Nice To Meet You
Fiction : Home Sweet Home
Fiction : Home Sweet Home II
My Home Sweet Home
Chapter 106
Chapter 105
Chapter 104
Chapter 103
Chapter 102
Chapter 101
Chapter 100
Chapter 99
Chapter 98
Chapter 97
Chapter 96
Chapter 95
Chapter 94
Chapter 93
Chapter 92
Chapter 91
Chapter 90
Chapter 89
Chapter 88
Chapter 87
Chapter 86
Chapter 85
Chapter 84
Chapter 83
Chapter 82
Chapter 81
Chapter 80
Chapter 79
Chapter 78
Chapter 77
Chapter 76
Chapter 75
Chapter 74
Chapter 73
Chapter 72
Chapter 71
Chapter 70
Chapter 69
Chapter 68
Chapter 67
Chapter 66
Chapter 65
Chapter 64
Chapter 63
Chapter 62
Chapter 61
Chapter 60
Chapter 59
Chapter 58
Chapter 57
Chapter 56
Chapter 55
Chapter 54
Chapter 53
Chapter 52
Chapter 51
Chapter 50
Chapter 49
Chapter 48
Chapter 47
Chapter 46
Chapter 45
Chapter 44
Chapter 43
Chapter 42
Chapter 41
Chapter 40
Chapter 39
Chapter 38
Chapter 37
Chapter 36
Chapter 35
Chapter 34
Chapter 33
Chapter 32
Chapter 31
Chapter 30
Chapter 29
Chapter 28
Chapter 27
Chapter 26
Chapter 25
Chapter 24
Chapter 23
Chapter 22
Chapter 21
Chapter 20
Chapter 19
Chapter 18
Chapter 17
Chapter 16
Chapter 15
Chapter 14
Chapter 13
Chapter 12
Chapter 11
Chapter 10
Chapter 9
Chapter 8
Chapter 7
Chapter 6
Chapter 5
Chapter 4
Chapter 3
Chapter 2
Chapter 1
Chapter 42
ตอนที่ 42
"ทำไมกลับดึกจัง?" ทันทีที่เจอร์รี่ก้าวขาเข้าบ้านเสียงแวนเนสก็บ่นขึ้นมาในทันใด
"ก็อยู่เคลียร์งานที่บริษัทน่ะสิ" ตอบน้องชายพร้อมกับเอามือบีบที่ต้นคอตัวเองเพื่อไล่ความเมื่อยล้า
"ช่วงนี้งานยุ่งมากหรอ?" ถามพี่ชายกลับไปอีก
"ก็ยุ่งเกือบตลอดแหละ แต่ตอนนี้เจ้าไจ๋ไม่อยู่บ้านชั้นก็เลยอยู่เคลียร์งานที่บริษัทให้เสร็จไปเลยทีเดียวจะได้ไม่ต้องขนกลับมาทำที่บ้าน" เจอร์รี่ตอบพร้อมกับขยายความให้น้องฟัง แวนเนสลอบถอนหายใจ
"เป็นอะไร? ถอนหายใจทำไม?" เมื่อเห็นท่าทางของน้องแล้วเจอร์รี่ก็ถามอย่างสงสัย
"เปล่า ไม่ได้เป็นไร" แวนเนสปฏิเสธพร้อมกับปั้นยิ้มให้พี่ชายทั้งที่จริงๆแล้วเขาเองก็รู้สึกเหงาๆเพราะตอนนี้เป็นช่วงที่เขาได้หยุดพักแต่กลับไม่มีใครอยู่บ้านเลย
"แล้วนี่ทำไมยังไม่ขึ้นนอนอีก?" ถามน้องต่อเพราะเห็นว่าตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว
"กำลังจะไป" ตอบเสร็จก็ลุกขึ้นบิดขี้เกียจซ้ายทีขวาที
"วันนี้ได้โทรหาน้องบ้างมั๊ย?" หันไปถามพี่ชายต่ออีก
"ไจ่ไจ๋มันเพิ่งโทรมาเมื่อตอนหัวค่ำบอกว่าวันนี้เสี้ยวเทียนชวนมันไปว่ายน้ำเล่น เห็นบอกว่าเหนื่อยเลยเข้านอนเร็วหน่อยน่ะ" เล่าให้น้องฟังแล้วพยักหน้าไปทางบันได
"ไป.....ขึ้นไปนอนได้แล้ว......" บอกให้น้องรีบไปนอนแต่แวนเนสกลับเดินมากอดเอวพี่ชาย
"ไม่ต้องอ้อนเลย วันนี้ชั้นเหนื่อยไม่มีอารมณ์จะเล่นด้วยแล้ว" ว่าอย่างพอจะรู้ว่าน้องจะมาอ้อนเขา
"นอนด้วยคนนะ" ขอพี่ชายด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ พี่ใหญ่มองหน้าละห้อยของเจ้าน้องชายตัวดีก่อนที่จะบีบจมูกน้องเบาๆ
"ถ้าเข้าไปแล้วนอนเลยน่ะได้ แต่ถ้าหากจะชวนคุยชั้นเตะส่งกลับห้องเลยนะ" กัดฟันพูดกับเจ้าน้องชายขี้อ้อน
"รับรองว่าไม่ชวนคุย" แวนเนสรับปากแข็งขัน
"งั้นก็ไปช่วยปิดบ้านก่อน" พูดจบก็เดินเข้าไปสำรวจฟืนไฟในครัวส่วนแวนเนสก็เดินไปล็อกประตูบ้าน จากนั้นก็เดินตามพี่ชายขึ้นมาบนห้องแต่ยังไม่ยอมนอนนั่งรอจนพี่ชายอาบน้ำเสร็จ
"น้องไม่อยู่กันบ้านก็เงียบลงไปเยอะเลยเนอะ" เอ่ยกับพี่ชายพร้อมกับเหยียดแขนบิดขี้เกียจก่อนที่จะล้มตัวลงนอน เจอร์รี่ยิ้มบางๆก่อนที่จะหยิบผ้าห่มมาห่มให้น้องชายแล้วค่อยเอนตัวนอนลงข้างน้องบ้าง
