Chapter 77
ตอนที่ 77 "พ่อแม่มาแล้ว!!" ไจ่ไจ๋ร้องด้วยความดีใจก่อนจะกระวีกระวาดลุกขึ้นไปรับถึงหน้าประตู ท่าทางของน้องเล็กทำให้แวนเนสกับเจอร์รี่นึกสงสัยเพราะการกระทำเช่นนี้มันเหมือนกับน้องเล็กคนเดิมของเขาไม่มีผิด ไม่เหมือนกับไจ่ไจ๋ที่ความทรงจำหายไปช่วงหนึ่งเลยซักนิด
"มาแล้วๆๆๆ" พ่อว่าอย่างอารมณ์ดี นั่นยิ่งทำให้เจอร์รี่ยิ่งสงสัยยิ่งขึ้นเพราะตอนที่เขาโทรไปคุยด้วยนั้นน้ำเสียงของพ่อค่อนข้างเคร่งเครียด แต่ตอนนี้สีหน้าของบุพการีทั้งสองกลับไม่มีแววกังวลอยู่เลย
"ยังจำพ่อกับแม่ได้อยู่หรอ?" แม่เอ่ยกระเซ้าเจ้าลูกชายตัวแสบแต่ไม่วายแอบค้อนใส่ด้วย ไจ่ไจ๋ยิ้มแหยๆก่อนจะเข้าไปกอดเอวแม่อย่างประจบประแจง
"ใครจะไปลืมผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกคนนี้ได้หละครับ" ทำปากหวานใส่ก่อนจะโอบไหล่แม่แล้วพาไปนั่งที่โซฟา จนเมื่อเห็นสายตาของพี่ชายทั้งสามคนที่มองมาเขาก็เริ่มนึกได้จึงยิ้มเจื่อนๆ
"ขอโทษนะครับ ผม....." ไจ่ไจ๋ยังพูดไม่ทันจบเคนก็พูดแทรกขึ้นมาผสมโรงกับน้อง
"แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยนายก็ยังมีพ่อกับแม่ที่ทำให้นายอุ่นใจได้บ้าง" ไจ่ไจ๋ถึงกับแอบยกนิ้วชมเคนที่แสดงหน้าตาเศร้าสลดได้อย่างสมจริง
"ลูกสองคนไม่คิดจะทักพ่อแม่หน่อยหรอ?" พ่อหันไปถามเจอร์รี่กับแวนเนสบ้าง
"ความจริงก็อยากให้พ่อแม่กลับมาด้วยเหตุผลที่ดีกว่านี้ แต่ก็ช่างเถอะครับ.....อย่างน้อยตอนนี้ไจ่ไจ๋คงลดความอึดอัดที่อยู่กับพวกผมไปได้เยอะ" เจอร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไจ่ไจ๋ได้ยินเช่นนั้นก็ลืมตัวรีบร้องแทรกขึ้นมาทันที
"ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับพี่ใหญ่! ผมไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลย!" เสียงน้องเล็กที่ร้องแทรกนั้นทำให้เคนต้องหันไปถลึงตาใส่น้องที่ไม่แนบเนียนเอาเสียเลย
"ไม่ต้องปลอบพี่หรอก ดูสิ.....ขนาดนายรู้สึกไม่คุ้นก็ยังฝืนเรียกพี่ว่าพี่ใหญ่จนได้" คำพูดของพี่ชายคนโตทำให้ไจ่ไจ๋ไม่รู้จะทำหน้ายังงัยดีจึงแกล้งหันไปเปลี่ยนเรื่อง
"พ่อครับ เอากาแฟมั๊ยเดี๋ยวผมไปชงให้" พ่อยิ้มก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย
"แม่หละครับ?" หันไปถามแม่ด้วย ซึ่งแม่ก็พยักหน้าเช่นกัน
"แล้ว....." ไจ่ไจ๋หันไปทางพี่ชายอีกสามคนพลางตีหน้าใสซื่อ
"เดี๋ยวพี่เข้าไปช่วยดีกว่า นายสองคนเอาด้วยหรือเปล่า?" เคนว่าแล้วหันไปถามพี่ชายทั้งคู่แทน
"พี่ขอน้ำชาแล้วกัน" เจอร์รี่ตอบส่วนแวนเนสก็เพียงแต่พยักหน้ารับ ดังนั้นเคนกับไจ่ไจ๋จึงพากันเข้าไปในครัวทันที
"ทำไมจู่ๆวันนี้มันเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยเนี่ย?" แวนเนสตั้งข้อสงสัยของตัวเองออกมาดังๆ เพราะในหลายวันที่ผ่านมาเคนจะเป็นคนเดียวที่ไจ่ไจ๋พยายามหลีกเลี่ยงที่จะอยู่กันตามลำพัง
"แล้วแบบนี้ไม่ดีหรืองัย?" แม่ย้อนถามแต่ก็ยังไม่บอกความจริงกับลูกชายทั้งคู่ถึงเรื่องที่ไจ่ไจ๋จำพวกเขาได้แล้ว
"ก็ดี แต่รู้สึกแปลกๆ" แวนเนสตอบก่อนจะส่ายหน้า
"ช่างมันเถอะ ผมไม่อยากจะคิดอะไรมากแล้ว ปวดหัว" พูดจบก็เข้าไปนั่งกระแซะแม่
"คิดถึงแม่จังเลยครับ" แม่ยิ้มก่อนจะขยี้หัวลูกชายขี้อ้อนอย่างเอ็นดู
"น่าเชื่อ.....เวลาไม่มีเรื่องไม่เห็นจะโทรมาคุยกับแม่เลย" แม่ย้อนคำลูกชาย
"แหม.....ก็เวลาที่นี่กับที่โน้นมันไม่ตรงกันนี่นา ผมนอนแม่ก็ทำงาน ผมทำงานแม่ก็นอน" แวนเนสแก้ตัวทันควัน
"จ๊ะๆๆๆ ไม่เถียงด้วยแล้ว" แม่ว่าพร้อมกับหอมแก้มลูกชายฟอดใหญ่
"เป็นอะไรไปหละลูก?" พ่อหันไปถามลูกชายคนโตที่นั่งเงียบอยู่
"เปล่าครับ" เจอร์รี่ปฏิเสธ
"ยังงอนที่แม่ต่อว่าเราใช่มั๊ย?" แม่ถามแทรกขึ้นมาอย่างรู้ทัน
"ไม่ใช่อย่างนั้นครับ แต่หลายวันมานี่ผมเหนื่อยจัง" เจอร์รี่ตอบแม่ไปตามตรง ได้ยินดังนั้นแม่จึงลุกขึ้นไปนั่งข้างลูกชาย
"ไม่สบายหรือเปล่าเรา?" ว่าพลางเอามือลูบหน้าลูบตาลูกชายอย่างห่วงใย
"ผมไม่เป็นไรหรอกครับ แต่เหมือนพักผ่อนไม่เต็มที่เลยรู้สึกเนือยๆ" เจอร์รี่ตอบพร้อมกับกุมมือแม่ไว้
"ผมขอโทษนะครับที่ดูแลน้องไม่ดี" คำพูดนั้นทำให้ทั้งพ่อและแม่ต่างหันไปสบตากัน แล้วพ่อก็ลุกมานั่งลงตรงที่ว่างอีกข้างหนึ่งของเจอร์รี่ แวนเนสพอจะรู้สถานการณ์จึงขอตัว
