Chapter 6

ตอนที่ 6
"อรุณสวัสดิ์ครับ" ไจ่ไจ๋เอ่ยทักพี่ชายคนกลางที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อย่างสบายอารมณ์อยู่
"อรุณสวัสดิ์ เดี๋ยวนี้ตื่นเองเป็นแล้วหรอ?" เคนเงยหน้าขึ้นมาแซวน้องชาย ไจ่ไจ๋ยิ้มแล้วเดินเข้าไปกอดคอจากทางด้านหนังของโซฟา
"ต้องรู้จักทำอะไรเองมั่งสิ! จะได้มีปัญญาไปดูแลคนอื่นได้!" พูดจบก็หอมแก้มพี่ชายแล้วหันไปคว้าหนังสือพิมพ์อีกครึ่งฉบับหลังขึ้นมาเปิดดูผ่านๆ
"ฮึ! แกแดดจริงๆ! จะดูแลคนอื่น" เคนพึมพำต่อว่าน้องเบาๆแต่สีหน้ายังคงยิ้มๆ
"วันนี้เลิกเรียนแล้วจะไปเตร่ที่ไหนอีกคุณชาย?" เคนเอ่ยถามน้อง
"เดี๋ยวถามคนไปด้วยก่อน" ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับยักคิ้วให้พี่ชายอย่างกวนๆ
"หมั่นไส้! นี่ตกลงนายคิดจะคบกับน้องรหัสตัวเองจริงๆหรอ?" เคนถามต่อน้ำเสียงเป็นการเป็นงานขึ้น
"ก็....ทำไมหละ? ไม่ได้หรอ?" น้องเล็กย้อนถามพลางมองหน้าพี่ชายตาแป๋ว
"ไม่ใช่ไม่ได้ แต่มันไม่เร็วไปหน่อยหรอ? เปิดเทอมได้ไม่กี่เดือนเองนะ พี่ว่าลองศึกษากันไปก่อนอย่าเพิ่งรีบเลย" เคนปฏิเสธแต่ก็ให้เหตุผลกับน้อง
"หมายความว่ายังไม่ควรคบกันใช่มั๊ย?" ย้อนถามต่ออีก
"จะว่าอย่างนั้นก็ได้ เพราะตอนนี้เพิ่งจะรู้จักกันมันก็ย่อมแสดงแต่ข้อดีให้แต่ละฝ่ายเห็น ถ้าคบๆกันไปแล้วเขาไม่ใช่อย่างที่นายคิดหละ?" เคนมองหน้าน้องเป็ยเชิงถาม
"แต่หลิงเอ๋อเขาเป็นเด็กเรียบร้อยนะครับ ดูแล้วง่ายๆสบายๆออก" ไจ่ไจ๋แย้งพี่ชาย
"นายรู้ได้ยังงัย? คนทุกคนมันก็ต้องมีสองด้านทั้งนั้นแหละ ที่พี่พูดแบบนี้ไม่ได้ห้ามแต่อยากให้นายคบกันแบบเพื่อนแบบพี่น้องไปก่อนอย่างเพิ่งข้ามขั้นให้เขามาเป็นคนพิเศษของเรา เชื่อพี่เถอะว่าคนเราน่ะย่อมมีข้อเสียด้วยกันทุกคน" เคนอธิบายให้น้องฟังอย่างใจเย็น
"ครับ ผมจะจำไว้" น้องเล็กรับคำอย่างว่าง่าย
"จำอย่างเดียวไม่พอ ทำตามซะด้วย! รู้มั๊ยไอ้ตัวแสบ?" เคนว่าพร้อมกับขยี้หัวน้องชายอย่างเอ็นดู ไจ่ไจ๋หัวเราะแล้วก้มหน้าลงดูหนังสือพิมพ์ต่อ เขามองผ่านๆมาจนถึงหน้าข่าวบันเทิงแล้วก็หยุดมองรูปที่ลงอยู่ในหนังสือพิมพ์นั้นอย่างฉงน
"พี่กลาง....ดูนี่สิ คุ้นๆมั๊ย?" ไจ่ไจ๋สะกิดพี่ชายแล้วยื่นหนังสือพิมพ์ในมือไปให้พี่ชายดู เคนยื่นหน้ามามองตามนิ้วของน้องที่ชี้ลงที่ภาพนั้น
"เออว่ะ....ไหนดูสิ" เคนหยิบขึ้นมาดูให้ชัดๆ
"เฮ้ย!!!" แล้วอุทานเสียงหลงขึ้นมาทันที
"นี่มันไอ้พี่รองนี่หว่า" ไจ่ไจ๋แย่งคืนกลับมาแล้วเปิดดูรายละเอียด
"มันลงว่างัยวะ?" เคนถามด้วยความอยากรู้พร้อมกับชะเง้อคอมองข้อความที่ลงไว้ในหนังสือพิมพ์ด้วย
"เขาบอกว่าพี่รองนั่งกอดกับผู้ชายในผับ แล้วก็ออกมาฉุดกระชากกันที่ลานจอดรถอยู่พักใหญ่ จากนั้นก็ขึ้นรถไปด้วยกัน" ไจ่ไจ๋กวาดตาอ่านคร่าวๆแล้วสรุปให้พี่ชายฟัง เคนได้ยินก็มีสีหน้าตกใจ
"เฮ้ย! จริงหรอวะ? แล้วผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?" เคนนั่งแทบไม่ติดคว้าหนังสือพิมพ์ในมือน้องชายมองดูอย่างสำรวจตรวจตราแต่ภาพก็ไม่ชัดเท่าไหร่
"ผมว่าดูคุ้นๆนะครับ แต่ภาพเบลอๆอ่ะ นี่มันอะไรกัน? ตกลงพี่รองเป็น......" สองพี่น้องมองหน้ากันงงเป็นไก่ตาแตก
"ไม่มั้ง? วงการบันเทิงก็แบบนี้แหละ พอใครดังหน่อยก็หาเรื่องเขียนข่าวไปในทางเสื่อมเสีย" เคนให้ความเห็น
"นั่นสิ อย่างพี่รองเนี่ยนะจะเป็นแบบนั้น แต่ถ้ามันจริง.....แล้วพี่กลอเรียหละ? คบไว้บังหน้าหรอ?" ไจ่ไจ๋มองหน้าเคนเป็นเชิงถาม
"เอ่อ....บ้า! พี่รองมันไม่เคยแสดงท่าทางเป็นอย่างว่าเลยนะ" เคนค้านขึ้นมาอีกทั้งๆที่ในใจเริ่มหวั่นๆอยู่เหมือนกัน
"เช้านี้มีข่าวอะไรน่าสนใจหรอ?" เจอร์รี่เดินเข้ามาถามน้องชายทั้งคู่อย่างอารมณ์ดี เคนกับไจ่ไจ๋รีบพับหนังสือพิมพ์เก็บทันที
"มีมีอะไรเลยครับพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋รีบปฏิเสธแต่ท่าทางของน้องชายทั้งคู่ดูมีพิรุธจนน่าสงสัย
"จริงหรอ? ขอพี่ดูหน่อยซิ" เจอร์รี่ยื่นมือออกไปขอหนังสือพิมพ์จากน้องชาย
"ไม่มีอะไรจริงๆ นายยังไม่อาบน้ำอาบท่าอีกหรอ? ไหนบอกว่าวันนี้มีประชุมงัย?" เคนรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
"ประชุมช่วงบ่าย ตอนเช้าชั้นจะรวบรวมข้อมูลก่อน ไว้จะเข้าบริษัทตอนบ่ายเลย" พี่ใหญ่ตอบแล้วเอียงคอมองไปด้านหลังน้องชาย
"ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย พี่ไม่ลืมหรอก เอาหนังสือพิมพ์มานี่!" ประโยคสุดท้ายทำเสียงเข้มขึ้นเล็กน้อย เขาพอจะเดาออกว่าคงมีข่าวของน้องชายคนรองเป็นแน่ และข่าวดังกล่าวอาจจะเป็นทางด้านลบ น้องๆทั้งสองคนเลยไม่อยากให้เขาเห็น
"ไม่มีอะไรจริงๆ จะดูก็ดู" เคนว่าแล้วก็หยิบหนังสือพิมพ์ครึ่งแรกที่เป็นข่าวทั่วๆไปส่งให้พี่ชาย
"ขอครึ่งหลังด้วยไจ่ไจ๋" เจอร์รี่รับมาแล้วหันไปมองหน้าน้องเล็กด้วยอีกคน ไจ่ไจ๋หันไปมองหน้าเคนเป็นเชิงปรึกษา พี่ใหญ่จึงใช้ช่วงที่น้องกำลังเผลอหยิบออกมาจากมือน้องซะเอง
"ลีลามากกันจังเลยนะ มีอะไรกันนักหนา?" พูดจบเจอร์รี่ก็กางหนังสือพิมพ์ออกดู น้องชายทั้งคู่สบตากันพลางทำหน้าเจื่อนๆ
"เฮ้ยยยยย!!!!!" พี่ใหญ่อุทานเสียงดังลั่นเมื่อได้เห็นข่าวของแวนเนสที่ลงในนั้น
"เสี้ยวเทียน! วันนี้ไม่ทำกับข้าวหรอ?" แวนเนสที่เพิ่งเดินลงมาเอ่ยถามน้องชายแต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นสายตาสามคู่จ้องมาที่เขา
"เอ่อ.....มีอะไรกันหรอ?" แวนเนสเอามือแตะที่หน้าตัวเองเพราะคิดว่ามีอะไรติดอยู่พี่น้องของเขาจึงมองกันแปลกๆแบบนั้น
"คือว่า....." ไจ่ไจ๋บุบใบ้แล้วชี้ไปทางพี่ใหญ่
"ชั้นทำอะไรผิดอีกหละ?" แวนเนสเอ่ยถามเป็นเชิงประชดเพราะคิดว่าพี่ชายจะหาเรื่องอะไรเขาอีก พี่ใหญ่ไม่ตอบแต่ส่งหนังสือพิมพ์ในมือให้น้องชายด้วยสีหน้าบอกไม่ถูก แวนเนสรับมาดูด้วยสีหน้างงๆ แต่พอเห็นภาพดังกล่าวแล้วเขาก็เบิกตากว้าง
"เฮ้ยยยย!!!!!!!! อะไรวะเนี่ย!!!!!" ร้องอุทานออกมาอย่างตกใจ
"นี่ๆๆๆ! หนังสือพิมพ์สำนักไหนวะ? มาลงข่าวแบบนี้ได้งัย!" แวนเนสเริ่มโวยวาย
"ไม่ใช่พี่รองหรอ? ผมว่าแล้วเชียว ใส่ร้ายกันชัดๆ แต่หาคนได้เหมือนมากเลยนะ" ไจ่ไจ๋พูดอย่างโล่งใจแต่แอบมีชมด้วยเล็กน้อย
"มัน....ใช่.....แต่.....ไม่ใช่....." แวนเนสไม่รู้จะตอบน้องชายยังงัย
"ใช่แต่ไม่ใช่? ตกลงมันใช่หรือไม่ใช่หละวะ?" เคนถามขึ้นมาอย่างงงๆ
"ใช่!" แวนเนสพยักหน้ารับ
"หา!!!!" น้องชายสองคนอุทานขึ้นมาพร้อมกัน
"ไม่ใช่!" แวนเนสปฏิเสธอีก ตอนนี้สีหน้าของน้องชายทั้งสองคนงุนงงอย่างบอกไม่ถูก
"นายๆๆๆ เพราะนายนั่นแหละ!" แวนเนสหันไปโทษพี่ชายที่ยังยืนทำหน้าเอ๋อๆอยู่เพราะยังไม่หายมึนว่าคนเขียนข่าวใช้อะไรคิดถึงได้เอาไปเขียนในทางเสียหายแบบนี้
"ชั้นหรอ? นายโทษชั้นหรอ?" เจอร์รี่ย้อนถามพร้อมกับชี้หน้าตัวเอง
"ใช่สิ! เพราะนายนั่นแหละ! ไม่งั้นมันจะเป็นแบบนี้หรอ? แล้วทีนี้จะทำงัยหละ?" แวนเนสแหวใส่พี่ชาย
"พี่รอง นี่มันอะไรกัน? หรือว่าพี่ใหญ่รู้มาตลอด?" ไจ่ไจ๋เอ่ยขึ้นอย่างงงๆ
"เฮ้ย! ไม่ใช่แบบนั้นนะ! พี่ไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้วไอ้บ้าที่มันอยู่ในรูปนี่ก็....." แวนเนสยังพูดไม่ทันจบเจอร์รี่ก็ถามแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดุๆ
"เรียกใครไอ้บ้า? พูดอีกทีซิ!" น้องชายสองคนมองพี่ชายสองคนเถียงกันด้วยสีหน้าเหวอๆ
"ว่านายนั่นแหละ! ถ้านายไม่ไปข่าวมันก็ไม่มีหรอก!" แวนเนสย้อน
"แล้วถ้านายไม่ไปชั้นจะไปมั๊ย?" เจอร์รี่ย้อนหน้าขึง
"ใครใช้ให้ไปหละ? ชั้นไปของชั้นคนเดียวได้!" แวนเนสเถียงอีก
"อย่ามาเถียงนะ!!" พี่ใหญ่เอ็ดใส่เสียงดัง
"เออ! นายมันถูกอยู่คนเดียวชั้นทำอะไรก็ผิดหมดนั่นแหละ!" แวนเนสไม่วายประชดพี่ชาย
"ยังไม่หยุดใช่มั๊ย!?" พี่ใหญ่เสียงดังขึ้นตามลำดับ
"นายก็หยุดก่อนสิ!" แวนเนสเริ่มขึ้นเสียงบ้าง
"เฮ้ยๆๆๆ!!! พอแล้วๆๆๆ อย่าเถียงกันได้มั๊ย?" เคนเอ่ยห้ามพี่ชายทั้งสองคนเพราะรู้ว่าหากยังเถียงกันต่อไปเดี๋ยวจะพาลทะเลาะกันอีก
"นั่นสิครับ โตๆกันแล้วคุยกันดีๆไม่ได้หรอ? มาถึงตอนนี้โทษกันเองแล้วได้อะไรขึ้นมา? เรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้ว ทำไมไม่ช่วยกันหาทางแก้ไขหละครับ?" คำพูดของน้องเล็กทำเอาคู่กรณีทั้งสองคนอึ้งไปเล็กน้อย
"ใช่! เรื่องแบบนี้ยังต้องให้น้องมาสอนอีกหรอ? ยืนเถียงกันป่าวๆแบบนี้อายน้องกันบ้างหรือเปล่า?" เคนได้โอกาสต่อว่าพี่ชายทั้งคู่ ทำเอาเจอร์รี่กับแวนเนสพูดไม่ออก
"พี่สองคนเล่าให้เราฟังหน่อยได้มั๊ยว่าเรื่องมันเป็นยังงัยกันแน่?" ไจ่ไจ๋ถามต่อ
"ก็ไอ้ภาพนี้น่ะมันเป็นภาพเมื่อคืนที่พี่กับพี่รองไปด้วยกันนั่นแหละ" เจอร์รี่ตอบน้องชาย
"งั้นมันก็เป็นการเข้าใจผิด" ไจ่ไจ๋พึมพำ
"ก็ใช่น่ะสิ! เข้าใจผิดแบบเลยเถิดด้วย! มีอย่างที่ไหนมาว่าพี่เป็นเกย์! อยากจะบ้า!" แวนเนสบ่นออกมาอีก
"ชั้นว่านายน่าจะไปอธิบายข้อเท็จจริงให้ทางผู้ใหญ่เขารู้นะ แล้วค่อยปรึกษากับพวกเขาว่าจะทำยังงัยกับข่าวนี้?" เคนให้คำแนะนำกับพี่ชาย
"นั่นสิ เดี๋ยวเสี่ยวจือมานายก็เล่าเรื่องให้เขาฟัง แล้วจะแก้ข่าวยังงัยก็ลองปรึกษาเขาดูอีกที" พี่ใหญ่เห็นด้วยกับคำแนะนำของเคน
"แต่ชั้นไม่อยากให้สาธารณะชนรู้จักพวกนาย ชั้นกลัวว่าพวกนายจะอยู่กันไม่สงบสุข" แวนเนสแย้งขึ้น
"ไม่ใช่กลัวว่าพวกเราจะดังแซงหน้าพี่รองหรอ?" น้องเล็กเห็นบรรยากาศเริ่มเครียดๆเลยแกล้งพูดติดตลกขึ้นมา แล้วก็ได้ผลเพราะเจอร์รี่กับเคนหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน
"ไอ้...." แวนเนสหันมาถลึงตาใส่น้อง
"หึๆๆๆ พูดเล่นน่ะครับ เห็นพี่รองหน้าเครียดๆ" ไจ่ไจ๋รีบเกาะแขนประจบพี่ชาย
"เล่นไม่รู้จักเวล่ำเวลา!" แวนเนสเอ็ดน้องเบาๆพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

- วันถัดมา -
"พี่ใหญ่! กลับมาแล้วหรอ?" ไจ่ไจ๋รีบวิ่งออกมาต้อนรับพี่ชายอย่างกระตือรือร้น
"อืม....พี่กลางไม่อยู่หรอ?" เจอร์รี่กอดคอน้องชายแล้วถามถึงน้องอีกคน
"พี่กลางออกไปหาเพื่อนครับ พี่ใหญ่เหนื่อยมั๊ย? ดื่มน้ำเย็นๆหน่อยดีกว่า" พูดจบก็รีบวิ่งไปรินน้ำใส่แก้วมาให้พี่ชายอย่างรวดเร็ว เจอร์รี่อมยิ้มแล้วรับแก้วน้ำมาจากมือน้องชาย
"พี่ต้องตอบแทนค่าน้ำแก้วนี้เป็นอะไรเอ่ย?" ถามดักคออย่างรู้ทันน้อง ไจ่ไจ๋ได้ยินดังนั้นก็ยิ้มแหยๆ ที่ถูกพี่ชายจับได้ไล่ทัน
"แหม....พี่ใหญ่เนี่ย! ชอบมองว่าผมทำอะไรเพื่อผลประโยชน์อยู่เรื่อยเลย" บ่นพึมพำออกมาเบาๆ เจอร์รี่หัวเราะแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
"แล้วไม่จริงหรอ?" พี่ใหญ่ย้อนถามน้องแล้ววางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ ไจ่ไจ๋ไม่ตอบแต่ขยับเข้าไปกอดแขนพี่ชาย
"เราไปเที่ยวกันบ้างสิพี่ใหญ่ หลังจากไปแคมป์ครั้งที่แล้วเราก็แทบไม่ได้ไปไหนเลย" พี่ใหญ่อมยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยิน
"ไปแบบไม่ต้องค้างก็ได้ เอาแบบเช้าไปเย็นกลับอะไรแบบเนี่ย" ไจ่ไจ๋เกริ่นนำต่อไป
"นายอยากไปไหนหละ?" ย้อนถามน้องไปตรงๆ น้องเล็กยิ้มกรุ้มกริ่ม
"อยากไปสวนสนุก" คำตอบของน้องยังผลให้สีหน้าของพี่ใหญ่กึ่งยิ้มกึ่งงง
"สวนสนุกหรอ?" ทวนคำน้องอีกครั้ง
"อืม....ไม่ได้ไปกันตั้งนานแล้ว ไปนะ....นะๆๆๆ....." น้องเล็กคะยั้นคะยอพี่ชายยกใหญ่
"นึกยังงัยอยากไปสวนสนุก" เจอร์รี่พึมพำ
"หน่านะ....ไปนะพี่ใหญ่ ไปวันอาทิตย์ก็ได้ แค่วันเดียวเอง" ไจ่ไจ๋ตื๊อพี่ชายต่อ
"อืม....ไปก็ไป พี่ไม่มีปัญหาหรอก แต่พี่รองไม่รู้ว่ามันจะว่างหรือเปล่าน่ะสิ" เจอร์รี่รับคำน้องแล้วเอ่ยถึงน้องชายคนรองด้วย
"ว่างอยู่แล้วหละ! ผมแอบไปเช็คตารางงานของพี่รองมาแล้ว วันอาทิตย์นี้ว่างทั้งวัน ส่วนพี่กลางก็ยังไม่กลับไปทำงาน สรุปว่าเราสี่คนว่างตรงกันวันอาทิตย์นี้" ไจ่ไจ๋รายงานเสียงเจื้อยแจ้ว พี่ใหญ่ส่ายหน้ายิ้มๆกับอาการของน้องชาย
"แสดงว่ารอคอยมานานแล้วหละสิ" จับหัวน้องชายโยกเบาๆอย่างเอ็นดู ไจ่ไจ๋ไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่ยักคิ้วแล้วเอาหัวซบลงที่ไหล่พี่ชาย
"พี่ใหญ่ครับ" หลังจากเงียบไปพักหนึ่งไจ่ไจ๋ก็เรียกพี่ชายเบาๆ
"ว่างัย?" เจอร์รี่ตอบรับคำน้องด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
"พี่เคยคิดถึงใครอยู่ตลอดเวลาหรือเปล่า?" ตั้งคำถามกับพี่ชาย
"เคยสิ" เจอร์รี่ตอบแล้วยิ้มบางๆ ไจ่ไจ๋เงยหน้าขึ้นมาสบตากับพี่ชาย
"ใครกันหรอ?" พี่ใหญ่ยิ้มแล้วเอามือขยี้หัวน้องชาย
"ก็พวกนายสามคนงัย! แล้วก็ยังมีพ่อกับแม่อีก" พี่ใหญ่ตอบ น้องเล็กย่นจมูกเล็กน้อย
"ไม่เอาคนในครอบครัวสิครับ" แย้งพี่ชายขึ้นมาแล้วจ้องหน้าอย่างต้องการคำตอบ
"ถ้าไม่ใช่คนในครอบครัวก็ไม่น่าจะมี" ตอบแล้วมองน้องชายอย่างสงสัย
"ทำไมถามอะไรแบบนี้?" น้องเล็กไม่ตอบแต่กลับตั้งคำถามกับพี่ชายอีก
"ไม่เคยแน่หรอ? แบบว่าคิดถึงเขาแล้วเรามีความสุขน่ะ ไม่มีเลยหรอ?" เจอร์รี่ชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่จะยิ้มออกเล็กน้อย
"นายกำลังจะบอกว่านายกำลังรู้สึกแบบนั้นกับใครบางคนอยู่ใช่มั๊ย?" ถามดักอย่างรู้ทันน้อง ไจ่ไจ๋ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เมื่อโดนพี่ชายถามดักแบบนี้
"ใครกันหืม? บอกพี่ใหญ่หน่อยซิ" ถามเซ้าซี้น้องชายด้วยความอยากรู้
"ใครที่ไหน? ไม่มีซักหน่อย แค่ถามดูเฉยๆ" น้องเล็กรีบพูดกลบเกลื่อน
"นี่! อย่ามาปิดพี่เลย! พี่ดูออกหรอกน่า! ตกลงว่าเป็นใคร? ใช่น้องรหัสของนายหรือเปล่า?" เมื่อพี่ใหญ่พูดตรงใจไจ่ไจ๋ก็หน้าแดงด้วยความเขิน
"ฮึ! มิน่าหละหมู่นี้โทรศัพท์แทบจะแนบหูอยู่ตลอดเวลาเลย!" พี่ใหญ่พูดแขวะแล้วผลักหัวน้องเบาๆ
"พี่ใหญ่จะห้ามผมหรือเปล่า? ถ้าผมจะ.....เอ่อ....." ไจ่ไจ๋พูดไม่ออกเพราะรู้สึกเก้อเขิน
"จะอะไร? จะมีแฟนใช่มั๊ย?" ถามรุกต่อ น้องเล็กก้มหน้าแต่ก็พยักหน้ารับน้อยๆ เจอร์รี่เอามือโอบไหล่น้องชายเอาไว้
"พี่ไม่ห้ามหรอก นายเองก็โตแล้ว แต่พี่บอกไว้ก่อนนะว่าคบกันแล้วเราต้องพากันเรียน อย่าไปทำอะไรเสื่อมเสีย รู้มั๊ย?" ไจ่ไจ๋พยักหน้ารับพี่ชาย
"แล้วนายต้องรู้จักให้เกียรติฝ่ายหญิง เพราะผู้หญิงน่ะเสียเปรียบเราเกือบทุกอย่าง อย่าให้ใครมองเขาในทางไม่ดี" เจอร์รี่สอนน้องต่อ
"ครับพี่ใหญ่ ผมจะจำไว้" ไจ่ไจ๋รับคำพี่ชาย
"ว่างๆก็พาเธอมากินข้าวที่บ้านด้วยสิ พี่จะได้รู้จักไว้" ไจ่ไจ๋พยักหน้ารับอีก
"เฮ่อ! ในที่สุดน้องน้อยของพี่ก็โตเป็นผู้ใหญ่ซักที!" พูดจบก็ขยี้หัวน้องอย่างเอ็นดู
"ออเซาะกันเข้าไป!" เคนที่เพิ่งเดินเข้ามาเอ่ยปากแขวะพี่น้องทั้งคู่
"พี่กลางกลับมาแล้วหรอ?" ไจ่ไจ๋เงยหน้าขึ้นมาทักทายพี่ชายคนกลาง
"ถ้ายังไม่กลับนายจะเห็นพี่มั๊ยหละ?" เคนตอบกลับแบบกวนๆ น้องเล็กเลยทำหน้ามุ่ยใส่
"อุตส่าห์ทักดีๆแล้วเชียว กวนประสาทอีกแล้ว!" ต่อว่าพี่ชาย เคนหัวเราะเบาๆแล้วมานั่งลงข้างน้อง
"คุยอะไรกันอยู่หรอ?" เคนถามพี่น้องทั้งคู่
"น้องมันปรึกษาเรื่องหัวใจน่ะ" พี่ใหญ่ตอบยิ้มๆ
"เรื่องหัวใจ?" เคนทวนคำแล้วมองหน้าน้องชาย คราวนี้ไจ่ไจ๋ยักคิ้วให้พี่ชายอย่างกวนๆบ้าง
"ไปตกหลุมของใครมาหละ?" ได้ยินดังนั้นน้องเล็กก็ชักสีหน้าใส่พี่ชาย
"พูดงี้หมายความยังงัยพี่กลาง? พี่หาว่าหลิงเอ๋อหลอกผมงั้นหรอ?" ไจ่ไจ๋เป็นเดือดเป็นร้อนแทน เคนทำหน้าเหวอๆไปเพราะไม่ได้หมายความแบบนั้น
"เปล่า! พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้นซักหน่อย" รีบปฏิเสธทันที
"งั้นหมายความว่างัย?" ย้อนถามเสียงห้วน
"ไม่เอาน่าไจ่ไจ๋! พี่เขาพูดเล่นเอง ไม่ได้ว่าใครซักหน่อย" พี่ใหญ่เอ่ยปากไกล่เกลี่ยให้
"แล้วทำไมต้องพูดแบบนี้ด้วยหละ? ปากเสีย!" น้องเล็กเถียงก่อนที่จะหันไปต่อว่าเคนอีก
"เออ! นายดูมันนะ นี่ขนาดมันยังไม่ทันคบกันเป็นเรื่องเป็นราวยังเป็นเดือดเป็นร้อนแทนซะขนาดนี้ สงสัยต่อไปมันก็คงไม่เห็นหัวเราแล้วหละ" เคนหันไปพูดกับพี่ใหญ่
"อย่ายั่วน้องน่า!" พี่ใหญ่ปรามเคนเบาๆ
"อ้าว! ก็มันจริงหนิ เห็นๆอยู่ว่าเป็นงัย!" เคนลอยหน้าลอยตาเถียง
"ยังไม่หยุดอีก!" เจอร์รี่เอื้อมมือไปเขกหัวน้อง
"อะไรเล่า! ชั้นยังไม่ทันทำอะไรเลยนะ!" เคนบ่นอุบแล้วรีบลุกหนีก่อนที่จะโดนอีกเป็นครั้งที่สอง
"ไปไกลๆเลย! น้องมันกำลังอารมณ์ดีๆมาแหย่ให้มันอารมณ์เสียจนได้!" พี่ใหญ่เอ็ดใส่ เคนค้อนใส่พี่ชายเล็กน้อย
"ไปก็ได้! ชั้นไม่อยู่เกะกะลูกตาของพวกนายหรอก!" พูดจบเคนก็หมุนตัวเดินออกไปหน้าบ้าน