"ปกติก่อนนอนจะต้องมีเจ้าไจ๋มาอ้อนมาคุยจ้อให้ฟัง พอมันไม่อยู่แล้วนายรู้สึกเหมือนขาดอะไรบ้างหรือเปล่า?" ถามพี่ชายต่ออีก
"อืม.....เหมือนกับว่ายังทำกิจวัตรประจำวันไม่ครบ" ตอบน้องชายยิ้มๆ
"ชั้นว่าแล้วนายต้องคิดถึงน้องแหงๆ" พี่ใหญ่หันหน้ามาทางคนพูด
"แล้วเราไม่คิดถึงน้องหรืองัย?" ย้อนถามกลับไปบ้าง
"ก็คิดถึงแหละ แต่มันไม่มาเจ๊าะแจ๊ะกับชั้นมากเท่านายก็เลยไม่เท่าไหร่" แวนเนสตอบแล้วพลิกตัวหันมาทางพี่ชายแล้วเปลี่ยนเรื่องคุย
"งั้นช่วงนี้นายก็เลยจะอยู่ทำงานที่บริษัทให้เสร็จทุกวันเลยใช่มั๊ย?" เจอร์รี่ยักคิ้วให้น้องแทนคำตอบ แวนเนสลอบถอนใจออกมาเบาๆเพราะใจจริงแล้วอยากให้พี่ชายกลับบ้านเร็วๆเพื่อที่จะได้มาอยู่เป็นเพื่อนเขาเพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่เขาได้หยุดงานพอดี
"ถอนหายใจแบบนี้หมายความว่างัย?" เอานิ้วจิ้มที่แก้มน้องชายเบาๆพร้อมกับย้อนถามไปด้วย
"ชั้นถอนหายใจตอนไหน?" แวนเนสรีบปฏิเสธเพราะรู้ว่าพูดไปก็จะทำให้พี่ชายต้องคอยห่วงเขาจนต้องหอบงานกลับมาทำที่บ้านอีก
"ก็เมื่อกี้ชั้นเห็นนี่" พี่ชายพูดยืนยัน
"นายน่ะท่าจะประสาทคนถอนหายใจก็ต้องมีความหมายด้วยหรืองัย?" เถียงพี่ชายข้างๆคูๆ เจอร์รี่ยิ้มเล็กน้อยเพราะพอจะรู้สาเหตุที่น้องอยากจะอ้อนเขา
"พรุ่งนี้หลังชั้นเลิกงานเราไปหาอะไรกินข้างนอกดีมั๊ย?" แวนเนสได้ยินก็มีสีหน้าดีใจ
"พูดจริงๆนะ" ย้ำคำพี่ชายอย่างกระตือรือร้น
"ชั้นจะหลอกนายทำไมหละ?" รับคำน้องยิ้มๆก่อนที่จะเอื้อมมือไปบีบจมูกน้องชาย
"ก่อนขึ้นมานอนชั้นบอกว่ายังงัย? ห้ามชวนคุยใช่มั๊ย?" ต่อว่าเจ้าน้องชายตัวดีแบบไม่จริงจัง
"ชั้นเริ่มชวนคุยก่อนหรอ?" ถามกลับพี่ชายด้วยสีหน้าซื่อๆ
"กวนประสาท!" เอ็ดน้องเสียงดุเล็กน้อยก่อนที่จะหันไปปิดโคมไฟข้างเตียง
"พรุ่งนี้ชั้นจะไปช่วยกลอเรียที่ร้านแล้วบ่ายแก่ๆจะเข้าไปหาที่บริษัทนะ นายจะได้ไม่ต้องมารับชั้นอีก" บอกกล่าวกับพี่ชายเอาไว้
"ตามใจ" พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับอ้าปากหาวเพราะง่วงเต็มที
"แล้วพรุ่งนี้เรากินอะไรที่ไหนกันดีหละ?" แวนเนสยังคุยไม่เลิก
"ค่อยว่ากันพรุ่งนี้เถอะ ชั้นง่วงจนตาจะปิดอยู่แล้ว" พูดจบก็อ้าปากหาวอีกครั้ง
"แหม.....ก็ต้องคิดไว้ก่อนสิ จะได้ไม่เสียเวลา" แวนเนสพูดแย้งแล้วเอาศอกกระทุ้งแขนพี่ชายเบาๆ
"ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้นแหละ หลับตานอนได้แล้ว" ว่าเจ้าน้องชายจอมยุ่งแล้วพลิกตัวนอนหันหลังให้
"กินราเมนกันดีมั๊ย?" แวนเนสยังตามรังควานพี่ชายอยู่อีก
"แวนเนส! ถ้าพูดขึ้นมาอีกครั้งหละก็กลับไปนอนที่ห้องเลยนะ!" ทำเสียงดุเจ้าน้องชายตัวดี
"โธ่! ก็ชั้นยังไม่ง่วงหนิ คุยเป็นเพื่อนกันก่อนสิ" ว่าพลางขยับเขย่าตัวพี่ชายไปด้วย
"ชั้นเหนื่อยแล้วก็ง่วงจะตายอยู่แล้วนายยังจะคุยบ้าอะไรอีก!" คราวนี้พลิกตัวกลับมาพร้อมกับสีหน้ายุ่งๆ
"บอกดีๆก็ได้ไม่เห็นต้องดุเลย" บ่นอุบเบาๆด้วยสีหน้าจ๋อยๆ
"บอกดีๆตั้งกี่เที่ยวแล้วเราฟังหรือเปล่า?" ไม่พูดเปล่าแต่เอื้อมมือไปดึงหูเจ้าคนช่างกวนด้วย
"โอ้ยๆๆๆๆๆ......ไม่พูดแล้วๆๆๆๆ......" แวนเนสร้องครวญครางพลางเอามือลูบหูตัวเองไปด้วย
"แค่นี้ต้องลงมือกันด้วย ดุเป็นบ้าเลย" บ่นอุบอิบกับตัวเองเบาๆ
"ยังไม่เลิกบ่นอีกหรอ?" เลื่อนมือลงมาหยิกที่พุงน้องชายอีก แวนเนสทำหน้าเบ้พร้อมกับจับมือพี่ชายออก
"หลับตานอนเดี๋ยวนี้เลย!" สั่งด้วยน้ำเสียงดุๆเพราะตอนนี้เขาง่วงเต็มทีแล้ว แวนเนสรีบหลับตาลงทันทีเพราะรู้ว่าพี่ชายเริ่มหงุดหงิดแล้ว พี่ใหญ่ลอบถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนที่จะกระชับผ้าห่มให้น้อง