"ผมขอออกไปเดินหาอะไรกินนะครับ เดี๋ยวซื้อขนมมาฝาก" ว่าแล้วแวนเนสก็หยิบกระเป๋าเงินแล้วออกจากบ้านไป
"แม่ต่างหากที่ต้องขอโทษลูก" เมื่อแวนเนสออกไปแล้วแม่ก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"วันนั้นที่ลูกโทรไปบอกแม่เป็นห่วงไจ่ไจ๋มากจนต่อว่าลูกไปเยอะ แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่ความผิดของลูกเลยซักนิด" เจอร์รี่น้ำตาคลอแต่ไม่ได้พูดอะไร
"พ่อกับแม่รู้ว่าลูกสามารถจัดการเรื่องทุกอย่างได้ดี แต่ถ้ามันหนักหนาเกินไปลูกก็ไม่ควรลังเลที่จะบอกให้เรารู้นะลูก" พ่อเอ่ยขึ้นมาบ้าง
"ผมคิดว่าตัวเองควรแบ่งเบาภาระของพ่อกับแม่แต่ที่ไหนได้กลับเป็นการเพิ่มภาระให้อีก เพราะถ้าน้องอยู่กับพ่อแม่บางทีเรื่องแบบนี้อาจไม่เกิดขึ้น" เจอร์รี่พูดด้วยสีหน้าเศร้าๆ
"ไม่เอาน่า.....ทำไมต้องตำหนิตัวเองด้วย" พ่อว่าพร้อมกับบีบไหล่ลูกชายเบาๆ
"ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว อย่ากังวลอีกเลยลูก" พ่อพูดเป็นนัยๆแต่ก็ยังไม่เฉลยให้เจอร์รี่ฟังว่าเจ้าลูกชายคนเล็กนั้นจำได้หมดแล้วแต่กลับยังคงแกล้งพี่ชายต่อ
"น้องจำไม่ได้อย่างนี้พ่อยังบอกว่าไม่มีอะไรต้องกังวลอีกหรือครับ?" เจอร์รี่ย้อนถามพ่ออย่างรู้สึกคลางแคลงใจ พ่อจึงได้หันไปสบตากับแม่พร้อมกับยิ้มแหยๆ
"เจอร์รี่....ความจริงแล้ว....." แม่ตั้งท่าจะบอกแต่เสียงลูกชายคนกลางร้องแทรกขึ้นมาก่อน
"แม่ครับ! กาแฟของแม่ใส่ครีมกับน้ำตาลอย่างละกี่ช้อนดี?" เมื่อได้ยินเคนถามทะลุกลางปล้องขึ้นมาแม่ก็พลอยเปลี่ยนเรื่องไปด้วย
"แม่ไม่เอาหวานมากจ๊ะ" แม่ตอบแล้วยิ้มให้ เคนพยักหน้าแล้วร้องบอกน้องชาย
"ไจ่ไจ๋ ใส่น้ำตาลให้แม่ช้อนเดียวพอ เสร็จแล้วก็ยกออกมาเลยนะ" พูดจบก็เดินมานั่งลงกับพ่อแม่และพี่ชาย
"คุยอะไรกันอยู่ครับ หน้าเครียดกันเชียว" ถามด้วยสีหน้าซื่อๆ เหมือนไม่รู้เรื่องอะไร
"อ้อ....ก็คุยเรื่องของน้องนั่นแหละ" แม่ตอบพร้อมกับยิ้มให้อีก
"ไหนนายบอกชั้นว่าไม่ต้องคิดมากงัย ไหงตัวเองมานั่งหน้าเครียดแบบนี้หละ?" เคนเอาศอกกระทุ้งแขนพี่ชายพร้อมกับพูดแซว
"เฮ้อ!" เจอร์รี่ไม่ตอบเพียงถอนหายใจเบาๆเท่านั้น
"พี่ใหญ่ไม่ได้เครียดเรื่องน้องชายของลูกเท่าไหร่หรอกจ๊ะ แต่เขางอนที่พ่อแม่ต่อว่าว่ามีเรื่องอะไรแล้วไม่ยอมรีบบอก" แม่แกล้งพูดแซวลูกชายคนโตบ้าง
"แม่ครับ ผมบอกแล้วงัยว่าไม่ได้งอน" เจอร์รี่ร้องครางตามมาทันที "หึๆๆๆ" พ่อกับแม่หัวเราะลูกชายคนโต
"เรื่องแค่นี้เอง" เคนเอ่ยขึ้นบ้าง
"กะอีแค่โดนต่อว่าแค่นี้ถึงกับนั่งเครียด ถ้านายโดนด่าเหมือนชั้นไม่ฆ่าตัวตายเลยหรอ?" พูดกระเซ้าพี่ชายต่ออีก
"ใครด่าลูกกัน?" พ่อถามเคนบ้าง
"จะมีใครอีกหละครับ? ก็พี่ใหญ่นั่นแหละ" เคนตอบ
"เสี้ยวเทียน ทำไมวันนี้นายถึงร่าเริงผิดปกติ?" เจอร์รี่เหมือนจะพูดเปรยๆ แต่ทำเอาคนที่ถูกพูดถึงสะดุ้ง
"จับผิดชั้นอยู่เรื่อยเลยนะ! ทีชั้นไม่อยากพูดไม่อยากคุยก็ว่าชั้นชอบทำให้นายเป็นห่วง พอชั้นพูดคุยปกติก็หาว่าชั้นผิดปกติอีก จะต้องให้ชั้นทำยังงัยกันแน่เนี่ย" แกล้งโวยวายใส่พี่ชาย
"นั่นสิ เราก็ไปว่าน้องอยู่เรื่อย" แม่พูดเข้าข้างลูกชายคนกลางอีกตามเคย เจอร์รี่จึงได้แต่ยักไหล่ ตอนนั้นเองไจ่ไจ๋ก็ยกถาดเครื่องดื่มออกมาพอดี
"เครื่องดื่มร้อนๆมาแล้วครับ....." ไจ่ไจ๋ร้องบอกแล้วกุลีกุจอเสริฟเครื่องดื่มให้กับทุกคน
"เอ....พี่รองไปไหนครับ?" แล้วก็ถามถึงแวนเนส
"เห็นบอกจะออกไปเดินหาอะไรกินจ๊ะ" แม่ตอบคำถาามนั้นแทนคนอื่นๆ "โห! ไม่ชวนกันบ้างเลย" ไจ่ไจ๋บ่นอุบอิบแต่พอเห็นพี่ใหญ่มองหน้าเขาอยู่ก็รีบแก้ตัว
"ก็เห็นคุณแวนเนสบอกว่าเขาเป็นดารานี่นา เดินไปข้างนอกคนเดียวแบบนี้เดี๋ยวโดนรุมทึ้งแล้วจะแย่ น่าจะมีคนไปเป็นเพื่อนบ้างจะได้ช่วยๆกัน" พ่อแม่ต่างพากันส่ายหน้ายิ้มๆกับความทะเล้นของลูกชายคนเล็ก ส่วนเคนเองก็ได้แต่ลอบถอนใจ
"ไม่เป็นไรหรอกไจ่ไจ๋ คนแถวนี้เขารู้จักพี่รองมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ไม่มีใครมารุมทึ้งหรอก อย่างดีก็แค่ชวนคุยกันนานหน่อยเท่านั้นเอง" เคนพูดพร้อมกับฝืนยิ้มหวานให้น้องชาย
