดออกมาตรงๆเพราะกลัวว่าจะทำให้แวนเนสคิดมาก
"ผมคิดว่าคงเป็นเรื่องของผมแหละ เฮ่อ!"  แวนเนสต่อให้พ่อเสร็จสรรพแล้วก็มานั่งกลุ้มใจ
"ผมแค่บอกว่าจะแต่งงานไม่ได้บอกว่าจะแต่งพรุ่งนี้ซักหน่อย ทำไมถึงน้อยใจอะไรแบบไม่เข้าเรื่องก็ไม่รู้"  แวนเนสพูดเซ็งๆ แต่ถึงยังงัยเขาก็ห่วงความรู้สึกน้องมากที่สุด  
"แต่การที่เราพูดคุยกันมันเหมือนกับเป็นการยืนยันได้ว่าไม่ช้าก็เร็วนายจะต้องแต่งงาน ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่วันนี้หรือวันพรุ่งแต่ชั้นว่าน้องมันคงคิดไปถึงวันนั้นแล้ว หลายวันมานี้เลยมีท่าทีเงียบๆซึมๆ"  เจอร์รี่พูดขึ้นมาบ้าง
"อะไรกันก็ไม่รู้เจ้าลูกคนนี้ นี่ขนาดหนูกลอเรียเป็นคนที่ไจ่ไจ๋ยอมรับอย่างออกนอกหน้านอกตาซ้ำยังสนิทกันพอสมควรอีกต่างหากยังมีปัญหาแบบนี้จนได้"  แม่เองก็เริ่มกลุ้มใจเช่นกัน แม้จะรู้ดีว่าไจ่ไจ๋หวงพี่ชายทั้งสามคนมากเนื่องจากตลอดชีวิตที่ผ่านมาพี่ชายทุกคนคือคนที่อยู่ด้วยกันมาตลอดแต่เรื่องแบบนี้มันเป็นชีวิตของแต่ละคนที่มีสิทธิจะทำได้
"หรือว่าเป็นเพราะช่วงนี้ผมพากลอเรียมาที่บ้านบ่อยๆ ไจ่ไจ๋เลยคิดมาก?"  แวนเนสตั้งข้อสังเกต
"พามาบ่อยๆสิดี น้องจะได้เริ่มชิน"  พ่อให้ความเห็นแย้ง
"แต่ดีที่ว่าไจ่ไจ๋มันไม่เคยทำตัวให้กลอเรียรู้ว่ามันหวงพี่มัน"  เจอร์รี่ยังหาข้อดีของน้องจนได้
"ชั้นว่าถ้ามันแสดงออกตอนนี้น่าจะดีกว่า ไม่ใช่ว่าพอชั้นแต่งกลอเรียเข้าบ้านแล้วมันค่อยมาแผลงฤทธิ์ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงเห็นทีชั้นคงได้ย้ายออกจริงๆแน่"  แวนเนสพูดจบก็ถอนหายใจยาว
"อย่าเพิ่งคิดมากเลย ไอ้พี่ชายคนโปรดมันกลับมาแล้วคงจะช่วยพูดอะไรได้บ้าง แล้วอีกอย่างนายเองก็ยังจะไม่ได้แต่งงานในระยะเวลาอันใกล้นี้ไม่ใช่หรอ? สัญญายังเหลืออีกสามปีเชียวนะ"  เมื่อเห็นว่าน้องดูกลุ้มใจพี่ใหญ่เลยพูดปลอบ   
"ก็จริงนะ แต่ถ้าตลอดสามปีต่อจากนี้น้องมันทำตัวออกห่างชั้นแบบนี้ก็คงรับไม่ได้จริงๆว่ะ"  แวนเนสพูดด้วยสีหน้าสลดลง
"ไม่หรอกจ๊ะ ถึงไจ่ไจ๋จะเป็นคนที่ขี้น้อยใจอย่างร้ายกาจแต่แม่เชื่อว่าหากน้องได้เวลาทบทวนเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังทำอยู่แล้วน้องคงคิดได้และทุกอย่างมันก็จะกลับมาเหมือนเดิม หรืออาจจะดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ"  แม่เองก็พูดให้กำลังใจลูกชายเช่นกัน
"ครับ"  แวนเนสรับคำแล้วแล้วยิ้มออกมาได้ในที่สุด
"ถ้างั้นเราพักเรื่องหนักสมองมาคิดเมนูอาหารในวันนี้ดีกว่า เสี้ยวเทียนกลับมาทั้งทีพวกเราน่าจะทำอาหารต้อนรับน้องหน่อยนะ"  แล้วพ่อก็เปลี่ยนเรื่อง
"ให้มันกินอีกแล้ว เดี๋ยวก็อ้วนเป็นหมูพอดี"  เจอร์รี่บ่นที่ดูพ่อจะเอาอกเอาใจเคนมากเป็นพิเศษ
"น้องทำงานกลับมาเหนื่อยๆจะไม่ให้น้องกินได้ยังงัยหละ? เราน่ะใจร้ายกับน้องซะจริงๆ" แม่ร่วมกับพ่อให้ท้ายลูกชายคนโปรดยกใหญ่
"ใช่สิ.....ผมน่ะมันเป็นพี่ชายใจร้าย งั้นกลับไปคราวนี้พ่อแม่เอามันกลับไปด้วยเลยนะครับ ไม่อยากเลี้ยงมันแล้ว"  เจอร์รี่พูดงอนๆ
"ถ้าเอากลับไปด้วยมันจะไม่ใช่แค่เสี้ยวเทียนคนเดียวน่ะสิ ไอ้ตัวดีมันคงร้องไห้เกาะแข้งเกาะขาพี่ชายสุดที่รักของมันเพื่อจะตามไปด้วยแหงๆ"  แวนเนสพูดติดตลก ซึ่งก็สามารถเรียกเสียงหัวเราะจากคนอื่นๆได้เป็นอย่างดี จากนั้นสมาชิกทุกคนจึงย้ายสถานที่พูดคุยกันเข้าไปในห้องครัวแทน

