Chapter 31

ตอนที่ 31

"เขาเป็นยังงัยบ้างครับหมอ?" เจอร์รี่ถามทันทีที่หมอตรวจอาการน้องเสร็จ

"ทำงานหนักเกินไปหน่อยน่ะ ร่างกายเลยรับไม่ไหว ให้พักผ่อนซักสองสามวันก็ดีขึ้นแล้ว" หมอตอบพลางกับคลี่รอยยิ้มให้เพื่อที่ไม่ให้ญาติคนป่วยเป็นกังวล

"หมอให้ทานยาลดไข้ ฉีดยาบำรุงแล้วก็ให้น้ำเกลือแล้ว ญาติเชิญเข้าเยี่ยมได้แล้วครับ" พูดจบหมอก็ก้มหัวให้แล้วเดินจากไป เจอร์รี่ก้มหัวตอบอย่างสุภาพ

"หายห่วงแล้วใช่มั๊ย?" เสี่ยวจือว่าพร้อมกับตบไหล่เจอร์รี่

"เข้าไปหาแวนเนสกันเถอะ" เอ่ยชวนพร้อมกับดึงมือเจอร์รี่เพื่อจะเข้าไปเยี่ยมแวนเนสแต่เจอร์รี่กลับขืนตัวไว้แล้วส่ายหน้า

"ไม่หละครับ คุณอยากเข้าไปหาเขาก็ไปเถอะ ผมจะกลับบ้านแล้ว" เสี่ยวจือได้ยินก็ทำหน้างงๆ

"แต่ว่า...." ตั้งท่าจะแย้งแต่เจอร์รี่ก็พูดแทรกขึ้นมาอีก

"ในเมื่อมันไม่เป็นไรแล้วผมจะสนใจอีกทำไมกัน" พูดจบก็เดินจากไปทันที เสี่ยวจือถอนหายใจพร้อมกับส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย

"เป็นงัยบ้าง?" เสี่ยวจือถามพร้อมกับเดินเข้ามาดูแวนเนสที่เตียง

"เจอร์รี่หละครับ?" แวนเนสไม่ตอบแต่ถามถึงพร้อมกับมองหาพี่ชาย เสี่ยวจือทำหน้าลำบากใจเล็กน้อย

"เห็นบอกจะกลับบ้าน คงไปอาบน้ำอาบท่าหละมั้ง?" เสี่ยวจือตอบเลี่ยงๆแต่แวนเนสหน้าเศร้าลงทันตาเห็น

"ผมผิดเองที่ดื้อไม่เชื่อฟังเขาตั้งแต่แรก รู้ทั้งรู้ว่าไม่ไหวผมยังฝืนตัวเองอีก เจอร์รี่เขาโกรธก็สมควรแล้ว" พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย

"ไม่เอาน่า! เจอร์รี่โกรธอะไรที่ไหนกัน? เขาเป็นคนพาเธอมาโรงพยาบาลเองเลยนะ" เสี่ยวจือพูดปลอบใจ

"ต่อไปนี้เป็นอะไรก็บอกกันตรงๆ เรื่องงานน่ะมันไม่สำคัญไปกว่าสุขภาพของเธอหรอกนะ ถ้าไม่ไหวก็บอกชั้นมาอย่าทำแบบนี้อีก" พูดต่อเป็นเชิงตักเตือน

"ครับ ต่อไปผมจะไม่ดื้อแบบนี้อีกแล้ว" แวนเนสรับปากง่ายๆ

"ดีมาก วันนี้เธอทำให้ทีมงานตกใจกันแทบแย่ หลังจากพาเธอมาโรงพยาบาลโทรศัพท์ชั้นยังดังไม่หยุดเลยทั้งทีมงานทั้งนักข่าวโทรมาถามกันให้วุ่นไปหมด" แวนเนสได้ยินก็ยิ่งรู้สึกผิดที่ทำให้เดือดร้อนกันไปทั่ว

"ขอโทษครับเสี่ยวจือ ผมทำให้คุณเดือดร้อนอีกแล้ว" เสี่ยวจือเอามือตบไหล่แวนเนสเบาๆ

"ไม่ต้องคิดมาก เรื่องแค่นี้สบายมาก ปัญหาหนักกว่านี้ชั้นก็เคยเจอมาหมดแล้ว พักผ่อนให้สบายเถอะนะ ชั้นอยู่เป็นเพื่อนเอง" แวนเนสไม่ตอบว่าอะไรแต่หลับตาลงเสียเฉยๆแล้วก็ผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย

"เอ่อ.....คุณเสี่ยวจือคะ....." นางพยาบาลเข้ามาพร้อมกับเรียกเสี่ยวจืออย่างสุภาพ

"ครับ?" เสี่ยวจือลุกขึ้นพร้อมกับตอบรับเป็นเชิงถาม

"ญาติของคุณแวนเนสฝากมาบอกคุณว่าคุณไม่ต้องอยู่เฝ้าคนไข้ก็ได้ค่ะ คือว่าเขาจ้างพยาบาลส่วนตัวมาดูแลคุณแวนเนสเรียบร้อยแล้วค่ะ" เสี่ยวจือได้ยินดังนั้นก็ทำหน้าบอกไม่ถูกเพราะไม่นึกว่าเจอร์รี่จะโกรธแวนเนสจนไม่ยอมเข้ามาเยี่ยมจริงๆ

"เดี๋ยวปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพยาบาลดีกว่านะคะ" เสี่ยวจือได้แต่ก้มหัวรับแล้วฝากฝังกับนางพยาบาลให้บอกแวนเนสว่าจะมาเยี่ยมใหม่ จากนั้นก็กลับไปอีกคน แวนเนสหลับไปนานจนมารู้สึกตัวอีกทีก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว

"ตื่นแล้วหรอคะ? งั้นเชิญทานข้าวค่ะ" เสียงนุ่มนวลนั้นทำให้แวนเนสต้องเบนสายตาไปทางต้นเสียง

"คุณ....." แวนเนสทำหน้างงๆเมื่อเห็นว่าหญิงสาวจัดแจงอาหารการกินให้เขา

"ชั้นเป็นพยาบาลพิเศษค่ะ พี่ชายคุณจ้างให้ชั้นมาดูแลคุณ" คำตอบนั้นทำเอาแวนเนสมีสีหน้าสลดลง

"ผมไม่หิวครับ" แวนเนสปฏิเสธทันที

"เอ่อ.....ทานหน่อยเถอะค่ะ ร่างกายคุณไม่แข็งแรงหากไม่ทานอะไรเลยคุณหมอจะไม่อนุญาตให้กลับบ้านนะคะ" เธอพยายามพูดกับแวนเนสอย่างอ่อนโยน

"ผมก็ไม่ได้อยากกลับบ้านอยู่แล้ว" แวนเนสบอกแล้วหลับตาลงอีกครั้ง รู้สึกเสียใจที่พี่ชายไม่สนใจ

"งั้นคุณต้องถูกฉีดยาอีกนะคะ แถมยังต้องให้น้ำเกลือต่ออย่างไม่มีกำหนดอีก" คำขู่นั้นไม่ได้ทำให้แวนเนสสะดุ้งสะเทือนเลย

"ผมอยากพักผ่อนครับ แล้วจะขอบคุณมากหากคุณปล่อยให้ผมได้พักผ่อนคนเดียวเงียบๆ" พูดจบแวนเนสก็ไม่สนใจกับคู่สนทนาอีกเลย



- ที่บ้าน -

"กลับมาแล้วครับ" ไจ่ไจ๋เอ่ยขึ้นอย่างเสียไม่ได้เมื่อเห็นพี่ชายมองมา

"อืม" เจอร์รี่ตอบรับแล้วก็ไม่ได้สนใจน้องชายอีก ไจ่ไจ๋เดินเลยขึ้นห้องเพื่อจะไปหาแวนเนสแต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อไม่เห็นพี่ชายอยู่ที่ห้อง

"พี่รองไปไหน?" พึมพำถามตัวเองอย่างงงๆเพราะรู้ดีว่าแวนเนสไม่สบายอยู่พี่ใหญ่ต้องไม่ยอมให้ไปทำงานอย่างแน่นอน

"พี่รองครับ" ไจ่ไจ๋ร้องเรียกพี่ชายแล้วเดินหาจนทั่วชั้นบนของบ้านแต่ก็ไม่เจอจึงลงมาข้างล่าง

"พี่รองอยู่ไหนครับ?" จำใจถามพี่ชายคนโต เจอร์รี่ยักไหล่พร้อมกับถอนหายใจเบาๆแต่ยังไม่ทันตอบเสียงรายงานข่าวบันเทิงก็รายงานข่าวว่าแวนเนสทรุดกระทันหันในระหว่างถ่ายแบบ ไจ่ไจ๋มองดูข่าวนั้นอย่างตกใจ

"พี่ใหญ่! ข่าวนี่จริงหรอ?" หันกลับมาถามเมื่อดูข่าวจบ พี่ใหญ่พยักหน้าขรึมๆ

"แล้วทำไมพี่ไม่ไปอยู่กับพี่รองหละ? แล้วทำไมพี่ไม่บอกผม?" ถามพี่ชายต่อเป็นชุด

"มันไม่ได้เป็นอะไรหนิ นายเองก็ได้ยินแล้วว่ามันไม่ได้รับอันตรายเลยซักนิด" เจอร์รี่พูดอย่างไม่สนใจ คำพูดของพี่ชายทำเอาไจ่ไจ๋ชะงักงัน

"พี่หมายความว่างัย? พี่รองป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลแต่พี่กลับทำเหมือนพี่รองแค่เดินสะดุดก้อนหินอย่างงั้นน่ะหรอ?" พี่ใหญ่ยังคงเฉยทำเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของน้องชาย

"พี่น่ะใจร้ายที่สุดรู้ตัวหรือเปล่า? คนใจร้าย!!!" พูดจบไจ่ไจ๋ก็ผลุนผลันไปโรงพยาบาลทันที ทิ้งให้เจอร์รี่ได้แต่สะอึกกับคำต่อว่าของน้องชาย

"พี่รอง!!" ไจ่ไจ๋ร้องเรียกพี่ชายทันทีที่เปิดประตูได้

"ไจ่ไจ๋" แวนเนสเรียกน้องด้วยน้ำเสียงดีใจ

"พี่รอง! ผมขอโทษครับที่มาช้า ผมเพิ่งรู้ข่าว" ไจ่ไจ๋โผเข้ากอดพี่ชายพร้อมกับกล่าวขอโทษ

"ไม่เป็นไรไจ่ไจ๋ อย่างน้อยนายก็ยังมา" แวนเนสพูดแล้วมองหน้าน้องชายน้ำตาคลอ

"พี่รอง ผมจะอยู่เป็นเพื่อนพี่เองนะ" ไจ่ไจ๋พูดกับพี่ชายอย่างเข้าใจ

"ขอบใจมากนะไจ่ไจ๋ พี่ขอบใจนายมาก" แวนเนสพูดกับน้องอย่างซาบซึ้ง

"แล้ว....." จะถามถึงพี่ชายแต่ไจ่ไจ๋ก็แทรกขึ้นมาก่อน

"พี่ไม่ต้องไปคิดถึงคนอื่นเลยนะครับ ผมจะดูแลพี่เอง พี่ต้องการอะไรแค่บอกผมมาคำเดียว ผมจะหามาให้พี่ทุกอย่าง" แวนเนสเอื้อมมือมาลูบหน้าน้องอย่างอ่อนโยน

"ขอบใจมากนะ" ขอบคุณน้องชายอีกครั้ง

"พี่กินข้าวหรือยัง? กินอะไรบ้างหรือยังครับ?" แวนเนสส่ายหน้าช้าๆ

"ทำแบบนี้ได้ยังงัยกัน? พี่ต้องกินนะครับ ผมจะบอกให้พยาบาลหาอะไรให้พี่กินนะ" พูดจบไจ่ไจ๋ก็เดินไปกดอินเตอร์โฟนขออาหารมาให้พี่ชาย ซักพักอาหารก็ถูกยกมาให้ตามต้องการ

"ผมจัดการเองครับ ขอบคุณมากๆเลย" ไจ่ไจ๋กล่าวขอบคุณพยาบาลแล้วรีบเอาอาหารมาให้แวนเนส

"น่ากินทั้งนั้นเลย พี่รีบกินเร็ว ผมจะป้อนให้" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็ตักอาหารมาป้อนให้พี่ชายกิน

"ไม่อร่อยหรอ?" น้องเล็กถามพี่ชายที่เคี้ยวข้าวอยู่แต่กลับมีน้ำตาคลอ

"เปล่าหรอก มันอร่อยมากเลยต่างหาก" แวนเนสตอบพร้อมกับยิ้มให้น้อง

"งั้นพี่ก็ต้องกินเยอะๆนะ ร่างกายจะได้แข็งแรง" น้องเล็กว่าพร้อมกับตักข้าวป้อนพี่ชายอีก ในขณะนั้นเสียงโทรศัพท์ของแวนเนสก็ดังขึ้น

"หยิบให้พี่ทีสิ" แวนเนสไหว้วานน้องชาย

"พี่กลางโทรมาหาแหนะ" ไจ่ไจ๋มองเบอร์ที่โชว์อยู่บนหน้าจอแล้วส่งให้พี่ชาย

"แวนเนส! นายเป็นยังงัยมั่งเนี่ย? ทำไมถึงไม่มีใครโทรบอกชั้นเลย เห็นข่าวในทีวีตกใจแทบตาย โทรไปหาเจอร์รี่มันก็กวนชะมัด ถามอะไรก็บอกให้โทรหานายเอง" ทันทีที่รับสายเคนก็ร่ายยาวออกมาทันที

"ชั้นไม่เป็นไรมากหรอก ไม่ต้องห่วงนะเสี้ยวเทียน" แวนเนสตอบพร้อมกับพูดปลอบน้องชาย

"อย่ามาโกหกชั้นหน่อยเลย ไม่เป็นไรมากทำไมต้องเข้าโรงบาลด้วย? ไปนอนเล่นหรืองัย?" เสียงเคนตอบกลับมาอย่างไม่เชื่อ

"แหม....ชั้นก็อยากให้มีคนเอาใจชั้นมั่งสิ อยู่นี่นะนางพยาบาลสวยๆเยอะแยะ แถมชั้นยังได้รับอภิสิทธิ์พิเศษจากพี่ใหญ่อีกนะเพราะพี่ใหญ่น่ะจ้างพยาบาลมาดูแลชั้นโดยเฉพาะเลย ถ้าเป็นพวกนายน่ะไม่มีทางได้รับสิทธิแบบชั้นหรอก" แวนเนสแกล้งพูดติดตลกทั้งๆที่ในใจแทบอยากร้องไห้ที่พี่ชายไม่มาสนใจใยดีเขาเลย
"พูดเป็นเล่นอีกแล้ว! เจอร์รี่อยู่หรือเปล่า? ชั้นขอคุยกับมันหน่อยสิ" เคนถามพี่ชายกลับมา

"ไม่อยู่ มีแต่ไจ่ไจ๋" แวนเนสตอบสีหน้าสลดลงอีกครั้ง

"อ้าว! แล้วมันไปไหน?" แวนเนสได้ยินน้องถามก็เปลี่ยนเรื่องเอาดื้อๆ

"เมื่อไหร่นายจะกลับหละเสี้ยวเทียน? ชั้นมีเรื่องอยากเม้าท์เยอะแยะเลย" เสียงน้องชายเงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะมีคำถามตามมาอีก

"แวนเนส นายกับเจอร์รี่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันใช่มั๊ย?" แวนเนสได้ยินก็พลอยเงียบไปด้วย

"พี่รอง ทำไมไม่คุยหละ?" ไจ่ไจ๋เห็นพี่ชายเงียบไปนานผิดปกติจึงเอ่ยถามขึ้นมา

"นายคุยกับพี่เขาไปก่อนแล้วกันนะ พี่อยากเข้าห้องน้ำซักหน่อย" พูดจบแวนเนสก็ลงจากเตียงแล้วเข็นสายน้ำเกลือเข้าไปในห้องน้ำเสียเฉยๆ น้องเล็กมองตามพี่ชายงงๆ

"พี่กลาง คุยอะไรกันน่ะ? ทำไมพี่รองดูท่าทางแปลกๆ" น้องเล็กคุยโทรศัพท์กับเคนแทน

"ไจ่ไจ๋ พี่ใหญ่มาที่โรงพยาบาลหรือเปล่า?" เคนถามน้องด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน

"ไม่มา ผมเองก็ไม่รู้พี่เขาเป็นอะไร แต่เมื่อคืนผมกับพี่ใหญ่ทะเลาะกันนิดหน่อย" ไจ่ไจ๋บอกพี่ชายไปตามตรง

"ทะเลาะกันเรื่องอะไร?" เคนซักถามกลับมาอีก

"เรื่องค่าโทรศัพท์ของผมครับ แต่ผมไม่เห็นทีท่าว่าพี่ใหญ่กับพี่รองจะทะเลาะกันนะครับ" ไจ่ไจ๋พูดต่ออย่างพอจะรู้ว่าเคนคิดอะไรอยู่

"งั้นทำไมพี่ใหญ่ถึงไม่มาโรงพยาบาล? ปกติแล้วถ้าพวกเราคนใดคนหนึ่งป่วยจนถึงกับต้องเข้าโรงบาลพี่ใหญ่จะต้องนั่งเฝ้าไม่ห่างเลยนะ" น้องเล็กได้ยินก็เห็นด้วยกับคำพูดของพี่ชายเช่นกัน

"เอางี้....นายลองถามๆพี่รองเขาดูแล้วกัน ส่วนพี่จะลองโทรหาพี่ใหญ่อีกที ได้เรื่องยังงัยแล้วเราค่อยคุยกันอีกทีนะ" เคนสรุปแล้วตัดสายไป ในขณะนั้นแวนเนสก็ออกมาจากห้องน้ำพอดี ไจ่ไจ๋จึงรีบลุกไปช่วยให้พี่ชายกลับมาที่เตียง

"พี่รองครับ ข่าววันนี้เขาว่าพี่น็อคในระหว่างที่ถ่ายแบบเลย วันนี้พี่ไปทำงานด้วยหรอ?" ไจ่ไจ๋เลียบๆเคียงๆถามพี่ชาย

"อืม....ไจ่ไจ๋ พี่อิ่มแล้ว พี่ขอพักผ่อนนะ" แวนเนสตัดบทน้องแทบจะในทันทีเมื่อรู้ว่าน้องพยายามจะซักถามเรื่องราวเอาจากเขา

"อิ่มแล้วหรอพี่รอง กินไปนิดเดียวเองนะ" น้องเล็กว่าพร้อมกับมองข้าวในถาดนั้น

"อิ่มแล้ว ถ้าพี่กินมากๆแล้วมันก็จะอาเจียนออกมาหมด กินได้แค่นี้ก็ดีแล้วหละ" พูดจบแวนเนสก็เอนตัวนอนลงที่เตียงแล้วหลับตาทันที ไจ่ไจ๋มองพี่ชายไม่รู้จะทำยังงัยจึงปล่อยตามใจพี่ชาย

"งั้นพี่นอนพักไปก่อนนะครับ เดี๋ยวผมขอลงไปหาอะไรมากินหน่อย ยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย" น้องเล็กว่าแล้วห่มผ้าให้พี่ชาย

"ตามสบายเลย ไม่ต้องรีบนะไจ่ไจ๋ พี่คงนอนยาว" แวนเนสว่าแล้วก็หลับตานอนทันที

"ผมรักพี่นะครับ" น้องเล็กกระซิบข้างหูพี่ชายเบาๆก่อนที่จะออกจากห้องไป เมื่อน้องออกไปแล้วแวนเนสก็มองไปที่ประตูอย่างรอคอย รออย่างหวังว่าพี่ใหญ่จะเปิดประตูเข้ามาเยี่ยมเขาแต่ก็ไม่มีวี่แววอย่างที่เขาหวังเลย ดังนั้นแวนเนสจึงพลิกตัวหันไปอีกทางหนึ่งแล้วนอนร้องไห้เงียบๆอยู่คนเดียว

"ไจ่ไจ๋!" ไจ่ไจ๋หันไปตามเสียงเรียกเมื่อเห็นเสี่ยวจือส่งยิ้มให้เขาก็เดินเข้าไปหาทันที

"เสี่ยวจือมาเยี่ยมพี่รองหรอครับ?" ไจ่ไจ๋เอ่ยทักทาย

"อืม....ว่าจะมาดูซักหน่อยแต่เมื่อกี้ขึ้นไปแล้วมันหลับอยู่" เสี่ยวจือตอบ

"ครับ ผมถึงลงมาหาอะไรกินได้งัย" ไจ่ไจ๋ตอบยิ้มๆแต่แล้วก็ทำหน้านึกขึ้นได้

"เสี่ยวจือครับ คุณพอจะรู้หรือเปล่าว่าพี่ใหญ่กับพี่รองเขาทะเลาะอะไรกัน?" เสี่ยวจือได้ยินก็ถอนหายใจเบาๆแล้วมองหาที่นั่งก่อนที่จะชวนไจ่ไจ๋ไปนั่งคุยกัน

"เมื่อเช้าเจอร์รี่เขาไม่อยากให้แวนเนสไปทำงานน่ะ แต่ทีนี้แวนเนสก็ดึงดันจะไปให้ได้ เจอร์รี่ก็เลยตามใจแต่เขาก็ตามไปด้วย" เสี่ยวจือเริ่มต้นเล่าให้ไจ่ไจ๋ฟัง

"หมายความว่าวันนี้พี่ใหญ่ก็อยู่กับพี่รองน่ะสิครับ" ไจ่ไจ๋ถามต่ออีก

"ใช่.....แล้วพอตกช่วงบ่ายแวนเนสก็เริ่มดูท่าทางไม่ดีเอามากๆ เจอร์รี่ก็เลยไม่อยากให้ทำงานต่อเลยจะไปบอกทีมงานเพื่อขอพาแวนเนสไปหาหมอ แต่ทีนี้แวนเนสก็ไม่ยอมอีกเลยเถียงกันแล้วแวนเนสก็ไปทำงานต่อ" เสี่ยวจือหยุดเล่าแล้วมองหน้าไจ่ไจ๋เล็กน้อย

"ส่วนเจอร์รี่ก็คงโมโหเลยจะกลับบ้านแต่ในระหว่างนั้นแวนเนสกลับเป็นลมล้มพับไปเฉยๆ เจอร์รี่ก็เป็นคนจัดการพาแวนเนสมานอนโรงบาลนี่แหละ แล้วเรื่องราวต่อจากนั้นเธอเองก็คงได้เห็นแล้ว" ไจ่ไจ๋ฟังจบก็พอเข้าใจเรื่องราวทุกอย่างทันที

"พี่ใหญ่ก็เป็นแบบนี้แหละครับ เวลาโกรธหรือโมโหพวกเราก็จะทำไม่เป็นสนใจทั้งที่จริงๆแล้วห่วงแทบตาย" ไจ่ไจ๋พูดถึงพี่ชายคนโตพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ

"แบบนี้พี่รองคงเสียใจแย่เพราะพี่เขาสองคนสนิทกันมาก" เสี่ยวจือเองก็พลอยเงียบไปด้วย

"เสี่ยวจือครับ ผมขอบคุณมากที่มา แต่คืนนี้ผมจะเฝ้าไข้พี่รองเองครับ คุณกลับไปก่อนเถอะไม่ต้องห่วง" ไจ่ไจ๋พูดกับเสี่ยวจืออย่างเกรงใจ

"อืม....มีอะไรขาดเหลือก็โทรบอกชั้นแล้วกัน ถ้าแวนเนสตื่นแล้วก็บอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ชั้นมาใหม่" พูดจบก็ตบไหล่ไจ่ไจ๋เบาๆ

"ขอบคุณครับ งั้นผมขอตัวขึ้นไปหาพี่รองนะครับ" พูดจบไจ่ไจ๋ก็ก้มหัวให้แล้วเดินกลับขึ้นไปบนตัวอาคาร เสี่ยวจือมองตามไจ่ไจ๋แล้วจึงหมุนตัวเดินไปที่ลานจอดรถของโรงพยาบาลแต่เมื่อเห็นเจอร์รี่เพิ่งจอดรถเสร็จแล้วก้าวลงมาเขาก็รีบเดินเข้าไปหาทันที

"เจอร์รี่ ยอมมาได้แล้วหรอ? ทักทายเจอร์รี่ด้วยสีหน้ายิ้มๆ

"เปล่าหรอกครับ ผมแค่มาจัดการเรื่องค่าใช้จ่าย" เจอร์รี่ตอบด้วยสีหน้าขรึมๆ

"เฮ่อ! เจอร์รี่.....ชั้นรู้ว่าเธอโกรธแวนเนสที่เขาไม่เชื่อฟังเธอ แต่ตอนนี้แวนเนสนอนป่วยอยู่ เขาต้องการการดูแลต้องการกำลังใจต้องการคำปลอบโยนจากเธอมากที่สุดนะ" เสี่ยวจือพูดเตือนสติเจอร์รี่

"คิดดูเอาเถอะว่าในขณะที่เธอกำลังลงโทษน้องอยู่ยังมีอีกตั้งกี่คนกันที่ชื่นชมกับสปิริตนักแสดงของแวนเนส? ทุกอย่างไม่ได้มีแต่ข้อเสียเสมอไปหรอกจริงมั๊ย?" พูดจบเสี่ยวจือขอตัวกลับก่อน เจอร์รี่มองตามรถของเสี่ยวจือที่แล่นออกไปจนลับตา แล้วจึงเดินขึ้นไปหาน้องที่ห้องพักผู้ป่วย

"อ้าว.....คนไข้ไปไหนแล้วครับ?" เจอร์รี่เอ่ยถามเมื่อเห็นนางพยาบาลกำลังเก็บถาดอาหารอยู่

"ญาติพาออกไปเดินเล่นข้างนอกค่ะ" นางพยาบาลตอบ

"งั้นหรอครับ? ขอบคุณมากครับ" พูดจบเจอร์รี่เดินกลับออกไปอีกครั้ง เขาเดินตามหาจนเจอน้องชายทั้งสองคน

"นั่งสิไจ่ไจ๋" แวนเนสบอกน้องชายที่กำลังยุ่งอยู่กับการจัดวางสายน้ำเกลือให้ตัวเอง

"พี่ไม่ควรออกมาข้างนอกตอนนี้เลยนะครับ ลมแรงออก" น้องเล็กต่อว่าพี่ชายเป็นเชิงบ่นก่อนที่จะมานั่งลงข้างๆพี่ชาย เจอร์รรี่หยุดยืนดูน้องชายทั้งคู่อยู่เงียบๆ

"พี่ไม่อยากอุดอู้อยู่แต่ในห้องน่ะ" แวนเนสแก้ตัวกลายๆ

"ผมโทรคุยกับพี่กลางแล้วนะครับ พี่กลางบอกว่าเดี๋ยวจะเฉ่งพี่ใหญ่เอง" ไจ่ไจ๋พูดแบบติดตลก

"อย่าว่าพี่ใหญ่เขาเลย พี่ไม่ดีเองนั่นแหละ สมควรแล้วหละที่พี่เขาจะไม่มาดูดำดูดีพี่เลย" พูดมาถึงตรงนี้สีหน้าแวนเนสก็เศร้าลงอีก

"พี่รอง อย่าคิดมากสิ พี่ไม่ได้ทำผิดอะไรร้ายแรงซักหน่อย พี่ใหญ่น่ะหวังแต่จะให้พวกเราเชื่อฟังเขาตลอดแต่ทำไมพี่เขาไม่คิดบ้างหละว่าพวกเราก็มีความคิดเป็นของตัวเองเหมือนกัน ผมรู้นะครับว่าที่พี่รองยังฝืนตัวเองทำงานต่อไปทั้งๆที่ไม่สบายน่ะเพราะพี่รองไม่อยากเป็นต้นเหตุที่ทำให้ทุกคนต้องเลื่อนงานออกไปเพราะพี่คนเดียว" แวนเนสเหลือบมองน้องชายแล้วพยักหน้ารับตามจริง

"นายพูดถูกพี่ไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะพี่จริงๆ เพราะถ้าวันนี้พี่ฝืนตัวเองทำงานให้ผ่านไปได้แล้ว วันอื่นๆทุกคนก็จะได้ไม่ต้องมาทำงานอีก พวกเขาจะได้หยุดพักผ่อนกัน บางคนอาจพาครอบครัวไปเที่ยว บางคนอาจใช้เวลาอยู่กับแฟน บางคนอาจได้ทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ" เจอร์รี่ได้ยินเหตุผลน้องก็อึ้งๆไปเพราะนึกไม่ถึงว่าน้องจะใส่ใจกับคนรอบข้างมากขนาดนี้

"ว่าแต่นายเองเถอะไจ่ไจ๋ วันนี้ไปโรงเรียนทำไม? นายยังไม่หายดีเลยนะ" แวนเนสหันมาต่อว่าน้องชายบ้าง ไจ่ไจ๋มองหน้าพี่ชายแล้วก้มหน้านิ่งไม่ตอบ

"เมื่อคืนที่พี่เขาพูดเรื่องค่าโทรศัพท์ของนายน่ะ ความจริงแล้วมันเป็นความคิดของพี่เองนะ" ไจ่ไจ๋ได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองพี่ชายอีกครั้ง

"ความคิดของพี่หรอ? นี่พี่ไม่เห็นด้วยที่ผมคบกับหลิงหลิงหรืองัย?" ไจ่ไจ๋ย้อนถามพี่ชายกลับไปทันที