"กู๊ดไนท์....." แวนเนสพูดพึมพำเสียงแผ่วทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ พี่ใหญ่เห็นแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา
"กู๊ดไนท์....ไอ้ตัวยุ่ง....." พูดตอบกลับน้องชายก่อนที่จะขยับเข้าไปกอดน้องเอาไว้แล้วหลับตาลงด้วยเช่นกัน
- วันต่อมาที่บริษัท -
"เฮ้ยแวนเนส!" เสียงทักทายนั้นทำให้แวนเนสต้องหันหลังกลับไปทางต้นเสียงจนเมื่อเห็นบรรดาเพื่อนที่เคยร่วมงานร้องเรียกเขาก็ยิ้มอย่างร่าเริง
"งัยวะ! คิดถึงพวกนายจัง!" แวนเนสเดินรี่เข้าไปจับไม้จับมือเพื่อนฝูงอย่างดีใจ
"พวกชั้นก็ทำงานอยู่นี่ตลอดถ้านายคิดถึงจริงทำไมไม่แวะมาหาหละ?" เพื่อนพูดเป็นเชิงแขวะแต่ไม่ได้จริงจังนัก
"ก็ชั้นมีงานต้องทำเหมือนกันหนิ เนี่ย....เพิ่งได้หยุดช่วงนี้เอง" แวนเนสแก้ตัวก่อนที่จะถามสารทุกข์สุขดิบของเพื่อนๆ เขาคุยกับเพื่อนอยู่พักหนึ่งก็ถามหาพี่ชาย
"เห็นเจอร์รี่มั๊ยอ่ะ? ชั้นไปดูที่ห้องทำงานไม่เห็นอยู่เลย" ถามไถ่เอาจากเพื่อนๆ
"ผู้จัดการออกไปตั้งแต่บ่ายแล้ว เห็นว่าลูกค้ารายใหญ่มีปัญหาเรื่องสินค้าผู้จัดการเลยออกไปดูเอง" ได้ยินแวนเนสก็หน้ามุ่ยลงเล็กน้อย
"ไม่เห็นบอกกันซักคำ" บ่นพึมพำอยู่คนเดียวก่อนจะยิ้มให้รับเมื่อเพื่อนๆบอกว่าใกล้เวลาจะเลิกงานแล้ว
"โอเค.....งั้นไว้ว่างๆเรานัดไปกินข้าวกันนะ" แวนเนสพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะร่ำลาเพื่อนฝูงแล้วเดินกลับไปนั่งรอเจอร์รี่ในห้องทำงาน จนเมื่อรอได้พักใหญ่ๆก็ไม่มีทีท่าว่าพี่ชายจะกลับมาดังนั้นเขาจึงโทรไปหา
"อะไรวะ! ปิดเครื่องซะอย่างงั้น!" มองโทรศัพท์ในมือสีหน้ามุ่ยสนิทก่อนที่จะถอนหายใจดังเฮือกแล้วเปลี่ยนไปโทรหาน้องชายบ้าง
"ครับพี่รอง" เสียงไจ่ไจ๋ตอบรับเจื้อยแจ้วอย่าแจ่มใส
"ทำอะไรอยู่?" แวนเนสถามน้องชายกลับไป
"อยู่ในฟิตเนท กำลังออกกำลังกายอยู่ เดี๋ยวกลับไปผมจะมีซิกส์แพ็คเหมือนพี่รองแล้ว" แวนเนสหัวเราะเมื่อได้ยินคำคุยของน้องชาย
"นึกยังงัยไปออกกำลังกาย? เวลาพี่ชวนไม่เห็นนายอยากจะไปเลย" แวนเนสย้อนถามน้องต่อ
"ไม่ออกไม่ไหวอ่ะพี่รอง ไม่งั้นกลับไปผมอ้วนแข่งกับพี่กลางแน่ๆ เพราะพี่กลางเขาซื้อบัตรอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ให้ผมเกือบทุกมื้อ แล้วผมน่ะก็รู้จักคุณค่าของเงินใช่มั๊ย? เลยกินแบบซะคุ้มเงินของพี่กลางทุกสตางค์เลยแหละ" น้องเล็กเล่าให้เขาฟังอย่างติดตลก
"ไอ้บ้า! เล่นยัดเอาๆเดี๋ยวก็ท้องแตกตายหรอก เพลาๆมั่งไอ้น้อง" แวนเนสเองก็เตือนน้องชายไปด้วย
"โธ่พี่รอง! ก็พี่กลางบอกเองว่าอยากให้ผมมาหาประสบการณ์ผมก็เลยต้องกินให้ครบทุกอย่างน่ะสิ แล้วพี่ต้องมาเห็นว่าอาหารแต่ละอย่างเนี่ยน่ากินขนาดไหน? พูดแล้วก็อยากจะให้ถึงมื้อเย็นเร็วๆจัง" แวนเนสยิ้มได้ทุกทีที่ได้คุยกับเจ้าน้องชายคนนี้
"พี่กลางเขาให้นายไปหาประสบการณ์ชีวิตไม่ใช่ให้ไปกินแหลกแบบนั้น นายเองก็อย่ายัดเข้าไปจนจุกหละไม่งั้นนอนปวดท้องแล้วไม่ต้องโทรมาร้องแงๆให้ฟังเลยนะ" อดไม่ได้ที่จะเตือนน้องอีก
"ถึงจะจุกก็ยอมครับงานนี้ เพราะอาหารอร่อยทุกอย่างเลยจริงๆแถมมีให้เลือกเยอะแยะอีกด้วย ทั้งอาหารไทย จีน ญี่ปุ่น ฝรั่ง อ้อ! พี่กลางให้ผมดื่มไวน์ด้วย รสชาดดีเหมือนกันนะเนี่ย" ได้ยินน้องสาธยายถึงของกินแวนเนสก็เริ่มหิวขึ้นมาตะหงิดๆ
"นี่ๆๆๆ ให้มันน้อยๆหน่อยนะ ไอ้พี่กลางของนายน่ะตัวดีนักเชียวนำทางนายตลอด" ต่อว่าน้องชายเข้าให้
"ถ้าพี่ใหญ่รู้หละก็กลับมาพี่กลางมันโดนตีหัวแตกแน่ นายเองก็จะโดนเทศน์หลายตลบเหมือนกัน" ยกเอาพี่ชายคนโตขึ้นมาขู่
"แหม.....พี่รองก็อย่าฟ้องสิ ผมน่ะไว้ใจพี่ที่สุดเลยนะถึงยอมเล่าให้ฟังทุกอย่าง" น้ำเสียงน้องชายฟังดูออดอ้อนเต็มที่
"พี่ไม่ฟ้องหรอกแต่ที่พี่พูดก็เพราะเป็นห่วง" แวนเนสตอบโต้น้องชาย
"ครับ ผมเข้าใจว่าพี่เป็นห่วง และผมรับรองเลยนะว่าจะไม่ก่อปัญหาอะไรขึ้นมาเด็ดขาด" เสียงน้องเล็กยืนกรานหนักแน่น
