Chapter 90 (The End Of Part I)

ตอนที่ 90 (ตอนจบ)

"ผมไปด้วย! ให้ผมไปด้วยไม่ได้หรอ?" ไจ่ไจ๋ร้องถามขึ้นทันทีที่ได้ยินว่าพ่อกับแม่จะไปรับเคนกลับบ้านกันเพียงสองคนเท่านั้น

"นายมีเรียนไม่ใช่หรอไจ่ไจ๋? จะไปทำไมเดี๋ยวตอนเย็นก็เจอกันแล้ว" แวนเนสแย้งน้องชายขึ้นมาแทนพ่อกับแม่

"โธ่! หยุดวันเดียวไม่เป็นไรหรอก เพิ่งจะเปิดเทอมเองไม่มีอะไรมากซักหน่อย" น้องเล็กยังคงพยายามหาข้อแก้ตัวเพื่อที่จะไปรับพี่ชายคนกลางด้วย

"ไม่ต้องเลยนะไจ่ไจ๋ หยุดเรียนพร่ำเพรื่อแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน ไปเรียนซะเดี๋ยวพอนายกลับมาก็ได้เจอพี่กลางอยู่แล้ว" พี่ใหญ่ยื่นคำขาดกับน้องด้วยอีกคน ยังผลให้น้องเล็กหน้ามุ่ยลงทันที

"ก็ผมคิดถึงพี่กลางนี่" เถียงออกมาเสียงอ่อยแต่ไม่กล้าตื้ออะไรกับพ่อแม่มากนักเพราะพี่ใหญ่อยู่ด้วย

"คิดถึงอะไรนักหนา? เห็นโทรคุยกันทุกวันยังไม่พออีกหรืองัย?" เจอร์รี่เอ็ดใส่น้องเข้าให้

"ไปเรียนเถอะลูก ถ้าพี่กลางเขารู้ว่าลูกโดดเรียนไปรับเขา พี่กลางก็ต้องไม่พอใจเหมือนกัน" พ่อให้เหตุผลกับลูกชายด้วยอีกคน

"นั่นสิจ๊ะ ไปเรียนเสร็จลูกก็รีบกลับ เดี๋ยวแม่จะให้พี่เขาทำอาหารอร่อยๆไว้รอลูกดีมั๊ย?" แม่ช่วยปลอบด้วยอีกแรง ได้ยิ่งดังนั้นน้องเล็กของบ้านก็มีท่าทีอ่อนลงก่อนจะพยักหน้ารับแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก

"ผมไปเรียนก็ได้" พ่อกับแม่หันไปสบตากันยิ้มๆกับท่าทีหงอยๆของลูกคนเล็ก

"ดีมากจ๊ะ พักนี้ลูกแม่น่ารักจัง ว่าง่ายกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย" แม่หยิกแก้มลูกชายพร้อมกับเอ่ยชม ไจ่ไจ๋เลยยิ้มออกมาได้ในที่สุด

"ใช่ซี้.....ลูกคนนั้นมันน่ารักอยู่คนเดียวหนิ" แวนเนสพูดกระแนะกระแหนขึ้นมาลอยๆ แม่ได้ยินก็หันไปทางเจ้าของเสียงแล้วส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจ

"ขี้อิจฉานักนะเราน่ะ" พ่อที่นั่งอยู่ใกล้ๆแวนเนสเอ่ยขึ้นพร้อมกับขยี้หัวลูกชายอย่างเอ็นดู

"ก็พ่อดูสิ กลับมาทีไรแม่โอ๋แต่เจ้าเด็กนั่นคนเดียวไม่สนใจผมมั่งเลย" แวนเนสฟ้องฉอดๆ

"โอ๋ๆๆๆ แม่ไม่สนไม่เป็นไรพ่อยังอยู่ทั้งคนนี่ลูก" พ่อทำการโอ๋ลูกชายเป็นการใหญ่ แวนเนสเลยได้ทีเอาหัวซบลงที่ไหล่ของพ่ออย่างออดอ้อน

"ทำตัวเป็นเด็กๆ" เจอร์รี่ว่ากระทบน้องชายคนรองขึ้นมาอย่างหมั่นไส้

"เออ! ชั้นมันทำอะไรก็ไม่น่ารักเหมือนน้องชายคนโปรดของนายหนิ" แวนเนสตวัดเสียงใส่พี่ชายอีกคน

"รู้ก็ดีแล้วนี่" เจอร์รี่ตอบรับคำประชดของน้องตรงๆ แวนเนสเลยทำหน้ากระเง้ากระงอด

"ดีหละ งั้นเวลาชั้นไม่อยู่ไม่ต้องมาคิดถึงเลยนะ ไม่ต้องโทรหาด้วย" พูดด้วยน้ำเสียงงอนๆใส่พี่ชาย

"เออ.....จะไปไหนก็ไปเหอะ ชั้นไม่สนใจหรอก" เจอร์รี่พูดเล่นๆแต่ทำเอาแวนเนสถึงกับชะงัก

"อ้อ! นั่นสินะ......ชั้นมันไม่สำคัญกับนายถึงขนาดนั้นนี่......" แวนเนสพูดเสียงแผ่วสีหน้าสลดลง

"เจอร์รี่!!! พี่ใหญ่!!!" เสียงเข้มๆของพ่อแม่และไจ่ไจ๋ดังขึ้นพร้อมกัน

"เอ่อ....." เจอร์รี่ทำหน้าแหยๆ

"ชั้นพูดเล่น" เจอร์รี่หันไปแก้ตัวกับน้องชาย แวนเนสก้มหน้าลงแอบอมยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าจ๋อยๆของพี่ชาย

"เราชอบว่าแต่น้องที่เล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง ตัวเองก็เหมือนกันนั่นแหละ ล้อเล่นอะไรกับน้องแบบนี้?" แม่เอ็ดใส่ลูกชายคนโตขึ้นมาทันที

"แวนเนส.....อย่าน้อยใจพี่ใหญ่เลยนะ พี่พูดเล่น ไม่ว่าน้องคนไหนก็สำคัญกับพี่ทุกคน พี่รักนายเท่าๆกับที่รักน้องนั่นแหละ" พี่ใหญ่รีบเดินมาหาน้องชายพลางเอ่ยปากง้อยกใหญ่

"คนเราจะพูดอะไรมันก็ย่อมได้ทั้งนั้น แต่ในใจจริงๆใครจะไปรู้" แวนเนสยังแสร้งตีหน้าเศร้า

"พี่เขาไม่ได้หมายความแบบนั้นซักหน่อยลูกก็รู้หนิ" พ่อช่วยพูดไกล่เกลี่ยขึ้นมาอีกคน แวนเนสส่ายหน้าแล้วเอาหัวพิงซบกับไหล่ของพ่ออีกครั้ง

"พี่ใหญ่อ่ะ ง้อพี่รองให้หายงอนเดี๋ยวนี้เลยนะ" น้องเล็กหันไปทำเสียงเข้มหน้าขึงใส่พี่ชาย

"อะไรวะ ขี้งอนกันชะมัดเลย!" บ่นอุบอิบกับตัวเองเบาๆแล้วสะกิดแขนแวนเนสเป็นเชิงง้อแต่แวนเนสกลับปัดมือพี่ชายออก

"โอ๋ๆๆๆ อย่างอนเลยนะ เดี๋ยวพี่ใหญ่ซื้อขนมให้" ว่าพลางยิ้มหวานให้น้องแต่แวนเนสกลับทำหน้าบึ้งใส่

"ชั้นไม่ใช่เด็กปัญญาอ่อนนะที่เอะอะอะไรก็จะเอาขนมมาล่อทุกที!" แหวใส่พี่ชายกลับ

"อ้าว! ไหงพูดอย่างงี้หละพี่รอง?" ไจ่ไจ๋สวนขึ้นทันควันเพราะสิ่งที่พี่ชายพูดตรงกับตัวเอง

"พี่ไม่ได้ว่านายซักหน่อย จะร้อนตัวไปทำไมหละ?" แวนเนสหันมาแก้ตัวกับน้อง ไจ่ไจ๋ทำหน้างอใส่

"ไม่เอาน่าลูก.....อย่าทะเลาะกันสิ พี่เขาไม่ได้ตั้งใจว่าลูกซักหน่อยอย่าอารมณ์เสียเลยนะ" แม่เอ่ยปรามขึ้นมาเมื่อเห็นลูกชายทำหน้าตึงใส่กัน

"ไม่ได้ว่าอะไรหละ? จงใจเห็นๆเลยเนี่ย" ไจ่ไจ๋ตวัดเสียงพลางค้อนใส่พี่ชายคนรองเสียหลายตลบ แวนเนสเองก็เบ้ปากใส่น้องเช่นกัน

"สมน้ำหน้าแล้วหละที่พี่ใหญ่ไม่สนใจ ก็อยากทำตัวไม่น่ารักเองหนิ" ไจ่ไจ๋ว่ากระทบพี่ชายขึ้นมาลอยๆ

"หรอ? อู้ยยย....ตัวเองน่ารักตายหละ....." แวนเนสทำเสียงล้อเลียนน้องชาย

"ไอ้....." น้องเล็กจ้องหน้าพี่ชายอย่างเคืองๆ แต่แวนเนสกลับยักคิ้วหลิ่วตาหลอกน้องอีก

"แวนเนส!" เจอร์รี่ส่งเสียงปรามเมื่อเห็นว่าน้องเล็กเริ่มจะอารมณ์เสียขึ้นมาจริงๆแล้ว

"อุ๊ย! โกรธละ....." แวนเนสยังคงแหย่น้องอีก ไจ่ไจ๋หันไปคว้าหมอนอิงจะปาใส่พี่ชายแต่แม่คว้าต่อไปอีกทอดหนึ่ง

"อย่าทำแบบนี้สิ พี่เขาก็แค่เล่นกับเราจะโมโหไปทำไม?" แม่ตำหนิลูกชายคนเล็กแล้ววางหมอนลงที่เดิม ไจ่ไจ๋เม้มปากแล้วสะบัดหน้าหนี

"ทำให้เป็นเรื่องจนได้!" พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับเขกหัวคนช่างกวนด้วย

"อะไรวะ ว่าแต่ชั้นทั้งปีเลย" บ่นอุบอิบออกมาเบาๆแต่ก็สงบปากสงบคำแต่โดยดี

"เฮ่อ! อะไรกันเนี่ย" พ่อถอนลอบหายใจแล้วขยี้หัวแวนเนสเบาๆ

"หนูกลอเรียเป็นงัยบ้างลูก?" เปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นเป็นการตัดบท

"ก็สบายดีครับ ประมาณช่วงอาทิตย์หน้าเราจะเปิดร้านหนังสือกันแล้วนะพ่อ" แวนเนสตอบบิดาเสียงใส

"เรา? หมายถึงหนูกลอเรียกับลูกงั้นหรอ?" พ่อย้อนถามพลางเลิกคิ้ว

"ครับ" ตอบพร้อมกับยิ้มอย่างมีความสุข

"พ่อเห็นว่าเธอเป็นงัย? พ่อชอบเธอมั๊ย?" แวนเนสถามพ่ออย่างจริงจัง

"ชอบสิลูก ลูกชอบใครพ่อก็ชอบด้วยทั้งนั้นแหละ" พ่อตอบพร้อมกับยิ้มให้ลูกชาย

"พูดเหมือนวางแผนอะไรไว้แล้วอย่างงั้นแหละ" แม่เอ่ยขึ้นมาบ้าง แวนเนสได้ยินก็อมยิ้มแบบเขินๆ

"พี่รองคิดจะแต่งงานหรอ?" เสียงไจ่ไจ๋ถามขึ้นตามมา คนถูกถามเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

"หายงอนแล้วหรอ?" ย้อนถามกลับยิ้มๆ น้องเล็กไม่ตอบแต่ลุกเดินมานั่งลงข้างพี่ชาย

"พี่รองจะขอพี่กลอเรียแต่งงานหรอ?" ถามย้ำอีกครั้งหนึ่งด้วยสีหน้าจริงจัง

"เอ่อ....นายไม่ชอบพี่กลอเรียหรอไจ่ไจ๋?" แวนเนสถามน้อง

"ชอบ....แต่ว่า....." ไจ่ไจ๋ไม่พูดต่อแต่มีสีหน้าสลดลง แวนเนสยิ้มออกมาน้อยๆอย่างเข้าใจความรู้สึกน้องชายก่อนที่จะค่อยๆเอื้อมมือมาโอบไหล่ไจ่ไจ๋ไว้

"แต่ว่าไม่อยากแบ่งพี่ให้ใครใช้ใช่มั๊ย?" ถามเป็นเชิงหยอกเอิน

"บ้า!" น้องเล็กตีแขนพี่ชายพร้อมกับต่อว่าเบาๆก่อนที่จะเอาหัวพิงที่ไหล่ของพี่ชาย

"พี่รองรักพี่กลอเรียหรอ?" ถามต่อออกมาอีก แวนเนสหันไปมองหน้าพ่อแม่และพี่ชายคนโตที่มองมาอยู่เช่นกัน

"รักสิ" ตอบแล้วเอาหน้าซบลงที่หัวของน้องชายต่ออีกทอดหนึ่ง

"รักมากมั๊ย?" แวนเนสลอบถอนหายใจกับคำถามนั้น ไจ่ไจ๋เงยหน้าขึ้นมาสบตากับพี่ชาย

"รักมาก" แวนเนสตอบน้องไปตรงๆ น้องเล็กเม้มปากเล็กน้อย

"แล้ว.....มากกว่าผมหรือเปล่า?......" ถามต่อด้วยเสียงแผ่วเบา คนถูกถามยิ้มออกมาบางๆแล้วใช้มือลูบพวงแก้มของน้องชายอย่างอ่อนโยน

"นายคิดว่างัยหละ?" แวนเนสไม่ตอบแต่กลับย้อนถามน้องแทน น้องเล็กนิ่งไป

"เด็กโง่! ยังไม่รู้คำตอบอีกหรอ?" แวนเนสต่อว่าน้องชายพร้อมกับผลักหัวน้องเบาๆไปด้วย ไจ่ไจ๋ไม่ตอบว่าอะไรแต่ขยับเข้ากอดพี่ชาย

"เด็กอะไรก็ไม่รู้ ขี้อ้อนเป็นที่หนึ่ง" แม่ว่าลูกชายคนเล็กแต่แววตาที่มองมานั้นเต็มไปด้วยความรัก

"ไม่ใช่ขี้อ้อนอย่างเดียวนะแม่ ยังขี้งอนอีกต่างหาก" เจอร์รี่พูดเสริมขึ้นมาบ้าง แวนเนสกอดน้องชายตอบแล้วก้มลงมองน้องยิ้มๆ

"แถมยังขี้อิจฉาด้วยใช่มั๊ย?" แวนเนสถามน้องเป็นเชิงล้อ น้องเล็กทุบต้นขาพี่ชายเข้าให้โทษฐานที่พูดแซว

"ซ้ำยังขี้โมโหอีกต่างหาก" พ่อพูดเสริมขึ้นมาอีกคน ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ผละตัวออกจากอ้อมกอดของแวนเนสแล้วทำหน้ามุ่ยใส่สมาชิกที่เหลือที่ช่วยกันรุมแซวเขา

"แต่ถึงมันจะขี้อ้อน ขี้งอน ขี้อิจฉาหรือว่าขี้โมโห น้องเล็กของเราก็ยังน่ารักอยู่เสมอ จริงมั๊ย?" แวนเนสพูดต่อด้วยสีหน้ายิ้มๆ ไจ่ไจ๋ทำหน้ากึ่งยิ้มกึ่งบึ้งแล้วตีแขนพี่ชายแก้เขิน

"หึๆๆๆ" แวนเนสหัวเราะออกมาเบาๆก่อนที่จะโน้นหัวน้องเข้ามากอดอย่างเอ็นดูโดยที่ทั้งพ่อแม่และพี่ชายคนโตก็ได้แต่อมยิ้มกับท่าทางของเจ้าน้องเล็กคนนี้



- วันถัดมา -

"กลับมาแล้วครับ!" เคนส่งเสียงร้องทักพี่ชายสองคนที่กำลังง่วนกันอยู่ในครัว แวนเนสได้ยินเสียงน้องชายก็วางทุกอย่างลงแล้ววิ่งไปหาน้องทันที

"เสี้ยวเทียน!!!" ร้องเรียกอย่างดีใจแล้วตรงเข้าไปสวมกอดน้อง

"คิดถึงจังเลย" แวนเนสว่าแล้วกอดน้องแน่นขึ้นอีก

"คิดถึงเหมือนกัน" เคนบอกกับพี่ชายยิ้มๆ

"เป็นงัยมั่งเนี่ย? ไหนดูซิ" แวนเนสผละตัวออกจากน้องแล้วมองอย่างสำรวจตรวจตราก่อนที่จะเบ้ปากออกมา

"หูย.....ทำไมดำแบบนี้หละ?" เคนได้ยินก็ยิ้มค้างก่อนที่ปล่อยมือที่กำลังกอดพี่ชายอยู่ออกทันที

"ทักกันแบบนี้ไม่คิดถึงแล้ว! ไปไกลๆเลย!" แวนเนสหัวเราะคิกต่อยเบาๆที่ต้นแขนน้องชาย

"ขอกอดบ้างซิ" พี่ใหญ่ที่เดินตามออกมาร้องบอกแล้วอ้าแขนรอรับเจ้าน้องชายตัวโต เคนยิ้มแล้วเดินเข้าไปสวมกอดพี่ชายแต่โดยดี

"ไปเกเรกับใครมาหรือเปล่าเนี่ย?" เคนได้ยินคำถามนั้นก็ทำหน้าเมื่อย

"หึๆๆๆ" เจอร์รี่หัวเราะขำๆเมื่อเห็นสีหน้าของน้องชาย

"เออ.....พ่อแม่หละ?" ถามหาบุพการีทั้งสองเมื่อไม่เห็นตามเข้ามา

"พ่อแม่เลยไปบริษัทแต่บอกว่าจะรีบกลับ" เคนตอบแล้วยืดคอมองเข้าไปในครัว

"ทำอะไรกันอยู่หรอ?" เอ่ยถามพี่ชายทั้งสอง

"ทำอาหารเย็นน่ะสิ" แวนเนสตอบเต็มปากเต็มคำ

"ทำอาหารเย็น? พวกนายสองคนเป็นคนทำงั้นหรอ?" เคนถามต่ออย่างแปลกใจ

"เออสิ! ทำไม? แปลกใจนักหรอ?" เคนยิ้มแหยๆแล้วส่ายหน้าไปมา

"นายปรุงรสเองเปล่าเจอร์รี่?" เคนกระซิบถามพี่ชายคนโตเบาๆ เจอร์รี่หัวเราะขำๆแล้วพยักหน้ารับ

"เฮ่อ! ค่อยโล่งหน่อย" ว่าพลางเอามือตบหน้าอกตัวเองเบาๆ โดยมีแวนเนสที่ยืนค้อนควับอยู่ข้างๆ

"ไจ่ไจ๋ยังไม่กลับหรอ? เมื่อคืนรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าเลิกเรียนแล้วจะรีบกลับบ้าน ป่านนี้ยังไม่โผล่หัวมาอีก" เคนหันไปพูดถึงน้องชายหน้าตาเฉย

"เดี๋ยวคงมาแหละ เมื่อวานมันก็งอแงจะไม่ยอมไปเรียนเพราะอยากไปรับนายกลับบ้านด้วย" พี่ใหญ่บอกน้องยิ้มๆแล้วหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในครัวเพื่อทำอาหารเย็นต่อ โดยที่เคนและแวนเนสก็เดินตามเข้าไปด้วย

"โห! มีปลาชุบแป้งทอดด้วยหรอ?" เคนว่าแล้วเอื้อมมือจะหยิบแต่โดนพี่ใหญ่ตีมือเข้าให้เสียก่อน

"ชิมนิดนึงไม่ได้หรอ?" โอดครวญเสียงอ่อย เจอร์รี่ทำหน้าเข้มใส่แล้วชี้นิ้วไปที่ก๊อกน้ำ เคนเลยรีบเดินไปล้างมือแต่โดยดี เสร็จแล้วก็ทำท่าจะหยิบกินแต่ก็โดนพี่ชายตีมือเข้าอีก

"ทำไมไม่เช็ดมือให้แห้ง? น้ำมันหยดลงไปในจานแล้วคนอื่นจะกินเข้าไปยังงัย?" เจอร์รี่ทำเสียงดุก่อนที่เคนจะทันได้อ้าปากพูดอะไร แวนเนสหัวเราะขำน้องชายแต่ไม่ได้พูดอะไรมา

"แค่นี้ทำเป็นรังเกียจไปได้" เคนบ่นอุบอิบแล้วเช็ดมือกับขากางเกงตัวเอง พี่ใหญ่เห็นดังนั้นก็คว้ามือน้องชายขึ้นมาตีซ้ำพร้อมกับเอ็ดเข้าให้ชุดใหญ่

"ทำไมถึงมักง่ายแบบนี้! นายมันไม่น่าไปทำงานเกี่ยวกับอาหารการกินได้เลยนะ! แค่ความสะอาดของตัวเองยังทำไม่ได้เลย! ผ้าเช็ดมือก็มีทำไมไม่ใช้!" คนถูกต่อว่ามองพี่ชายตาปริบๆ

"ยังไม่ไปล้างมือให้สะอาดอีก!" พี่ใหญ่เอ็ดเอาอีกครั้ง เคนจึงหมุนตัวกลับไปล้างมืออีกรอบหนึ่งแล้วใช้ผ้าเช็ดมือเช็ดจนแห้ง

"จะตรวจก่อนมั๊ย?" เสร็จแล้วเคนก็ยื่นมือออกไปให้พี่ชายดู

"เดี๋ยวเหอะ!!" ถลึงตาใส่เจ้าน้องชายจอมกวน เคนอมยิ้มที่แหย่พี่ชายได้

"ใช้ส้อมดีกว่านะเสี้ยวเทียน เดี๋ยวจะโดนอบรมเรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหารอีก" แวนเนสบอกน้องชายด้วยเสียงปนหัวเราะเมื่อเห็นว่าเคนทำท่าจะหยิบอาหารในจานขึ้นมากิน เจอร์รี่เลยหันมาค้อนใส่น้องชายคนรองด้วยอีกคน

"เมื่อกี้ชั้นก็โดนมาแล้ว" แวนเนสหรี่เสียงพูดกับน้องต่อ เคนได้ยินก็หัวเราะออกมาแล้วพยักหน้ารับ

"นั่นสิ ใช้ส้อมปลอดภัยกว่าเยอะ" พูดจบก็ใช้ส้อมจิ้มปลาชุบแป้งทอดขึ้นมากิน โดยมีสายตาของพี่ใหญ่ที่ค้อนใส่เสียหลายตลบ

"พี่กลาง!!!!!" เสียงน้องเล็กที่เพิ่งจะกลับเข้ามาร้องเรียกอย่างดีใจ เคนหันไปทางต้นเสียงแล้วกางมือรอรับน้องชายทันที

"มาถึงนานยัง? คิดถึงจะแย่แล้วเนี่ย!" ไจ่ไจ๋กอดพี่ชายแน่นด้วยความคิดถึง

"ทำมาเป็นปากหวาน! ไหนบอกว่าเลิกเรียนตอนบ่าย 2 งัย? นี่มันจะ 5 โมงแล้วเพิ่งจะโผล่ อย่างงี้ไม่จริงใจนี่นา" เคนต่อว่าน้องชาย

"โหย....เลิกเรียนบ่าย 2 แต่มีงานอีกตั้งเยอะ จะไม่ช่วยเดี๋ยวโดนเพื่อนรุมประณามอ่ะ" ไจ่ไจ๋แก้ตัวเป็นการใหญ่ เคนได้ยินก็หัวเราะออกมาพร้อมกับขยี้หัวน้องชายอย่างเอ็นดู

"พี่กลางบวมขึ้นปะเนี่ย? ตัวดูตันๆนะ" น้องเล็กเริ่มหันมาวิจารณ์พี่ชาย คำพูดของน้องเล็กทำเอาพี่ใหญ่กับพี่รองหลุดขำออกมาด้วย ส่วนคนที่ถูกพาดพิงถึงทำหน้ามุ่ยใส่น้อง

"สงสัยบวมน้ำทะเลมั้งไจ่ไจ๋" แวนเนสพูดแทรกขึ้นมาเคนเลยหันไปค้อนใส่พี่ชาย

"โอ๋ๆๆๆ ล้อเล่นครับ ผมน่ะดีใจที่สุดเลยที่พี่กลางกลับมาซักที" เอ่ยปากอ้อนพี่ชายพร้อมกับบีบนวดแขนให้อย่างประจบประแจง เคนเลยได้แต่บีบจมูกน้องชายด้วยความหมั่นไส้

"วันนี้ทำอะไรกินครับพี่ใหญ่?" ไจ่ไจ๋หันไปถามพี่ชายคนโตแบบไม่จริงจังนักพร้อมกับเดินไปดูที่โต๊ะอาหาร เมื่อเห็นปลาชุบแป้งทอดไจ่ไจ๋ก็ทำท่าจะหยิบ

"โอ้ย!" ยังไม่ทันจะได้หยิบก็ถูกเคนตีมือเข้าให้เสียก่อน น้องเล็กเงยหน้าขึ้นมาพี่ชายงงๆ เคนเลยตีหน้าเข้มแล้วชี้นิ้วไปที่ก๊อกน้ำ แวนเนสเห็นดังนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่เพราะรู้ว่าเคนกำลังล้อเลียนพี่ใหญ่ไปในตัว ส่วนคนถูกล้อเลียนก็ได้แต่ส่งสายตาพิฆาตไปยังเจ้าน้องชายจอมกวน

"มือไม่ได้สกปรกซักหน่อย" ไจ่ไจ๋เดินไปล้างมือพลางบ่นอุบอิบ เมื่อล้างมือเสร็จแล้วก็เดินมาจะหยิบกินอีกแต่ก็ถูกเคนตีมือเข้าให้อีกที

"ทำไมไม่เช็ดมือให้แห้ง? น้ำมันหยดลงไปในจานแล้วคนอื่นจะกินเข้าไปยังงัย?" ตีหน้าขึงเอ็ดใส่น้องชาย

"โหยยย....ทุกทีไม่เห็นเป็นแบบนี้นี่นา....." น้องเล็กโอดครวญแล้วเช็ดมือลงกับขากางเกงตัวเอง เคนเห็นดังนั้นก็ฉวยมือน้องขึ้นมาแล้วตีเอาอีก

"ทำไมถึงมักง่ายแบบนี้! ผ้าเช็ดมือก็มีทำไมไม่ใช้!" ไจ่ไจ๋มองหน้าเคนตาปริบๆ ส่วนแวนเนสนั้นปล่อยก๊ากออกมาแล้ว

"เจ้าเสี้ยวเทียน!!!! ล้อเลียนชั้นหรอ?" เจอร์รี่ชี้หน้าน้องพร้อมกับแหวใส่ เคนเลยพลอยหัวเราะประสานกับแวนเนสขึ้นมาด้วย จะมีก็แต่ไจ่ไจ๋ที่มองพี่ชายคนโน้นทีคนนี้ทีอย่างงงๆ

"อะนี่.....กินเข้าไปซะ" เคนหยิบส้อมจิ้มอาหารในจานแล้วป้อนใส่ปากน้องแต่ตัวเองยังคงไม่หยุดหัวเราะ ไจ่ไจ๋กินของที่พี่ชายป้อนให้อย่างงงๆ

"ขำอะไรกันหรอ?" กระซิบถามเคนเบาๆพร้อมกับมองไปทางพี่ชายคนโตที่มองมาด้วยสีหน้าบึ้งตึง เคนเหลือบตาไปทางเจอร์รี่แล้วลากแขนน้องมาเล่าให้ฟังคร่าวๆ หลังจากฟังจบไจ่ไจ๋ก็หัวเราะตามออกมาอีก

"ขำมากนักใช่มั๊ยไจ่ไจ๋?" เจอร์รี่หันไปหาเรื่องน้องเล็ก

"เปล่าครับ ฮ่าๆๆๆ!!!" น้องเล็กปฏิเสธแต่ก็หัวเราะขึ้นมาอีก

"พอกันหมดทั้งพี่ทั้งน้อง! นิสัยเสียๆเนี่ยถอดแบบกันมาเป๊ะ! เวรกรรมอะไรของพี่เนี่ยที่เกิดมามีน้องอย่างพวกนายได้!" พี่ใหญ่บ่นออกมาชุดใหญ่ เสียงหัวเราะของน้องๆจึงค่อยซาลง

"แต่ผมว่าผมมีบุญนะเนี่ยที่เกิดมามีพี่ชายน่ารักแบบพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋ทำปากหวานแล้วรีบเดินเข้าไปกอดพี่ชายอย่างประจบประแจง ทำเอาพี่ใหญ่อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

"ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี ไปอาบน้ำอาบท่าให้สบายตัวซะไป เราก็ด้วยเสี้ยวเทียน" พูดตัดบทเจ้าน้องชายตัวดีแล้วไล่ให้น้องไปอาบน้ำ

"ครับ" น้องชายทั้งสองคนตอบรับอย่างง่ายดายแล้วพากันเดินออกไป

"เจ้าสองคนนี้เข้าคู่กันทีไร ปวดหัวกับพวกมันจริงๆ เฮ่อ!" มองตามน้องชายทั้งคู่แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ

"ขำอะไร" ถามเสียงห้วนเมื่อเห็นว่าแวนเนสยังคงหัวเราะคิกอยู่คนเดียว

"ขำนายนั่นแหละ นับวันจะยิ่งบ่นเหมือนคนแก่แล้วนะเนี่ย" พูดพร้อมกับรอยยิ้มทะเล้นนิดๆ

"อยากโดนฟาดด้วยไอ้นี่มั๊ย?" เจอร์รี่หยิบตะหลิวชูขึ้นมาขู่น้อง แวนเนสยิ้มแหยๆแล้วส่ายหน้าไปมา

"ถ้าไม่อยากก็หุบปากแล้วจัดการตรงนั้นให้เสร็จ!" เอ็ดน้องเสียงห้วนพร้อมกับชี้ไปยังถาดผักที่ยังไม่ได้ล้างอีกกว่าครึ่ง

"รู้แล้วน่า!" ตอบรับเป็นเชิงบ่นเล็กน้อย

"ดุชะมัดเลยโว้ย" แวนเนสพึมพำกับตัวเองแต่พอเห็นพี่ชายมองมาก็ปั้นยิ้มหวานจ๋อยส่งให้ เจอร์รี่เลยได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจกับบรรดาน้องชายจอมทะโมนทั้งสามคน



- ที่ห้องนอนของเคน -

"ดีใจจังที่พี่กลางกลับมา" ไจ่ไจ๋ทำเสียงออดอ้อนมือก็เกาะแกะพี่ชายไม่ยอมปล่อย เคนหัวเราะเบาๆแล้วโยกหัวน้องไปมาอย่างเอ็นดู

"เว่อร์จริงๆเลยน้องใครเนี่ย?" พูดหยอกล้อน้องชายอย่างอารมณ์ดี

"แล้วพี่กลางจะไปอีกเมื่อไหร่? ขอเขาทำงานในบริษัทไม่ได้หรอ?" ย้อนถามสีหน้าสลดลงเล็กน้อย เคนยิ้มบางๆแล้วบีบจมูกน้องเบาๆ

"ในบริษัทนายจะให้พี่ทำอาหารให้แมวกินหรอ? หืม?" ไจ่ไจ๋เม้มปากเล็กน้อยแล้วถอนหายใจออกมา

"เป็นอะไรไป? มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า?" เคนจับอาการของน้องได้เลยถามออกไปตรงๆ น้องเล็กเงียบไปซักพักก็ขยับเข้ากอดแขนพี่ชายอีก

"พี่รองจะแต่งงานแล้วอ่ะ" ไจ่ไจ๋ตอบพี่ชายเสียงแผ่ว ได้ยินดังนั้นเคนก็เลิกคิ้วขึ้นสีหน้าเต็มไปด้วยความแปลกใจ

"จริงหรอ? ทำไมพี่ถึงไม่รู้หละ?" ย้อนถามแบบงงๆ

"พี่รองเพิ่งพูดเมื่อวาน" ตอบพี่ชายเสียงแผ่วสีหน้าเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด เคนโอบไหล่น้องแล้วเขย่าเบาๆ

"ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอกไจ่ไจ๋ พี่รองไม่ใช่คนที่คิดทำอะไรปุบปับ ถ้าเขาคิดจะแต่งงานจริงเขาต้องวางแผนล่วงหน้าไว้เป็นอย่างดีซะก่อน" เคนบอกกล่าวให้น้องฟัง

"ใช่ พี่รองเขาวางแผนไว้แล้ว อาทิตย์หน้าพี่เขาก็จะเปิดร้านหนังสือกับพี่กลอเรีย แล้วต่อไปก็ต้องแต่งงานกัน" ไจ่ไจ๋แย้งขึ้น

"เปิดร้านหนังสือด้วยกันจำเป็นต้องแต่งงานกันด้วยหรอ?" เคนย้อนถามกลับ น้องเล็กเงยหน้ามองพี่ชาย

"งั้นพี่ต้องไปขอเป็นหุ้นส่วนกับพี่รองด้วยคนแล้วหละ" พูดแบบติดตลกแต่ไจ่ไจ๋ทำหน้างอ

"พี่กลางคิดอะไร? ครั้งที่แล้วไม่เข็ดใช่มั๊ย?" ทำเสียงเข้มใส่พี่ชาย

"อะไร? พี่เปล่าทำอะไรซักหน่อย" เคนลอยหน้าลอยตาตอบ

"โอ้ย!" แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นเสียงร้องเมื่อโดนหมัดหนักๆของน้องชายชกเข้าที่ต้นแขน

"ถ้าพี่กลางคิดอะไรกับพี่กลอเรียผมจะแช่งพี่จริงๆด้วย!" พูดกับพี่ชายด้วยสีหน้าจริงจังทำให้เคนต้องเลิกเล่นไปโดยปริยาย

"เฮ้ย! พี่พูดเล่นๆเองทำเป็นจริงเป็นจังไปได้ หมู่นี้อยู่กับพี่ใหญ่บ่อยสิท่าถึงได้ติดเชื้อกันมาขนาดนี้" ประโยคหลังบ่นอุบอิบเบาๆ

"ไม่คิดก็ดี! แต่อย่าให้รู้นะ!" พูดเสียงห้วนพลางค้อนใส่คู่สนทนาเสียหลายวง

"ครับๆๆ ฮู้ย! ไม่อยู่แค่สองอาทิตย์พี่น้องเราเป็นอะไรกันไปหมดวะเนี่ย?" ไม่วายบ่นอุบอิบออกมาอีก แต่เมื่อเห็นสีหน้าของน้องชายแล้วเคนก็ทำยิ้มหวานใส่

"ทำไมหละไจ่ไจ๋? หรือว่านายไม่ชอบพี่กลอเรีย?" เคนกลับมาถามน้องอย่างเป็นจริงเป็นจังบ้าง

"ผมชอบ ชอบมากด้วย....." ไจ่ไจ๋ตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนลง

"ชอบมากแต่ทำไมไม่ดีใจหละที่ได้รู้ว่าพี่รองเขาจะแต่งงานกับพี่กลอเรีย?" เคนถามอีก

"ไม่รู้สิพี่กลาง แต่ผมรู้สึกเหมือนกับว่าถ้าพี่รองแต่งงานไปแล้ว......" น้องเล็กหยุดพูดเอาดื้อๆเคนเลยต่อให้อย่างรู้ใจ

"จะไม่มีเวลาให้นายเหมือนแต่ก่อนใช่มั๊ย?" น้องเล็กเหลือบมองหน้าพี่ชายแว๊บหนึ่งก่อนที่จะพยักหน้ายอมรับออกมาตรงๆ

"ไม่ใช่แค่รู้สึกว่าพี่รองจะไม่มีเวลาให้ผมคนเดียว แต่กลัวว่าพี่เขาจะไม่มีเวลาให้พวกเราด้วยต่างหาก ปกติถ้าพวกเราอยู่บ้านก็มักจะมานั่งเล่นนั่งคุยกันทุกเย็น ถ้าขาดใครคนใดคนหนึ่งไปช่วงเวลานั้นมันก็ต้องหายไปด้วย" เคนยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อได้ฟังความคิดของน้อง

"แล้วเวลาที่พี่ไม่อยู่หละ? ไม่ได้นั่งเล่นนั่งคุยกันเลยหรอ?" ย้อนถามกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

"ก็มี แต่มันไม่เหมือนกันนี่ครับ เพราะพี่กลางแค่จากไปทำงานแต่ถ้าพี่รองเขาแต่งงานไปก็ต้องแยกออกไปอยู่ข้างนอก ถึงเวลานั้นแล้วเราสี่คนก็คงไม่มีวันหวนกลับมามีช่วงเวลาแบบนี้ได้อีก" ไจ่ไจ๋ตอบคำถามพี่ชายพร้อมกับอธิบายให้ฟังไปด้วย

"หรือว่าถ้าพี่รองแต่งงานไป พี่กลางจะไม่รู้สึกอะไรบ้างเลย?" ไจ่ไจ๋ตั้งคำถามเอากับเคนบ้าง ทำเอาคนถูกถามถึงกับนิ่งไป

"เราอย่าเพิ่งคิดอะไรกับเรื่องนี้เลยนะ พี่แน่ใจว่าพี่รองยังไม่แต่งงานในเร็ววันนี้แน่นอน" เคนพูดตัดบทพร้อมกับกล่าวทิ้วท้ายอย่างมั่นอกมั่นใจ