- ร้านไอศครีมแห่งหนึ่ง -
"ไหนพี่ดูซิ.....ที่โดนแม่ตีเมื่อกี้หายเจ็บหรือยัง?"  หลังจากสั่งไอศครีมแล้วเคนก็แกล้งแซวน้องชายพร้อมกับจับมือน้องขึ้นมาดู
"บ้า! ไม่ได้เจ็บอะไรซักหน่อย"  ไจ่ไจ๋ต่อว่าพี่ชายแล้วดึงมือออก เคนหัวเราะเบาๆแต่มองหน้าน้องชายด้วยแววตาอ่อนโยน
"อยากคุยอะไรกับพี่หรือเปล่า? มีอะไรอยากเล่าให้ฟังมั๊ย?"  ถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
"พี่รองจะแต่งงาน"  ไจ่ไจ๋พูดด้วยสีหน้าเศร้าลง น้ำตาที่แห้งไปแล้วเริ่มล้นอยู่ตรงเบ้าตา
"พี่รู้"  เคนตอบเบาๆก่อนจะพูดต่อ
"นายไม่ดีใจหรอที่พี่รองจะมีความสุข?"  ไจ่ไจ๋พยักหน้าแล้วเอามือปาดน้ำตาที่กำลังจะไหลอีกรอบ
"งั้นทำไมถึงดูเหมือนายไม่มีความสุขเลย"  เคนถามน้องชายต่อ
"ผมว่ามันเร็วเกินไป ผมรู้และก็เตรียมใจมาตั้งนานแล้วแต่พอใกล้เวลานั้นเข้ามาจริงๆไม่รู้ว่าทำไมผมถึงรู้สึกแย่จัง....."  ไจ่ไจ๋สารภาพกับพี่ชายตามตรง
"นายกลัวว่าพี่รองจะไม่มีเวลาให้พวกเราเหมือนเดิมหรอ?"  เคนถามน้องชายต่อ ในขณะนั้นไอศครีมมาเสริฟพอดีการสนทนาจึงหยุดลง
"อันนี้ของนาย"  เคนเลื่อนถ้วยไอศครีมไปให้น้อง 
"กินก่อนดีกว่าแล้วเราค่อยคุยกัน"  เคนว่าแล้วพยักหน้าให้น้องลงมือโดยที่ตัวเองก็ตักไอศครีมที่สั่งมากินด้วยเช่นกัน
"ครับ"  ไจ่ไจ๋รับคำก่อนจะกินไอศครีมเช่นกัน จนเมื่อผ่านไปครู่หนึ่งเคนจึงเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมาอีก
"นายวางใจเถอะ พี่รองยังไม่ได้แต่งงานในระยะเวลาอันใกล้นี้หรอก"  คำพูดของพี่ชายทำให้ไจ่ไจ๋หยุดมือ
"พี่เขาทั้งสองคนยังมีหน้าที่ของตัวเองที่ต้องทำให้ดีที่สุดก่อน เพราะฉะนั้นคงใช้เวลาอีกซักระยะน่ะ"  ไจ่ไจ๋ยังคงเงียบเช่นเดิม
"พี่ไม่เคยเห็นนายเป็นคนขี้กังวลแบบนี้เลย ขนาดจะสอบอยู่วันพรุ่งนี้นายยังไม่เห็นจะกระตือรือร้นอ่านหนังสือซักเท่าไหร่ แต่ทำไมทีกับเรื่องในอนาคตที่ยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นตอนไหนนายกลับเอามันมานั่งคิดให้ตัวเองกลุ้มใจแบบนี้หละ?"  เคนพูดกับน้องตรงๆ
"มันไม่เหมือนกัน"  ไจ่ไจ๋พูดเสียงแผ่ว ทำให้เคนขมวดคิ้ว
"ผมรักพี่รอง ผมรักครอบครัวของเราเลยไม่อยากให้เราต้องแยกจากกันและก็ไม่อยากให้ใครแทรกแซงเข้ามาด้วย ผมอยากให้บ้านเป็นที่ของพวกเราเหมือนเดิม"  ไจ่ไจ๋พูดต่อด้วยสีหน้าเศร้าๆ
"ช่วงที่ผ่านมา....ยิ่งผมพยายามทำใจยอมรับให้ได้ว่าซักวันหนึ่งเรื่องแบบนี้มันต้องเกิดขึ้นแต่ไม่รู้ว่าทำไมพอยิ่งได้ยินพี่รองพูดถึงเรื่องนี้กับพ่อแม่อย่างจริงจังมันกลับทำให้ผมรู้สึกเคว้งขึ้นมาก็ไม่รู้"  เคนมองหน้าน้องเล็กที่ดูเหมือนจะยังไม่เข้าใจตัวเองด้วยความสงสาร เขาเข้าใจความรู้สึกของน้องชายดี
"แล้วเมื่อช่วงที่ผ่านมาพ่อแม่ก็บอกว่าเมื่อคุณพ่อของพี่กลอเรียกลับมาจะขอนัดเจอเพื่อคุยเรื่องการแต่งงานของพี่รองกับพี่กลอเรียอย่างจริงจังซักที ผมเลยรู้สึกว่า.....พี่รองคงอยากจะก้าวออกจากครอบครัวเราแล้ว....."  เคนลอบถอนหายใจเบาๆเมื่อได้ฟังความคิดของน้องชาย
"วันนี้ที่พี่กลางกลับมาผมดีใจมาก แต่เมื่อคิดไปว่าหากพี่กลางกลับมานั่นก็ย่อมหมายถึงว่าคุณพ่อของพี่กลอเรียก็คงกลับมาด้วย และตอนนี้พ่อแม่เองก็อยู่ที่นี่พร้อมหน้ากันเพราะฉะนั้นเรื่องการสู่ขอมันคงต้องเกิดขึ้นอีกไม่กี่วันข้างหน้าแน่นอน"  พูดมาถึงตรงนี้ไจ่ไจ๋ก็น้ำตาร่วงลงมาอีก เคนถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะส่งกระดาษทิชชู่ให้น้องชาย
"ผมไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงทำได้ยากนัก"  น้องเล็กพูดจบก็ฟุบหน้าลงไปที่โต๊ะเพื่อพยายามกลั้นเสียงร้องไห้
"นิ่งซะไจ่ไจ๋....แล้วพี่จะพานายไปที่ที่นึง"  เคนเอื้อมมือไปตบหัวน้องชายเบาๆ ไจ่ไจ๋จึงเงยหน้าขึ้นมาตาทั้งสองข้างแดงๆ
"ที่ไหน?"  ถามพี่ชายเสียงสั่น
"ที่ที่พี่คิดว่าจะไปกับพ่อและแม่น่ะ แต่พอมาคิดอีกทีน่าจะพานายไปด้วย"  เคนตอบแล้วยิ้มให้น้องชาย
"พรุ่งนี้เลิกเรียนกี่โมง?"  ถามน้องชายต่ออีก
"มีเรียนแค่วิชาเดียวตอนเช้า เลิกราวๆสิบเอ็ดโมง"  ไจ่ไจ๋ตอบ
"ดี! งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะชวนพ่อแม่ไปรับนายแล้วเราไปด้วยกัน"  ไจ่ไจ๋ทำหน้าสงสัยแต่ไม่ได้ถามอะไรเพียงแต่พยักหน้ารับ
"ไอติมละลายหมดแล้ว...."  เคนเปลี่ยนสายไปมองไอศครีมในถ้วยของน้องชาย
"ของพี่กลางก็ด้วย"  ไจ่ไจ๋ย้อน รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยที่ได้ระบายความรู้สึกให้พี่ชายฟัง 
"จริงด้วย!"  เคนว่าแล้วก็เหลือบมองหน้าน้องชาย
"สั่งใหม่ก็หมดเรื่อง"  น้องเล็กว่าแล้วก็หยิบเมนูขึ้นมาดู เคนหัวเราะขำๆ
"เจ้าเล่ห์นักนะ! แกล้งทำเป็นเศร้าเพื่อให้พี่เลี้ยงไอติมหรือเปล่าเนี่ย?"  ต่อว่าน้องอย่างไม่จริงจังนักแต่ก็โล่งใจเพราะเมื่อน้องเล็กของเขาหันกลับมาสนใจเรื่องกินได้อีกครั้งนั่นหมายความว่าน้องคงหยุดคิดเรื่องกลุ้มใจไปได้ซักพัก
"ไม่ใช่ซักหน่อย.....เมื่อกี้อารมณ์กำลังค้างกินเข้าไปเลยไม่รู้รสเลย ผมเอาอันนี้ดีกว่า! พี่กลางหละ?"  ไจ่ไจ๋แย้งก่อนจะใช้นิ้วจิ้มลงไปเมื่อเจอเมนูที่ถูกใจ
"เอ้าๆๆๆ เอาเหมือนนายนั่นแหละ"  เคนตอบแบบไม่คิดมาก ดังนั้นไจ่ไจ๋จึงหันไปสั่งไอศครีมทันที
"เฮ่อ! อย่างน้อยก็ทำให้มันหยุดร้องไห้ได้แหละว้า....."  เคนพึมพำกับตัวเองพร้อมมองไปที่น้องชายอย่างเอ็นดู

