Chapter 51

ตอนที่ 51

"กอดเข้าไปหอมเข้าไป! หมั่นไส้จริงๆเล้ยยยย....." แวนเนสพูดแขวะพี่ชายคนโตขึ้นมาเมื่อเห็นพี่ชายทั้งกอดทั้งหอมน้องเล็กไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

"ยุ่งอะไรด้วย!" ต่อว่าแวนเนสกลับเสร็จแล้วก็หันมาจูบแรงๆที่หน้าผากไจ่ไจ๋อีกครั้ง

"ไม่ได้เจอกันตั้งสองอาทิตย์พี่ไม่มีใครให้นอนกอดเลย" เจอร์รี่ทำเสียงอ้อนน้องเล็ก

"หูยยย.....ดูมันพูด....ไอ้เราน่ะนอนเหงาอยู่คนเดียวมันไม่มากอดแต่ดันไปนอนกอดโทรศัพท์แทน น่าเตะชะมัด!" แวนเนสพูดสอดขึ้นมาอีกไม่ได้

"เดี๋ยวนายนั่นแหละจะโดนเตะ! พูดจาแบบนี้กับใครน่ะฮึ?" หันไปดุแวนเนสเสียงห้วน แวนเนสทำปากขมุบขมิบล้อเลียนพี่ชาย ทำให้เคนกับไจ่ไจ๋หันไปหัวเราะด้วยกัน

"เสี้ยวเทียน พ่อของกลอเรียพูดอะไรถึงชั้นมั่งปะ?" แวนเนสหันไปชวนน้องชายคนกลางคุยแทน

"ไม่มีนะ" เคนส่ายหน้าปฏิเสธทันที

"ไม่มีเลยหรอ? แบบว่าไม่ถามหน่อยหรอว่าชั้นสบายดีมั๊ย? หรือชมอะไรชั้นมั่งน่ะ?" แวนเนสถามเซ้าซี้น้องชายต่อ เคนได้ยินก็ยิ้มๆอันที่จริงหัวหน้าของเขาก็ชมแวนเนสให้เขาฟังอยู่บ่อยๆแต่เขาไม่ค่อยอยากจะเล่าให้พี่ชายฟังเพราะเดี๋ยวพี่ชายจะเหลิง

"ไม่มีเลยว่ะ มีแต่บอกว่านายพูดมากน่ารำคาญ" เคนแกล้งพี่ชายเล่น

"ฮ่าๆๆ!!! ชั้นว่าแล้วเชียวว่าพ่อของกลอเรียต้องพูดแบบนี้เพราะขนาดชั้นเนี่ยโดนนายกวนประสาททุกวันยังแทบจะทนไม่ได้เลยแล้วประสาอะไรกับคนอื่น" เจอร์รี่ได้ทีแขวะแวนเนสกลับทันที สีหน้ายิ้มๆของแวนเนสในตอนแรกมุ่ยลงทันตาเห็น

"นายโกหกแหงๆเลยเสี้ยวเทียน ชั้นไม่เชื่อหรอกว่าพ่อกลอเรียจะว่าชั้นแบบนั้น" หันมาต่อว่าน้องชายแทน

"เอ้า! ถามเองพอบอกความจริงก็ไม่เชื่ออีก ไม่งั้นลองถามไจ่ไจ๋ดูสิ" เคนโบ้ยไปให้น้องชายคนเล็กโดยขยิบตาให้ด้วย

"พ่อของพี่กลอเรียพูดแบบที่พี่กลางเล่าจริงๆครับ" ไจ่ไจ๋ตอบด้วยสีหน้าปกติ ได้ยินเช่นนี้แล้วแวนเนสเลยเริ่มหมดกำลังใจ

"จริงหรอวะ? งั้นเขาคงไม่ชอบชั้นแหงๆแล้วถ้าเป็นแบบนี้กลอเรียคงไม่มีทางแต่งงานกับชั้นแน่ๆเลยเพราะกลอเรียเขาคงรักพ่อเขามากกว่าชั้นอยู่แล้ว" พูดด้วยสีหน้าผิดหวัง ทำเอาสามคนพี่น้องที่รุมหัวกันแกล้งรู้สึกผิดขึ้นมาทันที

"เฮ้ย! ทำเป็นจริงเป็นจังไปได้! ชั้นพูดเล่นหรอกน่า.....พ่อของกลอเรียไม่ได้ว่านายแบบนั้นเลยแต่เขาชมว่านายเป็นคนมีอัธยาสัยดีไม่ถือเนื้อถือตัวแถมยังดูแลคนอื่นได้ดีอีกด้วย" เคนรีบแก้คำพูดใหม่ทันที

"นายไม่ต้องปลอบใจชั้นหรอก ชั้นเองก็พอจะรู้อยู่บ้างว่าตัวเองน่ะพูดมากน่ารำคาญ" แวนเนสพูดด้วยสีหน้าเศร้าๆ

"เจอร์รี่มันพูดถูก ขนาดพวกนายเองยังรำคาญชั้นเลยแล้วประสาอะไรกับพ่อของกลอเรียที่เพิ่งจะรู้จักกันด้วย? บางทีกลอเรียอาจจะคิดแบบนั้นเหมือนกันก็ได้" แล้วแวนเนสก็นึกห่วงไปสารพัด

"พี่รอง ไม่ใช่หรอกครับ ผมกับพี่กลางน่ะแค่พูดเล่นเอง จริงๆแล้วพ่อของพี่กลอเรียน่ะเขาชมพี่รองจริงๆนะ เขาถึงกับพูดเลยว่าทุกวันนี้เขาหายห่วงพี่กลอเรียได้ก็เพราะรู้ว่ามีพี่รองคอยช่วยดูแลอยู่" ไจ่ไจ๋บอกกล่าวเป็นเชิงปลอบใจพี่ชายอีกแรงหนึ่ง

"นั่นสิแวนเนส นายจะมาคิดมากทำไมกัน ชั้นเองก็ไม่ได้รำคาญอะไรนายหรอกแค่พูดแหย่นายเล่นเท่านั้นเอง เวลาที่นายไม่อยู่บ้านเราสามคนก็เหงาๆไปเหมือนกันนะเพราะไม่มีนายคอยกวนคอยป่วน วันๆก็ไม่รู้จะคุยอะไรกันดี" พี่ใหญ่เองก็รีบปลอบประโลมน้องด้วยอีกคน แวนเนสแอบยิ้มคนเดียวอันที่จริงเขารู้ว่าพี่น้องต้องการจะแกล้งเขาเท่านั้นดังนั้นเขาก็เลยย้อนรอยกลับเท่านั้นเองไม่ได้คิดมากอะไรแบบที่พูดออกมาเลยแม้แต่น้อย

"ขอบใจพวกนายมากนะ แต่ไม่ต้องปลอบใจชั้นหรอก ชั้นรู้ตัวดีอยู่แล้วหละว่าตัวเองเป็นยังงัย" พูดจบก็ขยับตัวลุกขึ้นยืน

"จะไปไหน?" พี่น้องอีกสามคนถามขึ้นมาพร้อมกัน

"ชั้นจะโทรไปคุยกับกลอเรียว่าเขารู้สึกยังงัยที่พ่อของเขาไม่ชอบชั้น และถ้ามันทำให้กลอเรียไม่มีความสุขแล้วหละก็ชั้นจะยอมขอเป็นฝ่ายบอกเลิกกับกลอเรียเอง" ตีหน้าเศร้าพร้อมกับพูดอย่างน่าสงสาร

"น้องมันก็บอกแล้วว่ามันแค่ล้อนายเล่น โอ๋ๆๆๆๆ.....อย่าคิดมากไปเลยนะ.....เดี๋ยวพี่ใหญ่จัดการพวกมันให้ที่แกล้งนายแบบนี้....." เจอร์รี่รีบลุกไปโอ๋เจ้าน้องชายตัวแสบทันที

"จัดการยังงัย?" แวนเนสย้อนถามพี่ชาย ทำเอาพี่ใหญ่ถึงกับอึ้งไปเมื่อรู้ว่าโดนน้องชายตัวดีอำเข้าให้อีกแล้ว

"แล้วจะให้ทำยังงัยหละ?" เขาไม่ตอบแต่กัดฟันย้อนถามน้องชายพร้อมกับหยิกแก้มน้องไปด้วย

"กระทืบให้ตายคาที่ ถ้านายไม่ทำชั้นจะกระทืบนายเอง!" พูดจบแวนเนสก็ยักคิ้วให้พี่ชาย ทำให้น้องชายสองคนถอนหายใจอย่างโล่งอก

"กล้าหรอไอ้ตัวดี!? ชั้นว่าตอนนี้ใครๆก็คงอยากกระทืบนายมากกว่า จริงมั๊ยเสี้ยวเทียน? ไจ่ไจ๋?" หันไปถามความเห็นน้องอีกสองคน

"จริง!" พูดจบเคนกับไจ่ไจ๋ก็เดินเข้ามาหา

"เฮ้ย!!! อย่านะโว้ย!!" แวนเนสร้องโวยวายเมื่อโดนพี่ชายล็อกแขนทั้งสองข้างไว้

"ถ้าทำอะไรพี่พี่จะเตะพวกนายจริงๆด้วย!!!!" แวนเนสตะโกนโหวกเหวกโวยวายเสียงดังลั่นบ้านจนสามพี่น้องแสบแก้วหู สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรเพราะกลัวแวนเนสจะแหกปากร้องดังกว่านี้

"จะแหกปากทำไม!?" พี่ใหญ่ปล่อยแขนน้องแล้วใช้มือบีบปากน้องชายแรงๆ

"โอ้ยย!!! เจ็บนะโว้ย!!" แวนเนสดึงมือพี่ชายออกพร้อมกับต่อว่าพี่ชายเสียงดัง

"เดี๋ยวจะโดนตบปาก!" คราวนี้เจอร์รี่เสียงดุแบบจริงจัง แวนเนสเบ้ปากใส่พี่ชายไม่ได้เกรงกลัวซักเท่าไหร่

"เฮี้ยวอะไรขนาดนี้ก็ไม่รู้!" บ่นอุบอิบก่อนที่จะกลับมานั่งลงข้างน้องเล็กเหมือนเดิม

"พี่ว่าเราสามคนขึ้นไปคุยกันข้างบนดีกว่าปล่อยให้ไอ้บ้านี่มันบ้าไปคนเดียว" พี่ใหญ่เอ่ยชวนเคนกับไจ่ไจ๋ไปที่ห้องนอนของเขา

"ไปด้วย" แวนเนสร้องแทรกขึ้นมาทันที

"ไม่ให้ไป" หันมาปฏิเสธเสียงแข็ง

"ไปด้วย....." ทำหน้าละห้อยขอร้องพี่ชายอย่างน่าสงสาร ทำเอาพี่ชายหลุดขำออกมาจนได้

"งั้นไปปิดประตูบ้านให้เรียบร้อยก่อน เสร็จแล้วชั้นจะดูว่าจะยอมให้นายเข้าไปในห้องชั้นดีหรือเปล่า?" พูดด้วยน้ำเสียงดุๆแต่สีหน้ากลับมีรอยยิ้ม

"งั้นนายต้องไปตรวจดูว่าชั้นจะล็อกประตูเรียบร้อยหรือเปล่า?" พูดจบก็ดึงมือพี่ชายแล้ววิ่งออกไปหน้าบ้าน

"หึๆๆๆ เราไปกันก่อนดีกว่าไจ่ไจ๋" เคนหัวเราะก่อนจะชวนน้องชายขึ้นไปที่ห้องนอนของพี่ใหญ่ก่อน

"เชื่อพี่ใหญ่แล้วว่าเดี๋ยวนี้พี่รองเขาอ้อนพี่ใหญ่สุดฤทธิ์เลย" เมื่อเดินเข้าห้องพี่ใหญ่มาแล้วไจ่ไจ่ก็ชวนพี่ชายคนกลางคุย

"สงสัยคงกลัวนายจะแซงหน้าหละมั้ง?" เคนว่าแล้วนั่งลงข้างน้องพร้อมกับลูบหัวน้องชายอย่างเอ็นดู

"งั้นพี่เขาคงหมั่นไส้ผมมากแหงๆ" ไจ่ไจ๋พูดยิ้มๆก่อนจะล้มตัวลงนอนแผ่บนเตียง

"พี่กลางไม่เป็นไรนะครับ" ถามพี่ชายออกมาหลังจากเงียบไปพักหนึ่ง

"พี่ควรจะเป็นอะไรงั้นหรอ?" ย้อนถามน้องชายกลับไป น้องเล็กไม่ตอบแต่ถอนหายใจเบาๆ

"พี่ครับ ผมรู้ว่าที่พี่มีเรื่องกับพี่ใหญ่ก็เพราะเรื่องของผม" น้องเล็กบอกพี่ชายไปตามตรง

"พี่กลางอย่าเอาเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับผมไปเก็บใส่ใจให้มากเลย หรือถ้าพี่ใหญ่เขาพูดอะไรพี่ก็ฟังแล้วผ่านเลยไปเถอะ อย่าไปโต้ตอบเขาเพราะมันจะเป็นเรื่องขึ้นมาเปล่าๆ อีกอย่างนะพี่ใหญ่เขาโมโหง่ายใครทำอะไรขัดหูขัดตาหน่อยก็หงุดหงิดแล้วแต่พี่เขาก็เป็นแค่แป๊บเดียวหากว่าเราไม่เถียงทำเฉยๆซะเดี๋ยวพี่เขาก็เลิกไปเองแหละ" เคนยิ้มให้น้องชายเล็กน้อยก่อนจะขยี้หัวน้องชายอย่างเอ็นดู

"ก็จริงของนายนะ สงสัยคงเป็นเพราะนายวางเฉยแบบนี้นี่เองพี่ใหญ่ถึงรักนายที่สุด" พูดแหย่น้องแบบขำๆ

"ไม่จริงซักหน่อยพี่กลาง พี่ใหญ่ก็รักพี่กลางเท่าๆกับผมนั่นแหละ" ไจ่ไจ๋รีบแย้งพี่ชายขึ้นมาอีก

"นับวันนายยิ่งจะเหมือนพี่ใหญ่เข้าไปทุกทีแล้วนะ ติดอยู่อย่างเดียวคือซื่อไปหน่อย" เคนหัวเราะด้วยรู้สึกขำเจ้าน้องชายคนนี้

"เฮ่อ! พี่กลางนี่.....เวลาผมพูดจริงจังก็ทำเป็นเล่นซะทุกที....." พูดจบไจ่ไจ๋ก็เอามือก่ายหน้าผากแต่ยังนอนลืมตาอยู่ เคนเห็นสีหน้าของน้องชายแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหอมให้เสียฟอดใหญ่

"เอาเถอะๆ พี่รู้ว่านายหวังดีไม่อยากให้พี่คิดอะไรมาก งั้นพี่จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเวลาที่โดนพี่ใหญ่บ่นก็แล้วกันนะ" รับปากออกไปเพื่อให้น้องสบายใจ

"พูดแล้วทำให้ได้ด้วยเถอะ" ไจ่ไจ๋พึมพำก่อนจะพลิกตัวหันไปอีกด้านหนึ่ง ในเวลานั้นเจอร์รี่กับแวนเนสก็ตามเข้ามาพอดี

"อื้มมม!!! ง่วงหรือยังเจ้าตัวยุ่ง?" เจอร์รี่ขยับเข้าไปหอมแก้มน้องชายคนเล็กที่นอนลืมตาแป๋วมองหน้าเขาอยู่อย่างหมั่นไส้แกมเอ็นดู ไจ่ไจ๋ส่ายหัวดุ๊กดิ๊กไปมา

"คืนนี้นายต้องนอนกับพี่นะ พี่จะกอดนายให้หายคิดถึงไปเลย" พูดจบก็หอมแก้มน้องอีกฟอดใหญ่

"ชั้นนอนด้วย ชั้นก็จะกอดนายให้หายคิดถึงไปเลย" แวนเนสอดที่จะกวนพี่ชายขึ้นมาอีกไม่ได้

"ไปไกลๆเลยไป! เมื่อไหร่จะเลิกกวนประสาทซักที!" เงยหน้าขึ้นมามองแวนเนสตาขวาง คนถูกมองก็ได้แต่ลอยหน้าลอยหน้าแต่ไม่วายแอบยักคิ้วให้น้องเล็กด้วย

"หึๆๆๆ" ไจ่ไจ๋หัวเราะพี่ชายคนรองก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นมานั่งแล้วขยับเข้าไปกอดพี่ใหญ่

"ยังไม่หายคิดถึงอีกหรอครับ?" ถามพี่ชายจบก็หอมแก้มพี่ชายด้วย

"จะหายได้ยังงัยหละ? นายไปเที่ยวสนุกแต่กลับทิ้งพี่อยู่คนเดียวตั้งนาน" ว่าพลางทำเสียงกระเง้ากระงอดใส่น้อง เห็นท่าทางของพี่ชายเช่นนั้นแล้วแวนเนสก็อดไม่ได้ที่จะหันไปกระซิบกระซาบนินทาพี่ชายกับเคน

"นายสงสัยมั๊ยว่าเจ้าไจ๋มันได้เชื้ออ้อนมาจากใคร? ตอนนี้ชั้นรู้แล้วว่ะ" เคนได้ยินก็หัวเราะแต่ไม่ตอบว่าอะไร

"ไหนเล่าให้พี่ฟังมาอย่างละเอียดเลยซิว่านายไปเที่ยวครั้งนี้เป็นยังงัยบ้าง? เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า? เล่ามาให้หมดเลยเชียว" พี่ใหญ่ถามคาดคั้นน้องเล็กเป็นการใหญ่

"ชั้นเล่าเอง! ไจ่ไจ๋มันบอกว่าครั้งนี้ไปเกือบเสร็จชายไม่จริงหญิงไม่แท้ด้วยแหละ" แวนเนสรีบพูดแทรกขึ้นมาทันที

"เฮ้ยพี่รอง!! ทำไมปากสว่างแบบนี้หละ! เล่าอะไรให้ฟังก็เอามาเปิดเผยหมด" ไจ่ไจ๋โวยวายใส่พี่ชายคนรองทันที ส่วนเคนนั้นขำล่วงหน้าไปตั้งนานแล้ว

"หา?? นายหมายความว่างัย?" เจอร์รี่ทำหน้าเหวอๆแต่ยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่น้องๆพูดกัน

"ก็ไจ่ไจ๋น่ะสิ มัน......" แวนเนสยังไม่ทันได้พูดต่อก็โดนน้องชายเอามืออุดปากไว้เสียก่อน

"ไม่ต้องเล่าเลยพี่รอง!" แหวใส่แล้วผลักแวนเนสลงไปนอนที่เตียงก่อนจะขึ้นไปคร่อมร่างพี่ชายไว้แล้วจัดการจี้เอวเป็นการแก้แค้น

"เฮ้ย!! ฮ่าๆๆๆ!!!! โอ้ย!! ไม่เล่าแล้ว!! ไม่เอานะไจ่ไจ๋!! พอแล้วๆๆๆ!!! ฮ่าๆๆๆ!!!!" แวนเนสหัวเราะพลางดิ้นไปมาแต่ก็ลุกไม่ได้เพราะถูกน้องชายทับอยู่

"เจอร์รี่ช่วยด้วย!! ช่วยชั้นด้วยเสี้ยวเทียน!! โอ้ยตายแล้ว!!!" แวนเนสร้องขอความช่วยเหลือจากพี่ชายและน้องชายแต่เจอร์รี่และเคนกลับหัวเราะแล้วมองดูเฉยๆ

"นี่แหนะๆๆๆ!! วันหลังจะปากสว่างแบบนี้อีกมั๊ย?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายพร้อมกับกดไหล่ทั้งสองข้างของพี่ชายไว้เพื่อไม่ให้ลุกหนีไปไหนได้

"ไม่แล้วคร้าบบบบ....." แวนเนสรับปากลากเสียงยานคราง

"ดี! ถ้าทำอีกคราวนี้จะจี้ให้หัวเราะจนตายไปข้างนึงเลย" พูดขู่พร้อมกับทำหน้าดุใส่พี่ชาย พูดจบก็ปล่อยตัวพี่ชายเป็นอิสระโดยไม่ทันนึกเลยว่าแวนเนสจะแก้แค้นเขา

"ตาพี่มั่งหละนะ!" แล้วแวนเนสก็พลิกตัวผลักน้องให้ล้มหงายลงไปบนเตียงแล้วจี้เอวแก้แค้นคืนบ้าง ไจ่ไจ๋หัวเราะพลางร้องไปด้วย

"เฮ้ยยย!!! โอ้ย! ฮ่าๆๆๆ!!! พี่รองครับ! ผมขอโทษ! อย่าทำผมเลย!" ขอร้องพี่ชายให้หยุดแต่แวนเนสไม่สนใจกลับจี้เอวน้องชายต่อให้หายแค้น

"พี่ใหญ่!! ช่วยผมด้วย! ผมกลางครับพี่รองมันจะฆ่าผมแล้ว!! ฮ่าๆๆๆๆ!!!" เจอร์รี่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจกับเจ้าคู่ซี้สองคนนี้ ส่วนเคนก็ได้แต่หัวเราะพี่น้องทั้งคู่

"แวนเนสหยุด!!" พี่ใหญ่สั่งแวนเนสเสียงเข้มพร้อมกับดึงคอเสื้อน้องขึ้นมา ไจ่ไจ๋จึงใช้จังหวะนั้นเผ่นแน่บไปหาเคนทันที

"โอ้ย! เดี๋ยวก็หายใจไม่ออกตายพอดี" แวนเนสโวยวายพร้อมกับปัดมือพี่ชายออก

"เดี๋ยวเถอะ! ชอบแกล้งน้องนักนะ!" ทำเสียงดุแวนเนส

"เฮอะ! ชั้นแกล้งน้อง? ใครกันแน่ที่ใช้กำลังก่อน?" แวนเนสเถียงอย่างอึ้งๆที่โดนพี่ชายต่อว่าแบบนี้

