Chapter 56

ตอนที่ 56

"ไจ่ไจ๋ เอานี่มั๊ย?" แวนเนสเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมาพร้อมกับทำท่าจะตักกับข้าวให้น้องเพราะบรรยากาศบนโต๊ะอาหารวันนี้ดูเงียบเหงาผิดปกติ

"ไม่เป็นไรครับพี่รอง" ไจ่ไจ๋ตอบแวนเนสก่อนจะเหลือบไปทางพี่ใหญ่ที่ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเขาเลยซักนิด เมื่อเห็นดังนั้นแล้วก็รู้สึกน้อยใจเพราะปกติพี่ใหญ่จะใจอ่อนกับเขาเสมอ แวนเนสกับเคนก็ได้แต่ลอบสบตากันเพราะรู้ดีว่าพี่ใหญ่กับน้องเล็กมีเรื่องงอนกันอยู่

"กินแต่ข้าวได้งัยหละไจ่ไจ๋? กับข้าวเยอะแยะตักกินสิ" เคนเอ่ยปากกับน้องขึ้นมาบ้าง

"ผมไม่อยากกิน" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับส่งสายตาไปทางพี่ชายคนโตอีก

"เสี้ยวเทียน อันนี้ไก่ทอดจากร้านข้างบริษัทที่นายบอกว่าอร่อยงัย ชั้นซื้อมาเผื่อนายเยอะเลยตักกินซะสิ" เจอร์รี่ไม่พูดกับน้องเล็กตรงๆแต่หันไปพูดกับเคนแทน

"นายประสาทกลับหรือเปล่า? ไก่ทอดน่ะของโปรดเจ้าไจ๋ต่างหากหละ" แวนเนสพูดแทรกขึ้นมา

"อย่างงั้นหรอ? ไม่เห็นรู้เลย" เจอร์รี่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แต่ก็แอบมองหน้าน้องเล็กแว๊บหนึ่ง

"พี่กลางกินเยอะๆนะครับ ไม่งั้นคนซื้อมาให้จะเสียใจแย่" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับตักไก่ทอดนั้นให้เคนจนเต็มจานเพื่อประชดพี่ใหญ่

"เฮ้ยๆๆๆ!!! ตักมาทำไมตั้งเยอะ นายก็รู้ว่าพี่ไม่ได้ชอบไก่ทอดซักหน่อย" เคนโวยใส่น้องก่อนจะตักไก่ทอดในจานตัวเองไปให้น้องเล็กแทน

"ผมไม่กินเพราะนี่ไม่ใช่ของโปรดของผม" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับผลักจานข้าวตรงหน้าออกห่าง

"เสี้ยวเทียน งั้นเดี๋ยวนายเอาไปให้เจ้าพีพีกับถางถางกินก็แล้วกัน" แม้จะรู้ว่าน้องเล็กประชดตัวเองแต่เจอร์รี่ก็ยังทำเป็นไม่สนใจอยู่ดี

"เจ้าพีพีกับถางถางมันไม่กินหรอก เจ้าสองตัวนั่นมันชอบกินปลา" เคนแย้งขึ้นพร้อมกับส่ายหน้าไปมากับการประชดประชันกันไปมาของพี่น้องทั้งคู่

"งั้นก็ไปเทให้หมากิน" เจอร์รี่พูดต่ออีก ในตอนนั้นเองไจ่ไจ๋ก็ลุกขึ้นก่อนจะหยิบจานข้าวของตัวเองที่มีไก่ทอดอยู่เต็มเดินออกไปจากห้องครัวเพื่อเอาไปเทให้หมากินตามคำของพี่ชาย

"อ้าว!" แวนเนสกับเคนอุทานออกมาพร้อมกันส่วนเจอร์รี่ก็ได้แต่อึ้งๆไปเช่นกัน

"นายอ่ะจะประชดมันทำไม!" แล้วแวนเนสก็ต่อว่าพี่ชาย

"ชั้นเริ่มก่อนงั้นหรอ?" พี่ใหญ่ย้อนคำน้องชาย

"ก็ใช่น่ะสิ! นายก็รู้ว่าน้องอยากให้นายคุยด้วยที่สุดยังจะทำเล่นตัวอยู่ได้ เดี๋ยวพอมันเล่นตัวเข้าให้บ้างแล้วอย่ามาทำท่ากระวนกระวายให้เห็นแล้วกัน!" แวนเนสได้ทีเอ็ดพี่ชายต่ออีกยกใหญ่

"ชั้นไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว" พี่ใหญ่เถียงข้างๆคูๆทั้งที่ในใจจริงๆนั้นก็กลัวน้องจะเสียใจอยู่เหมือนกัน แต่สำหรับครั้งนี้เขาเห็นว่าน้องชายควรได้รับบทลงโทษที่จริงจังเสียบ้าง

"พอกันทั้งคู่!" แวนเนสบ่นก่อนจะตักข้าวกินต่ออย่างเอือมระอา

"นายไม่ออกไปดูมันหน่อยหรอ? แอบหนีไปร้องไห้อยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้" เคนถามพี่ใหญ่ด้วยสีหน้าออกอาการเป็นห่วงน้องชาย

"ไม่! ถ้ามันจะร้องไห้ด้วยเรื่องแค่นี้ก็ตามสบาย!" พี่ใหญ่แข็งใจพูดออกมาทั้งที่คำพูดนั้นตรงข้ามกับความรู้สึกของตัวเองอย่างสิ้นเชิง

"งั้น....." เคนขยับตัวทำท่าจะลุกไปดูน้องชายแต่โดนพี่ชายดุเสียก่อน

"ห้ามลุกไปไหนทั้งนั้น! นั่งลงแล้วกินข้าวให้หมด!" เคนชะงักแล้วอ้าปากจะแย้งแต่พี่ใหญ่ก็ย้ำคำอีกครั้ง

"เดี๋ยวนี้!" น้ำเสียงเข้มงวดกว่าเก่าเคนเลยต้องทรุดตัวนั่งลงตามเดิม ในตอนนั้นเองไจ่ไจ๋เดินกลับเข้ามาพร้อมกับจานเปล่าๆ พี่ชายทั้งสามคนพร้อมใจกันมองใบหน้าของน้องชายเมื่อไม่เห็นร่องรอยว่าน้องจะผ่านการร้องไห้มาก็ต่างพากันถอนใจด้วยความโล่งอก

"พี่กลางครับ หมาพวกนั้นมันกินกันอร่อยใหญ่เลย เป็นบุญของมันเนอะที่ได้กินของดีๆแบบนั้น" ไจ่ไจ๋หันไปพูดกับเคนแต่คำพูดนั้นตั้งใจจะประชดพี่ใหญ่

"ไจ่ไจ๋! นายก็ทำอะไรไม่เข้าเรื่องคนยังกินไม่ทันจะเสร็จก็เอาไปให้หมากินแล้ว" เคนต่อว่าน้องชายด้วยสีหน้าจริงจัง

"จะไปว่ามันทำไม? ก็มีคนบอกให้เอาไปให้หมากินเองหนิ" แวนเนสออกหน้าแทนน้องชายพร้อมกับพูดเข้าข้างน้องด้วย เคนเลยมองพี่ชายคนรองด้วยสายตาขุ่นมัว

"เอาน่าๆๆๆๆ.....ของกินแค่นี้ไม่เห็นต้องทำเป็นเรื่องเลยนี่หว่า ไจ่ไจ๋.....ไปตักข้าวมากินต่อสิ เมื่อกี้กินไปไม่กี่คำเองหนิ" แวนเนสรีบพูดไกล่เกลี่ย

"ไม่กิน!" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับเดินเอาจานไปล้าง

"แวนเนส เสี้ยวเทียน นายสองคนกินข้าวต่อให้หมดเสร็จแล้วอะไรเหลือก็เททิ้งไปให้หมด!" เมื่อเห็นน้องเล็กแผลงฤทธิ์มากขึ้นเจอร์รี่ก็เริ่มโมโห

"และตั้งแต่นี้ไปถึงเวลากินข้าวใครไม่ลงมากินให้ตรงเวลาหรือลงมาแล้วไม่ยอมกิน ก็อดไปทั้งวันแล้วกัน!" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็อดที่จะเหลียวมามองพี่ใหญ่ด้วยความน้อยใจไม่ได้

"ใจเย็นๆดิวะ" แวนเนสเอ่ยเตือนพี่ชาย

"เงียบแล้วกินข้าวให้หมดเดี๋ยวนี้!" แหวใส่แวนเนสด้วยสีหน้าดุๆ

"อะไรว้า.....ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ไป......" แวนเนสพูดยังไม่ทันจบประโยคก็ต้องสะดุ้งเฮือกเพราะโดนฝ่ามือของพี่ชายฟาดลงมาเต็มแรง จนเคนกับไจ่ไจ๋ตกใจ

"เจ็บนะ! ทำไมต้องตีด้วย!" แวนเนสเองก็อึ้งไปพักหนึ่งก่อนจะต่อว่าพี่ชายด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

"ตีทำไมงั้นหรอ? ชั้นบอกให้กินข้าวให้หมดใช่มั๊ย!?" พี่ใหญ่ไม่ตอบเพียงอย่างเดียวแต่ตวัดมือลงซ้ำอีกครั้ง

"พี่ใหญ่! ถ้าพี่โมโหผมก็มาตีผมสิทำไมต้องไปลงที่พี่รองเขาด้วย? พี่รองเขาไม่ได้ทำอะไรให้พี่เลยซักนิด!" ไจ่ไจ๋เห็นดังนั้นก็อดรนทนไม่ได้เพราะรู้ว่าพี่ใหญ่หงุดหงิดเขาแต่ทำอะไรไม่ได้

"พี่จะโมโหอะไรนายได้หละไจ่ไจ๋? พี่ยังไม่รู้เลยว่านายเข้ามาอยู่ในครัวตั้งแต่เมื่อไหร่ อ้อ! สงสัยพอดีพี่ไม่ได้สนใจนายเลยมองไม่เห็น" เจอร์รี่ลอยหน้าลอยตาย้อนคำน้อง แม้ไจ่ไจ๋จะรู้ว่าพี่ชายแกล้งพูดประชดแต่ก็อดน้อยใจไม่ได้กับคำพูดที่พี่ชายเน้นว่าไม่ได้สนใจตัวเอง

"ก็ดี งั้นต่อไปพี่ก็ไม่ต้องสนใจผมอีกเลยแล้วกัน แบบนี้น่ะสบายดีออก พี่รองพี่กลางผมขอโทษด้วยนะครับ ลำบากพวกพี่แล้ว" พูดจบไจ่ไจ๋ก็เดินหนีขึ้นห้องนอนตัวเองทันที เจอร์รี่อึ้งไปเล็กน้อยมองตามน้องชายอย่างเป็นห่วงแต่ก็กลัวเสียฟอร์มหากจะตามไปตอนนี้

"ชั้นก็อิ่มแล้วหละเสี้ยวเทียน" แวนเนสว่าแล้วก็รวบช้อนส้อมแล้วเอาจานไปวางไว้ที่ซิงค์ล้างจาน

"แต่นายเพิ่งกินไปนิดเดียวเองนะ" เคนรีบแย้งพี่ชายขึ้นมา

"ชั้นไม่หิวเท่าไหร่ รู้สึกกินไม่ค่อยลง" ประโยคหลังว่าพลางมองหน้าพี่ชายคนโตอย่างงอนๆที่ตีเขาแบบไม่มีเหตุผล เจอร์รี่อ้าปากจะพูดแต่แวนเนสรีบเดินหนีออกไปทันที

"สมน้ำหน้า เขาหนีกันไปหมดแล้ว" เคนไม่วายพูดซ้ำเติมพี่ชาย

"หุบปากไปเลย!" หันมาทำหน้าเข้มใส่เคน

"ก็ได้ ต่อไปนี้ชั้นจะหุบปากให้สนิทแล้วจะดูซิว่าจะมีใครยอมพูดกับนายอีกมั๊ย?" พูดจบเคนก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวในส่วนของตัวเองต่อไป

"ไม่ต้องมาประชดชั้นเลยนะ นายยัง....." พี่ใหญ่จะพูดว่าน้องมีคดีความติดตัวอยู่อย่าซ่าส์มากแต่ยังพูดไม่ทันจบเคนก็แทรกขึ้นอย่างรู้ทัน

"ทราบแล้วครับ ชั้นยังอยู่ในระหว่างการถูกลงโทษอย่ามาทำปากดีให้มากไม่อย่างนั้นจะโดนหนักกว่านี้" พี่ใหญ่ค้อนใส่น้องชายก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม

"พวกนายนี่นะเหมือนกันหมดทั้งสามคน ว่าอะไรนิดหน่อยก็ทำงอนประชดประชันปึงปังตลอด โตๆกันแล้วไม่ใช่เด็กเล็กๆยังทำตัวงี่เง่ากันอีก" เคนได้พี่ชายว่าดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองแว๊บหนึ่งนึกคันปากอยากจะย้อนว่าใครกันแน่ที่ประชดเป็นเด็กๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่กินข้าวต่อทำเหมือนคำพูดของพี่ชายนั้นเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา

"นี่! นายฟังอยู่หรือเปล่า?" เจอร์รี่เอามือตบโต๊ะเบาๆพร้อมกับพูดเสียงห้วน เคนเงยหน้าขึ้นมามองแต่ไม่ได้ตอบว่าอะไร

"เวลาผู้ใหญ่พูดด้วยเขาให้จ้องหน้าแบบนี้หรอ? สอนอะไรไปเคยจำมั๊ย?" พาลพาโลเอากับน้องเสียดื้อๆ เคนได้ยินดังนั้นก็ก้มหน้าลงก่อนจะลอบถอนหายใจออกมา

"รำคาญมากใช่มั๊ย? เดี๋ยวนี้ชั้นพูดอะไรไม่ได้แล้วใช่หรือเปล่า?" หาเรื่องน้องชายต่ออีกเพราะเขาเห็นว่าน้องถอนหายใจ

"นายพูดเองเออเองทั้งนั้นชั้นยังไม่ได้พูดอะไรเลย" เคนต่อว่าพี่ชายกลายๆ

"ยังจะมาย้อนอีกหรอ!? ทุกวันนี้เคยเห็นชั้นเป็นพี่บ้างมั๊ยเนี่ย? พูดอะไรก็ชอบย้อนชอบเถียง!" บ่นน้องต่อด้วยน้ำเสียงแข็งๆ

"แต่ชั้นยังไม่ได้เถียงอะไรเลยซักคำ" เคนพูดอย่างอ่อนใจ

"นี่ยังไม่เรียกว่าเถียงอีกหรืองัย!?" โต้ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงดุๆ

"ขอโทษ....." เคนตัดบทด้วยการพูดขอโทษพี่ชายเพื่อป้องกันไม่ให้พี่ชายบ่นต่อแต่ผลที่ได้กลับไม่ได้เป็นแบบที่ต้องการเลย

"ทั้งปี! พูดง่ายเหลือเกินนะไอ้คำว่าขอโทษนี่น่ะ! คิดว่าพูดแค่นี้ก็จบได้หรืองัย!?" ว่าพลางจ้องหน้าเจ้าน้องชายตัวดี

"แล้วจะให้ทำยังงัยหละ?" เคนย้อนถามพี่ชายอย่างเซ็งๆที่ต้องมารับกรรมที่เจ้าน้องชายสุดที่รักของเขาก่อไว้ให้

"พูดแบบนี้คิดจะท้าทายชั้นหรืองัย?" พี่ใหญ่ยืนขึ้นพร้อมกับเอามือเท้าเอวอย่างหาเรื่อง

"เปล่า.....ชั้นไม่ได้ท้าทาย....." เคนปฏิเสธพี่ชายเสียงอ่อย พี่ใหญ่ไม่ตอบแต่ขยับเดินเข้าไปหา เคนก้มหน้าหลับตาปี๋เพราะกลัวจะโดนพี่ชายเล่นงาน

"หึๆๆๆ" เจอร์รี่หัวเราะในลำคอเมื่อเห็นท่าทางของน้องชาย ความจริงเขาไม่คิดจะทำอะไรน้องเลยเพียงแต่แหย่ให้กลัวเท่านั้น

"ไม่ได้ท้าทายก็ดี รีบกินข้าวให้หมดแล้วเก็บโต๊ะได้แล้ว" วางมือบนไหล่ของน้องชายทั้งสองข้างพร้อมกับพูดกับน้องเบาๆ เคนหรี่ตาขึ้นมาแอบมองอย่างไม่ค่อยแน่ใจว่าตัวเองจะปลอดภัยจนเมื่อเห็นพี่ชายทำหน้าทะเล้นพร้อมกับอมยิ้มให้เขาเคนก็ทำหน้างอใส่พี่ชายทันที

"เป็นอะไรหละ? พี่ใหญ่ไม่ได้ทำอะไรนายซักหน่อย" พูดด้วยเสียงปนหัวเราะ

"โอ๋ๆๆๆ พี่แค่แหย่นายเล่นเฉยๆ ไม่ต้องกลัวนะ.....พี่ไม่ตีนายหรอก....." ว่าพลางขยี้หัวน้องชายไปด้วย

"ไปไกลๆเลย! นิสัยไม่ดี!" เคนปัดมือพี่ชายออกแต่ก็โล่งอกไม่น้อยที่ไม่ต้องเจ็บตัว

"จะให้ไปไหนหละ?" ถามน้องต่อยิ้มๆ

"อยากไปไหนก็ไปสิ" พูดจบเคนก็ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มแล้วรวบรวมจานที่กินเสร็จแล้วมารวมกัน เจอร์รี่ได้ยินก็แกล้งลากเก้าอี้มานั่งเบียดน้องชาย

"โอ้ย! อะไรของนายเนี่ย!" เคนเริ่มรำคาญที่พี่ชายมายุ่งจุ้นจ้านกับเขา

"อ้าว! ก็นายบอกว่าชั้นอยากไปไหนก็ได้ไม่ใช่หรอ? ชั้นก็อยากอยู่ใกล้ๆกับนายงัยหละ" พี่ใหญ่แกล้งกวนประสาทน้องชาย เคนมองหน้าพี่ชายก่อนจะยกมือขึ้นบีบจมูกพี่ชาย

"ไม่ต้องมาพิศวาสชั้นเลย ทำพวกมันสองคนจนงอนตุ๊บป่องไปแล้วก็ไปง้อเองแล้วกันชั้นไม่เกี่ยวอะไรด้วย" เคนต่อว่าพี่ชายออกมาอีก

"ไม่คิดจะช่วยกันหน่อยหรอ?" พี่ใหญ่ทำหน้าละห้อยใส่น้อง

"ชั้นไม่งอนนายด้วยอีกคนก็นับว่าบุญแล้วนะ" พูดจบก็ลุกเอาจานไปล้าง

"นายจะงอนชั้นเรื่องอะไร?" พี่ใหญ่ก็ลุกตามไปถามเซ้าซี้น้องชาย

"ก็เมื่อกี้นายด่าชั้นป่าวๆทั้งๆที่ชั้นยังไม่ได้ทำอะไรเลยแล้วแบบนี้มันน่าโกรธมั๊ยหละ?" เคนย้อนคำพี่ชายทันควัน

"ชั้นด่านายตอนไหน? ไม่เห็นจะรู้เลย" ว่าพลางยิ้มกวนให้น้อง เคนค้อนใส่ก่อนจะหันกลับไปล้างจาน

"โอ๋ๆๆๆ ก็ขอโทษแล้วงัย พอดีเมื่อกี้ชั้นหงุดหงิดไอ้น้องชายสุดที่รักของนายไปหน่อย อย่าถือสาเลยนะ" ว่าแล้วก็รีบขอโทษน้อง

"ทั้งปี! หงุดหงิดมันก็มาลงที่ชั้นกับแวนเนสตลอด นายเห็นชั้นสองคนเป็นอะไร?" เคนได้ทีต่อว่าพี่ชายยกใหญ่

"ก็เห็นเป็นน้องชายที่แสนดีของพี่ใหญ่งัยหละ น้องชายที่ดีก็ต้องเป็นที่ระบายให้พี่ชายไม่ใช่หรอ?" รีบพูดยกยอน้องยกใหญ่

"ตลกตายหละ!" เอ็ดใส่พี่ชายเสียงแข็ง

"ไม่ขำหรอกหรอ? งั้นชั้นช่วยล้างจานนะ" ว่าแล้วก็มายืนข้างน้องแล้วลงมือช่วยน้อง เคนค้อนใส่พี่ชายเสียหลายตลบแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก

"เดี๋ยวเราออกไปดูทีวีกันนะ" เจอร์รี่เอ่ยชวนน้องชายหลังจากที่ช่วยน้องล้างจานจนเสร็จแล้ว

"วันนี้ชั้นไม่อยากดูทีวี" เคนตอบพี่ชายเสียงห้วนๆ

"ทำไมหละ? ถือว่าดูเป็นเพื่อนพี่ใหญ่เถอะนะ" เจอร์รี่ทำเสียงโอดครวญออดอ้อนน้องชาย

"ไม่หละ เพราะชั้นเองไม่มีความสามารถที่จะวิ่งตามอารมณ์นายได้ทัน เดี๋ยวจู่ๆนายเกิดไม่พอใจอะไรขึ้นมาชั้นก็โดนด่าฟรีอีก ดีไม่ดีจะเจ็บตัวซะเปล่าๆด้วย" เคนพูดแขวะพี่ชายพร้อมกับหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดมือไปด้วย

"ให้มันน้อยๆหน่อย! เห็นชั้นเป็นคนยังงัยกัน?" เจอร์รี่เริ่มทำท่าจะหาเรื่องน้องอีก เคนยักไหล่แล้วทำท่าจะเดินเลี่ยงออกไปแต่ก็ถูกพี่ชายคว้ามือไว้

"เวลาชั้นพูดด้วยเดินหนีแบบนี้ได้หรอ!?" ดุน้องชายต่ออีก

"มีอะไรอีกก็ว่ามาสิ" พูดด้วยน้ำเสียงรำคาญเล็กน้อย

"พูดจากับผู้ใหญ่ให้มันมีหางเสียงหน่อย! ชั้นไม่ใช่เพื่อนเล่นของนายนะ!" ว่าพลางเอามือดึงหูน้องชายไปด้วย

"โอ้ยๆๆๆ!!!" เคนร้องเสียงหลงพร้อมกับพยายามแกะมือพี่ชายออก

"ชั้นจะไม่พูดกับนายอีกแล้ว! เอะอะก็ลงมือกับชั้นแรงๆเรื่อยเลย!" เคนต่อว่าพี่ชายด้วยน้ำเสียงงอนๆก่อนจะเดินเอามือลูบใบหูตัวเองเดินขึ้นห้องนอนไปโดยไม่สนใจพี่ชายอีกต่อไป



- ห้องนอนของไจ่ไจ๋ -

"หลับสบายจริงๆเลยนะไอ้ตัวแสบ" เจอร์รี่บ่นอุบอิบกับตัวเองเบาๆหลังจากที่เดินมาดูเจ้าน้องชายคนเล็กของเขาที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง

"นายน่ะทำเอาเจ้าพี่รองกับพี่กลางงอนพี่กันหมดเลย" เจอร์รี่ต่อว่าน้องชายต่อพร้อมกับเอามือบีบจมูกน้องเบาๆ ไจ่ไจ๋เริ่มทำหน้านิ่วเมื่อถูกรบกวานเวลานอนอันแสนสบาย

"อื้อ!" คราวเสียงในลำคอโดยสัญชาตญาณแล้วพลิกตัวหนีไปอีกด้านหนึ่ง พี่ใหญ่เห็นดังนั้นก็ยิ้มออกสายตามองเจ้าน้องชายตัวดีของเขาอย่างรักใคร่

"บังอาจมาแผลฤทธิ์กับพี่แล้วหนีความผิดมาหมกตัวนอนอยู่ในห้อง แบบนี้ต้องลงโทษซะให้เข็ด" ว่าแล้วพี่ใหญ่ก็แกล้งหอมแก้มน้องชายแรงๆอย่างหมั่นไส้แกมเอ็นดู และก็ได้ผลเพราะสีหน้าของน้องเล็กตอนนี้หน้านิ่วคิ้วขมวดทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่

"อื้มๆๆๆๆๆ!!!!" พี่ใหญ่ยังราวีโดยการหอมแก้มน้องไม่ยอมหยุด จนไจ่ไจ๋ต้องพลิกตัวนอนคว่ำหน้าแต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลืมตาตื่นขึ้นมา ความขี้เซาของน้องชายทำเอาเจอร์รี่ถึงกับยอมแพ้

"เฮ่อ! ไอ้ตัวยุ่งเอ้ย.....โดนแกล้งถึงขนาดนี้แล้วยังหลับอุตุได้อีก เชื่อมันเลยจริงๆ....." เจอร์รี่บ่นอุบกับตัวเองแต่ใบหน้ากลับมีรอยยิ้มอบอุ่น ไม่ว่าน้องเล็กจะดื้อด้านซักเพียงไหนเขาก็ไม่เคยโกรธเจ้าน้องชายคนนี้ได้นานๆเลยซักครั้ง

"แกล้งมันแต่เราเหนื่อยเองแล้วจะแกล้งมันทำไมวะเนี่ย?" พูดกับตัวเองยิ้มๆก่อนจะพาตัวเองไปเอนตัวนอนลงข้างน้องชาย

"พี่ใหญ่รบรากับนายจนเหนื่อยไม่มีแรงกลับห้องแล้ว เห็นทีพี่ต้องนอนกับนายหละนะ" หันไปพูดกับน้องชายเมื่อตัวเองเอนตัวนอนลงบนเตียงน้องเรียบร้อยแล้ว แต่ร่างของเจ้าน้องชายสุดที่รักก็ไม่มีทีท่าว่าจะรับรู้คำพูดของเขาเลย คงมีเพียงเสียงหายใจเข้าออกที่ดังต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอเท่านั้น

"หึๆๆๆ เด็กหนอเด็ก......" เจอร์รี่มองน้องเล็กด้วยแววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ก่อนจะขยับเข้าไปรั้งตัวน้องเข้ามาใกล้เพื่อจะได้กอดให้ชื่นใจ

"ตายหละ.....ตัวเย็นเชียว จะนอนก็ไม่ยอมห่มผ้า" เมื่อแตะโดนตัวน้องชายแล้วเจอร์รี่ก็พึมพำอย่างเป็นห่วง

"อือ....พี่ใหญ่....." ไจ่ไจ๋ลืมตาขึ้นมาด้วยความงัวเงียเมื่อเห็นหน้าพี่ชายก็เรียกออกมาเบาๆ

"หนาวใช่มั๊ย?" เจอร์รี่ถามน้องชาย

"อืม" ไจ่ไจ๋ครางเสียงตอบในลำคอก่อนจะขยับตัวเข้าไปซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของพี่ชายโดยลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังงงอนพี่ชายอยู่

"อุ่นขึ้นหรือยัง?" เจอร์รี่กอดน้องเอาไว้พร้อมกับกระชับผ้าห่มให้น้องชายด้วย น้องเล็กไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่พยักหน้ารับแล้วผล็อยหลับไปอีกครั้งอย่างง่ายดาย

"ขี้เซาจริงๆเลย" ต่อว่าน้องชายเสร็จแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหอมแก้มน้องชายอีกฟอดหนึ่ง

"พี่อุตส่าห์เป็นฝ่ายเข้ามาง้อนายก่อนเลยนะ งั้นพรุ่งนี้นายก็ต้องช่วยพี่ง้อเจ้าพี่รองกับพี่กลางด้วยเป็นการแลกเปลี่ยนตกลงมั๊ย?" พูดกระซิบกับน้องเบาๆ แต่ไจ่ไจ๋ไม่ได้รับรู้อะไรเพราะหลับสนิท

"ถ้าไม่พูดพี่ถือว่าเป็นการตกลงนะ" พูดต่อทั้งๆที่รู้ดีว่าน้องไม่ได้ยินที่เขาพูดอย่างแน่นอน

"ตกลงแล้วพรุ่งนี้ก็ห้ามโวยวายกับพี่อีกหละ เข้าใจมั๊ย?" เจอร์รี่พูดเองเออเองพอพูดจบก็หัวเราะออกมาเบาๆแล้วจึงหลับตาลงและผล็อยหลับตามน้องชายไปในเวลาเพียงไม่นาน จนมารู้สึกตัวอีกทีก็เป็นเวลาเช้าแล้ว เจอร์รี่ลืมตาขึ้นด้วยสีหน้างัวเงียแล้วก็เปลี่ยนสายตามามองที่น้องชายคนเล็กที่กำลังหลับสบายอยู่เช่นเดิม

"ไปกินยานอนหลับที่ไหนมาหรือเปล่าเนี่ย" ยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วเอามือเขี่ยแก้มน้องชายเล่นเบาๆ ไจ่ไจ๋นิ่วหน้าเล็กน้อยก่อนจะลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะโดนพี่ชายรบกวน

"ตื่นได้ซักทีนะ" เจอร์รี่เอ่ยทักน้องชายยิ้มๆ ไจ่ไจ๋สบตากับพี่ชายไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่ขยับเข้าไปกอดพี่ชายอย่างเคยชิน

"อรุณสวัสดิ์ อื้ม....อ้อนแต่เช้าเลย" พี่ใหญ่ทักทายพร้อมกับจูบเบาๆที่หน้าผากน้อง ไจ่ไจ๋เอาหน้าซุกลงที่อ้อมอกอบอุ่นของพี่ชายแล้วนิ่งไปครู่หนึ่งก็เริ่มนึกขึ้นได้ว่าเขากำลังงอนพี่ชายอยู่ เมื่อนึกได้เช่นนั้นแล้วไจ่ไจ๋ก็รีบผละตัวออกจากพี่ชายแล้วนอนหันหลังให้ทันที

"อ้าว! เป็นอะไรไปอีกหละ?" พี่ใหญ่อุทานออกมาอย่างงงๆแต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะแทนเมื่อรู้ว่าน้องคงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่างอนเขาอยู่

"ขี้โกง! พี่ใหญ่อุตส่าห์ทำตัวเป็นหมอนข้างให้นายนอนกอดทั้งคืนแล้วยังจะมาตอบแทนพี่แบบนี้หรอ?" พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับเอาคางเกยที่ไหล่น้องชาย

"ไปไกลๆเลย!" ไจ่ไจ๋เอามือดันหน้าพี่ชายออกพร้อมกับพูดเสียงห้วนๆ

"หายงอนพี่เถอะนะ ไม่งั้นพี่ใหญ่จะคุยกับใครหละเพราะเจ้าพี่รองกับพี่กลางก็พากันงอนพี่กันหมด" พูดกับน้องด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ

"ก็สมน้ำหน้าแล้วหละ! อยากทำตัวไม่น่ารักเองหนิ!" น้องเล็กซ้ำเติมพี่ชายเข้าให้

"ใจร้ายจัง" เจอร์รี่ทำหน้ามุ่ยใส่น้องชาย ไจ่ไจ๋เห็นดังนั้นก็อมยิ้มเพราะพี่ชายทำตัวเหมือนเด็กๆ

"ยิ้มได้แล้วใช่มั๊ย?" เมื่อเห็นน้องแอบยิ้มเจอร์รี่ก็ถามแหย่ขึ้นมาทันทียังผลให้ไจ่ไจ๋หุบยิ้มโดยทันที

"พี่ใหญ่ง้อจนเหนื่อยแล้วนะเลิกงอนพี่ซักทีเถอะไจ่ไจ๋ ดีกันนะ.....นะๆๆๆๆ....." ว่าพลางเอานิ้วก้อยไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยของน้องชาย

"ดีก็ได้ แต่ผมมีข้อแม้นะ" เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจอร์รี่ก็ชะงักไป

"ข้อแม้อะไร?" ย้อนถามน้องชายกลับ

"ต่อไปนี้ไม่ว่าพี่จะโมโหผมหรือโกรธผมพี่ก็ต้องพูดกับผมตรงๆอย่าประชดผมด้วยการไปลงกับพี่รองและก็พี่กลางแบบนั้น ไม่งั้นแล้วพี่เขาสองคนจะพลอยโกรธผมไปด้วย" พูดกับพี่ชายด้วยสีหน้าจริงจัง

"เอ่อ....." เมื่อเห็นน้องทำหน้าซีเรียสเจอร์รี่ก็ได้แต่ยิ้มแก้เก้อ

"ยังจะมายิ้มอีก! ผมพูดจริงนะ!" แหวใส่เมื่อเห็นพี่ชายไม่ยอมตอบรับ

"ทำไมถึงดุแบนี้? ที่นายกำลังแว๊ดๆใส่เนี่ยพี่ใหญ่นะ....." ว่าพลางหยิกแก้มน้องชายอย่างหมั่นไส้

"เป็นพี่ใหญ่แล้วได้อภิสิทธิ์เหนือกว่าคนอื่นหรืองัย? เวลาทำผิดก็ต้องยอมรับสิ" ว่าพลางทำหน้างอใส่พี่ชาย

