Chapter 15

ตอนที่ 15
"สวัสดีค่ะ อ้าวไจ่ไจ๋!" กลอเรียเอ่ยทักทายเมื่อประตูร้านถูกเลื่อนเปิดแต่พอเงยหน้ามาเห็นก็ร้องอุทานออกมาอีก
"พี่กลอเรีย" ไจ่ไจ๋เรียหญิงสาวด้วยสีหน้าเศร้าๆ
"เธอไม่ไปอยู่ที่โรงบาลหรอ?" ถามไถ่ไจ่ไจ๋อย่างแปลกใจ
"ไปมาแล้วครับ แต่ว่า....." ไจ่ไจ๋หยุดพูดเอาดื้อๆทำเอากลอเรียเริ่มเป็นห่วงเพราะคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเคน
"แต่อะไรจ๊ะ? แล้วเสี้ยวเทียนเป็นยังงัยบ้าง?" ถามซักไซร้ต่ออีก
"พี่กลางไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ พอดีผมเห็นว่าผมอยู่ตรงนั้นก็ช่วยอะไรไม่ได้ เลยคิดว่ามาหาหนังสืออ่านดีกว่า" ไจ่ไจ๋ตอบเลี่ยงๆเพราะรู้ว่าหญิงสาวสงสัย
"แล้วที่โรงบาลใครอยู่จ๊ะ?" กลอเรียถามไจ่ไจ๋อีก
"พี่ใหญ่กับพี่รองครับ แค่นั้นพี่กลางก็มีคนเอาใจมากเกินพอ" พูดจบก็เดินมานั่งลงข้างๆหญิงสาว กลอเรียรู้สึกว่าท่าทางและน้ำเสียงของไจ่ไจ๋ฟังดูเนือยๆผิกปกติแต่ก็ไม่อยากซักถามอะไรมากมาย
"งั้นตามสบายเลยจ๊ะ พี่ไปหาขนมมาให้กินดีกว่า ฝากร้านแป๊บนึงนะจ๊ะ" ไจ่ไจ๋ผงกหัวรับและหยิบหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่ใกล้มือขึ้นมาอ่าน ส่วนกลอเรียเดินเข้าไปหลังร้าน
"เอาอะไรคะพี่กลอเรีย?" เสียงหญิงสาวผู้อ่อนวัยกว่าร้องถามในขณะที่ตัวเองกำลังเช็คสินค้าที่เพิ่งเข้ามาใหม่
"พี่จะเอาหาขนมนมเนยออกไปให้น้องชายเพื่อนน่ะจ๊ะ พอดีเขาแวะมา" ตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้
"น้องเพื่อนหรือน้องแฟนคะ?" พูดหยอกกลับพลางอมยิ้ม กลอเรียตีแขนคนพูดเบาๆแล้วเดินหนีไปจัดของว่างเพื่อนำไปให้ไจ่ไจ๋
"กินอะไรมั๊ยจ๊ะมี่เฟิง?" กลอเรียหันไปถามสาวรุ่นน้องด้วย
"ไม่หละคะ" ตอบพลางย่นจมูกเล็กน้อย กลอเรียยิ้มแล้วนึกขึ้นมาได้ว่าเธอน่าจะโทรหาแวนเนสเพื่อนสอบถามให้แน่ใจว่าไจ่ไจ๋เป็นอะไรกันแน่ เมื่อเป็นดังนั้นกลอเรียจึงไหว้วานให้มี่เฟิงยกขนมออกไปให้ไจ่ไจ๋
"มี่เฟิงจ๊ะ เดี๋ยวช่วยยกนี่ออกไปให้ไจ่ไจ๋หน่อยนะจ๊ะ เดี๋ยวพี่ขอโทรหาเพื่อนแป๊บนึงแล้วจะตามออกไป" คนถูกไหว้วานละมือจากงานตรงหน้าแล้วรับถาดมาถือไว้อย่างเต็มใจ
"ขอบใจมากนะจ๊ะ" เอ่ยขอบคุณแล้วเดินไปเลื่อนประตูเปิดให้
"ไม่เป็นไรค่ะ" ตอบรับเสร็จก็เดินออกมาหน้าร้าน
"พี่กลอเรียให้ยกขนมมาให้ค่ะ" มี่เฟิงเอ่ยปากเมื่อเห็นไจ่ไจ๋นั่งหันหลังอยู่ ไจ่ไจ๋ได้ยินก็หันมาตามเสียงเรียกพร้อมกับเอ่ยขอบคุณ
"ขอบคุณ....มาก...." แต่แล้วไจ่ไจ๋ก็ต้องชะงักไปเมื่อเห็นหญิงสาว และเช่นเดียวกันมี่เฟิงก็ชะงักไปเช่นกัน
"คุณ....คุณมาอยู่นี่ได้ยังงัย?" ไจ่ไจ๋หน้าตึงขึ้นมาทันที
"ชั้นก็อยากจะถามเธออยู่เหมือนกัน" หญิงสาวโต้ตอบทันควัน
"ที่นี่เป็นร้านที่พี่ชายผมเป็นหุ้นส่วนอยู่ ทำไมผมถึงจะมาไม่ได้?" ไจ่ไจ๋ตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
"อ้อ! งั้นหรอ?" มี่เฟิงทำเสียงสูงแล้ววางถาดลงบนเคาน์เตอร์
"แล้วคุณหละเป็นใคร? มาทำอะไรที่นี่?" ถามต่อด้วยสีหน้าไม่พอใจ
"ชั้นทำงานอยู่ที่นี่" เธอตอบแบบไม่ใส่ใจท่าทีของไจ่ไจ๋นัก
