Chapter 30

ตอนที่ 30

"เอ้าๆๆ!!! เลิกเล่นกันได้แล้ว!" พี่ใหญ่ร้องบอกเจ้าน้องชายจอมทะโมนทั้งสองคนที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่บนเตียง

"ทำเสร็จเร็วจังพี่ใหญ่" เมื่อดิ้นหลุดออกมาจากการเกาะกุมของพี่ชายคนรองแล้วไจ่ไจ๋ทำลุกไปหาพี่ใหญ่แทน

"พวกนายนี่อะไรกัน ไม่สบายแทนที่จะนอนพักกันเฉยๆยังจะเล่นกันเป็นเด็กๆอีก!" ต่อว่าเจ้าน้องชายตัวดีทั้งคู่แล้วดุนหลังไจ่ไจ๋ให้มานั่งลงที่เตียงส่วนตัวเองก็หันไปจัดการเอาช้อนใส่ลงในชามโจ๊กทั้งสองชาม

"ก็ไจ่ไจ๋มันเข้ามากวนชั้นหนิ" แวนเนสเถียงออกมา

"ผมกวนที่ไหน? พี่รองแหละหาเรื่องก่อน" ไจ่ไจ๋เถียงกลับ

"ยังจะเถียงกันอีกหรอ!?" พี่ใหญ่เอ็ดเข้าให้อีก แวนเนสกับไจ่ไจ๋จึงหันไปยิ้มให้กันแล้วสงบปากสงบคำแต่โดยดี

"เอ้า! กินกันซะแล้วจะได้กินยา" ยกชามโจ๊กออกมาส่งให้น้องชายทั้งคู่ แวนเนสกับไจ่ไจ๋เหลือบตามองกันไปมา

"ตักกินสิ! นั่งเฉยอยู่ได้!" พี่ใหญ่เร่งแล้วหันไปรินน้ำใส่แก้วเตรียมไว้ให้น้อง

"ก็คนมันป่วยอะนะ เรี่ยวแรงก็ไม่ค่อยจะมี" ไจ่ไจ๋เปรยขึ้นลอยๆ เจอร์รี่ได้ยินก็ชะงักหันมาทางน้องชายตัวแสบทั้งสอง

"เมื่อกี้พี่เห็นนายฟัดกันอยู่บนเตียงยังจะมาบอกไม่มีแรงอีกหรอ? อย่าอ้อนกันนักเลย" เจอร์รี่ตอกกลับ

"ก็หมดแรงตั้งแต่เมื่อกี้แล้วงัย" แวนเนสเสริมขึ้น

"นั่นสิ งั้น....ไม่ต้องกินก็แล้วกันเนอะพี่รอง" พูดจบไจ่ไจ๋ก็วางชามโจ๊กลงที่โต๊ะข้างเตียงแล้วไถลตัวลงนอน แวนเนสพยักหน้าเห็นด้วยแล้วทำแบบเดียวกันกับน้องชาย

"ไอ้พวกนี้หนิ! จะปล่อยให้พี่ว่างซักหน่อยไม่ได้เลยหรืองัย?" ต่อว่าน้องชายทั้งคู่แต่ก็ยกชามโจ๊กใส่ถาด

"ป้อนไจ่ไจ๋ไปก่อน ชั้นขอหลับซักงีบ" แวนเนสเกี่ยงเพราะเริ่มรู้สึกเพลียๆขึ้นมาแล้ว

"ไม่ต้อง ป้อนพร้อมกันนั่นแหละ เสร็จแล้วจะได้กินยาแล้วนอนซะทีเดียว" พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับยกถาดมาวางไว้บนตักตัวเอง

"ชักคิดถึงเสี้ยวเทียนขึ้นมาแล้วสิ" ประโยคนี้เจอร์รี่บ่นพึมพำกับตัวเองเพราะถ้าตอนนี้เคนอยู่ด้วยคงจะดีไม่น้อย

"บ่นอะไรครับ?" ไจ่ไจ๋ได้ยินไม่ถนัดรู้แต่ว่าพี่ชายบ่นจึงถามออกมา

"เปล่า! อะ....อ้าปาก!" ปฏิเสธเสร็จก็ป้อนโจ๊กให้น้องเล็ก เสร็จแล้วก็หันไปตักอีกชามมาป้อนแวนเนส

"กินทีละชามก็ได้นะพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋ว่า

"ไม่ได้! พี่รองมันไข้สูงกว่านาย ไม่รู้มีเชื้ออะไรอย่างอื่นอีกหรือเปล่า? เดี๋ยวนายจะพลอยติดมันกลับมาอีก" เจอร์รี่บอกเหตุผลน้อง

"พูดอย่างกับว่าชั้นเป็นตัวเชื้อโรค" แวนเนสว่าด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด พี่ใหญ่เลยยิ้มออกมาในที่สุด

"บอกให้ไปหาหมอก็ไม่ไป เดี๋ยวเป็นหนักกว่านี้ชั้นก็ซวยอีก!" ว่าพลางตักโจ๊กป้อนใส่ปากน้อง

"ไม่อยากทำก็ปล่อยชั้นไว้นี่แหละ! แฟนชั้นก็มียังงัยซะเขาก็ไม่ทิ้งชั้นหรอก!" แวนเนสจีบปากจีบคอพูด

"ฮึ! คิดหรอว่าแฟนนายเขาจะทนความทะเล้นทะโมนของนายได้เท่ากับชั้นน่ะหืม? ป่วยแล้วยังไม่เจียม!" ว่าประชดน้องชายเข้าให้

"โอ้ยพี่ใหญ่! คนเขาเป็นแฟนกันก็ต้องทนกันได้ทั้งนั้นแหละ จริงมั๊ยพี่รอง?" ไจ่ไจ๋รีบแก้ตัวแทนแวนเนส

"ถูกต้อง! เนี่ยแหละคนเขามีแฟนเหมือนกัน ไม่เหมือนบางคน......" แวนเนสยังพูดไม่ทันจบประโยคก็โดนพี่ชายตักโจ๊กยัดใส่ปากเสียก่อน