- ที่บ้าน -
"ทำอะไรกินกันครับ?"  เคนเอ่ยถามทุกคน หลังจากที่เขาและน้องเล็กพากันกลับเข้ามาในบ้านอีกครั้งทั้งบ้านก็หอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นอาหาร
"จมูกไวเชียวนะ"  แวนเนสแขวะน้องแล้วมองเลยไปทางน้องเล็ก เคนเบ้ปากใส่พี่ชายแล้วเดินเลยเข้าไปในห้องครัว
"มองหน้าหาเรื่องหรืองัย!"  น้องเล็กพูดกวนๆ
"เดี๋ยวตบหัวทิ่มเลย! มองแค่นี้มีปัญหามากหรืองัย?"  แวนเนสโวยวาย ทำให้ไจ่ไจ๋หัวเราะก่อนจะเดินเข้าไปกอดเอวพี่ชาย
"หิวข้าวจัง วันนี้มีอะไรกินบ้างครับ?"  แวนเนสแทบจะปรับอารมณ์ตามเจ้าน้องชายตัวดีไม่ทัน เขาทำหน้าแหยๆก่อนจะยิ้มเฝื่อนๆให้น้อง
"แล้วอยากกินอะไรหละ? พ่อแม่เลือกทำของโปรดเราทุกคนเลย คงมีถูกใจนายบ้างแหละ"  แวนเนสตอบแล้วเอามือตบแก้มน้องชายเบาๆ
"แอบไปกินไอติมกับพี่กลางมาหละสิ"  พูดต่ออย่างรู้ทัน
"รู้ได้ยังงัย?"  ไจ่ไจ๋ย้อนถาม
"ก็ไอ้คราบช๊อคโกแลตที่มุมปากนายมันฟ้องน่ะสิ ฮึ! หนีไปกันสองคนไม่ชวนพี่ซักคำ!"  แวนเนสแกล้งทำเป็นงอน
"พี่รองก็มีพี่กลอเรียไปด้วยอยู่แล้วหนิ"  น้องเล็กว่าแล้วก็เดินเลี่ยงไปนั่งที่โซฟา
"ไจ่ไจ๋...."  แวนเนสเดินตามมานั่งลงข้างน้องชาย
"พี่รักนายนะ"  น้องเล็กได้ยินก็นิ่งไป
"ไม่ว่าเมื่อก่อน ตอนนี้ หรือต่อไป พี่ก็ยังคงรักนายเหมือนเดิม"  แวนเนสพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"ผมก็รักพี่เหมือนกัน ผมขอโทษนะครับพี่รองที่หลายวันมานี้ทำตัวไม่น่ารัก"  ไจ่ไจ๋พูดกับพี่ชายด้วยสีหน้าสลดลง
"ผมขอเวลาทำใจหน่อย ผมชอบพี่กลอเรียและก็อยากให้พี่สองคนมีความสุข แต่อีกใจมันก็....."  แวนเนสโน้มหัวน้องมาชายมาซบที่อกตัวเอง
"อนาคตมันเป็นเรื่องไม่แน่นอน นายอย่าเพิ่งไปคิดถึงมันเลย พี่ยังไม่หนีนายไปไหนแน่นอน"  ไจ่ไจ๋กอดพี่ชายแน่น
"นอกจากว่านายเองนั่นแหละจะหนีพี่ไปแต่งงานก่อน"  แวนเนสพูดแหย่น้องเล็กอีก ทำให้ไจ่ไจ๋หัวเราะออกมาได้
"นั่นสิ ผมเรียนอีกสองปีก็จบแล้ว แต่พี่รองต้องรออีกตั้งสามปีกว่าจะครบสัญญา"  ไจ่ไจ๋พูดแหย่พี่ชายกลับไป
"หนอยแหนะ! จบปุ๊บจะแต่งงานเลยหรืองัย? แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปขอผู้หญิงฮึ?"  แวนเนสเอานิ้วจิ้มแก้มน้องชายพร้อมกับกัดฟันถามด้วยความหมั่นไส้
"พี่ชายผมมีตั้งสามคน หาเงินให้น้องไปแต่งผู้หญิงเข้าบ้านหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง?"  พูดพลางบีบจมูกพี่ชายเบาๆ
"เดี๋ยวรอพี่ไปปรึกษาพี่ใหญ่กับพี่กลางก่อนนะว่าจะมีงบให้นายเท่าไหร่"  จบคำพูดของแวนเนสสองพี่น้องก็หัวเราะกันคิกคัก ส่วนเคนนั้นหลังจากปล่อยให้แวนเนสและไจ่ไจ๋ได้อยู่กันตามลำพังเขาก็เดินเข้าไปในห้องครัวซึ่งมีพ่อแม่และพี่ใหญ่ช่วยกันทำกับข้าวอยู่
"มีอะไรให้ช่วยมั๊ยครับ?"  เคนเอ่ยถาม
