Chapter 75

  ตอนที่ 75

"ทำไมมานอนตรงนี้หละ?"  เสียงแวนเนสที่ร้องเรียกทำให้เจอร์รี่ค่อยลืมตาขึ้นมา เขากระพริบตาถี่ๆก่อนจะมองหน้าน้องชายที่จ้องเขาอยู่

"มีงานหรอวันนี้?"  เอ่ยถามน้องด้วยน้ำเสียงแหบแห้งพลางขยับตัวลุกขึ้น

"อืม...."  แวนเนสตอบพร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อย

"ทำไมไม่นอนที่ห้องหละ?"  ถามพี่ชายต่ออีก

"ไม่มีอะไรหรอก"  เจอร์รี่ตอบแล้วเอามือเสยผมให้เข้าที่เข้าทาง

"เสี้ยวเทียนหละ?"  ถามหาน้องชายอีกคน

"มันยึดเตียงชั้นไปน่ะสิชั้นถึงระเห็จออกมานอนตรงนี้"  ตอบแบบติดตลกเพราะไม่อยากให้น้องคิดมาก

"เราหละเป็นงัย?"  ถามน้องต่ออีก

"ก็ไม่เป็นไรหนิ"  แวนเนสตอบพร้อมกับหลบตาพี่ชาย

"งั้นก็ดี ไปทำงานซะจะได้ไม่ต้องคิดอะไรมาก"  เอื้อมมือมาขยี้หัวน้องเบาๆ

"แล้วนายหละ?"  แวนเนสถามพี่ชายบ้าง

"ขอดูสถานการณ์ก่อน ถ้าไม่มีอะไรมากก็ว่าจะเข้าบริษัทเหมือนกัน"  พูดจบก็พยักหน้าให้น้องคล้ายจะตัดบท แต่แวนเนสก็พูดขึ้นอีก

"ให้ชั้นเอาเสี้ยวเทียนไปด้วยดีมั๊ย? นายจะได้ไม่ต้องห่วงโน้นกังวลนี่"  เสนอขึ้นมาเพราะรู้ว่าพี่ชายเป็นห่วงน้อง

"ไม่เป็นไรหรอกชั้นดูมันเอง ขืนนายเอามันไปด้วยเวลามันดื้อขึ้นมาจะคุมไม่อยู่"  แวนเนสหัวเราะเฝื่อนๆก่อนจะพยักหน้า

"เออนี่.....เรื่องที่เกิดขึ้นน่ะชั้นบอกพ่อแม่แล้วนะ"  แล้วเจอร์รี่ก็บอกน้องชายไปตรงๆ

"หา!!?? บอกไปแล้วหรอ?"  แวนเนสอุทานอย่างตกใจ

"แล้วพ่อแม่ไม่ตกใจแย่หรอ?"  ซักไซร้พี่ชายต่ออีก

"ก็ตกใจเหมือนกัน และก็บอกว่าจะรีบกลับมาทันที"  ตอบคำถามนั้นจบก็ถอนหายใจ

"ชั้นโดนสวดไปหลายยกเหมือนกัน ที่มีเรื่องอะไรแล้วไม่รีบบอก"  แวนเนสมองพี่ชายอย่างเห็นใจ เขารู้ดีว่าความรับผิดชอบของพี่ชายนั้นใหญ่หลวงมากนัก

"แล้วชั้นก็คุยกับพ่อแม่แล้วด้วยว่าหากความทรงจำของไจ่ไจ๋ยังไม่กลับคืนมาในเร็ววัน ชั้นจะให้แม่พาเสี้ยวเทียนไปอยู่กับแม่ซักระยะ"  แวนเนสนิ่งไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น

"เมื่อคืนมันอาละวาดอีกหรอ?"  ย้อนถามพี่ชายกลับไป

"ไม่เชิงหรอก แต่น้องมันเสียใจแล้วก็เอาแต่โทษตัวเองตลอด ชั้นเลยไม่อยากให้น้องอยู่กับสภาพแวดล้อมเดิมๆ บางทีการได้ไปพักผ่อนไกลๆซักช่วงนึงอาจทำให้น้องสงบลงก็ได้"  คำอธิบายของพี่ชายนั้นทำให้แวนเนสไม่รู้จะพูดอะไรต่อเพราะแม้เขาไม่อยากให้น้องไปไหนไกลหูไกลตาแต่เขาก็ต้องเลือกหนทางที่ดีที่สุดสำหรับน้อง

"ชั้นเลยบอกนายไว้ก่อน แล้วจะหาทางบอกไจ่ไจ๋อีกทีแต่รายนั้นคงไม่ยากเย็นอะไรเพราะน้องก็จำเราไม่ได้อยู่แล้ว"  แวนเนสพยักหน้ารับอีกครั้งก่อนจะพูดตัดบท

"ก็เอาตามนั้น งั้นชั้นไปทำงานก่อนนะ"  ว่าแล้วก็หมุนตัวจะออกจากบ้าน

"เสี่ยวจือไม่มารับหรอ?"  ถามน้องไล่หลังไป

"เปล่า ชั้นจะนั่งแท๊กซี่ไป"  พูดจบก็เปิดประตูเดินออกไปทันที หลังจากน้องออกไปแล้วเจอร์รี่ก็ถอนหายใจเบาๆก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นเดินไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ เมื่อเดินออกมาก็เจอไจ่ไจ๋ที่เดินงัวเงียลงมา

"ตื่นแล้วหรอ? หลับสบายมั๊ย?"  เจอร์รี่เอ่ยทักแล้วปั้นรอยยิ้มสดใสให้น้องชาย

"สบายครับ ขอโทษนะครับที่ตื่นสาย"  ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับยิ้มแหยๆรู้สึกอายที่ตื่นสายกว่าคนอื่น

"ปกตินายก็ตื่นสายอยู่แล้วนี่"  เจอร์รี่พูดยิ้มๆ 

"หิวหรือยัง? พี่ต้มข้าวต้มไว้เดี๋ยวจะออกไปซื้อกับข้าวมาให้"  ถามน้องชายต่ออีก

"ไม่ต้องหรอกครับ คือว่า.....ผมออกไปซื้อให้พวกคุณดีกว่า"  ไจ่ไจ๋รีบปฏิเสธเพราะรู้สึกเกรงใจที่ตัวเองไม่ได้ช่วยทำอะไร 