"ผิดก็ผิดสิก็ยอมรับแล้วงัยหละ" เจอร์รี่รับคำน้องเสียงอ่อยๆ

"ยอมรับแล้วก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำด้วย เรื่องพี่รองกับพี่กลางน่ะผมไม่เกี่ยว จัดการเองให้หมดเลยนะ" น้องเล็กได้ทีเล่นงานพี่ชายยกใหญ่

"อะไรกัน ไม่คิดจะช่วยกันหน่อยหรอ? นายก็รู้ว่าไอ้เจ้าพี่ชายของนายสองคนนั้นเวลาพวกมันงอนน่ะฤทธิ์มากกันขนาดไหน" ว่าพลางทำหน้ากระเง้ากระงอดใส่น้อง

"ผมไม่ได้ทำให้พวกพี่เขางอนหนิ" ไจ่ไจ๋ปฏิเสธอย่างไม่ใยดี

"โธ่....." เจอร์รี่ร้องครางเสียงอ่อยๆ จนไจ่ไจ๋อดที่จะหัวเราะไม่ได้

"หึๆๆๆ" หัวเราะขำพี่ชายเบาๆ

"พี่ใหญ่นี่นะจริงๆเลย รู้ก็รู้ว่าพี่เขาสองคนเป็นยังงัยกันก็ยังจะชอบทำให้เขางอนกันอีก คราวนี้จะช่วยเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ ถ้ามีครั้งต่อไปก็ง้อเอาเองแล้วกัน เข้าใจมั๊ย?" ถามจบก็หยิกแก้มพี่ชายทั้งสองข้างเบาๆ

"เข้าใจแล้วคร้าบบบบบ......" พี่ใหญ่รับคำลากเสียงยาว

"ดีมาก!" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็เอามือขยี้หัวพี่ชาย

"อ้าวๆๆๆ ไอ้ตัวดี! มากไปมั๊ยเนี่ย?" เมื่อเห็นน้องลามปามเจอร์รี่ก็เริ่มโวยวาย

"พี่ใหญ่เนี่ยจะเอะอะทำไม? ถ้าพี่อยากให้น้องๆรู้สึกเป็นกันเองพี่ก็ต้องให้ความเป็นกันเองกับน้องๆก่อนสิ กะอีกแค่ลูบหัวลูบหางแค่นี้ทำโวยวายไปได้" น้องเล็กได้โอกาสสั่งสอนพี่ชาย

"ไจ่ไจ๋!! ไอ้เด็กบ้า!! นี่นายเห็นพี่เป็นหมาหรืองัยถึงได้มาลูบหัวลูบหางแบบนี้น่ะฮึ!?" พี่ใหญ่แหวใส่น้องชาย

"เห็นเป็นแมวต่างหาก!" พูดจบไจ่ไจ๋ก็รีบวิ่งไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็วโดยที่เจอร์รี่ได้แต่ยกมือค้าง

"เฮ่อ! ไอ้ตัวแสบเอ้ยยยย....ฝากไว้ก่อนถอะ......" พึมพำคาดโทษน้องชายในใจก่อนจะเดินกลับห้องตัวเองเพื่อไปอาบน้ำอาบท่าบ้างเช่นกัน



- ชั้นล่างของบ้าน -

"วันนี้มีงานหรอ?" เคนเอ่ยถามเมื่อเห็นแวนเนสแต่งตัวหล่อเดินลงมา

"ใช่แล้ว" แวนเนสตอบพร้อมกับยิ้มให้น้องชาย

"ไปด้วยกันมั๊ย?" แล้วแวนเนสก็เอ่ยชวนน้องชายต่อ

"ก็อยากอ่ะนะ แต่ถ้าไปกับนายแล้วกลับมาชั้นคงไม่มีลมหายใจไปถึงพรุ่งนี้แน่ๆ" เคนว่าพร้อมกับทำหน้าเซ็งๆเพราะเขายังอยู่ระหว่างการถูกลงโทษ ในขณะนั้นเองพี่ใหญ่ที่เพิ่งอาบน้ำอาบท่าเสร็จก็เดินลงมาพอดี เมื่อเห็นน้องชายทั้งสองคนเจอร์รี่ก็เอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"อรุณสวัสดิ์น้องรักทั้งสองคน วันนี้ตื่นเช้ากันจังเลย" แวนเนสกับเคนหันไปสบตากันแต่ไม่มีใครตอบรับคำของพี่ชาย

"คุยอะไรกันอยู่หรอ?" ถามต่อเมื่อเห็นน้องๆไม่พูดโต้ตอบเขา

"แวนเนสไปในครัวกันดีกว่า เมื่อวานนายบอกว่าวันนี้อยากจะกินแพนเค้กราดแย้มสตอเบอรี่ใช่มั๊ย? ชั้นเตรียมของไว้แล้วเดี๋ยวทำให้กินร้อนๆเลย" เคนว่าแล้วก็ยื่นมือไปดึงพี่ชายคนรองให้ลุกขึ้น

"น้องพี่คนนี้น่ารักที่สุดเลย" แวนเนสว่าแล้วก็ลุกขึ้นก่อนที่จะโอบไหล่น้องชายแล้วพากันเดินไปในห้องครัวโดยไม่สนใจพี่ชายคนโตเลยซักนิด

"เฮ่อ! งอนเป็นเด็กๆกันไปได้!" เจอร์รี่มองตามน้องชายทั้งคู่ก่อนจะบ่นอุบอิบคนเดียวเบาๆ เขาไม่ได้ตามน้องเข้าไปแต่กลับหยิบหนังสือพิมพ์มานั่งอ่านแทน ผ่านไปครู่หนึ่งไจ่ไจ๋ก็เดินลงมาด้วยสีหน้าสดชื่น

"พี่รองกับพี่กลางหละครับ?" ถามพี่ชายคนโตทันที

"โน้น! เล่นตัวกันชะมัดเลย! นึกว่าอยากง้อหรืองัย?" ตอบด้วยน้ำเสียงติดห้วนเล็กน้อยแต่พอเห็นน้องเล็กทำหน้างอใส่ก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ

"ตัวเองผิดยังจะไปวีนใส่เขาอีกนะ!" ไจ่ไจ๋เอ็ดพี่ชายเข้าให้

"ลุกเลย! เข้าไปง้อเดี๋ยวนี้" ว่าแล้วก็ลากตัวพี่ใหญ่เข้ามาในครัวด้วยเช่นกัน

"อรุณสวัสดิ์ครับพี่รองพี่กลาง วันนี้มีแพนเค้กหรอ? ว้าว! กำลังอยากกินอยู่พอดีเลย" ไจ่ไจ๋เอ่ยทักพี่ชายทั้งสองคน แต่แวนเนสกับเคนกลับไม่ตอบว่าอะไร

"นี่! น้องมันทักน่ะไม่ได้ยินหรืองัย!?" เมื่อเห็นน้องทั้งสองคนเล่นตัวพี่ใหญ่จึงต่อว่าเข้าให้

"แวนเนส ชั้นว่านายรีบๆกินดีกว่านะกำลังร้อนๆอยู่เลย" เคนไม่สนใจคำพูดของพี่ชายแต่กลับหันไปพยักเพยิดให้พี่ชายคนรองกินแพนเค้กที่เขาทำให้

"โอเค! นายก็กินพร้อมกันสิ" แวนเนสรับคำแล้วหั่นแพนเค้กออกเป็นชิ้นพอดีคำก่อนจะจิ้มเข้าปาก

"เดี๋ยวมากินด้วย ชั้นจะไปชงกาแฟก่อน นายจะเอาเป็นกาแฟดำหรือว่าจะใส่ครีมด้วย?" เคนว่าพร้อมกับถามพี่ชายกลับ

"เอากาแฟดำ ขอบใจนะ" แวนเนสตอบน้องชายพร้อมกับยิ้มให้ ในขณะที่น้องเล็กได้แต่ทำหน้าเจื่อนๆส่วนพี่ใหญ่นั้นพูดอะไรไม่ออกเมื่อโดนน้องๆแก้เผ็ดด้วยการไม่พูดด้วยจริงๆ

"พี่กลาง" ไจ่ไจ๋เดินเข้าไปกอดเอวพี่ชายพร้อมกับทำเสียงอ้อนๆเพราะกลัวพี่ชายจะงอนเขารวมไปด้วย เคนแอบอมยิ้มแต่ไม่พูดอะไรกับน้องเพียงแต่ชงกาแฟต่อโดยไม่สนใจกับน้องชายที่กอดเอวเขาอยู่

"พี่โกรธผมเรื่องอะไรหรอ?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายต่อ เคนจับมือน้องชายออกก่อนจะหันไปเทน้ำร้อนใส่แก้วเพื่อชงกาแฟ

"เสี้ยวเทียน! มันจะเกินไปมั๊ยเนี่ย? น้องพูดด้วยตั้งหลายคำแต่นายกลับไม่ตอบมันเลยซักคำ" เมื่อเห็นเคนทำเย็นชากับน้องเล็กเจอร์รี่ก็เป็นเดือดเป็นร้อนแทน

"พี่ใหญ่!!" ไจ่ไจ๋ทำเสียงเข้มใส่พี่ชายคนโต เคนยังไม่ยอมพูดอะไรอยู่ดีเขายกถ้วยกาแฟที่เพิ่งชงเสร็จไปให้แเวนเนส

"ขอบใจมาก! นายก็มานั่งกินได้แล้ว" แวนเนสเอ่ยขอบคุณน้องชายแล้วชวนมานั่งกินด้วยกัน เคนพยักหน้าก่อนจะหันไปยกถ้วยกาแฟของตัวเองมาบ้างแต่ไม่ทันได้ระวังจึงหันกลับมาชนกับน้องเล็กที่ยืนเก้ๆกังๆอยู่ด้านหลังทำให้กาแฟในถ้วยของเขากระเฉาะออกมาลวกโดนแขนน้องชาย

"โอ้ย!" ไจ่ไจ๋ร้องออกมาด้วยความตกใจ

"เฮ้ย!!!" พี่ชายทั้งสามคนอุทานพร้อมกับกรูเข้ามาหาน้องเล็กพร้อมกัน

"ไปล้างน้ำก่อนไจ่ไจ๋" เคนบอกพร้อมกับรีบวางถ้วยกาแฟลงแล้วจับแขนน้องไปที่ซิงค์ล้างจานเพื่อจะเปิดน้ำล้างให้ แต่เจอร์รี่กลับเดินมาดึงมือเคนออก

"อยากจะให้น้องแขนพองหรืองัย! ไปหาผ้าสะอาดมา!" ตวาดใส่อย่างลืมตัว ทำเอาเคนหน้าเสียแต่ก็รีบวิ่งไปหยิบผ้าขนหนู

"พี่ใหญ่! ผมไม่เป็นอะไรหรอก" ไจ่ไจ๋ร้องแทรกขึ้นมา

"ไม่เป็นอะไรยังงัยกัน? โดนของร้อนลวกแล้วจะเอาน้ำเย็นราดลงไปอีกได้หรอ? เดี๋ยวแขนก็พองกันพอดี!" พี่ใหญ่เลยเอ็ดน้องเล็กเข้าด้วยอีกคน

"เอาไปชุบน้ำแล้วมาเช็ดแขนให้น้อง" แวนเนสบอกเมื่อเห็นเคนเดินกลับเข้ามาด้วยสีหน้าว้าวุ่น

"ชั้นเช็ดเอง!" เมื่อเห็นเคนทำท่าจะเช็ดแขนให้น้องเจอร์รี่ก็แย่งผ้าผืนนั้นไปจากมือพร้อมกับพูดเสียงห้วน

"ไปหยิบยามาทาให้น้องด้วยไป" แวนเนสบอกกับเคนที่ยืนมองน้องชายด้วยท่าทางสำนึกผิด

"พี่ใหญ่ครับ เราตกลงกันว่ายังงัย?" ไจ่ไจ๋ต่อว่าพี่ชายคนโตกลายๆเพราะไม่ค่อยพอใจที่เจอร์รี่ต่อว่าพี่ชายคนกลาง

"สนใจตัวเองเถอะอย่ายุ่งเรื่องคนอื่นให้มากนักเลย!" พูดสวนน้องชายคนเล็กกลับไปเพราะเริ่มหงุดหงิดที่น้องเล็กเอาแต่เข้าข้างเคน

"แสบมากหรือเปล่าไจ่ไจ๋?" แวนเนสถามแทรกขึ้นมาก่อนเมื่อเห็นน้องเล็กอ้าปากจะโต้ตอบพี่ชายคนโตอีก เมื่อได้ยินแวนเนสถามไจ่ไจ๋จึงหุบปากแล้วส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย

"เป็นยังงัยบ้างไจ่ไจ๋? พี่ขอโทษนายจริงๆเดี๋ยวพี่ทายาให้นะ" เคนที่หายออกไปหยิบยามาถามไถ่น้องชายอย่างเป็นห่วง

"วางไว้นั่นแหละเดี๋ยวชั้นจัดการเอง!" แต่แล้วพี่ใหญ่ก็พูดตัดบทด้วยน้ำเสียงห้วนสนิท

"ให้ชั้นช่วยเถอะ" เคนว่าแล้วก็หมุนฝาหลอดยาเปิดออก

"ชั้นบอกให้วางลง!!" พี่ใหญ่หันมาตวาดใส่ด้วยสีหน้าขึงขัง เคนชะงักกึกพร้อมกับมองหน้าพี่ชายอย่างอึ้งๆแต่ก็วางหลอดยาลงใกล้ๆพี่ชายแล้วหมุนตัวเดินออกไปทันที

"วันหลังดูหน้าดูหลังให้ดีซะก่อนนะไจ่ไจ๋ นายก็เห็นๆอยู่ว่าพี่กลางกำลังทำอะไรอยู่แต่ก็ยังมายืนขวาง" แวนเนสตำหนิน้องเล็กออกมา

"ขอโทษครับ ผมผิดเอง" ไจ่ไจ๋เองก็ยอมรับผิด

"น้องมันเจ็บตัวแบบนี้ยังจะซ้ำเติมมันอีกหรืองัย?" เจอร์รี่ทำตาขวางใส่แวนเนสที่มาพูดจาตำหนิน้องเล็กทั้งๆที่น้องเป็นคนเจ็บ

"ชั้นแค่พูดตักเตือนน้องไม่ได้คิดจะซ้ำเติมมันเลย แค่คำพูดของชั้นคงไม่ทำให้น้องเจ็บถึงตายหรอก" แวนเนสพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เจอร์รี่ได้ยินก็ชะงักงันหันควับไปทางแวนเนส แต่แวนเนสกลับมองพี่ชายด้วยแววตาตำหนิอย่างชัดเจนก่อนที่จะเดินตามเคนออกไป

"เป็นอะไรหรือเปล่า?" แวนเนสเอ่ยถามเคนที่นั่งหน้าเศร้าอยู่คนเดียว

"เปล่าหนิ" เคนส่ายหน้าแล้วฝืนยิ้มให้พี่ชาย

"งั้นเดินหนีออกมาทำไม?" แวนเนสถามน้องชายต่อ

"ขืนยังเสนอหน้าอยู่อีกชั้นคงโดนอีโต้เฉาะกบาลแน่ๆ" เคนแกล้งพูดติดตลกพร้อมกับยิ้มเฝื่อนๆให้พี่ชาย

"น้องเป็นยังงัยบ้างแวนเนส?" แล้วเคนก็ถามถึงอาการน้องชาย

"ไม่เป็นไรมากหรอก ไม่ต้องกังวล" แวนเนสตอบก่อนจะยิ้มให้เคนแล้วเอื้อมมือออกไปขยี้หัวน้องชายเบาๆ

"น้องไม่เป็นอะไรมากก็ดีไป เฮ่อ!" พูดจบเคนก็ถอนหายใจออกมา

"คราวนี้ทำน้องเจ็บจนได้แผลมีหวังโดนเล่นงานหนักแน่ๆ" เคนพูดด้วยท่าทางหวั่นๆเมื่อนึกไปถึงสิ่งที่ตัวเองต้องพบเจอในเวลาต่อจากนี้

"นายไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย ไจ่ไจ๋มันมายืนเกะกะขวางทางนายเอง" แวนเนสพูดเข้าข้างน้อง

"แล้วพี่ชายของนายมันจะคิดแบบนั้นหรอ?" เคนย้อนก่อนจะเงยหน้าเอาหัวพิงที่พนักโซฟา แวนเนสเองก็ลอบถอนหายใจด้วยเช่นกัน ในเวลานั้นไจ่ไจ๋ก็เดินออกมาแล้วมานั่งลงข้างเคนโดยมีพี่ใหญ่เดินหน้าบึ้งตึงตามออกมาด้วย

"เป็นยังงัยบ้างไจ่ไจ๋? เจ็บมากหรือเปล่า? ขอพี่ดูหน่อย" เคนรีบหันไปถามอาการน้องชายพร้อมกับเอามือลูบแขนน้องอย่างแผ่วเบา

"ไม่เป็นไรหรอกครับพี่กลาง นิดหน่อยเองทายาก็ไม่เจ็บแล้ว" น้องเล็กพูดให้พี่ชายสบายใจทั้งที่จริงก็รู้สึกแสบที่แขนเช่นกัน

"พี่ขอโทษนายจริงๆที่ไม่ทันระวังเลยทำนายเจ็บเลย" เคนว่าพร้อมกับเลื่อนมือขึ้นมาลูบหัวน้องชายอย่างรู้สึกผิดแต่ไจ่ไจ๋กลับยิ้มให้พี่ชายแล้วส่ายหน้า

"ผมต่างหากที่ยืนเกะกะ เห็นๆอยู่แล้วว่าพี่ชงกาแฟอยู่ก็ยังไปยืนขวาง" ได้ยินน้องพูดเช่นนั้นเคนจึงยิ้มบางๆให้ ก่อนจะเหลือบตาขึ้นมองพี่ใหญ่ที่มองมาที่เขาเช่นกัน

"พี่กลาง.....ผมยังไม่ได้กินแพนเค้กของพี่เลยนะ ทำให้ผมกินหน่อยน้า....." เมื่อเห็นว่าพี่ชายคนโตคงจะต้องว่ากล่าวพี่ชายคนกลางแน่จึงรีบพูดแทรกด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

"งั้นเดี๋ยวพี่เข้าไปทำให้นะ นายรอแป๊บนึงเสร็จแล้วพี่จะมาเรียก" เคนรีบกุลีกุจอลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัวเพื่อทำแพนเค้กให้น้องกินทันที หลังจากเคนเดินเข้าไปในครัวแล้วไจ่ไจ๋ก็หันไปทำตาดุใส่เจอร์รี่

"พี่ใหญ่! สัญญากับผมว่ายังงัย?" ทวงเอาคำสัญญากับพี่ชายเพราะเมื่อกี้เขาขอร้องเจอร์รี่ไว้แล้วว่าอย่าต่อว่าอะไรเคนอีกซึ่งพี่ชายก็รับปากแล้ว

"แล้วพี่ไปทำอะไรหละ?" เจอร์รี่พูดเสียงห้วนๆก่อนจะเดินมากระแทกตัวนั่งลงข้างๆน้อง

"ไม่ได้ทำหรอกแต่สายตามองน้องมันอย่างกับจะกินมันเข้าไปทั้งตัว ถ้านายไม่คอยกันนะไจ่ไจ๋ได้มีฆาตกรรมเกิดขึ้นในบ้านแน่" แวนเนสเปรยขึ้นเป็นเชิงว่ากระทบพี่ชาย

"เดี๋ยวจะโดน!" ชี้หน้าแวนเนสพร้อมกับพูดเสียงดุ

"พี่ใหญ่!! ถ้าขืนพี่ยังวีนเขาไปทั่วแบบนี้ผมจะไม่คุยกับพี่จริงๆแล้วนะ! ตัวเองเป็นคนผิดแท้ๆแทนที่จะทำตัวให้น่ารักกลับมาต่อว่าคนอื่นเขาอีก!" ไจ่ไจ๋เอ็ดใส่พี่ชายอย่างเหลืออดพร้อมกับทำหน้างอใส่ เจอร์รี่เลยได้แต่ทำหน้ามุ่ยแต่ไม่กล้าพูดอะไรอีกเพราะกลัวน้องชายสุดที่รักจะอารมณ์เสียแล้วพาลโกรธเขาอีกคน

"สมน้ำหน้า!" แวนเนสได้ทีเยาะเย้ยพี่ชาย เจอร์รี่จึงได้แต่ส่งสายตาคาดโทษเจ้าน้องชายจอมไฮเปอร์

"พี่ใหญ่! เดี๋ยวตาก็ถลนออกมานอกเบ้าหรอก!" ไจ่ไจ๋เห็นพี่ใหญ่ค้อนใส่แวนเนสเสียหลายตลบก็ต่อว่าพี่ชายขึ้นมาอีก

"อะไรของนายเนี่ย จะว่าพี่ไปถึงไหน" เมื่อโดนน้องว่ามากๆเจอร์รี่ก็ทำเสียงงอนๆใส่น้องชาย

"ทีตัวเองด่าคนอื่นทั้งวันได้เลย" แวนเนสเปรยขึ้นมาอีก เจอร์รี่ชี้หน้าคนพูด

"หรือจะเถียง?" แวนเนสทำหน้ากวนประสาทพี่ชายต่ออย่างไม่กลัว น้องเล็กแอบอมยิ้มเมื่อเห็นพี่ชายคนโตไม่กล้าทำอะไรแวนเนสเพราะกลัวเขาจะโกรธ

"พี่ใหญ่ไปดูพี่กลางซิว่าทำแพนเค้กเสร็จหรือยัง ถ้าเสร็จแล้วออกมาเรียกด้วย" ไจ่ไจ๋ได้ทีสั่งให้พี่ชายต่อ

"นี่.....มากไปมั๊ยไอ้ตัวดี? สั่งเอาๆๆๆอยู่ได้" เมื่อเห็นน้องเอาแต่สั่งเจอร์รี่ก็ยืนเท้าเอวแล้วมองหน้าเจ้าน้องชายคนเล็กของเขา

"ก็ได้ งั้นผมไปดูเอง" พูดจบไจ่ไจ๋ก็ทำท่าจะเดินเข้าครัวไปเสียเองแต่พี่ใหญ่กลับดึงแขนไว้แล้วเดินปึงๆเข้าไปอย่างเสียมิได้ ปล่อยให้แวนเนสกับไจ่ไจ๋ได้แต่หันไปหัวเราะกันคิกคัก





 

Create Date : 30 มีนาคม 2552    
Last Update : 30 มีนาคม 2552 22:27:46 น.
Counter : 1124 Pageviews.  

Chapter 55

ตอนที่ 55

"เป็นอะไร? นอนพลิกไปพลิกมาอยู่ได้" พี่ใหญ่ที่เปิดประตูห้องน้องเล็กเข้ามาเอ่ยถามเมื่อเห็นน้องนอนพลิกซ้ายทีขวาที

"พี่ใหญ่....." ไจ่ไจ๋เห็นพี่ชายเดินเข้ามาก็รีบลุกขึ้นไปเกาะแขนอย่างประจบประแจงทันที

"พี่ใหญ่ครับ พี่อนุญาตให้ผมโทรศัพท์ก่อนนอนซักหน่อยไม่ได้หรอ?" ไจ่ไจ๋อ้อนพี่ชายเพราะโทรศัพท์มือถือของเขาโดนพี่ชายยึดไปเก็บไว้เองแล้ว และเมื่อไม่ได้คุยโทรศัพท์กับแฟนสาวก่อนนอนเหมือนดังเช่นทุกวันไจ่ไจ๋ก็รู้สึกกระวนกระวายนอนไม่ค่อยเป็นสุขเพราะเหมือนยังทำกิจวัตรประจำวันไม่ครบ

"ไม่ได้เพราะนายถูกลงโทษอยู่ และพี่ก็คุยกับแฟนนายเรียบร้อยแล้วด้วย หลิงหลิงเขาเข้าใจยิ่งกว่านายเสียอีก" พี่ใหญ่ไม่ยอมใจอ่อนเพราะไม่อย่างนั้นถูกลงโทษทีไรน้องก็ไม่เข็ดซักที

"แต่พี่ใหญ่ครับ.....อย่างน้อยพี่ก็น่าจะให้ผมคุยกับหลิงหลิงบ้าง เผื่อน้องเขามีปัญหาอะไรอยากจะให้ผมช่วย" น้องเล็กยังออดอ้อนพี่ชายต่อไป

"พี่บอกแล้วงัยว่าถ้ามีเรื่องสำคัญจริงๆพี่ถึงจะยอมให้คุย แต่เท่าที่ฟังดูแฟนนายน่ะเขาไม่มีปัญหาอะไรเลย" ได้ยินดังนั้นน้องเล็กก็เริ่มหน้างอ

"พี่ใหญ่น่ะใจร้ายที่สุดเลย ตัวเองก็เคยมีแฟนก็น่าจะรู้ว่าถ้าไม่ได้คุยไม่ได้เจอหน้ากันนานตั้งสองอาทิตย์แล้วมันทรมานขนาดไหน" เมื่ออ้อนไม่ได้ผลก็เริ่มตัดพ้อต่อว่าพี่ชายแทน

"ของพี่น่ะไม่เจอกันทั้งเดือนยังได้เลย ครั้งนี้นายต้องยอมรับกติกาเพราะนายทำผิดเข้าใจมั๊ย?" เจอร์รี่ทำใจแข็งไม่สนใจกับการออดอ้อนของน้องชาย

"แต่กักบริเวณให้อุดอู้อยู่แต่ในห้องเนี่ยมันได้อะไรขึ้นมาครับ? เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์" พูดด้วยสีหน้ามุ่ยๆ

"พี่ไม่ให้นายใช้เวลาในห้องโดยเปล่าประโยชน์หรอก นี่งัย....พี่เอาหนังสือมาให้อ่านฆ่าเวลา" ว่าแล้วเจอร์รี่ก็ยื่นหนังสือที่ถือมาส่งให้น้อง ไจ่ไจ๋มองดูหนังสือนั้นแต่ไม่ได้รับมา

"หนังสืออะไร?" ถามพี่ชายเสียงห้วนเล็กน้อย

"หนังสือที่อ่านแล้วจรรโลงใจทำให้นายหายกระวนกระวายได้" เจอร์รี่ตอบแล้วจับมือน้องมารับหนังสือไป ไจ่ไจ๋เบ้ปากอย่างเซ็งๆ

"ผมไม่ใช่คนแก่ซักหน่อยถึงให้อ่านหนังสือประเภทนี้" พี่ใหญ่ได้ยินก็ถอนหายใจอย่างเอือมระอาเจ้าน้องชายคนนี้

"จะเด็กจะหนุ่มจะแก่ก็อ่านได้ทั้งนั้น หนังสือดีๆไม่ได้มีเฉพาะเจาะจงเพื่อให้คนแก่อ่านซักหน่อย ลองอ่านดูเผื่อจะได้ข้อคิดอะไรบ้าง" บอกน้องอย่างอ่อนใจ

"แล้วถ้าผมไม่อ่านหละ?" ไจ่ไจ๋ย้อนถามพี่ชายอย่างพาลๆเพราะหงุดหงิดที่พี่ชายไม่ยอมให้โทรศัพท์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

"ถ้านายไม่อ่านพี่ก็ต้องบังคับ" ได้ยินเช่นนั้นสีหน้าไจ่ไจ๋ก็เปลี่ยนเป็นบึ้งตึงทันที

"พี่ไม่ให้นายใช้เวลาว่างโดยการนั่งๆนอนๆแบบนี้หรอก แล้วถ้าหากนายไม่เต็มใจที่จะอ่านหนังสือพวกนี้ พี่ก็ต้องถือว่านี่เป็นการลงโทษอีกอย่างนึง" พี่ใหญ่ทำเสียงเข้ม

"ทำไมต้องบังคับกันด้วย ไม่มีเหตุผลเลย" ไจ่ไจ๋หน้าหงิกกว่าเดิม

"ที่ต้องบังคับเพราะนายอยากพูดไม่เชื่อเอง หลังจากนี้ไปสองวันนายต้องอ่านเล่มเล็กนั่นให้จบแล้วพี่จะเข้ามาถามว่าเนื้อหาในหนังสือพูดถึงอะไรบ้าง ถ้านายตอบไม่ได้เห็นทีต้องมีการลงโทษเพิ่มกันอีกหน่อยหละ" ไจ่ไจ๋เหลือบมองหน้าพี่ชายแต่ไม่พูดโต้ตอบอะไรเพราะรู้สึกว่าพี่ชายไม่มีเหตุผลเท่าไหร่ที่จะบังคับให้เขาอ่านหนังสือโดยที่เขาไม่อยากอ่าน

"ถ้าเข้าใจตามนี้แล้วก็ทำตามซะ ไม่งั้นอย่ามาหาว่าพี่ใจร้าย" พูดจบเจอร์รี่ก็ลุกเดินออกจากห้องน้องเล็กโดยไม่สนใจอากัปกิริยาที่ไม่พอใจของน้องชายเลย

"เฮ่อ! จะอาละวาดอีกมั๊ยนั่น" เมื่อออกมาได้เจอร์รี่ก็บ่นอุบกับตัวเองก่อนจะส่ายหน้าแล้วเดินเข้าห้องไปหยิบหนังสืออีกสองสามเล่มออกมาแล้วเดินเข้าไปในห้องเคนบ้าง

"ทำอะไรอยู่?" เอ่ยถามเมื่อเห็นน้องเอาอะไรบางอย่างซุกลงใต้ผ้าห่ม

"เปล่าหนิ" เคนรีบปฏิเสธแต่ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิด เจอร์รี่มองหน้าเจ้าน้องชายตัวดีก่อนจะเดินเข้ามาหาแล้วดึงผ้าห่มออกก็เห็นว่าน้องเอาเครื่องเล่นซีดีแบบพกพาซ่อนอยู่

"เอ่อ...." เมื่อโดนพี่ชายจับได้เคนก็ทำหน้าแหยๆ

"เอามานี่" สั่งพร้อมกับยื่นมือออกไปขอเครื่องซีดีดังกล่าวมาจากน้อง เคนจึงจำใจต้องส่งให้อย่างอิดออด

"บอกแล้วใช่มั๊ยว่าห้ามใช้เครื่องไฟฟ้าทุกชนิดนอกจากเครื่องปรับอากาศ" พูดกับน้องด้วยน้ำเสียงดุๆ

"ก็....แค่ฟังเพลง.....มันไม่ได้เสียหายตรงไหนนี่นา....." เถียงพี่ชายเสียงอ่อยๆ

"ถ้าเป็นเวลาปกติก็คงไม่เป็นไร แต่นี่นายกำลังถูกลงโทษอยู่แล้วถ้าการลงโทษมันอำนวยความสะดวกสบายให้นายแบบนี้ชั้นจะลงโทษนายไปเพื่ออะไร?" พี่ใหญ่ย้อนคำน้องชายด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"แต่นายก็น่าจะเห็นใจชั้นบ้าง เราก็คนทำงานเหมือนกันนายก็น่าจะรู้หนิว่าเวลาที่ได้หยุดงานน่ะมันมีค่าขนาดไหน? ชั้นก็อยากใช้ช่วงเวลานั้นพักผ่อนบ้างสิ แต่นายเล่นลงโทษกันทั้งเดือนแบบนี้มันไม่ใจร้ายเกินไปหน่อยหรอ?" เคนก้มหน้าพูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆเช่นเคย

"ถ้ารู้แบบนี้แล้วจะโกหกชั้นแต่แรกทำไม?" พี่ใหญ่ถามน้องกลับ

"แล้วนายกล้าพูดหรือเปล่าว่าถ้าชั้นบอกความจริงกับนายแล้วนายจะไม่ตีชั้นตายก่อนที่ชั้นจะอธิบายจบน่ะ?" เคนเงยหน้าขึ้นมาย้อน ทำเอาพี่ใหญ่เถียงไม่ออก

"ถึงยังงัยก็แล้วแต่นายก็ไม่ควรปิดบังชั้น!" เมื่อเถียงอะไรไม่ได้ก็เลยแกล้งดุน้องกลบเกลื่อน เคนลอบถอนหายใจแต่ไม่เถียงอะไรอีกเพราะกลัวพี่ชายจะโมโหแล้วเขาจะโดนเพิ่มโทษมากกว่านี้

"ชั้นขอโทษ" พึมพำขอโทษพี่ชายเพื่อกันไม่ให้พี่ชายบ่นต่อ พี่ใหญ่เองก็ถอนหายใจยาวๆก่อนจะยื่นหนังสือในมือให้น้องชาย

"อ่านซะ" บอกกับน้องด้วยน้ำเสียงอ่อนลง เคนหยิบหนังสือนั่นขึ้นมาดู

"นี่นายจะให้ชั้นอ่านแล้วอีกวันสองวันจะมาถามใช่มั๊ยว่าเนื้อหาในนี้มีอะไรบ้าง?" เมื่อได้ยินน้องถามเจอร์รี่ก็พยักหน้ารับ