"ไม่ใช่อย่างนั้น พี่เห็นด้วยแล้วก็ยินดีถ้าหากนายจะคบกับหลิงหลิง แต่ถ้านายจะคบกับใครแล้วนายเองก็ไม่ควรทำให้คนอื่นเห็นข้อบกพร่องจากการที่นายคบกับใครนะ" แวนเนสอธิบายให้น้องฟัง

"ผมมีข้อบกพร่องตรงไหน?" น้องเล็กย้อนถามอย่างไม่เข้าใจนัก

"เมื่อก่อนเวลากลับมาจากมหาลัยแล้วนายจะมานั่งลงกับพวกพี่แล้วบอกเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้พวกพี่ฟังใช่มั๊ย? แต่เดี๋ยวนี้นายกลับมาถึงนายก็รีบขึ้นไปหมกตัวอยู่แต่ในห้อง เวลาอาหารทีก็ต้องให้ขึ้นไปตาม พอถึงวันหยุดนายจะมีการอ่านหนังสือทบทวนบทเรียน แต่เดี๋ยวนี้นายกลับออกไปข้างนอกตลอด" ได้ยินเช่นนี้ไจ่ไจ๋ก็เงียบไป

"พวกพี่น่ะไม่ขัดข้องอะไรหรอกหากว่านายต้องการเวลาส่วนตัวมากขึ้น แต่นายเองก็ไม่ควรเอาเวลาทั้งหมดไปทุ่มให้ใครคนเดียวนะ" ไจ่ไจ๋ยังคงนั่งเงียบเช่นเดิม

"พี่เองก็มีแฟนเหมือนๆกับนาย แต่พี่ไม่เห็นต้องโทรคุยกันตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องไปหากันทุกวัน ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไรอยู่ เพราะถ้าพี่ทำแบบนั้น ซักวันนึงคงจะต้องถึงจุดอิ่มตัวแล้วทุกอย่างมันจะเริ่มลดระดับลง จนถึงวันหนึ่งมันอาจจะตกลงไปอยู่จุดต่ำสุดก็ได้" แวนเนสวางมือบนไหล่น้องชาย

"พี่เชื่อว่านายคงเข้าใจในสิ่งที่พี่พูดนะ" คราวนี้น้องเล็กสบตากับพี่ชายตรงๆ

"พี่รองครับ ผมขอบคุณพี่มากเลยที่เตือนสติผม แล้วก็ขอโทษด้วยที่ผมไม่ได้สนใจคนอื่นมากเท่าที่ควร" ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับเอ่ยขอบคุณพี่ชายจากใจจริง

"นายเป็นเด็กดีมากเลยไจ่ไจ๋" แวนเนสเอ่ยชมแล้วโน้มหัวน้องมาซบลงที่ไหล่ตัวเอง เจอร์รี่มองน้องชายทั้งคู่แล้วยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะหันหลังเดินกลับไป

"พาพี่กลับห้องได้แล้วหละ" หลังจากนั่งคุยกันได้พักหนึ่งแวนเนสก็บอกให้น้องพากลับห้อง

"หยุดทำไมหละไจ่ไจ๋?" แวนเนสร้องถามเมื่อน้องชายหยุดชะงักไม่ยอมเดินเข้าไปในห้อง

"พี่รอง ผมว่าสงสัยเราเข้าห้องผิดกันแล้วหละมั้ง?" ไจ่ไจ๋หันไปพูดกับแวนเนส

"จะผิดได้ยังงัย? นี่มันเขียนชื่อพี่ชัดๆเลย" แวนเนสทำหน้าซื่อพร้อมกับชี้ป้ายชื่อหน้าประตูให้น้องดู

"พี่รองก็ดูในห้องสิ" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วเบนตัวหลบเพื่อให้แวนเนสมองเข้าไปข้างใน แวนเนสมองเข้าไปอย่างงงๆแล้วก็พบกับพี่ชายคนโตนั่งอยู่ข้างใน

"เจอร์รี่!" แวนเนสร้องเรียกอย่างดีใจแล้วก้าวพรวดเขาห้องไปโดยไม่สนว่าจะชนน้องชายจนแทบกระเด็น

"นายยอมยกโทษให้ชั้นแล้วใช่มั๊ย? นายหายโกรธชั้นแล้วใช่มั๊ย?" สอบถามพี่ชายเป็นการใหญ่ เจอร์รี่ลุกขึ้นยืนแต่สีหน้ายังคงนิ่งๆเลยทำให้แวนเนสชะงักไป

"อู้ยย....ชนเข้ามาได้ ดีใจอะไรนักหนาเนี่ย" น้องเล็กที่เดินตามเข้ามาบ่นอุบอิบพร้อมกับเอามือลูบแขนตัวเองไปด้วย

"อย่าโกรธชั้นอีกเลยนะ ชั้นขอโทษที่ไม่เชื่อฟัง ต่อไป....." แวนเนสยังพูดไม่ทันจบเจอร์รี่ก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน

"ถ้าพูดแล้วทำไม่ได้ก็อย่าพูดเลยดีกว่า มันจะทำให้เสียความรู้สึกกันเปล่าๆ" แวนเนสชะงักไปเมื่อได้ยินพี่ชายพูด

"ทำผิดแล้วก็ให้สัญญากับชั้นทุกครั้งว่าจะไม่ทำอีก แต่สุดท้ายนายก็ทำตามสัญญานั้นไม่ได้อยู่ดี" ได้ยินเช่นนั้นแวนเนสก็หน้าจ๋อยลงไปถนัดตา

"เฮ่อ!" พี่ใหญ่ถอนหายใจหนักๆ

"พี่ใหญ่ ทำไมต้องว่าพี่รองแบบนี้ด้วย? พี่รองไม่ได้ทำผิด พี่รองก็ต้องการทำงานของพี่เขาให้ดีที่สุดมันก็ไม่ต่างอะไรกับพี่เลย พี่เองก็เคยทำงานจนล้มป่วยเหมือนกัน แล้วเรื่องอะไรพี่ถึงต้องมาโกรธพี่รองมากขนาดนี้?" ไจ่ไจ๋ออกตัวปกป้องแวนเนส เจอร์รี่ได้ยินก็ถึงกับสะอึก

"ไจ่ไจ๋!" แวนเนสปรามน้องชายเบาๆ

"ไปที่เตียงเถอะครับพี่รอง" น้องเล็กว่าพร้อมกับพยุงแวนเนสไปนอนที่เตียงโดยไม่สนใจพี่ใหญ่อีก เจอร์รี่มองตามน้องชายทั้งคู่แล้วถอนใจออกมาอีกครั้ง

"ทำไมพี่ถึงต้องโกรธน่ะหรอ? เพราะพี่รักพวกนายมากงัย" พี่ใหญ่เอ่ยขึ้น

"เมื่อรักมากพี่ก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อปกป้องน้องของพี่ไม่ให้เจ็บป่วย ไม่ให้ลำบาก" แวนเนสกับไจ่ไจ๋หยุดชะงักเมื่อได้ยิน

"ถึงแม้สิ่งที่พี่ทำมันอาจเป็นการจู้จี้จุกจิกทำให้พวกนายรำคาญใจ แต่พี่ก็ต้องทำเพราะพวกนายเป็นน้องของพี่......." พี่ใหญ่มองน้องชายทั้งคู่ด้วยแววตาเจ็บปวด

"พวกนายไม่รู้หรอกว่าเวลาที่พวกนายเจ็บ พี่คนนี้จะเจ็บกว่าพวกนายแค่ไหน? เวลาที่นายป่วย ใจพี่จะว้าวุ่นมากมายเท่าไหร่?" พูดจบพี่ใหญ่ก็เดินออกจากห้องไปเงียบๆ ทิ้งให้น้องชายได้แต่นั่งอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน



- วันรุ่งขึ้น -

"สวัสดีค่ะ" เสียงทักทายนั้นทำให้เจอร์รี่ที่นั่งเหม่อเงยหน้ามองเจ้าของเสียง

"อ้าว! สวัสดีครับกลอเรีย มาเยี่ยมแวนเนสหรอ?" เจอร์รี่ทักทายเมื่อเห็นว่าเป็นคนรักของน้อง

"ค่ะ ชั้นเห็นข่าวเมื่อคืนนี้เลยโทรหาเขา แต่เขาไม่ยอมให้มาบอกว่าดึกแล้ว ก็เลยมาวันนี้ค่ะ" กลอเรียตอบพร้อมกับรอยยิ้ม

"งั้นขึ้นไปเลยครับ คงคุยอยู่กับไจ่ไจ๋" เจอร์รี่ตอบด้วยน้ำเสียงเนือยๆ

"พาชั้นไปหน่อยสิคะ ชั้นไม่รู้ว่าเขาพักห้องไหน พอดีไม่ได้ถามไว้" กลอเรียเซ้าซี้เพราะรู้มาจากแวนเนสว่าเจอร์รี่ยังโกรธเขาอยู่

"เอ่อ....ครับ...." แม้ไม่ค่อยอยากจะเยี่ยมหน้าขึ้นไปเท่าไหร่แต่เจอร์รี่ก็ปฏิเสธไม่ได้

"ชั้นซื้อผลไม้มาฝากแวนเนสด้วยค่ะ เห็นเขาบอกว่าอยากทานแอปเปิ้ล" ยกถุงแอปเปิ้ลขึ้นมาพร้อมชวนคุยอย่างร่าเริง

"หรอครับ ความจริงไม่ต้องลำบากก็ได้ มา....ผมถือให้....." กลอเรียยิ้มแล้วยื่นถุงแอปเปิ้ลให้เจอร์รี่

"เห็นข่าวบอกว่าแวนเนสเป็นลมไปในระหว่างถ่ายแบบเลยหรอคะ?" เอ่ยถามเจอร์รี่ขึ้นมาอีก

"ครับ แวนเนสเขาไม่ไหวแต่ก็ยังดื้อจะทำงานต่อให้ได้" เจอร์รี่ตอบพร้อมกับลอบถอนหายใจ จนเมื่อเดินมาถึงเจอร์รี่ก็เปิดประตูแล้วให้หญิงสาวเดินเข้าไปก่อน

"กลอเรีย!!" แวนเนสร้องเรียกคนรักอย่างดีใจแล้วมองเลยไปที่พี่ชาย

"เป็นยังงัยบ้างคะ?" ถามคนรักอย่างห่วงใย

"ดีขึ้นมากแล้วครับ" แวนเนสตอบพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ แล้วมองไปทางพี่ชายอีก

"ไจ่ไจ๋หละ?" เจอร์รี่ถามเสียงเรียบเมื่อเห็นน้องอยู่ในห้องคนเดียว

"ชั้นไล่ให้น้องไปเรียนแล้ว" แวนเนสตอบด้วยสีหน้าเจื่อนๆเพราะพี่ชายทำท่าทางเย็นชาใส่เขา

"เอ่อ....แวนเนสคะ....ทานแอปเปิ้ลนะ เดี๋ยวชั้นปอกให้" กลอเรียพูดขึ้นมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

"ครับ ขอบคุณมากนะ" แวนเนสตอบรับแล้วมองไปทางพี่ชายที่เดินไปทิ้งตัวนั่งที่โซฟารับรอง

"เขายังไม่หายโกรธผมเลย" แวนเนสปรับทุกข์กับคนรักเบาๆ

"ชั้นว่าเจอร์รี่ไม่ได้โกรธคุณแล้วหละค่ะ ดูเขาเป็นห่วงคุณมากเลยนะคะ" กลอเรียตอบแวนเนสเสียงเบาเช่นกัน

"แต่เขาไม่มาพูดคุยกับผมเลย เข้ามาทีไรก็นั่งเงียบๆอยู่แบบนั้น" แวนเนสแย้งแล้วมองไปทางพี่ชายที่นั่งเงยหน้าเอาหัวพิงพนักโซฟาและหลับตานิ่งๆ

"ผมไม่น่าดื้อกับเขาเลย เมื่อคืนเจ้าไจ๋ก็ดันพูดไม่เข้าหูเขาอีก เลยโดนเจอร์รี่ตัดพ้อเข้ามาบ้างคราวนี้เลยอึ้งกันหมด" พูดต่อพลางทำหน้าแหยๆ

"อย่าคิดมากสิคะ" หญิงสาวลูบแขนคนรักอย่างอ่อนโยน

"ทานแอปเปิ้ลดีกว่า" ว่าแล้วก็ส่งจานแอปเปิ้ลที่ปอกเสร็จแล้วให้แวนเนส

"ขอบคุณครับ" แวนเนสว่าแล้วรับแอปเปิ้ลมากิน

"ที่ร้านเป็นงัยบ้าง?" แวนเนสถามกลอเรีย

"ก็ดีค่ะ เออ....วันนี้ช่างจะมาปูพื้นตรงที่จะทำคอฟฟี่ชอปด้วย" หญิงสาวตอบแล้วพูดเสริม

"แล้วใครจะช่วยคุณดูหละ?" แวนเนสถามต่อ

"ชั้นนัดช่างช่วงสายๆค่ะ วันนี้คงอยู่ได้แป๊บเดียวนะ" กลอเรียตอบ ซึ่งทำให้แวนเนสหน้าเศร้าลงอีก

"แล้วคืนนี้จะแวะมาอีกค่ะ" พูดต่อพร้อมกับจับมือคนรักบีบเบาๆ

"ผมอยากให้คุณอยู่กับผม ไม่มีใครคุยเป็นเพื่อนผมเลย ผมเหงา" แวนเนสพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ

"อย่างอแงสิคะ นัดช่างไว้แล้วนะ" กลอเรียว่าพร้อมกับบีบจมูกแวนเนสอย่างรักใคร่

"เดี๋ยวคืนนี้ชั้นก็มาอีก" แวนเนสจับมือคนรักขึ้นมาจูบเบาๆ

"ผมไม่ให้คุณมาตอนกลางคืน เดี๋ยวคุณจะกลับบ้านลำบาก" แวนเนสว่า หญิงสาวย่นจมูกเล็กน้อย

"ชั้นไม่ใช่เด็กๆแล้วนะคะ กลับบ้านดึกไม่ลำบากซักหน่อย" เธอแย้งขึ้นมาเบาๆ

"ไม่เอา ก็ผมเป็นห่วงคุณนี่ ผู้หญิงสวยๆแบบคุณไปไหนมาไหนคนเดียวปลอดภัยซะที่ไหนกัน ถ้ามืดแล้วอย่ามาเลยนะ กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ" ว่าพลางลูบหัวเธออย่างรักใคร่

"ผมไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว นอนพักอีกซักคืนก็หาย" กลอเรียยิ้มแล้วพยักหน้า

"งั้นไว้ชั้นจะโทรมานะคะ" เธอว่าแล้วหันกลับไปปอกผลไม้ใส่จานอีกใบแล้วเอาไปให้เจอร์รี่

"เจอร์รี่คะ ทานผลไม้ค่ะ" กลอเรียเดินเข้าไปวางจานผลไม้ให้เจอร์รี่

"ขอบคุณมากครับ แต่เก็บไว้ให้แวนเนสเถอะครับ" เจอร์รี่เอ่ยขอบคุณพร้อมกับปฏิเสธกลายๆ

"แวนเนสทานไปแล้วหละค่ะ คุณเองมาเฝ้าไข้น้องก็ต้องทานอะไรบ้างนะคะ" กลอเรียตอบพร้อมกับพยักหน้าให้เจอร์รี่กินผลไม้

"ขอบคุณมากครับ คุณก็ทานด้วยกันสิ" เจอร์รี่ตอบรับแล้วชวนกลอเรียด้วยเช่นกัน

"ไม่หละค่ะ เดี๋ยวชั้นคงต้องไปแล้ว พอดีนัดช่างมาปูพื้นตรงส่วนที่จะขยายทำคอฟฟี่ชอปน่ะค่ะ" หญิงสาวว่าแล้วหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพาย

"งั้นเดี๋ยวผมเดินไปส่งนะ" เจอร์รี่เองก็ลุกขึ้นด้วยเช่นกัน

"ไม่ต้องหรอกค่ะ อยู่คุยกับแวนเนสเถอะค่ะ เห็นเขาบ่นว่าเหงาไม่มีคนคุยด้วยเลย" กลอเรียว่าแล้วก็ลาสองพี่น้องกลับ หลังจากกลอเรียกลับไปแล้วแวนเนสก็มองๆไปทางพี่ชายหลายครั้งแต่เจอร์รี่กลับทำเป็นไม่เห็นและไม่สนใจน้อง

"เฮ่อ! ทำไมโกรธนานแบบนี้วะ" แวนเนสพึมพำกับตัวเองอย่างอึดอัดเพราะปกติแล้วเขากับพี่ชายไม่ค่อยจะงอนกันนานๆแบบนี้ แต่แล้วเขาก็นึกวิธีการที่จะทำให้พี่ชายหันมาสนใจเขาได้ คิดได้ดังนั้นแล้วจึงรีบหยิบแอปเปิ้ลเข้าปาก

"แค่กๆๆๆ!!!" แวนเนสแกล้งไอแล้วเอามือจับที่คอตัวเอง เจอร์รี่ได้ยินก็หันไปมองและเมื่อเห็นน้องท่าทางของน้องชายก็ตกใจรีบปราดเข้าไปหาน้องทันที

"แวนเนส! เป็นอะไร?" ถามเสียงดังด้วยความตกใจ

"แอปเปิ้ล....ติดคอ...." แวนเนสตอบพลางไอไปด้วย พี่ใหญ่ดึงตัวน้องขึ้นมาแล้วลูบหลังให้น้องชาย แวนเนสได้ทีกอดพี่ชายเอาไว้

"หายหรือยัง?" พี่ใหญ่ถามพร้อมกับมือที่ยังลูบหลังให้น้อง

"แค่กๆๆ" แวนเนสแกล้งไอขึ้นมาอีกโดยที่ยังกอดพี่ชายไม่ปล่อย

"ดื่มน้ำหน่อยแล้วกัน" ว่าพร้อมกับจะดันตัวน้องออกแต่แวนเนสกลับไม่ยอมปล่อย เขายังกอดพี่ชายเอาไว้แล้วเอาหัวซบที่ไหล่พี่ชาย

"แวนเนส" เจอร์รี่เรียกน้องเบาๆ คราวนี้แวนเนสไม่ตอบแต่กอดพี่ชายแน่นขึ้น

"แวนเนส หายหรือยัง?" ถามย้ำอีกครั้งหนึ่งแต่แวนเนสก็ยังไม่ตอบ เจอร์รี่จึงรู้ว่านี่เป็นแผนการของเจ้าน้องชายตัวดี เขาเม้มปากด้วยรู้สึกโกรธมากขึ้นที่น้องหลอกเขาแบบนี้

"ปล่อยได้แล้ว" พูดเสียงห้วนๆแต่แวนเนสกลับไม่ยอมขยับตัวไปไหน

"ชั้นบอกให้ปล่อย" พูดย้ำเสียงเข้มพร้อมกับแกะมือน้องออกแต่แวนเนสเองก็ไม่ยอมเช่นกันเขาประสานมือที่กอดพี่ชายไว้แน่นไม่ให้พี่แกะได้

"ไม่ปล่อย จนกว่านายจะหายโกรธแล้วพูดคุยกับชั้นเหมือนเดิม" แวนเนสตอบทั้งๆที่ยังซบหัวอยู่ที่ไหล่ของพี่ชาย เจอร์รี่ไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่ยืนอยู่นิ่งๆเช่นนั้น

"เจอร์รี่ เมื่อไหร่จะหายโกรธชั้นซักที" แวนเนสถามเมื่อเห็นพี่ชายนิ่งเงียบไป

"พี่ใหญ่ครับ....อย่าโกรธชั้นเลย....." แวนเนสครางต่อเบาๆแต่ก็ไม่ยอมปล่อยพี่ชาย ในตอนนี้เองพี่ใหญ่รับรู้ถึงน้ำอุ่นๆที่หยดลงที่ไหล่ของเขาต่อจากนั้นไม่นานร่างของคนที่กอดเขาอยู่ก็สั่นไปด้วยแรงสะอื้น

"เงียบ!" พี่ใหญ่ทำเสียงดุทั้งๆที่รู้สึกใจอ่อนกับน้องเหมือนกันแต่ก็ต้องการจะทำให้น้องรู้สึกหลาบจำจากการที่ไม่เชื่อฟังเขา แวนเนสเองก็ยิ่งกอดพี่ชายแน่นขึ้นและร้องไห้หนักกว่าเดิมเพราะพี่ชายไม่ยอมโอ๋ซ้ำยังดุเขาอีก

"บอกให้เงียบ!" พี่ใหญ่เสียงดังกว่าเดิมพร้อมกับใช้มือจับแขนน้องทั้งสองข้างแล้วออกแรงผลักร่างน้องออก แวนเนสเงยหน้ามองพี่ชายทั้งน้ำตา

"หยุดร้องเดี๋ยวนี้!" เสียงเข้มขึ้นตามลำดับ แวนเนสเอามือปาดน้ำตาพยายามจะหยุดร้องไห้แต่น้ำตากลับไหลลงมาไม่หยุด

"ยังไม่หยุดอีกใช่มั๊ย!?" ไม่ดุเปล่าแต่เงื้อนมือขึ้นด้วย แวนเนสเห็นพี่ชายจะตีเลยเล่นปล่อยโฮออกมาเสียงดังลั่นห้อง ทำเอาเจอร์รี่ถึงกับชะงักไม่กล้าตี

"เกิดอะไรขึ้นคะ?" นางพยาบาลสาวสามสี่คนวิ่งหน้าตื่นเข้ามาเพราะเสียงร้องไห้ของแวนเนสดังออกไปถึงข้างนอก เจอร์รี่ลดมือลงแล้วทำหน้าแหยๆ

"เขาคงฝันร้ายน่ะครับ" ตอบเสร็จก็รีบเข้าไปจะปลอบน้องแต่แวนเนสขยับตัวหนี นางพยาบาลมองสองพี่น้องแล้วหันไปมองหน้ากันเอง

"แค่ฝันร้ายน่ะครับ" เจอร์รี่ยิ้มแหยๆพร้อมกับแก้ตัวกับนางพยาบาลอีกครั้งแล้วค่อยๆโน้มหัวน้องมากอดไว้กับอก

"เงียบได้แล้ว" ก้มหน้าลงพร้อมกับกัดฟันพูดกับน้องเบาๆ

"คนไข้ไม่เป็นอะไรแน่นะคะ" พยาบาลคนหนึ่งถามขึ้นอย่างไม่ค่อยแน่ใจ

"ไม่เป็นไรครับ เวลาฝันร้ายเขามักจะตื่นขึ้นมาร้องไห้แบบนี้บ่อยๆ ขอโทษที่ทำให้ตกใจครับ" เจอร์รี่เฉไฉออกนอกเรื่องพร้อมกับลูบหลังให้น้องไปด้วย

"ไม่ได้ฝันร้าย ก็นาย....." แวนเนสแย้งขึ้นพลางสะอึกสะอื้นแต่แล้วก็ทำหน้าเบ้แล้วร้องไห้โฮออกมาอีกรอบเพราะโดนพี่ชายหยิกที่หลังค่อนข้างแรง

"เงียบ!" เจอร์รี่ก้มหน้าลงดุน้องอีกครั้ง แต่แวนเนสหลับหูหลับตาร้องไห้เสียงดังลั่นอย่างไม่อาย

"คนไข้บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ?" นางพยาบาลคนเดิมถามขึ้นอีกครั้งแล้วเดินมาที่เตียง

"ไม่มีหรอกครับ เขาเป็นแบบนี้ประจำ ผมจัดการได้ครับ" เจอร์รี่รีบปฏิเสธแล้วเอ่ยไล่นางพยาบาลกลายๆ บรรดานางพยาบาลมองเจอร์รี่ด้วยสายตาไม่ไว้ใจแต่เห็นว่าเป็นญาติคนไข้จึงพากันออกจากห้องไป

"จะแหกปากร้องทำไม!?" เมื่อนางพยาบาลออกไปหมดพี่ใหญ่ก็เอ็ดใส่น้องทันที

"แล้วหยิกชั้นทำไม?" แวนเนสเถียงพลางสะอื้น

"หยิกแค่ทีเดียวมันยังน้อยไป!" พูดจบก็ทำท่าจะหยิกน้องอีกแต่แวนเนสก็แหกปากร้องขึ้นมาอีกเช่นกัน นางพยาบาลจึงเดินกลับเข้ามาอีก

"กรุณาเบาเสียงหน่อยได้มั๊ยคะ? คือว่าคนไข้ข้างห้องตกใจกันหมดแล้วค่ะ" เธอไม่ได้ตำหนิตรงๆแต่ก็รู้ว่าเธอกำลังตำหนิ เจอร์รี่ได้แต่ทำหน้าเจื่อนๆแล้วรั้งตัวน้องมากอดไว้

"เงียบ! ถ้าไม่อยากโดนอีกก็เงียบ!" ก้มหน้าลงพูดกับน้องด้วยน้ำเสียงดุๆ

"ถ้าเงียบแล้วห้ามหยิกอีกนะ" แวนเนสย้ำคำพี่ชาย

"อืม" เจอร์รี่พยักหน้ารับ

"แล้วนายต้องหายโกรธชั้นด้วย" แวนเนสต่อรองกับพี่ชายอีก เจอร์รี่ชะงักไปก่อนที่จะพยักหน้ารับขรึมๆ

"ห้ามดุชั้นด้วยนะ" เมื่อเห็นตัวเองเป็นต่อแวนเนสเลยได้ทีต่อรองใหญ่

"อย่าเรื่องมาก" เจอร์รี่กัดฟันพูดกับน้องแต่ก็ยิ้มแหยๆให้นางพยาบาลที่ยืนมองอยู่ด้วยเช่นกัน

"ถ้าไม่รับปาก....." แวนเนสว่าพร้อมกับทำท่าจะแหกปากร้องขึ้นมาอีกเจอร์รี่รีบเอามืออุดปากน้องไว้

"ไม่ดุก็ได้" รับคำน้องอย่างเคืองๆ แล้วก็ได้ผลเพราะแวนเนสเงียบเสียงลงทันที

"ขอโทษจริงๆครับ ฝากขอโทษคนไข้ห้องข้างๆด้วย" เจอร์รี่หันไปขอโทษนางพยาบาลหลังจากจัดการให้น้องเงียบเสียงลงได้แล้ว

"ขอบคุณค่ะ" เธอก้มหัวให้เขาเล็กน้อยแล้วเดินออกไป เจอร์รี่ถอนหายใจแล้วมองดูเจ้าน้องชายตัวดีที่กอดเขาไว้ไม่ยอมปล่อย

"แวนเนส เราโตแล้วนะทำไมถึงทำตัวเป็นเด็กๆแบบนี้ ไม่อายคนอื่นเขาหรืองัย?" แวนเนสส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ

"เฮ่อ! จริงๆเลยน้องคนนี้" บ่นพลางดันหัวน้องออกแล้วใช้มือเช็ดคราบน้ำตาให้น้อง จากนั้นก็ตั้งท่าจะต่อว่าน้องชายอีกแต่แวนเนสพูดแทรกขึ้นมาก่อน

"ห้ามดุ" ได้ยินดังนั้นพี่ใหญ่เลยได้แต่อ้าปากค้าง แวนเนสลอบยิ้มที่เอาชนะพี่ชายได้ เจอร์
รี่เม้มปากเล็กน้อยแต่แล้วก็ยิ้มน้อยๆที่มุมปากแล้วใช้มือตีก้นน้องชาย

"โอ้ย! ตีชั้นทำไม?" แวนเนสร้องโวยวายพลางเอามือลูบก้นไปด้วย

"ห้ามดุแต่ไม่ได้ห้ามตี" พี่ใหญ่ได้ทีพูดย้อน แวนเนสเลยกลายเป็นฝ่ายอ้าปากค้างบ้าง

"ฉะนั้นชั้นจะไม่ดุแต่ตีเลยละกัน" พูดจบพี่ชายก็ทำท่าตีซ้ำอีก

"พอแล้วๆๆๆ เจ็บแล้ว" จับมือพี่ชายเอาไว้พร้อมกับร้องอุทธรณ์ พี่ใหญ่ค้อนใส่แล้วขยับตัวขึ้นไปนั่งบนเตียงน้องชาย

"เจ็บแล้วก็หัดจำซะบ้างวันหลังจะได้ไม่ต้องเจ็บอีก!" แวนเนสย่นจมูกแล้วขยับเข้าไปกอดพี่ชาย

"ทำไมขี้บ่นจัง? อื้ม!" ต่อว่าเสร็จก็หอมแก้มพี่ชายเบาๆ เจอร์รี่ถอนหายใจแล้วก็ต้องพ่ายแพ้กับลูกอ้อนของน้องตามเคย

"แล้วทำไมวันนี้เราถึงได้แผลงฤทธิ์ซะขนานใหญ่แบบนี้?" กอดน้องตอบพร้อมกับย้อนถามเช่นกัน

"ก็เพราะนายนั่นแหละ นายไม่สนใจชั้นเลย" แวนเนสโทษพี่ชายหน้าตาเฉย

"แล้วเรียกร้องความสนใจด้วยวิธีนี้น่ะหรอ? ไหนตอบมาซิว่าสมควรจะถูกตีมั๊ย?" ต่อว่าพร้อมกับบีบปากน้องอย่างหมั่นไส้

"แล้วจะให้ทำยังงัยหละ? ชั้นเรียกนายก็ทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยิน คอยดูนะถ้านายไม่สนใจอีกหละก็ชั้นจะร้องให้โรงบาลแตกเลย" แวนเนสทำเสียงกระเง้ากระงอดเหมือนเด็กๆ พี่ใหญ่หัวเราะในลำคอเมื่อนึกถึงวีรกรรมที่น้องเพิ่งจะก่อไปเมื่อกี้นี้ เขาจูบแรงๆที่หน้าผากน้องชายก่อนที่จะให้เหตุผล

"ชั้นก็ต้องสั่งสอนให้นายหลาบจำซะบ้างว่าการที่นายไม่เชื่อฟังชั้นนี่จะได้รับโทษยังงัย" แวนเนสเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายก่อนที่จะขยับตัวเอาหัวซบลงที่ไหล่พี่ชายอีก

"ชั้นเข็ดแล้วหละ นายรู้หรือเปล่าว่าที่ชั้นกลัวที่สุดก็คือการที่นายนิ่งเงียบแล้วทำท่าทางเย็นชากับชั้น มันเจ็บยิ่งกว่าถูกตีซะอีก" พี่ใหญ่เหลือบมองน้องชายพร้อมกับลูบหัวน้องด้วยความรัก แต่ไหนแต่ไรมาแวนเนสติดเขาเสียยิ่งกว่าใครหากวันไหนเขาทำเป็นโกรธแล้วไม่พูดด้วยแวนเนสจะรีบง้อเขาทุกวิถีทางจนกว่าเขาจะหายโกรธ

"ถ้าไม่อยากให้พี่ทำแบบนั้นอีก วันหลังนายต้องห่วงสุขภาพของตัวเองเป็นอันดับแรก อะไรที่มันฝืนร่างกายตัวเองก็อย่าทำ พี่ขอแค่นี้นายให้พี่ได้มั๊ย?" ก้มหน้าลงถามน้องเบาๆ

"ได้ครับ" แวนเนสตอบรับคำพี่ชายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น พี่ใหญ่เลยยิ้มออกมาได้ในที่สุด

"น่ารักมาก" เอ่ยชมน้องด้วยความพึงพอใจ




 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 25 พฤษภาคม 2550 13:25:27 น.
Counter : 1287 Pageviews.  