"พี่คงหิวตายก่อนแน่เลย กว่านายจะอาบน้ำเสร็จ"  เจอร์รี่แกล้งพูดแหย่น้อง

"แหม....ผมล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็ออกไปซื้อได้แล้ว รอเดี๋ยวเดียวนะเดี๋ยวผมไปซื้อให้!"  พูดจบก็วิ่งจู๊ดเข้าห้องน้ำทันที ท่าทางของน้องเล็กทำให้เจอร์รี่หัวเราะออกมาได้

"ไม่ต้องรีบหรอก พี่พูดเล่นพี่ไม่ได้หิวอะไรเลย"  เจอร์รี่ร้องบอกน้องชายก่อนจะเดินมานั่งลงที่โซฟาแล้วหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน ตอนนั้นเองเคนก็เดินลงมาจากบันได

"อ้าว....มาทำหน้างอใส่พี่ใหญ่อีกแล้ว"  เจอร์รี่เหลือบตาขึ้นมองเมื่อเห็นน้องยืนค้ำหัวเขาพร้อมกับทำหน้ามุ่ยใส่

"เมื่อคืนบอกชั้นว่าจะช่วยจัดรูป จนป่านนี้รูปทุกใบยังกองอยู่ที่เดิมเลย"  พูดด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด

"วันอื่นยังมีเวลาอีกตั้งเยอะ"  เจอร์รี่แย้งก่อนจะตบที่ว่างข้างๆ

"นั่งลงมานี่ ยืนค้ำหัวผู้ใหญ่ได้ยังงัย?"  เคนเบ้ปากแต่ก็ทรุดตัวนั่งลงกับพี่ชาย

"แวนเนสหละ?"  ถามถึงพี่ชายอีกคน

"ออกไปทำงานตั้งแต่นายยังนอนอุตุอยู่ข้างบนแล้ว"  เจอร์รี่ตอบแล้วยิ้มบางๆ

"แล้วมันเป็นยังงัยบ้าง?"  ถามพี่ชายต่ออีก

"เราน่ะเอาแต่เป็นห่วงคนอื่นตัวเองเอาให้รอดก่อนเถอะ"  ว่ากระทบน้องชายไปในตัว

"นี่! ตอนนี้ชั้นไม่เป็นแล้ว ถึงจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกชั้นก็รับมือได้ทุกอย่าง"  เคนพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

"ตอนนี้ทำเป็นพูดดีไป เดี๋ยวตกดึกหน่อยก็ร้องไห้วิ่งหาพี่ใหญ่อีก"  เคนได้ยินก็ตีแขนพี่ชายอย่างขัดใจที่พี่ชายชอบพูดขัดคอเขาตลอด

"โอ้ย! มาตีชั้นทำไมเนี่ย!"  เจอร์รี่โวยวายใส่น้อง ในตอนนั้นเองไจ่ไจ๋เดินออกมาจากห้องน้ำพอดีเขาหยุดยืนมองสองพี่น้องเงียบๆ

"ก็ชั้นพูดอะไรนายก็ขัดตลอด เออออกับชั้นซักเรื่องได้มั๊ย!?"  ตวัดเสียงพูดกับพี่ชาย

"เออออกับนายก็เท่ากับให้ท้ายเวลานายทำตัวเกเรน่ะสิ"  พี่ใหญ่ได้ทีพูดแขวะน้องอีก

"ชั้นทำตัวเกเรที่ไหน?"  เคนเริ่มโวยวายขึ้นมาบ้าง

"โอโห.....ถามแบบนี้จะให้ชั้นตอบยังงัยหละ? เพราะถ้าให้ตอบจริงๆคงต้องคุยกันเป็นเดือน"  พี่ใหญ่ไม่วายแหย่น้องอีก เพราะแม้ในใจเขาจะรู้สึกเจ็บแต่อย่างน้อยการได้เห็นน้องโวยวายใส่ก็ยังดีกว่าการที่น้องนิ่งเงียบเป็นไหนๆ

"ไม่คุยด้วยแล้ว! ลุกเลยไปช่วยกันข้างบน!"  แล้วเคนก็ดึงแขนพี่ชายเป็นการใหญ่

"เฮ้ยๆๆๆๆ!!! เรื่องอะไรมาฉุดกระชากชั้นแบบนี้หละ? คิดจะทำอะไรฮึ?"  พี่ใหญ่เป็นฝ่ายโวยวายบ้าง

"ไอ้บ้า!! ชั้นไม่พิศวาสนายหรอก! ไปช่วยกันจัดเรียงรูปต่อเร็วๆ!"  ออกคำสั่งกับพี่ชายแล้วเร่งพี่ชายยิกๆ

"เรื่องอะไรชั้นต้องช่วย นายรื้อออกมาเองก็เก็บเองสิ วันนี้ไม่หลงกลนายง่ายๆหรอก"  เจอร์รี่ว่าแล้วก็นั่งลงตามเดิม

"ได้!! งั้นชั้นก็ไม่ทำเหมือนกัน เพราะยังงัยมันก็ไม่ใช่ห้องนอนของชั้นจะรกยังงัยก็ช่างมัน!"  แล้วเคนก็นั่งลงบ้าง

"อ้าวเฮ้ย!! อยากมีเรื่องหรืองัย? นายเป็นคนรื้อก็ต้องเป็นคนเก็บสิเรื่องอะไรมาทิ้งของเละเทะในห้องชั้น"  เจอร์รี่ถลึงตาใส่น้องชาย

"ห้องนายแล้วชั้นเกี่ยวอะไรด้วย? ห้องนายรกแล้วมันกงการอะไรของชั้น?"  เคนลอยหน้าลอยตาถามพี่ชาย คราวนี้พี่ใหญ่เงื้อมือขึ้นเคนที่ระวังตัวอยู่แล้วจึงรีบลุกหนีได้ทันก่อนจะโดนฝ่ามือพิฆาตของพี่ชาย

"เดี๋ยวโดนแน่!"  พี่ใหญ่ชี้หน้าน้องพร้อมกับพูดขู่ ไจ่ไจ๋ที่ยืนมองอยู่นานจึงหลุดหัวเราะออกมากับการทะเลาะกันเหมือนเด็กๆของทั้งสองคน

"อ้าว! มาอยู่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่"  เคนอุทานก่อนจะร้องทักน้องชายเพราะเพิ่งเห็น

