Chapter 16

ตอนที่ 16
"มาแล้วจ๊ะ เป็นงัยบ้างไจ่ไจ๋? รอนานมั๊ย?" กลอเรียส่งเสียงคุยกับไจ่ไจ๋อย่างร่าเริง
"ไม่นานหรอกครับ เดี๋ยวผมไปเอาจานชามมาเทนะครับ" พูดจบไจ่ไจ๋ก็ขยับตัวลุกขึ้นจะเดินไปเอาจานชามหลังร้าน
"เรียกมี่เฟิงออกมากินด้วยนะจ๊ะ" กลอเรียพูดไล่หลัง ไจ่ไจ๋เบ้ปากเล็กน้อยเมื่อได้ยินแต่ก็ไม่พูดว่าอะไร
"พี่กลอเรียมาแล้ว ออกไปกินข้าวสิ" ไจ่ไจ๋บอกด้วยท่าทีเซ็งๆ
"ตามสบายเถอะ ชั้นมันลูกจ้างต้องรอให้นายกินเสร็จก่อน" คำประชดนั้นทำเอาไจ่ไจ๋ถอนหายใจเฮือก
"เฮ่อ! คุณก็อย่าประชดผมนักได้มั๊ย? ผมก็ขอโทษแล้วงัย" ไจ่ไจ๋พูดอย่างเหนื่อยใจแล้วทรุดตัวนั่งยองๆข้างๆหญิงสาว
"เธอขอโทษเพราะผลประโยชน์ของตัวเอง ถ้าไม่มีลูกค้าเข้าร้านมาเยอะแยะขนาดเธอจัดการไม่ได้แบบนั้นเธอก็คงไม่ขอโทษชั้น" มี่เฟิงพูดโดยไม่มองหน้าไจ่ไจ๋
"ก็ได้ๆๆๆ ผมยอมรับว่าที่ขอโทษคุณเพราะต้องการให้คุณออกไปช่วย แต่ตอนแรกที่ผมพูดผมไม่ได้ตั้งใจจะว่าคุณแบบนั้นหรอก ผมกำลังไม่สบายใจก็เลยหงุดหงิดไปหน่อย" ไจ่ไจ๋อธิบายด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
"งั้นคราวนี้ผมจะขอโทษคุณจากใจจริงก็แล้วกัน ขอโทษครับ" แล้วไจ่ไจ๋ก็เอ่ยคำขอโทษออกมาอย่างจริงใจ หญิงสาวเหลือบมองไจ่ไจ๋แล้วยิ้มที่มุมปาก
"ชั้นรับคำขอโทษก็แล้วกันนะเด็กน้อย" เธอพูดเป็นเชิงกวนอารมณ์ไจ่ไจ๋อีก
"นี่คุณ! ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ คุณอย่าเรียกผมแบบนี้ได้มั๊ย?" ไจ่ไจ๋เริ่มเสียงห้วนขึ้นมาอีก
"ใครที่อายุน้อยกว่าชั้นก็เป็นเด็กทั้งนั้นแหละ" เธอโต้ตอบแล้ววางมือจากงานตรงหน้าลุกขึ้นไปล้างมือ ไจ่ไจ๋มองตามแล้วขยับตัวลุกขึ้นยืนบ้างแต่พอลุกขึ้นก็เห็นรูปเล็กๆตกอยู่ที่พื้นจึงเก็บขึ้นมาดู
"แฟนคุณหรอ?" ไจ่ไจ๋ถามพร้อมกับชูรูปดังกล่าวให้เธอดู มี่เฟิงเห็นก็รีบเดินไปคว้ารูปดังกล่าวกลับคืนมา
"เสียมารยาท! ใครใช้ให้หยิบของๆคนอื่นมาดู?" ต่อว่าไจ่ไจ๋เข้าให้
"อ้าว! ผมอุตส่าห์เก็บขึ้นมาให้ยังจะมาด่าผมอีก! กลัวคนอื่นรู้หรืองัยว่ามีพันธะแล้ว" ไจ่ไจ๋บ่นอุบ
"เธอจะบ้าหรอ!? นี่มันน้องชายชั้นไม่ใช่แฟนตามที่เธอเข้าใจ! ปัญญาอ่อน!" เธอแหวใส่เก็บรูปดังกล่าวใส่กระเป๋า
"น้องก็น้องสิ ไม่เห็นต้องด่าเลย" ไจ่ไจ๋ยังคงงึมงำเบาๆแต่ไม่ได้นึกโกรธเคืองเธอ
"ว่าแต่คุณมีน้องด้วยหรอ? ผมนึกว่าคุณมีแต่พี่สาวซะอีก" ไจ่ไจ๋เอ่ยขึ้นมาลอยๆ หญิงสาวหันมาสบตากับไจ่ไจ๋
"ตอนนี้ชั้นก็เหลือแต่พี่สาว น้องชั้นตายไปแล้ว" ได้ยินดังนั้นไจ่ไจ๋ก็อึ้งไป
"เอ่อ....ผม....ผมขอโทษนะ....ผมไม่รู้...." มี่เฟิงถอนหายใจเบาๆก่อนที่จะพูดตัดบท
"ไปสิ! ไหนบอกว่ามีอะไรให้กินงัย?" ไจ่ไจ๋จึงส่งสัญญาณให้เธอออกไปหน้าร้านส่วนตัวเองก็รีบไปหยิบจานชามแล้วตามออกมาทันที
"พี่กลอเรีย อันนี้อร่อยจังครับ" ไจ่ไจ๋ตักทอดมันขึ้นมากินแล้วก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงพอใจ
"จ๊ะ เจ้านี้เขาทำอร่อยมาก ต้องต่อแถวนานหน่อยพี่ถึงกลับมาช้างัย" กลอเรียตอบแล้วตักอย่างอื่นให้ไจ่ไจ๋อย่างเอาใจ