"ลงโทษเป็นเด็กๆไปได้ เดี๋ยวนี้ชั้นชอบอ่านหนังสือจะตายไป ไม่เห็นต้องบังคับให้อ่านเลย" เคนพูดยิ้มๆเพราะเมื่อตอนเด็กๆเขาเคยโดนพี่ชายลงโทษเช่นนี้มาแล้วเนื่องจากเมื่อก่อนเขาไม่ชอบอ่านหนังสือจึงโดนพี่ชายบังคับและถ้าหากพี่ชายเข้ามาถามเนื้อหาในหนังสือที่ให้อ่านแล้วเขาตอบไม่ได้ก็จะโดนตีตามจำนวนข้อที่ตอบไม่ได้ ดังนั้นเขาเลยต้องจำใจอ่านแต่เมื่อได้อ่านจริงๆแล้วเขาถึงได้รู้ว่าหนังสือที่พี่ชายเลือกมาให้อ่านนั้นเป็นหนังสือที่ดีมากและตั้งแต่นั้นมาเขาเลยไม่ปฏิเสธเวลาที่พี่ชายแนะนำหนังสืออะไรให้เขาอ่านเลย

"สำหรับนายคงไม่ใช่การลงโทษหรอก แต่ให้อ่านฆ่าเวลา หนังสือพวกนี้ดีนะชั้นอ่านมาหมดแล้ว" เจอร์รี่เองก็ยิ้มออกเพราะน้องคนนี้ว่าง่ายกว่าน้องเล็ก

"หรอ? งั้นขอบคุณแล้วกัน ชั้นจะอ่านคืนนี้แหละ" เคนว่าแล้วก็หยิบหนังสือมาพลิกดู

"ค่อยๆอ่านนะไม่ต้องอ่านจนถึงเช้า เพราะนายมีเวลาอีกเยอะ" พูดกับน้องยิ้มๆเช่นกัน

"นายไม่ใจอ่อนลดโทษให้ชั้นบ้างหรอ? อย่างน้อยขอเป็นอิสระในอาทิตย์สุดท้ายก่อนไปทำงานก็ยังดี" ไม่วายพูดอ้อนพี่ชายต่อ

"ตอนนี้ยัง แต่จะดูจากพฤติกรรมของนายก่อน ถ้าว่าง่ายและไม่ดื้อดึงกับชั้นมากนักก็จะลองพิจารณาดู" ได้ยินเช่นนั้นเคนก็ค่อยมีสีหน้าดีขึ้น

"เอาหละ.....ชั้นไม่รบกวนแล้วจะทำอะไรก็ทำเถอะ ชั้นจะกลับห้องหละ...." ว่าแล้วพี่ใหญ่ก็ขอตัวกลับห้อง

"อืม....ราตรีสวัสดิ์นะ" เคนเอ่ยราตรีสวัสดิ์กับพี่ชาย

"ราตรีสวัสดิ์" พี่ใหญ่ตอบรับคำน้องแล้วเดินออกจาห้องน้องชายไป



- วันถัดมา -

"อ้าว! ไจ่ไจ๋หละ?" เจอร์รี่ถามเมื่อเห็นว่ามีเพียงเคนเท่านั้นที่ตามแวนเนสลงมาเพราะเขาสั่งให้แวนเนสไปตามน้องๆลงมากินข้าว

"มันบอกว่ายังไม่หิว" แวนนเนสตอบพี่ชายก่อนจะโอบไหล่เคนเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะ

"แสดงว่าวันนี้นายให้มันกินขนมทั้งวันใช่มั๊ยเนี่ย?" หันไปทำตาดุใส่น้องชายคนรอง

"เปล่าซักหน่อย ไม่ได้ให้กินอะไรเลยก็แค่กินข้าวเช้ากับข้าวกลางวัน นอกนั้นก็ให้มันอยู่บนห้องตามคำสั่งนายอ่ะ" แวนเนสรีบแก้ตัวทันที

"แล้วทำไมถึงไม่หิว" บ่นพึมพำกับตัวเองแต่ก็พอจะเดาออกว่าน้องอาจจะประท้วงเขาก็ได้

"นายทำอะไรให้น้องไม่พอใจหรือเปล่า? ชั้นเห็นมันหน้างอทั้งวันเลย" แวนเนสได้ทีถามพี่ชายกลับบ้าง

"ไม่มีหนิ" เจอร์รี่ส่ายหน้าปฏิเสธแล้วพูดตัดบท

"ช่างมัน! ไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน เดี๋ยวพอเรากินข้าวเสร็จกันแล้วกับข้าวทุกอย่างเก็บขึ้นให้หมด แล้วมื้อนี้ก็ให้มันอดไปแล้วกัน" พี่ใหญ่ประกาศแล้วบอกให้น้องสองคนลงมือกินข้าวได้ แวนเนสกับเคนจึงได้แต่หันไปสบตากันพอจะรู้ว่าพี่ใหญ่กับน้องเล็กคงมีเรื่องอะไรกันแน่นอน พอกินข้าวเสร็จเคนก็รับอาสาล้างจานชามทั้งหมดเอง ส่วนเจอร์รี่ก็ขอตัวขึ้นไปข้างบน

"เจอร์รี่กับไจ่ไจ๋มันต้องมีอะไรกันแหงๆ" แวนเนสเอ่ยปากขึ้นมาก่อน

"ก็นั่นน่ะสิ ไม่งั้นเจอร์รี่มันไม่ทำใจแข็งกับไจ่ไจ๋ได้ลงคอหรอก คงขัดใจอะไรกันหละมั้ง" เคนตั้งข้อสังเกต

"งั้นหรอ? ว่าแต่จะทะเลาะอะไรกันได้วะ? เอ....หรือว่าไจ่ไจ๋มันงอแงที่โดนยึดมือถือ? เพราะว่าไอ้เจ้านี่มันติดมือถืออย่างกับอะไรดี" แวนเนสตั้งข้อสันนิษฐานด้วยเช่นกัน

"ก็เป็นไปได้" เคนเห็นด้วยกับความคิดเห็นของพี่ชายก่อนจะทำหน้าเหมือนนึกอะไรออก

"เออ! หรือว่าเจอร์รี่มันจะบังคับให้ไจ่ไจ๋อ่านหนังสือเหมือนชั้นวะ?" แวนเนสได้ยินก็ขมวดคิ้ว

"เจอร์รี่มันเอาหนังสือมาให้ชั้นอ่านฆ่าเวลา แล้วนายก็รู้ใช่มั๊ยว่าหนังสือที่เจอร์รี่มันอ่านส่วนใหญ่น่ะเป็นแนวแบบผู้ใหญ่หน่อยซึ่งไจ่ไจ๋มันคงไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ บางทีไจ่ไจ๋มันอาจจะไม่พอใจตรงนี้ด้วยก็ได้" เคนอธิบายให้พี่ชายฟัง

"โห! ยังมีการลงโทษให้อ่านหนังสือกันแบบนี้อีกหรอวะ? แบบนี้นายก็คงเซ็งตายเลยสิ" แวนเนสเอ่ยอย่างเห็นใจน้องชาย

"ไม่หรอก หนังสือที่มันเอามาให้อ่านน่ะดีนะ สนุกดีด้วย อ่านเพลินๆจนรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก เดี๋ยวแป๊บๆก็ครบเดือนนึงแล้วหละ" เคนรีบแย้งขึ้นมาทันที

"อ้าว! ตกลงว่ามันดันลงโทษได้ถูกใจนายเลยสิ หึๆๆๆ" แล้วแวนเนสก็หัวเราะออก เคนเพียงแต่ยิ้มให้พี่ชายเท่านั้น

"ชั้นว่านะ นายน่าจะเข้าไปคุยเล่นกับไจ่ไจ๋บ้าง น้องมันคงเหงาน่ะเพราะเจ้านี่มันอยู่คนเดียวไม่ค่อยได้" แล้วเคนก็หันมาแนะนำพี่ชาย

"ก็รู้แล้ว ชั้นก็เยี่ยมหน้าเข้าไปหามันบ่อยๆแต่เห็นมันหน้าหงิกแต่เช้าเลยไม่ค่อยคุยอะไรกันมาก แล้วอีกอย่างอีกสองวันชั้นก็ต้องไปทำงานอีกแล้วหละ" แวนเนสว่าแล้วหยิบผ้าแห้งส่งให้น้องชายเช็ดมือเมื่อเห็นว่าน้องล้างจานเสร็จแล้ว

"นายจะไปทำงานแล้วหรอ? เฮ่อ! ชั้นเองก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปหามันเป็นการส่วนตัว ห่วงมันเหมือนกันว่ะ เพราะคราวนี้ดูเจอร์รี่จะไม่ใจอ่อนง่ายๆ ไจ่ไจ๋เองมันก็คงจะอาละวาดหนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกันเพราะปกติแล้วมันไม่เคยถูกกักบริเวณเกินกว่าสองสามวันเลย" แล้วเคนก็บ่นกับพี่ชาย

"แต่ชั้นว่าก็ดีไปอีกแบบ จะได้ดัดนิสัยมันบ้างเพราะเจ้านี่น่ะไม่เคยโดนอะไรแบบจริงๆจังๆซักที ลองมันไม่มีคนโอ๋บ้างอาจจะแก้นิสัยเอาแต่ใจของมันบ้างก็ได้นะ" แวนเนสมองในอีกแบบหนึ่ง

"แก้ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้....." เคนว่าพลางยักไหล่ไปด้วย

"นายก็เข้าไปดูๆมันหน่อยก็แล้วกัน มันอยู่ของมันคนเดียวจะทำอะไรเราก็ไม่เห็นอ่ะ" เคนไม่วายกำชับพี่ชายเอาไว้อีกเพราะเป็นห่วงน้อง

"รู้แล้ว ชั้นไม่ปล่อยให้มันหงอยหรอกน่า ไป.....ไปดูทีวีกันดีกว่า นายมีเวลาเป็นอิสระหลังกินข้าวสองชั่วโมงอย่าเอาแต่ห่วงคนอื่นนักเลย" ว่าแล้วแวนเนสก็ดึงน้องชายแล้วพาเดินออกมาดูโทรทัศน์ด้วยกัน ในตอนนั้นพี่ใหญ่ก็เดินลงมาด้วยสีหน้าสดชื่นขึ้นเพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ

"อื้ม! หอมจัง!" แวนเนสขยับเข้าไปหอมแก้มพี่ชาย

"อ้อนจังเลยนะ" เจอร์รี่บีบจมูกน้องชายโยกไปมาเบาๆ

"เข้าไปดูไจ่ไจ๋บ้างเปล่า?" แวนเนสถามพี่ชายต่อ ซึ่งเคนเองก็เปลี่ยนสายตามาทางพี่ชายด้วยความอยากรู้เช่นกัน

"เปล่า ชั้นไม่อยากสนใจเด็กดื้อ" เจอร์รี่ปฏิเสธหน้าตาเฉย

"จริงอ่ะ? ไม่ใช่ว่าในใจงี้แทบอยากเข้าไปกอดมันจะตายแล้วนะ" เอ่ยแซวพี่ชายยิ้มๆ

"หุบปากซะมั่งเถอะไอ้ตัวยุ่ง! จะดูทีวีก็ใช้ตาดูไม่ต้องใช้ปากพล่ามไปเรื่อย" เมื่อถูกน้องจับความรู้สึกได้พี่ใหญ่ก็แกล้งต่อว่าน้องชายกลบเกลื่อน แวนเนสอมยิ้ม

"เสี้ยวเทียนมันก็ว่างอยู่กอดมันแทนก็ได้นะ เนื้อหนังมันมีเยอะกว่าเจ้าไจ๋ซะอีก" พูดแซวพี่ชายต่ออีก

"ไม่อยากกอดไม่อยากยุ่งกับใครทั้งนั้นแหละ!" หันไปแหวใส่น้องชายคนรอง

"เฮอะ! อารมณ์เสียโว้ย!" แวนเนสหันไปยักคิ้วกับน้องชาย

"กวนประสาทชั้นได้ทุกวันเลยนะ!" ผลักหัวแวนเนสอย่างหมั่นไส้ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเปลี่ยนที่มานั่งลงข้างๆน้องชายคนกลาง

"ดูอะไรอยู่เสี้ยวเทียน?" ถามเคนขึ้นมาบ้าง

"ดูทีวี" แวนเนสตอบแทรกขึ้นมาก่อน เคนหัวเราะออกมาเบาๆกับการก่อกวนของแวนเนส เจอร์รี่ก็ได้แต่ค้อนใส่

"ดูสารคดีเกี่ยวกับเสืออยู่ นายดูสิพวกมันน่ารักเหมือนแมวเลย" เคนหันมาตอบพี่ชาย

"มันก็เป็นสัตว์ตระกูลเดียวกันนี่นา" เจอร์รี่พูดคุยกับน้อง

"สัตว์ตระกูลเดียวกันนี่จำเป็นต้องมีลักษณะคล้ายกันแบบนี้ด้วยหรอ?" แวนเนสแกล้งย้อนถามพี่ชายหน้าซื่อ

"ก็ไม่หรอกต้องดูว่าเขาแยกประเภทกันแบบไหน ถ้าอย่างสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเนี่ยก็เท่ากับว่าปลาโลมากับคนเราก็เป็นประเภทเดียวกันแต่คนกับปลาน่ะไม่มีลักษณะภายนอกที่เหมือนกันซักหน่อย" เจอร์รี่ตอบน้องชายแบบวิชาการ แต่แวนเนสกลับอมยิ้ม

"แล้วไป.....งั้นชั้นก็คงคิดไม่ผิดที่ว่านายกับเสือก็คงจะเป็นประเภทเดียวกัน" เจอร์รี่ได้ยินก็ชะงักจ้องหน้าน้องชายตัวแสบตาขวางส่วนเคนนั้นหัวเราะนำไปเรียบร้อยแล้วเพราะรู้ว่าแวนเนสตั้งใจจะแขวะว่าพี่ชายดุเหมือนเสือ

"ระวังตัวไว้เถอะ! กวนประสาทชั้นอีกครั้งนึงได้เจ็บตัวแน่!" ชี้หน้าน้องชายพร้อมกับพูดขู่ แวนเนสยิ้มร่าที่ได้แหย่พี่ชาย

"ขำอะไร!" เมื่อทำอะไรแวนเนสไม่ได้ก็หันมาเขกหัวเคนแทนเพราะนั่งอยู่ใกล้มือ

"โอ้ย! ไม่ได้ขำนายซักหน่อย" เคนว่าพร้อมกับเอามือคลำหัวไปด้วย

"น่าเชื่อตายหละ! แล้วนี่นายต้องถูกลงโทษทำไม่ถึงยังมานั่งดูทีวีสบายใจเฉิบได้ฮึ?" ถามน้องชายอย่างหาเรื่อง

"อ้าว! ก็นายบอกว่าหลังกินข้าวเสร็จให้เวลาเป็นอิสระสองชั่วโมงงัยหละ" เคนร้องครางพร้อมกับแย้งพี่ชาย

"สองชั่วคงจะมากเกินไปลดเหลือแค่ครึ่งชั่วโมงก็พอและตอนนี้ก็ครบแล้ว ไป! ขึ้นห้องไปเดี๋ยวนี้เลย!" ชี้นิ้วไปทางบันไดพร้อมกับออกคำสั่งกับน้องชายอย่างพาลๆ

"โหย....อะไรวะ....มีแบบนี้ด้วย....." เคนโอดครวญพร้อมกับทำหน้าละห้อยใส่พี่ชาย

"จะไปไม่ไป!?" ยกมือขึ้นทำท่าจะตี เคนลุกพรวดขึ้นจากโซฟาทันที

"เพราะนายอ่ะ!" หันไปโทษแวนเนสก่อนจะรีบเดินขึ้นห้องไปโดยเร็ว

"อ้าว! ชั้นล้อเล่นนิดเดียวทำไมต้องไปลงกับน้องแบบนั้นด้วยวะ?" แวนเนสหันมาต่อว่าพี่ชาย

"ทำไม? มีปัญหาหรอ?" ย้อนถามแวนเนสเสียงห้วน

"เผด็จการชะมัด! ไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว!" แวนเนสต่อว่าพี่ชายอีกแล้วทำท่าจะเดินตามน้องชายขึ้นไปแต่ก็ถูกพี่ชายดึงแขนไว้ก่อน

"จะไปไหน?" ถามเสียงห้วนเล็กน้อย

"ไปหาเสี้ยวเทียน ทำไม? มีปัญหาหรอ?" เอาคำพูดพี่ชายมาย้อน

"เออมี!" ว่าแล้วก็ยืนขึ้นเอามือข้างหนึ่งเท้าเอว

"เอ่อ.....แหะๆๆๆ.....ชั้นลืมไปว่าเสี้ยวเทียนมันถูกลงโทษอยู่ห้ามเข้าไปคุยกับมันโดยไม่จำเป็น" แวนเนสเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นสีหน้าดุๆของพี่ชาย

"งั้น.....ดูทีวีต่อดีกว่า....." ว่าแล้วก็ค่อยๆนั่งลงที่โซฟาดูโทรทัศน์ตามเดิม พี่ใหญ่มองเจ้าน้องชายจอมกวนคนนี้พลางส่ายหน้าไปมาอย่างไม่รู้จะทำยังงัยดี



- ที่ห้องนอนไจ่ไจ๋ -

"ทำไมไม่ลงไปกินข้าว?" พี่ใหญ่เยี่ยมหน้าเข้ามาถามน้องเล็ก

"ไม่อยากกิน" ไจ่ไจ๋ตอบเสียงห้วนเล็กน้อยเพราะยังติดไม่พอใจพี่ชายอยู่

"ก็ดี แล้วนายฟังไว้นะว่าต่อไปนี้ถ้านายลงไปกินข้าวไม่ตรงเวลามื้อนั้นก็อดไปแล้วกัน" พี่ใหญ่เองก็ใช้มาตราการเด็ดขาดกับน้องเช่นเดียวกัน

"อดก็อดสิ! ไม่เห็นจะเดือดร้อนตรงไหนเลย" ไจ่ไจ๋พูดด้วยสีหน้าบึ้งตึงก่อนจะกระแทกตัวนอนลงที่เตียง

"ชักจะเอาใหญ่แล้ว! อย่ามาแสดงกิริยาก้าวร้าวกับพี่นะ!" เมื่อเห็นน้องเริ่มจะอาละวาดเจอร์รี่ก็ปรับสีหน้าให้ดูจริงจังขึ้น เขาก้าวเข้ามาในห้องนอนของน้องชายก่อนจะหันไปปิดประตูลง

"ผมก้าวร้าวตรงไหน? ก็แค่พูดตามความรู้สึก" เงยหน้าขึ้นเถียงพี่ชาย

"ไจ่ไจ๋!!" เจอร์รี่เองก็เริ่มหน้าบึ้งเช่นกัน

"เพิ่งรู้นะเนี่ยว่านอกจากโดนกักบริเวณแล้วยังต้องโดนหาเรื่องก่อนนอนทุกวันด้วย" แล้วไจ่ไจ๋ก็พูดว่าประชดพี่ชายขึ้นมาอีก

"มันจะมากเกินไปแล้วนะไจ่ไจ๋! ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่บ้างเลย!" เจอร์รี่หน้าตึงเมื่อโดนน้องชายอาละวาดใส่

"ถ้าผู้ใหญ่มีเหตุผลผมก็จะเชื่อฟังแต่ถ้าหากผู้ใหญ่ทำตัวไม่มีเหตุผลแล้วหละก็....." พูดไว้แค่นี้ก่อนจะสบตากับพี่ชายอย่างกวนโมโห

"ลุกขึ้นมาเลย!" ว่าแล้วก็ดึงแขนน้องชายขึ้นมาตั้งใจจะตีซักเพี๊ยะสองเพี๊ยะแต่เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นก่อนจึงได้แต่ยกมือค้าง

"ก๊อกๆๆๆ!!! ไจ่ไจ๋! พี่เอาอะไรมาให้นายกิน" จบคำพูดนั้นแวนเนสก็เปิดประตูห้องเข้ามาเมื่อเห็นพี่ชายจะตีน้องก็โวยวายใหญ่

"เฮ้ย! นายจะตีน้องทำไม? หาเรื่องไปทั่วเลยนะ!" ว่าพร้อมกับวางถาดอาหารที่ถือขึ้นมาไว้บนโต๊ะแล้วเดินมาดึงตัวไจ่ไจ๋ออกจากการเกาะกุมของพี่ชาย ไจ่ไจ๋ได้ทีรีบโผเข้าไปกอดแวนเนสแล้วฟ้องพี่ชายเป็นการใหญ่

"พี่รองช่วยผมด้วย พี่ใหญ่เข้ามาก็จะตีผม พอผมถามว่าจะตีเพราะอะไรพี่เขาก็ไม่ตอบ ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ" เจอร์รี่ได้ยินก็ถึงกับอ้าปากค้างเมื่อเจ้าน้องชายตัวดีใส่ร้ายเข้าซึ่งหน้า

"ทั้งปี! อารมณ์เสียเองแล้วก็ชอบมาลงกับน้อง นายเป็นโรคจิตหรือเปล่าฮึ?" แวนเนสเองก็ช่วยน้องต่อว่าพี่ชายด้วย

"นายเชื่อมันหรอแวนเนส? ไอ้เจ้านี่มันโกหก เมื่อกี้มันทั้งด่าทั้งเถียงชั้นฉอดๆแถมยัง....." เจอร์รี่ยังพูดไม่ทันจบแวนเนสก็พูดแทรกขึ้นมาอีก

"ชั้นเชื่อมัน เพราะเมื่อกี้ชั้นก็เห็นว่านายพาลกับเสี้ยวเทียนมาแล้วคนนึง นี่น้องคงแค่พูดอะไรไม่เข้าหูนายนิดเดียวมากกว่านายถึงได้หาเรื่องจะตีมันแบบนี้" พี่ใหญ่โดนว่าเอาแบบนี้ก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก ส่วนไจ่ไจ๋ได้แต่แอบมองพี่ใหญ่แล้วยิ้มเยาะเย้ย

"ไจ่ไจ๋.....พี่เอาข้าวมาให้กิน หิวหรือยังหละ?" แวนเนสไม่สนใจพี่ชายอีกแต่หันมาพูดกับน้องเล็กแทน

"หิวมากเลยครับพี่รอง เมื่อกี้ผมก็ขอพี่ใหญ่ลงไปกินข้าวแต่พี่เขาไม่อนุญาต บอกว่าต่อไปนี้นอกจากจะกักบริเวณแล้วยังจะให้ผมอดข้าวเย็นทุกวันอีกด้วย" ไจ่ไจ๋ได้ทีใส่ร้ายพี่ใหญ่ต่อ

"ไอ้ๆๆๆ....." พี่ใหญ่ชี้หน้าน้องเล็กอยากจะด่าให้สาสมแต่กลับนึกคำด่าไม่ออก

"มันจะมากเกินไปแล้วนะแบบนี้! น้องมันยังเด็กต้องกินข้าวให้ครบทุกมื้อเพื่อการเจริญเติบโตแบบเต็มที่แล้วนี่อะไรอีก? จู่ๆจะมาให้น้องอดข้าวเดี๋ยวมันก็เป็นโรคกระเพาะตายพอดี ครั้งที่แล้วแค่มันกินข้าวไม่ตรงเวลาก็ปวดท้องจนต้องผ่าตัด นายอยากให้น้องต้องไปนอนเจ็บอยู่ในโรงบาลอีกหรืองัยวะ?" แวนเนสได้ยินเช่นนั้นก็สวดพี่ชายยกใหญ่

"ชั้นไม่เคยบอกให้มันอดข้าวเย็น! แค่บอกว่าถ้าไม่ลงไปกินข้าวให้เป็นเวลาก็ไม่ต้องกินก็เท่านั้น!" พี่ใหญ่พูดแก้ตัวเสียงหลง

"ผมฟังผิดหรอ?" น้องเล็กถามลอยๆขึ้นมาพลางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ซึ่งแวนเนสก็พอจะรู้ว่าเจ้าน้องชายตัวดีเล่นงานพี่ใหญ่เข้าให้แล้ว

"เอาหละ จะเป็นยังงัยก็ช่างเถอะ....นายมากินข้าวก่อนดีกว่า ไม่งั้นเดี๋ยวปวดท้องแย่เลย" แล้วแวนเนสก็ตัดบทโดยเรียกให้น้องมากินข้าวที่เขายกขึ้นมาให้

"ขอบคุณพี่รองมากนะครับ ถ้าไม่ได้พี่ผมคงต้องนอนปวดท้องไปทั้งคืนเพราะคนใจร้ายบางคนไม่ยอมให้กินข้าวแน่ๆ" ไจ่ไจ๋พูดกับแวนเนสแต่ไม่วายแขวะพี่ใหญ่ไปด้วย

"ฝากไว้ก่อนเถอะ! แล้วพี่จะมาคิดบัญชีกับนายทีหลัง!" เจอร์รี่ชี้หน้าน้องเล็กก่อนจะพูดคาดโทษไว้แล้วเดินออกไปอย่างหงุดหงิด เมื่อพี่ใหญ่ออกไปแล้วไจ่ไจ๋ก็ค่อยหัวเราะออก

"นี่แหนะ! เราแกล้งพี่เขาใช่มั๊ย?" แวนเนสเขกหัวเจ้าน้องชายตัวแสบทีหนึ่ง

"แหม....ก็พี่ใหญ่ทำตัวให้น่าแกล้งมั๊ยหละ? จู่ๆก็มาบังคับผมให้อ่านหนังสือสำหรับคนแก่ซะอย่างงั้น ทีผมเอาการ์ตูนไปให้พี่ใหญ่อ่านเขายังไม่อ่านบอกว่าไร้สาระเลย" ไจ่ไจ๋แก้ตัวพร้อมกับตักข้าวกินไปด้วย

"ถึงอย่างนั้นก็เหอะ นายอย่าลืมนะว่านายน่ะยังมีความผิดติดตัวอยู่ จะอาละวาดกับมันก็ให้มันพอดีอย่าทำจนเกินไปไม่งั้นมันหมั่นไส้มากๆคนที่ลำบากจะไม่ใช่นายคนเดียว เพราะไอ้พี่กลางของนายจะซวยยิ่งกว่านายอีก" ได้ยินเช่นนั้นไจ่ไจ๋ก็ชะงักไป

"พี่กลางโดนพี่ใหญ่หาเรื่องหรอพี่รอง?" ถามพี่ชายกลับไป

"ใช่น่ะสิ มันหงุดหงิดที่โดนนายงอแงใส่ ไอ้พี่กลางมันเลยพลอยโดนร่างแหไปด้วย เมื่อกี้นั่งดูทีวีอยู่ดีๆก็โดนไล่ขึ้นห้องซะอย่างงั้น" แวนเนสพูดกับไจ่ไจ๋ตามจริง

"พี่ใหญ่นี่ไม่มีเหตุผลเลยจริงๆ" น้องเล็กต่อว่าพี่ชายอย่างไม่ค่อยจะพอใจนักเพราะเขาไม่อยากเป็นต้นเหตุที่ทำให้เคนต้องเดือดร้อนอีก

"แต่ครั้งนี้มันก็ไม่เป็นไรเท่าไหร่หรอกเพราะไอ้พี่กลางของนายมันก็นอนอ่านหนังสือสบายใจเฉิบแล้ว" แวนเนสพูดต่อยิ้มๆ

"พี่กลางก็ถูกบังคับให้อ่านหนังสือแบบนี้เหมือนกันหรอ?" ไจ่ไจ๋เสียงอู้อี้เพราะเคี้ยวข้าวอยู่เต็มปาก

"อืม....แต่ดูท่ามันจะสบายกว่านายเยอะว่ะ เพราะมันดันชอบหนังสือที่พี่ใหญ่ให้อ่านเลยไม่ถือว่าโดนบังคับแต่อย่างใด" แวนเนสตอบพร้อมกับเอามือเช็ดที่มุมปากให้น้อง

"เคี้ยวให้หมดปากก่อนแล้วค่อยพูดก็ได้ นี่ถ้าไอ้พี่ใหญ่มาเห็นนายโดนมันตบปากแน่ๆ" ไจ่ไจ๋กลืนข้าวคำโตลงคอก่อนจะยิ้มให้พี่ชาย

"ดีนะที่พี่รองสุดหล่อของผมไม่ใช่คนใจร้ายอย่างพี่ใหญ่" แวนเนสยิ้มออกเมื่อได้ยินคำเยินยอของน้องชาย

"เออพี่รองครับ....ผมไม่ได้คุยกับหลิงหลิงมาสองวันแล้วพี่รองจะให้ผมยืมโทรศัพท์ซักสิบนาทีได้หรือเปล่า?" ว่าแล้วไจ่ไจ๋ก็รีบอ้อนพี่ชายต่อ

"แค่นี้ก็จะลงแดงตายแล้วใช่มั๊ย?" แวนเนสว่าน้องยิ้มๆ

"พี่รองก็รู้ดีไม่ใช่หรอว่าคนที่มีแฟนน่ะไม่ได้คุยกันแค่วันเดียวก็แทบจะขาดใจอยู่แล้ว" น้องเล็กพูดถูกจุดเพราะแวนเนสเองก็โทรคุยกับกลอเรียทุกวันเช่นกัน

"พี่เข้าใจ เอาเป็นว่านายกินข้าวหมดก่อนแล้วพี่จะให้นายยืมโทรศัพท์ แต่อย่าคุยนานมากนักนะเดี๋ยวพี่ใหญ่มาเห็นพี่จะซวยไปด้วย" แวนเนสเองก็ยอมตามใจน้องทุกทีทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองไม่ควรทำแบบนั้นเพราะน้องอยู่ในระหว่างการถูกลงโทษ

"รับรองครับว่าไม่คุยนาน" ไจ่ไจ๋ยิ้มร่าพร้อมรีบตักข้าวกินจนหมด จากนั้นก็แบมือขอโทรศัพท์จากพี่ชายทันที

"ห้ามคุยนาน!" แวนเนสสั่งกำชับพร้อมกับส่งโทรศัพท์มือถือของตัวเองให้น้องชาย

"รับทราบครับผม" ไจ่ไจ๋รับคำแล้วรับโทรศัพท์มากดเบอร์อย่างคุ้นเคย

"พี่เอาจานไปเก็บก่อนนะ เดี๋ยวจะขึ้นมาเอาคืน" แวนเนสพูดกับน้องเบาๆก่อนจะเก็บจานชามที่น้องกินเสร็จแล้วเดินลงไปข้างล่าง ปล่อยให้น้องเล็กได้คุยโทรศัพท์เป็นการส่วนตัว



- ชั้นล่างของบ้าน -

"เอ่อ....." แวนเนสยิ้มให้พี่ชายแก้เก้อเมื่อเห็นพี่ชายมองเขาด้วยสายตาขุ่นมัว

"ชั้นจะเอาจานไปเก็บในครัว" พูดจบก็รีบเอาจานข้าวที่น้องกินเสร็จแล้วเข้าไปเก็บ

"เก็บเสร็จแล้วออกมาคุยกันหน่อยนะ!" เจอร์รี่สั่งเสียงห้วน แวนเนสยิ้มแหยๆเป็นการรับคำพี่ชายก่อนจะเดินเข้าไปในห้องครัวแต่แล้วเขาก็ไม่อยากออกไปหาพี่ชายซักเท่าไหร่เพรารู้ว่าเขาคงโดนพี่ชายบ่นชุดใหญ่อย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงยืนล้างจานถ่วงเวลา

"ทำอะไรน่ะ!?" แล้วพี่ใหญ่ก็โผล่หน้าเข้ามาถามเพราะเห็นว่าน้องเข้ามานานผิดปกติ แวนเนสได้ยินก็สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหมุนตัวกลับมา

"ชั้นล้างจานน่ะ ปล่อยทิ้งไว้เดี๋ยวพวกแมลงสาบจะมากินเศษอาหารที่เหลือ" แวนเนสตอบพี่ชาย

"ล้างเสร็จแล้วไม่ใช่หรอ? ออกมาข้างนอก" พูดด้วยน้ำเสียงห้วนๆตามเดิม แวนเนสทำหน้าทำตาล้อเลียนพี่ชายลับหลังแต่ก็รีบเดินตามออกไป

"รู้ใช่มั๊ยว่าน้องถูกลงโทษอยู่?" ทันทีที่แวนเนสหย่อนก้นลงนั่งเสียงพี่ชายก็ถามขึ้นทันที

"ก็รู้" แวนเนสตอบเสียงแผ่ว

"แล้วนายก็รู้ใช่มั๊ยว่าความผิดที่น้องมันทำกันครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย?" ถามน้องชายต่อไปอีก

"อืม" แวนเนสพยักหน้ารับ

"รู้ทุกอย่างแต่ทำไมถึงยังทำในสิ่งตรงกันข้าม? น้องมันควรได้รับบทลงโทษที่เข้มงวดเพื่อที่จะได้หลาบจำแต่นายก็กลับไปโอ๋มันไม่เข้าเรื่อง แล้วแบบนี้แทนที่มันจะจำมันกลับยิ่งได้ใจเพราะไม่ว่ามันจะทำอะไรผิดยังงัยซะก็ต้องมีคนอำนวยความสะดวกให้ตลอด" ว่าแล้วพี่ใหญ่ก็เปิดฉากอบรมแวนเนส