"ออกมาทันดูพวกคุณสองคนปะทะคารมกันแหละครับ"  ไจ่ไจ๋ตอบขำๆแล้วพูดต่อ

"ผมจะออกไปซื้อกับข้าว พวกคุณจะเอาอะไรเป็นพิเศษมั๊ย?"  เคนหันไปมองพี่ชายก่อนจะหันกลับมาทางน้องชายอีก

"พี่ไปด้วย"  พูดกับน้องเล็กอย่างกระตือรือร้น

"ไม่ต้องเลย ให้น้องไปแหละดีแล้ว กว่านายจะล้างหน้าล้างตาอาบน้ำเสร็จได้หิวตายกันพอดี"  เจอร์รี่พูดแย้งขึ้นมา

"ชั้นไม่อาบก็ได้ ไปแบบนี้แหละ"  เคนเถียงพี่ชายก่อนจะลุกมายืนข้างน้อง

"น้องมันคงอยากเดินกับนายหรอก น้ำท่าไม่อาบหน้าตาไม่ล้างออกไปเดินข้างนอกอายคนอื่นแย่เลย"  เจอร์รี่ตอกกลับน้องชายอีก

"น้องไม่เห็นว่าอะไรซักคำ"  เคนย้อนก่อนจะมองหน้าไจ่ไจ๋

"เอ่อ.....คุณเพิ่งจะตื่นไปอาบน้ำอาบท่าก่อนเถอะครับ เดี๋ยวพอผมซื้อกับข้าวกลับมาเราจะได้กินข้าวกันงัย"  ไจ่ไจ๋พยายามปฏิเสธอย่างนุ่มนวล เคนเลยทำหน้าเศร้าลงเพราะรู้ว่าน้องไม่อยากให้เขาไปด้วย

"ไปเถอะไจ่ไจ๋"  เจอร์รี่พูดตัดบทแล้วพยักหน้าให้น้องชายคนเล็ก ไจ่ไจ๋มองไปทางเคนแว๊บหนึ่งก่อนจะเดินออกจากบ้านไป

"น้องไม่ยอมรับชั้น"  หลังจากน้องเดินออกไปแล้วเคนก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ

"คิดอะไรแบบนั้น"  พี่ใหญ่พูดเป็นเชิงปลอบ

"นายก็เห็นว่าถ้าหากน้องต้องอยู่กับชั้นตามลำพังน้องจะหลีกเลี่ยงทุกที แต่กับนายกับแวนเนสน้องไม่เห็นเป็นแบบนั้นเลย"  สายตาของเคนดูเจ็บปวด

"นายคิดมากอีกแล้ว น้องไม่ได้เป็นแบบที่นายคิดหรอก น้องก็บอกแล้วงัยว่าอยากให้นายอาบน้ำอาบท่าให้สบายตัวแล้วจะได้มากินข้าวพร้อมๆกัน"  ว่าพลางตบไหล่น้องเบาๆ

"นายไม่ต้องมาปลอบใจชั้นหรอก ชั้นเห็นสีหน้าท่าทางของน้องชั้นก็รู้แล้ว"  เคนน้ำตาซึม

"แต่ก็สมควรแล้วที่น้องจะเกลียดชั้นเพราะถ้าไม่ใช่เพราะชั้นน้องก็ไม่อยู่ในสภาพแบบนี้หรอก"  พี่ใหญ่ถอนหายใจที่น้องเอาแต่โทษตัวเองอีกแล้ว

"เสี้ยวเทียน.....เอาอีกแล้วนะ"  พูดเตือนน้องด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ

"ช่วงนี้ชั้นควรออกไปอยู่ที่อื่นซักพัก"  เคนว่าแล้วเงยหน้ามองพี่ชาย

"ชั้นมัวแต่อยากเจอหน้าน้องอยากคุยอยากถามอะไรหลายๆอย่างแต่น้องกลับเอาแต่หลบหน้าชั้นเอาแต่พวกนายเป็นกำบัง ในเมื่อชั้นเป็นคนทำให้น้องอึดอัดชั้นก็น่าจะไป....."  พูดกับพี่ชายด้วยน้ำเสียงจริงจัง ในขณะที่สองคนพี่น้องคุยกันนั้นก็ไม่รู้เลยว่าไจ่ไจ๋ที่ออกจากบ้านไปนั้นยังไม่ได้ไปไหนเพียงแต่ยืนฟังพวกเขาสองคนอยู่

"ถ้านายอยากทำอย่างนั้น ก็รออีกซักสองสามวัน"  เจอร์รี่เองก็ไม่ห้ามน้อง

"พ่อแม่คงจะกลับมาถึงในวันพรุ่งนี้แล้วพี่จะให้แม่พานายกลับไปด้วยเลย"  เคนอึ้งไปเพราะไม่นึกว่าจะเร็วขนาดนี้แต่ก็ต้องยอมจำนนเพราะเขาไม่มีทางเลือกแล้ว ไจ่ไจ๋ที่ยืนมองอยู่นั้นนิ่งงันเมื่อได้เห็นว่าเคนนั้นรักเขามากแค่ไหน 

"เอาแบบนั้นก็ได้"  แล้วเคนก็ตอบรับอย่างยากลำบาก

"เสี้ยวเทียน ไม่ใช่ว่าพี่อยากจะผลักไสไม่ให้นายได้อยู่ใกล้ชิดกับน้องหรอกนะ แต่มันน่าจะดีกว่าการที่ต้องมาเจอหน้ากันแล้วมีแต่ความอึดอัด"  เจอร์รี่ว่าพร้อมกับดึงตัวน้องเข้ามากอดเอาไว้

"ชั้นรู้"  เสียงเคนตอบรับสั่นเครือ ในตอนนั้นเองไจ่ไจ๋ก็มีความรู้สึกบางอย่างที่คุ้นเคยภาพตรงหน้านั้นเหมือนกับว่าเขาเคยเห็นและเคยเกิดขึ้นมาแล้ว

"ขอแค่น้องมีความสุขชั้นก็ยอมทั้งนั้น"  คำพูดของเคนนั้นทำให้ไจ่ไจ๋หันหลังกลับแล้วเดินออกจากบ้านไปเงียบๆ ในขณะที่เดินไปตามทางนั้นไจ่ไจ๋พยายามนึกเรื่องราวของตัวเองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เขาคิดถึงภาพของชายหนุ่มทั้งสามคนที่อาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน 