- หน้าบ้าน -
"พีพี! ถางถาง! มานี่เร็ว" เคนร้องเรียกเจ้าแมวน้อยทั้งสองตัวที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงเล่นกันอยู่ตรงสนามหน้าบ้าน พอได้ยินเสียงเจ้านายเจ้าแมวสองตัวก็พากันวิ่งมาเคล้าแข้งเคล้าขาเคนอย่างออดอ้อน
"ว่างัย? อ้อนจะกินหละสิใช่มั๊ย?" เคนพูดกับเจ้าสัตว์เลี้ยงแสนรักของเขาแล้วหันไปเปิดฝาภาชนะใส่อาหารเม็ดแล้วตักอาหารแมวให้พวกมันกิน
"เดี๋ยวพรุ่งนี้อาบน้ำกันดีกว่านะ ขนพวกแกเริ่มจะสกปรกแล้ว โอเคมั๊ย?" เคนคุยกับเจ้าพีพีกับถางถางต่อ ซึ่งแมวน้อยทั้งสองตัวก็เงยหน้ามองเจ้าของคล้ายจะเข้าใจในสิ่งที่ได้ฟัง
"หึๆๆๆ แสนรู้เหลือเกิน!" เคนหัวเราะเบาๆแล้วเอามือลูบตัวแมวของเขาเล่นอย่างเพลิดเพลิน ผ่านไปครู่หนึ่งแวนเนสก็กลับมาถึงบ้าน
"งัย! มานั่งทำอะไรตรงนี้?" แวนเนสเดินเข้ามาผลักหัวน้องเบาๆพร้อมกับเอ่ยทักทาย
"ไม่ได้ทำอะไรหรอก โดนไล่มาน่ะ" เคนตอบพี่ชาย แวนเนสขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วทรุดตัวนั่งยองๆลงข้างน้อง
"ทำไมถึงโดนไล่?" ย้อนถามกลับไป
"ชั้นดันไปพูดจาไม่เข้าหูของไอ้น้องชายสุดที่รักน่ะสิ" เคนตอบเป็นเชิงประชดเล็กน้อย
"ฮึ!" แวนเนสทำเสียงในลำคอพลางส่ายหน้าไปมา
"เออ! ว่าแต่นายเหอะ ตกลงทางบริษัทว่างัยกับข่าวเมื่อเช้า?" เคนหันไปถามพี่ชายบ้าง
"อ้อ! ชั้นอธิบายให้พวกเขาฟังแล้ว เขาเลยบอกว่าจะออกมาโต้ข่าวให้ เห็นบอกว่าจะบอกกับสื่อมวลชนว่าคนในภาพคือเสี่ยวจือ" แวนเนสตอบ
"อ้าว! แล้วมันไม่แล้วใหญ่หรอ? เดี๋ยวเขาก็ไปเขียนข่าวกันครึกโครมกว่าเก่าหรอก" เคนย้อนถามอย่างไม่เข้าใจ
"ไม่หรอก คือว่าเขาจะแต่งเรื่องว่าชั้นกับเสี่ยวจือไปเที่ยวด้วยกันแล้วชั้นเกิดดื่มมากไปหน่อยก็เลยเมา เสี่ยวจือเลยต้องฉุดกระชากลากถูไปที่รถเพื่อพาไปส่งบ้านน่ะ" แวนเนสอธิบายให้น้องฟัง
"อ๋อ! อย่างนี้นี่เอง" เคนพยักหน้า
"ตอนนี้ชั้นเริ่มจะไม่ชอบไอ้การเป็นดารานักแสดงอะไรนี่แล้วสิ" แวนเนสรำพันออกมา
"ทำไมหละ? ไหนตอนแรกบอกว่าชอบนักชอบหนางัย" เคนถามกลับแล้วมองหน้าพี่ชายอย่างงงๆ
"ก็ตอนนั้นชั้นไม่รู้หนิว่าพอมาอยู่ตรงนี้แล้วเราไม่สามารถพูดความจริงออกมาได้ทั้งหมด บางทีก็ต้องโกหกเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ รู้สึกว่าตัวเองเลวร้ายยังงัยก็ไม่รู้" แวนเนสพูดระบายความรู้สึกกับน้องชาย
"ชั้นว่าทำอาชีพไหนมันก็เลี่ยงการพูดโกหกไม่ได้หรอก" เคนว่าพร้อมกับตบบ่าพี่ชายเบาๆ
"คนเรามันก็เห็นแก่ตัวกันทั้งนั้นแหละ อะไรที่พูดไปแล้วจะเป็นประโยชน์แก่ตัวเองใครๆก็ทำทั้งนั้น" เคนปลอบใจพี่ชาย
"นั่นสิ แต่ชั้นก็ยังรู้สึกแย่อยู่ดี" แม้จะเห็นด้วยกับน้องชายแต่แวนเนสไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลยซักนิด
"แต่ช่างเหอะ! พอนานเข้าชั้นอาจจะชินก็ได้" แวนเนสพูดตัดบทซะเองเพราะเขาไม่อยากเอาเรื่องเครียดๆมาให้น้องเครียดตามไปด้วย
"เข้าบ้านกันเถอะ" แวนเนสชวนแล้วดึงตัวน้องให้ลุกขึ้น
"พี่รองกลับมาแล้วหรอ?" ไจ่ไจ๋รีบวิ่งมาเกาะแขนแวนเนส เคนเบ้ปากใส่น้องที่ประจบพี่ชายจนน่าหมั่นไส้
"อืม...." แวนเนสขยี้หัวน้องเบาๆ
"วันอาทิตย์นี้พี่รองไปไหนหรือเปล่า? ผมจะชวนพี่ไปเที่ยว" ไจ่ไจ๋ถามเข้าเรื่องทันที แวนเนสได้ยินก็เลิกคิ้วเล็กน้อย
"ไปเที่ยวหรอ? จะไปที่ไหน?" แวนเนสถามกลับ
"สวนสนุก" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วมองหน้าพี่ชายอย่างรอคอยคำตอบ แต่แวนเนสยังไม่ทันตอบไจ่ไจ๋ก็อ้อนต่ออีก
"ไปนะพี่รอง เราไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันตั้งนานแล้ว วันอาทิตย์นี้พี่รองก็ว่างไม่ใช่หรอ? ถ้าคิดถึงพี่กลอเรียชวนพี่กลอเรียไปด้วยก็ได้" ไจ่ไจ๋อ้อนวอน
"หึๆๆๆ วันอาทิตย์ลูกค้าเยอะจะตาย พี่กลอเรียไม่ไปหรอก" แวนเนสตอบยิ้มๆ น้องเล็กจึงมีสีหน้าสลดลง
"พี่รองจะไม่ไปกับผมหรอ?" ถามด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ แวนเนสอมยิ้มแล้วทำเป็นคิด
"อืม....ไปดีหรือเปล่าน้อ?....." ไจไจ๋เขย่าแขนพี่ชายอย่างตื๊อๆ
"ไปกับผมเถอะนะ....นะครับ...." แวนเนสเหลือบมองหน้าพี่ใหญ่แล้วหันไปมองเคน
"ใครไปบ้างหละ?" ตั้งคำถามกับน้องบ้าง
"ก็มีผม มีพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋ตอบโดยที่ไม่พูดถึงเคนเพราะยังเคืองพี่ชายอยู่
"แล้วพี่กลางหละ?" แวนเนสถามออกไป
"จะไปรู้หรอ?" น้องเล็กตวัดเสียงตอบ เคนเบ้ปากใส่น้องแล้วเดินไปนั่งลงที่โซฟา
"นายไปถามพี่กลางก่อน ถ้าพี่เขาไปพี่ก็ไป" ไจ่ไจ๋ปล่อยมือออกจากแขนแวนเนสทันที
"ตัวติดกันหรืองัย!?" กระแทกเสียงใส่พี่ชายเล็กน้อย
"พี่ก็แค่อยากมีคู่ ถ้าไปกันแค่สามคนแล้วเวลาเล่นเครื่องเล่นพี่จะนั่งกับใครหละ?" แวนเนสย้อนถาม
"งั้นผมไปกับพี่ใหญ่ก็ได้!" ไจ่ไจ๋เลิกตื๊อพี่ชายในทันที
"แวนเนส.....งั้นวันอาทิตย์เราไปดูอุปกรณ์ตกแต่งร้านกัน ที่นายบอกจะทำมุมคอฟฟี่ชอปที่ร้านน่ะ ชั้นจะได้ช่วยเลือกของ" เคนเอ่ยชวนพี่ชายคนรอง
"ปัง!" น้องเล็กกระแทกหนังสือลงบนโต๊ะหลังจากที่ได้ยินเคนพูดเช่นนั้น บ่งบอกอาการไม่พอใจอย่างชัดเจน
"เสี้ยวเทียน! อย่ายั่วน้องได้มั๊ย?" พี่ใหญ่พูดอย่างอ่อนใจ
"ชั้นไปยั่วอะไรมันหละ? ตั้งแต่เข้ามาชั้นยังไม่ได้พูดอะไรเลยซักคำ" เคนเถียงกลับ
"ยังจะมาเถียงอีก!" เจอร์รี่เอ็ดใส่
"ชั้นไม่ได้เถียง ก็ชั้นแค่คุยกับแวนเนสจริงๆหนิ!" จบคำพี่ใหญ่ก็เอื้อมมือมาหยิกที่แขนน้อง เคนถึงกับสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ
"โอ้ยยย.....โอ้ยยยยย....." ตามมาด้วยเสียงร้องลากยาวเพราะพี่ชายหยิกแบบไม่ยอมปล่อยแถมมือก็ไม่ใช่เบาๆ
"ไม่เถียงแล้ว! โอ้ยๆๆๆ!! โอเคๆๆ!!! ชั้นผิดชั้นยั่วน้อง!! พอใจหรือยัง!!" เคนร้องลั่น
"พอแล้ว! เดี๋ยวเนื้อมันก็หลุดพอดี!" แวนเนสร้องห้ามพร้อมกับเข้ามาแกะมือพี่ชายออก
"เป็นงัยบ้างเสี้ยวเทียน?" แล้วหันมาถามน้องชาย เคนไม่ตอบได้แต่นั่งเอามือกุมแขนตัวเองพูดอะไรไม่ออก
"ทำไมต้องทำน้องแรงๆแบบนี้ด้วย! มันทำอะไรผิดนักหนากันเชียว!" แวนเนสหันมาต่อว่าพี่ชาย
"ช่างเถอะแวนเนส! ชั้นน่ะมันผิดมาตั้งแต่เกิดแล้ว!" พูดจบเคนก็ลุกเดินขึ้นห้องไปเงียบๆ




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2549 16:05:38 น.
Counter : 1339 Pageviews.  

Chapter 5

ตอนที่ 5
"ดื่มอีกสิ" เพื่อนของแวนเนสคะยั้นคะยอแล้วทำท่าจะเติมเครื่องดื่มให้เจอร์รี่
"ไม่หละ ผมพอแล้ว" เจอร์รี่รีบโบกมือห้าม
"อะไรกัน! ดื่มไปสองแก้วเองนะ!" ทำเสียงสูงอย่างแปลกใจ
"เดี๋ยวต้องขับรถกลับบ้านอีก พอแล้ว!" เจอร์รี่ยืนกรานเสียงแข็ง
"ช่างเขาเหอะ! พี่ชั้นไม่ค่อยชอบดื่มเท่าไหร่" แวนเนสพูดเสริมอีกแรง
"อ้าว! ไม่เหมือนนายเลยนี่หว่า นายเนี่ยถึงไหนถึงกันไม่หมดไม่เลิกใช่มั๊ย?" เพื่อนเอ่ยแซวขึ้นมา
"เฮ้ย! ไม่ขนาดนั้นหรอก!" แวนเนสรีบแก้ตัว
"มากกว่านั้นหละสิ! เนี่ย! น้องชายของนายคอแข็งชะมัดเลยนะ ครั้งที่แล้วไปดื่มด้วยกัน พวกชั้นเมาแทบตายแต่มันยังมีสติขับรถพาพวกเราไปหย่อนไว้ที่บ้านจนครบ! ชั้นโครตซูฮกมันเลยว่ะ!" พูดจบก็หัวเราะร่า เจอร์รี่ได้ยินก็เหลือบตามองน้องชายที่นั่งก้มหน้างุดอยู่ข้างๆ
"จริงหรอ?" เจอร์รี่กัดฟันถามพร้อมกับใช้นิ้วเรียวเหน็บเข้าที่บั้นเอวของน้องชายเข้าให้ด้วย แวนเนสหน้าเหยแต่ไม่กล้าร้องออกมาเพราะกลัวเพื่อนจะแซว
"เจ็บครับพี่ใหญ่....." กระซิบบอกพี่ชายเสียงอ่อยๆ เป็นการขอร้องพี่ชายกลายๆ
"กลับถึงบ้านเราต้องคุยกันหน่อยนะน้องรัก" กระซิบบอกน้องชายเบาๆแล้วยอมปล่อยมือในที่สุด
"ครับ" รับคำเสียงอ่อยสนิทพลางเอามือลูบที่บั้นเอวเพื่อบรรเทาความเจ็บ
"นายทำงานอะไรหรอ?" หนึ่งในนั้นเอ่ยถามเจอร์รี่
"ทำธุรกิจของครอบครัวน่ะ แล้วคุณหละ?" เจอร์รี่ตอบแล้วย้อนถามกลับโดยใช้สรรพนามอย่างเป็นทางการ
"ชั้นน่ะหรอ? ตอนนี้ตกงานว่ะ! นายเก่ามันงี่เง่าขี้บ่นชะมัด! ชั้นเลยออกมันดื้อๆเลย!" พูดจบก็หัวเราะเสียงดัง
"บริษัทนายต้องการคนเพิ่มเปล่า? ชั้นจะได้ไปสมัคร" เจอร์รี่ไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่ยิ้มบางๆเท่านั้น
"เฮ้ย! วันนี้ท่าจะไปแข่งรถกันไม่ได้แล้วว่ะ ฝนตกหนักเลย!" ผู้ซึ่งเดินกลับมาประกาศบอกเพื่อนๆในกลุ่มพร้อมกับเอามือเสยผมที่เปียกให้เข้าที่
"หรอ? น่าเสียดายว่ะ! เลยไม่ได้แก้แค้นนายเลย!" คนที่นั่งข้างๆแวนเนสเอ่ยขึ้นแล้วตบที่ไหล่เขาด้วย แวนเนสรีบโบกมือไม่ให้เพื่อนพูดต่อแต่ดูเหมือนคนรับสารจะไม่เข้าใจ
"แก้แค้นอะไรกันหรอ?" เจอร์รี่เอ่ยถามขึ้นทันที
"เอ่อ.....ชั้นขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" แวนเนสรีบบอกแล้วลุกออกจากโต๊ะไปโดยเร็วเพราะถ้าขืนยังนั่งอยู่เขาต้องโดนพี่ชายเล่นงานแน่ๆ
"แก้นแค้นเจ้านั่นน่ะสิ! ตอนพามันไปครั้งแรกนะมันส่ายหน้าไม่ยอมแข่งลูกเดียวแต่พอยุหนักเข้าก็เลยแข่งด้วย มันบอกว่าขี่มอเตอร์ไซด์ไม่ค่อยแข็งเท่าไหร่ พวกชั้นก็เลยอ่อนข้อให้แต่ที่ไหนได้พอออกตัวปุ๊บมันวิ่งฉิวเลย! ฮ่าๆๆๆ!!!!" ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็ยิ้มที่มุมปากหน่อยๆทั้งๆที่ในใจแทบอยากจะลุกไปลากตัวเจ้าน้องชายตัวแสบมาคุยกันให้รู้เรื่อง
"พวกคุณไปแข่งรถกันบ่อยหรอ?" ย้อนถามกลับไป
"ก็ประมาณอาทิตย์ละครั้ง ไม่บ่อยนักหรอก" คู่สนทนาตอบแล้วเติมน้ำเปล่าให้เจอร์รี่แทน
"แล้วแวนเนสเขาไปกับคุณมากี่ครั้งแล้ว?" ถามซักไซร้ต่อ
"กี่ครั้งวะ?" ชายคนนั้นหันไปถามเพื่อนที่นั่งข้างๆ
"ก็สองสามครั้งได้ แต่แข่งกับเราจริงๆแค่ครั้งเดียว" คนถูกถามตอบกลับมา
"คุณไปแข่งกันที่ไหน? ในสนามหรอ?" เจอร์รี่ถามต่ออีก
"โอ้ย! ในสนามจะไปตื่นเต้นอะไร? ต้องบนถนนสิ!" ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็เม้มปากเล็กน้อย
"พวกเราค้นพบถนนของเรา แถวนั้นน่ะไม่ค่อยมีรถแถมยังไม่มีบ้านคนอีกด้วย" เมื่อได้ยินเช่นนี้เจอร์รี่ก็มีสีหน้าไม่พอใจมากขึ้น
"ถ้านายอยากไปไว้คราวหน้ามาด้วยกันอีกสิ" เอ่ยชวนต่อโดยไม่รู้ว่าเจอร์รี่นั้นรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
"ไม่หละ เรื่องประลองความเร็วผมไม่ชอบ" พูดด้วยน้ำเสียงติดห้วนเล็กน้อย
"แล้วผมก็ไม่ชอบให้แวนเนสทำอะไรที่ท้าทายต่อกฎหมายแบบนั้นด้วย ผมจะขอบคุณพวกคุณมากถ้าต่อจากนี้ไปพวกคุณจะไม่ชวนน้องผมไปทำอะไรแบบนั้นอีก" พูดจบก็มองหน้าเพื่อนๆของน้องชายอย่างไม่เกรงใจ
"แต่น้องนายมันขอตามไปเองนี่ พวกชั้นไม่ได้บังคับอะไรเลย" หนึ่งในนั้นพูดพร้อมกับยักไหล่ เป็นเวลาเดียวกับที่แวนเนสเดินกลับมาพอดี
"คุยอะไรกันอยู่หรอ?" เอ่ยถามพร้อมกับยกแก้วขึ้นมาดื่ม
"กำลังชวนพี่นายไปแข่งรถด้วยน่ะ" ได้ยินดังนั้นแวนเนสก็แทบสำลัก
"แหะๆๆๆ เพื่อนชั้นเล่าให้ฟังหมดแล้วหรอ?" ถามเสียงอ่อยๆ พี่ใหญ่พยักหน้ารับขรึมๆแล้วยกน้ำเปล่าขึ้นดื่มดับความร้อนข้างใน
"เฮ้ย!!! ไปเต้นกันดีกว่าโว้ย!" หนึ่งในนั้นเอ่ยชวนเมื่อเสียงเพลงสนุกสนานดังอึกทึกครึกโครม
"แวนเนส! ไม่ไปหรอวะ?" หันมาถามเมื่อเห็นแวนเนสนั่งเฉย
"ไม่หละ ตามสบายเถอะ" แวนเนสปฏิเสธเพราะเห็นสีหน้าของพี่ชายแล้วก็ไม่กล้าไป พอเพื่อนๆลุกไปกันหมดแล้วแวนเนสก็เอาศอกกระทุ้งแขนพี่ชายเบาๆ
"จะไปก็ไป ไม่ต้องมาห่วงชั้นหรอก" พี่ใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
"ไม่ห่วงได้งัยหละ? ก็นายเอาแต่นั่งหน้ามุ่ยแบบนี้อ่ะ" แวนเนสแย้งขึ้น
"ก็ชั้นไม่ชอบสถานที่แบบนี้จะให้นั่งยิ้มได้อีกหรอ?" ย้อนน้องชายกลับไปบ้าง
"ก็ไม่มีใครบังคับให้มาหนิ" เถียงออกมาเบาๆ
"แล้วถ้าชั้นไม่มาจะได้รู้มั๊ยว่านายเคยไปทำอะไรเกเรมาบ้าง? อีกทั้งยังโกหกชั้นอีก! เดี๋ยวนี้ชักจะเหลวไหลใหญ่แล้วนะ!" หันมาเอ็ดน้องชายเสียงแข็ง
"คบเพื่อนก็มีแต่ดีๆทั้งนั้นหนิ! ชวนกันเที่ยวกันหัวราน้ำได้ทุกวี่ทุกวัน! สรรหาเรื่องทำแต่ละอย่างไม่ได้มีสาระอะไรเลย!" แวนเนสหน้าจ๋อยลงทันตาเห็น
"นายก็อย่าเพิ่งบ่นได้มั๊ยหละ? ไหนๆก็มาแล้วทำตัวให้สนุกหน่อยสิ" ขอร้องพี่ชายเสียงอ่อย
"นายอยากสนุกก็สนุกไปสิ! ชั้นไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย!" แวนเนสไม่เถียงอะไรอีกแต่ขยับตัวเข้าไปกอดแล้วเอาหัวซบที่ไหล่พี่ชาย
"เฮ่อ!" พี่ใหญ่ถอนหายใจแต่ก็ยกมือลูบหัวน้องชายไปด้วย
"ชั้นก็ไม่ได้อยากจะคิดอคติอะไรกับเพื่อนกลุ่มนี้ของนายหรอกนะ แต่เท่าที่คุยๆมาพฤติกรรมของพวกเขามันไม่น่าเข้ากับนายได้เลย" พูดกับน้องชายด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
"ก็แค่นานๆเจอกันที เที่ยวกันบ้างพูดคุยเล่นกันบ้างมันก็ไม่ได้เสียหายไม่ใช่หรอ?" แวนเนสย้อนถาม
"ชั้นจะไม่ห่วงนายขนาดนี้เลยถ้านายปฏิเสธคนอื่นเป็น" พี่ใหญ่บอกน้องตรงๆ
"ชั้นว่าชั้นโตเกินวัยที่จะเสียเด็กแล้วนะ" แวนเนสพูดแบบติดตลก
"วัยไหนก็เสียได้ทั้งนั้นถ้าเราไม่รู้จักปฏิเสธ เดี๋ยวนี้สภาพแวดล้อมมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของคนเรามากนะน้องเอ้ย...." พี่ใหญ่อธิบายให้น้องฟัง แวนเนสเองก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรออกมาอีก ในขณะนั้นมีหญิงสาวสองคนเดินมาหยุดยืนตรงหน้าสองพี่น้อง แวนเนสจึงโงหัวขึ้นมา
"เอ่อ...คือว่าคุณเป็นนักแสดงหรือเปล่าคะ? เห็นหน้าคุ้นๆน่ะค่ะ" หนึ่งในนั้นเอ่ยถามขึ้นมาอย่างไม่ค่อยแน่ใจ
"อ้อ! ใช่ครับ" แวนเนสตอบพร้อมกับยิ้มหวาน
"มีอะไรหรือเปล่าครับ?" ย้อนถามกลับไปด้วยแววตาสุกใส จนคนนั่งอยู่ข้างๆนึกหมั่นไส้
"คือว่าเพื่อนชั้นคนนี้ชอบคุณมากค่ะ ขอลายเซ็นต์ได้มั๊ยคะ?" เธอตอบพร้อมกับผายมือไปยังหญิงสาวอีกคนที่ยืนยิ้มอายๆอยู่
"ได้สิครับ สบายมาก" แวนเนสรีบรับกระดาษกับปากกามาเซ็นต์ชื่อให้ทันที
"ขอบคุณมากนะครับ" เมื่อเซ็นต์เสร็จแวนเนสก็เอ่ยขอบคุณ หญิงสาวทั้งสองคนยิ้มรับแล้วมองไปที่เจอร์รี่
"เอ่อ....เพื่อนหรือคะ?" แวนเนสเหลือบมองพี่ชายแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย
"ครับ" พูดจบก็ก้มหัวให้นิดๆเป็นการตัดบทกลายๆ หญิงสาวทั้งสองคนจึงเดินจากไป
"นี่แหนะ! ชั้นไปเป็นเพื่อนนายตั้งแต่เมื่อไหร่?" พี่ใหญ่เขกหัวน้องพร้อมกับต่อว่าไปด้วย
"โธ่! ชั้นกำลังปกป้องนายนะ ยังจะมาทำร้ายร่างกายชั้นอีก" แวนเนสโอดครวญพลางเอามือคลำหัวป้อยๆ ได้ยินดังนั้นพี่ใหญ่ก็เลิกคิ้ว
"ปกป้องชั้น?" ย้อนถามเสียงสูง
"ก็ใช่น่ะสิ! ขืนชั้นบอกไปว่านายเป็นพี่ชายชั้นต่อไปนายเองนั่นแหละที่จะอยู่ไม่สงบสุข" แวนเนสตอบ
"เพิ่งจะเห็นนายมีหัวคิดก็คราวนี้แหละ" ได้ยินดังนั้นพี่ใหญ่ก็คล้อยตามอย่างเห็นด้วยแต่ยังแอบพูดแขวะไปด้วยในตัว
"ทำไมชั้นทำอะไรก็ไม่เคยถูกใจนายเลยซักอย่าง!" พูดด้วยน้ำเสียงงอนๆ พี่ใหญ่ได้ยินก็อมยิ้มแล้วโน้มหัวน้องชายเข้ามาซบที่ไหล่ตัวเองตามเดิม
"โอ๋ๆๆๆ พี่ใหญ่พูดเล่น นายทำดีแล้วหละ" ว่าพลางตบหัวน้องเบาๆไปด้วย
"เกือบจะตีหนึ่งแล้ว เดี๋ยวพอเพื่อนนายกลับมาเราลากลับบ้านกันได้แล้วนะ" เงียบไปซักพักพี่ใหญ่ก็บอกกล่าวกับน้อง ได้ยินเช่นนี้แวนเนสก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วส่ายหน้าปฏิเสธ
"ยังไม่กลับ ชั้นสัญญากับพวกมันไว้แล้วว่าจะอยู่ยันร้านปิด เดี๋ยวมันโวยวายกันอีก" แวนเนสว่า
"นี่งัย! เรื่องแค่นี้นายยังไม่กล้าโต้แย้งเลย" ต่อว่าน้องชายอย่างเอือมระอา
"งั้นเดี๋ยวชั้นพูดเอง" แวนเนสได้ยินก็ส่ายหน้าอีก
"อย่านะ! ไม่ใช่ว่าชั้นไม่กล้าบอกแต่ชั้นอยากอยู่ต่ออีกต่างหาก ยังไม่ค่อยได้คุยอะไรกับเพื่อนเท่าไหร่เลย" แวนเนสแย้งขึ้น
"มันดึกมากแล้วนะแวนเนส น้องอยู่บ้านกันสองคนนะ" พี่ใหญ่เอาน้องขึ้นมาอ้าง
"นายห่วงมันก็กลับไปก่อนสิ ชั้นอยู่เองได้" แวนเนสย้อน
"ดื้ออีกแล้วนะ!" เจอร์รี่เริ่มทำเสียงดุ แวนเนสทำหน้ามุ่ยแล้วยกแก้วตัวเองขึ้นดื่มอีก ในขณะนั้นเสียงเพลงก็เงียบลงแล้วเริ่มเพลงช้าๆขึ้นมาใหม่ กลุ่มเพื่อนของแวนเนสจึงพากันทยอยกลับมาที่โต๊ะ
"มองไกลๆถ้าใครไม่รู้คงนึกว่านายสองคนเป็นประเภทนิยมไม้ป่าเดียวกันแหงๆ" หนึ่งในนั้นเอ่ยแซวสองพี่น้องขึ้นมา
"เดี๋ยวผมกับแวนเนสขอตัวกลับก่อนก็แล้วกัน มันดึกแล้ว" เจอร์รี่ไม่ตอบโต้อะไรเแต่รีบเอ่ยปากบอกหลังจากที่ทุกคนนั่งลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"อ้าว! ได้งัยวะ? เจ้าภาพจะหนีกลับก่อนหรอ?" หนึ่งในนั้นโวยวายขึ้น เจอร์รี่อึ้งไปเล็กน้อยก่อนที่จะล้วงมือหยิบกระเป๋าเงินออกมานับเงินจำนวนหนึ่งแล้ววางลงที่โต๊ะ
"แค่นี้น่าจะพอนะ หรือถ้าไม่พอพวกคุณคงหารกันไม่มากเท่าไหร่" พูดจบก็หันไปดึงแขนน้องชาย แต่แวนเนสกลับขืนตัวไว้
"ชั้นยังไม่อยากกลับ" แวนเนสยืนกราน
"นั่นสิ จะรีบไปไหนกัน อุตส่าห์นัดสาวๆไว้เผื่อจะไม่รอหน่อยหรอ?" หนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้นขำๆ
"ลุกเดี๋ยวนี้!" พูดกับน้องเสียงต่ำแล้วกระชากแขนน้องอีกครั้ง แวนเนสมีท่าทีอิดออด
"อย่าให้ชั้นต้องลงมือกับนายตรงนี้นะ!" เอ่ยเตือนน้องชายเสียงเข้ม
"เฮ้ย! ชั้นว่านายกลับไปก่อนเถอะ! ผู้ปกครองนายไม่พอใจแล้วว่ะ!" หนึ่งในนั้นพูดด้วยเสียงกลั้นหัวเราะเต็มที่ แวนเนสอึ้งไปเล็กน้อยที่โดนเพื่อนแซว แต่แล้วก็โดนพี่ชายกระชากจนต้องลุกขึ้นในที่สุด
"งั้นชั้นกลับก่อนแล้วกัน" บอกลาเพื่อนๆด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์นักก่อนที่จะเดินตัวเซไปตามแรงลากของพี่ชายท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนๆที่ดังไล่หลังมา
"ทำไมถึงดื้อแบบนี้!?" เมื่อลากตัวเจ้าน้องชายจอมดื้อออกมาถึงบริเวณลานจอดรถแล้วเจอร์รี่ก็ต่อว่าน้องชายทันที
"ทำไมนายต้องบังคับชั้นด้วย? ชั้นโตแล้วนะไม่ใช่เด็กๆ! จะทำอะไรจะไปไหนมาไหนมันก็เป็นสิทธิของชั้น!" แวนเนสต่อว่าพี่ชายบ้าง
"เอาเรื่องสิทธิมาอ้างกับชั้นงั้นหรอ? หา!!!" แหวใส่น้องเสร็จก็ตวัดฝ่ามือลงบนร่างน้องเต็มแรง
"โอ้ย!!! เจ็บนะโว้ย!!" แวนเนสสะดุ้งโหยงพลางโวยวายเสียงกร้าว
"อย่ามาขึ้นเสียงกับชั้นนะ!" ถลึงตาใส่น้องเริ่มโมโหขึ้นมาเช่นกัน
"ทีนายยังขึ้นเสียงกับชั้นเลยหนิ!" เถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้
"เถียงใช่มั๊ย!?" พูดจบก็ตีน้องอีกด้วยความโมโห แวนเนสพยายามเบี่ยงตัวหลบพร้อมกับใช้มือกันเพื่อไม่ให้พี่ชายตีซ้ำที่เดิมเพราะพอโดนหนักเข้าก็เจ็บเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
"เอามือออก!" พี่ใหญ่สั่งเสียงเข้ม
"ไม่เอาแล้วพี่ใหญ่! ชั้นกลัวแล้ว! อย่าตีชั้นอีกเลย!" แวนเนสละล่ำละลักบอกพี่ชายน้ำตาเริ่มคลอเบ้า พี่ใหญ่ชะงักไปก่อนที่จะเข้าไปลากตัวน้องแล้วพาไปที่รถ
"ให้มันน้อยๆหน่อยนะ! อย่าดื้อให้มันมากนัก!" เมื่อขึ้นมานั่งได้พี่ใหญ่ก็ดุน้องอีก
"ใครไม่ทำตามความต้องการของนายก็หมายความว่าคนนั้นดื้อใช่มั๊ย?" แวนเนสย้อนพี่ชายกลับไปบ้าง
"ย้อนหรอ!?" พี่ใหญ่เอ็ดใส่แล้วตีเข้าที่ต้นแขนน้องอีก แวนเนสเอามือลูบแขนมองพี่ชายน้ำตาคลอ
"มองหน้ามีปัญหาอะไรอีก?" ถามน้องเสียงห้วน แวนเนสไม่ตอบแต่ขยับตัวนั่งหันหลังให้พี่ชายอย่างงอนๆ
"เฮ่อ!" เจอร์รี่ถอนหายใจหนักๆแล้วโน้มตัวเอื้อมมือไปดึงสายเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้น้อง จากนั้นก็ออกรถโดยที่ไม่ได้พูดอะไรอีก