"ก็....." แวนเนสอ้าปากจะแก้ตัวแต่ก็โดนพี่ชายเอ็ดใส่เสียก่อน

"อย่าเถียง! เวลาชั้นพูดน่ะให้ฟังอย่างเดียว!" เอ็ดใส่น้องชายเสียงเข้ม แวนเนสจึงหุบปากสนิท

"การที่ไจ่ไจ๋มันไม่ลงมากินข้าวให้ตรงเวลานี่ไม่ใช่ความเดือดร้อนของคนอื่นแต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับปากท้องของมันเอง ถ้าขนาดมันยังรับผิดชอบตัวเองไม่ได้นายก็ไม่ต้องไปสนใจเหมือนกัน ชั้นสั่งห้ามเด็ดขาดเลยนะว่าต่อจากนี้ไปถ้ามันไม่ลงมากินข้าวให้ตรงเวลานายก็ไม่ต้องเอาขึ้นไปประเคนให้มันแบบนั้นอีก ในเมื่อไม่อยากกินก็ไม่ต้องกินแล้วรวมถึงเวลาอาหารมื้ออื่นๆด้วย ถ้ามันไม่ตรงต่อเวลาก็เก็บขึ้นให้หมดไม่ต้องให้กินอีก ดูซิว่ามันจะแข็งข้อได้อีกนานแค่ไหน" แวนเนสได้ยินก็เงยหน้าขึ้นมองพี่ชายอย่างอึ้งๆเพราะไม่นึกว่าพี่ใหญ่จะโหดกับน้องเล็กได้ลงคอ

"แต่น้องมันจะปวดท้องเอานะ" แวนเนสแย้งขึ้นเสียงแผ่ว

"ปวดท้องก็เรื่องของมันเพราะไม่มีใครทำให้มันปวดท้องได้นอกจากตัวมันเอง" เจอร์รี่สวนคำน้องทันควัน

"นายน่ะหัดทำใจแข็งกับมันซะบ้างไม่ใช่อะไรก็เอาแต่โอ๋มันตลอด!" แวนเนสทำตาปริบๆเพราะรู้สึกว่าคำๆนี้พี่ใหญ่น่าจะพูดกับตัวเองมากกว่า

"แล้วนี่ตอนนายลงมามันทำอะไรอยู่?" ถามแวนเนสต่ออีก

"คุยโทรศัพท์" แวนเนสหลุดปากออกไปแต่แล้วก็สะดุ้งโหยงรีบเอามือปิดปากตัวเอง

"อะไรนะ? คุยโทรศัพท์? มันใช้โทรศัพท์ที่ไหน?" เจอร์รี่ถามรุกต่อทันที แวนเนสทำหน้าอึ้งๆก่อนจะปฏิเสธอย่างตะกุกตะกัก

"ไม่ใช่ๆๆๆ น้องไม่ได้คุยโทรศัพท์แต่เมื่อกี้ชั้นกับมันคุยกันเรื่องโทรศัพท์น่ะ" หาข้อแก้ตัวได้ในทันใดแต่พี่ใหญ่ไม่เชื่อเพราะแวนเนสไม่เคยโกหกเขาได้เลยดังนั้นจึงยื่นมือออกไปตรงหน้าแวนเนส

"อะไรหรอ?" แวนเนสถามแบบไม่กล้าสบตาพี่ชาย

"เอาโทรศัพท์ของนายมาซิ" ว่าพร้อมกับกระดิกนิ้วไปด้วย แวนเนสเห็นดังนั้นก็ทำหน้าเจื่อนๆ

"โทร.....โทรศัพท์.....อยู่ข้างบน....." แวนเนสพูดตะกุกตะกักพร้อมกับชี้นิ้วขึ้นไปข้างบน

"ข้างบน? ในห้องนายงั้นหรอ?" ซักไซร้น้องชายต่ออีก

"ใช่แล้ว" แวนเนสพยักหน้ารับก่อนจะเอามือเกาหัวตัวเองแก้เก้อเพราะรู้ดีว่าพี่ชายไม่เชื่อเขาอย่างแน่นอน

"งั้นลุกขึ้นแล้วขึ้นไปดูกันว่าโทรศัพท์มือถือของนายยังอยู่ในห้องนอนของนายหรือเปล่า?" พี่ใหญ่พูดอย่างรู้ดีว่าแวนเนสต้องให้น้องเล็กยืมโทรศัพท์เพื่อให้โทรหาแฟนสาวอย่างแน่นอน

"ลุกสิ!" เมื่อเห็นน้องนั่งนิ่งไม่ขยับเจอร์รี่จึงกล่าวย้ำ แวนเนสเงยหน้ามองพี่ชายก่อนจะถอนหายใจยาวๆ

"ไม่ต้องไปดูหรอก ชั้นให้น้องยืมโทรศัพท์โทรหาแฟนมัน" แล้วก็ตัดสินใจสารภาพกับพี่ชายตรงๆ ซึ่งพี่ใหญ่เองก็ไม่ได้มีสีหน้าแปลกใจเลยซักนิด

"สนับสนุนกันดีนักแหละ" พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับหยิกที่ต้นแขนน้องชาย

"อู้ยยยยย....." แวนเนสหน้าตาเหยเก

"จะกล้าทำแบบนี้อีกมั๊ย?" ถามน้องชายด้วยน้ำเสียงดุๆ แวนเนสส่ายหัวโดยไม่ต้องคิด

"วันหลังถ้าคิดจะโกหกชั้นนายต้องซ้อมบทให้เหมือนกับเวลาแสดงละครซะก่อน เพราะนายไม่เก่งเรื่องการเล่นนอกบทเลยซักนิด" ต่อว่าน้องชายออกมาอีก

"เฮ่อ! ทำไมน้องแต่ละคนถึงได้เป็นแบบนี้นะ" เมื่อเห็นน้องได้แต่มองเขาด้วยสีหน้าจ๋อยๆอย่างน่าสงสารพี่ใหญ่ก็บ่นอุบเพราะลองน้องทำหน้าแบบนี้กันแล้วเขาต้องใจอ่อนทุกที

"ชั้นขอโทษ.....หลังจากวันนี้ไปชั้นจะใจแข็งกับน้องให้มากกว่าเดิม....." เมื่อเห็นท่าทางพี่ชายอ่อนลงแวนเนสก็รีบขยับเข้าไปกอดเอวพี่ชาย

"พูดแล้วทำให้ได้เถอะ!" ตวัดเสียงใส่น้องอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อ

"นายก็ต้องทำให้ได้เหมือนกันหละ" แวนเนสไม่วายแอบแหย่พี่ชายต่อด้วย

"เดี๋ยวเถอะ! ยังจะมาย้อนชั้นอีกหรอ?" ทำหน้าดุใส่น้องกลบเกลื่อนจุดอ่อนของตัวเอง

"คร้าบบบ.....ไม่กล้าแล้วคร้าบบบบ....." พูดจบก็หอมแก้มพี่ชายเสียฟอดใหญ่

"ไม่ต้องยุ่งวุ่นวายกับชั้นให้มากนักเลย! น่ารำคาญ!" ว่าแล้วก็ดันตัวน้องชายออกไปห่างๆ แต่แวนเนสกลับอมยิ้มเล็กน้อย

"อะ....งั้นให้เอาคืน....." ว่าแล้วแวนเนสก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆพี่ชายอีก

"ชั้นไม่ได้เล่นกับนายนะ!" ทำตาดุใส่เจ้าน้องชายจอมราวี

"ก็ไม่ได้เล่นงัยถึงให้เอาคืน เร็วๆสิจะไปนอนแล้ว" ไม่พูดเปล่าแต่ป่องแก้มให้พี่ชายหอมเหมือนเด็กๆ ทำเอาพี่ชายหลุดมาดขรึมจนได้แล้วก็ต้องหันมาหอมแก้มน้องคืนกลับไปฟอดใหญ่เช่นกัน

"รีบไปเอาโทรศัพท์คืนจากเจ้าไจ่ไจ๋ แล้วไปนอนเลยนะไอ้ตัวยุ่ง!" กัดฟันสั่งเจ้าน้องชายตัวดีส่งท้าย

"นายก็อย่านอนดึกนักหละ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องไปทำงาน" แวนเนสกำชับพี่ชายกลับไปเช่นกัน

"รู้แล้วครับ ไปได้แล้วไป....." รับคำน้องชายก่อนจะเอ่ยปากไล่น้องชายอีกครั้งหนึ่ง แวนเนสจึงลุกขึ้นก่อนจะบิดขี้เกียจเล็กน้อยแล้วเดินไปที่บันได

"ไจ่ไจ๋นะไจ่ไจ๋ นายทำให้พี่โดนด่าอีกจนได้....." แล้วแวนเนสก็บ่นอุบอิบกับตัวเองเบาๆก่อนจะก้าวขาเดินขึ้นบันได




 

Create Date : 30 มีนาคม 2552    
Last Update : 30 มีนาคม 2552 22:26:43 น.
Counter : 1256 Pageviews.  

Chapter 54

ตอนที่ 54

"มานี่ซิไอ้ตัวดี!" เคนล็อกคอน้องชายคนเล็กที่เพิ่งเดินงัวเงียตามแวนเนสลงมา

"เฮ้ย!! อะไรกันเนี่ยพี่กลาง?" ไจ่ไจ๋ร้องอุทานอย่างตกใจตัวเซไปตามแรงดึงของพี่ชาย

"นี่แหนะ! ปากสว่างนัก!" เคนไม่ตอบแต่ตบปากน้องชายเข้าให้

"โอ้ย! เรื่องอะไรมาตบปากผมหละ?" ไจ่ไจ๋โวยวายแต่แล้วก็เริ่มยิ้มเมื่อนึกขึ้นมาได้

"โดนพี่ใหญ่สอบสวนมาหรืองัย?" เคนผลักหัวน้องชายแรงๆอีกครั้งก่อนปล่อยตัว

"นายไปปล่อยข่าวอะไรไว้ฮึ?" พูดกับน้องเสียงห้วนสนิท ทำให้แวนเนสได้แต่มองน้องชายทั้งคู่อย่างงงๆ

"เฮ้ย! พวกนายพูดเรื่องอะไรกันวะ? บอกมั่งดิ" ถามไถ่ด้วยความอยากรู้

"ไม่บอก!" สองพี่น้องพร้อมใจกันตอบพี่ชาย

"เออ.....จำไว้เลย....." แวนเนสพูดแล้วทำหน้ามุ่ยๆ น้องเล็กอมยิ้มก่อนจะเดินไปกอดเอวแวนเนส

"โอ๋.....อย่างอนเลยนะ ผมบอกก็ได้" ไจ่ไจ๋ว่าแต่แล้วก็โดนเคนเดินเข้ามาผลักหัว

"โอ้ยพี่กลาง! อะไรนักหนาเนี่ย!" เมื่อโดนพี่ชายใช้กำลังหลายครั้งไจ่ไจ๋ก็เริ่มโวยวายขึ้นมา

"นั่นสิ! ใช้กำลังกับน้องเรื่อยเลย เดี๋ยวมันก็กลายเป็นคนติ๊งต๊องพอดี!" แวนเนสต่อว่าเคนเข้าให้ด้วยแต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ช่วยเลย

"พี่รอง! ถ้าจะเข้าข้างกันแบบนี้ไม่ต้องก็ได้นะครับ" แวนเนสกับเคนหัวเราะน้องชายออกมาพร้อมกัน

"ต่อให้ติ๊งต๊องชั้นก็ยังรับเลี้ยง" เคนพูดยิ้มๆเมื่อได้แหย่น้องจนพอใจแล้ว

"เดี๋ยวจะให้เลี้ยงไปตลอดชาติเลย" น้องเล็กพูดขู่พี่ชาย

"เอาสิ! พี่จะรอดูด้วยว่าใครจะตายก่อนกัน" เคนว่าพร้อมกับยักคิ้วให้น้อง

"พี่กลางตายก่อนแหงๆ เพราะพี่แก่กว่าผมตั้งหลายปี" ไจ่ไจ๋เองก็กวนพี่ชายกลับ

"เฮ้ย! พี่ไม่ตายง่ายๆหรอก พี่น่ะมีภูมิคุ้มกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว เจออะไรมาก็เยอะฉะนั้นพี่ไม่มีทางตายเร็วแน่ๆ" เคนย้อนคำน้องชาย

"งั้นพี่รองตายก่อนเพราะพี่รองแก่กว่าพี่กลาง" ไจ่ไจ๋หันไปลากแวนเนสเข้ามาเกี่ยวด้วย

"เฮ้ย! เรื่องอะไรลากพี่เข้ามาด้วยวะ? แต่เอาเถอะ.....พี่ตายก่อนก็ดีเหมือนกันพวกนายจะได้ทำศพให้พี่ จัดสถานที่ให้เปิดโล่งหน่อยนะแล้วเปิดเพลงฮิพฮอพในงานด้วย พี่ชอบ....." คำพูดของแวนเนสทำเอาน้องๆหัวเราะก๊าก

"ไอ้บ้า! งานศพที่ไหนเขาเปิดเพลงฮิพฮอพวะ? นายต๊องหรือเปล่า?" เคนต่อว่าพี่ชายพลางหัวเราะไปด้วย

"ทำไมหละ? ก็ชั้นชอบหนิ ชั้นบอกพวกนายไว้แล้วนะ ถ้าหากไม่ทำให้จะกลับมาหลอกให้หัวโกร๋นเลย" แกล้งทำหน้าขึงขังใส่น้อง

"น่ากลัวจะแย่" พูดจบก็ผลักหัวพี่ชายให้ด้วย

"เดี๋ยวเถอะ! นายน่ะมีความผิดติดตัวอยู่นะอย่ามาเกเรกับชั้นให้มาก" แวนเนสทำเสียงดุน้อง

"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายไม่ทราบ?" เคนตวัดเสียงย้อนถามพี่ชาย

"เกี่ยวสิวะ! หัวหน้าของนายน่ะเป็นพ่อของแฟนชั้นนะโว้ย! นายทำตัวไม่ดีมันก็ต้องมีผลกระทบมาถึงชั้นอยู่แล้วยังจะมาบอกว่าไม่เกี่ยวอีก!" แวนเนสเอ็ดใส่น้องชุดใหญ่

"กลัวไม่ได้แต่งงานหรอพี่รอง?" ไจ่ไจ๋ถามแทรกขึ้นมายิ้มๆ

"ฮึ! ถ้าพี่ไม่ได้แต่งงานเพราะพวกนายแล้วหละก็.....พวกนายสองคนต้องรับเลี้ยงพี่ทั้งชาติเลยด้วย" แวนเนสพูดขู่น้องชาย

"ผมน่ะได้อยู่แล้ว อยู่ที่พี่นั่นแหละจะยอมให้ผมเลี้ยงตลอดชาติหรือเปล่า?" ได้ยินน้องเล็กพูดเช่นนั้นแวนเนสก็ยิ้มออก

"ยอมสิ เริ่มจากวันนี้เลยดีมั๊ย?" ถามหยอกน้องชายกลับไป

"ได้! งั้นนายโทรไปบอกเลิกกับแฟนซะสิ" เคนแหย่พี่ชายกลับไปบ้าง แวนเนสจึงหันมาค้อน

"ตอนนี้ชั้นยังเลี้ยงตัวเองได้! ไม่รบกวนหละ" เคนกับไจ่ไจ๋หันไปหัวเราะด้วยกัน

"ไม่ต้องมาขำ! มีอะไรกินบ้างวะ? หิวแล้ว" แวนเนสว่าแล้วก็หันมาถามหาของกินจากเคน

"เจอร์รี่มันทำข้าวต้มกุ๊ยไว้ให้อ่ะ ไปกินสิ" เคนบอกแล้วก็หันมาทางน้องชายด้วย

"นายก็ไปกินข้าวซะ เสร็จแล้วมาช่วยพี่เอาเจ้าพีพีกับถางถางไปอาบน้ำหน่อย" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ยิ้มแล้วพยักหน้ารับ

"ได้เลยครับ รอแป๊บเดียวเดี๋ยวผมจะรีบกิน" ไจ่ไจ๋รับคำพี่ชาย

"เดี๋ยวชั้นช่วยด้วยคน" แวนเนสได้ยินก็รีบเสนอตัวขึ้นมาบ้าง

"ดีเลย! กำลังจะดูอยู่ว่านายจะมีแก่ใจที่จะช่วยโดยที่ชั้นไม่ต้องเอ่ยปากบ้างหรือเปล่า" เคนว่าแล้วยักคิ้วให้พี่ชาย

"ยังพูดไม่จบว่าชั้นจะช่วยดูอย่างเดียวนะ" แวนเนสพูดต่อก่อนจะยิ้มกวนให้น้องชายแล้วเดินเข้าไปในครัว

"ไอ้บ้านี่! จะกวนประสาทไปถึงไหน!" เคนตะโกนต่อว่าพี่ชายไล่หลังไปแล้วก็ได้ยินเพียงเสียงหัวเราะหึๆของพี่ชายดังตามมา

"ยังจะมายิ้มอีก! จะกินข้าวก็รีบไปสิ!" เมื่อทำอะไรพี่ชายไม่ได้ก็หันมาเอ็ดใส่น้องแทน

"พี่กลางเนี่ยขี้บ่นพอๆกับพี่ใหญ่เลย ระวังจะแก่เร็วนะ" ไจ่ไจ๋ไม่วายพูดแหย่พี่ชายด้วยอีกคน

"เดี๋ยวโดนเหยียบ! ปากคอเลาะร้ายใหญ่แล้วนะ!" ต่อว่าน้องชายอีก

"โหย....ล้อเล่นก็ไม่ได้....." น้องเล็กบ่นอุบอิบ เคนจ้องหน้าน้องชายตาขวาง

"ว่าแต่พี่ใหญ่ถามถึงพี่อี้เจวียนหรือเปล่า?" แล้วก็ถามเข้าเรื่องอีกครั้ง

"ก็ถามน่ะสิ! นายน่ะไปบอกอะไรเขา? ชอบพูดจาเกินความจริงพี่ไม่เคยคิดอะไรกับอี้เจวียนเกินไปกว่าเพื่อนเลยนะ" เคนพูดกับน้องเสียงห้วนๆ

"ไม่คิดจริงหรอ? ผมว่านะ.....พี่อี้เจวียนก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร ถึงไม่สวยสะดุดตาแต่น่ารักดีออก แถมพูดคุยสนุกอีกต่างหาก แล้วที่สำคัญยังคุยกับพี่แบบถูกคอซะด้วย หายากนะเนี่ยที่จะมีคนอื่นนอกจากคนในครอบครัวพูดคุยกับพี่ได้อย่างสนุกสนานเพราะว่าส่วนใหญ่คุยด้วยทีไรก็ต้องเบือนหน้าหนีเพราะพี่กลางชอบเถียง" น้องเล็กพูดร่ายยาวแต่ไม่วายแขวะพี่ชายไปด้วย

"หนอย! ไอ้ตัวดี! นายด่าพี่หรอ?" เคนตรงเข้าล็อกคอน้องชายพร้อมกับกัดฟันพูด

"โอ้ยยย.....พี่อย่าทำอะไรผมนะ เพราะถ้าเป็นคนที่ยอมรับความจริงได้ก็ต้องรับฟังข้อเสียของตัวเองอย่างมีสติ" น้องเล็กยังแหย่พี่ชายไม่เลิก

"ไจ่ไจ๋!!! นายตายซะเถอะ!!" ว่าแล้วเคนก็จัดการยกร่างน้องพาดบ่าแล้วเหวี่ยงไปมาเป็นการแก้แค้น

"โอ้ยพี่กลาง!!! เดี๋ยวตก!! ปล่อยผม!! พี่รองครับช่วยผมด้วย!!!" ไจ่ไจ๋ร้องเสียงดังลั่นบ้านแต่เคนก็ยังไม่ยอมปล่อย

"เฮ้ย!!! ทำอะไรกันวะ? เสี้ยวเทียน! ปล่อยน้องลง!" แวนเนสที่วิ่งหน้าตื่นออกมาร้องห้ามเคนยกใหญ่

"อยากให้ปล่อยใช่มั๊ย? ได้! งั้นนายรับนะ" ว่าแล้วก็ทำท่าจะจับตัวน้องเหวี่ยงไปทางพี่ชาย

"เหวออออ!!!" แวนเนสร้องอุทานด้วยความตกใจแล้วกางมือจะรับน้องเล็กแต่เคนกลับวางน้องลงที่พื้นเอาดื้อๆ

"พี่กลางบ้า! ผมไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ! เล่นอะไรแบบนี้!!" พอลงมายืนได้ไจ่ไจ๋ก็ต่อว่าพี่ชายชุดใหญ่ เคนนั้นได้แต่ยืนหัวเราะที่ได้แก้แค้นน้องแล้ว

"นั่นสิ! เดี๋ยวน้องตกลงมาหัวแตกจะว่างัย! เล่นอะไรไม่เข้าเรื่องเลย!" แวนเนสต่อว่าเคนด้วยอีกคน

"หัวแตกก็พาไปเย็บแผลน่ะสิ เรื่องแค่นี้ยังต้องถามอีกหรอ?" เคนเลยกวนพี่ชายเข้าให้บ้าง

"กวนเหลือเกินนะ! เดี๋ยวเถอะ!" แวนเนสเอ็ดใส่ก่อนจะนึกอะไรได้จึงหันไปทางไจ่ไจ๋ซึ่งก็เห็นน้องส่งสายตามาอย่างพอจะเข้าใจความหมายเช่นกัน เคนเห็นพี่น้องมองหน้ากันแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มก็เริ่มคาดเดาได้ว่าเขาคงต้องโดนรุมอย่างแน่นอน

"เลิกเล่น! พวกนายไปกินข้าวได้แล้ว!" เคนพูดกับพี่ๆน้องๆด้วยน้ำเสียงห้วนๆแต่สีหน้าระแวง

"ยังไม่หิวเท่าไหร่ แต่อยากจัดการกับใครบางคนมากกว่า จริงมั๊ยไจ่ไจ๋?" แวนเนสว่าแล้วก็ขอเสียงสนับสนุนจากน้องเล็กด้วย

"ใช่ครับพี่รอง! งั้นเราก็ลุยกันเลยเนอะ!" จบคำของไจ่ไจ๋ทั้งคู่ก็ตรงรี่เข้าไปหาเคนที่ทำท่าเตรียมจะหนีแต่สุดท้ายแล้วเสียงเคนก็ร้องดังลั่นบ้าน



- ตอนเย็น -

"คุยอะไรกันอยู่? เสียงดังลั่นไปข้างนอกเลย" เจอร์รี่ที่เพิ่งกลับมาจากทำงานถามน้องๆที่กำลังนั่งล้อมวงคุยกันอย่างสนุกสนาน

"พี่ใหญ่กลับมาแล้วหรอครับ" ไจ่ไจ๋รีบลุกไปรับพี่ชายแล้วจูงมือเดินเข้ามานั่ง

"เหนื่อยมั๊ย? ชั้นเอาน้ำเย็นๆให้นะ" เคนรีบถามเอาใจพี่ชายทันที พูดจบก็เดินเข้าห้องครัวไปรินน้ำมาให้พี่ชาย

"เดี๋ยวผมเอาของว่างมาให้กินด้วยแล้วกัน" ว่าแล้วไจ่ไจ๋ก็เดินตามเคนเข้าไปในครัวอีกคน

"ฮึ! พอมีความผิดติดตัวหละทำตัวน่ารักกันเชียว" เจอร์รี่ว่าพลางส่ายหัวยิ้มๆ

"เผื่อนายจะใจอ่อนงัย" แวนเนสพูดยิ้มๆเช่นกัน

"ไม่มีทาง! เพราะชั้นคิดไว้แล้วว่าจะลงโทษพวกมันยังงัย" เจอร์รี่ตอบแล้วหันไปทางน้องชายสองคนที่ยกเอาของกินมาให้เขาอย่างประจบ

"ดื่มน้ำหน่อยนะ" เคนว่าพร้อมกับยื่นแก้วน้ำให้พี่ชาย

"ขอบคุณครับ" เจอร์รี่รับมาพร้อมกับเอ่ยขอบคุณน้อง

"ไจ่ไจ๋.....เอาขนมมาวางใกล้ๆพี่ใหญ่สิ" ว่าแล้วก็หันไปบอกน้องชายด้วย

"พี่ใหญ่ครับ วันนี้ผมกับพี่กลางออกไปต่อแถวซื้อขนมเจ้าอร่อยมานะเนี่ย พี่ต้องกินเยอะๆนะครับ" พี่ใหญ่ยิ้มรับคำน้องแล้วอ้าปากรับขนมที่น้องป้อนให้

"เฮ่อ! น้อยใจจริงๆ น้องไม่สนใจ" แวนเนสเปรยขึ้นมาลอยๆ เคนได้ยินก็เอื้อมมือไปหยิบขนมแล้วยัดใส่ปากพี่ชายทั้งชิ้น

"โอ้ย! ไอ้บ้านี่! เดี๋ยวก็ติดคอตายกันพอดี! เล่นยัดเข้ามาทั้งชิ้นแบบนี้!" แวนเนสโวยวายพร้อมกับเอามือหยิบขนมชิ้นดังกล่าวออกจากปากตัวเอง

"ก็ต้องกินทั้งชิ้นถึงจะอร่อย คายออกมาทำไมหละ? อยากให้น้องป้อนไม่ใช่หรอ?" เคนย้อนคำพี่ชายอย่างหมั่นไส้

"ไม่ได้ขอร้องนายซักหน่อย!" ว่าแล้วก็กัดขนมชิ้นนั้นกินด้วยสีหน้ามุ่ยๆ เรียกเสียงหัวเราะจากพี่ๆน้องๆได้เป็นอย่างดี

"อร่อยมั๊ยพี่ใหญ่?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายอย่างเอาใจ

"อืม.....แต่พี่พอแล้ว พวกนายกินเถอะ" ว่าพร้อมกับส่ายหน้าเมื่อน้องหยิบขนมขึ้นมาอีกชิ้นเพื่อจะป้อนเขา

"พวกมันกินกันจนพุงจะแตกอยู่แล้ว! ที่วางอยู่ตรงนี้น่ะมันเหลือไว้" แวนเนสพูดแทรกขึ้นมา

"ไม่ได้เหลือนะ! แบ่งไว้ให้ต่างหาก! ปากเสียอีกแล้ว!" เคนเอ็ดพี่ชายคนรองทันที

"งั้นหรอ? แต่เมื่อกี้ชั้นเห็นพวกนายบอกว่าอิ่มกินต่อไม่หมดแล้วจะทิ้งก็เสียดายเลยเก็บไว้ให้พี่ใหญ่กินต่อดีกว่าไม่ใช่หรอ?" แกล้งแหย่น้องชายต่อ

"ไม่ใช่! พี่รองเนี่ยชอบใส่ร้ายกันจังเลย! ผมกับพี่กลางซื้อมาสองถุง เอามากินเองถุงนึงแล้วก็เก็บไว้ให้พี่ใหญ่ถุงนึงต่างหาก หาเรื่อง!" ไจ่ไจ๋ช่วยเคนแย้งพี่ชายและไม่วายต่อว่าพี่ชายไปด้วย

"ไม่ต้องเถียงกันแล้ว จะเก็บไว้ให้หรือจะเหลือไว้ให้พี่ก็ชื่นใจเหมือนกันแหละ อย่างน้อยก็ยังดีที่พวกนายยังคิดถึงพี่บ้าง" พี่ใหญ่รีบห้ามทัพเมื่อเห็นน้องตั้งท่าจะเถียงกันต่อ

"พี่ใหญ่เนี่ยน่ารักที่สุดเลย ไม่เหมือนใครบางคน" น้องเล็กชมพี่ใหญ่แต่ไม่วายแอบแขวะพี่ชายคนรอง

"ฮึ! ที่ทำดีกับมันเพราะมีจุดประสงค์ใช่มั๊ยหละ?" แวนเนสย้อนอย่างรู้ทันน้องๆ

"มีจุดประสงค์อะไร? พูดดีๆนะโว้ย! ชั้นกับน้องน่ะเห็นว่าพี่ใหญ่อยู่กับนายก็ไม่ค่อยได้กินอะไรแถมยังต้องคอยสรรหาโน้นนี่มาให้นายตลอด ฉะนั้นพอพวกชั้นอยู่ก็ต้องเอาใจใส่พี่ใหญ่ให้มากหน่อยเพื่อชดเชยในสิ่งที่นายไม่เคยทำงัยหละ!" เคนเถียงกลับฉอดๆ

"อ้าวๆๆๆๆ!! พูดให้ดีๆนะโว้ย! ชั้นเนี่ยนะไม่เคยหาอะไรมาให้มัน?" แวนเนสได้ยินก็ทำหน้าเข้มใส่น้อง

"แล้วเคยหรอ? พี่ใหญ่.....เคยมีด้วยหรอครับ?" เคนย้อนพี่ชายก่อนจะหันไปถามพี่ใหญ่

"อืม.....ก็ไม่ค่อยมีหรอกนะ....." เจอร์รี่ตอบยิ้มๆ

"นั่นงัย!!" เคนกับไจ่ไจ๋พูดทับถมพี่ชายคนรองขึ้นมาพร้อมกัน แวนเนสได้ยินก็ทำหน้ามุ่ยแต่ไม่เถียงอะไรออกมาอีก

"แต่ก็มีบ้างเหมือนกัน อย่างเวลามีความผิดติดตัวอะไรแบบเนี่ยพี่จะได้ของกินอร่อยๆเพื่อแลกกับบทลงโทษสถานเบา" เจอร์รี่พูดต่อแต่เป็นเชิงว่ากระทบน้องทั้งสองคนด้วย

"ฮ่าๆๆๆ!!!" แวนเนสหัวเราะเยาะน้องชายทั้งคู่ที่โดนพี่ใหญ่พูดแขวะด้วย ยังผลให้น้องๆหน้าเจื่อนลงทันตาเห็น

"เอาหละ! เสี้ยวเทียน ไจ่ไจ๋ เราสองคนรู้ใช่มั๊ยว่าพี่จะลงโทษพวกเราวันนี้?" พี่ใหญ่ว่าแล้วก็พูดเข้าเรื่องทันที

"กินข้าวก่อนมั๊ย? นายไม่หิวหรอ?" เคนถามออกนอกเรื่องเพื่อเบี่ยงประเด็นๆ

"ไม่หิว เพราะพี่เพิ่งกินขนมของพวกนายไปเมื่อกี้นี้เอง" เคนหันไปยิ้มแหยๆกับน้องเล็กเมื่อพี่ชายไม่คล้อยตาม

"ลงโทษให้หนักๆเลยมันจะได้ไม่กล้าทำอีก" แวนเนสได้ทียุยงพี่ชายยกใหญ่ จึงโดนสายตาอาฆาตของน้องชายทั้งสองคนตวัดใส่

"แน่นอน" พี่ใหญ่ว่าแล้วก็มองหน้าน้องชายทั้งสองคนสลับกันไปมาก่อนจะปรับสีหน้าให้ดูเป็นการเป็นงานขึ้น

"ไจ่ไจ๋.....สำหรับนายพี่จะลงโทษโดยการกักบริเวณสองอาทิตย์....." พูดยังไม่ทันจบไจ่ไจ๋ก็โอดครวญขึ้นมาก่อน

"ตั้งสองอาทิตย์เชียวหรอพี่ใหญ่? ลดหน่อยได้มั๊ย?" เจอร์รี่ทำหน้าเข้มใส่น้อง

"นายไม่ควรพูดแทรกในขณะที่พี่ยังพูดไม่จบ" เตือนน้องเสียงดุเล็กน้อย ยังผลให้ไจ่ไจ๋หน้ามุ่ยลงทันตาเห็น

"นอกจากกักบริเวณสองอาทิตย์แล้วเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้องนอนทุกอย่างพี่จะดึงสายออกด้วยแต่ยังอนุญาตให้เปิดแอร์นอนได้" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็อ้าปากจะแย้งขึ้นมาอีกแต่พอเห็นสีหน้าของพี่ชายก็ไม่กล้า

"เวลาส่วนใหญ่นายต้องอยู่ในห้อง จะออกมาได้ต่อเมื่อถึงเวลาอาหารและหลังกินข้าวแล้วทุกมื้อนายจะต้องเป็นคนล้างจานชามทั้งหมดคนเดียว" พูดจบก็มองหน้าน้องที่แสดงอาการไม่ค่อยจะพอใจนัก

"และที่สำคัญก็คือ ตลอดสองอาทิตย์พี่จะยึดโทรศัพท์มือถือของนายไว้" พอได้ฟังดังนั้นไจ่ไจ๋ก็แย้งขึ้นมาทันที

"ไม่ได้นะพี่ใหญ่! ผมต้องติดต่อกับเพื่อนๆเผื่อมีธุระอะไรเร่งด่วนหละ?" พูดด้วยน้ำเสียงห้วนเล็กน้อย