"ทำไมพี่กลางถึงคิดแบบนั้น?" ไจ่ไจ๋ย้อนถามอย่างไม่เข้าใจเพราะดูว่าเคนจะค่อนข้างมั่นใจกับคำพูดของตัวเอง

"พี่รู้ละกัน!" เคนยักคิ้วพร้อมกับอมยิ้มน้อยๆเพื่อยั่วน้องชาย

"รู้ได้ยังงัย? ทำไมถึงรู้?" ไจ่ไจ๋ถามซักไซร้

"ไปอาบน้ำได้แล้ว! เดี๋ยวพี่ใหญ่มาเจอในสภาพเดิมแบบนี้ได้โดนเทศน์อีกหรอก!" เคนพูดตัดบทน้องเอาดื้อๆแต่ไจ่ไจ๋ก็ยังไม่ยอม

"บอกมาก่อนสิว่าทำไมถึงมั่นใจว่าพี่รองจะยังไม่แต่งงาน?" ถามเซ้าซี้พลางกระตุกมือพี่ชายไปด้วย

"บอกให้ไปอาบน้ำ!" เคนบีบจมูกน้องอย่างหมั่นไส้

"พี่กลาง!!! ถ้าไม่บอกผมจะฟ้องพี่ใหญ่ว่าตอนที่พี่กลางไปทำงานพี่กลางสูบบุหรี่ด้วย" ไจ่ไจ๋ยังพูดไม่ทันจบประโยคดีก็ถูกเคนเขกหัวเข้าให้

"ก็ลองดูสิ!" เอ่ยปากท้าทายน้องเพราะคิดว่าน้องคงไม่กล้า แต่ไจ่ไจ๋รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งผลุนผลันลงไปข้างล่าง

"เฮ้ยยยย!!!!!!!!" เคนร้องอุทานเสียงดังลั่นแล้วรีบวิ่งตามน้องลงไป

"เล่นอะไรกันอีกฮึ? ยังไม่อาบน้ำอาบท่ากันอีกหรอ?" เมื่อเห็นน้องชายทั้งสองคนวิ่งกลับลงมาเจอร์รี่ก็ถามเสียงดุเล็กน้อย

"พี่ใหญ่รู้อะไรหรือเปล่าว่าตอนที่พี่กลางไปทำงาน......" ไจ่ไจ๋ยังพูดไม่ทันจบเคนก็รีบเอามืออุดปากน้องก่อน

"ไม่มีอะไรหรอก เราเล่นกันนิดหน่อย ไปอาบน้ำได้แล้วไจ่ไจ๋" ว่าพลางทำท่าจะลากตัวน้องออกไป

"เดี๋ยว! ไจ่ไจ๋.....นายจะพูดอะไร?" เจอร์รี่เห็นท่าทีน่าสงสัยของน้องก็เรียกไว้แล้วถามน้องเล็ก

"พี่กลางเขาสู.....บ....โอ้ยยย!!!....." ไจ่ไจ๋พูดพลางดึงมือพี่ชายออกพลางแต่ก็พูดไม่ทันจบก็ถูกเคนบีบปากเสียก่อน

"เสี้ยวเทียน! ปล่อยน้องเดี๋ยวนี้นะ!" เจอร์รี่เอ็ดใส่ เคนจึงจำต้องปล่อยมือแต่มีการแอบเหลือบตามองน้องชายแล้วทำหน้ามุ่ยใส่

"มีอะไรไจ่ไจ๋? บอกพี่มาซิ" พี่ใหญ่หันไปคาดคั้นเอาจากน้องเล็ก

"เมื่อคืนผมโทรไปหาพี่กลางถามว่าพี่เขาทำอะไรอยู่ พี่เขาบอกว่ากำลังนั่ง......" ไจ่ไจ๋ยังพูดไม่ทันจบเคนก็เอะอะขึ้นมาก่อน

"เฮ้ยๆๆๆ!!!!" เจอร์รี่หันไปมองเจ้าของเสียงตาขวางก่อนที่จะหันกลับมาทางน้องเล็กแล้วพยักหน้าให้พูดต่อ

"จะไปไหนหรอเสี้ยวเทียน?" แวนเนสเอ่ยถามเบาๆพร้อมกับยักคิ้วกวนๆเมื่อเห็นว่าน้องค่อยๆเดินถอยหลังไปเรื่อยๆจนเกือบจะถึงประตูแล้ว

"ชั้นไหว้หละแวนเนส ช่วยชั้นซักครั้งเถอะ ชั้นไม่อยากเจ็บตัว" เคนขอร้องพี่ชายเสียงแผ่ว

"หึๆๆๆ" แวนเนสหัวเราะเบาๆแล้วทำมือไล่ให้น้องชายรีบออกไป

"อะไรนะ!" แล้วเสียงพี่ใหญ่ก็อุทานขึ้นมาเสียงดังเมื่อได้ยินสิ่งที่น้องเล็กฟ้อง แล้วหันไปทางที่ที่เคนควรจะยืนอยู่แต่ในขณะนี้กลับว่างเปล่าไม่เห็นแม้แต่เงา

"แวนเนส! ไอ้น้องชายตัวดีของนายไปไหน?" ถามเสียงห้วนด้วยรู้ดีว่าแวนเนสคงต้องเห็นตอนที่เคนแอบหนีออกไปอย่างแน่นอน

"จะไปรู้หรอ? ชั้นทำไอ้นี่อยู่" แวนเนสตอบหน้าซื่อพร้อมกับชี้นิ้วลงไปที่ถาดผัก

"ไปตามมันมาหาชั้นเดียวนี้เลย!" ออกคำสั่งกับน้องชายคนรอง

"ก็ได้" พูดจบแวนเนสก็เดินตามน้องชายออกไปแต่โดยดี ไจ่ไจ๋อมยิ้มที่แกล้งพี่ชายได้หนำใจ

"พี่ใหญ่จะทำอะไรพี่กลางหรอ?" เอ่ยถามออกมายิ้มๆ

"จะตีให้หัวแตกเลยน่ะสิ มันเคยรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะกับพี่ว่ามันเลิกสูบบุหรี่แล้วนี่อะไรห่างตาหน่อยไม่ได้เลย" ตอบแบบกระแทกเสียงนิดๆ

"พี่ใหญ่ครับ" ไจ่ไจ๋เรียกพี่ชายเสียงเบาลงพร้อมกับยิ้มแหยๆ

"อะไร?" ย้อนถามน้องด้วยน้ำเสียงติดห้วนๆเล็กน้อย

"ผมจะบอกว่าเมื่อกี้ ผมพูดเล่น" พูดจบก็รีบวิ่งแจ้นตามพี่ชายอีกสองคนออกไป เจอร์รี่ได้แต่ยกมือค้างเมื่อรู้ว่าถูกเจ้าน้องชายตัวแสบแกล้งเอาอีก

"เฮ่อ! ไอ้น้องคนนี้" บ่นอุบอิบตามมาอย่างเอือมระอา



- หลังอาหารเย็น -

"เล่นเกมส์กันนะ" ไจ่ไจ๋เอ่ยชวนสมาชิกทุกคนเสียงเจื้อยแจ้ว

"บิงโกอีกแล้วหรอ?" เคนย้อนถามเมื่อเห็นน้องถือกล่องเกมส์เดินเข้ามา

"ใช่สิ! ไม่งั้นจะเล่นอะไรหละ? เล่นนี่แหละเบสิกสุดแล้ว" พูดจบก็วางกล่องเกมส์ลงที่พื้นแล้วพยักหน้าเรียกเป็นเชิงบังคับให้ทุกคนลงมานั่งเล่นกัน

"กติกาเหมือนเดิมนะ ใครแพ้ต้องโดนลงโทษ" พูดจบก็เริ่มจำหน่ายจ่ายแจกอุปกรณ์ให้กับทุกคนแบบมัดมือชก

"ยังไม่ทันบอกเลยว่าจะเล่นด้วย" เคนบ่นอุบแต่พอเห็นน้องมองหน้าก็ปั้นยิ้มหวานจ๋อยให้

"ลองไม่เล่นสิ คืนนี้นายไม่ต้องนอนแน่" แวนเนสกระซิบกับเคนเบาๆ

"แหงหละ ในโลกนี้จะมีใครงอแงได้เท่าไอ้เด็กบ้านี่อีกหรือเปล่านะ?" เคนเองก็บ่นพึมพำออกมาเบาๆเช่นกัน

"เออนี่.....อยากแก้แค้นมันมั๊ย?" แวนเนสถามกลับอย่างนึกขึ้นมาได้

"แก้แค้นหรอ?" เคนทวนคำแล้วมองหน้าพี่ชาย

"อืม....ครั้งที่แล้วนายเล่นแพ้หนิเลยโดนมันลงโทษ คราวนี้เราสองคนช่วยทำให้มันแพ้บ้าง" แวนเนสบอก เคนได้ยินดังนั้นก็เห็นดีด้วยแล้วทั้งคู่ก็หัวเราะคิกคัก

"สองคนพี่น้องขำอะไรกันลูก?" พ่อที่นั่งอยู่ตรงข้ามแวนเนสถามขึ้นมา

"เปล่าครับ" แวนเนสกับเคนตอบขึ้นมาพร้อมกัน

"ใครโกงต้องโดนลงโทษเป็นสองเท่า" ไจ่ไจ๋พูดดักคออย่างรู้ทันพี่ชายทั้งคู่ คำพูดนั้นทำให้แวนเนสกับเคนทำหน้าเหรอ แล้วทุกคนต่างก็นั่งล้อมวงเล่นเกมส์กันอย่างสนุกสนาน ผ่านไปได้พักใหญ่เกมส์ก็สิ้นสุดลงโดยที่น้องเล็กของบ้านเป็นคนแพ้

"ฮ่าๆๆๆ!!! สมน้ำหน้า!" เคนหัวเราะขึ้นมาอย่างสะใจ

"พี่กลางขี้โกงแน่ๆเลย อย่านึกว่าผมไม่รู้นะว่าพี่กับพี่รองแอบตกลงอะไรกันไว้?" ไจ่ไจ๋ตวัดสายตามองพี่ชายทั้งคู่อย่างหมั่นไส้

"ไม่ต้องมาพูดเลย! เห็นอยู่ชัดๆว่านายแพ้ แบบนี้ต้องโดนลงโทษยังงัยดีน้า??....." เคนได้ทีพูดทับถมน้องชายอีก พ่อกับแม่หันไปสบตากันยิ้มด้วยรู้สึกมีความสุขที่เห็นบรรดาลูกชายต่างมีรอยยิ้มกันถ้วนหน้า

"โดนลงโทษรอบวงด้วยหนิใช่มั๊ย?" แวนเนสร่วมวงกลั่นแกล้งน้องด้วยอีกคน น้องเล็กกัดปากตัวเองอย่างเคืองๆแต่ไม่ได้เถียงอะไรออกมาเพราะตัวเองเป็นคนตั้งกฎขึ้นมาหากไม่ยอมรับก็กลัวจะโดนต่อว่าว่าแพ้แล้วพาล

"จะลงโทษยังงัยก็ว่ามาสิ! ผมยอมรับกติกาอยู่แล้ว" ตวัดเสียงนิดๆ

"โอโห! น้องเรานี่เยี่ยมจริงๆ รักษาคำพูดดีเลิศ" เคนยังแหย่น้องต่ออีกยังผลให้น้องเล็กหน้าเริ่มมุ่ยลง

"นี่! นายสองคนก็พูดแหย่มันอยู่ได้.....เดี๋ยวก็ซวยหรอก....." ประโยคหลังเจอร์รี่พูดแบบไม่มีเสียง ไจ่ไจ๋เลยหันไปค้อนใส่พี่ใหญ่ด้วยอีกคน

"หึๆๆๆ" พ่อกับแม่อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้เมื่อเห็นสีหน้ามุ่ยๆของลูกชายคนเล็กที่ถูกพี่ชายรุมแกล้ง

"ชั้นรู้ละว่าจะลงโทษมันยังงัยดี" แวนเนสเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม

"ยังงัย?" เจอร์รี่กับเคนถามขึ้นมาพร้อมกัน

"ให้มันเป็นเบ๊พวกเรางัย" ได้ยินดังนั้นเสียงหัวเราะก็ดังขึ้นประสานกันทันที มีเพียงไจ่ไจ๋เท่านั้นที่นั่งหน้ามุ่ยหนักกว่าเดิม

"ไม่เอานะลูก แกล้งน้องอะไรแบบนั้น" แม่พูดแทรกขึ้นมาอย่างไม่เห็นด้วยเพราะกลัวบรรดาลูกชายจะแกล้งน้องแรงๆ

"ไม่ได้แกล้งซักหน่อยแม่ แต่ทุกวี่ทุกวันพวกเราสามคนเป็นเบ๊มันมาตลอด ครั้งนี้ให้มันเป็นเบ๊เราบ้างซักแป๊บนึงจะเป็นไรไป" แวนเนสเถียง

"ตกลงมั๊ยครับพ่อ?" แวนเนสหันมาขอเสียงสนับสนุนจากพ่อด้วย

"ตามใจ" พ่อตกลงง่ายๆนั่นยิ่งทำให้ไจ่ไจ๋หน้างอกว่าเก่า

"นี่ๆๆๆ พี่อยากได้ชาร้อนๆมาจิบซักหน่อย ไปเอามาซิ" เคนได้โอกาสก็รีบใช้น้องชายทันที

"ของพี่ขอเป็นโกโก้เย็นนะ" แวนเนสเสริมขึ้นทันที

"พี่ขอน้ำชาเหมือนกัน แต่เอาแค่อุ่นๆพอนะ พ่อแม่หละครับจะดื่มอะไรดี?" เจอร์รี่บอกน้องแล้วหันไปถามพ่อกับแม่ด้วย

"พ่อขอกาแฟดำซักถ้วย" พ่อบอกยิ้มๆเมื่อเห็นสีหน้ามุ่ยๆของลูกชาย

"แม่ไม่เอาจ๊ะ แต่จะเข้าไปช่วยลูกทำก็แล้วกัน" แม่ปฏิเสธแล้วเสนอตัวจะช่วย นั่นทำให้ไจ่ไจ๋ยิ้มออกมาได้

"อ้าวแม่! แบบนี้ก็ไม่ใช่การลงโทษสิ ไปช่วยมันทำไม?" แวนเนสโวยขึ้นทันที

"แล้วลูกจะให้น้องทำคนเดียวหรอ? รู้ๆอยู่ว่าน้องซุ่มซ่ามเดี๋ยวได้โดนน้ำร้อนลวกมือเอา" แม่หลุดปากพูดออกมาจนได้ ได้ยินดังนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าไจ่ไจ๋ก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว

"แม่!" ไจ่ไจ๋ร้องขึ้นมาอย่างขัดใจ

"เอ่อ.....แม่ไม่ได้หมายความแบบนั้น" แม่ยิ้มเจื่อนๆให้ลูกชาย แต่พ่อกับพี่ชายอีกสามคนต่างพากันหัวเราะประสานเสียงขึ้นมากันยกใหญ่

"ผมทำเองได้! ไม่ต้องช่วยหรอก!" พูดจบก็เดินกระฟัดกระเฟียดเข้าห้องครัวไป ผ่านไปพักใหญ่เครื่องดื่มตามสั่งก็ถูกยกออกมาเสริฟ

"โห! เก่งจัง ทำได้จริงๆด้วย" พี่ใหญ่เอ่ยชมน้องอย่างจริงใจ

"แหงสิ! คนมันเก่ง เรียนรู้อะไรได้เร็ว" ไจ่ไจ๋ได้ทีพูดอวดตัวเอง ยังผลให้พี่ชายทั้งสามคนหันไปพยักเพยิดให้กันยิ้มๆ

"นี่ครับ กาแฟดำของพ่อ" ไจ่ไจ๋ยกถ้วยกาแฟยื่นให้พ่อพร้อมกับยิ้มหวานให้

"ขอบใจลูก" พ่อรับมาพร้อมกับเอ่ยขอบคุณ

"อันนี้ชาร้อนของพี่กลาง อันนี้ชาอุ่นของพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋จัดวางถ้วยน้ำชาลงตรงหน้าของพี่ชายทั้งสองคน

"เดี๋ยวๆๆๆ แล้วมันไม่เหมือนกันหรอ?" เคนร้องถามแทรกขึ้นมาอย่างแปลกใจ

"อ้าว! ร้อนกับอุ่นเหมือนกันหรือเปล่าหละ?" ไจ่ไจ๋ตอบแบบกวนๆแล้วยักคิ้วให้พี่ชาย

"ไอ้นี่! กวนจริงๆเลยนะ" เคนค้อนใส่น้องชายพลางทำท่าจะเขกหัวแต่ไจ่ไจ๋หลบได้ทัน

"หึๆๆๆ เหมือนกันแหละครับ แต่ของพี่กลางร้อนกว่าของพี่ใหญ่เพราะของพี่ใหญ่ผมผสมน้ำเย็นเข้าไปนิดนึงมันก็เลยอุ่นๆงัย" ไจ่ไจ๋ตอบพลางหัวเราะไปด้วย

"ผสมน้ำเย็น? ชาบ้านนายน่ะสิใส่น้ำเย็น! จะได้เรื่องหรือเปล่าวะเนี่ย?" เคนว่าน้องพลางส่ายหน้าไปมา

"กินๆเข้าไปเถอะ! อันนี้โกโก้เย็นของพี่รอง ส่วนอันนี้น้ำเก๊กฮวยของเราสองคนนะแม่" แม่รับถ้วยเครื่องดื่มมาถือไว้พร้อมกับเอ่ยขอบคุณเบาๆ

"พี่เปลี่ยนใจแล้วว่ะ อยากกินน้ำชาเย็นๆมากกว่า" เคนได้ทีแกล้งน้องชายต่อ ไจ่ไจ๋ได้ยินก็หันมาทำตาขวางใส่พี่ชาย

"นั่นสิ โกโก้เย็นก็ไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ พี่อยากได้แบบร้อนๆมากกว่าละ" แวนเนสร่วมมือกับเคนเป็นอย่างดี

"อยากได้ก็ไปทำเอง" พูดเสียงห้วนแล้วยกถ้วยของตัวเองขึ้นดื่ม

"อ้าว! นายถูกลงโทษอยู่ไม่ใช่หรอ?" เคนแย้งน้องชาย

"แล้วงัยหละ? ก็ไปทำมาให้แล้วหนิ ถือว่าการลงโทษสิ้นสุดแล้ว" ไจ่ไจ๋ตอบพี่ชายหน้าตาเฉย เคนส่งสายตาค้อนใส่เมื่อต่อล้อต่อเถียงกับน้องไม่ได้

"แม่ไปเอาน้ำแข็งมาใส่ให้ก็ได้จ๊ะ" แม่เสนอตัวแล้วทำท่าจะขยับแต่เคนรีบโบกมือทันที

"ไม่ต้องหรอกครับแม่ ผมดื่มแบบนี้แหละดีแล้ว" เคนรีบปฏิเสธ

"ไม่ต้องเกรงใจหรอกจ๊ะ แม่เองก็ว่าจะไปหาขนมนมเนยออกมาให้กินเล่นกันอยู่แล้ว" แม่ว่าแล้วทำท่าจะขยับตัวอีกแต่เคนลุกตัดหน้าไปก่อน

"งั้นผมไปเอามาให้ดีกว่าครับ แม่นั่งเถอะ" แต่เคนยังไม่ทันที่จะได้เดินไปไจ่ไจ๋ก็พูดตัดบทขึ้นมาก่อน

"ผมไปเอาให้ครับ แม่กับพี่กลางนั่งเถอะ" พูดจบก็วิ่งหายเข้าไปในครัวแล้วกลับออกมาพร้อมกับขนมขบเคี้ยวหลายอย่าง

"น้ำแข็งครับพี่กลาง" ยื่นถ้วยน้ำแข็งป่นไปให้พี่ชาย

"ไม่เอาแล้ว" เคนลอยหน้าลอยตาตอบ

"แล้วเมื่อกี้บอกว่าจะเอางัย!" น้องเล็กเลยเอ็ดเข้าให้ เคนหันมายักคิ้วแล้วยิ้มให้กวนๆ

"เข้าใจคำว่าอยากแกล้งมั๊ย?" เคนย้อนถามชัดถ้อยชัดคำ

"แม่ดูพี่กลางสิ!" เมื่อทำอะไรไม่ได้น้องเล็กเลยหันไปฟ้องแม่แทน

"ก็พี่เขาไม่เอาแล้ว ลูกก็เอาไปเก็บสิจ๊ะ" แม่เข้าข้างเคนซะอย่างงั้น น้องเล็กเลยหน้ามุ่ยกว่าเดิม

"เสี้ยวเทียน! ทำไมถึงชอบแกล้งน้องนักนะ!" พี่ใหญ่เลยต้องเป็นฝ่ายปราบเจ้าน้องชายตัวแสบซะเอง เคนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆกับพ่อเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

"ใช่ๆๆ พี่กลางชอบแกล้งผมอ่ะ พี่ใหญ่จัดการให้ทีสิ" เมื่อเห็นพี่ชายคนโตเข้าข้างตัวเองไจ่ไจ๋ก็รีบเข้าไปออเซาะทันที

"ไอ้ขี้ฟ้อง! พี่ไปแกล้งนายตอนไหน?" เคนต่อว่าน้องพร้อมกับย้อนถาม

"จะให้ร่ายยาวให้ฟังมั๊ยหละ?" ไจ่ไจ๋ถามกลับเสียงห้วน

"เอาสิ! เอาให้ครบเลยนะ!" เคนท้าทาย

"ไอ้สองคนนี้หนิ เวลาไม่เจอหน้ากันก็บ่นคิดถึงจะเป็นจะตาย แต่พอเจอหน้ากันเข้าจริงๆกลับทะเลาะกันอยู่ได้!" แวนเนสที่นั่งเงียบอยู่นานบ่นน้องชายทั้งคู่ขึ้นมาอย่างเอือมระอา

"เกี่ยวอะไรกับพี่รองหละ?" ไจ่ไจ๋หันไปพาลใส่พี่ชายคนรอง

"ใช่! ยุ่งอะไรด้วย? เราเถียงกันแค่สองคนนายไม่เกี่ยวซักหน่อย" เคนได้ทีผสมโรงกับน้องเล็ก พ่อกับแม่ได้แต่อมยิ้มที่ลูกชายเถียงกันเป็นเด็กๆ

"เออ! พี่ก็ไม่ได้อยากยุ่งอะไรด้วยหรอกแต่มันรำคาญโว้ย! คุยกันดีๆไม่เป็นหรืองัย?" แวนเนสว่าพลางค้อนควับเข้าให้

"ไม่เป็น!" เสียงน้องชายตัวแสบทั้งคู่ตอบขึ้นมาพร้อมกัน

"เสี้ยวเทียน! ไจ่ไจ๋! ถ้าพี่เห็นเราทะเลาะกันอีกพี่จะตีทั้งคู่เลย!" เจอร์รี่ทำเสียงดุน้องจริงจัง

"เราไม่ได้ทะเลาะกันซักหน่อยเนอะพี่กลาง" ไจ่ไจ๋เปลี่ยนท่าทีโดยพลัน

"นั่นสิ แค่เล่นกันเฉยๆเองเนอะไจ่ไจ๋" เคนรีบตอบรับพร้อมกับพูดเสริม

"ใช่ๆๆๆ เราออกจะรักกัน" พูดจบก็ขยับเข้าไปนั่งกอดกับพี่ชายคนกลางเพื่อยืนยัน เรียกรอยยิ้มจากสมาชิกที่เหลือได้เป็นอย่างดี

"ทะเล้นกันนักนะ!" พี่ใหญ่ชี้หน้าน้องชายทั้งคู่อย่างระอาใจ

"หึๆๆๆ" เคนกับไจ่ไจ๋หันไปหัวเราะกันคิกคัก

"กินขนมกันดีกว่าลูก ลองชิมอันนี้ดูสิแม่เห็นร้านเขาขายดี น่าจะอร่อยนะ" แม่พูดตัดบทพร้อมกับเอ่บชวนให้ลูกชายกินขนมกัน

"พ่อกินสิครับ" แวนเนสใช้ส้อมจิ้มขนมแล้วป้อนใส่ปากพ่อ

"อืม....อร่อยดีนะ แม่ลองชิมด้วยสิ" พ่อว่าพร้อมกับใช้ส้อมจิ้มขนมแล้วป้อนแม่บ้าง

"อร่อยจริงด้วย ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์ไปต่อแถวรอซื้อเกือบครึ่งชั่วโมง" แม่ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ แล้วทุกคนก็ล้อมวงนั่งกินขนมกันอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อกินกันเสร็จแล้วสมาชิกทั้งหมดก็นั่งดูโทรทัศน์ด้วยกันต่อ

"เป็นอะไรวะ? นั่งยิ้มอยู่ได้" เคนเอาศอกกระทุ้งน้องชายที่นั่งพิงเขาอยู่ข้างๆพร้อมกับเอ่ยถามอย่างงงๆ

"คนมีความสุขก็ต้องยิ้มสิ ไม่ถูกหรอ?" ไจ่ไจ๋หันมาย้อนพี่ชายอย่างกวนๆ เคนเลยผลักหัวเข้าให้ด้วยความหมั่นไส้

"มีความสุขเพราะไปเจอสาวที่ถูกใจมาหละสิ" พ่อเอ่ยแซวขึ้นมา หลังจบคำพูดของพ่อเสียงพี่ชายก็โห่ร้องแซวตามขึ้นมากันอีกยกใหญ่

"ไม่ใช่ซักหน่อย" ไจ่ไจ๋ปฏิเสธเป็นพัลวัน แต่พี่ชายทั้งสามคนยังคงมองมาอย่างล้อๆ

"บอกว่าไม่ใช่!" น้องเล็กกล่าวย้ำแล้วหยิบหมอนอิงปาใส่บรรดาพี่ชายทั้งสามคน

"ไม่ใช่เรื่องผู้หญิงงั้นเป็นเรื่องอะไรหละจ๊ะ?" แม่ขยับเข้ามานั่งลงข้างๆลูกชายพร้อมกับถามต่อ

"ผมมีความสุขที่ครอบครัวเราได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้งต่างหาก" คำตอบนั้นทำให้สมาชิกคนอื่นอดที่จะยิ้มตามออกมาไม่ได้

"ผมดีใจที่สุดเลยที่ได้เกิดมาเป็นลูกพ่อกับแม่ แล้วก็คิดว่าตัวเองโชคดีที่สุดด้วยที่มีพี่ชายที่แสนดีอย่างพวกพี่ทั้งสามคน" คำพูดของน้องเล็กนั้นทำให้พ่อแม่และพี่ชายต่างพากันยิ้มด้วยความปลื้มใจ

"จากนี้ไปไม่ว่าผมจะต้องเจอกับอุปสรรคอะไรผมก็ไม่กลัวอีกแล้วหละ เพราะผมรู้ว่าผมยังมีพ่อแม่และพี่ชายที่ยังรักผมและเต็มใจที่จะยืนอยู่เคียงข้างผมเสมอ" พูดจบไจ่ไจ๋ก็โผเข้าสู่อ้อมกอดของพ่อและแม่ที่อ้าแขนรอรับอยู่พร้อมกับพี่ชายทั้งสามคนที่เดินโอบล้อมเข้ามาหาแล้วกอดเขาไว้อีกทอดหนึ่ง บรรยากาศในบ้านจึงอบอวลไปด้วยไออุ่นแห่งรักที่ทุกคนต่างมีให้แก่กัน




 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2550 11:10:21 น.
Counter : 2038 Pageviews.  

Chapter 89

ตอนที่ 89

"ทำไปปุบปับหละพี่กลาง?" ไจ่ไจ๋ถามเสียงอ่อยเมื่อได้ยินพี่ชายประกาศว่าจะต้องเดินทางไปฝึกงานในเรือสำราญในวันพรุ่งนี้แล้ว

"ไปปุบปับที่ไหน? ก็เลื่อนมาจากครั้งที่แล้วงัย" เคนตอบแล้วเอามือพาดไว้บนไหล่น้องชาย เขารู้ดีว่าน้องไม่อยากให้เขาไป

"แค่ 2 อาทิตย์เอง แป๊บๆก็ผ่านไปแล้ว" พูดปลอบน้องชายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

"เฮ่อ!" ไจ่ไจ๋ถอนหายใจออกมาอย่างจำใจ

"พี่ใหญ่พี่รองก็ยังอยู่ แถมยังมีพ่อกับแม่อยู่ด้วยแบบนี้รับรองว่านายไม่เหงาหรอก" เคนว่าพลางตบแก้มน้องเบาๆ

"ผมไม่ได้กลัวตัวเองเหงา ผมกลัวพี่กลางเหงาต่างหาก" เมื่อได้ยินดังนั้นเคนก็ยิ้มออกมาบางๆ

"พี่กลางมันไม่เหงาหรอก บนเรือคงมีสาวให้เหล่เยอะ" แวนเนสพูดติดตลก

"บ้า! ชั้นไปทำงานนะ ไม่ได้ไปเที่ยว" เคนแหวใส่พี่ชายแล้วหันกลับมาทางน้องที่นั่งทำหน้าซึมๆ

"พี่ต้องโทรมาหาผมด้วยนะ" ไจ่ไจ๋สั่งเสีย เคนยิ้มแล้วพยักหน้ารับ

"สัญญาแล้วนะ" คาดคั้นเอาคำสัญญากับพี่ชาย

"สัญญา" ตอบรับอย่างเต็มใจแล้วโอบไหล่น้องพร้อมกับเขย่าไปมาอย่างเอ็นดู

"แล้วเตรียมตัวดีๆหละรู้มั๊ย? ยาแก้เมารถเมาเรือเอาติดไปด้วย ยาแก้โรคหอบของนายอีก" พี่ใหญ่กำชับน้องชายขึ้นมาบ้าง

"อืม" เคนพยักหน้ารับ

"แล้วเดินทางกี่โมงลูก?" พ่อเอ่ยถามขึ้นมาบ้าง

"ประมาณ 8 โมงครับ แต่คงต้องไปถึงประมาณ 7 โมง" เคนตอบพ่อ

"งั้นพรุ่งนี้พ่อไปส่งนะ" เสนอตัวขึ้นมาทันที

"ครับ" เคนยิ้มแล้วตอบรับคำเสนอของพ่ออย่างเต็มใจ

"ผมไปด้วย เอาผมไปด้วยได้มั๊ย?" ไจ่ไจ๋รีบบอกขึ้นมาอีกคน

"ได้อยู่แล้ว" พ่อตอบยิ้มๆแล้วเอื้อมมือไปขยี้หัวลูกชายอย่างเอ็นดู

"ชั้นไปด้วย เสร็จแล้วพ่อไปส่งผมที่บริษัทด้วยนะ" แวนเนสว่าพร้อมกับหันไปตกลงกับพ่อ

"ได้สิ" พ่อตอบรับ

"ความจริงพวกนายไม่ต้องลำบากกันก็ได้ พ่อไปคนเดียวก็พอแล้ว" เคนเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจพี่ๆน้องๆ

"ได้ยังงัย? เดี๋ยวจะไม่ได้เจอกันตั้ง 2 อาทิตย์ คิดถึงแย่เลย" แวนเนสทำเสียงเหมือนเด็กๆเรียกเสียงหัวเราะจากสมาชิกคนอื่นๆขึ้นมาได้

"คิดถึงเพราะไม่มีคนคอยให้นายแหย่น่ะสิ" เคนตอกกลับพี่ชายแต่สีหน้ากลับยิ้มแย้ม

"แหงหละ! แหย่ไจ่ไจ๋มันมากก็ไม่ได้เพราะมันขี้ฟ้อง ไม่เหมือนนายโวยวายหน่อยเดียวเรื่องก็จบแล้ว" แวนเนสลอยหน้าลอยตาตอบ

"ฮึ!" เคนผลักหัวพี่ชายอย่างหมั่นไส้

"ผมขี้ฟ้องตรงไหนพี่รอง?" ไจ่ไจ๋ย้อนถามหาเรื่องขึ้นมาบ้าง

"เปล่าเลย ไม่ได้ขี้ฟ้องตรงไหน" แวนเนสตอบประชดน้องชาย

"พี่ใหญ่ดูพี่รองสิ ชอบกวนประสาท!" ว่าพลางเขย่าแขนพี่ชายคนโตไปด้วย

"นั่นงัย! บอกแล้วว่านายไม่ได้ขี้ฟ้อง" จบคำพูดของแวนเนสเสียงหัวเราะก็ดังขึ้นอีกระลอก

"เตรียมเสื้อผ้าครบหมดหรือยัง?" แม่หันไปถามเคน

"ก็เตรียมไว้แล้วครับแต่ยังไม่ได้พับลงกระเป๋า" เคนตอบพร้อมกับเหยียดมือออกไปตรงหน้าเพื่อไล่ความเมื่อย

"งั้นแม่ขึ้นไปช่วยนะจ๊ะ" แม่เสนอตัวพร้อมกัยขยับจะลุก

"เอ่อ.....ไม่เป็นไรหรอกครับแม่ ผมพับเองก็ได้" เคนบอกอย่างเกรงใจ

"ให้แม่ช่วยเถอะจ๊ะ ปะ.....เสร็จแล้วจะได้รีบเข้านอน พรุ่งนี้ต้องรีบตื่น" แม่ว่าพร้อมกับยื่นมือออกไปเพื่อจะจูงมือลูกชาย เคนชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่จะยื่นมือออกไปหาแม่

"ถ้าไม่มีอะไรแล้วลูกสามคนก็รีบนอนได้แล้วนะจ๊ะ พรุ่งนี้ใครตื่นสายอดไปส่งเสี้ยวเทียนนะ" พูดทิ้งท้ายไว้ก่อนที่จะเดินเคียงคู่กับลูกชายคนกลางขึ้นไปชั้นบน



- ตอนเช้า -

"เสี้ยวเทียน.....ตื่นได้แล้วจ๊ะ......" แม่ร้องเรียกพร้อมกับตบแก้มลูกชายเบาๆ คนถูกเรียกขมวดคิ้วนิ่วหน้าอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะกระพริบตาถี่ๆ

"รีบอาบน้ำแต่งตัวเร็ว เดี๋ยวไปสายนะ" แม่พูดกับลูกชายยิ้มๆพร้อมกับลูบหัวเคนอย่างอ่อนโยน เคนยิ้มตอบแล้วนอนนิ่งอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะค่อยๆลุกขึ้นมานั่ง เขามองไปข้างๆตัวก็พบพ่อที่นั่งอยู่ก่อนหน้าด้วยสีหน้างัวเงียไม่แพ้เขา เคนรู้สึกอบอุ่นในใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อรู้ว่าตลอดค่ำคืนที่ผ่านทั้งพ่อและแม่นอนอยู่บนเตียงกับเขา

"ลูกเราหมัดหนักเหมือนกันนะแม่ พ่อโดนไปหลายตุ๊บเลย" พ่อพูดแซวลูกชายขึ้นมาอย่างขำๆ เคนได้ยินก็ยิ้มแหยๆ

"ขอโทษครับ ตอนนอนผมไม่รู้สึกตัว" พูดด้วยสีหน้าเขินๆ

"หึๆๆๆ" พ่อกับแม่หัวเราะขึ้นมาเบาๆ

"พ่อก็กลับห้องไปอาบน้ำสิ เดี๋ยวจะไม่ทัน แม่จะไปดูว่าเจ้าสามคนนั้นตื่นกันหรือยัง" แม่พูดตัดบทเมื่อเห็นว่าเวลาใกล้ขึ้นทุกขณะ

"อืม....ลูกก็รีบอาบน้ำซะไป....." พ่อตอบรับแล้วหันไปโยกหัวลูกชายเบาๆ

"ครับ" เคนยิ้มรับแล้วลุกเดินเข้าห้องน้ำแต่โดยดี ผ่านไปพักใหญ่สมาชิกทุกคนก็ขึ้นมานั่งกันอยู่บนรถเป็นที่เรียบร้อย โดยไจ่ไจ๋นั้นนั่งกอดเคนไปตลอดทาง

"ง่วงหรอ?" เคนก้มหน้าลงถามน้องเบาๆ น้องเล็กส่ายหน้าดุ๊กดิ๊กแทนคำตอบ

"หรือว่ากลัวพี่หาย?" เคนถามแหย่น้องอีก ไจ่ไจ๋ยังคงไม่ตอบแต่กอดพี่ชายแน่นขึ้นกว่าเดิม แวนเนสเห็นน้องซึมๆเลยแกล้งแหย่น้องขึ้นมาบ้าง

"นายเขยิบไปบ้างซิไจ่ไจ๋!" แวนเนสปีนมานั่งลงอีกข้างหนึ่งของเคนแล้วแกะมือน้องเล็กที่กอดเคนอยู่ออก ไจ่ไจ๋เงยหน้าขึ้นมองพี่ชายหน้ามุ่ย

"พี่จะกอดบ้าง นายนั่งกอดมันมาตั้งนานแล้ว" พูดจบก็เอาแขนโอบร่างเคนมากอดไว้หลวมๆ น้องเล็กไม่มีอารมณ์จะต่อล้อต่อเถียงกับพี่ชายเลยเขยิบออกไปนั่งติดริมหน้าต่างแล้วนั่งมองข้างทางเงียบๆ พ่อกับแม่หันไปสบตากันแต่ไม่ได้พูดอะไร

"ทำมันอารมณ์เสียอีกแล้ว!" เคนเอ็ดใส่พี่ชายแล้วดึงมือพี่ชายออก

"อ้าว....ก็เห็นมันซึมๆเลยจะลองแกล้งแหย่มันดูอ่ะ......" แวนเนสแก้ตัวเสียงแผ่วแล้วมองไปทางน้องเล็กที่ดูเหมือนจะไม่สนใจอะไร