"กินเข้าไปเลย! พูดมากดีนัก! นี่ก็อีกคน!" ว่าพลางตักโจ๊กอีกชามยัดใส่ปากเจ้าน้องเล็กด้วย

"เฮ้ย! ห้ามคายออกมานะ!" พี่ใหญ่แหวใส่แวนเนสที่เอามือปิดปาก

"คายออกมาชั้นฟาดจริงๆด้วย! กลืนลงไป!" เจอร์รี่เงื้อนมือขึ้นขู่ แวนเนสทำหน้าพะอืดพะอมก่อนจะกลืนโจ๊กคำนั้นลงคออย่างลำบากยากเย็น เสร็จแล้วก็รีบหันไปคว้าแก้วน้ำมาดื่มตามลงไปจนหมดแก้ว

"เป็นอะไรหรอพี่รอง?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชาย

"มันมีเปลือกไข่อ่ะ" แวนเนสตอบ ไจ่ไจ๋ได้ยินก็หัวเราะพลอยทำเอาเจอร์รี่หัวเราะตามไปด้วย

"อ้าว! แล้วไม่บอก" แวนเนสค้อนใส่พี่ชายเสียหลายตลบ

"ก็ยัดเข้ามาเต็มปากจะบอกยังงัยหละ? เห็นๆอยู่ยังจะบังคับให้กลืนลงไปอีก!" ตวัดเสียงต่อว่าพี่ชาย

"โอ๋ๆๆๆ ขอโทษๆๆๆ ก็ชั้นรีบทำน่ะเลยไม่ทันดู ไม่นึกว่าเปลือกมันจะลงไปด้วย" พี่ใหญ่แก้ตัวกลายๆ

"ไม่กินแล้ว!" แวนเนสพูดอย่างงอนๆแล้วนอนลงทันที

"ไม่กินก็ไม่กิน" พี่ใหญ่ตามใจเพราะน้องก็กินเข้าไปได้ปริมาณมากพอสมควรแล้ว

"ผมก็ไม่เอาแล้วนะพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋ได้ทีผสมโรงด้วยเพราะไม่รู้สึกอยากอาหารเลย เจอร์รี่มองโจ๊กในชามของน้องเล็กแล้วพยักหน้ายอมด้วยเช่นกัน

"งั้นก็กินยากันซะ จะได้นอนพักกันซักที" พูดจบพี่ใหญ่ก็ยกถาดไปวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงแล้วหยิบยามาส่งให้น้องๆ

"ชั้นว่านายก็น่าจะกินยาดักไว้ด้วยนะ เดี๋ยวจะติดไข้ไปอีกคน" แวนเนสรับยามาแล้วพูดกับพี่ชายอย่างเป็นการเป็นงาน เจอร์รี่ยิ้มรับความห่วงใยของน้อง

"ได้....นายก็นอนได้แล้ว....." เมื่อแวนเนสล้มตัวนอนเจอร์รี่ก็ดึงผ้าห่มมาห่มให้

"ราตรีสวัสดิ์ครับพี่รอง" ไจ่ไจ๋บอกพี่ชายเบาๆ

"อืม....ฝันดีนะไจ่ไจ๋......" แวนเนสตอบรับก่อนที่จะหลับตาลง

"ไป! นายก็ต้องกลับไปนอนเหมือนกัน ไอ้ตัวยุ่ง!" เมื่อตรวจดูความเรียบร้อยของแวนเนสเสร็จแล้วพี่ใหญ่ก็หันมาบอกเจ้าน้องเล็ก

"ไปที่ห้องก่อนเดี๋ยวพี่เอานี่ลงไปเก็บแล้วจะเข้าไปหา" ว่าพลางลูบหัวน้องแล้วพยักหน้าให้ ไจ่ไจ๋จึงกลับห้องไปแต่โดยดี ส่วนเจอร์รี่เมื่อเก็บของเสร็จแล้วก็ขึ้นมาหาน้องเล็กที่ห้อง

"คุยโทรศัพท์ทั้งปี" เจอร์รี่บ่นอุบอิบกับตัวเองเบาๆหลังจากที่เดินกลับมาเข้าหาน้องแล้วเห็นน้องกำลังคุยโทรศัพท์อยู่

"พี่ใหญ่มาแล้ว พี่กลางจะคุยด้วยมั๊ย?" เมื่อเห็นพี่ชายเดินเข้ามาไจ่ไจ๋ก็ถามคู่สนทนาทางโทรศัพท์

"พี่ใหญ่ครับ พี่กลางโทรมาแหนะ" ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่จึงค่อยยิ้มออกเพราะตอนแรกนึกว่าน้องคุยโทรศัพท์กับแฟน

"งัยเสี้ยวเทียน?" เขาเอ่ยทักทายน้องชายคนกลาง

"เห็นไจ่ไจ๋บอกว่ามันเป็นไข้แล้วตอนนี้แวนเนสก็ติดไข้มันมาด้วยอีกคนหรอ?" ย้อนถามพี่ชายกลับมา

"อืม.....ชั้นเพิ่งให้แวนเนสกินยาแล้วนอนพักไปเมื่อกี้นี้เอง ดันมาป่วยพร้อมกันอีก" ประโยคหลังบ่นอุบเบาๆ

"นายเองก็ต้องกินยาดักไว้ด้วยนะ ขลุกอยู่กับพวกมันแบบนี้เดี๋ยวจะติดมาด้วยอีกคน" เคนเตือนพี่ชายด้วยความห่วงใย

"รู้แล้วน่า! ชั้นกินยาดักไปแล้ว ว่าแต่เราน่ะจะกลับบ้านเมื่อไหร่นะ?" หันมาถามน้องชายบ้าง