"จะใครก่อนชั้นไม่สน! เราน่ะเป็นพี่ต่อให้น้องมันทำอะไรเราก็ไปใช้กำลังโต้ตอบกับน้องไม่ได้!" แวนเนสมองหน้าพี่ชายตาปริบๆ

"เป็นพี่น่ะต้องเสียสละแล้วก็ยอมให้น้องรู้มั๊ย? น้องจะว่ายังงัยเราก็ต้องพูดดีๆสอนดีๆไม่ใช่ไปใช้กำลังโต้ตอบมัน ทำไมสอนไม่เคยจำเลย!" พูดจบก็ถอนหายใจดังเฮือก

"เฮ่อ! ทำงัยได้ก็ไอ้พี่ชายชั้นมันไม่เคยทำตัวเป็นแบบอย่างให้ชั้นดูนี่หว่า เพราะชั้นตอบโต้มันทีไรมันก็ใช้กำลังกับชั้นเรื่อยไม่เห็นจะเคยพูดดีๆซักครั้ง ว่างๆนายไปสอนมันให้หน่อยสิไอ้พี่ชายของชั้นคนนี้น่ะ" แวนเนสตอบโต้พี่ชายเป็นเชิงประชดเล่นเอาพี่ใหญ่ถึงกับพูดอะไรไม่ออก

"ฮ่าๆๆๆ!!!" เคนกับไจ่ไจ๋หันไปหัวเราะกันอย่างสะใจที่พี่ใหญ่โดยตอกกลับเข้าให้บ้าง

"พวกนายสามคนไสหัวไปให้พ้นๆหน้าพี่เลย! กวนประสาทกันไม่เลิก!" พี่ใหญ่เลยด่าแบบเหมารวมทุกคน

"โอ๋ๆๆๆๆ.....อย่างอนไปเลยนะ รักหรอกจึงหยอกเล่น....." ไจ่ไจ๋รีบโอ๋พี่ชายทันที

"ไม่ต้องมายุ่งเลย! ออกไปให้หมดพี่จะพักผ่อนแล้ว!" เจอร์รี่พูดเสียงห้วนแล้วเอ่ยปากไล่น้องๆอีกครั้ง

"ไปอยู่แล้วหละ ไม่มีใครอยากอยู่กับคนแก่วัยทองหรอก" แวนเนสได้ทีซ้ำเติมพี่ชายอีก

"ไอ้....." เจอร์รี่ชี้หน้าแวนเนสแต่ไม่รู้จะด่าน้องว่าอะไรดี แวนเนสยิ้มกว้างให้พี่ชายแล้วเดินเข้าไปหอมแก้มแรงๆ

"อื้ม! ไปนอนแล้วนะ! ราตรีสวัสดิ์ครับ!" พูดจบก็หันไปพยักหน้ากับเคน เจอร์รี่มองเจ้าน้องชายตัวดีด้วยสีหน้ากึ่งยิ้มกึ่งบึ้ง

"ราตรีสวัสดิ์พี่ใหญ่เขาหน่อยแล้วนายไปนอนคุยกับชั้นดีกว่า ชั้นอ่ะนะคิดถึ๊งงงง.....คิดถึงงงงง.....นายจะแย่แล้ว....." บอกกับเคนอย่างขำๆ

"งั้นชั้นไปนอนหละนะ ราตรีสวัสดิ์ครับ" เคนพูดกับพี่ใหญ่แบบขำๆแล้วสองพี่น้องก็พากันออกจากห้องนอนของพี่ใหญ่ไปเพราะรู้ดีว่าพี่ใหญ่คงอยากจะคุยกับน้องคนเล็กให้หายคิดถึง

"จริงๆเลยเจ้าพวกนี้" เจอร์รี่บ่นอุบอิบพลางมองตามแวนเนสกับเคน

"หึๆๆๆ พี่ใหญ่ดุจนไม่มีใครอยากอยู่ด้วยแล้ว" เมื่อได้ยินน้องพูดเช่นนั้นพี่ใหญ่ก็ทำหน้างอ

"งั้นนายยังอยู่นี่ทำไมหละ? ตามพวกมันออกไปสิ!" พูดด้วยน้ำเสียงห้วนๆ

"ทำเป็นพูดไป เดี๋ยวผมไปจริงๆแล้วอย่ามานอนน้ำตาซึมเพราะคิดถึงผมหละ รู้ไว้ซะด้วยนะว่ามีผมคน
เดียวนี่แหละที่ทนความงอแงของพี่ใหญ่ได้ดีที่สุด" ไจ่ไจ๋ว่าพลางใช้สองมือโอบลำคอพี่ชาย

"ไปไกลๆเลย! พี่ไม่ได้คิดถึงนายซักหน่อย" เจอร์รี่ว่าพร้อมกับเบือนหน้าหนีน้องชาย

"จริงอ่ะ? เฮ่อ! รู้งี้น่าจะรับปากเป็นแฟนกับพี่ตุ๊ดสองคนนั้นท่าจะสบายกว่า เพราะนอกจากดูท่าเขาจะเอาใจเก่งแล้วยังไม่ขี้งอนเหมือนคนแถวนี้อีกด้วย" พี่ใหญ่ได้ยินก็หันมาทำตาโตใส่น้อง

"นายว่ายังงัยนะ? ใครมาทำอะไรรุ่มร่ามกับนายงั้นหรอ?" ใช้สองมือจับหน้าน้องชายแล้วถามอย่างตกใจ

"อืม.....เกือบเสร็จไปแล้วเขาเล่นเอาผมเคลิ้มเลยทีเดียว" ไจ่ไจ๋แกล้งแหย่พี่ชายเล่น

"ไจ่ไจ๋!!! นี่นาย....." พี่ใหญ่ได้ยินก็แทบเต้น

"ไอ้พี่กลางมันดูแลนายยยังเนี่ย! พี่ต้องไปเอาเรื่องมันแล้ว" จับแขนน้องชายที่โอบรอบลำคอเขาออกแล้วทำท่าจะตามไปเอาเรื่องเคนแต่ไจ่ไจ่รีบดึงพี่ชายไว้ก่อน

"พูดเล่นครับพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋รีบดึงตัวพี่ชายไว้ทันที

"นายนี่นะไจ่ไจ๋....จะให้พี่หัวใจวายตายหรืองัย?" เอ็ดตะโรใส่น้องแต่ก็แอบถอนหายใจอย่างโล่งอกด้วย

"ก็พี่ใหญ่อยากทำตัวงอแงทำไมหละ? บอกไว้ก่อนนะถ้าพี่ยังขี้โวยวายแบบนี้อีกผมจะไม่อยู่ด้วยแล้ว" แอบขู่พี่ชายเอาไว้

"ขู่พี่หรอ? อยากโดนตีตายหรืองัย?" เจอร์รี่เงื้อนมือขึ้นทำท่าจะตีน้อง

"ถ้าพี่ตีผมคืนนี้นอนคนเดียวเลยด้วย" ขู่พี่ชายต่ออีก

"ไอ้...." คำขู่ของน้องทำเอาเจอร์รี่ทำพูดไม่ออก จะตีก็ไม่กล้าจะด่าก็ไม่รู้จะด่ายังงัยดี ไจ่ไจ๋แอบหัวเราะคิกเมื่อพี่ชายแพ้เขาทุกที

"ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับผมบ้างก็ไปนอนคุยที่เตียงซะดีๆ ไม่งั้นผมจะไม่เล่าให้ฟังเลยด้วย" ได้ทีสั่งพี่ชายต่อ

"เฮ่อ! ไอ้ตัวร้าย...." แล้วเจอร์รี่ก็ถอนหายใจก่อนจะใช้มือบีบจมูกน้องอย่างหมั่นไส้แล้วก็ทำตามคำสั่งน้องชายแต่โดยดี



- วันต่อมา -

"พี่กลางครับ วันนี้ช่วยเตรียมอาหารเย็นอร่อยๆให้หน่อยสิ" ไจ่ไจ๋วิ่งมากอดคอพี่ชายพร้อมกับกระซิบบอก

"ทำไมวะ?" เคนที่ดูโทรทัศน์อยู่เปลี่ยนสายตามาที่น้องก่อนจะย้อนถาม ในตอนนั้นเองที่แวนเนสก็หันมามองน้องเล็กด้วยเช่นกัน

"ก็....ก็ผม....ผมชวน.....เอ่อ....หลิงเอ๋อมากินข้าวที่บ้าน....แล้วน้องเขาก็รับปาก.....ว่าจะมา....." ไจ่ไจ๋ตอบพี่ชายอย่างเขินๆ

"จะพาแฟนมาเปิดตัวก็ไม่บอกตั้งแต่เนิ่นๆ! ไอ้บ้าเอ้ย! แล้วนี่พี่จะเตรียมตัวทันมั๊ยเนี่ย? แล้วพี่ใหญ่รู้หรือยัง?" เคนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นไปด้วยเพราะเป็นครั้งแรกที่ไจ่ไจ๋พาผู้หญิงมาที่บ้าน

"โทรบอกแล้ว พี่ใหญ่บอกว่าจะรีบกลับ" ไจ่ไจ๋ตอบยิ้มๆ

"โธ่เอ้ย! ไอ้เราก็นึกว่าความลับอะไรยิ่งใหญ่นักทำลับๆล่อๆไปได้" แวนเนสต่อว่าน้องเข้าให้อีกคน

"ก็ผมตื่นเต้นเหมือนกันนี่ เคยชวนหลายครั้งแล้วแต่หลิงหลิงเขาปฏิเสธบอกว่าเร็วไป แต่คราวนี้พอชวนเขาก็ตอบตกลงก็เลยดีใจ" ไจ่ไจ๋พูดด้วยท่าทีเขินๆ

"เอ้า! งั้นนายบอกพี่มาซิว่าแฟนนายชอบกินอะไร? พี่จะทำให้สุดฝีมือเลย" เคนถามน้องต่อ

"หลิงหลิงเขากินได้ทุกอย่างเหมือนผมนั่นแหละ พี่กลางคิดว่าทำอะไรอร่อยก็ทำเลยครับ" ไจ่ไจ๋ตอบ

"งั้นหรอ? อืม.....งั้นเดี๋ยวพี่คิดเมนูเอง ว่าแต่นายจะไปรับแฟนมาเมื่อไหร่?" ถามซักไซร้น้องชายต่ออีก

"เดี๋ยวผมจะออกไปรับแล้วแหละครับแต่ว่าจะไปช้อปปิ้งกันก่อนแล้วค่อยมา อาจจะประมาณสี่โมงเย็นเพราะจะรอพี่ใหญ่กลับมาให้ทันด้วย" ไจ่ไจ๋ตอบ

"งั้นรีบไปเลยเดี๋ยวพี่กับพี่รองจะไปตลาดซื้อกับข้าวมาช่วยกันทำ ไม่ต้องห่วงนะ เที่ยวให้สนุกแต่ห้ามกินอะไรกลับมาจนอิ่มหละ" เคนว่าพร้อมกับสั่งกำชับน้องชาย

"ขอบคุณครับ" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็ออกจากบ้านไปอย่างมีความสุข

"นายนี่ดี๊ด๊าอย่างกับขายบ้านได้เลยนะ" แวนเนสแซวเคนที่มีท่าทีตื่นเต้นไปกับน้อง

"อ้าว! แหงสิ.....หรือนายไม่ดีใจที่น้องขายออกแล้ว แถมนี่เป็นครั้งแรกด้วยที่น้องพาสาวเข้าบ้าน เราต้องทำทุกอย่างเพื่อให้แฟนน้องประทับใจ" เคนว่าแล้วครุ่นคิดว่าจะทำอะไรกินดี

"ดีใจสิวะ น้องมันรักแฟนมันนะ ชั้นเห็นมันทั้งโอ๋ทั้งพะเน้าพะนอเอาใจสารพัดเลย หลิงหลิงเองก็น่ารักช่างเจรจาพอๆกับน้องนั่นแหละ" แวนเนสเองก็เอ่ยชมหลิงเอ๋อด้วยเช่นกัน ในตอนนั้นโทรศัพท์มือถือของแวนเนสก็ดังขึ้น เมื่อหยิบออกมาดูเขาก็พบว่าเป็นพี่ใหญ่โทรมา

"สงสัยไอ้นี่ก็คงโทรมาดีใจด้วยอีกคน" แวนเนสพูดกับเคนยิ้มๆแล้วกดรับสาย

"ครับพี่ใหญ่" เอ่ยทักทายไปตามสาย

"แวนเนส น้องบอกแล้วใช่มั๊ยว่าวันนี้จะพาแฟนมาที่บ้าน?" เสียงพี่ชายถามกลับมา

"อืม" แวนเนสตอบสั้นๆ

"ชั้นอยากให้นายลองชวนกลอเรียมาด้วยจะได้มั๊ย?" พี่ใหญ่ถามกลับมาอีก แวนเนสขมวดคิ้วงงๆ

"ทำไมต้องชวนกลอเรียมาด้วยหละ?" ถามหาเหตุผลจากพี่ชาย

"ก็พวกเรามีแต่ผู้ชายด้วยกันทั้งนั้น น้องเขาเป็นผู้หญิงคนเดียวมันจะดูไม่ดี แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดก็ชวนมี่เฟิงมาด้วยนะ" เจอร์รี่ให้เหตุผล

"อ้อ! อย่างนี้นี่เอง ได้ๆๆๆ เดี๋ยวชั้นโทรชวนไม่น่าจะมีปัญหาอะไร" แวนเนสรับปากพี่ชาย

"ไจ่ไจ๋เอารถนายไปด้วยใช่มั๊ย?" พี่ใหญ่ถามกลับมาอีก

"ใช่แล้ว" แวนเนสตอบ

"ถ้างั้นนายเอารถเสี้ยวเทียนไปแล้วเดี๋ยวชั้นจะวนรถไปรับเสี้ยวเทียนออกมาซื้อกับข้าวด้วยกัน" พูดจบพี่ใหญ่ก็ตัดสายไป

"มันว่างัย?" เคนถามพี่ชายต่ออีกทอดหนึ่ง

"มันอยากให้ชั้นชวนกลอเรียกับมี่เฟิงมาด้วยเพราะหลิงหลิงมาคนเดียวแล้วเราเป็นผู้ชายหมดมันจะดูไม่ดี" แวนเนสอธิบายให้น้องฟัง

"เออจริงด้วยนะ งั้นนายก็ไปรับกลอเรียกับมี่เฟิงเถอะ" เคนว่าแล้วพยักหน้าให้พี่ชายรีบไป

"เจอร์รี่บอกให้นายรอมันอยู่บ้านเดี๋ยวมันจะมารับแล้วพานายไปซื้อกับข้าว" แวนเนสพูดจบก็หยิบกุญแจรถของเคนขึ้นมา

"ส่วนชั้นจะเอารถนายไปรับแฟน" เคนพยักหน้ารับอีกครั้งแล้วมองดูพี่ชายออกจากบ้านไป จากนั้นในระหว่างรอพี่ชายคนโตเคนก็เอากระดาษกับปากกามานั่งคิดเมนูอาหาร ผ่านไปพักหนึ่งพี่ชายก็กลับมาพอดี

"ทำอะไรอยู่หน้านิ่วคิ้วขมวดเชียว?" เจอร์รี่ถามน้องชายที่กำลังครุ่นคิดเมนูอาหาร

"กลับมาแล้วหรอ? นายดูหน่อยสิว่าถ้าหากชั้นทำอาหารไทยจะเหมาะมั๊ย?" เคนลุกขึ้นแล้ววิ่งเอาเมนูไปให้พี่ชายดู

"อาหารไทยหรอ? อืม.....ชั้นว่าก็ดีเหมือนกันนะ" เจอร์รี่เห็นชอบด้วยกับความคิดของน้อง

"งั้นไปซื้อกับข้าวกันเลย" ว่าแล้วเคนก็ชวนพี่ชายไปซื้อของ

"ขอชั้นอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สบายตัวก่อนได้เปล่า?" พี่ใหญ่พูดยิ้มๆเมื่อเห็นน้องชายรีบเร่ง

"อย่านานนะ เดี๋ยวทำไม่ทัน" เคนไม่วายกำชับพี่ชายด้วย พี่ใหญ่เอามือขยี้หัวน้องชายก่อนจะรีบขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นสองพี่น้องก็ออกไปซื้อกับข้าวด้วยกัน

"โทรศัพท์นายหรือเปล่าเสี้ยวเทียน?" ระหว่างที่รอจ่ายเงินเจอร์รี่ก็ถามน้องขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังอยู่ใกล้ๆแต่ฟังดูแล้วไม่ใช่ของเขา

"หา?? เออ....จริงด้วย...." เคนว่าแล้วก็รีบกดรับสาย

"เสี้ยวเทียน ซื้อของเสร็จยังวะ?" เสียงแวนเนสถามมาตามสาย

"กำลังจ่ายเงินอยู่ ทำไมหรอ?" เคนถามพี่ชายกลับไป

"ทางนี้มีแขกสามคนนะ ทำเผื่อให้พอหละ" แวนเนสสั่งน้องชายมาตามสาย

"สามคน? นอกจากกลอเรียกับมี่เฟิงแล้วมีใครอีกหละ?" เคนย้อนถามพี่ชายกลับไปอย่างงงๆ

"เดี๋ยวนายก็รู้ แค่นี้แหละแล้วค่อยเจอกัน" พูดจบแล้วแวนเนสก็วางสายไปทันที

"อะไรของมันวะ?" เคนพึมพำงงแล้วเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า

"แวนเนสหรอ?" เจอร์รี่ถามน้องชาย

"อืม....มันบอกว่าให้ทำเผื่อทางมันสามคน" เคนตอบพี่ชาย

"อ้าว! ไปเอาใครมาด้วยอีกหละ?" เจอร์รี่เองก็งงเหมือนกัน

"ไม่รู้สิ มันบอกว่าเดี๋ยวก็รู้เอง" เคนว่าแล้วก็หันกลับจะควักเงินจ่าย

"เก็บไป....เอาที่ชั้นนี่" พี่ใหญ่จ่ายเงินนั้นเสียเอง เสร็จแล้วสองพี่น้องก็พากันกลับบ้านแล้วก็เข้าไปช่วยกันทำอาหารต้อนรับแฟนสาวของน้องชายคนเล็กกันอย่างขมีขมัน จนผ่านไปได้พักใหญ่ๆกลิ่นอาหารก็หอมกรุ่นไปทั่วบ้าน

"เฮ่อ! เสร็จซักที" เคนว่าพร้อมกับปาดเหงื่อที่หน้าผากตัวเอง

"ชั้นว่านายไปอาบน้ำก่อนเถอะไป เหงื่อเต็มตัวเลย ที่เหลือเดี๋ยวชั้นจัดการเอง" พี่ใหญ่หันมาไล่ให้น้องไปอาบน้ำให้สบายตัว

"ล้างครัวให้เรียบร้อยหละ" เคนได้ทีสั่งพี่ชาย

"รู้แล้วน่า สั่งจริงๆเลยเชียว!" ตอบรับเป็นเชิงต่อว่าน้องชายไปด้วย เคนหัวเราะเบาๆแล้วเดินขึ้นห้องไปอาบน้ำตามคำของพี่ชาย ส่วนเจอร์รี่หลังจากจัดการเก็บกวาดและล้างห้องครัวเรียบร้อยแล้วเขาก็ออกมานั่งพักที่ห้องนั่งเล่น

"มาแล้วครับ" เพียงแค่ครู่เดียวเสียงแวนเนสก็ร้องบอกพร้อมกับประตูบ้านที่ถูกเปิดออก เจอร์รี่รีบลุกขึ้นต้อนรับแขกผู้มาเยือนแต่เขาก็ต้องทำหน้างงๆเมื่อเห็นชายวัยกลางคนเดินเข้ามาด้วย

"สวัสดีครับ" เจอร์รี่เอ่ยทักทายไปอย่างสุภาพถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าชายคนนั้นคือใครก็ตาม

"สวัสดี" ชายคนนั้นตอบรับแล้วส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

"เจอร์รี่คะ นี่คุณพ่อของชั้นเองค่ะ" กลอเรียเลยได้โอกาสแนะนำให้เจอร์รี่รู้จัก

"หา? พ่อคุณหรอ?" เจอร์รี่พอได้รู้ก็ตกใจเล็กน้อย

"แวนเนส เรานี่แย่จริงๆทำไมไม่บอกพี่ก่อนว่าจะพาคุณอาด้วย เชิญนั่งก่อนครับ" เจอร์รี่หันไปต่อว่าน้องชายก่อนจะรีบเชื้อเชิญให้พ่อของกลอเรียมานั่งที่โซฟา

"ไม่ต้องมีพิธีมากหรอก อาหิ้วท้องมารบกวนก็เกรงใจจะแย่แล้ว" พ่อของกลอเรียพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกันเองก่อนจะเดินมานั่งลงตามคำเชื้อเชิญของเจอร์รี่

"ไปมี่เฟิง ไปนั่งพักก่อน" เจอร์รี่หันมาบอกหญิงสาวด้วย

"ค่ะ" มี่เฟิงรับคำแล้วเดินตามมานั่งด้วย

"แวนเนส ไปหาน้ำหาท่ามาให้คุณอากับกลอเรียแล้วก็น้องมี่เฟิงดื่ม" หันไปสั่งน้องชายต่ออีก

"เอ่อ....ชั้นช่วยดีกว่าค่ะ" มี่เฟิงว่าแล้วก็รีบลุกไปช่วยแวนเนส

"เจ้าแวนเนสนี่ไม่ไหวเลยจริงๆ คุณอาจะมาทั้งทีก็ไม่ยอมบอกก่อน" เจอร์รี่ไม่วายต่อว่าน้องชายอีก