- ที่บ้าน -
"ตื่น!" เมื่อมาถึงเจอร์รี่ก็หันไปผลักตัวน้องชายที่นอนหันหลังหลับปุ๋ยอยู่ข้างๆ
"ยังไม่ลุกอีกหรอ!?" ว่าพร้อมกับผลักหัวน้องแรงๆจนหน้าขมำ แวนเนสขยับตัวลุกขึ้นแล้วหันไปทางพี่ชายสีหน้ามีแววไม่พอใจ
"ไม่ผลักให้โดนกระจกหัวแตกเลยหละ!?" พูดจบก็เปิดประตูลงจากรถไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด
"พี่รอง!" ไจ่ไจ๋ร้องเรียกเมื่อเห็นพี่ชายเดินดุ่มๆเข้ามา แต่แล้วก็ทำหน้างงเมื่อพี่ชายเดินผ่านเลยไปโดยไม่ได้ให้ความสนใจเลย
"พี่ใหญ่!" ไจ่ไจ๋ร้องเรียกอีกเมื่อเห็นพี่ชายคนโตเดินตามเข้ามา
"อย่าเพิ่งเดินหนีผมไปอีกนะ! เกิดอะไรขึ้นอีกเนี่ย? ทำไมพี่รองอารมณ์เสียอีกแล้ว?" น้องเล็กรีบเข้าไปยึดแขนพี่ชายเอาไว้เพื่อไม่ให้เดินหนี
"คนที่อารมณ์เสียควรจะเป็นพี่มากกว่า!" เจอร์รี่เอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิดแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรที่ถูกน้องดึงให้มานั่งลงเพื่อคุยกัน
"มีอะไรกันอีกว้า?....." เคนถามขึ้นอย่างรู้สึกเอือมระอาเพราะหมู่นี้พี่ชายทั้งสองเดี๋ยวดีกันเดี๋ยวทะเลาะกันอยู่แทบทุกวัน
"เห็นบอกจะไปเที่ยวด้วยกันอยู่ดีๆ ไหงถึงกลับมาในสภาพแบบนี้กันอีกวะ?" เคนตั้งคำถามกับพี่ชายบ้าง
"นายควรจะไปถามพี่ชายของนายโน้น!" เจอร์รี่ตอบกระแทกเสียงเล็กน้อย
"ก็นายงัยพี่ชายชั้น! ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้! มีอะไรก็พูดมาดิวะ!" เคนเอ็ดใส่พี่ชายอย่างเหลืออด
"เบื่อ! เซ็ง! รำคาญ!" พี่ใหญ่พูดย้ำคำอย่างชัดเจน เป็นเวลาเดียวกันกับที่แวนเนสเดินวกกลับลงมาและได้ยินคำพูดดังกล่าวเต็มชัดสองหู
"พี่รอง!" น้องเล็กเหลือบไปเห็นก็อุทานออกมาอย่างตกใจ เจอร์รี่เองก็ตกใจเช่นกันเมื่อเห็นแวนเนสยืนนิ่งงันไปกับสิ่งที่ได้ยิน
"ชั้นเอาเงินมาคืน" แวนเนสพูดเสียงเรียบแล้วเดินเข้ามาวางเงินจำนวนหนึ่งไว้บนโต๊ะกลางในห้องจากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไปทันที
"แวนเนส!" เคนร้องเรียกพลางมองตามร่างพี่ชายแต่ไม่ได้ตามไปแต่อย่างใด
"จะเอายังงัยหละคราวนี้?" เคนหันมาทางพี่ใหญ่และมองด้วยสายตาตำหนิ
"ช่างมันสิ!" พี่ใหญ่ตอบเสียงแข็งแต่สีหน้ามีแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด
"พี่ใหญ่....ช่างมันได้ยังงัย? นั่นพี่รองนะไม่ใช่คนอื่น เรื่องเล็กๆน้อยๆก็อภัยให้กันเถอะ" น้องเล็กเอ่ยขึ้นเป็นเชิงขอร้อง
"เล็กน้อยหรอ? นายรู้หรือเปล่าว่าไอ้พี่ชายตัวดีของนายเคยไปเกเรอะไรที่ไหนมาบ้าง? นี่ถ้าวันนี้พี่ไม่ได้ยินกับหูไม่ได้เห็นกับตาพี่ก็จะไม่มีทางเชื่อเลยว่าไอ้น้องชายที่พี่เฝ้าอบรมสั่งสอนมันมาจะทำตัวเหลวไหลได้แบบนี้!" เจอร์รี่เถียงออกมาเป็นชุด
"มันไปทำอะไรมาหละ? หนักหนามากนักหรอ?" เคนถามต่อบ้าง
"ตอนนี้มันอาจจะยังไม่หนัก! แต่ถ้าต่อไปในอนาคตมันมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหละ?" ย้อนถามกลับเสียงกระชาก น้องชายสองคนถอนหายใจเฮือกพร้อมกัน
"นายช่วยใจเย็นๆแล้วพูดดีๆกับพวกเราหน่อยได้มั๊ย? น้องพี่สองคนนี้ไม่ได้ทำอะไรผิดนะครับ พี่อย่ามาอารมณ์เสียใส่สิ" เคนพูดเสียงเนิบๆแต่มีแววประชดเล็กน้อย เจอร์รี่ได้ยินก็ถอนหายใจแล้วเงียบไปซักพัก
"พี่รองไปเกเรที่ไหนมาหรอครับ?" เมื่อเห็นว่าพี่ชายสงบลงแล้วไจ่ไจ๋ก็ขยับเข้าไปกอดแขนพร้อมกับเอ่ยถาม
"พวกนายสองคนเคยรู้กันมั๊ยว่าพี่รองมันเคยไปแข่งมอเตอร์ไซด์มาด้วย?" เจอร์รี่ถามน้องชายทั้งคู่
"แข่งมอเตอร์ไซด์? ก็ไม่แปลกหนิ มันเป็นเกมส์กีฬาอย่างนึงไม่ใช่หรอ?" เคนพูดตามที่คิด
"ใช่.....แต่นายตอบมาซิว่ากีฬาที่เขาแข่งกันทั่วๆไปน่ะมันควรแข่งกันที่ไหน?" เลื่อนสายตาไปยังน้องชายคนกลาง
"ก็ที่สนามแข่งงัย" เคนตอบ
"ใช่! แต่ไอ้พี่รองของพวกนายมันแข่งอยู่บนถนนทางหลวงกัน แบบนี้มันแปลกมั๊ยหละ?" ได้ยินดังนั้นน้องชายทั้งคู่ก็หันไปสบตากัน
"พี่รองทำแบบนั้นจริงๆหรอ? แต่ปกติแล้วพี่รองไม่เหลวไหลแบบนั้นนี่นา อย่างดีก็แค่เที่ยวเตร่ เรื่องการแข่งรถมันไม่ใช่แนวของพี่รองเลย" ไจ่ไจ๋มีสีหน้าไม่ค่อยอยากจะเชื่อ
"นั่นดิ! ถ้าเป็นเจ้าไจ๋ก็ว่าไปอย่างเพราะมันชอบรถอย่างกับอะไรดี แต่กับแวนเนสแค่ขับรถไปทำงานมันยังไม่ขับเลย" เคนพูดเสริมขึ้นมาอีกคน
"เราสองคนว่าพี่ใส่ความมันหรอ? มันยอมรับกับพี่ออกมาตรงๆแล้วว่ามันเคยทำแบบนั้นจริง" ย้อนถามน้องเสียงติดห้วนเล็กน้อย
"แล้วที่มันทำแบบนั้นเพราะใครรู้มั๊ย? เพราะเพื่อนมันทั้งนั้นที่ชวน พี่รองของพวกนายมันปฏิเสธใครเขาเป็นมั๊ยหละ? ใครพูดอะไรก็ทำตามเขาหมด ยกเว้นพี่อยู่คนเดียวที่มันไม่เคยเชื่อฟัง เตือนก็หาว่าบ่น ดุก็หาว่าจู้จี้ พูดอะไรหน่อยก็เถียงว่าโตแล้วดูแลตัวเองได้ นี่หรอพฤติกรรมของคนที่ดูแลตัวเองได้?" ได้ยินดังนั้นน้องชายทั้งสองคนก็ยอมจำนนต่อเหตุผลของพี่ชาย เพราะพวกเขาก็รู้นิสัยพี่ชายคนรองดีว่าเป็นคนที่ชอบตามเพื่อนจริงๆ
"ถ้าพี่จะทำเฉยเหมือนไม่เคยรับรู้เรื่องอะไรก็ได้ พี่เองก็จะได้ไม่เหนื่อยด้วย แต่ที่ยังบ่นยังด่ามันอยู่ทุกวันนี้เพราะอะไรหละ? เพราะรักมันใช่มั๊ย? เพราะห่วงมันใช่หรือเปล่า?" พูดจบก็ถอนหายใจอย่างเอือมระอา
"เพื่อนกลุ่มใหม่ที่ว่าเป็นยังงัยหละ?" เคนถามต่อ
"เป็นยังงัย? คนนึงตกงาน อีกสามคนไม่มีงานทำ อยู่รวมกันในคอนโดห้องเดียวกัน เที่ยวกันแทบทุกคืน ทั้งๆที่งานการก็ไม่รู้จักทำ แบบนี้ใช้ได้มั๊ยหละ?" เจอร์รี่ร่ายยาวให้น้องฟัง
"พี่รองคบเพื่อนแบบนี้ด้วยหรอ?" น้องเล็กครางออกมาอย่างงงๆ
"พี่ก็อยากถามมันเหมือนกันแหละ ไม่รู้ไปเจอกันได้ยังงัย?" พูดจบก็ถอนหายใจออกมาเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้
"บางทีเราก็ไม่ควรมองคนที่ภายนอกอย่างเดียวนะ คนเรามันก็ต้องมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป มีถมเถไปไอ้คนที่เรามองๆกันว่าไม่น่าจะเป็นคนดีสุดท้ายแล้วพอได้รู้จักจริงๆมันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดเลย" เคนพยายามพูดอย่างเป็นกลาง
"ไหนนายลองบอกข้อดีของคนกลุ่มที่ชั้นเพิ่งจะพูดไปให้ฟังหน่อยซิเสี้ยวเทียน" พี่ใหญ่ถามน้องกลับ
"อืม.....ชั้นก็คงบอกไม่ได้ แต่บางทีสำหรับความเป็นเพื่อนแล้วแวนเนสอาจจะสบายใจที่คบกับพวกเขาก็ได้นะ" เคนให้เหตุผล
"เพราะชั้นว่าสำหรับคนที่เรามองว่าเลวร้ายที่สุด ในขณะเดียวกันคนๆนั้นอาจจะเป็นคนที่ดีที่สุดของใครอีกคนก็ได้" พี่ใหญ่ได้ฟังก็เงียบไป สำหรับน้องชายคนนี้แล้วมักจะพูดให้ข้อคิดกับเขาได้เสมอ
"การที่เราด่วนตัดสินใครโดยที่ยังไม่เคยได้รู้จักคุ้นเคยกันมาก่อนมันยุติธรรมกับเขาแล้วหรอ?" ถามทิ้งท้ายไว้เพื่อให้พี่ชายคิด
"พี่กลางพูดเหมือนว่ากำลังเข้าข้างเพื่อนๆของพี่รองอย่างนั้นแหละ เคยรู้จักกันด้วยหรอ?" ไจ่ไจ๋ถามออกมาซื่อๆ
"เปล่า พี่ก็ไม่รู้จัก ไม่เคยเจอเลยด้วยซ้ำ แต่พี่พูดจากการที่พี่เคยประสบกับตัวเองมาน่ะ เมื่อก่อนเพื่อนพี่ก็เกๆกันทั้งนั้นแต่ปัจจุบันนี้แต่ละคนก็มีการมีงานดีๆทำ ฉะนั้นพี่เลยคิดว่าคนเราน่ะจะมองที่ภายนอกเพียงอย่างเดียวมันไม่พอหรอก" เคนอธิบายให้น้องฟัง
"ที่นายพูดก็ถูก แต่ไม่รู้สิ ชั้นสังหรณ์ใจยังงัยก็ไม่รู้ เหมือนกับว่าแวนเนสมันจะต้องลำบากหากยังคบเพื่อนกลุ่มนี้ต่อไป" เจอร์รี่เอ่ยขึ้นในที่สุด
"พี่ใหญ่จะสั่งพี่รองให้เลิกคบกับเพื่อนเลยหรอ?" น้องเล็กถามอย่างตกใจ
"พี่ต้องทำทุกอย่างเพื่อปกป้องน้องของพี่ แม้วิธีนั้นมันอาจจะทำให้น้องต้องเจ็บช้ำน้ำใจไปบ้างก็ตาม" พี่ใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังทำเอาน้องๆอึ้งไป
"แต่นายไม่ต้องห่วง เพราะวิธีที่พูดถึงนั่นจะเป็นหนทางสุดท้ายที่พี่จะเลือกทำ" เมื่อได้ยินเช่นนั้นน้องชายทั้งคู่ก็ค่อยโล่งอก
"แล้วไป นึกว่าบ้านเราจะมีสงครามซะอีก" น้องเล็กพึมพำออกมาเบาๆ
"ถ้าอย่างงั้นผมขอขึ้นไปดูพี่รองหน่อยนะครับ" ไจ่ไจ๋พูดตัดบทเพราะอยากจะปล่อยให้พี่ชายทั้งคู่ปรึกษากันเอง
"อืม....ปลอบเขาหน่อยก็แล้วกัน" เคนเห็นดีด้วยที่น้องชายจะขึ้นไปอยู่กับพี่ชายคนรอง เพราะอย่างน้อยกับน้องเล็กแล้วแวนเนสคงไม่โวยวายอะไรมาก
"นอกจากด่ามันแล้วนายได้ทำอะไรมันอีกหรือเปล่าวะ?" เคนถามพี่ชายขึ้นมาอีกหลังจากที่น้องเล็กเดินออกไปแล้ว
"ก็ซัดเข้าไปหลายทีเหมือนกัน" พี่ใหญ่ตอบตรงๆ
"เฮ่อ! ไม่น่าหละ หน้ามันถึงได้หน้าหงิกซะขนาดนั้น" เคนพูดเป็นเชิงบ่น
"ก็มันสมควรโดนมั๊ยหละ? โกหกชั้นไม่พอยังจะดื้อดึงแข็งขืนเข้าข้างเพื่อนมันอีก! ชั้นไม่นึกเลยว่ามันจะเป็นไปได้ขนาดนี้!" บ่นต่ออกมาอย่างหงุดหงิด
"ชั้นว่าตอนนี้นายโมโหใส่มันไปก็เท่านั้น เพราะแวนเนสเองก็คงจะโมโหนายไม่แพ้กันหรอก นายน่าจะสงบสติอารมณ์แล้วไปคุยกับมันดีๆน่าจะได้ผลกว่านะ แต่ไหนแต่ไรมาแวนเนสมันว่าง่ายอยู่แล้วนี่" เคนให้คำแนะนำแก่พี่ชาย
"ชั้นหละเบื่อจริงๆ! เมื่อไหร่ที่ชั้นจะเลิกห่วงพวกนายได้ซักทีวะ!" พูดจบก็ถอนหายใจออกมาดังเฮือก
"ลองไปบวชดูสิ ตัดขาดจากเรื่องทางโลกไปเลย" เคนพูดเสียงปนหัวเราะ
"เดี๋ยวจะโดน!" เจอร์รี่แหวใส่น้องแต่แล้วก็อดที่จะขำไปกับคำพูดน้องไม่ได้