"พี่ชาย.....เรามีพี่ชายจริงๆน่ะหรอ....."  พึมพำกับตัวเองเบาๆเพราะไม่ว่าจะนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก

"เอาอะไรดีไจ่ไจ๋ วันนี้มาคนเดียวหรอ?"  แล้วไจ่ไจ๋ก็หลุดออกจากห้วงความคิดของตัวเองเมื่อมีเสียงร้องทัก

"เอ่อ....สวัสดีครับ"  ไจ่ไจ๋เอ่ยทักทายพ่อค้าเจ้าประจำที่เขามักมาซื้ออาหารเช้ากิน

"พี่ชายไม่มาด้วยหรอวันนี้?"  ถามไจ่ไจ๋อย่างสนิทสนม

"อ้อ วันนี้ผมมาคนเดียว"  ไจ่ไจ๋ตอบแล้วมองกับข้าวหลากหลายตรงหน้า

"วันนี้ที่บ้านมีข้าวต้ม ผมเลยอาสาเดินออกมาซื้อกับข้าวซักสามสี่อย่าง"  ว่าแล้วไจ่ไจ๋ก็เลือกกับข้าวที่กินกับข้าวต้มยื่นให้พ่อค้าก่อนจะทำท่าลังเล

"เอาอะไรเพิ่มอีกมั๊ย?"  เมื่อเห็นสีหน้าของไจ่ไจ๋แล้วพ่อค้าคนเดิมก็เอ่ยถาม

"เอ่อ....ไม่ครับ แต่ว่าปกติแล้วคุณเสี้ยวเทียน เอ้ย! พี่ชายผมจะเป็นคนออกมาซื้อกับข้าวหรอครับ?"  พ่อค้ารับถุงกับข้าวที่ไจ่ไจ๋หยิบมาใส่ถุงให้พร้อมกับขมวดคิ้วกับคำถามนั้น

"เธอก็มากับพี่ชายบ่อยไปไม่ใช่หรอ? ทำไมวันนี้ถามอะไรแปลกๆ"  ไจ่ไจ๋เริ่มรู้สึกตัวจึงแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อน

"เปล่าหรอกครับ ช่างเถอะ! ทั้งหมดเท่าไหร่ครับ?"  พูดจบก็ควักเงินจ่ายให้แล้วหมุนตัวเดินกลับบ้านทันที จนเมื่อกลับมาถึงก็พบเจอร์รี่นั่งอยู่คนเดียว   

"คุณเสี้ยวเทียนหละครับ?"  ไจ่ไจ๋ถามเจอร์รี่เมื่อกลับมาก็ไม่เห็นเคนแล้ว

"ขึ้นไปอาบน้ำข้างบนน่ะ สั่งไว้ว่าถ้านายกลับมาก็กินกันก่อนเลยไม่ต้องรอ"  คำตอบนั้นทำให้ไจ่ไจ๋รู้สึกไม่ค่อยดีเพราะรู้ว่าเคนกำลังเสียใจที่เขาชอบทำตัวห่างเหิน

"ไม่เป็นไร ผมรอได้"  ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับมาช่วยเจอร์รี่แกะกับข้าวใส่ถุง

"ไม่ต้องรอหรอก กินกันก่อนเถอะ"  เจอร์รี่แย้งพร้อมกับชวนให้น้องกินข้าว

"งั้นผมขึ้นไปตามคุณเสี้ยวเทียนก่อน"  พูดจบไจ่ไจ๋ก็เดินขึ้นบันไดไปปล่อยให้เจอร์รี่ได้แต่มองตามอย่างงงๆ

"คุณเสี้ยวเทียนครับ"  ไจ่ไจ๋เคาะประตูห้องเคนพร้อมกับร้องเรียก

"คุณอาบน้ำเสร็จหรือยัง? ผมจะรอกินข้าวนะ!"  ไจ่ไจ๋ร้องบอกในขณะที่เคาะประตูไปด้วย ผ่านไปครู่หนึ่งบานประตูก็ถูกเปิดออกเคนยังอยู่ในชุดเดิม

"อ้าว! คุณยังอาบน้ำไม่เสร็จหรอกหรอ?"  ไจ่ไจ๋ถามอย่างสงสัย

"ยังเลย พอดี.....พี่คุยโทรศัพท์อยู่น่ะ"  เคนตอบด้วยสีหน้าเศร้าๆ

"นายกินข้าวกับพี่ใหญ่ก่อนนะ ไว้พี่ค่อยลงไปกินทีหลัง"  พูดจบเคนก็ปิดประตูโดยไม่รอคำตอบรับใดๆอีก ไจ่ไจ๋มองบานประตูก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วเดินลงไปข้างล่าง

"คุณเจอร์รี่ครับ คุณเสี้ยวเทียนไม่สบายหรือเปล่า?"  ไจ่ไจ๋เอ่ยถามเจอร์รี่ไปตามตรง

"ทำไมหรอ?"  เจอร์รี่ย้อนถามกลับไป

"ผมว่าท่าทางเขาดูไม่ค่อยสบาย"  ไจ่ไจ๋ตอบ

"เป็นเพราะผมใช่มั๊ย?"  พี่ใหญ่ได้ยินก็หยุดมือที่กำลังตักข้าวแล้วเหลียวกลับมามองน้องชาย

"ผมรู้ว่าเขาเครียดเรื่องที่ผมจำพวกคุณไม่ได้"  ไจ่ไจ๋พูดต่อโดยไม่มองหน้าคู่สนทนา

"ผมก็พยายามอยู่ ผมพยายามนึกเรื่องราวทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับผมแต่ว่า....."  ก่อนที่ไจ่ไจ๋จะพูดจบเจอร์รี่ก็ดึงตัวน้องชายเข้ามากอด

"ช่างมันเถอะไจ่ไจ๋ ถ้านึกไม่ออกก็อย่าพยายามเลย"  ไจ่ไจ๋ค่อนข้างตกใจที่จู่ๆเจอร์รี่ก็กอดเขา ตอนแรกไจ่ไจ๋ตั้งใจจะผลักเจอร์รี่ออกแต่เขากลับรู้สึกว่าอ้อมกอดนั้นเป็นอ้อมกอดที่เขาคุ้นเคย