"อาบอกเองหละว่าไม่ต้อง เพราะเขาบอกว่าเธอน่ะค่อนข้างมากพิธีเหมือนกันนี่" พ่อของกลอเรียพูดอย่างอารมณ์ดี เจอร์รี่เลยได้แต่ยิ้มๆ

"วันนี้คุณพ่อเพิ่งกลับมาน่ะค่ะ" กลอเรียบอกกับเจอร์รี่

"อ้อ ทริปที่ไปนี่เพิ่งกลับมาวันนี้ใช่มั๊ยครับ?" เจอร์รี่หันไปถามพ่อของกลอเรีย แต่ยังไม่ทันที่คู่สนทนาจะทันได้ตอบเคนก็เดินลงมา

"กลอเรีย คุณมาแล้วหรอ?" เคนเอ่ยทักอย่างร่าเริงแต่พอเหลือบไปเห็นหัวหน้าของเขาอยู่ด้วยเคนก็ทำหน้าตกใจ

"งัย? พอเห็นชั้นเธอก็หน้าเหวอขนาดนี้เชียวหรอ? เชื่อแล้วที่แวนเนสบอกว่าการไม่บอกล่วงหน้าว่าชั้นจะมาด้วยคนที่เซอร์ไพรส์ที่สุดจะเป็นเธอ" พ่อของกลอเรียพูดแหย่เคนอย่างอารมณ์ดี

"หัวหน้า สวัสดีครับ" เคนเอ่ยทักทายก่อนจะเหลือบมองไปทางพี่ชายที่มองมาทางเขาอยู่เช่นกัน เคนถึงกับทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่รู้ว่าพ่อของกลอเรียเล่าเรื่องอะไรให้พี่ชายฟังหรือไม่

"ยังงัยหละ? ไปเที่ยวที่ไหนกับไจ่ไจ๋กันมา?" ถามเคนต่ออีก

"เอ่อ....ก็เที่ยวทะเลแถวนั้นแหละครับ" เคนตอบแล้วเอามือเกาหัวแก้เก้อ

"เสี้ยวเทียน! มานั่งลงตรงนี้ คุยกับผู้ใหญ่ยืนค้ำหัวได้หรอ?" เจอร์รี่หันไปพูดกับน้องเสียงดุเล็กน้อย เคนจึงเดินเข้ามาแล้วนั่งลงข้างๆพี่ชาย

"หัวหน้าเพิ่งกลับมาวันนี้หรอครับ?" แล้วก็หันไปถามพ่อของกลอเรีย

"อืม เพิ่งกลับมาวันนี้ พอดีกลอเรียไปรับชั้นก็เลยแวะไปดูที่ร้านหนังสือ แล้วพี่ชายเธอเขาก็เลยชวนมากินข้าวที่นี่ รบกวนเธอหน่อยนะเสี้ยวเทียน" พ่อของกลอเรียพูดยิ้มๆ

"ไม่รบกวนเลยครับ วันนี้ผมทำอาหารไทย หัวหน้าชิมแล้วช่วยติชมด้วยนะครับ" เคนว่าพร้อมกับส่งยิ้มให้หัวหน้าเขาเช่นกัน ในตอนนั้นเองแวนเนสกับมี่เฟิงก็เอาน้ำออกมาเสริฟ

"น้ำหวานเย็นๆมาแล้วครับ" แวนเนสว่าแล้วก็ยกน้ำให้กับทุกคน

"อ้าว! เสี้ยวเทียนลงมาแล้วหรอ? ว้า.....ชั้นเลยไม่ทันเห็นนายทำหน้าเซอร์ไพรส์เลย" แวนเนสบ่นอย่างเสียดายเพราะที่เขาไม่บอกล่วงหน้าว่าพ่อของกลอเรียมาด้วยก็เพื่อจะแกล้งเคนโดยเฉพาะ

"แวนเนส เราก็แกล้งน้องไม่เข้าเรื่อง" พี่ใหญ่หันไปตำหนิแวนเนสเบาๆ แวนเนสทำหน้าเจื่อนๆก่อนจะเลี่ยงมานั่งลงกับกลอเรีย หลังจากนั้นทั้งหมดก็นั่งคุยกันอยู่ครู่หนึ่งไจ่ไจ๋ก็พาหลิงเอ๋อมาถึงพอดี

"มาแล้วครับทุกคน" ไจ่ไจ๋ร้องบอกแล้วจูงมือหลิงเอ๋อเข้ามาในบ้าน

"โอโห! อยู่กันพร้อมหน้าเลย" เมื่อเห็นว่าคนมาเต็มบ้านไจ่ไจ๋ก็อุทานขึ้นมา

"คุณอาก็มาหรอครับ?" เมื่อเห็นพ่อของกลอเรียมาด้วยไจ่ไจ๋ก็รีบทักทายทันที

"กลับมาแล้วหรอไจ่ไจ๋?" พี่ใหญ่เอ่ยทักทายแล้วมองเลยไปยังหญิงสาว

"สวัสดีค่ะ" หลิงเอ๋อเอ่ยทักทายเจอร์รี่ออกไปก่อน

"ครับ" เจอร์รี่ยิ้มรับแล้วมองไปที่ไจ่ไจ๋เป็นเชิงบอกให้เขาแนะนำทุกคนให้หลิงเอ๋อรู้จัก

"อ้อ! หลิงหลิง....พี่จะแนะนำทุกคนให้รู้จักนะ....." ไจ่ไจ๋หันไปทางแฟนสาวก่อนจะเริ่มแนะนำ

"คุณอาคนนั้นเป็นคุณพ่อของพี่กลอเรีย เป็นหัวหน้าของพี่ชายคนกลางของพี่ที่ชื่อเสี้ยวเทียนคนนั้น" ไจ่ไจ๋พูดอย่างฉะฉาน

"ส่วนมี่เฟิงกับพี่รองหลิงหลิงก็รู้จักอยู่แล้วใช่มั๊ย? สุดท้ายก็คนนี้เป็นพี่ชายคนโตของพี่เอง" เมื่อรู้แล้วว่าใครเป็นใครหลิงเอ๋อก็เอ่ยทักทายอย่างมีมารยาท

"ทุกคนครับนี่หลิงเอ๋อเป็นรุ่นน้องที่คณะแล้วก็เป็นน้องรหัสของผมด้วย" เสร็จแล้วไจ่ไจ๋ก็แนะนำหลิงเอ๋อให้กับทุกคนด้วย

"ยินดีที่ได้รู้จักนะ ทำตัวตามสบายเลย" เจอร์รี่พูดกับหญิงสาวอย่างอ่อนโยน

"ขอบคุณค่ะ" หลิงเอ๋อตอบเจอร์รี่แล้วส่งยิ้มให้

"ไจ่ไจ๋พาแฟนมาเปิดตัวหรือคะเนี่ย?" กลอเรียหันไปกระซิบถามแวนเนสเบาๆ

"ใช่แล้วครับ ผมก็เลยต้องพาคุณมาด้วยไม่งั้นน้อยหน้าแย่เลย เดี๋ยวก่อนปิดงานผมจะเปิดตัวคุณบ้างดีมั๊ย?" แวนเนสตอบกลับอย่างทะเล้น

"คุณนี่!" กลอเรียตีแขนแวนเนสด้วยหมั่นไส้กับนิสัยทะเล้นของคนรัก หลังจากพูดคุยกันต่ออีกพักหนึ่งแล้วเจอร์รี่ก็เอ่ยชวนทุกคนเข้าไปร่วมกินข้าวเย็นด้วยกัน

"เอ่อ....ผมว่าเราไปทานข้าวกันดีกว่าครับ ป่านนี้ทุกคนคงหิวแย่แล้ว....." พูดจบก็ลุกขึ้นเชื้อเชิญทุกคนให้เข้าไปในห้องครัว ในตอนนั้นเองไจ่ไจ๋ปล่อยให้คนอื่นเดินเข้าไปกันก่อนแล้วยืนรอเคนที่เดินรั้งท้ายอยู่ข้างหลัง

"ทำไมยังไม่เข้าไปหละ?" เคนถามเมื่อเห็นน้องยืนรอเขาอยู่

"พี่กลาง....พ่อของพี่กลอเรียไม่ได้ฟ้องอะไรพี่ใหญ่ใช่มั๊ย?" ไจ่ไจ๋กระซิบถามด้วยเป็นห่วงกลัวว่าเรื่องนั้นจะรู้ถึงหูพี่ใหญ่

"พี่ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน พี่ขึ้นไปอาบน้ำเพิ่งลงมาก่อนนายกลับมาแป๊บเดียวเอง ไม่รู้ก่อนหน้านั้นพี่ใหญ่ถามอะไรหัวหน้าหรือเปล่า?" เคนตอบด้วยสีหน้าแสดงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด

"งั้นเราก็ทำตัวปกติก็แล้วกัน อย่างน้อยตอนนี้คนอยู่เยอะพี่ใหญ่คงไม่กล้าพูดหรือทำอะไรพี่กลางหรอก" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับมองหน้าพี่ชายอย่างเห็นใจ

"อืม.....เรารีบเข้าไปกันเถอะ" เคนตอบรับคำน้องแล้วตัดบทด้วยการเดินนำหน้าน้องชายตามเข้าไป




 

Create Date : 30 ธันวาคม 2550    
Last Update : 30 ธันวาคม 2550 21:37:52 น.
Counter : 1131 Pageviews.  

Chapter 50

ตอนที่ 50

"พี่กลางครับ!! เรากลับมาแล้ว!!" ไจ่ไจ๋ร้องตะโกนบอกเคนหลังจากที่ไปช้อปปิ้งกับแวนเนสกลับมาพร้อมกับข้าวของมากมาย

"พี่กลาง! อาหารอร่อยๆเยอะแยะเลย ผมซื้อมาให้ตามที่รับปากแล้วนะ" ไจ่ไจ๋หิ้วถุงข้าวของจะวิ่งเข้าบ้านแต่ก็ต้องชะงักเพราะประตูบ้านล็อกอยู่

"อ้าว! พี่กลางไม่อยู่หรอเนี่ย? อย่าบอกนะว่าแอบออกไปกินข้าวข้างนอกแล้วหลอกให้เราซื้อเข้ามาให้ เปลืองเงินตายเลย" ไจ่ไจ๋วางถุงข้าวของทั้งหมดแล้วบ่นอุบอิบ

"ทำไมไม่เข้าบ้านหละไจ่ไจ๋?" แวนเนสที่ถือของตามลงมาถามน้องอย่างสงสัย

"ก็ประตูล็อกน่ะสิ พี่กลางไม่รู้ไปไหน เอากุญแจมาเปิดทีสิ" ไจ่ไจ๋ว่า เมื่อได้ยินดังนั้นแวนเนสก็เอะใจ

"เอ๊ะ! เจ้าพี่กลางไม่อยู่หรอ? จะออกไปไหนทำไมไม่โทรบอก?" แวนเนสพึมพำแล้วรีบเอากุญแจมาเปิดบ้าน ในขณะนั้นพี่ใหญ่ก็ขับรถกลับเข้ามาพอดี

"พี่ใหญ่กลับมาแล้ว!" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วรีบวิ่งไปรับพี่ชาย

"พี่ใหญ่กลับเร็วจัง นี่ผมกับพี่รองเพิ่งออกไปซื้อของกันมา ซื้ออาหารมาเต็มเลย" ไจ่ไจ๋เอ่ยทักทายพี่ชายอย่างร่าเริง แต่พอเห็นสีหน้าอิดโรยของพี่ชายแล้วเขาก็มีสีหน้าตกใจ

"พี่ใหญ่ไม่สบายหรือเปล่าครับ? หน้าซีดจัง" ว่าพลางพยุงพี่ชายลงมาจากรถ

"เปล่าหรอก พี่แค่รู้สึกเพลียๆน่ะ" เจอร์รี่ยิ้มแบบฝืนๆให้น้องก่อนจะหันไปล็อกรถ

"พี่กลางหละไจ่ไจ๋?" ถามหาเคนกับน้องชายคนเล็ก

"ไม่รู้ออกไปไหน กลับมาก็ไม่เห็นแล้วปิดบ้านเงียบเลย" ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็ขมวดคิ้ว

"เขาไม่ได้บอกไว้หรอ?" ถามไถ่น้องชายต่อเริ่มสังหรณ์ใจขึ้นมา เมื่อไจ่ไจ๋ส่ายหน้าเจอร์รี่ก็รีบเดินเข้าบ้านก็เจอกับแวนเนสที่เดินสวนออกมาพอดี

"เสี้ยวเทียน....." ตั้งท่าจะถามแต่แวนเนสชูกระดาษโน๊ตที่มีลายมือของเคนให้พี่ชายดู

"ไม่ต้องรอนะ ชั้นจะไปหาอาเจียง" ทันทีที่อ่านจบเจอร์รี่ก็ผลุนผลันขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว ไจ่ไจ๋ยืนอึ้งกับสถานการณ์ตรงหน้า

"พี่รอง.....เกิดอะไรขึ้น?" ถามพี่ชายเสียงแผ่ว

"ตามไปเถอะไจ่ไจ๋!" แวนเนสว่าแล้วก็รีบฉุดมือน้องชายให้ขึ้นรถแล้วขับตามออกไปทันที

"เกิดอะไรขึ้น? นี่มันเกิดอะไรขึ้น?" ไจ่ไจ๋ถามย้ำพี่ชายทั้งน้ำตาหลังจากที่ขึ้นมานั่งบนรถแล้ว

"พี่เองก็ไม่รู้" แวนเนสเองก็ใจไม่ดี ความจริงเขาเองก็สังหรณ์ใจตั้งแต่เช้าแล้วแต่ไม่คิดว่าจะเรื่องจะบานปลายเช่นนี้

"นายลองโทรหาพี่กลางซิ" แวนเนสสั่งน้อง ไจ่ไจ๋ได้ยินก็รีบโทรหาเคนแต่ติดต่อไม่ได้

"ติดต่อไม่ได้เลยครับ" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วกดเบอร์อีกครั้ง

"พี่กลางครับ พี่อยู่ไหน? ติดต่อกลับมาหน่อยนะ" ไจ่ไจ๋ฝากข้อความไว้ก่อนจะวางสายไป

"เพราะผมใช่มั๊ยพี่รอง? เพราะผมพี่กลางเลยต้องทะเลาะกับพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋ถามอย่างพอจะรู้

"ไม่ใช่หรอกไจ่ไจ๋ ไม่ใช่หรอก....." แวนเนสปฏิเสธ แล้วเร่งความเร็วขึ้นอีก

"เราจะไหนกัน? พี่กลางบอกว่าจะไปหาอาเจียงมันหมายความว่ายังงัยกันแน่? อาเจียงเขา....." คำพูดของน้องชายทำเอาแวนเนสเย็นวาบไปทั้งตัว

"ไม่ๆๆๆๆ พี่กลางมันไม่ใช่คนที่ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง มันไม่ทำแบบนั้นแน่" แวนเนสค้านความคิดของน้องชายขึ้นมาทันทีทั้งที่ในใจเขาก็ตีความหมายไปในทางเดียวกันนั้น

"แต่ทำไมพี่กลาง....." ไจ่ไจ๋แทบจะปล่อยโฮออกมาอยู่แล้ว ช่วงเวลาที่มีความสุขของเขาทำไมจึงสั้นเพียงน้อยนิดเท่านั้น

"ผมน่าจะรู้ตั้งแต่แรก เมื่อเช้าผมก็เห็นแล้วว่าพี่เขาดูท่าทางไม่ค่อยดีแถมยังพูดเหมือนจะสั่งลาอีกด้วย ผมไม่น่าทิ้งเขาอยู่คนเดียวเลย" พูดจบไจ่ไจ๋ก็ซบหน้ากับฝ่ามือแล้วร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น แวนเนสนั้นแม้พยายามแล้วแต่ก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เช่นกัน เขาขับรถทั้งที่สายตาพร่ามัวในใจร้อนรุ่มกระวนกระวายไม่น้อย

"ไม่หรอกไจ่ไจ๋ บางทีพี่กลางอาจจะไปที่บ้านอาเจียงก็ได้ เวลาไม่สบายใจพี่กลางชอบหนีไปที่นั่น" แวนเนสพยายามพูดปลอบใจน้อง

"แต่ที่นั่น.....พี่กลางตกลงใจขายไปแล้ว พี่เขาจะกลับไปอีกทำไม?" ไจ่ไจ๋แย้งทั้งที่ยังร้องไห้สะอึกสะอื้น แต่แวนเนสไม่ตอบเขากลับเร่งเครื่องต่อไปจนกระทั่งไปถึงบ้านอาเจียง แล้วเขาก็พบว่ารถของพี่ชายคนโตก็จอดอยู่ที่นั่นก่อนแล้ว

"พี่ใหญ่ก็มาที่นี่" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับเอามือปาดน้ำตา เขาเองก็หวังว่าจะได้เจอเคนในบ้านนั้น

"รีบลงไปกันเถอะ" แวนเนสบอกน้องแล้วรีบพากันลงไปหาพี่ชาย

"เสี้ยวเทียนไม่อยู่ที่นี่ ไม่ได้มาที่นี่เลย" เจอร์รี่พูดจบก็ทรุดลงนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นอย่างหมดแรง ถ้าน้องเป็นอะไรไปเขาคงทนอยู่ต่อไปไม่ได้เช่นกัน

"เพราะชั้นเอง เพราะชั้นคนเดียว......" เจอร์รี่พูดอะไรต่อไม่ออกได้แต่ร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด แวนเนสเองก็แทบหมดแรงหัวสองตีบตันไปหมด

"ไม่จริง พี่กลางต้องไม่ทำอะไรแบบนั้น พี่กลางต้องไม่....." ไจ่ไจ๋ส่ายหน้าทั้งน้ำตา

"พี่กลางอาจไปหาเพื่อน พี่กลางอาจจะแกล้งหลอกให้พวกเราตกใจเล่นเท่านั้นเอง ผมจะโทรหาเพื่อนของพี่กลาง" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมาแต่แล้วเขาก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองไม่รู้จักเบอร์เพื่อนของพี่ชายเลยแม้แต่คนเดียว

"โธ่โว้ย!!" น้องเล็กเตะก้อนหินที่พื้นอย่างโมโห ท่าทางของน้องเล็กนั้นทำให้พี่ชายทั้งสองคนเริ่มได้สติขึ้นมา

"ชั้นว่าพวกเราฟูมฟายกันเกินไป บางทีเสี้ยวเทียนอาจจะไม่ได้หมายเป็นอย่างอื่นก็ได้" แล้วแวนเนสก็เริ่มคิดขึ้นมาได้

"นายหมายความว่างัย?" เจอร์รี่ย้อนถามดวงตาแดงกล่ำน้ำเสียงแหบแห้ง

"น้องบอกว่าจะไปหาอาเจียง นั่นก็คือว่าน้องจะไปหาอาเจียง" แวนเนสตอบ ไจ่ไจ๋ได้ยินดังนั้นก็หันมาทางพี่ชาย

"เสี้ยวเทียนอาจไปที่หลุมศพอาเจียงก็ได้" พูดต่ออย่างมีความหวัง พี่ใหญ่ได้ยินดังนั้นก็รีบเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที โดยที่แวนเนสและไจ่ไจ๋เองก็ตามไปติดๆ

"ศพของอาเจียงฝังอยู่ที่ไหนหรอพี่รอง?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายอย่างรุ่มร้อน

"ไม่ไกลจากที่นี่หรอก" แวนเนสตอบแล้วบีบแตรไล่รถคันหน้าอย่างร้อนใจเช่นกัน

"เราต้องเจอพี่กลางที่นั่นใช่มั๊ย?" ไจ่ไจ๋พูดต่ออย่างต้องการความเห็นชอบเหมือนกับเขา

"ต้องเจอสิ พี่กลางต้องไปที่นั่นไม่ผิดแน่" แวนเนสพูดอย่างมั่นใจ



- ที่หลุมศพอาเจียง -

"สวัสดีครับอาเจียง" เคนพูดขึ้นพร้อมกับวางดอกไม้ที่ซื้อมาลงหน้าหลุมศพก่อนจะนั่งคุกเข่าลงตรงนั้น

"อาเจียงครับ อาสบายดีหรือเปล่าครับ?" เงียบไปซักพักก็เอ่ยถามขึ้นมา

"ผมถามโง่ๆอีกแล้ว อาเจียงก็ต้องสบายดีแน่ๆ" แล้วเคนก็ต่อว่าตัวเองที่ถามอะไรไปแบบนั้น

"ผมไม่ได้มาหาอาตั้งนาน คิดถึงอาจัง" พูดต่อด้วยสีหน้าเศร้าๆ

"อาเจียงครับ อาจะโกรธผมมั๊ยที่ผมจะขายสมบัติที่อายกให้ผม?" เคนตั้งคำถามนั้นต่ออีก

"แต่ผมว่าอาต้องไม่โกรธแน่เพราะว่าผมไม่ได้เอาเงินที่ขายได้ไปเที่ยวเล่นหรือซื้อของฟุ่มเฟือยนะครับ แต่ผมจะเอาไปให้เด็กกำพร้า" แล้วเคนก็ถอนหายใจออกมา

"แบบนั้นจะได้ประโยชน์กว่าเยอะ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะขายได้เมื่อไหร่นะครับ แต่รับรองเลยว่าถ้าขายได้เมื่อไหร่ผมจะเอาไปบริจาคเป็นชื่อของอา ให้อาเจียงได้หน้าคนเดียวเชียวแหละ" พูดจบเคนก็ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะมีสีหน้าสลดลงอีกครั้ง

"อาเจียงครับ ช่วงนี้ผมมีเรื่องไม่สบายใจหลายอย่าง....." แล้วเคนก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแผ่วลง