- ห้องนอนแวนเนส -
"พี่รองครับ....." ไจ่ไจ๋เรียกพี่ชายที่นอนหันหลังมาทางเขาพลางสะอื้นอยู่บนเตียง
"พี่รอง" เดินมานั่งลงที่เตียงแล้วเอื้อมมือไปลูบแขนพี่ชายเบาๆอย่างปลอบโยน
"มีอะไรหรือเปล่าไจ่ไจ๋?" แวนเนสพลิกตัวกลับมาแล้วโงหัวขึ้นมาถามน้องด้วยเสียงปนสะอื้น ไจ่ไจ๋เอามือเช็ดน้ำตาให้พี่ชายอย่างอ่อนโยน
"ผมไม่มีอะไรหรอกครับ แค่ขึ้นมาดูว่าพี่รองเป็นอะไรหรือเปล่า?" บอกพี่ชายเบาๆ
"พี่ไม่เป็นไรหรอก" แวนเนสตอบแล้วเอามือเช็ดหน้าเช็ดตาตัวเองด้วย
"ผมไม่เชื่อหรอก คนไม่เป็นไรจะร้องไห้ทำไมกัน?" น้องเล็กแย้งขึ้นมาตรงๆ แวนเนสไม่ตอบแต่พลิกตัวนอนหันหลังให้น้องตามเดิมน้ำตาเริ่มซึมออกมาอีก ไจ่ไจ๋ไม่รู้จะทำยังงัยจึงล้มตัวนอนลงข้างๆแล้วกอดพี่ชายเอาไว้
"พี่รองคนดีของผม อย่าร้องไห้เลยนะ เดี๋ยวผมก็ร้องด้วยหรอก นิ่งนะครับพี่รอง" ไจ่ไจ๋พูดเหมือนกำลังปลอบเด็กๆ
"ไจ่ไจ๋....นายเบื่อพี่ เซ็งพี่ รำคาญพี่หรือเปล่า?" แวนเนสเงียบไปนานก่อนที่จะเอ่ยถามน้องขึ้นมาเบาๆ
"ไม่เลย ไม่เคยเลยครับ" ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับกอดพี่ชายแน่นขึ้นอีก
"แต่มีใครบางคนรู้สึกแบบนั้นนะ ใครบางคนที่พี่รักเขามากด้วย" แวนเนสพูดต่อเสียงแผ่ว น้องเล็กได้ยินก็อึ้งไปเพราะนึกไม่ถึงว่าแวนเนสจะน้อยใจมากขนาดนี้
"เออนี่....เห็นพี่กลางบอกว่าวันนี้นายไปเลือกของให้สาวหรอ? ได้อะไรมาหละ?" แวนเนสเปลี่ยนเรื่องเอาดื้อๆ
"อ๋อ! ได้กล่องดนตรีน่ะครับ พี่รองว่าน้องรหัสผมจะชอบมั๊ย?" ไจ่ไจ๋เองก็ไม่อยากถามเซ้าซี้อะไรมากจึงยอมเปลี่ยนเรื่องคุยง่ายๆ
"ต้องชอบสิ ผู้ชายน่ารักๆแบบน้องพี่ซื้อให้ทั้งที เป็นใครก็ต้องดีใจอยู่แล้ว" แวนเนสพูดพร้อมกับยิ้มบางๆ
"ผมก็หวังอย่างนั้นแหละ ถ้าน้องเขาชอบผมก็ดีใจ" น้องเล็กว่าแล้วยิ้มตอบพี่ชาย
"วันนี้พี่กลางเล่าเรื่องแฟนเก่าให้ฟังด้วยหละ" หาเรื่องมาคุยกับพี่ชายต่อ
"จริงหรอ? ปกติมันไม่พูดถึงง่ายๆนะเนี่ย" แวนเนสเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
"ครับ ผมนับถือพี่เขามากๆเลย" ไจ่ไจ๋ตอบ
"ตอนนั้นไอ้พี่กลางของนายหงอยไปเป็นเดือนเลย รู้สึกช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่มันผอมที่สุดด้วยเพราะพี่อุ้มมันไหว" ได้ยินดังนั้นน้องเล็กก็ทำหน้างงๆ
"ไม่รู้หละสิว่าตอนนั้นอาการมันเป็นยังงัยบ้าง?" แวนเนสถามยิ้มๆ
"ครับ พี่กลางไม่ได้เล่าละเอียดขนาดนั้น" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วเกาะแขนเป็นเชิงเซ้าซี้ให้พี่ชายเล่าให้ฟัง
"มันแอบไปนั่งเศร้าอยู่ที่ชิงช้าหลังบ้านโน้นแหนะ! ตอนนั้นพี่ก็ไม่รู้นึกว่ามันนอนอยู่ในห้องเลยล็อกประตูบ้านซะเรียบร้อยเลย ตื่นมาตอนเช้าเจอมันนอนสั่นขดตัวอยู่บนชิงช้าโน้นแหละ ไข้ขึ้นสูงจนน่าตกใจเลย พี่เป็นคนอุ้มมันขึ้นรถพาไปส่งโรงบาลเองเลย" แวนเนสเล่าให้น้องฟัง
"จริงหรอ? น่าสงสารจัง!" น้องเล็กครางออกมาอย่างเห็นใจ
"ทำไมพี่น้องบ้านเราถึงไม่ค่อยสมหวังกับความรักกันเลยนะ" พึมพำต่ออกมาอีก
"อ้าวเฮ้ย!!! ปากเสียมั๊ยหละ? พี่นี่งัยที่กำลังสุขสดชื่นกับความรักอยู่ ไอ้นี่ปากดีจริงๆ!" แวนเนสได้ยินก็แหวใส่น้องชายทันที
"เออใช่! ผมลืมไป ขอโทษครับ หึๆๆๆ" ไจ่ไจ๋ขอโทษพี่ชายพร้อมกับหัวเราะเบาๆ
"อย่าลืมให้มันบ่อยนักนะ! แล้วว่างๆเข้าไปช่วยพี่สะใภ้ด้วยหละเข้าใจมั๊ย?" ได้ทีสั่งน้องต่อ
"รู้แล้วน่า.....ผมก็ไปประจำแหละ พี่กลอเรียใจดีจะตาย ชอบซื้อโน้นนี่มาให้ผมกินทุกครั้งเลย" แวนเนสได้ยินก็ยิ้มออกเขาเอื้อมมือผลักหัวน้องอย่างหมั่นไส้
"เห็นแก่กิน!" ต่อว่าน้องชายแบบไม่จริงจังนัก
"ใครว่าผมเห็นแก่กิน? ผมเห็นแก่พี่กลอเรียต่างหาก ถ้าผมไม่กินพี่กลอเรียเสียใจแย่เลย" ได้ยินดังนั้นแวนเนสก็ทำตาโต
"ทำไมพี่กลอเรียต้องเสียใจด้วย? นายสำคัญขนาดนั้นเชียว?" ไจ่ไจ๋อมยิ้มเมื่อพี่ชายเริ่มโวยวายได้เหมือนเดิม
"แหมๆๆๆๆ ล้อเล่นหน่อยเดียวเอง ขี้หึงจริงๆเลยนะ!" ว่าพลางบีบจมูกพี่ชายเบาๆ
"หึงดิ!" แวนเนสยอมรับตามตรง
"เพราะถ้าคนนี้หลุดไปจะหาไม่ได้อีกแล้วใช่มั๊ย?" ย้อนถามพลางหัวเราะหน้าระรื่น
"น้อยๆหน่อย! พี่รองคนนี้น่ะกำลังจะขึ้นแท่นเป็นไอดอลอันดับต้นๆของไต้หวันเชียวนะโว้ย! มีผู้หญิงคนไหนจะไม่สนใจบ้าง หืม?" แวนเนสว่าพลางบีบจมูกน้องชายเป็นการเอาคืน
"ดีใจจัง" ไจ่ไจ๋พูดขึ้นยิ้มๆพร้อมกับมองหน้าพี่ชายที่เจือไปด้วยรอยยิ้ม
"ดีใจอะไร?" แวนเนสย้อนถามงงๆ
"ดีใจที่พี่รองยิ้มได้แล้ว" ไจ่ไจ๋ตอบ แวนเนสเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
"มีนายอยู่ทั้งคนพี่จะเศร้าได้ยังงัยหละ?" พูดจบก็เอามือโอบไหล่น้องแล้วสองพี่น้องก็ยิ้มให้กันอย่างอบอุ่น




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2549 16:05:16 น.
Counter : 1129 Pageviews.  

Chapter 4

ตอนที่ 4
"ดูโน้น" เคนพยักเพยิดให้พี่ชายสองคนดูน้องเล็กที่กำลังคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้ายิ้มระรื่น
"คุยกับสาวแหงๆ ไม่งั้นไม่ยิ้มหน้าบานอย่างงี้หรอก" แวนเนสให้ความเห็น
"พวกนายก็คิดไปซะไกล น้องอาจจะคุยเล่นกับเพื่อนก็ได้" พี่ใหญ่แย้งขึ้นแต่สายตากลับจ้องน้องเล็กไม่วางตา
"คุยกับเพื่อนทำไมต้องทำเสียงนิ่มๆด้วยวะ? ท่าทางแบบนี้ไม่ใช่เพื่อนหรอก แฟนชัวร์!" เคนให้ความเห็นขึ้นมาด้วยอีกคน
"แต่น้องมันยังไม่มีแฟนนะ!" พี่ใหญ่แย้งขึ้นอีก
"นายรู้ได้งัย?" เคนย้อนถาม
"ก็น้องมันไม่เคยบอกนี่" เจอร์รี่ตอบแล้วเปลี่ยนสายตามามองที่น้องชายคนกลาง
"หรือน้องบอกนาย?" เคนรีบส่ายหน้าทันที
"โอ้ย! เรื่องแบบนี้ไม่ต้องบอกกันตรงๆหรอก แค่ดูจากท่าทางก็รู้แล้ว" แวนเนสแทรกขึ้น
"รู้ได้ยังงัย? พวกนายสองคนชอบเดาอะไรมัวๆอยู่เรื่อย เดี๋ยวชั้นจะถามน้องเอง" เจอร์รี่เอ็ดใส่น้องสองคนอย่างติดไม่ค่อยจะพอใจนัก
"ก็ถามดิ รับรองคำตอบออกมามันต้องเหมือนที่พวกชั้นคิด" เคนยืนกรานความคิดของเขาและแวนเนส
"เออ! ชั้นถามแน่ แต่ถ้าหากมันไม่ใช่เหมือนที่พวกนายคิดหละ?" เจอร์รี่รับคำพร้อมกับถามท้าทาย
"แล้วถ้ามันเหมือนที่พวกชั้นคิดหละ?" แวนเนสย้อนถามพี่ชายกลับบ้าง
"ไม่มีทาง! ถ้าน้องมีแฟนหรือไปชอบใครน้องต้องบอกพวกเรา" เจอร์รี่ยืนกรานความคิดของตัวเองทั้งๆที่ในใจจริงๆแล้วก็รู้สึกเหมือนกับน้องๆอีกสองคนเช่นกัน
"งั้นพนันกันมั๊ยหละ?" เคนท้าทาย
"พนันมะเหงกนี่งัย!" พี่ใหญ่ยกมือขึ้นจะเขกหัวน้อง แต่ได้ยินเสียงน้องเล็กถามขึ้นมาก่อนจึงชะงักไป
"ทำอะไรกันอยู่ครับ?" พี่ชายทั้งสามคนหันมาทางต้นเสียงพร้อมกัน
"เปล่าหรอก" เจอร์รี่รีบปฏิเสธแล้วเดินไปกอดคอน้องพามานั่งลงที่โซฟา
"เมื่อกี้นายคุยกับใครหรอ?" ถามข้อสงสัยต่อทันที ไจ่ไจ๋มองหน้าพี่ชายก่อนที่จะหันไปทางพี่ชายอีกสองคนที่รอคอยคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
"ถามทำไมหรอ?" ย้อนถามอย่างไม่ค่อยไว้ใจเมื่อเห็นสีหน้าของพี่ชายทั้งสามคน
"อ๋อ! พี่ใหญ่เขาเป็นเด็กวัยกำลังอยากรู้อยากเห็นน่ะ" แวนเนสตอบพลางหัวเราะแล้วรีบยกมือขึ้นกันเมื่อเห็นพี่ใหญ่ทำท่าจะเขกหัว
"หึๆๆๆ ผมคุยกับรุ่นน้องครับ" น้องเล็กหัวเราะออกมาเบาๆก่อนที่จะตอบคำถามพี่ชาย
"เห็นมั๊ย? มันไม่เหมือนที่พวกนายคิดซักหน่อย" เจอร์รี่ได้ทีรีบต่อว่าน้องชายอีกสองคนทันที
"อ้าว! อย่าเพิ่งด่วนตัดสินดิ ยังไม่ทันรู้แน่เลย" เคนแย้งขึ้นแล้วขยับมากอดคอน้องชายพร้อมกับถามต่อ
"รุ่นน้องผู้หญิงหรือว่าผู้ชาย?" น้องเล็กขมวดคิ้วแล้วมองหน้าพี่ชายทีละคน
"ผมว่าผมโตพอที่จะเลือกคบเพื่อนฝูงเองได้แล้วนะครับ พวกพี่ต้องสกรีนก่อนด้วยหรอ?" คำถามนั้นทำให้พี่ชายทั้งสามคนได้แต่ทำหน้าแหยๆ
"เปล่า.....พี่ไม่ได้หมายความอย่างนั้น แต่พี่เห็นนายคุยไปยิ้มไปก็เลยอยากรู้น่ะว่ามีเรื่องอะไรดีๆหรอ?" พี่ใหญ่ปฏิเสธแต่ยังคงตะล่อมถามน้องต่อ
"ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่คุยกันเล่นๆขำๆน่ะ" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วเอนตัวลงพิงกับพนักโซฟา
"แล้วตกลงคนที่คุยด้วยน่ะผู้หญิงหรือผู้ชาย?" แวนเนสถามเข้าเรื่อง
"ไม่ใช่ผู้หญิง....." ไจ่ไจ๋ตอบแต่ยังพูดไม่ทันจบพี่ใหญ่ก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
"นั่นงัย! บอกแล้วว่าน้องไม่ได้คุยกับผู้หญิง เมื่อกี้นายสองคนเถียงใช่มั๊ย? มาให้ชั้นเขกกะโหลกคนละทีเลย!" จบคำพูดของพี่ชายเคนกับแวนเนสก็ลุกหนีโดยพร้อมเพรียง ไจ่ไจ๋มองบรรดาพี่ชายแล้วอมยิ้มออกมาน้อยๆ
"ผมยังพูดไม่จบครับพี่ใหญ่" พูดขัดขึ้นตามมา พี่ใหญ่จึงชะงักไป
"ไม่ใช่ผู้หญิง แล้วก็ไม่ใช่ผู้ชายด้วย" ไจ่ไจ๋พูดต่อให้จบประโยค
"รุ่นน้องคนเนี่ยคุยสนุกมาก ผมชอบเขามากๆเลย แล้วรู้สึกว่าเขาก็จะชอบผมด้วย โทรมาหาทุกวันเลย" พูดจบก็โปรยยิ้มหวานให้อย่างยียวนแล้วเดินขึ้นห้องไปอย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้พี่ชายทั้งสามคนงุนงงกับคำบอกกล่าวนั้น
"เดี๋ยวๆๆๆ เมื่อกี้น้องบอกไม่ใช่ผู้หญิงแล้วก็ไม่ใช่ผู้ชายด้วยใช่มั๊ย?" แวนเนสถามพี่น้องย้ำอีกทีเพราะคิดว่าตัวเองหูฝาด
"ใช่! แล้วน้องก็บอกว่าชอบคนๆนั้นมากด้วย" เจอร์รี่พูดต่อจากแวนเนส
"แล้วบอกว่าคนๆนั้นก็ชอบน้องมากด้วย" แวนเนสพูดต่อจากเจอร์รี่อีกที
"แล้วที่สำคัญคนๆนั้นโทรมาคุยกับน้องทุกวันด้วย" เคนพูดต่อแล้วเว้นวรรคเล็กน้อย
"ถ้าอย่างงั้นคนที่น้องคุยด้วยก็เป็นเพศที่สามอ่ะดิ" จบคำพูดของเคนสามพี่น้องก็มองหน้ากันไปมาอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะร้องอุทานขึ้นมาพร้อมกัน
"เฮ้ยยย!!!! ไม่ได้นะ!!!!" สิ้นเสียงอุทานก็ตามมาด้วยเสียงโครมครามที่สามหนุ่มต่างพากันวิ่งตามน้องเล็กขึ้นไป
"นี่ๆๆๆ เราห้ามคุยกับน้องด้วยอารมณ์นะ ต้องค่อยๆตะล่อมถามน้องว่ามีปัญหาอะไรยังงัย? เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนมากนะโว้ย" แวนเนสดึงแขนพี่ชายน้องชายไว้พร้อมกับพูดเตือนก่อนที่จะบุกเข้าไปในห้องน้องเล็ก
"ตอนนี้น้องคงกำลังสับสนในตัวเองอยู่ ยังคงไม่ถึงขั้นนั้นหรอก" แวนเนสพูดต่อพร้อมกับมองหน้าพี่น้องไปมา
"รู้แล้ว ชั้นไม่ดุน้องหรอก" เจอร์รี่รับคำแล้วทำท่าจะเปิดประตูเข้าไปแต่แวนเนสก็ดึงแขนไว้ก่อน
"อย่าเข้าไปพรวดพราดแบบนี้สิ เคาะประตูก่อน" เอ็ดใส่เบาๆแล้วทำท่าจะเคาะประตูแต่ก็ต้องชะงักไปเพราะได้ยินเสียงน้องชายพูดคุยกับใครอยู่ในห้อง แวนเนสส่งสัญญาณให้เคนกับเจอร์รี่เงียบแล้วเอาหูแนบฟังที่ประตูแทน
"พี่ไม่รำคาญหรอก ถ้าเราอยากคุยก็โทรมาได้เสมอ" เสียงน้องเล็กพูดเสียงเจื้อยแจ้ว
"ฟังมั่งดิ" เคนดันพี่ชายออกให้พ้นประตูแล้วแอบฟังบ้าง
"ไม่รังเกียจหรอก พี่ว่าเราน่ะเป็นคนประเภทเดียวกันซะด้วยซ้ำ" ได้ยินดังนั้นเคนก็ทำตาโตแล้วรีบดึงให้พี่ชายสองคนมาฟังด้วย
"พี่ชอบนะ แล้วก็เห็นว่ามีผู้ชายเยอะดี" จบประโยคนั้นทำเอาสามหนุ่มอ้าปากค้างไปตามๆกัน
"ชั้นต้องคุยกับน้องให้รู้เรื่อง!" เจอร์รี่ประกาศเสียงดังแล้วเปิดประตูเข้าไปทันที ไจ่ไจ๋ที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่หันมาทางพี่ชายทั้งสามคนแล้วนิ่วหน้าเล็กน้อย
"เดี๋ยวพี่โทรกลับนะครับ" พูดจบไจ่ไจ๋ก็กดวางสาย
"ทำไมจะเข้ามาไม่เคาะประตูก่อน?" ไจ่ไจ๋ต่อว่าพี่ชายทันที
"เงียบเลย! เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง!" พูดจบพี่ใหญ่ก็เดินมาคว้าแขนน้องชายแล้วลากมาผลักให้นั่งลงที่เตียง น้องเล็กรู้สึกงงๆเมื่อเห็นสีหน้าเครียดๆของพี่ชายแต่ละคนที่จ้องมองเขาตาเขม็ง
"พวกพี่มีอะไรกันครับ? ผมทำอะไรผิดหรอ?" ถามออกไปอย่างงงๆ
"มีอะไรหรอ? ก็นาย....." พี่ใหญ่พูดต่อไม่ออกเลยได้แต่ชี้หน้าน้องชาย
"นายใจเย็นๆดิวะ" แวนเนสตบไหล่พี่ชายแล้วดึงพี่ชายออกไป ส่วนตัวเองก็ทรุดตัวนั่งลงข้างน้อง
"คือว่า....พวกพี่ไม่ได้รังเกียจหรอกนะหากว่านายเป็นอย่างว่าน่ะ......" ได้ยินดังนั้นสีหน้าของน้องเล็กยิ่งงๆเข้าไปใหญ่
"เอ่อ....พี่หมายถึงว่า บางทีตอนนี้นายอาจกำลังสับสนในตัวเองอยู่ ถ้านายรู้สึกว่าตัวเองมีอะไรผิดปกติก็ปรึกษาพวกพี่ได้นะ" แวนเนสพูดอ้อมๆ
"ผมผิดปกติหรอ?" ไจ่ไจ๋เอายกมือชี้หน้าตัวเอง งุนงงยิ่งกว่าเดิม
"ก็ที่เมื่อกี้นายบอกว่านายรู้สึกดีกับรุ่นน้องที่เป็นผู้ชาย แล้วก็รู้สึกชอบเขามาก....." เคนพูดขึ้นมาบ้าง ได้ยินมาถึงตรงนี้สีหน้างงๆของน้องเล็กก็เริ่มมีทีท่าว่าเข้าใจยิ่งขึ้น
"บางทีถ้าลองปรึกษาจิตแพทย์ดูมันอาจจะทำให้นายเข้าใจในตัวเองมากขึ้นก็ได้นะ" เคนพยายามพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ไจ่ไจ๋อ้าปากค้างเมื่อพอจะรู้แล้วว่าพี่ชายหมายความว่าอะไร แต่แล้วก็พลันนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อกี้เขาแกล้งพูดล้อเล่นอะไรออกไป เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วไจ่ไจ๋จึงปล่อยเลยตามเลยแกล้งพี่ชายเล่นซะอย่างงั้น
"พวกพี่รู้หรอครับ? ผมคิดว่าตัวเองปิดบังพวกพี่ได้แนบเนียนแล้วซะอีก" ไจ่ไจ๋แกล้งตีหน้าสลดพลางพูดเสียงอ่อย
"ไจ่ไจ๋! นี่นายรู้สึกว่าตัวเองเป็นแบบนั้นจริงๆหรอ?" เจอร์รี่ถามแทรกขึ้นมาอย่างตกใจ
"ผมขอโทษที่ทำให้พวกพี่ผิดหวัง ผมพยายามแล้วแต่สุดท้ายผมก็พบว่าตัวเองเป็นจริงๆ ผมขอโทษครับ" พี่ชายสามคนอึ้งๆไปกับคำพูดของน้อง
"ผมรู้ตัวมานานแล้วหละ แต่ไม่กล้าบอกเพราะกลัวจะทำให้พวกพี่เสียใจ กลัวพวกพี่จะอายคนอื่นด้วย แต่ในเมื่อพวกพี่รู้แล้วผมก็จะไม่ปิดบังอะไรอีก" ไจ่ไจ๋เงยหน้าขึ้นมองพี่ชายทั้งสามคนที่ยืนเรียงกันอยู่ตรงหน้าเขา
"ไจ่ไจ๋....." แวนเนสครางออกมาเสียงแผ่วอย่างคาดไม่ถึง
"นายรู้สึกว่าตัวเองเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? พี่ว่าเราไปหาจิตแพทย์กันน่าจะดีนะ บางทีนายอาจกำลังสับสนในตัวเอง ถ้าหากได้คำแนะนำอะไรดีๆแล้วนายอาจจะดีขึ้นก็ได้ ไปนะไจ่ไจ๋" พี่ใหญ่พูดเสียงอ่อนลง
"ไม่มีประโยชน์หรอกครับพี่ใหญ่ ผมลองมาหมดแล้ว แต่มันไม่ได้ผลเลย" ได้ยินแบบนั้นเจอร์รี่ก็ทิ้งตัวนั่งลงข้างน้องอย่างหมดแรง
"แล้วทำไมนายไม่บอกพวกพี่ตั้งแต่ที่เริ่มรู้สึกแรกๆ? ถ้าพวกพี่ไม่มารู้เองนายก็ยังปิดบังไปอยู่เรื่อยๆใช่มั๊ย?" เคนดึงแขนน้องพร้อมกับเอ่ยถามเสียงเข้ม
"อย่าน่าเสี้ยวเทียน! แค่นี้น้องมันก็เสียใจเกินพออยู่แล้ว" แวนเนสรีบห้ามทัพ
"แล้วชั้นไม่เสียใจหรืองัยวะ!" น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของพี่ชายทำเอาน้องเล็กสะดุ้งโหยง
"แต่ชั้นไม่ได้เสียใจเพราะว่าน้องมันผิดปกติหรอกนะ! แต่เสียใจที่ชั้นไม่ใช่คนที่น่าไว้วางใจพอสำหรับน้องต่างหาก!" ไจ่ไจ๋ถึงกับอึ้งเมื่อเห็นผลแห่งการล้อเล่นไม่เข้าเรื่องของตัวเอง
"พี่กลาง! คือว่าผม....." ไจ่ไจ๋รีบลุกไปกอดแขนพี่ชาย
"พี่ยังไม่อยากพูดกับนายตอนนี้ ขอให้พี่ได้ไปสงบสติอารมณ์ก่อน" พูดจบเคนก็ทำท่าจะหมุนตัวเดินออกไปแต่ไจ่ไจ๋รีบถลาเข้าไปกอดพี่ชายไว้ก่อน
"พี่กลาง! ฟังผมก่อน! ที่ผมพูดมาทั้งหมดมันไม่ใช่เรื่องจริงเลย! ผมล้อพวกพี่เล่นเท่านั้นเอง!" ประโยคที่หลุดออกจากปากน้องชายทำเอาพี่ชายทั้งสามคนถึงกับชะงัก
"อะไรนะ!!!" อุทานขึ้นมาพร้อมกับสายตาสามคู่ที่จ้องมองมายังน้องเล็กตาเขม็ง น้องเล็กหน้าสลดลงทันทีเมื่อเห็นสายตาทั้งสามคู่
"พูดใหม่ซิ!" เคนหมุนตัวหันมาจับแขนน้องชายทั้งสองข้างไว้พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเข้ม
"ผมล้อเล่น....." น้ำเสียงอ่อนอ่อยคล้ายคนสำนึกผิดอยู่เต็มประดา
"เมื่อกี้ผมคุยกับรุ่นน้องจริง แต่เป็นน้องรหัสผมเอง น้องโทรมาคุยมาปรึกษาเรื่องเรียนกับผม" อธิบายต่อพลางก้มหน้างุดไม่กล้าสบตากับบรรดาพี่ชาย
"แล้วที่นายบอกว่าเราเป็นคนประเภทเดียวกันหละ? เราไหน? แล้วเป็นคนประเภทไหน?" เคนย้อนถามเสียงเข้มขึ้นตามลำดับ
"เราก็คือ....ผมกับน้องรหัส แล้วก็เป็นประเภทขี้อายเหมือนกัน" ไจ่ไจ๋ตอบเสียงอ่อยลงตามลำดับเช่นกัน
"แล้ว....แล้วที่นายบอกว่านายชอบเพราะผู้ชายเยอะดีนี่หมายความว่างัย?" เคนถามต่ออีก
"อันนั้นน้องถามว่าทำไมผมถึงเลือกเรียนวิศวะฯ? ผมก็เลยตอบว่าผมชอบ เพราะว่าคณะนี้มีผู้ชายค่อนข้างเยอะ ผมหมายถึงว่าเวลาทำอะไรก็ไม่ค่อยเคอะเขินมากก็เท่านั้นเอง" ตอบคำถามจบก็เงยหน้ามองพี่ชายเล็กน้อยแล้วพูดจาแขวะออกมาเบาๆ
"แอบฟังเขาแล้วยังไม่รู้จักจับใจความให้ดีซะก่อน" เคนได้ยินก็ทำตาโต
"ไอ้เด็กนี่!" แล้วเงื้อนมือขึ้นหมายจะจัดการเจ้าน้องชายตัวดีให้หายแค้นแคืองที่บังอาจล้อเล่นอะไรที่ทำให้แทบหัวใจวายเช่นนี้ น้องเล็กก้มหน้างุดหลับตาปี๋เมื่อเห็นถึงภยันตรายที่กำลังจะมาเยือน
"เฮ้ย!!! อย่า!!!!" แต่แล้วเสียงพี่ชายอีกสองคนก็ร้องห้ามเสียงหลง ฝ่ามือที่เงื้อนขึ้นเลยได้แต่ชะงักงันอยู่เช่นนั้น
"อย่าทำน้อง!" พี่ใหญ่เดินมากดมือของน้องชายคนกลางลง ท่ามกลางความโล่งใจของน้องเล็ก
"ทำไมถึงทำไม่ได้? มันหลอกเรานะ!" เคนหันมาแหวใส่พี่ชายอย่างลืมตัว
"เออน่า! น้องมันแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง" พี่ใหญ่แก้ตัวแทนเพราะไม่อยากให้น้องเล็กเจ็บตัว
"แล้วเล่นอะไรแบบนี้หละ? นี่มันจะเกินไปแล้วนะ!" เคนยังไม่วายมีท่าทีฮึดฮัดสายตาก็มองไปยังน้องชายราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
"ผมขอโทษ.....วันหลังจะไม่กล้าเล่นอะไรแบบนี้อีกแล้ว....." เอ่ยปากขอโทษออกมาทันที
"เฮ่อ! เล่นอะไรแบบนี้วะ? ได้ยินแล้วเสียววาบเลย" แวนเนสบ่นขึ้นมาบ้าง
"ก็ผมเห็นพวกพี่แอบมองผมคุยอยู่ก็เลยอยากแกล้งกลับก็เท่านั้นเอง" น้องเล็กพูดเสียงอ่อยๆ
"เออว่ะ! ความจริงพวกเราก็ผิดเหมือนกันนะที่แอบฟังน้องคุยโทรศัพท์" แวนเนสพูดอย่างเป็นกลางเมื่อเห็นเคนยังหน้ามุ่ยอยู่
"เพราะนายแหละเสี้ยวเทียน! ที่เรียกให้ชั้นดูน้องมันคุยโทรศัพท์" พี่ใหญ่ปกป้องน้องเล็กโดยหันโทษเคนหน้าตาเฉย
"อ้าว! นี่อยู่ดีๆชั้นดันกลายเป็นคนผิดอีกแล้วใช่มั๊ย? ความยุติธรรมยังมีอยู่ในโลกหรือเปล่าวะเนี่ย?" พูดจบก็ทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงของน้องชายแรงๆ
"ผมผิดเอง ผมผิดคนเดียวนั่นแหละ พี่กลางไม่ผิดหรอกครับ ผมขอโทษ.....ขอโทษน้า....ยกโทษให้ผมเถอะ....." เมื่อเห็นพี่ชายมีท่าทีอ่อนลงก็รีบอ้อนเสียยกใหญ่ เคนถอนหายใจเฮือกพร้อมกับเปลี่ยนสายตามาที่น้องชายอีกครั้งด้วยคิดอยากจะต่อว่าให้หายแค้นแต่เมื่อเห็นหน้าจ๋อยๆตาแป๋วๆของน้องชายคนนี้แล้วเขาก็โกรธไม่ลงซักที
"คราวหน้าถ้าเล่นอะไรแบบนี้อีกโดนแน่ๆ!" เคนทำอะไรน้องไม่ได้นอกจากเขกหัวเข้าให้โป๊กหนึ่ง ซึ่งไจ่ไจ๋ก็ไม่ได้โอดครวญโวยวายอะไร
"ไม่เล่นอีกแล้วหละ หายโกรธผมนะ....นะครับ...." เคนมองค้อนใส่น้องแต่ก็พยักหน้ารับ ไจ่ไจ๋เลยยิ้มออกขยับเข้ากอดพี่ชายอย่างออดอ้อน
"ดูมันนะ! ใส่ใจแต่ไอ้พี่ชายคนนั้น คงลืมไปมั้งว่ามันก็หลอกเราสองคนด้วย!" แวนเนสเปรยขึ้นมาดังๆโดยจงใจให้น้องได้ยิน
"หูยย....ไม่ใช่ซักหน่อย ขอโทษพี่รองด้วยนะครับ ขอโทษน้าาา.....พี่รองสุดหล่อออ....." น้องเล็กหยอดคำหวานใส่ในทันที
"หึๆๆๆ พี่ไม่ได้โกรธอะไรหรอก ตอนแรกก็ตกใจน่ะ แต่พอได้รู้ก็รู้สึกขำๆดีเหมือนกัน ความจริงถ้านายเป็นอย่างนั้นก็คงน่ารักไปอีกแบบนะ เพราะพื้นฐานนิสัยนายแล้วก็ขี้อ้อน อ่อนหวานเหมือนผู้หญิงอยู่แล้ว อีกอย่างพี่เองก็เคยมีน้องชายแล้ว ถ้าได้น้องสาวน่ารักๆแบบนี้อีกคนก็คงจะดี" แวนเนสพูดไปพร้อมกับเชยคางน้องชายขึ้นเล็กน้อย
"งั้นเดี๋ยวผมจะเอาตังค์ที่เก็บไว้ไปเสริมหน้าอกก็แล้วกัน ส่วนที่เหลือไปซื้อกระโปรงมานุ่งดีมั๊ย?" น้องเล็กย้อนถามยิ้มๆ
"เอาสิ! ถ้าไม่พอเดี๋ยวพี่ให้กองทุนสนับสนุน" แวนเนสต่อคำกับน้องอย่างสนุกสนาน
"ตลกตายหละ!" พี่ใหญ่จับหัวน้องชายตัวดีทั้งคู่โขกกันเบาๆ แวนเนสกับไจ่ไจ๋จึงได้แต่ยิ้มแหยๆให้กัน
"พี่น่ะตกใจแทบตาย! คิดอยู่เลยจะบอกพ่อแม่ว่ายังงัย? แล้วถ้าพ่อแม่ได้รู้มีหวังเป็นลมตายแน่ๆ" ว่าพลางหยิกแก้มเจ้าน้องเล็กอย่างหมั่นไส้
"โอ้ยย....." ไจ่ไจ๋ร้องออกมาเบาๆแล้วเอามือถูแก้มตัวเองไปด้วย
"แหม....พี่ใหญ่เนี่ยมองการณ์ไกลจัง คิดไปถึงนู้น....." จีบปากจีบคอต่อว่าพี่ชายเล็กน้อยแต่พอเห็นสายตาของพี่ใหญ่แล้วก็ปั้นยิ้มหวานอันใสซื่อออกมาทันที
"ผมไม่เป็นอย่างนั้นหรอก ผู้หญิงน่ะน่ารักจะตาย" จบคำพูดน้องชายพี่ชายสามคนก็หันมามองหน้าน้องพร้อมกัน
"ผมหมายถึงว่ายังงัยผมก็ชอบเพศตรงข้ามอยู่น่ะ" ไจ่ไจ๋รีบเปลี่ยนคำพูดใหม่ทันที
"แล้วไป....นึกว่าริอาจจะมีแฟน" พี่ใหญ่พึมพำ
"ทำไม? ผมมีแฟนไม่ได้หรอ?" น้องเล็กยื่นหน้าเข้าไปถาม
"ดูแลตัวเองได้หรือยัง? ถึงได้คิดจะมีแฟนน่ะ!" ย้อนถามกลับพร้อมกับบีบจมูกน้องไปด้วย
"ตัวเท่าลูกหมา! อยากจะมีแฟน!" เคนพึมพำออกมาบ้าง
"หมาที่ไหนจะน่ารักแบบนี้?" น้องเล็กพูดขึ้นมาหน้าตาเฉย
"เฮ่อ! หลงตัวเองชะมัด!" เคนว่า แล้วสี่พี่น้องก็หลุดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกัน

- วันต่อมา -
"พี่กลาง วันนี้ไปไหนเปล่า?" ไจ่ไจ๋เดินมานั่งลงข้างๆพี่ชายพร้อมกับเอ่ยถาม
"ก็ยังไม่มีโปรแกรม ทำไมหรอ?" เคนตอบแล้วย้อนถามน้อง
"งั้นไปซื้อของกับผมหน่อยนะ" ชวนพี่ชายแล้วดึงแขนอย่างตื๊อๆ
"ซื้อะไรวะ? ข้าวของก็เพิ่งซื้อเข้าบ้านเมื่อไม่นานนี้เองไม่ใช่หรอ?" เคนถามกลับอย่างงงๆเพราะนึกว่าน้องจะชวนไปซื้อของกินของใช้ในบ้าน
"ไม่ใช่ ไปซื้อของให้คนอื่นน่ะ" ไจ่ไจ๋ปฏิเสธพร้อมกับบอกให้ฟัง เคนเลยเริ่มมีท่าทีสนใจขึ้นมา
"ซื้อให้ใคร?" เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วน้องเล็กก็ยิ้มออกมาอย่างเขินๆ
"ซื้อให้น้องรหัส พอดีวันที่เฉลยพี่รหัสกันผมไม่รู้ว่ารุ่นพี่ต้องให้ของขวัญน้องด้วย เลยขอติดไว้ก่อน" น้องเล็กตอบใบหน้าเจือไปด้วยรอยยิ้ม จนเคนสังเกตได้
"หรอ? แล้ววันที่เฉลยกันนายก็ไม่ได้ให้อะไรน้องเลย?" เคนถามอีก
"ก็ให้....แต่มันก็แค่เล็กๆน้อยๆ ไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอันเหมือนคนอื่น" ตอบแบบไม่เต็มเสียงนัก
"ให้อะไรไปหละ?" ถามต่ออีก
"ดอกกุหลาบ" คำตอบของน้องทำให้เคนถึงกับหัวเราะออกมา
"นี่! พี่ถามตรงๆนะว่านายคิดอะไรกับน้องรหัสตัวเองหรือเปล่า?" เคนถามต่ออย่างไม่อ้อมค้อม
"เปล่าซักหน่อย" ตอบเสียงแผ่วพร้อมกับตีแขนพี่ชายอย่างเขินๆ
"ถ้าไม่ได้คิดแล้วจะเขินทำไม?" เคนถามต่อเป็นเชิงแซว
"พี่กลางเนี่ย! จะไปไม่ไป? ชวนดีๆนะเนี่ย!" น้องเล็กทำเป็นเอ็ดพี่ชายกลบเกลื่อนความเขินอาย
"เออ! ไปก็ไปดิวะ ทำมาเป็นดุกลบเกลื่อน" เคนว่าแต่ยังไม่วายแอบแซวน้องอีก
"ก็ไปสิ" ว่าแล้วก็ดึงแขนพี่ชายให้ลุกขึ้น แล้วจูงออกไปที่รถอย่างกระตือรือร้น
"น้องรหัสนายชื่ออะไรหรอ?" เมื่อขึ้นมานั่งบนรถได้เคนก็ถามน้องอีก
"หลิงเอ๋อ....จูหลิงเอ๋อ...." ไจ่ไจ๋ตอบแล้วสตาร์ทเครื่องยนต์
"หลิงเอ๋อ? หน้าตาเป็นงัย?" ถามต่ออีกด้วยความอยากรู้ ไจ่ไจ๋ที่กำลังจะถอยรถออกจากบ้านละมือจากพวงมาลัยแล้วหยิบกระเป๋าเงินออกมาเปิดให้พี่ชายดู
"หน้าตาแบบนี้แหละ" ชี้รูปให้ดูแล้ววางกระเป๋าเงินลงในมือพี่ชาย เคนรับมาถือไว้แล้วจ้องมองหญิงสาวคนที่น้องบอก เขาไม่สงสัยเลยว่าทำไมน้องเล็กของเขาถึงได้มีท่าทีว่าพออกพอใจในตัวหญิงสาวคนนี้เพราะดูจากหน้าตาท่าทางแล้วจัดเป็นคนที่หน้าตาดีมากคนหนึ่ง
"อะไรวะ? เปิดเทอมยังไม่เท่าไหร่มีรูปถ่ายด้วยกันแล้วหรอ?" เคนเงยหน้าขึ้นมาพูดกับน้อง
"ก็ถ่ายวันรับน้องอ่ะ กับน้องคนอื่นก็มีถ่ายด้วย แต่เก็บอยู่ที่บ้าน" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วมองรูปในมือพี่ชาย
"เป็นงัย? น่ารักมั๊ย?" ถามต่อยิ้มๆ
"อืม...ตาถึงเลยว่ะไอ้น้อง! น่ารักจริงๆ" เคนตอบพร้อมกับตบไหล่น้องชายเบาๆ แล้วเก็บรูปใส่คืนในกระเป๋าเงินน้องตามเดิม
"น้องเขาดังมากเลยนะเนี่ย ขนาดคณะอื่นยังเป็นที่กล่าวขานเลย" ไจ่ไจ๋พูดอย่างภูมิอกภูมิใจ
"แหม....ทำอย่างกะเป็นอะไรกันงั้นแหละ!" เคนค่อนขอดอย่างนึกหมั่นไส้
"เป็นสิ!" ไจ่ไจ๋รีบสวนขึ้นทันควัน
"เป็นอะไร?" เคนถามกลับอีก
"เป็นพี่เป็นน้องรหัสกัน" เคนได้ยินก็เอื้อมมือผลักหัวน้องอย่างหมั่นไส้
"พี่ใหญ่เขาบอกว่างัย? บอกว่าเรื่องเรียนต้องมาก่อนอันดับแรกใช่มั๊ย?" เคนแกล้งยกเอาพี่ใหญ่ขึ้นมาขู่
"อ้าว! ก็ไม่ได้ว่าอะไรหนิ แต่เรื่องเรียนต้องมาควบคู่กับกิจกรรมไม่ใช่หรอ?" พูดจบน้องเล็กก็ทำหน้ากรุ้มกริ่ม
"ฮึ!" เคนผลักหัวน้องเข้าอีก
"จะไปซื้ออะไรหละ?" เคนเปลี่ยนมาถามถึงของที่น้องจะซื้อบ้าง
"ผมก็ไม่รู้เหมือนกันถึงได้ดึงพี่กลางออกมาด้วยงัย" ไจ่ไจ๋ตอบยิ้มๆ
"พี่ว่าผมจะซื้ออะไรให้ดีหละ? ผู้หญิงส่วนใหญ่เขาชอบอะไรกันหรอ?" เคนยิ้มกับคำถามของน้อง
"ก็ชอบของที่นายเคยให้ไปแล้วงัย" เคนตอบ น้องเล็กเหลือบมองพี่ชายเล็กน้อย
"ดอกกุหลาบหรอ?" เคนขยับตัวแล้วหันหน้าไปทางน้อง
"ถ้าไม่นับผู้หญิงที่แพ้เกสรดอกไม้แล้วพี่ว่าดอกไม้เป็นของที่ผู้หญิงอยากได้จากเพศตรงข้ามนะ" เคนพูดอย่างเป็นการเป็นงาน
"แล้วพี่กลางเคยให้ดอกไม้กับใครหรือเปล่า?" ย้อนถามพี่ชายต่ออีก
"เคยสิ" เคนตอบแล้วขยับตัวนั่งหันหน้าตามปกติ
"ใครเป็นผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นนะ?" น้องเล็กทำเสียงล้อๆ เคนยิ้มบางๆ
"พี่เคยมีแฟนที่รักกันมากคนนึง" เคนเอ่ยปากเล่าให้น้องฟัง น้องเล็กได้ยินก็มีท่าทีสนใจขึ้นมา
"หรอครับ? แล้วทำไมถึงเลิกกันหละ?" เคนมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ
"นายจำรูปถ่ายของพี่ที่มีผู้หญิงคนนึงที่ยืนหันหลังให้กล้องได้มั๊ย?" เคนย้อนถามน้อง ไจ่ไจ๋ทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
"อ๋อ! ภาพที่พี่กลางไม่ยอมให้ผมดูว่าข้างหลังเขียนอะไรใช่มั๊ย?" เคนยิ้มแล้วพยักหน้า
"คนนั้นหรอครับ?" ไจ่ไจ๋ถามต่อ เคนก็พยักหน้ารับอีก
"ความจริงพี่เองที่เป็นคนทำมันพัง พี่เป็นคนขอเลิกกับเธอเอง" เคนมีสีหน้าเศร้าลง ไจ่ไจ๋ไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่เหลือบมองพี่ชายแล้วหันกลับไปดูทางต่อ
"ครอบครัวเธอค่อนข้างเข้มงวดน่ะ พ่อแม่ของเธอไม่อยากให้เธอคบกับผู้ชาย แต่เราแอบคบกันมาเกือบสองปีแต่ไม่ได้มีอะไรเกินเลย จนวันหนึ่งพ่อแม่ของเธอก็รู้เข้า" เคนเว้นวรรคเล็กน้อยแล้วเล่าต่อ
"พ่อแม่ของเธอโกรธมาก สั่งให้เธอเลิกคบกับพี่ แต่เธอก็แข็งขืนไม่ยอม พ่อแม่เธอเลยจะส่งให้ไปอยู่กับญาติที่ต่างประเทศและให้เรียนต่อที่นู้นเลย" ไจ่ไจ๋ฟังแล้วก็รู้สึกหดหู่ เขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย
"ก่อนวันที่เธอจะไปเมืองนอก เธอนัดพี่ให้ไปเจอ วันนั้นเธอร้องไห้อย่างหนักแล้วบอกกับพี่ว่าขอเพียงแค่พี่เอ่ยปากเธอก็ยินดีที่จะหนีไปกับพี่......" ไจไจ๋หันมามองหน้าพี่ชายอย่างตกใจกับเรื่องที่ได้ยินแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
"พี่ไม่เคยร้องไห้เพื่อผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย เธอเป็นคนแรกที่พี่เสียน้ำตาให้แก่การเลิกราของเรา" เคนพูดเบาๆแล้วถอนหายใจ
"แล้วพี่กลางทำยังงัยครับ? หลังจากที่ได้ยินเธอบอกอย่างนั้น?" ไจ่ไจ๋ถามขึ้นต่อ
"พี่ไม่มีสิทธิไปทำลายอนาคตเธอ พี่เลยแข็งใจบอกว่าเธอไม่มีค่ามากพอที่พี่จะเอาตัวเข้าไปเสี่ยงแบบนั้น" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ถอนหายใจออกมาโดยไม่รู้ตัว
"พี่ยอมให้เธอโกรธพี่เสียยังดีกว่าที่จะทำให้เธอผิดต่อพ่อแม่ของเธอ ดังนั้นพี่เลยโทรไปบอกพ่อแม่ของเธอให้มารับเธอกลับไป....." เล่ามมาถึงตรงนี้สีหน้าของเคนก็แววเศร้าลง
"เราจากลากันในสภาพแบบนั้น แล้วก็ไม่เคยติดต่อกันอีกเลย" ไจ่ไจ๋เหลือบตามาทางพี่ชายอีกครั้ง เขารู้สึกภาคภูมิใจในตัวพี่ชายคนนี้มาก
"พี่กลางครับ....ผมภูมิใจในตัวพี่ที่สุดเลย....." น้องเล็กเลื่อนมือมาจับมือพี่ชายบีบเบาๆ เคนหันหน้ากลับมาแล้วส่งยิ้มให้น้อง จากนั้นทั้งคู่ก็นั่งกันมาเงียบๆจนกระทั่งถึงที่หมาย

- ที่บ้าน -
"ครับ?" เจอร์รี่เลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อเห็นผู้มาเยือนยืนรายล้อมอยู่หน้าบ้าน
"เรามาหาแวนเนสน่ะ อยู่มั๊ย?" หนึ่งในนั้นบอกกับเจอร์รี่ด้วยน้ำเสียงแข็งๆ
"เอ่อ....ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรกับเขาหรือครับ?" เจอร์รี่ย้อนถามกลับพร้อมกับมองกลุ่มชายฉกรรจ์เหล่านั้นอย่างไม่ค่อยไว้ใจ
"เราเป็นเพื่อนเขา วันนี้จะมารับไปเที่ยวกันหน่อย" ชายคนเดิมตอบ
"ผมว่าแวนเนสเขา....." เจอร์รี่ยังพูดไม่ทันจบเสียงแวนเนสก็แทรกขึ้นมาก่อน
"เฮ้ย! มากันแล้วหรอ? เร็วกว่าที่คิดไว้อีก" พูดจบก็รีบมาเปิดประตูให้ท่ามกลางสายตางงงวยของเจอร์รี่
"เพื่อนชั้นเอง" หันบอกกล่าวกับพี่ชายแล้วเชื้อเชิญให้เพื่อนๆเข้ามาในบ้าน เจอร์รี่มองตามหลังกลุ่มเพื่อนของน้องชายก่อนที่จะส่ายหน้าไปมาแล้วรีบเดินตามเข้าไป
"บ้านนายสวยดีนี่หว่า อยู่กันกี่คนวะ?" หนึ่งในนั้นถามขึ้น
"อ๋อ! ก็มีอยู่ประจำกันแค่สี่คนพี่น้อง พ่อแม่ชั้นทำงานอยู่ต่างประเทศ" แวนเนสตอบแล้วเหลือบตาไปทางพี่ชายที่เพิ่งเดินตามเข้ามา
"คนเนี่ยพี่ชายคนโต ชื่อเจอร์รี่" แวนเนสแนะนำ
"อ๋อ! เนี่ยหรอพี่ชายของนาย?" เพื่อนๆต่างรับคำแล้วหันไปมองเจอร์รี่เป็นตาเดียว
"ยินดีที่ได้รู้จักนะ" เจอร์รี่ส่งยิ้มให้อย่างสุภาพก่อนที่จะลอบถอนใจออกมาเบาๆ
"วันนี้พวกเรานัดกับแวนเนสว่าจะไปหาอะไรดื่มกัน แล้วว่าจะเลยไปแข่งมอเตอร์ไซด์กันด้วย สนใจจะไปด้วยกันมั๊ย?" ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็เลิกคิ้วขึ้นแล้วหันไปทางน้องชายทันที
"ผมไปเอาน้ำมาให้ดื่มกันก่อนดีกว่า เดี๋ยวค่อยมาคุยนะ" เจอร์รี่พูดกับกลุ่มเพื่อนของน้องชายแล้วเหลือบตาไปทางน้อง
"แวนเนส!!" เอ่ยเรียกชื่อน้องเบาๆ แวนเนสหันไปสบตากับพี่ชาย
"ในครัว!" พูดเสียงต่ำพร้อมกับชี้นิ้วเข้าไปในครัวแล้วเดินนำเข้าไปก่อน
"ตามสบายนะ เดี๋ยวชั้นมา" แวนเนสบอกเพื่อนๆแล้วรีบตามพี่ชายไป
"ชั้นไม่เคยรู้ว่านายคบเพื่อนแบบนี้ด้วย" เมื่อเห็นน้องชายเดินตามเข้ามาเจอร์รี่ก็เอ่ยขึ้นทันที
"เพิ่งรู้จักกันน่ะ พวกเขาเป็นเพื่อนของเพื่อนอีกที" แวนเนสตอบแล้วเข้ามาช่วยพี่ชายเทน้ำใส่แก้ว
"รู้จักกันดีแค่ไหน?" พี่ใหญ่ถามต่อ
"ก็ระดับนึง" ก้มหน้าตอบโดยไม่ได้เงยหน้ามองคู่สนทนาด้วยรู้ดีว่าพี่ชายไม่ค่อยชอบใจกับเพื่อนกลุ่มนี้ของเขาเท่าไหร่
"ระดับไหน?" ถามรุกต่อ
"ก็ไม่สนิทมากแต่ก็คุยกันได้" พี่ใหญ่ถอนใจออกมาเบาๆ
"แล้วเคยไปแข่งรถอะไรนั่นด้วยหรือเปล่า?" ถามน้องต่ออีก แวนเนสชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่จะส่ายหน้า พี่ใหญ่มองหน้าน้องอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
"ความจริงแล้วพวกเขาก็คุยสนุกนะ นายอย่ามองแต่ภายนอกสิ" แวนเนสแก้ตัวแทนเพื่อนๆ
"รู้สึกว่าพักหลังๆนายจะมีเพื่อนเพิ่มขึ้นมาหลายกลุ่มจังนะ" พูดจบก็หันมาสบตากับน้องตรงๆ
"ก็....ชั้นได้เจอะเจอผู้คนเยอะแยะเลยนี่ จะมีเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นมาบ้างมันแปลกนักหรอ?" ย้อนถามพี่ชายกลับ อีกครั้งที่พี่ใหญ่ถอนหายใจ
"อย่ากลับดึกมากก็แล้วกัน" เอ่ยกำชับน้องชายแล้วยกแก้วน้ำใส่ถาด แวนเนสผงกหัวรับคำแล้วหันไปหยิบคุ้กกี้ใส่จาน
"และไม่มีการแข่งรถเด็ดขาด! เข้าใจมั๊ย?" สั่งน้องชายด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ครับ" แวนเนสรับคำพี่ชาย
"ยกออกไปได้แล้ว" พูดตัดบทแล้วให้น้องยกน้ำและขนมออกไปให้เพื่อนๆ
"วางเลยๆ กำลังหิวพอดี!" ทันทีที่วางถาดลงบรรดาเพื่อนๆของแวนเนสก็หยิบแก้วน้ำขึ้นดื่มอย่างไม่เกรงใจ
"ตกลง....ชื่ออะไร? พี่นายน่ะ" หนึ่งในนั้นหันมาถามแวนเนส
"เจอร์รี่" แวนเนสตอบแล้วหันไปทางพี่ชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา
"อ้อ! เจอร์รี่! จะไปด้วยกันมั๊ย? รับรองว่าสนุก ชั้นนัดสาวๆไว้เป็นกลุ่มเลย!" ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็ขมวดคิ้ว ในขณะที่แวนเนสมีสีหน้าเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
"นายชอบแบบไหนบอกได้เลย ชั้นรู้จักหมด งานนี้ไม่มีกร่อย!" พูดจบก็หยิบขนมโยนเข้าปาก เจอร์รี่เม้มปากเล็กน้อยเมื่อได้ยิน
"เห็นแวนเนสบอกว่าแค่ดื่มสังสรรกันเองไม่ใช่หรอ?" เจอร์รี่เอ่ยถามออกไป
"ฮ่าๆๆๆ!!! แบบนั้นก็ไม่สนุกสิครับพี่!" เสียงของชายหนุ่ม 4-5 คนหัวเราะดังขึ้นมาพร้อมกัน
"พี่นายนี่เข้มงวดเอาการเลยว่ะ! นายอายุเท่าไหร่แล้วนะแวนเนส?" หนึ่งในนั้นหันมาถามแวนเนสแบบขำๆ
"เฮ้ย! พวกนายก็พูดเล่นอยู่ได้! กินพอหรือยังหละ? จะได้ไปกันซักที!" แวนเนสไม่รู้จะทำยังงัยเลยทำเป็นเอ็ดเพื่อนกลบเกลื่อน
"เออ! ไปก็ไป!" พูดจบก็หันไปดึงเพื่อนคนอื่นให้ลุกขึ้นด้วย
"อะไรวะ? กำลังสบายเลย จะรีบไปไหนกัน? มีเวลาทั้งคืน!" เสียงบ่นกระปอดกระแปดจากเพื่อนอีก 2-3 คนแต่ก็ลุกขึ้นแต่โดยดี
"เดี๋ยวก่อน!" เจอร์รี่ส่งเสียงเรียกไว้ แวนเนสได้ยินก็เริ่มหายใจไม่ทั่วท้องเพราะกลัวพี่ชายจะสั่งห้ามไม่ให้ไป
"ว่างัย? เปลี่ยนใจจะไปด้วยหรอ?" คนที่ชวนเจอร์รี่ในตอนแรกถามยิ้มๆ
"ครับ ผมขอไปด้วยก็แล้วกัน" คำตอบของพี่ชายทำให้แวนเนสอ้าปากค้าง
"ผมขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวเดียว แวนเนส! นายโทรบอกน้องด้วย" พูดจบก็เดินขึ้นห้องเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
"พี่นายไปด้วยคงสนุกดีเนอะ!" เพื่อนแวนเนสว่าพร้อมกับตบไหล่เบาๆ
"ออกไปรอที่รถนะ" โดยไม่รอคำตอบบรรดาเพื่อนๆก็ทยอยเดินออกจากบ้าน
"สนุกกะผีน่ะสิ! กลับมาชั้นต้องนั่งฟังเทศน์อีกกี่ชั่วโมงกันเนี่ย! เฮ่อ!" แวนเนสบ่นอุบแล้วถอนหายใจออกมายาวๆก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อติดต่อไปหาน้องชาย




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2549 16:03:46 น.
Counter : 1219 Pageviews.  