"วันมะรืนครับ" เคนตอบแล้วพูดหยอกพี่ชายต่อ

"คิดถึงชั้นหละสิ" พี่ใหญ่ยิ้มกับคำหยอกเย้านั้น

"อืม.....คิดถึงที่สุดเลย" เขาตอบแล้วก็ได้ยินเสียงน้องหัวเราะกลับมา

"เดี๋ยวชั้นต้องวางแล้วหละ พอดีนัดเพื่อนมาสังสรรที่ห้อง" เคนว่าพร้อมกับพูดตัดบท

"สังสรรทั้งปี! อย่าดื่มให้มันมากนักนะ" พูดกำชับน้องชายอย่างเคยชิน

"ทราบแล้วครับ" เคนตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะ

"ชั้นขอราตรีสวัสดิ์กับน้องหน่อยสิ" ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็ส่งโทรศัพท์กลับคืนมาให้น้องเล็ก

"พี่กลางเขาจะราตรีสวัสดิ์ด้วยน่ะ" เจอร์รี่บอก

"พี่กลางจะนอนแล้วหรอ?" ไจ่ไจ๋รับมาก่อนที่จะถามพี่ชายกลับไป

"พี่ยังไม่นอนแต่นายน่ะต้องนอนได้แล้ว ราตรีสวัสดิ์นะไอ้ตัวยุ่ง" เคนพูดกับไจ่ไจ๋

"ราตรีสวัสดิ์ครับ พรุ่งนี้โทรมาคุยอีกนะ" ไจ่ไจ๋ตอบรับคำพี่ชายพร้อมกับสั่งกำชับอีกครั้ง

"ได้สิ ไป....วางสายแล้วไปนอนได้แล้ว" เคนรับคำแล้วไล่น้องชายอีกครั้ง ไจ่ไจ๋จึงวางสายแล้ววางโทรศัพท์ไว้ข้างตัว

"ปิดเครื่องแล้วนอนพักได้แล้ว" เจอร์รี่ว่าพร้อมกับทำท่าจะหยิบโทรศัพท์น้องมาแต่ไจ่ไจ๋กลับคว้าไว้ก่อน

"ปิดทำไมหละพี่ใหญ่ เผื่อใครโทรมา" ไจ่ไจ๋แย้งแล้วเอาโทรศัพท์หลบพี่ชาย

"ใครโทรมาก็ช่าง! เราน่ะไม่สบายควรนอนพักผ่อนให้มากๆไม่ใช่เอาแต่โทรศัพท์!" พี่ใหญ่เลยเอ็ดเข้าให้และได้โอกาสสั่งสอนน้องชายต่อ

"นายจะมีฟงมีแฟนอะไรพี่ไม่ว่านะ แต่ทุกอย่างควรจะให้อยู่ในขอบเขตที่พอดี อย่างเรื่องคุยโทรศัพท์น่ะก็ไม่ใช่ตะบี้ตะบันโทรหากันทั้งวันทั้งคืนแบบนี้" น้องเล็กได้ยินก็เบ้ปากแต่ไม่ได้เถียงอะไรออกมา

"รู้หรือเปล่าว่าค่าโทรศัพท์เดือนที่แล้วของนายน่ะเกือบพันเชียวนะ เพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัวเลย" พี่ใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"ทุกวันก็เจอหน้ากันที่มหาลัยอยู่แล้ว กลับบ้านมายังจะมีเรื่องคุยอะไรอีกนักหนา? ถ้าขืนนายยังไม่ปรับพฤติกรรมนี้อีกแล้วหละก็เห็นทีพี่จะต้องมีมาตรการลงโทษบ้างหละนะ" น้องเล็กได้ยินก็ทำหน้างอเพราะคิดว่าพี่ชายไม่ชอบใจที่เขามีแฟน

"ผมก็ไม่ได้คุยอะไรไร้สาระซักหน่อย บางทีเราก็ติวหนังสือกัน บางทีหลิงหลิงก็โทรมาให้ผมช่วยสอนการบ้าน แบบนี้มันไม่มีประโยชน์หรืองัย?" ไจ่ไจ๋เถียงพี่ชาย

"ถ้านายคุยเพราะเรื่องเรียนจริงพี่ไม่เคยว่าเลยนะ แต่บางครั้งที่พี่เข้ามาเห็นนายน่ะหลับคาโทรศัพท์ทั้งๆที่ยังไม่วางสายอีกต่างหาก แบบนี้มันติวหนังสือกันยังงัย?" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็เงียบกริบเถียงอะไรไม่ออก

"ฟังให้ดีนะ ต่อจากนี้ไปนายต้องจำกัดค่าโทรศัพท์ของตัวเองไม่ให้มากเกินกว่าเดือนที่แล้ว หากว่าเกินส่วนที่เหลือนายต้องรับผิดชอบเอง" พี่ใหญ่พูดกับน้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"ต่อไปนี้ผมรับผิดชอบค่าโทรศัพท์ของผมทั้งหมดเองก็ได้" ไจ่ไจ๋พูดกับพี่ชายหน้าตึง

"ไจ่ไจ๋ พี่ไม่ได้รู้สึกเสียดายเงินที่ต้องจ่ายค่าโทรศัพท์ให้นายเลยนะ ต่อให้ค่าโทรศัพท์ของนายจะเดือนละเป็นหมื่นเป็นแสนพี่ก็จ่ายให้ได้ถ้าหากว่านายใช้มันในทางที่เป็นประโยชน์ แต่ที่พี่ต้องจำกัดค่าโทรศัพท์ของนายก็เพราะพี่ต้องการฝึกให้นายรู้จักความพอดีรู้จักจัดวินัยในตัวเอง แต่ถ้านายแปลความหมายความหวังดีของพี่ไปในทางอื่นแล้วหละก็ พี่เองก็คงไม่มีอะไรจะพูดอีก" พูดจบพี่ใหญ่ก็ลุกขึ้นยืน

"นอนได้แล้ว พี่เองก็จะไปนอนเหมือนกัน" พูดทิ้งท้ายไว้แล้วเดินออกไปเสียเฉยๆโดยไม่ได้ห่มผ้าให้หรือพูดราตรีสวัสดิ์กับน้องแต่อย่างใด ปล่อยให้ไจ่ไจ๋ได้แต่สะอึกกับคำพูดและท่าทางของพี่ชาย