Chapter 30

ตอนที่ 30

"เอ้าๆๆ!!! เลิกเล่นกันได้แล้ว!" พี่ใหญ่ร้องบอกเจ้าน้องชายจอมทะโมนทั้งสองคนที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่บนเตียง

"ทำเสร็จเร็วจังพี่ใหญ่" เมื่อดิ้นหลุดออกมาจากการเกาะกุมของพี่ชายคนรองแล้วไจ่ไจ๋ทำลุกไปหาพี่ใหญ่แทน

"พวกนายนี่อะไรกัน ไม่สบายแทนที่จะนอนพักกันเฉยๆยังจะเล่นกันเป็นเด็กๆอีก!" ต่อว่าเจ้าน้องชายตัวดีทั้งคู่แล้วดุนหลังไจ่ไจ๋ให้มานั่งลงที่เตียงส่วนตัวเองก็หันไปจัดการเอาช้อนใส่ลงในชามโจ๊กทั้งสองชาม

"ก็ไจ่ไจ๋มันเข้ามากวนชั้นหนิ" แวนเนสเถียงออกมา

"ผมกวนที่ไหน? พี่รองแหละหาเรื่องก่อน" ไจ่ไจ๋เถียงกลับ

"ยังจะเถียงกันอีกหรอ!?" พี่ใหญ่เอ็ดเข้าให้อีก แวนเนสกับไจ่ไจ๋จึงหันไปยิ้มให้กันแล้วสงบปากสงบคำแต่โดยดี

"เอ้า! กินกันซะแล้วจะได้กินยา" ยกชามโจ๊กออกมาส่งให้น้องชายทั้งคู่ แวนเนสกับไจ่ไจ๋เหลือบตามองกันไปมา

"ตักกินสิ! นั่งเฉยอยู่ได้!" พี่ใหญ่เร่งแล้วหันไปรินน้ำใส่แก้วเตรียมไว้ให้น้อง

"ก็คนมันป่วยอะนะ เรี่ยวแรงก็ไม่ค่อยจะมี" ไจ่ไจ๋เปรยขึ้นลอยๆ เจอร์รี่ได้ยินก็ชะงักหันมาทางน้องชายตัวแสบทั้งสอง

"เมื่อกี้พี่เห็นนายฟัดกันอยู่บนเตียงยังจะมาบอกไม่มีแรงอีกหรอ? อย่าอ้อนกันนักเลย" เจอร์รี่ตอกกลับ

"ก็หมดแรงตั้งแต่เมื่อกี้แล้วงัย" แวนเนสเสริมขึ้น

"นั่นสิ งั้น....ไม่ต้องกินก็แล้วกันเนอะพี่รอง" พูดจบไจ่ไจ๋ก็วางชามโจ๊กลงที่โต๊ะข้างเตียงแล้วไถลตัวลงนอน แวนเนสพยักหน้าเห็นด้วยแล้วทำแบบเดียวกันกับน้องชาย

"ไอ้พวกนี้หนิ! จะปล่อยให้พี่ว่างซักหน่อยไม่ได้เลยหรืองัย?" ต่อว่าน้องชายทั้งคู่แต่ก็ยกชามโจ๊กใส่ถาด

"ป้อนไจ่ไจ๋ไปก่อน ชั้นขอหลับซักงีบ" แวนเนสเกี่ยงเพราะเริ่มรู้สึกเพลียๆขึ้นมาแล้ว

"ไม่ต้อง ป้อนพร้อมกันนั่นแหละ เสร็จแล้วจะได้กินยาแล้วนอนซะทีเดียว" พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับยกถาดมาวางไว้บนตักตัวเอง

"ชักคิดถึงเสี้ยวเทียนขึ้นมาแล้วสิ" ประโยคนี้เจอร์รี่บ่นพึมพำกับตัวเองเพราะถ้าตอนนี้เคนอยู่ด้วยคงจะดีไม่น้อย

"บ่นอะไรครับ?" ไจ่ไจ๋ได้ยินไม่ถนัดรู้แต่ว่าพี่ชายบ่นจึงถามออกมา

"เปล่า! อะ....อ้าปาก!" ปฏิเสธเสร็จก็ป้อนโจ๊กให้น้องเล็ก เสร็จแล้วก็หันไปตักอีกชามมาป้อนแวนเนส

"กินทีละชามก็ได้นะพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋ว่า

"ไม่ได้! พี่รองมันไข้สูงกว่านาย ไม่รู้มีเชื้ออะไรอย่างอื่นอีกหรือเปล่า? เดี๋ยวนายจะพลอยติดมันกลับมาอีก" เจอร์รี่บอกเหตุผลน้อง

"พูดอย่างกับว่าชั้นเป็นตัวเชื้อโรค" แวนเนสว่าด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด พี่ใหญ่เลยยิ้มออกมาในที่สุด

"บอกให้ไปหาหมอก็ไม่ไป เดี๋ยวเป็นหนักกว่านี้ชั้นก็ซวยอีก!" ว่าพลางตักโจ๊กป้อนใส่ปากน้อง

"ไม่อยากทำก็ปล่อยชั้นไว้นี่แหละ! แฟนชั้นก็มียังงัยซะเขาก็ไม่ทิ้งชั้นหรอก!" แวนเนสจีบปากจีบคอพูด

"ฮึ! คิดหรอว่าแฟนนายเขาจะทนความทะเล้นทะโมนของนายได้เท่ากับชั้นน่ะหืม? ป่วยแล้วยังไม่เจียม!" ว่าประชดน้องชายเข้าให้

"โอ้ยพี่ใหญ่! คนเขาเป็นแฟนกันก็ต้องทนกันได้ทั้งนั้นแหละ จริงมั๊ยพี่รอง?" ไจ่ไจ๋รีบแก้ตัวแทนแวนเนส

"ถูกต้อง! เนี่ยแหละคนเขามีแฟนเหมือนกัน ไม่เหมือนบางคน......" แวนเนสยังพูดไม่ทันจบประโยคก็โดนพี่ชายตักโจ๊กยัดใส่ปากเสียก่อน

"กินเข้าไปเลย! พูดมากดีนัก! นี่ก็อีกคน!" ว่าพลางตักโจ๊กอีกชามยัดใส่ปากเจ้าน้องเล็กด้วย

"เฮ้ย! ห้ามคายออกมานะ!" พี่ใหญ่แหวใส่แวนเนสที่เอามือปิดปาก

"คายออกมาชั้นฟาดจริงๆด้วย! กลืนลงไป!" เจอร์รี่เงื้อนมือขึ้นขู่ แวนเนสทำหน้าพะอืดพะอมก่อนจะกลืนโจ๊กคำนั้นลงคออย่างลำบากยากเย็น เสร็จแล้วก็รีบหันไปคว้าแก้วน้ำมาดื่มตามลงไปจนหมดแก้ว

"เป็นอะไรหรอพี่รอง?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชาย

"มันมีเปลือกไข่อ่ะ" แวนเนสตอบ ไจ่ไจ๋ได้ยินก็หัวเราะพลอยทำเอาเจอร์รี่หัวเราะตามไปด้วย

"อ้าว! แล้วไม่บอก" แวนเนสค้อนใส่พี่ชายเสียหลายตลบ

"ก็ยัดเข้ามาเต็มปากจะบอกยังงัยหละ? เห็นๆอยู่ยังจะบังคับให้กลืนลงไปอีก!" ตวัดเสียงต่อว่าพี่ชาย

"โอ๋ๆๆๆ ขอโทษๆๆๆ ก็ชั้นรีบทำน่ะเลยไม่ทันดู ไม่นึกว่าเปลือกมันจะลงไปด้วย" พี่ใหญ่แก้ตัวกลายๆ

"ไม่กินแล้ว!" แวนเนสพูดอย่างงอนๆแล้วนอนลงทันที

"ไม่กินก็ไม่กิน" พี่ใหญ่ตามใจเพราะน้องก็กินเข้าไปได้ปริมาณมากพอสมควรแล้ว

"ผมก็ไม่เอาแล้วนะพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋ได้ทีผสมโรงด้วยเพราะไม่รู้สึกอยากอาหารเลย เจอร์รี่มองโจ๊กในชามของน้องเล็กแล้วพยักหน้ายอมด้วยเช่นกัน

"งั้นก็กินยากันซะ จะได้นอนพักกันซักที" พูดจบพี่ใหญ่ก็ยกถาดไปวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงแล้วหยิบยามาส่งให้น้องๆ

"ชั้นว่านายก็น่าจะกินยาดักไว้ด้วยนะ เดี๋ยวจะติดไข้ไปอีกคน" แวนเนสรับยามาแล้วพูดกับพี่ชายอย่างเป็นการเป็นงาน เจอร์รี่ยิ้มรับความห่วงใยของน้อง

"ได้....นายก็นอนได้แล้ว....." เมื่อแวนเนสล้มตัวนอนเจอร์รี่ก็ดึงผ้าห่มมาห่มให้

"ราตรีสวัสดิ์ครับพี่รอง" ไจ่ไจ๋บอกพี่ชายเบาๆ

"อืม....ฝันดีนะไจ่ไจ๋......" แวนเนสตอบรับก่อนที่จะหลับตาลง

"ไป! นายก็ต้องกลับไปนอนเหมือนกัน ไอ้ตัวยุ่ง!" เมื่อตรวจดูความเรียบร้อยของแวนเนสเสร็จแล้วพี่ใหญ่ก็หันมาบอกเจ้าน้องเล็ก

"ไปที่ห้องก่อนเดี๋ยวพี่เอานี่ลงไปเก็บแล้วจะเข้าไปหา" ว่าพลางลูบหัวน้องแล้วพยักหน้าให้ ไจ่ไจ๋จึงกลับห้องไปแต่โดยดี ส่วนเจอร์รี่เมื่อเก็บของเสร็จแล้วก็ขึ้นมาหาน้องเล็กที่ห้อง

"คุยโทรศัพท์ทั้งปี" เจอร์รี่บ่นอุบอิบกับตัวเองเบาๆหลังจากที่เดินกลับมาเข้าหาน้องแล้วเห็นน้องกำลังคุยโทรศัพท์อยู่

"พี่ใหญ่มาแล้ว พี่กลางจะคุยด้วยมั๊ย?" เมื่อเห็นพี่ชายเดินเข้ามาไจ่ไจ๋ก็ถามคู่สนทนาทางโทรศัพท์

"พี่ใหญ่ครับ พี่กลางโทรมาแหนะ" ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่จึงค่อยยิ้มออกเพราะตอนแรกนึกว่าน้องคุยโทรศัพท์กับแฟน

"งัยเสี้ยวเทียน?" เขาเอ่ยทักทายน้องชายคนกลาง

"เห็นไจ่ไจ๋บอกว่ามันเป็นไข้แล้วตอนนี้แวนเนสก็ติดไข้มันมาด้วยอีกคนหรอ?" ย้อนถามพี่ชายกลับมา

"อืม.....ชั้นเพิ่งให้แวนเนสกินยาแล้วนอนพักไปเมื่อกี้นี้เอง ดันมาป่วยพร้อมกันอีก" ประโยคหลังบ่นอุบเบาๆ

"นายเองก็ต้องกินยาดักไว้ด้วยนะ ขลุกอยู่กับพวกมันแบบนี้เดี๋ยวจะติดมาด้วยอีกคน" เคนเตือนพี่ชายด้วยความห่วงใย

"รู้แล้วน่า! ชั้นกินยาดักไปแล้ว ว่าแต่เราน่ะจะกลับบ้านเมื่อไหร่นะ?" หันมาถามน้องชายบ้าง

"วันมะรืนครับ" เคนตอบแล้วพูดหยอกพี่ชายต่อ

"คิดถึงชั้นหละสิ" พี่ใหญ่ยิ้มกับคำหยอกเย้านั้น

"อืม.....คิดถึงที่สุดเลย" เขาตอบแล้วก็ได้ยินเสียงน้องหัวเราะกลับมา

"เดี๋ยวชั้นต้องวางแล้วหละ พอดีนัดเพื่อนมาสังสรรที่ห้อง" เคนว่าพร้อมกับพูดตัดบท

"สังสรรทั้งปี! อย่าดื่มให้มันมากนักนะ" พูดกำชับน้องชายอย่างเคยชิน

"ทราบแล้วครับ" เคนตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะ

"ชั้นขอราตรีสวัสดิ์กับน้องหน่อยสิ" ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็ส่งโทรศัพท์กลับคืนมาให้น้องเล็ก

"พี่กลางเขาจะราตรีสวัสดิ์ด้วยน่ะ" เจอร์รี่บอก

"พี่กลางจะนอนแล้วหรอ?" ไจ่ไจ๋รับมาก่อนที่จะถามพี่ชายกลับไป

"พี่ยังไม่นอนแต่นายน่ะต้องนอนได้แล้ว ราตรีสวัสดิ์นะไอ้ตัวยุ่ง" เคนพูดกับไจ่ไจ๋

"ราตรีสวัสดิ์ครับ พรุ่งนี้โทรมาคุยอีกนะ" ไจ่ไจ๋ตอบรับคำพี่ชายพร้อมกับสั่งกำชับอีกครั้ง

"ได้สิ ไป....วางสายแล้วไปนอนได้แล้ว" เคนรับคำแล้วไล่น้องชายอีกครั้ง ไจ่ไจ๋จึงวางสายแล้ววางโทรศัพท์ไว้ข้างตัว

"ปิดเครื่องแล้วนอนพักได้แล้ว" เจอร์รี่ว่าพร้อมกับทำท่าจะหยิบโทรศัพท์น้องมาแต่ไจ่ไจ๋กลับคว้าไว้ก่อน

"ปิดทำไมหละพี่ใหญ่ เผื่อใครโทรมา" ไจ่ไจ๋แย้งแล้วเอาโทรศัพท์หลบพี่ชาย

"ใครโทรมาก็ช่าง! เราน่ะไม่สบายควรนอนพักผ่อนให้มากๆไม่ใช่เอาแต่โทรศัพท์!" พี่ใหญ่เลยเอ็ดเข้าให้และได้โอกาสสั่งสอนน้องชายต่อ

"นายจะมีฟงมีแฟนอะไรพี่ไม่ว่านะ แต่ทุกอย่างควรจะให้อยู่ในขอบเขตที่พอดี อย่างเรื่องคุยโทรศัพท์น่ะก็ไม่ใช่ตะบี้ตะบันโทรหากันทั้งวันทั้งคืนแบบนี้" น้องเล็กได้ยินก็เบ้ปากแต่ไม่ได้เถียงอะไรออกมา

"รู้หรือเปล่าว่าค่าโทรศัพท์เดือนที่แล้วของนายน่ะเกือบพันเชียวนะ เพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัวเลย" พี่ใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"ทุกวันก็เจอหน้ากันที่มหาลัยอยู่แล้ว กลับบ้านมายังจะมีเรื่องคุยอะไรอีกนักหนา? ถ้าขืนนายยังไม่ปรับพฤติกรรมนี้อีกแล้วหละก็เห็นทีพี่จะต้องมีมาตรการลงโทษบ้างหละนะ" น้องเล็กได้ยินก็ทำหน้างอเพราะคิดว่าพี่ชายไม่ชอบใจที่เขามีแฟน

"ผมก็ไม่ได้คุยอะไรไร้สาระซักหน่อย บางทีเราก็ติวหนังสือกัน บางทีหลิงหลิงก็โทรมาให้ผมช่วยสอนการบ้าน แบบนี้มันไม่มีประโยชน์หรืองัย?" ไจ่ไจ๋เถียงพี่ชาย

"ถ้านายคุยเพราะเรื่องเรียนจริงพี่ไม่เคยว่าเลยนะ แต่บางครั้งที่พี่เข้ามาเห็นนายน่ะหลับคาโทรศัพท์ทั้งๆที่ยังไม่วางสายอีกต่างหาก แบบนี้มันติวหนังสือกันยังงัย?" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็เงียบกริบเถียงอะไรไม่ออก

"ฟังให้ดีนะ ต่อจากนี้ไปนายต้องจำกัดค่าโทรศัพท์ของตัวเองไม่ให้มากเกินกว่าเดือนที่แล้ว หากว่าเกินส่วนที่เหลือนายต้องรับผิดชอบเอง" พี่ใหญ่พูดกับน้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"ต่อไปนี้ผมรับผิดชอบค่าโทรศัพท์ของผมทั้งหมดเองก็ได้" ไจ่ไจ๋พูดกับพี่ชายหน้าตึง

"ไจ่ไจ๋ พี่ไม่ได้รู้สึกเสียดายเงินที่ต้องจ่ายค่าโทรศัพท์ให้นายเลยนะ ต่อให้ค่าโทรศัพท์ของนายจะเดือนละเป็นหมื่นเป็นแสนพี่ก็จ่ายให้ได้ถ้าหากว่านายใช้มันในทางที่เป็นประโยชน์ แต่ที่พี่ต้องจำกัดค่าโทรศัพท์ของนายก็เพราะพี่ต้องการฝึกให้นายรู้จักความพอดีรู้จักจัดวินัยในตัวเอง แต่ถ้านายแปลความหมายความหวังดีของพี่ไปในทางอื่นแล้วหละก็ พี่เองก็คงไม่มีอะไรจะพูดอีก" พูดจบพี่ใหญ่ก็ลุกขึ้นยืน

"นอนได้แล้ว พี่เองก็จะไปนอนเหมือนกัน" พูดทิ้งท้ายไว้แล้วเดินออกไปเสียเฉยๆโดยไม่ได้ห่มผ้าให้หรือพูดราตรีสวัสดิ์กับน้องแต่อย่างใด ปล่อยให้ไจ่ไจ๋ได้แต่สะอึกกับคำพูดและท่าทางของพี่ชาย



- ตอนเช้า -

"ไปไหนของมันนะ" เจอร์รี่พึมพำกับตัวเองเมื่อเดินเข้ามาดูน้องเล็กที่ห้องแต่ก็ไม่พบตัวน้อง เขาเดินหาน้องทั่วบ้านแล้วแต่ก็ไม่เจอ ดังนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาน้อง

"ไจ่ไจ๋ นายอยู่ไหน?" เมื่อน้องรับสายเจอร์รี่ก็ถามออกไปทันที

"อยู่มหาลัย" น้องชายตอบกลับมาเสียงเนือยๆ

"นายไปมหาลัยทำไม? นายยังไม่หายดีเลยนะ" เจอร์รี่เอ็ดเข้าให้

"ไม่เป็นไรหรอก ผมหายแล้ว ผมจะเข้าเรียนแล้วแค่นี้นะครับ" พูดจบสายโทรศัพท์ก็ถูกตัดไป เจอร์รี่ถอนหายใจดังเฮือกรู้ดีว่าน้องคงไม่พอใจเรื่องที่เขาพูดเมื่อคืนนี้

"เหนื่อยใจจริงๆ" บ่นกับตัวเองแล้วเดินเลยไปที่ห้องนอนของแวนเนส เจอร์รี่เดินไปที่เตียงโดยที่แวนเนสยังนอนหลับไม่รู้เรื่อง เขาจึงเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากน้องอย่างแผ่วเบา

"ไข้ยังไม่ลดเลย" พูดกับตัวเองอย่างกังวล

"แวนเนส.....แวนเนสครับ.....ตื่นมากินข้าวกินยาก่อนเร็ว......" ตบแก้มน้องเบาๆพร้อมกับร้องเรียก แวนเนสปรือตาขึ้นมามองพี่ชายแล้วครางเบาๆในลำคอ

"กี่โมงแล้วเจอร์รี่?" เอ่ยถามพี่ชายเสียงแหบแห้ง

"จะแปดโมงแล้ว" เจอร์รี่ตอบแล้วช่วยพยุงน้องให้ลุกขึ้นนั่ง

"ชั้นต้องไปถ่ายแบบตอนเก้าโมง เดี๋ยวเสี่ยวจือคงมาแล้ว" บอกพี่ชายด้วยสีหน้ายังงัวเงียไม่หาย

"จะไปได้ยังงัยกัน? นายยังเป็นไข้อยู่เลยนะ" พี่ใหญ่ท้วงติง

"ไม่เป็นไรหรอก ได้นอนพักทั้งคืนก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว" แวนเนสตอบเพื่อให้พี่ชายสบายใจทั้งๆที่เขาเองก็ยังรู้สึกมึนๆอยู่และที่สำคัญเขาเองก็ไม่อยากเสียงานด้วย

"ไม่ได้ ชั้นไม่ให้ไป" พี่ใหญ่ปฏิเสธแล้วพูดต่อ

"ชั้นจะโทรหาเสี่ยวจือแล้วพูดกับเขาเอง" แวนเนสดึงแขนพี่ชายไว้ก่อน

"ให้ชั้นไปเถอะนะ ชั้นไม่เป็นไรหรอก นายบอกเองไม่ใช่หรอว่าชั้นเข้ามาอยู่ในวงการนี้แล้วก็ต้องมีความเป็นมืออาชีพ แล้วนี่นายจะให้ชั้นขาดงานทั้งๆที่ยังสามารถทำได้เชียวหรอ?" แวนเนสเอาคำพูดของพี่ชายมาอ้าง

"ยังจะมาย้อนชั้นอีกหรอ? สภาพแบบนี้นายจะไปถ่ายแบบได้ยังงัย? ยืนขึ้นมาทีก็แทบจะไม่มีแรงอยู่แล้ว" เจอร์รี่ดุน้องเพราะไม่อยากให้น้องไปทำงานด้วยเป็นห่วงน้องชาย

"แต่ว่าชั้นจำเป็นต้องไปนะ งานทุกอย่างก็รับปากเขาไว้หมดแล้ว นายวางใจได้ถ้าหากชั้นไม่ไหวแล้วชั้นจะบอกเสี่ยวจือทันทีเลย" แวนเนสว่าพลางขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ เจอร์รี่ถอนหายใจกับความดื้อรั้นของน้องชายแต่ละคน ผ่านไปซักพักแวนเนสก็เดินกลับออกมา

"จะดื้อไปให้ได้เลยใช่มั๊ย?" พี่ใหญ่ลุกขึ้นแล้วสาวเท้าเข้าไปหาน้องชายที่กำลังหวีผมอยู่หน้ากระจก

"ยังงัยก็ต้องไป" แวนเนสตอบแล้วหวีผมต่อ

"เฮ่อ!" เจอร์รี่ถอนหายใจ แวนเนสมองสีหน้าของพี่ชายจากในกระจกก็รู้ว่าพี่ชายเป็นห่วงเขาจึงวางหวีลงแล้วหันไปกอดเอวพี่ชายอย่างรู้งาน

"ไม่ต้องมาอ้อนเลย พี่ไม่อยากพูดกับเด็กดื้อ" พี่ใหญ่แกะมือน้องชายออก

"ชั้นเปล่าดื้อนะ แต่มันจำเป็นจริงๆนี่นา ถ้าไม่ติดงานชั้นก็ไม่ไปไหนหรอก" แวนเนสทำเสียงอ่อยๆ

"เสร็จงานแล้วจะรีบกลับทันทีเลย จะไม่เถลไถลจะไม่แวะที่ไหนเลยด้วย" พูดต่อแล้วเดินไปกอดพี่ชายอีก

"เฮ่อ! เอางั้นก็ได้ แต่ถ้าอยากจะให้ชั้นวางใจนายต้องให้ชั้นไปกับนายด้วยนะ" พี่ใหญ่ยอมน้องในที่สุดแต่ไม่วายมีข้อต่อรองด้วย

"จะไปด้วยหรอ? แล้วนายไม่ทำงานหรืองัย?" เงยหน้าขึ้นถามพี่ชาย

"ไม่ไป วันนี้ไม่มีแก่ใจทำอะไรแล้ว เจอแต่น้องดื้อทั้งสองคนเลย" ได้ยินดังนั้นแวนเนสก็ผละตัวออกมาเล็กน้อย

"ไจ่ไจ๋ก็ไปเรียนหรอ?" ถามต่ออย่างพอจะรู้

"รายนั้นมันไปเรียนเพราะประชดชั้นน่ะสิ" เจอร์รี่ตอบพลางทำหน้าเบื่อๆ

"ทำไมหรอ? นายไปขัดใจอะไรมันหละสิ" แวนเนสพูดดักอย่างพอจะรู้แล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อแต่งตัว

"ก็ชั้นคุยกับน้องตามที่นายแนะนำนั่นแหละ" ได้ยินดังนั้นแวนเนสก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

"คุยตามที่ชั้นแนะนำหรอ?" แวนเนสทวนคำพูดของพี่ชาย

"เรื่องค่าโทรศัพท์ของมันงัยหละ แต่แทนที่มันจะฟังดันไม่เข้าใจแล้วประชดว่าต่อไปมันจะรับผิดชอบค่าโทรศัพท์ของมันเองทั้งหมด จริงๆเลยเด็กคนนี้" พี่ใหญ่เล่าให้น้องฟังแล้วไม่วายบ่นอุบออกมาอีก

"เอาน่า! ไว้ชั้นจะช่วยพูดให้อีกแรงก็แล้วกัน จะไปด้วยกันนายก็ไปเปลี่ยนชุดสิ ไม่งั้นเดี๋ยวคนอื่นจะนึกว่านายเป็นเด็กรับใช้ของชั้นนะ" แวนเนสพูดแหย่แล้วมองพี่ชายตั้งแต่หัวจรดเท้า เจอร์รี่ได้ยินเอื้อมมือไปดึงหูน้องอย่างหมั่นไส้

"ชั้นน่ะเป็นยิ่งกว่าคนใช้ของนายอีก!" กัดฟันต่อว่าเจ้าน้องชายตัวดี

"เสร็จแล้วก็ลงไปรอข้างล่าง เดี๋ยวกินข้าวแล้วกินยาก่อนไปด้วย" สั่งกำชับก่อนที่จะเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องตัวเอง แวนเนสอมยิ้มพลางมองตามพี่ชายแต่หลังจากพี่ชายออกไปแล้วเขาก็นิ่วหน้า

"โอ้ย.....ทำไมปวดหัวแบบนี้วะ....." บ่นกับตัวเองพร้อมกับเอามือนวดที่ขมับตัวเองเบาๆ แล้วก็ฝืนตัวเองจัดข้าวของเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน เมื่อลงมาถึงเขาก็พบว่าพี่ชายนั่งรออยู่ก่อนแล้วโดยมีเสี่ยวจือที่เพิ่งมาถึงนั่งคุยด้วยอยู่

"แวนเนส เห็นเจอร์รี่บอกว่าเธอไม่สบาย ไหวหรือเปล่า?" เสี่ยวจือเห็นแวนเนสลงมาก็เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง

"ไหวครับ ผมไม่เป็นไรเท่าไหร่" แวนเนสตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้บางๆ

"เอาเถอะมีพี่ชายไปดูแลอย่างใกล้ชิดแบบนี้คงหายห่วงได้หน่อยหละนะ" เสี่ยวจือพูดยิ้มๆแต่ก็สังเกตเห็นว่าสีหน้าของแวนเนสดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่

"เสี่ยวจือครับ ไปกินข้าวกัน แวนเนส ไปกินข้าว" เจอร์รี่พูดตัดบทโดยการชวนผู้จัดการของน้องและสั่งให้น้องไปกินข้าว

"แวนเนส กินให้หมด" พี่ใหญ่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าน้องกินไปแค่นิดเดียวก็รวบช้อนส้อมแล้ว

"ชั้นไม่ค่อยหิว กินไม่ลง" แวนเนสพูดเสียงอ่อยๆ แต่เมื่อเห็นสายบังคับของพี่ชายแล้วเขาก็จำใจตักข้าวกินต่อ