"ได้ยินนายพูดแบบนี้พี่ค่อยวางใจหน่อย" แวนเนสเริ่มยิ้มออกอีกครั้ง
"แล้วนี่พี่รองทำอะไรอยู่? พี่ใหญ่กลับบ้านหรือยัง?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายกลับมาบ้าง คำถามนั้นทำเอาแวนเนสหน้ามุ่ยลงอีก
"พี่อยู่บริษัทน่ะสิ แต่พี่ใหญ่ไปหาลูกค้า" ตอบด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ
"โดนพี่ใหญ่บังคับให้มาช่วยงานหรอ?" ถามกลับมาด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะ
"เปล่า....แต่มันนัดพี่กินข้าวเย็นพอดีวันนี้พี่เข้าไปช่วยพี่กลอเรียที่ร้านเสร็จแล้วเลยแวะเข้ามา ถ้ารู้ว่ามันจะไปพบลูกค้าแบบนี้พี่ไม่มาหรอกไปกินข้าวกับแฟนดีกว่า" พูดด้วยน้ำเสียงติดงอนเล็กน้อย
"อ้าว! เป็นงั้นไป" เสียงน้องชายหัวเราะมาตามสาย
"พี่รองครับ ผมมีสายซ้อนเข้ามาน่ะ พี่ถือสายรอเดี๋ยวนะ" เมื่อได้ยินน้องพูดเช่นนั้นแวนเนสจึงตัดบทสนทนา
"ไม่ต้องหรอก พี่แค่โทรมาถามดูเฉยๆ ไม่มีอะไรแล้ว งั้นแค่นี้แล้วกัน" เขารอฟังน้องพูดตอบกลับมาก่อนที่จะวางสายไป
"จะหกโมงอยู่แล้วทำไมยังไม่กลับมาอีก แล้ววันนี้ชั้นจะได้กินข้าวเย็นมั๊ยเนี่ย?" แวนเนสมองไปที่นาฬิกาพลางบ่นอุบก่อนที่จะไถลตัวลงนอนที่โซฟานั้นแล้วผล็อยหลับไป มาตื่นอีกทีก็ตอนได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
"สวัสดีครับ" แวนเนสตอบรับโดยไม่ได้ดูเบอร์ที่เรียกเข้าเพราะกำลังงัวเงียอยู่
"แวนเนส วันนี้ชั้นไปกินข้าวกับนายไม่ได้แล้ว ขอโทษด้วยนะ" เสียงพี่ชายพูดมาตามสาย
"งั้นหรอ?" แวนเนสมีสีหน้าผิดหวังก่อนที่จะยันตัวลุกขึ้นมานั่ง
"หาข้าวหาปลากินซะ แล้วไปเจอกันที่บ้าน โอเคนะ" พูดจบก็ตัดสายทิ้งโดยที่แวนเนสยังไม่ทันได้พูดอะไร
"โอเคกับนายคนเดียวน่ะสิ เฮ่อ!" บ่นอุบอิบก่อนจะเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า
"รู้งี้ไม่อยู่รอหรอก ดูสิ.....มาตั้งแต่ห้าโมงกว่า นี่มันเกือบจะสองทุ่มแล้วค่อยโทรมาบอก ไม่ให้รอไปจนถึงพรุ่งนี้เช้าเลยหละ!" บ่นต่ออย่างงอนๆแล้วหันไปเก็บของก่อนที่จะเดินไปเรียกแท็กซี่กลับบ้าน เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วเจ้าพีพีกับถางถางก็เดินมาล้อมหน้าล้อมหลังเขา แวนเนสจึงจัดหาอาหารให้พวกมันกิน
"ที่พวกแกต้องทนหิวนานไม่ใช่เพราะชั้นนะ พวกแกต้องโทษเจอร์รี่เพราะเขาหลอกให้ชั้นไปนั่งรอแกล่วอยู่ที่บริษัทไม่งั้นชั้นก็กลับบ้านเร็วแล้วพวกแกก็จะไม่ต้องทนหิวนานขนาดนี้" แวนเนสต่อว่าพี่ชายให้สัตว์เลี้ยงทั้งสองฟังก่อนที่จะลูบหัวพวกมันอย่างเอ็นดูแล้วเดินเข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำ
"ติ๊ดๆๆๆๆ" เสียงโทรศัพท์ของแวนเนสดังขึ้นมาเขาจึงรีบเดินมารับ
"สวัสดีครับ" เอ่ยทักทายออกไปเพราะเบอร์ที่เรียกเข้ามานั้นไม่คุ้นเท่าไรนัก
"ชั้นเองนะแวนเนส จำได้หรือเปล่า?" คำย้อนถามนั้นทำเอาแวนเนสหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะนึกออกว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนที่เคยมาหาเขาที่บ้าน
"อ้อ! จำได้สิ.....ว่างัยหละ?" เอ่ยถามกลับ
"ไม่ได้เจอกันตั้งนาน พรุ่งนี้มาเจอกันหน่อยมั๊ย?" คำชักชวนนั้นทำให้แวนเนสลังเลยังไม่กล้ารับปาก
"พรุ่งนี้ตอนกลางคืนหรอ?" ย้อนถามเพื่อนกลับไป
"ใช่! นายจะมาหรือเปล่า? หรือว่านายต้องขออนุญาตพี่ชายก่อน?" ประโยคหลังคล้ายจะล้อเลียน พอได้ยินเช่นนี้แวนเนสจึงตกปากรับคำไปทันที
"ไปสิ! จะให้เจอกันกี่โมง? แล้วเจอกันที่ไหน?" หลังจากรู้ชื่อร้านและเวลานัดแล้วเขาก็คุยกับเพื่อนอีกพักหนึ่งก่อนจะวางสายไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาเองก็ไม่ค่อยสบายใจนักเพราะถ้าพี่ชายรู้ว่าเขาจะไปกับเพื่อนกลุ่มนี้อีกคงโดนอบรมยกใหญ่แถมอาจจะไม่ได้ไปอีกต่างหาก