- ตอนเช้า -

"ไปไหนของมันนะ" เจอร์รี่พึมพำกับตัวเองเมื่อเดินเข้ามาดูน้องเล็กที่ห้องแต่ก็ไม่พบตัวน้อง เขาเดินหาน้องทั่วบ้านแล้วแต่ก็ไม่เจอ ดังนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาน้อง

"ไจ่ไจ๋ นายอยู่ไหน?" เมื่อน้องรับสายเจอร์รี่ก็ถามออกไปทันที

"อยู่มหาลัย" น้องชายตอบกลับมาเสียงเนือยๆ

"นายไปมหาลัยทำไม? นายยังไม่หายดีเลยนะ" เจอร์รี่เอ็ดเข้าให้

"ไม่เป็นไรหรอก ผมหายแล้ว ผมจะเข้าเรียนแล้วแค่นี้นะครับ" พูดจบสายโทรศัพท์ก็ถูกตัดไป เจอร์รี่ถอนหายใจดังเฮือกรู้ดีว่าน้องคงไม่พอใจเรื่องที่เขาพูดเมื่อคืนนี้

"เหนื่อยใจจริงๆ" บ่นกับตัวเองแล้วเดินเลยไปที่ห้องนอนของแวนเนส เจอร์รี่เดินไปที่เตียงโดยที่แวนเนสยังนอนหลับไม่รู้เรื่อง เขาจึงเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากน้องอย่างแผ่วเบา

"ไข้ยังไม่ลดเลย" พูดกับตัวเองอย่างกังวล

"แวนเนส.....แวนเนสครับ.....ตื่นมากินข้าวกินยาก่อนเร็ว......" ตบแก้มน้องเบาๆพร้อมกับร้องเรียก แวนเนสปรือตาขึ้นมามองพี่ชายแล้วครางเบาๆในลำคอ

"กี่โมงแล้วเจอร์รี่?" เอ่ยถามพี่ชายเสียงแหบแห้ง

"จะแปดโมงแล้ว" เจอร์รี่ตอบแล้วช่วยพยุงน้องให้ลุกขึ้นนั่ง

"ชั้นต้องไปถ่ายแบบตอนเก้าโมง เดี๋ยวเสี่ยวจือคงมาแล้ว" บอกพี่ชายด้วยสีหน้ายังงัวเงียไม่หาย

"จะไปได้ยังงัยกัน? นายยังเป็นไข้อยู่เลยนะ" พี่ใหญ่ท้วงติง

"ไม่เป็นไรหรอก ได้นอนพักทั้งคืนก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว" แวนเนสตอบเพื่อให้พี่ชายสบายใจทั้งๆที่เขาเองก็ยังรู้สึกมึนๆอยู่และที่สำคัญเขาเองก็ไม่อยากเสียงานด้วย

"ไม่ได้ ชั้นไม่ให้ไป" พี่ใหญ่ปฏิเสธแล้วพูดต่อ

"ชั้นจะโทรหาเสี่ยวจือแล้วพูดกับเขาเอง" แวนเนสดึงแขนพี่ชายไว้ก่อน

"ให้ชั้นไปเถอะนะ ชั้นไม่เป็นไรหรอก นายบอกเองไม่ใช่หรอว่าชั้นเข้ามาอยู่ในวงการนี้แล้วก็ต้องมีความเป็นมืออาชีพ แล้วนี่นายจะให้ชั้นขาดงานทั้งๆที่ยังสามารถทำได้เชียวหรอ?" แวนเนสเอาคำพูดของพี่ชายมาอ้าง

"ยังจะมาย้อนชั้นอีกหรอ? สภาพแบบนี้นายจะไปถ่ายแบบได้ยังงัย? ยืนขึ้นมาทีก็แทบจะไม่มีแรงอยู่แล้ว" เจอร์รี่ดุน้องเพราะไม่อยากให้น้องไปทำงานด้วยเป็นห่วงน้องชาย

"แต่ว่าชั้นจำเป็นต้องไปนะ งานทุกอย่างก็รับปากเขาไว้หมดแล้ว นายวางใจได้ถ้าหากชั้นไม่ไหวแล้วชั้นจะบอกเสี่ยวจือทันทีเลย" แวนเนสว่าพลางขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ เจอร์รี่ถอนหายใจกับความดื้อรั้นของน้องชายแต่ละคน ผ่านไปซักพักแวนเนสก็เดินกลับออกมา

"จะดื้อไปให้ได้เลยใช่มั๊ย?" พี่ใหญ่ลุกขึ้นแล้วสาวเท้าเข้าไปหาน้องชายที่กำลังหวีผมอยู่หน้ากระจก

"ยังงัยก็ต้องไป" แวนเนสตอบแล้วหวีผมต่อ

"เฮ่อ!" เจอร์รี่ถอนหายใจ แวนเนสมองสีหน้าของพี่ชายจากในกระจกก็รู้ว่าพี่ชายเป็นห่วงเขาจึงวางหวีลงแล้วหันไปกอดเอวพี่ชายอย่างรู้งาน

"ไม่ต้องมาอ้อนเลย พี่ไม่อยากพูดกับเด็กดื้อ" พี่ใหญ่แกะมือน้องชายออก

"ชั้นเปล่าดื้อนะ แต่มันจำเป็นจริงๆนี่นา ถ้าไม่ติดงานชั้นก็ไม่ไปไหนหรอก" แวนเนสทำเสียงอ่อยๆ

"เสร็จงานแล้วจะรีบกลับทันทีเลย จะไม่เถลไถลจะไม่แวะที่ไหนเลยด้วย" พูดต่อแล้วเดินไปกอดพี่ชายอีก

"เฮ่อ! เอางั้นก็ได้ แต่ถ้าอยากจะให้ชั้นวางใจนายต้องให้ชั้นไปกับนายด้วยนะ" พี่ใหญ่ยอมน้องในที่สุดแต่ไม่วายมีข้อต่อรองด้วย