"นายอย่าคิดมากเลยนะ พี่ไม่อยากให้นายต้องพลอยเครียดไปอีกคน"  พูดจบเจอร์รี่ก็ผละตัวออกแล้วสบตากับน้องตรงๆ

"พรุ่งนี้พ่อแม่คงมาถึงไว้ตอนนั้นเราค่อยคุยกันอีกที แต่ตอนนี้นายทำใจให้สบายไม่ต้องกังวลกับอะไรทั้งนั้น"  บอกกับน้องชายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ไจ่ไจ๋มองคนตรงหน้าน้ำตาคลอพูดอะไรไม่ออก

"กินข้าวกันนะ"  พูดจบเจอร์รี่ก็หันไปตักข้าวแล้วมาวางที่โต๊ะ

"ขอบคุณครับ"  ไจ่ไจ๋พึมพำเบาๆ แล้วบรรยากาศบนโต๊ะก็มีแต่ความเงียบ


- ตอนเย็น -

"พี่ใหญ่"  แวนเนสเอ่ยทักทายพี่ชายเบาๆ เจอร์รี่ละสายตาจากจอโทรทัศน์มาทางน้องแล้วพยักหน้าให้

"น้องชายของนายสองคนไปไหนซะหละ?"  ถามหาเคนกับไจ่ไจ๋ เจอร์รี่ลอบถอนหายใจเบาๆก่อนตอบ

"ขลุกตัวอยู่แต่ในห้องกันทั้งคู่"  เว้นวรรคไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ

"เสี้ยวเทียนไม่ยอมลงมากินข้าวกินปลาตั้งแต่เช้าแล้ว ส่วนไจ่ไจ๋พอกินมื้อเช้าเสร็จก็ขึ้นไปหมกตัวอยู่แต่ในห้องเหมือนกัน"  แวนเนสได้ยินก็เริ่มมีสีหน้าคร่งขรึม

"เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?"  นั่งลงข้างพี่ชายพร้อมกับสอบถามอีก

"ไม่มีอะไรหรอก"  เจอร์รี่ตอบแล้วก็ถอนหายใจอีก

"ชั้นว่าจับมันสองคนให้ห่างกันบ้างน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด เพราะอยู่ด้วยกันแบบนี้แล้วต่างคนก็ต่างคิดว่าเป็นความผิดของตัวเอง"  แล้วก็เริ่มต้นสนทนากับน้อง

"เสี้ยวเทียนมันก็เอาแต่โทษตัวเองว่าเป็นเพราะมันน้องถึงความจำเสื่อม ไจ่ไจ๋เองก็คิดว่าเพราะตัวเองจำไม่ได้ถึงได้ทำร้ายความรู้สึกเสี้ยวเทียน เฮ่อ!"  แวนเนสมองพี่ชายก่อนจะพลอยถอนหายใจออกมาด้วย

"ถ้าพ่อแม่กลับมาน่าจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นนะ"  แวนเนสให้ความเห็น

"อืม ชั้นถึงตัดสินใจบอกพ่อแม่งัย"  เจอร์รี่เองก็เห็นด้วย

"ชั้นเองก็รู้สึกแย่เหมือนกันที่ดูแลน้องไม่ดี เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นชั้นก็คงต้องพิจารณาตัวเองแล้วหละ"  พูดจบก็ยิ้มแบบเศร้าๆ

"ไอ้บ้า.....นายก็ไปบ้าตามพวกมันสองคนด้วยหรอ? จะโทษตัวเองไปทำไมในเมื่อนายก็จัดการทุกอย่างอย่างดีที่สุดแล้ว"  แวนเนสพูดเป็นเชิงต่อว่าพี่ชายแต่ก็มีการให้กำลังใจด้วย

"แต่เห็นน้องไม่มีความสุขชั้นก็รู้สึกแย่จัง"  เจอร์รี่แย้งขึ้นพร้อมกับส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย

"ชั้นรู้ว่าลึกๆแล้วนายก็เสียใจไม่น้อย"  เงยหน้ามองน้องชายแล้วพูดออกมาตรงๆ

"แต่ชั้นก็ต้องขอบใจนายหละนะที่อย่างน้อยก็ยังพอจะควบคุมตัวเองได้ ถือว่าช่วยชั้นได้เยอะเลย"  แวนเนสยิ้มบางๆก่อนจะส่ายหน้า

"เมื่อคืนชั้นก็ทำให้นายปวดหัวเหมือนกันสิ แต่พอได้ระบายออกมาบ้างมันก็ดีขึ้นนะ"  พี่ใหญ่ยิ้มให้น้องแล้วพยักหน้า ในตอนนั้นเคนก็หอบพวกอัลบั้มรูปเดินลงมา

"แวนเนส กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?"  เคนเอ่ยถามพี่ชายด้วยสีหน้าอิดโรย

"ซักพักแล้ว ทำอะไรน่ะ?"  แวนเนสตอบก่อนจะย้อนถามน้องชาย

"ชั้นนั่งจัดอัลบั้มรูปทั้งหมดเนี่ย อะ.....ช่วยเก็บเข้าที่หน่อย"  ว่าแล้วเคนก็ขอให้พี่ชายช่วย

"หมกตัวอยู่ในห้องทั้งวันก็เพราะนั่งจัดรูปเนี่ยนะ?"  เจอร์รี่ย้อนถามน้องชายแต่ก็ขยับตัวมาช่วย

"ก็นายไม่ยอมช่วยหนิ"  เคนพูดด้วยสีหน้ามุ่ยๆ

"ใครจะไปรู้หละ? ไม่เห็นลงมาบอกนี่นา"  เถียงจบก็ทรุดตัวนั่งลงที่พื้นแล้วจัดเรียงอัลบั้มตามที่น้องชายเรียงมาไว้หมดแล้ว

"นายคิดว่าจะได้ผลหรอ?"  แวนเนสถามขึ้นมาลอยๆหลังจากที่ทั้งหมดพากันเงียบไปครู่หนึ่ง

"ก็ยังดีกว่าไม่ได้ลองทำอะไรเลย"  แม้จะตอบแบบนั้นแต่สีหน้าเคนฉายแววท้อแท้ให้เห็น

"พวกนายว่าการที่น้องกลับมาอยู่บ้านมันจะช่วยให้ดีขึ้นหรือว่าแย่ลง?"  แล้วเคนก็ถามพี่ชายทั้งคู่ขึ้นมาบ้าง