"นั่นสิเนอะ ผมก็ลืมไป" ไจ่ไจ๋ยิ้มแหยๆก่อนจะชักชวนให้ทุกคนมาสนใจกับเครื่องดื่มที่ตัวเองเพิ่งจะเอามาบริการ
"พ่อแม่ดื่มกาแฟสิครับ" บอกบุพการีทั้งคู่พร้อมกับพยักเพยิดให้ดื่มกาแฟ แล้วหันมาเทน้ำชาจากกาใส่ถ้วยให้พี่ชายคนโต
"คุณ.....เอ้ย! พี่ใหญ่ดื่มน้ำชาครับ" ไจ่ไจ๋แกล้งทำเป็นลืมตัวเพื่อจะได้ไม่ให้พี่ชายสงสัยมาก
"ขอบใจนะ" เจอร์รี่ยิ้มเล็กน้อยแล้วรับถ้วยน้ำชาจากน้องมาดื่ม
"มันเข้มไปหรือเปล่าครับ?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายต่อ
"ไม่หรอก แบบนี้แหละกำลังดี" เจอร์รี่ตอบ ในขณะที่นั่งดื่มเครื่องดื่มกันนั้นแวนเนสก็หิ้วขนมเต็มมือกลับมาพอดี
"พี่รองมาแล้วหรอ? ซื้ออะไรมาบ้างเนี่ย?" ไจ่ไจ๋ลุกขึ้นแล้ววิ่งไปหาแวนเนสคนแรก แต่พอนึกขึ้นได้ก็ได้แต่เกาหัวแก้เก้อ
"เฮ่อ! ความลับแตกแน่ทีนี้....." เคนพึมพำเบาๆเมื่อเห็นน้องชายไม่เนียนเอาซะเลย "หิวหละสิ" แวนเนสแกล้งถามแหย่น้องชายคนเล็ก
"เอ่อ....นิดหน่อยครับ" ไจ่ไจ๋ตอบเขินๆแล้วยื่นมือไปรับถุงขนมทั้งหมดจากพี่ชายมาวางบนโต๊ะ
"ไปเหมาเขามาหรอจ๊ะ?" แม่ทักแวนเนสบ้าง
"ครับ ผมเห็นคุณยายคนนึงเขามานั่งขายอยู่ข้างทาง แดดก็ร้อนแถมไม่มีคนซื้อเลย ก็เลยขอซื้อมาหมด สงสารคุณยายน่ะครับ" แวนเนสเล่าให้แม่ฟัง
"ลูกแม่น่ารักมากจ๊ะ" แม่เอ่ยชมแล้วหันไปดึงกระดาษทิชชู่มาซับเหงื่อให้ลูกชาย
"ตอนผมบอกว่าขอซื้อหมดเลยคุณยายแกดีใจมากเลยครับ บอกว่าจะคิดให้ราคาพิเศษแต่ผมบอกว่าให้คุณยายคิดราคาตามจริงดีกว่าจะได้มีกำไรเยอะๆ" คำพูดของแวนเนสทำให้คนอื่นๆถึงกับยิ้มออก
"ขนมแกก็อร่อยนะครับ ผมไปยืนชิมมาแล้ว" พอได้ยินแวนเนสเล่ามาถึงตรงนี้พ่อกับแม่ก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน
"ถ้าอย่างนั้นพ่อว่าคุณยายเขาจะไม่ได้กำไรก็ตรงที่ให้ลูกยืนชิมนี่แหละ" เอ่ยแซวลูกชายขึ้นมา
"แหม....ผมไม่ได้ชิมเยอะขนาดนั้นซะหน่อย" แวนเนสทำเสียงกระเง้ากระงอดก่อนจะเชิญชวนให้ทุกคนลองชิมขนมที่เขาซื้อมา
- เวลาต่อมา -
"นายว่ามันน่าแปลกมั๊ยที่พ่อแม่กลับมาแล้วแต่กลับไม่เร่งรีบเกี่ยวกับเรื่องของไจ่ไจ๋เลย" แวนเนสเปิดประเด็นถามพี่ชายหลังจากที่อยู่กันตามลำพังเพราะน้องชายทั้งสองคนพาบุพการีทั้งสองคนขึ้นไปพักผ่อนข้างบน "อืม" เจอร์รี่พยักหน้าก่อนจะพูดเสริม
"ทั้งๆที่ตอนชั้นโทรไปบอกดูพ่อแม่ท่าทางจะร้อนใจและเป็นห่วงมาก แต่พอมาถึงกลับไม่ได้ทำอะไรซ้ำยังทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก" เจอร์รี่วิเคราะห์ตามความคิดของตัวเอง
"และที่สำคัญ....ชั้นว่าไจ่ไจ๋มีท่าทีเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย จากที่ไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้เสี้ยวเทียนแต่ตอนนี้กลับติดกันแจ" แวนเนสนั่งพยักหน้าหงึกๆอย่างเห็นด้วย
"ซ้ำคำพูดคำจาก็ยังแปลกไป มันเหมือนกับว่าน้องไม่ได้ลืมเรา" พูดจบก็มองหน้าแวนเนส
"ชั้นเห็นด้วยทุกประการเลย" แวนเนสว่าแล้วย้อนถามพี่ชายอีก
"มันจะเป็นไปได้มั๊ยว่าไจ่ไจ๋ความจำกลับมาแล้วแต่ยังไม่ยอมบอกเรา" คำถามนั้นทำให้พี่ใหญ่นิ่งไป
"ไม่รู้สิ ชั้นว่ามันไม่มีเหตุผลที่น้องต้องปิดบังเรา เพราะน้องก็คงรู้ดีว่าหากน้องจำเราไม่ได้แล้วพวกเราจะร้อนใจกันขนาดไหน" เจอร์รี่พยายามไม่คิดแบบนั้น
"ก็จริง ถึงน้องมันจะขี้เล่นแต่มันก็น่าจะรู้กาลเทศะดีนะว่าเรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะเอามาล้อเล่นกัน" แวนเนสพูดเสริม
"หรือว่าบางทีเราสองคนอาจคิดมากเกินไปก็ได้ เพราะถ้าน้องยังจำพวกเราไม่ได้แต่ต้องมาแสดงออกกับพวกเราแบบนี้ก็คงฝืนใจไม่น้อย" พี่ใหญ่มองหน้าน้องชายก่อนจะหายใจเบาๆ
"ถ้าอย่างนั้นเราก็ต้องพิสูจน์" แวนเนสว่าพร้อมกับสบตากับพี่ชายอย่างขอความเห็น
"พิสูจน์งั้นหรอ?" เจอร์รี่ทวนคำ
"ไจ่ไจ๋น่ะมันโกหกไม่เก่งหรอก ถ้ามันจำได้แล้วจริงๆลองเรารุกเอามากๆไม่วายจะเผยพิรุธให้เราเห็นอย่างแน่นอน" แวนเนสให้เหตุผลแล้วจบบทสนทนาอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นเคนกับไจ่ไจ๋ก็เดินตามกันลงมาพอดี
"คุยอะไรกันอยู่หรือครับ?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายทั้งสองคนอย่างอารมณ์ดี