"จะไปด้วยหรอ? แล้วนายไม่ทำงานหรืองัย?" เงยหน้าขึ้นถามพี่ชาย

"ไม่ไป วันนี้ไม่มีแก่ใจทำอะไรแล้ว เจอแต่น้องดื้อทั้งสองคนเลย" ได้ยินดังนั้นแวนเนสก็ผละตัวออกมาเล็กน้อย

"ไจ่ไจ๋ก็ไปเรียนหรอ?" ถามต่ออย่างพอจะรู้

"รายนั้นมันไปเรียนเพราะประชดชั้นน่ะสิ" เจอร์รี่ตอบพลางทำหน้าเบื่อๆ

"ทำไมหรอ? นายไปขัดใจอะไรมันหละสิ" แวนเนสพูดดักอย่างพอจะรู้แล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อแต่งตัว

"ก็ชั้นคุยกับน้องตามที่นายแนะนำนั่นแหละ" ได้ยินดังนั้นแวนเนสก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

"คุยตามที่ชั้นแนะนำหรอ?" แวนเนสทวนคำพูดของพี่ชาย

"เรื่องค่าโทรศัพท์ของมันงัยหละ แต่แทนที่มันจะฟังดันไม่เข้าใจแล้วประชดว่าต่อไปมันจะรับผิดชอบค่าโทรศัพท์ของมันเองทั้งหมด จริงๆเลยเด็กคนนี้" พี่ใหญ่เล่าให้น้องฟังแล้วไม่วายบ่นอุบออกมาอีก

"เอาน่า! ไว้ชั้นจะช่วยพูดให้อีกแรงก็แล้วกัน จะไปด้วยกันนายก็ไปเปลี่ยนชุดสิ ไม่งั้นเดี๋ยวคนอื่นจะนึกว่านายเป็นเด็กรับใช้ของชั้นนะ" แวนเนสพูดแหย่แล้วมองพี่ชายตั้งแต่หัวจรดเท้า เจอร์รี่ได้ยินเอื้อมมือไปดึงหูน้องอย่างหมั่นไส้

"ชั้นน่ะเป็นยิ่งกว่าคนใช้ของนายอีก!" กัดฟันต่อว่าเจ้าน้องชายตัวดี

"เสร็จแล้วก็ลงไปรอข้างล่าง เดี๋ยวกินข้าวแล้วกินยาก่อนไปด้วย" สั่งกำชับก่อนที่จะเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องตัวเอง แวนเนสอมยิ้มพลางมองตามพี่ชายแต่หลังจากพี่ชายออกไปแล้วเขาก็นิ่วหน้า

"โอ้ย.....ทำไมปวดหัวแบบนี้วะ....." บ่นกับตัวเองพร้อมกับเอามือนวดที่ขมับตัวเองเบาๆ แล้วก็ฝืนตัวเองจัดข้าวของเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน เมื่อลงมาถึงเขาก็พบว่าพี่ชายนั่งรออยู่ก่อนแล้วโดยมีเสี่ยวจือที่เพิ่งมาถึงนั่งคุยด้วยอยู่

"แวนเนส เห็นเจอร์รี่บอกว่าเธอไม่สบาย ไหวหรือเปล่า?" เสี่ยวจือเห็นแวนเนสลงมาก็เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง

"ไหวครับ ผมไม่เป็นไรเท่าไหร่" แวนเนสตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้บางๆ

"เอาเถอะมีพี่ชายไปดูแลอย่างใกล้ชิดแบบนี้คงหายห่วงได้หน่อยหละนะ" เสี่ยวจือพูดยิ้มๆแต่ก็สังเกตเห็นว่าสีหน้าของแวนเนสดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่

"เสี่ยวจือครับ ไปกินข้าวกัน แวนเนส ไปกินข้าว" เจอร์รี่พูดตัดบทโดยการชวนผู้จัดการของน้องและสั่งให้น้องไปกินข้าว

"แวนเนส กินให้หมด" พี่ใหญ่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าน้องกินไปแค่นิดเดียวก็รวบช้อนส้อมแล้ว

"ชั้นไม่ค่อยหิว กินไม่ลง" แวนเนสพูดเสียงอ่อยๆ แต่เมื่อเห็นสายบังคับของพี่ชายแล้วเขาก็จำใจตักข้าวกินต่อ

"ชั้นจะไปเอายามาให้" เจอร์รี่ว่าแล้วลุกขึ้นไปหยิบยา เมื่อพี่ชายออกไปแวนเนสก็รีบวิ่งไปที่ซิงค์ล้างจานแล้วอาเจียนออกมาทันที

"แวนเนส" เสี่ยวจือลุกตามไปดูอย่างตกใจ

"เสี่ยวจือคุณอย่าบอกเจอร์รี่นะ" แวนเนสเอาน้ำลูบหน้าพร้อมกับหันมาบอกผู้จัดการ

"ดูท่าเธอคงไม่ไหวแล้วหละมั้ง?" เสี่ยวจือเองก็ดูจะมีสีหน้ากังวล

"ไหวครับ เพียงแต่ผมกินไม่ค่อยลงเท่านั้นเอง" แวนเนสว่าแล้วเดินไปหยิบจานข้าวตัวเองมาเททิ้ง

"อย่าบอกด้วยนะว่าผมเทข้าวที่เหลือทิ้งน่ะ" ย้ำคำกับเสี่ยวจืออีกครั้ง ในขณะนั้นเจอร์รี่ก็เดินกลับเข้ามาพอดี

"กินข้าวหมดแล้วหรอ?" ถามพร้อมกับมองน้องชายอย่างจับผิด

"หมดแล้วครับ" แวนเนสก้มหน้าตอบแบบไม่เต็มเสียงนัก

"หมดแล้วหละ" เสี่ยวจือหันไปพยักหน้าให้เจอร์รี่เพื่อช่วยยืนยันอีกแรง

"งั้นก็มากินยา" แวนเนสเดินไปหยิบยาจากมือพี่ชายขึ้นมากิน จากนั้นทั้งสามคนก็พากันไปที่รถ