Chapter 3

ตอนที่ 3
"เฮ่อ!" เสียงน้องเล็กถอนหายใจออกมาเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ เคนลดหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ลงแล้วมองไปทางน้องชายที่นอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงโดยที่ในมือก็กดโทรศัพท์มือถืออย่างเอาเป็นเอาตาย เขาหัวเราะออกมาเบาๆกับท่าทางของน้องชาย ไจ่ไจ๋ได้ยินก็พลิกตัวหันหน้ามาทางพี่ชายแล้วลุกขึ้นนั่ง
"เป็นห่วงพี่รองจัง ป่านนี้ยังไม่กลับบ้านอีก ไปไหนของเขาก็ไม่รู้ มือถือก็ไม่ยอมเปิดเครื่อง" ไจ่ไจ๋บ่นออกมาเป็นชุด เคนได้ยินก็หัวเราะออกมาอีก
"ขำอะไรนักหนาพี่กลาง? พี่ไม่ห่วงพี่รองบ้างหรอ? ป่านนี้ไม่รู้งอนไปถึงไหนต่อไหนแล้ว" ต่อว่าพี่ชายพลางค้อนใส่แล้วลงมือกดโทรศัพท์อีก เคนส่ายหน้าไปมาแล้วหยิบโทรศัพท์ออกจากมือน้องชาย
"ก็พี่รองมันมีคนเป็นห่วงเยอะแล้วหนิ พี่จะห่วงมันอีกทำไม?" เคนว่าแล้ววางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะข้างเตียง
"พี่กลาง! ทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ นั่นพี่ชายทั้งคนเชียวนะ" น้องเล็กทำเสียงขัดใจหน้ามุ่ย
"พี่ใหญ่ก็เหมือนกัน ไม่รู้จะเก๊กอะไรนักหนา ปากบอกไม่สนใจแต่ตัวแทบจะนั่งไม่ติดแล้ว เดินเข้าออกจากห้องกี่ร้อยรอบแล้วก็ไม่รู้" บ่นไปถึงพี่ชายคนโตอีกคน
"ไจ่ไจ๋เอ้ย.....เดี๋ยวนี้นายขี้บ่นขึ้นเยอะเลย รู้ตัวหรือเปล่า?" เคนหันมาพูดแหย่น้อง
"พี่กลาง! ผมเครียดอยู่นะเนี่ย!" ไจ่ไจ๋กระแทกเสียงใส่คนช่างกวน เคนอมยิ้มแล้วเอามือขยี้หัวน้อง
"เครียดอะไร? เราไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลย เดี๋ยวพี่เขาสองคนก็เคลียร์กันเองแหละน่า เคยโกรธกันนานซะเมื่อไหร่ไอ้คู่นี้น่ะ" เคนพูดคล้ายจะปลอบใจ
"นานหรือเปล่าผมไม่สน! ผมรู้แต่ว่าผมไม่ชอบเวลาที่พวกเราทะเลาะกัน ไม่ว่าจะเป็นใครกับใครก็ตาม" ไจ่ไจ๋พูดเน้นเสียง
"ถ้าไม่ชอบ.....เวลาพูดจาก็อย่าใส่อารมณ์สิ" เคนยอกย้อนยิ้มๆเมื่อเห็นน้องเริ่มจะอารมณ์เสีย
"ผมใส่อารมณ์ที่ไหน!" ไจ่ไจ๋เสียงดังขึ้นเมื่อโดนพี่ชายแหย่ เคนไม่ตอบแต่หัวเราะอย่างอารมณ์ดี
"โอ้ย! ไม่คุยด้วยแล้ว! อารมณ์เสีย!" พูดจบก็เดินปึงปังออกไปอย่างขัดใจ เคนส่ายหน้าไปมาแล้วรีบวิ่งตามน้องลงไปด้วย
"พี่กลาง! พี่ใหญ่หายไปไหน? ประตูบ้านก็เปิดทิ้งไว้แบบนี้" ยังไม่ทันจะได้เอ่ยปากง้อน้องเล็กก็เอ่ยถามขึ้นมาก่อน
"อ้าว! จะไปรู้หรอ?" เคนเลิกเล่นโดยปริยายเมื่อเห็นว่าน้องเริ่มเครียดขึ้นมาจริงๆ
"อยู่หน้าบ้านหละมั้ง?" ให้ความเห็นแล้วเดินออกไปหน้าบ้าน ไจ่ไจ๋จึงรีบตามพี่ชายออกไป
"ประตูใหญ่ก็เปิดทิ้งไว้ คงไม่อยู่ในบ้านแล้วหละ" ไจ่ไจ๋บอกพี่ชายสีหน้าเริ่มกังวลหนักขึ้น
"รถก็อยู่หนิ ไปไหนวะ?" เคนมองไปยังที่จอดรถก็พบว่ารถยังจอดนิ่งอยู่ที่เดิม ในขณะนั้นรถแท็กซี่ก็แล่นมาจอดตรงหน้าบ้าน สองพี่น้องหันไปมองอย่างพร้อมเพรียงกันก็เห็นแวนเนสเดินผิวปากลงมาอย่างอารมณ์ดี
"พี่รอง!!!" ไจ่ไจ๋ร้องเรียกแล้ววิ่งตรงเข้าไปสวมกอดพี่ชาย แวนเนสกอดน้องตอบแบบงงๆ
"อะไรกัน? ไม่เห็นหน้าพี่แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็จะขาดใจแล้วหรอ?" ถามหยอกเย้าน้องชายพลางหัวเราะเบาๆ
"ยังจะมีหน้ามาหัวเราะอีก! หายไปไหนมาไม่บอกไม่กล่าวกันเลย!" น้องเล็กต่อว่าพร้อมกับทุบเข้าที่ต้นแขนพี่ชายอย่างเคืองๆ
"โอ้ย! อะไรวะ? ทำร้ายร่างกายกันอีกแล้ว" แวนเนสบ่นแต่ก็โอบไหล่น้องเอาไว้ เคนก้าวเข้ามารวมกลุ่มกับพี่น้องทั้งสองคน
"เจอร์รี่ได้โทรหานายหรือเปล่า?" เคนเอ่ยถามพี่ชาย แวนเนสเหลือบตามองน้องแล้วส่ายหน้าแทนคำตอบ
"พี่ใหญ่หายไปไหนไม่รู้ ประตูบ้านก็เปิดทิ้งไว้เนี่ย" ไจ่ไจ๋รายงานทันที ได้ยินดังนั้นแวนเนสก็เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
"หายไปหรอ? ไปไหน?" ทวนคำและย้อนถามน้อง
"ถ้ารู้จะถามนายหรอ? เฮ่อ! อะไรกันวะ? ชั้นกลับมาทั้งทีนายสองคนก็บึ้งตึงใส่กัน คนนึงอยู่บ้านคนหนึ่งหายหัว พออีกคนกลับมาอีกคนก็ดันหนี" เคนบ่นออกมาอย่างเซ็งๆ
"เฮ้ยๆๆๆ!!! มาโทษอะไรชั้นวะ? ชั้นไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย แค่มีนัดกับแฟนก็เลยรีบไปมันผิดตรงไหนวะ?" แวนเนสรีบเบรกก่อนที่จะโดนน้องบ่นใส่อีก
"นัดกับแฟนแล้วจะปิดมือถือทำไม? สำคัญมากจนอะไรมาขัดขวางไม่ได้เลยหรืองัยครับพี่รอง?" ไจ่ไจ๋ถามประชดขึ้นมาบ้าง
"สำคัญดิวะ ก็วันนี้พี่กลอเรียเขาชวนพี่ไปกินข้าวกับคุณพ่อเขานี่" แวนเนสตอบหน้าซื่อแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าน้องถามประชด
"อ๋อ!! ที่นายรีบโบกแท็กซี่ออกจากปั๊มน้ำมันโดยไม่บอกกล่าวใครก็เพราะมีนัดไปให้พ่อของกลอเรียดูตัวหละสิ!" เคนถามขึ้นมาบ้าง
"อืม...." แวนเนสพยักหน้าแล้วปั้นยิ้มหวานให้น้องทั้งคู่
"อย่าทำหน้าแบบนี้สิ พี่ขอโทษก็ได้ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พวกนายเป็นห่วง" แวนเนสเอ่ยปากง้อ
"แต่ตั้งใจจะทำให้ชั้นเป็นห่วงใช่มั๊ย!?" เสียงเข้มของพี่ชายคนโตดังขึ้นจากด้านหลัง แวนเนสชะงักแต่ไม่ได้หันกลับไปมองเพราะพอจะเดาสีหน้าของพี่ชายในตอนนี้ออก
"พี่ใหญ่ไปไหนมาครับ?" ไจ่ไจ๋รีบแก้ไขสถานการณ์โดยการวิ่งไปเกาะแขนพี่ชายพลางเอ่ยถาม
"ไปยืนรอคนบางคนอยู่หน้าปากซอยน่ะสิ!" พูดจบก็เดินเลี่ยงเข้าไปในบ้านทันที คำพูดของพี่ชายทำเอาแวนเนสอึ้งไป
"ตามไปสิ! ยืนบื้ออยู่ได้!" เคนเอ็ดใส่พี่ชายที่ยังยืนนิ่งอยู่กับที่ แวนเนสได้ยินจึงเดินตามพี่ชายเข้าไปอย่างงงๆ
"จะมีเรื่องกันอีกมั๊ยเนี่ย?" ไจ่ไจ๋ครางออกมาอย่างอ่อนใจ เคนเอามือพาดที่ไหล่ของน้องชาย
"รับรองว่าจบสวย" เคนบอกน้องแล้วยิ้มให้ ไจ่ไจ๋ทำหน้ามุ่ยใส่พี่ชายอีกครั้ง
"ยังไม่เลิกเล่นอีกนะ!" เคนยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อถูกน้องต่อว่าอีก
"โอ้ย! จะบ้าตาย!" ร้องออกมาอย่างไม่สบอารมณ์แล้วปัดแขนพี่ชายออกก่อนจะรีบตามแวนเนสเข้าไปในบ้านด้วยอีกคน
"เอ่อ....เอ่อ...." แวนเนสอ้าปากจะพูดแต่ก็พูดไม่ออกเพราะสีหน้าของพี่ใหญ่บ่งบอกว่ากำลังโกรธอยู่ไม่น้อย
"อือ!" ไจ่ไจ๋พยักเพยิดให้พูดอยู่ข้างๆ เหมือนจะให้กำลังใจแต่ท่าทางดูเหมือนจะบังคับมากกว่า
"คือว่า....." แวนเนสงึมงำอยู่คนเดียว โดยมีน้องเล็กนั่งถอนหายใจเฮือกๆอยู่ข้างๆ
"พูดสิพี่รอง ขอโทษเขาก่อน เหตุผลค่อยอธิบายทีหลัง" ไจ่ไจ๋กระซิบข้างหูพี่ชาย
"เจอร์รี่....." แวนเนสเรียกพี่ชายเสียงแผ่ว เจอร์รี่ได้ยินแล้วแต่เขาไม่ได้หันไปตามเสียงเรียกเพราะกำลังระงับอารมณ์อยู่
"เรียกดังๆสิ! แบบนี้พี่ใหญ่จะได้ยินหรอ?" ไจ่ไจ๋เอ็ดใส่พี่ชายอีก แวนเนสมองหน้าน้องชายอยู่ครู่หนึ่งก็ทำท่าจะลุกแต่ไจ่ไจ๋คว้าพี่ชายไว้ได้ทัน
"จะไปไหนอีกพี่รอง?" ถามพี่ชายเสียงต่ำ
"พรุ่งนี้ค่อยคุยดีกว่า" แวนเนสตอบแล้วทำท่าจะลุกอีก
"ไม่ต้องเลยนะพี่รอง! ถ้ารอถึงพรุ่งนี้ผมจะโกรธพี่ด้วยอีกคน! ลองดูสิ!" น้ำเสียงจริงจังของน้องชายทำให้แวนเนสต้องทิ้งน้ำหนักตัวนั่งลงตามเดิม เคนที่นั่งอยู่อีกฝากหนึ่งได้แต่นั่งมองคนโน้นทีคนนี้ทีแต่ไม่พูดอะไรทั้งนั้น บรรยากาศเริ่มตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง
"พี่รอง!" ไจ่ไจ๋ดึงมือพี่ชายพร้อมกับร้องเรียกเมื่อแวนเนสลุกขึ้นอีกครั้ง
"พี่ไม่ได้หนีไปไหน" แวนเนสบอกหลังจากนั่งทำใจได้ซักพัก ได้ยินดังนั้นน้องเล็กจึงยอมปล่อยมือพี่ชาย เมื่อเป็นอิสระแวนเนสก็เดินเข้าไปหาพี่ชายที่นั่งหลับตานิ่งๆอยู่บนโซฟา เขาทรุดตัวนั่งลงข้างๆแล้วเอื้อมมือไปแตะมือพี่ชาย
"พี่ใหญ่....." เจอร์รี่ยังคงนั่งนิ่งไม่ได้ตอบสนองแต่อย่างใด
"พี่ใหญ่ครับ....." แวนเนสเรียกอีกครั้งแต่พี่ชายก็ยังคงนั่งเงียบ ดังนั้นเขาเลยขยับเข้าไปกอดพี่ชายโดยไม่พูดอะไร เจอร์รี่ลืมตาขึ้นมาแล้วนิ่งไปซักพักก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเบาๆ ท่าทางที่อ่อนลงของพี่ใหญ่นั้นทำให้เคนกับไจ่ไจ๋ที่นั่งลุ้นอยู่ยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ
"ชั้นขอโทษ" แวนเนสพูดเบาๆโดยที่ยังกอดพี่ชายไม่ยอมปล่อย อีกครั้งที่พี่ใหญ่ถอดถอนใจ
"ชั้นคงยกโทษให้นายง่ายๆไม่ได้หรอกนะ" เจอร์รี่ว่าพลางเหลือบตามองน้อง ได้ยินเช่นนั้นแวนเนสก็คลายแขนที่กอดพี่ชายออก
"เรื่องนี้นายก็มีส่วนผิดเหมือนกันหนิ! จะมาโทษชั้นคนเดียวได้งัย?" เมื่ออ่อนข้อให้แล้วไม่ได้ผลแวนเนสจึงโวยวายขึ้นมาบ้าง
"ไอ้การที่นายเดินลงจากรถแล้วขึ้นแท็กซี่ออกไปโดยที่ไม่บอกกล่าวชั้นซักคำนี่มันเป็นความผิดของชั้นด้วยงั้นหรอ?" พี่ใหญ่เสียงแข็งขึ้นมาเช่นกัน ท่าทางของพี่ชายทั้งคู่ทำให้น้องชายอีกสองคนหันไปมองหน้ากัน
"ผิดสิ! ก็นายอยากไม่คุยกับชั้นทำไมหละ?" แวนเนสเถียงข้างๆคูๆ
"อย่ามาเถียงแบบไร้เหตุผลแบบนี้นะ!" พี่ใหญ่ขึ้นเสียงพร้อมกับลุกพรวดขึ้นยืน
"แล้วทำไมต้องโมโหด้วยหละ!? แบบนี้หรอที่เรียกว่ามีเหตุผล!?" แวนเนสลุกขึ้นยืนบ้างเช่นกัน
"เฮ้ย!! หยุดเลย! จะเถียงกันอีกนานมั๊ย?" เคนที่นั่งเงียบอยู่นานอดรนทนไม่ไหวจึงแหวใส่พี่ชายทั้งคู่ แล้วก็ได้ผลเพราะทั้งเจอร์รี่และแวนเนสเงียบเสียงลงทันที
"พอกันทั้งคู่แหละ! ทะเลาะกันเป็นเด็กๆไปได้! เรื่องแค่นี้ยอมๆกันหน่อยไม่ได้หรืองัย?" ได้ยินดังนั้นพี่ชายทั้งสองคนก็มองหน้าคนพูดอึ้งๆ
"ชั้นอยากจะบ้าตาย! กลับมาบ้านทั้งทีแทนที่จะได้อยู่อย่างสบายใจกลับอึดอัดกว่าเดิมซะอีก! วันหลังถ้าจะทะเลาะกันก็โทรบอกชั้นไว้หน่อยละกันจะได้ไม่ต้องกลับมา! เซ็งชะมัดเลยโว้ย!" เคนโวยวายออกมาอีกยกใหญ่
"ไจ่ไจ๋! ถ้านายเบื่อไม่อยากเห็นมันสองคนทะเลาะกันอีก พี่แนะนำให้นายออกไปนอนค้างบ้านเพื่อนเลย จะได้ไม่ต้องเห็นแล้วก็ไม่เครียดด้วย" เมื่อบ่นพี่ชายทั้งคู่จบก็หันมาแนะนำน้องชายคนเล็ก
"ไม่ได้นะ!" เจอร์รี่กับแวนเนสพูดขึ้นมาพร้อมกัน
"ทำไมจะไม่ได้? นายสองคนจะได้ทะเลาะกันให้ตายไปเลยงัย! ไม่มีใครมาห้ามด้วย!" เคนหันไปแหวใส่พี่ชายอีก ไจ่ไจ๋เริ่มยิ้มออกเมื่อเห็นสีหน้าจ๋อยๆของพี่ใหญ่และพี่รองที่โดนเคนเล่นงานเข้าให้บ้าง
"ดีเหมือนกันครับพี่กลาง ผมก็เบื่อที่จะได้ยินแต่เสียงกระโชกโฮกฮากใส่กันแล้วก็เบื่อสีหน้าบึ้งตึงของพี่ใหญ่กับพี่รองแล้วด้วย" ไจ่ไจ๋ได้ทีผสมโรงกับเคนทันที
"อยู่กับเพื่อนท่าจะดีกว่าจริงๆ ขอบคุณนะครับพี่กลางที่แนะนำ" พูดจบไจ่ไจ๋ก็ทำท่าจะเดินออกไปแต่พี่ชายคนโตกับคนรองรีบปราดเข้าไปขวางไว้ทันที
"ไปไม่ได้นะไจ่ไจ๋! พี่ไม่ให้ไป!" พี่ชายสองคนพูดขึ้นมาแทบจะพร้อมกัน น้องเล็กซ่อนยิ้มไว้บนหน้า
"ถ้าไม่อยากให้ไปก็เลิกทะเลาะกันซักทีสิ! ผมเรียนอย่างเดียวก็เครียดเกินพอแล้วนะยังจะต้องให้มาคิดเรื่องของพี่สองคนอีกหรืองัย?" น้องเล็กได้ทีต่อว่าพี่ชายบ้าง
"เอ่อ....ขอโทษก็ได้ พี่จะไม่ทะเลาะกันแล้ว ไม่เถียงกันแล้วด้วย" แวนเนสบอกน้องชายเสียงอ่อนอ่อย
"งั้นก็จับมือคืนดีกันสิ! ผมจะนอนหลับอย่างสบายใจซักที!" ออกคำสั่งกับพี่ชายกลายๆ เมื่อเป็นเช่นนี้เจอร์รี่กับแวนเนสจึงหันไปสบตากันแต่ก็ยังไม่มีใครยอมใครก่อน
"พี่กลางครับ ผมจะไปนอนบ้านเพื่อนซัก 2-3 วันนะ" ไจ่ไจ๋แกล้งพูดขู่แล้วทำท่าจะเดินเลี่ยงออกไป
"เออๆๆๆ จับก็ได้ จับแล้วเนี่ยเห็นมั๊ย?" แวนเนสยื่นมือออกไปจับมือพี่ชายทันที เคนกับไจ่ไจ๋หันไปสบตากันยิ้มๆเมื่อเห็นว่าแผนการเป็นไปด้วยดี
"พี่ดีกันแล้ว อย่าไปเลยนะไจ่ไจ๋ นอนที่บ้านเรานี่แหละ" เจอร์รี่เอ่ยปากขึ้นบ้าง
"จับมือกันเฉยๆผมยังไม่เชื่อเท่าไหร่ กอดกันด้วยซิ" ไจ่ไจ๋ได้ทีสั่งต่อ พี่ชายสองคนอึ้งไปเล็กน้อย
"ไปบ้านเพื่อนดีกว่า" เมื่อพี่ชายยังไม่ยอมทำตามที่บอกน้องเล็กก็พูดขู่ขึ้นมาอีก
"จะให้กอดใช่มั๊ย?" เสียงพี่ใหญ่ขัดขึ้นมาก่อน
"ใช่!" น้องเล็กตอบ
"ได้!" ดังนั้นเจอร์รี่จึงหันไปมองหน้าแวนเนสเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปกอด
"โอ้ย!" แวนเนสสะดุ้งโหยงพร้อมกับร้องออกมาเบาๆเพราะพี่ชายไม่ได้กอดเปล่าแต่ใช้มือตบแรงๆเข้าที่กลางหลังด้วย
"เราไม่โกรธกันแล้วใช่มั๊ย?" เจอร์รี่เอ่ยถามแวนเนสพร้อมกับฝ่ามือที่ตบลงมาอีก แวนเนสนิ่วหน้าใส่พี่ชาย
"ทำไมไม่ตอบหละ? หรือนายยังไม่หายโกรธ? หืม?" พี่ใหญ่ถามพร้อมกับตบหลังน้องอีกครั้ง
"หายแล้ว ไม่โกรธเลย" แวนเนสกัดฟันตอบพร้อมกับค้อนใส่พี่ชาย แล้วรีบผละตัวออกทันที
"โอเค....เห็นแบบนี้แล้วผมค่อยหลับลงหน่อย ฮ้าววว.....ง่วงจะตายอยู่แล้ว ไปนอนดีกว่า....." เมื่อเห็นท่าทีของพี่ชายทั้งคู่แล้วไจ่ไจ๋จึงค่อยวางใจ หมุนตัวเดินไปทางบันได
"พี่ไปด้วย!" เจอร์รี่ว่าแล้วรีบเดินตามน้องเล็กขึ้นไปทันที
"เออ! บทจะหายก็ง่ายดีแฮะ!" เคนมองตามพี่ใหญ่พลางพึมพำออกมาเบาๆ
"ง่ายสิ! ได้ทำร้ายร่างกายชั้นแล้วหนิ!" แวนเนสโวยออกมาพลางเอามือคลำที่แผ่นหลัง
"อ้าว! มันทำอะไรนายตอนไหนวะ?" เคนย้อนถามเพราะไม่ทันได้สังเกต
"ก็เมื่อกี้งัยหละ! ฟาดลงมาได้! อู้ยยย.....โครตเจ็บเลยว่ะ....." แวนเนสบ่นกระปอดกระแปดพลางลูบคลำแผ่นหลังตัวเอง
"หึๆๆๆ สมน้ำหน้า!" เคนพูดซ้ำเติมแล้วเดินมานั่งลงข้างพี่ชาย
"ตกลงนายสองคนทะเลาะกันเรื่องอะไรวะ?" เคนเอ่ยถามขึ้นมา
"น้องชายสุดที่รักมันยังไม่รายงานให้ฟังอีกหรอ?" แวนเนสย้อนถาม
"บอก แต่ไม่ได้ความอะไรเท่าไหร่" เคนตอบแล้วมองหน้าพี่ชายอย่างต้องการคำตอบ
"ก็เมื่อวานตอนหัวค่ำหน่อยชั้นเข้าไปไหว้วานให้ไจ่ไจ๋เอารถไปเติมน้ำมันให้ แต่เจอร์รี่มันกลับด่าชั้นแล้วก็บอกให้ไปเอง ทำไมวะ? แค่ให้น้องไปเติมน้ำมันรถให้แค่นี้มันจะไม่ได้เชียวหรอ?" แวนเนสเล่าให้ฟังพร้อมกับถามน้องกลับ
"แล้วทำไมนายไม่ไปเองหละ?" เคนไม่ตอบแต่กลับถามพี่ชายต่อ
"ก็ชั้นไม่สะดวกไปนี่หว่า เดี๋ยวนี้คนรู้จักชั้นค่อนข้างเยอะขึ้นแล้ว ออกไปไหนแต่ละทีก็มีคนมาขอลายเซ็นต์มาถ่ายรูปด้วยทุกที แถมไอ้ปั๊มที่ไปเติมประจำมันก็รู้จักชั้นเจอหน้าทีไรชวนคุยเป็นชั่วโมงเลย เพราะอย่างงี้แหละชั้นถึงไม่ค่อยอยากไปเอง" แวนเนสอธิบายให้น้องฟัง
"เจอร์รี่มันคงเป็นห่วงน้องหละมั้ง? ขับรถตอนกลางคืนมันอันตราย" เคนแก้ตัวแทนพี่ใหญ่
"มันก็ห่วงแต่ไจ่ไจ๋คนเดียวนั่นแหละ" พูดจบแวนเนสก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ
"เอ่อ.....มันก็ห่วงนายเหมือนกันแหละ แต่นายก็รู้ว่าไจ่ไจ๋มันขับรถเร็ว เจอร์รี่มันเลยห่วงมากหน่อย" เคนรีบแก้ไขคำพูด
"ชั้นดีใจที่นายกลับมานะ คราวนี้ชั้นจะกินของอร่อยๆซักที" แวนเนสเปลี่ยนเรื่องพูดเอาดื้อๆ เคนไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่ยิ้มรับเท่านั้น
"ชั้นขอไปนอนพักก่อนนะ พรุ่งนี้มีงานตอนเช้า" เคนพยักหน้าแล้วมองตามร่างพี่ชายจนหายลับไป