"ไม่รู้ว่าทำไมสิ่งต่างๆที่ผมทำลงไปมักได้ผลตอบแทนกลับมาแบบไม่คุ้มค่ากันเลย ผมทำดีที่สุดแล้วแต่กลับถูกตำหนิแรงๆกลับมาทุกครั้ง ผมท้อจังเลยครับอา" พูดระบายอารมณ์ออกมาสีหน้าเศร้าสร้อย

"เมื่อก่อนผมคิดว่าพี่ใหญ่เขาคงรักผมอยู่บ้างเหมือนกัน แต่มาถึงวันนี้ผมถึงรู้ว่าผมคิดเข้าข้างตัวเองมาตลอด......" เคนพูดจบก็นิ่งไปพักหนึ่งเมื่อคิดถึงคำด่าว่าแรงๆของพี่ชาย

"ถ้าอายังอยู่ก็คงดีนะครับ เพราะตอนนี้ผมอยากให้อากอดผมแล้วบอกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย....." เคนมองป้ายหลุมศพตรงหน้าน้ำตาคลอ

"ผมนี่แย่จริงๆ มาหาอาทีไรก็มีแต่เรื่องไม่เป็นเรื่องมาบ่นให้ฟังทุกที งั้นผมคุยเรื่องอื่นดีกว่า" ว่าแล้วเคนก็จะเปลี่ยนเรื่องแต่แล้วเขาก็ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไรดี

"เอ่อ.....อาก็รู้ว่าผมพูดไม่เก่ง ผมไม่รู้จะคุยอะไรกับอาแล้ว งั้นผมนั่งเป็นเพื่อนนะครับ ไว้คิดเรื่องที่จะคุยกันได้แล้วผมจะบอกอานะ" พูดจบเคนก็ขยับตัวแล้วนั่งพิงป้ายหน้าหลุมศพนั้นพร้อมกับหลับตาลง จนมาลืมตาขึ้นอีกทีเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาใกล้ เคนรู้สึกตกใจเมื่อรู้ว่าคนที่เดินมาเป็นใคร

"ลุกขึ้น!" สิ้นเสียงนั้นเคนก็ถูกกระชากแขนขึ้นมา

"นายมาที่นี่ทำไม?" เคนถามแต่คำตอบที่ได้รับนั้นคือฝ่ามือหนักๆของพี่ชายที่ตวัดลงมาบนร่างเขาแบบไม่นับเคนสะดุ้งทุกครั้งเมื่อฝ่ามือของพี่ชายกระทบลงมาแต่เขาก็ไม่ได้ขัดขืนเพราะกำลังงุนงงอยู่

"นายจะทำให้ชั้นหัวใจวายตายใช่มั๊ย!? นายเลือกที่จะแก้แค้นชั้นด้วยวิธีบ้าๆแบบนี้หรอ!? หา!!" พี่ใหญ่เขย่าตัวน้องน้ำตาไหลพรากก่อนที่จะตีน้องอีกยกใหญ่ เล่นเอาเคนถึงกับหน้าเหวอเพราะไม่รู้ว่าเขาทำอะไรผิดอีก

"ถ้าวันหลังทำแบบนี้อีก! ชั้นจะตีให้ตายเลย! รู้มั๊ย!? เข้าใจหรือเปล่า!?" พี่ใหญ่พูดไปตีไปร้องไห้ไปด้วย

"เจ็บ.....พี่ใหญ่.....ชั้นเจ็บ....." เคนร้องครางออกมาทั้งที่ยังงงอยู่ว่าพี่ชายเป็นอะไร แต่พี่ชายก็ยังตีเขาไม่หยุด

"โอ้ย....เดี๋ยวก็ตายกันพอดี.....ไหนบอกคราวหน้าไม่ใช่หรอถึงจะตีให้ตายน่ะ?" ต่อว่าพี่ชายโดยเอาคำที่พี่ชายพูดมาพูดย้อน เจอร์รี่หยุดตีแต่ตอนนี้เขาทั้งดีใจทั้งโมโหแล้วก็โล่งอกในเวลาเดียวกัน เคนเอามือลูบตรงที่ถูกตีพร้อมกับเหลือบตามองพี่ชาย ถึงแม้จะไม่รู้ว่าพี่ชายตีเขาทำไมแต่ก็ไม่กล้าถามเช่นกัน

"ห้ามทำแบบนี้อีกนะ!" แล้วพี่ใหญ่ก็ดึงเคนเข้าไปกอดแน่นโดยที่เคนยังงงไม่หาย

"อย่าทำแบบนี้กับพี่อีกได้ยินมั๊ย?" เคนรู้สึกได้ว่าร่างของพี่ชายสั่นไปด้วยแรงสะอื้นเขาอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆยกมือขึ้นมากอดพี่ชายตอบแล้วใช้มือลูบหลังปลอบประโลมพี่ชายอย่างอ่อนโยน ในตอนนั้นเองที่แวนเนสกับไจ่ไจ๋ตามมาถึงพอดี พอได้เห็นภาพตรงหน้าก็หันไปยิ้มให้กันแล้วยืนมองเงียบๆอยู่พักหนึ่งไจ่ไจ๋ก็เป็นคนทำลายความเงียบขึ้นมา

"เห็นมั๊ยพี่รอง!? ผมบอกแล้วว่าน่าจะเป็นทางขวาพี่ก็ไม่เชื่อ ปล่อยให้วิ่งผิดหลงทางตั้งนาน เลยไม่ทันเห็นตั้งแต่แรกเลย" แล้วไจ่ไจ๋ก็เอ่ยปากต่อว่าแวนเนสขึ้นมา ทำให้พี่ใหญ่กับเคนผละตัวออกจากกัน เคนมองไปทางต้นเสียงอย่างงงๆเช่นกัน

"อ้าว! ก็พี่จำได้ว่าหลุมศพอาเจียงไปทางด้านซ้ายนี่หว่า" แวนเนสเถียงน้องกลับอย่างไม่ยอมรับ

"สงสัยแกนโลกคงหมุนกลับมั้งครับ?" ไจ่ไจ๋เหน็บแนมพี่ชายเข้าให้ พูดจบก็เดินนำแวนเนสเข้าไปหาพี่ชายทั้งสองคน

"ทำไมพวกนายก็มาหละ?" เคนถามอย่างไม่เข้าใจ และเมื่อเห็นพี่น้องทั้งสามคนตาแดงๆเหมือนเพิ่งผ่านการร้องไห้มาเขาก็ยิ่งงงหนักกว่าเก่า

"แล้วเป็นอะไรกัน? ร้องไห้หรอ?" ได้ยินคำถามนี้สามพี่น้องก็พูดออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน

"ยังจะมาถามอีก!!?" เคนเอามือเกาหัวยังไม่เข้าใจอยู่ดี

"ถามก็ไม่ได้หรอ? งั้น.....ยังงัยดีหละ?" เคนรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองคงทำอะไรผิดและความผิดนั้นคงจะไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเสียด้วย

"พี่กลางน่ะ จะออกมาทำไมไม่โทรบอก? จู่ๆก็หายออกมาแล้วทิ้งข้อความแบบนี้ไว้เขาก็เป็นห่วงกันสิครับ" ไจ่ไจ๋ต่อว่าพี่ชายขึ้นมาเป็นคนแรก

"โทรศัพท์พี่รู้สึกจะลืมอยู่บนรถพี่ใหญ่ตั้งแต่เมื่อวานป่านนี้คงแบตหมดไปแล้ว แล้วโทรศัพท์บ้านก็ถูกล็อกไม่ให้โทรออก พี่ก็เลยเขียนโน๊ตไว้ให้แบบนี้ยังจะว่าพี่ไม่บอกกล่าวไว้อีกหรอ?" เคนแก้ข้อกล่าวหานั้นอย่างฉะฉาน

"ใครล็อกโทรศัพท์?" แวนเนสกับไจ่ไจ๋ถามขึ้นมาพร้อมกัน

"ก็.....ก็ค่าโทรศัพท์เดือนที่แล้วมันมากเกินไปพี่ก็เลยต้องล็อกการโทรออกไว้ระยะนึง มีปัญหาอะไรหรอ?" เจอร์รี่แก้ตัวแบบน้ำขุ่นๆซ้ำยังเก๊กหน้าให้ดูขรึมๆเพื่อกลบเกลื่อนความขี้แยของตัวเอง

"แต่ชั้นก็ยังไม่เข้าใจอยู่ว่าทำไมพวกนายต้องตามชั้นมาด้วย? ทั้งๆที่ชั้นก็เขียนโน๊ตบอกไว้แล้ว" เคนตั้งคำถามกับพี่น้องอีก

"ไอ้บ้า! แล้วใครใช้ให้เขียนข้อความแบบนั้น ใครอ่านก็ตกใจกันหมดน่ะสิ!" แวนเนสเลยต่อว่าน้องเข้าให้ เคนก็ได้แต่เกาหัวงงๆไม่รู้ว่าเขาเขียนอะไรผิด

"พี่กลางเล่นเขียนว่าจะไปหาอาเจียง แล้วตอนนี้อาเจียงอยู่ไหน? พี่จะให้พวกเราเข้าใจกันว่ายังงัยหละครับ?" ไจ่ไจ๋เฉลยให้พี่ชายฟัง เคนเองก็ยังทำหน้าไม่เข้าใจแต่พอคิดไปคิดมาก็พอจะเข้าใจแล้ว

"ไปหาอาเจียง นี่พวกนายคงไม่นึกว่า....." เคนยังพูดไม่ทันจบพี่น้องทั้งสามคนก็ตอบออกมาพร้อมกัน

"ก็ใช่น่ะสิ!!" ได้ยินดังนั้นเคนเลยถึงกับหัวเราะก๊าก เขานึกไม่ถึงเลยว่าข้อความที่เขาเขียนนั้นจะทำให้พี่น้องแปลความหมายผิดไปขนาดนั้นได้เพราะเขาเพียงแต่ต้องการจะสื่อความหมายว่าเขาจะมาหาอาเจียงที่หลุมศพให้พี่น้องทั้งสามคนกินข้าวไปก่อนได้เลยไม่ต้องรอเขากลับมากินพร้อมกัน

"ยังจะมาหัวเราะอีก! นายไม่เป็นไรแต่พวกชั้นอาจจะรถคว่ำตายก็ได้ รู้หรือเปล่าว่าชั้นน่ะไม่เคยขับรถเร็วขนาดเหยียบมิดไมล์แบบนี้มาก่อนเลย!" แวนเนสต่อว่าน้องชายออกมาเป็นชุด

"ใครใช้ให้พวกนายคิดอะไรลึกซึ้งแบบนั้นหละ? โห! คิดว่าชั้นจะไปหาอาเจียงบนสวรรค์เชียวหรอ? ช่างคิดไปได้นะ นับถือๆๆๆ" เคนว่าพลางหัวเราะพลาง

"ไม่น่าหละทำไมจู่ๆนายถึงมาร้องไห้ร้องห่มเล่นงิ้วให้ชั้นดูซะอย่างงั้น เป็นเพราะแบบนี้นี่เอง" เคนหันไปแซวพี่ชายคนโต ความขุ่นเคืองที่มีเมื่อวานหายไปเกือบหมด เจอร์รี่รู้สึกเสียฟอร์มที่โดนน้องแซวจึงปั้นหน้าขรึมแล้วพูดด้วยน้ำเสียงดุๆ

"ทำให้วุ่นวายกันหมดทั้งบ้าน! เดี๋ยวกลับไปชั้นจะตีให้หนักเชียว!" แม้พี่ชายจะดุแต่น้องชายทั้งสามคนกลับหันไปยิ้มแล้วทำท่าพยักเพยิดให้กัน

"ตีมันลงหรอครับ?" แวนเนสแกล้งถามแหย่พี่ชาย เจอร์รี่ค้อนใส่ก่อนจะหันหลังหนีบรรดาน้องชายตัวแสบทั้งสามคนแล้วใช้มือเช็ดหน้าคราบน้ำตาบนใบหน้าตัวเอง

"มีหรอจะตีไม่ลง? เมื่อกี้โดนไปหลายชุดเลย เจ็บชะมัด....." เคนพูดแทรกขึ้นมาพร้อมกับบ่นอุบอิบ

"แค่นี้มันยังน้อยไปกับการที่นายทำให้ชั้นแทบจะหัวใจวายตาย!" หันมาแหวใส่น้องชายเสียงห้วนก่อนที่จะถอนหายใจออกมาแล้วเดินไปคุกเข่าหน้าหลุมศพอาเจียง

"อาเจียงครับ วันนี้เจ้าตัวยุ่งของอามางอแงกับอาหรือเปล่า? ถ้าเป็นแบบนั้นผมก็ต้องขอโทษอาด้วยที่ผมดูแลน้องไม่ดีปล่อยให้น้องมารบกวนอาจนได้ แต่ผมรับรองเลยครับว่ากลับบ้านไปผมจะอบรมสั่งสอนเขาให้มากกว่านี้ แต่ยังงัยอาก็ต้องช่วยผมหน่อยนะครับช่วยบอกวิธีกำหราบเด็กดื้อคนนี้ให้เชื่อฟังผมเหมือนกับที่เขาเชื่อฟังอา ผมอยากให้เขาทำตัวว่านอนสอนง่ายกับผมบ้าง" พี่ใหญ่พูดพร้อมกับมองหน้าหลุมศพของอาเจียง

"อาเจียงครับ อาบอกพี่ใหญ่ไปสิครับว่าอาปฏิบัติกับผมยังงัยผมถึงได้เชื่อฟังอา แต่อาอย่าลืมย้ำกับพี่ใหญ่ด้วยนะครับว่าวิธีของอาน่ะไม่มีการดุและก็ไม่มีการตีด้วย" เคนนั่งลงข้างพี่ชายแล้วแกล้งพูดตอบโต้พี่ชายโดยใช้อาเจียงขึ้นมาอ้าง แวนเนสกับไจ่ไจ๋ยืนมองพี่น้องทั้งสองคนยิ้มๆแล้วรอฟังต่อว่าพี่ใหญ่จะพูดยังงัย

"อาครับ ผมเองก็ไม่ได้อยากดุหรือตีเจ้าตัวยุ่งของอาเลยนะครับ แต่บางครั้งถ้าไม่ใช้ไม้เรียวกำหราบบ้างเขาก็จะยิ่งดื้อดึงมากขึ้นไปอีก อารู้มั๊ยครับว่าทุกครั้งที่ผมตีเขาสุดท้ายแล้วผมก็ต้องมานั่งเสียใจเองทุกที เขาโดนตีอาจจะเจ็บตัวแต่ไม่นานก็หายแต่ผมนี่สิครับเจ็บจนลืมไม่ลงเลยเพราะคงไม่มีใครอยากเป็นคนลงมือทำร้ายคนที่เรารักหรอก อาว่าจริงมั๊ยครับ?" คำพูดของพี่ใหญ่ทำให้เคนอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหน้าพี่ชาย

"อาเจียงครับ งั้นอาบอกพี่ใหญ่ว่าให้เขาตีผมได้แต่ว่าอย่าตีแรงมากแล้วถ้าเป็นความผิดเล็กน้อยอาก็บอกให้เขาแกล้งทำเป็นไม่เห็นบ้างก็ได้ เพราะถ้าแค่ทำอะไรผิดนิดเดียวก็ถูกตีนี่ผมก็คิดมากเหมือนกันนะ บางทีก็พาลคิดว่าพี่ใหญ่คงไม่รักผมถึงได้ตีผมแม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆเพียงแค่นี้" คราวนี้พี่ใหญ่เป็นฝ่ายที่หันมามองหน้าน้องชายบ้าง

"ถ้าพี่ไม่รักนาย อย่าว่าแต่ดุหรือตีเลยแม้แต่เพียงแค่ตักเตือนพี่ก็จะไม่ปริปากพูดให้นายได้ยินหรอก" พี่ใหญ่หันมาพูดกับน้องตรงๆ เคนหันหน้ามามองพี่ชายแล้วก็นิ่งไป

"พี่รองว่าจะกอดกันมั๊ย?" ไจ่ไจ๋กระซิบถามพี่ชายคนรอง

"ชัวร์!" แวนเนสตอบแล้วยืนรอดูผลการคาดเดาของตัวเอง

"อาเจียงครับ ช่วยบอกพี่ใหญ่ให้ผมทีว่าที่ผมดื้อกับเขาน่ะก็เพราะผมรักเขาเหมือนกัน ถ้าไม่รักน่ะผมไม่เถียงไม่ย้อนให้เมื่อยปากหรอก" คำพูดนั้นทำเอาแวนเนสกับไจ่ไจ๋หัวเราะก๊าก ส่วนเจอร์รี่ก็ได้แต่อึ้งๆกับคำยอกย้อนของน้องชาย

"เฮ่อ! ไอ้ตัวแสบเอ้ยยย....." แล้วเจอร์รี่ก็ถอนใจพลางเอื้อมมือไปจับหัวน้องชายโยกไปมาอย่างหมั่นไส้ก่อนที่จะดึงตัวน้องเข้ามากอดแล้วจูบแรงๆที่หน้าผาก

"เห็นมั๊ย? ผลเป็นไปตามคาด" แวนเนสกระซิบกับน้องเล็กด้วยสีหน้ายิ้มๆ

"อะฮึ่ม! เสี้ยวเทียนครับพี่รองก็รักนายเหมือนกัน ฉะนั้นต่อไปนี้พี่คงต้องตีนายบ้างแล้วหละ" แวนเนสว่าพร้อมกับย่อตัวนั่งคุกเข่าลงข้างๆน้องชาย

"ก็ลองดูสิ! ชั้นก็มีมือเหมือนกันนะ!" เคนหันไปเถียงอย่างไม่เกรงกลัวพี่ชายคนนี้เลยแม้แต่น้อยแต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกเพราะโดนพี่ใหญ่ฟาดเพี๊ยะลงมาที่แขน

"พูดกับพี่เขาแบบนี้ได้หรอ?" เจอร์รี่ดุเสียงเข้ม คนถูกดุทำท่าจะเถียงแต่พอเห็นสีหน้าของพี่ชายแล้วก็ไม่กล้าเลยหันไปค้อนใส่แวนเนสแทน

"สมน้ำหน้า" แวนเนสแอบกระซิบซ้ำเติมน้องชาย เคนขยับตัวหนีก่อนจะหันไปคว้ามือไจ่ไจ๋ให้แล้วเปลี่ยนเรื่องซะอย่างงั้น

"ไจ่ไจ๋มานี่มา" ดึงน้องเล็กให้มานั่งลงข้างเขา

"อาเจียงครับ อาจำเจ้าตัวเล็กได้หรือเปล่าครับ? ตอนนี้น้องโตเป็นหนุ่มแล้ว ถ้าอายังอยู่สงสัยอาคงไล่ผมกลับบ้านแล้วขอไจ่ไจ๋ไปอยู่กับอาแทนแน่ๆเลย" เคนพูดกับอาเจียงแบบติดตลก

"ไจ่ไจ๋ นายทักอาเจียงเขาซักหน่อยสิ" ว่าแล้วเคนก็หันมาบอกน้องชาย ไจ่ไจ๋พยักหน้ารับก่อนจะมองหลุมศพอาเจียงแล้วเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะเอ่ยคำพูดออกมา

"เอ่อ....อาเจียงครับ ผมจำอาไม่ได้หรอกแต่ผมเคยได้ยินพี่ๆเขาเล่าเรื่องอาให้ฟังอยู่เหมือนกัน พี่กลางบอกว่าอาเจียงใจดีมากๆเคยซื้อของเล่นให้ผมตั้งเยอะแยะด้วย แต่ผมยังไม่มีโอกาสได้ขอบคุณอาเลยซักครั้ง งั้นวันนี้ผมขอขอบคุณอาเจียงอย่างเป็นทางการเลยนะครับ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่อาเคยให้ผมและต้องขอบคุณที่สุดก็คือการที่อาคืนพี่กลางให้ผม" เคนได้ยินก็หันไปมองน้องชาย

"ผมรู้นะครับว่าอารักพี่กลางมากซึ่งผมเองก็รักพี่กลางมากเหมือนกัน อาอยู่คนเดียวอาจจะเหงาแต่อาห้ามเอาพี่กลางผมไปอยู่เป็นเพื่อนเด็ดขาดเลยนะครับ ถ้าหากพี่กลางเขางอแงร้องจะไปอยู่กับอาเมื่อไหร่ อาเจียงช่วยถีบส่งพี่กลางแรงๆกลับมาให้ผมด้วยนะครับ แล้วผมสัญญาว่าผมจะขยันมาเยี่ยมอาบ่อยๆไม่ให้อาต้องเหงาเพราะตอนนี้ผมรู้แล้วว่าอาอยู่ที่ไหน" คำพูดนั้นทำให้พี่ชายทั้งสามคนอดที่จะยิ้มไม่ได้โดยเฉพาะเคนที่ทั้งดีใจและปลื้มใจที่น้องชายรักเขามากขนาดนี้

"ขอพี่ทักอาเจียงบ้างซิ" เมื่อเห็นว่าพี่น้องทุกคนทักอาเจียงกันครบแล้วแวนเนสก็เดินมานั่งคุกเข่าบ้าง

"อาเจียงครับ ผมแวนเนสนะ" จบคำพูดของแวนเนสนั้นพี่น้องสามคนก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมๆกัน

"อาเขารู้อยู่แล้วน่า! จะแนะนำตัวทำไม?" เคนพูดแซวพี่ชายแบบขำๆ แวนเนสหันไปค้อนใส่ก่อนจะหันไปพูดกับอาเจียงต่อ

"ผมกลัวว่าอาจำผมไม่ได้งัยหละเพราะว่าตอนนี้ผมหล่อขึ้นเป็นกองเลย จากที่ตอนเด็กๆน่ารักอยู่แล้วแต่ตอนนี้ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่แถมผมน่ะมีสาวๆมารุมล้อมตรึมเลยนะ" ทันทีที่แวนเนสพูดจบประโยคเสียงพี่น้องก็ร้องโห่แซวขึ้นมาในทันที