"มีธุระอะไรพี่ก็จะรับเรื่องไว้ให้ และพี่บอกไว้ก่อนว่าถ้าภายในสองอาทิตย์นี้นายยังทำตัวงอแงให้เห็นพี่อาจจะต่อเวลาลงโทษออกไปอีก" ได้ยินเช่นนั้นไจ่ไจ๋ก็เงียบกริบ

"ส่วนเรื่องจะออกจากบ้าน ถ้าจำเป็นก็มาขออนุญาตพี่เป็นกรณีไป เข้าใจตามนี้แล้วนะ" พูดจบก็ถามย้ำน้องชาย น้องเล็กไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่พยักหน้ารับอย่างไม่พอใจเท่าไหร่นัก

"ตายแน่ไจ่ไจ๋ ไม่มีมือถือคงขาดใจตายตั้งแต่วันแรกแล้ว" แวนเนสพูดแหย่น้องแบบขำๆ น้องเล็กไม่พูดว่าอะไรเพียงแต่ค้อนใส่

"แวนเนส! นี่ไม่ใช่เวลาเล่น!" เจอร์รี่ดุเจ้าน้องชายจอมไฮเปอร์ด้วยอีกคน

"ขอโทษคร้าบบบ...." แวนเนสว่าแล้วก็ปิดปากเงียบเพราะกลัวจะติดร่างแหตามไปด้วย

"เสี้ยวเทียน.....สำหรับนายพี่ก็ลงโทษโดยการกักบริเวณเหมือนกัน แต่ระยะเวลานั้นคือหนึ่งเดือน รายละเอียดอย่างอื่นเหมือนกับที่ลงโทษไจ่ไจ๋" เคนได้ยินก็อึ้งๆไปเพราะนั่นหมายถึงว่าเวลาหนึ่งเดือนที่เขาน่าจะได้พักผ่อนไปไหนมาไหนได้บ้างกลับต้องมานั่งจับเจ่าอยู่แต่ในห้องนอน

"และนอกจากนั้นนายจะต้องเป็นคนกวาดถูบ้านทุกวันสำหรับข้างล่าง ส่วนข้างบนทำวันเว้นวัน" เมื่อโต้แย้งอะไรไม่ได้เคนจึงต้องผงกหัวยอมรับแต่โดยดี

"และยังมีอีกอย่างนึงก็คือ ทุกวันหลังจากที่พี่กลับมาบ้านนายต้องลงมาข้างล่างและยืนตามเวลาที่พี่กำหนด" เคนเงยหน้ามองพี่ชายทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น

"มีปัญหาอะไรงั้นหรอ?" เจอร์รี่ถามเมื่อเห็นน้องชายมองหน้าเขา

"เปล่าครับ" เคนส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะก้มหน้าลงแล้วถอนหายใจเบาๆ ตอนนี้เขาคิดว่าถ้าถูกตีน่าจะสบายกว่าเป็นไหนๆ

"ดี! ในเมื่อเข้าใจกันตามนี้แล้ว....แวนเนส!....." คนถูกเรียกชื่อสะดุ้งโหยง

"เฮ้ย! ชั้นไม่เกี่ยวนะ เรื่องนี้ชั้นไม่รู้ไม่เห็นอะไรกับพวกมันเลย แถมยังไม่ได้ช่วยพวกมันปกปิดอะไรนายด้วย" ร้องโอดครวญขึ้นมาทันทีเพราะคิดว่าตัวเองจะพลอยโดนเหมือนน้องด้วย

"แล้วชั้นจะไปทำอะไรนายหละ! แค่จะบอกให้นายไปดึงพวกสายโทรทัศน์วิทยุในห้องของพวกมันสองคนลงมาให้ชั้นก็เท่านั้นเอง" พี่ใหญ่พูดพลางทำหน้าเอือมๆกับเจ้าน้องชายคนนี้

"อ้าวหรอ? แล้วไป....นึกว่าจะเหมาชั้นรวมเข้าไปด้วย....." แวนเนสทำหน้าโล่งอกก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น

"ลำบากกันหน่อยนะน้องรักทั้งสองคน" ไม่วายพูดแหย่น้องทิ้งท้ายไว้ก่อนจะขึ้นไปข้างบนแล้วทำตามคำสั่งของพี่ชาย

"เอาหละ เสี้ยวเทียนไปยืนตรงมุมห้องโน้น" ว่าแล้วพี่ใหญ่ก็หันมาสั่งน้องชายคนกลาง เคนขยับตัวลุกขึ้นไปยืนตรงที่พี่ชายชี้

"ถามอะไรหน่อยได้มั๊ย?" เคนเอ่ยปากขึ้นมาเบาๆ พี่ใหญ่มองไปทางน้องก็จะพยักหน้ารับขรึมๆ

"ชั้นต้องยืนนานเท่าไหร่?" เคนถามพี่ชายออกไป เจอร์รี่มองหน้าน้องชายก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาแล้วลุกเดินเข้าไปหา

"ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องจนถึงวันนี้เป็นเวลากี่วันมาแล้ว?" เจอร์รี่ยังไม่ตอบแต่ย้อนถามน้องแทน เคนเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเหลือบตาไปทางน้องชาย

"ห้าวันครับพี่ใหญ่ พี่ถามทำไมหรอ?" ไจ่ไจ๋ตอบแทนเคนพร้อมกับลุกเดินเข้าไปถามด้วย

"ห้าวันงั้นหรอ? อืม....งั้นนายก็ยืนไปซักห้าชั่วโมงแล้วกัน" คำพูดของพี่ชายทำเอาเคนถึงกับอ้าปากค้าง

"ห้า....ห้าชั่วโมงหรอ?" ทวนคำพี่ชายอย่างอึ้งๆเพราะไม่นึกว่าพี่ชายจะลงโทษหนักขนาดนี้

"นายคิดว่ามันน้อยไปใช่มั๊ยเมื่อเทียบกับระยะเวลาที่นายโกหกชั้นมาถึงห้าวันน่ะ?" แกล้งย้อนถามน้องกลับไป ได้ยินเช่นนั้นเคนจึงส่ายหน้าแล้วปิดปากเงียบเพราะกลัวพี่ชายจะเพิ่มเวลาอีก ไจ่ไจ๋เห็นดังนั้นก็นึกสงสารเคนจึงเอ่ยปากกับพี่ใหญ่

"พี่ใหญ่ครับ เอาอย่างนี้แล้วกัน ผมจะยืนกับพี่กลางด้วยแต่จากห้าชั่วโมงขอเป็นคนละสองชั่วโมงครึ่งได้มั๊ย?" พี่ใหญ่เปลี่ยนสายตามาทางน้องเล็กก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ

"ไม่ได้" คำตอบนั้นทำให้น้องชายทั้งคู่ได้แต่หันไปสบตากัน

"อะ! ดึงออกมาหมดแล้ว" แล้วแวนเนสก็เดินถือสายปลั๊กไฟลงมาแล้วชูให้พี่ชายดู

"เออดี! เอาไปเก็บไว้ในลิ้นชักตรงนั้นให้ที" พี่ใหญ่หันมาไหว้วานแวนเนสอีกครั้ง แวนเนสเดินเอาไปสายปลั๊กไฟไปเก็บตามคำพี่ชายก่อนจะเอี้ยวตัวมองไปทางเคน

"อ้าว! นายไปยืนบื้ออะไรอยู่ตรงนั้นวะ? ทำไมไม่มานั่งหละ?" เอ่ยถามออกไปเพราะไม่รู้ว่าน้องถูกพี่ชายลงโทษให้ยืนด้วย

"อยากนั่งเหมือนกันแหละแต่นั่งไม่ได้นี่สิ" เคนโต้ตอบกับพี่ชายคนรองแต่คำพูดนั้นเหมือนจะว่ากระทบพี่ชายคนโตไปด้วย

"นั่งไม่ได้? นายเอาก้นไปลืมไว้ที่ไหนหรืองัยฮึ?" ถามน้องแบบติดตลกแต่เคนไม่ขำด้วย

"ไม่ได้ลืมไว้ที่ไหนหรอก เอาติดตัวไปด้วยตลอดแต่มีคนไม่ให้ชั้นนั่งน่ะสิ" เคนพูดคล้ายจะฟ้องแวนเนสกลายๆ

"อ้าว.....นายให้มันยืนด้วยหรอ?" ได้ยินแค่นั้นแวนเนสก็เข้าใจในทันทีจึงหันมาถามพี่ชาย

"ตั้งห้าชั่วโมงแหนะพี่รอง" น้องเล็กรีบฟ้องแทรกขึ้นมาอีกคน

"โอโห! จะให้มันยืนจนรากงอกเลยหรืองัย? เอาแค่ชั่วโมงนึงก็พอแล้วหรืออย่างมากสุดก็ไม่น่าเกินสองชั่วโมง น้องมันคนนะไม่ใช่ต้นไม้" แวนเนสหันไปต่อว่าพี่ชาย

"แล้วคนขายของเขายืนกันทีเป็นวันๆเขาเป็นต้นไม้หรืองัย?" เจอร์รี่ถามย้อนน้องชาย

"เอ้า! ดูมันเถียง....." แวนเนสบ่นแต่ก็ไม่รู้จะช่วยน้องยังงัย เคนทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะมองไปทางพี่ใหญ่อีกครั้ง

"พี่ใหญ่" แล้วก็เรียกพี่ชายขึ้นมา

"มีปัญหาอะไรอีก?" เจอร์รี่ย้อนถามพร้อมกับทำตาดุๆใส่น้อง

"เอาอย่างงี้ได้มั๊ย? ชั้นยอมให้นายตีแทนการยืน" เคนถามพี่ชาย

"ไม่ ชั้นบอกแล้วว่าการลงโทษครั้งนี้ชั้นไม่ตี" เจอร์รี่ส่ายหน้าปฏิเสธ

"ไม่เป็นไรถือว่านายไม่ได้ผิดคำพูดแต่ชั้นขอให้นายตีเอง" เคนรีบแย้งขึ้นมาทันทีเพราะไม่อยากยืนนานๆแบบนี้

"พี่กลาง! คิดดีๆน้า....." ไจ่ไจ๋ได้ยินก็รีบร้องเตือนพี่ชายอย่างเป็นห่วง

"นั่นดิวะเสี้ยวเทียน โดนตีน่ะเจ็บไปหลายวันเลยนะโว้ย" แวนเนสเองก็ไม่เห็นด้วยกับความคิดของเคนเท่าไหร่

"ทำไมหละ? ชั้นโดนก็ไม่ได้เกี่ยวกับนายหนิ อีกอย่างชั้นยอมเจ็บเพื่อที่จะได้กลับไปนอนสบายๆบนเตียงดีกว่าจะต้องมาทนยืนขาแข็งตั้งห้าชั่วโมง ได้เป็นลมตายกันพอดี....." เคนว่าแล้วก็มองหน้าพี่ใหญ่

"ตกลงจะให้ชั้นตีแลกกับการที่นายไม่ต้องยืน" เจอร์รี่ลุกเดินไปหาน้องก่อนจะถามย้ำ เคนพยักหน้ารับอย่างตัดสินใจเด็ดขาด

"งั้นก็ได้! แต่อย่ามาร้องโอดครวญทีหลังแล้วกัน....ไปหยิบไม้เรียวมา!" พูดจบก็ใช้ให้น้องไปหยิบไม้เรียว เคนลอบถอนหายใจก่อนจะเดินหายไปจากตรงนั้น

"เฮ้ย! ชั้นว่าไม่ดีนะ อย่าตีมันเลย" เมื่อเคนออกไปแล้วแวนเนสก็คัดค้านพี่ชายทันที

"นั่นสิครับพี่ใหญ่ ไหนๆพี่ก็กักบริเวณพี่กลางตั้งเดือนนึงแล้วแค่นั้นผมว่าก็หนักเอาการอยู่แล้วนะอย่าตีพี่เขาอีกเลย" ไจ่ไจ๋เองก็ช่วยขอร้องด้วยเพราะรู้ดีว่าการที่เคนต้องถูกพี่ใหญ่ลงโทษก็เพราะเขาทั้งนั้น

"แล้วพี่อยากจะตีมันหรอ? พวกนายสองคนก็เห็นว่ามันขอให้พี่ตีมันเอง" เจอร์รี่ย้อนคำน้องชายทั้งคู่

"ก็นายเล่นให้มันยืนซะห้าชั่วโมงเป็นชั้นก็ยอมโดนตีดีกว่าเหมือนกันแหละ" แวนเนสบ่นก่อนจะทำหน้ามุ่ยใส่พี่ชาย พี่ใหญ่ยิ้มบางๆก่อนจะส่ายหน้าไปมา

"พี่รับรองได้เลยว่าเดี๋ยวมันต้องเปลี่ยนใจ" บอกกับแวนเนสและไจ่ไจ๋อย่างมั่นใจทำให้น้องชายทั้งคู่ได้แต่หันไปสบตากันแต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่พี่ชายพูดนัก จนเมื่อผ่านไปครู่หนึ่งเคนก็ยังไม่กลับมาเจอร์รี่มองไปทางประตูอย่างสงสัยเพราะเคนหายไปนานผิดปกติ

"สงสัยมันเข้าห้องล็อกกุญแจกักบริเวณตัวเองเรียบร้อยแล้วแหงๆ" แวนเนสพูดยิ้มๆเมื่อนึกได้ว่าเคนคงหาทางเอาตัวรอดด้วยวิธีอื่น

"หรือไม่ก็ไม้เรียวของพี่ใหญ่คงโดนหักทิ้งจนเกลี้ยงแล้วมั้ง" ไจ่ไจ๋พูดเสริม พี่ใหญ่ได้ยินดังนั้นจึงเดินไปดูเสียเอง

"เอาอันไหนดีวะ? น่ากลัวทั้งนั้นเลย....." พี่ใหญ่ได้ยินเสียงเคนบ่นจึงผลักประตูเบาๆแล้วยืนมองเจ้าน้องชายตัวดี

"อันนี้เป็นงัยเนี่ย? อู้ย! เจ็บ....." เคนหยิบไม้ขึ้นมาอันหนึ่งก่อนจะลองตีที่มือตัวเองเบาๆแต่แล้วก็ร้องออกมาเบาๆ พี่ใหญ่เห็นดังนั้นก็ถึงกับอมยิ้มเพราะเจ้าน้องชายจอมเฮี้ยวของเขาทำท่าทางอย่างกับเด็กๆ

"ลองอันนี้ดีกว่า ท่าทางไม่น่าจะเจ็บเท่าไหร่" เคนวางไม้อันเดิมลงแล้วหยิบอันใหม่ขึ้นมาก่อนจะลองตีที่มือตัวเองอีกที

"อู้ย! เจ็บเหมือนกันนี่หว่า....." เคนบ่นอุบก่อนจะถูมือตัวเองกับกางเกง

"เจ็บเหมือนกันทุกอันนั่นแหละ!" แล้วเจอร์รี่ก็ปั้นหน้าขรึมเอ่ยปากขึ้นมา เคนได้ยินก็หันไปมองพี่ชาย

"ถ้าไม่เชื่อชั้นจะทดสอบให้ทุกอันเลย" ว่าแล้วก็เดินมาหยิบไม้อันนึงขึ้นมา เคนรีบถอยหนีทันที

"ไม่เอา ไม่ต้องลอง เอาอันไหนก็ได้" ว่าแล้วก็รีบเผ่นออกไปก่อนเพราะกลัวจะโดนพี่ชายตีฟรีๆ

"อ้าว! โดนจับมาได้หรอวะ?" แวนเนสเห็นน้องวิ่งออกมาก็เอ่ยปากถาม

"จับอะไรหละ? มันไปเร่งชั้นน่ะสิ" เคนตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆ

"พี่กลางไม่ได้หักไม้เรียวทิ้งหรอกหรอ? โธ่! นึกว่าจะฉลาด" ไจ่ไจ๋บ่นเคนเข้าให้

"ฉลาดตายหละ! ขืนหักไม้เรียวมันทิ้งพี่ก็ได้โดนไม้หน้าสามหวดแทนสิวะ! แบบนั่นน่ะถึงตายเลยนะโว้ย!" เคนแหวใส่น้องเข้าให้แต่ยังไม่ทันที่ใครจะพูดอะไรต่อพี่ใหญ่ก็เดินตามเข้ามา

"มานี่เลย! มายืนตรงนี้!" พี่ใหญ่พยักหน้าเรียกน้องชายคนกลางให้เดินมาหา

"นายแน่ใจแล้วนะว่าจะให้ชั้นตีจริงๆ?" แล้วก็ถามย้ำน้องชายอีกครั้ง

"เออ! จะตีก็ตีเถอะน่า!" เคนตอบรับอย่างรำคาญ

"แล้วจะมาหาว่าชั้นใจร้ายไม่ได้นะ" ว่าแล้วพี่ใหญ่ก็เงื้อนไม้เรียวในมือจนเกือบสุดแขน แวนเนสกับไจ่ไจ๋ได้แต่มองอย่างเสียวแทน

"เดี๋ยวๆๆๆๆ!!!" เคนเหลือบไปเห็นพี่ชายง้างมือซะขนาดนั้นก็รีบร้องห้ามขึ้นมาทันที

"อะไรอีกหละ?" พี่ใหญ่ลดมือลงแล้วเอามือข้างหนึ่งเท้าเอวย้อนถามเจ้าน้องชายตัวดี

"คือว่าก้นชั้นไม่ใช่ลูกกอล์ฟนะทำไมต้องควงวงสวิงซะขนาดนั้นด้วย" แวนเนสกับไจ่ไจ๋ได้ยินก็หันไปหัวเราะด้วยกันเข้าใจในทันทีว่าทำไมพี่ใหญ่ถึงบอกว่าเคนต้องเปลี่ยนใจแน่นอน

"นายขอให้ชั้นตีเองแล้วจะมาโวยวายอะไรอีก? หรือจะเปลี่ยนใจกลับไปยืน?" ถามน้องชายกลับไป เคนทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามพี่ชายอีกครั้ง

"นายจะตีกี่ที?" พี่ใหญ่ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยก่อนตอบ

"หนึ่งโหล....." ทันทีที่ได้ยินเคนก็ทำหน้าเจื่อนๆ

"โหย! ทำไมโหดแบบนี้หละ? ลดลงครึ่งนึงได้มั๊ย?" ต่อรองกับพี่ชายอีก

"ชั้นยังพูดไม่จบนะ ชั้นจะบอกว่าหนึ่งโหลต่อหนึ่งชั่วโมง อันนี้คือขาดตัวแล้วไม่มีการลด" คำพูดของพี่ชายทำเอาเคนถึงกับสะดุ้ง

"หา!!! หนึ่งโหลต่อหนึ่งชั่วโมง!" ร้องอุทานอย่างคาดไม่ถึง

"หมายความว่านายจะตีชั้นห้าโหล สิบสองคูณห้าเท่ากับหกสิบ?" เจอร์รี่พยักหน้ารับตามนั้น เคนฉีกยิ้มให้
ก่อนจะเอามือตบไหล่พี่ชาย

"พี่ใหญ่ครับ งั้นชั้นแนะนำวิธีที่ดีกว่านี้ให้นะ พี่ไม่ต้องเหนื่อยแล้วชั้นก็ไม่ต้องทรมานมากด้วย" เจอร์รี่ไม่พูดว่าอะไรเพียงแต่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

"ไม้เรียวเนี่ยเก็บไปเลย แล้วนายเดินเข้าไปในครัวนะหยิบมีดปลายแหลมออกมาเสร็จแล้วก็เสียบตรงหน้าอกข้างซ้ายชั้นทีเดียวแม่นๆ รับรองว่าผลที่ได้เหมือนกัน" แวนเนสกับไจ่ไจ๋หัวเราะกับคำพูดของเคน

"จะบ้าหรืองัย! จะฟาดซะดุเดือดขนาดนั้นก็ได้ตายกันพอดี! เห็นร่างกายชั้นทำจากปูนปลาสเตอร์งั้นหรอ?" แล้วก็โวยวายใส่พี่ชายขึ้นมาอีก

"ช่วยไม่ได้ ก็นายอยากให้ชั้นตีเองนี่นา แล้วตกลงจะเอางัย? ยังอยากจะโดนตีแทนที่จะยืนสบายๆอีกมั๊ย?" แล้วก็ถามน้องกลับไปอีก เคนค้อนใส่พี่ชายก่อนจะเดินกลับไปยืนตามเดิม

"ใจร้ายชะมัด! ไม่เคยพบเคยเห็นใครจะใจร้ายเท่านี้เลย!" เคนบ่นอุบอิบหน้ามุ่ยสนิท พี่ใหญ่หัวเราะเบาๆก่อนจะหันไปยักคิ้วกับน้องชายอีกสองคน

"เห็นมั๊ย? บอกแล้วว่ามันต้องเปลี่ยนใจ" ซึ่งแวนเนสกับไจ่ไจ๋ก็หัวเราะด้วยเช่นกันแต่แล้วไจ่ไจ๋ก็นึกสงสารเคนขึ้นมา

"พี่ใหญ่ครับ แต่ห้าชั่วโมงนี่ไม่โหดไปหรอ?" หันไปถามพี่ชายคนโต

"โหดหรอ? พี่ว่ามันน้อยไปด้วยซ้ำ" เจอร์รี่แย้งขึ้นก่อนจะตัดบท

"พี่หิวข้าวแล้ว ไปกินข้าวกัน" ชวนแวนเนสกับไจ่ไจ๋ไปกินข้าว

"อ้าว! แล้วชั้นหละ?" เคนร้องถามขึ้นมาบ้างเพราะได้ยินแว่วๆว่าจะกินข้าว

"ก็ยืนไปก่อน ครบกำหนดเวลาเมื่อไหร่แล้วค่อยกิน" เจอร์รี่ตอบ

"ชั้นก็เป็นลมตายพอดีน่ะสิ หิวเหมือนกันนะ!" เคนบอกกับพี่ชายด้วยน้ำเสียงกระชากเล็กน้อย

"มันก็เป็นเรื่องของนาย แต่บอกไว้ก่อนว่าถ้าออกมาแล้วเห็นว่านายแอบนั่งแล้วหละก็ คืนนี้ไม่ต้องนอน!" พูดจบพี่ใหญ่ก็โอบไหล่แวนเนสกับไจ่ไจ๋คนละข้างแล้วพาเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อกินข้าว ปล่อยให้เคนได้แต่มองตามหน้ามุ่ย

"ใจร้าย! คอยดูนะพ่อแม่กลับมาเมื่อไหร่ชั้นเอาคืนให้สาสมแน่!" เคนบ่นอุบอิบแต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงพี่ชายกระแอมดังขึ้น

"อะฮึ่ม! โดนลงโทษอยู่แทนที่จะสำนึกกลับมาแอบด่าชั้นอีกหรอ? สงสัยต้องโดนไม้เรียวจริงๆซะหละมั้ง" เจอร์รี่เดินกลับออกมาพร้อมกับพูดกับน้องเสียงดุๆ

"ก็มันน่าด่ามั๊ยอ่ะ ชั้นก็โดนที่ทำงานลงโทษพักงานเดือนนึงแค่นี้ก็เครียดจะตายอยู่แล้วแทนที่คนเป็นพี่จะช่วยปลอบใจไม่ให้ชั้นคิดมากดันมาซ้ำเติมลงโทษซ้ำอีก เรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ทำเพราะตัวเองเลยซักนิด ซวยชะมัด!" เคนบ่นต่อมาอีกชุดใหญ่เพราะรู้ดีว่าพี่ชายไม่กล้าทำอะไรเขาอีกแน่

"พูดมากน่ารำคาญจริงๆ! เข้าไปกินข้าวเลยไปปากจะได้ไม่ว่าง!" พูดกับน้องเสียงห้วนอย่างไว้ฟอร์มเพราะความจริงแล้วพี่ใหญ่ก็ใจอ่อนกลัวว่าน้องจะหิวข้าวจนปวดท้องเช่นกัน

"หึๆๆๆ งั้นชั้นไม่ต้องยืนแล้วใช่มั๊ย?" เคนเปลี่ยนท่าทีกระทันหันเมื่อได้ยินพี่ชายว่าเช่นนั้น

"กินเสร็จแล้วค่อยมายืนต่อ" พูดจบก็หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในครัว เคนมองตามพี่ชายก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆแล้วรีบเดินตามเข้าไปเพื่อจะได้กินข้าวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา




 

Create Date : 30 มีนาคม 2552    
Last Update : 30 มีนาคม 2552 22:25:03 น.
Counter : 5474 Pageviews.  

Chapter 53

ตอนที่ 53

"ห้ามด่ามันเด็ดขาดเชียวนะ แล้วห้ามพูดอะไรให้มันสะเทือนใจด้วย" แวนเนสสั่งกำชับพี่ชายก่อนที่จะเดินเข้าไปในเขตบ้าน

"ชั้นรู้แล้วน่า" เจอร์รี่ตอบรับแล้วรีบเดินเข้าไปในบ้านโดยเร็ว จนเมื่อเห็นน้องชายคนกลางนั่งหน้าเศร้าก็ได้แต่ยิ้มแก้เก้อ

"เสี้ยวเทียน...." ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อเคนก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน

"เขาซื้อไปตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมถึงเพิ่งมาบอกชั้นหละ?" พี่ใหญ่ทำหน้าแหยๆก่อนจะหันไปขอความช่วยเหลือจากแวนเนส

"เมื่ออาทิตย์ก่อน แต่ชั้นกับเจอร์รี่เห็นว่านายยังทำงานอยู่เลยยังไม่ได้บอก กะว่าจะบอกตอนนายกลับมาบ้านนี่แหละ" แวนเนสตอบคำถามนั้นเสียงเอง ส่วนไจ่ไจ๋ก็ได้แต่มองพี่ชายทั้งสามคนไปมาเพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี

"อย่างงั้นเองน่ะหรอ?" เคนพึมพำแต่ก็ไม่ได้โทษพี่ชาย

"เอ่อ.....คือว่าตอนนี้.....ที่บ้านอาเจียงนั่นเขาก็ยังไม่ได้ย้ายเข้ามาอยู่ ถ้านายอยาก....." เจอร์รี่พูดยังไม่ทันจบเคนก็ส่ายหน้าก่อนเพราะพอจะรู้ว่าพี่ชายจะพูดว่าอะไร

"ชั้นไม่ไปหรอก แบบนั้นผิดฐานบุกรุกเชียวนะ" ได้ยินเช่นนั้นแล้วสามพี่น้องก็ได้แต่มองหน้ากันไปมา

"พี่กลางครับ ผมว่านะ สงสัยพออาเจียงรู้ว่าพี่กลางอยากจะทำบุญ อาเจียงเลยดลบันดาลให้บ้านหลังนั้นขายได้เร็วๆแหงๆ แบบนี้ก็แสดงว่าอาเจียงเขาต้องสนุบสนุนให้พี่กลางทำแบบนี้อย่างเต็มที่เลยงัย" ไจ่ไจ๋พูดปลอบพี่ชายขึ้นมาบ้าง เคนได้ยินก็เงยหน้าขึ้นมามองน้องชาย

"จริงหรอ?" ย้อนถามน้องกลับไปอย่างไม่แน่ใจ

"จริงสิครับ บ้านน่ะไม่ใช่ว่าใครก็จะมาซื้อกันได้ง่ายๆซักหน่อย เขาต้องตะเวนดูหลายๆที่จนกว่าจะได้หลังที่ถูกใจ พอได้หลังที่ถูกใจแล้วก็ต้องได้ราคาที่เขาพอใจด้วยถึงจะตกลงกันได้ ฉะนั้นการที่พี่กลางขายบ้านได้เร็วขนาดนี้โดยที่คนซื้อนั้นไม่ได้ต่อรองเรื่องราคาเลยซักนิดผมว่าคงมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยอีกแรงอย่างแน่นอน" เคนได้ยินเช่นนั้นก็มีสีหน้าดีขึ้นแม้จะรู้ว่าน้องเพียงแค่ต้องการปลอบใจแต่เขาก็อยากจะเชื่อแบบนั้นเหมือนกัน

"นั่นสิเสี้ยวเทียน อย่าทำหน้าเศร้าไปเลย ไม่งั้นอาเจียงเห็นนายเป็นแบบนี้แล้วอาคงคิดว่าอาต้องทำผิดแน่ๆที่ดันไปบันดาลใจให้คนมาดูบ้านชอบบ้านหลังนั้นแบบเต็มเปา" แวนเนสช่วยพูดปลอบอีกแรง

"แล้วอีกอย่างนะ นายไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแต่นายทำเพื่อประโยชน์ของเด็กๆไม่ใช่หรอ? ตอนนี้เด็กกำพร้าหลายคนคงรอความช่วยเหลือจากนายอยู่แน่ๆ" พี่ใหญ่พูดต่ออีก เคนมองหน้าพี่น้องทั้งสามคนก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง ไม่ว่าเขาเป็นยังงัยพี่น้องทุกคนก็พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ

"ขอบคุณพวกนายมากนะ ชั้นก็ทำอวดเก่งไปอย่างนั้นแหละ พอเอาเข้าจริงตอนนี้ชั้นเริ่มหวงบ้านไม่อยากขายซะแล้วหละ" เคนพูดกับพี่น้องออกไปตามตรง

"แต่ช่างเถอะ! ตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ชั้นก็หวังว่าคนที่มาซื้อคงจะมีความสุขในบ้านหลังนั้น" ได้ยินเช่นนี้พี่น้องทั้งสามคนก็ยิ้มออก

"บางทีนะเสี้ยวเทียน เราอาจจะได้กลับไปที่บ้านหลังนั้นอีกครั้งก็ได้" แวนเนสบอกเป็นนัยๆพร้อมกับขยับเข้าไปโอบไหล่น้องชาย

"ทำไม? เพราะชั้นโฆษณาเกินจริงแต่พอเขาเข้าไปอยู่แล้วอาจจะไม่เหมือนที่ชั้นโฆษณาไว้เลยขายคืนให้งั้นหรอ?" เคนพูดแบบติดตลก

"นั่นสิ อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ใครจะไปรู้ เนอะ!" ว่าแล้วแวนเนสก็หันไปพยักหน้ากับพี่ชาย ซึ่งเจอร์รี่ก็พยักหน้ารับ

"ตอนนั้นชั้นคงโดนฟ้องล้มละลายแน่เพราะคงไม่มีปัญญาหาเงินมาซื้อคืนหรอก" เคนพูดยิ้มๆ

"พูดโง่ๆไปได้! พี่ใหญ่ออกจะรวยนายก็อ้อนเขาหน่อยสิไม่วายจะรีบถอนเงินมาประเคนให้นาย" แวนเนสสร้างบรรยากาศให้ดีขึ้น

"นั่นสิครับ ไหนจะมีพ่อกับแม่อีก งานนี้รับรองว่าพี่กลางได้บ้านแถมรถแหงๆ" ไจ่ไจ๋รีบร่วมวงด้วยอีกคน

"หึๆๆๆ" แล้วเคนหัวเราะออกมาได้ในที่สุดซึ่งทำเอาสามพี่น้องถึงกับถอนหายใจกันด้วยความโล่งอก

"อื้ม!" แล้วไจ่ไจ๋ก็ขยับเข้าไปหอมแก้มพี่ชาย

"อะไรอีกหละเนี่ย?" เคนถามเจ้าน้องชายตัวดีเพราะนึกว่าน้องจะอ้อนอะไรเขาอีก

"เปล่าครับ แค่อยากจะขอบคุณสำหรับอาหารเย็นวันนี้ หลิงหลิงประทับใจมากเลย" ไจ่ไจ๋พูดเปลี่ยนเรื่อง

"ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่แฟนนายนี่น่ารักดีนะ" เคนเอ่ยชมกลับไปบ้าง

"แหงสิครับ ก็ผมมันตาถึงนี่" น้องเล็กได้ทีพูดอวด

"โห่!!" พี่ชายสามคนโห่ออกมาพร้อมกัน หลังจากเงียบไปพักหนึ่งเคนก็เหลือบมองหน้าแวนเนส

"มองหน้าชั้นทำไม?" แวนเนสถามเมื่อเห็นน้องมองมา

"ชั้นอยากบีบคอนายจังเลย!" เคนพูดกับพี่ชายตรงๆ

"อ้าวไอ้นี่! ชั้นไปทำอะไรให้นายฮึ?" แวนเนสได้ยินก็โวยวายเสียยกใหญ่

"ทำอะไร? นายจะพาพ่อกลอเรียมาด้วยทำไมถึงไม่บอกชั้นตั้งแต่แรก? ทำเอาตกใจแทบตาย" แหวใส่พี่ชายกลับไป

"อ้าว! ถ้านายไม่มีความผิดติดตัวทำไมต้องตกใจด้วย ชั้นสงสัยตั้งแต่วันที่เจอกันที่ทะเลแล้วเชียวว่านายคงก่อเรื่องอะไรบางอย่างมาแหงๆ" แวนเนสเถียงกลับ

"อะฮึ่ม!" พี่ใหญ่แกล้งกระแอมขึ้นมาเมื่อเห็นเคนจะอ้าปากเถียงพี่ชายอีก

"เอ่อ....ชั้นว่า....ชั้นขอตัวขึ้นนอนดีกว่า.....รู้สึกเพลียจัง....." เคนว่าแล้วก็หาทางหลบเลี่ยงพี่ชายคนโตเอาดื้อๆ