"ทำงานที่นี่? ให้ตายเถอะ! ใครเป็นคนจ้างคุณมาทำงานที่นี่กัน? แบบนี้ร้านพี่ผมไม่เจ๊งหมดหรอ?" คำพูดของไจ่ไจ๋ทำเอาหญิงสาวหน้าตึง
"นี่เธอ! พูดแบบนี้หมายความว่ายังงัย?" ย้อนถามอย่างหาเรื่อง ไจ่ไจ๋แอบยิ้มเยาะที่ยั่วเธอได้
"ผมก็หมายความว่าคุณไม่ควรมาทำงานเล่นๆที่นี่ เพราะที่ร้านนี้ต้องการคนที่ทำงานแบบขยันขันแข็งเท่านั้น" ไจ่ไจ๋ขยายความด้วยสีหน้าเป็นต่อ
"เธอรู้ได้ยังงัยว่าชั้นทำงานที่นี่เล่นๆ?" มี่เฟิงย้อนถามด้วยท่าทีที่ข่มความโมโหสุดๆ
"ก็ลูกคนรวยอย่างคุณจะมาทำงานเพื่อต้องการอะไร? เงินที่เป็นค่าตอบแทนมันก็คงเป็นแค่เศษเงินของคุณเท่านั้น!" พูดจบไจ่ไจ๋ก็ยิ้มที่มุมปาก
"ชั้นเพิ่งรู้นะว่านอกจากเธอจะเป็นเด็กโข่งแล้วยังเป็นคนปัญญาอ่อนอีก!" คำพูดนั้นทำเอาไจ่ไจ๋หน้าบึ้ง
"กล้าดียังงัยมาว่าผม?" ไจ่ไจ๋ขึ้นเสียง
"แล้วทำไมชั้นจะว่าเธอไม่ได้ในเมื่อเธอใช้ไอคิวต่ำๆของเธอมาตัดสินชั้นแบบนี้!" หญิงสาวย้อนทำเอาไจ่ไจ๋สะอึก แต่ก่อนที่จะเกิดเรื่องเกิดราวมากกว่านี้กลอเรียก็เลื่อนประตูออกมาซะก่อน
"มีเรื่องอะไรกันหรอจ๊ะ? พี่ได้ยินเสียงเอะอะดังไปข้างใน" กลอเรียถามด้วยสีหน้างงๆ
"เปล่า!" มี่เฟิงกับไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับก่อนที่จะเบือนหน้าหนีไปคนละทาง
"งั้น....ไจ่ไจ๋จ๊ะ มานี่กับพี่หน่อย" กลอเรียดึงแขนไจ่ไจ๋แล้วพาเดินมาที่มุมร้าน
"พี่ชายเธอเขากำลังตามหาเธอให้วุ่นกันหมด เธอมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?" สอบถามไจ่ไจ๋ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"พี่กลอเรียโทรไปบอกพี่รองหรอ?" ไจ่ไจ๋ย้อนถาม
"พี่เห็นเธอดูท่าทางไม่สบายใจก็เลยอยากรู้ว่าเธอเป็นอะไรกันแน่เลยโทรไปหาแวนเนส แล้วเขาก็บอกพี่ว่าเขากำลังตามหาเธออยู่เพราะจู่ๆเธอก็ออกจากห้องพักของเสี้ยวเทียนมาโดยไม่บอกกล่าวใครเลย" ไจ่ไจ๋เงียบไป
"มีปัญหาอะไรเล่าให้พี่ฟังก็ได้นะ พี่จะได้ช่วยแก้ยังจ๊ะ" บอกกับไจ่ไจ๋ด้วยน้ำเสียงห่วงใย
"ผม...." ไจ่ไจ๋ตั้งท่าจะเล่าแต่ก็ไม่รู้จะบอกกลอเรียยังงัยดี
"เอาอย่างนี้ เธอไปนั่งกินขนมให้สบายใจก่อน แล้วเราค่อยคุยกันดีมั๊ย?" เมื่อเห็นท่าทีอึกอักของไจ่ไจ๋ กลอเรียจึงคิดว่าให้ไจ่ไจ๋ได้สงบอารมณ์ซักครู่ก่อนน่าจะดีกว่า
"ครับ" ไจ่ไจ๋ผงกหัวรับแล้วเดินกลับมาแต่เมื่อเห็นหน้ามี่เฟิงแล้วเขาก็ทำหน้าบึ้งใส่ หญิงสาวเองก็เบ้ปากใส่ไจ่ไจ๋เช่นกัน
"พี่กลอเรียคะ ชั้นเข้าไปทำงานต่อดีกว่า เดี๋ยวจะมีคนหาว่าชั้นทำงานไม่คุ้มกับเงินที่พี่จ่ายให้ชั้น" พูดจบก็เดินเข้าไปหลังร้านท่ามกลางความงุนงงของกลอเรีย
"พี่กลอเรียครับ ผู้หญิงคนนั้นเขามาทำงานที่นี่ได้ยังงัย?" ไจ่ไจ๋เอ่ยถามกลอเรียหลังจากที่มี่เฟิงหายเข้าไปหลังร้านแล้ว
"อ้อ! พี่ขอให้เขามาช่วยเองแหละจ๊ะ มี่เฟิงเขาอยู่อพาร์ทเม้นต์เดียวกับพี่ ข้างห้องกันเลยน่ะ เราคุยกันบ่อยๆ เห็นมี่เฟิงเขาบอกว่าตอนนี้เรียนปีสุดท้ายแล้วค่อนข้างว่างเลยอยากจะหางานทำเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวจะได้ไม่ต้องขอเงินจากทางบ้าน พี่ก็เลยชวนเขามาช่วยงานพี่" คำบอกเล่าของกลอเรียทำให้ไจ่ไจ๋แปลกใจเล็กน้อย