"มี่เฟิงตักกินสิจ๊ะ เดี๋ยวไจ่ไจ๋ก็แย่งกินหมดหรอก" หันมาพูดกับสาวรุ่นน้องบ้าง
"ค่ะ" เธอรับคำแล้วยิ้มบางๆก่อนที่จะตักกับข้าวกินบ้าง ไจ่ไจ๋เหลือบตามองเธอแล้วตักทอดมันให้
"ชิมดูสิ อร่อยนะ" มี่เฟิงเงยหน้าขึ้นมามอง ไจ่ไจ๋จึงยิ้มให้เธอก่อน
"ขอบใจ" เอ่ยขอบคุณแล้วตักกินอย่างเงียบๆ
"เห็นไจ่ไจ๋บอกว่ามี่เฟิงเป็นรุ่นพี่ที่ชมรมของเขา บังเอิญจังเลยนะจ๊ะ" กลอเรียชวนคุย
"ค่ะ แต่เราไม่ค่อยเจอกันเท่าไหร่ เขาไม่ค่อยเข้าชมรมน่ะค่ะ" มี่เฟิงหันไปตอบกลอเรีย
"อ้าว! ทำไมไม่เข้าชมรมหละจ๊ะ?" กลอเรียหันมาถามไจ่ไจ๋บ้าง ไจ่ไจ๋ก็ได้แต่อึกอักเพราะไม่อยากบอกว่าที่เขาไม่ค่อยเข้าชมรมนั้นก็เป็นเพราะไม่อยากเจอหน้ามี่เฟิงนั่นแหละ
"เขาคงกลัวชั้นมั้งคะพี่กลอเรีย" มี่เฟิงว่าแล้วหันไปยิ้มเยาะให้คู่กรณี ไจ่ไจ๋ทำหน้ามุ่ยใส่แต่ไม่ได้นึกโกรธอะไร
"ใช่ครับพี่กลอเรีย! เขาน่ะเป็นรุ่นพี่ที่โหดมาก รุ่นน้องทุกคนขยาดเขาหมดแหละ" ไจ่ไจ๋ได้โอกาสใส่ไฟหญิงสาว
"นี่! ชั้นโหดตรงไหนไม่ทราบ? แล้วรุ่นน้องคนไหนที่ขยาดชั้น? ไหนเธอลองบอกว่าซิ?" หญิงสาวย้อนถามอย่างหาเรื่อง
"อย่างน้อยก็มีผมคนนึงแหละ" ไจ่ไจ๋สวนกลับพร้อมกับชี้หน้าตัวเอง กลอเรียมองคนทั้งคู่ยิ้มๆ
"เอาหละจ๊ะ อย่าเพิ่งเถียงกัน กินข้าวก่อน" เธอพูดตัดบทเพื่อระงับสงครามน้ำลายที่กำลังจะเกิดขึ้น ไจ่ไจ๋แอบแลบลิ้นใส่มี่เฟิงก่อนที่จะก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ
"พี่กลอเรียคะ วันเสาร์นี้ชั้นขอหยุดนะคะ พอดีพี่สาวไม่สบายชั้นจะกลับไปดูเขาหน่อย" มี่เฟิงหันไปบอกกล่าวกับกลอเรีย
"อ้าว! พี่สาวไม่สบายหรอ? แล้วไม่บอกพี่แต่แรกพี่จะได้ให้เธอหยุดกลับบ้าน" กลอเรียอุทานอย่างตกใจ
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ชั้นถามคนที่บ้านแล้วเขาบอกว่าไม่ค่อยเป็นอะไรมาก แค่โหมทำงานหนักเท่านั้นเอง" เธอปฏิเสธแล้วตักข้าวกินต่อ
"แต่ยังงัยเธอก็ควรกลับบ้านไปดูเขานะจ๊ะ พี่สาวเธอก็มีเธออยู่คนเดียวนี่" ไจ่ไจ๋มองสองสาวคุยกันเงียบๆ
"ชั้นขี้เกียจกลับไปทะเลาะกับเขาค่ะ พอเจอหน้าก็มีแต่จะบังคับให้ชั้นกลับไปอยู่บ้านท่าเดียว" มี่เฟิงว่า
"เขาก็เป็นห่วงแหละจ๊ะ น้องสาวคนเดียวออกมาอยู่ข้างนอกไม่มีใครดูแลแบบนี้เป็นใครก็ต้องห่วงด้วยกันทั้งนั้น" กลอเรียพูดเตือนสติสาวรุ่นน้องกลายๆ
"ชั้นรู้ค่ะ แต่พี่ก็รู้นี่คะว่าพี่สาวชั้นเป็นคนยังงัย?" มี่เฟิงว่าแล้วหันไปทางไจ่ไจ๋
"ถามเขาดูก็ได้ค่ะ" ไจ่ไจ๋ได้ยินการสนทนาที่พาดพิงถึงตัวเองก็ทำหน้าเหรอ
"ชั้นเคยขับรถชนรถเขาค่ะ ตอนนั้นพี่สาวชั้นเป็นคนมาเคลียร์ให้" มี่เฟิงพูดยิ้มๆ
"อ้อ! คุณยอมรับแล้วสิว่าคุณขับรถชนผม?" ไจ่ไจ๋อดที่จะแขวะหญิงสาวไม่ได้
"แล้วชั้นเคยปฏิเสธหรอ?" เธอย้อนถาม
"นี่คุณ! ทำไมคุณกวนขนาดนี้นะ?" ไจ่ไจ๋อดปากไว้ไม่ไหวต่อว่าเธอเข้าให้บ้าง
"งั้นหรอ? ไม่เคยมีใครว่าชั้นแบบนี้เลย เธอเป็นคนแรกนะเนี่ย" หญิงสาวยังกวนไม่เลิก ไจ่ไจ๋เบ้ปากใส่เธออย่างหมั่นไส้แต่ก็เถียงอะไรไม่ออก ส่วนกลอเรียได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ
"ไม่น่าหละ พี่ถึงว่าพวกเธอดูมึนตึงใส่กัน" กลอเรียเอ่ยขึ้น
"เรื่องนั้นผมไม่ถือสาอะไรแล้วหละครับ คิดว่าฟาดเคราะห์" พูดจบไจ่ไจ๋ก็ยักไหล่
"แล้วเรื่องที่งอนกับพี่ชายหละ? หายงอนพวกเขาหรือยัง?" กลอเรียถามต่อเพราะเห็นว่าไจ่ไจ๋ดูอารมณ์ดีขึ้นมากแล้ว
"ก็.....เหลืออีกนิดนึง เกือบๆจะหายแล้วหละ" ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับยิ้มให้กลอเรีย
"ไจ่ไจ๋เขางอนพี่ชายที่ไม่สนใจเขาน่ะ พอดีพี่ชายคนกลางของเขาป่วยจนต้องเข้าโรงบาล พี่ชายอีกสองคนก็พากันไปเอาใจพี่ชายคนกลางหมด เขาเลยน้อยใจหนีออกมานี่แหละ" กลอเรียหันไปเล่าให้มี่เฟิงฟัง
"พี่กลอเรีย! บอกเขาทำไมหละ?" ไจ่ไจ๋ร้องพลางทำหน้ามุ่ย
"อ้าว! บอกไม่ได้หรอ?" กลอเรียย้อนถามยิ้มๆ
"ฮึ! เธอนี่นิสัยยิ่งกว่าเด็กอีกแล้วแบบนี้ชั้นเรียกว่าเด็กน้อยไม่ถูกหรอ?" มี่เฟิงก็คอยสำทับไจ่ไจ๋ด้วย
"ตัวเองเป็นผู้ใหญ่ตายหละ! แก่กว่าผมแค่กี่ปีกันเชียว?" ไจ่ไจ๋ย้อนแล้วตักข้าวกินอย่างเคืองๆ กลอเรียกับมี่เฟิงจึงหันไปหัวเราะกันเบาๆ
"เอาหละจ๊ะ ไม่เถียงกันแล้ว กินข้าวเถอะ เสร็จแล้วเราจะได้ปิดร้านกัน" แล้วกลอเรียก็พูดตัดบทเพื่อให้ทุกคนกินข้าวกันต่อ

- ที่โรงพยาบาล -
"นายวิ่งเร็วๆแล้วกระโดดสิ! มาช้าๆแบบนี้ก็ไม่ผ่านซักที" แวนเนสร้องบอกน้องชายในขณะที่ทั้งคู่กึ่งนั่งกึ่งนอนเอาหัวพิงกันอยู่บนเตียงโดยแวนเนสกำลังดูน้องเล่นเกมส์
"นายก็พูดง่ายนี่หว่า ไม่ใช่ว่ากระโดดแล้วมันจะผ่านไปได้นะ" เคนเถียงพี่ชายในขณะที่มือก็ยังบังคับเจ้าเครื่องเกมส์กดอย่างเมามัน
"นายก็ลองก่อนสิ!" แวนเนสว่าพลางเอาศอกกระทุ้งให้น้องทำตามที่เขาบอก
"เออๆๆๆ เดี๋ยวลองใหม่" เคนตอบรับแล้วเล่นตามที่พี่ชายบอก
"นั่นแหละๆๆๆ เอ้า! กระโดด!" แวนเนสเชียร์น้องเสียงดังด้วยพลอยลุ้นไปด้วย
"อึ๋ย!! เย้!!! ผ่านแล้วโว้ย!!" เคนร้องออกมาอย่างดีใจที่ผ่านด่านได้ซักที
"ฮ่าๆๆๆ!! นั่นงัยเห็นมั๊ย? ชั้นบอกแล้วว่าต้องเล่นแบบนี้" แวนเนสได้ทียกตัว
"เออ! พ่อคนรู้มาก! เล่นเองทีไรไม่เห็นนายผ่านเลย" เคนหันไปแขวะพี่ชาย
"ก็ชั้นไม่มือไวเหมือนนายนี่นา" แวนเนสย้อนพร้อมกับผลักหัวน้องเบาๆ
"ด่านสุดท้ายแล้ว! คราวนี้ได้เล่นจนจบเกมส์ซักที" เคนไม่สนใจคำต่อว่าของพี่ชายเพราะกำลังสนุกกับเกมส์อยู่
"เอาให้ผ่านนะ ชั้นจะดูดิ๊ว่าจบแล้วมันจะเป็นยังงัย?" แวนเนสเองก็ลุ้นไปกับน้องด้วยแต่พอได้ยินเสียงเปิดประตูแวนเนสก็กระตุกแขนน้องพร้อมกับกระซิบบอก
"เสี้ยวเทียน! เจอร์รี่มาแล้ว!" เคนได้ยินก็รีบกดหยุดแล้วเอาเกมส์สอดลงใต้หมอน ล้มตัวนอนหลับตาทันที
"ฮึ!" เจอร์รี่ที่เดินเข้ามาทำเสียงในลำคอพลางส่ายหน้าไปมาเพราะเห็นการกระทำของน้องทุกอย่าง เขาเอากระเป๋าสัมภาระของตัวเองวางลงที่โซฟาก่อนที่จะเดินเข้าไปหาน้องชายที่แกล้งนอนหลับตาอยู่บนเตียง
"หลับนานแล้วหรอ?" แกล้งหันไปถามแวนเนสที่นั่งเอามือลูบหัวน้องชายเล่นอยู่
"อืม....เล่นเกมส์ได้ซักพักมันก็หลับ" แวนเนสตอบด้วยสีหน้าเป็นปกติ
"โกหกซึ่งหน้าเลยนะไอ้ตัวแสบ!" พี่ใหญ่ว่าพลางบิดหูแวนเนสไปด้วย