"กลับมานั่งนี่เลยไอ้ตัวดี! เล่นอะไรไม่ดูกาลเทศะ!" พี่ใหญ่ที่นั่งอยู่ตอนหน้าหันมาพูดกับน้องชายคนรองด้วยสายตาดุๆ แวนเนสหันไปมองน้องเล็กก่อนที่จะกลับไปนั่งที่เดิม เคนลอบถอนใจออกมาเบาๆกับอาการของน้องก่อนที่จะขยับเข้าไปใกล้แล้วโอบร่างน้องเข้ามากอดไว้ ไจ่ไจ๋ไม่ได้ขัดขืน เอนตัวลงแล้วซบหน้าลงที่ไหล่ของพี่ชาย

"ไจ่ไจ๋......โกรธพี่หรอ?" เมื่อกลับมานั่งตามเดิมแล้วแวนเนสก็ยกขาขึ้นมาบนที่นั่งแล้วหมุนตัวกลับไปทางน้องชายพร้อมกับเอ่ยถาม น้องเล็กส่ายหน้าไปมาเหมือนเดิมไม่พูดตอบอะไร

"ไม่โกรธแล้วทำไมไม่พูดหละ?" แวนเนสถามเซ้าซี้อีกแต่ไจ่ไจ๋ก็ยังไม่ตอบเช่นเดิม

"เออ! นายเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ไอ้พี่กลางจะได้เป็นห่วงแล้วตัดสินใจไม่ไปมันซะ....เลย....." เมื่อเห็นน้องไม่พูดแวนเนสเลยแกล้งพูดแหย่อีก แต่พูดยังไม่ทันจบประโยคดีก็โดนฝ่ามือของพี่ชายที่นั่งอยู่ข้างๆซัดเพี๊ยะเข้าให้ทีหนึ่ง

"เจ็บนะ!" ต่อว่าพี่ชายหน้ามุ่ยพลางลูบตรงบริเวณที่ถูกตีป้อยๆ

"ก็ตีให้เจ็บน่ะสิ! นั่งให้มันดีๆแล้วหุบปากได้แล้ว!" ดุน้องหน้าขึง

"ชั้นจะนั่งยังงัยจะพูดอะไรมันก็เป็นสิทธิของชั้น! นายมีสิทธิอะไรมาสั่งไม่ให้ชั้นทำโน้นทำนี่?" แวนเนสย้อนพี่ชาย พี่ใหญ่ได้ยินดังนั้นก็ขยับมือซ้ำเข้าให้อีกที

"โอ้ย!" เสียงน้องเล็กร้องอุทานขึ้นมาในขณะที่คนถูกตียังไม่ทันได้ร้องซักแอะ สายตาทุกคนหันไปมองน้องเล็กเป็นตาเดียว

"เจ็บหรอ?" เคนก้มลงถามน้องชายพร้อมกับรอยยิ้มขำๆ ไจ่ไจ๋ไม่ตอบแต่ยิ้มออกมาเขินๆแล้วเอาหน้าไถ่กับไหล่ของพี่ชาย ทำให้บรรยากาศภายในรถเริ่มดีขึ้น

"นายไปถามมันทำไม? ต้องมาถามชั้นนี่" แวนเนสเริ่มโวยวายขึ้นพร้อมกับจ้องหน้าพี่ใหญ่อย่างเคืองๆ

"มองแบบนี้จะเอาอีกใช่มั๊ย?" พี่ใหญ่ถามเสียงเข้ม

"ก็ลองสิ! คราวนี้ชั้นไม่ยอมให้นายตีอยู่ฝ่ายเดียวหรอก!" แวนเนสท้าทาย

"ทำไม? จะสู้ชั้นหรอ?" ทำเสียงเข้มขึ้นกว่าเดิม แวนเนสไม่ตอบแต่กำหมัดทั้งสองข้างขึ้นกันท่าพี่ชาย เรียกรอยยิ้มจากน้องชายสองคนที่นั่งอยู่ตอนหลังได้เป็นอย่างดี

"แวนเนส! อย่าทำอะไรพี่เขานะ!" แม่ร้องห้ามขึ้นมาก่อนเพราะนึกว่าลูกชายจะเอาจริง

"ก็พี่ใหญ่ทำผมก่อนหนิ!" แวนเนสหันไปย้อนแม่ทำให้ไม่ทันระวังเลยโดนพี่ชายรวบมือไว้ได้

"เฮ้ย!!!" แวนเนสอุทานออกมาลั่นรถ ทำให้น้องชายทั้งสองคนหัวเราะกันคิกคัก

"ดูซิว่าคราวนี้นายจะสู้ชั้นได้หรือเปล่า?" เจอร์รี่พูดอย่างเป็นต่อแล้วยักคิ้วให้น้องชาย พ่อมองบรรดาลูกชายจากกระจกมองหลังอมยิ้มพลางส่ายหน้าไปมาขำๆ

"แม่ฝากซัก 2 ทีนะเจอร์รี่! เฮี้ยวเหลือเกิน!" แม่หันมาพูดกับลูกชายคนโตด้วยหมั่นไส้ที่แวนเนสชอบเล่นอะไรแบบทีเล่นทีจริง

"อ้าวแม่! ไหงทำอย่างงี้หละ?" แวนเนสโวยวายยกใหญ่

"เอาให้เจ็บๆเลยนะพี่ใหญ่!" ไจ่ไจ๋ขยับตัวเข้าไปบอกพี่ชายคนโตแล้วแอบแลบลิ้นให้พี่ชายคนรองด้วย

"เฮ้ย! ถ้าจะเงียบก็เงียบให้ตลอดสิ! ไม่ต้องมาเสริม!" แวนเนสเอ็ดใส่น้องชาย

"นายนั่นแหละเงียบ!" เจอร์รี่เอ็ดใส่แวนเนสต่ออีกทอดหนึ่ง คนถูกเอ็ดชักสีหน้าใส่พี่ชาย

"อย่ามาทำสีหน้าแบบนี้กับชั้น!" คราวนี้พี่ใหญ่ไม่พูดเปล่าแต่ตีน้องด้วย

"ไม่เจ็บ!" แวนเนสลอยหน้าลอยตาพูดใส่พี่ชายอย่างยียวน

"ไอ้....." เจอร์รี่พูดไม่ออกเลยตีซ้ำอีกที

"โอ้ย....เจ็บจังเลย....." แวนเนสทำหน้าทำตากวนประสาททำเอาพี่ใหญ่ชักหมั่นไส้ขึ้นมาจริงๆเลยฟาดเอาเต็มแรง คราวนี้คนช่างกวนถึงกับสะดุ้งเฮือก

"โอ้ยยย....." ร้องครางออกมาเบาๆ

"เจ็บจังเลย!!!" เสียงน้องชายตัวดีสองคนที่นั่งอยู่ตอนหลังเอ่ยล้อเลียนต่อขึ้นมาทันทีพร้อมกับเสียงหัวเราะของพ่อกับแม่ที่ดังขึ้นจากตอนหน้าของรถ แวนเนสเลยได้แต่เม้มปากด้วยความขุ่นเคือง

"มันไม่เจ็บหรอก พี่ใหญ่ตีเจ็บที่ไหนกัน?" พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

"เจ็บ....." แวนเนสร้องครางออกมาเสียงแผ่วหน้าเหย พี่ใหญ่จึงคลายมือปล่อยให้น้องเป็นอิสระ

"เจ็บแล้วก็หัดจำซะมั่ง! ไม่ใช่พอหายเจ็บก็ลืม!" ว่าพลางจิ้มไปที่หน้าผากน้องชายเบาๆ

"พี่รองน่ะความจำสั้นจะตายพี่ใหญ่ต้องย้ำบ่อยๆ" ไจ่ไจ๋ขยับตัวเข้ามาแล้วพูดกับพี่ใหญ่ยิ้มๆ แวนเนสหันควับไปมองน้องชายตาขวาง

"ฮ่าๆๆๆ!!!" ไจ่ไจ๋หัวเราะออกมาได้ในที่สุด แม้จะนึกเคืองๆที่เจ้าน้องชายตัวดีทำให้ต้องเจ็บตัวแต่แวนเนสก็โล่งใจที่น้องชายหัวเราะออกมาได้

"ตลกตายหละ! เดี๋ยวโดน!" โวยใส่น้องแต่ไม่ได้จริงจังอะไรนัก

"เรานั่นแหละจะโดน! เลิกกวนชาวบ้านชาวช่องแล้วนั่งเงียบๆซักที! ชั้นปวดหัวกับเสียงของนายจะแย่แล้ว! โหวกเหวกโวยวายอยู่ได้!" พี่ใหญ่เอ็ดแวนเนสเข้าอีกรอบ

"ว่าแต่คนอื่น.....ตัวเองต่างหากมั้งที่เสียงดัง.....ด่าอยู่นั่นแหละ....." แวนเนสบ่นอุบพร้อมกับแอบค้อนใส่พี่ชายแต่ก็หันกลับมานั่งลงตามเดิม

"บ่นอะไรอีก?" เจอร์รี่ถามเสียงห้วน

"เปล่า" รีบปฏิเสธขึ้นมาทันที

"ยิ้มออกแล้วหรอ?" เคนว่าพลางขยี้หัวเจ้าน้องชายตัวดีด้วยความเอ็นดู น้องเล็กหัวเราะเบาๆแล้วขยับเข้ากอดพี่ชายไว้อีก

"พี่รองทำตัวเหมือนเด็กเลย" ไจ่ไจ๋กระซิบกับเคนยิ้มๆ

"เด็กโข่งน่ะสิ" เคนกระซิบกลับแล้วสองพี่น้องก็หัวเราะกันอย่างขำๆ

"นี่ๆๆๆ นินทาอะไร?" แวนเนสอดที่จะหันกลับไปต่อล้อต่อเถียงกับน้องไม่ได้

"เปล่าซักหน่อย ทำร้อนตัวไปได้" เคนปฏิเสธพร้อมกับต่อว่าพี่ชายไปด้วย

"แวนเนส!!" เสียงพี่ใหญ่ปรามขึ้นก่อนที่แวนเนสจะทันได้อ้าปากเถียงน้อง คนถูกเรียกหันไปทางต้นเสียงหน้ามุ่ย

"จะอะไรกับชั้นนักหนาเนี่ย? ชั้นพูดกับน้องไม่ได้พูดกับนายซักหน่อย!" ต่อว่าพี่ชายเสียงห้วน

"ยังจะมาย้อนอีกหรอ?" พี่ใหญ่ทำเสียงเข้ม

"เออ! ชั้นจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว!" ตวัดเสียงใส่อย่างเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาจริงๆเพราะโดนพี่ชายเอ็ดใส่หลายรอบ

"ไม่ต้องมาประชดเลยนะ!" เจอร์รี่ดึงหูน้องอย่างหมั่นไส้ แวนเนสทำหน้างอแต่ไม่กล้าเถียงอะไรออกมาเลยได้แต่กระแทกตัวลงที่เบาะแรงๆ

"เฮ่อ!" เจอร์รี่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

"พี่ใหญ่ต้องง้อก่อนแหงๆ" ไจ่ไจ๋กระซิบกับเคนเบาๆ

"แต่พี่ว่าเดี๋ยวไอ้พี่รองมันก็ลืมตัวไปพูดกับพี่ใหญ่ก่อนแน่ๆ" เคนกระซิบบอกน้องกลับยิ้มๆ

"พนันกันมั๊ย?" น้องเล็กว่าพลางยักคิ้วให้

"ได้เลย! คนชนะจะได้อะไรหละ?" เคนย้อนถาม

"ได้ทำให้อีกคนเป็นผู้แพ้งัย" ไจ่ไจ๋ตอบหน้าตาย เคนชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่จะผลักหัวน้องเบาๆพลางหัวเราะไปด้วย

"มุขอะไรเนี่ย? ไม่ได้เรื่องเลย" น้องเล็กยิ้มแล้วขยับเข้ากอดพี่ชายอีก ผ่านมาครู่หนึ่งก็มาถึงบริเวณท่าเรือ ไจ่ไจ๋ช่วยยกกระเป๋าสัมภาระของพี่ชายลงจากรถ

"ลูกไม่อยู่น้องคงซึมไปหลายวัน" แม่เอ่ยขึ้นพร้อมกับจับมือลูกชายแล้วมองสำรวจความเรียบร้อย

"คงเป็นแค่วันสองวันเท่านั้นแหละครับ เดี๋ยวก็ชิน" เคนตอบโดยที่สายตาก็มองไปที่น้องชายที่ยืนทำหน้าจ๋อยๆอยู่ไม่ห่าง

"พี่เราก็คงเหงาๆไปเหมือนกัน สงสัยกว่าลูกจะกลับมาบ้าน พี่ๆน้องๆคงผอมกันแย่เลย" แม่พูดแบบติดตลก ทำให้เคนหัวเราะออกมาเบาๆ

"อย่าออกมาตากลมมากนะลูก แล้วก็หาเสื้อหนาๆใส่หน่อย อาการค่อนข้างเย็น" พ่อกำชับด้วยความเป็นห่วง

"ครับพ่อ ผมจะดูแลตัวเองให้ดี" เคนรับคำพ่อแล้วยิ้มให้

"ขอให้ทุกอย่างราบรื่นนะ แล้วอย่าลืมโทรมาคุยกับพ่อบ่อยๆหละ" พ่ออวยพรพร้อมกับสั่งเสียเป็นครั้งสุดท้ายเคนพยักหน้ารับแล้วมองเลยไปทางพี่น้องที่ยืนอยู่ข้างๆ

"เอ่อ.....ชั้นไปหละนะ" บอกด้วยความรู้สึกใจหายขึ้นมาเหมือนกัน

"โชคดีนะ" พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับตบไหล่น้องชายเบาๆ เคนผงกหัวรับ

"แล้วอย่าทำอะไรแผลงๆให้พี่ต้องเป็นห่วงอีกหละ" กำชับกำชาน้องชายต่อ

"แหม.....ชั้นโตแล้วนะไม่ไปก่อเรื่องเดือดร้อนให้นายหรอกน่า" เคนอดที่จะบ่นออกมาไม่ได้ เจอร์รี่ยิ้มๆแล้วพยักหน้าให้น้อง

"เออนี่!" เคนพูดขึ้นเมื่อนึกขึ้นมาได้

"หืม?" เจอร์รี่ตอบรับพลางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

"ชั้นขอโทรหานายก่อนนอนทุกคืนได้มั๊ย?" พี่ใหญ่ได้ยินก็ยิ้ม

"ทำไม? อยากฟังนิทานก่อนนอนหรอ?" ย้อนถามกลับเป็นเชิงแซว เคนส่ายหัวไปมา

"เปล่า แต่ชั้นคงนอนไม่หลับแน่ๆถ้าไม่ได้ยินเสียงบ่นของนาย" บรรยากาศที่ดูกร่อยๆเริ่มมีเสียงหัวเราะเมื่อจบประโยคดังกล่าว

"ฮึ! จะไปแล้วยังไม่วายจะกวนอีกนะ!" เจอร์รี่รั้งร่างน้องชายมากอดแน่นๆอย่างหมั่นไส้

"ไจ่ไจ๋" เคนเรียกน้องชายที่ยืนทำหน้าซึมๆอยู่เบาๆ

"ครับ" ไจ่ไจ๋ตอบรับแล้วเงยหน้ามองเจ้าของเสียง

"ช่วยดูแลเจ้าพีพีกับถางถางแทนพี่ด้วยนะ" เคนกำชับน้องชาย

"ได้ครับ พี่กลางไม่ต้องห่วง" น้องเล็กรับคำพี่ชายอย่างเต็มใจ

"ถ้าพี่กลับมาแล้วมันผอมลงพี่ไม่ยอมนะ" เคนพูดแหย่เมื่อเห็นว่าน้องมีสีหน้าเศร้าๆ ไจ่ไจ๋เม้มปากเล็กน้อยก่อนที่จะฝืนยิ้มออกมาแล้วย้อนพี่ชายแบบติดตลกบ้าง

"ถ้าพี่กลับมาแล้วผอมลงผมก็ไม่ยอมเหมือนกันนะ" เคนหัวเราะเบาๆเมื่อได้ยินแล้วกอดน้องชายอย่างรักใคร่

"ว่างเมื่อไหร่ต้องโทรมาหาผมนะ" กำชับพี่ชายบ้าง

"ถ้าพี่โทรมานายต้องรับสายนะ" เคนย้อนน้องชายยิ้มๆเช่นกัน

"ผมน่ะรับแน่ กลัวแต่ว่าพี่จะไปเหล่สาวข้างบนจนลืมน้องเลยน่ะสิ" น้องเล็กว่าพี่ชายเสียงกระเง้ากระงอด

"จะบ้าหรอ! พี่ไปทำงานนะ! เออ.....แต่ถ้าเจออะไรเด็ดๆพี่จะโทรมารายงานนายทันทีเลยดีมั๊ย?" ว่าพลางยิ้มแบบเจ้าเล่ห์แล้วสองพี่น้องก็หัวเราะกันคิกคัก

"เอ้าๆๆ! จะร่ำลากันอีกนานมั๊ย? เค้าขึ้นไปกันหมดแล้ว" แวนเนสเอ่ยลอยๆขึ้นมาอย่างหมั่นไส้ เคนกับไจ่ไจ๋จึงผละออกจากกัน

"เออ! ไปเดี๋ยวนี้แหละ! รับรองว่าสองอาทิตย์ต่อจากนี้ชั้นจะไม่โผล่หน้ามาให้นายเห็นเลย!" เคนตวัดเสียงพูดกับพี่ชายคนรอง

"ดีใจจะแย่แล้วเนี่ย!" แวนเนสพูดพลางค้อนใส่น้องแล้วอ้าแขนออก

"มานี่ซิไอ้ตัวดี!" พูดกับน้องเสียงห้วน เคนยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปให้พี่ชายกอดแต่โดยดี

"ดูแลตัวเองดีๆรู้มั๊ย?" บอกพลางตบหลังน้องชายเบาๆ

"ครับ" เคนรับคำพี่ชายแล้วยิ้มให้

"อืม! ว่าง่ายๆแบบนี้สิถึงจะน่ารัก!" พูดจบก็ขยี้หัวน้องแรงๆ

"อ้าวๆๆๆ อย่าเล่นหัวสิ! อุตส่าห์เซ็ตตั้งนาน!" เคนปัดมือพี่ชายออกมาพลางบ่นอุบ

"หึๆๆๆ" สมาชิกที่เหลืออดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

"รีบไปเถอะลูก" พ่อเอ่ยเตือนตัดบทขึ้น

"ครับ" พูดจบก็แบกสัมภาระทั้งหมดขึ้นมา

"ไปหละนะ ไว้เจอกัน" เอ่ยลาเป็นครั้งสุดท้ายแล้วรีบหันหลังเดินขึ้นเรือโดยที่ไม่ได้เหลียวกลับมามองใครเลยเพราะไม่อยากเห็นสีหน้าเศร้าๆของสมาชิกในครอบครัว หลังจากยืนส่งจนกระทั่งเห็นว่าเคนขึ้นไปบนเรือเป็นที่เรียบร้อยแล้วพ่อก็ชวนให้ทุกคนเดินกลับไปที่รถ



- ที่บ้าน -

"น้องหละ?" เจอร์รี่เอ่ยถามแวนเนสพร้อมกับวางของกินที่เพิ่งซื้อไว้บนโต๊ะ แวนเนสทำเมินเพราะยังงอนพี่ชายอยู่

"ชั้นถามว่าน้องอยู่ไหน? ได้ยินหรือเปล่า?" เจอร์รี่ถามย้ำอีกครั้ง

"ไม่ได้ยิน" แวนเนสว่าพร้อมกับค้อนใส่แล้วลุกหนีไปที่อื่น

"เป็นอะไรของมันอีกวะเนี่ย?" พึมพำพลางมองตามร่างน้องชายอย่างอ่อนใจก่อนที่จะหยิบของกินที่ซื้อมาออกมาวางไว้บนโต๊ะ

"พี่ใหญ่หาผมหรอ?" ไจ่ไจ๋เอ่ยถามพร้อมกับมาทรุดตัวนั่งลงข้างพี่ชาย

"อืม.....ไปอยู่ไหนมา? แอบนั่งเหงาคนเดียวหละสิ" พี่ใหญ่พูดดักอย่างรู้ทันน้อง

"ไม่ใช่ซักหน่อย" น้องเล็กปฏิเสธเสียงแผ่วทั้งที่จริงๆแล้วก็รู้สึกเหงาที่พี่ชายคนกลางไม่อยู่

"ไม่ใช่ก็แล้วไป มาดูนี่สิ.....พี่ซื้อของโปรดนายมาเต็มเลย ไปเอาจานมาใส่สิ" ว่าพลางหยิบของชอบของน้องชายขึ้นมาชูให้น้องดู น้องเล็กเลยยิ้มออกมาได้แล้ววิ่งหายไปหยิบจานมาทันที

"แม้พี่จะไม่มีฝีมือเท่าเจ้าพี่กลางของนายแต่พี่ก็ไม่ยอมให้นายผอมลงไปมากกว่านี้แน่ๆ" เจอร์รี่พูดยิ้มๆในขณะที่เทอาหารใส่จานให้น้อง

"ว่าแต่คนอื่น พี่ใหญ่ก็ผอมเหมือนกันแหละ ซูบลงไปตั้งเยอะ" ไจ่ไจ๋ย้อนแล้วช่วยพี่ชายเทอย่างอื่นใส่จานด้วย

"พี่รองจะไปไหนอะ? มากินด้วยกันสิ พี่ใหญ่ซื้อของกินมาเต็มเลย" ไจ่ไจ๋ร้องชวนพี่ชายคนรองเมื่อเห็นเดินผ่านหน้าไป

"ไม่เอาหรอก พี่ใหญ่เขาตั้งใจซื้อมาให้นาย ไม่ได้ให้พี่" แวนเนสพูดตอบแบบประชดพี่ชายไปในตัว

"อ้าว! งอนอะไรอีกหละเนี่ย? ชั้นก็ซื้อมาให้กินด้วยกันแหละ ทำคิดเล็กคิดน้อยไปได้" พี่ใหญ่พูดเป็นเชิงบ่นพร้อมกับส่ายหน้าไปด้วย

"นั่นสิครับพี่รอง มานั่งเร็วมา....." ว่าพลางตบที่นั่งข้างๆเบาๆ

"ไม่เอา!" แวนเนสตวัดเสียงแล้วเดินหนีไปหน้าบ้าน

"เออ! เอากับมันสิ!" พี่ใหญ่ว่าพลางมองตามร่างน้องชายที่เดินดุ่มออกไป

"ไปง้อเขาหน่อยสิพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋พูดกับพี่ชายพร้อมกับผงกหัวไปทางหน้าบ้าน

"ทำไมต้องง้อ? มันงอนเองได้ก็ต้องหายเองได้สิ" เจอร์รี่ย้อน ไจ่ไจ๋ทำหน้างอใส่พี่ชายทำเอาพี่ใหญ่ถึงกับถอนหายใจเฮือกอย่างเซ็งๆกับพฤติกรรมของน้องชายแต่ละคน แต่ยังไม่ทันที่จะได้ลุกออกไปแวนเนสก็วิ่งกลับเข้าเสียก่อน

"เจอร์รี่! ออกมานี่สิ!" แวนเนสว่าพร้อมกับดึงแขนพี่ชาย

"ทะเล้นนักนะ! เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย! เราจะเอายังงัยกับพี่เนี่ย?" พี่ใหญ่ลุกขึ้นแล้วทุบหัวน้องเบาๆพลางบ่นไปด้วย

"นายถามตัวเองดีกว่าจะเอางัยกับตัวเอง?" แวนเนสกระซิบย้อนพี่ชายแล้วมองเลยไปทางไจ่ไจ๋ที่มองมา

"อะไรของนายวะ?" เจอร์รี่ย้อนถามน้องงงๆ

"เพื่อนนายมาหา" แวนเนสบอกกับเจอร์รี่

"เพื่อนชั้นหรอ? ใคร?" เจอร์รี่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

"เสี่ยวซิงน่ะสิ" คำตอบนั้นทำเอาเจอร์รี่อึ้งไปก่อนที่จะเหลียวไปทางน้องเล็กโดยอัตโนมัติ

"นายออกไปคุยกับเธอสิ เดี๋ยวชั้นพาน้องไปข้างบนเอง" แวนเนสหาทางให้พี่ชายด้วยรู้ดีว่าถ้าไจ่ไจ๋รู้ว่าเสี่ยวซิงกับต้าไห่มาคงจะโกรธขึ้นมาอีกเป็นแน่

"เออ.....ฝากด้วยแล้วกัน ขอบใจมากนะ" พูดจบเจอร์รี่ก็รีบเดินออกไป

"อะไรกันหรอพี่รอง?" น้องเล็กถามขึ้นด้วยรู้สึกสงสัยกับท่าทีลนๆของแวนเนส

"ยกขึ้นไปกินข้างบนกันดีกว่าไจ่ไจ๋ ไปเล่นเกมส์กันด้วย" แวนเนสรีบชวนน้องทันที

"ไม่เอาอ่ะ กินข้างล่างให้เสร็จก่อนแล้วค่อยขึ้นไปเล่นก็ได้ แล้วพี่ใหญ่ออกไปไหน?" ไจ่ไจ๋ปฏิเสธแล้วถามรุกพี่ชาย

"ไปดูพีพีกับถางถางน่ะ พี่เห็นมัน......เอ่อ.....เห็นมัน....." แวนเนสพูดตะกุกตะกักเพราะไม่รู้จะบอกน้องยังงัยดี

"มันทำไม? พี่รองนี่อะไรก็ไม่รู้" พูดจบไจ่ไจ๋ก็ลุกขึ้นจะไปดูแต่แวนเนสรีบเข้ามาขวางตรงหน้าน้อง

"อะไรหละพี่รอง? ผมจะออกไปดูเจ้าพีพีกับถางถาง" ไจ่ไจ๋มองหน้าพี่ชายอย่างหงุดหงิด

"ไม่ต้องดูหรอก พี่ใหญ่ดูคนเดียวก็พอแล้ว ไปข้างบนกันนะ" พูดจบก็คว้ามือน้องชายจะพาไปข้างบนแต่ไจ่ไจ๋สะบัดมือแล้ววิ่งออกไปข้างนอก

"เฮ้ย!!!" แวนเนสร้องอุทานแล้วตามน้องออกมาทันที ไจ่ไจ๋ออกมาเห็นพี่ใหญ่กับลังคุยกับเสี่ยวซิงอยู่ก็ชะงักไป

"ไจ่ไจ๋" เจอร์รี่หันกลับมาเห็นน้องชายก็อึ้งไป แวนเนสที่เดินตามออกมาก็ทำหน้าเจื่อนๆให้พี่ชาย บทสนทนาสะดุดลงพร้อมกับความเงียบที่เกิดขึ้นมาโดยพลัน

"ทำไมไม่พาเพื่อนเข้าไปคุยในบ้านหละครับพี่ใหญ่?" ในที่สุดไจ่ไจ๋ก็เป็นคนทำลายความเงียบขึ้นมา

"เอ่อ....." เจอร์รี่ทำอะไรไม่ถูกด้วยเป็นห่วงความรู้สึกน้อง

"แดดร้อนออก ต้าไห่ยืนตากแดดแบบนี้เดี๋ยวจะไม่สบายนะ" ไจ่ไจ๋พูดขึ้นมาอีกครั้ง พี่ใหญ่นิ่งงันเพราะไม่รู้ว่าน้องประชดหรือหมายความตามที่พูดกันแน่

"พาเสี่ยวซิงไปในบ้านสิ" แวนเนสตัดบทบอกพี่ชายเมื่อเห็นว่าไหนๆน้องก็รู้แล้ว เจอร์รี่พยักหน้าแล้วหันไปเชิญเสี่ยวซิงเข้าไปในบ้าน

"ขอโทษนะคะ" เสี่ยวซิงบอกกับเจอร์รี่เบาๆ

"ไม่เป็นไรครับ" เจอร์รี่ฝืนยิ้มให้หญิงสาวแล้วผายมือเชิญให้เข้าบ้าน เมื่อเข้ามาในบ้านแล้วไจ่ไจ๋ก็เดินหายไปในครัว เจอร์รี่กับแวนเนสหันไปสบตากันเล็กน้อย

"ชั้นจัดการเอง" แวนเนสบอกพี่ชายแบบไม่ออกเสียง พี่ใหญ่พยักหน้ารับเล็กน้อย แวนเนสจึงเดินตามน้องเข้ามาในครัว

"ขอโทษนะคะที่ทำให้ลำบากใจ ตอนแรกก็กะว่าจะนัดคุณออกไปเจอกันข้างนอกแต่พอรู้ข่าวว่าคุณยังเจ็บอยู่เลยตัดสินใจมาหาคุณเองดีกว่า" เสี่ยวซิงเอ่ยขึ้นด้วยรู้สึกเกรงใจ

"ไม่เป็นไรหรอกครับ เอ๊ะ! ว่าแต่คุณรู้ได้ยังงัยว่าผมบาดเจ็บ?" เจอร์รี่ย้อนถามอย่างนึกขึ้นได้

"เมื่อวันก่อนชั้นเจอกับเพื่อนของคุณค่ะ เลยได้รับทั้งข่าวร้ายแล้วก็ข่าวดี" เธอตอบพร้อมกับยิ้มบางๆแล้วหันไปอุ้มต้าไห่มานั่งตัก

"ข่าวร้ายและข่าวดีหรอ?" เจอร์รี่ทวนคำงงๆ

"ค่ะ ข่าวร้ายก็คือเขาบอกว่าคุณประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต" เสี่ยวซิงบอก

"ส่วนข่าวดีก็คือคนที่เสียชีวิตไม่ใช่คุณ" ได้ยินดังนี้เจอร์รี่ก็ยิ้มออกมาขำๆ

"แม่....ไปเที่ยว....." ต้าไห่ที่นั่งอยู่บนตักของแม่เอ่ยขึ้นพลางมองหน้าเสี่ยวซิงอย่างตื้อๆ

"เดี๋ยวค่อยไปนะจ๊ะ ขอแม่คุยกับคุณอาก่อน" เสี่ยวซิงบอกกับลูกชายเบาๆ

"ไปเที่ยว....ไปเที่ยว....." ว่าพลางเขย่ามือของเสี่ยวซิงอีก

"จ๊ะๆๆ แป๊บเดียวนะลูก" เสี่ยวซิงว่าพลางลูบหัวลูกชายไปด้วย ในเวลานั้นไจ่ไจ๋ก็เดินเข้ามาพอดี

"น้ำครับ" ไจ่ไจ๋วางแก้วน้ำตรงหน้าเสี่ยวซิงและพี่ชาย

"ขอบใจจ๊ะ" เสี่ยวซิงเอ่ยขอบคุณไจ่ไจ๋ ส่วนเจอร์รี่ก็มีท่าทีเกร็งๆเพราะกลัวน้องชายจะแสดงฤิทธิ์เดชอะไรขึ้นมาอีก

"แม่.....ไปเที่ยวๆ" ต้าไห่หันไปตื้อแม่อีก เสี่ยวซิงสังเกตุเห็นท่าทีลำบากใจของเจอร์รี่จึงตัดสินใจจะลากลับก่อน

"เอ่องั้น...." เสี่ยวซิงยังพูดไม่ทันจบไจ่ไจ๋ก็เดินเข้าไปหาแล้วพูดกับต้าไห่ขึ้นมาก่อน

"ต้าไห่อยากไปเที่ยวเดี๋ยวพี่ชายพาไปนะครับ" คำพูดของไจ่ไจ๋ทำให้เด็กชายหันกลับมามองต้นเสียง

"ต้าไห่ไปเที่ยวกับพี่ชายก่อน แล้วพอคุณแม่คุยกับคุณอาเสร็จแล้วหนูค่อยไปเที่ยวกับคุณแม่อีกรอบนะครับ" พูดจบก็ยื่นมือออกไปเพื่อที่จะอุ้มต้าไห่ เสี่ยวซิงหันไปสบตาเจอร์รี่อย่างงงๆ

"ไปเที่ยวนะ....." ต้าไห่กางแขนออกไปหาไจ่ไจ๋พร้อมกับพูดย้ำอย่างดีใจที่ได้ยินว่าไจ่ไจ๋จะพาไปเที่ยว

"ครับ พี่ชายจะพาหนูไปเที่ยว" พูดจบก็อุ้มต้าไห่ขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขน

"ผมจะพาต้าไห้ไปเดินเล่นแถวๆนี้ พี่คุยกันตามสบายนะครับไม่ต้องห่วง" ไจ่ไจ๋หันไปบอกกับพี่ชายคนโตแล้วยิ้มให้ เจอร์รี่เห็นดังนี้จึงยิ้มตอบน้องอย่างอุ่นใจที่น้องชายไม่ได้นึกโกรธเคืองอะไรกับเรื่องที่ผ่านมาแล้ว

"ขอบใจนะจ๊ะ ต้าไห่อย่าดื้อกับพี่เขานะลูก" เสี่ยวซิงเอ่ยขอบคุณไจ่ไจ๋แล้วกำชับลูกชายด้วยความเอ็นดู ไจ่ไจ๋ยิ้มให้หญิงสาวแล้วอุ้มต้าไห่เดินออกไป



- ที่สนามเด็กเล่น -

"ต้าไห่นั่งชิงช้านะครับ เดี๋ยวพี่ชายแกว่งให้" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วอุ้มเด็กชายนั่งบนชิงช้า

"จับดีๆนะครับ ระวังจะตก" ไจ่ไจ๋บอกกล่าวกับเด็กชายอีกรอบ ต้าไห่ยิ้มรับด้วยแววตากลมโตด้วยดีใจที่ได้เล่นของเล่น

"เอาหละ.....พี่แกว่งหละนะ....." พูดจบไจ่ไจ๋ก็ออกแรงผลักชิงช้าเบาๆ ต้าไห่หัวเราะชอบใจขึ้นมาทันที พลอยทำเอาไจ่ไจ๋อดที่จะยิ้มตามออกมาไม่ได้

"เอาอีก" ต้าไห่บอกไจ่ไจ๋เสียงเจื้อยแจ้วเมื่อชิงช้าเริ่มช้าลงจนชะลอตัวในที่สุด

"ได้เลย! จับดีๆนะครับ" ไจ่ไจ๋บอกแล้วขยี้หัวเด็กชายอย่างเอ็นดู

"ครับ" ต้าไห่รับคำเสียงดังฟังชัด ไจ่ไจ๋ยิ้มแล้วแกว่งชิงช้าให้อีก

"พี่ชาย.....ไปโน้น....." ผ่านไปซักพักต้าไห่ก็หันไปเรียกไจ่ไจ๋แล้วชี้นิ้วไปยังเครื่องเล่นอีกอันหนึ่ง

"อยากเล่นม้าหมุนหรอ? ได้เลย.....มา....." พูดจบไจ่ไจ๋ก็อุ้มเด็กชายขึ้นมาแล้วพาไปเล่นม้าหมุนต่อ

"หยุดแป๊บนึงลูก ให้น้องขึ้นด้วย" หญิงสาวที่ยืนเฝ้าเด็กชายหญิงสองคนร้องบอกเมื่อเห็นไจ่ไจ๋อุ้มต้าไห่เดินเข้ามา

"ขอบคุณครับ" ไจ่ไจ๋เอ่ยขอบคุณแล้วจัดให้ต้าไห่นั่งลงที่ม้าหมุน

"อย่าหมุนเร็วนะลูกเดี๋ยวน้องตก" หญิงสาวเอ่ยกำชับเด็กชายหญิงสองคนขึ้นมาอีก

"จับแน่นๆนะครับ" ไจ่ไจ๋เองก็กำชับต้าไห่ด้วยเช่นกัน เด็กชายยิ้มรับเช่นเดิมแล้วก็หัวเราะออกมาเมื่อม้าหมุนเริ่มหมุนไปอย่างช้าๆ

"ลูกชายน่ารักดีนะคะ อายุเท่าไหร่แล้วคะ?" หญิงสาวชวนไจ่ไจ๋คุย ได้ยินดังนั้นไจ่ไจ๋ก็ยิ้มแหยๆ

"เอ่อ.....ไม่ใช่ลูกผมหรอกครับ ลูกของเพื่อนพี่ชายน่ะครับ อายุประมาณ 3 ขวบได้" ตอบกลับไปยิ้มๆ หญิงสาวได้ยิ้มก็หัวเราะเบาๆ

"อ้าว....ขอโทษค่ะที่เข้าใจผิด" ไจ่ไจ๋ผงกหัวรับน้อยๆ

"เห็นคุณเอาใจใส่แกดีเลยนึกว่าเป็นลูกซะอีก" หญิงสาวให้เหตุผลแล้วเหลือบมองเด็กๆเล่นกันอยู่ตลอด

"เด็กสองคนนี่ลูกคุณหรอ?" ไจ่ไจ๋ถามกลับไปบ้าง

"ค่ะ ผู้ชายเป็นคนโตค่ะแกเป็นเด็กที่ค่อนข้างเงียบ ส่วนคนเล็กนี่ผิดกันเลย พูดจ๋อยๆทั้งวันแต่เห็นแบบนี้แกติดพี่ชายแกมากนะคะ เวลาไม่เห็นก็ถามหาแล้ว" พูดพร้อมกับมองไปยังเด็กๆที่เล่นกันอยู่ด้วยแววตาอ่อนโยน คำบอกเล่าของหญิงสาวทำให้ไจ่ไจ๋ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