"เปล่าหรอก คุยกันเรื่องทั่วๆไปน่ะ" เจอร์รี่ตอบพร้อมกับยิ้มให้ก่อนจะมองเลยไปทางเคน
"นั่งลงซิ พี่มีเรื่องจะคุยด้วย" บอกกับเคนด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน เคนทำหน้างงๆก่อนจะทรุดตัวนั่งลงตามคำพี่ชาย
"ตกลงเรื่องที่เราเคยคุยกันไว้นายคงไม่มีอะไรขัดข้องอีกนะ" ไจ่ไจ๋ได้ยินเช่นนั้นก็หันไปมองหน้าเคนเป็นเชิงถาม
"เอ่อ....เรื่องอะไรหรอ?" เคนย้อนถามพี่ชายเสียงแผ่ว
"เรื่องที่เราตกลงกับพี่งัยว่านายจะตามพ่อแม่กลับไปน่ะ" ได้ยินเช่นนั้นไจ่ไจ๋ก็ร้องอุทานขึ้นมาทันที
"อะไรนะ! พี่กลางจะไปอยู่กับพ่อแม่หรอ? ผมไม่ให้ไปหรอก!" แย้งออกมาอย่างลืมตัว ทำให้เจอร์รี่กับแวนเนสหันไปมองหน้ากัน
"เอ่อ.....ก็......ก็....." เมื่อเริ่มรู้สึกตัวไจ่ไจ๋ก็หน้าเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
"ชั้นไม่ไปหรอก พวกนายดูสิว่าตอนนี้น้องปรับตัวให้เข้ากับชั้นได้ดีขึ้นขนาดไหน" เคนเลยออกหน้าแทนน้องชายเสียเอง
"ได้ยังงัย? นายก็รู้อยู่แล้วว่าพ่อแม่กลับมาครั้งนี้จุดประสงค์หลักก็เพื่อมารับนายนะ" พี่ใหญ่แกล้งพูดต่อ
"ไม่จริง! พ่อแม่มาเพราะเรื่องของผมต่างหาก" ไจ่ไจ๋โพล้งขึ้นมาอีกเคนจึงแอบถลึงตาใส่น้องเพราะรู้ว่าพี่ชายทั้งคู่กำลังสงสัยอยู่
"เอ่อ....." ไจ่ไจ๋เกาหัวแก้เก้อ เคนแอบส่ายหน้าอย่างเซ็งๆเพราะถ้าขืนน้องชายยังเอะอะไม่เลิกมีหวังพี่ชายจับได้อย่างแน่นอน
"พ่อแม่ไม่ได้มาเพื่อจะรับชั้นซักหน่อย อย่างที่น้องว่าแหละพ่อแม่มาเพราะน้องต่างหาก" เคนยังพยายามช่วยน้องชายแก้ต่าง
"ยังงัยก็ไม่ได้ เพราะพี่จองตั๋วเครื่องบินให้นายเรียบร้อยแล้ว" เจอร์รี่พูดต่อ
"เฮ้ย!!!" เคนกับไจ่ไจ๋อุทานออกมาพร้อมกัน
"ทำไมทำอะไรไม่ปรึกษาชั้นก่อน? ชั้นไม่ไปนะ!" แล้วก็เป็นเคนที่โวยวายขึ้นมาบ้าง
"ชั้นนึกว่าเราคุยกันเข้าใจแล้วซะอีก ตอนนั้นนายเป็นคนรับปากชั้นเองนะว่าจะตามพ่อแม่กลับไป" เจอร์รี่ตอบกลับน้องทันควัน แวนเนสจึงแอบยกนิ้วโป้งให้พี่ชาย
"เดี๋ยวพี่กลางก็ต้องกลับไปทำงานแล้วจะไปอยู่กับพ่อแม่ได้ยังงัย? พี่ใหญ่อยากให้พี่กลางตกงานจริงๆหรอ?" ไจ่ไจ๋หาเหตุผลมาให้พี่ชาย
"เอ....นายรู้ได้ยังงัยว่าพี่กลางมันจะกลับไปทำงานแล้ว?" แวนเนสถามน้องเล็กบ้าง
"อ้าว! ก็นี่มันจะครบเดือน....." ไจ่ไจ๋ยังพูดไม่จบประโยคดีก็โดนเคนกระตุกแขนแรงๆเสียก่อน เมื่อเห็นท่าทางของน้องชายทั้งคู่เจอร์รี่กับแวนเนสก็หันไปพยักหน้าให้กันอย่างรู้ความหมาย
"ก็ถือโอกาสลาพักร้อนเพิ่มอีกซักเดือนจะเป็นไรไป?" เจอร์รี่พูดต่อเหมือนไม่ติดใจคำพูดน้องเล็ก
"จะบ้าหรอ!? ยิ่งโดนหมายหัวอยู่ยังมีหน้าไปขอลาพักร้อน มีหวังได้ลายาวแบบไม่ต้องกลับไปอีกแน่" เคนเอะอะขึ้นมาอีก
"ช่วยไม่ได้ใครใช้ให้นายทำตัวเกเรหละ?" เจอร์รี่ยักไหล่อย่างไม่ค่อยใส่ใจ
"แต่พี่กลางเขาไม่ได้หาเรื่องก่อนนี่ ทำไมพี่ใหญ่ถึงไม่ยอมเข้าใจซักที" ไจ่ไจ๋เผลอตัวบ่นพี่ชายออกมาอีกจนได้
"ไจ่ไจ๋!!!" เคนหันไปเรียกน้องเสียงเข้ม น้องเล็กจึงได้แต่ทำหน้าเจื่อนๆเพราะรู้ว่าตัวเองเผยพิรุธจนหมดเปลือก
"ไปเอ็ดน้องทำไมหละ? น้องเริ่มจำได้แล้วแบบนี้น่าดีใจมากกว่านะ" แวนเนสแกล้งต่อว่าเคน
"พี่ได้ยินนายพูดแบบนี้แล้วก็ดีใจมากเลย แสดงว่านายเริ่มจำสถาการณ์ต่างๆได้แล้วสิ" แล้วก็หันมา พูดกับน้องเล็กอย่างอ่อนโยนแต่รอยยิ้มกลับทำให้ไจ่ไจ๋รู้สึกสยอง
"ก็....ก็......" ไจ่ไจ๋อึกอักแล้วหันไปทางพี่ชายคนกลางอย่างต้องการขอความช่วยเหลือ
"นายก็อย่าไปเซ้าซี้น้องน่า.....เดี๋ยวซักไปมากๆก็พาลจะปวดหัวเอาง่ายๆอีก" พี่ใหญ่แกล้งหันไปปรามแวนเนส
"ไจ่ไจ๋ นายก็อย่าไปถือสาอะไรพี่รองเขาเลยนะ แค่นายจำอะไรบางอย่างได้นิดหน่อยก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้วหละ" หันมายิ้มให้น้องเล็กด้วยอีกคน
"ครับ" ไจ่ไจ๋ไม่รู้จะพูดอะไรจึงตอบรับสั้นๆ
"ชั้นว่าชั้นไปซื้อกับข้าวมาทำอาหารเย็นดีกว่า พ่อแม่ตื่นมาจะได้กินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตา" แล้วเคนก็หาทางหลีกเลี่ยงพี่ชายทั้งคู่เอาเสียดื้อๆ
"ผมไปด้วย!" ไจ่ไจ๋รีบร้องแทรกขึ้นมาทันที
"ไม่ต้องเลย!" เคนแหวใส่น้องอย่างลืมตัวก่อนจะรีบปั้นยิ้มหวานกลบเกลื่อน