"เงียบๆหน่อย ไม่มีมารยาทเลยเจ้าพวกนี้" แวนเนสหันไปดุพี่น้อง

"อาอย่าไปสนใจพวกมันเลยนะ ผมเล่าต่อดีกว่า.....เอ.....ว่าแต่เมื่อกี้ผมพูดถึงไหนแล้วนะ? อ้อ! ผมบอกว่าผมหล่อใช่มั๊ย?....." คำพูดของแวนเนสสร้างเสียงหัวเราะจากพี่น้องได้เป็นอย่างดี

"แล้วก็เป็นเพราะว่าผมหล่อผมเลยได้เป็นดาราแล้วอีกหน่อยก็จะได้เป็นนักร้องด้วย เสียดายที่อายังไม่ทันเห็น ไม่สิ....อาต้องเห็นอยู่แล้วเพียงแต่อามาเชียร์ผมด้วยตัวเองไม่ได้เท่านั้นเอง" แวนเนสพูดต่อโดยไม่สนใจคำแซวของพี่น้องทั้งสามคน

"ผมร้องเพลงเพราะน้า.....ถ้าอาไม่เชื่อเดี๋ยวอัลบั้มผมวางแผงเมื่อไหร่จะเอามาให้อาฟังแล้วอาต้องตัดสินนะครับว่าที่ผมพูดน่ะผมโกหกอาหรือเปล่า?" แวนเนสพูดไปยิ้มไปอย่างภูมิใจในงานที่ได้ทำ

"ผมไม่พูดแล้วดีกว่าเพราะรู้สึกว่าจะมีคนอิจฉาผมอยู่ พูดมากเดี๋ยวโดนหมั่นไส้ ยังงัยอาก็พักผ่อนให้สบายนะครับ เรื่องอะไรที่เจ้าเสี้ยวเทียนมาบ่นให้ฟังก็ลืมๆไปเถอะครับ เพราะเจ้านี่มันบ้าๆบอๆบ่นวันนี้เดี๋ยวพรุ่งนี้มันก็ลืมแล้ว" ไม่วายพูดแขวะน้องชายคนกลางทิ้งท้าย

"นี่! หุบปากไปเลย! โอ้ยยย....." เคนแหวใส่พี่ชายแต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนเป็นเสียงร้องเพราะโดนพี่ชายคนโตดึงหูเข้าให้

"บอกกี่ครั้งแล้วว่าเขาเป็นพี่! พูดจากับพี่เขาให้มันดีๆหน่อย" เคนทำหน้ามุ่ยและทำท่าจะขยับตัวไปหลบอยู่ข้างๆน้องชาย

"ไม่ต้องหนี มาลาอาเจียงซะ ต้องกลับบ้านซักทีเพราะมันมืดแล้ว" สั่งน้องต่ออีก เคนไม่พูดว่าอะไรเพียงแต่ย่อตัวนั่งลงแล้วเอามือลูบที่ป้ายหลุมศพนั้น

"ผมกลับก่อนนะครับอา วันนี้มีแค่ดอกไม้แต่วันหลังจะเอาอาหารมาให้ด้วย ผมจะทำให้สุดฝีมือเลย" เคนว่าพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย จากนั้นเจอร์รี่กับแวนเนสและไจ่ไจ๋ก็มาบอกลาอาเจียงด้วยกันเสร็จแล้วทั้งสี่คนก็พากันเดินกลับออกมา

"ทำไมเอารถมาตั้งสองคัน?" เคนถามพี่น้องอย่างงงๆเมื่อเห็นรถจอดอยู่สองคัน

"ก็พี่ใหญ่น่ะพออ่านข้อความที่พี่เขียนโน๊ตไว้แล้วก็พรวดพราดขับรถออกมาแบบไม่สนใจน้องนุ่งคนอื่นเลย ผมกับพี่รองเลยต้องขับรถตามมาเอง" ไจ่ไจ๋ให้ความกระจ่างแก่พี่ชาย เคนได้ยินก็อดที่จะขำต่อไม่ได้กับเรื่องที่พี่น้องเข้าใจผิดไปในทางเดียวกันหมด

"ยังจะมาหัวเราะอีก! ไปขึ้นรถ!" เจอร์รี่ทำเสียงดุๆแล้วสั่งให้เคนไปขึ้นรถ

"ไปไจ่ไจ๋....." เคนรีบกอดคอน้องชายแล้วเดินไปที่รถของแวนเนสเพื่อหลีกเลี่ยงที่จะไม่ไปกับพี่ใหญ่เพราะรู้ว่าพี่ชายต้องอบรมเขาตลอดทางจนถึงบ้านแน่ๆ

"นายมากับชั้น!" แต่แล้วก็โดนพี่ใหญ่ดึงตัวไปจนได้

"ชั้นอยากไปกับน้องหนิ นายขับมาคนเดียวได้ทำไมขับกลับคนเดียวไม่ได้หละ?" เคนว่าพร้อมกับแกะมือพี่ชายออก แต่พอเห็นสีหน้าของพี่ชายแล้วก็จำต้องหมุนตัวเดินไปที่รถของพี่ใหญ่แต่โดยดีไม่อย่างนั้นแล้วเขาคงโดนได้โดนพี่ชายเทศนาอีกหลายชุดแน่

"หึๆๆๆ" แวนเนสกับไจ่ไจ๋หันไปหัวเราะกันเบาๆ

"อย่าด่ามันให้มากนักหละ น้องมันยิ่งเศร้าๆอยู่ว่าอะไรมันอีกเดี๋ยวก็ยิ่งน้อยใจใหญ่" แวนเนสไม่วายต้องเอ่ยปากเตือนพี่ชายอีกครั้ง

"ไม่ต้องมาสอนชั้นหรอก! แล้วขับรถกลับบ้านให้มันดีๆหละ!" พี่ใหญ่พูดเสียงห้วนแต่ไม่วายสั่งกำชับน้องชายเรื่องการขับรถก่อนจะเดินตามเคนไป

"ไม่ต้องมาสอนชั้น.....เพราะชั้นสอนพวกนายได้คนเดียว......" แวนเนสทำท่าล้อเลียนพี่ชายลับหลัง น้องเล็กเห็นก็หัวเราะอย่างขำๆ

"ทำมาเป็นเก๊กดุจะกลบเกลื่อนความขี้แยของตัวเองอ่ะดิ รู้ทันหรอกโว้ย!" แวนเนสต่อว่าพี่ชายลับหลังอย่างสนุกปาก

"ทำเป็นเล่นไปพี่รอง พี่ใหญ่มองพี่อยู่นะ" น้องเล็กเห็นพี่ชายคนโตมองมาก็สะกิดบอกแวนเนส

"มองก็มอง.....เอ่อ....มองจริงๆด้วย....ขอโทษครับ!" ตอนแรกแวนเนสนึกว่าน้องแกล้งหลอกเขาแต่พอเห็นพี่ชายมองมาจริงๆพร้อมกับชี้หน้าเขาด้วยแล้วแวนเนสก็รีบก้มหัวขอโทษพี่ชายแล้วดึงมือน้องเล็กไปที่รถทันที



- ที่บ้าน -

"มากินกันได้แล้ว" แวนเนสโผล่หน้าออกมาเรียกเจอร์รี่กับเคนที่นั่งคุยปรับความเข้าใจกันอยู่เงียบๆในห้องรับแขก ส่วนเขากับไจ่ไจ๋พากันเข้าไปจัดโต๊ะสำหรับอาหารมื้อเย็นจนเมื่อจัดเสร็จแล้วก็ออกมาเรียกพี่น้องอีกสองคนเข้าไปกิน

"ทำน้องชายชั้นร้องไห้อีกแล้ว บอกให้คุยกันดีๆงัยหละ ไปด่ามันอีกหละสิ" เมื่อเห็นว่าพี่ใหญ่กำลังเอามือเช็ดน้ำตาให้น้องชายคนกลางแวนเนสก็แกล้งต่อว่าพี่ชายขึ้นมา

"เจอร์รี่มันไม่ได้ด่าชั้นหรอก" เคนแก้ตัวแทนพี่ชายแล้วเอามือลูบหน้าตัวเอง

"จัดโต๊ะเสร็จแล้วใช่มั๊ย? ไปกินข้าวกันดีกว่า ชั้นหิวแล้ว" พูดจบก็หันไปดึงมือพี่ชายคนโต

"เดี๋ยวก่อน.....ก่อนเข้าไปกินข้าวนายไปล้างหน้าล้างตาซักหน่อยเถอะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวไจ่ไจ๋เห็นหน้านายเป็นแบบนี้แล้วจะหาว่าชั้นรังแกนายอีก" ได้ยินดังนั้นเคนก็ปล่อยมือพี่ชายแล้วเดินเข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำแต่โดยดี

"ทำงัยวะ? เชื่องเป็นแมวเลย" แวนเนสกระซิบถามพี่ชาย เจอร์รี่อมยิ้มแต่ไม่ยอมตอบ

"ไป....ไปกินข้าวกันได้แล้ว....." พูดจบก็โอบไหล่น้องชายแล้วพาเดินเข้าไปในครัว

"โอโห! อาหารทะเลหรอเนี่ย? นึกยังงัยกันวันนี้?" เมื่อเห็นอาหารบนโต๊ะพี่ใหญ่ก็ถามขึ้นอย่างแปลกใจ

"ก็เพราะพี่ใหญ่นั่นแหละทำให้ผมอดกินอาหารทะเลทั้งๆที่อุตส่าห์ไปเที่ยวทะเลทั้งที ผมก็เลยต้องไปซื้อมากินให้หายอยากน่ะสิ" ไจ่ไจ๋ตอบเป็นเชิงต่อว่าพี่ชาย

"อ้าว! อยากกินแล้วทำไมไม่บอกหละ?" เจอร์รี่อุทานแต่ก็เลื่อนเก้าอี้ออกมานั่ง

"เห็นหน้าพี่ใหญ่เป็นแบบนั้นผมจะบอกให้โดนด่าหรอ?" แวนเนสหัวเราะเมื่อได้ยินน้องเล็กพูดเหน็บแนมพี่ชายคนโต เจอร์รี่ได้ยินก็ได้แต่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ในขณะนั้นเคนก็เดินตามเข้ามาพอดี

"นึกแล้วเชียวว่านายต้องซื้ออาหารทะเลมากินแหงๆ" เคนพูดยิ้มๆเมื่อเห็นอาหารบนโต๊ะเขาพอจะเดาออกว่านี่เป็นความคิดของน้องชาย

"ใช่ครับ พี่กลางนั่งสิ" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับเลื่อนเก้าอี้ให้พี่ชายนั่งลงข้างพี่ใหญ่ส่วนตัวเองก็เดินไปเทน้ำจิ้มแล้วรินน้ำเปล่าใส่แก้วมาเสริฟให้บรรดาพี่ชายอย่างเต็มอกเต็มใจ

"กินปูมั๊ยเสี้ยวเทียน?" เจอร์รี่ถามอย่างเอาใจน้องชายสุดฤทธิ์ เมื่อเคนพยักหน้าเขาก็รีบแกะปูให้น้องชายทันที

"ขอบคุณนะ" เคนเอ่ยขอบคุณพี่ชายแล้วลงมือกินปูที่พี่ชายแกะให้อย่างเอร็ดอร่อย แวนเนสเอาศอกกระทุ้งแขนน้องเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆแล้วพยักเพยิดให้ดูพี่ใหญ่ที่เอาใจเคนตลอด

"เอาน่า....ปล่อยไปซักวัน....." ไจ่ไจ๋กระซิบบอกพี่ชายแล้วจิ้มปลาหมึกย่างขึ้นมากินบ้าง

"แล้วกุ้งหละเอามั๊ย?" เจอร์รี่หันไปถามเคนอีก เมื่อน้องพยักหน้าเขาก็ลงมือแกะแล้ววางลงในจานให้อีก ในตอนนั้นเองแวนเนสก็เอื้อมมือไปจิ้มกุ้งตัวที่พี่ชายแกะไว้ให้เคนมากินหน้าตาเฉย

"แวนเนส! นิสัยเสียใหญ่แล้ว!" พี่ใหญ่ดุพร้อมกับทำตาขวางใส่

"ก็เสี้ยวเทียนมันยังกินของที่นายประเคนให้ในจานไม่หมดเลย ชั้นเลยช่วยมันงัย" แวนเนสตอบพี่ชายหน้าตาเฉย

"เดี๋ยวชั้นแกะให้ใหม่ละกัน" เจอร์รี่ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับแวนเนสจึงแกะกุ้งให้เคนใหม่ คราวนี้แวนเนสสะกิดแล้วบอกให้น้องเล็กร่วมมือกับเขาแย่งเคนกิน ไจ่ไจ๋นึกสนุกจึงจิ้มกุ้งตัวที่พี่ใหญ่แกะให้เคนมากินบ้าง แต่คราวนี้พี่ใหญ่กลับไม่ว่าอะไรเพียงแต่นั่งแกะตัวใหม่ให้เคนอีกครั้ง

"โหย! อะไรวะ? ทีไจ่ไจ๋แย่งมันกินไม่เห็นนายว่าอะไรเลยซักคำ" แวนเนสโวยวายขึ้นมาทันทีที่เห็นว่าพี่ใหญ่ไม่ว่าอะไรน้องเล็ก

"อ้าว! นายจะให้ชั้นว่าอะไรมันหละ? เพราะน้องก็แค่อยากช่วยเสี้ยวเทียนกินก็เท่านั้นเอง" เจอร์รี่ตอบแวนเนสแบบกวนๆ

"ฮึ! ลำเอียงเห็นๆ" แวนเนสทำเสียงกระเง้ากระงอดแล้วตักข้าวเปล่ากินอย่างงอนๆ ทำเอาพี่น้องอีกสามคนถึงกับยิ้มออก

"ไอ้บ้า! ทำงอนไม่เข้าเรื่อง อะ....แกะให้ก็ได้" ว่าแล้วพี่ชายก็จัดการแกะกุ้งกับปูแล้ววางลงในจานให้แวนเนสด้วย

"ไม่พอกินหรอกน้อยเกินไป" แวนเนสว่าแล้วยื่นจานข้าวไปตรงหน้าพี่ชายอีก

"ไม่พอก็เรื่องของนายแล้ว! มือไม่มีแกะเองหรืองัย?" เอ็ดใส่เข้าให้อย่างเอือมระอา

"เสี้ยวเทียน นายไม่มีมือหรอ?" แวนเนสหันไปถามน้องหน้าซื่อ เคนหัวเราะเบาๆแต่ไม่ได้ตอบคำถามนั้นเพราะรู้ว่าแวนเนสต้องการแกล้งป่วนพี่ชายเล่นเท่านั้น

"ผมแกะให้ก็ได้พี่รอง" ไจ่ไจ๋รีบแกะเปลือกกุ้งให้แวนเนสทันทีเพราะกลัวพี่ชายจะพลอยน้อยใจไปจริงๆ

"ไม่เอา" แวนเนสส่ายหน้าแล้วมองหน้าพี่ชายคนโตอีก เจอร์รี่ถอนหายใจเฮือกก่อนจะส่ายหน้าไปมา

"เห็นชั้นอยู่แบบสงบๆแล้วนายไม่สบายใจใช่มั๊ยเนี่ย? ทำไมต้องคอยหาเรื่องมารบรากับชั้นอยู่เรื่อยเลย" แม้ปากจะบ่นแต่เขาก็ยอมแพ้น้องชายจนได้

"หึๆๆๆ" แวนเนสแอบหัวเราะพี่ชาย

"จิ้มน้ำจิ้มให้ด้วยนะ" ได้ทีสั่งพี่ชายต่อ เจอร์รี่มองหน้าน้องชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามเข้าอย่างหมั่นไส้แต่ก็ทำตามคำสั่งนั้นอย่างไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วย

"ป้อนด้วย" ว่าพลางชี้ที่ปากตัวเอง คราวนี้พี่ใหญ่ชะงักแล้วมองเจ้าน้องชายตัวอย่างไม่รู้จะทำยังงัยดี

"อยากให้ป้อนด้วยใช่มั๊ย?" ถามย้ำน้องชายด้วยน้ำเสียงหาเรื่องเล็กน้อย

"ใช่แล้ว" แวนเนสผงกหัวรับแล้วยักคิ้วให้แบบกวนๆเช่นกัน

"ไจ่ไจ๋! ไปหยิบมีดมาให้พี่ที" เจอร์รี่หันไปสั่งน้องเล็ก

"พี่ใหญ่จะเอามาทำไมหรอ?" ย้อนถามพลางลุกขึ้นไปหยิบให้อย่างพาซื่อ

"จะเอามาตัดมือไอ้พี่รองมัน! ในเมื่อมีมือแต่ไม่ยอมใช้ก็ตัดทิ้งซะเลย!" พูดด้วยน้ำเสียงโหดๆ ทำเอาแวนเนสรีบหดมือลงทันที

"โหย! เล่นแรงนะเนี่ย ล้อเล่นนิดเดียวถึงกับจะตัดมือชั้นเลยโหดจริงๆ!" แวนเนสต่อว่าพี่ชายก่อนจะยิ้มแหยๆ

"ไม่เล่นแล้วครับ" เมื่อเห็นพี่ชายทำหน้าดุใส่ก็พูดขึ้นเสียงอ่อยๆ เคนกับไจ่ไจ๋จึงหันไปหัวเราะอย่างขำๆกับพี่ชายคนรอง

"ไจ่ไจ๋.....เรามาแบ่งกันกิน" แวนเนสหันไปชวนน้องกินอาหารที่พี่ชายแกะไว้ให้เขา

"พี่รองกินเถอะครับ เดี๋ยวผมทำเองก็ได้" ไจ่ไจ๋ว่าเพราะกลัวพี่ชายจะกินไม่พอ

"เดี๋ยวค่อยแกะใหม่ก็ได้ กินกับพี่ในนี้ให้หมดก่อน" ว่าแล้วก็ตักอาหารในจานตัวเองแบ่งให้น้องชายด้วย

"ขอบคุณนะครับพี่รอง" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็ตักกินอย่างเอร็ดอร่อย

"ขอบคุณมันทำไมไอ้พี่รองเนี่ย? ต้องขอบคุณพี่ใหญ่สิถึงจะถูก พี่เป็นคนแกะให้ต่างหาก" เจอร์รี่ทักท้วงน้องชายคนเล็กทันที

"งั้นขอบคุณพี่ใหญ่ครับ" ไจ่ไจ๋พูดเสียงอู้อี้เพราะกำลังเคี้ยวอาหารอยู่เต็มปาก

"เดี๋ยวตีตายเลย! บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าพูดเวลาเคี้ยวอาหารอยู่ในปาก!" เจอร์รี่ดุน้องเล็กเข้าให้ด้วย ไจ่ไจ๋เหลือบตามองพี่ชายก่อนจะกลืนอาหารลงคอ

"ขอโทษครับ วันหลังผมจะไม่พูดเวลาเคี้ยวอาหารอยู่ในปากอีกแล้ว" พูดขอโทษพี่ชายแต่ฟังดูเหมือนจะประชดมากกว่า

"เออดี! เวลาพี่สอนอะไรแล้วรู้จักจำและก็ทำตามซะบ้าง ไม่ใช่พูดอะไรก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาตลอด....." เจอร์รี่ตั้งท่าจะบ่นน้องต่อแต่เคนก็พูดแทรกขึ้นมา

"เจอร์รี่ เมื่อไหร่นายจะกินบ้างหละ?" พี่ใหญ่หันมาทางน้องชายคนกลาง

"เดี๋ยวพี่ค่อยกิน นายไม่ต้องกลัวว่าพี่จะกินไม่ทันหรอก" พูดเพราะนึกว่าน้องห่วงกลัวว่าเขาจะกินไม่ทัน

"เปล่า ชั้นไม่ได้กลัวนายจะกินไม่ทัน แต่เวลาที่นายเคี้ยวอาหารอยู่ในปากนายจะได้ไม่พูดมากงัยหละ" เคนต่อว่าพี่ชายแบบนิ่มๆ ทำเอาไจ่ไจ๋ที่กำลังเคี้ยวอาหารและแวนเนสที่กำลังยกแก้วน้ำขึ้นดื่มอยู่แทบสำลักออกมาพร้อมๆกัน

"ไอ้....." พี่ใหญ่ถึงกับพูดอะไรไม่ออกเมื่อน้องน้องชายตอกกลับแบบหน้าตายเช่นนี้

"ไม่ต้องกินมันแล้ว! ที่แกะให้น่ะเอาคืนมาให้หมดเลย!" ว่าแล้วก็ตักบรรดาอาหารทั้งหลายที่เขาบรรจงแกะให้เพื่อเอาใจเคนคืนมาอย่างเคืองๆ

"เอาคืนไปเลย แต่บอกอะไรไว้อย่างนะว่าเมื่อกี้ชั้นบ้วนน้ำลายลงไปในจานข้าวแล้ว" เคนแกล้งแหย่พี่ชายเล่นอีก

"ไอ้สกปรก! ไอ้โสโครก! ไอ้ๆๆๆๆ....." เจอร์รี่ด่าไม่ออกแต่รีบตักทุกอย่างคืนใส่จานให้น้องชายทันที แวนเนสกับไจ่ไจ๋ก็พากันหัวเราะพี่ชายคนโต

"น้ำลายน้องแค่นี้รังเกียจหรอ?" เคนถามแหย่พี่ชายอีก

"เออ!" ตอบแบบชัดถ้อยชัดคำแล้วเอามือผลักหัวน้องแรงๆให้ด้วย

"เรากินข้าวกันต่อดีกว่าเนอะ จะได้ไม่พูดมาก" แวนเนสแกล้งพูดแซวพี่ชายกับน้องชายทั้งสองคนจากนั้นก็พากันหัวเราะคิกคัก ส่วนเจอร์รี่นั้นก็ได้แต่ค้อนใส่น้องชายทั้งสามคนที่ต่างพากันรุมแกล้งเขาอยู่คนเดียว




 

Create Date : 30 ธันวาคม 2550    
Last Update : 30 ธันวาคม 2550 21:37:06 น.
Counter : 1680 Pageviews.  