"พี่ชาย จะลง" ต้าไห่หันมาเรียกไจ่ไจ๋แล้วเผลอปล่อยมือออกจึงทำให้เสียการทรงตัว

"ตายแล้ว!! หยุดลูกหยุดก่อน!!" หญิงสาวอุทานขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าต้าไห่จะตกลงมา ไจ่ไจ๋รีบปราดเข้าไปคว้าตัวเด็กชายไว้ได้ทันก่อนที่จะตกลงมาจริงๆ

"เจ็บตรงไหนหรือเปล่าต้าไห่?" ไจ่ไจ๋จับแขนต้าไห่ขึ้นดูอย่างตรวจตราแต่ก็ไม่พบร่องรอยอะไร ต้าไห่กอดคอไจ่ไจ๋ไว้แน่นด้วยความตกใจ

"ทำไมไม่หยุดให้น้องลงก่อน!?" หญิงสาวดุลูกชายเสียงเข้ม

"ก็ผมกำลังจะหยุด แต่น้องปล่อยมือก่อนนี่ครับแม่" เด็กชายแก้ตัวเสียงอ่อย

"นั่นสิคะ คุณแม่อย่าดุพี่ใหญ่สิ พี่ใหญ่ไม่ได้แกล้งน้อง" เสียงเด็กหญิงพูดแจ้วๆปกป้องพี่ชาย

"นั่นสิครับ อย่าดุแกเลย ต้าไห่แกปล่อยมือเองจริงๆ" ไจ่ไจ๋เสริมขึ้นมาด้วยอีกแรง หญิงสาวถอนใจออกมาเบาๆแล้วเดินไปลูบหัวลูกชาย

"โอเคๆ แม่ขอโทษนะลูก แม่กำลังตกใจเลยไม่ทันมอง" เด็กชายกอดแม่น้ำตาคลอเบ้า

"ผมไม่ได้ตั้งใจนะครับแม่" พูดเสียงสั่นคล้ายจะร้องไห้

"จ๊ะ แม่รู้ แม่ขอโทษ" หญิงสาวกอดลูกชายไว้อย่างปลอบประโลม ไจ่ไจ๋เองก็ปลอบประโลมต้าไห่ที่ยังตกใจไม่หายด้วยเช่นกัน

"พี่ใหญ่อย่าร้องไห้นะคะ คุณแม่ไม่ได้ว่าอะไรพี่ใหญ่แล้ว โอ๋ๆๆๆ เดี๋ยวกลับบ้านแล้วหนูจะให้ขนมพี่ใหญ่หมดเลย" เด็กหญิงรีบเข้าไปพี่ชายพร้อมกับเอ่ยปากโอ๋ จนเด็กชายยิ้มออกมาได้

"งั้นเดี๋ยวแม่ซื้อขนมให้เป็นการไถ่โทษก็แล้วกันนะ" หญิงสาวพูดเสริมขึ้นมาอีกแรง เด็กชายคนนั้นจึงหายเศร้าแล้วยิ้มรับ

"ปะ....งั้นไปซื้อเดี๋ยวนี้เลย ดีมั๊ย?" เด็กชายหญิงทั้งสองคนตอบรับพร้อมกันอย่างยินดี หญิงสาวจึงหันไปทางไจ่ไจ๋

"แกเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?" เธอหันมาถามไจ่ไจ๋แล้วมองไปที่ต้าไห่

"คงตกใจน่ะครับ แต่ไม่ได้เจ็บอะไร" ไจ่ไจ๋ตอบในขณะที่ยังลูบหัวต้าไห่อย่างปลอบโยน

"งั้นขอตัวก่อนนะคะ" หญิงสาวจึงถือโอกาสบอกลา ไจ่ไจ๋ยิ้มตอบก้มหัวให้เล็กน้อย

"ลาพี่เขาก่อนจ๊ะ" เธอหันมาบอกกับลูกชายลูกสาว

"ไปก่อนนะครับ" เด็กชายพูดกับไจ่ไจ๋แล้วยิ้มให้เขินๆ

"ไปก่อนนะคะพี่ชาย แล้วพาน้องมาเล่นกับหนูใหม่นะคะ" เด็กหญิงเอ่ยลาไจ่ไจ๋โดยไม่มีท่าทีขัดเขินเหมือนพี่ชาย ไจ่ไจ๋จึงหัวเราะออกมาได้

"ครับ บ๊ายบายจ๊ะ" พูดจบก็โบกมือลาเด็กทั้งสองคน จากนั้นต้าไห่ก็เริ่มคลายมือที่กอดคอไจ่ไจ๋ออกเพราะหายตกใจแล้ว ไจ่ไจ๋จึงพาเด็กชายไปยังม้านั่งแล้วจับให้ต้าไห่นั่งลงที่ตักโดยให้หันมาหาเขา

"หายตกใจหรือยัง?" ถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ต้าไห่ไม่ตอบแต่มองไจ่ไจ๋ตาแป๋ว

"ยังจะมาทำหน้าซื่ออีก! พี่ชายบอกแล้วใช่มั๊ยว่าให้จับแน่นๆ ถ้าตกลงมาจะเป็นยังงัย?" ไจ่ไจ๋ทำเสียงดุทำให้ต้าไห่ที่จ้องมองใบหน้าไจ่ไจ๋อยู่นั้นเริ่มหน้าเบ้น้ำตารื้นขึ้นมาในทันใด

"ต้าไห่....." ไจ่ไจ๋เสียงอ่อนลงทันที

"พี่ชายดุ....." ต้าไห่เอ่ยปากประท้วงน้ำตาหยดแหมะตามลงมาทันทีที่พูดจบ ไจ่ไจ๋ทำหน้าเหรอหราด้วยไม่เคยปลอบเด็กเล็กๆแบบนี้

"โอ๋ๆๆๆ พี่ชายไม่ดุแล้ว ต้าไห่ไม่ต้องร้องนะครับ เด็กดีของพี่ชายอย่าร้องไห้นะครับ" ไจ่ไจ๋โอบอุ้มเด็กชายขึ้นมาพร้อมกับพูดปลอบประโลมเป็นการใหญ่

"เดี๋ยวพี่ชายพาไปเที่ยวที่อื่น พี่ชายจะพาไปซื้อขนม จะพาไปกินไอติมด้วย เอามั๊ย?" ไจ่ไจ๋สรรหาคำปลอบโยนสารพัดมาหลอกล่อแล้วก็ได้ผลเพราะต้าไห่หยุดร้องไห้แล้วเงยหน้าขึ้นมองไจ่ไจ๋

"กินติม....กินหนม...." พูดย้ำออกมาทั้งๆที่ใบหน้ายังเกรอะกรังด้วยหยาดน้ำตา ไจ่ไจ๋ขำๆกับท่าทางของเด็กชายตรงหน้า

"โอเค....พี่ชายจะพาไปกินไอติมกินขนม....." ว่าพลางเอามือเช็ดหน้าเด็กชายอย่างนุ่มนวลก่อนที่จะหอมแก้มเด็กชายฟอดใหญ่ด้วยความหมั่นไส้แกมเอ็นดู



- ที่บ้าน -

"แม่" ต้าไห่ปล่อยมือจากไจ่ไจ๋แล้ววิ่งเข้าไปหาเสี่ยวซิงอย่างร่าเริง เสี่ยวซิงอ้าแขนรับแล้วอุ้มลูกชายขึ้นมา

"ดื้อกับพี่เขาหรือเปล่าจ๊ะ?" ถามลูกชายเบาๆ

"เปล่าครับ....." ต้าไห่ตอบแม่เสียงแจ๋วๆ

"ดีมากจ๊ะ เอ่อ.....ขอบใจมากนะจ๊ะไจ่ไจ๋" พูดกับลูกชายจบก็หันไปขอบคุณไจ่ไจ๋อีกครั้ง

"ไม่เป็นไรหรอกครับ ต้าไห่เป็นเด็กน่ารักมากเลย พูดอะไรก็เชื่อฟัง" ไจ่ไจ๋ตอบรับอย่างยินดีแล้วยิ้มให้ต้าไห่ที่กำลังมองมา เจอร์รี่มองน้องชายอย่างงงๆที่น้องเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้

"แม่.....ไปเที่ยวอีกนะ....." ต้าไห่รบเร้าผู้เป็นแม่อีกครั้ง

"จ๊ะๆๆ แม่จะพาไปเดี๋ยวนี้แหละ งั้นชั้นลาเลยนะคะเจอร์รี่" หญิงสาวตอบรับคำลูกชายแล้วหันกลับมามองทางเจอร์รี่

"ครับ ถ้ามีโอกาสก็แวะมาได้นะ" เจอร์รี่บอกเธอด้วยแววตาอ่อนโยน เสี่ยวซิงผงกหัวรับด้วยสีหน้าเศร้าๆแล้วฝืนยิ้มให้

"พี่ไปนะจ๊ะไจ่ไจ๋ ขอบคุณอีกครั้งที่ช่วยดูแลต้าไห่ให้" เธอบอกลาไจ่ไจ๋

"ไม่เป็นไรครับ" ไจ่ไจ๋รับคำแล้วขยับเข้าไปจับมือเด็กชาย ต้าไห่คลายแขนที่กอดคอแม่อยู่มากอดคอไจ่ไจ๋แทน

"แล้วมาเล่นกับพี่ชายอีกนะ" ไจ่ไจ๋พูดกับเด็กชายเบาๆ ต้าไห่มองหน้าไจ่ไจ๋แล้วยิ้มหวานให้

"บ๊ายบายพี่ชาย" ไจ่ไจ๋หัวเราะออกมาเบาๆแล้วยกมือขึ้นบ๊ายบายต้าไห่ด้วยเช่นกัน

"บ๊ายบายคุณอาด้วยลูก" เสี่ยวซิงกำชับลูกชาย

"บ๊ายบายคุณอา....." ต้าไห่หันไปโบกมือให้เจอร์รี่ด้วย

"บ๊ายบายครับ เป็นเด็กดีของคุณแม่นะลูก" เจอร์รี่ลูบหัวเด็กชายด้วยความเอ็นดู เสี่ยวซิงสบตากับเจอร์รี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วเดินจากไป เจอร์รี่มองตามแล้วลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ไจ่ไจ๋ที่ยืนอยู่ข้างๆสังเกตุเห็นสีหน้าของพี่ชายแล้วแต่ไม่ได้พูดอะไร

"พี่ใหญ่ครับ" ไจ่ไจ๋เดินเข้าไปกอดเอวพี่ชายพร้อมกับทำเสียงอ้อนๆ พี่ใหญ่ได้ยินก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ

"ว่างัยครับ?" ตอบรับคำน้องพร้อมกับบีบจมูกน้องชายเบาๆ

"มีตัวเล็กๆแบบนั้นให้ผมซักคนสิ ผมอยากมีน้อง" ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็หัวเราะออกมาได้

"จะบ้าหรอ! อยากมีก็ก๊อปเองสิ เรื่องแบบนี้นึกจะมีก็มีได้หรอ?" น้องเล็กยิ้มออกมาอย่างโล่งใจที่เห็นพี่ชายยิ้มออก

"ถ้ามีให้ผมไม่ได้พี่ก็ต้องชวนพี่เสี่ยวซิงมาบ้านเราบ่อยๆ ผมจะได้เล่นกับต้าไห่" เจอร์รี่เริ่มหัวเราะเสียงเบาลงจนหยุดในที่สุด

"คงยากแล้วหละไจ่ไจ๋ เสี่ยวซิงเขาจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศแล้ว....." สีหน้าของเจอร์รี่เริ่มเศร้าลง

"สามีเขาเสียแล้ว พอดีได้เงินประกันมามากพอควรแล้วก็เป็นจังหวะที่ขายบ้านได้ เขาเลยอยากไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับต้าไห่เพื่อที่จะลืมเรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้น" ได้ยินดังนั้นไจ่ไจ๋ก็อึ้งไป นึกสงสารต้าไห่ที่ต้องมาสูญเสียพ่อไปทั้งๆที่ตัวเองยังไม่รู้ประสาอะไรมากมายนัก

"วันนี้เขาแวะเอาเงินที่เคยยืมไปมาคืน แล้วก็มาลาด้วย" ไจ่ไจ๋ไม่รู้จะพูดอะไรเลยได้แต่กอดพี่ชายเอาไว้ เจอร์รี่เอาหน้าซบลงที่หัวของน้องชาย เขารู้ดีว่าน้องชายต้องการจะปลอบใจเพียงแต่เริ่มพูดไม่ถูกเท่านั้นเอง

"พี่ไม่เป็นไรหรอกไจ่ไจ๋ ขอบใจนายมากนะ" ในที่สุดเจอร์รี่ก็เป็นฝ่ายที่พูดขึ้นมาเอง น้องเล็กค่อยๆคลายท่อนแขนออกแล้วมองหน้าพี่ชาย เจอร์รี่ยิ้มให้น้อง

"เข้าบ้านกันดีกว่า ป่านนี้ไอ้พี่รองตัวดีของนายมันซัดของกินเรียบแล้วมั้ง?" ได้ยินดังนั้นไจ่ไจ๋ก็ทำตาโต

"เออ! จริงด้วย!!! ไปเร็วพี่ใหญ่!!" พูดจบก็จูงมือพี่ชายวิ่งเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว




 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2550 11:09:03 น.
Counter : 730 Pageviews.  

Chapter 88

ตอนที่ 88

"นั่งตาปรือเชียว ง่วงก็ไปนอนซะไป......" เจอร์รี่ลูบหัวน้องชายคนเล็กที่นั่งทำตาปรอยอยู่ข้างๆ

"หนังกำลังสนุกเลย" ไจ่ไจ๋แย้งขึ้นพร้อมกับอ้าปากหาวไปด้วย

"ไว้ดูวันหลังก็ได้ ลูกยังไม่หายดีขึ้นไปนอนพักดีกว่านะจ๊ะ" แม่พูดเสริมขึ้นอีกคน ไจ่ไจ๋ไม่ตอบว่าอะไรแต่หันไปกอดพี่ชายคนโตอย่างออดอ้อน

"พี่พาผมไปนะ" เจอร์รี่ยิ้มๆแล้วพยักหน้า

"เกาะแจเลยนะ" แวนเนสกระแนะกระแหนน้องชายอย่างนึกหมั่นไส้

"ทำไม? มีปัญหาหรอ?" ไจ่ไจ๋ย้อนพี่ชาย

"ไม่เอา อย่าชวนพี่เขาทะเลาะน่า!" พี่ใหญ่รีบห้ามทัพแล้วฉุดแขนน้องเล็กให้ลุกขึ้น

"ผมชวนที่ไหน? พี่รองนั่นแหละเริ่มก่อน" น้องเล็กเถียงอย่างไม่ยอม

"พี่เริ่มอะไรที่ไหนวะ? ก็แค่พูด....." แวนเนสตั้งท่าจะตอบโต้แต่ก็ถูกพี่ชายตัดบทขึ้นก่อน

"แวนเนส! เราก็ชอบไปแหย่น้อง" แวนเนสเบ้ปากใส่แล้วยักไหล่เล็กน้อย

"ไม่พูดก็ได้ จะไปไหนก็รีบไปเลย เบื่อเด็กงี่เง่า!" ไจ่ไจ๋ค้อนใส่พี่ชาย

"เออ! แล้วอย่ามาง้อนะ!" พูดตวัดเสียงเล็กน้อย

"ไม่ง้อหรอก! พี่กลางมันน่ารักกว่านายตั้งเยอะ นายตกกระป๋องไปเลย!" แวนเนสสวนกลับพร้อมกับพาดมือโอบไหล่เคน

"ฮึ!" ไจ่ไจ๋ทำเสียงในลำคอแล้วสะบัดหน้าหนี

"ไปเหอะพี่ใหญ่ เบื่อผู้ใหญ่น่ารำคาญ!" พูดจบก็รีบดึงมือพี่ใหญ่ให้พาขึ้นไปนอน เสียงหัวเราะของคนที่เหลืออยู่ดังตามไล่หลังมา ยกเว้นเพียงแวนเนสเท่านั้นที่ได้แต่ยกมือค้างที่โดนน้องชายตอกกลับเอาบ้าง

"นี่! เรามันกวนประสาทอย่างที่พี่เขาว่าจริงๆนั่นแหละ" เจอร์รี่ต่อว่าพร้อมกับทุบหัวน้องเบาๆ

"หึๆๆๆ" ไจ่ไจ๋หัวเราะออกมาเบาๆแล้วตวัดแขนโอบรอบเอวพี่ชาย

"ก็คนมันอารมณ์ดีนี่" พี่ใหญ่อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

"เข้าห้องไปได้แล้ว" ว่าพลางโอบไหล่น้องแล้วพาเดินเข้ามายังห้องนอนของน้องเล็ก

"ว่างๆก็เก็บห้องบ้างนะ รกเหลือเกิน" เอ่ยปากตำหนิเจ้าน้องชายตัวดีแต่ไม่ได้จริงจังนัก

"แหม.....ทำไมวันนี้เจอแต่คนขี้บ่นนะ อุ๊ย!" ไจ่ไจ๋บ่นอุบอิบแต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นเสียงอุทานเมื่อพี่ใหญ่ทำท่าจะทุบหัวเขาอีก

"รีบๆนอนเลยนะ!" ปั้นหน้าดุใส่น้องชายแล้วกดไหล่น้องให้นอนลง

"พี่ใหญ่ครับ....." เรียกพี่ชายเสียงอ่อนเสียงหวาน

"ทำไมอีก?" ย้อนถามน้องพร้อมกับยิ้มให้บางๆ

"เล่าให้ผมฟังหน่อยสิว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่บ้าง?" ไจ่ไจ๋ถามน้ำเสียงเป็นการเป็นงานขึ้นมา เจอร์รี่ยิ้มรับแล้วขยับตัวขึ้นไปนั่งบนเตียงก่อนที่จะเอนตัวนอนลงข้างน้องชาย

"แน่ใจหรอว่าอยากฟัง?" ย้อนถามน้องชายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล น้องเล็กพยักหน้ารับโดยไม่ต้องคิด

"อืม.....เริ่มจากตอนไหนดีหละ?" ถามความเห็นจากน้องชาย ไจ่ไจ๋ไม่ตอบแต่ขยับตัวเข้าไปกอดแล้วซบหน้าลงที่อกของพี่ชาย เจอร์รี่อมยิ้มแล้วกอดน้องตอบอย่างเอ็นดู

"วันที่พี่ออกเดินทาง ก่อนไปพี่เข้าไปหานายมาด้วย" น้องเล็กหลับตาลง

"ผมรู้แล้วครับ" พี่ใหญ่ลูบหัวไจ่ไจ๋เบาๆ

"รู้จริงหรอ? พี่เห็นนายหลับอุตุอยู่เลย" แกล้งพูดหยอกน้องชาย

"ผมได้อ่านเศษกระดาษแผ่นนั้น" น้องเล็กตอบโดยที่ไม่ได้ลืมตาขึ้นมา เจอร์รี่เม้มปากพลางลูบหัวน้องอีก

"พี่คิดว่านายคงยังไม่หายโกรธพี่เลยตัดสินใจที่จะไปเงียบๆ" เจอร์รี่บอกน้องออกไปตรงๆ แล้วทั้งคู่ก็เงียบกันไปพักหนึ่ง

"ความจริงคืนนั้นผมก็ตั้งใจจะเข้าไปคุยกับพี่ใหญ่ แต่แม่เห็นว่าดึกแล้วเลยให้รอตอนเช้า" ไจ่ไจ๋บอกกล่าวกับพี่ชายเช่นกัน

"หรอ? แล้วนายจะเข้าไปคุยอะไรกับพี่หละ?" ย้อนถามน้องอย่างแปลกใจ

"ผมจะเข้าไปขอโทษพี่ใหญ่ จะไปบอกพี่ใหญ่ว่าผมไม่ได้โกรธพี่แล้ว" ไจ่ไจ๋ผงกหัวขึ้นมาสบตากับพี่ชาย

"แต่พอตอนเช้าพี่ก็ไปแล้ว ผมโทรหาพี่แต่ก็ติดต่อไม่ได้เลยเข้าใจว่าพี่คงโกรธผมอยู่......จากนั้นตอนช่วงบ่ายมีตำรวจ 2 คนมาที่บ้านแจ้งว่าพี่ประสบอุบัติเหตุ อยากให้ญาติไประบุศพ......" เจอร์รี่ได้ยินก็อึ้งไป เขาไม่นึกว่าน้องชายจะเป็นคนแรกที่ต้องรับรู้ข่าวร้าย

"พอได้ฟังผมก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่โรงบาล" เจอร์รี่กระชับท่อนแขนกอดน้องชายแน่นขึ้น

"พี่ขอโทษ" พึมพำคำขอโทษออกมาเบาๆด้วยรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุทำให้น้องต้องเสียใจ ไจ่ไจ๋นิ่งไปพักหนึ่งก่อนที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อยพร้อมกับเอามือหยิกแก้มพี่ชายเบาๆ

"เล่าต่อสิครับพี่ใหญ่" เจอร์รี่ปรับสีหน้าให้ดีขึ้นเล็กน้อย

"หลังจากพี่ออกจากบ้านไปพี่ก็ขับรถไปเรื่อย ขับไปแวะเที่ยวตามที่ต่างๆไปเรื่อยๆ อันที่จริงพี่ก็อยากโทรหานายนะแต่พี่กลัวว่านายจะยังไม่หายโกรธ ขืนพี่โทรไปนายก็คงไม่คุยด้วยอยู่ดีพี่ก็เลยไม่ได้ติดต่อกลับไปกะว่ารอให้ถึงฟาร์มเพื่อนก่อนค่อยโทรบอกที่บ้าน......" เจอร์รี่เริ่มเล่าเหตุการณ์ให้น้องฟัง

"พี่ก็ขับรถไปแวะเที่ยวไปด้วย จนประมาณ 11 โมงกว่าๆ เพื่อนพี่ก็โทรมาตามถามว่าทำไมยังไม่ถึงอีก แล้วมันก็แนะนำให้มาทางลัดจะได้ถึงเร็วหน่อยเพราะเพื่อนๆคนอื่นถึงกันหมดแล้ว" ไจ่ไจ๋ไม่พูดว่าอะไรแต่หลับตาลงอีกครั้ง

"ทางที่พี่ไปนั้นรถไม่ค่อยมีเท่าไหร่ แต่พี่ก็ไม่ได้ใช้ความเร็วมากเพราะพี่เองก็รู้สึกว่ารถมันเบรกไม่ค่อยอยู่ ขับมาได้ไกลพอสมควรก็มาเจอต้นไม้ล้มขวางทางอยู่" พี่ใหญ่ลูบหัวน้องอย่างรักใคร่

"ตอนนั้นพี่ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะเห็นว่ามันเป็นตอนกลางวันแสกๆ เลยลงมาจากรถ แต่ที่ไหนได้พอลงมาปุ๊บก็มีผู้ชายคนนึงเอาไม้มาฟาดที่ท้ายทอยพี่ ตอนนั้นก็มึนๆอยู่เหมือนกัน" เล่ามาถึงตรงนี้ไจ่ไจ๋ก็ผงกหัวขึ้นมาแล้วทำหน้าตกใจ

"พี่ใหญ่โดนทำร้ายขนาดนั้นเลยหรอ?" ย้อนถามน้ำเสียงตกใจไม่แพ้กับสีหน้าที่แสดงออก จนเจอร์รี่อดที่จะหัวเราะไม่ได้

"อืม....แต่พี่ก็สู้นะ แต่ก็สู้ไม่ได้เพราะโดนจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว จำได้ลางๆว่าโดนค้นเอากระเป๋าตังค์ โทรศัพท์ไปหมดแล้วคนร้ายก็ผลักพี่ลงข้างทาง จากนั้นพี่ก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย" น้องเล็กได้ฟังก็ถึงกับน้ำตาคลอด้วยความสงสารแกมเสียใจที่ตัวเองก็มีส่วนทำให้พี่ชายต้องประสบเหตุร้ายเช่นนี้

"แล้วมีใครช่วยพี่ไว้หรือเปล่า?" ถามกลับด้วยสีหน้าเศร้าๆ

"มีสิ.....ไม่งั้นพี่คงไม่รอดกลับมาหานายได้หรอก......" เจอร์รี่ตอบยิ้มๆพร้อมกับลูบพวงแก้มของน้องชาย

"ไม่เอาน่า.....อย่าทำหน้าแบบนี้สิ พี่ไม่เป็นไรแล้วนายควรดีใจไม่ใช่หรอ?" แทนที่ไจ่ไจ๋จะดีใจอย่างที่พี่ชายบอก เขากลับน้ำตาไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้

"ถ้าสมมติว่าพี่ใหญ่ตายไปจริงๆ......ผมต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต......" พี่ใหญ่เช็ดน้ำตาให้น้องชายอย่างอ่อนโยน

"นายไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ พี่เคยบอกนายแล้วงัย" ไจ่ไจ๋สะอื้นออกมาเบาๆ

"แต่ว่าเพราะผม....." ไจ่ไจ๋ยังพูดไม่ทันจบก็ถูกพี่ชายเอามือปิดปากไว้

"อย่าพูดแบบนี้ให้พี่ได้ยินอีก ถ้าพี่ได้ยินพี่จะโกรธนายจริงๆนะ" น้องเล็กได้ยินดังนั้นก็พยักหน้ารับทั้งน้ำตา

"ดีมาก! นอนซะนะเด็กโง่!" ว่าพลางขยี้หัวน้องอย่างเอ็นดู ไจ่ไจ๋เอาหัวหนุนที่หมอนอย่างว่าง่าย

"พี่ใหญ่ครับ" เจอร์รี่บีบจมูกน้องชายเบาๆ

"มีอะไรอีกไอ้ตัวยุ่ง?" ไจ่ไจ๋เอามือเช็ดน้ำตาให้ตัวเอง

"คนที่ช่วยพี่ไว้เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย?" พี่ใหญ่หัวเราะกับคำถามนั้น

"ถามทำไม?" เจอร์รี่ย้อนถามน้องกลับ

"ผมอยากรู้นี่ครับ" เจอร์รี่ยิ้มเล็กน้อยพลางดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้น้อง

"ผู้หญิง" ไจ่ไจ๋เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

"เขาแบกพี่ไหวหรอ?" เจอร์รี่ตอบยิ้มๆเมื่อได้ยินคำถาม

"อืม.....แต่ก็คงลำบากน่าดู" ไจ่ไจ๋เม้มปากเล็กน้อย

"พี่มีเบอร์ติดต่อเขามั๊ย?" คราวนี้เจอร์รี่กลับกลายเป็นฝ่ายเลิกคิ้วบ้าง

"ผมอยากจะขอบคุณเขาที่ทำให้ผมได้พี่ชายคืนมา" เหตุผลของน้องทำเอาพี่ชายอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

"นอนได้แล้ว" พี่ใหญ่ไม่ตอบแต่กลับบอกให้น้องนอนหลับพักผ่อน

"พี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋ทวงเอาคำตอบ เจอร์รี่บีบจมูกเจ้าคนช่างถามอย่างหมั่นไส้แกมเอ็นดู

"พี่ไม่ได้ขอเบอร์ติดต่อไว้" ตอบคำถามน้องชายออกมาในที่สุด เมื่อได้ยินคำตอบน้องเล็กก็หลับตาลง เจอร์รี่จึงเอนตัวนอนแล้วหลับตาลงบ้าง

"พี่ใหญ่ครับ" ผ่านไปอีกพักหนึ่งน้องเล็กก็เรียกพี่ชายอีก

"ไหนบอกว่าง่วงงัย? เมื่อไหร่จะนอนซักทีหละ?" พี่ใหญ่หันหน้ามาทางน้องพร้อมกับถามเสียงเข้มเล็กน้อย

"เขาสวยมั๊ย?" น้องเล็กถามซอกแซกต่อ

"ไม่รู้ไม่คุยด้วยแล้ว ถามเซ้าซี้อยู่ได้" พี่ใหญ่ไม่ตอบแต่พูดตัดบทน้องในทันที

"ถามแค่นี้ต้องดุด้วย" ไจ่ไจ๋บ่นอุบแต่พอเห็นพี่ชายทำตาดุใส่ก็ยิ้มแหยๆแล้วขยับเข้าไปกอดพี่ชายอย่างออดอ้อน

"เฮ่อ! ก็เพราะเรามันเป็นแบบนี้งัยพี่ถึงยังตายจากไปไหนไม่ได้น่ะ!" บ่นพึมพำออกมาเบาๆพร้อมกับกอดน้องชายตอบแรงๆอย่างหมั่นไส้



- ตอนเย็น -

"โห! ทำไมกับข้าวกับปลามันเยอะแยะแบบนี้หละครับ?" เจอร์รี่ถามอย่างงงๆเมื่อเห็นว่าบนโต๊ะนั้นเต็มไปด้วยกับข้าวนานาชนิด

"ก็รับขวัญลูกงัยจ๊ะ" แม่หันมาตอบยิ้มๆ

"รับขวัญผมหรอ?" ย้อนถามพลางชี้หน้าตัวเองอย่างงงๆ

"ก็ใช่น่ะสิ! น้องบอกว่าลูกเพิ่งผ่านเหตุการณ์ร้ายๆมาคงตกใจไม่น้อย แล้วน้องก็อยากให้ลูกบำรุงร่างกายซักหน่อย" แม่ขยายความให้ฟัง เจอร์รี่ได้ยินเลยยิ้มออก

"แล้วไอ้พ่อครัวตัวดีไปไหนหละครับ?" เอ่ยถามถึงน้องชาย

"ไปหาซื้ออะไรมาฉลองกันหละมั้ง? พากันออกไปสามคนพ่อลูกโน้นแหนะ" แม่ตอบยิ้มๆ เจอร์รี่พยักหน้ารับแล้วเดินไปรินน้ำใส่แก้วดื่ม

"ไจ่ไจ๋ยังไม่ตื่นหละสิ" แม่ถามหาลูกชายคนเล็ก

"ตื่นมาแล้วรอบนึงแต่ผมบังคับให้น้องนอนต่อเองแหละ น้องยังไม่หายดีเลย กลัวว่าไข้จะกลับอีก" เจอร์รี่ตอบ

"จิตใจเบิกบานแล้วเดี๋ยวร่างกายก็ดีขึ้นเองแหละ นี่เสี้ยวเทียนก็ทำของโปรดไจ่ไจ๋ไว้เยอะเลย บ่นว่าน้องผอมไปเยอะต้องขุนให้อ้วนๆ" แม่ว่าพลางหัวเราะ เจอร์รี่ได้ยินก็หัวเราะตามออกมาด้วย

"ผมช่วยครับแม่" เจอร์รี่รีบเสนอตัวเมื่อเห็นแม่ทำท่าจะตักน้ำแกงใส่ชาม

"มาแล้วครับ" แวนเนสร้องบอกเสียงใสพร้อมกับหอบหิ้วของที่ซื้อกลับมาเต็มสองมือ

"อ้าว! ตื่นแล้วหรอ?" เคนทักพี่ชายคนโต เจอร์รี่พยักหน้ายิ้มๆ

"ซื้ออะไรกันมาเยอะแยะ?" ถามพลางมองไปที่บรรดาข้าวของที่น้องถือมาวางไว้

"ก็ไม่มีอะไร ของกินเล่นน่ะ" แวนเนสตอบแล้วหยิบเบียร์เข้าไปแช่ไว้ในตู้เย็น

"ไม่ต้องบ่นเลยนะ พ่อเป็นคนซื้อมา" แวนเนสพูดขัดขึ้นมาก่อนที่พี่ใหญ่จะทันได้พูดอะไร

"ฮึ! พ่อเป็นคนซื้อแต่นายเป็นคนเลือกน่ะสิ!" ผลักหัวคนพูดอย่างรู้ทัน เคนกับแวนเนสหันไปมองหน้ากันแล้วหัวเราะ

"พ่อบอกให้ซื้อเองหละลูก" พ่อที่เดินตามเข้ามาแก้ตัวแทนลูกชาย

"ทั้งปีนะพ่อ ให้ท้ายพวกมันอยู่เรื่อย!" ว่าพลางส่ายหน้าแล้วช่วยน้องชายเอาของที่ซื้อมาเก็บเข้าตู้

"ไจ่ไจ๋ยังไม่ตื่นหรอ?" เคนถามหาน้องชายคนเล็ก

"ตื่นแล้วครับ" เสียงน้องเล็กของบ้านตอบรับเสียงใสพร้อมกับก้าวเข้ามาในครัวด้วยอีกคน

"ตายยากจริงๆ" เคนพึมพำกับตัวเองแล้วเดินเข้าไปหาน้อง

"หายดีหรือยังเนี่ย? ยังมีไข้อยู่หรือเปล่า?" ว่าพลางเอามืออังหน้าผากน้องชายเพื่อวัดไข้

"อืม.....ดูเหมือนจะไม่มีไข้แล้วหนิ แต่นายต้องกินยาต่อนะอย่าเพิ่งหยุด" เคนถามเองตอบเองเสร็จสรรพ ไจ่ไจ๋เหลือบมองหน้าพี่ชายแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ

"ขำอะไร?" เมื่อเห็นสีหน้ากวนๆของน้องเคนก็ตวัดเสียงใส่

"เปล่าครับ....วันนี้พี่กลางทำอะไรกินบ้าง? ทำของโปรดผมไว้หรือเปล่า?" ทำเสียงอ้อนใส่

"นายก็โปรดทุกอย่างที่มันกินเข้าไปได้ไม่ใช่หรอ?" จับหัวน้องโยกไปมาพร้อมกับพูดแขวะไปในตัว

"แหม.....ไม่ขนาดนั้นซะหน่อย....." ไจ่ไจ๋บ่นอุบอิบแล้วเดินไปดูกับข้าวบนโต๊ะกินข้าว

"ว้าว! มีกุ้งชุบแป้งทอดด้วย" ว่าพลางเอื้อมมือจะหยิบแต่ถูกเคนตีมือซะก่อน

"ชิมนิดนึงไม่ได้หรอ?" ทำเสียงอ่อยพร้อมกับลูบมือตัวเองไปด้วย สมาชิกที่เหลือได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆกับเจ้าคนเล็กของบ้าน

"ไม่ได้! พี่ทำไว้พอดีคน ถ้าอยากกินก่อนตอนเค้ากินกันนายก็อดไปแล้วกัน!" น้องเล็กทำปากหมุบหมิบแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

"หิวแล้วใช่มั๊ยหละ?" แวนเนสเข้าไปกอดคอน้องเล็กพร้อมกับเอ่ยถาม

"ก็หิวน่ะสิ ดูสิ.....ท้องแฟบเลย" ว่าพลางเอามือลูบท้องตัวเองไปมาเรียกเสียงหัวเราะจากทุกๆคนได้เป็นอย่างดี

"งั้นก็กินกันเลยแล้วกัน มา.....เดี๋ยวแม่ตักข้าวให้" แม่ว่าพร้อมกับตักข้าวใส่จานแจกให้ทุกๆคน จากนั้นสมาชิกทุกคนก็นั่งกินข้าวพลางพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เมื่อกินเสร็จก็ไปนั่งรวมตัวกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น

"เมื่อตอนเย็นเพื่อโทรมาบอกว่าเกรดออกแล้วอ่ะ" ไจ่ไจ๋เอ่ยขึ้นเป็นคนแรก

"ได้เท่าไหร่?" พ่อแม่และพี่ชายถามขึ้นมาพร้อมกัน ไจ่ไจ๋อมยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมา

"ยังไม่รู้เลยครับ พรุ่งนี้จะไปเอาผลสอบนี่แหละ" ตอบคำถามจบก็เอนตัวนอนหนุนตักแม่

"มั่นใจแค่ไหนจ๊ะ?" แม่เอ่ยถามพลางลูบหัวลูกชายอย่างเอ็นดู

"ก็....นิดนึง....." ตอบพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม

"ถ้าผลสอบไม่ดีก็ไปอยู่กับพ่อแม่เลยนะ" แวนเนสแหย่น้องชาย

"พ่อแม่จะกลับมาอยู่นี่แล้วไม่ใช่หรอ?" ไจ่ไจ๋พูดย้อน

"เอ่อ....ยังไม่ได้ตัดสินใจเลยจ๊ะ ก็คงยังจะไปๆมาๆแต่คงมาอยู่นานกว่าเดิม" แม่ว่าพลางเมียงมองไปทางเคนที่นั่งเงียบๆ

"ตัดสินใจเลยสิแม่ ก็ไหนเคยบอกว่าหาคนดูแลงานแทนได้แล้วงัย?" ไจ่ไจ๋คะยั้นคะยอแม่โดยไม่ทันได้สังเกตสีหน้าของพี่ชายคนกลาง

"ก็หาได้ แต่ก็ต้องสอนงานกันไปก่อนนี่" พ่อให้เหตุผลด้วยอีกคน

"โธ่! นึกว่าเราจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันแล้วซะอีก" ไจ่ไจ๋ครางออกมาอย่างเสียดาย

"เอ่อ.....เสี้ยวเทียน! พรุ่งนี้ว่างมั๊ย?" แวนเนสเปลี่ยนเรื่องคุย

"ก็คงว่าง ทำไมหรอ?" เคนที่นั่งเหม่ออยู่หันมาตอบคำถามพี่ชาย

"ว่าจะชวนนายไปกับชั้นด้วยน่ะ พอดีพรุ่งนี้จะไปห้องอัดเสียงน่ะ" แวนเนสตอบ เจอร์รี่ได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วถามแทรก