"นายไม่ต้องไปหรอก เดินตลาดร้อนจะตาย พี่ไปแป๊บเดียวเอง" พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงเมื่อรู้สึกตัว
"ผมไม่กลัวร้อนหรอก เอาผมไปด้วยนะ" คราวนี้ไจ่ไจ๋เอากอดแขนเคนเอาไว้ด้วย
"เสี้ยวเทียน เราก็แปลกนะ ทีน้องขอไปด้วยเรากลับไม่ให้ไปแต่เมื่อวันสองวันก่อนพี่เห็นนายเอาแต่จะตามน้องไปทุกที่" เจอร์รี่พูดขัดคอน้องชายขึ้นมา
"เอ่อ....ก็....ชั้นไม่อยากให้น้องต้องเหนื่อยนี่ แล้วอีกอย่างชั้นยังไม่ได้คิดเมนูเลยกว่าจะไปเดินวนซื้อของก็คงนาน" เคนแก้ตัวน้ำขุ่นๆ
"งั้นพี่ไปกับนายเอง" พี่ใหญ่เสนอตัว เคนหน้าเจื่อนลงทันตาเห็น
"ไม่ต้องหรอก นายอยู่คุยกับน้องดีกว่า ดูท่าน้องเหมือนจะจำอะไรได้ลางๆแล้วนะ" เคนส่ายหน้าพร้อมกับปั้นยิ้มหวานให้พี่ชาย
"น้องดูเหมือนจะจำได้ลางๆแต่ทำไมไม่เห็นนายจะตื่นเต้นดีใจเลยหละ?" พี่ใหญ่ถามรุกอีก
"ดีใจสิ! ทำไมจะไม่ดีใจหละ? ชั้นดีใจที่สุดในโลกเลย" เคนแกล้งทำเสียงตื่นเต้นแต่ดูก็รู้ว่าฝืนเต็มที่
"ตัวเองก็ไม่เนียนเหมือนกันแหละ" ไจ่ไจ๋แอบต่อว่าเคนแบบไม่ออกเสียง
"ไม่ต้องพูดเลย!" เคนก็ต่อว่าน้องชายกลับเช่นกัน
"ตั้งแต่พ่อแม่กลับมานายสองคนก็ดูท่าทางจะเข้ากันได้ดีแบบแปลกๆเนอะ" แวนเนสพูดแทรกขึ้นมา
"นี่! จะหาเรื่องกันหรืองัย?" เคนเท้าเอวแล้วแกล้งทำเป็นเอ็ดพี่ชาย
"เดี๋ยวเถอะ! พูดกับพี่เขาแบบนี้ได้หรอ?" เจอร์รี่ดุเคนทันที
"แล้วนายก็ไม่ต้องพูดอะไรอีก เพราะไม่ว่ายังงัยบทสรุปก็คือนายต้องตามพ่อแม่กลับไป! อย่านึกว่าเปลี่ยนเรื่องแล้วชั้นจะลืมนะ!" พี่ใหญ่ทำเสียงเข้ม
"ไม่เอา! ชั้นไม่ไป! มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ชั้นต้องไปอยู่กับพ่อแม่ที่นู้น!" เคนเริ่มโอดครวญ
"มีสิ ก็เพราะตอนนี้ไจ่ไจ๋ยังจำพวกเราไม่ได้และนายก็ชอบทำตัวจู้จี้จุกจิกกับน้อง ชั้นไม่อยากให้น้องรู้สึกอึดอัดหรือลำบากใจ" เจอร์รี่ให้เหตุผล
"งั้นพี่ใหญ่หมายความว่าหากผมจำพวกพี่ได้ตอนนี้พี่กลางก็ไม่ต้องไป" ไจ่ไจ๋ถามแทรกขึ้นมาบ้าง
"อืม" เจอร์รี่พยักหน้า
"งั้นผมจำได้แล้ว" ไจ่ไจ๋พูดต่อหน้าตาเฉย
"อะไรนะ?" เจอร์รี่แกล้งถามย้ำ
"ผมจำได้แล้ว จำได้หมดทุกอย่างแล้ว" ไจ่ไจ๋พูดเน้นเสียง
"ตั้งแต่เมื่อไหร่?" แวนเนสถามต่อบ้าง
"เมื่อกี้นี้แหละ" เจ้าน้องเล็กลอยหน้าลอยตาตอบอีก
"อ้าว! ไหงเฉลยง่ายๆแบบนี้วะ?" เคนร้องครางออกมาอย่างงงๆที่จู่ๆน้องก็บอกพี่ชายทั้งคู่เอาดื้อๆ คำพูดนั้นทำให้เจอร์รี่กับแวนเนสหันไปทางเคน
"เอ่อ....ชั้นไม่รู้เรื่องนะ....." เคนพูดต่อเสียงแผ่วแล้วมองหาทางหนีทีไล่ "ไม่ต้องหนี!" พี่ใหญ่รู้ทันจึงคว้าตัวน้องชายไว้ก่อน
"มันคิดนะ ชั้นโดนบังคับ" เคนรีบแก้ตัวกับพี่ชาย
"อ้าวพี่กลาง! เมื่อวานพูดอยู่แหมบๆว่าไม่ต้องบอกเพราะว่าพ่อแม่กลับมาแล้วรับรองว่าเราปลอดภัยงัย" ไจ่ไจ๋เองก็เกี่ยงความรับผิดไปให้พี่ชายสุดที่รักเช่นกัน
"ตลกแล้ว! นายฝันหรือเปล่า! พี่ไม่เคยพูดแบบนั้น!" เคนร้องโวยวายขึ้นมาบ้าง
"ไม่ได้ฝัน มันเป็นเรื่องจริง" ไจ่ไจ๋พูดหน้าตาเฉย
"ไอ้...." เคนพูดอะไรไม่ออกได้แต่ชี้หน้าน้องชายแต่ก็ต้องทำหน้าเหยพร้อมกับส่งเสียงร้องโอดครวญเมื่อโดนพี่ใหญ่บิดหู
"โอ้ยยยย....." ร้องครางออกมาเบาๆพร้อมกับพยายามแกะมือพี่ชายออก
"ทำชั้นทำไม? มันเป็นตัวต้นคิดนะ!" เมื่อหลุดออกจากเงื้อมมือพี่ชายแล้วเคนก็โวยวายอีก
"ก็รู้เห็นเป็นใจกับน้องหนิ! เป็นพี่ซะเปล่าแทนที่จะห้ามปรามเวลาที่เห็นน้องทำอะไรไม่ถูกไม่ควรแต่ดันลุกขึ้นมาสนับสนุนอย่างออกนอกหน้า ตอบมาสิว่าทำแบบนี้มันผิดมั๊ย?" ตั้งคำถามกับเจ้าน้องชายตัวดี
"ไม่ผิด" เคนตอบพี่ชายแบบไม่ต้องคิด "เดี๋ยวเถอะ!" เจอร์รี่ทำเสียงดุก่อนจะหันไปทางแวนเนส "ไปหยิบไม้เรียวมาให้ชั้นที!" ประโยคนี้ของพี่ใหญ่ทำให้เคนถึงกับสะดุ้ง "เฮ้ย! ผิดก็ได้....." รีบเปลี่ยนคำตอบใหม่ทันที "ผิดก็ต้องโดนเหมือนกัน" เจอร์รี่เองก็ต่อคำน้องทันควันเช่นกันและหันไปพยักหน้ากับแวนเนสเพื่อยืนยันคำพูดเมื่อซักครู่ เมื่อแวนเนสกลับมาพร้อมกับส่งไม้เรียวให้พี่ชายเคนก็ถึงกับหน้าถอดสี "ไม่ยุติธรรมเลย.....