"เขาอยู่อพาร์ทเม้นต์คนเดียวหรอ?" ถามซักไซร้ต่อพลางหยิบขนมในจานกิน
"จ๊ะ เพิ่งย้ายเข้ามาได้เดือนกว่าๆเอง เขาน่ารักนะ มีมนุษยสัมพันธ์ดีเหมาะที่จะทำงานบริการ" ได้ยินเช่นนี้ไจ่ไจ๋ก็เบ้ปากเล็กน้อย
"ถามทำไมหรอจ๊ะ? หรือว่าเธอรู้จักกันมาก่อน?" กลอเรียถามไจ่ไจ๋กลับบ้าง
"อ้อ! ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวหรอกครับ เขาเป็นรุ่นพี่ผมที่ชมรม" ไจ่ไจ๋ตอบ
"อ้าว! งั้นก็ดีสิ! แหม....พี่ไม่รู้เลยจ๊ะ" กลอเรียพูดพร้อมกับยิ้ม ไจ่ไจ๋จึงยิ้มตอบแบบเฝื่อนๆแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ
"พี่กลอเรียครับ พี่รองว่าอะไรผมหรือเปล่า?" ไจ่ไจ๋หันมาถามเรื่องพี่ชาย
"เขาเป็นห่วงเธอมากน่ะจ๊ะเพราะเธอออกมาไม่ได้เอามือถือมาด้วยใช่มั๊ย?" กลอเรียตอบแล้วถามกลับ
"ครับ ผมเดินออกมาเพลินๆแล้วก็คิดอยากจะมาที่นี่เลยขึ้นรถเมล์มาน่ะครับ" หญิงสาวไม่พูดอะไรเพียงแต่รอฟังไจ่ไจ๋เท่านั้น
"วันนี้ตอนอยู่มหาลัยผมเป็นห่วงพี่กลางตลอดเลย พอได้ไปเห็นว่าพี่เขาไม่ได้เป็นอะไรมากก็ค่อยสบายใจหน่อย" ไจ่ไจ๋เริ่มเล่าให้กลอเรียฟัง
"ตอนแรกพี่ใหญ่จะพาผมออกไปหาอะไรกิน แต่พอพี่กลางตื่นพี่ใหญ่กับพี่รองก็พากันไปเอาใจพี่กลางกันหมด พี่กลางเองก็ไม่ได้อยากเจอผมเท่าไหร่ เขาอยากอยู่กับพี่ใหญ่กับพี่รองมากกว่า ผมเห็นว่าผมอยู่ไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้ก็เลย...." ได้ฟังดังนี้กลอเรียก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด
"ผมโง่มากใช่มั๊ยที่คิดแบบนี้?" ไจ่ไจ๋หันไปถามกลอเรียด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ หญิงสาวไม่ตอบเพียงแต่เอามือตบเบาๆที่หลังมือไจ่ไจ๋เป็นการปลอบใจเท่านั้น

- ที่โรงพยาบาล -
"เจอร์รี่! ชั้นหาน้องไม่เจอว่ะ" แวนเนสเดินกลับมาบอกพี่ชายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
"โทรหาหรือยัง?" เจอร์รี่ถามต่อ
"โทรศัพท์มันไม่ได้เอาไปไม่ใช่หรอ?" ว่าพลางมองเลยไปยังกระเป๋าสัมภาระของน้องที่วางกองอยู่ที่โซฟา
"แล้วมันไปไหน?" เจอร์รี่พึมพำพลางทำหน้าครุ่นคิด
"หาน้องไม่เจอหรอแวนเนส?" เคนเอ่ยถามขึ้นมาบ้าง
"เอ่อ...ไม่รู้มันไปอยู่ไหน สงสัยชั้นคงเดินไม่ทั่ว" แวนเนสตอบเลี่ยงๆเพราะไม่อยากให้เคนต้องคิดมาก
"คนไข้ทานข้าวค่ะ" ก่อนที่จะมีใครพูดอะไรอีกพยาบาลสาวก็ยกถาดอาหารเย็นเข้ามาให้เคน
"ขอบคุณครับ ผมจัดการเอง" เจอร์รี่เดินไปรับถาดอาหารพร้อมกับเอ่ยขอบคุณนางพยาบาล
"ลุกขึ้นมากินข้าวเร็วเสี้ยวเทียน" พี่ใหญ่หันมาบอกน้อง
"ไจไจ๋อยู่ไหน? นายไม่ไปตามน้องหรอ?" เคนถามถึงน้องชายเพราะเริ่มนึกห่วงขึ้นมาพลางคิดว่าตัวเองไม่น่าเล่นอะไรแบบนั้นเลย
"มันก็อยู่แถวนี้แหละ จะไปไหนได้?" พี่ใหญ่พูดแบบไม่ค่อยใส่ใจนักแต่สายตาหันไปทางแวนเนสให้ออกไปตามน้องอีกที
"ชั้นว่าชั้นไปหา....." เคนทำท่าจะลุกขึ้นก็ถูกพี่ใหญ่เอามือขวางตรงหน้าซะก่อน
"จะไปไหน? ชั้นบอกให้กินข้าวใช่มั๊ย?" ถามเสียงเข้มเล็กน้อย เคนจึงค่อยขยับตัวนั่งตามเดิม
"ชั้นยังไม่หิวแล้วก็....." เคนจะบอกพี่ชายว่ายังไม่หิวแต่พอเห็นสายตาที่มองมาของพี่ใหญ่แล้วก็หยุดพูดกระทันหัน