"โอ้ยๆๆๆๆ!!!" เมื่อได้ยินเสียงแวนเนสร้องเคนก็หรี่ตาขึ้นมามองแต่พอเห็นสายตาของพี่ใหญ่ที่จ้องกลับมาแล้วก็รีบหลับตาลงทันที
"ไม่ต้องมาแกล้งหลับ! ชั้นเห็นหมดแล้วว่านายทำอะไรอยู่!" ว่าพลางบิดหูเคนด้วยอีกคน
"โอ้ยย!!!!" เคนร้องพร้อมกับดึงมือพี่ชายออกแล้วเอามือลูบหูร่อยๆ
"เอาเกมส์มานี่เลย!" เคนไม่ยอมให้ซ้ำยังนอนนิ่งอยู่อย่างเดิม เมื่อเป็นดังนั้นเจอร์รี่จึงเอามือควานหาที่ใต้หมอนแล้วหยิบออกมาเอง
"นายอย่าเพิ่งปิดนะ!!" เคนร้องบอกเมื่อเห็นพี่ชายทำท่าจะปิดเกมส์ของเขา
"ชั้นเล่นมาตั้งนาน จะจบเกมส์อยู่แล้ว" ได้ยินดังนั้นพี่ใหญ่ก็ทำหน้าเข้ม
"ยอมรับแล้วใช่มั๊ยว่าเล่นมานานแล้ว?" คำถามนั้นทำเอาเคนถึงกับอึกอัก
"ไม่สบายอยู่ให้นอนพักไม่รู้จักนอนแล้วแบบนี้มันจะหายได้ยังงัย!? คอยดูนะถ้าพรุ่งนี้ไข้ยังไม่ลดชั้นจะไม่ยอมให้นายกลับบ้านเด็ดขาด!" เคนหน้ามุ่ยลงเมื่อโดนพี่ชายดุ
"เล่นอยู่ได้ไอ้เกมส์บ้าๆนี่!" พูดจบก็ดึงตลับเกมส์ออกแล้วปิดเครื่องทันที เคนอ้าปากค้างเมื่อเห็นดังนั้น
"ชั้นบอกว่าอย่าปิดงัย! นายปิดทำไม?" แล้วก็ร้องโวยวายเป็นการใหญ่
"ชั้นปิดแล้วนายจะทำไม?" เดินเข้ามาใกล้น้องพร้อมกับถามอย่างเอาเรื่อง เคนมองพี่ชายด้วยแววตาขุ่นมัวไม่พอใจ
"เอาน่าเสี้ยวเทียน ไว้เล่นใหม่ก็ได้ นอนก่อนนะ" แวนเนสพูดไกล่เกลี่ยขึ้นมาเพราะเห็นว่าพี่ใหญ่เริ่มอารมณ์เสียแล้ว
"นายก็เห็นว่ากว่าจะเล่นผ่านได้มันยากขนาดไหน!?" เคนโวยวายไม่เลิก
"ยังไม่หยุดอีกใช่มั๊ย!?" พี่ใหญ่เสียงเข้มขึ้นมาตามลำดับ
"ใจเย็นๆน่า! น้องมันไม่สบายอยู่นะ" แวนเนสเตือนพี่ชาย
"นอนเร็วเสี้ยวเทียน" บอกกับน้องด้วยแววตาขอร้อง เคนเม้มปากแล้วมองพี่ใหญ่อย่างขุ่นเคือง
"ดื้อด้านนักนะ!" เจอร์รี่เงื้อนมือขึ้นจะตีน้องแต่แวนเนสรีบเข้าห้ามซะก่อน
"อย่าน่า! เดี๋ยวก็เป็นเรื่องอีกหรอก" แวนเนสเอ่ยเตือนพี่ชาย ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็ลดมือลงเปลี่ยนมาเป็นชี้หน้าน้องแทน
"ถ้าขืนยังดื้อแล้วพูดจาไม่เชื่อฟังแบบนี้อีกชั้นเอานายตายแน่!" เคนเห็นพี่ชายเอาจริงก็เริ่มหวั่นๆรู้สึกกลัวอยู่เหมือนกันจึงล้มตัวนอนทันที
"หลับไปเลยนะ! ลืมตาขึ้นมาให้เห็นอีกทีหละน่าดู!" พูดขู่น้องต่ออีก เคนหลับตาลงด้วยสีหน้าบึ้งตึง
"พอเถอะ! น้องมันกลัวแล้ว" แวนเนสว่าแล้วดึงพี่ชายออกมานั่งที่โซฟา
"พูดดีๆไม่เคยฟัง! ไม่ดุก็ไม่กลัว! ยิ่งโตก็ยิ่งดื้อพูดยากพูดเย็นยิ่งกว่าเด็กๆซะอีก! ชั้นไม่เข้าใจเลยว่าทำไมมันถึงรั้นได้ขนาดนี้! เฮ้อ!" พูดจบเจอร์รี่ก็ถอนหายใจยาวอย่างเอือมระอา
"ด่ามันเสร็จพอหายโกรธแล้วนายก็กลับไปโอ๋มัน แน่จริงตัดหางปล่อยวัดเลยสิ กล้าหรือเปล่า?" แวนเนสว่าพี่ชายเข้าให้บ้าง
"เออ! ว่าจะทำแบบนั้นอยู่เหมือนกันแหละ!" พี่ใหญ่ตวัดเสียง
"ไอ้แสบนั่นอีกคน! เดี๋ยวกลับมาเมื่อไหร่ชั้นเอาเรื่องมันแน่! ทำตัวงี่เง่าชะมัด!" พาลไปว่าน้องเล็กด้วยอีกคน แวนเนสเลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไร
"นายก็เหมือนกัน! คอยยุยงส่งเสริมน้องให้มันดื้อด้านกับชั้น! ไอ้เรื่องที่ชั้นห้ามน่ะชอบทำนัก!" พี่ใหญ่ไม่พูดเปล่าแต่เหน็บที่ต้นแขนน้องเข้าให้ด้วย