"เธอไปนั่งกับแวนเนสเถอะ" เสี่ยวจือบอกให้เจอร์รี่ไปนั่งข้างหลังกับแวนเนสเพื่อจะได้ดูแลน้อง เจอร์รี่พยักหน้าแล้วก้าวตามไปนั่งกับน้องชาย

"มานี่มา....." เมื่อขึ้นมานั่งได้เจอร์รี่ก็รั้งตัวน้องมาใกล้ๆ แวนเนสรู้สึกเพลียๆจึงซบหัวลงที่ไหล่พี่ชายแล้วหลับตาลง

"นายตัวร้อนกว่าเมื่อเช้าอีกนะ" พี่ใหญ่ว่าพลางเอามือแตะลงที่แก้มน้องชาย

"ไหวหรือเปล่าเนี่ย? หืม?" ก้มหน้าลงถามน้องอย่างเป็นห่วง

"ไหวสิ ไม่เป็นอะไรหรอก ก็นายให้ชั้นกินยามันก็ง่วงน่ะสิ" แวนเนสปฏิเสธแล้วโยนความผิดให้พี่ชายหน้าตาเฉย

"เดี๋ยวเถอะ! ก็เราไม่สบายแบบนี้ไม่กินยาได้หรอ? พูดจาน่าตีจริงๆ" เอ็ดน้องชายเสียงดุๆ

"อื้ม! พูดเล่นเอง ขอชั้นงีบหน่อยนะ" แวนเนสหอมแก้มพี่ชายเบาๆแล้วซบหน้าลงที่ไหล่พี่ชายตามเดิม เจอร์รี่เหลือบมองอาการของน้องอย่างเป็นห่วงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

"เดี๋ยวชั้นจะแจ้งให้ทีมงานรู้ว่าแวนเนสไม่สบายอยู่ อาจจะขอให้เขาแบ่งถ่ายเป็นสองวัน จะได้รีบกลับมาพักผ่อน" เสี่ยวจือพูดกับเจอร์รี่แบบเป็นการเป็นงาน

"ถ้าได้แบบนั้นก็ดี ผมจะได้พาน้องไปหาหมอด้วย" เจอร์รี่เห็นด้วยกับความคิดของเสี่ยวจือ แล้วทั้งคู่ก็นั่งเงียบๆเพราะไม่ต้องการรบกวนแวนเนสที่งีบหลับอยู่

"แวนเนส ถึงแล้ว....." พี่ใหญ่เรียกพร้อมกับตบแก้มน้องเบาๆ แวนเนสลืมตาขึ้นมารู้สึกหนักอึ้งไปทั้งตัวหัวหมุนติ้วไปหมด

"ไป เข้าไปข้างในกันดีกว่า" เสี่ยวจือพยักหน้าให้สองพี่น้อง เมื่อเข้ามาแล้วแวนเนสก็แยกไปแต่งตัวแต่งหน้าส่วนเจอร์รี่ก็นั่งรออยู่ด้านนอกแต่ก็อดที่จะมองเข้าไปอยู่บ่อยๆไม่ได้เพราะเป็นห่วงน้อง

"ตามมาคุมน้องชายหรอคะ?" เสียงทักทายนั้นทำให้เจอร์รี่ละสายตาจากน้องชายเงยหน้าขึ้นมามอง

"ชั้นเป็นเจ้าของนิตยสารที่ติดต่อขอแวนเนสมาถ่ายแบบค่ะ" เธอแนะนำตัว

"อ้อ! ครับ สวัสดีครับ" เจอร์รี่รีบลุกขึ้นพร้อมกับก้มหัวให้อย่างสุภาพ

"เห็นคุณเสี่ยวจือบอกว่าคุณเป็นพี่ชายของแวนเนสเขาน่ะค่ะ" พูดกับเจอร์รี่พร้อมกับรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร

"ครับ ผมเป็นพี่ชายเขา พอดีวันนี้เขาไม่ค่อยสบาย ผมเลยเป็นห่วงก็เลยมาด้วยเพื่อความแน่ใจครับ" เจอร์รี่บอกกับเธอพร้อมกับยิ้มให้เช่นกัน

"เสี่ยวจือบอกแล้วหละค่ะ ชั้นนับถือความเป็นมืออาชีพของแวนเนสมากเลยค่ะ ขนาดไม่สบายยังไม่ยกเลิกงาน ปกติถ้าเป็นดาราดังๆส่วนใหญ่ถ้าป่วยขึ้นมาแบบนี้ก็เบี้ยวเราซะเฉยๆ" เจอร์รี่ยิ้มรับกับคำพูดนั้น

"ความจริงผมเองก็ไม่อยากให้น้องมา แต่แวนเนสเขาไม่ยอมเขาบอกว่ารับปากไว้เป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วยังงัยก็ต้องมา ผมเลยไม่อยากขัดใจเขาน่ะครับ" เจอร์รี่บอกกล่าวให้คู่สนทนาฟังเช่นกัน ก่อนที่จะทันได้พูดอะไรกันต่อแวนเนสก็แต่งตัวเสร็จพอดีเขาเดินออกมาหาพี่ชายพร้อมกับอวดชุดที่ใส่อยู่

"เป็นงัยบ้าง? ชั้นเท่ห์มั๊ย?" เอ่ยถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทั้งที่ข้างในรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักแต่เพราะไม่อยากให้พี่ชายเป็นห่วงเขาเลยแกล้งทำตัวร่าเริงเพื่อให้พี่ชายวางใจ

"ไหนดูซิ.....อืม.....เท่ห์มากเลย!" เจอร์รี่หันกลับมาสนใจน้องชายทันที เขามองน้องชายตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมกับรอยยิ้มอย่างพอใจ

"หล่อมากค่ะแวนเนส" แวนเนสหันไปทางต้นเสียงแล้วก้มหัวรับ

"ขอบคุณครับ" เขาเอ่ยขอบคุณ

"งั้นเราเริ่มงานกันเลยดีกว่า" เธอพูดตัดบทแล้วนำทางแวนเนสไปถ่ายภาพ ตลอดเวลาที่ทำงานนั้นแวนเนสก็ทำตัวร่าเริงและคุยเล่นกับทีมงานเป็นอย่างดี ทำให้บรรยากาศในการทำงานนั้นค่อนข้างสนุกสนาน จนเมื่อถึงเวลาพักแวนเนสก็เดินมาหาพี่ชายอีก