"ชั้นจะไปเอายามาให้" เจอร์รี่ว่าแล้วลุกขึ้นไปหยิบยา เมื่อพี่ชายออกไปแวนเนสก็รีบวิ่งไปที่ซิงค์ล้างจานแล้วอาเจียนออกมาทันที

"แวนเนส" เสี่ยวจือลุกตามไปดูอย่างตกใจ

"เสี่ยวจือคุณอย่าบอกเจอร์รี่นะ" แวนเนสเอาน้ำลูบหน้าพร้อมกับหันมาบอกผู้จัดการ

"ดูท่าเธอคงไม่ไหวแล้วหละมั้ง?" เสี่ยวจือเองก็ดูจะมีสีหน้ากังวล

"ไหวครับ เพียงแต่ผมกินไม่ค่อยลงเท่านั้นเอง" แวนเนสว่าแล้วเดินไปหยิบจานข้าวตัวเองมาเททิ้ง

"อย่าบอกด้วยนะว่าผมเทข้าวที่เหลือทิ้งน่ะ" ย้ำคำกับเสี่ยวจืออีกครั้ง ในขณะนั้นเจอร์รี่ก็เดินกลับเข้ามาพอดี

"กินข้าวหมดแล้วหรอ?" ถามพร้อมกับมองน้องชายอย่างจับผิด

"หมดแล้วครับ" แวนเนสก้มหน้าตอบแบบไม่เต็มเสียงนัก

"หมดแล้วหละ" เสี่ยวจือหันไปพยักหน้าให้เจอร์รี่เพื่อช่วยยืนยันอีกแรง

"งั้นก็มากินยา" แวนเนสเดินไปหยิบยาจากมือพี่ชายขึ้นมากิน จากนั้นทั้งสามคนก็พากันไปที่รถ

"เธอไปนั่งกับแวนเนสเถอะ" เสี่ยวจือบอกให้เจอร์รี่ไปนั่งข้างหลังกับแวนเนสเพื่อจะได้ดูแลน้อง เจอร์รี่พยักหน้าแล้วก้าวตามไปนั่งกับน้องชาย

"มานี่มา....." เมื่อขึ้นมานั่งได้เจอร์รี่ก็รั้งตัวน้องมาใกล้ๆ แวนเนสรู้สึกเพลียๆจึงซบหัวลงที่ไหล่พี่ชายแล้วหลับตาลง

"นายตัวร้อนกว่าเมื่อเช้าอีกนะ" พี่ใหญ่ว่าพลางเอามือแตะลงที่แก้มน้องชาย

"ไหวหรือเปล่าเนี่ย? หืม?" ก้มหน้าลงถามน้องอย่างเป็นห่วง

"ไหวสิ ไม่เป็นอะไรหรอก ก็นายให้ชั้นกินยามันก็ง่วงน่ะสิ" แวนเนสปฏิเสธแล้วโยนความผิดให้พี่ชายหน้าตาเฉย

"เดี๋ยวเถอะ! ก็เราไม่สบายแบบนี้ไม่กินยาได้หรอ? พูดจาน่าตีจริงๆ" เอ็ดน้องชายเสียงดุๆ

"อื้ม! พูดเล่นเอง ขอชั้นงีบหน่อยนะ" แวนเนสหอมแก้มพี่ชายเบาๆแล้วซบหน้าลงที่ไหล่พี่ชายตามเดิม เจอร์รี่เหลือบมองอาการของน้องอย่างเป็นห่วงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

"เดี๋ยวชั้นจะแจ้งให้ทีมงานรู้ว่าแวนเนสไม่สบายอยู่ อาจจะขอให้เขาแบ่งถ่ายเป็นสองวัน จะได้รีบกลับมาพักผ่อน" เสี่ยวจือพูดกับเจอร์รี่แบบเป็นการเป็นงาน

"ถ้าได้แบบนั้นก็ดี ผมจะได้พาน้องไปหาหมอด้วย" เจอร์รี่เห็นด้วยกับความคิดของเสี่ยวจือ แล้วทั้งคู่ก็นั่งเงียบๆเพราะไม่ต้องการรบกวนแวนเนสที่งีบหลับอยู่

"แวนเนส ถึงแล้ว....." พี่ใหญ่เรียกพร้อมกับตบแก้มน้องเบาๆ แวนเนสลืมตาขึ้นมารู้สึกหนักอึ้งไปทั้งตัวหัวหมุนติ้วไปหมด

"ไป เข้าไปข้างในกันดีกว่า" เสี่ยวจือพยักหน้าให้สองพี่น้อง เมื่อเข้ามาแล้วแวนเนสก็แยกไปแต่งตัวแต่งหน้าส่วนเจอร์รี่ก็นั่งรออยู่ด้านนอกแต่ก็อดที่จะมองเข้าไปอยู่บ่อยๆไม่ได้เพราะเป็นห่วงน้อง

"ตามมาคุมน้องชายหรอคะ?" เสียงทักทายนั้นทำให้เจอร์รี่ละสายตาจากน้องชายเงยหน้าขึ้นมามอง

"ชั้นเป็นเจ้าของนิตยสารที่ติดต่อขอแวนเนสมาถ่ายแบบค่ะ" เธอแนะนำตัว

"อ้อ! ครับ สวัสดีครับ" เจอร์รี่รีบลุกขึ้นพร้อมกับก้มหัวให้อย่างสุภาพ

"เห็นคุณเสี่ยวจือบอกว่าคุณเป็นพี่ชายของแวนเนสเขาน่ะค่ะ" พูดกับเจอร์รี่พร้อมกับรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร

"ครับ ผมเป็นพี่ชายเขา พอดีวันนี้เขาไม่ค่อยสบาย ผมเลยเป็นห่วงก็เลยมาด้วยเพื่อความแน่ใจครับ" เจอร์รี่บอกกับเธอพร้อมกับยิ้มให้เช่นกัน

"เสี่ยวจือบอกแล้วหละค่ะ ชั้นนับถือความเป็นมืออาชีพของแวนเนสมากเลยค่ะ ขนาดไม่สบายยังไม่ยกเลิกงาน ปกติถ้าเป็นดาราดังๆส่วนใหญ่ถ้าป่วยขึ้นมาแบบนี้ก็เบี้ยวเราซะเฉยๆ" เจอร์รี่ยิ้มรับกับคำพูดนั้น

"ความจริงผมเองก็ไม่อยากให้น้องมา แต่แวนเนสเขาไม่ยอมเขาบอกว่ารับปากไว้เป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วยังงัยก็ต้องมา ผมเลยไม่อยากขัดใจเขาน่ะครับ" เจอร์รี่บอกกล่าวให้คู่สนทนาฟังเช่นกัน ก่อนที่จะทันได้พูดอะไรกันต่อแวนเนสก็แต่งตัวเสร็จพอดีเขาเดินออกมาหาพี่ชายพร้อมกับอวดชุดที่ใส่อยู่

"เป็นงัยบ้าง? ชั้นเท่ห์มั๊ย?" เอ่ยถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทั้งที่ข้างในรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักแต่เพราะไม่อยากให้พี่ชายเป็นห่วงเขาเลยแกล้งทำตัวร่าเริงเพื่อให้พี่ชายวางใจ

"ไหนดูซิ.....อืม.....เท่ห์มากเลย!" เจอร์รี่หันกลับมาสนใจน้องชายทันที เขามองน้องชายตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมกับรอยยิ้มอย่างพอใจ

"หล่อมากค่ะแวนเนส" แวนเนสหันไปทางต้นเสียงแล้วก้มหัวรับ

"ขอบคุณครับ" เขาเอ่ยขอบคุณ

"งั้นเราเริ่มงานกันเลยดีกว่า" เธอพูดตัดบทแล้วนำทางแวนเนสไปถ่ายภาพ ตลอดเวลาที่ทำงานนั้นแวนเนสก็ทำตัวร่าเริงและคุยเล่นกับทีมงานเป็นอย่างดี ทำให้บรรยากาศในการทำงานนั้นค่อนข้างสนุกสนาน จนเมื่อถึงเวลาพักแวนเนสก็เดินมาหาพี่ชายอีก

"งัย? ไหวหรือเปล่า?" พี่ใหญ่รีบจับให้น้องมานั่งลงเมื่อเห็นสีหน้าน้องชายดูซีดๆ

"ชั้นหิวน้ำจัง" แวนเนสพูดกับพี่ชาย

"ชั้นเอาให้นะ" พูดจบก็รีบไปหาน้ำมาให้น้องชายดื่ม

"แวนเนส ไหวหรือเปล่า? ชั้นว่าสีหน้านายดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยนะ ตัวก็ร้อนมากด้วย" เจอร์รี่เอามือแตะตามเนื้อตามตัวน้องชายพร้อมกับพูดอย่างเป็นห่วง

"เหลืออีกไม่กี่เซ็ตก็เสร็จแล้วหละ ชั้นไหวน่า" แวนเนสยืนกรานคำเดิม พี่ใหญ่เลยได้แต่ถอนใจ ในเวลานั้นเสี่ยวจือก็เอาข้าวมาให้สองพี่น้องกินพอดี

"กินข้าวกันก่อน แวนเนส เธออยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า? อาหารพวกนี้มันย่อยยากไปมั๊ย?" เสี่ยวจือเองก็เป็นห่วงแวนเนสเช่นกัน

"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมกินได้" แวนเนสว่าแล้วรับข้าวกล่องมาจากเสี่ยวจือ

"เธอก็กินกับน้องสิ" เสี่ยวจือยื่นข้าวอีกกล่องหนึ่งให้เจอร์รี่ แต่เจอร์รี่ตั้งท่าจะปฏิเสธ

"ถ้านายออกไปหาอะไรกินข้างนอกอีกชั้นก็จะไม่กินข้าวเลย" แวนเนสพูดขู่พี่ชายขึ้นมาเพราะรู้ว่าพี่ชายเกรงใจ

"ขอบคุณครับ" เจอร์รี่จึงต้องเปลี่ยนคำพูดใหม่ แล้วแกะข้าวกล่องกินกับน้องชาย

"อะ....กินเยอะๆจะได้มีแรง....." พี่ใหญ่ตักข้าวในส่วนของตัวเองแบ่งให้น้อง

"หูยยย....ไม่เอาอ่ะ นายเอาคืนไปเลย ชั้นกินไม่ค่อยลง" แวนเนสโอดครวญพร้อมกับจะตักคืนให้พี่ชายแต่เจอร์รี่ส่ายหน้าแล้วใช้สายตาบังคับให้น้องกิน แวนเนสถอนหายใจเบาๆก่อนที่จะตักข้าวใส่ปากอย่างจำใจ

"มัวแต่นั่งละเลียดอยู่นั่นแหละ วันนี้จะหมดมั๊ย?" หลังจากเจอร์รี่กินข้าวหมดไปนานแล้วเขาก็หันมาต่อว่าน้องชายที่นั่งเขี่ยข้าวเล่นอยู่

"ชั้นกินไม่ลง ขอร้องหละ.....อย่าบังคับชั้นเลย....." แวนเนสพูดเสียงอ่อยๆ

"ฝืนกินหน่อยสิ ไม่งั้นจะเอาแรงที่ไหนมาทำงานต่อ?" พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง รู้ดีว่าน้องกำลังป่วยเลยไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไรนักแต่ครั้นจะตามใจน้องก็ไม่ได้อีก

"ชั้นกินไปบ้างแล้ว" แวนเนสเงยหน้าขึ้นมาแย้งพี่ชาย

"ยังไม่เห็นจะพร่องลงไปเลยซักนิด ในเมื่อไม่ยอมตักกินเองดีๆก็มานี่เลย" พี่ใหญ่ดึงกล่องข้าวออกมาจากมือน้องชาย

"อ้าปาก!" ตักข้าวขึ้นมาจ่อที่ปากน้องชายแล้วพูดด้วยน้ำเสียงบังคับ

"ไม่เอา ชั้นกินไม่ลง" แวนเนสเบือนหน้าหนีเพราะได้กลิ่นอาหารแล้วรู้สึกไม่ค่อยดี เจอร์รี่จับหน้าน้องให้หันกลับมา

"จะอ้าปากแล้วกินข้าวดีๆหรือจะต้องให้ชั้นบีบปากแล้วเอาข้าวยัดเข้าไป?" ขู่น้องด้วยน้ำเสียงดุดัน แวนเนสทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แต่ก็ต้องยอมอ้าปากกินข้าวแต่โดยดีเพราะรู้ดีว่าหากต้องให้พี่ชายบังคับแล้วเขาจะต้องเจอกับอะไรบ้าง

"เคี้ยวให้ละเอียดแล้วกลืนลงไป!" พูดต่อด้วยน้ำเสียงดุๆ แวนเนสทำหน้าพะอืดพะอมแต่ก็ฝืนกลืนลงคอ

"ขอกินน้ำ" แวนเนสบอกพี่ชายแต่เจอร์รี่กลับส่ายหน้า

"กินข้าวให้หมดก่อนแล้วค่อยกินน้ำ มัวแต่กินข้าวคำน้ำคำได้ยังงัยกัน?" ว่าแล้วก็ตักข้าวป้อนน้องอีก แวนเนสฝืนใจกินด้วยความทรมานรู้สึกร่างกายปั่นป่วนไปหมด

"พอก่อนได้มั๊ย?" แวนเนสผลักมือพี่ชายที่จะป้อนข้าวออกเบาๆหลังจากกินไปได้เพียงสองสามคำ

"ไม่ได้! อ้าปากเดี๋ยวนี้!" พี่ใหญ่ทำเสียงดุ แวนเนสก้มหน้าหนีเพราะรู้สึกอยากจะอาเจียน

"อยากโดนบีบปากใช่มั๊ย?" เสียงเข้มขึ้นตามลำดับแล้วเมื่อเห็นน้องยังเฉยเจอร์รี่ก็ใช้มือบีบปากน้องแล้วตักข้าวยัดเข้าปาก เล่นเอาแวนเนสถึงกับน้ำตาร่วง

"กินข้าวแค่นี้มันจะตายหรืองัย? หา!!!" เอ็ดน้องออกมาอีกเพราะไม่คิดว่าน้องจะมีอาการพะอืดพะอมร่วมด้วย แวนเนสกลืนข้าวคำนั้นลงคอทั้งน้ำตา เขารู้สึกทรมานเป็นอย่างมากเพราะตอนนี้ข้าวที่กลืนกินลงไปนั้นมันมาจุกอยู่ที่คอทำให้อยากจะอาเจียนออกมาเต็มที จนเมื่อกินไปได้อีกเพียงคำเดียวแวนเนสก็ลุกพรวดแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว

"แวนเนส!" เจอร์รี่อุทานแล้วมองตามน้องอย่างงงๆ

"เป็นอะไรหรอ?" เสี่ยวจือที่เห็นแวนเนสวิ่งไปเดินเข้ามาถามเจอร์รี่

"ไม่รู้สิครับ กินข้าวอยู่ดีๆก็วิ่งไปห้องน้ำ" เสี่ยวจือได้ยินดังนั้นก็เริ่มกังวลใจเช่นกัน

"คงไปอาเจียนหละมั้ง? เมื่อเช้ากินข้าวเข้าไปก็อาเจียนออกมาหมด" เสี่ยวจือพูดออกมาอย่างลืมตัว จนเมื่อเห็นเจอร์รี่จ้องหน้าอยู่ก็ได้แต่ทำหน้าเจื่อนๆ

"ขอโทษทีที่ไม่ได้บอก แวนเนสเขาไม่อยากให้เธอเป็นห่วงน่ะ" เอ่ยขอโทษเจอร์รี่ที่ช่วยแวนเนสปิดบัง

"ผมกะแล้วเชียวเมื่อเช้าแวนเนสเขาดูท่าทางแปลกๆ เจ้านี่ไม่เคยโกหกผมได้เลยซักครั้ง" พูดจบเจอร์รี่ก็รีบเดินตามไปดูน้องชาย เมื่อแวนเนสออกมาจากห้องน้ำเห็นพี่ชายกับเสี่ยวจือยืนอยู่หน้าห้องน้ำก็มีสีหน้าตกใจเล็กน้อย

"เป็นอะไร?" เจอร์รี่เอ่ยถาม

"เปล่า ชั้นแค่มาฉี่เฉยๆ" แวนเนสปฏิเสแต่หลบตาพี่ชาย

"อย่ามาโกหกชั้น เสี่ยวจือบอกชั้นแล้วว่าเมื่อเช้านายกินข้าวแล้วก็อาเจียนออกมาหมด" แวนเนสได้ยินดังนั้นก็เปลี่ยนสายตาไปทางผู้จัดการส่วนตัว

"เจอร์รี่เป็นห่วงเธอมากนะ ชั้นเองก็เหมือนกัน ตอนนี้ดูท่าทางเธอไม่ดีเอามากๆเลยนะ" เสี่ยวจือพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล

"ผมไม่เป็นไร" แวนเนสยังคงยืนกรานคำเดิม

"ทำไมนายถึงดื้อแบบนี้! เห็นๆอยู่ว่านายน่ะไม่สบายมากยังจะบอกว่าไม่เป็นไรอีก! พอได้แล้ว! ชั้นไม่ยอมให้นายทำงานต่ออีกนายต้องไปหาหมอ!" พี่ใหญ่ยื่นคำขาดแล้วดึงแขนน้องเดินออกมาเพื่อที่จะบอกทีมงาน

"เจอร์รี่! นายอย่าทำแบบนี้ได้มั๊ย? ตัวชั้นเป็นยังงัยชั้นรู้ดีอยู่หรอก นายอย่ามาทำเป็นรู้ดีกว่าชั้นหน่อยเลย ปล่อย! ชั้นจะทำงานต่อ!" พูดจบแวนเนสก็สะบัดตัวจนหลุดจากพี่ชายแล้วเดินไปบอกทีมงานว่าเขาพร้อมจะทำงานต่อแล้ว ทำให้เจอร์รี่ได้แต่มองตามอย่างโมโห

"เธอใจเย็นๆก่อนนะ ชั้นจะบอกทีมงานให้เอง" เสี่ยวจือหันมาพูดปลอบเจอร์รี่

"ไม่ต้องบอกแล้วหละครับ ปล่อยมันเลย อยากทำงานก็ให้มันทำไป ผมจะไม่ห้ามมันอีกแล้ว บอกมันด้วยว่าผมกลับก่อน" พูดจบเจอร์รี่ก็เดินไปหยิบข้าวของของตัวเอง

"เจอร์รี่ ไม่เอาน่า....อย่าเพิ่งโมโหเลยนะ แวนเนสอาจจะไม่ได้เป็นอะไรมากจริงๆก็ได้ ไม่งั้นมันจะฝืนตัวเอง......" เสี่ยวจือยังพูดไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายขึ้นมาก่อนทั้งเสี่ยวจือและเจอร์รี่หันไปทางต้นเสียงพร้อมกัน

"ตายแล้ว! แวนเนส!!" สิ้นเสียงนั้นเจอร์รี่ก็รีบวิ่งเข้าไปหาน้องชายทันทีแล้วเขาก็เห็นน้องเป็นลมล้มพับอยู่บนฉากที่ใช้ถ่ายภาพ

"ใครก็ได้เรียกรถพยาบาลให้ผมที!!" ร้องตะโกนบอกพร้อมกับช้อนร่างน้องชายขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน





 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 25 พฤษภาคม 2550 13:24:23 น.
Counter : 1226 Pageviews.  

Chapter 29

ตอนที่ 29
"ไจ่ไจ๋...." เจอร์รี่ส่งเสียงเรียกน้องอย่างแผ่วเบาเมื่อเห็นน้องนอนนิ่งอยู่บนเตียง
"ไจ่ไจ๋ ยังไม่ลุกอาบน้ำอาบท่าอีกหรอ?" ร่างของน้องชายค่อยๆหันมา เมื่อเห็นหน้าพี่ใหญ่ไจ่ไจ๋ก็เริ่มน้ำตาซึมออกมาอีก
"อย่าร้องไห้....ไจ่ไจ๋.....พี่ไม่ได้โกรธนายเลยนะ" เจอร์รี่ทรุดตัวนั่งลงข้างน้อง
"พี่ใหญ่ ผมขอโทษนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะผิดนัดพี่จริงๆ ผมขอโทษ" น้องเล็กบอกพี่ชายแล้วพยายามเม้มปากเพื่อกลั้นไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา
"บอกแล้วงัยว่าพี่ไม่ได้โกรธนาย ไม่ต้องร้องนะ" พูดจบเจอร์รี่ก็รั้งตัวน้องเข้ามากอดแต่แล้วก็ต้องชะงักไปเพราะรู้สึกว่าตัวน้องอุ่นๆ
"ไจ่ไจ๋ นายไม่สบายหรือเปล่า?" ดันตัวน้องชายออกแล้วเอามืออังที่หน้าผากเพื่อวัดไข้
"ตัวรุมๆนะไจ่ไจ๋ รู้สึกยังงัยบ้าง?" ถามไถ่อาการน้องอย่างเป็นห่วง
"ผมปวดหัว แล้วก็เจ็บคอนิดๆ" ตอบพี่ชายออกมาตามจริง
"งั้นวันนี้หยุดเรียนซักวันนะ นอนลงก่อนพี่จะลงไปเอาอาหารเช้ากับยามาให้กิน" เจอร์รี่ว่าพร้อมกับดันตัวน้องให้นอนลงตามเดิม
"ไม่ต้องหรอกครับพี่ ผมยังไม่หิว อยากนอนพักมากกว่า" ไจ่ไจ๋พูดขัดในขณะที่เอนตัวนอนลงแต่โดยดี
"รู้สึกเพลียหรอ?" ถามซักไซร้ต่อ
"อืม....เมื่อคืนแทบไม่ได้นอนเลย" ตอบรับคำพี่ชายเสียงแผ่ว
"ทำไมถึงไม่ได้นอนหละ? มัวทำอะไรอยู่?" ถามน้องกลับไปสีหน้าเริ่มบึ้งนิดๆเพราะนึกว่าน้องคุยโทรศัพท์
"ผมคิดว่าพี่โกรธผม ผมกลัวพี่จะไม่คุยกับผมอีก ผมเอาแต่คิดเรื่องนี้จนนอนไม่หลับ" ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็ใจอ่อนยวบ รู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้น้องไม่สบาย
"พี่ขอโทษ....." บอกด้วยน้ำเสียงเศร้าๆพร้อมกับลูบหัวน้องอย่างอ่อนโยน
"พี่จะลงไปเอาผ้าขนหนูมาเช็ดตัวให้นะ จะได้รู้สึกสบายขึ้น" ไจ่ไจ๋ยิ้มรับนิดๆ เจอร์รี่จึงรีบเดินลงมาข้างล่าง
"เป็นงัยวะ?" แวนเนสเดินมากอดคอพี่ชายพร้อมกับเอ่ยถาม
"น้องไม่สบาย ดูเหมือนจะเป็นไข้" เจอร์รี่ตอบ
"หา!!! น้องเป็นไข้หรอ? แต่เมื่อกี้ที่ชั้นเข้าไปหาก็เห็นน้องมันยังดีๆอยู่นี่หว่า" แวนเนสอุทานออกมาอย่างลืมตัว เจอร์รี่เลยหันควับมามอง
"เอ่อ.....แหะๆๆๆ ชั้นก็เข้าไปดูมันนิดนึงเหมือนกัน" เมื่อเห็นสายตาพี่ชายแวนเนสเลยยอมสารภาพ
"แล้วไม่รู้หรืองัยว่าน้องไม่ไม่สบาย" ย้อนถามเสียงห้วนกว่าเดิม
"ไม่รู้ ชั้นคุยกับมันนิดหน่อยเอง ไม่ได้แตะโดนตัวมัน" แวนเนสส่ายหน้าแล้วสบตากับพี่ชาย
"แล้วน้องไข้สูงหรือเปล่า? ต้องพาไปหาหมอมั๊ย?" ถามต่ออย่างเป็นห่วง
"ไม่สูงหรอก แค่ตัวรุมๆ ชั้นจะเอาผ้าไปเช็ดตัวให้น้อง นายช่วยเตรียมอาหารเช้าให้ชั้นทีสิ เดี๋ยวชั้นจะเอาไปให้น้องกินแล้วจะได้กินยา" พี่ใหญ่ตอบพร้อมกับบอกให้ช่วย
"ได้ๆๆ" แวนเนสรีบรับคำแล้วกระวีกระวาดไปเตรียมอาหารให้น้องโดยเร็ว ส่วนเจอร์รี่ก็เดินไปหยิบกะละมังใบย่อมๆพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็กพอเหมาะ
"ไจ่ไจ๋ไม่สบายหรอ?" เสี่ยวจือถามเจอร์รี่ขึ้นมาบ้าง
"ครับ เห็นบอกว่าปวดหัวแล้วก็เจ็บคอ ตัวก็อุ่นๆด้วย" เจอร์รี่ตอบพร้อมกับเทน้ำใส่แก้วเพื่อเอาขึ้นไปให้น้อง
"งั้นฝากบอกทีว่าขอให้หายป่วยเร็วๆ" เสี่ยวจือฝากฝัง
"ครับ เดี๋ยวผมจะบอกให้" เจอร์รี่รับคำยิ้มๆแล้วมองเลยไปที่น้องชาย
"แวนเนส ถ้าเสร็จแล้วนายก็ไปทำงานซะ ทิ้งไว้นั่นแหละเดี๋ยวชั้นลงมายกขึ้นไปเอง" บอกกล่าวกับน้องชาย
"ดูแลน้องมันดีๆหละ บอกมันว่าเดี๋ยวชั้นจะรีบกลับ" แวนเนสสั่งเสียพี่ชาย
"อืม....รีบไปได้แล้วเดี๋ยวจะสาย" รับคำแล้วเอ่ยปากไล่ให้น้องไปทำงานเพราะตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะแปดโมงแล้ว
"งั้นชั้นไปนะ" แวนเนสเอ่ยลาพี่ชายแล้วหันไปพยักหน้ากับเสี่ยวจือ
"ทำตัวให้ดีๆหละ ตั้งใจทำงานด้วย" พี่ใหญ่อดที่จะกำชับน้องชายไม่ได้ แวนเนสทำหน้าเมื่อยใส่
"รู้แล้ว ไม่ต้องสั่งหรอกน่า!" บ่นอุบอิบเบาๆแล้วเดินนำออกไปก่อน
"หึๆๆๆ....." เสี่ยวจือหัวเราะออกมาเบาๆก่อนที่จะหันมาร่ำลาเจอร์รี่แล้วตามแวนเนสออกไปโดยเร็ว หลังจากแวนเนสออกไปแล้วเจอร์รี่เดินกลับขึ้นไปในห้องน้องชายคนเล็ก
"หลับหรือยัง?" เจอร์รี่ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ไจ่ไจ๋ปรือตาขึ้นมามองพี่ชายแล้วพยักหน้ารับ
"หลับแล้วได้ยินด้วยหรอ?" ถามเป็นเชิงหยอกเอินแล้วเอากะละมังไปใส่น้ำในห้องน้ำแล้วกลับออกมาเอาผ้าขนหนูชุบน้ำแล้วบิดหมาดๆ จากนั้นก็เอาไปเช็ดหน้าให้น้อง
"สบายขึ้นมั๊ย?" ถามน้องในขณะที่เช็ดแขนให้
"ครับ" ไจ่ไจ๋ตอบสั้นๆพลางมองดูการกระทำของพี่ชายด้วยความรู้สึกซึ้งใจ
"เดี๋ยวนายต้องกินข้าวซักหน่อยนะ จะได้กินยาได้" เจอร์รี่พูดต่อ
"แต่ผมเจ็บคอนี่พี่" ไจ่ไจ๋รีบแย้งเพราะไม่อยากกิน
"เจ็บก็ต้องกิน มีแกงจืดอยู่แหนะ พี่รองอุตส่าห์ตักไว้ให้ก่อนออกไปทำงาน" พี่ใหญ่ยกเอาแวนเนสขึ้นมาอ้าง
"พี่รองไปทำงานแล้วหรอ?" ถามพี่ชายกลับไป
"ไปแล้ว เออ....เสี่ยวจือฝากบอกให้นายหายเร็วๆด้วยนะ" พูดต่ออย่างนึกขึ้นได้
"หรอ?" ตอบรับเป็นเชิงถามแต่ไม่ได้ต้องการคำตอบจริงจังนัก
"วันนี้ที่มหาลัยมีงานต้องทำหรือเปล่า? โทรบอกเพื่อนๆให้ช่วยเก็บงานให้ไป" ไจ่ไจ๋ส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย
"ไม่มีอะไรหรอกครับ วิชานี้อาจารย์เขาไม่เคยให้งานในห้อง" ขยายความให้พี่ชายฟัง
"เอาหละ เสร็จแล้ว.....เดี๋ยวกินข้าวนะ" พูดจบเจอร์รี่ก็เอาน้ำในกะละมังไปเททิ้งในห้องน้ำแล้วลงไปยกอาหารเช้าขึ้นมาให้น้องชาย
"ทำไมเยอะจัง?" ไจ่ไจ๋โอดครวญเมื่อเห็นข้าวพูนจานพร้อมทั้งน้ำแกงชามใหญ่
"กินเยอะๆร่างกายจะได้แข็งแรง" พูดจบก็ขยับตัวขึ้นไปนั่งบนเตียงกับน้อง ไจ่ไจ๋จึงขยับตัวเข้ามากึ่งนั่งกึ่งนอนซบอยู่ที่อกพี่ชาย เจอร์รี่ส่ายหน้ายิ้มๆ
"เดี๋ยวข้าวก็ติดคอตายหรอก ทำไมไม่นั่งดีๆ?" ว่าน้องแต่สีหน้ายังคงรอยยิ้มไว้
"ผมนั่งไม่ไหวนี่ หัวหมุนติ้วเลย" ไจ่ไจ๋ได้ทีอ้อนเสียยกใหญ่ เจอร์รี่หัวเราะเบาๆแล้วจัดการตักน้ำแกงใส่ในจานข้าว
"กินเองไหวมั๊ย?" ถามออกไปทั้งๆที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว
"ผมป่วยอยู่นี่" ทำเสียงแหบๆจนพี่ชายนึกหมั่นไส้
"โอ้ย! ป่วยหนักนักแหละ! หืม?" พูดจบก็ดึงหูน้อง
"แหม...." ไจ่ไจ๋ร้องครางออกมาแต่ก็ยังกอดพี่ชายอย่างออดอ้อน พี่ใหญ่จึงตักข้าวแล้วป้อนน้อง
"อร่อยมั๊ย?" ถามน้องอย่างเอาใจ
"อืม....พี่ใหญ่ทำเองหรอ?" ย้อนถามพี่ชายกลับ ซึ่งเจอร์รี่ก็พยักหน้าแทนคำตอบแล้วป้อนน้องอีก พอกินไปได้ซักสี่ห้าคำไจ่ไจ๋ก็เริ่มส่ายหน้า
"ไม่เอาแล้วครับ ผมเจ็บคอ" ร้องขอกับพี่ชายเสียงอ่อย
"กินอีกหน่อยสิ นายเพิ่งกินไปได้แค่นิดเดียวเอง" พี่ใหญ่คะยั้นคะยอ
"ไม่ไหวแล้ว" ส่ายหน้าดิกไม่ยอมกินต่อ
"อีกหน่อยเถอะ ไม่งั้นพี่เสียใจแย่เลยอุตส่าห์ตั้งใจทำให้นายนะ" ได้ยินดังนั้นไจ่ไจ๋จึงยอมอ้าปากกินต่อแต่โดยดี
"พี่ใหญ่กินแล้วหรอ?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายในขณะที่ยังเคี้ยวข้าวในปากตุ้ยๆ
"เรียบร้อยแล้วหละ" เจอร์รี่ตอบพร้อมกับตักข้าวใส่ปากน้องอีก
"แล้ววันนี้พี่ไม่ไปทำงานหรอ?" ถามพี่ชายต่ออีก พี่ใหญ่เหลือบตาไปมองนาฬิกาเล็กน้อย
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวโทรไปลาก็ได้" ได้ยินดังนั้นไจ่ไจ๋ก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย
"เมื่อวานลาไปครึ่งวันแล้ว วันนี้ลาอีกได้หรอ?" แกล้งถามแหย่พี่ชาย เจอร์รี่ตีหน้าเข้มใส่น้อง
"ก็เพราะใครหละ? หืม?" กัดฟันถามอย่างหมั่นไส้แล้วตักข้าวคำโตป้อนใส่ปากน้อง
"โห! ยัดเข้ามาได้ คำเบ้อเร้อเลย!" บ่นเสียงอู้อี้เพราะกำลังเคี้ยวอยู่
"พี่สอนว่ายังงัย? เวลาเคี้ยวอาหารห้ามพูดใช่มั๊ย?" แกล้งทำเสียงดุเจ้าน้องชายตัวดี ไจ่ไจ๋ผลุบตาหลบแล้วเคี้ยวตุ้ยๆจนหมดคำ
"เดี๋ยวติดคอตายจะไม่ช่วยเลย เฮี้ยวนักนะ!" ไจ่ไจ๋ย่นจมูกใส่แล้วเอาหัวซบที่อกพี่ชาย
"ถ้าพี่ใหญ่ปล่อยให้น้องตายไปต่อหน้าต่อตาก็ใจร้ายเกินไปแล้วหละ" พูดออกมาเบาๆ
"พี่ต้องใจร้ายกับเราซะบ้าง ใจดีมากเกินไปเดี๋ยวจะเหลิง" ว่าพลางป้อนข้าวน้องต่อ
"อย่านะพี่ใหญ่ เป็นพี่ชายใจดีแบบนี้ตลอดไปแหละดีที่สุดแล้ว อย่าใจร้ายกับผมเลย นะๆๆๆ" ทำเสียงออดอ้อนซะจนพี่ชายอดที่จะยิ้มไม่ได้
"อันนี้ก็ต้องดูว่านายทำตัวน่ารักหรือเปล่า? ถ้าทำตัวดื้อด้านเกเรพี่คงใจดีด้วยไม่ได้หรอก" พูดไปก็ตักข้าวให้น้องกินไปด้วย ไจ่ไจ๋เองก็ลืมไปชั่วขณะว่าตัวเองเจ็บคออยู่เพราะมัวแต่คุย
"ผมจะเป็นเด็กดี จะเชื่อฟังพี่ใหญ่ทุกอย่างเลย" ไจ่ไจ๋ตอบรับทันควัน
"จริงหรอ? แม้ว่าสิ่งที่พี่บอกจะขัดใจนายก็ตาม อย่างงั้นใช่มั๊ย?" ย้อนถามน้องกลับอย่างไม่ค่อยเชื่อ ได้ยินดังนั้นไจ่ไจ๋ก็ชะงักไป
"พี่ใหญ่.....ผมไม่กินแล้ว ไหนเมื่อกี้บอกให้กินอีกนิดนึงงัย?" เปลี่ยนเรื่องพูดหน้าตาเฉย
"เหลืออีกหน่อยก็จะหมดแล้ว อย่างอแงสิ" เจอร์รี่กล่อมน้อง
"ไม่เอา ผมเจ็บคอ" น้องเล็กส่ายหน้าปฏิเสธ
"อีกนิดนึง.....นะ....." เจอร์รี่เซ้าซี้น้องต่อ
"ไม่เอา พอแล้ว ผมอิ่ม" ปฏิเสธอีกครั้งหนึ่ง
"อีกห้าคำแล้วพอเลย" พี่ใหญ่กะข้าวในจานแล้วต่อรองกับน้อง
"ห้าคำเท่านั้นนะ" ไจ่ไจ๋เริ่มอ่อนลงแล้วย้ำคำกับพี่ชาย
"อืม....ห้าคำแล้วกินยา จะได้นอนซักที" พี่ใหญ่พยักหน้ารับ ไจ่ไจ๋จึงยอมกินต่อ
"ถ้าพี่กลางโทรมาตอนผมหลับ ปลุกด้วยนะ" ไจ่ไจ๋สั่งพี่ชาย
"ทำไม? มีเรื่องจะคุยกับพี่เขาหรอ?" พี่ใหญ่ย้อนถาม
"เปล่า แค่คิดถึง อยากได้ยินเสียง" ตอบเสร็จก็อ้าปากกินข้าวต่อ
"ไว้ตื่นมาแล้วนายค่อยโทรหาพี่เขาก็ได้นี่" เจอร์รี่แย้ง
"ไม่เอา จะโทรไปทำไมให้เปลือง ไหนๆพี่กลางก็โทรมาแล้ว คุยๆซะทีเดียว" ไจ่ไจ๋ตอบหน้าตาเฉย
"ฮึ! โทรหาพี่ชายหละเปลื้องแต่โทรหาสาวหละไม่มีคำว่าเปลื้องเลยนะ!" อดที่จะแขวะน้องไม่ได้ น้องเล็กได้ยินแล้วแต่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วเฉไฉถามพี่ชายแทน
"เหลืออีกกี่คำ?" เจอร์รี่มองข้าวในจานก่อนที่จะตอบน้อง
"อีกสี่คำ" ไจ่ไจ๋นิ่วหน้าเมื่อได้ยินคำตอบ
"เพิ่งกินไปคำเดียวเองหรอ? ผมว่าผมกินมากกว่าคำนึงนะ" ไจ่ไจ๋แย้ง
"นายเพิ่งกินไปแค่คำเดียวนั่นแหละ มัวแต่คุยอยู่งัย" เจอร์รี่รีบว่าน้องกลบเกลื่อนเพราะต้องการให้น้องกินให้หมด
"เอ้า! อ้าปากเร็วเข้า อีกสี่คำ" พูดจบก็ป้อนข้าวให้น้องอีก ในที่สุดไจ่ไจ๋ก็กินจนหมดจานโดยลืมนับไปว่ากินเข้าไปทั้งหมดกี่คำเพราะมัวแต่ถามโน้นถามนี่พี่ชายอยู่
"เก่งมาก! คราวนี้ก็กินยา" เจอร์รี่วางจานข้าวไว้ที่โต๊ะข้างเตียงแล้วหยิบยามาส่งให้น้อง ไจ่ไจ๋ก็รับมากินแต่โดยดี
"ทีนี้ก็นอนได้แล้วไอ้จอมยุ่ง!" พูดจบก็จับตัวน้องให้เอนลงนอนแล้วจัดการห่มผ้าให้
"ขอบคุณนะครับพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋เอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มให้พี่ชาย เจอร์รี่ยิ้มรับแล้วพยักหน้าให้น้อง
"หลับตานอนซะ จะได้หายเร็วๆ" ยืนมองน้องอยู่ครู่หนึ่งก็จัดการเก็บจานชามเอาลงไปข้างล่างโดยปล่อยให้น้องได้นอนพักอย่างเต็มที่