"อู้ยยย.....ชั้นยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ....." แวนเนสพูดเสียงอ่อยๆพลางเอามือลูบแขนตัวเองไปด้วย
"ไม่ทำอะไร!? นายแหละตัวดีเลย! รู้เห็นเป็นใจกับน้องทุกเรื่อง อย่านึกว่าชั้นไม่รู้นะ!" แวนเนสหลบตาวูบในทันที
"ชั้นเป็นคนเลี้ยงพวกนายมากับมือ อยู่กับพวกนายมาตลอดทั้งชีวิต มองแว๊บเดียวก็รู้แล้วว่าพวกนายไปทำอะไรมา ชั้นรู้หมดทุกอย่างแต่บางครั้งก็ขี้เกียจจะพูดให้มันเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาแต่พอชั้นไม่พูดพวกนายก็ได้ใจนึกว่าชั้นไม่รู้ว่าพวกนายไปก่อวีรกรรมอะไรไว้หละสิใช่มั๊ย?" เจอร์รี่บ่นน้องอีกยืดยาว
"โดนเทศน์ซะงั้น ซวยชะมัดเลย" แวนเนสพึมพำกับตัวเองเบาๆ
"บ่นอะไร!?" เจอร์รี่ทำเสียงดุๆ
"เปล่า" แวนเนสตอบพี่ชายเสียงดังฟังชัด
"เวลาชั้นพูดชั้นสอนเนี่ยไม่เคยจดไม่เคยจำ! ได้แต่ฟังเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไม่เคย....." เจอร์รี่ยังพูดไม่ทันจบแวนเนสก็แทรกขึ้นมาก่อน
"จะเทศน์อีกนานมั๊ย? ชั้นจะได้ไปหากาแฟมากินก่อน" แวนเนสแขวะพี่ชายกลายๆ
"เสี้ยวเทียนมันฟังเทศน์จนหลับปุ๋ยไปแล้ว ชั้นเองก็ชักง่วงขึ้นมาตะหงิดๆแล้วเหมือนกัน" พี่ใหญ่พูดอะไรไม่ออกเมื่อโดนน้องยอกย้อนเช่นนี้
"อุ๊ย! ใครโทรศัพท์มาก็ไม่รู้?" แวนเนสว่าพร้อมกับมองไปที่โทรศัพท์มือถือของตัวเองที่เปิดสั่นไว้
"รับได้มั๊ยอะ? หรือว่าต้องฟังเทศน์ให้จบก่อน?" ตีหน้าซื่อถามพี่ชายอีก
"ก็รีบรับสิ!" เจอร์รี่แหวใส่แล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
"มาถึงแล้วหรอครับ? เดี๋ยวผมออกไปรับนะ โอเคๆๆ แค่นี้นะครับ" พูดจบแวนเนสก็วางสายแล้วหันมาทางพี่ชาย
"กลอเรียมาถึงแล้ว พาไจ่ไจ๋มาส่งด้วย ชั้นออกไปรับก่อนนะ" เจอร์รี่พยักหน้ารับรู้ แวนเนสจึงรีบเดินออกมาจากห้องมาอย่างรวดเร็ว
"กลอเรียครับ!" แวนเนสเรียกคนรัก กลอเรียจึงหันมาตามเสียง ไจ่ไจ๋เองก็หันมาตามเสียงพี่ชายด้วย
"ผลไม้เยี่ยมเสี้ยวเทียนค่ะ" กลอเรียยิ้มรับพร้อมกับส่งกระเช้าผลไม้ให้คนรัก
"ขอบคุณมากครับ ที่จริงไม่ต้องลำบากก็ได้" แวนเนสเอ่ยขอบคุณพร้อมกับรับมาถือไว้
"ไม่ลำบากเลยค่ะ นิดหน่อยเอง" กลอเรียตอบรับ แวนเนสยิ้มบางๆแล้วเหลือบไปทางน้องชาย
"ว่างัยไอ้แสบ! เกิดงอนอะไรขึ้นมาอีก? รู้เปล่าว่าพี่โดนพี่ใหญ่สวดจนหูชาไปหมดแล้ว" หันไปผลักหัวน้องเบาๆ
"พี่ใหญ่โกรธหรอ?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายหน้าแหยๆ
"ความจริงมันก็ไม่ได้โกรธหรอกแต่โดนไอ้พี่กลางมันอาละวาดใส่น่ะสิ เลยอารมณ์ขึ้นซะ.....พี่ก็พลอยโดนร่างแหไปด้วย นายเองก็คงไม่รอดเหมือนกัน แคะหูรอได้เลย" แวนเนสว่า
"แล้วนี่เสี้ยวเทียนเป็นยังงัยบ้างคะ?" กลอเรียถามขึ้นบ้าง
"ก็ยังไข้สูงเหมือนเดิม หมอบอกว่าคงมีไข้สูงแบบนี้ประมาณ 2-4 วันน่ะครับ" แวนเนสตอบแล้วเชิญชวนหญิงสาวไปที่ห้องพักของเสี้ยวเทียน
"สวัสดีค่ะเจอร์รี่" กลอเรียเอ่ยทักทายเจอร์รี่ที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่คนเดียว