- ตอนเช้า -
"อารมณ์ดีเหลือเกินนะไอ้ตัวดี" เคนหันมาทักเจ้าน้องชายตัวแสบที่เดินฮัมเพลงเข้ามานั่งแหมะที่โต๊ะกินข้าว เจอร์รี่ลดหนังสือพิมพ์ลงแล้วส่งยิ้มให้น้อง
"แน่นอน" ไจ่ไจ๋ยักคิ้วแล้วหันไปหยิบนมที่อยู่ในแก้วขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมด
"วันนี้ผมกลับเย็นหน่อยนะครับ" ไจ่ไจ๋บอกกล่าวกับพี่ชาย
"จะไปไหนหรอ?" เจอร์รี่ถามน้องกลับ
"ไม่ได้ไปไหนหรอกครับ แต่ต้องอยู่รับน้องที่มหาลัย วันนี้เฉลยพี่รหัสกัน" ไจ่ไจ๋ตอบยิ้มๆ
"อ้าว! ก็รู้แล้วไม่ใช่หรอ?" เจอร์รี่แย้งขึ้น
"ผมรู้ แต่น้องยังไม่รู้หนิ" พูดจบก็ยื่นมือไปรับอาหารเช้าจากมือเคนมาวางไว้ตรงหน้า
"พอรู้ว่าได้น้องรหัสเป็นผู้หญิงหละกระดี๊กระด๊าใหญ่เชียวนะ" เคนพูดแขวะน้อง
"แหงสิครับ! ก็คณะผมน่ะผู้หญิงน้อยจะตายไป แถมผู้หญิงหน้าตาดีด้วยยิ่งหายากใหญ่ ถือว่าโชคเข้าข้างเลยนะเนี่ย" น้องเล็กพูดอย่างอารมณ์ดี
"เราจะได้น้องสะใภ้กันก็คราวนี้แหละ" เคนหันไปพูดกับพี่ใหญ่
"หุบปากเลย! น้องมันยังเด็กอยู่ มีหน้าที่เรียนอย่างเดียวเท่านั้น! เรื่องอื่นยังไม่ต้องคิด!" พี่ใหญ่เอ็ดใส่คนปากดี
"เด็กตรงไหนวะ? ทีตัวเองมีแฟนตั้งแต่อยู่มัธ....ยม....." เคนหยุดพูดกระทันหันเมื่อเห็นพี่ชายม้วนหนังสือพิมพ์แล้วมองมาที่เขาอย่างเอาเรื่อง
"แวนเนสยังไม่ลงมาอีกหรอเนี่ย? ไปตามดีกว่า" เปลี่ยนเรื่องพูดกระทันหันพร้อมกับหมุนตัวจะไปตามพี่ชายอีกคนลงมา น้องเล็กมองพี่ชายแล้วหัวเราะคิกออกมา
"ลงมาแล้วโว้ย! ไม่ต้องตาม!" แวนเนสที่เดินสวนเข้ามาร้องบอกน้องชาย
"นึกว่ายังไม่ตื่นซะอีก นั่งสิ.....จะได้กินข้าวกัน" เคนบอกแล้วดุนหลังพี่ชายมาที่โต๊ะกินข้าวแล้วเดินไปตักข้าวมาให้พี่ชาย
"มีอะไรกินมั่งเนี่ย?" แวนเนสมองอาหารในจานของน้องเล็กพอเห็นไส้กรอกทอดก็เอื้อมมือจะหยิบขึ้นมากินแต่พอเห็นสายตาของพี่ใหญ่ที่มองมาก็รีบชักมือกลับทันที
"กินได้ครับพี่รอง กินสิ" ไจ่ไจ๋เอ่ยชวนเพราะเห็นพี่ชายทำท่าจะหยิบแต่ไม่หยิบ
"ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวนายจะกินไม่อิ่ม" แวนเนสพูดเป็นเชิงประชดพี่ชายกลายๆ
"ชั้นไม่ได้ห้ามไม่ให้นายกิน แต่ถ้าจะกินช้อนส้อมก็วางอยู่ทำไมไม่ใช้?" เจอร์รี่พูดออกมาอย่างเหนื่อยใจ
"แล้วทำไมต้องดุด้วยหละ? บอกกันดีๆก็ได้" แวนเนสย้อนพร้อมกับทรุดตัวนั่งลงที่เก้าอี้ พี่ใหญ่ได้แต่ส่ายหน้าไปมา
"เอ้า!" เจอร์รี่ใช้ส้อมจิ้มไส้กรอกทอดในจานของตัวเองแล้วส่งให้น้อง แวนเนค้อนแต่ก็รับมาใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ
"อืม.....อร่อยดีว่ะเสี้ยวเทียน ฝีมือไม่มีตกเลยนะ" แวนเนสเอ่ยชมน้องชายในขณะที่ยังเคี้ยวไส้กรอกอยู่เต็มปาก
"พี่รองครับ ไส้กรอกเนี่ยมันก็ถุงเดียวกันกับที่พี่ใหญ่ทอดให้เราสองคนกินเมื่อไม่กี่วันนั่นแหละ ตอนนั้นเห็นพี่บ่นว่าไม่อร่อยไม่ใช่หรอ?" ไจ่ไจ๋เอ่ยถามแทรกขึ้นมา แวนเนสเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยิน
"สงสัยจะอยู่ที่คนทำว่ะ เพราะตอนนั้นที่กินรสชาดมันเฝื่อนๆเหมือนกับคนทำไม่ได้ตั้งใจทำให้พี่กิน แต่สำหรับวันนี้คนทำมันตั้งใจทำเผื่อแผ่พี่ก็เลยอร่อยหละมั้ง?" แวนเนสอดที่จะแขวะพี่ชายอีกไม่ได้
"เอ้า! ไหนเมื่อคืนดีกันแล้วงัย? จะหาเรื่องอีกแล้วหรอ?" เคนที่เงียบอยู่นานพูดแทรกขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าแวนเนส
"เปล่า.....ก็แค่พูดให้ฟังเฉยๆ เห็นน้องมันถามน่ะ" แวนเนสยักไหล่แล้วหันไปเบ้ปากใส่พี่ใหญ่ที่นั่งมองเขาอยู่
"รีบกินๆเข้าไปเลยปะ! พูดมากจริง!" เคนตัดบทแล้ววางจานอาหารเช้าลงตรงหน้าแวนเนส แล้วสี่พี่น้องก็ลงมือจัดการอาหารมื้อเช้ากัน
"ผมสายแล้ว! ไปก่อนนะครับ!" เมื่อกินเสร็จไจ่ไจ๋ก็รีบขอตัวแล้วออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว
"ไอ้นี่มาแปลกโว้ย ปกติไม่เคยเห็นจะกระตือรือร้นรีบไปเรียนเลย ที่มหาลัยมันมีดีอะไรนักวะ?" เคนบ่นบ่นพึมพำพลางมองตามร่างน้องชายที่หอบข้าวของวิ่งไปที่รถอย่างรวดเร็ว
"ปิ๊นๆๆๆ!!!" ไม่กี่นาทีต่อมาเสียงแตรรถก็ดังขึ้น
"เสี่ยวจือมาแล้ว ชั้นไปหละนะ" พูดจบแวนเนสก็วางช้อนส้อมแล้วรีบยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม
"เบาๆ เดี๋ยวก็สำลักหรอก!" เคนเตือนพี่ชายอย่างเอือมระอา
"ไปละ! ไว้เจอกันนะ!" แวนเนสเอามือเช็ดปากแล้วโบกมือลา
"เดี๋ยวก่อน!" พี่ใหญ่เรียกพร้อมกับคว้ามือน้องไว้
"มีอะไรค่อยด่าตอนกลับมาได้มั๊ย? ชั้นสัญญาจะนั่งฟังโดยไม่เถียงเลย แต่ตอนนี้ปล่อยชั้นไปเถอะนะ เดี๋ยวสาย" แวนเนสพูดดักไว้ก่อนเพราะคิดว่าพี่ชายจะบ่นตัวเองอีก
"ทำไมนายชอบมองชั้นในแง่ร้ายอยู่เรื่อย?" เจอร์รี่บ่นอุบในขณะที่ช่วยจับคอเสื้อที่ไม่เรียบร้อยของน้องชายให้เข้าที่
"ขอโทษก็ได้" แวนเนสพูดเบาๆ แล้วยืนนิ่งๆให้พี่ชายดูความเรียบร้อยให้
"ชั้นหล่อยัง?" เอ่ยถามพร้อมกับยิ้มหวาน เคนที่นั่งดื่มน้ำอยู่ถึงกับสำลักเมื่อได้ยินคำถามของพี่ชาย ทำให้เจอร์รี่หัวเราะออกมาได้ในที่สุด
"พี่รองหล่อมั๊ยเสี้ยวเทียน?" หันมาถามน้องชายแทนคำตอบ
"หล่อออ....หล่อมากกก....." เคนกัดฟันลากเสียงตอบ แวนเนสเลยค้อนควับ
"เบื่อจริงๆเลยพวกไม่จริงใจเนี่ย!" บ่นอุบอิบออกมาเบาๆแต่ก็ได้ยินโดยทั่วกัน
"ดูดีแล้วหละ ไปได้แล้วไป" พี่ใหญ่ว่าแล้วรีบไล่ให้น้องไปทำงาน
"งั้นชั้นไปหละนะ ไปนะโว้ยเสี้ยวเทียน!" รับคำพี่ชายแล้วหันไปลาน้องด้วยเสร็จแล้วก็รีบวิ่งออกไป
"เฮ้ย! อย่าวิ่ง! เดี๋ยวหกล้ม!" พี่ใหญ่ตะโกนไล่หลังก่อนที่จะส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับความไฮเปอร์ของน้องชาย
"วันนี้ชั้นขอไปที่บริษัทด้วยคนนะ" เคนหันมาบอกพี่ใหญ่เมื่อแวนเนสออกไปแล้ว
"อ้าว! ไม่มีที่ไปหรอ?" เจอร์รี่ย้อนถามขำๆ
"มีโว้ย! แต่อยากไปหาเพื่อนๆที่บริษัทน่ะ ไม่ได้เจอนานแล้ว" เคนเถียงพร้อมกับให้เหตุผล
"ไปได้แต่ไม่อนุญาตให้ไปคุยกับเขาในเวลาทำงานนะ ต้องรอตอนพักหรือตอนเลิกงานแล้วเท่านั้น เข้าใจ?" ตั้งข้อแม้กับน้อง
"ทราบแล้วครับ คุณผู้จัดการ" พี่ใหญ่ผลักหัวน้องชายเบาๆเมื่อได้ยินคำประชดเล็กๆของน้อง
"เออนี่.....ทำไมหมู่นี้ดูนายกับแวนเนสมีเรื่องกันบ่อยจัง? มีอะไรกันหรือเปล่า?" เงียบกันไปครู่หนึ่งเคนก็เอ่ยถามพี่ชายออกมาตรงๆ
"แวนเนสมันเอาไปฟ้องนายหรอ?" เจอร์รี่ย้อนถาม
"เปล่าหรอก แต่เวลามันโทรมาชั้นก็จับความรู้สึกของมันได้เหมือนกัน" เคนตอบ พี่ใหญ่มองหน้าน้องชายแว๊บหนึ่งก่อนที่จะยกแก้วย้ำขึ้นดื่ม
"บอกตรงๆนะว่าในเวลานี้คนที่ชั้นห่วงมากที่สุดก็คือแวนเนสนี่แหละ" พี่ใหญ่บอกเคนตรงๆเช่นกัน
"นายห่วงมันเรื่องอะไรหรอ?" เคนถามต่อ
"ทุกเรื่องนั่นแหละ นายก็รู้ใช่มั๊ยว่าแวนเนสมันเป็นคนหัวอ่อนมองอะไรในแง่ดีไปหมด แถมมีมนุษย์สัมพันธ์ดีเยี่ยมอีกต่างหาก ชั้นกลัวมันจะถูกชักจูงง่ายๆน่ะ เลยคอยตักเตือนมันบ่อยๆ ชั้นก็รู้แหละว่ามันรำคาญ แต่ชั้นก็ไม่รู้จะทำยังงัยนี่ เพราะเวลามันอยู่ข้างนอกชั้นก็ไม่รู้ได้เลยว่ามันไปทำอะไรมาบ้าง" พี่ใหญ่พูดอย่างไม่ปิดบัง
"นายไม่ไว้ใจน้องชายตัวเองหรอ?" คำถามนั้นทำเอาพี่ใหญ่อึ้งไป
"ในฐานะที่ชั้นเองก็ต้องจากบ้านเพื่อเดินทางไปทำงานเหมือนกัน ชั้นก็หวังว่าจะได้รับความไว้วางใจจากคนที่บ้าน และสิ่งที่ชั้นคิดอยู่ตลอดเวลาตอนที่ไม่ได้อยู่บ้านก็คือชั้นต้องทำตัวให้ดีเพื่อทุกคนที่บ้านจะได้ไม่ผิดหวังและไม่ต้องเป็นห่วงชั้น" เคนพูดกับพี่ชายด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน
"และชั้นก็เชื่อว่าแวนเนสคงมีความคิดไม่ต่างไปจากชั้นหรอก" เจอร์รี่เงียบแล้วคิดตามที่น้องพูด
"ชั้นแค่พูดเพื่อให้นายมองเห็นอีกแง่หนึ่งด้วย ไม่ได้เจตนาจะสอนนายเลยนะ" เคนรีบออกตัวเมื่อเห็นพี่ชายเงียบไป
"ชั้นขอโทษก็ได้ คิดว่าชั้นไม่ได้พูดก็แล้วกัน" รีบพูดต่อเมื่อเห็นพี่ชายยังไม่ตอบโต้อะไร เจอร์รี่เหลือบตาขึ้นมองน้องแล้วยิ้มให้บางๆ
"ไม่ต้องขอโทษหรอก" บอกน้องชายแล้วลุกมานั่งข้างๆ
"ปกติชั้นคอยแต่สั่งสอนพวกนายฝ่ายเดียว ตอนนี้นายสอนชั้นบ้างก็ดีเหมือนกัน ขอบใจมากนะที่เตือนสติชั้น" พูดจบก็โอบไหล่น้องแล้วเขย่าแรงๆ
"นายน่าจะเกิดมาเป็นพี่ชายคนโตนะ เพราะดูแล้วนายจะเข้าอกเข้าใจพี่น้องมากกว่าชั้นซะอีก" เคนหันมามองหน้าพี่ชายแล้วอมยิ้ม
"นายก็ลองยกตำแหน่งพี่ชายคนโตให้ชั้นซักวันสิ แล้วจะรู้ว่าหายนะเป็นยังงัย?" จบคำพูดของเคนสองพี่น้องก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน
"ตายหละ! 8 โมงจะครึ่งแล้ว! ชั้นสายจนได้!" เมื่อเหลือบไปมองนาฬิกาเจอร์รี่ก็อุทานขึ้นมา
"เพราะนายน่ะชวนชั้นคุย สายเลยเห็นมั๊ย?" เมื่อลุกขึ้นได้พี่ใหญ่ก็ใช้นิ้วจิ้มที่หน้าผากน้องเบาๆ
"อ้าว! โยนความผิดกันแบบนี้เลยหรอ?" เคนร้องครางออกมา
"นี่แหละข้อดีของการเป็นพี่ใหญ่" พูดจบก็ยักคิ้วให้น้องชาย
"เดี๋ยวชั้นเก็บจานให้ นายรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วๆ จะได้ไปกันซักที" แล้วพี่ใหญ่ก็พูดตัดบทก่อนที่น้องจะทันได้เถียงอะไรออกมา




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2549 16:03:07 น.
Counter : 1208 Pageviews.  

Chapter 2

ตอนที่ 2
"ทำอะไรอยู่?" เจอร์รี่เอ่ยถามพร้อมกับขยี้หัวน้องชายคนเล็กเบาๆ ไจ่ไจ๋ดึงหูฟังออกแล้วยิ้มให้พี่ชาย
"ฟังเพลงอยู่ครับ พี่ใหญ่ฟังมั๊ย?" พูดจบก็ส่งหูฟังให้พี่ชายข้างหนึ่ง เจอร์รี่ส่ายหน้าแล้วทรุดตัวนั่งลงข้างน้อง
"ไปซื้อมาตั้งแต่เมื่อไหร่?" เจอร์รี่หยิบเครื่องเล่นไอพอดในมือน้องชายขึ้นมาดู
"พี่รองซื้อให้ครับ เมื่อวานพี่รองเขาก็เปลี่ยนมือถือใหม่ด้วย" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วบอกเล่าให้พี่ใหญ่ฟัง
"เปลี่ยนมือถือหรอ? เครื่องเก่ามันเป็นอะไรถึงต้องเปลี่ยนใหม่?" ย้อนถามน้องอีก
"พี่รองบอกว่ารุ่นที่ออกมาใหม่มันสวยดีแล้วฟังก์ชั่นก็เยอะกว่าด้วย พี่เขาเลยเอาเครื่อเก่าไปเทิร์น" ไจ่ไจ๋ตอบไปตามจริงแต่พอนึกขึ้นมาได้ว่าแวนเนสสั่งไว้ว่าห้ามบอกพี่ใหญ่ก็ได้แต่ทำหน้าแหยๆ
"เอ่อ.....ความจริงเครื่องเก่าของพี่รองมันก็บ๊องๆเหมือนกันนะครับ บางทีเครื่องก็ดับเอง" ไจ่ไจ๋หาข้อแก้ตัว
"นายไม่ต้องแก้ตัวแทนมันเลย เดี๋ยวนี้มีเงินหน่อยไม่ได้ ใช้จ่ายอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังเลย" เจอร์รี่บ่นน้องชายคนรอง
"พี่ใหญ่ครับ พี่รองเขาก็ทำงานหนักได้เงินมาเขาก็คงอยากจะให้รางวัลอะไรกับตัวเองบ้าง" น้องเล็กพูดเข้าข้างพี่ชายคนรอง
"แต่ยังงัยซะมันก็ต้องคิดก่อนที่จะใช้สิ! โตป่านนี้แล้วน่าจะรู้ว่าอะไรจำเป็นไม่จำเป็น ไอ้ข้าวของที่มีๆอยู่ก็ใช่ว่ามันจะใช้ไม่ได้ สภาพก็ยังดีๆอยู่ทั้งนั้น" น้องเล็กทำหน้าแหยๆแล้วรีบเปลี่ยนเรื่องคุย
"พรุ่งนี้ไปรับพี่กลางกันนะครับพี่ใหญ่" เจอร์รี่ได้ยินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
"พี่กลางมันกลับพรุ่งนี้หรอ?" ย้อนถามอย่างงงๆ
"ครับ ก่อนหน้าที่พี่ใหญ่กลับมาผมเพิ่งวางสายจากพี่กลางไป" ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับรอยยิ้มอย่างดีใจ พี่ใหญ่เองก็รู้สึกดีใจด้วยเช่นกัน เพราะถ้าเคนกลับมาน้องเล็กของเขาจะกลับมาร่าเริงเหมือนเดิม
"ดีใจจะแย่เลยสิ" เอานิ้วจิ้มหน้าผากน้องชายเบาๆ
"ดีใจสิครับ หรือว่าพี่ใหญ่ไม่ดีใจที่พี่กลางกลับมา?" น้องเล็กย้อนถามพลางจ้องหน้าพี่ชาย
"ดีใจสิ พี่ห่วงมันจะแย่แล้ว" เจอร์รี่ตอบพร้อมกับพูดเสริม
"ว่าแต่พรุ่งนี้พี่กลางจะกลับกี่โมงหละ?" ถามน้องต่ออีก
"พี่กลางบอกว่าราวๆ 11 โมงเรือเทียบท่า" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วเขย่าแขนพี่ชาย
"พรุ่งนี้หยุดงานซักวันนะครับ ไปรับพี่กลางด้วยกัน พี่รองก็บอกว่าจะไปรับด้วย" เซ้าซี้พี่ชายต่ออีก
"ก็ได้.....หยุดงานซักวันก็ดีเหมือนกัน" พี่ใหญ่ตอบรับอย่างเต็มใจจนน้องเล็กต้องเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เพราะปกติพี่ชายจะไม่ยอมหยุดงานง่ายๆ
"กลับมาแล้วครับ" เสียงแวนเนสร้องบอกอย่างร่าเริงพร้อมกับบานประตูถูกผลักออกอย่างแรง
"พี่รองมาแล้วหรอ" ไจ่ไจ๋ร้องทักอย่างดีใจพร้อมกับลุกเดินเข้าไปเกาะแขนพี่ชาย
"นึกว่าจะกลับดึกซะอีก วันนี้ไม่มีงานหรอ?" ถามไถ่พี่ชายแล้วพามานั่งลงที่โซฟา
"ก็มีเข้าห้องอัดเสียงแหละ แต่พอดีพี่รู้สึกเจ็บคอก็เลยขอเขาพักซักวัน" แวนเนสตอบพร้อมกับลูบหัวน้องชายอย่างเอ็นดู
"อืม.....กลับเร็วก็ดีแล้ว มาคุยกันหน่อยซิ" เจอร์รี่พูดแทรกขึ้นมา แวนเนสทำหน้างงๆ
"พี่ใหญ่เขารู้เรื่องที่พี่รองซื้อมือถือใหม่แล้ว" ไจ่ไจ๋กระซิบบอก
"อะไรนะ!" แวนเนสอุทานออกมาอย่างตกใจ
"นายบอกพี่ใหญ่หรอ?" ตีหน้าเข้มพร้อมกับเค้นเสียงถามน้อง
"ก็มันหลุดปากนี่......" ไจ่ไจ๋ตอบเสียงอ่อยพร้อมกับบีบนวดแขนให้พี่ชาย
"ไม่ต้องไปโทษอะไรน้องเลยนะ! ถึงน้องมันไม่บอกนายคิดว่าชั้นจะไม่เห็นหรืองัย?" เจอร์รี่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับจ้องหน้าน้องชายคนรอง
"โธ่! ก็แค่เปลี่ยนมือถือใหม่ ไม่เห็นต้องดุเลยนี่" แวนเนสครางเสียงแผ่ว
"ไม่ดุได้หรอ? มือถือเครื่องนึงตั้งเท่าไหร่? ใช่ถูกๆที่ไหนกัน?" เอ็ดใส่น้องชายเสียงเข้ม แวนเนสหน้าจ๋อยแต่มีการแอบเหลือบมองค้อนใส่น้องเล็กที่ทำให้เขาโดนดุ
"ชั้นเอาเครื่องเก่าไปเทิร์น เพิ่มเงินอีกไม่เท่าไหร่เอง" แวนเนสเถียง
"ไอ้ที่ว่าไม่เท่าไหร่น่ะ ใช่ร้อยสองร้อยหรือเปล่า?" เจอร์รี่สวนกลับ แวนเนสก้มหน้าหลบตาวูบทันที
"เดี๋ยวนี้นายชักจะฟุ่มเฟือยใหญ่แล้วนะ! ข้าวของเก่าๆน่ะใช้ไม่เป็นแล้วใช่มั๊ย?" คนถูกดุลอบถอนใจออกมาเบาๆ
"เจอร์รี่.....ชั้นทำงานเหนื่อยสายตัวแทบขาดจะซื้ออะไรให้กับตัวเองบ้างมันจะไม่ได้เชียวหรอ?" แวนเนสเงยหน้าถามพี่ชาย
"ชั้นไม่ได้บอกว่าไม่ได้ แต่ก่อนที่นายจะใช้จ่ายอะไรหัดคำนึงถึงประโยชน์ของมันหน่อย ถ้าสิ่งนั้นมันจำเป็นชั้นก็จะไม่ว่าอะไรนายเลย แต่ไอ้มือถือเนี่ยนายมีไว้ทำอะไร? ชั้นเห็นนายใช้แค่รับสายเข้ากับโทรออก ลูกเล่นอย่างอื่นก็ไม่เห็นจะได้ใช้เท่าไหร่เลย" พี่ใหญ่ว่าสายตาก็มองหน้าน้องชายอยู่ตลอด
"เราโตแล้วนะแวนเนส อย่าทำอะไรตามใจตัวเองให้มากนัก คิดถึงอนาคตหน่อย" พี่ใหญ่พูดเสียงอ่อนลง
"คนเราจะไปคิดเหมือนกันได้ยังงัย? ชั้นก็มองโลกในแบบของชั้น พอใจในชีวิตทุกวันนี้แล้วก็ไม่อยากดิ้นรนอะไรให้มากแล้ว อนาคตเป็นเรื่องที่ยังมาไม่ถึง ทำไมเราต้องไปกังวลกับมันด้วยหละ?" แวนเนสแย้งพี่ชาย
"พี่กำลังสอนเราอยู่นะแวนเนส!" เจอร์รี่ทำเสียงเข้มขึ้นเล็กน้อย
"ก็รู้แล้ว" พึมพำออกมาเบาๆ
"รู้แต่ก็ยังเถียง!" เสียงเข้มขึ้นตามลำดับ
"ไม่ได้เถียงแค่พูดให้ฟังเฉยๆ" ปฏิเสธพร้อมกับให้เหตุผล
"ยังอีก!" พี่ใหญ่ดุพร้อมกับมือที่ยกขึ้นโดยอัตโนมัติ แวนเนสรีบเบี่ยงตัวหลบแล้วโอบรอบเอวพี่ชายไว้
"เฮ่อ! ชั้นหละเหนื่อยกับนายจริงๆ" เจอร์รี่บ่นอย่างยอมแพ้แล้วดึงมือน้องชายออกจากนั้นก็เดินกลับมานั่งลงตามเดิมพร้อมกับยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก
"ถ้าเหนื่อยเราก็มากินข้าวกันเถอะนะ" แวนเนสลุกตามมานั่งเกาะแขนพี่ชายพลางพูดประจบ ไจ่ไจ๋หัวเราะกับลูกอ้อนของแวนเนส
"ผมไปจัดโต๊ะนะครับ" บอกพี่ชายทั้งคู่แล้วลุกเดินหายเข้าไปในครัว
"อย่าทะเล้นให้มันมากนักนะ!" พี่ใหญ่กัดฟันพูดกับเจ้าน้องชายตัวดีอย่างเคืองๆ
"กินข้าวกันนะครับพี่ใหญ่" แวนเนสพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน เจอร์รี่ยกมือผลักหัวน้องชายอย่างหมั่นไส้แล้วลุกเดินตามน้องเล็กไป
"เฮ่อ! เกือบหูชามั๊ยหละ" แวนเนสพึมพำกับตัวเองอย่างโล่งอก