"ทำงัยได้? ก็นายอยากไม่มีเวลาว่างไปกับชั้นเองนี่นา......" คิดหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองก่อนที่จะเดินเข้าไปในครัวแล้วทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมานั่งกิน ในระหว่างที่เขากำลังนั่งกินอยู่นั้นพี่ชายก็กลับเข้ามา
"ทำไมกินของพวกนี้หละ?" เมื่อเห็นแวนเนสนั่งกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่เจอร์รี่เดินมาผลักหัวน้องพร้อมกับต่อว่าไปด้วย
"แล้วจะให้ชั้นกินอะไรหละ?" เงยหน้าขึ้นเถียงพี่ชายด้วยน้ำเสียงงอนๆ
"ก็ซื้อตามร้านข้างนอกมากินสิ" ตอบเสร็จก็มาทรุดตัวนั่งลงข้างน้องชาย
"ชั้นนั่งแท็กซี่จากร้านไปหานายที่บริษัทเพื่อที่จะได้ออกไปกินข้าวด้วยกัน แต่แล้วนายกลับหายไปโดยไม่บอกชั้นล่วงหน้าปล่อยให้รอแหงกอยู่ตั้งสามสี่ชั่วโมงแล้วโทรมาบอกแค่ว่าไปด้วยไม่ได้แล้ว ชั้นเลยต้องเรียกแท็กซี่จากบริษัทเพื่อที่จะนั่งกลับบ้าน" ได้ยินน้องพูดแบบนี้เจอร์รี่ก็อ้าปากจะแย้งแต่แวนเนสยกมือขึ้นห้ามไว้ก่อนที่จะสาธยายต่อ
"ทำไมชั้นถึงซื้ออะไรกินไม่ได้ หนึ่งเพราะนั่งแท็กซี่จะให้เขาแวะโน้นแวะนี่ก็เกรงใจเขาต้องมาจอดรถรอ สองเพราะอาชีพชั้นเลยไม่สะดวกที่จะนั่งรถเมล์และไม่สามารถจะแวะที่ไหนได้ตามใจชอบ เคลียร์มั๊ยครับ?" อธิบายจบก็ถามประชดพี่ชายไปด้วย พี่ใหญ่ได้ยินก็ถอนหายใจ
"โอเค.....ชั้นผิดเอง....." ยอมรับผิดอย่างไม่อยากจะเถียงกับน้อง
"พรุ่งนี้ชั้นสัญญาว่าจะไปกินข้าวด้วย ถ้าเคลียร์งานเสร็จเร็วชั้นอาจจะลาครึ่งวันแล้วกลับมาอยู่บ้านเป็นเพื่อนนายด้วย" ยื่นข้อเสนอให้น้องอย่างต้องการง้อเต็มที่
"ไม่ต้อง! พรุ่งนี้ชั้นมีนัดกับเพื่อนแล้ว" พูดจบแวนเนสก็ตักบะหมี่กินต่อ
"เพื่อนที่ไหน?" ถามซักไซร้น้องต่อทันที แวนเนสอ้ำอึ้งเล็กน้อย
"เพื่อนที่ไหนสำคัญด้วยหรอ?" ไม่ตอบคำถามนั้นแต่กลับกวนประสาทพี่ชายแทน
"งั้นก็ไม่ต้องไป แล้วถ้าพรุ่งนี้ชั้นกลับมาไม่เจอนายที่บ้านหละก็โดนหนักแน่!" เจอร์รี่ไม่ต่อล้อต่อเถียงด้วยแต่ยื่นคำขาดให้น้องทันที
"โหย.....นายอย่าเป็นอย่างนี้สิ....." แวนเนสเสียงอ่อยลงทันที
"แล้วชั้นถามดีๆจะกวนประสาททำไม!?" ทำเสียงเข้มขึ้นเล็กน้อย
"ใครควรจะโกรธใครมากกว่าเนี่ย?" แวนเนสบ่นอุบก่อนจะถอนหายใจดังเฮือก
"งั้นก็บอกมาสิว่าจะไปกับเพื่อนที่ไหน?" ตวัดเสียงใส่น้องชาย แวนเนสเริ่มลังเลว่าจะพูดความจริงกับพี่ชายดีหรือไม่
"แวนเนส!" เรียกชื่อน้องเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบ
"เพื่อนสมัยเรียนมหาลัย" แวนเนสตัดสินใจโกหกพี่ชายเพราะถ้าบอกว่าไปกับเพื่อนกลุ่มนั้นพี่ชายคงไม่ปล่อยให้เขาไปอย่างแน่นอน
"ไปกันกี่คน?" ถามน้องต่ออีก
"ก็ไปกันทั้งกลุ่มนั่นแหละ ทำไมนายต้องถามเซ้าซี้ด้วย?" ตอบเสร็จก็ต่อว่าพี่ชายด้วย
"แล้วทำไมนายถึงต้องตอบแบบขยักขย่อนด้วยหละ? ตอบออกมาทีเดียวไม่ได้หรืองัย?" พี่ใหญ่ตอกกลับเข้าให้บ้าง แวนเนสเอามือเกาหัวก่อนที่จะเฉไฉไปยกชามบะหมี่ขึ้นมากินต่อ
"แล้วจะไปทำอะไรกัน? ไปกี่โมงกลับกี่โมง?" ว่าแล้วก็ทวงคำตอบจากน้องอีก แวนเนสเริ่มหายใจไม่ทั่วท้องเพราะพี่ชายเล่นถามไม่เลิกซึ่งถ้ายังถูกถามซักแบบนี้ต่อไปเขาคงเผยพิรุธให้พี่ชายจับได้แน่นอน
"แวนเนส!" เรียกชื่อน้องอีกครั้ง
"ให้ชั้นกินเสร็จก่อนไม่ได้หรืองัย? ชั้นยังกินไม่อิ่มเลยนะ!" ต่อว่าพี่ชายเข้าให้ เจอร์รี่มองเจ้าน้องชายตัวดีก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วลุกขึ้นยืน
"ชั้นจะขึ้นไปอาบน้ำแล้วจะลงมาเอาคำตอบ" พูดจบก็เดินขึ้นห้องไปอาบน้ำ
"เฮ่อ! หรือจะบอกความจริงไปดีวะ?" แวนเนสพึมพำปรึกษาตัวเองอย่างไม่สบายใจนัก
"แต่ถ้าบอกก็ไม่ได้ไปแหงๆ" พูดแย้งกับความคิดที่ลังเลของตัวเอง ก่อนจะถอนหายใจออกมาอีก