"สวัสดีครับ" เจอร์รี่ยิ้มรับแล้วมองเลยไปทางน้องเล็กที่ยืนหลบอยู่ด้านหลังกลอเรีย
"ไจ่ไจ๋! มานี่ซิ" เรียกน้องเล็กเสียงห้วนเล็กน้อย ไจ่ไจ๋หน้าเบ้ด้วยกลัวจะโดนพี่ชายเล่นงาน
"เอ่อ....ไจ่ไจ๋จ๊ะ ไหนบอกว่าปวดหัวไม่ใช่หรอ? นั่งลงก่อนดีกว่านะจ๊ะ" กลอเรียแก้สถานการณ์โดยการออกหน้าช่วยไจ่ไจ๋ เจอร์รี่ได้ยินก็มีท่าทีอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
"นายปวดหัวหรอไจ่ไจ๋? ไหน? พี่ใหญ่ดูซิ" เจอร์รี่ก้าวไปดึงตัวน้องมาใกล้แล้วเอามืออังที่หน้าผากน้องชาย
"ครับ ผมปวดหัวมากเลย" ไจ่ไจ๋ได้ทีรับมุขของกลอเรียอย่างแนบเนียน
"สงสัยคงเป็นเพราะช่วยงานที่ร้านมากไปหน่อยน่ะค่ะ วันนี้มีหนังสือเข้ามาใหม่ชั้นเลยไหว้วานให้ไจ่ไจ๋ช่วย พอช่วยเสร็จเขาก็มีอาการปวดหัวแบบนี้แหละค่ะ" คำพูดของกลอเรียทำเอาเจอร์รี่เชื่อสนิทใจ ความไม่พอใจที่น้องเล็กงอนเขาแบบไม่มีเหตุผลหายไปจนหมดสิ้น
"ไปให้หมอตรวจมั๊ย?" พี่ใหญ่ถามน้องต่ออย่างเป็นห่วง
"ไม่ต้องหรอครับพี่ใหญ่ ผมแค่อยากนั่งพัก" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วส่งสายตาขอบคุณกลอเรีย
"พี่ไปหายาแก้ปวดมาให้นายดีกว่า แป๊บนึงนะ" พูดจบก็ทำท่าจะออกจากห้อง
"แวนเนส หาน้ำหาท่าให้กลอเรียดื่มซะด้วยนะ" กำชับน้องชายคนรองอย่างนึกขึ้นได้แล้วจึงค่อยออกจากห้องไป
"เฮ่อ! รอดตัวไป นึกว่าจะโดนด่าเละซะแล้ว ขอบคุณพี่กลอเรียมากๆเลยนะครับ" ไจ่ไจ๋รีบขอบคุณกลอเรียทันที
"ไม่เป็นไรจ๊ะ แต่แหม....อย่าทำแบบนี้บ่อยนะ พี่เองก็ไม่สบายใจที่ต้องพูดโกหก" หญิงสาวเตือนไจ่ไจ๋กลายๆ
"ผมจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วครับ" ไจ่ไจ๋รับคำพร้อมกับยิ้มแหยๆ
"หึๆๆๆ คุณนี่มาอยู่กับพวกเราได้สบายเลยนะ ไอ้เรื่องช่วยกันปิดบังพี่ใหญ่นี่พวกเราสามคนทำกันเป็นอาชีพ" แวนเนสหัวเราะพลางว่าอย่างอารมณ์ดี หญิงสาวได้แต่ส่ายหัวยิ้มๆ
"ชั้นชักสงสารเจอร์รี่แล้วสิคะ แบบนี้มันสามรุมหนึ่งนี่นา" เธอพูดขึ้นอย่างติดตลก
"หนึ่งรุมสามมากกว่าครับ เจอร์รี่คนเดียวก็จริงแต่มันดุมันตีพวกเราได้ทุกคน ส่วนพวกเราทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากแก้ตัวแทนกันแบบนี้แหละครับ" แวนเนสแย้ง กลอเรียหัวเราะแล้วสาวเท้าเข้าไปดูเคนที่นอนพักผ่อนอยู่
"ไจ่ไจ๋! อะ....นี่ยาแก้ปวด" เจอร์รี่เดินกลับเข้ามาแล้วส่งยาให้น้อง
"ขอบคุณครับ" ไจ่ไจ๋รับมาแล้วมองไปทางแก้วน้ำ
"เดี๋ยวพี่เอาน้ำให้" ได้ยินดังนั้นไจ่ไจ๋ก็ยิ้มเป็นเชิงขอบคุณให้พี่ชาย และเมื่อพี่ชายเผลอเขาก็เอายาใส่กระเป๋ากางเกง
"รีบกินยาเร็ว" พี่ใหญ่บอกน้องพร้อมกับยื่นแก้วน้ำให้ ไจ่ไจ๋กำมือไว้แล้วแกล้งยกขึ้นมาเหมือนเอายาใส่ปากจากนั้นก็ดื่มน้ำจนหมดแก้ว
"กลับบ้านไปนอนพักเอามั๊ย? พี่ไปส่ง" เจอร์รี่นั่งลงข้างน้องพร้อมกับถามด้วยความเป็นห่วง
"ไม่ต้องหรอกครับ อีกซักพักก็คงหาย พี่ครับ....ผมขอโทษนะที่ออกไปโดยไม่บอก" ไจ่ไจ๋รีบชิงขอโทษขึ้นมาก่อนเพราะรู้ว่ายังงัยพี่ใหญ่ก็คงไม่เอาเรื่องเขาแล้ว