"กลับมาแล้วหรอลูก? น้องเป็นยังงัยบ้าง?"  แม่หันมาถามไถ่ลูกชายทันที
"ผมหมดค่าไอติมไปสี่ถ้วย คงอารมณ์ดีขึ้นเยอะแหละครับ"  เคนตอบยิ้มๆ
"นี่นายให้มันกินไอติมตั้งสี่ถ้วยเชียว? จะบ้าหรืองัย!"  เจอร์รี่ได้ยินก็เอ็ดน้อง
"เปล่า....คนละสองถ้วยเท่านั้นแหละ"  เคนตอบแล้วเหลือบไปเห็นหมูทอดกระเทียมจึงเอื้อมมือไปหยิบมาชิมแต่โดนพี่ใหญ่ตีมือเข้าให้เสียก่อน
"โอ้ย!"  เคนร้องพร้อมกับชักมือกลับก่อนจะทำหน้ามุ่ยใส่พี่ชาย
"ก็ให้น้องกินสิลูก จะหวงทำไมกันมีตั้งเยอะแยะ"  แม่ต่อว่าลูกชายคนโต
"ผมไม่ได้หวง แต่มือมันน่ะสกปรกจะตาย"  เจอร์รี่เถียงก่อนจะถลึงตาใส่น้องที่แอบอมยิ้มที่ตัวเองโดนแม่ว่า
"ไม่เห็นจะสกปรกเลย ไหนชี้ให้ดูหน่อยซิว่าเชื้อโรคมันวิ่งอยู่ตรงไหน? ถ้าเจอแล้วจับออกให้ด้วยนะ"  เคนแบมือทั้งสองข้างยื่นไปตรงหน้าพี่ชายอย่างยียวน
"เดี๋ยว....."  พี่ใหญ่พูดไม่ออกได้แต่ชี้หน้าน้องชายอย่างไม่รู้จะทำยังงัย
"หึๆๆๆ"  พ่อกับแม่แอบขำกันเบาๆเมื่อเห็นว่าเจอร์รี่ต่อกรอะไรกับน้องไม่ได้ เคนยิ้มอย่างผู้ชนะแล้วทำท่าจะหยิบหมูทอดกระเทียมขึ้นมากินอีก
"เสี้ยวเทียน!"  เจอร์รี่เน้นเสียงหนัก เคนเลยยิ้มแหยๆแล้วหันไปหยิบส้อมมาจิ้มใส่ปากแทน
"อะไรกันลูกคนนี้ น้องเพิ่งกลับมาถึงบ้านก็หาเรื่องดุน้องจนได้ ไป....ทำตรงนั้นให้เสร็จเร็วๆ เดี๋ยวจะได้กินข้าวกัน"  แม่บ่นลูกชายคนโตก่อนจะไล่ให้เจอร์รี่ไปทำอาหารต่อ
"โอ๋เข้าไป...."  เจอร์รี่บ่นอุบอิบก่อนจะเดินกลับไปทำสิ่งที่ทำค้างอยู่โดยที่เคนแอบหัวเราะพี่ชายเบาๆ
"พ่อแม่ครับ พรุ่งนี้ว่างหรือเปล่า?"  เคนเอ่ยถามขึ้นอีก
"ว่างสิลูก จะชวนไปไหน?"  พ่อตอบแล้วย้อนถามยิ้มๆ
"เรามีนัดกัน ลืมแล้วหรอ?"  เคนทำหน้ามุ่ยเล็กน้อยเพราะนึกว่าพ่อลืมว่าเขาเคยบอกพ่อว่าหากกลับมาบ้านแล้วจะพาพ่อแม่ไปที่ที่หนึ่งด้วยกัน
"ไม่ลืมหรอกลูก พ่อกับแม่ต้องจำได้อยู่แล้ว"  พ่อตอบยิ้มๆแล้วเอามือขยี้หัวลูกชายอย่างเอ็นดู
"แล้วเราจะไปกันกี่วันจ๊ะ? ต้องเอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยนด้วยหรือเปล่า?"  แม่ถามต่อ แต่ยังไม่ทันที่เคนจะได้ตอบเจอร์รี่ก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
"ไม่ต้องพาพ่อแม่ไปเที่ยวค้างคืนที่ไหนอีกเลยนะ อีกสองสามวันพ่อแม่ก็จะกลับไปทำงานแล้ว เดี๋ยวก็เหนื่อยตายพอดี"  เคนหันทางพี่ชายพร้อมกับค้อนใส่เล็กน้อย
"หนึ่งสองสาม"  เคนพูดพร้อมกับชี้ที่ตัวเองพ่อและแม่
"อะไร?"  เจอร์รี่ถามเสียงห้วนเพราะไม่เข้าใจที่น้องพูด
"ก็คุยกันแค่สามคน ชั้น พ่อ และก็แม่"  จบคำพูดของเคนพ่อแม่ก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน ส่วนเจอร์รี่ได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความขุ่นเคือง
"แล้วอย่ามาพูดให้ได้ยินนะ"  ชี้หน้าน้องพร้อมกับพูดขู่ก่อนจะสะบัดหน้ากลับไป