"ไม่ต้องไปห่วงคนอื่นให้มากนัก! เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ!" พี่ใหญ่ต่อว่าน้องชาย เคนเม้มปากเล็กน้อยแต่ไม่ได้เถียงอะไร
"เอ้า! อ้าปากสิ" เจอร์รี่ตักข้าวจะป้อนน้อง แต่เคนดันมือพี่ชายออกเบาๆ
"ไม่ต้องป้อน ชั้นกินเองได้" บอกพี่ชายแล้วทำท่าจะแย่งช้อนมากินเองแต่พี่ใหญ่ไม่ให้
"ไม่ต้อง! กินเข้าไปเร็วๆ กินเองเดี๋ยวก็มัวชักช้าร่ำไรบ่นนั่นบ่นนี่อยู่นั่น" ว่าพลางทำหน้าดุๆ เคนเลยจำต้องยอมให้พี่ชายป้อนข้าว
"นายรู้มั๊ยว่าไจ่ไจ๋มันเป็นไร?" เคนเอ่ยถามพี่ชายขึ้นมา
"ชั้นจะไปรู้มันหรอ? เด็กคนนี้มันเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ตอนแรกก็ดูอารมณ์ดีแต่แป๊บๆก็งอน อะไรของมันก็ไม่รู้" เจอร์รี่ตอบเป็นเชิงบ่นน้อง
"แต่ชั้นรู้" เคนบอกพี่ชาย เจอร์รี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วมองหน้าน้องชายเป็นเชิงถาม
"มันงอนที่นายมาคอยดูแลชั้นแล้วก็ไม่สนใจมัน" เคนพูดต่อ
"ชั้นนี่นะไม่สนใจมัน?" เจอร์รี่ย้อนถามอย่างงงๆ
"อืม....ก็ตอนแรกนายจะพามันไปหาอะไรกินไม่ใช่หรอ? แต่แล้วนายก็ไม่ไปซะเฉยๆ" เคนขยายความ
"ชั้น...." พอได้รู้ดังนั้นเจอร์รี่ก็เริ่มคล้อยตาม ในเวลานั้นแวนเนสก็เดินกลับเข้ามาพอดี
"ไจ่ไจ๋มันไปที่ร้าน ตอนนี้อยู่กับกลอเรีย" แวนเนสบอกสองพี่น้อง
"กลอเรียบอกว่ามันดูท่าทางซึมๆด้วย แต่กลอเรียบอกว่าไม่ต้องห่วงเพราะเดี๋ยวจะลองถามๆมันดู" เจอร์รี่กับเคนหันไปสบตากัน
"ชั้นว่านายสองคนไปรับน้องกลับบ้านดีกว่านะ" เคนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ปล่อยชั้นไว้นี่แหละ ชั้นไม่เป็นไรหรอก" พูดต่อเพราะรู้ดีว่าพี่ชายเป็นห่วงเขา
"ไม่ต้องหรอก ไปตอนนี้เดี๋ยวมันก็งอแงอีก ถ้ามันอยากกลับเดี๋ยวมันก็กลับมาเองแหละ" แวนเนสให้ความเห็น
"นั่นสิ ง้อมันมากๆเดี๋ยวก็เคยตัว เอะอะอะไรก็หนีไปที่อื่นอยู่เรื่อย" เจอร์รี่เห็นด้วยกับแวนเนสเพราะรู้สึกว่าไจ่ไจ๋งอนเขาแบบไม่มีเหตุผล
"ว่าแต่นายได้กำชับกลอเรียหรือเปล่าว่าอย่าให้มันออกไปไหนอีก?" แม้จะพูดเช่นนั้นแต่เจอร์รี่ก็อดเป็นห่วงน้องไม่ได้
"อืม....ชั้นบอกไว้แล้ว กลอเรียบอกว่าหลังร้านปิดจะพามาส่ง เธอจะมาเยี่ยมเสี้ยวเทียนด้วย" แวนเนสตอบ
"แต่ชั้นว่าถ้าพวกนายยังทำเฉยน้องมันจะยิ่งน้อยใจนะ" เคนแย้งพี่ชายทั้งคู่ขึ้นมาอย่างไม่เห็นด้วยเพราะยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ที่ดันไปแกล้งน้องแบบนั้น
"ช่างมันเถอะ! อ้าปากสิ กินข้าวต่อให้หมด" พูดตัดบทแล้วตักข้าวป้อนให้น้องกินอีก
"ชั้นขอกินแค่ครึ่งเดียวได้มั๊ย?" เคนมองข้าวในจานแล้วเงยหน้ามาพูดกับพี่ชาย
"ไม่ได้ ต้องกินให้หมด" พี่ใหญ่ส่ายหน้าพร้อมกับพูดปฏิเสธ
"แต่ชั้นไม่หิว กินแล้วมันพะอืดพะอม" บอกพี่ชายเสียงอ่อยๆ
"มันกินได้แค่ไหนก็พอแค่นั้นเถอะ อย่าบังคับมันมากเลย" แวนเนสช่วยน้องพูดอีกแรง
"เออๆๆ กินครึ่งเดียวก็ได้" แล้วพี่ใหญ่ก็ต้องยอมตามน้องทุกที
"แวนเนส นายช่วยไปหยิบกระเป๋าเป้ของชั้นในรถเจอร์รี่ให้หน่อยสิ" หลังกินข้าวเสร็จแล้วเคนก็หันมาขอร้องพี่ชาย