"นี่! ชั้นยังไม่ลืมหรอกนะว่านายทำอะไรไว้ แล้วความผิดครั้งนี้ยังงัยซะนายก็ต้องถูกลงโทษหนียังงัยก็ไม่พ้นหรอก" เคนได้ยินก็มีสีหน้าเจื่อนลง

"แต่วันนี้จะปล่อยให้นอนทำใจซักคืน แล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน ไจ่ไจ๋.....นายก็เหมือนกันนะ" พูดจบก็หันไปบอกน้องเล็กด้วย

"ทราบแล้วครับ" ไจ่ไจ๋รีบคำพี่ชายหน้าจ๋อยๆด้วยเช่นกัน

"จะพักผ่อนกันก็ไปได้" จบคำพูดของพี่ชายเคนก็รีบลุกขึ้น

"งั้นชั้นไปนอนแล้วนะ ราตรีสวัสดิ์ครับทุกคน" ว่าแล้วก็รีบเดินขึ้นห้องไปทันที ไจ่ไจ๋เองก็ขยับตัวลุกขึ้นเช่นกัน

"เดี๋ยวไจ่ไจ๋....." แต่พี่ใหญ่ดึงแขนน้องไว้ก่อน

"ครับพี่ใหญ่?" ไจ่ไจ๋หันมาทางพี่ชายพร้อมกับย้อนถาม

"นายเข้าไปดูพี่กลางจนกว่ามันจะหลับได้มั๊ย? พี่ไม่อยากให้มันอยู่คนเดียว กลัวมันคิดมาก" พี่ใหญ่ไหว้วานน้องเล็กให้ช่วย

"ได้ครับ ผมจะเฝ้าพี่กลางจนกว่าพี่เขาจะหลับ พี่ใหญ่ไม่ต้องห่วงนะ" ไจ่ไจ๋รับปากแล้วรีบเดินตามเคนขึ้นไป

"เฮ่อ! โล่งอก.....ชั้นนึกว่ามันจะกลับมานั่งน้ำตาหยดแหมะๆซะอีก" เมื่อน้องเดินหายขึ้นไปกันแล้วเจอร์รี่ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

"เพราะนายนั่นแหละ! ดันพูดออกมาเอง" แวนเนสได้ทีต่อว่าพี่ชาย

"ก็มันหลุดปากหนิ ใครใช้ให้มันช่างย้อนกับชั้นนักหละ?" พี่ใหญ่ยังไม่ยอมรับซะทีเดียว

"เฮ่อ! แต่บอกมันไปแล้วก็โล่งไปหนึ่งเรื่อง" เมื่อมาคิดอีกทีก็ถือเป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน

"ก็ใช่.....แต่เมื่อไหร่เราถึงจะบอกมันได้หละว่าบ้านนั้นพ่อกับแม่เป็นคนซื้อขึ้นมาเอง" แวนเนสถามพี่ชาย

"ชั้นเองก็ยังไม่รู้ว่ะ แต่ที่แน่ๆชั้นไม่อยากเป็นคนพูดกับมันเลย ซวยจริง....ทำไมต้องเกิดเป็นพี่คนโตด้วยเนี่ย" ว่าแล้วเจอร์รี่ก็บ่นออกมาอีก

"ฝึกไว้เผื่อมีลูกนายจะได้รับมือได้ง่ายหน่อย" แวนเนสว่าพร้อมกับตบไหล่พี่ชายไปด้วย

"ถ้าชั้นมีลูกแล้วดื้อด้านอย่างพวกนายสามคนนะคงเอาไปปล่อยไว้สถานรับเลี้ยงเด็กแหงๆ" พูดกระทบเจ้าน้องชายตัวดีทั้งสามคน

"ทำเป็นปากดี! ลองมีซักคนสิไม่วายจะโอ๋จะเอาใจแล้วก็ตามใจยิ่งกว่าเจ้าไจ๋มันอีก ชั้นว่านะถ้านายมีลูกลูกนายคงถูกตามใจจนเสียเด็กแน่ๆ" แวนเนสพูดอย่างพอจะรู้จักพี่ชายดี

"ชั้นรู้น่าว่าจะต้องเลี้ยงดูลูกยังงัย ไม่ทำให้ลูกเสียคนหรอก" เจอร์รี่เถียงกลับ

"เอาเถอะ! ชั้นไม่เถียงด้วยแล้ว นายหาแม่ของลูกให้ได้ก่อนเถอะวะแล้วค่อยว่ากัน" แวนเนสพูดเป็นเชิงแซวพี่ชาย

"วันๆชั้นต้องมานั่งรบรากับพวกนายแบบนี้แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปหากันฮึ?" พูดจบก็ผลักหัวน้องด้วยความหมั่นไส้

"งั้นรอให้พวกชั้นสามคนแต่งงานก่อนแล้วกัน ตอนนั้นนายคงมีเวลาว่างเยอะเลย" แวนเนสพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง

"ฮึ! ใจคอนายนี่แต่งงานแล้วคงไม่กลับมาให้ชั้นเห็นหน้าอีกแล้วใช่มั๊ย?" ถามเจ้าน้องชายตัวดีด้วยน้ำเสียงห้วนๆ

"กลับมาสิ ชั้นจะกลับมากวนประสาทให้สบายใจบ่อยๆ แล้วนายไม่ต้องห่วงนะถ้าชาตินี้นายหาแฟนไม่ได้พอแก่ตัวลงไปแล้วชั้นจะ....." แวนเนสยังพูดไม่ทันจบพี่ใหญ่ก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน

"จะเลี้ยงพี่ใหญ่ใช่มั๊ย?" แวนเนสอมยิ้มแล้วส่ายหน้า

"เปล่า.....จะพาไปอยู่บ้านพักคนชราเพราะที่นั่นคนวัยทองเหมือนนายเยอะดี นายจะได้มีเพื่อนอารมณ์เดียวกันงัย" พูดจบก็หัวเราะร่าที่ได้แกล้งพี่ชาย

"ขนาดหมาแมวเลี้ยงไว้มันยังรู้จักบุญคุณเลยแต่กับไอ้น้องที่เฝ้าประคบประหงมมันมาตั้งเป็นสิบยี่สิบปีเนี่ยมันกลับคิดจะทิ้งพี่มัน รู้งี้ไม่น่าปล่อยให้โตมาจนป่านนี้ได้เลย" พี่ใหญ่พูดเปรียบเปรยทำเอาแวนเนสถึงกับสะดุ้งโหยง

"หูยยยย.....พูดเล่นเฉยๆไม่เห็นต้องด่าขนาดนี้เลย....." แวนเนสได้ยินก็โอดครวญทันที แต่พี่ใหญ่กลับแกล้งทำเป็นหันหลังหนี

"อย่าโกรธสิ แค่ล้อเล่นเอง โอเคๆๆๆ ชั้นมันปากไม่ดี ตบปากตัวเองก็ได้" แวนเนสขยับเข้าไปกอดพลางพูดง้อพี่ชายแล้วก็ตบปากตัวเองสองสามที

"ตบแค่นี้มันจะไปรู้สึกอะไร? ต้องแบบนี้!" พูดจบพี่ใหญ่ก็ตบปากน้องซะเอง

"โอ้ยยย....." แวนเนสร้องครางพร้อมกับเอามือแตะๆที่ริมฝีปากตัวเอง

"ตบซะแรงเลย" บ่นพึมพำแล้วขยับตัวออกห่างจากพี่ชายทันทีแต่ไม่กล้าโวยวายอะไรเพราะกลัวจะโดนอีก

"รีบขึ้นไปนอนเลยไป! คุยกับนายทีไรชั้นอารมณ์เสียทุกที!" สั่งเจ้าน้องชายตัวดีเสียงห้วน แวนเนสทำหน้ามุ่ยๆแต่ก็ขยับตัวลุกขึ้น

"อะไร? จะให้ตบปากอีกทีใช่มั๊ย?" พี่ใหญ่แกล้งทำเสียงดุเมื่อน้องยื่นหน้าเข้ามาใกล้ แวนเนสส่ายหน้าแล้วชี้ที่แก้มของตัวเองเป็นเชิงจะบอกให้พี่ชายหอมแก้มเขา

"นี่แหนะ!" พี่ใหญ่รู้อยู่แล้วว่าน้องต้องการอะไรแต่ก็แกล้งเอามือตบแก้มน้องเบาๆ

"ใจร้าย!" แวนเนสต่อว่าพี่ชายแล้วหมุนตัวจะเดินหนีแต่เจอร์รี่ก็ดึงแขนน้องไว้ก่อน

"อื้มๆๆๆๆๆ!!! พอใจหรือยัง?" แล้วก็หอมแก้มน้องชายแรงๆหลายครั้งก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้แกมเอ็นดู

"ให้หอมแค่ทีเดียวแต่หอมเกินมาตั้งหลายที! ไปไกลๆเลย! โป้งแล้ว!" แวนเนสหันมาทำเสียงกระเง้ากระงอดกับพี่ชายก่อนจะสะบัดก้นขึ้นไปข้างบน

"ฮึ! ไอ้น้องคนนี้.....เมื่อไหร่มันจะโตซักทีนะ....." พี่ใหญ่นั้นก็ได้แต่ส่ายหน้ากับความไม่รู้จักโตของเจ้าน้องชายคนนี้



- ห้องนอนไจ่ไจ๋ -

"หลับหรือยังเนี่ย?" เจอร์รี่เข้ามาในห้องนอนของน้องเล็กหลังจากแวะไปห่มผ้าให้แวนเนสกับเคนเรียบร้อยแล้ว

"ยังไม่หลับครับ พี่ใหญ่เข้ามาสิ" ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับเชื้อเชิญพี่ชายให้เข้ามา เจอร์รี่จึงหันไปปิดประตูอย่างเบามือแล้วเดินมานั่งที่เตียง

"เจ้าพี่กลางบ่นอะไรให้นายฟังหรือเปล่า?" เจอร์รี่ถามถึงน้องชายอีกคน

"ไม่มีครับ แค่คิดกันเล่นๆว่าพี่ใหญ่จะลงโทษพวกเรายังงัย" น้องเล็กตอบพร้อมกับยิ้มหวานให้พี่ชาย เจอร์รี่ได้ยินก็ทำหน้าบึ้งใส่น้อง

"รับรองว่าโดนหนักแน่ๆ เราก็จริงๆเลยนะไจ่ไจ๋เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาทำไมถึงปิดบังพี่อีก?" ว่าแล้วก็ได้ทีต่อว่าน้อง

"ก็....ถ้าบอกพี่ใหญ่ก็โมโหใช่มั๊ยหละ?" น้องเล็กพูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ

"นายตอบพี่มาซิว่าถ้าพี่โกหกอะไรนายซักอย่างแล้วนายมารู้เองภายหลังนายจะรู้สึกยังงัย?" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ทำหน้าจ๋อย

"โมโหน่ะก็ส่วนหนึ่ง แต่ถ้าเกิดเรื่องแล้วนายรีบบอกพี่ อย่างน้อยก็ให้พี่รับรู้บ้างมันจะไม่ดีกว่างั้นหรอ?" พี่ใหญ่พูดด้วยท่าทางค่อนข้างซีเรียส

"ทุกวันนี้พวกนายเองก็โตๆกันแล้วแต่ทำไมพี่ถึงยังต้องเข้มงวดกับพวกนายอยู่ ส่วนนึงก็เพราะแบบนี้งัยเวลามีเรื่องร้ายแรงอะไรเกิดขึ้นพวกนายก็ปิดบังพี่ไม่ยอมบอกพี่ แล้วพี่ก็ต้องมารู้เองทีหลังทุกครั้ง แบบนี้จะให้พี่รู้สึกยังงัยหละ?" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ขยับเข้าไปกอดพี่ชาย

"ผมขอโทษ แต่ที่ไม่ได้บอกพี่ไม่ใช่ว่าเพราะพี่ไม่สำคัญนะครับแต่ผมน่ะไม่อยากให้พี่ต้องเป็นห่วง การที่เราอยู่ห่างกันแน่นอนว่าพี่ต้องมีความเป็นห่วงทุนเดิมอยู่แล้วและยิ่งมาเกิดเรื่องแย่ๆแบบนี้ขึ้นมาอีกพี่ใหญ่ก็ต้องยิ่งมานั่งกังวลอยู่ตลอดเวลา แบบนี้ผมกับพี่กลางก็ไม่สบายใจเหมือนกัน" ไจ่ไจ๋อธิบายให้พี่ชายฟังเช่นกัน

"ก็เลยไม่ต้องให้พี่รู้ซะก็หมดเรื่อง" พี่ใหญ่ต่อคำให้น้องอย่างกระทบกระเทียบ

"ก็.....เรื่องบางอย่าง.....ถ้าไม่รู้จะสบายใจกว่าไม่ใช่หรอ?" ต่อคำพี่ชายพร้อมกับทำหน้าซื่อ เจอร์รี่มองหน้าเจ้าน้องชายตัวดีนึกอยากจะตีซักเพี๊ยะแต่พอเห็นน้องทำตาแป๋วใส่ก็ตีไม่ลง

"ยังจะมาเถียงอีก!" เมื่อทำอะไรไม่ได้จึงทำเสียงดุๆออกไป ไจ่ไจ๋ไม่พูดว่าอะไรเพียงแต่ก้มหน้าแล้วลอบถอนใจ

"เรื่องที่ไม่รู้น่ะถ้าเกี่ยวกับพวกนายแล้วพี่ไม่มีทางที่จะสบายใจหรอกนะ ต่อให้พวกนายจะทุกข์จะสุขพี่ก็อยากรับรู้ทั้งนั้น ถ้านายอยู่ดีมีสุขพี่ก็อุ่นใจ แต่ถ้าพวกนายกำลังทุกข์กำลังเศร้าพี่ก็อยากเป็นคนปลอบโยนหรือเป็นที่พึ่งพิงให้พวกนาย" น้องเล็กได้ยินก็เงยหน้าขึ้นมองพี่ชาย

"ผมเข้าใจพี่ใหญ่นะครับ และผมเองก็ไม่ได้อยากโกหกพี่ด้วยเวลาที่ผมต้องปิดบังอะไรพี่ผมก็ไม่สบายใจเหมือนกัน" ไจ่ไจ๋แก้ตัวกลายๆ

"ในเมื่อไม่สบายใจแล้วจะทำแบบนี้ทำไม?" ได้ยินเช่นนั้นไจ่ไจ๋ก็เงียบไป

"เพราะพี่กลางไม่อยากให้นายพูดใช่มั๊ย?" เจอร์รี่ถามน้องต่ออีก

"ไม่ใช่เพราะพี่กลางหรอกครับ คือว่า....." ไจ่ไจ๋รีบแก้ต่างให้เคนแต่พี่ชายก็พูดแทรกขึ้นมาอีก

"พี่เป็นพี่ของพวกนายเรื่องแค่นี้พี่รู้อยู่หรอกนะ" เมื่อเป็นเช่นนี้ไจ่ไจ๋จึงพูดอะไรไม่ออก

"เอาเถอะ.....พี่เองก็รู้ถึงความลำบากใจของนาย นายเองก็ไม่อยากจะขัดใจพี่กลางเหมือนกันใช่มั๊ย?" เห็นน้องทำหน้าจ๋อยเจอร์รี่ก็ไม่อยากดุน้องให้มากนัก

"พี่ใหญ่ ถ้าผมพูดอะไรกับพี่อย่างนึงพี่อย่าโกรธผมเลยนะ" ไจ่ไจ๋สบตากับพี่ชายพร้อมกับพูดออกมาตรงๆ

"อืม พูดมาสิ" พี่ใหญ่พยักหน้ารับแล้วบอกให้น้องพูด

"ผมว่าพี่กลางเขาก็คงจะบอกถ้าพี่ใหญ่ใจดีกับพี่กลางมากกว่านี้อีกนิดนึง ถึงพี่กลางเขาจะดูโผงผางไม่เกรงกลัวใครแต่ผมก็พอจะดูออกว่าถ้ากับพี่ใหญ่แล้วพี่กลางเขากลัวพี่ใหญ่มากอยู่เหมือนกัน" พี่ใหญ่นิ่งฟังในสิ่งที่น้องพูด

"หลังจากที่เกิดเรื่องคืนนั้นพี่กลางเขาถึงกับนอนไม่หลับ คิดหาวิธีจะบอกพี่ใหญ่แต่สุดท้ายพี่เขาก็ไม่กล้าบอกเพราะรู้ว่าต้องโดนพี่ใหญ่ดุแน่ๆ" หลังฟังจบเจอร์รี่ก็ถอนหายใจ

"เฮ่อ! พี่เองก็ยอมรับนะว่ามีส่วนผิดเรื่องที่พี่ดุเจ้าพี่กลางมากกว่าเพื่อน แต่ที่พี่เป็นแบบนี้มันก็เป็นผลมาจากเมื่อก่อน.....นายก็พอรู้ใช่มั๊ยว่าเมื่อก่อนไอ้พี่กลางเนี่ยมันเฮี้ยวสุดๆเลย แล้ววิธีเดียวที่พี่จะคุมมันอยู่ก็คือการดุและก็เข้มงวดกับมันให้มากขึ้น พี่ก็ไม่ได้อยากให้มันกลัวพี่หรอกนะแต่นายก็เห็นนี่ว่าเวลามันแผลงฤทธิ์ขึ้นมาแล้วพี่เองก็แทบจะเอามันไม่อยู่เลยด้วยซ้ำ" พี่ใหญ่เองก็พูดกับน้องตรงๆเช่นกัน

"ผมก็เข้าใจพี่ใหญ่นะครับ แต่พี่รู้มั๊ยว่าบางทีเวลาที่พี่ทะเลาะกันผมมักจะถูกพี่รองกับพี่กลางยกขึ้นมาเปรียบเทียบอยู่เรื่อย ผมไม่ชอบเลยเวลาที่พี่เขาบอกว่าพี่ใหญ่รักผมที่สุดเพราะผมเป็นน้องคนเล็ก ได้ยินแบบนั้นแล้วก็เหมือนกับว่าผมเป็นคนที่แย่งความรักไปจากพวกพี่เขา" ไจ่ไจ๋เองก็บอกกับพี่ชายตรงๆ

"ไจ่ไจ๋.....นายก็รู้ว่าพี่เขาสองคนไม่ได้คิดแบบนั้นซักหน่อย" พี่ใหญ่ได้ยินก็รีบแย้ง

"รู้ครับ แต่พอได้ยินบ่อยๆมันก็รู้สึกเหมือนกันนะ" ไจ่ไจ๋ให้เหตุผล พี่ใหญ่เลยเงียบไป

"เราอย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องอื่นกันเลย ผมขอกอดพี่ใหญ่ให้หายคิดถึงก่อนได้มั๊ย? ไม่ได้นอนกับพี่มาเป็นอาทิตย์เลย" เมื่อเห็นสีหน้าของพี่ชายขรึมลงไจ่ไจ๋ก็รีบเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากให้พี่ชายเครียด

"อื้ม! พี่ก็คิดถึงนายเหมือนกัน" เจอร์รี่เลยยิ้มออกเขาหอมแก้มน้องชายก่อนจะเอนตัวลงนอนและดึงให้น้องนอนลงมาด้วยเช่นกัน

"ไหนพี่ใหญ่บอกมาซิว่าระหว่างที่ผมไม่อยู่พี่ทำอะไรบ้าง?" น้องเล็กถามพี่ชายพร้อมกับขยับเข้าไปกอด

"ทำอะไรหรอ? อืม.....ก็ทำงาน ทำงานเสร็จก็กลับบ้านมารบกับเจ้าพี่รองของนาย เสร็จแล้วก็รอนายโทรมาพอคุยกับนายเสร็จแล้วก็อาบน้ำ เสร็จแล้วก็เข้าไปกล่อมไอ้เจ้าพี่รองให้หลับก่อนแล้วพี่ถึงจะได้หลับบ้าง พอตื่นมาก็ทำเหมือนเดิมทุกวัน" เจอร์รี่ตอบน้องชาย

"ทำไมพี่ถึงไม่คิดทำอย่างอื่นนอกจากทำงานเลยเนี่ย? เดี๋ยวก็แก่เกินวัยหรอก" น้องเล็กว่าพลางบีบจมูกพี่ชายเบาๆ

"หึๆๆๆ ก็คนมันมีงานทำนี่นา.....ถ้าพี่ว่างเหมือนนายก็คงได้เที่ยวบ้างหละ" เจอร์รี่เถียงน้องก่อนจะหอมแก้มน้องแรงๆอีกฟอดหนึ่งให้ชื่นใจ

"คราวนี้นายเล่ามาบ้างว่าไปเที่ยวครั้งนี้ทำอะไรบ้าง และที่สำคัญห้ามปิดบังอะไรพี่อีกเด็ดขาด" ว่าแล้วก็บีบจมูกน้องชายกลับ ไจ่ไจ๋ทำจมูกย่นใส่

"โอเค.....แต่เล่าแล้วห้ามบ่นนะ" พูดดักคอพี่ชายไว้ก่อน

"เล่ามาเลยเร็วๆ" เจอร์รี่ไม่รับปากแต่เร่งให้น้องรีบเล่าให้ฟัง

"ไปครั้งนี้ก็ได้ดื่มไวน์นิดหน่อย" พูดจบก็เหลือบมองปฏิกิริยาของพี่ชาย

"ไอ้พี่กลางเจ้ากี้เจ้าการอีกใช่มั๊ย?" ถามกลับอย่างพอรู้ทัน แต่น้องเล็กส่ายหน้า

"ไม่ใช่หรอก ผมเห็นพี่กลางดื่มก็เลยขอชิม พี่เขาเลยให้ผมดื่มแค่สองแก้ว ไม่เห็นเป็นไรเลย อร่อยดีออก" น้องเล็กแก้ตัวแทนเคนอีก

"ฮึ! เป็นเด็กเป็นเล็กริอาจไม่ยุ่งกับของพวกนั้นยังจะว่าไม่เป็นไรอีก" พี่ใหญ่ต่อว่าน้องแต่ก็ไม่ได้โกรธอะไร

"เอาเรื่องอื่นซิ เรื่องที่สร้างสรรค์หน่อยแบบว่าไม่ใช่แค่เที่ยวเล่นกินโน้นกินนี่อย่างเดียว" แล้วก็ถามถึงเรื่องอื่นๆบ้าง

"งั้นก็ไม่มีหรอกครับ เพราะนอกจากกินๆเที่ยวๆแล้วผมก็ไม่ได้ทำอะไรเลย" น้องเล็กตอบยิ้มๆเลยโดนพี่ชายขยี้หัวแรงๆ

"อ้อ! มีอีกเรื่องนึง.....แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผมเท่าไหร่แต่เป็นเรื่องของพี่กลางเขา" แล้วไจ่ไจ๋ก็พูดอย่างนึกขึ้นมาได้

"เรื่องเจ้าพี่กลาง เฮ่อ! หวังว่าคงไม่มีวีรกรรมอะไรอีกนะ" พี่ใหญ่พูดดักไว้ก่อน ไจ่ไจ๋ยิ้มเล็กน้อยก่อนเฉลย

"เรื่องผู้หญิง" พอได้ยินดังนั้นพี่ใหญ่ก็ผงกหัวขึ้นมาทันที

"อะไรนะ!! เรื่องผู้หญิงหรอ? นายอย่าบอกนะว่า....." พี่ชายคิดเตลิดไปไกลแล้วแต่น้องเล็กไม่รู้ว่าพี่ชายคิดไปไกลเลยพยักหน้า

"ไอ้ๆๆๆๆ.....ไอ้ตัวดีเอ้ย......" พี่ใหญ่ว่าแล้วก็ลุกพรวดขึ้นทันทีทำเอาไจ่ไจ๋เกิดอาการงง

"พี่ใหญ่จะไปไหน?" ร้องถามพี่ชายทันที

"จะไปฟาดกะบาลไอ้พี่กลางให้แตกซักที แม้แต่เวลาไปทำงานมันยังมีเรื่องแบบนี้ได้" พูดจบก็ทำท่าจะเดินออกไปแต่ไจ่ไจ๋รีบคว้าตัวพี่ชายไว้ก่อน

"เดี๋ยวก่อนพี่ใหญ่! พี่คิดอะไรน่ะ? ผมไม่ได้หมายความไปในทางนั้นเลยนะ" พอจับได้เลาๆว่าพี่ชายคิดอะไรไจ่ไจ๋ก็โวยวายขึ้นมาบ้าง

"อ้าว! ก็นายบอกว่า......" พอได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็ตั้งท่าจะย้อนแต่ไจ่ไจ๋พูดแทรกขึ้นมาก่อน

"ผมหมายถึงว่าพี่กลางอาจจะมีคนที่หมายตาหรือว่าปิ๊งๆกันอยู่บนเรือสำราญก็ได้ต่างหากเล่า" ไจ่ไจ๋รีบเฉลยให้พี่ชายฟังก่อนที่พี่ชายจะคิดเตลิดไปถึงไหนต่อไหน

"อ้าว! แล้วไม่บอกแต่แรก พี่ก็นึกว่ามัน....." แล้วเจอร์รี่ก็พูดอะไรไม่ออกเพราะรู้สึกกระดากเสียเอง น้องเล็กจึงแอบหัวเราะเบาๆ

"เพิ่งรู้นะว่าพี่ใหญ่เนี่ยก็คิดลึกเป็นกับเขาเหมือนกัน" เอ่ยแซวพี่ชายตามมา

"เดี๋ยวเถอะ!" เจอร์รี่ทำหน้าดุใส่น้องกลบเกลื่อนก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วถามน้องต่อ

"ใครกันที่เจ้าพี่กลางมันชอบ? แล้วมันแอบชอบเขาข้างเดียวหรือว่าเขาก็ชอบมันด้วย? แล้วเขาคนนั้นเป็นใคร? ชื่ออะไร? ทำงานอะไร? ครอบครัวอยู่ไหน? รู้จักกันได้ยังงัย? แล้วทำไมนายถึงรู้เรื่องพวกนี้?" ไจ่ไจ๋มองพี่ชายตาปริบๆเมื่อคำถามหลั่งไหลออกมาจากปากพี่ชายอย่างไม่ขาดสาย

"เอ่อ....แล้วผมจะตอบยังงัยเนี่ย?" ไจ่ไจ๋บ่นอุบ

"ก็ตอบตามที่พี่ถามนั่นแหละ" เจอร์รี่ว่าแล้วก็รอคอยคำตอบจากน้อง ไจ่ไจ๋เห็นท่าทางอยากรู้ของพี่ชายก็เลยอยากแกล้งซะอย่างงั้น

"ผมง่วงแล้วหละ ไว้พี่ใหญ่ถามพี่กลางเองก็แล้วกันนะ แต่บอกใบ้นิดนึงว่าชื่ออี้เจวียน" พูดจบก็มานอนลงที่เตียงแล้วหลับตาทันที

"เฮ้ย! อย่าเพิ่งนอนสิวะ! พี่ยังไม่รู้เรื่องเลย ไจ่ไจ๋! ลุกขึ้นมาคุยกับพี่ให้รู้เรื่องก่อน" เจอร์รี่ฉุดแขนน้องขึ้นมาแต่ไจ่ไจ๋ก็ทำตัวอ่อนเอนลงที่เตียงตามเดิม

"ไจ่ไจ๋! เฮ้ย! จะหลับแล้วจริงหรอ? คุยกันก่อน!" ว่าพลางเขย่าตัวน้องไปด้วยแต่ไจ่ไจ๋กลับแกล้งพลิกตัวหนีแล้วอมยิ้ม

"ไอ้น้องแต่ละคน.....ให้มันได้อย่างนี้สิ....." เมื่อเห็นว่าน้องชายไม่ยอมพูดพี่ใหญ่ก็ได้แต่บ่นอุบอิบ



- ตอนเช้า -

"เสี้ยวเทียนตื่นแล้วหรอ?" เจอร์รี่เอ่ยเรียกน้องชายที่เพิ่งเดินงัวเงียลงมา

"ขอโทษที่ตื่นสายไปหน่อย ชั้นจะรีบเตรียมอาหารเช้าให้ อย่าเพิ่งรีบไปหละ" เคนบอกพี่ชายพร้อมกับอ้าปากหาวไปด้วย

"ไม่ต้องๆ ชั้นเตรียมให้เสร็จแล้ว" เจอร์รี่บอก เคนได้ยินก็เลิกคิ้วก่อนจะพยักหน้ารับรู้

"งั้นหรอ? น่าจะบอกก่อนจะได้ไม่ต้องรีบตื่น" ว่าแล้วก็อ้าปากหาวอีก

"มานี่ซิ" เจอร์รี่ว่าพร้อมกับตบเบาะโซฟาข้างๆ เคนจึงเดินมานั่งลงตรงนั้นพร้อมกับเอามือขยี้ตา

"อย่าขยี้ตา แล้วทำไมถึงดูท่าทางง่วงหงาวหาวนอนแบบนี้? เมื่อคืนก็ขึ้นนอนไม่ดึกมากไม่ใช่หรอ?" พี่ใหญ่จับมือน้องไม่ให้ขยี้ตาก่อนจะใช้มือลูบหน้าลูบตาให้น้องชายพร้อมกับตั้งคำถาม

"ก็แวนเนสน่ะสิ เมื่อคืนมันมานอนคุยด้วยจนเกือบเช้า ชั้นเพิ่งได้หลับตอนเกือบตีสี่ คุยอย่างกับคนไม่ได้พูดมาซักสิบชาติ" เคนบอกพร้อมกับบ่นพี่ชายคนรองให้ฟังพอพูดจบแล้วก็เอาหัวพิงพนักโซฟาก่อนจะหลับตาลง เจอร์รี่มองน้องชายยิ้มๆก่อนจะพับหนังสือพิมพ์ในมือเก็บแล้วดึงตัวน้องให้เอนลงมา

"นอนนี่มา....." บอกพร้อมกับตบที่ตักตัวเอง

"เดี๋ยวเสื้อนายยับนะ" เคนพูดแย้งแต่ก็เอนตัวลงนอนหนุนตักพี่ชาย

"ไม่เป็นไรหรอก" พูดจบก็เอามือลูบหัวเจ้าน้องชายจอมเฮี้ยว

"เวลานายอยู่เฉยๆไม่ก่อเรื่องไม่ก่อราวไม่พูดไม่เถียงก็ถือว่าเป็นเด็กที่น่ารักมากทีเดียว แต่เวลาดื้อขึ้นมาก็น่าตีที่สุดเหมือนกัน" เคนหรี่ตาขึ้นมองพี่ชายเล็กน้อย

"นายก็โตกว่าชั้นแค่ไม่กี่ปีทำไมถึงชอบมองว่าชั้นเป็นเด็กอยู่เรื่อย" ย้อนคำพี่ชายกลับไป

"แล้วมีผู้ใหญ่ที่ไหนเขายังกลัวไม้เรียวอยู่หละ?" ก้มหน้าลงมาถามแหย่น้อง

"ไม่ได้กลัวซักหน่อย" เคนลืมตาขึ้นมาแล้วเถียงพี่ชายแบบไม่เต็มเสียงนัก

"จริงหรอ?" ถามย้อนกลับไปยิ้มๆ เคนค้อนใส่พี่ชายก่อนจะแก้ตัวเหมือนเด็กๆ

"ถ้ามันวางอยู่เฉยๆก็ไม่กลัวหรอก" พี่ใหญ่ได้ยินก็หัวเราะแล้วขยี้หัวน้องชายอย่างเอ็นดู

"ไม่รีบไปทำงานหรอ? เดี๋ยวก็ไปสายหรอก" เคนถามพี่ชายขึ้นมาบ้าง เจอร์รี่ยิ้มให้น้องก่อนจะส่ายหน้าเล็กน้อย

"วันนี้จะไปหาลูกค้าช่วงสิบเอ็ดโมง ก็เลยกะว่าตอนเช้าจะไม่เข้าบริษัท" ตอบคำถามนั้นจบก็เลื่อนมือขึ้นมาบีบจมูกน้อง

"ในใจคงอยากจะให้ชั้นไปให้พ้นๆแล้วสิ" พูดดักคอเจ้าน้องชายตัวแสบ

"เปล่าซักหน่อย ใส่ร้ายกันอีกละ" เคนรีบปฏิเสธพร้อมกับต่อว่าพี่ชายด้วยสีหน้ามุ่ยๆ

"อื้มมม!!!" พี่ใหญ่ก้มลงหอมแก้มน้องชายอย่างหมั่นไส้แกมเอ็นดู เคนเอามือถูแก้มตัวเองก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นมานั่ง

"วันนี้นายเป็นไรน่ะ? มานั่งโอ๋ชั้นแต่เช้าเลย" ถามพี่ชายออกมาเพราะทุกทีพี่ชายไม่ค่อยมายุ่งย่ามกับเขามากนัก