"พ่อแม่จะกลับแล้วหรอครับ?"  หลังจากแกล้งแหย่จนพี่ชายอารมณ์เสียได้แล้วเคนกันหันมาถามบุพการีทั้งสองคนต่อ
"ก็คงต้องกลับหละลูก คราวนี้มาอยู่นานข้ามเดือนเลย แล้วเรื่องที่บริษัทก็ลงตัวแล้ว"  พ่อตอบ
"ไม่เป็นไรครับ เพราะเราไม่ใช้เวลากันมากหรอก พรุ่งนี้ช่วงเที่ยงเราแวะไปรับไจ่ไจ๋กันก่อนแล้วค่อยไปพร้อมกัน"  เคนว่า
"ให้น้องไปด้วยหรอลูก?"  แม่ถามอย่างสงสัยเพราะตอนแรกเคนบอกว่าอยากไปกับพ่อแม่ตามลำพัง
"ครับ ผมว่าพาน้องไปด้วยเผื่อไจ่ไจ๋จะคิดอะไรได้บ้าง"  เคนตอบแล้วยิ้ม
"มีอะไรให้ผมช่วยมั๊ยครับ?"  แล้วก็ถามเปลี่ยนเรื่อง
"อืม....งั้นก็....."  พ่อว่าพร้อมกับผงกหัวไปทางเจอร์รี่เป็นเชิงบอกให้เคนไปช่วยพี่ชาย
"เอ่อ....พี่ใหญ่อารมณ์ไม่ดี ผมว่าคงไม่ดีมั้งครับ"  เคนปฏิเสธหน้าแหยๆ เพราะรู้ตัวว่าตัวเองกวนพี่ชายไว้มากและตอนนี้พี่ชายกำลังถือมีดปลายแหลมหันผักกับเนื้ออยู่ด้วย
"ไปเถอะลูก พี่ใหญ่เขาคิดถึงเราจะตายไป"  แม่พยักหน้าด้วยอีกคน ดังนั้นเคนจึงเดินเข้าไปหาพี่ชายอย่างจำใจ
"เจอร์รี่ ชั้นช่วยนะ"  เคนว่าพร้อมกับยิ้มหวานราวกับว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด เจอร์รี่หันมาค้อนใส่แต่ไม่ได้พูดอะไร
"เดี๋ยวหั่นผักให้ นายหยิบมีดให้หน่อย"  เคนบอกพี่ชายอีกครั้ง
"เจอร์รี่!"  เมื่อเห็นพี่ชายยังเฉยเคนเลยเรียกอีกครั้งพร้อมกับเอาศอกกระทุ้งใส่พี่ชายด้วย
"เห็นหรือเปล่าว่าชั้นทำอะไรอยู่?"  เจอร์รี่วางมือจากการกระทำตรงหน้าก่อนจะถามน้องเสียงเรียบ
"ก็...."  เคนพูดไม่ออกเมื่อเห็นพี่ใหญ่ทำหน้านิ่งๆ 
"แล้วเมื่อกี้เรียกชั้นว่ายังงัย?"  ถามน้องต่ออย่างหาเรื่อง
"พี่ใหญ่!"  เคนตอบชัดถ้อยชัดคำพร้อมกับทำหน้าซื่อ เล่นเอาพ่อแม่กลั้นหัวเราะแทบไม่ทัน
"ไอ้ตัวแสบ!"  พี่ใหญ่ทำฉุนทั้งขำกับเจ้าน้องชายคนนี้เขาอดรนทนไม่ไหวจึงตั้งท่าจะเขกหัวน้อง
"โอ้ย!"  เคนร้องลั่นทั้งที่ยังไม่ทันจะโดนเขกหัวเลย
"ยังไม่ได้เขก!"  เอ็ดใส่เจ้าน้องชายตัวดีเสียงดัง เคนยิ้มแหยๆก่อนจะพูดจาหว่านล้อมพี่ชาย
"ขอโทษครับ ต่อไปนี้จะไม่เรียกพี่ใหญ่แต่ชื่ออีกแล้ว อย่าทำโทษชั้นเลยนะ....นะๆๆๆ....."  ท่าทางของน้องชายทำเอาเจอร์รี่หลุดยิ้มออกมาเช่นกัน
"เรานี่นะ...."  เจอร์รี่ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าเจ้าน้องชายคนนี้ดีสุดท้ายจึงได้แต่เอานิ้วจิ้มหน้าผากน้องแรงๆก่อนจะเป็นฝ่ายถอนหายใจซะเอง
"เรายังมีคดีความกับพี่อีกเยอะนะเสี้ยวเทียน ทั้งเรื่องโทรศัพท์กลับมาแล้วแกล้งบอกว่าเหรียญหมดทั้งเรื่องแอบหลอกด่าพี่อีกตั้งหลายครั้ง เดี๋ยวว่างๆจะจับมาคิดบัญชีให้สาสมเชียว"  เจอร์รี่ไม่วายหันมาขู่น้อง
"เราก็เจ้าคิดเจ้าแค้น! น้องแค่อยากจะเล่นด้วยเราก็ว่าน้องลามปาม อะไรก็ไม่รู้เด็กคนนี้"  แม่บ่นเจอร์รี่เข้าให้บ้าง 