"งัย? ไหวหรือเปล่า?" พี่ใหญ่รีบจับให้น้องมานั่งลงเมื่อเห็นสีหน้าน้องชายดูซีดๆ

"ชั้นหิวน้ำจัง" แวนเนสพูดกับพี่ชาย

"ชั้นเอาให้นะ" พูดจบก็รีบไปหาน้ำมาให้น้องชายดื่ม

"แวนเนส ไหวหรือเปล่า? ชั้นว่าสีหน้านายดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยนะ ตัวก็ร้อนมากด้วย" เจอร์รี่เอามือแตะตามเนื้อตามตัวน้องชายพร้อมกับพูดอย่างเป็นห่วง

"เหลืออีกไม่กี่เซ็ตก็เสร็จแล้วหละ ชั้นไหวน่า" แวนเนสยืนกรานคำเดิม พี่ใหญ่เลยได้แต่ถอนใจ ในเวลานั้นเสี่ยวจือก็เอาข้าวมาให้สองพี่น้องกินพอดี

"กินข้าวกันก่อน แวนเนส เธออยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า? อาหารพวกนี้มันย่อยยากไปมั๊ย?" เสี่ยวจือเองก็เป็นห่วงแวนเนสเช่นกัน

"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมกินได้" แวนเนสว่าแล้วรับข้าวกล่องมาจากเสี่ยวจือ

"เธอก็กินกับน้องสิ" เสี่ยวจือยื่นข้าวอีกกล่องหนึ่งให้เจอร์รี่ แต่เจอร์รี่ตั้งท่าจะปฏิเสธ

"ถ้านายออกไปหาอะไรกินข้างนอกอีกชั้นก็จะไม่กินข้าวเลย" แวนเนสพูดขู่พี่ชายขึ้นมาเพราะรู้ว่าพี่ชายเกรงใจ

"ขอบคุณครับ" เจอร์รี่จึงต้องเปลี่ยนคำพูดใหม่ แล้วแกะข้าวกล่องกินกับน้องชาย

"อะ....กินเยอะๆจะได้มีแรง....." พี่ใหญ่ตักข้าวในส่วนของตัวเองแบ่งให้น้อง

"หูยยย....ไม่เอาอ่ะ นายเอาคืนไปเลย ชั้นกินไม่ค่อยลง" แวนเนสโอดครวญพร้อมกับจะตักคืนให้พี่ชายแต่เจอร์รี่ส่ายหน้าแล้วใช้สายตาบังคับให้น้องกิน แวนเนสถอนหายใจเบาๆก่อนที่จะตักข้าวใส่ปากอย่างจำใจ

"มัวแต่นั่งละเลียดอยู่นั่นแหละ วันนี้จะหมดมั๊ย?" หลังจากเจอร์รี่กินข้าวหมดไปนานแล้วเขาก็หันมาต่อว่าน้องชายที่นั่งเขี่ยข้าวเล่นอยู่

"ชั้นกินไม่ลง ขอร้องหละ.....อย่าบังคับชั้นเลย....." แวนเนสพูดเสียงอ่อยๆ

"ฝืนกินหน่อยสิ ไม่งั้นจะเอาแรงที่ไหนมาทำงานต่อ?" พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง รู้ดีว่าน้องกำลังป่วยเลยไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไรนักแต่ครั้นจะตามใจน้องก็ไม่ได้อีก

"ชั้นกินไปบ้างแล้ว" แวนเนสเงยหน้าขึ้นมาแย้งพี่ชาย

"ยังไม่เห็นจะพร่องลงไปเลยซักนิด ในเมื่อไม่ยอมตักกินเองดีๆก็มานี่เลย" พี่ใหญ่ดึงกล่องข้าวออกมาจากมือน้องชาย

"อ้าปาก!" ตักข้าวขึ้นมาจ่อที่ปากน้องชายแล้วพูดด้วยน้ำเสียงบังคับ

"ไม่เอา ชั้นกินไม่ลง" แวนเนสเบือนหน้าหนีเพราะได้กลิ่นอาหารแล้วรู้สึกไม่ค่อยดี เจอร์รี่จับหน้าน้องให้หันกลับมา

"จะอ้าปากแล้วกินข้าวดีๆหรือจะต้องให้ชั้นบีบปากแล้วเอาข้าวยัดเข้าไป?" ขู่น้องด้วยน้ำเสียงดุดัน แวนเนสทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แต่ก็ต้องยอมอ้าปากกินข้าวแต่โดยดีเพราะรู้ดีว่าหากต้องให้พี่ชายบังคับแล้วเขาจะต้องเจอกับอะไรบ้าง

"เคี้ยวให้ละเอียดแล้วกลืนลงไป!" พูดต่อด้วยน้ำเสียงดุๆ แวนเนสทำหน้าพะอืดพะอมแต่ก็ฝืนกลืนลงคอ

"ขอกินน้ำ" แวนเนสบอกพี่ชายแต่เจอร์รี่กลับส่ายหน้า

"กินข้าวให้หมดก่อนแล้วค่อยกินน้ำ มัวแต่กินข้าวคำน้ำคำได้ยังงัยกัน?" ว่าแล้วก็ตักข้าวป้อนน้องอีก แวนเนสฝืนใจกินด้วยความทรมานรู้สึกร่างกายปั่นป่วนไปหมด

"พอก่อนได้มั๊ย?" แวนเนสผลักมือพี่ชายที่จะป้อนข้าวออกเบาๆหลังจากกินไปได้เพียงสองสามคำ

"ไม่ได้! อ้าปากเดี๋ยวนี้!" พี่ใหญ่ทำเสียงดุ แวนเนสก้มหน้าหนีเพราะรู้สึกอยากจะอาเจียน