"ก็ต้องโอ๋ไว้ก่อนสิ เพราะเดี๋ยวตอนเย็นชั้นจะลงโทษนายถึงตอนนั้นชั้นจะไม่โอ๋นายอีก และนายต้องไม่โกรธชั้นนะเพราะชั้นโอ๋นายชดเชยให้ตอนนี้เรียบร้อยแล้วหละ" พี่ใหญ่ตอบพร้อมกับยักคิ้วให้น้องชาย เคนได้ยินก็ทำหน้าเจื่อนๆ

"งัย? ได้ยินแค่นี้ก็ไม่อยากพูดกับชั้นแล้วใช่มั๊ยหละ?" ถามแหย่น้องชายต่ออีก เคนเหลือบมองหน้าพี่ชายก่อนจะยิ้มหวานให้แล้วขยับเข้าไปกอด

"อะไรอีกหละไอ้ตัวดี? ไม่ต้องอ้อนไม่ได้ผลหรอก ยังงัยซะก็ต้องถูกลงโทษอยู่ดี" แม้จะพูดเช่นนั้นแต่พี่ใหญ่ก็กอดน้องชายตอบ

"พี่ใหญ่ครับ....." เคนรู้ทางพี่ชายดีจึงเอ่ยปากเรียกพี่ชายอย่างไพเราะ

"บอกแล้วงัยว่าไม่ต้องอ้อน" เจอร์รี่บีบจมูกน้องชายพร้อมกับพูดย้ำ

"พี่ใหญ่จะใช้เข็มขัดตีชั้นจริงๆน่ะหรอ? ชั้น.....ชั้นน่ะไม่ขัดข้องหรอกแต่ชั้นห่วงพี่ใหญ่นะ" เจอร์รี่นึกขำเมื่อได้ยินน้องว่าเช่นนั้นแต่ก็แกล้งตีหน้าขรึม

"ห่วงอะไรพี่? นายห่วงตัวเองไม่ดีกว่าหรอ?" ย้อนคำน้องชายกลับไป

"ห่วงสิ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นชั้นคงตายแน่นอนต่อให้อึดยังงัยโดนฟาดขนาดนั้นก็ทนไม่ได้หรอก แล้วถ้าชั้นตายขึ้นมาพี่ใหญ่ติดคุกนะจะบอกให้" ได้ยินเหตุผลของน้องแล้วเจอร์รี่ก็กลั้นหัวเราะไม่อยู่

"ไอ้เซ่อ! นายคิดหรอว่าพี่จะทำให้ตัวเองลำบากขนาดนั้น ช่างคิดไปได้นะเราน่ะ!" พูดจบก็ดึงแก้มน้องชายทั้งสองข้าง

"สัญญาว่าการลงโทษครั้งนี้ไม่มีการตีเด็ดขาด" เคนได้ยินเช่นนั้นก็มีสีหน้าโล่งใจ

"จริงนะ! สัญญาจริงๆด้วย ห้ามคืนคำนะ" พูดย้ำกับพี่ชาย

"อืม....เว้นแต่นายจะงอแงไม่ยอมรับกติกา" แม้จะว่าตามนั้นแต่ก็ยังอดตั้งข้อแม้กับน้องไม่ได้

"ชั้นยอมรับทุกอย่างเลย" เคนตอบโดยไม่ต้องคิดเพราะถ้าไม่ต้องเจ็บตัวแล้วจะโดนลงโทษอย่างอื่นเขาก็ยอมทุกอย่าง

"จำคำของตัวเองไว้ด้วยหละ" พูดจบก็เอานิ้วจิ้มกลางหน้าผากน้องชายเบาๆ

"เออ! พี่มีเรื่องจะถามนายซักหน่อย" แล้วเจอร์รี่ก็นึกขึ้นได้

"เรื่องอะไร?" เคนเลิกคิ้วอย่างงงๆ

"ใครคืออี้เจวียน?" ได้ยินเช่นนั้นเคนก็อ้าปากค้าง

"ใครบอกนาย?" ย้อนถามพี่ชายกลับไปแต่แล้วก็นึกออกมาว่าต้องเป็นเจ้าน้องชายตัวดีของเขาแน่ๆ

"เจ้าไจ๋หละสิ" พี่ใหญ่พยักหน้ารับก่อนจะมองน้องชายอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ

"ไอ้เจ้านี่มันยุ่งวุ่ยวายจริงๆ.....ไม่มีอะไรหรอกก็แค่เพื่อนเฉยๆ" เคนบ่นเจ้าน้องชายก่อนจะตอบพี่ชาย

"แน่ใจ? แต่รู้สึกว่าน้องจะบอกชั้นมากกว่านั้นนะ" พี่ใหญ่ถามรุกน้องชายอีก

"บอกอะไรหละ?" เคนทำหน้าเลิ่กลั่กอย่างมีพิรุธ

"บอกว่านายกับผู้หญิงคนนี้......" พี่ใหญ่ยังพูดไม่จบเคนก็รีบแทรกขึ้นมาก่อน

"ไม่ได้มีอะไรกันนะโว้ย! เป็นแค่เพื่อนคุยเฉยๆ อี้เจวียนเป็นพยาบาลบนเรือคนเดียวกับที่ดูแลชั้นคราวก่อนแหละ" โวยวายขึ้นมาเมื่อดูท่าว่าพี่ชายจะคิดไปไกล

"แค่นั้นหรอ?" ถามย้ำอย่างไม่ค่อยอยากเชื่อ

"แค่นั้นแหละ" เคนตอบแล้วเฉไฉหยิบรีโมทขึ้นมากดเปิดโทรทัศน์

"เราชอบเขาใช่มั๊ย?" พี่ใหญ่ได้ทีถามออกไปตรงๆ เคนเลยเอ๋อไปชั่วขณะ

"ชอบ.....ก็ชอบสิ คนเป็นเพื่อนกันถ้าเกลียดกันจะเรียกว่าเพื่อนได้ยังงัย?" เคนพูดแก้ตัวน้ำขุ่นๆ เจอร์รี่ไม่ตอบว่าอะไรแต่อมยิ้ม

"อะไรเล่า! นายเนี่ยไม่ซอกแซกเรื่องคนอื่นบ้างจะได้มั๊ย? หิวข้าวแล้ว!" พูดจบก็รีบลุกเดินหนีเข้าไปในครัว

"ฮึ! พี่คนนี้มีหรอจะไม่รู้ใจนายน่ะ" พึมพำกับตัวเองแต่ก็มองตามน้องยิ้มๆ




 

Create Date : 30 ธันวาคม 2550    
Last Update : 30 ธันวาคม 2550 21:39:20 น.
Counter : 1293 Pageviews.  

Chapter 52

ตอนที่ 52

"หลิงหลิง.....อาหารถูกปากมั๊ยครับ?" เจอร์รี่หันไปถามแฟนสาวของน้องชายอย่างใส่ใจ

"อร่อยมากค่ะ พี่ทำเองหรอคะ?" เธอตอบพร้อมกับย้อนถามเจอร์รี่

"พี่แค่เป็นลูกมือช่วยเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเอง พ่อครัวใหญ่ของเราคือเสี้ยวเทียนน่ะ" เจอร์รี่ตอบแล้วยกความดีความชอบให้เคนที่กำลังนั่งเอาช้อนเขี่ยข้าวในจาน

"พี่ไจ่ไจ๋บอกว่าพี่เสี้ยวเทียนทำอาหารอร่อยมาก พี่เขาพูดอวดไว้นานแล้วค่ะ พอได้มาชิมฝีมือแล้วก็เป็นจริงอย่างที่พูดเลย" หลิงเอ๋อว่าแล้วส่งสายตาไปทางเคน แต่เคนกลับนั่งเขี่ยข้าวเล่นจึงไม่ได้ยินที่หญิงสาวพูด หลิงเอ๋อจึงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ

"เสี้ยวเทียน" พี่ใหญ่เอ่ยปากเรียก

"เสี้ยวเทียน!" คราวนี้พี่ใหญ่เอามือตบหลังน้องชายเบาๆด้วย เคนสะดุ้งเฮือกก่อนจะมองหน้าพี่ชาย

"น้องเขาคุยด้วยน่ะ เป็นอะไร? นั่งเหม่ออยู่ได้" พี่ใหญ่ว่าแล้วมองเคนอย่างจับผิด

"อ้อ! เปล่านี่.....หลิงหลิง.....หนูพูดว่ายังงัยนะ? พี่ไม่ทันฟัง" เคนตอบพี่ชายก่อนจะหันไปถามหลิงเอ๋ออย่างใส่ใจ

"หนูบอกว่าพี่เสี้ยวเทียนทำอาหารอร่อยมากค่ะ" เธอพูดย้ำพร้อมกับยิ้มให้เคน

"ขอบใจนะ ก็พี่เป็นเชฟนี่ ขืนทำอาหารรสชาดไม่ได้เรื่องหัวหน้าไล่พี่ออกแน่ๆ" เคนว่าแล้วก็พูดติดตลกเพื่อเรียกบรรยากาศคืนมา

"อ้าว! ชั้นไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก เรื่องแบบนี้มันค่อยๆฝึกฝนกันได้" พ่อของกลอเรียพูดแทรกขึ้นบ้าง

"ผมไม่ได้ว่าหัวหน้าหรอกครับ ก็แค่พูดเล่นเท่านั้นเอง" เคนรีบแก้ตัวทันที พ่อของกลอเรียหัวเราะก่อนจะพูดกับเคนอีก

"เสี้ยวเทียน ตอนนี้ไม่ใช่เวลางานแล้วเราก็ไม่ได้อยู่ที่ทำงานกันด้วย ฉะนั้นเธอไม่ต้องเรียกชั้นว่าหัวหน้าหรอก เรียกอาเหมือนพี่ๆน้องๆเธอจะดีกว่า" เคนได้ยินก็ยิ้มให้ก่อนจะส่ายหน้า

"มันไม่คุ้นปากน่ะครับ แล้วอีกอย่างเดี๋ยวเรียกว่าคุณอาบ่อยๆแล้วติดไปเรียกในที่ทำงาน คราวนี้ผมได้โดนเพื่อนๆเขม่นแย่เลย" คำพูดของเคนทำให้ทุกคนหัวเราะขึ้นมาได้

"งั้นก็ตามใจเธอแล้วกัน" พูดจบก็ยกน้ำขึ้นดื่ม

"คุณอาครับ อาหารมื้อนี้อาให้คะแนนเจ้าเสี้ยวเทียนซักเท่าไหร่ดี?" แวนเนสถามขึ้นมาบ้าง

"อืม.....ในฐานะที่อาเองก็ทำอาหารไทยไม่ค่อยเก่ง ถ้าให้ทำอาก็คงไม่อร่อยเท่านี้ งั้นอาให้ซักเก้าคะแนนก็แล้วกัน" พ่อของกลอเรียตอบ

"โห! ให้ตั้งเก้าคะแนนเลยหรอครับ? แบบนี้เดี๋ยวเจ้าน้องผมเขาก็เหลิงแย่" แวนเนสพูดพลางหัวเราะแล้วเหลือบมองไปทางเคนแต่น้องชายของเขากลับเข้าสู่อาการเหม่อๆอีกครั้ง

"นั่นงัย ถึงกับนั่งฝันแล้ว" พูดแซวจนทุกคนหัวเราะขึ้นมาได้ เคนได้ยินเสียงคนอื่นหัวเราะก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างงงๆ

"พี่กลางครับ ทำไมวันนี้ดูเหม่อๆ หรือว่าทำอาหารจนหมดแรง" ไจ่ไจ๋พูดเป็นเชิงบอกให้เคนรู้ตัวกลายๆเพราะรู้ดีว่าที่เคนเหม่อนั้นเนื่องจากกังวลว่าพี่ชายจะรู้เรื่องที่ถูกพักงาน

"ท่าทางจะเป็นอย่างนั้น" เคนตอบน้องแล้วเอ่ยขอโทษทุกคน ในตอนนั้นเองเจอร์รี่ก็เริ่มสงสัยว่าน้องเป็นอะไรเพราะตอนทำกับข้าวกันเคนก็ยังดีๆอยู่แต่เขาก็ยังไม่ได้ถาม จนเมื่อกินข้าวกันเสร็จแล้วทุกคนก็กลับออกมานั่งกินผลไม้กันที่ห้องรับแขกดังเดิม ในตอนนั้นเองไจ่ไจ๋ก็เอาเกมส์ออกมาชวนทุกคนเล่น

"ตามสบายกันเลย อาขอผ่านแล้วกัน" พ่อของกลอเรียว่าเป็นเชิงปฏิเสธกลายๆ

"งั้นคุณอาไปนั่งทางด้านนั้นดีกว่าครับ ปล่อยให้เด็กๆเล่นกันไป" เจอร์รี่เอ่ยชวนให้ไปนั่ง

"ไม่ได้เจอบรรยากาศครึกครื้นแบบนี้มานานแล้ว" พ่อของกลอเรียชวนเจอร์รี่คุย

"ปกติที่บ้านผมก็มีกันแค่สี่คน วันนี้พอมีแขกมาเยี่ยมก็รู้สึกสนุกกันเป็นพิเศษ ไจ่ไจ๋เขาดีใจใหญ่เพราะปกติแล้วเขาไม่ค่อยมีเพื่อนเล่นเท่าไหร่เพราะพวกผมก็โตๆกันหมดแล้วเวลาเขาชวนเล่นอะไรผมเองก็ตามไม่ค่อยทันเท่าไหร่ เล่นได้ไม่นานน้องก็เบื่อ" เจอร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงบ่งบอกถึงความเอ็นดูน้องชายคนนี้

"จริงสิครับ ผมว่าจะถามคุณอาหน่อยว่าเจ้าเสี้ยวเทียนเวลาอยู่ที่ทำงานทำให้อาปวดหัวบ้างหรือเปล่า?" ถามถึงน้องชายคนกลางบ้าง

"เสี้ยวเทียนน่ะหรอ? ไม่มีหรอก เขาขยันและก็ตั้งใจทำงานมาก เพื่อนๆทุกคนรักเขาทั้งนั้นแหละ" ผู้สูงวัยตอบเจอร์รี่ยิ้มๆก่อนจะย้อนถาม

"ทำไม? เธอห่วงน้องมากขนาดนี้เชียวหรอ? น้องเธอก็โตแล้วนะ" เจอร์รี่ได้ยินก็ยิ้มก่อนจะส่ายหน้าไปมา

"ยังไม่โตหรอกครับ คุณอาต้องมาเห็นเวลาเขาอยู่บ้าน เจ้าเด็กคนนี้น่ะดื้อเป็นที่หนึ่งเลยบางทีก็งอแงกับผมแบบไม่มีเหตุผลอีกด้วย" เจอร์รี่ได้ทีเผาน้องชายให้ฟัง

"อาว่าดูๆไปแล้วเสี้ยวเทียนเขาค่อนข้างจะยำเกรงเธออยู่มากทีเดียว" พ่อของกลอเรียว่า

"ก็คงเฉพาะเวลาที่มีความผิดติดตัวน่ะครับ" เจอร์รี่ตอบพลางหัวเราะ

"แต่จริงๆแล้วก็คงเป็นอย่างที่อาพูดแหละครับ ในบรรดาน้องชายทั้งสามคนนี่เสี้ยวเทียนเขาจะค่อนข้างกลัวผมมากกว่าคนอื่นเพราะผมจะเข้มงวดกับเขามากที่สุด" เจอร์รี่เล่าเรื่องเจ้าน้องชายตัวดีให้ฟัง

"ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นหละ? ไม่กลัวว่าน้องจะมีอคติหรอ?" ย้อนถามเจอร์รี่กลับไปอย่างแปลกใจ

"กลัวเหมือนกันแหละครับ แต่ทำยังงัยได้ก็เขาอยากดื้อเองถ้าพูดดีๆแล้วเขาฟังผมก็คงไม่ต้องเข้มงวดกับเขามากขนาดนี้ แล้วผมบอกตรงๆเลยว่ายิ่งเขาไปทำงานไกลหูไกลตาด้วยแล้วผมยิ่งห่วงเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าเลย" ผู้สูงวัยกว่ามองเจอร์รี่อย่างชื่นชม

"กลอเรียเล่าให้อาฟังบ่อยๆว่าอิจฉาแวนเนสที่มีพี่ชายที่แสนดีอย่างเธอ มาวันนี้ได้มาเห็นกับตาอาเชื่อแล้วว่าเธอเป็นพี่ชายที่ดีมากจริงๆ" เอ่ยชมเจอร์รี่อย่างจริงใจ

"ไม่ขนาดนั้นหรอกครับคุณอา ผมโดนน้องๆต่อว่ากันประจำเลยกับเรื่องที่ผมห่วงพวกเขามากเกินไปเนี่ย" เล่าให้ผู้อาวุโสกว่าฟังยิ้มๆ

"อาว่าน้องชายเธอเขารับรู้ถึงความหวังดีของเธอนะ" เจอร์รี่ผงกหัวพร้อมกับยิ้มรับคำนั้น

"เออ....ว่าแต่คุณอาต้องกลับไปทำงานเมื่อไหร่ครับเนี่ย?" หันมาถามเรื่องของคู่สนทนาบ้าง

"อาได้หยุดแค่อาทิตย์เดียวน่ะ" พ่อของกลอเรียตอบ

"อ้าว....งั้นเจ้าเสี้ยวเทียนก็หยุดอาทิตย์เดียวเหมือนกันน่ะสิครับ" ได้ยินเจอร์รี่พูดเช่นนั้นแล้วพ่อของกลอเรียก็ลังเลว่าจะบอกเจอร์รี่ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นดีหรือไม่

"หัวหน้าครับ ดื่มน้ำพั้นช์ซักหน่อยสิครับ กำลังเย็นได้ที่เลย" เสียงเคนเอ่ยแทรกขึ้นมาก่อนจะมีการพูดคุยกันต่อ

"อ้อ! ขอบใจนะเสี้ยวเทียน" รับมาดื่มพร้อกับเอ่ยขอบคุณ

"พี่ใหญ่เอามั๊ยครับ?" หันไปถามพี่ชายด้วย

"ไม่เอาครับ" เจอร์รี่ตอบน้องชายแล้วได้ทีถามน้องซะเอง

"คุณอาบอกว่าครั้งนี้หยุดแค่อาทิตย์เดียวเองหรอ?" เคนได้ยินก็มองไปทางหัวหน้าของเขาก่อนจะหันกลับมาทางพี่ชายแล้วอ้ำอึ้งไปเพราะไม่รู้จะตอบยังงัยดี

"คือว่า....เอ่อ....คือว่า.....ชั้น...." เคนพูดตะกุกตะกักเพราะไม่แน่ใจด้วยว่าพี่ชายถามเพราะยังไม่รู้เรื่องจริงๆหรือเพียงเพราะถามลองใจเขาดูว่าเขาจะพูดความจริงหรือไม่

"อ้อใช่! เธอลาพักร้อนใช่มั๊ยเสี้ยวเทียน? ชั้นลืมไปเลย" แล้วเสียงหัวหน้าก็ช่วยชีวิตเขาได้ทัน ตอนนั้นเจอร์รี่ก็ถึงกับขมวดคิ้ว

"ใช่ๆๆๆ ชั้นลาพักร้อน.....หนึ่งเดือน....." เคนรีบตอบรับก่อนจะส่งสายตาไปยังพ่อของกลอเรียเป็นเชิงขอบคุณ

"เดือนนึงเชียวหรอ? ทำไมลาติดกันนานแบบนี้หละ? แล้วทำไมไม่เห็นบอกชั้นเลย?" หันมาไล่เลี่ยงกับน้องชายอีก

"ก็....กลับมาก็เหนื่อยๆยุ่งๆเลยยังไม่ได้บอก ขอโทษแล้วกัน" ตอบพี่ชายเสียงอ่อยๆ

"เสี้ยวเทียนเขาใช้สิทธิลาที่สะสมมาจากปีที่แล้วด้วยน่ะเลยลาได้ยาวหน่อย" พูดให้เหตุผลแทรกขึ้นมา

"อ้อ! คือว่าผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกครับ แต่พวกผมมีข้อตกลงกันว่าเวลาทำงานแล้วหากจะลาพักร้อนต้องปรึกษากันก่อนเพราะคนอื่นจะได้ลาด้วย เราจะได้มีเวลาว่างตรงกันน่ะครับ" เจอร์รี่ตอบคำถามนั้นก่อนจะหันมาทางน้องชายแล้วพูดกับน้องเบาๆ

"เดี๋ยวคืนนี้เราต้องคุยกันหน่อย" เคนพยักหน้ารับด้วยสีหน้าสลดลงเล็กน้อย

"คุณพ่อคะ.....คุยอะไรกันอยู่?" เสียงกลอเรียเอ่ยถามขึ้นมา

"คุยเรื่องทั่วไปน่ะลูก ไม่เล่นเกมส์กันแล้วหรอ?" ตอบลูกสาวด้วยสีหน้ายิ้มๆ

"ไม่แล้วค่ะ ฝ่ายหนูแพ้เพราะแวนเนสค่ะ" เธอฟ้องพ่อเหมือนเด็กๆ

"โทษผมคนเดียวได้ยังงัย? คุณเองก็มีส่วนทำให้แพ้เหมือนกันนี่" แวนเนสเถียงกลับ เรียกเสียงหัวเราะขึ้นมาได้

"ชั้นไม่คุยกับคุณแล้ว คุณพ่อคะเดี๋ยวเรากลับบ้านกันดีกว่า คุณพ่อเพิ่งกลับมาจะได้พักผ่อน" กลอเรียว่าเมื่อเห็นว่าเวลาล่วงเลยมาพอสมควรแล้ว

"อืม....งั้นเรากลับกันเลยก็แล้วกัน" พ่อของเธอตอบรับคำลูกสาวอย่างเห็นด้วย

"ไปครับคุณอา เดี๋ยวผมไปส่ง" แวนเนสเสนอตัวอย่างเต็มใจ

"แวนเนส อาว่าไม่ต้องส่งหรอกเดี๋ยวอาเรียกแท๊กซี่กลับน่าจะสะดวกกว่า ไม่งั้นเธอต้องเทียวมาเทียวไป" พูดอย่างเกรงใจแวนเนส

"ไม่เป็นไรหรอกครับ" แวนเนสรีบปฏิเสธ

"อย่าเลยค่ะแวนเนส เรากลับกันเองได้" กลอเรียพูดอีกแรง

"ผมไปส่งดีกว่าครับ" แล้วเสียงไจ่ไจ๋ก็พูดแทรกขึ้นมา

"เพราะเดี๋ยวผมจะไปส่งหลิงหลิงกับมี่เฟิง พี่กลอเรียก็พักอยู่ที่เดียวกับมี่เฟิงนี่นา ไปด้วยกันทีเดียวจะดีกว่า" ไจ่ไจ๋ว่า

"นั่นสิครับคุณอา ให้ไจ่ไจ๋ไปส่งดีกว่า นะครับ....." เจอร์รี่ช่วยคะยั้นคะยออีกแรง

"งั้นรบกวนหน่อยก็แล้วกัน" ในที่สุดพ่อของกลอเรียก็ตัดสินใจตามนั้น จากนั้นทุกคนต่างก็ร่ำรากัน

"นายนั่งไปกับน้องด้วยสิ ขากลับน้องจะได้มีเพื่อน" แวนเนสกระซิบบอกพี่ชาย

"ทำไมนายไม่ไปหละ?" เจอร์รี่ย้อนถามกลับเพราะเห็นว่าแวนเนสน่าจะเป็นคนไปมากกว่าเพราะกลอเรียเป็นแขกของแวนเนส

"พอดีเสี่ยวจือโทรมาจะคุยธุระด้วยน่ะ ชั้นกลัวว่าจะเสียมารยาทหากไปนั่งคุยบนรถ" แวนเนสหาเหตุผลมาอ้างซึ่งอันที่จริงแล้วเขาอยากจะคุยกับเคนเพียงลำพังมากกว่า เมื่อเป็นดังนั้นเจอร์รี่จึงพยักหน้ารับแล้วเดินตามไปขึ้นรถด้วย หลังจากส่งทุกคนกลับไปแล้วเคนก็ถอนหายใจออกมาดังเฮือก

"เป็นอะไร?" แวนเนสหันมาถามน้อง เคนมองหน้าพี่ชายอยากจะต่อว่าแวนเนสอยู่เหมือนกันที่พาหัวหน้าของเขามาโดยไม่บอกล่าวหน้าทำให้เขาต้องโดนพี่ใหญ่เรียกไปคุยซึ่งตอนนี้เขาเองยังไม่รู้เลยว่าจะแก้ตัวกับพี่ชายยยังงัยแต่พอนึกๆไปแล้วก็ตัดสินใจไม่พูดน่าจะดีกว่า

"เปล่า ชั้นจะไปล้างจาน" พูดจบก็หมุนตัวเข้าบ้าน แวนเนสมองตามก่อนจะเดินตามน้องเข้าไป

"นี่! นายมีอะไรอยากจะบอกชั้นมั๊ย?" แวนเนสเดินเข้ามาพร้อมกับถามออกไปตรงๆ

"บอกอะไรหละ?" เคนแกล้งทำเป็นไม่รู้ทั้งๆที่พอจะรู้ว่าแวนเนสอาจจะระแคะระคายเรื่องที่เขาถูกพักงานแล้วก็เป็นได้

"อย่ามาทำไก๋! ชั้นกับหัวหน้าของนายน่ะคุยกันแล้วนะ" แวนเนสเองก็ยังไม่รู้เรื่องดังกล่าวแต่เขาพูดเพื่อจะให้น้องบอกกับเขามาตามตรง

"คุยกันแล้วทำไมต้องมาถามชั้นอีกหละ?" เคนก็ฉลาดพอที่จะยังไม่เล่าออกไป เขาหยิบฟองน้ำขึ้นมาถูจานในซิงค์นั้น

"อย่ามาย้อน! เล่ามาเร็วๆ!" เมื่อเห็นน้องไม่ยอมพูดแวนเนสจึงผลักหัวน้องทีหนึ่ง แต่เคนยังไม่ยอมพูด

"เสี้ยวเทียน!! พูดออกมาเดี๋ยวนี้!!" แวนเนสว่าพร้อมกับเลื่อนมือลงมาดึงหูเคนแล้วคาดคั้นเอาเรื่องราวจากน้องชาย

"โอ้ย! จะให้พูดอะไรหละ?" เคนแกล้งโวยวายขึ้นมาบ้าง

"ก็พูดมาเรื่องที่นายไปทำอะไรไว้" แวนเนสตอบ เคนหลบตาพี่ชายแทบจะในทันที

"ไม่ได้ทำ" พูดจบก็รีบหันกลับไปล้างจานต่อ แวนเนสมองเจ้าน้องชายตัวดีก่อนที่จะเอามือเท้าเอวแล้วปรับสีหน้าให้จริงจังขึ้น

"ล้างมือแล้วมาคุยกันให้รู้เรื่อง!" สั่งน้องชายต่อเสียงเข้ม เคนหันมาเห็นสีหน้าเอาจริงของพี่ชายก็อึ้งไป

"ยังอีก!" คราวนี้แวนเนสไม่พูดเปล่าแต่ใช้มือตีลงที่ตัวน้องด้วย เคนสะดุ้งแล้วรีบล้างมือก่อนจะหันหน้ากลับมาทางพี่ชาย

"จะให้ชั้นพูดอะไร?" เคนถามพี่ชายเสียงอ่อยๆรู้ว่าตอนนี้แวนเนสคงเอาจริงแน่เพราะปกติแล้วถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆแวนเนสจะไม่ลงไม้ลงมือกับเขา

"ต้องเจ็บตัวก่อนถึงจะพูดได้ใช่หรือเปล่า?" แวนเนสว่าแล้วก็ทำท่าจะตีน้องแต่เคนรีบจับมือพี่ชายไว้ก่อน

"นายอย่าทำแบบนี้สิ" เคนมองหน้าพี่ชายตาละห้อย แวนเนสนึกขำเจ้าน้องชายของเขาแต่ก็ยังเก๊กดุต่อไป

"ไม่อยากโดนก็พูดมา!" แหวใส่น้องด้วยสีหน้าจริงจัง

"ถ้าชั้นเล่าให้ฟัง นายสัญญาได้มั๊ยว่าจะไม่ฟ้องพี่ใหญ่?" ถามพี่ชายต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนอ่อย เมื่อเห็นเช่นนี้แล้วแวนเนสก็เดาได้ทันทีว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคงไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย

"นายต้องเล่ามาก่อนแล้วชั้นจะพิจารณาว่าเรื่องนี้สมควรบอกเจอร์รี่มันหรือเปล่า?" พูดกับน้องด้วยน้ำเสียงอ่อนลง เคนจึงเริ่มลังเลอีกครั้ง

"ก็ได้ๆๆๆ ชั้นสัญญาว่าจะไม่บอกมันแต่ถ้าเกิดนายไม่พูดความจริงกับชั้นทั้งหมดแล้วให้ชั้นมารู้ทีหลัง นอกจากชั้นจะบอกเจอร์รี่แล้วชั้นจะตีนายให้ตายเลยด้วย" เคนถึงกับเงียบเมื่อพี่ชายเล่นบทโหด

"ว่ายังงัย?" ถามย้ำเมื่อน้องชายไม่พูด

"ตกลง ชั้นจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้นายฟัง แต่นายช่วยชั้นล้างจานให้เสร็จก่อนได้หรือเปล่า?" จนแล้วจนรอดเคนก็ต่อรองพี่ชายอีกจนได้

"เฮ่อ! นายนี่มันจริงๆเลย....." แวนเนสบ่นแต่ก็ขยับเข้ามาช่วยน้องชายล้างจาน ผ่านไปครู่ใหญ่ทั้งคู่ก็ช่วยกันล้างจานจนเสร็จ

"เอาหละ....เล่ามาให้หมดอย่าคิดปิดบังแม้แต่น้อย" เมื่อล้างจานเสร็จแล้วแวนเนสก็จูงมือน้องออกมาที่ห้องนั่งเล่น

"นายสัญญาแล้วนะแวนเนส....." เคนย้ำคำกับพี่ชายอีกครั้ง

"เออ! สัญญาสิวะ!" แวนเนสรับคำอย่างเอือมระอา เคนเงียบไปพักหนึ่งแล้วเริ่มเล่าให้พี่ชายฟัง

"เมื่อปลายอาทิตย์ก่อนมีเรื่องเกิดขึ้นนิดหน่อย" เคนเกริ่นนำ

"ตอนเช้าวันนั้นชั้นก็เข้าไปทำอาหารตามปกติ แล้วชั้นก็ยกอาหารออกมาเติมที่ห้องอาหารตอนนั้นชั้นก็ได้ยินเสียงเอะอะ ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องของชั้น" เล่ามาถึงตรงนี้เคนก็มองหน้าพี่ชาย

"แล้วงัยต่อ?" แวนเนสถามเร่งด้วยความอยากรู้

"แต่พอชั้นเติมอาหารเสร็จแล้วก็เลยหันไปมอง ตอนนั้นชั้นถึงรู้ว่ามีคนทะเลาะกันและหนึ่งในนั้นเป็นไจ่ไจ๋" ได้ยินเช่นนั้นแวนเนสก็ทำตาโต

"ไอ้เจ้าไจ๋เนี่ยนะทะเลาะกับคนอื่น!!??" แวนเนสอุทานอย่างไม่อยากจะเชื่อ

"ใช่....ตอนนั้นชั้นยังคิดว่าตัวเองตาฝาดเลย และตอนนั้นไอ้คู่กรณีมันก็เงื้อนหมัดจะชกน้อง ชั้นก็เลยถลาเข้าไปชกมันซะก่อน ก็เลยเป็นเรื่อง....." เล่าจบเคนก็ถอนหายใจ

"แล้วตกลงมันเรื่องอะไรกัน? น้องมันทะเลาะกับหมอนั่นเรื่องอะไร?" แวนเนสถามซักไซร้ต่อ

"เดินชนกัน แต่ทางที่น้องเดินออกมันเป็นทางออกอยู่แล้วแต่ไอ้หมอนั่นมันสวนเข้ามาก็เลยชนกับน้องแล้วมันก็หาว่าน้องซุ่มซ่าม" เคนตอบพี่ชาย

"คนประเภทนี้ก็มีด้วยหรอ? โหย! ถ้าชั้นอยู่จะชกให้คว่ำแล้วจับโยนทิ้งทะเลเลย" แวนเนสได้ยินก้รู้สึกโมโหแทนน้องชาย เคนเห็นดังนั้นก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อย

"แต่จะว่าไปเรื่องแบบนี้นายก็ไม่ควรลงไม้ลงมือกับเขาหรอกนะ เพียงแค่นายโวยวายขึ้นมาหน่อยเดี๋ยวมันก็ตกใจไปเอง" แต่แล้วแวนเนสก็กลับคำเพราะเห็นว่ายังงัยน้องก็ไม่ควรใช้กำลัง

"ก็รู้....แต่ตอนนั้นชั้นก็ตกใจจนไม่รู้จะทำยังงัย? กลัวน้องถูกทำร้ายด้วยก็เลยไม่ทันได้คิด" เคนยอมรับเสียงอ่อยๆ