"ได้สิ ว่าแต่นายจะเอาอะไรหละ?" แวนเนสตอบรับอย่างเต็มใจพร้อมกับซักถามน้องต่อ
"เอาเกมส์บอย" คำตอบของน้องทำให้แวนเนสยิ้มออกมาได้
"อืม....เดี๋ยวไปเอามาให้" แวนเนสตอบรับแล้วเดินไปสะกิดเจอร์รี่ที่นั่งอ่านหนังสือเพลินๆอยู่ที่โซฟา
"เจอร์รี่ ขอกุญแจรถหน่อย" พี่ใหญ่เงยหน้ามองน้อง
"จะเอาไปทำอะไร?" ย้อนถามกลับไป
"มันจะเอาเกมส์บอยของมันน่ะสิ" แวนเนสตอบพลางผงกหัวไปทางน้องชาย
"ปวดหัวอยู่ยังจะเล่นเกมส์อีก! ไม่เอาไม่ให้เล่น! นอนพักไป!" เจอร์รี่หันไปทำหน้าเข้มใส่คนป่วย
"แต่ชั้นเพิ่งจะตื่น" เคนแย้งเสียงอ่อยๆ
"เอาน่า! น้องมันนอนอย่างเดียวก็เบื่อของมันแหละ เล่นนิดๆหน่อยๆไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวมันทนไม่ไหวก็นอนเองแหละ" แวนเนสพูดเข้าข้างน้อง
"นายก็ให้ท้ายมันเรื่อยเลยนะ!" หันมาเอ็ดแวนเนสด้วยอีกคน
"ถ้าไม่ให้เล่นชั้นก็จะกลับบ้านเดี๋ยวนี้แหละ!" เคนร้องโวยวายขึ้นมาบ้าง
"เดี๋ยว....." พี่ใหญ่ทำท่าจะดุน้องแต่พอนึกขึ้นได้ว่าเจ้าน้องชายคนนี้ฤทธิ์มากแค่ไหนก็ยั้งคำพูดไว้ได้ทัน
"เฮ่อ! โอเคๆ นายตามชั้นไปเอาเกมส์มาให้มันแล้วเดี๋ยวชั้นจะขับรถกลับบ้านไปเอาเสื้อผ้าแล้วก็ข้าวของเครื่องใช้มานอนเฝ้ามันซักหน่อย" พูดจบก็พยักหน้าให้แวนเนสเดินตามเขาออกมา
"นี่ถ้ามันหายเมื่อไหร่ชั้นจะคิดบัญชีย้อนหลังให้น่วมเลย! ดื้อชะมัด!" เจอร์รี่เดินบ่นกระปอดกระแปดระหว่างที่เดินไปที่รถ
"นายก็ไปอะไรกับมันนักเล่า? รู้ๆอยู่ว่าเจ้านี่มันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว" แวนเนสพูดปลอบพี่ชาย เจอร์รี่หน้านิ่วแต่ไม่ได้โต้ตอบอะไรจนกระทั่งมาถึงรถ
"เอ้า! เอาไป!" พี่ใหญ่เอื้อมมือเข้าไปหยิบกระเป๋าเป้ของน้องชายมาส่งให้แวนเนส
"แล้วนายอย่าตามใจมันให้มากนักนะ! ให้มันเล่นแค่ 20 นาทีพอ เสร็จแล้วทำยังงัยก็ได้ให้มันนอนพักซะ" สั่งเสียแวนเนสก่อนที่จะพาตัวเองขึ้นไปบนรถ
"ได้ครับ เดี๋ยวจะเอายาพิษยัดปากให้มันนอน" แวนเนสตอบพี่ชายกวนๆ
"กวนนักนะ! เดี๋ยวเถอะ!" พี่ใหญ่ชี้หน้าน้องชายจอมกวนอย่างหมั่นไส้
"หึๆๆๆ ไป! นายรีบไปได้แล้ว ขับรถดีๆหละ" แวนเนสหัวเราะที่ได้แหย่พี่ชายก่อนที่จะกำชับกำชาพี่ชาย
"อืม....นายก็รีบกลับไปดูน้องซะ เดี๋ยวชั้นมา" แวนเนสยืนรอส่งพี่ชายแล้วจึงค่อยกลับเข้าไปในห้องพักของน้องชาย
"เจอร์รี่ไปแล้วใช่มั๊ย?" ทันทีที่เห็นประตูเปิดเคนก็ร้องถามแวนเนสทันที
"ใช่! แหม....พอมันไปร่าเริงขึ้นมาทันทีเลยนะ" แขวะน้องกลายๆแล้วหยิบเครื่องเกมส์บอยมาส่งให้น้อง
"อ๊ะๆๆ!!! พูดยังงัยก่อน?" เมื่อเห็นน้องเอื้อมมือจะมาหยิบแวนเนสก็ยกมือขึ้นสูงกว่าเดิมพร้อมกับเอ่ยทวงคำขอบคุณจากน้อง
"ขอบคุณครับ" เคนพูดอย่างว่าง่ายเพราะขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียงกับพี่ชาย
"ทำตัวน่ารักก็เป็นหนิเราน่ะ ทำไมถึงดื้อกับพี่ใหญ่เขาแบบนั้นหละ?" แวนเนสว่าพร้อมกับขยับตัวขึ้นมานั่งบนเตียงน้องชาย
"ก็มันชอบบังคับชั้นอ่ะ ชั้นอยากกลับบ้านจะตายมันดันเอาชั้นมาทิ้งไว้นี่" เคนรีบฟ้อง
"ก็นายไม่สบายอยู่เขาก็ห่วงน่ะสิ แล้วเจ้าเกมส์นี่ให้เล่น 20 นาทีนะ เสร็จแล้วนายต้องนอน" แวนเนสปรับน้ำเสียงให้ดูจริงจัง