"แล้วพรุ่งนี้นายไม่ทำงานหรอ?" เคนได้ยินดังนั้นก็แกล้งตีหน้าขรึมใส่พี่ชาย

"งานอะไรที่ไหนอีกหละ? ชั้นไม่ผ่านโปรแล้วเนี่ย! ไอ้สามวันที่ผ่านมาความจริงชั้นต้องเดินทางแต่ก็ไม่ได้ไป ประเมินผลออกมายังงัยก็ไม่ผ่าน!" ได้บยินดังนั้นเจอร์รี่ก็อึ้งๆไป

"เอ่อ....แล้วนายบอกเขาไปไม่ได้หรอว่ามันมีเรื่องที่บ้าน? พี่ว่าเขาคงไม่ใจร้ายกับนายหรอก หรือว่า.....มีเบอร์โทรหรือเปล่า? พี่โทรไปคุยกับเขาให้ก็ได้ หรือแวนเนส นายน่ะให้กลอเรียช่วยพูดกับพ่อเขาหน่อยสิว่าน้องไม่ได้จงใจเบี้ยวแต่พอดีที่บ้านเกิดเรื่องน่ะ" เจอร์รี่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนน้อง เห็นท่าทางของพี่ชายแล้วเคนก็แอบอมยิ้ม

"ไม่ได้หรอก! กฎมันต้องเป็นกฎจะยกเว้นกับใครได้ที่ไหน?" เคนตอบพลางส่ายหน้า

"แต่ว่า......" พี่ใหญ่ตั้งท่าจะแย้งแต่เคนก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน

"นายเป็นต้นเหตุที่ทำให้ชั้นไม่ได้งาน ฉะนั้นช่วงที่ชั้นตกงานนายต้องรับผิดชอบชั้นด้วยแล้วกัน!" คำพูดน้องทำเอาพี่ใหญ่ชะงักไป สมาชิกคนอื่นพากันอมยิ้มเพราะรู้ว่าเจอรรี่กำลังโดนอำ

"เฮ่อ! ซวยอะไรอย่างนี้?" บ่นพึมพำออกมาเบาๆพลางเกาหัวแกรกๆ

"ฮ่าๆๆๆๆ!!!!" ในที่สุดทุกคนก็หัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

"นายหลงกลมันแล้วหละพี่ชาย!" แวนเนสตบไหล่พี่ชายพร้อมกับเฉลย เจอร์รี่ถอนหายใจเฮือกแล้วเหลือบมองเจ้าคนช่างอำด้วยสายตาดุๆ

"พรุ่งนี้ไปกี่โมงหรอแวนเนส?" เคนรีบเปลี่ยนเรื่องทันที แวนเนสเหลือบมองหน้าพี่ชายแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ

"ราวๆ 8 โมงน่ะ" พี่ใหญ่ส่ายหน้าไปมากับเจ้าน้องชายตัวแสบทั้งหลาย

"พ่อแม่.....เห็นหรือยังครับว่าไอ้ลูกชายตัวดีของพ่อแม่แต่ละคนน่ะมันเฮี้ยวกันขนาดไหน?" หันไปฟ้องพ่อกับแม่ด้วยสีหน้ามุ่ยๆ

"หึๆๆๆ" พ่อกับแม่หัวเราะออกมาพร้อมกัน

"พูดอย่างกับตัวเองไม่ใช่ลูกพ่อลูกแม่อย่างงั้นแหละ" ไจ่ไจ๋ย้อนพี่ชายออกมาเบาๆ

"ไจ่ไจ๋!!!!" พี่ใหญ่ทำเสียงดุน้อง

"พ่อแม่.....เห็นหรือยังครับว่าลูกชายคนโปรดของพ่อแม่น่ะขี้บ่นขนาดไหน?" แวนเนสทำหน้าซื่อหันไปถามพ่อกับแม่

"ไอ้....." เจอร์รี่ชี้หน้าคนปากดีแต่พูดอะไรไม่ออก

"อุ๊ย! ทำไมถางถางผอมแบบนี้หละ?" เมื่อเห็นเจ้าถางถางเดินเข้ามาเคลียคลอเคนก็เปลี่ยนไปสนใจเจ้าแมวน้อยทันที

"นั่นสิพี่กลาง...." ไจ่ไจ๋คล้อยตามพี่ชายแล้วขยับเข้ามาลูบเจ้าถางถางเล่นด้วย

"เจ้าพีพีก็ผอมเหมือนกันนะเนี่ย" แวนเนสหันไปอุ้มเจ้าพีพีแล้วขยับเข้าไปนั่งกับน้องชายสองคนด้วย จากนั้นสามพี่น้องก็นั่งวิจารณ์เจ้าสัตว์เลี้ยงแวนรักทั้งสองตัวอย่างสนุกสนาน พ่อกับแม่หันไปมองลูกชายคนโตนั่งถอนหายใจเฮือกๆกับบรรดาน้องชายตัวแสบ

"มันเฉไฉกันได้ทุกเรื่องจริงๆ!" เจอร์รี่บ่นออกมา

"น้องล้อเล่นกันเอง ไม่เห็นต้องทำหน้ามุ่ยแบบนี้เลย" แม่โยกหัวลูกชายเล่นอย่างเอ็นดู

"เฮ่อ! ผมหละเหนื่อยกับเจ้าพวกนี้จริงๆเลย" พึมพำออกมาพร้อมกับเอนตัวซบลงที่ไหล่ของแม่ ในระหว่างนั้นน้องชายสามคนต่างซุบซิบกันแล้วหันมาทางพี่ชายคนโตอย่างขำๆ

"ขำอะไรกัน?" เจอร์รี่ถามน้องเสียงห้วน

"เปล่า" ตอบออกมาพร้อมกันแต่แล้วก็หัวเราะออกมากันอีก

"ไอ้เด็กพวกนี้หนิ!" พูดจบก็ลุกเดินไปหาน้องชายทั้งสาม ยังผลให้สามพี่น้องต่างลุกหนีกันคนละทิศละทาง

"ฮ่าๆๆๆ!!! เล่นกันเหมือนเด็กเลย!" พ่อหัวเราะแล้วหันไปพูดกับแม่ยิ้มๆ แล้วพ่อกับแม่ก็ได้แต่ส่ายหัวไปมาพร้อมกัน



- วันต่อมา -

"อ้าว.....ไจ่ไจ๋.....กลับมาแล้วหรอ?" พี่ใหญ่เอ่ยทักน้องชายคนเล็กที่เพิ่งกลับมาจากการไปรับผลสอบ

"ครับ" ตอบด้วยน้ำเสียงเนือยๆแล้วมานั่งลงข้างพี่ชาย

"เป็นยังงัยบ้าง?" ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ไจ่ไจ๋เงียบไปพักหนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากับพี่ชาย

"พี่ใหญ่....พี่จะว่าอะไรมั๊ย? ถ้าผลที่ออกมามันไม่เหมือนกับที่คาดคิดไว้" เอ่ยถามพี่ชายด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน

"ถ้านายทำดีที่สุดแล้วพี่จะไปว่าอะไรได้หละ? ทำไม? มันแย่มากหรอ?" ย้อนถามกลับอย่างเห็นใจน้องชาย

"ถ้าผมสอบตกพี่ก็ไม่ว่างั้นหรอ?" เจอร์รี่ลูบหัวน้องเบาๆ

"แค่ตัวสองตัวก็ช่างมันเถอะ ลงใหม่ก็ได้นี่นา" พูดปลอบใจน้องชายอย่างนุ่มนวล

"ถ้าไม่ใช่แค่ตัวสองตัวหละ?" ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็ขมวดคิ้ว

"มากกว่านั้นอีกหรอ? ไหนขอพี่ดูหน่อยซิ" ย้อนถามพร้อมกับยื่นมือออกไปขอดูแผ่นรายงานผลสอบของน้องชาย แต่ไจ่ไจ๋ยังคงนั่งนิ่งไม่หยิบออกมาให้พี่ชายดู

"ไจ่ไจ๋! พี่บอกว่าเอามาให้พี่ดูหน่อย" พี่ใหญ่ทำเสียงเข้มขึ้นเล็กน้อย ไจ่ไจ๋เม้มปากแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ

"ผมไม่อยากให้ดู" สีหน้าของพี่ชายนั่นอ่อนอกอ่อนใจยิ่งนัก แต่เขาก็รู้ว่าในเวลานี้น้องคงผิดหวังเช่นเดียวกันเลยไม่อยากซ้ำเติมอะไรมากนัก

"พี่ไม่ดูก็ได้แต่นายบอกพี่ซักหน่อยว่าเกรดรวมได้เท่าไหร่?" เจอร์รี่พยายามต่อรอง แต่น้องชายก็ส่ายหน้าอยู่ดี

"งั้นนายบอกพี่ได้มั๊ย? ว่าอะไรที่เป็นปัญหา เรื่องเกี่ยวกับที่นายต้องเรียนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดหรือเปล่า?" ถามซักไซร้น้องชายอย่างห่วงใย

"ถ้าเป็นเพราะเรื่องภาษา เราก็ย้ายไปเรียนเป็นภาคธรรมดาก็ได้ ส่วนภาษาอังกฤษค่อยไปหาเรียนเพิ่มเติมที่อื่น ยังงัยแม่ก็คงเข้าใจ" พี่ใหญ่ปลอบประโลมน้องชาย

"ว่างัยตกลงใช่เรื่องภาษาหรือเปล่า? หรือว่าเข้ากับเพื่อนๆไม่ได้?" พี่ใหญ่พยายามเดาไปเรื่อยๆเผื่อน้องจะบอกอะไรเขาบ้าง

"ผมก็บอกไม่ถูก" ไจ่ไจ๋ว่าพลางถอนหายใจออกมาอีก

"ทำไมถึงบอกไม่ถูก? อะไรที่มันมีปัญหานายเองก็ต้องรู้ ถ้านายไม่พูดพี่จะช่วยนายแก้ปัญหานั้นได้ยังงัย?" พี่ใหญ่เองก็เริ่มจะหงุดหงิดที่น้องเอาแต่ส่ายหน้า ไจ่ไจ๋เหลือบมองพี่ชายแว๊บหนึ่งแล้วหันไปหยิบกระเป๋าสะพายเปิดออก

"ถ้าดูแล้วพี่อย่าดุผมนะ" ไจ่ไจ๋พูดดักพี่ชายขึ้นมาก่อน

"โอเค....พี่ไม่ดุนายอยู่แล้ว......" เมื่อพี่ชายรับคำไจ่ไจ๋ก็ยื่นใบรายงานผลการเรียนให้พี่ชายดู เจอร์รี่รับมันมาแล้วตรวจตราดูอย่างถ้วนถี่ เมื่อดูเสร็จเขาก็เงยขึ้นมองน้องชาย

"ไจ่ไจ๋!!!!" น้องเล็กกระโดดหนีได้ทันท่วงทีก่อนที่ฝ่ามือพี่ชายจะตวัดลงมาโดน

"เด็กบ้า! นี่นายหลอกพี่หรอ?" เจอร์รี่ยืนขึ้นชี้หน้าน้องชายตัวแสบอย่างเคืองๆ เสียงหัวเราะอันน่ากวนประสาทดังขึ้นลั่นบ้าน

"มานี่เดี๋ยวนี้เลยนะ!" สั่งเจ้าน้องชายตัวดีเสียงเข้ม ไจ่ไจ๋ยิ้มแหยๆให้พี่ชายแต่ไม่กล้าเดินเข้าไปหา

"โธ่! พี่ใหญ่ครับ ผมก็แค่ล้อเล่นเอง......" พูดเสียงอ่อยพลางเดินหนีพี่ชายไปรอบบ้าน

"พี่บอกให้มานี่งัย! ถ้าต้องให้พี่จับนายได้เมื่อไหร่นายเจ็บตัวแน่!" น้องเล็กหน้ากึ่งยิ้มกึ่งแหยเมื่อได้ยินคำขาดของพี่ชายเขามองซ้ามองขวาเพื่อหาคนช่วยแล้วเหมือนโชคเข้าข้างเมื่อแม่เดินลงมาจากชั้นบนพอดี

"แม่ครับ!!!" ไจ่ไจ๋ร้องเรียกอย่างดีใจ

"อ้าว! ทำไมกลับมาเร็วจัง? แม่คิดว่าลูกจะไปเที่ยวต่อกับเพื่อนซะอีก" แม่ทำหน้าแปลกใจเมื่อเห็นลูกชายคนเล็ก

"ไม่ไปไหนหรอกครับ แหะๆๆๆ แม่ช่วยผมหน่อยสิ" ไจ่ไจ๋ว่าพลางเหลือบมองไปทางพี่ชายที่ยืนมองเขาด้วยสีหน้าบึ้งตึง

"มีอะไรกันอีกจ๊ะ?" แม่เอ่ยถามพลางมองลูกชายสองคนสลับกันไปมาอย่างงงๆ

"พี่ใหญ่จะตีผมอ่ะ" ไจ่ไจ๋บอกแม่เสียงอ่อย

"ตีน้องทำไม? หรือว่า....." แม่คิดไปถึงว่าเป็นเพราะไจ่ไจ๋สอบไม่ผ่าน

"อย่าซ้ำเติมน้องสิลูก แค่นี้น้องก็เสียใจพอแล้ว" แม่พูดจาไกล่เกลี่ยให้ลูกชายคนเล็ก

"ถ้ามันสอบตกจริงผมจะไม่ว่าอะไรเลย แต่แม่ดูสิ!" เจอร์รี่ยื่นแผ่นรายงานผลการสอบของน้องชายให้มารดา

"โห! ได้สามกว่าเลยหรอ? เก่งจริงๆเลย!" แม่อุทานออกมาอย่างภูมิใจในตัวลูกชาย ไจ่ไจ๋เห็นสีหน้าของแม่แล้วก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองด้วยเช่นกันที่ทำให้แม่ดีใจได้

"เอ่อ.....แม่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมลูกต้องตีน้องหละ? น้องเรียนได้แค่นี้ก็ดีมากแล้วนะจ๊ะ" แม่หันไปถามเจอร์รี่อย่างไม่เข้าใจ

"นั่นสิแม่ พี่ใหญ่นี่ก็แปลกคนนะ ตอนผมเรียนได้ 2 กว่าๆก็บ่นว่าผมไม่ค่อยตั้งใจแต่พอเรียนได้ดีขนาดนี้ก็ยังไม่พอใจอีก จะเอายังงัยกันแน่เนี่ย?" เมื่อมีคนคอยช่วยไจ่ไจ๋จึงได้ทีใส่ไฟพี่ชายเสียยกใหญ่ ฝ่ายเจอร์รี่เลยได้แต่ชี้เจ้าน้องชายตัวแสบพูดอะไรไม่ออก

"ไม่เอานะลูก อย่าตีน้อง ไจ่ไจ๋.....มานั่งกับแม่มา" แม่โอบไหล่ลูกชายคนเล็กแล้วพามานั่งที่โซฟา ไจ่ไจ๋มองหน้าพี่ชายแล้วยักคิ้วให้อย่างผู้ชนะ

"ฝากไว้ก่อนเหอะ!" เจอร์รี่บ่นอุบอิบกับตัวเองก่อนที่จะค้อนใส่น้องชายเสียหลายตลบ

"ลูกแม่เก่งจัง แบบนี้ต้องให้รางวัลซักหน่อย อื้ม!" แม่เอ่ยชมลูกชายไม่ขาดปากพร้อมกับหอมแก้มลูกชายฟอดใหญ่

"ลูกอยากได้อะไรอีกบอกแม่มาซิ แม่จะซื้อให้ทุกอย่างเลย" ไจ่ไจ๋กอดแม่อย่างออดอ้อน

"ไม่อยากได้อะไรหรอก แค่แม่กลับมาอยู่บ้านนานๆผมก็ดีใจแล้วครับ" พูดเสียงอ่อนเสียงหวานจนแม่อดที่จะหัวเราะออกมาๆไม่ได้

"เดี๋ยวอยู่นานลูกก็เบื่อ" แม่ว่าพลางชนหน้าผากกับลูกชาย

"ไม่เบื่อหรอก มีแม่อยู่ผมจะปลอดภัยมากเลย" ไจ่ไจ๋พูดเป็นเสียงกระซิบพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

"ฮึ! เราน่ะชอบไปแหย่พี่เขา พอพี่เขาจะเอาเรื่องเราก็วิ่งมาหาแม่เรื่อยเลย แล้วเวลาแม่ไม่อยู่ทำยังงัยหละเนี่ย?" แม่พูดกับลูกชายเป็นเสียงกระซิบเช่นกัน

"ก็ทำตัวเรียบร้อยสิครับ ไม่งั้น......" ไจ่ไจ๋ทำท่าเชือดคอตัวเองทำเอาแม่หัวเราะออกมาเพราะขำกับความเฮี้ยวของลูกชายตัวแสบ

"ใครแกล้งลูกพ่อเนี่ย? นั่งหน้ามุ่ยเชียว" พ่อที่เพิ่งเดินตามแม่ลงมาเอ่ยขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือมาขยี้หัวลูกชายคนโตเบาๆ

"แม่เขาไม่สนใจหรอ?" พ่อทรุดตัวนั่งลงข้างๆเจอร์รี่พร้อมกับเอ่ยถามเป็นเชิงหยอกเย้า

"แหงหละ! มีคนน่าสนใจกว่าแล้วหนิ" พูดประชดแม่เหมือนเด็กๆ ทำเอาไจ่ไจ๋หัวเราะก๊ากออกมา

"โตป่านนี้ยังอิจฉาน้องอยู่อีกหรอ?" พ่อดึงแก้มลูกชายเบาๆอย่างเอ็นดู เจอร์รี่ไม่ตอบแต่เอนหัวซบลงที่ไหล่พ่อ

"น่ารักจริงจริ๊งงงง.....ลูกใครหว่า?......" ไจ่ไจ๋แกล้งพูดลอยๆขึ้นมาแต่เจอร์รี่ทำเป็นไม่สนใจ

"เกเรอีกแล้ว! ไปว่าพี่เขาทำไม?" แม่หันมาเอ็ดเจ้าลูกชายตัวดี

"ผมว่าที่ไหน? ชมต่างหาก" พูดจบก็ยิ้มหวานจ๋อยจนพ่อกับแม่อดที่จะขำไม่ได้

"นี่พ่อ.....ดูสิว่าลูกเราเก่งขนาดไหน?" แม่ส่งใบรายงานผลการเรียนของไจ่ไจ๋ให้พ่อดู

"โห! พัฒนาขึ้นเยอะเลยนี่ลูก เก่งจริงๆ" หลังจากดูถี่ถ้วนแล้วพ่อก็ชมเปราะ ไจ่ไจ๋ยิ้มอย่างภาคภูมิใจแล้วเหลือบไปมองพี่ใหญ่

"ทำหน้าดุอยู่ได้ พี่ไม่ดีใจหรอที่มีน้องเก่งแบบนี้?" ไจ่ไจ๋พูดโอ่ตัวเองจนพี่ชายทำหน้าเมื่อย

"ดีใจตายหละ ตายแล้วเกิดใหม่ก็หาไม่ได้นะน้องชายแบบนี้" พูดประชดเจ้าน้องชายตัวดี

"ใช่แล้ว.....น้องชายที่แสนจะน่ารักเรียบร้อยแบบนี้มีคนเดียวในโลกเท่านั้นแหละ" น้องเล็กได้ทีเออออซะอย่างงั้น

"เฮ่อ! ไหลไปได้เรื่อยๆนะไอ้เด็กคนนี้" ว่าพลางส่ายหน้าอย่างอ่อนอกอ่อนใจกับน้องชาย

"หึๆๆๆ" พ่อกับแม่หัวเราะออกมาเบาๆกับลูกชายคู่นี้ ไจ่ไจ๋เองก็หัวเราะขำตัวเองแล้วลุกเดินเข้าไปหาพี่ชาย

"แหม....ผมขอโทษก็ได้ วันหลังจะไม่เล่นอะไรแบบนี้อีกแล้ว" น้องเล็กคุกเข่าข้างๆโซฟาที่พี่ชายนั่งอยู่พร้อมกับเอ่ยปากขอโทษออกมา

"พี่ใหญ่อย่าโกรธเลยนะ.....นะ....นะ....." ขยับตัวเข้าไปกอดเอวพี่ชายอย่างออเซาะ เจอร์รี่เหลือบมองน้องชายแล้วก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

"ชอบเล่นอะไรไม่เข้าเรื่องน่ะเรา!" ต่อว่าน้องแต่ก็อดไม่ได้ที่จะลูบหัวน้องชายอย่างเอ็นดู

"พี่ใหญ่ภูมิใจมั๊ยที่ผมเรียนได้เกรดเฉลี่ยดีขึ้นแบบนี้?" เงยหน้าขึ้นถามพี่ชาย

"ภูมิใจสิ ตั้งแต่เกิดมาพี่ยังไม่เคยเห็นเกรดของนายนำหน้าด้วยเลข 3 เลยซักครั้ง" ไจ่ไจ๋ยิ้มรับในตอนแรกแต่ก็หุบยิ้มลงทันทีที่ได้ยินประโยคหลัง

"มีช่องหน่อยไม่ได้นะ ด่าผมเรื่อยเลย" เจอร์รี่หัวเราะออกมาได้ในที่สุด เขาขยี้หัวน้องอย่างหมั่นไส้แกมเอ็นดู

"แล้วไม่มีรางวัลให้หรอ?" ไจ่ไจ๋ถามเซ้าซี้อีก พี่ใหญ่ยิ้มอย่างมีเลศนัย

"มีสิ จะเอาเลยหรือเปล่า?" ตอบคำถามน้องยิ้มๆ

"เอาสิ ไหนหละ?" ไจ่ไจ๋พาซื่อนึกว่าพี่ชายจะให้รางวัลจริงๆ

"ได้เลย นี่แหนะ!" เจอร์รี่ตีก้นน้องชายเข้าให้ทีหนึ่ง ไจ่ไจ๋สะดุ้งโหยงพร้อมกับร้องเสียงหลง

"โอ้ย!" เจอร์รี่ยิ้มอย่างผู้มีชัยแล้วรวบมือทั้งสองข้างของน้องชายไว้

"มีอีกเพียบเลย จะให้ตอนนี้ทั้งหมดเลยแล้วกัน" พูดจบก็ตีซ้ำอีก

"โอ้ย! รางวัลแบบนี้ไม่เอา! พ่อแม่ช่วยผมด้วย!" ไจ่ไจ๋ร้องลั่นพลางเอี้ยวตัวหลบไม่ให้พี่ชายตี พ่อกับแม่มองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมา

"บอกให้ช่วยไม่ใช่ให้ซ้ำเติมนะครับ" ไจ่ไจ๋ประท้วงเป็นการใหญ่เมื่อเห็นว่าทั้งพ่อและแม่ไม่มีใครขยับจะช่วยเลย

"นายตายแน่! พ่อกับแม่ไม่ช่วยเด็กดื้อแบบนายหรอก!" เจอร์รี่พูดขู่พร้อมกับยิ้มอย่างโหดๆ ไจ่ไจ๋กลืนน้ำลายเอือกพลางทำตาละห้อยใส่

"ไม่ดื้อแล้ว ต่อไปนี้ผมจะเป็นเด็กดี จะเชื่อฟังพี่ใหญ่ จะไม่โกหก จะพูดแต่ความจริง อย่าตีผมอีกเลยนะครับ ผมเจ็บ" พี่ใหญ่ยิ้มขำๆแต่ยังไม่ยอมปล่อยน้อง

"พี่จะเชื่อได้ยังงัย?" ย้อนถามเจ้าน้องชายตัวแสบ ไจ่ไจ๋ไม่ตอบได้แต่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ซึ่งถ้าลองเขาทำหน้าแบบนี้แล้วพี่ใหญ่เป็นอันต้องใจอ่อนทุกครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน

"เอ่อ.....เฮ่อ!.....ไม่ต้องร้องพี่ไม่ตีแล้ว......" เจอร์รี่รีบปลอบน้องทันที ไจ่ไจ๋ไม่พูดว่าอะไรแต่โผเข้ากอดพี่ชายไว้

"โอ๋ๆๆๆ ไม่เจ็บแล้วนะ พี่ตีไม่แรงซักหน่อย เจ็บจริงๆหรอ?" ว่าพลางลูบหัวน้องชายไปด้วย

"เจ็บสิ....." ไจ่ไจ๋ทำเสียงอ่อยๆ แต่สีหน้านั้นกลับยิ้มแย้มที่หลอกพี่ชายได้สำเร็จอีกครั้ง

"ลูกแม่นี่มันเจ้าเล่ห์จริงๆ" พ่อกระซิบกับแม่ยิ้มเมื่อเห็นว่าเจ้าลูกชายตัวแสบอำพี่ชายอีกแล้ว

"ฉลาดแกมโกงนะเจ้าเด็กคนนี้!" แม่กระซิบกลับ

"หายเจ็บหรือยัง?" เจอร์รี่ถามอีกเมื่อน้องผละตัวออก

"อืม" ไจ่ไจ๋พยักหน้ารับ

"งั้น....." เจอร์รี่ยังพูดไม่ทันจบไจ่ไจ๋ก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน

"เย็นนี้เราออกไปกินข้าวข้างนอกกันนะ! ถือว่าให้รางวัลที่ผมสอบได้คะแนนดี!" พูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงผิดกับเมื่อกี้ราวฟ้ากับดิน พี่ใหญ่มองน้องตาปริบๆ

"เดี๋ยวเราแวะไปรับพี่รองกับพี่กลางด้วยนะ พ่อแม่กับพี่ใหญ่รีบๆไปอาบน้ำแต่งตัวเร็วๆนะ ผมจะไปโทรบอกพี่เขาสองคนก่อน" พูดจบก็หยิบโทรศัพท์แล้วเดินออกไปหน้าบ้าน

"หึๆๆๆ ลูกถูกไอ้ตัวแสบหลอกเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย?" พ่อว่าแล้วตบไหล่ลูกชายเบาๆพร้อมกับหัวเราะขำๆไปด้วย





 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2550 11:08:01 น.
Counter : 797 Pageviews.  

Chapter 87

ตอนที่ 87

"น้องหละ?" เจอร์รี่ถามหาน้องเล็กเมื่อมองหาแล้วแต่ไม่พบ

"อยู่ในห้องน้ำ" เคนตอบแล้วลุกขึ้นจากเตียง

"ขอบใจมาก นายออกไปได้แล้ว" เจอร์รี่พูดตัดบททันทีที่เห็นว่าน้องชายกำลังทำท่าจะต่อว่าตน

"นายอย่าแกล้งน้องนะ" เคนยังไม่วายกำชับกำชาพี่ชาย

"เออน่า! ไปสิ" ตอบรับแล้วทำมือไล่ให้ออกไป เคนถอนหายใจแต่ยังมองไปทางห้องน้ำอย่างนึกห่วงน้องก่อนที่จะออกไปแต่โดยดี

"พี่กลาง! คุยกับใครอยู่หรอ?" เสียงน้องเล็กร้องถามออกมาจากในห้องน้ำ เจอร์รี่ยิ้มเล็กน้อยแล้วทรุดตัวนั่งลงที่เตียงน้องชาย

"พี่กลาง! พี่กลางครับ!" เสียงร้องเรียกดังออกมาอีกแล้วต่อมาภายในไม่กี่วินาทีประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก

"พี่....." ไจ่ไจ๋หยุดพูดกระทันหันยืนชะงักอยู่กับที่

"พี่ใหญ่เอง" เจอร์รี่ยิ้มรับน้องชาย

"มานี่สิ" ไจ่ไจ๋กลืนน้ำลายลงคอแล้วหลับตาลงโดยพลัน พี่ใหญ่จึงเป็นฝ่ายลุกเดินเข้าไปหาน้องซะเอง

"เหวอ!!!" ไจ่ไจ๋ร้องด้วยความตกใจแล้วถอยหลังหนีแต่เจอร์รี่กลับก้าวเข้าไปจนเกือบชิด ไจ่ไจ๋หลับตาปี๋ไม่กล้ามองหน้าพี่ชาย

"กลัวอะไร? หืม?" เจอร์รี่เอียงคอถามน้องยิ้มๆ

"พี่ใหญ่ ผมรักพี่นะ แต่พี่ไม่ต้องมาให้ผมเห็นแบบนี้ก็ได้" ไจ่ไจ๋พูดออกมาทั้งๆที่ยังหลับตาปี๋

"รักจริงหรอ? รักแล้วทำไมถึงหนีพี่ใหญ่หละ?" ย้อนถามกลับไป

"ก็พี่ใหญ่เป็น....." น้องเล็กเสียงสั่นไม่กล้าสบตาพี่ชาย

"เป็นอะไร? เป็นผีหรอ?" ไจ่ไจ๋พยักหน้ารับแล้วค่อยๆขยับหนีออกไปเรื่อยๆ แต่พี่ใหญ่กลับเดินเข้าไปใกล้เรื่อยๆ จนเมื่อไจ่ไจ๋เห็นว่าคงหนีไปไหนไม่ได้จึงหยุดแล้วทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

"ไจ่ไจ๋....." พี่ใหญ่เสียงอ่อนลงทันที

"ไจ่ไจ๋.....ไม่ต้องร้อง......พี่ไม่ใช่ผีซักหน่อย" ไจ่ไจ๋ได้ยินคำของพี่ชายก็ทำหน้างงแต่ก็คล้ายจะร้องไห้ในเวลาเดียวกัน

"จริงหรอ? งั้นตอนนี้ผมกำลังฝันอยู่ใช่มั๊ย?" เอ่ยถามออกมาเสียงแผ่วอย่างไม่แน่ใจเช่นกัน เจอร์รี่ยื่นมือออกไปตรงหน้าน้อง

"มาดูสิ ว่านายกำลังฝันอยู่หรือเปล่า?" ไจ่ไจ๋มองฝ่ามือของพี่ชายก่อนที่จะยื่นมือออกไปจับอย่างกล้าๆกลัวๆ

"มือพี่เย็นหรือเปล่า?" น้องเล็กส่ายหน้าแต่ยังมีอาการกลัวอยู่เล็กน้อย

"ถ้าเป็นผีต้องมือเย็นใช่หรือเปล่า?" ย้อนถามกลับแล้วออกแรงบีบมือน้องชายทำเอาไจ่ไจ๋ถึงกับสะดุ้งรีบชักมือกลับมาทันที

"เจ็บมั๊ย?" ถามน้องต่อยิ้มๆ น้องเล็กพยักหน้า

"งั้นนายก็ไม่ได้ฝันด้วย" พูดจบก็วางมือลงบนไหล่น้องชายทั้งสองข้าง คราวนี้ไจ่ไจ๋ไม่ได้ขยับหนี

"ถ้าพี่จะบอกว่าคนที่อยู่ตรงหน้านายคือพี่ใหญ่คนเดิม จะเชื่อพี่มั๊ย?" ได้ยินดังนั้นน้องเล็กก็ค่อยเงยหน้ามองพี่ชายอย่างเต็มตา แววตาอ่อนโยนเช่นนี้ไม่มีทางเป็นใครอื่นไปได้อย่างแน่นอน

"พี่ใหญ่.....พี่ใหญ่....." ไจ่ไจ๋เรียกพี่ชายเป็นเสียงคราง

"พี่ใหญ่! พี่ใหญ่จริงๆใช่มั๊ย?" ในนาทีต่อมาไจ่ไจ๋ก็โผเข้ากอดพี่ชายอย่างโหยหา พี่ใหญ่อ้าแขนรับน้องชายให้มาอยู่ในอ้อมกอดอย่างเต็มใจ

"จริงสิ....." ตอบคำถามนั้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาๆแล้วกระชับท่อนแขนให้แน่นขึ้น

"พี่ใหญ่.....ผม....คิดถึง....พี่จัง....." เสียงของไจ่ไจ๋ขาดๆหายๆด้วยแรงสะอื้น เจอร์รี่ลูบหัวน้องชายอย่างนุ่มนวล

"ผมนึกว่าพี่....นึกว่าพี่...." เจอร์รี่ยิ้มแล้วลูบหลังให้น้องไปด้วย

"พี่ยังไม่ยอมตายหรอกหากยังไม่ได้เห็นวันที่นายมีความสุขที่สุด" พี่ใหญ่พูดแย้งขึ้นมาก่อนที่น้องจะทันได้พูดจบ ไจ่ไจ๋กอดพี่ชายแน่นราวกับว่าจะไม่มีวันปล่อยให้พี่ชายห่างไปไหนไกลจากเขาอีกแล้ว ผ่านไปพักใหญ่ไจ่ไจ๋ก็เริ่มสงบลงเจอร์รี่จึงค่อยๆดันตัวน้องชายออกแล้วเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน

"หึๆๆๆ....." พี่ใหญ่เห็นสีหน้าของน้องชายแล้วก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ยังผลให้ไจ่ไจ๋เริ่มรู้สึกนึกเคืองพี่ชายขึ้นมาจึงกระทืบลงไปที่เท้าของเจอร์รี่เต็มแรงด้วยทั้งรักทั้งแค้นพี่ชายคนนี้

"โอ้ยยยย!!!!!!!!" เจอร์รี่เปลี่ยนจากเสียงหัวเราะเป็นเสียงร้องลั่น กระโดดเหยงๆด้วยความเจ็บ

"ไจ่ไจ๋! ทำไมทำแบบนี้?" ต่อว่าน้องชายขึ้นมาทันที

"ผมน่าจะเป็นคนถามพี่มากกว่านะ!" เสียงน้องเล็กแข็งขึ้นตามลำดับ

"สนุกมากมั๊ยที่ผมเห็นจะเป็นจะตายแบบนี้น่ะ!?" พี่ใหญ่หน้าเจื่อนลงทันที

"ไจ่ไจ๋....." สาวเท้าเข้าไปไกลแต่ไจ่ไจ๋กลับเดินหนีไปทิ้งตัวนั่งลงที่เตียง

"พี่ขอโทษ" เจอร์รี่เดินตามเข้าไปกอดน้องไว้ ไจ่ไจ๋ไม่ได้ขัดขืนแต่เม้มปากนิ่ง

"ขอโทษ....ขอโทษ....ขอโทษ.....ขอ....." ไจ่ไจ๋ยกมือขึ้นมาปิดปากพี่ชาย

"ผมไม่อยากได้ยินคำนี้อีกแล้ว พอเถอะครับพี่ใหญ่" เจอร์รี่คลายแขนที่กอดน้องชายออก

"สิ่งที่พี่ทำกับนายมันคงเลวร้ายมากเกินกว่าจะลบล้างด้วยคำๆนี้ใช่มั๊ย?" เอ่ยถามน้องชายเสียงสั่นด้วยรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา น้องเล็กขยับเข้าไปแล้วใช้มือทั้งสองข้างโอบรอบคอของพี่ชายแต่ไม่ตอบคำถามนั้น

"ไม่ใช่....แต่เป็นเพราะพี่ใหญ่ไม่มีความจำเป็นต้องพูดคำๆนี้กับผมต่างหาก" ไจ่ไจ๋ให้เหตุผล

"แต่พี่ทำผิดกับนาย" เจอร์รี่แย้งขึ้น

"พี่ใหญ่ไม่ได้ทำผิด ทุกอย่างที่พี่ใหญ่ทำลงไปก็เพื่อความสบายใจของผมทั้งนั้น" ไจ่ไจ๋ซบหน้าลงที่ไหล่ของพี่ชาย เจอร์รี่อึ้งไปกับคำพูดของน้อง เขาค่อยๆยกมือขึ้นลูบหัวน้องอย่างแผ่วเบา

"เพราะผมต่างหากที่กดดันพี่จนพี่ต้องออกจากบ้านและก็เกิดเรื่องขึ้น" น้องเล็กพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ

"ผมเอาแต่อารมณ์ตัวเองจนไม่คิดถึงเหตุผลอะไรทั้งนั้น" เจอร์รี่เชยคางน้องขึ้นมาแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

"พี่ไม่เคยตำหนินายเลยนะไจ่ไจ๋ แล้วพี่ก็ไม่อยากให้นายตำหนิตัวเองด้วย" ไจ่ไจ๋จ้องใบหน้าพี่ชายแล้วนิ่งไป

"แต่ว่าผม....." ไจ่ไจ๋แย้งขึ้นด้วยยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ

"ถ้านายบอกว่านายผิดพี่เองก็ผิดยิ่งกว่านายอีก เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะพี่เป็นต้นเหตุทั้งนั้น" พี่ใหญ่ว่าพลางลูบแก้มน้องเบาๆ

"พี่ตัดสินใจเรื่องทุกอย่างโดยไม่ได้ถามความเห็นของนาย พี่ตัดสินนายจากอารมณ์ของตัวเอง พี่จะไม่ว่าอะไรเลยถ้านายจะโกรธพี่เพราะพี่ก็สมควรได้รับสิ่งนั้นอยู่แล้ว" เจอร์รี่มีสีหน้าเศร้าสลดลงเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ไจ่ไจ๋เงียบไปซักพักก่อนที่จะเอื้อมมือไปจับมือพี่ชาย

"ผมไม่ใส่ใจกับเรื่องนั้นแล้วหละครับ เพราะตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผมได้พี่ใหญ่กลับมา" เจอร์รี่ได้ยินถึงกับน้ำตาคลอ

"แล้วผมจะไม่มีวันให้พี่จากไปไหนไกลๆผมอีกแล้วด้วย" พูดจบก็ขยับเข้าไปกอดพี่ชาย เจอร์รี่ยิ้มออกมาอย่างโล่งใจแล้วกอดน้องตอบ

"ไจ่ไจ๋....." ผ่านไปพักหนึ่งเจอร์รี่ก็เรียกน้องเบาๆ ไจ่ไจ๋เงยหน้าขึ้นมองพี่ชาย

"ทำไมเมื่อเช้าที่พี่โทรหานายไม่ยอมคุยกับพี่หละ?" ถามต่อยิ้มๆ ได้ยินดังนั้นน้องเล็กก็ค้อนควับ