"เอาวะ! ไหนๆก็พูดไปแล้วขืนพูดกลับไปกลับมาโดนมันเทศน์ยาวแน่ๆ เอ.....แต่ถ้าโดนจับได้เราไม่ตายเลยหรอ?" คิดได้เช่นนี้ก็เริ่มกลัวการถูกลงโทษอยู่เหมือนกัน
"แต่ถ้าไม่บอกมันก็ไม่รู้หรอก แล้วอีกอย่างแค่ไปกินข้าวกับเพื่อนมันไม่เห็นเสียหายตรงไหนเลยนี่" คิดได้เช่นนี้แล้วแวนเนสก็ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะไม่บอกความจริงกับพี่ชายว่าเขาจะไปกับใคร เมื่อได้คำตอบแล้วเขาก็กินบะหมี่ในชามจนหมดแล้วเป็นฝ่ายขึ้นไปหาพี่ชายเอง
"งัย? ไอ้ตัวดี!" เจอร์รี่กำลังยืนเช็ดหัวอยู่หน้ากระจกเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นน้องชายเดินเข้ามาในห้องเขา
"อาบน้ำเสร็จแล้วหรอ?" แวนเนสเดินเข้าไปกอดพี่ชาย
"ตัวเหนียว! อย่ามากอด" พี่ใหญ่ต่อว่าน้องแบบไม่จริงจังนักแต่ก็ใช้ผ้าขนหนูเช็ดหัวต่อ
"อื้ม!" แวนเนสหอมแก้มพี่ชายฟอดหนึ่งเป็นการเปลี่ยนเรื่องเผื่อว่าพี่ชายจะลืมไปแล้วว่าถามอะไรเขาไว้
"ไม่ต้องมาทำเป็นอ้อนเลย ชั้นยังรอคำตอบนายอยู่นะ" พี่ใหญ่เอาศอกกระทุ้งหน้าอกน้องเบาๆพร้อมกับทวงถาม
"โหย! นายเนี่ยทำอย่างกับชั้นเป็นเด็กๆเลยนะ จะไปไหนมาไหนทีถามโน้นถามนี่ยิ่งกว่าตำรวจสอบสวนผู้ต้องหาซะอีก" เจอร์รี่หันไปบีบจมูกน้องชายหลังจากได้ยินน้องพูดแขวะ
"แล้วเราน่ะไม่ใช่เด็กหรืองัย? เห็นอ้อนพี่งอนพี่ได้ทุกวันแบบนี้?" แวนเนสทำจมูกย่นใส่แล้วเดินไปนั่งบนเตียงพี่ชาย
"ตกลงว่าชั้นนัดกินข้าวกับเพื่อนสมัยเรียนมหาลัย นัดเจอที่ร้านเวลาสามทุ่ม แล้วเพื่อนๆไปกันครบทั้งกลุ่ม" แวนเนสเอ่ยคำพูดที่เตรียมมาไว้แล้ว
"ทำไมนัดกันดึกจัง? แล้วจะกลับกี่โมง?" ไม่วายตั้งคำถามกับน้องอีก
"โธ่! ก็เพื่อนมันทำงานกันทุกคนนี่กว่าจะเลิกงานกว่าจะเดินทางมาถึงกว่าจะคุยกว่าจะกินกว่าจะถามสารทุกข์สุขดิบกันเสร็จก็ปาเข้าไปตั้ง......" แวนเนสยังพูดไม่ทันจบประโยคพี่ชายก็แทรกขึ้นมาก่อน
"สามชั่วโมง ชั้นให้เวลานายสังสรรกับเพื่อนถึงเที่ยงคืน เสร็จแล้วรีบกลับบ้าน" แวนเนสอ้าปากค้างเมื่อได้ยิน
"หูยยย.....นานๆจะได้เจอกันทั้งที ปล่อยๆไปหน่อยไม่ได้หรอ?" โอดครวญต่อทันที
"เวลาตั้งสามชั่วโมงยังไม่พออีกหรืองัย? ชั้นว่ามันมากเกินไปด้วยซ้ำ" เจอร์รี่เถียงกลับ แวนเนสถอนหายใจเบาๆก่อนที่จะขยับเข้าไปกอดพี่ชายที่เดินมานั่งลงที่เตียง
"ขอสี่ชั่วโมงละกัน พอตีหนึ่งปุ๊บชั้นจะกลับทันทีเลย" ออดอ้อนขอต่อรองกับพี่ชายแต่เจอร์รี่ก็ส่ายหน้าปฏิเสธ
"โธ่! พี่ใหญ่ครับ....." แวนเนสยังตื๊อพี่ชายต่ออีก
"ชั้นไม่สนใจว่านายจะออกมาเมื่อไหร่แต่ถ้าตีหนึ่งแล้วนายยังไม่ถึงบ้าน......เกินมากี่นาทีชั้นฟาดตามจำนวนนั้นเลย!" แวนเนสได้ยินก็ทำหน้าเจื่อนๆ
"โหดเกินไปหรือเปล่า? ชั้นไม่ได้ขับรถไปเองนะจะเร็วจะช้าก็ต้องอยู่ที่คนขับสิ ถ้าเกิดมีเหตุติดขัดอะไรที่ไม่ได้เกิดจากตัวชั้นหละ?" แย้งพี่ชายขึ้นมาบ้าง
"ถ้านายกลับบ้านตอนเที่ยงคืนโดยอาศัยรถแท็กซี่ เวลาในตอนนั้นชั้นมั่นใจว่ารถไม่ติดอย่างแน่นอน แล้วเวลาหนึ่งชั่วโมงสำหรับเดินทางนั้นต่อให้รถเสียจนนายต้องเปลี่ยนรถคันใหม่ชั้นว่ามันมากมายเหลือเฟือเลยด้วยซ้ำ ฉะนั้นชั้นจะไม่สนใจเหตุผลอะไรทั้งนั้น ถ้านายกลับบ้านไม่ตรงตามเวลาที่ชั้นกำหนด ชั้นจะลงโทษทันทีโดยไม่ถามหาเหตุผลใดๆทั้งสิ้น" พูดกับน้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง แวนเนสฟังแล้วก็จนใจเพราะพี่ชายพูดแบบนี้แล้วคงแย้งอะไรอีกไม่ได้ต้องก้มหน้ายอมรับอย่างเดียว
"แบบนี้ทุกที" บ่นอุบพร้อมกับลุกขึ้นยืน
"จะไปไหน?" เจอร์รี่ถามเมื่อเห็นน้องลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้ามุ่ยๆ
"ไปจะนอนแล้ว!" ตอบพี่ชายเสียงห้วน
"อาบน้ำให้สบายตัวก่อนแล้วค่อยนอน" สั่งกำชับเหมือนทุกครั้ง