- ตอนเย็น -
"เจอร์รี่ น้องหละ?" แวนเนสเอ่ยถามขึ้นมาทันทีที่ก้าวขาเข้าบ้าน เจอร์รี่ละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้าแล้วหันไปทางต้นเสียง
"หลับอยู่ข้างบน" ตอบคำถามนั้นแล้วเหยียดมือบิดขี้เกียจคลายความเมื่อย
"หลับนานยัง?" ถามต่อพร้อมกับเดินมานั่งลงข้างพี่ชาย
"ไม่นานหรอก มันลงมาคุยจ้อตั้งแต่บ่ายจนชั้นทำงานไม่ได้เลยต้องบังคับให้มันขึ้นไปนอน" ว่าพลางหัวเราะไปด้วย
"งั้นมันก็หายแล้วหละสิ" แวนเนสก็พลอยยิ้มออกมาด้วย
"ยังไม่หายซะทีเดียวหรอก ต้องดูก่อนว่าจะมีไข้อีกหรือเปล่า?" ตอบข้อซักถามของน้องเสร็จก็ขยับตัวไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์ตรงหน้าตามเดิม
"ถ้างั้นรอมันตื่นก่อนแล้วค่อยขึ้นไปหามัน" พูดจบแวนเนสก็ไถลตัวเหยียดขายาวที่พื้นแล้วเอาหัวเกยบนเบาะนั่งของโซฟา เจอร์รี่เหลือบมองน้องพลางส่ายหน้าไปมา
"ถ้าเหนื่อยก็ไปอาบน้ำแล้วนอนพักข้างบนเลย" บอกเจ้าน้องชายจอมขี้เกียจ
"อืม...." แวนเนสครางเสียงหลับแต่ไม่ได้ขยับตัวไปไหนซ้ำยังหลับตาลงอีกด้วย
"อืมแล้วยังไม่ลุกไปอีก ต้องให้พูดกี่ครั้ง?" ทำเสียงเข้มขึ้นมาเล็กน้อย แวนเนสลืมตาขึ้นมาแล้วจิ๊ปากอย่างรำคาญ
"ขี้บ่นชะมัดเลย" งึมงำออกมาเบาๆ
"นี่! อย่านึกว่าชั้นไม่ได้ยินนะ บ่นอีกเจอดีแน่!" ทำหน้าดุใส่น้องชาย แวนเนสทำหน้าเหรอก่อนที่จะขยับตัวเข้าไปใกล้พี่ชายแล้วยื่นหน้าไปมองที่แป้นคีย์บอร์ดของเครื่องคอมพิวเตอร์
"จะทำอะไร?" พี่ใหญ่ถามน้องอย่างงงๆ แวนเนสไม่ตอบแต่เอานิ้วจิ้มลงที่คีย์บอร์ด
"นี่งัย! ชั้นเจอดีแล้ว!" พูดจบก็หัวเราะอย่างขบขันกับมุขของตัวเอง
"กวนประสาทนักนะ!" พี่ใหญ่ไม่พูดเปล่าแต่เอามือเขกหัวเจ้าคนจอมกวนให้ด้วย
"โอ้ย!!! นายอ่ะอย่างงี้ทุกทีเลย! ชอบทำชั้นเจ็บๆเรื่อย! เล่นด้วยก็ไม่ได้!" แวนเนสพูดด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอดพลางเอามือคลำหัวตัวเอง
"ก็เห็นว่าชั้นทำงานอยู่ยังจะมาเล่นอะไรไม่เข้าเรื่องอีก!" เจอร์รี่ทำเสียงดุ
"แล้วเล่นยังงัยให้เข้าเรื่องหละ?" อดที่จะกวนพี่ชายอีกไม่ได้
"ไอ้นี่หนิ!!!" เอ็ดตะโรใส่น้องพร้อมกับยกมือขึ้นโดยอัตโนมัติ
"อย่านะ!" แวนเนสเองก็ยกมือขึ้นกันโดยพลันเช่นกัน แต่ก็โดนพี่ชายเขกหัวเข้าให้อีกป๊อกหนึ่งด้วยความหมั่นไส้
"หูยยย....ใจร้าย! จำไว้เลยจะไม่เล่นอะไรด้วยแล้ว!" แวนเนสเอามือคลำหัวตัวเองป้อยๆพลางต่อว่าพี่ชายไปด้วย
"เสียใจจะแย่....ไปไกลๆเลยไป๊....." เจอร์รี่โบกมือไล่เจ้าน้องชายตัวดีอย่างเอือมระอาพร้อมกับลงมือทำงานต่อ
"ไปก็ได้! โอ๊ะ!" เสียงอุทานของน้องชายทำให้พี่ใหญ่ละสายตามามองน้องอีกครั้ง
"เลิกเล่นได้แล้วนะ! ไม่งั้นโดนแน่!" พูดขู่เจ้าน้องชายตัวแสบเสียงดุแต่ก็หันกลับไปทำงานอีก
"ชั้นเวียนหัว" แวนเนสบอกพี่ชายพร้อมกับเอานิ้วนวดที่ขมับตัวเองเบาๆ
"ยังอีก! จะลองดีกับชั้นใช่มั๊ย?" เอ็ดใส่น้องพร้อมกับขยับตัวลุกขึ้นเพื่อจะเล่นงานน้องชายเพราะนึกว่าน้องยังกวนไม่เลิก
"ชั้นไม่ได้แกล้ง! ชั้นเวียนหัวจริงๆนะ!" แวนเนสละล่ำละลักบอกพี่ชาย
"นึกว่าชั้นจะเชื่อหรอ? ไอ้กะล่อน! ต้องตีซะให้เข็ดจะได้เลิกกวนประสาทซักที!" ว่าพลางเงื้อนมือขึ้นลงอยู่ในอากาศ
"ไม่เอา! อย่าตีนะ! ชั้นไม่ได้แกล้งจริงๆ!" เมื่อเห็นพี่ชายเอาจริงแวนเนสก็ร้องเสียงหลงพร้อมกับเอาหน้าซุกลงที่พนักพิงของโซฟา
"ไม่ได้! อยากก่อกวนชั้นดีนักหนิ! ลุกขึ้นมา!" พูดเสียงเข้มพร้อมกับคว้าแขนน้องเพื่อจะฉุดให้ลุกขึ้นแต่แล้วก็ต้องชะงักไป
"แวนเนส....ทำไมนายตัวร้อนแบบนี้หละ?" เสียงอ่อนลงทันที เขารีบปล่อยแขนน้องแล้วเลื่อนมือมาแตะที่หน้าผากน้องแทน
"หันหน้ามาซิ" สั่งน้องให้หันหน้ามาทางเขา แวนเนสเงยหน้ามองพี่ชายตาปริบๆ
"เวียนหัวหรอ?" ถามน้องด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"ตอนนี้หายแล้ว แต่เป็นตอนที่จะลุกไปเมื่อกี้" แวนเนสตอบ
"สงสัยนายคงลุกเร็วไป แล้วนี่ไข้ขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมไม่บอกชั้น?" สีหน้าของพี่ใหญ่เริ่มเป็นกังวลเมื่อน้องชายคนรองพลอยป่วยไปด้วยอีกคน
"สงสัยจะขึ้นตอนที่จะโดนนายเล่นงานเมื่อกี้หละมั้ง?" ตอบแบบติดกวนด้วยสีหน้าซื่อๆ
"ฮึ! เดี๋ยวจะเอาให้ร้องไม่ออกเลย! กวนไม่เลิกนะ!" พี่ใหญ่ดุเจ้าน้องชายจอมกวนให้อีก
"กลัวแล้วๆๆๆ ไม่เล่นแล้วก็ได้" แวนเนสพึมพำ
"พอดีวันนี้ชั้นตากแดดเกือบทั้งวัน ตอนนั่งรถกลับมาก็รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว แต่ไม่นึกว่าจะมีไข้ด้วย" แวนเนสเลิกเล่นแล้วบอกพี่ชายไปตามจริง
"งั้นขึ้นไปนอนพักซะ เดี๋ยวชั้นจะเอาผ้าขึ้นไปเช็ดตัวให้" ว่าพลางค่อยๆพยุงให้น้องลุกขึ้น
"เดี๋ยวชั้นจัดการเองก็ได้ นายทำงานไปเถอะ" แวนเนสบอกพี่ชายอย่างเกรงใจ
"ไม่เป็นไรหรอก ไว้ชั้นทำวันหลังก็ได้" เจอร์รี่ว่าพร้อมกับหันไปปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ในทันที
"โธ่! ว่าจะแอบอาบน้ำซักหน่อย.....อดเลย....." แวนเนสแกล้งแหย่พี่ชายเล่นอีกเพราะไม่อยากให้พี่ชายเป็นกังวลกับอาการป่วยของเขา
"ถ้าอยากตายเร็วๆชั้นจะสงเคราะห์ให้เอง!" พี่ใหญ่ว่าแล้วจ้อมหน้าน้องตาเขม็ง แวนเนสยิ้มแหยๆแล้วรีบเดินเลี่ยงขึ้นห้องไปโดยเร็ว

- ในห้องนอนแวนเนส -
"โอ้ย!" แวนเนสสะดุ้งโหยงเมื่อโดนฝ่ามือของพี่ชายตวัดลงมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
"ทำอะไร?" ถามเสียงเข้มหน้าขึง
"ล้างหน้าเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรเลย" ตอบเสียงอ่อยแล้วถอยหลังหนีด้วยกลัวว่าพี่ชายจะซ้ำลงมาอีก พี่ใหญ่มองน้องชายตั้งแต่หัวจรดเท้า
"ออกไปข้างนอก! เดี๋ยวชั้นไปเช็ดตัวให้!" บอกเสียงห้วนหลังจากแน่ใจแล้วว่าน้องชายคงไม่ได้คิดจะอาบน้ำตามที่พูดไว้เมื่อกี้ แวนเนสเอามือเช็ดหน้าแล้วรีบเดินออกไปทันที เจอร์รี่ถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนที่จะเอาผ้าขนหนูชุบน้ำแล้วเดินตามออกมา
"เบาๆหน่อยสิ! ชั้นป่วยอยู่นะ!" แวนเนสโวยวายเพราะพี่ชายออกแรงเช็ดที่แขนของเขาค่อนข้างแรง
"คนป่วยมันกวนประสาทได้ถึงขนาดนี้เชียวหรอ?" เหลือบตามองหน้าน้องชายพร้อมกับตวัดเสียงพูดแต่ก็เบามือลง
"เออๆๆ ขอโทษก็ได้ ชั้นไม่อยากให้นายกังวลก็เลยพูดเล่นๆเท่านั้นเอง ชั้นก็กลัวตายเหมือนกันแหละน่า! ไม่ทำอะไรบ้าๆหรอก!" แวนเนสพูดตัดบทในทันที เจอร์รี่ได้ยินก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ
"ชั้นไม่มีอารมณ์มาเล่นกับนายหรอกนะ แค่ไจ่ไจ๋มันป่วยชั้นก็ห่วงจะแย่อยู่แล้ว นี่นายยังพลอยป่วยไปกับมันอีกคน ชั้นต้องห่วงเพิ่มขึ้นมาอีกเท่าตัว" บอกน้องด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
"แหม....ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็หายแล้ว" แวนเนสจับมือพี่ชายแล้วบีบเบาๆ
"ทำเป็นพูดดีไป กลัวว่าพรุ่งนี้นายจะนอนซมเพราะพิษไข้น่ะสิ" พูดจบพี่ชายก็เอื้อมมือไปจับมืออีกข้างของน้องขึ้นมา
"ทำไมมือนายร้อนขนาดนี้หละ? ไหนชั้นดูซิ" เอามืออังที่หน้าผากน้องด้วยสีหน้าเริ่มเป็นกังวล
"มือนายเย็นต่างหาก มือชั้นไม่ได้ร้อนซักหน่อย" แวนเนสแย้ง
"รออยู่นี่ เดี๋ยวชั้นเอาปรอทมาวัดไข้ให้" เจอร์รี่ไม่ได้สนใจฟังคำน้อง พอพูดจบก็รีบลุกออกไปแล้วกลับเข้ามาพร้อมกับปรอทวัดไข้ในมือ
"อ้าปากซิ" สั่งเสร็จก็เอาปรอทใส่ปากน้องชาย
"นายไม่ไปดูไจ่ไจ๋มั่งหรอ? ป่านนี้ตื่นแล้วมั้ง?" แวนเนสถามในขณะที่ยังอมปรอทอยู่
"หุบปากซะมั่งเหอะ! อยู่นิ่งๆซักห้านาทีได้มั๊ย?" ทำเสียงดุน้อง แวนเนสผลุบตาลงแล้วนั่งเฉยๆตามที่พี่ชายบอก ผ่านไปซักพักเจอร์รี่ก็ดึงปรอทออกมาดูค่าที่วัดได้
"เกือบจะ 40 องศา ไข้สูงเลยนะเนี่ย" พูดจบก็เดินเอาปรอทไปล้างเก็บ
"ไปหาหมอดีกว่า แบบนี้ไข้คงไม่ลดง่ายๆหรอก" เจอร์รี่ว่าพร้อมกับลูบหัวน้องชายไปด้วย
"อย่าเพิ่งเลย ต่อให้ไปหายังงัยหมอก็ต้องให้ยาลดไข้มากินนั่นแหละ ที่บ้านเราก็มีจะไปให้ลำบากทำไมกัน?" แวนเนสขัดขึ้น
"แล้วถ้านายไม่ได้เป็นไข้ธรรมดาหละ? ไปให้หมอตรวจดูจะได้รู้ว่าเป็นอะไรมากหรือเปล่า?" เจอร์รี่ให้เหตุผล
"แต่ชั้นไม่อยากไปอ่ะ" บอกพี่ชายออกไปตรงๆ พี่ใหญ่หยุดคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้ายอมตามนั้น
"ตามใจ งั้นนอนพักไปก่อน เดี๋ยวชั้นลงไปทำโจ๊กขึ้นมาให้กินแล้วจะได้กินยา" บอกพร้อมกับดันตัวน้องให้นอนลง
"แต่ถ้าพรุ่งนี้ไข้ไม่ลดต้องไปหาหมอนะ" แวนเนสได้ยินก็ผงกหัวขึ้นมา
"แต่พรุ่งนี้ชั้นมีงานแต่เช้านี่" แย้งพี่ชายขึ้นมา เจอร์รี่ชะงักไปเล็กน้อย
"งั้นเดี๋ยวชั้นโทรไปคุยกับเสี่ยวจือเอง" พูดจบก็ไม่รอให้น้องได้พูดอะไรต่อเขารีบเดินออกไปทันทีเพราะไม่อยากให้น้องต่อรองด้วยอีก เมื่อออกมาจากห้องแวนเนสแล้วเขาก็เดินเลยไปที่ห้องนอนของไจ่ไจ๋
"พี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋เรียกพี่ชายแล้วส่งยิ้มให้
"ตื่นแล้วหรอ?" เดินมานั่งลงที่เตียงแล้วเอามือลูบหัวน้องชาย
"ตื่นได้ซักพักแล้วครับ" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วขยับตัวเข้าไปกอดพี่ชาย
"หิวหรือยังหละ? พี่จะลงไปทำโจ๊กมาให้พี่รอง จะได้เอามาเผื่อนายด้วย" ถามน้องอย่างนุ่มนวล
"พี่รองกลับมาแล้วหรอ? เอ....แล้วพี่รองเป็นอะไรครับพี่ใหญ่ถึงต้องเอาโจ๊กขึ้นมาให้กิน?" ถามต่ออย่างสงสัย
"ไข้ขึ้นเหมือนนายน่ะสิ เราเอาไปติดพี่เขาหรือเปล่า? หืม?" ย้อนถามน้องยิ้มๆ
"อ้าว! งั้นก็แย่เลยสิ.....ว่าแต่ผมไปหาพี่รองได้มั๊ย?" ไจ่ไจ๋อุทานแล้วถามพี่ชายต่อ
"ได้สิ นายเข้าไปคุยกับมันก่อนก็ดีเหมือนกัน เดี๋ยวพี่จะได้ลงไปทำโจ๊กและก็หายามาให้กินกัน" พูดจบก็ยิ้มให้น้องเล็กน้อยแล้วช่วยพยุงให้ลงจากเตียง
"เดินไปเองได้มั๊ย? หรือจะให้พี่ไปส่ง?" ถามต่อพลางมองหน้าน้อง
"ได้ครับ พี่ใหญ่ลงไปเถอะ" ตอบรับจบก็เดินไปเคาะประตูห้องแวนเนส เจอร์รี่เองก็หมุนตัวเดินลงไปข้างล่างเช่นกัน




 

Create Date : 07 เมษายน 2550    
Last Update : 7 เมษายน 2550 23:49:29 น.
Counter : 1123 Pageviews.  