"แล้วยังงัย? เขาเอาเรื่องเราหรือเปล่า?" ถามน้องต่ออีก

"ก็ไกล่เกลี่ยกันได้ แต่ว่าชั้น....." เคนหยุดพูดแล้วเหลือบมองพี่ชาย

"ยังงัยกันแน่? ไกล่เกลี่ยได้แต่มีอะไรอีก?" ถามรุกน้องชายต่อ

"แต่ชั้นก็ถูกลงโทษตามกฎของบริษัทเพราะไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับผู้โดยสาร" เคนตอบเสียงแผ่วลง

"พ่อของกลอเรียลงโทษนายใช่มั๊ย?" ถามน้องชายต่ออีก เคนพยักหน้าแทนคำตอบ

"ยังงัย?" แวนเนสถามต่อเรื่อยๆ

"พักงานโดยไม่จ่ายเงินเดือนหนึ่งเดือน" ตอบจนแทบเป็นเสียงกระซิบ

"อะไรนะ!! นายถูกพักงานหนึ่งเดือนหรอ!?" แวนเนสอุทานออกมาเสียงดังลั่น ในเวลานั้นเองที่พี่ใหญ่กับไจ่ไจ๋เพิ่งกลับเข้ามาแล้วได้ยินประโยคดังกล่าวอย่างชัดเจน เคนถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นพี่ชายคนโต

"เอ่อ...." แวนเนสเมื่อหันไปเห็นพี่ชายก็พูดอะไรไม่ออก ไจ่ไจ๋เองก็อึ้งไปเช่นกันทำให้บรรยากาศในบ้านเงียบกริบ

"เสี้ยวเทียน! จริงหรือเปล่า?" แล้วเสียงพี่ใหญ่ก็พูดทำลายความเงียบขึ้นมา เคนแทบอยากจะหายตัวไปจากตรงนั้นเสียให้ได้

"ว่ายังงัย!!!!" ย้ำคำเสียงดังทำเอาน้องชายทั้งสามคนสะดุ้งไปตามๆกัน

"ใช่" ตอบพร้อมกับผงกหัวรับ

"เพราะอะไร?" ถามน้องต่ออีก

"ทะเลาะวิวาทกับผู้โดยสาร" ตอบจนแทบไม่ได้ยินเสียง จบคำพูดของน้องพี่ใหญ่ก็จ้องหน้าน้องชายด้วยสายตาดุดัน เคนก้มหน้างุดไม่กล้ามองหน้าพี่ชาย

"ตามชั้นมา!" สั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดแล้วเดินนำขึ้นไปข้างบน

"โอ้ยยย.....ตายแน่ๆเลย....." เคนแทบอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาจะโดนพี่ชายลงโทษหนักขนาดไหน

"ไม่หรอกเสี้ยวเทียน ชั้นว่านะมันอาจจะพานายขึ้นเพื่อถามเหตุผลก็ได้" แวนเนสพยายามปลอบให้น้องคิดในแง่ดี

"นั่นสิครับพี่กลางเพราะถ้าพี่ใหญ่จะตีพี่จริงๆป่านนี้พี่คงโดนมือพี่ใหญ่ไปหลายทีแล้วหละ" ไจ่ไจ๋เองก็ช่วยปลอบเคนด้วย

"ไม่ตีน้อยหละสิ! เรียกขึ้นไปแบบนี้ชั้นตายคามือมันแน่!" เคนแหวใส่พี่น้องทั้งคู่

"ไม่หรอกน่า อย่าคิดไปในแง่ร้ายสิ" แวนเนสบอกไม่ให้น้องคิดไปในแง่ร้ายทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นพี่ใหญ่ไม่ปล่อยเลยตามเลยแน่

"ไม่คิดได้ยังงัยวะ? โอ้ย! ชั้นจะทำยังงัยดี?" เคนมีท่าทีร้อนรนมือเย็นเฉียบด้วยความกลัว

"ใจเย็นๆครับ เดี๋ยวผมขึ้นไปช่วยอธิบายให้พี่ใหญ่ฟังด้วย" น้องเล็กเองก็ไม่รู้จะทำยังงัยแล้ว ในตอนนั้นเองเสียงพี่ใหญ่ก็ดังขึ้น

"เสี้ยวเทียน!! นายไม่ได้ยินที่ชั้นพูดใช่มั๊ย!?" เคนสะดุ้งเฮือกก่อนจะรีบเดินตามพี่ชายขึ้นไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะไม่เช่นนั้นแล้วพี่ใหญ่อาจจะอารมณ์เสียมากกว่านี้ก็ได้

"ทำยังงัยดีพี่รอง?" ไจ่ไจ๋มองตามเคนก่อนที่จะหันไปปรึกษาแวนเนส

"ไม่รู้เหมือนกันว่ะ เอาเป็นว่าเราตามขึ้นไปดีกว่าไม่งั้นวันนี้เจ้าพี่กลางของนายได้กลายเป็นวิญญาณแน่" ว่าแล้วแวนเนสก็ดึงมือน้องตามพี่ชายและน้องชายอีกคนขึ้นไป



- ในห้องนอนของพี่ใหญ่ -

"เรื่องนี้ชั้นอธิบายได้นะ....." เคนบอกกับพี่ชายอย่างกล้าๆกลัวๆเพราะตอนนี้พี่ใหญ่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาและกำลังจ้องมองเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

"ถ้านายต้องการที่จะอธิบายให้ชั้นฟังจริงๆคงไม่รอเวลาล่วงมาถึงวันนี้หรอก" พี่ใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงเครียดๆ เคนได้ยินเช่นนั้นจึงไม่กล้าพูดอะไรต่อเพราะพูดไปก็เหมือนเป็นการแก้ตัว

"ไปยืนรอตรงนั้น!" เจอร์รี่ออกคำสั่งพร้อมกับชี้นิ้วไปยังที่ว่างตรงมุมห้อง เคนเม้มปากเล็กน้อยก่อนจะเดินไปยืนตามคำสั่งของพี่ชาย

"หันหน้าเข้ากำแพงแล้วก้มหน้าลงไป!" สั่งน้องต่ออีก เคนไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่ทำตามคำสั่งแต่โดยดี ในระหว่างนั้นเคนได้ยินเสียงพี่ชายเปิดตู้เสื้อผ้าก็นึกสงสัยแต่ไม่กล้าหันไปมองเพราะกลัวจะโดนดุ จนเมื่อรู้สึกว่าพี่ชายมายืนอยู่ด้านหลังเขาเคนจึงอดที่จะเหลียวกลับมามองไม่ได้แต่แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นสายเข็มขัดในมือพี่ชาย

"พี่ใหญ่....." ครางออกมาเบาๆแต่สีหน้านั้นเหยเกเหมือนคนกำลังจะร้องไห้อยู่แล้ว

"หันกลับไปยืนนิ่งๆ แล้วห้ามร้องให้ได้ยินด้วย!" พูดด้วยน้ำเสียงดุๆพร้อมกับจับตัวน้องให้หันกลับไป ในตอนนั้นเองเคนก็รวบรวมความกล้าขัดขืนพี่ชายโดยการปัดมือพี่ชายออกแล้ววิ่งหนีไปอีกด้านหนึ่ง

"คิดจะลองดีกับชั้นใช่มั๊ย!!?" พี่ใหญ่ไม่ได้ตามไปแต่จ้องหน้าน้องชายและพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน

"ไม่ได้ลองดี แต่ช่วยฟังชั้นอธิบายก่อน......" เคนพยายามต่อรองพี่ชายด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ เจอร์รี่ไม่ตอบว่าอะไรแต่เดินไปที่ประตูแล้วกดล็อก

"ถ้าต้องให้ชั้นเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหานายก่อนแล้วหละก็นายเจ็บหนักแน่" เคนมีท่าทางลังเลว่าจะยอมให้พี่ชายทำโทษแต่โดยดีหรือดื้อดึงต่อ

"เดินเข้าไปก็เจ็บหนักไม่แพ้กันหรอก" พึมพำกับตัวเองเบาๆแล้วตัดสินใจได้อย่างแน่วแน่ว่ายังงัยเขาก็จะขัดขืนพี่ชายให้ถึงที่สุด

"เจอร์รี่!!" และแล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงแวนเนสที่ร้องเรียกพี่ชาย เคนได้ยินก็ค่อยรู้สึกโล่งขึ้นเพราะอย่างน้อยเขาก็น่าจะมีคนคอยช่วยอยู่ข้างนอกจึงร้องขอความช่วยเหลือทันที

"แวนเนส!! ช่วยชั้นด้วย! พี่ใหญ่จะเอาเข็มขัดตีชั้น!!" เคนร้องขอความช่วยเหลือจากพี่ชายคนรอง

"เฮ้ยยยย!!!!!!" เสียงแวนเนสกับไจ่ไจ๋ร้องอุทานขึ้นมาพร้อมกัน

"เจอร์รี่!! อย่านะโว้ย! เดี๋ยวมันตาย!" แวนเนสโวยวายขึ้นมาทันที

"พี่ใหญ่!! อย่าตีพี่กลางเลยนะ! เรื่องนี้ผมอธิบายได้พี่กลางเขาไม่ได้เป็นคนหาเรื่องก่อนนะ!!" เสียงไจ่ไจ๋ร้องแก้ตัวให้เคนพร้อมกับช่วยทุบประตูห้องพี่ชายด้วย เจอร์รี่จ้องหน้าน้องชายคนกลางตาเขม็งก่อนจะก้าวพรวดเข้าไปหา เคนเองก็สังเกตพี่ชายอยู่แล้วเมื่อเห็นพี่ชายเดินเข้ามาเขาก็วิ่งหนีไปอีกทางหนึ่งทำให้พี่ชายยิ่งโมโหหนักกว่าเก่า

"เสี้ยวเทียน!!! ถ้าชั้นจับนายได้เมื่อไหร่รับรองว่าชั้นจะฟาดนายให้ตายแน่!" แม้จะเป็นการขู่แต่เคนก็รู้ว่าพี่ชายไม่ได้พูดเล่นแน่

"ชั้นไม่ขัดข้องถ้านายจะลงโทษชั้นแต่ก่อนจะลงโทษนายน่าจะฟังชั้นอธิบายก่อน" เคนพยายามจะเล่าสาเหตของการที่เขาต้องถูกพักงานให้พี่ชายฟังแต่ดูเหมือนพี่ชายจะโมโหจนไม่อยากรับรู้

"ชั้นไม่สนใจกับคำอธิบายอะไรของนายทั้งนั้น! เดินมานี่เดี๋ยวนี้!!" สั่งต่อด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด

"เฮ้ย!! เจอร์รี่! นายใจเย็นๆ! แล้วเปิดประตูให้ชั้นก่อน!!" เสียงแวนเนสร้องบอกพร้อมกับทุบประตูไปด้วย ในตอนนั้นเคนเผลอหันไปทางประตูทำให้ไม่ทันระวังพี่ใหญ่จึงปราดเข้ามาถึงตัว

"เฮ้ย!!! โอ้ย!!!!" เคนร้องเสียงหลงเมื่อโดนพี่ชายจับตัวได้และบีบแขนแน่นลากมากลางห้อง

"อย่าทำอะไรชั้นเลยพี่ใหญ่!! ชั้นผิดไปแล้ว!! ชั้นขอโทษ!!" เคนร้องลั่นพร้อมกับดิ้นรน ในขณะเดียวกันเสียงของแวนเนสและไจ่ไจ๋ก็ร้องห้ามกันยกใหญ่

"อย่าเพิ่งตีมันนะเจอร์รี่!!! ใจเย็นๆก่อน!! เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิด!!" เสียงแวนเนสร้องห้าม

"พี่ใหญ่ครับ!! อย่าตีพี่กลาง!! เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะผมต่างหาก!!" ไจ่ไจ๋ร้องห้ามประสานเสียงกับแวนเนสด้วย ในตอนนั้นเองเคนก็ดิ้นสุดแรงและหลุดออกมาจากการเกาะกุมของพี่ชายได้ในที่สุด เขาวิ่งพรวดไปที่ประตูแล้วเปิดออกทันที

"เสี้ยวเทียน!!!! พี่กลาง!!!" เมื่อเปิดออกมาแวนเนสกับไจ่ไจ๋ก็อุทานเรียกเคนออกมาพร้อมกัน

"จะไปไหน!?" ถามขึ้นมาพร้อมกันเมื่อเห็นเคนทำท่าจะวิ่งเลยออกไป แต่เคนไม่มีเวลาสนใจอะไรอีกแล้วเพราะตอนนี้พี่ใหญ่กำลังเดินตรงมาที่เขา

"ไม่อยู่แล้ว!" เคนร้องบอกแล้วก็วิ่งเผ่นแน่บออกจากบ้านไปอย่างไม่คิดชีวิตเพราะถ้าขืนยังอยู่ต่อไปเขาได้ตายคามือพี่ชายแน่ๆ

"เสี้ยวเทียน!!!!" เจอร์รี่ตะโกนเรียกน้องชายแล้วทำท่าจะตามออกไปแต่แวนเนสก็รีบเข้าไปขวางพี่ชายไว้ก่อน

"ใจเย็นก่อนได้มั๊ย!? นายฟังแค่น้องมันถูกพักงานก็จะตีมันแล้วหรอ?" แวนเนสต่อว่าพี่ชาย

"ไจ่ไจ๋! เอาไปเก็บ!" แล้วก็แย่งสายเข็มขัดในมือพี่ชายส่งให้น้อง

"มันโกหกชั้น! ปิดบังชั้น! แล้วถ้าชั้นไม่มาได้ยินเองมันก็ไม่คิดจะบอกชั้น! แบบนี้มันทำถูกแล้วหรืองัย!!?" ตวาดใส่แวนเนสกลับไปด้วยความโมโหสุดๆ

"ใช่มันทำผิด!! แต่ทำไมนายไม่รู้จักถามเรื่องราวทั้งหมดซะก่อนหละ? จะตีมันให้ตายก่อนแล้วค่อยมาสอบถามหรอว่าน้องมันมีเรื่องเพราะอะไร? ตอนนั้นน้องมันจะตอบนายได้หรอ?" แวนเนสเตือนสติพี่ชาย เจอร์รี่ได้ยินก็ค่อยสงบลง

"ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงไม่รู้จักคิดซะบ้าง!! โตป่านนี้แล้วยังหาเรื่องใส่ตัวได้ไม่รู้จักหยุดจักหย่อน!! ดี!! ในเมื่อมันมีปัญหามากชั้นก็จะให้มันลาออกซะ!!" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็สะดุ้ง

"พี่ใหญ่ครับ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะผมเอง พี่อย่าโทษพี่กลางเลย" ไจ่ไจ๋รีบแย้งขึ้นมาทันที

"ไจ่ไจ๋! พี่รู้นะว่านายอยากจะช่วยมันแต่ไอ้การออกรับแทนทุกครั้งแบบนี้มันช่วยอะไรไม่ได้หรอกนะ!" หันไปต่อว่าไจ่ไจ๋อย่างรำคาญ

"ช่วยสิ! เพราะเรื่องนี้ต้นเหตุมันมาจากไจ่ไจ๋จริงๆ" แวนเนสโพลงออกมาบ้าง ทำให้พี่ใหญ่เงียบไป

"งั้นนายเล่ามาให้พี่ฟังซิไจ่ไจ๋" ก่อนจะบอกให้น้องเล็กเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง จนเมื่อไจ่ไจ๋เล่าจบเจอร์รี่ก็ค่อยคลายความโมโหได้บ้าง

"แล้วไอ้หมอนั่นมันทำอะไรพี่กลางหรือเปล่า?" ถามน้องต่ออีก

"ไม่ครับ พอดีมีเจ้าหน้าที่มาห้ามไว้ก่อน" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วมองพี่ชายอย่างกล้าๆกลัวๆ

"ถ้าผมไม่ขี้ขลาดพี่กลางก็ไม่ต้องโดนพักงาน หรือถ้าผมเชื่อพี่แต่แรกไม่ไปกับพี่เขา ป่านนี้พี่กลางก็ไม่เดือดร้อน ทั้งหมดเป็นเพราะผมเอง" พอได้ยินน้องโทษตัวเองเช่นนี้พี่ใหญ่ก็ใจอ่อน

"แล้วถ้าพี่กลางต้องถูกตีเพราะผมอีก ผมคงไม่สบายใจแน่ๆ พี่ใหญ่ครับ.....ผมขอร้องเถอะนะอย่าตีพี่กลางเขาเลย ถ้าพี่จะตีก็ตีผมเถอะเพราะทุกอย่างที่พี่กลางทำไปก็เพื่อปกป้องผมทั้งนั้น" เมื่อพอจะจับได้เลาๆว่าพี่ใหญ่เริ่มใจอ่อนแล้วไจ่ไจ๋ก็พูดร้องขอให้เคนอีก

"ใช่! ถ้านายจะตีนายก็ต้องตีไจ่ไจ๋มันเพราะมันเป็นต่างหากที่เป็นตัวต้นเหตุ" แวนเนสพูดเสริม

"น้องจะเป็นตัวต้นเหตุได้ยังงัย? ในเมื่อน้องถูกหาเรื่องก่อน" เจอร์รี่อดไม่ได้ที่จะแก้ตัวแทนน้องเล็ก

"ฮึ! ดีหนิ ทีไจ่ไจ๋นายว่ามันโดนหาเรื่องแต่กับเสี้ยวเทียนมันช่วยน้องกลับกลายว่าเป็นคนไปหาเรื่องเขา" แวนเนสอดปากไว้ไม่ได้

"ชั้นก็ไม่ได้พูดว่ามันไปหาเรื่องเขา" เถียงน้องชายกลับไปเสียงแข็ง

"งั้นที่นายจะตีมันเพราะอะไรหละ?" แวนเนสย้อนอย่างไม่ยอมเลิก

"เพราะมันโกหกแล้วก็ปิดบังชั้น" เจอร์รี่ตอบแบบไม่เต็มเสียงนัก

"แล้วไจ่ไจ๋ไม่ได้ช่วยโกหกปิดบังนายด้วยอย่างนั้นหรอ?" โดนย้อนมาแบบนี้พี่ใหญ่ก็อึ้งไป

"ถ้านายจะลงโทษมันชั้นก็ไม่ว่าหรอกเพราะชั้นก็ว่าครั้งนี้มันเป็นเรื่องร้ายแรงเหมือนกัน แต่อย่าลืมว่าคนที่ผิดไม่ใช่แค่เสี้ยวเทียนคนเดียว" แวนเนสพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"ชั้นจะลงโทษทั้งคู่นั่นแหละ!" พี่ใหญ่พูดเสียงห้วนแล้วลุกขึ้นจะไปตามเคนกลับมา

"จะไปไหนครับพี่ใหญ่?" ไจ่ไจ๋แกล้งถามพี่ชายทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว

"ยุ่ง!" เจอร์รี่กระชากเสียงก่อนจะเดินออกไปจากบ้าน

"หึๆๆๆ" แวนเนสกับไจ่ไจ๋หันไปหัวเราะให้กัน

"ไจ่ไจ๋....พี่ขอโทษนะที่เมื่อกี้พูดเหมือนกับว่านายเป็นต้นเหตุแต่นายก็รู้ใช่มั๊ยว่าถ้าไม่อ้างนายขึ้นมาพี่ใหญ่เขาก็ไม่ยอมอ่อนลงแน่ๆ" แวนเนสรีบขอโทษน้องชายทันที

"ไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะมันก็จริงนี่นา เราตามออกไปด้วยดีกว่านะ" พูดจบแล้วสองพี่น้องก็จูงกันเดินตามพี่ใหญ่ออกไป



- ที่สนามเด็กเล่น -

"เฮ่อ! จะไปไหนดีวะ? เงินก็ไม่มีติดตัวเลย" เคนบ่นอุบกับตัวเองก่อนจะเดินไปนั่งที่ชิงช้าในสนามนั้น

"เรื่องแค่นี้ถึงกับจะตีกันให้ตายเลยหรืองัย? ใจร้ายชะมัด!" ต่อว่าพี่ชายคนโตแล้วนั่งแกว่งชิงช้าเล่น เคนนั่งเล่นอยู่ครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงคนเดินมาเมื่อหันไปก็รู้ว่าเป็นพี่ชายคนโต

"ตายหละหว่า.....ยังตามมาอีกหรอเนี่ย?" เคนว่าแล้วก็รีบวิ่งไปหลบข้างๆเครื่องเล่นที่เป็นอุโมงค์ลอด เจอร์รี่ที่เดินมานั้นเห็นน้องตั้งแต่ตอนแรกแล้ว

"ทำแอบเป็นเด็กๆไปได้" ต่อว่าน้องชายออกมาแต่ก็นึกขำน้องด้วยเช่นกัน

"อย่ามาทางนี่นะ" เคนภาวนาเสียงแผ่วพร้อมกับรีบหมอบลงเมื่อเห็นพี่ชายทำท่าจะเดินตรงเข้ามา

"ตายหละหว่า....." เมื่อเห็นว่าพี่ชายเดินเข้ามาใกล้ทุกทีเคนก็รีบคลานหนีเข้าไปในอุโมงค์สำหรับเด็กเล่นนั้น

"หึๆๆๆ" พี่ใหญ่หัวเราะเจ้าน้องชายตัวดีเบาๆแล้วพอจะรู้ว่าน้องคงคลานหนีไปออกอีกทางหนึ่งจึงไปยืนดักรอตรงทางออก

"เฮ้ย!" เมื่อเคนคลานออกมาตรงทางออกก็ต้องร้องอุทานออกมาเพราะเห็นพี่ชายยืนมองเขาอยู่ เห็นดังนั้นจึงรีบถอยหลังกลับเข้าไปใหม่

"เสี้ยวเทียน! ออกมาเดี๋ยวนี้!" พี่ใหญ่ร้องเรียกน้องชายพร้อมกับเอามือเคาะที่เครื่องเล่นนั้น แต่เคนกลับนั่งขดตัวเงียบกริบอยู่ในนั้นไม่พูดตอบพี่ชายเลย ตอนนั้นแวนเนสกับไจ่ไจ๋ก็ตามมาถึงพอดี

"พี่ใหญ่ครับ! หาพี่กลางเจอมั๊ย?" ไจ่ไจ๋ร้องถามพี่ชาย

"เจอ!" เจอร์รี่ตอบสั้นๆ

"อ้าว.....แล้วมันอยู่ไหนหละ?" แวนเนสถามขึ้นบ้าง

"ในนี้งัย" เจอร์รี่เอาขาเตะเครื่องเล่นดังกล่าวนั้นเบาๆ

"เฮ้ยพี่กลาง! เข้าไปเล่นอะไรน่ะ? ตัวก็ใหญ่เดี๋ยวติดแล้วออกไม่ได้หรอก" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ย่อตัวลงแล้วก้มมองเข้าไปข้างในก่อนจะร้องแซวพี่ชายคนกลาง

"เรื่องของพี่! พี่อยากจะตายๆไปซะตอนนี้เลยด้วยซ้ำ! เวรกรรมอะไรก็ไม่รู้กลับมาบ้านไม่เคยได้อยู่แบบสงบๆเลยซักครั้ง" เคนโต้ตอบกลับมา

"ยังงัยหละ? ทำจนน้องอยากตายแล้วเห็นมั๊ย?" แวนเนสหันไปต่อว่าพี่ชายคนโต

"เฮ่อ! ยุ่งอะไรแบบนี้ก็ไม่รู้" เจอร์รี่บ่นอุบก่อนจะย่อตัวลงมาแล้วส่งสายตาเข้าไปมองน้องชาย

"เสี้ยวเทียนออกมาได้แล้ว เร็วๆเข้า!" เรียกเจ้าน้องชายตัวดีให้รีบออกมา แต่เคนกลับส่ายหน้าเพราะกลัวว่าออกไปแล้วพี่ชายจะลากตัวเขากลับไปบ้านแล้วคราวนี้เขาคงโดนตีอย่างหนักเป็นแน่

"ไจ่ไจ๋ นายเข้าไปโอ๋มันทีซิ" แวนเนสหันไปบอกน้องเล็ก

"โหย.....เดี๋ยวเด็กมาเห็นหละอายเขาแย่เลย" ไจ่ไจ๋บ่นแต่ก็คลานเข้าไปหาพี่ชาย

"พี่กลาง พี่ใหญ่สัญญาว่าจะไม่ตีแล้ว ออกไปเถอะ ข้างในนี้ร้อนออก" ไจ่ไจ๋พูดกับเคน

"พี่ไม่เชื่อหรอก" เคนส่ายหน้าปฏิเสธทันทีด้วยไม่เชื่อว่าพี่ชายจะเปลี่ยนอารมณ์เร็วขนาดนี้เพราะเมื่อกี้ยังโมโหจนแทบจะฆ่าเขาตายอยู่แล้ว

"เชื่อเถอะครับ เพราะเมื่อกี้ผมเล่าความจริงทุกอย่างให้พี่ใหญ่ฟังหมดแล้ว" น้องเล็กว่าพร้อมกับดึงแขนพี่ชาย

"ไปเร็วๆ แข่งกันก็ได้ ใครออกไปก่อนคนนั้นชนะ" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็ชวนพี่ชายเล่นเปลี่ยนบรรยากาศ แต่เคนยังนั่งเฉยเพราะยังไม่เชื่ออยู่ดี

"อ้าว! ทำไมไม่ออกมาหละพี่กลาง?" เมื่อออกมาแล้วไจ่ไจ๋ก็ร้องครางเมื่อไม่เห็นพี่ชายจะยอมขยับตัวเลย

"ชั้นว่านะ สงสัยต้องเป็นนายเข้าไปแล้วหละมันถึงจะยอมออกมาน่ะ" แวนเนสหันไปพูดกับพี่ชายพร้อมกับกลั้นรอยยิ้มไว้

"จะบ้าหรืองัย! ถ้ามันไม่ออกมาก็ให้นอนอยู่ในนั้นนั่นแหละ!" พี่ใหญ่โวยวายอย่างเริ่มรู้สึกหงุดหงิดที่น้องพูดยากพูดเย็น

"อ้าว! พี่กลางเลยนอนเลยเห็นมั๊ย?" ไจ่ไจ๋ร้องบอกเมื่อเห็นเคนขยับตัวนอนราบลงไปแล้วเอาแขนหนุนหัว ทำเอาพี่ใหญ่ทั้งฉุนทั้งขำกับเจ้าน้องชายคนนี้

"ใครก็ได้ไปหาไม้เรียวมาทีซิ! พี่จะเข้าไปตีเด็กดื้อที่พูดไม่รู้เรื่อง!" เจอร์รี่แกล้งพูดขู่น้องดังๆ

"เดี๋ยวชั้นไปเอาให้แล้วกัน" แวนเนสรีบคำพี่ชายอย่างรู้งาน

"พี่กลางครับ พี่ใหญ่จะตีแล้วนะ ออกมาเร็วๆ" ไจ่ไจ๋เร่งพี่ชายด้วยอีกแรง ทำเอาเคนเริ่มลังเลว่าจะออกไปดีหรือไม่

"อะ....ชั้นหาไม้ให้แล้ว!" แวนเนสแกล้งพูดดังๆ

"ดีเลย! เอามานี่ชั้นจะเข้าไปตีเด็กดื้อแล้ว!" เคนได้ยินดังนั้นจึงตัดสินใจรีบมุดออกไปอีกด้านหนึ่งทันทีแต่พอออกมาก็ไม่เห็นว่าพี่ใหญ่จะมีไม้เรียวอยู่ในมือเหมือนที่ขู่ไว้

"หึๆๆๆๆ....." ไจ่ไจ๋หันหลังไปหัวเราะคิกเพราะสีหน้าและท่าทางของพี่ชายตอนนี้เหมือนเด็กซนๆคนนึงที่หนีผู้ปกครองออกมาเล่น แวนเนสเองก็เอามือปิดปากขำด้วยเช่นกัน

"ดื้อนักเชียว! พูดคำเดียวไม่เคยรู้เรื่อง!" มีแต่พี่ใหญ่เท่านั้นที่ยังคงเก๊กหน้าดุไว้ได้ เคนมองไปทางพี่น้องสองคนก่อนจะเหลือบมองพี่ใหญ่

"ยังจะมามองอีก! ต้องตีซักทีแล้ว นี่แหนะ!" ว่าแล้วก็จับน้องหันหลังแล้วตีก้นไปทีหนึ่ง

"เล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง เนื้อตัวมอมแมมยังกะเด็กเล็กๆ" แล้วก็ดุน้องต่ออีกแต่ยังมีแก่ใจปัดเศษดินที่ติดตามเสื้อผ้าออกให้น้องด้วย

"ไป! กลับบ้าน!" ว่าแล้วก็กึ่งลากกึ่งจูงมือน้องชายเดินกลับบ้าน เคนเหลียวกลับมามองพี่ชายกับน้องชายที่กำลังยืนหัวเราะเขาไม่เลิกแล้วก็รู้สึกอาย

"อะไรอีกหละ?" เจอร์รี่หันกลับมามองน้องชายที่สะบัดมือเขาออก

"เดินเองได้ไม่ต้องจูง!" เคนพูดด้วยน้ำเสียงห้วนๆ

"อย่ามาแผลงฤทธิ์กับชั้นให้มากนะ! เดี๋ยวกลับถึงบ้านเราจะต้องถูกทำโทษอีก!" หันมาดุเจ้าน้องชายตัวดี เคนได้ยินดังนั้นก็หันหลังกลับทันที

"อ้าวเฮ้ย! แล้วจะไปไหน?" ร้องอุทานก่อนจะหันกลับไปดึงตัวน้องชาย

"ชั้นจะไม่กลับบ้านแล้ว!" เคนตวัดเสียงใส่พี่ชาย

"ไม่กลับแล้วจะไปอยู่ไหนฮึ? บ้านอาเจียงก็ขายไปแล้วด้วย" เจอร์รี่หลุดปากพูดออกไปแต่แล้วก็เป็นฝ่ายอึ้งเสียเอง

"อะไรนะ? บ้านอาเจียงขายไปแล้วหรอ?" เคนถามย้ำพี่ชายรู้สึกใจหายวาบ

"เอ่อ...." พี่ใหญ่อึกอัก ตอนนั้นเองแวนเนสกับไจ่ไจ๋ก็เดินหัวเราะกันคิกคักตามมาแต่พอเห็นสีหน้าของเจอร์รี่กับเคนแล้วก็หยุดชะงัก

"เฮ้ย! มีเรื่องอะไรกันอีกวะ?" แวนเนสร้องถามแล้วรีบวิ่งเข้ามาสมทบ

"บ้านอาเจียงขายไปตั้งแต่เมื่อไหร่? แล้วใครเป็นคนซื้อ?" ได้ยินคำถามนั้นแวนเนสกับไจ่ไจ๋ก็อึ้งไปเหมือนกัน

"เอ่อ....เขาติดต่อทางพ่อกับแม่น่ะ ก็นายบอกเองไม่ใช่หรอว่าให้พ่อแม่จัดการให้" พี่ใหญ่ตอบแบบลำบากใจ

"อืม.....ก็ใช่ แต่ทำไมถึงเร็วจัง....." เคนพึมพำเบาๆ และเพิ่งรู้ว่าตัวเขาเองก็ยังตัดใจไม่ลงเช่นกัน

"แล้วคนที่ซื้อ....เอ่อ....คนที่ซื้อเขาจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วหรอ?" เงยหน้าถามพี่ชายต่ออีก

"ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น" พี่ใหญ่ตอบแล้วหันไปลอบถอนใจนึกอย่างจะเขกหัวตัวเองที่หลุดปากออกมาในเวลาที่ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นัก

"เขาต่อรองราคาหรือเปล่า?" เคนถามย้ำพี่ชายอีกเพราะคิดว่าตัวเองตั้งราคาค่อนข้างสูงอยู่เหมือนกัน

"ไม่ต่อเลยซักนิด" เจอร์รี่ตอบไปตามตรง

"อ้อ" เมื่อได้ยินคำตอบเคนก็มีสีหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด พลอยทำเอาพี่น้องพูดอะไรไม่ออกไปด้วย

"ถ้านายยังทำใจไม่ได้จริงๆ ชั้นจะขอให้พ่อแม่ซื้อคืนมาก็ได้" เมื่อเห็นสีหน้าน้องเป็นแบบนั้นแล้วพี่ใหญ่ก็สงสารจับใจ

"ไม่....ไม่ต้องหรอก....." เคนรีบห้ามพี่ชายทันที

"ชั้นไม่อยากได้คืนหรอกนะ เพียงแต่แค่รู้สึกใจหายนิดหน่อย" เคนให้เหตุผลก่อนจะถอนหายใจเบาๆ

"กลับบ้านกันเถอะ" ว่าแล้วก็เดินนำไปก่อน ปล่อยให้พี่ๆน้องๆได้แต่มองหน้ากันไปมาอย่างไม่รู้จะทำยังงัยดี




 

Create Date : 30 ธันวาคม 2550    
Last Update : 30 ธันวาคม 2550 21:38:37 น.
Counter : 1462 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  
 
 

loving_zai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




[Add loving_zai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com