"แม่อ่ะ....อะไรก็เอาแต่เข้าข้างมัน"  เมื่อเห็นว่าแม่กางปีกปกป้องลูกชายคนโปรดทุกครั้งเจอร์รี่จึงทำหน้างอขึ้นมาบ้าง
"อย่ามาทำเป็นอิจฉาน้องเหมือนเด็กน่า....รีบทำให้เสร็จเร็วเข้านี่มันจะค่ำแล้ว"  เมื่อเห็นว่าเจอร์รี่จะโวยวายอีกแม่จึงรีบตัดบท
"ฝากไว้ก่อนเถอะ"  เจอร์รี่ไม่วายพึมพำพร้อมกับชี้หน้าน้องอย่างคาดโทษ ในตอนนั้นแวนเนสกับไจ่ไจ๋ก็พากันเดินเข้ามาพอดี
"ยังไม่เสร็จอีกหรอ? ผมหิวแล้ว"  ไจ่ไจ๋ร้องบอกเมื่อเห็นว่าพ่อแม่และพี่ใหญ่กำลังทำอาการกันอยู่
"มันจะเสร็จได้ยังงัย? มีแต่คนเข้ามาช่วยป่วนไม่มีใครช่วยทำซักคน!"  เจอร์รี่พูดเสียงห้วน ทำเอาแวนเนสกับไจ่ไจ๋มองหน้ากันเหวอๆ ในขณะที่เคนนั่งขำอยู่บนโต๊ะกินข้าว
"ผมกับพี่รองเพิ่งเข้ามานะ"  ไจ่ไจ๋แย้ง 
"อีกแป๊บเดียวก็เสร็จแล้วลูก พี่ใหญ่เขาก็หิวเหมือนกันเลยอารมณ์ไม่ดี"  พ่อหันมาตอบลูกชายคนเล็กยิ้มๆ
"ใช่จ๊ะ....เหลือผัดผักกับแกงจืดอีกสองอย่าง ยังงัยลูกก็จัดโต๊ะเลยแล้วกัน เสร็จแล้วจะได้กินได้เลย"  แม่ว่าพร้อมกับหางานให้ลูกชายช่วยทำ
"ได้ครับ โอ้โห! มีหมูทอดกระเทียมด้วย!"  พูดจบไจ่ไจ๋ก็จะหยิบเข้าปากแต่ชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงเคนร้องขัดขึ้น
"เฮ้ย!"  เสียงเคนทำให้คนอื่นๆหันมามองเป็นตาเดียว
"ใช่ส้อมสิวะ! เดี๋ยวก็โดนหรอก"  เคนบอกน้องชายแล้วบุบใบ้ไปทางพี่ใหญ่ที่ยืนมองตาเขียวปั๊ด 
"แหะๆๆ ลืมไป.....ใช้ส้อมเนอะ....."  พูดจบไจ่ไจ๋ก็ใช้ส้อมจิ้มเข้าปาก โดยที่คนอื่นๆแอบอมยิ้ม 
"ใครที่มันแอบกินกับข้าวก่อนเดี๋ยวจะให้นั่งกินแต่ข้าวเปล่า นิสัยเสีย!"  เจอร์รี่พูดขึ้นมาดังๆ
"ข้าวเปล่าคลุกน้ำปลาก็อร่อยดีนะไจ่ไจ๋"  เคนว่าพร้อมกับยักคิ้วให้น้องชาย
"เดี๋ยวชั้นจะให้นายกินไม้เรียวแทนข้าว!"  เจอร์รี่หันมาชี้หน้าน้องชายพร้อมกับพูดเสียงเข้ม 
"ตั้งแต่กลับมายังไม่หยุดเลยนะ! เดี๋ยวโดนแน่!"  พูดขู่น้องต่ออีก ทำให้คนช่างกวนถึงกับหน้าจ๋อยลงไปถนัดตา
"เอาน่าเจอร์รี่.....น้องเขาคิดถึงลูกนี่นาเลยแหย่เล่นนิดหน่อย ไม่ชอบก็เตือนน้องดีๆอย่าถึงกับต้องเฆี่ยนต้องตีน้องเลย"  พ่อเอ่ยปากไกล่เกลี่ยเมื่อดูท่าว่าลูกชายคนโตคงโมโหไม่น้อย
"ผมเตือนมันไปตั้งกี่รอบแล้ว เคยฟังที่ไหน!"  ไม่พูดเปล่าแต่ส่งสายตาคมกริบไปทางเจ้าตัวต้นเหตุด้วย
"งานเข้าแล้วพี่กลาง"  ไจ่ไจ๋กระซิบกับเคนเป็นเชิงกระเซ้า
"เงียบไปเลย"  เคนเอาศอกกระทุ้งน้องชายเบาๆ 
"แล้วพ่อดูมันนะ.....โดนดุไปแหมบๆไม่ได้สลดลงเลยซักนิด!"  เมื่อโดนพี่ชายต่อว่าอีกเคนก็เริ่มหงุดหงิดเพราะอุตส่าห์สงบปากสงบคำไม่เถียงอะไรออกมา
"พ่อแม่ครับ กับข้าวพวกนี้จานไหนที่พ่อกับแม่ทำ?"  เคนหันไปถามบุพการี
"ก็....ที่ทำเสร็จบนโต๊ะนั่นแหละจ๊ะ"  แม่ตอบพร้อมกับทำหน้างงๆ