Chapter 28

ตอนที่ 28
"ไจ่ไจ๋! พรุ่งนี้เราไป....." เจอร์รี่หยุดพูดกระทันหันเมื่อเห็นว่าน้องกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ไจ่ไจ๋หันมาตามเสียงแล้วยิ้มให้พี่ชายเล็กน้อย
"โทษที พี่ไม่ทันเห็น" เอ่ยขอโทษน้องออกมาเบาๆ ไจ่ไจ๋โบกมือให้พี่ชายเป็นเชิงว่าไม่เป็นไรแต่ปากก็ยังคุยโทรศัพท์อยู่
"เดี๋ยวพี่มาใหม่ละกัน" บอกน้องด้วยน้ำเสียงเบาลง น้องเล็กยิ้มแล้วส่งสัญญาญว่ารับรู้ก่อนที่จะหันกลับไปคุยโทรศัพท์ต่อ เจอร์รี่หมุนตัวกลับพร้อมกับลอบถอนใจออกมาเบาๆในขณะเดินออกจากห้องน้องเล็ก เขาเดินเลยไปยังห้องนอนของแวนเนสแทน
"ก๊อกๆๆ" เคาะประตูห้องน้องชาย ซักครู่บานประตูก็ถูกผลักออกโดยที่แวนเนสถือโทรศัพท์แนบหูอยู่เช่นกัน
"เอ่อ...ขอโทษที...." เจอร์รี่ยิ้มเก้อๆ
"มีอะไรหรือเปล่า?" แวนเนสถามโดยไม่ได้ออกเสียง
"ไม่มีอะไรหรอก" ปฏิเสธออกไปแต่สีหน้าดูหงอยๆ
"ชั้นไปนอนหละ" พูดต่อแล้วทำท่าจะหันหลังกลับแต่แวนเนสดึงแขนพี่ชายไว้ก่อน
"กลอเรียครับ ไว้แค่นี้ก่อนละกัน พรุ่งนี้จะโทรหานะ" แวนเนสพูดใส่โทรศัพท์เบาๆ
"ฝันดีนะครับ" พูดทิ้งท้ายไว้แล้ววางสายไปในที่สุด
"ความจริงนายไม่ต้องรีบวางก็ได้ ชั้นไม่มีอะไรจริงๆแค่จะเข้ามาดูว่านายนอนแล้วหรือยัง" เจอร์รี่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าน้องต้องตัดสายคนรักเพราะเขา
"แหม....คุณพี่ชายหน้าจ๋อยเข้ามาขนาดนี้ยังจะให้ชั้นจู๋จี๋กะแฟนต่อได้ยังงัยหละ?" พูดเป็นเชิงแซวก่อนที่จะดึงตัวพี่ชายให้เข้ามาในห้องนอนของเขา
"โดนคุณน้องชายสุดที่รักขัดใจมาหรืองัยครับ?" แวนเนสไถ่ถามพี่ชายอย่างอารมณ์ดี
"เปล่า" ตอบเสียงแผ่วแต่ในใจลึกๆแล้วก็รู้สึกน้อยใจที่เดี๋ยวนี้น้องเล็กของเขาสนใจแต่แฟนสาวที่เริ่มคบกันจนแทบจะไม่มีเวลาพูดคุยกับเขาเลย
"ไจ่ไจ๋มันทำอะไรอยู่หละ?" ถามถึงน้องเล็กบ้างทั้งๆที่ก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว
"คุยกับแฟน" เจอร์รี่ตอบด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ แวนเนสเลยอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
"เหงาหละสิ! ไม่มีแฟนเป็นของตัวเองน่ะ" แซวพี่ชายออกมาอีก เจอร์รี่ไม่ตอบแต่ผลักหัวน้องเบาๆ
"นายว่าเราควรจะตั้งกฎเกณฑ์กับน้องมั๊ยวะ?" เจอร์รี่หันมาปรึกษาด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงานขึ้น
"เรื่องที่มันมีแฟนน่ะนะ?" แวนเนสย้อนถามกลับ พี่ใหญ่พยักหน้ารับเล็กน้อย
"เฮ่อ! พูดยากว่ะ ชั้นกลัวว่าพอเราไปตั้งกฎกับมันแล้วมันจะหาว่าเรากีดกันไม่อยากให้มันคบกันน่ะสิ" แวนเนสพูดตามความคิดเห็นของตัวเอง
"แต่ทุกวันนี้ชั้นว่ามันเกินไปนะ วันๆคุยแต่โทรศัพท์หนังสือหนังหาก็ไม่อ่านบ้างเลย เมื่อคืนก่อนชั้นเข้าไปห่มผ้าให้ มันก็หลับทั้งที่โทรศัพท์ยังแนบที่หูแถมสายยังไม่ได้วางอีกต่างหาก" พี่ใหญ่แจกแจงให้ฟัง
"ชั้นว่ามันก็เกินไปจริงๆ แต่นายก็ต้องเข้าใจนะว่านี่เป็นครั้งแรกที่น้องมันจริงจังกับความสัมพันธ์แบบนี้" แวนเนสเห็นด้วยกับพี่ชายแต่ก็ให้เหตุผลขัดขึ้นมาด้วย
"ชั้นเข้าใจ....ตอนแรกชั้นก็ไม่นึกว่าน้องมันจะเป็นเอามากขนาดนี้ ถ้ารู้แบบนี้ชั้นไม่ยังไม่ยอมให้น้องมันคบกับใครหรอก" พูดจบก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ
"ตอนนี้จะไปห้ามมันก็ไม่ได้แล้ว เพราะยิ่งว่าก็เหมือนยิ่งยุ" แวนเนสให้ความเห็นอีก
"เด็กวัยนี้ด้วย พูดไปเตือนไปก็เท่านั้น บางทีเราควรจะปล่อยให้น้องได้ลองผิดลองถูกเองนะ" พูดจบก็มองหน้าพี่ชาย
"ชั้นทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาชั้นจะตอบพ่อกับแม่ว่ายังงัยหละ?" พี่ใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงหนักใจ
"งั้นเวลาที่น้องอยู่บ้านเราต้องหากิจกรรมมาทำร่วมกับน้อง เบนความสนใจน้องออกมาบ้าง อาจจะช่วยได้นะ" แวนเนสแนะนำ
"ชั้นก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่เรื่องของเรื่องก็คือ ตอนนี้ชั้นแทบจะไม่ได้คุยกับน้องเลย เจอหน้ากันมันก็แค่ทักทายชั้นนิดหน่อยแล้วก็ขึ้นไปหมกตัวอยู่บนห้องตลอด" ว่าพลางมองหน้าแวนเนสไปด้วย
"เมื่อกี้ชั้นก็เข้าไปหามัน เห็นว่าพรุ่งนี้มันเลิกเรียนตอนบ่ายชั้นเลยกะว่าจะลางานซักครึ่งวันชวนมันไปเดินเล่นที่ห้าง แต่มันก็เอาแต่คุยโทรศัพท์ ชั้นเลยยังไม่ได้ชวนเลย" แวนเนสได้ยินเลยพลอยถอนหายใจไปด้วย
"เสี้ยวเทียนก็ทำงานอยู่ ชั้นไม่อยากเอาเรื่องเครียดไปให้มันอีก แต่มันก็ถามๆอยู่เหมือนกันว่าทำไมหมู่นี้ไจ่ไจ๋ถึงไม่ค่อยโทรไปคุยกับมัน" เจอร์รี่พูดระบายออกมาอีก
"นายอยากให้ไจ่ไจ๋หันมาสนใจพวกเราใช่มั๊ย?" แวนเนสเอ่ยขึ้นเหมือนนึกอะไรออก เจอร์รี่มองน้องพลางพยักหน้ารับงงๆ
"งั้น....เราก็หาทางทำให้มันทะเลาะกับแฟนสิ รับรองว่าคราวนี้ร้องไห้ขี้มูกโป่งมาหาพวกเราแหงๆ!" พูดติดตลกเมื่อเห็นว่าพี่ชายดูเครียดๆ
"นายก็คิดได้แต่เรื่องแบบนี้หละนะ! หาเรื่องเก่งไม่มีใครเกิน!" ได้ยินดังนั้นเลยเอ็ดน้องเข้าให้
"อุตส่าห์ช่วยคิด ยังจะมาดุชั้นอีก" พึมพำเสียงแผ่วลง
"ก็ดูวิธีของนายแต่ละอย่างซิ! มีแต่ทำให้น้องเจ็บช้ำทั้งนั้น!" พี่ใหญ่สวนกลับทันควัน
"เออ! ชั้นลืมไปว่าน้องคนนี้มันยิ่งกว่าไข่ในหิน ต้องถนอมมันไปตลอดชีวิต" กระแนะกระแหนพี่ชายขึ้นมาอีก
"หยุดเลย! ชั้นขี้เกียจจะเถียงกับนาย" พี่ใหญ่ขัดขึ้นมาก่อนที่น้องจะร่ายยาว
"โอเค....งั้นนายจะทำยังงัยกับมันหละ?" แวนเนสกลับมาพูดเข้าเรื่อง เจอร์รี่ได้แต่เงียบเพราะไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังงัยดี
"เอางี้! ชั้นว่าเราควรจะเริ่มจากการจำกัดการโทรศัพท์ของน้อง" แวนเนสแนะนำ
"ยังงัย?" เจอร์รี่ย้อนถาม
"ค่าโทรศัพท์ของมันเดือนที่แล้วเท่าไหร่?" แวนเนสย้อนถามพี่ชาย
"ก็เกือบพัน เพิ่มขึ้นมาเยอะเหมือนกัน" เจอร์รี่ตอบ
"งั้นเราก็ต้องเอาบิลค่าโทรศัพท์มาให้น้องดู แล้วบอกว่าเราต้องจำกัดค่าโทรศัพท์ของน้องไม่ให้เกินกว่าจำนวนนี้อีก เพราะมันใช้โทรพร่ำเพรื่อถือว่าเป็นการสิ้นเปลืองโดยไม่มีความจำเป็น" แวนเนสอธิบาย
"อืม....วิธีนี้ก็ดี แต่ถ้าน้องมันไม่พอใจหละ?" เจอร์รี่เห็นด้วยแต่ก็อดห่วงไม่ได้
"เราต้องใจแข็งว่ะ ถ้ามันไม่ยอมก็คงต้องมีมาตรการลงโทษกันบ้าง" แวนเนสพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"อย่างเช่นถ้าค่าโทรของเดือนนี้เกินกว่าของเดือนที่แล้ว ส่วนที่เหลือมันต้องออกเอง" พี่ใหญ่พยักหน้าเห็นด้วย
"แต่ว่า....นายก็อย่าใจอ่อนเวลาที่มันมาอ้อนขอเงินเพิ่มหละ" แวนเนสเตือนพี่ชาย
"แต่ถ้ามันจำเป็นต้องใช้หละ?" พี่ใหญ่แย้งขึ้นมาอย่างไม่แน่ใจว่าตัวเองจะใจแข็งกับน้องได้ลงคอหรือไม่
"ถ้าจำเป็นนายก็ถามหาใบเสร็จรับเงินก็แล้วกัน" แวนเนสตอบ
"ลองวิธีนี้ดูก่อน ถ้าไม่ได้ผลแล้วค่อยว่ากันอีกที" พูดสรุปในที่สุด
"ขอบใจมากนะที่ช่วยหาวิธี เพราะชั้นเองก็ไม่รู้จะทำยังงัยกับมันแล้ว" เจอร์รี่ว่าพลางตบไหล่น้องชายเบาๆ
"ยังมีแผนสองอีกนะ" แวนเนสยังโม้ต่อ
"แผนสองอะไรอีกหืม?" ย้อนถามกลับไป
"แผนเนี่ยนะแก้ที่ตัวนายไม่ใช่ที่ไจ่ไจ๋" แวนเนสว่าพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม
"ตัวชั้นหรอ? คิดอะไรชั่วร้ายอีกหละ?" ถามกลับพร้อมกับบีบแก้มน้องไปด้วย
"เปล่าซักหน่อย ชั้นก็แค่จะแนะนำให้นายลองหาคนรู้ใจดูบ้าง นายจะได้เข้าใจความรู้สึกของคนมีแฟน แล้วจะได้ไม่มีเวลามานั่งกลุ้มเรื่องไจ่ไจ๋มันน่ะ" ตอบพลางหัวเราะเบาๆ
"ฮึ! นายคิดว่าชั้นไม่เข้าใจความรู้สึกแบบนั้นหรอ? ชั้นผ่านตรงนั้นมาก่อนนายซะอีก!" พี่ใหญ่พูดพลางจับหัวน้องโยกไปมาอย่างหมั่นไส้
"หึๆๆๆ นั่นสินะ ลืมไปว่านายก็เคยมีแฟนกับเขาแล้วเหมือนกัน" พูดอย่างนึกขึ้นมาได้
"ไว้พรุ่งนี้ชั้นจะนัดน้องออกไปกินข้าวด้วยกันแล้วค่อยคุยกับมัน นายก็นอนได้แล้ว พรุ่งนี้มีงานแต่เช้าหนิ" เจอร์รี่พูดตัดบทแล้วเอามือตบลงที่หมอน
"อืม" แวนเนสล้มตัวนอนอย่างว่าง่าย
"พรุ่งนี้ชั้นอาจจะกลับดึกหน่อยนะ นายไม่ต้องอยู่รอหรอก" บอกกล่าวกับพี่ชายไว้
"จะไปไหนหรอ?" ย้อนถามกลับไปบ้าง
"ถ่ายโฆษณานั่นแหละ ใช้เวลาถ่ายทั้งหมดสามวันแล้วพรุ่งนี้ก็เป็นวันสุดท้ายแล้ว ไอ้ที่เหลือๆคงต้องเก็บรายละเอียดให้ครบหมดทุกอย่างน่ะ หลังจากเสร็จงานอาจมีการสังสรรกันนิดหน่อย" แวนเนสตอบพี่ชาย
"อืม....งั้นรีบพักผ่อนซะ" ว่าพลางลูบหัวน้องอย่างแผ่วเบา
"กู๊ดไนท์ครับ" พูดจบแวนเนสก็หลับตาลง
"ครับ" ตอบรับคำน้องชายพลางยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วเลื่อนมือไปหยิบผ้าห่มมาห่มให้น้องชาย จากนั้นก็ลุกไปปิดไฟแล้วออกไปอย่างเงียบๆ

- ตอนกลางคืนวันต่อมา -
"เอ่อ....พี่ใหญ่ยังไม่นอนหรอครับ?" ไจ่ไจ๋ถามขึ้นมาแก้เก้อเมื่อเห็นพี่ชายมองหน้าเขาแล้วมองไปที่นาฬิกา เจอร์รี่ไม่ตอบซ้ำยังมีสีหน้าค่อนข้างเคร่งขรึม
"พี่ใหญ่...." ไจ่ไจ๋เลยตัดสินใจเข้าไปนั่งลงข้างๆแล้วกอดพี่ชายอย่างประจบประแจง
"ผมขอโทษที่กลับบ้านดึกขนาดนี้ พอดีน้องเขาขอให้ผมติวหนังสือให้น่ะ" บอกเหตุผลกับพี่ชาย
"แล้วติวกันถึงกี่โมง?" ย้อนถามกลับไปด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
"หลังจากเสร็จงานที่ชมรมแล้วก็เริ่มติวกันเลย ประมาณสองทุ่มกว่าพอติวถึงประมาณสี่ทุ่มก็เลิก" ตอบเสียงแผ่วลงเพราะสีหน้าของพี่ชายยังคงนิ่งเฉยอยู่
"แล้วนี่มันเกือบจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว นายใช้เวลาขับรถจากมหาลัยมาถึงบ้านตั้ง 2 ชั่วโมงเชียว?" ถามคาดคั้นน้องชายต่อไปอีก
"ผมแวะส่งน้องกับเพื่อนที่หอพักกันก่อนแล้วค่อยกลับมาบ้าน" เจอร์รี่ได้ยินก็มองหน้าน้องชายตาเขม็ง
"ก็ผมเห็นว่ามันดึกแล้วนี่ น้องเขาเป็นผู้หญิงกลับคนเดียวมันอันตราย" พูดต่อด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ
"เดี๋ยวนี้เพื่อนมันสำคัญมากกว่าพี่น้องแล้วหละสิ!" พูดประชดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ทำเอาน้องเล็กถึงกับสะอึกแล้วจึงค่อยนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เขานัดกับพี่ใหญ่ว่าจะออกไปกินข้าวข้างนอกด้วยกัน เขาลืมไปเสียสนิท
"พี่ใหญ่....ไม่ใช่อย่างนั้น....ผม....ผมขอโทษ" พูดจบก็เอาหัวซบลงที่ไหล่ของพี่ชาย เจอร์รี่ถอนหายใจดังเฮือก
"พรุ่งนี้นะครับพี่ใหญ่ ผมสัญญาว่าพรุ่งนี้เราจะออกไปกินข้าวด้วยกัน" รีบหาทางแก้ขึ้นมาทันที
"พรุ่งนี้พี่ไม่ว่างแล้ว ต้องเคลียร์งานที่บริษัทเพราะวันนี้ลาออกมาครึ่งวัน" พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบดังเดิม ทำเอาน้องเล็กอึ้งไป
"ผมขอโทษ" ไจ่ไจ๋ขอโทษพี่ชายอีกเพราะไม่รู้จะพูดอะไรดีนอกจากคำว่าขอโทษ
"ช่างเถอะ! นายก็คงไม่ได้ตั้งใจจะไปกับพี่อยู่แล้วหนิ" เจอร์รี่ตอกกลับแล้วเบือนหน้าหนีน้องชาย ทำเอาไจ่ไจ๋ถึงกับน้ำตาซึม
"พี่จะไปนอนหละ" พูดจบก็ลุกเดินขึ้นห้องไปดื้อๆ
"พี่ใหญ่...." ไจ่ไจ๋ร้องเรียกพี่ชายเสียงแผ่ว รู้สึกผิดที่ทำให้พี่ชายต้องรอเก้อแต่เขาก็ไม่รู้จะทำยังงัยจึงได้แต่นั่งนิ่งงันอยู่เช่นนั้นจนกระทั่งแวนเนสกลับมา
"อ้าว! ยังไม่นอนอีกหรอ?" เอ่ยทักน้องชายพลางเก็บรองเท้าเข้าชั้น
"พี่รอง" ไจ่ไจ๋เรียกพี่ชายเสียงสั่นน้ำตาปริ่มๆจะไหลออกมาอยู่แล้ว แวนเนสได้ยินก็เหลียวมามองน้องอย่างตกใจ
"ไจ่ไจ๋! เป็นอะไรไป? ร้องไห้ทำไม?" รีบเดินเข้ามาหาแล้วรั้งตัวน้องชายเข้ามากอดไว้
"พี่ใหญ่โกรธผม พี่รองครับ....ผมไม่ได้ตั้งใจเลย....." น้องเล็กร้องไห้ออกมาในที่สุดเพราะกลั้นไม่อยู่อีกแล้ว
"พี่เขาโกรธนายเรื่องอะไร? ทะเลาะกันมาอีกหรอ?" แวนเนสรีบซักไซร้เป็นการใหญ่
"ผมลืมว่าวันนี้นัดกินข้าวกับพี่ใหญ่ ผมติวหนังสือให้น้องเลยกลับบ้านดึก" ตอบพี่ชายเป็นเสียงสะอื้น
"อ้าว!" แวนเนสอุทานออกมาเบาๆเท่านั้น แล้วเขาก็ลูบหลังปลอบใจน้อง
"ไม่ต้องร้องหรอก เดี๋ยวพี่ใหญ่ก็หาย" บอกกล่าวกับน้องด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"ไม่หายหรอก ผมนี่แย่จริงๆ อุตส่าห์นัดกันไว้แล้วเชียวยังลืมจนได้ ผมนี่แย่....แย่ที่สุด...." ไจ่ไจ๋พร่ำโทษตัวเองซ้ำไปซ้ำมา แวนเนสไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่กอดน้องเพื่อปลอบใจเท่านั้น เขารอจนกระทั่งน้องชายสงบลงจึงค่อยดันตัวน้องออกแล้วเช็ดหน้าเช็ดตาให้
"อย่าเพิ่งคิดมากเลย ไปอาบน้ำอาบท่าให้สบายตัวแล้วนอนพักผ่อนไป" แวนเนสตัดบทด้วยการไล่ให้น้องไปนอน
"แต่ว่า...." ไจ่ไจ๋ตั้งท่าจะแย้งแต่แวนเนสก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างรู้ใจ
"แล้วพี่จะคุยกับพี่ใหญ่ให้" ได้ยินดังนั้นไจ่ไจ๋ก็ค่อยโล่งใจพยักหน้ารับแล้วหอมแก้มพี่ชายเบาๆ
"ขอบคุณครับ" แวนเนสยิ้มรับคำแล้วขยี้หัวน้องอย่างเอ็นดู เขารอจนน้องชายขึ้นไปแล้วจึงค่อยเดินไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำเสร็จแล้วก็ขึ้นไปหาพี่ชายที่ห้อง
"ก๊อกๆๆ!!!" แวนเนสเคาะประตูห้องพี่ชายแล้วยืนรออยู่ซักพักแต่ก็ไม่มีใครมาเปิดประตูให้
"ก๊อกๆๆ!!!" เขาเคาะประตูอีกครั้งหนึ่งแต่ภายในห้องก็ยังเงียบ
"ก๊อกๆๆ!!!" แวนเนสเคาะแรงขึ้นกว่าเดิม ในครั้งนี้ประตูก็ถูกผลักออกอย่างแรงเช่นกัน
"เคาะอะไรกันนักกันหนา!" เจอร์รี่เอ็ดใส่ผู้มาเยือนแต่พอเห็นเป็นแวนเนสก็มีสีหน้าอ่อนลงแต่ก็ยังดูบึ้งตึงนิดๆ
"นายเองหรอ?" แวนเนสไม่ตอบว่าอะไรแต่เบียดตัวเข้าไปในห้องของพี่ชายแทน
"กลับมาแล้วทำไมไม่รู้จักไปอาบน้ำอาบท่าแล้วนอนพัก?" พูดด้วยน้ำเสียงฟังดูห้วนๆ
"ชั้นอยากคุยกับนายซักหน่อย" แวนเนสบอกพร้อมกับทรุดตัวนั่งลงบนเตียงพี่ชาย เจอร์รี่เดินตามมานั่งแต่สีหน้ายังดูขรึมๆ
"ตอนกลับมาไจ่ไจ๋มันนั่งร้องไห้อยู่แหนะ" เกริ่นนำออกมาแล้วสังเกตดูท่าทีของพี่ชาย ซึ่งเจอร์รี่ก็มีท่าทางอ่อนลงทันตาเห็น
"มันบอกว่ามันผิดนัดกับนาย นายเลยโกรธมัน" พูดต่อออกมาอีก
"ชั้น....ชั้นไม่ได้โกรธ...." น้ำเสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
"ไม่โกรธแต่ไม่คุยกับมันใช่มั๊ย?" ย้อนถามพี่ชายกลับ
"ก็....ชั้นยังไม่มีอารมณ์ คุยไปเดี๋ยวก็ได้ทะเลาะกันแน่" แก้ตัวด้วยน้ำเสียงอ่อยๆในใจก็เริ่มห่วงความรู้สึกของน้องเล็กขึ้นมาตะหงิดๆ
"อ้อ!" แวนเนสตอบรับสั้นๆ แล้วสองพี่น้องก็เงียบไป
"นายกลับห้องไปอาบน้ำแล้วนอนได้แล้วไป" ในที่สุดเจอร์รี่ก็อ่ยปากไล่น้อง
"ชั้นคงนอนไม่หลับแน่ๆ สงสารน้องมัน คงได้นอนร้องไห้จนตาบวม" แวนเนสพูดเลียบๆเคียงๆแล้วดูท่าทีพี่ชายต่อ
"ช่างมันสิ!" เจอร์รี่ทำเป็นพูดเสียงแข็ง
"โอเค....ช่างมันก็ช่างมัน....." พูดจบแวนเนสก็ยื่นมือไปตรงหน้าพี่ชาย
"ไม่เอา! ไปเอง!" พี่ใหญ่ปัดมือน้องออกเพราะรู้ว่าน้องจะอ้อนให้พาไปส่งที่ห้อง แต่แวนเนสก็ยื่นมือออกไปอีก
"นายนี่ยังงัยนะ! โตจนป่านนี้แล้ว!" แม้จะบ่นแต่ก็จับมือน้องชายแล้วฉุดให้ลุกขึ้นก่อนที่จะพาไปส่งที่ห้อง
"เดี๋ยวๆๆๆ" เมื่อมาถึงหน้าห้องตัวเองแวนเนสก็ร้องบอกพี่ชายพลางขืนตัวไว้
"อะไรอีกหละ?" ย้อนถามน้องด้วยสีหน้าดุเล็กน้อย
"ชั้นขอเข้าไปราตรีสวัสดิ์กับน้องก่อน" พูดจบก็วิ่งไปห้องน้องเล็กและเปิดประตูทิ้งไว้เพราะต้องการให้พี่ใหญ่รู้ว่าตอนนี้น้องเล็กเป็นยังงัย
"ไจ่ไจ๋เอ้ย! ยังไม่หยุดร้องไห้อีกหรอ?" แวนเนสแกล้งพูดดังๆเพื่อให้พี่ชายที่ยืนอยู่ข้างนอกได้ยิน เจอร์รี่ได้ยินดังนั้นก็มีสีหน้ากังวลเพราะหลังจากที่เขาขึ้นห้องมาจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาชั่วโมงกว่าแล้ว
"นอนได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ตาบวมแล้วไม่หล่อนะ" แวนเนสพูดปลอบน้องแล้วดึงผ้าห่มมาห่มให้ ในขณะนั้นเจอร์รี่ก็เดินเข้ามาพอดี
"อ้าว! พี่ใหญ่" แวนเนสแกล้งหันไปพูดกับพี่ชายทำให้น้องเล็กที่หลับตาอยู่ลืมตาขึ้นมามองด้วยความดีใจเพราะนึกว่าพี่ชายจะมาคุยกับเขา
"นายลุกขึ้นมาได้แล้ว ชั้นจะพาไปส่งที่ห้อง" พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับดึงแขนแวนเนสให้ลุกขึ้นโดยไม่มองหน้าน้องเล็ก ยังผลให้ไจ่ไจ๋มีสีหน้าสลดลงทันที
"ฝันดีนะไจ่ไจ๋" แวนเนสบอกน้องทิ้งท้ายไว้แล้วเดินออกไปพร้อมกับพี่ชาย ไจ่ไจ๋มองตามแล้วร้องไห้ออกมาอีกด้วยความผิดหวัง
"สงสารน้องเนอะ" แวนเนสเปรยๆขึ้นในขณะที่หันไปปิดประตูห้องให้น้องชายอย่างเงียบเชียบ เจอร์รี่ไม่พูดอะไรเพียงแต่จูงมือแวนเนสแล้วพาไปที่ห้อง
"ไป....เข้าไปอาบน้ำซะ....." ดุนหลังน้องชายให้เดินไปยังห้องน้ำแต่แวนเนสกลับขืนตัวไว้
"ไปอาบน้ำ!" ทำเสียงเข้มขึ้นเมื่อแวนเนสดึงดันไม่ยอม
"ชั้นล้างหน้าล้างตามาแล้ว เหนื่อยมากเลย ค่อยอาบพรุ่งนี้นะ" พูดจบก็เดินไปทิ้งตังนอนเหยียดยาวที่เตียง พี่ใหญ่มองแล้วส่ายหน้าไปมาอย่างระอาแต่ก็เดินตามน้องมาที่เตียง
"เหนื่อยก็แทนที่จะอาบน้ำให้มันสดชื่นสบายตัวเพื่อจะได้หลับแบบสบายๆ กลับนอนมันทั้งเหงื่อไคล้เหม็นๆแบบนี้" บ่นเสร็จก็ผลักหัวน้องทีหนึ่งด้วยความหมั่นไส้
"แหม....ชั้นอยู่ในห้องแอร์ทั้งวัน ไม่มีเหงื่อหรอก ไม่เหม็นด้วย ไม่เชื่อดมดูสิ" แวนเนสลุกขึ้นมาแล้วกอดพี่ชายอย่างนึกสนุก เจอร์รี่โวยวายพลางผลักหัวน้องไม่ให้เข้ามาใกล้
"เฮ้ย!! เล่นอะไรอีกเนี่ย! ไปไกลๆเลย! โสโครกจริงๆ!" ต่อว่าพลางจับมือน้องที่โอบกอดเขาอยู่ออก
"ว่าชั้นโสโครกหรอ?" แวนเนสทำเสียงกระเง้ากระงอดใส่พี่ชาย
"เออดี! ต่อไปจะไม่ให้กอดอีกละ ไม่ต้องมาง้อเลยด้วย" พูดจบก็นอนหันหลังให้พี่ชาย ยังผลให้พี่ใหญ่ยิ้มออกมาได้ในที่สุด
"ไอ้ขี้งอน!" เอื้อมมือไปขยี้หัวน้อง
"อย่ามายุ่ง!" แวนเนสปัดมือพี่ชายออกพลางแหวใส่เสียงห้วน
"หึๆๆๆ" เจอร์รี่หัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับล้มตัวนอนลงข้างๆแล้วรั้งร่างน้องชายเข้ามากอด
"อือ! มายุ่งด้วยทำไม?" แวนเนสโวยพลางผลักพี่ชายออก
"ไม่ให้ยุ่งกับนายแล้วจะให้ยุ่งกับใครหละ? หืม?" ย้อนถามกลับไปยิ้มๆ
"ใช่ซี้! เรามันตัวสำรองหนิ พองอนกับมันก็ค่อยมาทำเป็นรักเรา!" ประชดพี่ชายด้วยน้ำเสียงงอนๆ
"ไม่ใช่ซักหน่อย พี่ออกจะรักนายซะขนาดนี้ ไม่เคยเห็นนายเป็นตัวแทนของใครเลยนะ" พี่ใหญ่แก้ตัวพลางลูบหัวน้องเบาๆ แวนเนสไม่ตอบว่าอะไรแต่ค้อนใส่เสียหลายตลบ
"เด็กดีของพี่ใหญ่ไม่งอแงนะครับ หลับตานอนได้แล้ว" ว่าพลางรั้งหัวน้องมาซบที่อกตัวเอง คราวนี้แวนเนสก็ไม่ได้ต่อความอะไรอีกเพราะรู้สึกอ่อนเพลียเช่นกัน ผ่านไปพักหนึ่งเจอร์รี่ก็เหลือบตามองน้องชายจนแน่ใจว่าน้องหลับสนิทแล้วจึงค่อยๆจับแขนน้องที่กอดตัวเองอยู่ออกอย่างเบามือแล้วลุกออกจากเตียงอย่างช้าๆ
"ไอ้ลูกลิงเอ้ย....ทำไมชอบคิดว่าพี่ไม่รักนายอยู่เรื่อย? ถ้าไม่รักป่านนี้พี่คงได้ทำอะไรหลายๆอย่างตามใจตัวเองแล้วหละ" พี่ใหญ่พูดขึ้นพร้อมกับใช้นิ้วไล้แก้มน้องอย่างอ่อนโยน
"ถ้ายังไม่เห็นนายกลับมาถึงบ้านโดยปลอดภัยพี่คนนี้ก็ไม่เคยหลับลงเลย รู้บ้างมั๊ยไอ้ตัวดี?" ดึงแก้มน้องเบาๆพลางยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วหันไปดึงผ้าห่มที่ปลายเตียงมาสะบัดออกแล้วห่มให้น้อง
"ฝันดีนะ" ก้มลงจูบตรงหน้าผากน้องชายอย่างแผ่วเบาแล้วลุกออกจากห้องไป เมื่อได้ยินเสียงประตูปิดลงแล้วแวนเนสก็พลิกตัวไปอีกทางแล้วยิ้มออกมาทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่