"มันก็ต้องดีขึ้นสิ"  เจอร์รี่ตอบแบบเข้าข้างตัวเอง

"หรอ? แต่ชั้นว่าไม่เห็นดีเลย ตอนแรกชั้นคิดง่ายๆว่าแค่น้องได้เข้ามาเหยียบตัวบ้านความทรงจำทุกอย่างก็จะกลับมา แต่ทีไหนได้มันไม่ได้ผลอะไรเลย น้องไม่มีท่าทีว่าจะจำได้เลยแม้แต่นิดเดียว"  เคนพูดออกไปตามความคิดของตัวเอง

"เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลา นายจะให้ปุ๊บปั๊บก็จำได้ทันทีเลยหรืองัย? นี่มันชีวิตจริงนะไม่ใช่ละคร"  แวนเนสแย้งพร้อมกับเปลี่ยนเรื่องเพื่อเป็นการตัดบท

"แล้วนายน่ะข้าวปลาไม่ยอมกินอีกแล้วนะ! รีบไปหาอะไรใส่ท้องเดี๋ยวนี้เลย!"  ปรับสีหน้าให้ดูจริงจังขึ้น

"ก็ชั้นไม่หิว"  เคนตอบเสียงแผ่วเพราะไม่รู้สึกอยากอาหารเลย

"ไม่หิวก็ต้องกิน! วันทั้งวันไม่กินอะไรเลยได้ที่ไหน!"  เอ็ดใส่น้องชายอีกก่อนจะหันมาต่อว่าพี่ใหญ่ด้วย

"นายก็ตามใจมันไม่เข้าเรื่อง น้องไม่กินข้าวกินปลาก็ไม่ทักท้วงไม่ว่าอะไรเลย"  เจอร์รี่อ้าปากค้างที่โดนแวนเนสต่อว่า

"ไม่ต้องเถียงเลย! นายแหละตัวดี!"  แวนเนสต่อว่าพี่ชายอีกก่อนที่พี่ชายจะทันได้เถียงหรือแก้ตัว

"ชั้นจะนับหนึ่งถึงสามถ้ายังไม่ยอมขยับหละก็นายโดนแน่"  หันกลับมาพูดกับน้องชายที่ยังคงนั่งนิ่งด้วยน้ำเสียงเอาจริง

"หนึ่ง!.....สอง!....."  เมื่อแวนเนสเริ่มนับเจอร์รี่ก็เป็นฝ่ายลุกขึ้นแล้วไปดึงน้องชายคนกลางให้ลุกขึ้นด้วย

"ไปกับพี่ใหญ่นะ"  บอกน้องด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแล้วพาน้องเดินเข้าไปในห้องครัว โดยมีแวนเนสที่มองตามอย่างเหนื่อยใจ หลังจากแวนเนสนั่งเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่พักนึงไจ่ไจ๋ก็เดินลงมา 

"กลับมานานแล้วหรอครับ?"  ไจ่ไจ๋เอ่ยทักแวนเนสออกมาก่อน ในบรรดาชายหนุ่มสามคนแวนเนสดูจะเป็นคนเดียวที่ไจ่ไจ๋กล้าเข้าหามากที่สุด

"พักใหญ่ๆแล้วหละ วันนี้นอนตีพุงสบายเลยสิ"  แล้วก็ย้อนถามน้องกลับไป

"ก็นอนทั้งวันเลยครับ"  ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับยิ้มเจื่อนๆ

"เอ่อ.....คุณแวนเนสครับ....."  แล้วก็เรียกแวนเนสเบาๆ

"ไจ่ไจ๋ ไหนๆเราก็มาอยู่บ้านเดียวกันแล้ว นายอย่าเรียกพี่แบบเป็นทางการขนาดนี้เลย"  แวนเนสพูดกับน้องชายตรงๆ

"ถ้าไม่คุ้นปากพี่อนุญาตให้เรียกแต่ชื่ออย่างเดียวได้"  ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ทำหน้าบอกไม่ถูก

"เรียกแต่ชื่อคงไม่เหมาะมั้งครับ คุณแก่กว่าผมตั้งหลายปี"  ไจ่ไจ๋แย้งด้วยสีหน้าแหยๆ

"เอ่อ....ตามใจนายแล้วกัน"  แวนเนสนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรเรียกร้องอะไรที่จะมำให้น้องลำบากใจจึงบอกปัด

"ผมเรียกคุณว่าพี่ชายแล้วกันนะครับ"  ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับมองหน้าคู่สนทนาอย่างรอคำตอบ

"ได้เลยไอ้น้องชาย!"  แวนเนสค่อยยิ้มออกเขาตบไหล่น้องชายเบาๆ

"ไม่เบื่อหรอ? วันๆนั่งๆนอนๆอยู่กับบ้านแบบนี้?"  แล้วก็ชวนน้องชายคุย

"ก็ไม่รู้จะทำอะไรเหมือนกัน"  ไจ่ไจ๋ไม่ตอบรับแต่ก็ไม่ปฏิเสธ

"แฟนก็ดันไม่อยู่เที่ยวด้วยหละสิ"  แวนเนสแกล้งพูดล้อน้องชาย ทำให้ไจ่ไจ๋ยิ้มออกมาได้

"ก็มีโทรคุยกันแหละครับ"  แวนเนสยิ้มกับคำตอบนั้น

"ถ้างั้นไว้ไปกับพี่มั๊ยหละ? ที่กองถ่ายมีอะไรให้เล่นเยอะนะ"  เอ่ยชวนน้องชาย

"ผมไปได้หรอ? ผมไปได้จริงๆอ่ะ?"  ย้อนถามกลับไปอย่างดีใจเพราะถ้าเป็นแวนเนสแล้วเขาไม่ตะขิดตะขวงใจแต่อย่างใดเลยหากว่าจะต้องไปไหนมาไหนด้วยกัน

"ได้สิ นายเองก็ชอบขอไปกับพี่อยู่บ่อยๆ"  แวนเนสตอบพร้อมกับส่ายหน้ายิ้มๆ

"เออนี่....พี่ถามอะไรหน่อยได้มั๊ย?"  แล้วก็เกริ่นนำขึ้นมา

"ได้สิครับ ถามมาได้เลย"  ไจ่ไจ๋ตอบแบบไม่ต้องคิด

"ตั้งแต่นายกลับเข้าบ้านมายังไม่รู้สึกว่าพอจะจำพวกพี่สามคนได้เลยหรอ?"  ไจ่ไจ๋มองหน้าแวนเนสครู่หนึ่ง