"อยากโดนบีบปากใช่มั๊ย?" เสียงเข้มขึ้นตามลำดับแล้วเมื่อเห็นน้องยังเฉยเจอร์รี่ก็ใช้มือบีบปากน้องแล้วตักข้าวยัดเข้าปาก เล่นเอาแวนเนสถึงกับน้ำตาร่วง

"กินข้าวแค่นี้มันจะตายหรืองัย? หา!!!" เอ็ดน้องออกมาอีกเพราะไม่คิดว่าน้องจะมีอาการพะอืดพะอมร่วมด้วย แวนเนสกลืนข้าวคำนั้นลงคอทั้งน้ำตา เขารู้สึกทรมานเป็นอย่างมากเพราะตอนนี้ข้าวที่กลืนกินลงไปนั้นมันมาจุกอยู่ที่คอทำให้อยากจะอาเจียนออกมาเต็มที จนเมื่อกินไปได้อีกเพียงคำเดียวแวนเนสก็ลุกพรวดแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว

"แวนเนส!" เจอร์รี่อุทานแล้วมองตามน้องอย่างงงๆ

"เป็นอะไรหรอ?" เสี่ยวจือที่เห็นแวนเนสวิ่งไปเดินเข้ามาถามเจอร์รี่

"ไม่รู้สิครับ กินข้าวอยู่ดีๆก็วิ่งไปห้องน้ำ" เสี่ยวจือได้ยินดังนั้นก็เริ่มกังวลใจเช่นกัน

"คงไปอาเจียนหละมั้ง? เมื่อเช้ากินข้าวเข้าไปก็อาเจียนออกมาหมด" เสี่ยวจือพูดออกมาอย่างลืมตัว จนเมื่อเห็นเจอร์รี่จ้องหน้าอยู่ก็ได้แต่ทำหน้าเจื่อนๆ

"ขอโทษทีที่ไม่ได้บอก แวนเนสเขาไม่อยากให้เธอเป็นห่วงน่ะ" เอ่ยขอโทษเจอร์รี่ที่ช่วยแวนเนสปิดบัง

"ผมกะแล้วเชียวเมื่อเช้าแวนเนสเขาดูท่าทางแปลกๆ เจ้านี่ไม่เคยโกหกผมได้เลยซักครั้ง" พูดจบเจอร์รี่ก็รีบเดินตามไปดูน้องชาย เมื่อแวนเนสออกมาจากห้องน้ำเห็นพี่ชายกับเสี่ยวจือยืนอยู่หน้าห้องน้ำก็มีสีหน้าตกใจเล็กน้อย

"เป็นอะไร?" เจอร์รี่เอ่ยถาม

"เปล่า ชั้นแค่มาฉี่เฉยๆ" แวนเนสปฏิเสแต่หลบตาพี่ชาย

"อย่ามาโกหกชั้น เสี่ยวจือบอกชั้นแล้วว่าเมื่อเช้านายกินข้าวแล้วก็อาเจียนออกมาหมด" แวนเนสได้ยินดังนั้นก็เปลี่ยนสายตาไปทางผู้จัดการส่วนตัว

"เจอร์รี่เป็นห่วงเธอมากนะ ชั้นเองก็เหมือนกัน ตอนนี้ดูท่าทางเธอไม่ดีเอามากๆเลยนะ" เสี่ยวจือพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล

"ผมไม่เป็นไร" แวนเนสยังคงยืนกรานคำเดิม

"ทำไมนายถึงดื้อแบบนี้! เห็นๆอยู่ว่านายน่ะไม่สบายมากยังจะบอกว่าไม่เป็นไรอีก! พอได้แล้ว! ชั้นไม่ยอมให้นายทำงานต่ออีกนายต้องไปหาหมอ!" พี่ใหญ่ยื่นคำขาดแล้วดึงแขนน้องเดินออกมาเพื่อที่จะบอกทีมงาน

"เจอร์รี่! นายอย่าทำแบบนี้ได้มั๊ย? ตัวชั้นเป็นยังงัยชั้นรู้ดีอยู่หรอก นายอย่ามาทำเป็นรู้ดีกว่าชั้นหน่อยเลย ปล่อย! ชั้นจะทำงานต่อ!" พูดจบแวนเนสก็สะบัดตัวจนหลุดจากพี่ชายแล้วเดินไปบอกทีมงานว่าเขาพร้อมจะทำงานต่อแล้ว ทำให้เจอร์รี่ได้แต่มองตามอย่างโมโห

"เธอใจเย็นๆก่อนนะ ชั้นจะบอกทีมงานให้เอง" เสี่ยวจือหันมาพูดปลอบเจอร์รี่

"ไม่ต้องบอกแล้วหละครับ ปล่อยมันเลย อยากทำงานก็ให้มันทำไป ผมจะไม่ห้ามมันอีกแล้ว บอกมันด้วยว่าผมกลับก่อน" พูดจบเจอร์รี่ก็เดินไปหยิบข้าวของของตัวเอง

"เจอร์รี่ ไม่เอาน่า....อย่าเพิ่งโมโหเลยนะ แวนเนสอาจจะไม่ได้เป็นอะไรมากจริงๆก็ได้ ไม่งั้นมันจะฝืนตัวเอง......" เสี่ยวจือยังพูดไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายขึ้นมาก่อนทั้งเสี่ยวจือและเจอร์รี่หันไปทางต้นเสียงพร้อมกัน

"ตายแล้ว! แวนเนส!!" สิ้นเสียงนั้นเจอร์รี่ก็รีบวิ่งเข้าไปหาน้องชายทันทีแล้วเขาก็เห็นน้องเป็นลมล้มพับอยู่บนฉากที่ใช้ถ่ายภาพ

"ใครก็ได้เรียกรถพยาบาลให้ผมที!!" ร้องตะโกนบอกพร้อมกับช้อนร่างน้องชายขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน





Create Date : 25 พฤษภาคม 2550
Last Update : 25 พฤษภาคม 2550 13:24:23 น. 0 comments
Counter : 1224 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

loving_zai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




[Add loving_zai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com