"ใครจะไปรู้หละ.....ผมนึกว่าผีหลอกนี่....." พูดพลางทำสีหน้ากระเง้ากระงอดใส่ พี่ใหญ่เลยหัวเราะออกมาได้

"เมื่อคืนพี่ก็แวะไปหานายที่โรงบาลมา นายยังพูดคุยกับพี่อยู่เลย" ไจ่ไจ๋ผลักพี่ชายอย่างหมั่นไส้

"แล้วทำไมไม่บอกให้รู้ตั้งแต่เมื่อคืน! วางแผนจะแกล้งผมไว้เสร็จสรรพเลยสิ!" พี่ใหญ่หัวเราะดังขึ้นอีกเป็นเท่าตัว

"ยังจะมีหน้ามาขำอีก! เดี๋ยวจะทำให้เป็นผีจริงๆซะหรอก!" น้องเล็กพุ่งเข้าล็อกคอพี่ชาย

"โอ้ย! ไม่เล่นนะไจ่ไจ๋! พี่เจ็บแผล" เจอร์รี่แกล้งครวญครางยังผลให้ไจ่ไจ๋รีบคลายมือออกทันที

"ขอโทษครับพี่ใหญ่ เจ็บมากมั๊ย? เจ็บตรงไหนบ้าง?" เจอร์รี่อมยิ้มเมื่อเห็นว่าน้องเล็กมีท่าทีเป็นห่วงเป็นใยตน

"เจ็บตรงนี้อ่ะ ตรงนี้ก็เจ็บ ตรงนี้ก็ด้วย ยังมีตรงนี้อีก" เจอร์รี่ชี้ไปที่แขนที่ขาที่ตัวให้วุ่นไปหมด น้องเล็กก็พาซื่อจับแขนขาพี่ชายตรวจตราดูอย่างห่วงใย

"ไหน? ตรงนี้หรอ? ไม่เห็นเป็นไรเลย เอ.....ช้ำในหรือเปล่าพี่ใหญ่? ไปหาหมอมั๊ย? ให้เขาเอกซ์เรย์ดู" แนะนำพี่ชายอย่างเป็นห่วง พี่ใหญ่พยายามกลั้นหัวเราะแต่แล้วในที่สุดก็กลั้นไม่อยู่จึงหลุดเสียงหัวเราะออกมา

"ฮ่าๆๆๆๆ!!!!" ไจ่ไจ๋ชะงักไปก่อนที่จะออกแรงผลักพี่ชายจนลงไปนอนหงายท้องอยู่ที่เตียง

"แกล้งผมอีกแล้วนะ! คราวนี้โกรธจริงๆแล้วด้วย!" พูดจบก็หันหลังหนี เจอร์รี่รีบลุกขึ้นแล้วขยับเข้าไปกอดน้องเอาไว้

"โกรธจริงหรอ? อย่าโกรธเลยนะ" ไจ่ไจ๋เอาศอกกระทุ้งหน้าอกพี่ชายแล้วทำหน้าบึ้งใส่

"ไจ่ไจ๋.....คนดีของพี่.....อย่างอนเลยนะ พี่ใหญ่ไม่แกล้งแล้ว......" พูดออดอ้อนน้องชายเป็นการใหญ่แต่ไจ่ไจ๋ยังทำเฉย

"พี่ยอมนายแล้ว นายจะทำอะไรพี่ก็ได้แต่อย่าโกรธเลยนะ.....นะ.....นะ....." พี่ใหญ่ง้อน้องชายเป็นการใหญ่ น้องเล็กได้ยินเช่นนี้ก็เหลือบมองพี่ชายเล็กน้อย

"ยอมจริงนะ" ถามย้ำพี่ชายพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ จนเจอร์รี่เริ่มหวั่นๆแต่ก็ต้องพยักหน้ารับ

"งั้นมายืนตรงนี้!" ไจ่ไจ๋ชี้นิ้วไปข้างเตียง พี่ใหญ่ทำหน้าเจื่อนๆแต่ก็ทำตามคำน้องโดยดี

"ดีมาก! หันหลังไป!" ได้ทีสั่งพี่ชายต่อ เจอร์รี่ถอนหายใจที่เสียรู้เจ้าน้องชายตัวแสบแต่ก็ยอมทำตามคำสั่งของน้องชาย พอพี่ใหญ่หันหลังไจ่ไจ๋ก็โถมตัวเข้าไปขี่หลังพี่ชายพร้อมกับกอดคอพี่ชายไว้แน่น

"เอาหละ! ผมหิวข้าวแล้วพาลงไปกินข้าวข้างล่างทีซิ!" ออกคำสั่งแล้วยิ้มให้อย่างผู้ชนะ เจอร์รี่เหลือบมองเจ้าน้องชายตัวดีแล้วยิ้มตอบแบบแค้นๆแต่ก็รวบรวมกำลังที่มีทั้งหมดแบกเจ้าน้องเล็กลงไปข้างล่างตามคำบัญชา



- ชั้นล่าง -

"เดินดีๆซี้! อย่าทำผมตกนะ!" ไจ่ไจ๋โวยวายพลางกอดคอพี่ชายแน่นเมื่อรู้สึกได้ว่าพี่ชายเดินเซไปเซมา

"โอ้ย! เดี๋ยวโยนทิ้งเลย! อย่าดึงผมสิ!" เจอร์รี่โวยขึ้นมาบ้างเมื่อถูกไจ่ไจ๋ดึงเส้นผมจนหน้าหงายไปหลายครั้ง

"ไม่ได้ดึงซะหน่อย! เข้าไปในครัว!" ไจ่ไจ๋เถียงแล้วสั่งต่อ

"ลงได้แล้ว! เราน่ะตัวใช่เบาๆที่ไหน?" เจอร์รี่ทำท่าจะปล่อยน้องลงแต่ไจ่ไจ๋กลับกอดคอพี่ชายเอาไว้แน่นไม่ยอมลง

"ไจ่ไจ๋.....อย่าแกล้งพี่อีกเลย......" เจอร์รี่โอดครวญพร้อมกับพยายามจะวางน้องชายลงแต่ไจ่ไจ๋กลับก่ายกอดพี่ชายไว้แน่น

"ไม่เอา! เมื่อกี้พี่บอกเองว่าจะยอมผมทุกอย่างงัย!" น้องเล็กทวงคำสัญญา ในขณะนั้นเคนกับแวนเนสก็โผล่หน้าออกมาดูพอดี

"ฮ่าๆๆๆ!!!" สองพี่น้องประสานเสียงหัวเราะสมน้ำหน้าพี่ชายกันยกใหญ่ เจอร์รี่ส่งสายตามองพลางค้อนใส่เสียหลายตลบ

"ยังจะมีหน้ามาหัวเราะอีก! เอามันลงทีสิ! คอจะหักอยู่แล้ว!" ตวัดเสียงบอกกล่าวกับน้องชายอีกสองคน

"นายเอามันขึ้นได้ก็เอามันลงเองสิ!" แวนเนสบอกปัดอย่างไม่ใยดี

"ผมป่วยอยู่นะพี่ใหญ่ ให้ขี่คอแค่นี้ไม่ได้หรอ?" ไจ่ไจ๋ตะแคงหน้าหันไปพูดกับพี่ชาย เจอร์รี่เหลือบมองแล้วถอนหายใจเฮือกก่อนที่จะแบกน้องชายเดินไปในครัวอย่างทุลักทุเลท่ามกลางเสียงหัวเราะของเคนกับแวนเนส

"น้องเป็นอะไรไป?" พ่อเอ่ยถามทันทีที่เห็นเจอร์รี่แบกน้องชายเดินเข้ามา เจอร์รี่ทำหน้าเมื่อยก่อนที่จะส่ายหน้าไปมา

"เป็นโรคกวนประสาทน่ะสิครับ" น้องหัวเราะออกมาเบาๆแล้วยอมลงจากหลังพี่ชายแต่โดยดี

"มีอะไรกินบ้างครับแม่? ผมหิ๊ววว....หิวววว....." ไจ่ไจ๋เดินเข้าไปอ้อนแม่

"ข้าวต้มรวมมิตรจ๊ะ พี่กลางเขาปรุงไว้" แม่ตอบปนหัวเราะเพราะเคนแอบเล่าเรื่องที่แวนเนสเป็นคนทำอาหารมื้อเช้าให้ฟัง

"แล้วลูกไม่นอนพักผ่อนหรอ? ยังไม่หายดีเลยนี่" แม่ถามลูกชายต่อ

"โอ้ย! ไจ่ไจ๋มันได้ยาดีแล้วแม่ หายสนิทเลยทีนี้!" แวนเนสพูดแทรกขึ้นมาเป็นเชิงกระแนะกระแหน

"กวนประสาทได้แล้วหรอพี่รอง?" ไจ่ไจ๋หันไปว่าประชดพี่ชายบ้าง

"ได้ตั้งนานแล้วไอ้น้อง!" แวนเนสไม่พูดเปล่าแต่เอื้อมมือไปผลักหัวน้องด้วย

"ฮึ! ทำเป็นพูดดีไป เมื่อคืนร้องไห้จะเป็นจะตาย!" เคนบ่นอุบออกมาเบาๆ

"ทำอย่างกะตัวเองไม่ร้องงั้นแหละ!" แวนเนสได้ยินก็หันไปตอบโต้น้องชายอีกคน เคนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินไปตักข้าวต้มใส่ชาม

"นายน่ะร้องไห้อย่างเดียวไม่พอยังจะพูด......" แวนเนสยังไม่ทันได้พูดจนจบเพราะเจอร์รี่รีบเดินมาปิดปากไว้ก่อนด้วยกลัวว่าหากแวนเนสเล่าเรื่องเมื่อคืนแล้วพ่อกับแม่จะรู้สึกเป็นกังวลกับความรู้สึกของเคนอีก เคนหันไปมองพี่ชายทั้งคู่แว๊บหนึ่งแล้วรีบหันกลับไปจัดการตักข้าวต้มใส่ชามต่อทันที

"พี่กลางพูดอะไรหรอ?" ไจ่ไจ๋ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเอ่ยถามขึ้นมา ซึ่งพ่อกับแม่ก็หันมามองที่แวนเนสอย่างต้องการคำตอบด้วยเช่นกัน

"พูด....เอ่อ.....พูดว่าต่อให้พี่ใหญ่เป็นวิญญาณแล้วมาหาก็ไม่กลัว" แวนเนสรีบแก้ไขสถานการณ์

"แต่ที่ไหนได้พอเห็นพี่ใหญ่นะมันกลัวแทบตายแหนะ" พูดจบก็ลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ

"หึๆๆๆ" พ่อกับแม่หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน

"เรื่องแค่นี้เอง ทำไมถึงต้องห้ามน้องพูดด้วยหละ?" แม่ถามเจอร์รี่แบบไม่ต้องการคำตอบนัก

"ผมกลัวว่าเสี้ยวเทียนมันจะอายน่ะสิครับ" เจอร์รี่ตอบแล้วถอนหายใจโล่งอกด้วยเช่นกันแต่ยังไม่วายหันไปทำหน้าดุใส่น้องชาย แวนเนสหน้าจ๋อยแล้วเหลือบตาไปทางเคนที่ยกชามข้าวต้มเข้ามาแจกจ่ายให้กับทุกๆคน

"นี่แหละน้า.....พี่กลางชอบแกล้งผมไว้เยอะ คราวนี้รู้สึกบ้างหรือยัง?" ไจ่ไจ๋ไม่ได้ติดใจอะไรแต่หันไปแซวเคนเล่นบ้าง

"กินเข้าไปเลย! พูดมากจริง!" เคนจับหัวน้องชายโยกไปมาอย่างหมั่นไส้

"รู้แล้วน่า! สั่งอยู่ได้!" ปากก็บ่นแต่ไจ่ไจ๋ก็ตักกินอย่างเต็มอกเต็มใจ สมาชิกที่เหลือจึงเดินมานั่งลงแล้วลงมือกินข้าวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา



- หลังมื้ออาหาร -

"ชั้นล้างให้เอง" แวนเนสรีบเสนอตัวเมื่อเห็นว่าเคนกำลังจะลงมือล้างจานชามที่กองอยู่

"จะล้างให้จริงๆหรอ?" เคนย้อนถามอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อหูตัวเอง

"อืม" แวนเนสพยักหน้าแล้วเข้าไปยืนแทนน้อง เคนยิ้มออกมานิดๆด้วยรู้ดีว่าพี่ชายกำลังไถ่โทษที่ได้ทำกับเขาไว้

"ชั้นช่วยก็แล้วกัน จะได้เสร็จเร็วๆ" เคนว่าแล้วเขยิบเข้ามายืนข้างๆพี่ชาย

"หลายวันที่ผ่านมา ขอโทษด้วยนะ" แวนเนสเอ่ยขึ้นแต่ไม่ได้มองหน้าคู่สนทนาเลย

"ขอโทษชั้นทำไมอีก?" เคนย้อนถามไม่ได้มองหน้าพี่ชายเช่นกัน

"ไม่รู้สิ แค่รู้สึกว่าชั้นควรพูดคำๆนี้กับนายให้บ่อยขึ้น" แวนเนสว่า

"เมื่อก่อนเวลาเราทะเลาะกันหรือเถียงกัน ไม่ว่าใครจะเป็นคนผิด สุดท้ายแล้วนายจะเป็นคนเอ่ยคำขอโทษขึ้นมาก่อนทุกครั้ง" เคนเหลือบตามองพี่ชายแว๊บหนึ่งก็ก้มหน้าล้างจานต่อ

"ทั้งๆที่ถ้าหากกับคนอื่นแล้วถ้านายไม่ผิดนายจะไม่มีทางพูดคำขอโทษให้ได้ยินเลย" แวนเนสเงยหน้าขึ้นมามองหน้าน้องชาย

"ใครว่าชั้นไม่พูดกับคนอื่น? ถ้าพูดแล้วปลอดภัยชั้นก็พูดอยู่แล้ว" เคนเห็นพี่ชายค่อนข้างซีเรียสก็เลยพูดแบบติดตลก

"งั้นหรอ? แต่ชั้นจำได้ว่ามีอยู่ครั้งนึงแม่ของเพื่อนนายมาฟ้องพี่ใหญ่ว่านายไปชกต่อยลูกเขา ต้องการให้นายขอโทษ แต่ตอนนั้นนายบอกว่าเพื่อนนายต่างหากที่เป็นคนหาเรื่องแล้วก็ชกหน้านายก่อน พี่ใหญ่เห็นว่าเขาเป็นผู้ใหญ่กว่าเลยบอกให้นายขอโทษซะจะได้หมดเรื่อง แต่นายก็ไม่ยอมเลยโดนพี่ใหญ่ตีแทบตาย สุดท้ายเพื่อนนายสำนึกผิดสารภาพออกมาว่าเขาหาเรื่องนายก่อนจริงๆ เรื่องถึงจบลงได้ ถ้านายทำเพื่อความปลอดภัยของตัวเองจริงทำไมตอนนั้นถึงไม่พูดหละ?" แวนเนสบอกเล่าเหตุการณ์แล้วย้อนถามน้องชาย เคนได้ยินดังนั้นก็เงียบไป

"แวนเนส....." ผ่านไปพักหนึ่งเคนก็เรียกพี่ชายขึ้นมาเบาๆ

"หืม?" แวนเนสตอบรับเบาๆเช่นกัน

"ขอบคุณนะ" แวนเนสได้ยินก็ขมวดคิ้วแล้วมองหน้าน้องชาย

"นายขอบคุณชั้นทำไม?" ย้อนถามน้องอย่างไม่เข้าใจ

"ไม่รู้สิ แค่รู้สึกว่าชั้นควรพูดคำๆนี้กับนายให้บ่อยขึ้น" เคนเอาคำพูดของพี่ชายมาพูดย้อนยิ้มๆ

"เมื่อก่อนเวลาพี่ใหญ่ดุหรือตีชั้น นายจะเป็นคนคอยห้าม เป็นคนคอยพูดปลอบใจ เป็นคนคอยทายาให้" แวนเนสหยุดมือที่กำลังล้างจานอยู่แล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากับน้อง

"วันไหนที่ชั้นโดดเรียนแล้วพี่ใหญ่รู้เข้า พอกลับมาถึงบ้านนายจะรีบให้ชั้นหากางเกงหนาๆมาใส่เพื่อที่ว่าเวลาโดนตีจะได้ไม่เจ็บมาก" เคนว่าพลางยิ้มบางๆ

"หึๆๆๆ" แวนเนสหัวเราะออกมาได้ในที่สุด

"ไม่รู้ชั้นเคยบอกนายไปหรือยัง?....." เคนพูดต่อแล้วก้มหน้าลงล้างจานในซิงค์ต่อ แวนเนสไม่พูดว่าอะไรเพียงแต่รอคอยให้น้องพูดต่อ

"ว่าเวลาที่มีนายอยู่ด้วยแล้วชั้นจะรู้สึกอุ่นใจ......แล้วชั้นก็ดีใจมากที่มีพี่ชายอย่างนาย......" แวนเนสได้ยินก็ถึงกับน้ำตาคลอ

"ฮึ่ม! มาเล่นบทซึ้งอะไรกันอยู่ครับ?" ไจ่ไจ๋โผล่หน้าเข้ามาถามพี่ชายสองคน ยังผลให้เคนกับแวนเนสรีบหันหน้ากลับไปสนใจกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ทันที

"พอเริ่มหายหน่อยก็กวนประสาทเลยนะ!" เคนพูดแขวะน้องชายโดยไม่ได้หันหน้าไปมอง

"ผมกวนที่ไหนกัน? แค่จะเข้ามาตามให้ออกไปเล่นเกมส์กัน" ไจ่ไจ๋ย้อนแล้วก้าวเข้ามาในห้องครัว

"เล่นเกมส์อะไรอีก? นายน่ะน่าจะนอนพักผ่อนได้แล้วนะ" เคนเริ่มบ่นน้องชาย

"โธ่! ผมไม่เป็นไรแล้วน่า! หายดีแล้วเห็นมั๊ย?" ว่าพลางกางแขนหมุนตัวให้พี่ชายดู

"นั่งลงเลยไอ้ตัวดี! กินข้าวเพิ่งอิ่มมาหมุนตัวเล่นเดี๋ยวได้ขย้อนออกมาหรอก!" เคนหันมาเอ็ดน้องชาย

"ทำไมวันนี้พี่กลางขี้บ่นจัง?" น้องเล็กบ่นพึมพำแล้วลากเก้าอี้ออกมานั่ง

"ไม่ต้องมาพูดมากเลยนะที่พี่บ่นก็เพราะเป็นห่วงใช่มั๊ย? ไอ้เด็กบ้า!" เคนวางมือจากการล้างจานหันมาเท้าเอวอย่างเอาเรื่อง

"ครับ.....รู้แล้วว่าห่วง" ไจ่ไจ๋ตอบรับเสียงอ่อยๆ แวนเนสหันมามองน้องชายทั้งคู่ยิ้มๆ

"นายพาน้องออกไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวชั้นจัดการตรงนี้เสร็จแล้วจะตามออกไป" แวนเนสพูดกับเคน

"เออ! ทำให้เรียบร้อยหละ!" พูดจบก็ดึงแขนน้องชายแล้วพาออกไปข้างนอก

"นายน่าจะหายไปอีกซักเดือนนึงไอ้เจ้านี้จะได้กวนประสาทน้อยๆหน่อย!" เคนลากตัวน้องชายออกมาพร้อมกับบ่นอุบ เจอร์รี่ที่นอนหนุนตักแม่อยู่ผงกหัวขึ้นมามองตามเสียงนั้น

"กวนอะไรพี่เขาอีกหืม?" เจอร์รี่เอ่ยถามเจ้าน้องชายตัวดี

"เปล่าซักหน่อย! แค่เข้าไปขัดจังหวะ....." ประโยคหลังพูดเสียงเบาลงพร้อมกับเหลือบมองหน้าพี่ชายคนกลางที่ทำหน้างอใส่

"อ้าว! พีพี.....มานี่มา......" ไจ่ไจ๋รีบเฉไฉออกนอกเรื่องโดยหันไปอุ้มเจ้าพีพีที่เดินเข้ามาเคล้าแข้งเคล้าขาขึ้นมากอดไว้

"แถไปได้เรื่อยๆนะไอ้ตัวแสบ! ไม่ต้องยุ่งกับมันเลยเอามานี่!" เคนเดินไปแย่งเจ้าพีพีมาอุ้มไว้ซะเอง ไจ่ไจ๋กลายเป็นฝ่ายทำหน้ามุ่ยใส่พี่ชายบ้าง

"แย่งไปเฉยเลย แม่ดูพี่กลางสิ" ไจ่ไจ๋หันไปฟ้องแม่

"ทำไมหรอ? แม่ไม่ทันมอง" แม่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทั้งๆที่เห็นอยู่เต็มตา

"แม่อ่ะ! ลำเอียงเห็นๆเลยนะ!" ต่อว่าแม่แบบไม่จริงจังนักแล้วเดินเข้าไปทิ้งตัวนั่งลงข้างๆพ่อ

"ไม่ไปนอนพักหละลูก?" พ่อถามพลางโยกหัวลูกชายไปมาอย่างเอ็นดู

"ไม่เอา ผมไม่ง่วงเลย เล่นบิงโกกันนะพ่อ" ไจ่ไจ๋ปฏิเสธแล้วหันมาชวนพ่อเล่นเกมส์กัน

"เล่นก็ได้ แต่ว่าเล่นกันแค่สองคนมันไม่สนุกน่ะสิ" พ่อออกความเห็น

"งั้นแม่เล่นด้วยนะ พี่ใหญ่ก็ต้องมาเล่นด้วย" ไจ่ไจ๋บอกกล่าวแบบมัดมือชก

"เดี๋ยวชวนพี่รองด้วย" ไจ่ไจ๋พูดถึงพี่ชายอีกคนแต่ไม่ได้ชวนเคนเลยแม้แต่คำเดียว เคนเห็นน้องไม่ชวนเลยอุ้มเจ้าพีพีทำท่าจะเดินออกไปแต่เจอร์รี่รีบลุกไปดึงน้องชายไว้ก่อน

"จะไปไหน?" เคนไม่ได้มองหน้าคนถามแต่กลับมองไปที่ไจ่ไจ๋

"ชั้นมันเป็นส่วนเกินนี่ จะอยู่เกะกะไปทำไม?" เคนพูดประชดโดยไม่ทันได้คิดอะไร แต่คำพูดนั้นทำเอาพ่อกับแม่ถึงกับสะอึก ไจ่ไจ๋เองก็ใจหายวาบเพราะคิดว่าพี่ชายน้อยใจขึ้นมาจริงๆ

"เสี้ยวเทียน!" เจอร์รี่กระตุกแขนน้องชาย เคนมองหน้าพี่ชายงงๆเพราะไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิด

"มานี่....." เจอร์รี่อุ้มแมวจากมือน้องชายวางลงแล้วดึงตัวน้องออกไปหน้าบ้าน

"โอ้ยๆๆๆ!!! เบาๆๆๆ!!!" เคนทำหน้าเหยพลางร้องลั่นเพราะถูกพี่ชายหยิกที่ต้นแขน

"หยิกชั้นทำไม? ชั้นทำอะไรผิด?" ถามพี่ชายพลางลูบแขนตัวเองไปด้วย

"ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรอ?" ว่าพลางเอื้อมมือหมายจะซ้ำแต่เคนรีบหลบฉากทันที

"ไม่เอาแล้ว......เจ็บ....." พูดเสียงอ่อยๆพร้อมกับดันมือพี่ชายออกห่าง

"พูดจาอะไรคิดบ้างหรือเปล่า!?" เอ็ดน้องชายเสียงเข้ม เคนได้ยินดังนั้นจึงค่อยคิดได้ว่าคำพูดดังกล่าวอาจทำให้พ่อแม่รู้สึกไม่ดี

"เอ่อ....ชั้นลืมคิดไป....." ตอบด้วยสีหน้าจ๋อยๆ ทำเอาพี่ชายถอนใจดังเฮือก

"ชั้นไม่ได้ตั้งใจประชดไปถึงพ่อกับแม่นะ แค่จะแกล้งไจ่ไจ๋มันเฉยๆ" เคนแก้ตัวเสียงอ่อย

"ชั้นรู้ว่านายไม่ได้หมายความอย่างงั้น แต่พ่อแม่เขาไม่รู้นี่ วันหน้าวันหลังจะพูดจาอะไรคิดให้มันดีๆซะก่อนเข้าใจมั๊ย?" พูดเตือนน้องด้วยน้ำเสียงอ่อนลง

"ครับ" ตอบรับเสียงแผ่ว

"ดีมาก!" พี่ใหญ่เอ่ยชมพร้อมกับโน้มหัวน้องชายมาซบที่ไหล่ตัวเองแล้วขยี้เบาๆ

"พี่กลาง....." ไจ่ไจ๋เดินตามออกมาด้วยสีหน้าเป็นกังวลเพราะนึกว่าพี่ชายน้อยใจที่ตัวเองไม่ได้ชวนให้เล่นเกมส์ด้วยกัน เคนได้ยินเสียงน้องชายเลยแกล้งไม่เงยหน้าขึ้นมาซบหน้าที่ไหล่พี่ชายอยู่อย่างนั้น

"พี่กลาง ผมขอโทษ ผมไม่เคยคิดว่าพี่เป็นส่วนเกินเลยนะ" น้องเล็กเดินมากอดเคนต่ออีกทอดหนึ่งพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

"หึๆๆๆ" เคนแอบหัวเราะออกมาเบาๆทำให้ร่างเขาสั่นไหวเล็กน้อย นั่นยิ่งทำให้น้องเล็กตกใจมากขึ้นเพราะนึกว่าเคนกำลังร้องไห้

"พี่อย่าร้องไห้เลยนะ พี่ใหญ่.....ช่วยปลอบพี่กลางทีสิ......" ไจ่ไจ๋เงยหน้าขึ้นมาขอร้องพี่ชายคนโตน้ำตาคลอเบ้าด้วยสำนึกผิดที่ตัวเองไปแกล้งพี่ชาย พี่ใหญ่อมยิ้มแล้วพยักหน้ารับ

"ไหนขอพี่ดูซิ.....ร้องไห้อยู่หรือเปล่า?" เจอร์รี่ดันตัวน้องชายคนกลางออกแล้วเชยคางน้องขึ้นมาดู

"ฮ่าๆๆๆ!!!" เคนหลุดหัวเราะออกมาจนได้ เมื่อเห็นพี่ชายหัวเราะไจ่ไจ๋ก็ชะงักกึกหน้าบึ้งลงทันตาเห็น

"สะใจจริงๆ! เอาคืนได้สำเร็จแล้ว!" เคนหันไปพูดยียวนน้องชาย แต่น้องเล็กไม่ขำด้วย

"เอ่อ...." เคนหน้าเจื่อนลงหันไปขอความช่วยเหลือจากพี่ชายแต่เจอร์รี่กลับยักไหล่แล้วเดินหนีเข้าบ้าน

"คือว่า....." เคนตั้งท่าจะพูดแต่ไจ่ไจ๋หมุนตัวจะเดินเข้าบ้านเคนจึงรีบเดินไปกอดรั้งน้องชายจากทางด้านหลัง

"พี่ขอโทษ" กระซิบข้างหูน้องชายเบาๆ ไจ่ไจ๋หยุดยืนนิ่งแล้วเหลือบตามองพี่ชาย

"ต่อไปพี่จะไม่ดื้อกับนาย จะเชื่อฟังนายทุกอย่าง อย่าโกรธพี่เลยนะ" เคนพูดแบบติดตลกเพื่อหยอกให้น้องอารมณ์ดีขึ้นแล้วก็ได้ผลเพราะไจ่ไจ๋หลุดหัวเราะออกมา

"หึๆๆๆ....." เคนลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่โดนน้องอาละวาดใส่

"พูดจริงนะ ห้ามดื้อกับผมอีก" น้องเล็กหันตัวไปหาพี่ชายแล้วพูดย้ำ เคนทำหน้ากึ่งยิ้มกึ่งแหยแต่ก็พยักหน้ารับไปก่อนเพราะกลัวน้องจะโกรธ

"ดี! งั้นเข้าบ้านกัน" พูดจบก็จูงมือพี่ชายแล้วพาเข้าบ้าน เมื่อเข้ามาถึงสมาชิกทุกคนก็มานั่งรวมตัวกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นแล้ว

"จะเล่นบิงโกใช่มั๊ย? มานั่งสิ" แวนเนสพูดกับน้องเล็กแล้วตบที่ว่างข้างๆตัว ไจ่ไจ๋ปล่อยมือเคนแล้วเดินไปนั่งข้างแวนเนส เคนรีบเดินตามน้องชายแล้วเอ่ยปากอ้อน

"ขอเล่นด้วยคนนะ" บอกกับน้องชายเสียงอ่อนเสียงหวาน ไจ่ไจ๋อมยิ้มแล้วทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

"ให้เล่นก็ได้ แต่ถ้าใครแพ้ต้องยอมให้ลงโทษโดยไม่มีข้อแม้นะ" ไจ่ไจ๋บอกกติกาที่ตัวเองตั้งขึ้นเองให้พี่ชายรับรู้

"ลงโทษยังงัย?" เคนถามกลับอย่างไม่ค่อยแน่ใจเพราะลองเจ้าน้องชายตัวดีเหนือกว่าอย่างนี้แล้วเขามีหวังโดนเอาคืนอีกหลายเท่าตัว

"ยังไม่บอก เพราะยังนึกไม่ออก" ไจ่ไจ๋ตอบแบบกวนๆ ทำเอาเคนเริ่มคิดหนัก สมาชิกที่เหลืออยู่ก็ยิ้มๆกับเจ้าตัวแสบสองคนนี้

"จะเล่นมั๊ย?" ถามย้ำพี่ชายอีกครั้งในขณะที่กำลังจะแจกอุปกรณ์

"เล่น! แต่ถ้านายแพ้นายเองก็ต้องถูกลงโทษเหมือนกันนะ!" เคนตอบรับพร้อมกับย้อนน้องชายด้วย

"ไม่มีปัญหา เพราะถ้าใครแพ้ก็ต้องถูกลงโทษทั้งนั้น ทุกคนเข้าใจตามนี้นะครับ" น้องเล็กตอบรับแบบไม่ต้องคิดเพราะรู้ดีว่าแผนการของเขานั้นเหนือกว่าพี่ชายเยอะ

"เออ! งั้นก็เริ่มเล่นซะทีสิ" แวนเนสตัดบทเมื่อเห็นว่าน้องชายทั้งคู่จะเถียงกันนานไปมากกว่านี้ หลังจากไจ่ไจ๋แจกจ่ายอุปกรณ์ให้ทุกคนครบแล้วทุกคนก็ล้อมวงเล่นบิงโกกันอย่างสนุกสนาน

"ผมบิงโกแล้ว!" ผ่านไปพักหนึ่งไจ่ไจ๋ก็ร้องออกมาอย่างดีใจ เคนที่นั่งอยู่ข้างๆรีบชะโงกหน้ามาดูที่แผ่นกระดานของน้องชายทันที

"ไหน? ขี้โกงหรือเปล่า?" เคนตรวจตราดูอย่างไม่ค่อยเชื่อใจ

"โกงที่ไหน? ดูเลย.....นี่แถวนึง นี่อีกแถวนึง แล้วก็นี่อีกแถวนึง ครบสามแถวเป๊ะ!" ไจ่ไจ๋ว่าพลางยักคิ้วให้พี่ชายพร้อมกับมองกระดานของพี่ชายบ้าง

"ยังไม่ได้ซักแถวเลยหรอ?" กล่าวตอกย้ำอย่างกวนประสาท เคนชักสีหน้าใส่แล้วหันกลับมาที่วงเพื่อเล่นต่อ

"พี่ก็บิงโกแล้ว" จากนั้นไม่นานเจอร์รี่ก็ร้องบอกอีก เคนมองๆกระดานของพี่ชายแล้วเม้มปากเล็กน้อย

"ว้า....เหลืออีก 4 คน ใครจะเป็นคนแพ้น้า....." ไจ่ไจ๋พูดแทรกขึ้น เคนหันไปค้อนแล้วหันกลับมาเล่นอย่างเอาเป็นเอาตายต่อ ในที่สุดพ่อและแม่ก็บิงโกได้คงเหลือแค่เคนกับแวนเนสเท่านั้น

"ชั้นเหลืออีกแค่ตัวเดียวเอง นายแพ้แหงๆเสี้ยวเทียน ได้แค่แถวเดียวเองหนิ" แวนเนสพูดข่มขวัญน้องชาย

"น้อยๆหน่อย ได้แถวเดียวแต่ถ้าหากได้ตัวนี้ชั้นก็บิงโกได้แล้ว" เคนเถียงกลับแล้วหยิบตัวเลขขึ้นมาแต่ยังไม่กล้าดู

"ไหนดูซิพี่กลาง" ไจ่ไจ๋แย่งเอาไปดูซะเอง

"โอ๊ะ! สงสัยโชคไม่เข้าข้างพี่แล้วหละ เพราะนี่มันเป็นเลข 3 ที่พี่รองรอคอยอยู่ ฮ่าๆๆๆๆ!!!!" ไจ่ไจ๋ชูตัวเลขนั้นออกมาพร้อมกับหัวเราะอย่างสะใจ

"เย้!!!.....ชั้นไม่แพ้!!!" แวนเนสชูมือขึ้นอย่างดีใจ ทุกคนจึงพลอยหัวเราะออกมาด้วยยกเว้นเคนเท่านั้นที่ทำหน้ามุ่ย

"โกงกันปะเนี่ย? ลองเล่นใหม่อีกรอบซิ!" เคนยังไม่ยอมรับผลแพ้

"ไม่ต้องเลย! นายแพ้เห็นๆเลยเนี่ย!" แวนเนสตอกย้ำน้องชายด้วยอีกคน

"คนแพ้ต้องโดนลงโทษนะพี่กลาง" ไจ่ไจ๋ย้ำกับพี่ชายอีกครั้ง เคนหันไปทำตาขวางใส่น้อง

"โดนลงโทษรอบวงด้วย!" ได้ยินดังนั้นเคนก็ทำตาโต

"เมื่อกี้ไม่ได้บอกว่าโดนลงโทษรอบวงหนิ!" เคนเถียง

"อ้าว! ปกติมันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว พ่อแม่ก็รู้ใช่มั๊ยครับ?" ไจ่ไจ๋หันไปถามบุพการีทั้งสองคน ซึ่งพ่อกับแม่ก็พยักหน้ารับ

"พี่ใหญ่กับพี่รองก็รู้ใช่มั๊ย?" หันไปถามพี่ชายอีกสองคนด้วย

"อืม...." พี่ชายทั้งคู่พยักหน้ารับเช่นกัน เคนเลยเถียงไม่ออกได้แต่ถอนหายใจที่หลวมตัวเข้ามาเล่นเกมส์กับเจ้าน้องชายตัวแสบ

"เอ้าๆๆ!!! จะลงโทษยังงัยก็ว่ามา!" เคนพูดขึ้นอย่างจำยอม

"ว่างัยครับพ่อแม่?" ไจ่ไจ๋ทำเป็นหันไปปรึกษา

"เอ....พ่อก็คิดไม่ออก" พ่อส่ายหน้าไปมา

"แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันจ๊ะ แล้วแต่ลูกเถอะ" แม่บอกก่อนที่ไจ่ไจ๋จะถาม

"แล้วพี่ใหญ่กับพี่รองหละครับ?" ไจ่ไจ๋หันไปถามพี่ชายสองคนยิ้มๆ เจอร์รี่กับแวนเนสหันไปมองเคนที่นั่งหน้ามุ่ย

"ทำอะไรก็ได้แต่อย่าใช้กำลังนะ" เคนพูดดักอย่างหวั่นๆเมื่อเห็นรอยยิ้มของพี่ชายทั้งสองคน

"โถ....ใครจะไปใช้กำลังกับน้องรักคนนี้ได้? จริงมั๊ย?" แวนเนสทำปากหวานพลางหันไปขอเสียงสนับสนุนจากเจอร์รี่

"อืม" พยักหน้ารับด้วยสีหน้ายิ้มๆ

"นายว่ายังงัยหละไจ่ไจ๋? คิดไว้แล้วไม่ใช่หรอ?" พี่ใหญ่ย้อนถามน้องเล็ก ไจ่ไจ๋ยิ้มให้เคนอย่างยียวนแล้วดึงพ่อแม่และพี่ชายอีกสองคนมากระซิบบอกอะไรบางอย่าง ซึ่งทุกคนต่างพากันหัวเราะออกมาแล้วเห็นดีด้วยกับการลงโทษของไจ่ไจ๋ เคนมองสมาชิกในครอบครัวด้วยสีหน้าเจื่อนๆ

"ตกลงกันได้แล้ว สรุปว่าพ่อ แม่ พี่ใหญ่ พี่รอง สละสิทธิ์ไม่ลงโทษพี่กลาง......" สีหน้าที่ออกจะมุ่ยๆในตอนแรกของเคนเริ่มยิ้มออก

"แต่ผมไม่ยอมปล่อยแน่นอน" ประโยคต่อมาทำให้เคนหุบยิ้มทันที

"จะให้ทำอะไรก็บอกมา! ไม่ต้องลีลามาก!" ตวัดเสียงพูดกับน้องชาย

"ไม่ต้องตื่นเต้นหรอกครับพี่กลางก็แค่จะให้....." ไจ่ไจ๋ไม่พูดต่อแต่เอานิ้วชี้ที่แก้มของตัวเอง เคนรู้ดังนั้นก็ถอนหายใจเฮือกด้วยความโล่งอก