"หยุดเลย! ห้ามต่อรองอะไรทั้งนั้น! นี่ป็นคำสั่งของพี่ใหญ่!" แวนเนสรีบพูดดักเมื่อเห็นน้องตั้งท่าจะเถียง
"อะไรวะ! ตัวไม่อยู่ยังจะมีการสั่งคนโน้นคนนี้ไว้อีก" เคนบ่นพึมพำแต่แล้วก็นึกอะไรขึ้นมาได้
"แวนเนส...." เรียกพี่ชายด้วยน้ำเสียงหวานจ๋อย
"อะไร?" แวนเนสตอบรับเป็นการย้อนถาม
"นายให้ชั้นเล่นไปเรื่อยๆเถอะนะ ถ้าง่วงชั้นจะนอนเอง" เคนต่อรองพี่ชายเป็นเชิงขอร้อง
"ไม่ได้หรอก เดี๋ยวมันกลับมาเห็นนายยังนั่งเล่นเกมส์ชั้นก็โดนมันด่าด้วย" แวนเนสปฏิเสธ
"ถ้ามันกลับมาชั้นจะรีบนอนทันทีเลย สัญญา" ยกนิ้วก้อยขึ้นมาแล้วมองพี่ชายตาละห้อย ทำเอาแวนเนสใจอ่อนเพราะน้องชายคนนี้ไม่ค่อยจะอ้อนเขานัก
"เฮ้อ! ก็ได้ๆๆๆ แต่มันมาเมื่อไหร่นายต้องรีบเก็บเจ้าเกมส์นี่แล้วนอนทันทีจริงๆนะ" แวนเนสย้ำคำกับน้องอีกครั้ง
"ครับ" เคนพยักหน้ารับอย่างหนักแน่นแล้วก้มหน้าก้มตาเล่นเกมส์สุดโปรดต่อไป

- ที่ร้านหนังสือ -
"พี่กลอเรียอยู่ไหน?" เสียงห้วนๆของมี่เฟิงเอ่ยถามไจ่ไจ๋
"ไม่รู้!" ไจ่ไจ๋ตวัดเสียงตอบ
"ไม่รู้ได้ยังงัย? ก็เธอนั่งอยู่ตรงนี้ตลอด!" หญิงสาวเริ่มขึ้นเสียงใส่ไจ่ไจ๋
"แล้วงัย? ผมจำเป็นต้องบอกคุณด้วยหรอ?" เงยหน้าขึ้นมาถามด้วยสีหน้ายียวน
"ไม่บอกก็ตามใจเพราะชั้นเองก็ไม่ได้มีส่วนได้เสียในร้านนี้เท่าไหร่ ต่อให้หนังสือที่สั่งมามันไม่ครบชั้นก็ยังได้รับเงินเดือนครบตามจำนวนอยู่ดี!" พูดจบเธอก็หมุนตัวจะเดินกลับไปหลังร้านแต่ไจ่ไจ๋เรียกไว้ก่อน
"เดี๋ยว!" มี่เฟิงหันหน้ากลับมาแล้วจ้องตาไจ่ไจ๋ด้วยความไม่พอใจ
"พี่กลอเรียออกไปซื้ออะไรมากิน เดี๋ยวคงมา" พูดต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
"เธอนี่ก็เป็นสุภาพบุรุษดีนี่ ปล่อยให้ผู้หญิงออกไปซื้อของมาให้กินในขณะที่ตัวเองนั่งๆนอนๆอยู่เฉยๆแบบนี้" คำพูดนั้นทำเอาไจ่ไจ๋สะอึก
"แล้วมันกงการอะไรของคุณไม่ทราบ? พี่กลอเรียก็เหมือนพี่สาวของผม เขาจะออกไปหาอะไรให้น้องชายกินมันจะเป็นไรไป?" ไจ่ไจ๋เถียง
"ฮึ!" มี่เฟิงเหยียดริมฝีปากเล็กน้อยแล้วเดินหายกลับเข้าไปหลังร้าน ทิ้งให้ไจ่ไจ๋มองตามอย่างโมโห ในขณะนั้นเองก็มีลูกค้าสองสามรายเดินเข้ามาในร้านติดๆกัน
"สวัสดีครับ" ไจ่ไจ๋เอ่ยทักทายแต่น้ำเสียงกลับฟังดูห้วนผิดปกติเพราะยังรู้สึกโมโหหญิงสาวไม่หาย
"ชั้นหาหลังสือเล่มนี้อยู่ค่ะ ไม่ทราบว่าที่นี่มีขายหรือเปล่า?" ลูกค้าผู้หญิงเดินมาหาไจ่ไจ๋ที่เคาน์เตอร์พร้อมกับยื่นรายละเอียดของหนังสือที่ต้องการให้ไจ่ไจ๋ดู
"รอซักครู่นะครับ" ไจ่ไจ๋ปรับน้ำเสียงให้อ่อนลงแล้วก้มหัวให้ลูกค้ารายนั้นเล็กน้อยก่อนที่จะเดินไปหาหนังสือดังกล่าวแต่แล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไหร่
"เมื่อไหร่พี่กลอเรียจะกลับมานะ?" บ่นพึมพำกับตัวเอง
"คุณครับ ไม่ทราบว่าภาคต่อของหนังสือเล่มนี้ออกหรือยังครับ?" ลูกค้าอีกรายหนึ่งเดินเข้ามาถามไจ่ไจ๋เช่นกัน
"ไหนครับ? อ้อ! เดี๋ยวผมเช็คดูให้นะครับ" ไจ่ไจ๋มองชื่อหนังสือแล้วเดินไปหาที่ชั้นแต่ลูกค้ารายนั้นเดินตามมา
"ผมหาดูหมดแล้วครับแต่ไม่มี เห็นวันก่อนผู้หญิงคนนึงในร้านบอกว่าวางแผงวันนี้วันแรก ไม่ทราบว่าทางร้านได้เอามาหรือยัง?" ลูกค้ารายเดิมบอกกับไจ่ไจ๋