"ผมแค่เห็นว่าพี่กลางเขาคงต้องการให้พี่กับพี่รองคอยดูแล ผมอยู่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เกะกะเปล่าก็เลยไปหาหนังสืออ่านดีกว่า ใกล้จะสอบแล้วด้วย" เจ้าน้องชายตัวแสบสาธยายพลางตีหน้าเศร้าอย่างสมบทบาท เมื่อได้ยินน้องยกเรื่องเรียนมาอ้างพี่ใหญ่ก็ไม่ติดใจอะไรอีก
"ไม่เป็นไรหรอก พี่ไม่โกรธ แต่วันหลังอย่าทำแบบนี้อีกหละ พี่สามคนเป็นห่วงนายมากรู้มั๊ย?" แม้จะไม่ว่าอะไรแต่ก็อดที่จะกำชับกำชาน้องไม่ได้
"รู้แล้วครับ" ตอบรับคำพี่ชายแบบชัดถ้อยชัดคำแล้วขยับเข้าไปเอาหัวพิงที่ไหล่พี่ชาย เจอร์รี่เอามือตบหัวน้องชายเบาๆอย่างเอ็นดู
"เออ! อะไรจะเนียนแบบนี้?" แวนเนสแอบนินทาน้องกับคนรักเบาๆ
"แบบนี้ก็ดีแล้วนี่คะ หรือคุณอยากให้มีเรื่องมากกว่านี้?" กลอเรียย้อนถามแวนเนส
"ไม่ใช่ซักหน่อย แค่หมั่นไส้มัน ทำผิดแท้ๆไม่โดนว่าซักคำ ผมเนี่ยนั่งอยู่เฉยๆยังโดนสวดยับเลย" แวนเนสแย้งพร้อมกับฟ้องคนรักเป็นการใหญ่
"คุณไปกวนเจอร์รี่เขาน่ะสิ" หญิงสาวพูดอย่างรู้ทัน
"ยังไม่ได้กวนเลย จริงๆแล้วต้องโทษเจ้านี่!" แวนเนสเอานิ้วจิ้มลงไปที่แก้มน้องชายคนกลางที่กำลังนอนอยู่บนเตียงคนป่วย
"อื้อ!" เคนร้องครางแล้วปัดมือพี่ชายออกอย่างรำคาญ แวนเนสกับกลอเรียจึงหัวเราะออกมาพร้อมกัน
"มันเล่นเกมส์ไม่ยอมหยุด เจอร์รี่มาเห็นเข้าก็เป็นเรื่องเลยทีนี้เพราะเขาบอกให้เสี้ยวเทียนนอนพักมากๆแต่มันดันเล่นเกมส์ไม่เลิก ผมก็พลอยโดนร่างแหไปด้วยหาว่าผมไม่ปรามน้อง แล้วผมเนี่ยเคยขัดใจมันได้ที่ไหนกัน?" กลอเรียยิ้มเมื่อได้ยิน
"ว่าแต่เสี้ยวเทียนกลับบ้านได้เมื่อไหร่คะ?" เธอย้อนถามคนรัก
"ไม่รู้เหมือนกันแต่ดูท่าแล้วเจอร์รี่มันยังไม่ยอมให้กลับง่ายๆแน่ สงสัยพรุ่งนี้ได้ทะเลาะกันอีก" พูดจบแวนเนสก็ทำหน้าเมื่อย
"เสี้ยวเทียนเขาไม่ชอบโรงบาลหรอคะ?" กลอเรียถามอีก
"ใครจะชอบหละครับ? เป็นผมก็คงอยากกลับบ้านเหมือนกัน" แวนเนสว่าพลางขยับตัวขึ้นไปนั่งบนเตียงน้องชาย
"วันนี้ทำงานหนักหรอคะ? ดูคุณท่าทางเหนื่อยๆ" กลอเรียสังเกตสีหน้าคนรักพร้อมกับเอ่ยถามอย่างใส่ใจ
"อืม....วันนี้ยืนถ่ายแบบทั้งวัน โพสท่าจนหัวหมุนไปหมด" แวนเนสตอบ
"ว่าแต่คุณกินอะไรมาหรือยัง? ผมรู้สึกหิวแล้วสิ ลงไปหาอะไรกินเป็นเพื่อนผมหน่อยได้มั๊ย?" แวนเนสทำเสียงอ้อนๆ
"ไปสิคะ ชั้นไปนั่งเป็นเพื่อนแล้วกันเพราะเพิ่งกินข้าวก่อนออกมาที่นี่เอง" หญิงสาวตอบรับคำขอของคนรักอย่างเต็มอกเต็มใจ
"เจอร์รี่ ไจ่ไจ๋ ชั้นจะไปหาอะไรกินซักหน่อย ไปด้วยกันมั๊ย?" แวนเนสหันไปชวนพี่น้องอีกสองคน
"ผมเพิ่งกินกับพี่กลอเรียมาครับ" ไจ่ไจ๋ตอบ ดังนั้นแวนเนสจึงหันไปทางพี่ใหญ่
"ไปเถอะ พี่ยังไม่หิว" เจอร์รี่บอกแล้วโบกมือให้น้องรีบไปกินข้าว
"งั้นเดี๋ยวมานะ" แวนเนสพูดทิ้งท้ายแล้วจูงมือหญิงสาวออกจากห้องไป
"นายง่วงหรือเปล่าไจ่ไจ๋? นอนหนุนตักพี่ก็ได้" หลังจากแวนเนสออกไปเจอร์รี่ก็หันมาพูดกับน้องเล็ก แม้จะไม่รู้สึกง่วงแต่ไจ่ไจ๋ก็ล้มตัวนอนหนุนตักพี่ชายโดยไม่พูดอะไร
"ปวดหัวมากมั๊ย? หรือว่าอ่านหนังสือมากไป?" เมื่อเห็นน้องไม่พูดพี่ใหญ่ก็ยิ่งเป็นห่วง ไจ่ไจ๋มองหน้าพี่ชายแล้วรู้สึกผิดที่หลอกพี่ชาย