"แค่นี้ใช่มั๊ย? อื้ม!" เคนไม่ต่อรองอะไรรีบขยับเข้าไปหอมแก้มน้องชายฟอดใหญ่

"เล่นต่อๆๆๆ" เสร็จแล้วเคนก็หันไปสนใจกับการเล่นเกมส์อีก

"ไม่ใช่แค่นี้นะครับ" ไจ่ไจ๋ยิ้มหวานให้พี่ชาย เคนทำหน้างงๆ

"โน้น.....อีกสี่คน......" น้องเล็กผงกหัวไปยังสมาชิกที่เหลือ ทำเอาเคนถึงกับชะงัก

"ไม่เอา" ประโยคปฏิเสธหลุดออกมาจากปากอย่างรวดเร็ว

"พี่กลางถูกลงโทษอยู่ไม่มีสิทธิปฏิเสธอะไรทั้งนั้น!" น้องเล็กทำเสียงเข้มเล็กน้อย เคนอ้าปากค้างเถียงอะไรไม่ออก

"เร็วๆเลย! อย่าชักช้าร่ำไร!" พูดเร่งพี่ชายยิกๆ เคนมีท่าทีอิดออดด้วยรู้สึกเก้อเขิน

"ไม่งั้นผมเปลี่ยนใจให้ทำอย่างอื่นนะ!" ไจ่ไจ๋พูดขู่ เคนหันไปค้อนใส่น้องชาย

"ไปเลยเร็วๆ!" ไจ่ไจ๋ไม่พูดเปล่าแต่ดันหลังพี่ชายให้เดินเข้าไปหาพี่ใหญ่ก่อนอย่างบังคับ เจอร์รี่ยิ้มแล้วเอียงแก้มให้น้องชาย เคนใช้จมูกชนแก้มพี่ชายอย่างรวดเร็ว

"เดี๋ยวสิ! ยังไม่เห็นโดนเลย" พี่ใหญ่ดึงแขนน้องไว้เมื่อเห็นว่าเคนกำลังจะเดินหนี

"โดนแล้ว!" เคนหันมาเถียง แต่พี่ใหญ่ส่ายหน้าแล้วชี้ที่แก้มตัวเองอีกครั้ง เคนทำหน้ามุ่ยแต่ก็หอมแก้มพี่ชายเบาๆอีกครั้ง

"ยังไม่พอใจเท่าไหร่แต่ก็ถือว่าโอเค" พี่ใหญ่ยอมปล่อยน้องชายแต่โดยดี ไจ่ไจ๋หัวเราะเบาๆเมื่อโดนเคนหันมาค้อนใส่

"มามะน้องรัก......" แวนเนสยิ้มเผล่พร้อมกับยักคิ้วให้ เคนแอบค้อนใส่ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเบาๆ

"วันหลังจะไม่เล่นอะไรกับพวกนายอีกแล้ว! ชอบรวมหัวกันแกล้งชั้นประจำเลย!" ไม่วายบ่นอุบแล้วเดินไปหอมแก้มแวนเนสแบบขอไปที

"เฮ้ย! เอาแบบว่ารักกันหน่อยไม่ได้หรอ?" แวนเนสโวยแล้วลุกไปยืนดักหน้าน้องชาย พ่อแม่มองลูกชายยิ้มๆ

"อะไรอีกเล่า! อย่าเรื่องมากได้มั๊ย?" ย้อนพี่ชายเสียงขุ่น

"ไม่ได้! แบบนี้นานๆจะมีซักที เอาใหม่....." เคนถอนหายใจแล้วหอมแก้มพี่ชายฟอดใหญ่ แวนเนสอมยิ้มแล้วหันหน้าอีกข้างหนึ่ง

"ข้างนี้ด้วย" เมื่อเห็นเคนอ้าปากจะพูดแวนเนสก็พูดแทรกขึ้นมาอีก

"เอาให้เหมือนเมื่อกี้นะ! ถ้าไม่เหมือนต้องเอาใหม่!" เคนค้อนควับแต่ก็ยอมหอมแก้มพี่ชายอีกแต่โดยดี เสร็จแล้วก็กลับมายืนเขินซะเอง

"หึๆๆๆ......" แวนเนสหัวเราะเบาๆ

"ทำตัวน่ารักก็เป็นหนิ! เอ้า! เหลือพ่อกับแม่อีก เร็วๆเข้าจะได้เล่นกันต่อ!" ไจ่ไจ๋พยายามไม่แซวเพราะกลัวพี่ชายจะเขินไปมากกว่านี้ เคนเริ่มทำตัวไม่ถูกเพราะไม่เคยแสดงออกแบบนี้กับพ่อแม่เท่าไหร่ สามพี่น้องขยับมายืนรวมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

"แม่รักลูกมากนะจ๊ะ ไม่เคยมีวันไหนที่แม่จะไม่รักลูก" เมื่อเห็นว่าเคนเริ่มต้นไม่ถูกแม่เลยเดินไปหาลูกชายซะเองพอพูดจบแม่ก็หอมแก้มลูกชายด้วยความรัก คำพูดของแม่ทำเอาเคนนิ่งไป

"พ่อก็รักลูกมาก ทั้งรักทั้งห่วง แล้วก็คิดถึงลูกอยู่ตลอดเวลา" เคนเปลี่ยนสายตาไปที่พ่อแล้วพยักหน้ารับน้ำตาซึม

"ผมก็เหมือนกัน ผมรักพ่อกับแม่นะครับ รักมาตลอดไม่เคยมีวันไหนที่ไม่รัก" พ่อกับแม่ได้ยินเช่นนั้นก็น้ำตาคลอเช่นกันแต่ไม่ใช่เป็นเพราะความเสียใจแต่เป็นเพราะดีใจต่างหาก เคนหอมแก้มแม่กลับอย่างนุ่มนวล

"พ่อดีใจที่สุดที่ได้ยินคำนี้จากปากลูก" พ่อลูบแก้มลูกชายพร้อมกับจ้องมองด้วยแววตาที่มีความรักอยู่เต็มเปี่ยม เคนยิ้มแล้วหอมแก้มพ่อเบาๆจากนั้นก็โผเข้าสู่อ้อมกอดของพ่อแม่ บรรดาพี่น้องสามคนหันไปยิ้มให้กันอย่างยินดีกับภาพที่ได้เห็นตรงหน้า

"แล้วรักผมบ้างหรือเปล่า?" ผ่านไปพักหนึ่งไจ่ไจ๋เดินเข้ามาแล้วถามแทรกขึ้น เคนผละออกจากอ้อมกอดของพ่อกับแม่แล้วหันมาทางน้องชาย

"รักสิ" เคนตอบแล้วกอดน้องชายด้วยเช่นกัน

"แล้วพี่ใหญ่หละ?" เจอร์รี่เดินเข้ามาถามบ้าง

"รัก" เคนพูดออกมาอย่างง่ายดาย ตอนนี้เขารู้สึกว่าการแสดงความรู้สึกออกตรงๆก็ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด

"พี่รองหละ?" แวนเนสถามขึ้นบ้าง

"อืม" เคนพยักหน้า

"อืม? หมายความว่า.....??......" แวนเนสถามรุกต่อ

"รักงัย" เคนตอบ

"เห็นมั๊ยพี่กลาง? พูดแค่นี้ไม่เห็นยากเลย" ไจ่ไจ๋ว่าพลางจิ้มลงที่หน้าอกพี่ชายย้ำๆ เคนไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่บีบจมูกน้องชายอย่างหมั่นไส้ และแล้วเสียงหัวเราะแห่งความสุขก็ดังขึ้นพร้อมๆกับสมาชิกทุกคนต่างกอดกันด้วยความรักและความเข้าใจ




 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2550 11:07:06 น.
Counter : 970 Pageviews.  

Chapter 86

ตอนที่ 86

"ผมจะไปหาน้อง!" เจอร์รี่ดื้อดึงหลังจากได้ยินว่าน้องชายคนเล็กเสียใจจนล้มป่วยเพราะเขาเป็นต้นเหตุ

"พ่อบอกให้ไปพรุ่งนี้งัยหละ! ป่านนี้น้องหลับกันหมดแล้ว!" พ่อเอ็ดลูกชายพร้อมกับรั้งแขนเอาไว้

"ใช่จ๊ะ....ไว้พรุ่งนี้ดีกว่า นี่ก็อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเช้าแล้ว ลูกควรนอนพักผ่อนซักหน่อยนะจ๊ะ" แม่เห็นด้วยกับพ่อที่จะยังไม่ให้ลูกชายไปหาน้องๆในตอนนี้

"พ่อแม่.....ผมเป็นห่วงน้อง ให้ผมไปเถอะนะ....นะครับ...." เจอร์รี่อ้อนวอน ใจเขาหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันทีที่ได้ยินคำบอกกล่าวของพ่อกับแม่

"ถึงยังงัยผมก็หลับไม่ลงถ้าไม่ได้ไปเห็นกับตาตัวเองว่าน้องเป็นยังงัยบ้าง พ่อครับ....อย่าต้องให้ผมรู้สึกผิดต่อน้องไปมากกว่านี่อีกเลย แม่ครับ....ผมอยากเจอน้องจริงๆ" เจอร์รี่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ทำเอาแม่ใจอ่อนยวบลงทันที

"ก็ได้ๆ พาลูกไปเถอะพ่อ" แม่หันไปบอกพ่อเพราะเห็นว่ายังงัยซะลูกชายก็ยังไม่วางใจตราบใดที่ไม่ได้เจอน้องๆก่อน

"เฮ่อ! เราเนี่ยนะชอบบ่นว่าน้องดื้อพูดอะไรก็ไม่เชื่อฟัง ทั้งๆที่เรานั่นแหละดื้อกว่าน้องอีก!" พ่อยังไม่วายบ่นลูกชายออกมาอีกแต่เจอร์รี่ไม่ได้สนใจกลับรีบวิ่งไปหยิบกุญแจรถมาส่งให้พ่อแบบมัดมือชก แม่ยืนอมยิ้มกับท่าทางของลูกชายแต่ก็หันไปพยักหน้ากับพ่อให้รีบพาลูกไปที่โรงพยาบาลโดยเร็ว ทันทีที่รถจอดเจอร์รี่ก็รีบวิ่งลงจากรถทันที

"เจอร์รี่!!!" พ่อร้องเรียกไว้ก่อนทำให้ลูกชายชะงักไป

"วิ่งลงไปน่ะรู้หรือเปล่าว่าน้องพักห้องไหน?" พ่อเอ่ยถาม เจอร์รี่ทำหน้าเหมือนเพิ่งคิดได้ก่อนที่จะยิ้มแหยๆให้พ่อ

"ไม่รู้ครับ ห้องไหนหละ?" ตอบแล้วย้อนถามกลับไป

"รอไปพร้อมกันก็ได้ น้องไม่หนีไปไหนหรอก" แม่เดินลงรถแล้วก้าวไปยืนข้างลูกชาย

"พ่อเร็วๆ!" เจอร์รี่เร่งพ่ออย่างร้อนใจ พ่อเลยได้แต่ส่ายหัวแล้วรีบดับเครื่องรถยนต์โดยเร็ว

"เดินเร็วๆซี้....." เจอร์รี่ฉวยมือพ่อกับแม่มาจับไว้แล้วกึ่งลากกึ่งจูงเข้าไปในตัวตึก แล้วในที่สุดทั้งสามคนก็มาหยุดลงตรงห้องพักฟื้นของไจ่ไจ๋

"เอ้า! เข้าไปสิ เมื่อกี้รีบแทบตายไม่ใช่หรอ?" พ่อเอ่ยเป็นเชิงประชดเมื่อเห็นว่าเจอร์รี่มีทีท่าลังเลว่าจะเข้าไปดีหรือไม่

"เอ่อ....แม่เข้าไปก่อนสิครับ" เจอร์รี่โอบไหล่แม่ให้มายืนอยู่หน้าประตูแทนที่ของตัวเองเมื่อซักครู่

"หึๆๆ ลูกคนนี้หนิ...." แม่หัวเราะเบาๆพลางส่ายหน้าไปมาแล้วก็เปิดประตูเข้าไปอย่างเงียบเชียบที่สุด

"เข้าไปสิ" พ่อดุนหลังเจอร์รี่พร้อมกับเอ่ยบอกเบาๆ เมื่อเข้ามาภายในห้องก็พบว่ามีเพียงไจ่ไจ๋คนเดียวเท่านั้นที่นอนขดซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มของโรงพยาบาล

"แวนเนสกับเสี้ยวเทียนไปไหน?" แม่เอ่ยถามพ่อเบาๆ พ่อได้แต่ส่ายหน้าแต่ก็สะกิดให้แม่ออกไปด้านนอกเพราะอยากให้เจอร์รี่ได้อยู่กับน้องเล็กเพียงลำพัง

"โถ....น้องพี่....." เจอร์รี่ครางออกมาหลังจากที่ประตูถูกปิดสนิท เขาถึงกับน้ำตาคลอเมื่อได้เห็นร่างน้องชายตรงหน้า สีหน้าของไจ่ไจ๋นั้นดูอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด พวงแก้มที่เคยมีเลือดฝาดในขณะนี้กลับดูซีดเซียวจนน่าใจหาย

"ไจ่ไจ๋....." นิ้วมือเรียวแตะลงที่แก้มอุ่นของน้องชาย ลูบไล้อย่างอ่อนโยนและใส่ใจ

"ไจ่ไจ๋.....พี่ขอโทษ.....พี่กลับมาแล้วนะ.....พี่กลับมาหานายแล้ว....." เจอร์รี่จับมือน้องชายขึ้นมาแล้วซุกหน้าตัวเองลงที่มือของน้องชายน้ำตาไหลอาบแก้มอย่างกลั้นไม่อยู่

"พี่มันไม่ดี พี่ทำร้ายนาย ไจ่ไจ๋....." เจอร์รี่รู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้น้องชายต้องล้มป่วย

"พี่รักนายนะ.....รักมาก.....มากที่สุด....." เจอร์รี่กุมมือน้องชายเอาไว้ไม่ยอมปล่อย เขาไม่ได้สนใจเลยว่าตัวเองอาจจะทำให้น้องชายตื่นขึ้นมา

"พี่ใหญ่.....พี่ใหญ่....." เสียงแผ่วเบาเล็ดลอดออกมาจากในลำคอของไจ่ไจ๋ เจอร์รี่ได้ยินก็ชะงักไป

"ไจ่ไจ๋.....พี่อยู่นี่....พี่อยู่นี่แล้ว...." ว่าพลางทรุดตัวนั่งลงที่เตียงของน้องชาย ไจ่ไจ๋ปรือตาขึ้นมามองด้วยท่าทางที่สะลึมสะลือ

"พี่ใหญ่.....พี่ใหญ่หรือครับ?....." ไจ่ไจ๋เข้าใจว่าตัวเองตกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน

"พี่เองไจ่ไจ๋.....พี่ใหญ่ของนายงัย" เจอร์รี่ลูบใบหน้าของน้องชายอย่างอ่อนโยน หยดน้ำตาของไจ่ไจ๋ร่วงเผาะลงทันที

"พี่อย่าทิ้งผมไป....อย่าจากผมไปไหนอีกนะ....." เสียงน้องชายแหบพร่าระคนสั่นเครือ

"พี่ไม่ทิ้งนายไปไหนอีกแล้ว พี่ขอโทษ" เจอร์รี่ดึงร่างน้องชายมากอดไว้ ไจ่ไจ๋สะอื้นออกมาเบาๆพร้อมกับซุกหน้าลงที่อ้อมอกอันอบอุ่นของพี่ชาย

"ไม่ต้องร้องนะ เด็กดีของพี่" พี่ใหญ่โอบกอดพลางปลอบน้องอย่างอ่อนโยน น้องเล็กเองก็กอดพี่ชายตอบดวงตาปิดลงอีกครั้งเพราะร่างกายเริ่มจะต้านทานกับความอ่อนเพลียไม่ไหว

"นอนซะน้องเอ๋ย....วันพรุ่งนี้มาถึงก็จะไม่มีฝันร้ายอีกต่อไปแล้ว....." เจอร์รี่พูดพึมพำกับน้องชายแล้วกระชับท่อนแขนให้แน่นขึ้น ผ่านไปพักใหญ่พ่อกับแม่ก็กลับเข้ามาที่ห้อง

"น้องตื่นขึ้นมาหรือเปล่า?" แม่เอ่ยถามลูกชายคนโต

"ตื่นตอนที่ผมเข้ามาน่ะครับ ดูท่าว่าแกจะเพ้อด้วยสิ" เจอร์รี่ตอบแล้วค่อยๆคลายอ้อมแขนออกจากร่างน้องเล็ก

"งั้นปล่อยน้องนอนไปเถอะจ๊ะ ส่วนลูกกลับบ้านไปพักผ่อนได้แล้วไป" แม่ว่าพร้อมกับเดินมาลูบหัวลูกชายคนเล็กอย่างห่วงใย

"แต่ว่า...." เจอร์รี่ตั้งท่าจะแย้งเพราะอยากจะอยู่เฝ้าน้องเล็กมากกว่า

"ไม่ต้องแต่เลยนะ ลูกบอกว่าแค่ขอให้มาเห็นน้องกับตาเพียงแค่นี้ไม่ใช่หรอ?" พ่อพูดดักคอทันที

"โธ่! ก็ผมเป็นห่วงน้องหนิ" เจอร์รี่โอดครวญแต่ก็ก้าวลงจากเตียงคนป่วย

"ไม่ต้องห่วงแล้ว เดี๋ยวพ่อกับแม่จะอยู่เฝ้าน้องเอง ลูกกลับบ้านไปพักผ่อนเถอะจ๊ะ แม่เองก็เพิ่งจะไล่แวนเนสกับเสี้ยวเทียนให้กลับบ้านไปเหมือนกัน" ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็เริ่มห่วงน้องชายอีกสองคนขึ้นมาเช่นกัน

"พ่อกับแม่ยังไม่ได้เล่าอะไรให้น้องฟัง เพราะไม่รู้จะเริ่มยังงัย ลูกเป็นคนเล่าเองน่าจะดีที่สุด" แม่พูดเสริม ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็เม้มปากเล็กน้อยก่อนที่จะพยักหน้ารับ

"โอเคครับ.....ผมจะกลับบ้านแล้วเล่าเรื่องทุกอย่างให้น้องฟังเอง แต่ถ้าไจ่ไจ๋ตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่แม่ต้องรีบโทรบอกผมทันทีเลยนะ" เจอร์รี่กำชับแม่เพราะยังอดเป็นห่วงน้องเล็กไม่ได้

"รู้แล้วจ๊ะ! กลับบ้านได้แล้วไป๊....." แม่ดึงแก้มของลูกชายทั้งสองข้างอย่างหมั่นไส้ปนเอ็นดู

"ปะ....เดี๋ยวพ่อจะไปเรียกแท็กซี่ให้" พ่อว่าพร้อมกับโอบไหล่ลูกชายแล้วเดินออกไปส่ง



- ที่บ้าน -

"เมี้ยว! เมี้ยว!" ทันทีที่เจอร์รี่เปิดประตูเข้าบ้านแมวน้อยทั้งสองก็กรูเข้ามาเคลียคลอที่ขาทันที

"ว่างัยเจ้าพีพีเจ้าถางถาง?" เจอร์รี่ทรุดตัวนั่งยองๆพร้อมกับเอามือลูบหัวเจ้าแมวน้อยทั้งสองตัวอย่างเอ็นดู

"ตายจริง! ทำไมพวกแกถึงผอมแห้งกันถึงขนาดนี้นะ? ไม่มีใครให้อะไรกินหรอ?" พึมพำกับตัวเองเป็นเชิงบ่นเมื่อพบว่าเจ้าแมวเหมียวทั้งสองตัวนั้นมีท่าทีหิวโซ

"มานี่มา.....เดี๋ยวชั้นเอาอาหารให้กิน" เจอร์รี่ดีดนิ้วเรียกแมวทั้งสองตัวให้เดินตามเข้ามา จากนั้นก็จัดแจงเทอาหารให้สัตว์เลี้ยงแสนรัก เขาดูมันกินอาหารอย่างหิวโหยแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา

"เจ้านายแกไม่มาสนใจแกเลยสินะ ไม่ไหวเลยจริงๆ" เจ้าพีพีกับถางถางเงยหน้าขึ้นมามองคนพูดเหมือนจะเข้าใจความหมาย ทำเอาเจอร์รี่อดที่จะหัวเราะออกมาได้

"รู้ด้วยหรอว่าชั้นพูดอะไร?" ย้อนถามเจ้าแมวน้อยต่อ

"เมี้ยว เมี้ยว" เจ้าพีพีกับถางถางร้องตอบเหมือนจะเข้าใจคำพูดนั้น จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตากินอาหารสำเร็จรูปนั้นต่อ เจอร์รี่เดินไปล้างมือเสร็จก็เดินขึ้นไปข้างบน เขาเดินไปบิดประตูห้องของน้องชายคนกลางแต่พอมองเข้าไปพบว่าภายในห้องนั้นไม่มีคนอยู่ เมื่อเป็นเช่นนั้นเขาจึงเดินไปยังห้องนอนของน้องชายคนรองแต่ก็ไม่พบใครเช่นกัน

"ไปไหนกันนะ?" พึมพำกับตัวเองเบาๆ แต่แล้วเขาก็ได้คำตอบทันทีเมื่อเห็นว่าประตูห้องนอนของเขาถูกเปิดแง้มไว้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปแล้วชะเง้อคอมองเข้าไปข้างใน

"หึๆๆๆ" รอยยิ้มบางๆปรากฏบนใบหน้าของเจอร์รี่เพราะน้องชายทั้งสองคนที่เขากำลังหาอยู่นั้นพากันมาหมกตัวอยู่ในห้องนอนของเขาเอง เจอร์รี่ยังไม่เข้าไปในทันทีแต่หยุดยืนดูน้องชายทั้งสองคนเงียบๆ

"ชั้นไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าพี่ใหญ่จะใส่ใจชั้นมากขนาดนี้" เสียงแวนเนสเปรยขึ้นพร้อมกับปิดแฟ้มในมือลง

"หืม?" เคนทำเสียงคล้ายย้อนถามเพราะกำลังตกอยู่ในภวังค์ของตัวเองเช่นกัน

"หนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวของชั้นเขาตัดเก็บไว้หมด ดูสิ.....เก็บอย่างดีเลย....." แวนเนสรำพันเบาๆน้ำตารื้อขึ้นมาอีก เคนเปลี่ยนสายตาไปมองแฟ้มขนาดใหญ่ในมือของพี่ชายแต่ไม่ได้พูดอะไร

"แม้แต่คำว่าขอบคุณชั้นยังไม่มีโอกาสได้พูดกับเขาเลย......" แวนเนสกอดแฟ้มนั้นไว้แน่นก้มหน้าลงเพราะไม่อยากให้น้องเห็นน้ำตาของเขา เคนเลยพลอยร้องไห้ตามออกมาด้วย เมื่อเห็นน้องร้องไห้แวนเนสจึงเริ่มจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้

"เสี้ยวเทียน......อย่าร้องไห้สิ......" แวนเนสวางแฟ้มในมือลงแล้วหันไปปลอบน้องชาย แต่เคนกลับยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิมเพราะในตอนนี้เขาคิดถึงพี่ใหญ่เหลือเกิน

"นายก็ร้องไห้เหมือนกัน" เคนย้อนพี่ชายเป็นเสียงสะอื้น

"ชั้นไม่ร้องแล้ว นายก็เงียบด้วยสิ" แวนเนสว่าแล้วก็เช็ดน้ำตาให้น้อง เคนเองก็พยายามบังคับตัวเองไม่ให้ร้องไห้แต่ดูเหมือนความพยายามในค่ำคืนนี้มันจะไม่ได้ผลเท่าไหร่ เจอร์รี่ยืนมองน้องชายทั้งคู่น้ำตาคลอเช่นกัน

"แม้อ้อมกอดชั้นมันจะไม่อุ่นเท่ากับของพี่ใหญ่แต่ถ้านายต้องการ.....ชั้นก็ยินดีนะ......" เมื่อเห็นว่าน้องไม่เงียบซักทีแวนเนสจึงอ้าแขนรับเพื่อที่จะให้น้องชายได้ปลดปล่อยความอัดอั้นตันใจออกมาตามต้องการ เคนเองก็ไม่ปฏิเสธเพราะในเวลานี้เขาก็โหยหาอ้อมกอดของใครบางคนอยู่เช่นกัน ภาพน้องชายสองคนตรงหน้าทำให้เจอร์รี่อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ อย่างน้อยเขาก็วางใจได้แล้วว่าน้องชายของเขาสามารถดูแลกันและกันได้

"เสี้ยวเทียน......" แวนเนสเรียกน้องเบาๆเมื่อรู้สึกว่าเสียงร้องไห้ของน้องเงียบลงกระทันหัน เขาแล้วดันตัวน้องออกก็พบว่าน้องชายมีสีหน้าตกใจ

"เสี้ยวเทียน! นายเป็นอะไร?" แวนเนสเห็นสีหน้าของน้องชายแล้วก็ใจหาย

"แวนเนส....." เคนครางชื่อพี่ชายออกมาจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบแต่สายตาไม่ได้มองหน้าพี่ชายเลย

"เสี้ยวเทียน! เป็นอะไร? บอกชั้นซิ!" แวนเนสแทบจะจับตัวน้องเขย่า

"พี่ใหญ่....." เคนเปลี่ยนสายตามามองหน้าแวนเนสพร้อมกับบอกเสียงแผ่ว

"อะไรนะ?" แวนเนสได้ยินแล้วแต่เขาถามกลับอย่างไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่าน้องชายหมายถึงอะไร

"พี่ใหญ่มา....." จบคำพูดประโยคนั้นแวนเนสก็ขนลุกซู่ เขาไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองด้านหลัง

"เสี้ยวเทียน! อย่ามาเล่นอะไรบ้าๆตอนนี้นะ!" ทำเสียงดุน้องชาย

"ชั้นพูดจริงๆ ยืนอยู่ตรงประตูนั่นงัย หันไปดูสิ" เคนยืนกรานกับพี่ชาย ทำเอาแวนเนสเริ่มฝ่อแต่ยังมีการคาดโทษน้องชาย

"ถ้าชั้นไม่เห็น มีเรื่องแน่!" พูดจบก็หันไปทางประตูอย่างรวดเร็วแต่เขาก็ไม่เห็นใคร เพราะพี่ใหญ่เดินเข้ามาในห้องแล้ว

"ไหน? ไม่เห็นมีใครเลย?" แวนเนสหันกลับมาหน้าขึง

"เดินมายืนอยู่ข้างหลังนายแล้ว" เคนตอบเสียงแผ่วเบา รู้สึกหนาวๆร้อนๆขึ้นมาเช่นกัน

"เสี้ยวเทียน!!! เล่นไม่เลิกใช่มั๊ย!?" แวนเนสเงื้อนมือขึ้นหมายจะเล่นงานน้องแต่แล้วก็ต้องชะงักไปเพราะมีเสียงกระแอมดังขึ้น

"อะฮึ่ม!" แวนเนสยกมือค้างก่อนที่จะค่อยๆหันไปทางต้นเสียง

"พี่ใหญ่....." แวนเนสครางออกมาเสียงแผ่วมือเย็นเฉียบขึ้นมาเฉยๆ

"ใช่.....พี่ใหญ่เอง" เจอร์รี่ตอบรับพร้อมกับส่งยิ้มให้น้องๆ แวนเนสตกตะลึงอย่างคาดไม่ถึง เขาถึงกับพูดไม่ออกเมื่อพบว่าเขาเองก็ไม่ได้ตาฝาด

"ไม่ต้องตกใจนะ" เจอร์รี่พยายามบอกกล่าวกับน้องแต่ดูเหมือนน้องๆจะมีอาการตรงกันข้ามกับที่เขาบอกโดยสิ้นเชิง

"สะ.....เสี้ยวเทียน.....ชะ.....ชั้นเห็นแล้ว....." แวนเนสหันไปบอกน้องชาย เคนไม่พูดอะไรได้แต่ผงกหัวรับ

"เอ่อ.....พวกนายอย่าเพิ่งตกอกตกใจกันสิ....." พี่ใหญ่เองก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดกับน้องยังงัย

"ไม่ตกใจยังงัยหละ? ก็นายตายไปแล้วนี่ เราก็เพิ่งไปงานศพนายกลับมาเอง" แวนเนสท้วงติง

"ไม่ใช่ นั่นไม่ใช่ชั้น โอเคมั๊ย?" เจอร์รี่ปฏิเสธทันที

"งั้นนายหมายความว่านายไม่ได้ขับรถไปคนเดียวใช่มั๊ย? ศพนายยังหาไม่เจอใช่หรือเปล่า?" เคนถามขึ้นมาบ้าง พี่ใหญ่ทำหน้าเหวอๆเมื่อได้ยินคำถามของน้อง

"ถ้าเป็นแบบนั้นนายบอกเรามาสิ เราจะได้ไปบอกตำรวจให้ช่วยกันค้นหาศพนาย" แวนเนสเสริมต่อทันที

"นี่นายสองคนคิดว่าชั้นเป็นผีจริงๆหรอ?" เจอร์รี่ถามน้องอย่างจนปัญญา ซึ่งคำตอบที่ได้รับก็คือการพยักหน้ารับโดยพร้อมเพรียงทำเอาพี่ใหญ่ถึงกับพูดไม่ออก

"พี่ใหญ่......ตอนรถคว่ำเจ็บมากมั๊ย?" เคนถามขึ้นมาอีก เจอร์รี่ได้แต่เกาหัวแกรกๆ

"ชั้นนึกว่านายจะได้ไปอยู่ในที่ที่สงบสุขแล้วซะอีก ยังไม่มีใครมารับตัวไปหรอ?" แวนเนสถามต่อจากน้องชาย

"เฮ้ย!!!! จะบ้ากันหรืองัย? บอกว่ายังไม่ตายก็ยังไม่ตายสิวะ! แช่งกันอยู่ได้!" พี่ใหญ่เริ่มโวยวายเข้าให้ ทำเอาน้องชายทั้งคู่ขยับเข้ากอดกันกลม

"เฮ่อ....." เจอร์รี่ถอนหายใจแรงๆแล้วเดินมาทรุดตัวนั่งลงบนเตียงเช่นกัน ยังผลให้น้องชายพากันขยับหนีโดยพร้อมเพรียง

"เอาหละๆ มันออกจะเชื่อยากอยู่ซักหน่อย แต่ชั้นจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังก็แล้วกันนะ" เจอร์รี่เกริ่นนำพลางมองน้องชายทั้งคู่อย่างอ่อนใจ

"เรื่องของเรื่องคือว่าชั้นถูกคนร้ายจี้ชิงทรัพย์กลางทางแล้วก็โดนขโมยเอารถไปด้วย อุบัติเหตุที่พวกนายได้รับแจ้งมามันเป็นอุบัติเหตุหลังจากที่ชั้นโดนขโมยรถไป" ได้ยินดังนั้นแวนเนสกับเคนจึงค่อยๆผละตัวออกจากกัน

"หมายความว่า......" เคนพูดเป็นเชิงถามทั้งๆที่พอจะเดาออกแล้ว

"ใช่.....หมายความว่าศพที่พบนั้นไม่ใช่ชั้นแต่น่าจะเป็นคนร้ายที่ขโมยรถชั้นไปนั่นแหละ......" เจอร์รี่ให้ความกระจ่าง

"ส่วนชั้นก็โดนทำร้ายจนสลบไสลไป โชคดีที่มีคนมาช่วยเหลือไว้" น้องชายทั้งคู่นิ่งอึ้งไปกับคำบอกเล่าของพี่ชาย

"ไอ้บ้านี่! แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก? ปล่อยให้ชั้นร้องไห้แทบตาย!" แวนเนสต่อว่าพี่ชายชุดใหญ่

"ก็พี่ใหญ่ไม่รู้เหมือนกันนี่นา......" เจอร์รี่รีบแก้ตัว

"แล้วทำไมเพิ่งจะโผล่มาเอาป่านนี้! ไม่รอให้ชั้นกับแวนเนสต้องไปนอนหยอดน้ำเกลือเหมือนไจ่ไจ๋ก่อนหละ?" เคนพูดเสียงกระชาก

"พี่พยายามโทรหาทุกคนแล้วแต่ก็ติดต่อใครไม่ได้เลยนี่นา" พี่ใหญ่แก้ต่างให้ตัวเอง

"โทรหาคนที่บ้านไม่ได้แล้วไม่มีทางอื่นอีกหรืองัย!? เพื่อนฝูงหละทำไมไม่โทรหา? คนที่บริษัทก็มีทำไมไม่ติดต่อไป? ไม่รู้หรืองัยว่าคนที่เกี่ยวข้องกับนายทุกคนก็สามารถส่งข่าวต่อมาถึงพวกเราได้? นายมันซื่อบื้อที่สุด!" เคนใส่พี่ชายต่อเป็นชุด

"ชั้นขอโทษ" เจอร์รี่ก้มหน้ายอมรับโดยดีเพราะในเวลาเช่นนั้นเขาเองก็ไม่ได้คิดถึงใครอื่นนอกจากคนในครอบครัวเท่านั้น เคนเบือนหน้าหนีด้วยไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องไปอารมณ์เสียใส่พี่ชาย

"เสี้ยวเทียน......พี่ขอโทษ......" พี่ใหญ่ขยับเข้าไปใกล้แล้วค่อยๆดึงน้องเข้ามากอดไว้ ในตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวภายในใจของน้องชายคนนี้ได้เป็นอย่างดี เคนเม้มปากนิ่งแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร

"นายอย่าไปไหนอีกนะ อย่าทิ้งชั้นไปเหมือนกับที่อาเจียงเคยทำ......" จู่ๆเคนเอ่ยปากร้องขอกับพี่ชายเสียงแผ่วน้ำตาไหลออกมาอย่างบังคับไม่อยู่ พี่ใหญ่ถึงกับนิ่งงันกับคำขอร้องของน้องชาย แวนเนสเองก็อึ้งไปเช่นกัน

"ไม่หรอกเสี้ยวเทียน พี่ไม่มีวันทิ้งนายไปไหนทั้งนั้น" พี่ใหญ่ปฏิญาณหนักแน่นพลางโอบกอดน้องชายเอาไว้

"ถ้าพี่ใหญ่เกิดผิดสัญญา พี่รองจะจัดการให้เอง โอเคมั๊ย?" แวนเนสขยับเข้าไปกอดน้องด้วยเช่นกัน เขาเพิ่งได้รับรู้ว่าน้องชายคนนี้ไม่ได้เข้มแข็งเหมือนกับภายนอกที่มองเห็นเลยซักนิด เคนไม่ตอบว่าอะไรได้แต่พยักหน้ารับทั้งน้ำตา ผ่านไปพักใหญ่เสียงสะอื้นของน้องชายก็เงียบไป

"หลับไปแล้ว" แวนเนสผละตัวออกพร้อมกับบอกพี่ชายเบาๆ

"ชั้นไม่เคยเห็นน้องอ่อนแออย่างนี้มาก่อนเลย" แวนเนสพูดว่าพลางลูบหัวน้องชายไปด้วย

"เห็นน้องเป็นแบบนี้แล้วชั้นถึงได้รู้สึกว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาชั้นเป็นพี่ที่แย่มากแค่ไหน" สีหน้าของแวนเนสเศร้าสลดลง

"ชั้นไม่เคยเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของน้องเลย ชั้นคิดว่าน้องเข้มแข็ง ทำใจยอมรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่างได้ แต่จริงๆแล้วชั้นคิดผิด เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาน้องยังไม่เคยลืมเหตุการณ์เลวร้ายในวันที่อาเจียงจากไปได้เลย......" แวนเนสพูดเสียงเศร้า

"ช่วยชั้นหน่อย" เจอร์รี่บอกกล่าวกับน้องชายแล้วค่อยๆดันตัวน้องชายคนกลางออกเพื่อให้นอนลงที่เตียง แวนเนสรีบขยับตัวลุกขึ้นมาช่วยทันที

"เอาผ้ามาห่มให้น้องด้วย" พี่ใหญ่ว่าพลางผงกหัวไปยังผ้าห่มที่พับอยู่ปลายเตียง แวนเนสหันไปหยิบผ้าห่มขึ้นมาคลี่ออกแล้วห่มคลุมร่างน้องตามคำพี่ชาย เสร็จแล้วเขาก็มองดูใบหน้าของน้องชายอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะส่ายหัวไปมาให้กับตัวเอง

"ให้ตายสิ! แม้แต่ห่มผ้าให้น้องก่อนนอนชั้นยังไม่เคยทำให้เลยด้วยซ้ำ" แวนเนสพึมพำเป็นเชิงตำหนิตัวเอง เจอร์รี่ไม่ตอบว่าอะไรแต่เดินไปโอบไหล่แวนเนสแล้วพามานั่งที่เก้าอี้ทำงานของเขา ส่วนตัวเขาก็ขยับขึ้นไปนั่งบนโต๊ะทำงาน

"แวนเนส.....อย่าตำหนิตัวเองแบบนี้สิ ไม่มีใครหรอกที่จะสวมบทบาทของตัวเองได้ดีเลิศไปซะทั้งหมด" พี่ใหญ่พูดเป็นเชิงปลอบ

"แต่นายรู้อะไรหรือเปล่า? ว่าวันนี้ชั้นด่าว่าน้องรุนแรงขนาดไหน?" แวนเนสเอ่ยขึ้นด้วยยังคงรู้สึกเสียใจไม่หาย