ชั้นแค่รับรู้ด้วยเฉยๆทำไมถึงต้องโดนตีอยู่คนเดียวแต่ไจ่ไจ๋มันเป็นคนคิดเป็นคนวางแผนทั้งหมดไม่เห็นนายจะว่าอะไรมันซักคำ" เคนประท้วงพี่ชายด้วยสีหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่ "แล้วมันอยู่ให้ว่ามั๊ยหละ?" เจอร์รี่ถามน้องกลับพร้อมกับมองไปทางที่ที่เห็นน้องเล็กเคยยืนอยู่ที่ตอนนี้ว่างเปล่า "อ้าว! ไอ้เด็กบ้า! หนีเอาตัวรอดคนเดียวเลยนะ!" เคนต่อว่าน้องเล็กออกมาเมื่อเห็นว่าน้องหายเข้ากลีบเมฆไปเป็นที่เรียบร้อย "ขยับเข้ามาใกล้ๆ!" พี่ใหญ่สั่งเสียงเข้ม แต่เคนกลับถอยหลังหนีไปครึ่งค่อนห้องแล้ว "ชั้นช่วยจับให้" แวนเนสเสนอตัวก่อนจะเดินปรี่เข้าไปหาน้องชายพร้อมกับรอยยิ้มอย่างโหดๆ "อย่ามายุ่งนะ! ไปไกลๆเลย!" เคนโวยวายแต่ก็หนีพี่ชายไปด้วย "นึกว่าจะหนีรอดหรอ? สองต่อหนึ่งยังงัยนายก็แพ้" แวนเนสได้ทีพูดข่มน้อง "ก็ลองทำอะไรชั้นดูสิ จะร้องให้บ้านแตกเลย แล้วทีนี้ดูซิว่าพ่อแม่จะเอาพวกนายไว้หรือเปล่า!" เคนขู่พี่ชายกลับ "นายดูมันนะ! มันเอาพ่อแม่มาขู่เรา!" แวนเนสหันไปฟ้องพี่ชาย "เรื่องนั้นค่อยว่ากันแต่ตอนนี้ลากมันมานี่!" เจอร์รี่บอกพร้อมกับผงกหัวไปทางน้องชายคนกลางที่ไม่ทันระวังตัว แวนเนสได้โอกาสจึงรีบคว้าตัวน้องชายไว้ "เฮ้ย!!! ปล่อยนะโว้ย!!! ช่วยด้วย!!!!" เคนแหกปากร้องลั่นบ้าน "เสียงดีนักใช่มั๊ย!? เดี๋ยวจะเอากำปั้นยัดปากให้!" แวนเนสทำเสียงดุๆแล้วรีบเอามืออุดปากน้อง "ตีมันให้ตายเลย! พยศดีนัก!" แวนเนสพูดยุพี่ชายในขณะที่ลากตัวน้องชายที่ทั้งดิ้นทั้งร้องมาหาพี่ชาย "โอ้ยยยย!!!!!" เคนร้องลั่นเมื่อเห็นพี่ชายเงื้อนไม้เรียวในมือขึ้นโดยที่เขาเองยังโดนแวนเนสรวบมือทั้งสองข้างไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้ "จะแหกปากทำไม!? ยังไม่ทันตีเลย!" พี่ใหญ่เอ็ดใส่เจ้าน้องชายตัวดีบ้าง "ชั้นกลัวแล้วพี่ใหญ่อย่าตีชั้นเลย.....แวนเนส.....ปล่อยชั้นเถอะ....." เคนอ้อนวอนพี่ชายทั้งคู่เมื่อเห็นว่าตัวเองไม่มีทางสู้พี่ชายทั้งสองคนได้ "ปล่อยให้นายวิ่งแจ้นไปฟ้องแม่น่ะหรอ? คิดง่ายไปมั๊ยน้องชาย?" แวนเนสถามน้องด้วยน้ำเสียงกวนๆ "ไม่ฟ้อง.....ปล่อยชั้นเถอะ ชั้นยอมรับผิดทุกอย่างแล้ว" เคนโอดครวญกับพี่ชายต่อ "ยอมรับผิดแล้วก็ต้องถูกลงโทษอยู่ดีนั่นแหละ ใช่มั๊ย?" ประโยคหลังแวนเนสแกล้งหันไปถามพี่ชาย "ใช่! มีที่ไหนรู้ทั้งรู้ว่าผิดแต่ก็ยังทำ แบบนี้ต่อให้ยอมรับก็ต้องถูกทำโทษอยู่ดีไม่งั้นต่อไปนายก็จะทำผิดซ้ำๆอีก" พี่ใหญ่พูดเสริม "ไม่ทำแล้วพี่ใหญ่ ไม่กล้าทำอีกแล้ว" เคนลงทุนโอนอ่อนผ่อนตามพี่ชายทุกอย่าง "น่าเชื่อ! อย่านายน่ะเป็นพวกความจำสั้น สัญญาอะไรไว้ไม่เคยจำได้หรือต่อให้จำได้ก็ไม่คิดจะทำ" เจอร์รี่สวนคำน้องทันควัน เคนนึกคันปากอย่างจะเถียงพี่ชายแต่ติดอยู่ตรงที่ว่าเขาเป็นฝ่ายเสียเปรียบจึงต้องสงบปากสงบคำ แต่ในขณะที่เคนไม่รู้จะทำยังงัยเขาก็เหลือบไปเห็นน้องเล็กเดินลงมาโดยน้องชายส่งสัญญาณบางอย่างให้เขา "เดี๋ยวไปเรียกแม่มาช่วย" ไจ่ไจ๋บอกพี่ชายแบบไม่ออกเสียงก่อนจะผลุบหายไปอย่างรวดเร็ว เคนรู้ดังนั้นก็ค่อยโล่งอก "ก็ได้.....ชั้นยอมแล้ว" แล้วเคนก็ยอมแต่โดยดีเพราะรู้ว่าแม่ต้องมาช่วยเขาแน่นอน "ปล่อยเถอะ ชั้นไม่หนีไปไหนหรอก" แล้วก็ดึงมือแวนเนสออกท่ามกลางสายตางุนงงของพี่ชายทั้งคู่เพราะเมื่อกี้เจ้าน้องชายตัวแสบยังทำท่าว่าจะไม่ยอมให้พวกเขาทำโทษแต่โดยดี "จะตีก็ตี เดี๋ยวชั้นยังมีอะไรต้องทำอีกเยอะ" เคนว่าแล้วก็ยืนกอดอกยอมรับโทษแต่โดยดี "ไหงมันเปลี่ยนท่าทีไวอย่างนี้วะ?" แวนเนสกระซิบถามพี่ชาย "จะไปรู้หรอ? แบบนี้มีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่" เจอร์รี่เองก็พูดกับแวนเนสเบาๆเช่นกัน "ช่างมันเถอะ! ฟาดมันสองสามทีแล้วกันถือว่าเป็นการลงโทษที่มีเรื่องสำคัญแล้วยังบังอาจปิดบังเราสองคน" แวนเนสยุพี่ชายเพราะเห็นว่าครั้งนี้น้องทำไม่ถูก พี่ใหญ่พยักหน้าแล้วเงื้อนไม้เรียวขึ้นสูงทำเอาเคนเริ่มฝ่อเพราะไม่เห็นวี่แววของแม่และน้องชายเลย "เดี๋ยว!" แล้วเคนก็ร้องห้ามก่อนพี่ชายจะลงมือ "มีอะไรอีก?" พี่ใหญ่ย้อนถาม "จะตีหนักขนาดนี้เลยหรอ? มันเกินไปหน่อยมั๊ยอ่ะ?" เคนส่งเสียงประท้วงพี่ชายเพื่อถ่วงเวลา "งั้นบอกชั้นมาหน่อยซิว่าสิ่งที่นายทำน่ะมันเกินไปหรือเปล่า?" พี่ใหญ่ย้อนถามเล่นเอาเคนเถียงไม่ออก "รู้ทั้งรู้ว่าชั้นสองคนร้อนใจกับเรื่องที่น้องจำพวกเราไม่ได้แค่ไหนแต่นายก็ยังเอามาล้อเล่นอีก ถ้าพวกชั้นไม่รู้เองนายจะปล่อยให้ชั้นสองคนกลุ้มใจต่อไปถึงเมื่อไหร่?" เมื่อพี่ชายร่ายยาวมาเป็นชุดเช่นนี้เคนก็ได้แต่เงียบ "ใช่! แต่ถึงนายจะบอกว่าเพราะน้องไม่อยากให้บอกแต่นายเองก็น่าจะคิดได้ว่าเรื่องแบบนี้มันควรเอามาเล่นหรือเปล่า? โตแล้วน่าจะรู้จักกาลเทศะบ้าง" แวนเนสช่วยพี่ชายซ้ำเติมน้องชายอีกแรง ในตอนนั้นเคนก็เหลือบไปเห็นน้องเล็กเดินมาพร้อมกับแม่พอดี "ชั้นไม่เถียงด้วยแล้ว จะตีก็ตี" เคนบอกพี่ชายพร้อมกับแอบยิ้มในใจเพราะพี่ชายทั้งคู่หันหลังไปทางบันไดเลยไม่เห็นแม่กับน้องเล็ก "ดี! ยืนนิ่งๆ!" แล้วเจอร์รี่ก็จับแขนน้องไว้ก่อนจะเงื้อนไม้เรียวในมือขึ้นอีกครั้ง "อะฮึ่ม!" แต่แล้วเสียงกระแอมจากด้านหลังทำให้เจอร์รี่ชะงักไป "จะทำอะไรกันจ๊ะ?" แม่ถามขึ้นตามมา เจอร์รี่กับแวนเนสหันไปทางต้นเสียงพร้อมกัน "แม่ครับ! พี่ใหญ่กับพี่รองจะตีผม" เคนรีบเอ่ยปากฟ้องทันที "เนี่ย! เมื่อกี้นะพี่เขาสองคนบอกว่าจะตีให้ตายเลย ดีนะที่แม่มาทันไม่งั้นผมแย่แน่ๆ" พี่ชายทั้งคู่มองเจ้าน้องชายตัวดีฟ้องแม่ฉอดๆด้วยสีหน้าหมั่นไส้ "ว่างัยจ๊ะ? ลูกสองคนจะตีน้องทำไม?" แม่หันไปถามลูกชายทั้งคู่บ้าง "เปล่าซักหน่อยแม่ เราเล่นกันเฉยๆ" แวนเนสตอบแม่หน้าตาย "เล่น?" เคนทวนคำพี่ชายก่อนจะค้อนใส่ "ไอ้บ้า! ไม่ต้องมาโกหกเลย เมื่อกี้นายยุยงส่งเสริมมันอย่างกับอะไรดี!" กระแทกเสียงใส่พี่ชายคนรองอย่างหมั่นไส้ "แม่ดูมันสิ.....ฟังมันพูดนะว่ามันเคยเห็นหัวพี่ชายสองคนนี้บ้างหรือเปล่า" แวนเนสหันไปฟ้องแม่บ้าง แม่เองก็คิดว่าเคนพูดจาไม่ค่อยสุภาพเท่าไหร่แต่ก็ไม่กล้าตำหนิเพราะกลัวลูกชายจะงอนอีก "ก็ลูกอยากไปแหย่น้องก่อนทำไมหละ? พอแล้ว.....มานั่งคุยกับแม่กันหน่อยซิ" แม่พูดแล้วรีบตัดบทเพราะไม่อยากให้แวนเนสประท้วงขึ้นมาอีก เมื่อได้ยินดังนั้นไจ่ไจ๋ก็เดินไปเกาะแขนพี่ชายคนกลาง "เป็นยังงัย? ผมจัดการได้ทันเวลาพอดีเลยใช่มั๊ย?" ไจ่ไจ๋ทวงคำชมจากพี่ชายแต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือมะเหงกโป๊กใหญ่จากพี่ชาย "พอดีบ้าอะไร! พี่ต้องแกล้งพูดโน้นประท้วงนี่อยู่ตั้งนาน เพราะนายแท้ๆเลย!" พูดจบก็หยิกแก้มน้องแถมให้อีก "โอ้ยๆๆๆ....พี่กลางอ่ะ.....ผมเจ็บนะ!" ไจ่ไจ๋ร้องโวยวาย "เจ็บแค่นี้ไม่ตายหรอก! แต่เมื่อกี้พี่เกือบตายเพราะความคิดบ้าบอของนาย!" เคนแหวใส่น้องกลับไป "อะไรเล่า! พี่กลางเองก็เห็นดีเห็นงามด้วยนี่! มาโทษผมได้ยังงัย!" ไจ่ไจ๋เองก็ไม่ยอมแพ้ "แต่ตัวต้นเหตุคือนายนะ! แล้วไอ้เวลาจะจวนตัวกลับถีบให้พี่ออกหน้าคนเดียวแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน!" เคนว่าพร้อมกับเอานิ้วจิ้มหน้าผากน้องไปด้วย "อ้าว! ไม่เคยได้ยินหรืองัยว่ารู้รักษาตัวรอดเป็นยอดคน!" น้องเล็กลอยหน้าลอยตาตอบพี่ชาย "พวกนายสองคนได้ยินแล้วใช่มั๊ย? ไจ่ไจ๋มันเป็นคนต้นคิดจริงๆ ถ้าจะจัดการก็จัดการกับมันสิ" เมื่อเถียงอะไรน้องไม่ได้เคนจึงหันไปฟ้องพี่ชายทั้งคู่แทน "อ้าว! ทีเวลาเราปรึกษาหละเห็นดีเห็นงามทุกเรื่อง ชมว่าฉลาดอย่างนั้นอย่างนี้ทีเวลามีเรื่องก็ปัดมาทางเราซะงั้นนะ" น้องเล็กเปรยขึ้นดังๆ "ผิดทั้งคู่นั่นแหละ! ไม่ต้องมาเกี่ยงกันเลยว่าใครต้นคิดหรือใครช่วยคิดเพราะยังงัยก็ต้องถูกลงโทษเท่ากัน!" เสียงเข้มของพี่ใหญ่พูดแทรกขึ้นมา น้องชายทั้งคู่จึงหน้าจ๋อยไปตามๆกัน "ไม่เอาน่า....น้องจำได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีแล้ว ลูกอย่าถือสาหาความน้องอีกเลย" แม่ช่วยพูดไกล่เกลี่ยให้ "แม่ก็เป็นแบบนี้ทุกที" เจอร์รี่ครางออกมาอย่างอ่อนใจ "โถ....