"ไม่รู้สิ แต่บางครั้งเห็นพวกคุณพูดคุยกันมันเหมือนกับว่าผมเคยเห็นภาพแบบนั้นมาแล้ว"  คำตอบนั้นทำให้แวนเนสดีใจมากอย่างไม่ต้องสงสัย

"จริงหรอ! นายรู้สึกแบบนั้นจริงๆนะ? ไม่ใช่ว่าแกล้งพูดปลอบใจพี่หละ?"  ถามย้ำน้องชายอีกครั้ง

"ครับ ผมเองก็ไม่แน่ใจแต่บางคำพูดที่พวกคุณคุยกันผมรู้สึกเหมือนกับว่ามันเป็นประโยคที่คุ้นเคยแล้วน่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นแล้ว"  แวนเนสยิ้มกว้างอย่างยินดี

"นี่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีแล้วหละ"  แวนเนสว่าซึ่งไจ่ไจ๋เองก็พยักหน้าเห็นด้วย

"ผมก็อยากจำพวกคุณ....เอ่อ.....พวกพี่.....ได้เร็วๆเหมือนกันเพราะผมสงสารคุณเสี้ยวเทียนเขา"  ไจ่ไจ๋พูดกับแวนเนสตรงๆ

"ไอ้เจ้านั่นมันก็บ้าๆบอๆแบบนี้แหละ นายอย่าเก็บเอาคำพูดมันมาใส่ใจเลย ปล่อยไปซักพักเดี๋ยวก็หาย"  แวนเนสไม่อยากให้น้องคิดมาก

"คุณ เอ้ย! พี่ครับ ผมขอถามหน่อยว่า.....ก่อนหน้าที่ผมจะตกบันไดจนจำพวกพี่ไม่ได้ ผมกับคุณเสี้ยวเทียนทะเลาะกันรุนแรงมากหรอ?"  คำถามนั้นทำให้แวนเนสทำหน้าเจื่อนๆ

"พี่เองก็ไม่รู้แน่เพราะตอนที่พวกนายสองคนเถียงกันพี่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่วิ่งมาตอนนายกลิ้งตกบันไดลงมาจนสลบไปแล้ว"  แวนเนสว่าก่อนจะถอนหายใจ

"แต่ก็คงร้ายแรงพอดูเพราะดูจากสภาพของเจ้าพี่กลางมันก็แย่เอาการ"  ไจ่ไจ๋เองก็ถอนหายใจเบาๆเช่นกัน

"ไม่น่าหละคุณเสี้ยวเทียนเขาถึงได้ดูเศร้านัก"  พูดอย่างเห็นใจเคน

"อย่าคิดมากเลย เรื่องนั้นปล่อยมันทิ้งไปเถอะ ตอนนี้เอาแค่นายสบายใจก็พอแล้ว เมื่อสมองปลอดโปร่งเผื่อความทรงจำจะได้มีที่ว่างแทรกกลับมาได้"  พูดแบบติดตลกเพื่อสร้างบรรยากาศไม่ให้ตึงเครียด แล้วก็ได้ผลเพราะไจ่ไจ๋หัวเราะออกมาได้

"คุณ เอ้ย! พี่ตลกจัง"  พอเห็นน้องยิ้มได้แวนเนสก็ค่อยหัวเราะได้บ้าง

"ดูท่านายจะไม่คุ้นเอาซะเลยนะที่ต้องเรียกพี่แบบนี้"  ไจ่ไจ๋เอามือเกาหัวพร้อมกับยิ้มแหยๆ

"ไม่ค่อยคุ้นครับ แต่ผมบอกแล้วงัยว่าจะพยายาม"  ไจ่ไจ๋แก้ตัวพร้อมกับรับปาก

"ขอบใจมาก"  แวนเนสว่าพร้อมกับตบไหล่น้องชายเบาๆ ในตอนนั้นพี่น้องอีกสองคนก็พากันเดินออกมาจากในครัว

"อิ่มแปล้กันแล้วสิ"  แวนเนสเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองไปทางพี่น้องทั้งคู่

"กินแล้วก็ต้องอิ่มน่ะสิ"  เจอร์รี่ตอบแบบกวนๆเพราะรู้ว่าเคนคงเงียบตามเคย

"คุยอะไรกันอยู่?"  ถามต่อแล้วพาเคนเดินเข้ามาสมทบ

"เรื่องทั่วๆไป ไม่มีอะไรมากหรอก"  แวนเนสตอบยิ้มๆ 

"แต่เมื่อกี้น้องบอกว่าเวลาที่เห็นพวกเราคุยกันแล้วบางทีก็รู้สึกว่ามันเป็นภาพที่คุ้นเคย"  คำขยายความของแวนเนสทำให้เคนที่ดูหงอยๆเปลี่ยนสีหน้าทันที

"จริงหรอ? นายรู้สึกแบบนั้นจริงหรอไจ่ไจ๋?"  ถามน้องชายอย่างมีความหวัง

"ครับ ผมรู้สึกเป็นบางเหตุการณ์นะ ไม่รู้พวกคุณจะเข้าใจมั๊ย? แต่ผมรู้สึกเหมือนกับว่าภาพนี้ผมเคยเห็นมาแล้ว"  คำยืนยันของไจ่ไจ๋ทำให้ทั้งเคนดีใจเป็นอย่างมาก เจอร์รี่เองก็ยินดีกับสิ่งที่ได้ยินไม่น้อย

"ดีจัง!"  เคนอุทานออกมาด้วยความดีใจ

"งั้น.....เอายังงัยดีหละ? พี่ว่าเรามาเริ่มกันที่.....อืม...."  เคนทำท่าครุ่นคิดเพื่อจะหาเรื่องมาคุยกับน้องชาย

"นี่ๆๆๆ เปลี่ยนท่าทีเร็วจังเลยนะ เมื่อกี้ยังทำหน้าอย่างกับคนเบื่อโลก"  แวนเนสอดที่จะพูดแขวะน้องไม่ได้

"ยุ่ง!"  เคนต่อว่าพี่ชายพร้อมกับถลึงตาใส่ ทำให้บรรยากาศเริ่มกลับมามีสีสันอีกครั้ง