"ทั้งๆที่น้องเป็นห่วงมาคะยั้นคะยอให้ชั้นกินข้าวแต่ชั้นกลับปัดความหวังดีนั้นทิ้งไปอย่างไม่ใยดี ดูสิว่าชั้นมันแย่ขนาดไหน?" พี่ใหญ่โยกหัวน้องชายไปมาเบาๆ

"นายตั้งใจจะด่าว่าน้องอย่างนั้นจริงๆหรือเปล่าหละ?" เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แวนเนสส่ายหน้า

"งั้นนายก็ไม่แย่นักหรอก และชั้นก็เชื่อว่าน้องคงไม่รู้สึกกับนายแบบนั้นแน่" แวนเนสเงยหน้ามองพี่ชายเป็นเชิงถาม

"เพราะพี่ชายที่แย่คงไม่มานั่งเสียใจกับการกระทำของตัวเองแบบนี้หรอก" พูดจบเจอร์รี่ก็ยิ้มบางๆเมื่อพบว่าตัวเองกำลังยกเอาถ้อยคำที่เคนเคยพูดไว้กับเขามาบอกกล่าวกับน้องชายต่ออีกทอดหนึ่ง แวนเนสนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะยิ้มตอบพี่ชาย

"ถึงจะรู้ว่ามันเป็นแค่คำปลอบใจแต่ก็ขอบคุณมากนะ" แวนเนสเริ่มยิ้มออก

"ค่อยโล่งใจหน่อย! นึกว่าเจ้าลูกลิงของพี่จะหงอยเป็นลิงป่วยซะอีก" พี่ใหญ่พูดหยอกน้องชายยิ้มๆ

"ไม่ต้องมาพูดเลย! นายไม่อยู่ทีชั้นแทบบ้าตายแหนะ!" แวนเนสเอาศอกกระทุ้งพี่ชายพลางต่อว่าไปด้วย

"งัย? ทีนี้รู้สึกแล้วสิว่าขาดชั้นแล้วจะเป็นยังงัย?" เจอร์รี่เอาศอกกระทุ้งกลับ แวนเนสไม่ตอบแต่ทำหน้ากวนๆใส่พี่ชาย

"หึๆๆๆ....." พี่ใหญ่หัวเราะออกมาเบาๆ

"เจอร์รี่" เงียบไปซักพักแวนเนสก็เรียกพี่ชายขึ้นมาเบาๆ

"หืม?" ตอบรับในลำคอพร้อมกับรอคอยให้น้องพูดต่อ

"ต่อไปนี้ชั้นจะไม่ผลักภาระทั้งหมดไปให้นายอีกแล้ว" เจอร์รี่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น

"อายุเราสองคนก็ไม่ได้ห่างกันซักเท่าไหร่แต่หน้าที่ความรับผิดชอบของนายกลับมีมากมายกว่าชั้นตั้งหลายเท่า ชั้นเองก็รู้และเห็นอยู่ตลอดแต่ก็ไม่เคยคิดที่จะแบ่งเบาภาระของนายบ้างเลย นอกจากชั้นจะเป็นพี่ชายที่แย่แล้วยังเป็นน้องชายที่ไม่ได้เรื่องอีกต่างหาก" แวนเนสพูดพลางมองหน้าพี่ชาย

"ไม่ได้เจอกันแค่สามวันทำไมน้องพี่ถึงเปลี่ยนแปลงไปได้ขนาดนี้นะ?" พี่ใหญ่พูดยิ้มๆแล้วโน้มหัวน้องชายมากอดไว้หลวมๆ

"เพราะสามวันที่ผ่านมาชั้นได้รับบทเรียนตั้งมากมายที่ชั้นไม่เคยเรียนรู้มันมาก่อนน่ะสิ" แวนเนสตอบแล้ววางหัวลงบนตักพี่ชาย เจอร์รี่ลูบหัวน้องชายด้วยความรัก

"งั้นไอ้ความโชคร้ายของชั้นมันก็ถือเป็นความโชคดีในอีกด้านนึงด้วยสินะ" พูดติดตลกเพื่อให้น้องรู้สึกดีขึ้น

"ก็คงอย่างงั้น" แวนเนสตอบรับพร้อมกับอดที่จะหัวเราะไม่ได้

"นายเจ็บมากหรือเปล่า?" แวนเนสถามต่อพร้อมกับชี้ไปที่แขนข้างที่พันผ้าของพี่ชาย

"ไม่เท่าไหร่หรอก แค่เป็นแผลถลอกปอกเปิกเอง" เจอร์รี่ตอบ

"แล้วตรงนี้หละ?" แวนเนสเปลี่ยนมาชี้ที่หัวตัวเอง เจอร์รี่ยิ้มๆแล้วชูนิ้วขึ้นมาสามนิ้ว

"แผลลึก 3 นิ้วหรอ?" เมื่อเห็นสีหน้าตกใจของน้องชายพี่ใหญ่ก็หัวเราะขำๆ

"เย็บ 3 เข็มต่างหาก ไม่ต้องห่วง ชั้นไม่เป็นไรแล้ว" ได้ยินดังนั้นแวนเนสก็ถอนใจอย่างโล่งอก

"เอาหละ......คราวนี้พี่จะคิดบัญชีกับเราบ้างนะ" พี่ใหญ่ตีหน้าเข้มใส่น้อง

"หา!? คิดบัญชีอะไร? ชั้นไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย เปล่าดื้อกับพ่อแม่ด้วย" แวนเนสร้อนตัวขึ้นมาทันที

"ไม่ใช่เรื่องนั้นแต่เป็นเรื่องนี้ต่างหาก" พี่ใหญ่ลุกขึ้นไปหยิบแฟ้มที่แวนเนสนั่งดูอยู่ในตอนแรกขึ้นมา

"ใครอนุญาตให้หยิบออกมาดูไม่ทราบ?" แกล้งทำหน้าขรึมเอ่ยถามน้อง

"อ้าว.....ก็....." แวนเนสครางเสียงอ่อยๆพูดต่อไม่ออก

"ก็อะไร?" เจอร์รี่เอาแฟ้มเคาะหัวน้องเบาๆ

"ก็ชั้นไม่รู้จะไปขออนุญาตนายที่ไหนนี่นา? หรือจะให้จุดธูปบอก?" แวนเนสย้อนแบบติดกวนเล็กน้อย

"ไม่รู้แล้วหยิบเอาของคนอื่นมาดูตามใจชอบได้หรืองัย?" พี่ใหญ่เคาะหัวน้องซ้ำอีกที

"ของคนอื่นที่ไหน? เดี๋ยวอีกหน่อยมันก็เป็นของชั้นไม่ใช่หรอ?" แวนเนสลอยหน้าลอยตาถาม

"รู้ได้ยังงัย? อย่ามาโมเม! ใครจะให้นายกัน?" เจอร์รี่ว่าพลางบีบจมูกน้องอย่างนึกหมั่นไส้

"เอาไปเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้เลย!" ออกคำสั่งแล้ววางแฟ้มดังกล่าวลงบนมือน้องชาย แวนเนสรับมาแล้วลุกขึ้นทำท่าจะเดินออกไปจากห้องแต่ถูกพี่ใหญ่รั้งแขนไว้ก่อน

"จะเอาไปไหน?" เอ่ยถามเสียงเข้มเล็กน้อย

"เอาไปเก็บไว้ในห้องชั้นงัย" แวนเนสตอบพร้อมกับรอยยิ้มใสซื่อจนพี่ชายกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่

"เดี๋ยวเถอะ! ของเราหรอ?" ทำเสียงดุแต่สีหน้ากลับยิ้มแย้ม

"อ้าว.....ถ้าไม่ใช่ของชั้นแล้วทำไมมันถึงมีแต่รูปชั้นหละ?" แวนเนสยอกย้อน

"เอามานี่เลย!" เจอร์รี่ดึงแฟ้มนั้นกลับคืนไปแล้วเอามันไปเก็บไว้ที่เดิม แวนเนสหัวเราะเสียงใสแล้วเข้าไปกอดพี่ชายจากทางด้านหลัง

"ไม่ให้จริงหรอ?" เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ

"ไม่ให้!" พี่ใหญ่ตอบเน้นเสียง

"พี่ใหญ่" แวนเนสเรียกพี่ชายอีก

"บอกว่าไม่ให้งัย!" เจอร์รี่แกะมือน้องชายออกแล้วหันไปทำหน้าเข้มใส่

"ขอบคุณครับ" พูดจบแวนเนสก็หอมแก้มพี่ชายเบาๆแล้วเดินไปทิ้งตัวนอนที่เตียงหลับตาลงตามน้องชายที่หลับไหลไปก่อนหน้านี้แล้ว



- ตอนสายๆ -

"ตื่นนานแล้วหรอจ๊ะ?" แม่ที่เพิ่งตื่นขึ้นมาเอ่ยถามลูกชายคนเล็กที่นั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงคนไข้ ไจ่ไจ๋ไม่ตอบแต่เอามือปาดน้ำตาออก

"ไจ่ไจ๋.....ร้องไห้ทำไมลูก?" แม่ถามต่อย่างตกใจเมื่อเห็นสีหน้าของลูกชาย

"แม่...." ไจ่ไจ๋โผเข้ากอดแม่แล้วร้องไห้ออกมาอีก

"เมื่อคืนผมฝันเห็นพี่ใหญ่ ผมฝันว่าพี่ใหญ่มานอนกอดผมไว้......" แม่ยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วกอดลูกชายเอาไว้อย่างปลอบประโลม

"บางทีลูกอาจจะไม่ได้ฝันก็ได้นะจ๊ะ" แม่บอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

"ผมก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแค่ความฝันเหมือนกัน" ไจ่ไจ๋พูดเป็นเสียงสะอื้น

"แม่......ผมอยากกลับบ้าน....." ไจ่ไจ๋ร้องขอกับมารดา

"แต่ลูกยังไม่หายดีเลยนะจ๊ะ" แม่แย้งแล้วดันตัวลูกชายออกอย่างนุ่มนวล

"ผมไม่อยากอยู่ที่นี่" ไจ่ไจ๋ว่าพลางส่ายหน้าไปมา

"ลูกเป็นไรหรอแม่?" พ่อที่เพิ่งไปซื้อของกินกลับเข้ามาเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง

"ลูกอยากกลับบ้านน่ะพ่อ" แม่ตอบแล้วเอามือเช็ดน้ำตาให้ลูกชายอย่างแผ่วเบา

"นอนอีกซักคืนไม่ดีกว่าหรอ?" พ่อถามไจ่ไจ๋พร้อมกับลูบหัวลูกชายเบาๆ ไจ่ไจ๋ส่ายหน้าไปมาแรงๆ

"เอ่อ....เอางัยดีพ่อ?" แม่หันมาปรึกษาเมื่อเห็นว่ายังงัยลูกชายก็คงไม่ยอม

"งั้นพ่อจะออกไปคุยกับพยาบาลก็แล้วกัน" พูดจบพ่อก็หมนุตัวออกจากห้องไปอีกครั้ง

"เดี๋ยวก็ได้กลับบ้านแล้ว กินอะไรหน่อยมั๊ยลูก?" แม่เอ่ยถามพร้อมกับเดินไปดูของกินที่พ่อเพิ่งซื้อเข้ามา

"ผมไม่หิวครับ" ไจ่ไจ๋ปฏิเสธเพราะไม่รู้สึกอยากจริงๆ

"ถ้าไม่กินแล้วจะกลับบ้านได้ยังงัยหละลูก?" แม่หาข้ออ้างไจ่ไจ๋จึงเงียบไป

"โจ๊กยังร้อนๆอยู่เลย กินซักหน่อยนะจ๊ะ เมื่อกี้อาหารของโรงบาลลูกก็ไม่ได้แตะต้องเลยหนิ" ไจ่ไจ๋ไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่เม้มปากเล็กน้อยเท่านั้น

"เดี๋ยวแม่ไปขอชามใส่โจ๊กให้นะจ๊ะ" พูดจบแม่ก็เดินออกไป หลังจากนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ไจ่ไจ๋ขยับตัวไปที่เครื่องโทรศัพท์ของตัวเองแล้วกดรับสาย

"สวัสดีครับ" ไจ่ไจ๋พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

"เด็กดีของพี่กินข้าวหรือยัง?" เสียงที่ดังมาตามสายนั้นทำเอาไจ่ไจ๋ตัวชาวาบ

"กินข้าวแล้วก็กินยาซะนะ รู้มั๊ยครับ?" ไจ่ไจ๋ถือโทรศัพท์ค้างทั้งงงทั้งตกใจ

"ไจ่ไจ๋.....ไจ่ไจ๋....." เสียงพี่ชายยังคงร้องเรียกไจ่ไจ๋มาตามสายแต่แล้วก็ตัดไปในที่สุด

"ได้แล้วจ๊ะ โจ๊กร้อนๆเลย" แม่เดินกลับเข้ามาพร้อมกับชามโจ๊กที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วห้อง

"ติ๊ดๆๆ" เสียงโทรศัพท์มือถือในมือไจ่ไจ๋ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แม่เดินเข้ามาใกล้แล้วเอียงคอมองลูกชาย

"ไจ่ไจ๋จ๊ะ.....จะรับโทรศัพท์หรือเปล่า?" แม่เอ่ยถาม ไจ่ไจ๋สะดุ้งเล็กน้อยแล้วส่งโทรศัพท์ให้แม่รับให้

"แวนเนสหรอจ๊ะ?" แม่ตอบรับเมื่อได้ยินเสียงคู่สนทนา ไจ่ไจ๋จับจ้องแม่อย่างไม่วางตา

"น้องตื่นได้ซักพักแล้วจ๊ะ" แม่ตอบเมื่อได้ยินคำถามพลางมองหน้าลูกชายคนเล็กแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ไจ่ไจ๋ไม่ตอบว่าอะไรรีบเอาโจ๊กมาก้มหน้าก้มตากินอย่างไม่มีอิดออด

"ไม่ต้องมากันแล้วหละจ๊ะ เดี๋ยวพ่อกับแม่จะพาน้องกลับบ้านแล้ว" แม่บอกลูกชายคนรอง

"ยังไม่หายดีหรอกแต่น้องมันไม่ยอมอยู่แล้วน่ะสิ" แม่พูดเสียงเบาลงเล็กน้อย

"เอาเป็นว่าลูกรอกันอยู่ที่บ้านแล้วกัน เดี๋ยวหมอเข้ามาดูอาการน้องเสร็จก็คงจะขอกลับเลย" แม่สรุปให้ฟัง

"จ๊ะ.....แค่นี้นะจ๊ะ" พูดจบแม่ก็วางสายไป

"พี่รองโทรมาแหนะ" แม่บอกกล่าวกับไจ่ไจ๋ที่ยังคงก้มหน้าก้มตากินโจ๊กอยู่

"หิวแล้วใช่มั๊ย? จะเอาอะไรเพิ่มอีกหรือเปล่า?" แม่ถามลูกชายอย่างงงๆเพราะตอนแรกยังมีท่าทีอิดออดไม่อยากกินแต่ในตอนนี้กลับตักกินโดยเต็มอกเต็มใจ

"แม่.....ยาหละ?" ไจ่ไจ๋เอ่ยถามหลังตักโจ๊กคำสุดท้ายเข้าปาก แม่หันไปหยิบถ้วยยาแล้วรินน้ำใส่แก้วมาให้ทันที

"ขอบคุณครับ" ไจ่ไจ๋รับยามากินโดยไม่ต้องให้กระตุ้นเตือนเหมือนกับวันที่ผ่านมา แม่ทำหน้ากึ่งยิ้มกึ่งงงกับอาการของลูกชายที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว



- ที่บ้าน -

"อรุณสวัสดิ์" เจอร์รี่เอ่ยทักน้องชายที่เพิ่งจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม

"อรุณสวัสดิ์" เคนตอบรับคำพี่ชายยิ้มๆเช่นกัน

"นอนหลับสบายมั๊ย?" พี่ใหญ่ถามต่อพร้อมกับลูบหัวน้องชายไปด้วย

"อืม" เคนผงกหัวรับแล้วมองไปรอบๆห้อง

"เสี้ยวเทียน" พี่ใหญ่เรียกน้องอีก

"หืม?" เคนมองหน้าพี่ชายเป็นเชิงถาม

"ชั้นมีของจะคืน" พูดจบเจอร์รี่ก็เดินไปหยิบผ้ายันต์ที่น้องชายได้ให้ไว้ก่อนที่ตัวเองจะเดินทาง

"ที่ชั้นรอดมาได้ครั้งนี้ต้องขอบใจนายที่สุดเลย" พูดจบก็คืนเครื่องรางให้น้องชาย

"ยังอยู่หรอ?" เคนย้อนถามแล้วรับคืนมา

"อยู่สิ เพราะชั้นกลัดมันไว้ในเสื้อตามที่นายบอกงัย" ตอบรับน้องชายยิ้มๆ

"แวนเนสไปไหนหรอ?" ถามหาพี่ชายอีกคน

"ลงไปง่วนอยู่ในครัวตั้งแต่เช้าแหนะ" เจอร์รี่ตอบพลางหัวเราะไปด้วยเบาๆ

"อยู่ในครัว? ไปทำอะไรของมัน?" เคนทำหน้างุนงงอย่างยิ่ง

"ก็คงเกิดอยากจะเอาใจน้องชายขึ้นมาหละมั้ง?" ตอบคำถามนั้นด้วยอาการขำๆ และยังไม่ทันขาดคำแวนเนสก็ยกถาดที่วางชามข้าวต้มรวมมิตรสองชามใหญ่ๆเดินเข้ามาในห้อง

"ตื่นแล้วหรอเสี้ยวเทียน?" เอ่ยทักน้องชายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

"ยังไม่ตื่น" เคนตอบกวนๆแล้วแอบหัวเราะเบาๆ

"กวนเบื้องล่างแต่เช้าเลยนะ!" แวนเนสชักสีหน้าใส่น้องชาย

"พี่เขาถามดีๆยังจะไปกวนเขาอีก" เจอร์รี่ดุน้องชายแต่ไม่ได้จริงจังนัก

"ตื่นแล้วครับ" เคนทำเสียงอ่อนเสียงหวาน ทำเอาพี่ชายทั้งคู่อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

"งั้นก็มากินข้าวสิ ชั้นอุตส่าห์ทำตั้งนานเลยนะเนี่ย" ว่าพลางวางชามข้าวต้มลงที่โต๊ะข้างเตียง

"หอมจัง" เจอร์รี่เอ่ยชมแล้วขยับตัวลุกขึ้นนั่ง เคนก็ขยับตัวลุกตามพี่ชายด้วย

"นายทำเป็นด้วยหรอ?" หันไปถามพี่ชายอย่างทึ่งๆ

"ไม่เป็น" แวนเนสตอบเสียงดังฟังชัด เจอร์รี่กับเคนหันไปสบตากันทันที

"ครั้งแรกเลยนะเนี่ย ลองชิมดูซิว่าเป็นงัยมั่ง?" ว่าพลางดึงให้พี่น้องมากินมื้อเช้าฝีมือของเขา

"เอ่อ....ชั้นยังไม่ได้แปรงฟันเลย ขอกลับไปล้างหน้าแปรงฟันที่ห้องก่อนนะ" เคนรีบบอกเพราะไม่ไว้ใจฝีมือของพี่ชายนัก

"ไม่ต้องหรอกน่า! กินเสร็จแล้วค่อยไปก็ได้" แวนเนสรั้งแขนน้องชายไว้ทันที ดังนั้นเจอร์รี่กับเคนเลยกลายเป็นหนูทดลองสำหรับข้าวต้มรวมมิตรหม้อแรกในชีวิตของแวนเนส เจอร์รี่หยิบช้อนขึ้นแล้วเมียงมองไปทางเคนที่ถือช้อนอย่างอิดออดเช่นกัน

"ตักกินเข้าไปสิ! คนเล่นอยู่ได้!" แวนเนสเลยเอ็ดเข้าให้เมื่อเห็นพี่น้องไม่ยอมกินซักที ได้ยินดังนั้นสองพี่น้องจึงจำต้องตักข้าวต้มในชามขึ้นมากินแต่โดยดี

"เป็นงัย?" แวนเนสถามอย่างมีความหวังทันทีที่เห็นพี่ชายและน้องชายกินมื้อเช้าฝีมือเขาเข้าไปแล้ว เจอร์รี่ทำหน้าเจื่อนๆแต่ก็ฝืนกลืนลงคอไปอย่างยากเย็น ส่วนเคนนั้นทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะรสชาดนั้นมันบรรยายไม่ถูก

"ไม่อร่อยหรอ?" แวนเนสมีสีหน้าสลดลงเมื่อเห็นหน้าตาของพี่น้องทั้งคู่

"เอ่อ.....ก็พอใช้ได้....." พี่ใหญ่พูดแบบรักษาน้ำใจน้องทั้งๆที่ความเป็นจริงนั้นยังห่างไกลกับคำว่าพอใช้ได้อีกมากโข

"จริงหรอ?" สีหน้าแวนเนสดีขึ้นเล็กน้อยแล้วหันไปทางเคนที่กำลังกลืนข้าวคำแรกลงคอไปอย่างลำบากยากเย็น

"ก็ไม่เลวสำหรับครั้งแรก" เคนว่าแล้วรีบหันไปรินน้ำใส่แก้วดื่มตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว

"งั้นพวกนายก็กินให้หมดสิ ถ้าไม่พอข้างล่างยังเหลืออีกครึ่งหม้อเลยนะ" แวนเนสพูดด้วยน้ำเสียงดีใจ เจอร์รี่กับเคนหันไปยิ้มแหยๆให้กัน

"เอ่อ....แวนเนส.....แล้วนายไม่กินบ้างหรอ?" พี่ใหญ่ถามนำ แวนเนสได้ยินก็ส่ายหน้า

"พอดีเมื่อเช้าตอนที่ชั้นไปซื้อพวกเครื่องมาทำเนี่ย ชั้นแวะกินข้าวมันไก่ไปแล้ว" แวนเนสตอบ

"อ้าว! ทำไมไม่รอกินฝีมือตัวเองหละ?" เคนย้อนถาม

"ชั้นกลัวว่ามันจะไม่ได้เรื่องน่ะสิ แต่พอได้ยินพวกนายพูดแบบนี้แล้วก็ค่อยโล่งใจหน่อย" แวนเนสตอบพร้อมกับรอยยิ้มเหมือนกับเด็กได้ของถูกใจ

"ตอนทำนายได้ชิมบ้างหรือเปล่า?" เคนถามต่อ

"เปล่า.....ก็ชั้นใส่ทุกอย่างตามที่ตำราบอกแล้วหนิ จะชิมทำไมหละ?" แวนเนสย้อนถามงงๆ

"เฮ่อ!" พี่น้องสองคนถอนหายใจออกมาพร้อมกัน

"ไม่อร่อยใช่มั๊ย?" เห็นท่าทางของพี่น้องแล้วแวนเนสเลยพอจะเดาออก พี่ใหญ่ไม่ตอบแต่ตักข้าวต้มขึ้นมาป้อนใส่ปากให้น้องชิมฝีมือตัวเอง

"แหวะ!" ทันทีที่แวนเนสได้รับรู้ถึงรสชาดนั้นก็ลุกวิ่งเข้าไปบ้วนทิ้งในห้องน้ำทันที

"ฮ่าๆๆๆ!!!" เจอร์รี่กับเคนหัวเราะก๊ากออกมาทันที ซักครู่แวนเนสก็เดินหน้ามุ่ยออกมาแล้วหยิบชามข้าวต้มทั้งสองชามวางกระแทกลงบนถาด

"วันหลังบอกกันตรงๆก็ได้ไม่ต้องมาทำเป็นอ้อมค้อมหรอก!" พูดเสียงห้วนเล็กน้อยแล้วยกถาดทำท่าจะเดินออกไปแต่เคนรีบลุกไปขวางไว้ก่อน

"เดี๋ยวๆๆๆ จะเอาไปไหน?" แวนเนสมองหน้าน้องชายเล็กน้อย

"เอาไปเททิ้งน่ะสิ! ทำไม? จะกินต่อหรืองัย?" ถามเสียงกระตุกเล็กน้อย

"เททิ้งทำไมหละ? เสียดายของ เอามานี่ชั้นเอาลงไปปรุงใหม่เอง" เคนยกถาดในมือพี่ชายมาถือไว้แล้วเดินลงไปข้างล่าง

"หึๆๆๆ" เจอร์รี่หัวเราะเบาๆแล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า

"จะไปไหนหรอ?" แวนเนสมองตามร่างน้องชายจนหายลับตาไปแล้วก็หันมาถามพี่ชาย

"ไปโรงบาลน่ะสิ ไม่รู้ไจ่ไจ๋เป็นงัยมั่ง โทรไปเมื่อเช้าก็ไม่พูดตอบอะไรมาเลย" ว่าพลางหยิบเสื้อยืดสีขาวเรียบๆออกมา

"ไม่ต้องไปแล้ว แม่บอกว่ากำลังพาน้องกลับบ้านมาเนี่ย" แวนเนสว่า

"อ้าว! จะกลับแล้วหรอ? แต่น้องยังไม่หายดีเลยหนิ" พี่ใหญ่แย้งขึ้น

"ไจ่ไจ๋มันร้องจะกลับน่ะสิ พ่อกับแม่ก็เลยไม่อยากขัดใจ เดี๋ยวก็ถึงแล้วหละ" พูดยังไม่ทันขาดคำเสียงรถยนต์คนหรูก็เลี้ยวเข้ามาในบ้าน

"นั่นงัยมาพอดีเลย!" แวนเนสวิ่งไปดูที่หน้าต่างและผลุนผลันออกจากห้องไปทันที



- ชั้นล่างของบ้าน -

"เป็นงัยบ้างไจ่ไจ๋?" เคนวิ่งออกมารับน้องชายพร้อมกับเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง

"ไม่เป็นไรแล้วครับ" ไจ่ไจ๋ตอบด้วยน้ำเสียงเนือยๆ

"มาแล้วหรอไจ่ไจ๋?" แวนเนสที่เพิ่งวิ่งลงมาเดินเข้ามากอดคอน้องชายอย่างอารมณ์ดี

"ทำอะไรกันอยู่จ๊ะ?" แม่ถามแวนเนสยิ้มๆ

"ไม่ได้ทำอะไร" แวนเนสตอบแม่ยิ้มๆเช่นกัน

"ทานข้าวมาหรือยังครับ? ผมกำลังปรุงข้าวต้มรวมมิตรอยู่เลย" เคนเอ่ยถามพ่อแม่

"ปรุงอยู่หรอ?" พ่อเลิกคิ้วถามงงๆ เคนเหล่มองพี่ชายที่ยืนทำหน้ามุ่ยๆอยู่แล้วหัวเราะออกมา

"ครับ ปรุงอยู่" เคนตอบย้ำอีกครั้งหนึ่งแล้วเดินกลับเข้าไปในครัวอีกครั้ง แวนเนสพึมพำอะไรบางอย่างออกมาเบาๆแล้วเดินตามน้องชายเข้าไปด้วย ไจ่ไจ๋มองตามร่างพี่ชายทั้งสองคนรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเฉยๆเพราะท่าทีของพี่ชายทั้งคู่นั้นไม่มีแววโศกเศร้าหลงเหลืออยู่เลย

"จะไปนอนพักข้างบนมั๊ยจ๊ะ?" แม่หันมาถามลูกชายคนเล็กที่นั่งเม้มปากเล็กน้อย

"ไม่ครับ" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วเอนตัวพิงกับพนักโซฟา

"ดูหนังมั๊ยจ๊ะ? แม่เปิดให้" แม่เอ่ยถามอีก

"ไม่ครับ ผมอยากอยู่เงียบๆ" ไจ่ไจ๋บอกความประสงค์ของตัวเองแล้วหลับตาลง พ่อเดินไปสะกิดแม่แล้วชวนออกไปซื้อของข้างนอก เมื่อทุกคนออกไปหมดแล้วไจ่ไจ๋ก็ลืมตาขึ้นแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ เขานั่งนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินเข้ามา ไจ่ไจ๋เอี้ยวตัวไปมองแต่แล้วก็ต้องเบิกตากว้างกับบุคคลที่ส่งยิ้มมาให้เขาอย่างอ่อนโยน

"ไจ่ไจ๋....." พี่ใหญ่เรียกน้องอย่างดีใจแล้วสาวเท้าจะก้าวเข้ามาหา แต่ไจ่ไจ๋กลับรีบลุกผลุนผลันขึ้นแล้วถอยหลังหนีอย่างตกใจ ทำเอาพี่ใหญ่ถึงกับชะงักไป

"ไม่จริง" ไจ่ไจ๋เอามือขยี้ตาตัวเองพร้อมกับสะบัดหัวแรงๆเพราะคิดว่าตัวเองตาฝาด เจอร์รี่ทำหน้างงๆอยู่เพียงครู่ก็พอจะเข้าใจแล้วว่าเมื่อคืนที่เขาได้เข้าไปหาน้องชายนั้นน้องไม่รู้สึกตัวเลย เมื่อพบว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดไจ่ไจ๋ก็รีบวิ่งเข้าไปในครัวทันที

"เป็นอะไร?" แวนเนสเอ่ยถามไจ่ไจ๋ที่วิ่งหน้าตื่นเข้ามา ไจ่ไจ๋ไม่ตอบแต่รีบไปยืนเบียดแทรกตรงกลางระหว่างเคนกับแวนเนส

"ทำไมหรอไจ่ไจ๋?" เคนถามน้องอย่างงงๆเช่นกัน

"พี่กลางทำอะไรอยู่ผมช่วยมั๊ย?" ไจ่ไจ๋เอ่ยถามเสียงสั่นๆ ทำเอาพี่ชายสองคนต่างหันไปสบตากัน

"นายยังไม่หายดีนั่งเฉยๆดีกว่านะ" เคนแย้งขึ้น

"ผมอยากช่วย" ไจ่ไจ๋ยืนกรานสีหน้ายังตกใจอยู่ไม่หาย

"เอ่อ.....ความจริงมันไม่มีอะไรหรอก แต่ถ้านายอยากทำก็ช่วยล้างพวกจานชามพวกนี้ก็ได้" เคนยอมตามใจน้องชาย ไจ่ไจ๋ไม่ต่อรองอะไรทั้งสิ้นรีบเดินเข้าไปยืนล้างจานให้แต่โดยดี แต่ไม่วายเหลียวกลับไปมองข้างหลังอยู่บ่อยๆ

"เป็นอะไรของมันวะ?" แวนเนสกระซิบถามเคน

"ไม่รู้" เคนยักไหล่อย่างไม่เข้าใจเช่นกัน ซักพักเจอร์รี่ก็เดินเข้ามาในครัว

"เฮ้ย!" ไจ่ไจ๋สะดุ้งพร้อมกับอุทานออกมาแล้วรีบหันหลังกลับไปล้างจานโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นมาอีกเลย ท่าทางของน้องเล็กนั้นทำเอาพี่ชายทั้งสองคนต่างงงงวยแต่เจอร์รี่นั้นกลับยิ้มขำๆแล้วบุบใบ้บอกให้น้องรู้ว่าไจ่ไจ๋ยังไม่รู้เรื่องการกลับมาของเขาและทำท่ากำชับว่าอย่าเพิ่งบอกอีกด้วย ซึ่งแวนเนสกับเคนก็ร่วมมือด้วยเป็นอย่างดี

"จะขัดให้ลายมันหายไปเลยหรืองัย?" เคนเดินมาตบไหล่น้องชายพร้อมกับพูดหยอกไปด้วย ไจ่ไจ๋ไม่โต้ตอบอะไรทั้งนั้นได้แต่ก้มหน้างุดลงที่ซิงค์ล้างจาน

"อ้าว.....ดูมัน.....มานี่ๆๆ พี่ล้างเองดีกว่า นายไปนั่งไป" เคนว่าแล้วดันน้องชายออก ไจ่ไจ๋ยืนรีรอไม่กล้าหันหลังกลับไป

"ไจ่ไจ๋.....มานั่งนี่สิ" แวนเนสร้องเรียกน้องชายแล้วลุกไปจูงมือน้อง ไจ่ไจ๋หันกลับมาก็พบกับพี่ชายคนโตที่นั่งยิ้มให้เขาอยู่ที่โต๊ะกินข้าว ไจ่ไจ๋ขยับเข้าไปกอดแขนแวนเนสแน่น

"เป็นอะไร? มือเย็นเชียว?" แวนเนสโอบไหล่น้องชายแล้วจะพาเดินไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวแต่ไจ่ไจ๋ขืนตัวไว้เต็มที่

"ไจ่ไจ๋" แวนเนสเขย่าตัวน้องชายพร้อมกับร้องเรียก

"พี่รอง.....ที่โต๊ะกินข้าวพี่เห็นอะไรหรือเปล่า?" ไจ่ไจ๋เอ่ยถามพี่ชาย แวนเนสลอบยิ้มก่อนที่จะส่ายหน้าไปมา

"ไม่เห็นมีอะไรนี่" ได้ยินคำตอบนั้นไจ่ไจ๋ก็ถึงกับขนลุกซู่

"แล้วพี่กลางหละครับ?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายอีกคนบ้าง

"ไม่เห็นเหมือนกัน" เคนปฏิเสธเช่นเดียวกัน ไจ่ไจ๋ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

"ไม่เห็นอะไรเลยหรอ?" น้องเล็กน้ำตาคลอเบ้าเสียงสั่น จนเคนนึกสงสารเลยทำท่าจะบอกความจริงแต่เห็นพี่ใหญ่โบกมือห้ามแล้วทำสัญญาณเรียกให้เดินตามออกมา

"เดี๋ยวมานะ" เคนกระซิบบอกแวนเนสเบาๆแล้วเอามือขยี้หัวน้องชายที่ยืนกอดแขนพี่ชายคนรองพลางซุกหน้าเหมือนหนีอะไรบางอย่าง เพียงครู่เดียวเคนก็เดินกลับมา

"ไจ่ไจ๋.....นายยังไม่หายดีพี่ว่านายขึ้นไปนอนบนห้องดีกว่านะ" เคนบอกน้องชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

"ไม่เอา" น้องเล็กส่ายหัวดิกแล้วโผเข้าไปกอดเคนเอาไว้

"พี่พาขึ้นไป นะ....." เคนคะยั้นคะยอน้องชายอีก

"ไม่เอาๆๆๆ" น้องเล็กยังยืนยันคำเดิม

"เป็นอะไรไป? ทุกทีไม่งอแงแบบนี้นี่นา" แวนเนสเอ่ยถามน้องบ้าง

"ผมกลัว" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วมองไปที่โต๊ะกินข้าวอีกแต่คราวนี้เขาไม่เห็นพี่ชายคนโตแล้ว

"กลัวอะไร?" พี่ชายสองคนถามขึ้นพร้อมกันทั้งๆที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว

"เมื่อกี้.....ผมเห็นพี่ใหญ่....." ไจ่ไจ๋บอกพี่ชายทั้งสองคนเสียงแผ่ว เคนสบตากับแวนเนสอย่างลำบากใจในเวลาเช่นนี้เขาเองก็ไม่อยากโกหกน้องแต่เนื่องจากว่าเมื่อซักครู่พี่ใหญ่กำชับกำชาเขาว่าอย่าเพิ่งบอกอะไรน้องชายพร้อมกับให้พาน้องไปข้างบนเพื่อที่ว่าพี่ใหญ่จะได้เป็นคนพูดคุยเรื่องทั้งหมดกับน้องเอง

"นายคิดถึงพี่เขามากไปก็เลยตาฝาดน่ะสิ นอนพักซักหน่อยเดี๋ยวก็ดีขึ้น" เคนจำใจพูดเลี่ยงๆ

"ไม่ได้ตาฝาด เมื่อกี้ผมเห็นพี่ใหญ่ตั้งแต่ในห้องนั่งเล่นแล้ว" ไจ่ไจ๋ยืนกรานสีหน้ายังตื่นตระหนกอยู่ไม่น้อย

"ไม่เอาหน่า.....อย่าคิดมากสิ ปะ...พี่จะไปนอนเป็นเพื่อนนายเอง" เคนไม่รู้จะทำงัยเลยต้องบังคับน้องกลายๆด้วยการดึงมือน้องมาแล้วกึ่งลากกึ่งจูงพาขึ้นไปยังชั้นบน หลังจากเคนพาน้องขึ้นไปข้างบนแล้วพี่ใหญ่ก็เดินกลับเข้ามาในครัว แวนเนสเอี้ยวตัวกลับไปทางพี่ชายแล้วทำหน้ามุ่ยใส่

"เป็นอะไร?" เจอร์รี่เอ่ยถาม

"แกล้งน้องทำไม? ไม่สงสารมันหรอ?" แวนเนสต่อว่าพี่ชายกลายๆ

"สงสารสิ แต่นี่จะเป็นวิธีเดียวที่ชั้นจะมีโอกาสได้พูดคุยกับน้องเป็นเรื่องเป็นราวซักที" เจอร์รี่ให้เหตุผล

"ถ้าน้องมันโกรธชั้นด้วยนายต้องรับผิดชอบนะ" แวนเนสโยนความรับผิดไปให้พี่ชายคนเดียว

"เออๆๆๆ ชั้นต้องรับผิดชอบพวกนายทุกทีแหละน่า!" พี่ใหญ่ตอบรับอย่างเซ็งๆก่อนที่จะหยิบคุกกี้เข้าปากแล้วเดินตามน้องขึ้นไปบ้าง





 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2550 11:06:12 น.
Counter : 962 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  
 
 

loving_zai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




[Add loving_zai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com