- หลังอาหารเย็น -
"พี่รองครับ ผมเข้าไปได้มั๊ย?" ไจ่ไจ๋โผล่หน้าเข้ามาถามพี่ชาย
"เข้ามาสิไจ่ไจ๋" แวนเนสเงยหน้าจากกองจดหมายขึ้นมาตอบรับน้องชาย ได้ยินดังนั้นน้องเล็กจึงก้าวเข้ามาในห้องของพี่ชาย
"ทำอะไรอยู่หรอ?" ถามพลางมองไปที่กองจดหมายที่วางเกลื่อนอยู่บนเตียงของพี่ชาย
"พี่อ่านจดหมายที่แฟนละครเขาเขียนเข้ามาน่ะ มาก็ดีแล้วช่วยพี่อ่านหน่อยสิ" แวนเนสตอบน้องชายยิ้มๆ
"ดังใหญ่แล้วนะพี่เรา" น้องเล็กเอ่ยปากแซวพี่ชายยิ้มเช่นกันแล้วเดินมานั่งลงกับพี่ชาย
"มีอะไรหรือเปล่าไจ่ไจ๋?" แวนเนสถามน้องชาย
"ไม่มีอะไรมากหรอก แค่จะเข้ามาถามพี่รองว่าพรุ่งนี้จะไปรับพี่กลางพร้อมกับผมและก็พี่ใหญ่หรือเปล่า?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชาย
"ไปสิ" แวนเนสตอบแล้ววางมือจากกองจดหมายหันมาโอบไหล่น้องชายแทน
"ดีใจหละสิที่ไอ้พี่กลางตัวดีจะกลับมาน่ะ" ไจ่ไจ๋ยิ้มแล้วพยักหน้า
"แล้วพี่รองหละ? ดีใจมั๊ย?" ย้อนถามพี่ชายกลับบ้าง
"ดีใจสิ จะได้มีคนให้ชวนทะเลาะด้วยซักที" พูดจบสองพี่น้องก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน
"เอ่อ.....แล้วพอรับพี่กลางเสร็จแล้วพี่รองจะไปไหนอีกหรือเปล่า?" หลังจากเสียงหัวเราะซาลงไจ่ไจ๋ก็ถามพี่ชายอีก
"ว่าจะไปที่ร้านหนังสือน่ะ" คำตอบของแวนเนสทำเอาน้องเล็กมีสีหน้าสลดลงเพราะเขาตั้งใจว่าจะชวนพี่ชายทั้งสามคนไปเที่ยวต่อ
"พี่กลอเรียเขาทำคนเดียวก็เหนื่อยแย่ เลยจะไปช่วยน่ะ" แวนเนสพูดต่อพร้อมกับหยิบจดหมายขึ้นมาอ่านตามเดิมโดยไม่ได้สังเกตสีหน้าของน้องชาย
"เนี่ย.....พี่กับพี่กลอเรียวางแผนกันว่าจะทำมุมพักผ่อนในร้านเหมือนพวกคอฟฟี่ชอปเล็กๆตรงที่ว่างข้างๆร้านน่ะ นายว่าดีมั๊ย?" แวนเนสถามความเห็นน้องชายโดยไม่ได้มองหน้าคู่สนทนา ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ยิ้มออกมาแบบฝืนๆ
"ดีครับ" ตอบเสียงแผ่ว
"แต่ถ้าทำเสร็จแล้วอาจต้องจ้างคนมาช่วย พี่กลอเรียเขาทำคนเดียวคงไม่ไหวหรอก พี่เป็นห่วงเขาน่ะ ไอ้ครั้นพี่จะไปช่วยก็ไม่ได้อีกเพราะช่วงนี้งานก็เข้ามาเยอะเหมือนกัน" แวนเนสคุยต่ออย่างร่าเริง ในขณะที่น้องชายได้แต่นั่งเงียบ
"ถ้านายว่างๆก็แวะเข้าไปช่วยก็ได้ พี่จ้างนายเอง เรียกเท่าไหร่พี่จ่ายไม่อั้นเลย" พูดต่อพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ
"อ้อ!" น้องเล็กรับคำสั้นๆแล้วนั่งเงียบอีก คราวนี้แวนเนสเงยหน้าขึ้นมามองน้องชายเพราะรู้สึกว่าน้องชายดูจะเงียบผิดปกติ
"เป็นอะไร? หรือว่าไม่อยากทำ? ถ้านายไม่อยากทำพี่ก็ไม่ว่าอะไรนะ" แวนเนสรีบบอกเพราะนึกว่าน้องชายรับคำแบบไม่เต็มใจ
"เปล่าครับ ผมชอบไปที่ร้านมีหนังสือให้อ่านเยอะดี" ไจ่ไจ๋รีบปฏิเสธ
"จริงหรอ? งั้นก็ดีแล้ว ช่วงที่นายปิดเทอมจะได้ไม่ต้องไปหางานพิเศษที่อื่นทำ ทำที่ร้านนี่แหละ สบายดีด้วย อยากอู้ก็ไม่มีใครว่า" พูดจบก็ขยี้หัวน้องชายเบาๆอย่างเอ็นดู ไจ่ไจ๋ฝืนยิ้มให้พี่ชาย
"ผมไปนอนก่อนนะครับ ไม่กวนพี่รองแล้ว" พูดตัดบทพร้อมกับลุกขึ้นยืน
"อ้าว.....จะนอนแล้วหรอ? งั้นฝันดีนะ" แวนเนสว่าพร้อมกับโบกมือให้น้องชาย ไจ่ไจ๋รู้สึกน้อยใจที่พี่ชายจับความรู้สึกเขาไม่ได้
"ฝันดีครับ" พูดจบก็เปิดประตูออกไปเงียบๆ เมื่อออกมาได้ไจ่ไจ๋ก็ถอนหายใจออกมายาวๆ
"โดนพี่รองเขาขัดใจมาหรอ? ถึงได้ทำหน้าเซ็งซะขนาดนั้น" เสียงพี่ใหญ่ทักขึ้นจากทางด้านหลัง ไจ่ไจ๋หันควับไปที่ต้นเสียง
"พี่ใหญ่ขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?" ไจ่ไจ๋ปั้นยิ้มให้พี่ชาย
"เมื่อกี้นี้แหละ พอดีเข้าไปหานายที่ห้องแต่ว่าไม่เจอ" พูดจบก็ยิ้มตอบให้น้องแล้วเดินไปโอบไหล่
"ง่วงหรือยัง? เข้าไปคุยกับพี่ในห้องดีมั๊ย?" เจอร์รี่ถามอย่างรู้ใจน้องชายว่าอยากจะได้เพื่อนคุยในเวลาเช่นนี้
"ครับ" ไจ่ไจ๋พยักหน้าแล้วเดินตามเข้าไปในห้องนอนของพี่ใหญ่
"พรุ่งนี้ไปรับพี่กลางเสร็จแล้ว นายอยากไปไหนต่อหรือเปล่า?" พี่ใหญ่ถามเอาใจน้อง
"ไม่อยากไปไหนหรอกครับ" ไจ่ไจ๋ปฏิเสธเพราะรู้ว่าแวนเนสไม่ว่าง
"จริงหรอ? ช้อปปิ้งก็ไม่ไป?" ถามต่อด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า
"ไม่ครับ ผมไม่อยากซื้ออะไร" ไจ่ไจ๋ตอบพลางส่ายหน้าไปมา
"แล้วถ้าไปหาอะไรอร่อยๆกินหละ?" เจอร์รี่ถามต่อ
"ของอร่อยก็คืออาหารที่พวกพี่ทำให้ผมกินนั่นแหละ" พูดจบก็ขยับเข้ากอดพี่ชาย เจอร์รี่ยิ้มแล้วลูบหัวน้องชายอย่างเอ็นดู
"เข้าไปคุยอะไรกับพี่รองมา?" เจอร์รี่เปลี่ยนเรื่องถาม
"อ้อ! ว่าจะเข้าไปคุยเล่นแต่พอดีพี่รองเขากำลังอ่านจดหมายจากแฟนละครอยู่ผมเลยไม่อยากกวน" ไจ่ไจ๋ตอบด้วยสีหน้าซึมๆ
"คุยกับพี่แทนก็ได้" พี่ใหญ่เข้าใจความรู้สึกของน้องดี
"ผมไม่อยากคุยแล้วหละ พอดีเริ่มง่วงขึ้นมาตะหงิดๆ" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วแกล้งทำเป็นหาว พี่ใหญ่ไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่มองหน้าน้องชายเท่านั้น
"พี่มองหน้าผมทำไม?" ย้อนถามพร้อมกับหลบตา พี่ใหญ่เองก็พลอยเงียบไปด้วย
"ความจริงพรุ่งนี้ผมอยากชวนพวกพี่สามคนไปเที่ยว.....ไปที่ไหนก็ได้.....ขอแค่ได้ไปกับพวกพี่......" ในที่สุดไจ่ไจ๋ก็บอกความในใจให้พี่ชายฟัง
"อยากไปแล้วทำไมไม่บอกพี่ตรงๆหละ?" เจอร์รี่ย้อนถามน้อง
"พี่รองไม่ว่าง พี่เขาจะไปที่ร้าน ไปช่วยพี่กลอเรีย" ตอบเสียงแผ่วพร้อมกับก้มหน้าลง เจอร์รี่ขยับเข้าไปกอดน้องชายเอาไว้
"แต่พี่ใหญ่ว่าง พี่กลางก็ว่างนี่" พูดแย้งน้องชายขึ้นมา
"ผมอยากให้เราไปด้วยกัน.....พวกเราสี่คน....." ไจ่ไจ๋ตอบเสียงเริ่มสั่นคล้ายจะร้องไห้
"งั้นพี่ชวนพี่รองเอง" พี่ใหญ่เสนอตัว
"อย่านะครับพี่ใหญ่! พี่รองเขาคงนัดกับพี่กลอเรียไว้แล้ว ผมไม่อยากให้พี่รองต้องเลื่อนนัดเพราะผม" ไจไจ๋รีบเอ่ยห้ามพี่ชาย
"ไจ่ไจ๋....." พี่ใหญ่มองน้องอย่างสงสาร
"อย่าพูดเรื่องนี้กับพี่รองนะครับ เดี๋ยวพี่เขาจะไม่สบายใจ" น้องเล็กขอร้องพี่ชายอีก เจอร์รี่เองก็ได้แต่ถอนใจ
"ก๊อกๆๆ!!!" เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดบทสนทนา เจอร์รี่คลายมือที่กอดน้องแล้วเดินไปเปิดประตู
"ไจ่ไจ๋อยู่กับนายหรือเปล่า?" แวนเนสถามแล้วชะเง้อคอมองเข้าไปพอเห็นน้องเล็กนั่งอยู่แวนเนสก็เดินเข้าไปหาโดยไม่รอคำตอบ
"ยังไม่นอนใช่มั๊ย? พี่วานอะไรหน่อยสิ" แวนเนสว่าพลางยิ้มหวานจ๋อยให้น้อง
"จะให้ผมทำอะไรหรอครับ?" ไจ่ไจ๋ถามกลับ
"ช่วยเอารถไปเติมน้ำมันให้หน่อย พดดีนึกขึ้นได้ว่าน้ำมันจะหมดแล้ว" แวนเนสบอกพร้อมกับส่งกุญแจรถให้น้อง
"นี่! เรื่องอะไรมาใช้น้อง! รถนายก็ไปเติมเองสิ" เจอร์รี่เอ็ดใส่พร้อมกับปัดมือแวนเนสออก
"โธ่! นายก็รู้ว่าเดี๋ยวนี้ชั้นออกสู่ที่สาธารณชนไม่ค่อยสะดวก......" แวนเนสพูดยังไม่ทันจบพี่ใหญ่ก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
"แค่เอารถไปเติมน้ำมันแค่นี้ใครมันจะมาเอาชีวิตนายไปงั้นหรอ?" พูดเชิงประชดน้องชายด้วยสายตาดุๆ
"ไม่เป็นไรครับพี่ใหญ่ ผมไปให้ก็ได้ จะได้ไปซื้อพวกของกินเล่นมาด้วย รู้สึกว่าจะหมดแล้ว" ไจ่ไจ๋พูดขัดขึ้นแล้วคว้ากุญแจรถจากมือแวนเนส
"ไม่ต้องไปไจ่ไจ๋! ถ้าไม่มีปัญญาไปเองก็ไม่ต้องขับมันแล้ว!" พูดเสียงเข้มแล้วหยิบกุญแจรถมายัดใส่มือแวนเนสตามเดิม
"อะไรวะ? ชั้นไหว้วานให้น้องไปไม่ได้ขอให้นายไปด้วยซะหน่อย" แวนเนสโวยวายขึ้นมาบ้าง
"แล้วอีกอย่างไจ่ไจ๋มันก็ใช้เหมือนกันหนิ" หาข้ออ้างขึ้นมาอีก
"นายเป็นคนเต็มใจให้น้องเอาไปใช้เอง! น้องมันไม่ได้ขอร้องนายซักหน่อย!" เจอร์รี่เริ่มเสียงดัง
"พี่ใหญ่ครับ.....อย่าว่าพี่รองเลย มันก็จริงแหละ ผมน่ะใช้รถมากกว่าพี่รองซะอีก" ไจ่ไจ๋สะกิดแขนพี่ชายพร้อมกับพูดไกล่เกลี่ย
"งั้นก็ไม่ต้องไปใช้ของมันแล้ว! ต่อไปนี้เอารถของพี่กลางใช้ไปก่อน แล้วพี่จะซื้อรถให้นายเอง!" ประกาศเสียงแข็งแต่สายตาจ้องแวนเนสตาเขม็ง
"ชั้นขอโทษ.....ต่อไปนี้ชั้นจะไม่ไหว้วานขอร้องอะไรพวกนายอีกแล้ว" พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบจบแล้วก็หมุนตัวออกไปเงียบๆ
"พี่รอง! พี่รอง!" เสียงไจ่ไจ๋ร้องเรียกตามมาแต่แวนเนสไม่สนใจ
"ไม่ต้องตาม! ช่าวหัวมัน!" เสียงเข้มๆของพี่ชายคนโตดังแว่วตามออกมาเมื่อสิ้นเสียงของน้องชาย แวนเนสชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่จะเดินลงบันไดแล้วออกจากบ้านไปอย่างอารมณ์เสีย

- วันต่อมา -
"เอ่อ.....จะเป็นอะไรมั๊ยถ้าเราจะแวะกินข้าวกันก่อนน่ะ?" เคนเอ่ยถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ เพราะพี่ชายทั้งสองคนมีสีหน้าบึ้งตึงใส่กัน เจอร์รี่เหลือบมองน้องชายจากกระจกมองหลังรถ
"หิวแล้วหรอ?" ถามเสียงห้วนนิดๆ
"ก็.....นิดหน่อย....." ตอบออกไปอย่างนั้นทั้งๆที่จริงๆแล้วหิวจนตาลายเพราะตั้งแต่เช้าเขายังไม่ได้กินอะไรเลย
"ยังไม่ได้กินอะไรเลยหรอ?" ถามต่อพร้อมกับเหลือบมองน้องชายอีกครั้ง
"อ๋อ! กินมื้อเช้าแล้ว" เคนต้องพูดโกหกเพราะถ้าบอกว่าไม่ได้กินก็กลัวจะโดนพี่ชายดุ
"งั้นค่อยกลับไปกินที่บ้านก็แล้วกัน" พี่ใหญ่สรุปเสียงเรียบ
"หิวมากมั๊ยพี่กลาง?" ไจ่ไจ๋ขยับตัวเข้ามาหาพี่ชายพลางกระซิบถามเบาๆ
"ก็มากอยู่หรอก พี่ชายของนายสองคนมันเป็นอะไรกันวะ?" เคนกระซิบถามน้องเช่นกัน
"ไว้ถึงบ้านแล้วผมจะเล่าให้ฟัง" ไจ่ไจ๋บอกแล้วส่งสัญญาณให้เคนหยุดถามเพราะเห็นแวนเนสเอี้ยวตัวมามอง
"เอ่อ.....พี่ใหญ่ครับช่วยแวะปั๊มข้างหน้าให้หน่อยนะ ผมอยากเข้าห้องน้ำ" ไจ่ไจ๋ขยับตัวไปเกาะที่เบาะคนขับพร้อมกับพูดกับพี่ใหญ่
"อืม" เจอร์รี่ครางเสียงตอบรับ ผ่านไปครู่หนึ่งรถยนต์คันหรูก็เลี้ยวเข้ามาจอดในปั๊มน้ำมัน
"พี่กลาง ลงไปซื้ออะไรรองท้องสิครับ" ไจ่ไจ๋ดึงแขนพี่ชายพร้อมกับกระซิบบอกเบาๆ เคนได้ยินดังนั้นก็รีบลงจากรถตามน้องชายทันที
"ขอบใจมากว่ะไจ่ไจ๋! ไม่งั้นพี่เป็นลมคารถแน่ๆ" เมื่อลงมาจากรถเคนก็ขอบอกขอบใจน้องชายยกใหญ่
"ไม่เป็นไรหรอกครับ รีบๆไปหาอะไรกินก่อนเถอะ" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วดุนหลังให้เดินตรงเข้าร้านขายของทันที ผ่านไปซักพักเคนกับไจ่ไจ๋ก็เดินเคียงกันกลับมาที่รถ
"พี่รองหายไปไหน?" ไจ่ไจ๋ถามเคนเบาๆเมื่อไม่เห็นแวนเนสนั่งอยู่บนรถด้วย
"ไม่รู้ดิ พี่ก็อยู่กับนายตลอดนี่" เคนยักไหล่แล้วพยักเพยิดให้ขึ้นรถ เมื่อเคนกับไจ่ไจ๋ขึ้นมานั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วเจอร์รี่ก็ออกรถทันทีท่ามกลางความตกใจของน้องชายทั้งสองคน
"พี่ใหญ่ครับ! แล้วไม่รอพี่รองหรอ?" ไจ่ไจ๋ถามขึ้นเสียงหลง เจอร์รี่มองน้องจากทางกระจกสีหน้าค่อนข้างตึงเครียด
"มันไปแล้ว!" ตอบเสียงห้วนสนิท
"ไปไหน?" เคนถามขึ้นมาบ้าง
"จะไปรู้มันหรอ? เลิกถามกันซักที!" เอ็ดใส่เสียงดัง เคนกับไจ่ไจ๋จึงนั่งปิดปากเงียบกริบไปตลอดทางจนกระทั่งถึงบ้าน เมื่อรถจอดสนิทเจอร์รี่ก็ลงจากรถ ปิดประตูอย่างหงุดหงิดแล้วเดินเข้าบ้านไปโดยไม่สนใจน้องชายอีกสองคน เคนกับไจ่ไจ๋มองตามหลังพี่ชายอึ้งๆ
"เข้าบ้านเถอะพี่อยากรู้เรื่องทั้งหมด" หลังจากหายงงแล้วเคนก็สะกิดแขนน้องชายแล้วชวนให้เข้าไปในบ้าน
"ทำอะไรกินก่อนมั๊ยครับพี่กลาง?" ไจ่ไจ๋ถามอย่างเป็นห่วง
"ไม่เป็นไร ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่แล้ว ไหนนายบอกพี่มาซิว่าพี่ชายของนายสองคนมันเป็นบ้าอะไรกัน?" เคนถามน้องชายทันที
"ผมก็ไม่แน่ใจ แต่หมู่นี้พี่รองถูกพี่ใหญ่ดุเอาบ่อยๆน่ะ" เคนได้ยินก็เลิกคิ้วขึ้น
"โดนดุเรื่องอะไร?" ซักไซร้น้องชายต่ออีก
"ก็หลายเรื่องน่ะครับ ทั้งเรื่องการใช้จ่าย เรื่องอาหารการกิน ยังมีเรื่องจิปาถะอีกเยอะแยะ" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ
"ความจริงผมว่าพี่รองเขาก็เปลี่ยนไปเหมือนกัน" พูดต่อออกมาอีกแต่น้ำเสียงเบาลง
"เปลี่ยนไปหรอ?" เคนทวนคำแล้วมองหน้าน้องชาย
"อืม....." น้องเล็กพยักหน้ารับ
"นายหมายความว่าเดี๋ยวนี้พอพี่รองเขาเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมา เขาก็เริ่มที่จะเรื่องมากขึ้น อะไรที่เรียบๆง่ายๆก็ไม่ค่อยจะสนใจแล้ว?" เคนถามน้องออกไปตรงๆเช่นกัน
"ผมก็ไม่ได้คิดอะไรถึงขนาดนั้น ก็แค่เห็นว่าพี่เขาดูจะจุกจิกกับเรื่องเล็กๆน้อยๆน่ะครับ ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เคยเป็นแบบนี้" น้องเล็กตอบเลี่ยงๆ
"หรอ? อืม....งั้นพี่ใหญ่คงไม่พอใจพี่รองตรงนี้น่ะสิถึงได้ดุเอา?" เคนถามต่อแบบพอจะเดาออก
"คงงั้นมั้งครับ แต่ดูท่าพี่รองเขาอาจจะยังไม่รู้ตัว" พูดจบก็ไถลตัวกึ่งนั่งกึ่งนอน
"นายคงลำบากแย่เลยสิ" เคนขยับเข้ามาหาแล้วเอามือลูบหัวน้องชายเบาๆ
"ไม่หรอกครับ แต่บางครั้งก็อึดอัดเหมือนกัน เพราะบางทีเรื่องบางเรื่องพี่ใหญ่ก็ไม่น่าเข้มงวดมาก ยังงัยซะพี่รองเขาก็โตแล้ว" ไจ่ไจ๋ปรับทุกข์กับพี่ชาย
"นายก็รู้ว่าพี่ใหญ่เขาก็ห่วงพวกเราไปซะทุกเรื่อง แม้ว่าเราจะอายุมากขึ้นแต่ยังงัยก็ยังเป็นเด็กในสายตาของพี่เขาอยู่ตลอด" เคนพยายามพูดอย่างเป็นกลาง
"นั่นสิ" ไจ่ไจ๋เริ่มคล้อยตาม
"อย่าว่าแต่พี่ใหญ่เลย พี่เองก็เป็นเหมือนกัน เพราะในสายตาของพี่แล้ว นายก็ยังคงเป็นน้องชายตัวเล็กๆของพี่อยู่ดี" ไจ่ไจ๋เอาหัวพิงซบที่ไหล่พี่ชาย
"แต่พี่กลางต่างจากพี่ใหญ่นะ" ไจ่ไจ๋เอ่ยขึ้นทั้งๆที่ยังซบหัวอยู่ที่ไหล่พี่ชาย
"ต่างกันยังงัย?" เคนย้อนถาม
"ต่างกันตรงที่เวลาผมทำผิด พี่ใหญ่จะเป็นคนสุดท้ายที่ผมคิดจะบอก ในขณะที่พี่กลางจะเป็นคนแรกที่ผมนึกถึง" น้องเล็กพูดคุยกับพี่ชายตรงๆ
"ทำไมหละ?" เคนถามต่อ
"เพราะการแสดงออกของพี่สองคนไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นพี่ใหญ่ผมจะไม่กล้าเถียง ไม่กล้าอธิบายเหตุผลให้ฟัง พี่เขาจะดุหรือลงโทษอะไรผมก็ต้องยอมแต่โดยดี แต่ถ้าเป็นพี่กลางผมกล้าที่จะบอกสาเหตุที่ผมทำอย่างนั้นให้พี่ฟังได้" เคนยิ้มออกมาบางๆพลางเอามือลูบหัวน้อง
"คนเราไม่เหมือนกันหรอกนะไจ่ไจ๋ พี่ใหญ่น่ะเขามีน้องชายตั้งสามคน และพี่เขายังมีหน้าที่ต้องเลี้ยงดูพวกเราสามคนในเวลาเดียวกันอีกด้วย นายลองคิดดูสิถ้าพี่ใหญ่เขาไม่ดุไม่เข้มงวดกับพวกเราแล้วพวกเราจะเชื่อฟังเวลาที่เขาพูดมั๊ย?" ไจ่ไจ๋นั่งฟังในสิ่งที่พี่ชายพูดอย่างตั้งใจ
"สำหรับนายอาจไม่มีปัญหาเพราะนายกับพี่ใหญ่ก็อายุห่างกันมากพอดู และพี่ใหญ่ก็เลี้ยงดูนายมาตั้งแต่นายยังเด็กๆด้วย แต่สำหรับพี่กับพี่รองน่ะเมื่อเทียบอายุกันแล้วถือว่ารุ่นเดียวกันเลยด้วยซ้ำ เราเล่นหัวกันมาตั้งแต่เด็กๆก็เป็นธรรมดาที่เวลาพี่เขาตักเตือนอะไรก็จะไม่ค่อยฟังกัน" เคนหยุดเล่าแล้วเอามือขยี้หัวน้องชายอย่างเอ็นดู
"เมื่อพูดไม่ฟังพี่ใหญ่ก็เลยต้องหาวิธีอื่น ซึ่งตอนนั้นไม้เรียวมักจะใช้ได้ผลกับเด็กทุกคน ตอนแรกๆพี่เขาก็แค่เอามาขู่ แต่พอขู่เอามากๆก็เริ่มไม่กลัวกันแล้ว คราวนี้พี่ใหญ่เลยตีเอาจริงๆ ตั้งแต่นั้นมาคำพูดของพี่ใหญ่จะศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาทันทีเลย" พูดจบเคนก็หัวเราะออกมาเบาๆแล้วพูดต่อ
"แต่สำหรับพี่เองก็มีแค่นายเป็นน้องชายคนเดียว พี่ไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบนาย ไม่มีหน้าที่ที่จะต้องเลี้ยงดูนาย แต่ไหนแต่ไรมาพี่ก็เป็นเพื่อนเล่นเพื่อนคุยกับนายตลอด ฉะนั้นอาจเป็นเพราะแบบนี้นายถึงกล้าพูดกับพี่ตรงๆเวลาที่นายไปก่อวีรกรรมอะไรไว้" ไจ่ไจ๋เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับพยักหน้าหงึกๆอย่างเห็นด้วยกับคำพูดของพี่ชาย
"นั่นสิ ผมก็ว่างั้นแหละ" น้องเล็กว่า
"ถ้าพี่รองเขาคิดเหมือนที่พี่กลางคิดก็ดีสินะ" พูดต่อด้วยน้ำเสียงเบาลง
"หืม?" เคนเลิกคิ้วถามอย่างไม่เข้าใจ
"พี่รองจะได้ไม่แสดงอาการหงุดหงิดเวลาที่โดนพี่ใหญ่ดุ แล้วพี่เขาจะได้รู้ว่าที่พี่ใหญ่ดุเขาน่ะก็เพราะหวังดีทั้งนั้น" เคนยิ้มบางพลางจับหัวน้องชายโยกไปมาอย่างเอ็นดู
"นายคิดว่าพี่รองมันไม่รู้หรืองัย? พี่ว่าพี่รองเขาก็รู้แหละ แต่ว่าพอโดนด่าแบบติดกันหลายครั้งก็คงอารมณ์เสียขึ้นมาเหมือนกัน ไอ้อาการแบบนี้น่ะใครๆก็เป็น อย่าว่าแต่พี่รองเลย พี่เองก็เป็น นายเองก็ด้วยเหมือนกันนั่นแหละ ใช่มั๊ย?" สุดท้ายเคนถามน้องเป็นเชิงหยอกเย้า
"แหม.....เบื่อจริงๆเลย คนรู้ทันเนี่ย" น้องเล็กบ่นอุบอิบ
"หึๆๆๆ เราไปทำอะไรกินกันดีกว่า เรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที" เคนโอบไหล่น้องพร้อมกับพยักหน้าชวน ซึ่งไจ่ไจ๋ก็ไม่ได้ปฏิเสธซ้ำยังลุกตามพี่ชายอย่างยินดีอีกด้วย




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2549 16:02:35 น.
Counter : 1404 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  
 
 

loving_zai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




[Add loving_zai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com