"ไม่หรอกครับพี่ ผมแค่รู้สึกเมื่อยอยากนอนเหยียดซักหน่อย" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วจับแขนพี่ชายขึ้นมากอด
"หนาวหรอ?" เจอร์รี่ก้มลงถามน้องอีก น้องเล็กส่ายหน้าปฏิเสธ
"ผมนี่งี่เง่าจริงๆ พี่ดีกับผมขนาดนี้ผมยังไม่สำนึกอีก" ไจ่ไจ๋ต่อว่าตัวเองขึ้นมา
"พูดอะไรแบบนี้หละ? ว่าตัวเองทำไมกัน?" เจอร์รี่ลูบหัวน้องชายอย่างรักใคร่
"ก็มันจริง พี่รู้มั๊ยว่าบางทีผมก็มีความคิดชั่วร้ายอยู่ในหัวเหมือนกัน" เจอร์รี่แกล้งทำตาโตเมื่อได้ยิน
"ตายหละ! อย่าบอกนะว่านายคิดจะฆ่าพี่!?" แกล้งทำน้ำเสียงตกใจเพื่อหยอกน้อง
"แหม....ไม่ใช่ซักหน่อย...." ไจ่ไจ๋ร้องครางแล้วกอดแขนพี่ชายแน่นขึ้นอีก
"แค่เคยคิดว่าผมต้องเป็นที่หนึ่งของพวกพี่สามคนเสมอ" พี่ใหญ่ยิ้มบางๆแล้วดึงแก้มน้องอย่างเอ็นดู
"นายก็เป็นที่หนึ่งของพวกพี่อยู่แล้วงัย" ว่าพลางจับหัวน้องโยกไปมาเบาๆ
"ไม่ใช่หรอกครับ เพราะผมเพิ่งคิดได้ว่าสำหรับพวกเราสี่คนแล้วคนที่เป็นที่หนึ่งในใจต้องมีถึงสาม" พี่ใหญ่ได้ยินก็ทำหน้างงๆ
"ก็พี่ใหญ่น่ะมีน้องสามคน ฉะนั้นคนที่เป็นที่หนึ่งของพี่ก็ต้องมีพี่รอง พี่กลางแล้วก็ผมงัย" ได้ยินเช่นนี้เจอร์รี่ก็พยักหน้าอย่างพอเข้าใจ
"นายอยากเป็นที่หนึ่งและหนึ่งเดียวของพวกพี่ โดยที่ไม่อยากเป็นหนึ่งในสามของที่หนึ่งใช่มั๊ย?" ย้อนถามน้องกลับไป
"ผมเคยคิด แต่ตอนนี้ไม่คิดแบบนั้นแล้วหละ" ไจ่ไจ๋ยิ้มให้พี่ชาย
"เพราะความจริงแล้วที่หนึ่งของผมก็ไม่ใช่หนึ่งเดียว แต่ก็มีถึงสามเหมือนกัน" เจอร์รี่หัวเราะออกมาเบาๆกับคำพูดของน้อง
"วันนี้น้องพี่เป็นอะไรเนี่ย? จู่ๆก็มาพูดอะไรที่เข้าใจยากๆแบบนี้?" พูดแหย่น้องชายด้วยความเอ็นดู
"ผมโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ต้องพูดอะไรที่มีหลักการซักหน่อยสิ" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับยักคิ้วให้พี่ชาย
"โตเป็นผู้ใหญ่แล้วต่อไปก็จะไม่ยอมอ้อนพี่อีกใช่มั๊ย?" เจอร์รี่ถามน้องต่ออีก
"ทำใจยากจังเวลาน้องโตเป็นผู้ใหญ่กันหมดเนี่ย" แกล้งรำพันออกมาต่อ
"ไม่หรอกครับ ต่อให้ผมโตแค่ไหนผมก็จะยอมเป็นน้องเล็กๆของพี่เสมอ" น้องเล็กว่าพร้อมกับเอามือประสานกับมือพี่ชาย เจอร์รี่ยิ้มไปกับคำพูดของน้องชาย
"ได้ยินอย่างนี้แล้วค่อยโล่งอกหน่อย ถ้าไม่มีใครมาคอยอ้อนพี่ใหญ่ต้องเหงาแน่ๆ" พี่ใหญ่พูดยิ้มๆ ไจ่ไจ๋ไม่ตอบว่าอะไรแต่ยกมือพี่ชายมาแตะที่แก้มตัวเอง
"ผมรักพี่นะครับ" น้องเล็กว่าแล้วเอาหน้าซุกกับมืออุ่นๆของพี่ชาย
"พี่ก็รักนายเหมือนกัน ไอ้ตัวยุ่ง!" พี่ใหญ่ตอบรับคำน้องด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม



Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2550 11:19:52 น. 0 comments
Counter : 1216 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

loving_zai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




[Add loving_zai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com