- ตอนเช้า -
"แวนเนส! เข้ามากินข้าวเร็วๆ เสี่ยวจือมารอนานแล้วนะ!" เจอร์รี่ตะโกนเรียกน้องชายที่เพิ่งเดินลงมาให้เข้ามาในห้องครัว
"อ้าว! คุณนัดผม 8 โมงไม่ใช่หรอ? นี่มันแค่ 7 โมงกว่าเอง" แวนเนสเอ่ยปากกับผู้จัดการส่วนตัวของเขา
"พอดีชั้นตื่นเช้าน่ะ ก็เลยรีบออกมา" เสี่ยวจือตอบยิ้มๆ
"นึกว่าคิดถึงผมจนทนไม่ได้ซะอีก" แวนเนสพูดจากระเซ้าเสี่ยวจือเล่น
"น่าคิดถึงตายแหละ!" เจอร์รี่แทรกขึ้นมาอย่างหมั่นไส้น้องชาย
"เค้าคุยกันสองคน" แวนเนสพูดออกมาเบาๆ
"อะไรนะ!?" เจอร์รี่ถามย้ำเพราะได้ยินไม่ถนัด
"เปล่า" แวนเนสรีบปฏิเสธแล้วทรุดตัวนั่งลงที่โต๊ะกินข้าวทันที ส่วนเสี่ยวจือก็ได้แต่หัวเราะอย่างอารมณ์ดี
"ไจ่ไจ๋ไม่อยู่หรอ?" ถามถึงน้องชายคนเล็กของบ้าน เจอร์รี่ได้ยินแล้วแต่ไม่ตอบว่าอะไรแวนเนสจึงเป็นคนตอบเสียเอง
"รายนั้นสงสัยผูกคอตายอยู่ในห้องแล้วมั้ง?" พูดพลางหัวเราะขำๆ
"ปากเสีย!" พี่ใหญ่หันมาเขกหัวน้องโทษฐานที่พูดจาไม่น่าฟัง
"อ้าว! ก็เมื่อเช้าชั้นเคาะประตูห้องมันตั้งหลายรอบแต่มันไม่ยอมเปิด ในห้องก็เงียบด้วย" แวนเนสตอบออกมาหน้าตาเฉยทั้งๆที่เมื่อกี้เขาเพิ่งจะเข้าไปคุยกับน้องชายมา
"แล้วนายก็ลงมาเฉยๆเนี่ยนะ!" พี่ใหญ่เริ่มเป็นเดือดเป็นร้อน
"อืม....ชั้นกลัวว่าเปิดเข้าไปแล้วจะเจอมัน...." แวนเนสพูดไม่จบประโยคเพราะต้องการให้พี่ชายเป็นกังวลจนต้องขึ้นไปหาน้องเอง
"นายนี่เป็นคนยังงัยนะ! น้องมันไม่ตอบแล้วนายก็ไม่สนใจงั้นหรอ?" เอ็ดใส่แวนเนสเข้าให้
"ก็เห็นนายบอกว่าช่างมัน ชั้นก็ทำตามที่นายบอกงัย" แวนเนสย้อน เจอร์รี่โต้ตอบอะไรไม่ได้เลยได้แต่ชี้หน้าน้องแล้วเดินเลี่ยงออกไปทันที
"ฮ่าๆๆ!!! นึกว่าจะทำใจแข็งไปได้ซักกี่น้ำกันเชียว!" แวนเนสหัวเราะร่า
"มีอะไรกันหรอ?" เสี่ยวจือถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ
"อ้อ! เมื่อวานเจอร์รี่กับๆไจ่ไจ๋เขางอนกันน่ะ พอดีไจ่ไจ๋มันผิดนัดกินข้าวกับเจอร์รี่ เจอร์รี่ก็เลยงอนไม่คุยด้วย ไอ้รายนั้นก็นอนร้องไห้ร้องห่มกลัวเจอร์รี่จะโกรธมันจริงๆ แต่ไม่มีอะไรหรอกมันแค่งอนเฉยๆ เดี๋ยวก็คงดีกัน" แวนเนสเล่าให้ผู้จัดการส่วนตัวฟังอย่างร่าเริง
"หึๆๆ" เสี่ยวจือได้ฟังก็หัวเราะออกมาเบาๆ
"ก็เดี๋ยวนี้ไจ่ไจ๋เขามีแฟนแล้วน่ะครับ เลยไม่ค่อยอยู่บ้านเหมือนทุกที เจอร์รี่มันก็คงเหงาๆแหละเพราะที่บ้านก็ไม่มีใคร ผมเองก็กลับดึกแทบทุกวัน เสี้ยวเทียนก็กลับไปทำงานแล้ว" แวนเนสพูดต่อออกมาอีก
"เห็นเมื่อก่อนมีแต่ไจ่ไจ๋ไม่ใช่หรอที่งอนเพราะพวกเธอไม่มีเวลาให้?" เสี่ยวจือย้อนถาม
"ครับ แต่สถานการณ์ช่วงนี้มันกลับกัน ก็นั่นหละนะ คนแก่ก็ขี้น้อยใจเป็นธรรมดา" แวนเนสถือโอกาสว่าพี่ชายหน้าตาเฉย
"แล้วเธออยากจะมีวันหยุดพักผ่อนบ้างหรือเปล่าหละ?" เสี่ยวจือหันมาถามแวนเนสบ้าง
"อยากสิครับ ใครกันจะไม่อยากพักผ่อน" แวนเนสตอบแบบไม่ต้องคิด
"เสี่ยวจือจะให้ผมหยุดพักหรอ?" ถามต่อด้วยแววตามีความหวัง
"คงยังไม่ใช่เร็วๆนี้หรอก แต่ชั้นอาจจะรับงานให้เธอน้อยลงได้ ถ้าเธอต้องการ" เสี่ยวจือบอกยิ้มๆ
"ดีเลย! เอาตามนั้นเลยครับ ให้ผมมีวันหยุดติดต่อกันซัก 2-3 วันก็ยังดี" แวนเนสบอกอย่างดีใจ
"โอเค....งั้นเราคงต้องตั้งมาตรฐานงานที่จะรับให้สูงขึ้นอีกหน่อย ไว้มีงานอะไรเข้ามาชั้นจะเอามาปรึกษากับเธอว่าเธออยากจะรับมั๊ย? ถ้าไม่อยากชั้นจะพยายามคุยกับทางผู้ใหญ่ให้" เสี่ยวจือสรุป
"ขอบคุณมากครับ! คุณน่ะเป็นผู้จัดการที่ดีที่สุดในโลกเลย!" แวนเนสเลยยอเสียยกใหญ่
"ไม่ต้องชมชั้นให้มากหรอก รีบกินข้าวซักทีสิ จะได้รีบๆไปกัน" เสี่ยวจือตัดบทยิ้มๆแล้วบอกให้แวนเนสรีบกินข้าว




 

Create Date : 07 เมษายน 2550    
Last Update : 7 เมษายน 2550 23:48:37 น.
Counter : 1008 Pageviews.  

Chapter 27

ตอนที่ 27
"กลับมาแล้วครับพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋เอ่ยทักพี่ชายด้วยน้ำเสียงห้วนๆแล้วเดินเลยขึ้นห้องไปโดยไม่พูดอะไรอีก เจอร์รี่ขมวดคิ้วแล้วมองตามน้องไปอย่างงงๆ
"พี่ใหญ่" แวนเนสที่เดินตามน้องเข้ามาเอ่ยทักพี่ชายสั้นๆ เจอร์รี่พยักหน้ารับแล้วผงกหัวไปทางน้องเล็กที่เดินสะบัดก้นขึ้นห้องไปก่อนหน้านี้แล้ว
"น้องเป็นอะไร?" ถามแวนเนสกลับเพราะรู้ว่าน้องต้องรู้เรื่องด้วยแน่นอน
"มันหึงแฟนมันแล้วก็มาลงที่ชั้นน่ะสิ" แวนเนสตอบพลางตีสีหน้าเบื่อๆ
"ไปแกล้งอะไรน้องมาอีกหละ?" ถามอย่างไม่ค่อยไว้ใจแวนเนสเท่าไหร่นัก
"นายก็ชอบมองชั้นในแง่ร้ายเรื่อยเลย ชั้นจะแกล้งน้องทำไมกันหละ?" แวนเนสต่อว่าพี่ชายสีหน้าเริ่มไม่พอใจ
"เอ่อ....โทษที ว่าแต่เรื่องมันเป็นยังงัยน้องถึงได้อารมณ์เสียกลับมาขนาดนี้?" เจอร์รี่ขอโทษน้องแล้วสอบถามเรื่องราวจากแวนเนสต่อ
"ก็วันนี้ไจ่ไจ๋มันไปเที่ยวกับแฟนมันใช่มั๊ย? แล้วทีนี้แฟนมันบอกว่าชอบชั้น ไจ่ไจ๋มันก็เลยโทรมาบอกให้ชั้นรอยู่ที่ร้านจะพาแฟนมาหาชั้นเพื่อที่จะทำเซอร์ไพรส์แฟนมัน พอมาถึงชั้นก็เลยคุยกับน้องเขาแต่ไจ่ไจ๋มันก็ดันไม่พอใจซะเนี่ย" แวนเนสเล่าให้พี่ชายฟังคร่าวๆ เจอร์รี่ได้ฟังแล้วก็ถึงกับส่ายหน้า
"ว่าแต่แฟนน้องน่ะเป็นยังงัยบ้างหละ?" ซักถามน้องชายต่อ
"ชื่อหลิงเอ๋ออย่างที่รู้แหละแต่ชื่อเรียกก็คือหลิงหลิง ไม่รู้อ่ะชั้นเรียกตามไจ่ไจ๋มัน" แวนเนสเริ่มเล่า
"หน้าตาน่ารัก นิสัยก็น่ารัก คุยเก่ง ดูท่าทางเป็นเด็กดีนะ" แวนเนสเอ่ยชม
"แล้วที่บ้านน้องเขาทำอะไร?" เจอร์รี่ถามต่อ
"เห็นบอกว่าพ่อเป็นหมอ แม่เป็นพยาบาล แถมเป็นลูกคนเดียวด้วย" พี่ใหญ่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าหงึกๆ
"จากที่คุยๆมาก็ถือว่าใช้ได้ ถ้าน้องจะขอคบกันแบบจริงๆจังๆ สำหรับชั้นถือว่าผ่าน ชั้นยอมให้น้องคบกัน" แวนเนสพูดยิ้มๆ
"ไม่ได้ๆๆๆ ต้องให้ชั้นดูก่อนด้วย แค่ผ่านความเห็นชอบจากนายคนเดียวไม่ได้หรอก" พี่ใหญ่รีบแย้งทันที
"หึๆๆๆ" แวนเนสหัวเราะเบาๆแล้วเปลี่ยนเรื่องคุย
"เสี้ยวเทียนโทรมาบ้างเปล่า?" ถามถึงน้องชายอีกคน
"โทรมา น้องบอกว่าสบายดี แต่เมื่อวานกินมากไปหน่อยเลยท้องเสีย" พี่ใหญ่ตอบยิ้มๆเช่นกัน
"ไอ้อ้วนนี่! ไม่ไหวเลยจริงๆ ตะกละ!" แวนเนสต่อว่าน้องแบบขำๆ
"แล้วนี่กินข้าวมากันหรือยังหละ?" ถามน้องต่ออีก
"ไม่ได้กินข้าวแบบเป็นจานๆหรอกแต่ก็กินจุบจิบมาตลอดทั้งวัน ไม่หิวแล้วหละ" แวนเนสตอบแล้วขยับเข้าไปกอดแขนพี่ชาย
"ขอปรึกษาอะไรหน่อยสิ" พี่ใหญ่เหลือบตามองน้องแล้วถามเป็นเชิงหยอก
"จะปรึกษาหรือจะอ้อนเอาอะไรกันแน่?" เห็นท่าทางของน้องแล้วเจอร์รี่ก็ไม่ค่อยแน่ใจ
"แหม....ไม่อ้อนเอาอะไรหรอก" แวนเนสลากเสียงยาว
"งั้นก็ว่ามาสิ" พี่ใหญ่ตอบรับยิ้มๆ
"นายว่าตอนนี้ชั้นเป็นยังงัย?" แวนเนสถามเกริ่นนำ ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็ดันตัวน้องออกแล้วเอียงคอซ้ายขวามองน้องชายอย่างสำรวจ
"อ้วนขึ้นนิดหน่อย ผมยาวขึ้น แต่ปากห้อยเหมือนเดิม" ตอบคำถามจบก็หัวเราะชอบใจที่แกล้งน้องได้ แวนเนสทำหน้ามุ่ยใส่
"แต่ถึงจะเป็นยังงัยก็ยังเป็นน้องชายสุดที่รักของพี่อยู่ดีนั่นแหละ" เมื่อเห็นน้องหน้างอพี่ใหญ่ก็ทำปากหวานใส่ทันที
"น่าเชื่อตายหละ! ปรึกษาอะไรไม่ได้เลยจริงๆ" แวนเนสแหวใส่พร้อมกับบ่นอุบกับตัวเอง
"โอเคๆๆๆ ไม่เล่นแล้ว ตกลงนายจะปรึกษาชั้นเรื่องอะไรกันแน่?" เจอร์รี่เปลี่ยนสีหน้าให้ดูเป็นการเป็นงานขึ้น
"ที่ชั้นถามน่ะหมายความว่านายเห็นว่าชั้นน่ะมีความพร้อมขั้นพื้นฐานหรือยัง?" แวนเนสแปลความหมายให้พี่ชาย
"ความพร้อมขั้นพื้นฐานที่นายว่าหมายถึงอะไรบ้างหละ?" ย้อนถามน้องกลับไป
"ก็การศึกษา หน้าที่การงาน ความรับผิดชอบ วุฒิภาวะในด้านต่างๆ" แวนเนสแจกแจงให้พี่ชายฟัง
"อืม.....ถ้าเป็นเรื่องพวกนี้แล้วหละก็ชั้นขอบอกว่านายมีครบทุกอย่างแต่ว่าทุกอย่างที่มียังไม่ครบร้อยเปอร์เซ็นต์" เจอร์รี่ตอบไปตามความเห็นของตัวเอง
"นายถามไปทำไม?" ว่าแล้วก็ถามน้องต่ออีก
"คือว่าชั้น.....ชั้นอยากจะ....." แวนเนสยังไม่กล้าพูดตรงๆจึงได้แต่อ้อมไปอ้อมมา
"นายก็รู้ใช่มั๊ยว่าชั้นน่ะอายุอานามก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว เวลานี้ก็สมควรที่จะคิดถึงอนาคตแล้วน่ะ" เจอร์รี่ฟังแล้วก็พยักหน้าคล้อยตาม
"คือ....แบบว่า.....การที่ชั้นคิดจะเริ่มต้น....." แวนเนสพูดตะกุกตะกักเพราะเรียงคำพูดไม่ค่อยถูก
"เริ่มต้นเรื่องอะไร?" เจอร์รี่จึงถามน้องต่อเสียเอง
"เริ่มต้นกับใครซักคน.....ที่.....ที่....." ได้ยินเช่นนี้แล้วพี่ใหญ่ก็พอจะเข้าใจ
"เรื่องกลอเรียใช่มั๊ย?" ได้ยินพี่ชายพูดแวนเนสก็ผงกหัวรับทันที
"ทำไม? คิดจะแต่งงาน?" ถามน้องต่ออีก
"ยังไม่ถึงขั้นแต่งงานหรอก แต่แค่หมั้นไว้ก่อน" พูดจบก็เงยหน้าขึ้นมองพี่ชาย
"แน่ใจแล้วหรอว่าชีวิตนายจะหยุดลงตรงที่ผู้หญิงคนนี้?" ถามน้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ทำไม? กลอเรียไม่ดีตรงไหนหรอ?" ได้ยินพี่ชายว่าก็ย้อนถามกลับอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจนัก
"ไม่ใช่ว่าไม่ดี กลอเรียเป็นคนดี ดีมากด้วย แต่ที่ชั้นถามก็เพราะว่าอยากให้นายถามใจตัวเองดูก่อนว่าสามารถหยุดตัวเองอยู่ที่คนๆนี้ไปตลอดทั้งชีวิตได้หรือเปล่า?" พี่ใหญ่อธิบายให้น้องฟัง
"นายก็รู้ว่าเรื่องแบบนี้ชั้นเองก็เคยประสบพบเจอมาก่อน ตอนนั้นชั้นมั่นใจและแน่ใจว่าเสี่ยวซิงจะต้องเป็นคนที่อยู่เคียงข้างชั้นไปตลอดทั้งชีวิตอย่างแน่นอน แต่ความจริงที่เห็นมันกลับไม่เป็นเหมือนที่ชั้นคิดเลย เพราะฉะนั้นชั้นไม่อยากให้นายต้องเสียใจเหมือนกับที่ชั้นเคยเป็นมาก่อน" แวนเนสฟังคำพูดของพี่ชายแล้วก็นิ่งไป
"แล้วเรื่องนี้นายเคยคุยกับกลอเรียบ้างหรือยัง?" พี่ใหญ่ถามน้อง
"ก็มีคุยๆกันบ้าง กลอเรียเองก็ไม่ขัดข้องแต่เธอบอกว่าไม่จำเป็นต้องหมั้นไว้ก่อนก็ได้ เธอไม่อยากให้ชั้นมีปัญหากับต้นสังกัด แต่ชั้นเห็นว่าการหมั้นนี้ไม่ได้เป็นการผิดกฎอะไรแล้วก็เป็นการให้คำมั่นกับกลอเรียด้วย" แวนเนสอธิบายความเห็นให้พี่ชายฟัง
"ที่กลอเรียพูดก็ถูกนะ ถ้ารักกันจริงการหมั้นหมายก็ไม่จำเป็นหรอก" เจอร์รี่เห็นด้วยกับคำพูดของกลอเรีย
"งั้น.....ชั้นกับกลอเรียอยู่กินกันเลยก็ได้ใช่มั๊ย?" แวนเนสถามติดตลก พี่ใหญ่เลยตีเพี๊ยะเข้าให้
"ไม่ต้องหมั้นแต่ไม่ได้หมายถึงว่าไม่ต้องทำให้ถูกธรรมเนียมประเพณี เรานี่เฮี้ยวจริงๆ!" เอ็ดน้องด้วยน้ำเสียงดุๆ
"รู้แล้วน่า ชั้นพูดเล่นเท่านั้นแหละ ยังงัยซะชั้นไม่มีทางทำให้กลอเรียต้องเสียชื่อหรอก" แวนเนสยืนกรานเสียงหนักแน่น
"คิดได้แบบนี้ก็ดี" พี่ใหญ่ว่าแล้วก็ขยี้หัวน้องอย่างเอ็นดู

- เช้าวันต่อมา -
"ไจ่ไจ๋ ทำไมหน้าตาบูดบึ้งแบบนี้หละ? ท้องผูกหรอ?" เจอร์รี่เอ่ยแซวน้องชายที่นั่งรออาหารเช้าบนโต๊ะกินข้าวด้วยสีหน้าบึ้งตึงเพราะยังเคืองแวนเนสไม่หาย
"สงสัยถ่ายไม่ออกจริงๆ หน้าดำคร่ำเครียดเชียว" แวนเนสร่วมวงแซวน้องด้วย ไจ่ไจ๋จ้องหน้าแวนเนสตาเขม็งแต่ไม่ได้พูดอะไร
"เอ่อ....ไม่แซวก็ได้.....ไม่ต้องทำหน้าดุขนาดนี้หรอก" เมื่อเห็นน้องจ้องตัวเองไม่วางตาแวนเนสก็พูดเสียงอ่อยๆ
"ไจ่ไจ๋ นายเป็นอะไรของนายน่ะ ไม่พอใจอะไรพี่รองเขานักหนา?" แล้วเจอร์รี่จึงต้องกลายเป็นตัวกลางที่คอยประสานให้น้องทั้งคู่
"ไม่เป็นอะไร แค่เหม็นขี้หน้าใครบางคน" ไจ่ไจ๋ตอบเสียงแข็ง แวนเนสได้ยินก็อึ้งไป
"ไจ่ไจ๋! ทำไมถึงพูดแบบนี้!" พี่ใหญ่บีบแขนน้องพร้อมกับเขย่าเบาๆเป็นการเตือนสติน้อง
"ทำไมถึงจะพูดไม่ได้ ในเมื่อผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ" ไจ่ไจ๋เปลี่ยนสายตาไปที่พี่ชายคนโตแล้วพูดอย่างไม่ยีหระ
"ได้ งั้นพี่จะไม่อยู่ให้นายต้องเสียอารมณ์" แวนเนสว่าแล้วก็ลุกออกไปจากโต๊ะอาหาร
"แวนเนส" เจอร์รี่ร้องเรียกน้องชายแต่น้องก็ไม่ได้สนใจ
"ไจ่ไจ๋! มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ เป็นบ้าอะไรของนายขึ้นมา? พี่เขาทำอะไรให้นายโกรธเคืองนักหนา?" พี่ใหญ่หันมาเอ็ดตะโรใส่น้องเล็กอย่างเหลืออด
"พี่ใหญ่ไม่ต้องยุ่งหรอก! เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพี่เลยซักนิด! พี่ไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำ!" ไจ่ไจ๋ลุกขึ้นแล้วตะเบงเสียงใส่พี่ชาย
"หยุดเดี๋ยวนี้นะ! อย่ามาทำกิริยาก้าวร้าวกับพี่! นั่งลง!!" เจอร์รี่ตวาดใส่น้องอย่างสุดทน ในเวลานั้นแวนเนสก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามาเพราะกลัวพี่ชายจะทำอะไรน้อง
"เจอร์รี่! นายใจเย็นๆสิ ชั้นพูดเองดีกว่า" แวนเนสดึงแขนพี่ชายพร้อมกับพูดเตือนสติ
"ไจ่ไจ๋ นายใจเย็นก่อนนะ ไม่พอใจอะไรก็ว่าพี่มาได้เลย หรืออยากให้พี่ทำอะไรก็บอกมาได้ พี่จะทำให้นายทุกอย่าง" หันไปพูดกับน้องเล็กที่มีท่าทางโกรธเกรี้ยวด้วยน้ำเสียงปลอบประโลม
"ผมไม่พอใจเรื่องอะไรพี่ไม่รู้เลยหรอ? พี่ไม่รู้ตัวเลยน่ะหรอทั้งๆที่นอนคุยโทรศัพท์กับหลิงหลิงทั้งคืนแบบนั้นน่ะ!?" น้องเล็กตะคอกใส่หน้าพี่ชาย เจอร์รี่ได้ยินก็หันขวับไปทางแวนเนสทันที ส่วนแวนเนสมีสีหน้าสลดลง
"นายกำลังเข้าใจผิดนะไจ่ไจ๋ หลิงหลิงเขา....." แวนเนสกำลังจะอธิบายแต่ไจ่ไจ๋ก็ตวาดใส่เสียก่อน
"หลิงหลิงเขาเป็นคนโทรหาพี่เองใช่มั๊ย!? หลิงหลิงเขาเป็นคนเริ่มต้นก่อนใช่มั๊ย!?" แวนเนสเห็นท่าทางของน้องแล้วก็หน้าเสีย
"พี่หักหลังผมยังพอว่า แต่พี่หักหลังพี่กลอเรียได้ลงคอเชียวหรอ? นี่พี่เป็นคนประเภทไหนกัน?" พูดจบก็มองพี่ชายด้วยแววตาแข็งกร้าวก่อนที่จะผลุนผลันขับรถออกไป แวนเนสยืนตะลึงกับคำพูดของน้องชาย
"แวนเนส.....ที่น้องพูดมานั่นมันหมายความว่าอะไร?" เจอร์รี่เดินมาหยุดยืนตรงหน้าน้องพร้อมกับเอ่ยถาม แวนเนสมองหน้าพี่ชายอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาอย่างกลั้นไม่อยู่
"ชั้นไม่เคยคิดแบบนั้น" พูดปฏิเสธเสียงแผ่ว แล้วทรุดฮวบลงไปนั่งร้องไห้ที่พื้น พี่ใหญ่มองน้องชายแล้วอ้ำอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะย่อตัวลงแล้วค่อยๆดึงตัวน้องชายเข้ามากอด
"บอกชั้นมาซิ บอกความจริงชั้นมา พูดออกมาให้หมดอย่าปิดบังชั้น แล้วชั้นจะช่วยนายแก้ปัญหานะ" ปลอบประโลมน้องชายด้วยน้ำเสียงอ่อนลง แวนเนสกอดพี่ชายแน่นแล้วปล่อยโฮออกมาเขาร้องไห้สะอื้นจนตัวโยน เจอร์รี่เองก็ปล่อยให้น้องร้องไห้จนพอใจ จนเมื่อเสียงน้องเริ่มเงียบลงเขาจึงค่อยดันตัวน้องออก
"ขึ้นไปคุยกันที่ห้องนะ พี่พาไป" บอกกับน้องด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแล้วพยุงน้องขึ้นมาพาขึ้นไปบนห้อง
"เมื่อคืนชั้นคุยโทรศัพท์กับหลิงหลิงจริง คุยกันนานมากด้วย" หลังจากนิ่งเงียบไปพักใหญ่แล้วแวนเนสก็ยอมเปิดปากเล่าให้พี่ชายฟัง
"เมื่อวานนี้หลิงหลิงบอกกับชั้นว่ามีกลุ่มแฟนคลับของชั้นจะจัดทำเว็บไซด์ให้ชั้น ตอนนี้กำลังออกแบบกันอยู่ น้องเขาเลยเสนอให้ชั้นมีส่วนร่วมด้วย เพื่อที่จะได้ใช้เว็บไซด์นั้นเป็นที่ติดต่อพูดคุยกับแฟนคลับและคนที่ติดตามผลงานของชั้น" เจอร์รี่พยักหน้าเล็กน้อย
"ชั้นเองก็เห็นด้วย เลยบอกน้องเขาว่าถ้าขาดเหลืออะไรก็ให้บอกชั้นหรือติดต่อผ่านทางไจ่ไจ๋ก็ได้ แต่ตอนที่เราคุยเรื่องนี้กันอยู่ไจ่ไจ๋ไม่ได้นั่งอยู่ด้วยเลยไม่รู้เรื่อง" แวนเนสเล่าต่อ
"ชั้นก็เลยให้เบอร์โทรศัพท์ชั้นไว้กับหลิงหลิง พอเมื่อคืนนี้หลิงหลิงก็โทรมาคุยให้ฟังคร่าวๆเกี่ยวกับรูปแบบของเว็บไซด์แล้วก็ขออนุญาตเอาข้อมูลส่วนตัวบางเรื่องของชั้นไปลงในเว็บไซด์เพื่อให้คนอื่นๆได้อ่านด้วย เมื่อคืนชั้นเลยเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวเองให้น้องเขาฟัง แล้วก็เล่าถึงการก้าวเข้ามาอยู่ในวงการนี้เริ่มมาจากใครและตั้งแต่เมื่อไหร่" พี่ใหญ่ได้ฟังเช่นนี้แล้วก็พอจะรู้สาเหตุที่ทำให้น้องเล็กไม่พอใจ
"แล้วน้องรู้ได้ยังงัยว่าเมื่อคืนนายคุยโทรศัพท์กับหลิงหลิง?" เจอร์รี่ถามซัก
"พอดีเมื่อคืนที่กำลังคุยๆกันอยู่หลิงหลิงบอกว่ามีสายซ้อน ชั้นเข้าใจว่าคงเป็นไจ่ไจ๋นั่นแหละ" แวนเนสตอบแล้วทำหน้าเศร้า
"ชั้นจะทำยังงัยให้น้องเข้าใจ? ชั้นต้องทำยังงัยดี?" ถามพี่ชายด้วยสีหน้าไม่สบายใจ
"เอาเถอะ ถ้าน้องกลับมาชั้นจะช่วยพูดให้นะ นายเองก็อย่าเพิ่งพูดอะไรเพราะยิ่งพูดมันก็เหมือนกับเป็นการแก้ตัว" เจอร์รี่ตอบแล้วสั่งกำชับน้องชาย
"นึกไม่ถึงเลยว่าน้องจะเห็นชั้นเป็นคนที่มีจิตใจเลวร้ายแบบนั้น" หลังจากเงียบไปซักพักแวนเนสก็เปรยขึ้นมาด้วยความรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก น้ำตาเริ่มซึมออกมาอีก
"น้องไม่รู้ต้นสายปลายเหตุอะไรนี่ แล้วอีกอย่างน้องก็กำลังโกรธ นายอย่าคิดมากกับคำพูดของน้องเลยนะ" เจอร์รี่พูดปลอบใจน้อง
"คิดๆไปเหมือนกรรมตามสนองนะ เพราะครั้งนึงชั้นก็เคยใส่ร้ายเสี้ยวเทียนแบบนี้เหมือนกัน" แวนเนสพูดต่ออย่างปลงๆพร้อมกับยกมือปาดน้ำตา
"มันก็เป็นเพียงแค่ความเข้าใจผิด ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เอาไม่น่า! ยิ้มหน่อยสิ ไม่มีอะไรเลวร้ายนักหรอก" ตบแก้มน้องเบาๆแล้วยิ้มให้กำลังใจ แต่แวนเนสก็ได้แต่ฝืนยิ้ม
"โอเค แม้จะฝืนไปบ้างก็ยังดี เอางี้.....วันนี้พี่ใหญ่จะยอมโดดงานพานายไปเที่ยวซักวัน อยากไปหรือเปล่า?" ถามน้องชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"จะพาไปไหนหละ?" ย้อนถามพี่ชายทั้งน้ำตา
"ทุกที่ที่นายต้องการเลย" คำตอบของพี่ชายทำเอาแวนเนสยิ้มออกมาได้โดยไม่ต้องฝืนอีกต่อไป