"ดี! งั้นผมจะกินแค่กับข้าวที่พ่อแม่ทำเท่านั้น ส่วนที่คนอื่นทำก็ให้มันกินกันเองจนตายไปเลย! จะไม่แตะต้องเลยแม้แต่นิดเดียว!"  พูดจบเคนก็เดินไปตักข้าวแล้วนั่งกินหน้าตาเฉย โดนเข้ามาไม้นี้ทำให้เจอร์รี่โมโหจนพูดอะไรไม่ออก ส่วนคนที่เหลือก็มองหน้ากันไปมาอย่างไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
"พี่กลางก็ทำเป็นเล่นไป...."  ไจ่ไจ๋ต่อว่าพี่ชายเบาๆ 
"หาเรื่องจนได้นะไอ้ตัวแสบ! เดี๋ยวไม่ได้ตายดีหรอกนายน่ะ"  แวนเนสสำทับด้วยอีกคน
"ถ้าชั้นตายจะกลับมาล้างแค้นให้ดู!"  เคนกระแทกเสียงใส่ เจอร์รี่หันขวับมามองทันที
"พ่อว่า.....กับข้าวบนโต๊ะนี้ก็เยอะแล้ว เอาเป็นว่าตรงนั้นอีกสองอย่างเก็บไว้ทำวันหลังดีมั๊ยเจอร์รี่ ตอนนี้เรามากินข้าวกันดีกว่า"  เมื่อเห็นลูกชายสองคนจ้องหน้าราวกับจะฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่งพ่อจึงตัดบท
"ดีครับ ดีมากๆเลย ผมหิวจะแย่แล้ว"  ไจ่ไจ๋รีบสนุบสนุนทันที
"งั้นเดี๋ยวแม่ตักข้าวให้ เจอร์รี่ไปนั่งที่โต๊ะไปลูก....."  แม่ช่วยไกล่เกลี่ยด้วยอีกแรง 
"ผมช่วยแม่ตักข้าวนะครับ"  แวนเนสพูดเสริมแล้วกุลีกุจอเข้าไปช่วย บรรยากาศจึงเริ่มผ่อนคลายลง เจอร์รี่เก็บของที่กำลังทำอยู่เข้าตู้เย็นแล้วเดินมาที่โต๊ะกินข้าวจนเมื่อเห็นน้องชายคนกลางลอยหน้าลอยตาใส่ก็ทั้งขำทั้งหมั่นไส้จึงเดินไปเลื่อนเก้าอี้ตัวข้างๆน้องออกแล้วทรุดตัวนั่ง 
"ให้มันน้อยๆหน่อยนะ!"  เจอร์รี่ดุเบาๆเมื่อเห็นน้องขยับเก้าอี้ออกห่าง
"ทำไม? ชั้นร้อนหนิ ไม่อยากนั่งใกล้!"  เคนเถียงอย่างรวนๆ
"ร้อนหรอ!?"  พี่ใหญ่ทวนคำพร้อมกับนิ้วมือเรียวที่หยิกหมับเข้าที่แขนน้อง
"โอ้ย!!!"  เคนร้องลั่นด้วยความตกใจ ทำให้แม่กับแวนเนสที่กำลังตักข้าวและพ่อกับไจ่ไจ๋ที่กำลังช่วยกันรินน้ำใส่แก้วหันไปมองทางต้นเสียงเป็นตาเดียว
"เป็นอะไร?"  แวนเนสถามเมื่อเห็นเคนนั่งลูบแขนตัวเองป้อยๆ
"เจอร์รี่มันหยิกชั้น!"  เคนเอ่ยปากฟ้องทันที
"ชั้นไปหยิกนายตั้งแต่เมื่อไหร่?"  เจอร์รี่แกล้งเป็นฝ่ายทำไม่รู้ไม่ชี้บ้าง
"เจอร์รี่!"  แม่เอ็ดใส่ลูกชายคนโตเข้าให้
"กินข้าวดีกว่าครับ! กินข้าวกันซักทีเนอะ!"  ไจ่ไจ๋ร้องแทรกขึ้นมาก่อนจะเดินมานั่งลงที่โต๊ะอาหารพร้อมกับชักชวนให้ทุกคนกินข้าว
"นี่ๆๆๆ ชอบทำน้องเจ็บๆอยู่เรื่อย"  แม่เดินมาดึงหูเจอร์รี่พร้อมกับต่อว่าไปด้วย 
"โอ้ยๆๆๆ แม่อ่ะ...."  เจอร์รี่ร้องครางพร้อมกับทำหน้ามุ่ย เคนยิ้มอย่างสะใจที่แม่แก้แค้นให้แทน
"หยุดเลยนะไอ้ตัวดี! จะได้กินข้าวกันสงบๆซักที"  แวนเนสพูดดักคอน้องชายคนกลางที่ตั้งท่าจะล้อพี่ชายอีก เคนจึงได้แต่เม้มปากพร้อมกับค้อนใส่พี่ชายคนรองที่รู้ทัน
"หึๆๆๆ"  พ่อหัวเราะเบาๆอย่างนึกขำเจ้าลูกชายตัวป่วนทั้งหลายก่อนจะเดินมานั่งที่หัวโต๊ะฝั่งตรงข้ามกับแม่ จากนั้นทุกคนก็เริ่มลงมือกินข้าวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา



Create Date : 20 กันยายน 2558
Last Update : 20 กันยายน 2558 22:24:10 น. 5 comments
Counter : 995 Pageviews.

 
ลงเพิ่มให้อีกสองตอนถ้วนนะคะ
ส่วนที่เหลือขอเวลาเรียบเรียงเรื่องก่อนค่ะ
ทักทายได้นะคะ และขอให้อ่านให้สนุกค่ะ


โดย: loving_zai วันที่: 20 กันยายน 2558 เวลา:22:27:14 น.  

 
ขอคุณค่าาาาา😄😄😄😄😄😄


โดย: คุนน IP: 124.120.57.211 วันที่: 22 กันยายน 2558 เวลา:18:48:42 น.  

 
เข้ามาดูวันเว้นวัน ในที่สึดก็อัพแล้ว เย้ๆๆๆ ชอบมากๆค่ะ จะติดตามอ่านตลอดนะคะ


โดย: locket IP: 49.230.228.20 วันที่: 24 กันยายน 2558 เวลา:2:57:10 น.  

 
ขอบคุณคะ มาอัพให้บ่อยๆหน่อยจิ


โดย: piromya IP: 27.145.214.147 วันที่: 28 กันยายน 2558 เวลา:21:53:57 น.  

 
ขอบคุณที่ลงให้อ่านนะคะ


โดย: baibua IP: 27.55.171.202 วันที่: 6 ตุลาคม 2558 เวลา:22:08:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

loving_zai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




[Add loving_zai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com