"ชั้นจะกลับไปนอนที่ห้องของชั้น สกปรกโสโครกยังงัยก็เตียงชั้น ไม่เลอะเตียงนายซักหน่อย" พูดตอกกลับด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอดแล้วทำท่าจะเดินออกไปแต่พี่ใหญ่กลับดึงมือไว้
"ก็เพราะเป็นแบบนี้งัยพี่ใหญ่ถึงต้องเข้มงวดกับเรา อื้ม! ไป.....จะกลับไปนอนที่ห้องก็ไปเลย......" เจอร์รี่ต่อว่าน้องเป็นเชิงบ่นแต่ก็จูบเบาๆที่หน้าผากน้องชายก่อนจะปล่อยตัวน้องให้กลับห้องของตัวเอง
- วันต่อมา -
"ว่างัยไจ่ไจ๋?" พี่ใหญ่รับโทรศัพท์ขึ้นมาได้ก็ถามคนที่โทรเข้ามาทันที
"คิดถึงพี่ใหญ่จัง" ได้ยินเช่นนี้แล้วเจอร์รี่ก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
"คิดถึงจริงหรอ? ไม่ใช่เที่ยวเพลินจนลืมพี่คนนี้ไปแล้วหรอ?" ย้อนคำน้องกลับไป
"ใครจะลืมพี่ชายที่แสนดีของผมได้หละครับ ตอนนี้ผมเพิ่งกินมื้อเย็นเสร็จ อิ่มจนพุงกางเลย เมื่อกี้เลยโดนพี่กลางบ่นไปชุดนึง พี่เขาหาว่าผมกินมากเกินพิกัด" เจอร์รี่หัวเราะกับเรื่องเล่าของน้อง
"นี่! แล้วทำไมเราถึงกินมากมายซะขนาดนั้นฮึ? ตะกละซะไม่มี...." แกล้งว่าน้องชายซ้ำเติมเข้าให้
"ก็ของมันน่ากินนี่ ถ้าพี่มาด้วยพี่ก็ต้องกินเหมือนผมนั่นแหละ" เสียงน้องเล็กโต้ตอบกลับมา
"พี่ไม่ตะกละเหมือนนาย กินแค่อิ่มพี่ก็พอแล้ว" เถียงน้องกลับไปอีก
"แหม....ผมน่ะทำตามคำสอนของพี่ยังจะมาว่าผมอีก" ได้ยินเช่นนี้เจอร์รี่ก็เลิกคิ้ว
"คำสอนของพี่?" ทวนคำอย่างไม่ค่อยเข้าใจ
"ใช่ครับ ก็พี่ใหญ่เคยสอนว่าเวลากินน่ะต้องกินทุกอย่างให้หมดไม่ใช่หรอ? นี่ผมก็ทำตามแล้วงัย กินทุกอย่างเลย" ไจ่ไจ๋พูดเสียงเจื้อยแจ้ว
"พี่สอนแบบนั้นหรอไอ้ตัวดี? พี่เคยบอกแต่ว่าข้าวในจานมีแค่ไหนก็ต้องกินให้หมด แล้วถ้าจะตักอะไรกินก็ให้ตักแค่พอกินเท่านั้น ไม่เคยสอนให้ฟาดเรียบซะทุกอย่างแบบที่นายพูดซักหน่อย" เจอร์รี่รีบแก้ให้น้องทันที แล้วก็ได้ยินเสียงเจ้าน้องชายตัวดีหัวเราะมาตามสาย
"อ้าวหรอ? ผมจำผิดหรอเนี่ย?" พูดเสียงปนหัวเราะทำให้เจอร์รี่พลอยหัวเราะไปด้วย
"ทะเล้นนักนะเรา! แล้วนี่เจ้าพี่กลางทำงานอยู่หรอ?" ถามถึงน้องชายอีกคนบ้าง
"เลิกแล้วครับ แต่พี่เขาขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวเราจะไปนวดในสปากัน" ไจ่ไจ๋รายงานเสียงสดใส
"อิจฉาคนได้เที่ยวจริงๆเล้ยยยย......" เจอร์รี่แกล้งบ่นเปรยๆ
"ชวนให้มาก็ไม่มาแล้วจะมาบ่นทำไมหละ?" น้องเล็กต่อว่าพี่ชายเข้าให้
"จะให้ไปได้ยังงัยกันหละ? ขืนปล่อยเจ้าพี่รองอยู่บ้านคนเดียวมันวีนตายแน่เลย แล้วอีกอย่างพี่ไม่ได้ว่างงานเหมือนนายซักหน่อย" เจอร์รี่ย้อนเข้าให้แล้วก็ได้ยินเสียงน้องชายหัวเราะ
"แล้วนี่พี่รองเขาไปทำงานหรือเปล่า? เอ๊ะ....แต่เห็นพี่เขาบอกช่วงนี้ได้หยุดนี่นา" ไจ่ไจ๋ว่าก่อนที่จะพูดอย่างนึกขึ้นได้
"มันไปร่อนกับเพื่อนแล้วสิ เมื่อวานพี่นัดมันไปกินข้าวแต่พอดีสินค้าที่ส่งให้ลูกค้ามีปัญหาพี่เลยต้องไปหาลูกค้าด้วยตัวเอง ไอ้พี่รองของนายมันก็งอนใหญ่พี่เลยจะชดเชยด้วยการจะพามันไปกินข้าววันนี้แต่มันดันนัดเพื่อนออกไปซะแล้ว" เจอร์รี่เล่าให้น้องฟัง
"แหม.....อยู่กันสองคนยังจะงอนกันอีกนะ ยังงัยพี่ใหญ่ก็ต้องเอาใจพี่รองเขาหน่อยละกัน ไม่มีผมอยู่ด้วยก็งี้แหละเหงากันหมดหละสิ" ไจ่ไจ๋ไม่วายพูดเอาความดีเข้าตัวทำให้พี่ใหญ่ได้แต่ส่ายหัวยิ้มๆ
"เออพี่ใหญ่.....งั้นไว้แค่นี้ก่อนนะใกล้ได้เวลานัดกับพี่กลางแล้ว" แล้วไจ่ไจ๋ก็เป็นฝ่ายพูดตัดบท
"อืม ไว้ค่อยคุยกันอีก พี่เองก็จะกลับบ้านแล้วเหมือนกัน" เจอร์รี่ตอบรับแล้วก็วางสายไป เขาหันไปมองนาฬิกาที่บอกเวลาเกือบสองทุ่มก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอีกครั้งแล้วต่อสายไปหาแวนเนส
"ทำไมถึงติดต่อไม่ได้หละเนี่ย?" เจอร์รี่พึมพำแล้วต่อสายไปอีกครั้งแต่ก็ติดต่อไม่ได้ดังเดิม
"คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ" พูดกับตัวเองต่อแต่ก็เริ่มห่วงน้องขึ้นมาตะหงิดๆเพราะปกติแล้วแวนเนสจะเปิดมือถือไว้ตลอดเวลาเนื่องจากต้องติดต่อเรื่องงาน
"สงสัยคงไม่อยากให้ใครโทรไปกวน" หาเหตุผลให้น้องก่อนที่จะเก็บของทั้งหมดแล้วกลับบ้าน เมื่อกลับมาถึงบ้านเจอร์รี่ก็จัดการให้อาหารเจ้าพีพีกับถางถางเสร็จแล้วก็เดินเข้าครัวแล้วเทอาหารที่ซื้อมาสำหรับตัวเองกินบ้าง
"เฮ่อ! ไอ้พวกตัวแสบไม่อยู่ บ้านก็เงียบเหงาลงไปจริงๆ....." หลังกินข้าวเสร็จแล้วเจอร์รี่ก็บ่นกับตัวเองเบาๆ จากนั้นก็ตัดสินใจเอางานมานั่งทำ จนกระทั่งเที่ยงคืนกว่าเขาก็ทำงานทุกอย่างจนเสร็จ
"ลองโทรไปหามันอีกครั้งดีกว่า" พูดกับตัวเองแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือมาต่อสายหาแวนเนสอีกครั้งแต่ก็ติดต่อไม่ได้อยู่ได้
"จะปิดเครื่องทำไมเนี่ย!?" บ่นต่อออกมาอย่างหงุดหงิดเพราะอยากรู้ความเป็นไปของน้องในตอนนี้ เจอร์รี่นั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก็เปลี่ยนไปโทรหาไจ่ไจ๋แทน
"ครับ" แต่เป็นเสียงของเคนที่รับสาย
"น้องหละ?" ถามหาน้องเล็กจากเคน
"อาบน้ำอยู่ มีอะไรหรือเปล่า?" เสียงเคนตอบก่อนที่จะถามพี่ชายกลับมา
"เปล่าหรอก ชั้นแค่อยากจะถามว่าวันนี้แวนเนสได้โทรหาพวกนายบ้างมั๊ย?" เจอร์รี่ปฏิเสธก่อนที่จะตั้งคำถามกับน้อง
"วันนี้หรอ? ไม่มีนะไม่เห็นเจ้าไจ๋เล่าให้ฟังแล้วกับชั้นก็ไม่มีโทรมา ทำไม? ทะเลาะกันหรอ?" เคนตอบก่อนจะถามพี่ชายต่ออีก
"เปล่า แต่พอดีวันนี้มันออกไปสังสรรกับเพื่อนแล้วชั้นก็โทรหามันตั้งแต่หัวค่ำจนถึงตอนนี้ยังติดต่อไม่ได้เลยเป็นห่วงมันน่ะถึงได้จะถามพวกนายว่ามันมีโทรมาหาบ้างหรือเปล่า?" พี่ใหญ่เล่าให้น้องฟัง
"มันคงรู้ว่านายต้องโทรจิกมันหละมั้งเลยชิงปิดเครื่องซะก่อน" เคนพูดปลอบพี่ชายแบบติดตลกเพราะไม่อยากให้พี่ชายคิดมาก
"นี่! ชั้นซีเรียสนะ! เล่นอะไรดูเวล่ำเวลาบ้าง!" พูดด้วยน้ำเสียงดุๆเพราะเป็นห่วงแวนเนสจริงๆ
"แค่นี้ต้องดุด้วย.....เอาน่าๆๆๆ ชั้นว่ามันไม่เป็นไรหรอก บางทีอาจจะแบตหมดหรือไม่มีคลื่นก็ได้ นายก็อย่าคิดมากเลย" เคนพูดปลอบพี่ชาย
"อืม....ชั้นอาจจะคิดมากเกินไปจริงๆนั่นแหละ ว่าแต่นายยังไม่นอนอีกหรอ?" หันมาถามคู่สนทนาบ้าง
"จะนอนยังงัยหละ? ต้องกล่อมไอ้ตัวดีให้มันหลับก่อนชั้นถึงจะกลับห้องพักได้" เมื่อได้ยินน้องบ่นเจอร์รี่ก็ค่อยยิ้มออก
"น้องไม่ดื้อกับนายใช่มั๊ย? แล้วทุกอย่างราบรื่นดีใช่หรือเปล่า?" สอบถามน้องชายต่ออีก
"ไม่ดื้อหรอกแต่ก็มีงอแงบ้าง พอดีเมื่อวานเพื่อนป่วยชั้นเลยต้องเข้างานแทนเพื่อนน้องเลยเกิดอาการงอนนิดหน่อยแต่ไม่ได้งอนอะไรมากมาย" เคนเล่าให้พี่ชายฟัง
"งั้นก็ดีแล้ว เอาหละ......ไม่มีอะไรแล้วแค่นี้ก่อนนะ ราตรีสวัสดิ์" ว่าแล้วก็พูดตัดบทเพราะเห็นว่าดึกมากแล้ว
"ราตรีสวัสดิ์ครับ" เคนรับคำพี่ชายแล้ววางสายไป เจอร์รี่รอให้น้องวางสายไปก่อนจึงค่อยต่อสายไปหาแวนเนสอีกครั้งแต่ก็ยังติดต่อไม่ได้อยู่ดี เขาถอนหายใจแล้วเหลือบตาไปมองนาฬิกา
"นี่มันจะตีหนึ่งอยู่แล้วนายอยู่ที่ไหนกันแน่เนี่ยไอ้ลูกลิง?" บ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ
"ชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย" ว่าแล้วก็ได้แต่นั่งถอนถอนใจอยู่อย่างนั้น
Create Date : 30 ธันวาคม 2550
Last Update : 30 ธันวาคม 2550 21:26:43 น.
1 comments
Counter : 1268 Pageviews.
Share
Tweet
โธ่พี่ใหญ่ใจร้ายจัง ตีหนึ่งถึงบ้าน😅😅🤣🤣
โดย: มีมี่ IP: 139.99.104.95 วันที่: 2 ตุลาคม 2562 เวลา:5:25:37 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
loving_zai
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [
?
]
Webmaster - BlogGang
[Add loving_zai's blog to your web]
Bloggang.com