- ที่มหาวิทยาลัยของไจ่ไจ๋ -
"พี่ไจ่ไจ๋คะ!!" เสียงใสของหลิงเอ๋อร้องเรียกไจ่ไจ๋พร้อมกับโบกมือให้ ไจ่ไจ๋เห็นแล้วแต่กลับทำเป็นไม่เห็นแล้วเดินเลี่ยงไปทางอื่น
"พี่คะ!! ชั้นเรียกเมื่อกี้ไม่ได้ยินหรอ?" เธอวิ่งตามไจ่ไจ๋มาพร้อมกับต่อว่าเล็กน้อย
"นึกไม่ถึงว่าเราจะยังไม่ลืมชื่อพี่ นึกว่าจะจำได้แต่ชื่อแวนเนสซะอีก" ไจ่ไจ๋พูดประชดแล้ววางกระเป๋าลงบนโต๊ะม้าหินประจำของกลุ่ม
"พี่พูดอะไรน่ะ? ไม่เห็นเข้าใจเลย" หลิงเอ๋อทำหน้างงๆแต่ก็นั่งลงข้างไจ่ไจ๋
"พี่คะ วันนี้ชั้นฝากนี่ไปให้พี่แวนเนสหน่อยสิ แล้วฝากบอกด้วยว่าเดี๋ยวคืนนี้จะโทรไปหา" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็หน้าตึง
"ทำไมเราไม่เอาไปให้เองหละ? โทรกิ๊กเดียวเขาคงรีบมาหาเลย" ไจ่ไจ๋ย้อนด้วยท่าทางเย็นชาเพราะนึกว่าของที่หลิงเอ๋อจะฝากไปให้แวนเนสนั้นคงเป็นจดหมายจากแฟนคลับ
"ไจ่ไจ๋ วันนี้พี่เป็นอะไรไปคะ? ทำไมดูแปลกๆ พี่ไม่พอใจอะไรชั้นหรือเปล่าคะ?" เธอเอ่ยถามไจ่ไจ๋ออกไปตรงๆ
"พี่จะกล้าไม่พอใจอะไรเราได้หละ? พี่ผิดเองที่เป็นคนเจ้ากี้เจ้าการแต่แรก" เมื่อโดนไจ่ไจ๋พูดแขวะกัดประชดประชันเช่นนี้หลิงเอ๋อก็เริ่มไม่พอใจขึ้นมาเหมือนกัน
"ชั้นไม่รู้นะคะว่าพี่เป็นอะไร แต่ถ้าพี่ไม่พอใจไม่อยากคุยกับชั้นก็บอกกันตรงๆได้ ชั้นเห็นพี่ทำท่าทางมึนตึงตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว โทรกลับไปพี่ก็ไม่รับสาย ถ้าพี่ไม่อยากให้ชั้นจุ้นจ้านกับพี่อีกชั้นก็ไม่ขัดข้องค่ะ" พูดจบเธอก็หยิบซองเอกสารที่ฝากไจ่ไจ๋ไปให้แวนเนสขึ้นมา
"เดี๋ยว!" ไจ่ไจ๋ดึงมือเธอไว้ก่อน หลิงเอ๋อที่ถือซองเอกสารไม่ถนัดอยู่แล้วในตอนแรกเมื่อโดนไจ่ไจ๋คว้าแขนไว้จึงทำซองนั้นหล่นจากมือ ของที่อยู่ในนั้นจึงร่วงออกมาจากซองด้วย
"นี่มัน....." ไจ่ไจ๋หยิบแผ่นกระดาษที่ดูเหมือนโครงร่างอะไรบางอย่างขึ้นมาดู แต่ก็ถูกหลิงเอ๋อดึงออกไปจากมือ
"หลิงหลิง พวกนี้มันคืออะไร?" ไจ่ไจ๋ถามน้องรหัสตัวเอง
"พี่จะสนใจทำไมคะ? ในเมื่อพี่ตัดสินใจไม่ให้ชั้นยุ่งวุ่นวายกับพี่แล้วพี่ก็ไม่ต้องมาวุ่นวายกับชั้นเหมือนกัน!" หลิงเอ๋อพูดใส่หน้าไจ่ไจ๋
"พี่ขอโทษนะหลิงหลิง พี่เข้าใจอะไรผิดนิดหน่อย บอกพี่มาเถอะนะว่าพวกนี้มันคืออะไรกันแน่?" ไจ่ไจ๋พูดขอร้องเพราะเริ่มรู้แล้วว่าพี่ชายกับหลิงเอ๋อคงไม่มีอะไรเกินเลยอย่างที่เขาทึกทักเอาเอง
"แบบเว็บไซด์ของพี่แวนเนสค่ะ แบบคร่าวๆ ชั้นกับเพื่อนๆช่วยกันทำเลยเอามาเสนอให้พี่แวนเนสดูว่าพอใจหรือเปล่า?" ได้ยินดังนั้นไจ่ไจ๋ก็เข้าใจเรื่องทุกอย่างแทบจะในทันที
"งั้นเมื่อคืนที่เราบอกว่าคุยกับพี่ชายพี่ก็เรื่องทำเว็บไซด์นี้หรอกหรอ?" ย้อนถามกลับไปอีก
"ก็ใช่สิคะ" เธอพยักหน้าแล้วทำหน้างงๆกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของไจ่ไจ๋
"พี่เอาไปให้พี่แวนเนสเอง ขอบใจมากนะหลิงหลิง" ไจ่ไจ๋รวบรวมเอกสารทุกอย่างใส่ซองตามเดิมแล้วคว้ากระเป๋าจะวิ่งไปที่รถทันที
"พี่ไจ่ไจ๋!!! แล้วไม่เข้าเรียนหรอคะ?" หลิงเอ๋อตะโกนถาม
"ไม่เข้า! พี่จะไปหาพี่ชาย!!" ไจ่ไจ๋ตะโกนตอบกลับมาแล้วรีบวิ่งไปที่รถขับกลับบ้านไปโดยเร็ว เมื่อมาถึงบ้านแล้วไจ่ไจ๋ก็วิ่งเข้าบ้านโดยเร็วแต่ก็พบว่าบ้านถูกล็อกอย่างแน่นหนา
"วันนี้พี่รองไม่ทำงานนี่" พึมพำกับตัวเองแต่ก็รีบเอาโทรศัพท์มาโทรหาพี่ชายแต่ปรากฏว่าติดต่อไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นเขาเลยโทรไปหาเสี่ยวจือ
"เสี่ยวจือครับ ผมไจ่ไจ๋นะ" ไจ่ไจ๋บอกไปเมื่อเสี่ยวจือรับสาย
"ไจ่ไจ๋หรอ? มีอะไรหละ?" เสี่ยวจือถามกลับมา
"วันนี้พี่รองไปทำงานมั๊ยครับ?" ถามอย่างรวดเร็ว
"ไม่มีหนิ วันนี้แวนเนสไม่มีงานอะไรเลย" เสี่ยวจือตอบ
"หรอครับ แล้วเสี่ยวจือพอจะรู้มั๊ยครับว่าพี่รองไปไหน เขาได้บอกคุณไว้หรือเปล่า?" ไจ่ไจ๋ถามต่ออย่างร้อนรน ตอนนี้เขาอยากขอโทษพี่ชายเป็นอย่างมาก
"ไม่หนิ ทำไมหรอไจ่ไจ๋? มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?" เสี่ยวจือเองก็ดูจะมีท่าทีเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน
"เปล่าหรอกครับ ผมแค่ติดต่อเขาไม่ได้เลยนึกว่าอาจจะอยู่กับคุณ งั้นไม่รบกวนแล้วนะครับ สวัสดีครับ" พูดจบไจ่ไจ๋ก็ตัดสายทิ้ง
"ไปไหนของเขา" พึมพำเบาๆแล้วนึกขึ้นได้ว่าพี่ใหญ่อาจพาแวนเนสไปที่บริษัทด้วย ดังนั้นเขาจึงโทรหาพี่ชายคนโตแต่ปรากฏว่าโทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้เช่นกัน
"หรือจะเกิดอะไรขึ้น?" ไจ่ไจ๋เริ่มใจไม่ดีเพราะสามารถติดต่อใครได้เลย เขาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วจึงต่อสายไปที่บริษัทและคำตอบที่ได้รับกลับมาก็คือวันนี้เจอร์รี่ไม่ได้เข้าบริษัท ไจ่ไจ๋เดินคอตกน้ำตาซึมมาทิ้งตัวนั่งที่โซฟา ยิ่งคิดได้ว่าคำพูดของเขาจะสร้างความเสียใจให้พี่ชายมากขนาดไหนแล้วเขาเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน
"พี่รอง....ผมขอโทษ.....ผมมันโง่! ผมมันเซ่อ! ผมมันไม่มีเหตุผล!" ไจ่ไจ๋ต่อว่าตัวเองแล้วนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว เขานั่งร้องไห้อยู่อย่างนั้นจนถึงเย็นก็ไม่มีวี่แววว่าพี่ชายจะกลับมาเลย ไจ่ไจ๋หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้งแล้วต่อสายไปหาเคน
"ว่างัยไอ้น้องรัก?" ทันทีที่ได้ยินเสียงเคนไจ่ไจ๋ก็ปล่อยโฮออกมาอีก
"ไจ่ไจ๋!! นายเป็นอะไรไป? เป็นอะไรน่ะ? บอกพี่มาซิ!" น้ำเสียงเคนฟังดูตกใจเมื่อได้ยินเสียงน้องร้องไห้
"พี่กลาง ผม.....ผมก่อเรื่องอีกแล้ว....." ไจ่ไจ๋บอกพี่ชายพลางสะอื้น
"ไจ่ไจ๋ นายใจเย็นก่อนนะ บอกพี่มาซิว่าเกิดอะไรขึ้น?" เคนถามน้องกลับมา
"ผมต่อว่าพี่รอง ผมหาเรื่องพี่เขา ผมทำให้พี่เขาเสียใจ แล้วตอนนี้พี่เขาทิ้งผมไปแล้ว" ไจ่ไจ๋คร่ำครวญพลางร้องไห้ร้องห่มออกมาอีก
"อะไรนะ? เดี๋ยวๆๆๆ นายทะเลาะกับพี่รองหรอ? ไจ่ไจ๋ อย่าเพิ่งร้องไห้ได้มั๊ย? ฟังพี่ก่อนนะ" เคนพยายามปลอบน้องแต่ไจ่ไจ๋กลับไม่รับรู้คำปลอบโยนของพี่ชายเลย
"ไจ่ไจ๋ ตอนนี้พี่รองอยู่ไหน?" เคนพยายามตั้งคำถามกับน้องอย่างใจเย็น
"ไม่รู้" ไจ่ไจ๋ตอบพลางส่ายหน้าไปมาอยู่คนเดียว
"แล้วพี่ใหญ่หละ?" ถามถึงพี่ชายคนโตด้วย
"ไม่รู้" คำตอบของน้องทำเอาเคนเริ่มกังวลด้วยเช่นกัน เขาภาวนาว่าคงไม่เกิดเรื่องอะไรร้ายแรงขึ้น
"ไจ่ไจ๋ นายสงบสติอารมณ์ก่อนนะ พี่จะลองติดต่อพี่เขาสองคนดู แต่ตอนนี้พี่ขอวางสายนายก่อนนะ ได้ความว่ายังงัยพี่จะโทรกลับมาบอกนายทันทีเลย โอเคมั๊ย?" เคนพูดกับน้องด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
"ครับ แต่พี่อย่าเงียบหายไปอีกคนนะ" ไจ่ไจ๋รับคำแต่ไม่วายกำชับกำชาพี่ชายอีก
"ไม่เงียบหายแน่นนอน พี่วางหละนะ" จบประโยคนั้นสายโทรศัพท์ก็ถูกตัดไป ไจ่ไจ๋กำโทรศัพท์ในมือแน่นก่อนจะค่อยเอนตัวนอนบนโซฟา ตอนนี้เขารู้สึกกลัวจับใจ

- ในเวลาต่อมา -
"อ้าว! ทำไมมานอนตรงนี้" เจอร์รี่พึมพำแล้วรีบเดินมาดูน้องเล็กที่นอนหลับขดตัวอยู่บนโซฟา
"กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย? เสื้อผ้าก็ไม่เปลี่ยน ข้าวของก็ไม่เอาไปเก็บ" บ่นน้องต่อเบาๆแล้วเลื่อนสายตาไปที่มือน้องก็เห็นว่าน้องเล็กกำโทรศัพท์อยู่ในมือ
"น้องกลับมาแล้วหรอ?" แวนเนสที่เพิ่งเดินตามพี่ชายเข้ามาเอ่ยถาม
"อืม" พี่ใหญ่พยักหน้าตอบแล้วดึงโทรศัพท์มือถือออกมาจากมือน้อง เป็นเวลาเดียวกันกับที่โทรศัพท์มีสายเรียกเข้าพอดี เมื่อเห็นว่าเป็นเคนที่โทรมาเจอร์รี่จึงกดรับทันที
"ไจ่ไจ๋! นายยังไม่เลิกร้องไห้อีกหรอ? นายอย่าเพิ่งเสียอกเสียใจมากได้มั๊ย? มันอาจไม่มีอะไรร้ายแรงก็ได้" เสียงเคนพูดมาเป็นชุดทำเอาเจอร์รี่รู้สึกงงๆ
"เสี้ยวเทียน ชั้นเอง....." บอกกล่าวกับน้องแล้วกำลังจะพูดต่อแต่ก็โดนน้องต่อว่ามาเป็นชุด
"กลับมาได้แล้วหรอ? หายหัวไปไหนของนาย? ไม่รู้หรืองัยว่าน้องมันเป็นห่วง? น้องมันนั่งร้องไห้ตั้งแต่เช้าแล้ว ทำไมพวกนายต้องลงโทษน้องแบบนี้ด้วย?" เจอร์รี่ดึงโทรศัพท์ที่แนบหูอยู่ออกห่างพอประมาณในขณะที่เคนยังบ่นไม่เลิก แวนเนสเองก็ได้ยินเสียงเคนออกมาจากโทรศัพท์อย่างชัดเจน
"เสี้ยวเทียน นายหยุดพูดก่อนได้มั๊ย? ชั้นฟังไม่รู้เรื่อง" เจอร์รี่พยายามเบรกน้องชาย
"หยุดอะไรหละ? พวกนายเป็นพี่ประสาอะไรกัน? แค่น้องงอแงใส่หน่อยเดียวก็หนีมันไป ปิดโทรศัพท์ไม่ให้น้องติดต่อได้ รู้บ้างมั๊ยว่าน้องมันเสียขวัญมากขนาดไหน!" เคนยังไม่เลิกต่อว่าพี่ชาย เจอร์รี่กับแวนเนสหันไปสบตากัน
"เสี้ยวเทียน.....เสี้ยวเทียนครับ.....ฟังพี่ก่อนนะ...." พี่ใหญ่พยายามจะอธิบาย เสียงพูดคุยของพี่ชายทำให้ไจ่ไจ๋เริ่มขยับตัว เห็นเช่นนั้นเจอร์รี่จึงเดินเลี่ยงออกไปคุยโทรศัพท์หน้าบ้าน ไจ่ไจ๋ลืมตาที่บวมช้ำขึ้นมาแล้วมองไปที่แวนเนสที่ยืนมองเขาอยู่เช่นกัน
"พี่รอง....." ไจ่ไจ๋เรียกพี่ชายด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง น้ำตาไหลซึมออกมาอีก
"ไจ่ไจ๋! เป็นอะไรน่ะ? ร้องไห้ทำไม?" เห็นสีหน้าและท่าทางของน้องแล้วแวนเนสก็ตกใจเป็นอย่างมากเขารีบปราดเข้าไปคุกเข่าลงตรงหน้าโซฟาที่น้องนอนอยู่ทันที
"พี่รอง ผมขอโทษ ผมขอโทษที่พูดจาไม่ดีกับพี่ อย่าทิ้งผมไปนะ" ไจ่ไจ๋ปล่อยโฮออกมาแล้วโผเข้ากอดพี่ชายแน่น แวนเนสกอดน้องตอบรู้สึกใจหายวาบ
"ไจ่ไจ๋ ไม่ต้องร้องนะ พี่ไม่ได้ทิ้งนายไปไหนเลยนะ พี่ไม่ได้ทิ้งนาย" แวนเนสกอดพร้อมกับลูบหลังให้น้องชายอย่างปลอบประโลม
"ผมไม่ดีเองที่ทึกทักเอาเองทุกเรื่อง ผมผิดเองครับพี่" น้องเล็กเอาแต่โทษตัวเองสลับกับอาการสะอื้นจนตัวโยน
"ไจ่ไจ๋ นายพูดอะไรน่ะ? ว่าตัวเองทำไม? ไม่เอา อย่าพูดแบบนี้เลยนะ" แวนเนสได้ฟังก็พลอยร้องไห้ไปกับน้องด้วย
"ผมรู้แล้วครับพี่ ผมรู้แล้วว่าพี่ไม่ได้หักหลังผม ผมรู้แล้วว่า....." แวนเนสเอามือปิดปากน้องไม่ให้พูดต่อ
"เงียบ....ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น พี่เข้าใจนาย พี่เข้าใจนายนะไจ่ไจ๋" ไจ่ไจ๋เงยหน้ามองพี่ชายก่อนที่จะปล่อยโฮออกมาอีกครั้งแล้วซบหน้าลงกับอ้อมกอดของพี่ชาย ทั้งๆที่แวนเนสดีกับเขาขนาดนี้เขายังคงมองพี่ชายในแง่ร้ายได้อีก ในตอนนั้นเองเจอร์รี่ก็เดินกลับเข้ามาด้วยสีหน้าเจื่อนๆ
"โดนมันบ่นจนหูชาเลย" บอกกับแวนเนสเบาๆแล้วเปลี่ยนสายตาไปที่น้องชายคนเล็กที่ยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดของแวนเนส
"หมดเรื่องแล้ว" แวนเนสบอกพี่ชายโดยไม่ออกเสียง พี่ใหญ่ยิ้มแล้วขยับนั่งลงข้างๆแวนเนสก่อนที่จะเอื้อมมือไปลูบหลังให้น้องเล็ก
"เจ้าน้องชายตัวแสบของเราสองคนนี่ขี้แยจังเลยเนอะ" แกล้งพูดแหย่เพื่อให้บรรยากาศดีขึ้น
"นั่นสิ พี่สองคนแค่แอบหนีเที่ยวกันแป๊บเดียว ร้องไห้งอแงใหญ่เชียว" แวนเนสรับคำพี่ชายแล้วพูดเสริมอีกแรง
"วันหลังพี่จะไม่กล้าไปไหนมาไหนโดยไม่ได้รายงานให้นายรู้อีกแล้วหละ เลิกร้องไห้ได้แล้วนะครับ" แวนเนสก้มหน้าลงมาพูดกับน้องเบาๆ ไจ่ไจ๋จึงค่อยเงยหน้าขึ้นมาแต่ยังสะอื้นไม่หาย แวนเนสเอามือเช็ดน้ำตาให้น้องอย่างแผ่วเบา
"ตาบวมช้ำหมดเลย หมดหล่อไปเยอะแล้วนะ" พูดหยอกน้องแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ไจ่ไจ๋ไม่ได้พูดโต้ตอบอะไรเพียงแต่ซบหน้าลงกับอกพี่ชายอีก
"ทำไมวันนี้กลับบ้านเร็วจังหละ? พี่สองคนเลยโดนจับได้เลยว่าแอบหนีเที่ยว" พี่ใหญ่ถามหยอกน้องพร้อมกับลูบหัวน้องอย่างอ่อนโยน
"ผมรีบกลับมาเพื่อที่จะขอโทษพี่รอง....." ไจ่ไจ๋เงยหน้าขึ้นมาตอบพี่ชายทั้งสองคน
"แต่มาถึงก็ไม่เจอใครแล้ว ติดต่อใครก็ไม่ได้ ผมนึกว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพวกพี่......" พูดมาถึงตรงนี้น้องเล็กก็มีน้ำตาซึมออกมาอีก แวนเนสได้ยินก็รีบโน้มหัวน้องชายลงมาซบที่อกตัวเองตามเดิมเพราะกลัวน้องจะร้องไห้ออกมาอีก
"พี่ขอโทษนะ พี่ขอโทษ พี่ขอโทษจริงๆที่ทำให้นายเป็นห่วง" แวนเนสขอโทษขอโพยน้องชายเป็นการใหญ่ ไจ่ไจ๋ไม่ตอบว่าอะไรแต่กอดพี่ชายแล้วนิ่งเงียบไปพักใหญ่
"ไจ่ไจ๋ วันนี้กินข้าวบ้างหรือยัง?" เจอร์รี่เปลี่ยนเรื่องถามทำลายความเงียบเพราะไม่อยากให้น้องคิดอะไรมากอีก น้องเล็กส่ายหน้าไปมาน้อยๆ
"ทำไมถึงไม่หาอะไรกิน? ไม่หิวหรืองัย?" ทำเสียงเข้มขึ้นมาเล็กน้อย คราวนี้ไจ่ไจ๋เป็นคนผละตัวออกมาแล้วมองหน้าพี่ชายสองคนสลับกันไปมา
"ผมกินน้ำตาตัวเองจนอิ่มแล้วหละ" คำพูดของน้องทำเอาพี่ชายทั้งคู่ได้แต่ทำหน้าแหยๆ
"ขอโทษตั้งหลายรอบแล้ว อย่าตอกย้ำกันอีกเลยนะ เอางี้เดี๋ยวพี่ทำโจ๊กให้กิน" พี่ใหญ่เสนอ
"ไม่เอา" ไจ่ไจ๋ส่ายหน้าดิก
"ได้ยังงัยหละ? ไม่กินอะไรเลยทั้งวันแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ" แวนเนสเอ็ดน้องชายบ้าง
"ไม่ใช่จะไม่กินอะไร แต่ผมไม่อยากกินโจ๊ก" น้องเล็กแย้งคำพี่ชาย
"แล้วอยากกินอะไรหละ?" พี่ชายสองคนถามขึ้นพร้อมกัน
"พิซซ่า" ตอบเสียงดังฟังชัด
"พิซซ่า!" พี่ชายสองคนทวนคำพร้อมกัน ไจ่ไจ๋พยักหน้าแล้วชี้นิ้วไปที่โทรศัพท์บ้าน
"ไปสั่งมาเดี๋ยวนี้เลย หิวจะตายอยู่แล้ว แสบท้องไปหมด" สั่งพี่ชายต่อทันที เจอร์รี่กับแวนเนสมองหน้ากันเล็กน้อยแล้วเจอร์รี่ก็เป็นคนลุกไปโทรศัพท์
"เอาถาดใหญ่สองถาดนะ แบบแป้งบางกรอบถาดนึงแป้งหนานุ่มถาดนึง เพิ่มไก่ ขนมปังกระเทียม สปาเก็ตตี้ ลาซานญ่า แล้วก็สลัดด้วย" พี่ใหญ่ได้ยินก็ถือหูโทรศัพท์ค้าง
"เร็วๆเข้า!!" พูดกระตุ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าพี่ชายไม่โทรศัพท์ไปสั่งซักที
"คร้าบบบบ.....ทราบแล้วคร้าบบบบ....." พี่ใหญ่ตอบรับคำน้องอย่างประชดประชันแล้วโทรไปสั่งพิซซ่าพร้อมกับของกินอย่างอื่นตามคำบัญชาของน้องชาย
"พี่รอง" เมื่อพี่ใหญ่สั่งโทรอาหารเสร็จแล้วไจ่ไจ๋ก็หันมาทางแวนเนสบ้าง
"ว่างัยครับ?" แวนเนสตอบรับคำน้องเสียงหวาน
"ผมหิว" น้องเล็กตอบ
"รออีกแป๊บนึงนะเดี๋ยวเขาก็มาส่งให้" แวนเนสพูดปลอบ
"ผมรอไม่ไหว หิวมากแล้ว ไปหาอะไรมาให้กินหน่อย" สั่งพี่ชายต่อเป็นการแก้แค้นที่ทำให้เขาต้องร้องไห้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น
"แต่เมื่อกี้นายสั่งของกินไปตั้งเยอะเลยนะ เดี๋ยวจะกินหมดหรอ?" พี่ใหญ่แย้งขึ้นมาทันควัน
"กินไม่หมดก็ทิ้งสิ ไม่เห็นจะยาก" น้องเล็กตอบเอาง่ายๆ ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็อ้าปากจะสั่งสอนน้องชายแต่ก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่าน้องมีเรื่องกระทบกระเทือนอารมณ์อยู่ก่อนแล้วจึงไม่ได้พูด
"พี่รอง ที่บอกเมื่อกี้ไปหามาให้ได้หรือยัง?" ไจ่ไจ๋หันมาย้ำกับแวนเนส
"เอ่อ....ไปหาให้เดี๋ยวนี้แหละ" พูดจบแวนเนสก็ลุกเดินเข้าไปในครัวแต่ไม่วายบ่นอุบอิบ
"ใครจะรู้มั๊ยว่าไอดอลชื่อดังแบบนี้จะต้องมาเป็นเบ๊ให้ไอ้น้องชายตัวแสบคนนี้เนี่ย" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็แอบอมยิ้ม
"มัวแต่บ่นอยู่นั่น! วันนี้จะได้กินมั๊ย?" ตะโกนเร่งพี่ชายต่ออย่างได้ใจ
"ได้แล้วๆๆๆ" แวนเนสรีบยกจานคุ๊กกี้พร้อมกับน้ำผลไม้ออกมาให้น้องทันที
"ขอบคุณครับ" ไจ่ไจ๋รับมาแล้วหยิบกินทันที เพราะตอนนี้เขาเองก็หิวจนตาลายหมดแล้ว พี่ชายสองคนนั่งมองน้องเล็กกินแล้วก็อดที่จะยิ้มไม่ได้
"อะพี่รอง....." หลังจากกินคุ๊กกี้ไปได้ครึ่งนึงไจ่ไจ๋ก็ยื่นจานคืนให้พี่ชาย
"อ้าว ไม่เอาแล้วหรอ?" แวนเนสย้อนถามแต่ก็รับจานมาวางลงบนโต๊ะ
"ไม่เอาแล้วเดี๋ยวกินพิซซ่าไม่ลง เหลือทิ้งมากๆเดี๋ยวคนแถวนี้ตีตายแน่เลย" พูดพลางเหล่ไปทางพี่ใหญ่
"รู้เหมือนกันหรืองัย?" เจอร์รี่บีบจมูกน้องชายอย่างหมั่นไส้ ไจ่ไจ๋จึงหัวเราะออกมาได้ในที่สุด ซึ่งเสียงหัวเราะของน้องทำให้พี่ทั้งสองคนโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
"พี่รองครับ" แล้วไจ่ไจ๋ก็เรียกพี่ชายด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงานขึ้น
"หืม? มีอะไรให้รับใช้อีกครับ?" แวนเนสถามพร้อมกับขยี้หัวน้องอย่างเอ็นดู
"หลิงหลิงฝากมาให้พี่ครับ" ยื่นซองเอกสารที่บรรจุแบบคร่าวๆของเว็บไซด์ให้พี่ชาย
"เอ่อ....." แวนเนสทำหน้าเจื่อนๆเมื่อได้ยิน
"ทำไมทำหน้าแบบนั้นหละ? เอาไปสิครับ ดูด้วยว่าชอบแบบเว็บไซด์ที่เหล่าแฟนคลับของพี่จะทำให้หรือเปล่า?" ไจ่ไจ๋บอกกับพี่ชายพร้อมกับยิ้มบางๆ
"นี่ตกลงว่านายรู้เรื่องเว็บไซด์แล้วหรอ? ไปรู้ตอนไหน? รู้ได้ยังงัย? ใครบอก?" แวนเนสถามน้องต่อเป็นชุดเพราะเขาตั้งใจจะอธิบายเรื่องทั้งหมดนี้ให้น้องฟังอยู่พอดี
"ผมเป็นคนหัวไวครับ ฉุกคิดอะไรได้ก่อนที่เรื่องจะบานปลาย" ไจ่ไจ๋พูดยกยอตัวเอง
"โห่!!!" พี่ชายสองคนโห่น้องออกมาพร้อมกัน น้องเล็กหัวเราะขำตัวเองแล้วก็ค่อยๆเงียบไปอีก
"พี่รองครับ ผมขอโทษจริงๆสำหรับเรื่องเข้าใจผิดทั้งหมด คราวหน้าคราวหลังผมจะไม่คิดอะไรไปเอง จะถามเรื่องราวรายละเอียดทุกอย่างให้ดีเสียก่อน" แวนเนสยิ้มรับแล้วพยักหน้า
"จบเรื่องแล้ว ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้วนะ" แวนเนสย้ำกับน้อง ไจ่ไจ๋พยักหน้าแล้วโผเข้าไปกอดพี่ชายอีกครั้งหนึ่ง ส่วนเจอร์รี่ก็มองน้องชายทั้งคู่ด้วยความโล่งอก
"ติ๊งต่อง!" เสียงกริ่งดังขึ้นทำให้ไจ่ไจ๋รีบผละตัวออกทันที
"พิซซ่ามาส่งแล้ว พี่ใหญ่ออกไปจ่ายเงินแล้วเอาเข้ามากินเร็วๆ" ไจ่ไจ๋หันไปสั่งพี่ชายคนโต เจอร์รี่เม้มปากแล้วชี้หน้าน้องแต่ก็หยิบกระเป๋าเงินแล้วลุกเดินออกไป
"ไจ่ไจ๋.....พี่ว่าวันหลังเราหาเรื่องทะเลาะกันบ่อยๆก็ดีเหมือนกันนะ" หลังจากพี่ชายออกไปแล้วแวนเนสก็กอดคอพูดกับน้อง
"ทำไมหรอครับ?" ไจ่ไจ๋ย้อนถาม
"เพราะว่าพี่ใหญ่จะตามใจพวกเราเป็นพิเศษงัย วันนี้พี่ก็ได้เที่ยวฟรีกินฟรีทั้งวันเหมือนกัน" จบคำพูดของแวนเนสแล้วสองพี่น้องก็หัวเราะกันคิกคัก




 

Create Date : 26 มีนาคม 2550    
Last Update : 26 มีนาคม 2550 11:45:54 น.
Counter : 993 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  
 
 

loving_zai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




[Add loving_zai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com