หลายวันมานี้ลูกเองก็เครียดไม่น้อยไม่ใช่หรอ? ตอนนี้สถานการณ์ต่างๆก็เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แม่ว่าก็อย่าเอาเรื่องอะไรกันอีกเลย" แม่ว่าพร้อมกับตบหลังมือลูกชายเบาๆ "ก็เพราะว่าเครียดน่ะสิพอมาเจอแบบนี้เลยยิ่งเครียดใหญ่ แม่ว่าน้องไม่รู้กันหรืองัยว่าผมกับแวนเนสวุ่นวายใจกันแค่ไหนกับเรื่องที่เกิดขึ้นเนี่ย" เจอร์รี่เถียงก่อนจะเหลือบมองไปทางน้องชายทั้งคู่ "พอจำได้แล้วแทนที่จะบอกให้พวกผมสองคนสบายใจกลับมาปิดบังกันซะอีก แถมทำได้ไม่แนบเนี่ยนอีกต่างหาก!" ประโยคหลังไม่วายแขวะน้องชายทั้งคู่ไปด้วย "นายนั่นแหละที่ชอบเผยพิรุธให้เขาจับได้" เคนได้ทีตำหนิน้องชาย "ผมคนเดียวที่ไหนเล่า! พี่กลางก็เหมือนกันแหละ!" ไจ่ไจ๋เองก็ไม่ยอมรับทั้งหมด "ยังจะเถียงกันอีก!" พี่ใหญ่ดุน้องชายทั้งสองคนอีก "เอาเถอะๆๆ แม่ว่าน้องก็ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังลูกหรอก น้องแค่อยากจะหาทางวิธีเซอร์ไพรส์ลูกสองคนเท่านั้นเอง" แม่แก้ต่างแทนลูกชายสุดที่รัก "เซอร์ไพรส์หรอแม่?" แวนเนสถามแทรกขึ้นมาบ้าง ไจ่ไจ๋เลยได้ทีรับไม้ต่อจากแม่ทันที "ก็ใช่สิครับ" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็ลุกไปนั่งลงข้างแวนเนส "ผมอยากจะหาวิธีเซอร์ไพรส์พี่แต่ว่ายังคิดไม่ออกเลยขอร้องพี่กลางให้ช่วยคิดด้วย พี่กลางตอนแรกเขาก็ไม่เห็นด้วยที่ผมจะยังปิดบังพวกพี่ต่อไปแต่พอผมอธิบายว่าหลายวันที่ผ่านมาพวกพี่ก็ลำบากใจกันไม่น้อยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผม ผมก็เลยอยากจะทำให้พวกพี่รู้สึกตื่นเต้นดีใจที่ผมกลับมาจำได้แล้ว แต่ว่าผมยังคิดไม่ออกว่าจะทำยังงัยดีก็เลยขอร้องให้พี่กลางช่วยคิดซึ่งความจริงพวกเราก็คิดหาวิธีกันอยู่แต่ก็มาโดนจับได้ซะก่อน ฉะนั้นแทนที่จะทำให้พวกพี่ดีใจกลับกลายเป็นทำให้พี่สองคนไม่พอใจซะอีก" คำร่ายยาวของน้องเล็กทำเอาพี่ชายทั้งสองคนอึ้งไปในขณะที่เคนได้แต่อ้าปากค้างกับความสามารถเอาตัวรอดของน้องเล็ก
"ไอ้บ้า! พี่ก็ต้องดีใจอยู่แล้ว แต่เรื่องที่โกรธก็เพราะนึกว่านายไม่คิดจะบอกพวกพี่" แวนเนสคล้อยตามความคิดของน้องเขารีบโอบไหล่น้องชายพร้อมกับอธิบาย
"พี่สองคนก็นึกว่านายคงไม่เห็นว่าพี่สองคนสำคัญเหมือนกับไอ้พี่กลางเลยไม่ยอมบอก" พูดเป็นเชิงตัดพ้อน้องชาย
"โอ๋....ทำไมผมจะไม่เห็นความสำคัญของพวกพี่หละครับ? ถ้าไม่เห็นความสำคัญจะต้องมานอนคิดว่าจะทำเซอร์ไพรส์พี่สองคนยังงัยกันจนหัวแทบแตกแบบนี้หรอ?" ไจ่ไจ๋ยังคงตีหน้าซื่อเป็นน้องชายที่แสนดีต่อไป
"เฮ่อ! ถ้ารู้อย่างนี้แต่แรกพี่ก็ไม่โกรธหรอก" แวนเนสเองก็เชื่อน้องอย่างสนิทใจ
"ถ้ารู้ก่อนจะเซอร์ไพรส์มั๊ยเล่า?" ไจ่ไจ๋แย้งแต่ก็ขยับเข้าไปกอดพี่ชาย
"ไปหัดทำตัวแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่? เมื่อก่อนไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลยกับเรื่องเซอร์ไพรส์คนอื่นเนี่ย" แวนเนสกอดน้องตอบพร้อมกับต่อว่าไปด้วย
"ก็ได้มาจากพี่รองแหละครับ" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วยิ้มหวานให้พี่ชาย เห็นแบบนั้นแล้วเคนก็หันไปพยักเพยิดกับแม่เพื่อให้ดูความร้ายกาจของเจ้าน้องเล็กต่อไป
"พี่เข้าใจแล้ว ไม่โกรธแล้วด้วย" แวนเนสว่าแล้วก็หอมแก้มน้องชายฟอดใหญ่
"ไชโย! พี่รองหายโกรธแล้ว!" ไจ่ไจ๋ร้องขึ้นอย่างดีใจ แวนเนสยิ้มก่อนจะเหลือบไปทางพี่ใหญ่
"แต่พี่ว่ามีอีกคนที่น่าจะงอนอยู่นะ" กระซิบบอกน้องชายเบาๆ ไจ่ไจ๋เองก็รู้ความหมายทันทีจึงผละออกจากแวนเนสมานั่งลงข้างพี่ใหญ่แทน
"พี่ใหญ่ครับ" กอดแขนพี่ชายพร้อมกับเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน "ไม่ต้องมายุ่ง!" เจอร์รี่ทำเสียงแข็งๆแล้วดึงมือน้องชายออก
"ยังโกรธผมอยู่หรอ? ดีกันเถอะนะ.....น้า....." ชูนิ้วก้อยขึ้นพร้อมกับพูดง้อพี่ชาย
"บอกว่าอย่ามายุ่ง!" ทำเสียงแข็งกว่าเดิมพร้อมกับทำตาดุใส่ด้วย ไจ่ไจ๋จึงชะงักไป
"น่ารำคาญชะมัด!" พูดจบก็เดินหนีออกไปหน้าบ้าน "อ้าว!" ไจ่ไจ๋ทำหน้าผิดหวังก่อนจะหันมาทางแม่และพี่ชายอีกสองคน
"ไม่เกี่ยวโว้ย! ไปง้อเอาเอง!" เคนพูดแทนทุกคน ไจ่ไจ๋จึงทำหน้ามุ่ยใส่แต่ก็รีบวิ่งตามพี่ใหญ่ออกไป
"พี่ใหญ่ครับ! รอผมด้วย!" ร้องเรียกพี่ชายแล้ววิ่งหายออกไปอีกคน
"ฮ่าๆๆๆ!!! พี่ใหญ่นี่ก็ฟอร์มจัดเหลือเกิน!" แวนเนสหลุดหัวเราะออกมาคนแรก "รับรองว่าไอ้ตัวดีง้อจนเหนื่อยแหงๆ" เคนพูดเสริม
"แม่ว่าก็ยังดีที่พี่ใหญ่ของลูกยอมให้น้องพูดง้อ ไม่งั้นน้องชายของลูกสองคนได้ขึ้นไปนอนร้องไห้ขี้มูกโป่งแน่" จบคำของแม่เสียงหัวเราะก็ดังขึ้นพร้อมกัน
Create Date : 17 มิถุนายน 2557 | | |
Last Update : 25 กันยายน 2557 22:27:33 น. |
Counter : 1873 Pageviews. |
| |
|
|
|