Chapter 49

ตอนที่ 49

"พี่กลางปั่นเร็วๆหน่อยสิ! ตามพี่รองไม่ทันแล้ว!" ไจ่ไจ๋เร่งพลางตบหลังพี่ชายที่กำลังขี่จักรยานอยู่

"โอ้ย! เหนื่อยนะโว้ย! แล้วเรื่องอะไรนายต้องมาซ้อนท้ายพี่ด้วยวะแทนที่จะเช่ามาคนละคัน หนักก็หนักเหนื่อยก็เหนื่ย!" เคนบ่นกระปอดกระแปดแต่ก็เร่งฝีเท้าจนตามแวนเนสทัน

"อย่าบ่นน่าพี่กลาง ผมทำให้พี่กลางประหยัดเงินนะเนี่ย" ไจ่ไจ๋ย้อนพี่ชายและเมื่อมาใกล้แวนเนสแล้วไจ่ไจ๋ก็ยื่นมือไปแตะแขนพี่ชาย

"สนุกมั๊ยพี่รอง?" ถามพี่ชายตามมาอีก

"เออดี! ได้ออกกำลังกายแบบนี้บ้างโอเคเลย" แวนเนสตอบแล้วยักคิ้วให้น้อง

"อารมณ์ดีแล้วใช่มั๊ยครับ?" ไจ่ไจ๋ถามต่อ แวนเนสจึงหัวเราะออกมา

"แล้วนายเห็นพี่อารมณ์เสียตั้งแต่เมื่อไหร่?" ย้อนถามน้องชายบ้าง

"ก็เห็นพี่เถียงกับพี่ใหญ่นี่นา" ไจ่ไจ๋ตอบเสียงแผ่วลง

"พี่ก็พูดไปงั้นๆแหละไม่ได้อารมณ์เสียอะไรมากมายหรอกแต่รำคาญที่มันเอาแต่บ่นเจ้าพี่กลางน่ะ" แวนเนสตอบแล้วหันไปพูดกับเคนบ้าง

"แข่งกันเสี้ยวเทียน ใครไปถึงสุดทางนั้นก่อนชนะ!" พูดจบแวนเนสก็ขี่จักรยานนำหน้าออกไป

"อ้าวเฮ้ย! ขี้โกงนี่หว่าชั้นมีไอ้ตัวนี้ถ่วงอยู่ด้วยนะโว้ย! ไม่เอาไม่แข่ง!" ร้องตะโกนโวยวายแต่ก็ปั่นจักรยานเร็วขึ้นอีก

"เร็วๆพี่กลางเดี๋ยวแพ้!" ไจ่ไจ๋เร่งพี่ชายอีกแรง

"มาปั่นเองเลยมา! เหนื่อยนะโว้ย!" โวยวายใส่น้องชายบ้าง

"ไม่ได้! ขืนแลกกันเดี๋ยวก็แพ้เพราะมัวแต่เปลี่ยนกันอยู่ได้ ปั่นเร็วๆสิ!" ไจ่ไจ๋เถียงกลับพร้อมกับเร่งพี่ชายอีก

"อย่าตบหลังสิวะ! เจ็บนะโว้ย!" เคนต่อว่าน้องชายที่เอามือตบหลังพลางเร่งเขาไปด้วย

"ตบเบาๆเอง เหมือนเวลาจะให้ม้าวิ่งเร็วๆก็ต้องเอาแส้ตีมันงัย" ไจ่ไจ๋พูดจบก็หัวเราะ

"ไอ้ตัวดี! พี่ไม่ใช่ม้านะโว้ย หนอย! ช่างเปรียบเทียบจริงๆนะ" เคนเอ็ดน้องเข้าอีก

"ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแหละ" น้องเล็กล้อพี่ชายต่อ เคนเลยปล่อยมือข้างหนึ่งแล้วเอื้อมมือไปข้างหลังจะหยิกเจ้าน้องชายตัวดีให้เสียที

"โอ้ย! ไม่เอานะพี่กลาง!" ไจ่ไจ๋รีบจับมือพี่ชายไว้ก่อนที่พี่ชายจะทันได้ทำอะไร

"เฮ้ยๆๆๆ!!! ปล่อยมือพี่! แล้วนั่งดีๆ!" เคนร้องบอกน้องชายเพราะเมื่อน้องเอี้ยวตัวไปมารถก็ส่ายไปมาด้วยเช่นกัน

"ไม่เอา! ปล่อยแล้วพี่ก็จะทำร้ายร่างกายผม" ไจ่ไจ๋ไม่เชื่อใจเพราะกลัวพี่ชายจะเล่นงานเขา

"ไอ้บ้านี่! พี่ไม่ทำแล้ว!" เคนว่าแล้วสะบัดมือหลุดออกมาได้แต่ในขณะนั้นเขาเองก็ไม่ทันมองข้างหน้าที่มีสุนัขวิ่งตัดหน้า

"เฮ้ยยยย!!!" เคนร้องเสียงหลงแล้วรีบหักหลบแต่ก็เสียหลักล้มลงข้างทาง

"โอ้ย!! พี่กลาง! ทำอะไรน่ะ?" หลังจากงงไปครู่หนึ่งไจ่ไจ๋ก็ร้องขึ้นมา เคนรีบหันมาดูน้องทันที

"เป็นอะไรหรือเปล่าไจ่ไจ๋?" ถามพร้อมกับจับตามเนื้อตามตัวน้องดูแล้วก็พบกับแผลถลอกที่ข้อศอก

"ตายหละ เลือดไหลด้วย....." ว่าแล้วเคนก็รีบควักผ้าเช็ดหน้ามาซับเลือดให้น้อง ในตอนนั้นเองแวนเนสก็ขี่จักรยานกลับมา

"เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?" แวนเนสรีบลงมาดูน้องชายทั้งคู่

"พี่กลางทำล้มอ่ะ" ไจ่ไจ๋ฟ้องแล้วทำหน้าเบ้เพราะเจ็บแขน

"ก็หมามันวิ่งตัดหน้า" เคนแก้ตัวเสียงอ่อยๆ

"อย่าเพิ่งเถียงกันเลย ไปหาที่ล้างแผลก่อนดีกว่า" แวนเนสว่าแล้วก็จับรถจักรยานคันที่น้องปั่นตั้งขึ้นมา

"ตรงนั้นมีคลินิกเราพาน้องไปทำแผลก่อน" เคนเห็นว่ามีคลินิกอยู่ไม่ไกลจึงชี้ให้พี่ชายดู

"เอ่อพี่กลาง.....แผลแค่นี้เองไม่ต้องไปคลินิกก็ได้" เมื่อเห็นว่าพี่ชายแสดงความเป็นห่วงเขามากไจ่ไจ๋จึงแย้งขึ้น

"แล้วจะปล่อยไว้แบบนี้หรืองัย? ตรงนี้ก็ไม่มีน้ำสะอาดด้วย นายต้องล้างแผลก่อน" เคนว่าแล้วก็บอกให้น้องนั่งซ้อนท้ายเขา จากนั้นเคนกับแวนเนสก็พาน้องไปทำแผล

"ระวังอย่าให้แผลโดนน้ำแล้วอย่าลืมล้างแผลทุกวันด้วยนะคะ" หมอผู้หญิงบอกกับไจ่ไจ๋พร้อมกับยิ้มให้อย่างใจดีหลังจากทำแผลให้ไจ่ไจ๋เสร็จแล้ว

"ครับ" ไจ่ไจ๋ยิ้มตอบแล้วเดินออกมาหาพี่ชายทั้งสองคน

"แผลลึกหรือเปล่า?" เคนถามน้องอย่างเป็นห่วง

"ไม่ครับ นิดหน่อยเอง" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วทำหน้าเจ้าเล่ห์กับพี่ชาย

"หมอส๊วยสวย....." เคนได้ยินอดไม่ได้ที่จะเคาะหัวน้องซักที

"ไอ้ทะเล้น!" ว่าแล้วก็เดินไปจ่ายค่าทำแผลให้น้องชาย

"เดี๋ยวเราเอาจักรยานไปคืนแล้วกลับไปหาเจอร์รี่กัน รอนานเดี๋ยวหน้ามันหงิก" แวนเนสบอกกับน้องๆก่อนที่จะเดินนำออกมา

"ไจ่ไจ๋ นายมาซ้อนท้ายพี่ดีกว่า" แล้วแวนเนสก็บอกให้น้องมานั่งซ้อนท้ายเขา

"ก็ดีเหมือนกัน" ว่าแล้วน้องเล็กก็รีบไปนั่งซ้อนท้ายแวนเนส

"แค่นี่ทำเป็นเข็ด ที่ล้มก็เพราะนายนั่นแหละนั่งยุกยิกอยู่ไม่สุข" เคนต่อว่าน้องชายเข้าให้ แวนเนสกับไจ่ไจ๋จึงหัวเราะออกมาพร้อมกัน

"ไม่ใช่ว่าน้องไม่กล้าน้องกับนายหรอก แต่ชั้นกลัวนายจะเหนื่อยน่ะสิ" แวนเนสแก้ตัวแทนน้อง

"นายปั่นไปที่ร้านเลย ไม่ต้องรอ เดี๋ยวไปเจอกันที่โน้น" บอกกับเคนแล้วพยักหน้าให้น้องนำไปก่อน เมื่อเคนมาถึงแล้วก็รออยู่ครู่หนึ่งพี่ชายกับน้องชายก็ตามมาถึงและเมื่อคืนจักรยานกันเสร็จแล้วทั้งสามคนก็พากันเดินกลับไปหาพี่ใหญ่

"แขนไปโดนอะไรมาอีกน่ะไจ่ไจ๋?" เจอร์รี่เห็นผ้าพันแผลที่แขนน้องชายก็ถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเครียดๆ

"เอ่อ....คือว่า.....จักรยานล้มครับ" ไจ่ไจ๋ตอบแบบอึกอัก ส่วนเคนกับแวนเนสนั้นเดาชะตากรรมของตัวเองได้โดยอัตโนมัติ

"ทำไมไม่ดูแลน้อง?" หันมาเล่นงานแวนเนสกับเคนทันที

"รู้ว่าถนนนี้รถก็เยอะยังให้น้องปั่นจักรยานคนเดียวอีก ถ้าน้องล้มลงไปแล้วโดนรถชนด้วยแบบนี้พวกนายจะรับผิดชอบไหวมั๊ย?" ต่อว่าน้องชายทั้งคู่อีกเพราะเขาเป็นห่วงน้องเล็กมาก

"โธ่โว้ย! มันจะอะไรกันนักหนาวะ! ถ้ารู้ว่าพวกชั้นมันดูแลน้องไม่ได้แล้วทำไมนายไม่ไปดูแลเองหละ? มานั่งบื้ออยู่ตรงนี้ทำไม?" แวนเนสได้ยินก็ชักจะหมั่นไส้เลยเถียงออกมา

"อย่ามาเถียงชั้นนะ!" เจอร์รี่แหวใส่

"นายอย่าว่าแวนเนสเลย ชั้นขี่จักรยานล้มเองแหละแล้วน้องก็นั่งซ้อนท้ายชั้นถึงได้แผลมาแบบนี้" เมื่อเห็นพี่ชายสองคนตั้งท่าจะทะเลาะกันเคนเลยยอมสารภาพออก พี่ใหญ่จึงเปลี่ยนสายตามาที่เคน

"พี่ใหญ่ครับ ความจริงเป็นความผิดของผมเองเพราะผมนั่งยุกยิกแถมแกล้งจี้เอวพี่กลางอีกก็เลยทำให้รถล้ม พี่ใหญ่อย่าว่าพี่เขาสองคนเลยนะ" ไจ่ไจ๋พูดแทรกขึ้นมาก่อนที่พี่ใหญ่จะดุด่าเคน

"ทำให้น้องเจ็บแท้ๆยังต้องให้น้องออกหน้าแทนอีก! ชั้นหละเชื่อพวกนายเลยจริงๆ!" พี่ใหญ่ไม่วายพูดกระทบใส่

"กลับถึงบ้านแล้วขึ้นไปรอชั้นที่ห้อง! ชั้นจะต้องจัดการนายอีกหลายเรื่อง!" สั่งเคนไว้สีหน้าดุๆ

"ไปไจ่ไจ๋....กลับบ้านกันดีกว่า....." แล้วก็หันมาจูงมือน้องเล็กเดินไปที่รถโดยไม่สนใจน้องอีกสองคนเลย ไจ่ไจ๋เดินไปตามแรงจูงของพี่ใหญ่แต่ก็มองแวนเนสกับเคนอย่างเห็นใจ

"เฮ่อ! นายเลยโดนด่าไปด้วยเลย ชั้นขอโทษนายด้วยนะ" เคนหันไปขอโทษพี่ชายพร้อมกับรอยยิ้มแบบเนือยๆ

"ไม่เป็นไรหรอก ปกติชั้นก็โดนมันด่าทุกวันเหมือนกัน" แวนเนสพูดแบบติดตลกแล้วกอดคอน้องชาย

"ตอนนี้หมาหัวเน่าสองตัวก็กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว เข้าสู่สภาวะปกติซักที" เคนได้ยินก็ยิ้มแล้วกอดคอพี่ชายตอบ

"เดี๋ยวแวะซื้อสำลีซักห่อแล้วกัน เอาไว้อุดหูระหว่างทางกลับบ้าน" ว่าแล้วสองพี่น้องก็ประสานเสียงหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน ก่อนจะพากันเดินตามพี่น้องอีกสองคนไปที่รถ

"ไปขับรถ!" เจอร์รี่ส่งกุญแจรถให้แวนเนสพร้อมกับสั่งเสียงห้วนๆ แวนเนสรับกุญแจมาแล้วทำหน้าทำตาล้อเลียนพี่ชายลับหลัง

"เดี๋ยวก็โดนด่าหรอก!" เคนกระซิบปรามพี่ชายแต่ก็แอบหัวเราะด้วยเช่นกัน

"หึๆๆๆ ไป! ขึ้นรถ" แวนเนสเองก็หัวเราะในลำคอก่อนจะบอกให้เคนขึ้นรถ

"วันหลังพี่จะไม่ยอมให้นายไปไหนไกลๆจากพี่อีกแล้วนะไจ่ไจ๋" เจอร์รี่ที่นั่งกับน้องเล็กอยู่ตอนหลังรถพูดขึ้นพร้อมกับจับตามเนื้อตามตัวของน้องไปด้วย

"ดูสิ....กลับมาทีได้แผลกลับมาด้วย พี่ไม่น่าให้นายไปตั้งแต่แรกเลย" บ่นต่อตามออกมาอีก

"พี่ใหญ่ครับ ผมไปเที่ยวกับพี่กลางคราวนี้น่ะสนุกมากๆเลยนะ" ไจ่ไจ๋แย้งขึ้นมาทันที

"ถ้านายอยากเที่ยววันหลังพี่จะพานายไปเอง พี่ไม่มีทางปล่อยนายไปกับคนอื่นเด็ดขาด" เจอร์รี่พูดเสียงแข็ง

"เฮอะ! รู้สึกว่านายกับชั้นจะเป็นคนอื่นว่ะเสี้ยวเทียน" แวนเนสที่รับหน้าที่ขับรถอดปากที่จะพูดแขวะพี่ชายออกมาไม่ได้ เคนไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่ถอนใจเบาๆ

"พี่ใหญ่ พี่อย่าพูดแบบนี้สิ" ไจ่ไจ๋กระซิบกับพี่ชายคนโตเบาๆ

"ก็พี่พูดความจริงหนิ" เจอร์รี่เถียงน้อง ไจ่ไจ๋จึงรีบเปลี่ยนเรื่องทันที

"พี่ใหญ่ ไปเที่ยวครั้งนี้น่ะผมว่ายน้ำแทบทุกวันเลย บางวันระหว่างรอพี่กลางเลิกงานผมก็ไปว่ายน้ำฆ่าเวลา เห็นมั๊ยว่าแขนผมใหญ่ขึ้นตั้งเยอะ" ว่าแล้วก็ยกแขนทั้งสองข้างให้พี่ชายดู

"นี่นายไปว่ายน้ำคนเดียวหรอ?" เจอร์รี่ย้อนถาม น้องเล็กทำหน้างงๆก่อนจะพยักหน้ารับ

"เสี้ยวเทียน! ชั้นสั่งนายว่ายังงัย? ห้ามไม่ให้ปล่อยน้องไปว่ายน้ำคนเดียวใช่มั๊ย? แล้วทำไมยังทำอีก!" หันไปเล่นงานน้องชายคนกลางอีก

"ก็แค่ว่ายน้ำในสระว่ายน้ำบนเรือ เขามีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่" เคนพูดกับพี่ชายอย่างอ่อนใจ

"ถึงอย่างนั้นก็เถอะ! ถ้าเกิดอะไรขึ้นแล้วเจ้าหน้าที่ช่วยไม่ทันหละ?" พี่ใหญ่ยังไม่ยอมลดละ

"ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับน้อง รับรองว่านายจะไม่ได้เห็นหน้าชั้นอีกเลยตลอดชีวิต" พูดกับพี่ชายด้วยสีหน้านิ่งๆ

"ไม่ต้องมาประชดชั้น! เพราะต่อไปนี้ชั้นไม่มีทางยอมให้น้องไปไหนมาไหนกับนายอีกแล้ว!" พี่ใหญ่เองก็โมโหที่ได้ยินน้องพูดเช่นนี้

"น้องคนเดียวนายยังดูแลไม่ได้! ผลักภาระไปให้คนอื่นอ้างมีเจ้าหน้าที่บ้างหละอ้างมีคนเยอะแยะบ้างหละ ข้ออ้างของนายมันไม่ใช่พฤติกรรมของคนเป็นพี่ที่จะทำ!" เคนได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกขอบตาร้อนผ่าวทั้งเสียใจที่ได้ยินคำพูดเช่นนี้จากปากพี่ชายและเสียใจที่ถูกกล่าวหาว่าเขาปกป้องน้องชายไม่ได้

"พี่ใหญ่ครับ!!" ไจ่ไจ๋เองก็ตกใจที่ได้ยินพี่ชายพูดเช่นนั้น

"ถ้านายจะอ้างแบบนี้นายก็ไม่ควรพาน้องไปตั้งแต่แรกเพราะไม่ว่าน้องอยู่ที่ไหนนายก็ไม่เคยสนใจอยู่แล้ว!" พี่ใหญ่ต่อว่าน้องออกมาอีกด้วยอารมณ์โมโห

"ชั้นขอโทษ" เคนบอกกับพี่ชายก่อนที่จะซบหน้าลงกับเบาะรถแล้วหลับตาลง แวนเนสตาเหลือบมองน้องชายคนกลางก็เห็นว่าเคนกำลังร้องไห้

"นายไม่ต้องมาตัดรำคาญด้วยการพูดขอโทษแบบขอไปทีหรอก! ชั้นไม่....." พี่ใหญ่ยังพูดไม่ทันจบก็ต้องหยุดกระทันหันเพราะโดนแวนเนสตวาดใส่เสียงดังลั่นรถซึ่งทำเอาไจ่ไจ๋ถึงกับสะดุ้ง

"พอได้หรือยัง!!!?" สิ้นเสียงนั้นรถก็ถูกหักเข้าจอดข้างทาง

"ชั้นชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ! นายเป็นบ้าอะไรของนาย? ตั้งแต่เจอหน้ากันนายเอาแต่ด่าว่าเสี้ยวเทียนไม่ได้หยุดตั้งแต่เช้า! เกิดเรื่องอะไรขึ้นนายก็โทษมันคนเดียว! น้องมันเป็นอะไรหรอ? น้องมันทำอะไรผิด? มันไปฆ่าคนตายไปชกชิงวิ่งราวคนอื่นมาหรืองัย!?" คำพูดนั้นทำเอาพี่ใหญ่สะอึกไป ไจ่ไจ๋เองก็พูดอะไรไม่ออกเพราะไม่บ่อยนักที่แวนเนสจะออกอาการโมโหเช่นนี้ คงมีแต่เคนเท่านั้นที่ยังคงซบหน้าอยู่ที่เบาะปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ

"เจอหน้ามันนายถามมันซักคำมั๊ยว่าสบายดีหรือเปล่า? ถามมันบ้างมั๊ยว่าทำงานเหนื่อยแค่ไหน? ถามมันบ้างมั๊ยว่ากินข้าวกินปลาบ้างหรือยัง?" แวนเนสพูดพร้อมกับจ้องหน้าพี่ชายผ่านกระจกมองหลังรถ

"เจอหน้ากันนายกอดไจ่ไจ๋แต่ตีเสี้ยวเทียน เจอหน้ากันนายถามสารทุกข์สุขดิบไจ่ไจ๋แต่ด่าว่าเสี้ยวเทียน เจอหน้ากันนายโอ๋ไจ่ไจ๋แต่โยนความผิดทั้งหมดให้เสี้ยวเทียน นี่น่ะหรอพฤติกรรมที่คนเป็นพี่ชายสมควรจะกระทำ!!!" เจอร์รี่ได้ยินก็อึ้งไปเพิ่งรู้ตัวว่าเขาได้ทำเช่นนั้นจริงๆ ส่วนไจ่ไจ๋นั้นถึงกับนั่งน้ำตาซึมเขาเข้าใจดีว่าพี่ใหญ่นั้นเป็นห่วงเขามากเพราะเขาไม่เคยไปไหนไกลๆเป็นเวลานานๆเช่นนี้ และเมื่อมีอะไรเกิดขึ้นพี่ชายก็ย่อมจะต้องหาคนรับผิดชอบแต่ในใจของพี่ชายแล้วคงไม่ได้โกรธเกลียดพี่ชายคนกลางแน่นอนเพียงแต่ตอนนี้อาจจะห่วงเขาจนไม่ทันได้คิดอะไรเท่านั้นเอง