"รู้แล้วๆๆๆ นายจำตอนที่ไปตั้งแคมป์ได้หรือเปล่า?"  เคนถามน้องชายอย่างนึกขึ้นได้

"ตั้งแคมป์? ผมจำได้ว่าเคยไปตั้งแคมป์เมื่อไม่นานมานี่เอง"  คำตอบนั้นทำให้พี่ชายทั้งสามคนถามต่อพร้อมกัน

"นายไปกับใคร?"  เสียงประสานราวกับนัดหมายกันนั้นทำให้ไจ่ไจ๋ได้แต่ทำตาปริบๆ

"ผมจำไม่ได้"  ไจ่ไจ๋พูดพร้อมกับทำหน้าแหยๆ เล่นเอาพี่ชายทั้งสามคนคอตก

"ไม่เป็นไร งั้น.....ตอนที่ไปเที่ยวสวนสนุก"  เคนถามน้องขึ้นมาอีก

"จำได้ครับ ตอนนั้นเข้าบ้านผีสิงผมเจออะไรแปลกๆด้วย"  ทันทีที่ได้ยินเช่นนี้เจอร์รี่กับแวนเนสก็หันไปมองหน้ากันทันที เพราะเจอร์รี่เป็นคนเดียวที่รู้ว่าแวนเนสเป็นคนแกล้งจับขาน้องเล็กในบ้านผีสิงนั้น

"ยังงัย?"  แวนเนสถามต่ออย่างกระตือรือร้น

"ผมรู้สึกเหมือนมีใครมาจับขาผม พูดแล้วขนลุก"  ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับเอามือลูบแขนตัวเอง

"แล้วตอนนั้นนายไปกับใคร?"  เจอร์รี่ถามน้องชายต่อ

"เอ่อ.....ผมไปกับ.....กับเพื่อนมั้ง?"  ตอบแบบไม่ค่อยแน่ใจ จนเมื่อเห็นสายตาสามคู่จ้องมองเขาอยู่คนเดียวก็ได้แต่ยิ้มเฝื่อนๆ

"ผมไปกับพวกคุณหรอ?"  ย้อนถามกลับไป ซึ่งคำตอบที่ได้รับก็คือการพยักหน้าโดยพร้อมเพรียง

"แย่จัง"  ไจ่ไจ๋พึมพำพร้อมกับเอามือทุบหัวตัวเองเบาๆที่จำพี่ชายไม่ได้ซักที

"ไม่แย่หรอก ดีซะอีกที่อย่างน้อยนายก็จำรายละเอียดอย่างอื่นได้"  แวนเนสยแย้งขึ้นอย่างร่าเริง

"นั่นสิ"  เจอร์รี่สนับสนุนอีกแรง

"งั้นเอาอย่างนี้"  เคนแทรกขึ้นมาแล้วลุกขึ้นไปหยิบอัลบั้มรูปที่เพิ่งจัดเรียงเสร็จมาสดๆร้อนๆ

"มาดูรูปกันดีกว่า"  ว่าแล้วก็ส่งอัลบั้มภาพให้น้องชาย ไจ่ไจ๋รับมาด้วยความรู้สึกแปลกๆ

"อันนี้จำได้หรือเปล่า? นี่พี่ใหญ่ นี่พี่รอง อันนี้พี่ ส่วนนี่ก็นายงัย"  เคนรีบเปิดอัลบั้มภาพแล้วอธิบายให้น้องฟังเป็นฉากๆ

"อันนี้ถ่ายกันที่บ้านเรานี่แหละ แต่ตอนนั้นหน้าบ้านยังไม่ได้ปูสนามหญ้าเลย"  ไจ่ไจ๋มองดูรูปภาพพวกนั้นก่อนจะมีความบางอย่างแล่นเข้ามาในหัว เขาจำได้ว่าเขาเคยออกไปเล่นที่หน้าบ้านและหน้าตาในวัยเด็กของของพี่ชายทั้งสามคนนั้นก็คุ้นมาก

"รูปนี้....."  ไจ่ไจ๋พูดเพียงเท่านั้นก็เงยหน้ามองพี่ชายทั้งสามคนที่มองเขาอยู่อย่างมีความหวัง

"ผมคุ้นมาก แต่ก็ยังนึกไม่ออก"  คำตอบนั้นทำให้พี่ชายทั้งสามคนไม่รู้จะยิ้มหรือร้องไห้ดี

"ไม่เป็นไรหรอก ถือว่าดูเล่นๆแล้วกัน"  เจอร์รี่พูดปลอบใจน้อง ไจ่ไจ๋ไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่ก้มหน้าเปิดดูรูปต่อๆไป 

"เป็นอะไร?"  แวนเนสสะกิดเคนพร้อมกับถามแบบไม่ออกเสียงเมื่อเห็นเคนมีสีหน้าเศร้าลงอีก 

"เปล่า"  เคนตอบเบาๆ ในใจรู้สึกท้อแท้เพราะเขานึกว่าหากน้องได้ดูรูปพวกนี้แล้วจะสามารถจำพวกเขาได้จริงๆ

"อันนี้รูปคุณหรอ?"  แล้วไจ่ไจ๋ก็ยื่นอัลบั้มรูปนั้นมาให้เคนดูพร้อมกับเอ่ยถาม

"อืม พี่เองแหละ"  เคนตอบพร้อมกับฝืนยิ้มให้น้องชาย 

"น่ารักจัง"  ไจ่ไจ๋เอ่ยชมแล้วดึงกลับไปนั่งดูต่อ แต่แล้วเขาก็เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมาอย่างฉับพลัน

"ไจ่ไจ๋"  เจอร์รี่สังเกตเห็นน้องหน้าซีดๆก็ร้องเรียกอย่างเป็นห่วง

"เป็นอะไรหรอ?"  ถามย้ำอีกครั้งแต่ไจ่ไจ๋กลับรีบปิดอัลบั้มภาพในมือลง

"ไม่มีอะไร ผมขอตัวนะครับ"  พูดจบก็ลุกเดินขึ้นห้องไปอย่างรวดเร็วปล่อยให้พี่ชายทั้งสามได้แต่มองตามอย่างงงงวย





Create Date : 17 มิถุนายน 2557
Last Update : 25 กันยายน 2557 22:01:29 น. 0 comments
Counter : 965 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 
 

loving_zai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




[Add loving_zai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com