"เอ่อ...." ไจ่ไจ๋มีท่าทีอึกอักเพราะไม่รู้เรื่องหนังสือออกใหม่เลยซักนิด
"คุณคะ! คิดเงินด้วยค่ะ" ลูกค้ารายที่สามร้องบอก ไจ่ไจ๋เริ่มหัวหมุนเพราะทำอะไรไม่ถูก
"ซักครู่นะครับเดี๋ยวผมสอบถามให้" ไจ่ไจ๋บอกกับลูกค้าที่เป็นผู้ชายแล้วรีบเดินมาคิดเงินให้ลูกค้าที่รออยู่หน้าเคาน์เตอร์
"ไม่ทราบว่ามีหรือเปล่าคะ? หนังสือที่ชั้นให้ช่วยหาน่ะค่ะ" ลูกค้ารายแรกถามไจ่ไจ๋ด้วยอีกคน
"กำลังเช็คอยู่ครับ รออีกซักครู่นะครับ" ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับก้มหัวให้อย่างสุภาพ
"สองเล่มนะครับ" แล้วหันกลับมาสนใจกับลูกค้าที่รอชำระเงิน
"เอ....ชั้นเป็นสมาชิกของที่นี่นะคะ ปกติต้องลด 10% ไม่ใช่หรอ? ทำไมคิดราคาเต็มหละ?" ลูกค้าท้วงติงไจ่ไจ๋
"อ้าว!" ไจ่ไจ๋อุทานออกมาพร้อมกับยกมือเกาหัว
"ซักครู่นะครับ" ไจ่ไจ๋ก้มหัวเป็นเชิงขอโทษแล้วรีบเดินไปหลังร้าน
"นี่คุณ! ออกไปช่วยหน่อยสิ!" ไจ่ไจ๋เรียกหญิงสาวอย่างไว้ฟอร์ม
"ช่วยอะไร? ชั้นมาทำที่นี่เล่นๆไม่ได้จริงจังซักหน่อยทำไมชั้นต้องใส่ใจนักหละ?" มี่เฟิงพูดประชดไจ่ไจ๋
"โอเคๆๆ ผมขอโทษก็ได้ที่พูดจาไม่ดีกับคุณแต่ตอนนี้ลูกค้าเต็มร้านไปหมด แล้วผมก็ไม่รู้ด้วยว่าจะหาหนังสือที่พวกเขาต้องการได้ที่ไหน" ในที่สุดไจ่ไจ๋ก็เป็นฝ่ายอ่อนข้อก่อน
"แบบนี้ค่อยคุยกันได้หน่อย" พูดจบมี่เฟิงก็เดินออกไปหน้าร้าน
"อ้าว! สวัสดีค่ะ!" มี่เฟิงเอ่ยทักลูกค้าที่รอชำระเงินอย่างเป็นกันเอง
"หนูมี่เฟิง แหม....กำลังจะถามหาอยู่พอดี เนี่ย....พอดีน้องผู้ชายคนนั้นเขาคิดเงินพี่แต่ไม่ได้ให้ส่วนลดน่ะจ๊ะ เลยอยากถามรายละเอียดซักหน่อย" ลูกค้ารายนั้นก็ทักมี่เฟิงกลับอย่างสนิทสนมเช่นกัน
"อ้อ! ต้องขอโทษแทนน้องเขาด้วยนะคะ พอดีน้องเขาเพิ่งมาใหม่น่ะค่ะเลยไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร เอางี้....เดี๋ยวหนูแถมที่คั่นหนังสืออันนี้ให้เป็นการขอโทษก็แล้วกันนะคะ" พูดจบเอก็หยิบที่คั่นหนังสือที่บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกลายน่ารักอันหนึ่งให้
"แหม....ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้" ลูกค้ารายนั้นพูดตามมารยาทแต่ก็รับมา
"คิดใหม่นะคะ ลด 10% ก็เหลือ...." หญิงสาวบอกราคาสินค้าทั้งหมด ซึ่งลูกค้ารายนั้นก็มีสีหน้าพึงพอใจ
"เดี๋ยวหนูห่อปกให้ค่ะ" พูดจบก็หันมาทางไจ่ไจ๋
"มาห่อปกให้คุณเขาหน่อยสิ" เรียกให้ไจ่ไจ๋มาช่วย ไจ่ไจ๋เดินเข้ามาอย่างงงๆ
"หนังสือที่ให้หาตกลงมีหรือเปล่าคะ?" ลูกค้าหญิงรายแรกเดินเข้ามาสอบถามอีก
"นี่อะ...." ไจ่ไจ๋ส่งรายละเอียดที่ลูกค้าให้มาให้กับมี่เฟิง
"อ๋อ! เล่มนี้ค่อนข้างเก่าเลยนะคะ" เธอหันไปพูดคุยกับลูกค้าอย่างฉะฉาน ไจ่ไจ๋เหลือบตาขึ้นมาเธอเล็กน้อยเริ่มรู้สึกว่ามี่เฟิงไม่ได้เป็นแบบที่เขาคิดเลยซักนิดเพราะเธอดูท่าทางเต็มอกเต็มใจให้บริการแก่ลูกค้าอย่างยินดี
"นั่นสิ ชั้นหามาหลายร้านแต่ก็ไม่เจอ" ลูกค้ารายนั้นตอบรับสีหน้าพึงพอใจขึ้นกว่าเดิม
"มาถูกที่แล้วค่ะ มีอยู่เล่มนึงเดี๋ยวไปหยิบมาให้นะคะ" พูดจบก็เดินดุ่มๆไปที่ชั้นหนังสือแล้วหยิบมาให้อย่างรวดเร็วทันใจ