"ชั้นหละเชื่อนายจริงๆ!" พูดจบแวนเนสก็ทุบมือลงที่พวงมาลัยรถอย่างโมโห

"แวนเนส.....ชั้นไม่เป็นไรหรอก.....ไม่เป็นไรจริงๆ....." แล้วเคนก็เงยหน้าขึ้นมาไกล่เกลี่ยบรรยากาศที่น่าอึดอัดนั้น แวนเนสมองน้องชายที่จ้องมองเขาด้วยน้ำตาคลอเบ้าแต่ก็ยังฝืนยิ้มให้เขา

"กลับบ้านกันเถอะ....นะครับ....." พูดเป็นเชิงขอร้องพี่ชายเพราะไม่อยากให้พี่ชายมีเรื่องกันเพราะตัวเอง

"โอเค ชั้นจะพานายกลับบ้านนะ" ตอบรับคำน้องด้วยความสงสารก่อนที่จะขับรถออกไปอีกครั้ง และตลอดทางจนกลับถึงบ้านก็ไม่มีเสียงพูดคุยให้ได้ยินอีกเลย



- ที่บ้าน -

"พี่ๆครับ ผมขอตัวอาบน้ำแล้วนอนเลยนะ" ไจ่ไจ๋บอกกล่าวพี่ชายทั้งสามคนก่อนที่จะหิ้วกระเป๋าตัวเองเข้าบ้านแล้วเดินเลยขึ้นห้องตัวเองไปด้วยสีหน้าหงอยๆ

"ชั้นช่วยหิ้ว" แวนเนสเดินลงมาช่วยเคนที่กำลังจะยกกระเป๋าสัมภาระของตัวเองเข้าบ้าน

"ขอบคุณนะ" เคนยิ้มให้พี่ชายแล้วส่งกระเป๋าใบหนึ่งให้ เจอร์รี่เองก็ทำท่าจะเข้ามาช่วยแต่เห็นน้องไม่พูดด้วยก็เลยได้แต่ยืนเกาหัวแก้เก้อก่อนจะเดินตามเข้าบ้านไป

"นายกลับมาเจ้าสองตัวนี้ก็ดีใจใหญ่" แวนเนสพูดกับเคนยิ้มๆเมื่อเห็นน้องย่อตัวลงลูบตัวเจ้าพีพีกับถางถางที่วิ่งเข้ามาเคลียคลอเจ้านายของมันอย่างคิดถึง

"ยังดีนะที่การกลับมาของชั้นยังทำให้พวกมันดีใจได้บ้าง" เคนพูดด้วยสีหน้าเศร้าๆ ทำเอาพี่ใหญ่ที่เดินเข้ามาได้ยินถึงกับอึ้งไป

"ชั้นก็ดีใจ.....ดีใจมากด้วยนะ....." แวนเนสว่าพร้อมกับตบไหล่น้องชายเบาๆ

"แต่ชั้นไม่ดีใจเลย เพราะรู้ว่ากลับมาแล้วชั้นก็ต้องเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้บรรยากาศในบ้านไม่ดี" แวนเนสได้ยินก็รู้สึกสงสารน้องแต่ไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่เหลือบตาขึ้นมองพี่ชาย เคนเห็นแวนเนสมองไปทางข้างหลังเขาจึงหันไปมองตามสายตาพี่ชายพอเห็นพี่ใหญ่ก็มีสีหน้าสลดลง

"ชั้นจะขึ้นไปรอที่ห้อง" พูดกับพี่ชายคนโตด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเพราะยังจำคำสั่งของพี่ชายได้ พอพูดจบก็ถือของตัวเองทั้งหมดเดินขึ้นห้องไป

"เฮ่อ!" เจอร์รี่มองตามน้องพร้อมกับถอนใจไม่รู้จะพูดกับน้องยังงัยดีเพราะเห็นท่าทางของน้องตอนนี้แล้วเขาก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น แต่อย่างน้อยเขาก็อยากจะขอโทษน้องที่ต่อว่าแรงๆออกไป

"ชั้นขออะไรอย่างนึงได้มั๊ย?" เจอร์รี่ที่ทำท่าจะเดินตามเคนขึ้นไปหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงแวนเนสเอ่ยขึ้น

"อย่าใจร้ายกับน้องให้มากนักเลย สงสารมันซักหน่อยเถอะ" แวนเนสพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เจอร์รี่หันหน้ากลับมาสบตากับแวนเนส

"ถ้าน้องทำผิดจริงชั้นไม่ว่าหรอกหากว่านายจะลงโทษมันแต่ชั้นอยากจะขอให้นายปรานีมันบ้าง จะเฆี่ยนจะตีมันก็ให้แค่พอสมควรไม่ใช่ตีจนมันต้องนอนซมทนเจ็บไปหลายวัน เพราะถ้าเป็นแบบนั้นแล้วแทนที่น้องมันจะจำว่าที่ถูกตีเพราะมันทำผิดจะกลับกลายเป็นว่ามันจะจำว่าที่ถูกตีนั้นเพราะนายเกลียดมัน" แวนเนสเตือนพี่ชายออกมาตรงๆ

"เรื่องที่เกิดขึ้นบนรถชั้นต้องขอโทษด้วยที่ตวาดนายแต่นายอาจไม่รู้ว่าตอนที่นายต่อว่าน้องบนรถน่ะน้องมันแอบนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว" เจอร์รี่ได้ยินดังนั้นก็ทั้งอึ้งทั้งตกใจ

"ชั้นในฐานะที่เป็นพี่ชายก็คงปกป้องมันได้แค่นั้น....." แวนเนสว่าพร้อมกับสบตากับพี่ชายตรงๆ

"แต่คนที่จะปลอบใจมันตอนนี้คงไม่ใช่ชั้น ขอตัวนะ" พูดจบแวนเนสก็เดินขึ้นห้องไปอีกคน ปล่อยให้พี่ใหญ่ได้แต่นิ่งงันกับสิ่งที่ได้ยิน

"เรานี่เป็นพี่ชายที่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ" ต่อว่าตัวเองอย่างโมโหก่อนจะตัดสินใจเดินไปเคาะประตูห้องน้องชายคนกลาง

"ก๊อกๆๆๆ!!!" เคนเดินมาเปิดประตูให้พอเห็นหน้าพี่ใหญ่ก็รู้สึกหนาวสะท้านไปทั้งตัวทั้งที่นั่งเตรียมตัวเตรียมใจได้ครู่ใหญ่แล้วแต่เขาก็ไม่เคยลืมว่าพิษไม้เรียวของพี่ชายจะทำให้เขาเจ็บระบมขนาดไหน

"นายเอ่อ....เหนื่อยหรือเปล่า?" แต่คำพูดของพี่ชายนั้นก็ทำเอาเคนถึงกับเกิดอาการงงเมื่อสถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เขาคาดคิด

"ไม่เหนื่อยครับ" เคนตอบเสียงแผ่วแล้วเบี่ยงตัวหลบให้พี่ชายเข้ามาในห้อง

"งั้น....เอ่อ....คุยกันหน่อยดีมั๊ย?" พี่ใหญ่เองก็รู้สึกขัดเขินเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นง้อน้องชายอย่างไรดี

"ชั้นยอมรับผิดทุกอย่างเรื่องที่ดูแลน้องไม่ดี ส่วนเรื่องที่ว่าชั้นโดดงานชั้นก็ไม่....." เคนยังพูดไม่ทันจบเจอร์รี่ก็รีบพูดแทรกขึ้นมาก่อน

"ชั้นไม่ได้อยากจะพูดเรื่องพวกนี้ แต่อยากคุยกับนายถามไถ่เรื่องราวที่เราไม่ได้เจอหน้ากันตั้งเกือบสองอาทิตย์น่ะ" เคนได้ยินก็มองหน้าพี่ชายอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก

"ปกตินายไม่ใช่คนที่พูดอ้อมไปมาแบบนี้นี่นา แล้วนายก็รู้ว่าชั้นไม่ชอบการตบหัวแล้วลูบหลังด้วย" พี่ใหญ่มีสีหน้าลำบากใจเมื่อได้ยินประโยคนั้น

"ถ้าจะตำหนิชั้นจะลงโทษชั้น ชั้นเองก็ไม่มีอะไรแก้ตัว" เจอร์รี่ถอนหายใจดังเฮือกแล้วเงียบไปพักหนึ่งจึงค่อยพูดกับน้องออกมาตรงๆ

"ชั้นอยากจะขอโทษนายเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้น่ะ" เคนเงยหน้ามองพี่ชายแต่ไม่ได้พูดอะไร

"ชั้นมันก็บ้าๆบอๆแบบนี้แหละ ชั้นห่วงไจ่ไจ๋มันมากเกินเหตุเลยเผลอตำหนินายแรงๆไปหลายครั้ง ชั้นอยากให้นายลืมคำพูดทั้งหมดของชั้นไปจะได้มั๊ย? เพราะตอนนั้นกำลังโมโหชั้นเลยพูดจาไม่ทันคิด ชั้นขอโทษนายจริงๆ" เจอร์รี่ขอโทษขอโพยน้องชายเป็นการใหญ่

"ถ้าชั้นบอกว่าชั้นลืมมันไม่ลงหละ?" เคนถามพี่ชายด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ทำเอาพี่ชายอึ้งไป

"ในฐานะที่เป็นพี่ชายสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคืออะไร? คือการถูกตำหนิว่าดูแลน้องไม่ได้ใช่มั๊ย?" เคนพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและมีน้ำตาเอ่อล้นขึ้นตามมา เจอร์รี่ได้ยินก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก

"นายไม่จำเป็นต้องเห็นชั้นเป็นน้องก็ได้ แต่นายมองชั้นในฐานะที่เราเป็นพี่ชายของไจ่ไจ๋เหมือนกันจะได้มั๊ย? นายรักน้องแค่ไหนชั้นก็รักน้องแค่นั้นมันไม่ได้น้อยไปกว่านายเลยซักนิด นายให้ทุกสิ่งกับน้องได้ชั้นก็ให้น้องได้ทุกอย่างเท่าที่ชั้นจะหามาให้ได้เหมือนกัน" เคนพูดไปร้องไห้ไป

"น้องเป็นทุกข์แล้วชั้นเป็นสุขหรอ? เห็นน้องหกล้มแล้วชั้นไม่เจ็บหรอ? ถ้าทำได้ชั้นก็ขอเป็นคนที่หกล้มแทนน้องเองขอเป็นคนที่ได้แผลนั้นมาไว้ที่ตัวชั้นเองหรือแม้แต่ถ้าต้องตายชั้นก็จะขอตายแทนน้องเอง ฉะนั้นนายไม่มีสิทธิมากล่าวหาว่าชั้นดูแลน้องไม่ได้ ชั้นเกลียดคำๆนี้ของนาย!!" เคนพูดใส่หน้าพี่ชายพร้อมกับน้ำตาที่ไหลนองหน้า เจอร์รี่เองก็ถึงกับน้ำตาซึมเมื่อรู้ว่าคำพูดด้วยอารมณ์โมโหของเขานั้นทำร้ายจิตใจน้องชายมากมายขนาดนี้

"นายไม่มีสิทธิแล้วชั้นก็ไม่ยินยอมที่จะถูกกล่าวหาแบบนี้ด้วย!!" เคนพูดย้ำพร้อมกับผลักพี่ชายที่ทำท่าจะเข้ามากอดเขา

"เสี้ยวเทียน.....พี่ขอโทษ....." พี่ใหญ่เองก็พลอยร้องไห้ไปด้วย

"นายจะด่าว่าพี่ยังงัยก็ได้ หรืออยากจะเตะต่อยพี่ให้มันสาสมกับสิ่งที่พี่ทำกับนายก็ได้ แต่พี่ขออย่างเดียวนะอย่าผลักไสพี่ออกไปเลย" พี่ใหญ่ว่าพลางทำท่าจะกอดน้องอีก แต่เคนกลับปัดมือพี่ชายออกแล้วลุกหนีเดินไปนั่งร้องไห้ตรงอีกมุมหนึ่งของห้อง พี่ใหญ่เองก็ได้แต่มองตามแล้วร้องไห้ออกมาเช่นกัน



- ตอนเช้า -

"อรุณสวัสดิ์ครับพี่รอง" ไจ่ไจ๋ที่เพิ่งตื่นลงมาเดินเข้ามาหอมแก้มพี่ชายฟอดหนึ่ง

"อรุณสวัสดิ์ งัย? ไม่อยู่บ้านเป็นอาทิตย์กลับมานอนแล้วแปลกที่มั๊ย?" แวนเนสย้อนถามน้องยิ้มๆ

"แปลกนิดหน่อยครับ" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วหัวเราะเบาๆ

"เออ....พี่ใหญ่ไปทำงานแล้วหรอ?" ถามหาพี่ชายคนโต แวนเนสเพียงแต่พยักหน้าแทนคำตอบ

"แล้วพี่กลางหละครับ?" ถามหาเคนด้วยอีกคน

"ยังไม่ตื่น" แวนเนสตอบแล้วเหนี่ยวคอน้องเข้ามาใกล้ๆก่อนจะหอมแก้มน้องชายกลับบ้าง

"วันนี้อยากจะนอนอยู่บ้านหรืออยากจะออกไปช้อปปิ้งกับพี่?" ถามน้องชายทั้งๆที่พอจะรู้คำตอบอยู่แล้ว ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ทำตาวาว

"ไปช้อปปิ้งหรอ? โห! กำลังอยากไปพอดีเลย" แวนเนสหัวเราะกับท่าทางของน้องชาย

"งั้นเดี๋ยวเราไปช้อปปิ้งกัน นายลองไปถามเจ้าพี่กลางซิว่าจะไปด้วยกันหรือจะเฝ้าบ้าน" บอกให้น้องชายขึ้นไปถามเคน จบคำนั้นไจ่ไจ๋ก็รีบวิ่งตึงตังขึ้นไปหาเคนที่ห้องทันที

"พี่กลาง!" เปิดประตูเข้าไปโดยไม่ได้เคาะแล้วร้องเรียกพี่ชายอย่างร่าเริง

"พี่กลาง.....พี่รองให้ผมมาชวนพี่ไปช้อปปิ้งกัน" น้องเล็กโดดขึ้นมาบนเตียงแล้วบอกกล่าวกับพี่ชาย เคนได้ยินก็ลืมตาขึ้นมามองน้องชายแล้วยิ้มให้เล็กน้อย

"นายไปกันเถอะ" บอกปฏิเสธน้องชายแล้วหลับตาลงอีกครั้ง ไจ่ไจ๋เห็นดวงตาบวมช้ำของพี่ชายแล้วก็มีสีหน้าสลดลง

"พี่กลาง ทำไมตาพี่บวมจัง?" ว่าพลางก้มหน้าลงมาดูพี่ชายอีก

"อ้อ! พี่เพิ่งได้นอนไม่เท่าไหร่เอง พอดีเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับเลยเอาหนังมาเปิดดู หนังสนุกมากเลยติดลมดูจนเกือบเช้าแหนะ" เคนแก้ตัวแล้วใช้มือโน้มหัวน้องลงมาใกล้ๆก่อนจะจูบเบาๆที่หน้าผากน้องชายแล้วพูดต่อ

"พี่รักนายมากนะไจ่ไจ๋" ว่าพลางเอามือลูบแก้มน้องชายอย่างอ่อนโยน

"ผมก็รักพี่นะครับ รักมากด้วย" ไจ่ไจ๋เองก็พูดกับพี่ชายด้วยน้ำเสียงจริงจัง เคนยิ้มให้น้องแล้วพยักหน้ารับรู้ก่อนจะบอกให้น้องออกไปได้แล้ว

"นายไปชอปปิ้งกับพี่รองเถอะ แล้วอย่าลืมซื้อของกินอร่อยๆมาฝากพี่ด้วยนะ" ไจ่ไจ๋ยิ้มรับก่อนจะดึงผ้าห่มมาห่มให้พี่ชาย

"ได้ครับ" รับปากพี่ชายแม้จะรู้สึกว่าพี่ชายมีท่าทางแปลกไปแต่ก็ไม่ได้ถามเซ้าซี้อีก จนเมื่อเดินลงมาข้างล่างเขาก็ตั้งคำถามกับแวนเนสแทน

"พี่รอง เมื่อคืนนี้พี่ใหญ่กับพี่กลางเขาไม่ได้ทะเลาะกันใช่มั๊ย?" แวนเนสได้ยินก็เอี้ยวตัวมาหาน้องชาย

"ทำไมหรอ?" ถามทั้งๆที่รู้ดีว่าเจอร์รี่กับเคนคงมีเรื่องอะไรกันบางอย่างแน่นอน

"พี่กลางตาบวมมากเลยแต่พอถามพี่เขากลับบอกว่าดูหนังจนดึก" ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับทิ้งตัวนั่งลงข้างแวนเนส

"ไม่รู้สิ อาจจะดูหนังดึกจริงๆก็ได้" แวนเนสบอกปัดเพราะไม่อยากบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นไจ่ไจ๋เป็นบุคคลที่สามที่ถูกพาดพิงถึง

"สงสารพี่กลางจัง พาผมไปเที่ยวแล้วกลับมายังโดนพี่ใหญ่ตีแถมยังโดนดุอีกไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ด้วย รู้อย่างนี้ผมไม่น่าไปกับพี่เขาเลย" น้องเล็กเองก็รู้สึกอยู่แล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพราะตัวเอง

"ความจริงผมก็อึดอัดนะที่พี่ใหญ่แสดงความเป็นห่วงผมมากเกินไป ผมรู้ว่าเป็นเพราะผมยังเด็กยังเรียนอยู่พี่ใหญ่ถึงยังไม่ยอมปล่อยผมให้ทำอะไรด้วยตัวเองซักที มันก็เลยเหมือนเป็นการทำร้ายพี่รองกับพี่กลางด้วยเพราะบางทีพี่ใหญ่เขาก็ดูจะลำเอียงเข้าข้างผมมากเกินไป" ไจ่ไจ๋พูดระบายความรู้สึกออกมาให้แวนเนสฟัง

"ไม่มีใครตำหนินายหรอกไจ่ไจ๋ เพราะพี่ทุกคนก็รักนายมากด้วยกันทั้งนั้น เรื่องของพวกพี่นายไม่ต้องเก็บมาคิดให้หนักสมองหรอก บางทีพี่ก็แกล้งพูดไปงั้นๆแหละว่าพี่ใหญ่ลำเอียง แต่จริงๆแล้วไม่ว่าพี่หรือพี่กลางอยากได้หรือจะเอาอะไรเขาก็ให้เหมือนๆกันนั่นแหละ เพียงแต่วิธีการอาจจะแตกต่างจากนายอยู่ซักหน่อยเท่านั้นเอง" แวนเนสพูดปลอบใจเพื่อไม่ให้น้องต้องคิดมาก

"กับพี่รองน่ะผมรู้ว่าพี่ไม่ได้คิดมาก แต่กับพี่กลางนี่สิ.....พี่กลางเขาไม่ค่อยระบายความในใจให้ใครฟัง มีอะไรก็เก็บไว้คนเดียว มีปัญหาอะไรก็รับไว้คนเดียว ขนาดผมทำให้พี่เขาต้องถูกพัก....." ไจ่ไจ๋เกือบหลุดปากจะพูดออกไปแต่พอนึกขึ้นมาได้ว่าเขาสัญญากับเคนว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่บอกใครก็หยุดพูดกระทันหัน

"อะไรนะ? นายบอกว่านายทำให้พี่กลางต้องอะไรนะ?" แวนเนสถามย้ำเพราะฟังไม่ถนัด

"เอ่อ....ผมบอกว่าผมทำให้พี่กลางต้องเอาเวลาพักผ่อนของเขามาอยู่กับผมพี่เขายังไม่เคยบ่นให้ได้ยินเลย! ฮู้!" ไจ่ไจ๋แก้สถานการณ์ได้ทันทีก่อนที่จะลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ไม่รู้เลยว่าแวนเนสนั้นแอบสังเกตท่าทางของเขาอยู่ตลอด

"เออ! นายได้เจอพ่อของพี่กลอเรียหรือเปล่า?" แวนเนสแกล้งชวนน้องคุยเรื่องอื่น

"เจอครับ พ่อของพี่กลอเรียเนี่ยใจดีมากๆเลยแต่ไม่น่าลงโทษ......" ไจ่ไจ๋เกือบหลุดปากออกมาเป็นครั้งที่สอง คราวนี้แวนเนสแน่ใจแล้วว่าคงเกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างแน่นอน

"แต่อะไรนะไจ่ไจ๋?" ถามซักน้องชายต่ออีก

"แต่ไม่น่าเข้มงวดมากเลยเพราะเขาไม่ยอมให้พี่กลางมานอนค้างห้องพักผู้โดยสาร ผมเลยต้องนอนคนเดียว" ไจ่ไจ๋แก้ตัวพร้อบกับยิ้มแห้งๆให้พี่ชาย

"งั้นหรอ? แต่พี่ก็เห็นเจ้าพี่กลางกล่อมนายจนหลับก่อนทุกคืนถึงจะกลับไปพักผ่อนไม่ใช่หรอ?" แวนเนสถามน้องต่อ

"ก็ใช่.....แต่บางทีผมตื่นมาเข้าห้องน้ำพี่เขาก็ไม่อยู่แล้ว พอจะมานอนต่อก็เลยนอนไม่ค่อยหลับ" ไจ่ไจ๋ตอบพี่ชายอย่างลื่นไหล