"แหม....ดีจัง! หาตั้งนาน ตกลงเอาเล่มนี้ค่ะ" ลูกค้ารายนั้นยิ้มออก
"ได้ค่ะ ไม่ดูเล่มอื่นไปอีกหรอคะ? วันนี้มีหนังสือมาใหม่เยอะเลย" เธอถามไถ่ลูกค้าอีก
"มีแนะนำมั๊ยคะ?" ลูกค้าคนเดิมถามต่อ
"หนังสือแนะนำมีอยู่ที่ชั้นด้านนี้ค่ะ เลือกดูได้ตามสบายเลยค่ะ" มี่เฟิงกุลีกุจอพาลูกค้าไปยังชั้นหนังสือมาใหม่
"น้องคะ ยังห่อปกไม่เสร็จอีกหรอ?" ลูกค้าอีกรายเร่งไจ่ไจ๋ที่กำลังห่อปกหนังสืออย่างเก้ๆกังๆ มี่เฟิงได้ยินก็รีบเดินเข้ามาทันที
"ชั้นทำเอง เธอไปหยิบถุงมาใส่ไป" บอกกับไจ่ไจ๋เบาๆ
"ก่อนหยิบดูขนาดถุงให้เหมาะกับหนังสือด้วยนะ!" กระซิบกับไจ่ไจ๋เป็นเชิงแขวะ
"ผมรู้แล้วน่า!" ไจ่ไจ๋ตวัดเสียงเล็กน้อยแต่ก็เดินไปหยิบถุงมาใส่หนังสือที่หญิงสาวห่อปกเสร็จแล้ว
"คุณ! ทำไมเช็คหนังสือนานจัง? ตกลงมีหรือเปล่า?" ลูกค้าที่เป็นผู้ชายเดินเข้ามาถามไจ่ไจ๋ด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก ไจ่ไจ๋หน้าเจื่อนลงเพราะยังไม่ได้หาให้เลย
"หนังสือภาคต่อที่ออกใหม่วันนี้ใช่มั๊ยคะ?" มี่เฟิงถามแทรกขึ้นมา
"ใช่ครับ ที่คุณบอกผมงัย" ชายคนนั้นหันไปคุยกับหญิงสาวแทน
"มาแล้วค่ะ พอดีว่าเพิ่งแกะออกมาจากสต็อกเลยช้าหน่อย ขอโทษด้วยนะคะ" เธอเอ่ยขอโทษชายคนนั้นอย่างสุภาพ
"ไม่เป็นไรครับ ตกลงว่ามีใช่มั๊ย? ผมเอาเล่มนึง" ชายคนนั้นมีท่าทีอ่อนลงเมื่อได้ฟังเหตุผล มี่เฟิงหันไปมองหน้าไจ่ไจ๋เล็กน้อยก่อนที่จะเดินไปหยิบหนังสือที่ลูกค้าต้องการมาให้ ไจ่ไจ๋ทำหน้าแหยๆแล้วหลบฉากมายืนเป็นลูกมือคอยหยิบถุงให้หญิงสาวอย่างเดียว เพียงแค่พักเดียวมี่เฟิงก็จัดการกับลูกค้าทุกรายได้โดยที่ทุกคนพออกพอใจ
"เธอนี่มันโง่จริงๆ! ห่อปกแค่นี้ก็ทำไม่เป็น!" หลังจากที่ภายในร้านไม่มีใครแล้วมี่เฟิงก็ต่อว่าไจ่ไจ๋ทันที
"ก็ผม....." ไจ่ไจ๋เถียงไม่ออก
"ไม่ต้องอะไรมากแค่เลือกขนาดปกยังเลือกไม่ถูกเลย กะอีแค่เอาปกพลาสติกมาเทียบวัดกับตัวหนังสือแค่นี้ไม่มีปัญญา!" หญิงสาวได้ทีด่าไจ่ไจ๋เป็นชุด
"คุณอย่ามาด่าผมนะ! ถ้าทำแล้วมาทวงบุญคุณแบบนี้ก็ไม่ต้องก็ได้!" ไจ่ไจ๋เถียงข้างๆคูๆ
"ถ้าชั้นไม่เห็นแก่พี่กลอเรียป่านนี้ชั้นปล่อยให้เธอทำเจ๊งไปนานแล้ว! ไม่มานั่งตามแก้เรื่องที่เธอผูกไว้หรอก! ชั้นมันก็แค่ลูกจ้างไม่ใช่เจ้าของร้านเหมือนเธอหนิ!" ไจ่ไจ๋หน้ามุ่ยเมื่อโดนประชดเข้ามาเต็มๆ
"ไม่ใช่ร้านผมซักหน่อย ของพี่ชายผมต่างหาก" แม้จะรู้ตัวว่าเป็นฝ่ายผิดแต่ไจ่ไจ๋ก็ยังไม่ยอมแพ้
"ชั้นขี้เกียจมาเถียงกับเด็กปัญญาอ่อนแบบเธอ! เสียเวลาทำงาน!" มี่เฟิงส่ายหน้าอย่างสมเพชแล้วหมุนตัวเดินกลับเข้าไปหลังร้าน
"วันนี้มันวันอะไรวะเนี่ย?" ไจ่ไจ๋บ่นอุบกับตัวเองก่อนที่จะถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย




Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2550 11:18:07 น. 0 comments
Counter : 1086 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

loving_zai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




[Add loving_zai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com