"งั้นหรอ? เออ....นายเล่าให้พี่ฟังบ้างซิว่าไปครั้งนี้นายได้ประสบการณ์อะไรกลับมาบ้าง" แวนเนสซักไซร้น้องชายต่ออีก

"โห! เยอะแยะมากเลยครับ แถมยังทำให้ผมรักพี่กลางมากขึ้นอีกเป็นกองเลย" ไจ่ไจ๋บอกพี่ชายพร้อมกับรอยยิ้มเมื่อคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วเคนมาช่วยเขาไว้ได้ทันทุกที

"งั้นหรอ? แสดงว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นมาน่ะสินายถึงรู้สึกแบบนั้นได้" แวนเนสยังตะล่อมถามน้องชายอีก

"ใช่ครับ" ไจ่ไจ๋พยักหน้ารับแต่แล้วก็ทำหน้าเจื่อนๆเมื่อรู้ว่าตัวเองหลุดปากอีกแล้ว

"เกิดเรื่องอะไรขึ้น?" คราวนี้แวนเนสถามน้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง น้องเล็กถึงกับอ้ำอึ้งคิดหาข้อแก้ตัวอยู่ในหัวจ้าละหวั่น

"เกิด.....เกิด....เอ่อ....ผมไม่อยากเล่าอ่ะ น่าอายออก....." แล้วไจ่ไจ๋ก็นึกถึงเรื่องที่มีชายไม่แท้หญิงไม่แท้เข้ามาทักเขาในห้องอาหารนั้น แวนเนสได้ยินก็ขมวดคิ้ว

"น่าอาย? ตกลงเรื่องอะไรกันแน่?" แวนเนสถาย้ำกับน้องชายอีกครั้ง

"คือว่าพี่กลางพาผมไปกินข้าวในห้องอาหารกึ่งผับบนเรือนั่นแหละ แล้วที่นี่เราก็คุยกันผมก็มีกอดกับหอมแก้มพี่กลางด้วยนิดหน่อย แล้วตอนนั้นพี่ใหญ่โทรเข้าเครื่องพี่กลางพอดีพี่กลางเขาก็เลยจะไปรับสายในห้องน้ำเลยบอกให้ผมนั่งรออยู่ที่โต๊ะ" เล่ามาถึงตรงนี้ไจ่ไจ๋ก็รู้สึกอายขึ้นมา

"แล้วเกิดอะไรขึ้น?" แวนเนสซักต่อด้วยความอยากรู้

"แล้วก็มีผู้ชายสองคนเดินเข้ามาหาผมขอนั่งร่วมโต๊ะด้วย....." ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับเอามือเกาหัวอย่างเขินๆที่จะเล่าต่อ

"ทำไม? เขามาหาเรื่องนายหรอ?" แวนเนสเลยพาลคิดไปว่าน้องจะถูกพวกอัธพาลรังแก น้องเล็กรีบส่ายหน้าทันที

"ไม่ใช่ครับ เขาไม่ได้มาหาเรื่อง แต่เขามาขอเป็นเพื่อน" คราวนี้สีหน้าแวนเนสเลยเริ่มงงหนักเข้าไปอีก

"ขอเป็นเพื่อนกับนายเนี่ยนะ? เดี๋ยวๆๆๆ เขามากันสองคนก็ไม่น่าจะต้องการเพื่อนนี่นาแต่ถ้ามาคนเดียวจะขอร่วมโต๊ะด้วยก็ไม่น่าแปลกแต่มันก็ฟังดูขัดๆอยู่เหมือนกัน" แวนเนสวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ยินมา

"เขานึกว่าผมเป็นพวกเดียวกับเขา" น้องเล็กพูดแบบไม่เต็มเสียงนัก

"พวกเดียวกัน?" แวนเนสทวนคำพร้อมกับทำหน้างงสนิทแต่แล้วสีหน้ากลับกลายเป็นรอยยิ้มเมื่อพอจะเดาเรื่องราวออกแล้ว

"นายอย่าบอกนะว่าสองคนนั้นเขาเป็น....." เมื่อน้องพยักหน้าแวนเนสก็แหกปากหัวเราะเสียดังลั่น

"ฮ่าๆๆๆๆ!!!! ไจ่ไจ๋เอ้ย.....มีเสน่ห์กับใครไม่มีดันไปมีเสน่ห์เตะตา.....ฮ่าๆๆๆๆ!!!!" ไจ่ไจ๋เห็นพี่ชายหัวเราะก็ตีแขนพี่ชายแก้เขิน

"พี่รองอ่ะ! แค่โดนพี่กลางหัวเราะเยาะคนเดียวก็อายจะแย่แล้ว!" ต่อว่าพี่ชายออกไปแต่ก็โล่งใจอยู่เหมือนกันที่เขาเบี่ยงเบนการจับผิดของพี่ชายไปได้

"แล้วงัยต่อวะ? นายคงไม่เสร็จพวกนั้นหรอกนะ" แวนเนสถามเสียงปนหัวเราะ

"จะบ้าหรอ!? ไม่โดนอะไรทั้งนั้นแหละพี่กลางมาช่วยทัน ไม่งั้นก็ไม่รู้จะทำยังงัย อึ๋ย! พูดแล้วขนลุก....." ไจ่ไจ๋ตอบแล้วปล่อยให้พี่ชายได้หัวเราะเขาอีกซักพัก

"นี่ๆๆๆ!!! หยุดได้แล้วพี่รอง ไหนบอกจะพาไปช้อปปิ้งงัย? มัวแต่หัวเราะแบบนี้แล้วจะได้ไปมั๊ย?" พูดกับพี่ชายเสียงห้วนเล็กน้อย

"ไปๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ!!! ไม่น่าหละนายถึงได้รักเจ้าพี่กลางขึ้นมาอีกเป็นกองเลยเป็นพี่พี่ก็คงรักมันขาดใจเลยเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ!!!!" แวนเนสว่าแล้วก็หัวเราะออกมาอีก

"หยุดหัวเราะได้แล้ว! รู้งี้ไม่เล่าให้ฟังหรอก! ไปได้แล้วเร็วๆ!" ว่าแล้วเขาก็ลุกขึ้นฉุดแขนพี่ชายให้ลุกขึ้น

"โอเคๆๆๆ เดี๋ยวพี่ไปหยิบมือถือกับกระเป๋าตังค์ก่อน" แวนเนสว่าแต่ไม่วายแอบอมยิ้มอีกด้วย

"พี่รอง! ถ้าหัวเราะอีกผมจะไม่ไปด้วยจริงๆนะ!" ทำเสียงกระเง้ากระงอดใส่พี่ชายด้วยสีหน้ามุ่ยๆ

"โอ๋ๆๆๆ ไม่หัวเราะแล้ว.....ไปๆๆๆ....ไปช้อปปิ้งกัน....." แล้วแวนเนสก็ชวนน้องไปที่รถแต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่วายแอบหัวเราะออกมาอีกจนได้




 

Create Date : 30 ธันวาคม 2550    
Last Update : 30 ธันวาคม 2550 21:36:19 น.
Counter : 1423 Pageviews.  

Chapter 48

ตอนที่ 48

"ไอ้ขี้เซา! ตื่นได้แล้ว!" เจอร์รี่เอามือตบแก้มแวนเนสเบาๆพร้อมกับร้องเรียกให้น้องตื่น

"อืม.....ขออีกเดี๋ยว....." แวนเนสงึมงำตอบพี่ชายด้วยเสียงงัวเงียแล้วพลิกตัวหันหลังให้

"อีกเดี๋ยวเดียวงั้นวันนี้อดไปทะเลแล้วกันนะ" พูดจบเจอร์รี่ก็แกล้งหมุนตัวออกไปทันที แวนเนสได้ยินก็ลืมตาขึ้นมาอย่างงงๆแต่พอทบทวนสิ่งที่พี่ชายพูดเมื่อกี้แล้วก็หายง่วงเป็นปลิดทิ้ง

"เฮ้ย! จะพาไปทะเลหรอ? จริงนะ?" ดีดตัวลุกขึ้นแล้ววิ่งพรวดเข้าไปกอดพี่ชายทันที เจอร์รี่หัวเราะเบาๆกับท่าทางของเจ้าน้องชายจอมไฮเปอร์

"เออ! ว่าแต่นายอยากไปหรือเปล่า? หรือว่าอยากนอนอยู่บ้าน?" ตอบรับพร้อมกับถามน้องกลับไปด้วย

"อยากไปสิ รอตั้งนาน นึกว่านายจะลืมสัญญาที่จะพาชั้นไปเที่ยวซะแล้ว" แวนเนสรีบตอบพี่ชายในทันที

"ถ้าชั้นลืมนายก็จะได้อาละวาดใส่ชั้นอีกน่ะสิ ไป.....ไปอาบน้ำได้แล้ว...." พูดจบก็ไล่ให้น้องชายไปอาบน้ำแต่งตัว ส่วนเขาเองก็ลงไปเตรียมอาหารเช้าให้ตัวเองและน้องชาย เมื่อแวนเนสอาบน้ำเสร็จก็เดินลงมาอย่างอารมณ์ดี

"ถืออะไรมา?" เจอร์รี่ถามพร้อมกับมองไปที่ถุงผ้าที่มือน้องชาย

"เสื้อผ้าเอาไปเล่นน้ำงัย ชั้นเตรียมให้นายแล้วด้วย" แวนเนสตอบพร้อมกับเดินมานั่งลงที่โต๊กินข้าว

"ของชั้นไม่ต้องเอาไปหรอก ชั้นไม่เล่นน้ำ" เจอร์รี่บอก พอได้ยินเช่นนั้นแวนเนสก็ทำหน้ามุ่ย

"ทำไมอ่ะ? แล้วนายจะให้ชั้นเล่นคนเดียวหรอ? แบบนี้จะไปสนุกอะไรกัน" ทำเสียงโอดครวญใส่พี่ชาย

"ชั้นจะนั่งเฝ้าของให้ ไม่งั้นแล้วเราลงไปเล่นน้ำด้วยกันแล้วข้าวของหละจะทำยังงัย?" เจอร์รี่ให้เหตุผล

"ก็เอาไว้บนรถสิ คงไม่โชคดีถึงขนาดโดนขโมยไปทั้งรถหรอกน่า" แวนเนสแย้งขึ้น

"ไม่ต้องหรอก ชั้นไม่อยากเล่นน้ำเท่าไหร่" เจอร์รี่ปฏิเสธอีก คราวนี้แวนเนสจึงมองหน้าพี่ชายด้วยสีหน้าบึ้งตึงกว่าเดิม

"ถ้านายไม่นึกสนุกที่ได้ไปเที่ยวกับชั้นแล้วหละก็ไม่ต้องไปก็ได้ ชั้นคงเที่ยวแบบไม่สนุกหรอกถ้าหากนายจำใจไปเพราะเผลอมาตกปากรับคำกับชั้นไว้น่ะ" พูดจบก็หิ้วถุงผ้านั้นขึ้นมาแล้วทำท่าจะลุกออกไป

"นี่ๆๆๆ!!! ไปกันใหญ่แล้ว ทำไมชอบคิดอะไรบ้าๆแบบนี้ทุกที" พี่ใหญ่รีบค้านคำน้องขึ้นมาทันที

"แล้วจะให้ชั้นคิดยังงัย? ไปเที่ยวกับชั้นแต่นายกลับไม่ยอมทำอะไรร่วมกับชั้นเลย แบบนี้ไม่ใช่เพราะนายจำใจไปหรอกหรอ?" แวนเนสเถียงพี่ชายกลับ พี่ใหญ่ฟังแล้วก็ได้แต่ถอนใจ

"แวนเนสเอ้ย.....นายเองก็รู้หนิว่าชั้นไม่ค่อยชอบเล่นน้ำเท่าไหร่ ยิ่งถ้าเป็นการเที่ยวทะเลแบบเช้าไปเย็นกลับด้วยแล้วชั้นไม่เคยลงไปเล่นน้ำซักครั้ง เพราะวันต่อมาชั้นต้องทำงาน" แม้พี่ชายจะอธิบายยังงัยแวนเนสก็ยังไม่รับฟังอยู่ดีเอาแต่จะเดินหนีเท่านั้น

"โอเคๆๆๆ เล่นด้วยก็ได้ เฮ่อ! อะไรมันจะเอาแต่ใจแบบนี้" ในที่สุดเจอร์รี่จึงต้องยอมรับปากน้อง

"ห้ามโกหกนะ" แวนเนสย้ำคำอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อ

"เออ!! มากินข้าวได้แล้วยุ่งจริงเลยเชียว!" พี่ใหญ่รับคำอย่างเซ็งๆกับเจ้าน้องชายคนนี้ เมื่อเป็นดังนั้นแวนเนสจึงยอมนั่งกินข้าวแต่โดยดี

"นายนี่นะแวนเนส นับวันยิ่งเอาใหญ่แล้วเห็นชั้นเป็นอะไรน่ะฮึ? ถึงได้กดดันต่างๆนานา อะไรไม่พอใจก็หาว่าลำเอียงบ้างหละหาว่าชั้นไม่สนใจใยดีนายบ้างหละ จะต้องให้ชั้นตามใจนายทุกเรื่องเลยหรืองัยฮึ?" พี่ใหญ่บ่นน้องชายอย่างเอือมระอา

"เออสิ!" แวนเนสตอบรับคำนั้นหน้าตาเฉย พี่ใหญ่เลยถอนใจออกมาดังเฮือก

"รำคาญหรอ? งั้นพรุ่งนี้ชั้นไปหาพ่อกับแม่ก็ได้" แวนเนสพูดอย่างผู้ที่เหนือกว่า เจอร์รี่ทำหน้าเข้มใส่น้อง

"อย่าพูดมาก! กินเข้าไปเร็วๆ!" ทำเสียงดุๆแล้วสั่งให้น้องกินข้าวต่อเพราะกลัวน้องจะทำอย่างที่พูดจริงๆ แวนเนสเองก็ได้แต่อมยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าและท่าทางของพี่ชาย



- ที่ชายหาดริมทะเล -

"อย่าวิ่ง! เดี๋ยวหกล้ม!" เจอร์รี่ร้องเตือนแวนเนสไล่หลังเมื่อเห็นน้องผละมือออกจากเขาแล้ววิ่งตื่อลงไปที่ชายหาดเหมือนเด็กๆ

"ไอ้บ้านี่.....ไม่รู้จักโตเสียที" แม้จะต่อว่าน้องเช่นนั้นแต่พี่ใหญ่ก็อดที่จะอมยิ้มกับท่าทางของน้องชายไม่ได้

"เฮ้ย! ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ" เมื่อเดินตามเข้ามาแล้วเห็นว่าน้องทำท่าจะเดินลงทะเลเจอร์รี่ก็รีบคว้ามือน้องชายไว้

"ก็ลงชุดนี้แล้วชุดนั้นค่อยใส่กลับก็ได้" แวนเนสเถียง

"ไม่ได้! ชุดนี้เพิ่งจะซื้อมาใส่แค่ไม่กี่ครั้งเดี๋ยวใส่ลงน้ำแล้วสีจะเปลี่ยน" เจอร์รี่ส่ายหน้าแล้วทำหน้าดุๆใส่น้องอีก

"เฮ่อ! นายนี่นะจะมีซักวันมั๊ยที่จะไม่บ่นชั้นเนี่ย?" แวนเนสบ่นแล้วนั่งยองๆพร้อมกับเอามือกอบทรายมากองรวมกัน

"แล้วจะมีซักวันมั๊ยที่นายไม่กวนประสาทชั้น" เจอร์รี่เองก็นั่งลงข้างน้องพร้อมกับย้อนถาม

"คงไม่มี" แวนเนสตอบพร้อมกับยักคิ้วให้พี่ชายอย่างทะเล้น

"ไอ้กะล่อน!" พี่ใหญ่เอานิ้วจิ้มหน้าผากน้องชายเบาๆ

"ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนก็ได้ เล่นน้ำช่วงเช้าแดดไม่แรงผิวจะได้ไม่เสีย" แวนเนสว่าแล้วก็ลุกขึ้นแล้วปัดทรายที่ติดมือตัวเองอยู่ออก

"ปะ....ไปหาที่เปลี่ยนชุดกัน" ว่าแล้วแวนเนสก็ดึงแขนพี่ชายไปเปลี่ยนชุดเพื่อลงเล่นน้ำแต่แล้วสายตาเขากลับมองไปเห็นบุคคลที่เขาคุ้นเคยเล่นก่อกองทรายกันอยู่ไม่ห่างจากตรงที่เขายืนมากนัก

"มีอะไรหรอ?" เจอร์รี่เอ่ยถามเมื่อเห็นน้องไม่เดินต่อ

"นายดูซิ.....ตรงนั้นน่ะ....." แวนเนสชี้ให้พี่ชายดูผู้ชายสองคนที่กำลังเล่นกันอย่างเพลินๆ

"อะไรของนายวะ" เจอร์รี่บ่นๆแต่ก็หันไปทางมือที่น้องชี้อยู่และเมื่อได้เห็นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที

"ใช่น้องนายหรือเปล่า?" แวนเนสถามพี่ชายต่อแต่เจอร์รี่ไม่ตอบกลับเดินดุ่มๆเข้าไปหาชายหนุ่มสองคนที่อยู่ไกลออกไปนั้นทันที

"อ้าวเฮ้ย!!" แวนนสอุทานแล้วรีบวิ่งตามพี่ชายไป

"ของพี่สูงกว่าของนายอีก แพ้แล้วไจ่ไจ๋" เจอร์รี่ได้ยินเสียงน้องชายคนกลางพูดทับถมน้องชายคนเล็กดังมาแว่วๆ

"ไอ้ตัวดี!!!" พี่ใหญ่ใช้มือบิดหูเคนอย่างแรง

"โอ้ยยยยย!!!!" เคนร้องอุทานลั่นด้วยความตกใจแต่เมื่อเห็นหน้าพี่ใหญ่แล้วเขาก็เบิกตาอย่างคาดไม่ถึงว่าจะเจอพี่ชายที่นี่

"พี่ใหญ่!!" ไจ่ไจ๋เองก็ดูจะตกใจไม่น้อยไปกว่าเคน

"ทำไมนายมาอยู่ที่นี่ได้?" เคนร้องถามพี่ชายอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง

"ชั้นต่างหากที่ควรจะถามนาย! มาอยู่ที่นี่ได้ยังงัย!? โดดงานมาใช่มั๊ย!?" ว่าพลางบิดหูน้องชายแรงขึ้นกว่าเดิม เคนทำหน้าเหยพร้อมกับพยายามดึงมือพี่ชายออก

"เฮ้ย! ค่อยๆพูดก็ได้" แวนเนสที่เดินตามมาร้องเตือนพี่ชาย

"ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ! กล้าทำอะไรเหลวไหลถึงขนาดนี้เชียวหรอ!?" พี่ใหญ่คลายมือที่บิดหูน้องชายออกมาจับต้นแขนน้องไว้แล้วเงื้อนมืออีกข้างจะตี แต่แวนเนสกับไจ่ไจ๋รีบเข้าไปช่วยห้ามไว้ก่อน

"ใจเย็นก่อนสิ! อย่าครับพี่ใหญ่!" แวนเนสกับไจ่ไจ๋ร้องห้ามเสียงหลง เคนจึงใช้จังหวะนั้นดึงมือน้องเล็กแล้ววิ่งหนีลงทะเล

"เสี้ยวเทียน!! กลับขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ!!" เจอร์รี่ตะโกนเรียกน้องชายพร้อมกับชี้หน้าด้วยความโมโห

"มันมากันได้งัยวะเนี่ย?" เคนพึมพำกับน้องชายด้วยสีหน้าบอกไม่ถูก เพราะเขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะมาเจอกับสถานการณ์แบบนี้

"หรือว่านายโทรบอกมัน?" แล้วเคนก็หันมาสงสัยน้องเพราะไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีเรื่องบังเอิญแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเองได้

"เปล่านะครับพี่กลาง! ผมไม่เคยบอกอะไรพี่ใหญ่เลย!" ไจ่ไจ๋แก้ตัวเสียงหลง

"โอ้ย....แล้วทำงัยดีเนี่ย?" เคนทำหน้าเบ้เมื่อพอจะเห็นชะตากรรมที่รออยู่ลางๆแล้ว

"พี่อยากจะจมน้ำตายซะตอนนี้เลย" พูดจบเคนก็ทิ้งตัวลงบนผืนน้ำ ไจ่ไจ๋เห็นก็รีบดึงพี่ชายขึ้นมา

"ทำอะไรบ้าๆน่ะพี่กลาง!" เอ็ดพี่ชายเบาๆก่อนที่จะถอนหายใจแล้วมองไปที่ฝั่งก็เห็นพี่ใหญ่ยังจ้องพวกเขาอยู่ตาเขม็งโดยมีแวนเนสที่ยืนขยับปากคล้ายจะช่วยพูดให้พวกเขาแต่ดูเหมือนพี่ใหญ่จะไม่สนใจเพราะสายตายังคงจับจ้องอยู่ที่เขาและพี่ชายเขม็ง

"เอาแบบนี้พี่กลาง โยนมาให้ผมก็แล้วกัน พี่บอกพี่ใหญ่ไปเลยว่าผมงอแงกับพี่แล้วก็รบเร้าให้พี่พามาเที่ยวเอง" ไจ่ไจ๋เสนอเพราะไม่เห็นทางอื่นที่จะดีกว่านี้แล้ว และอีกอย่างถ้าหากอ้างว่าเป็นความผิดของเขาพี่ใหญ่อาจจะไม่เอาเรื่องเคนก็ได้

"แล้วพี่ก็บอกด้วยว่าที่พาผมมานี่พี่ก็ลางานเรียบร้อยแล้ว แก้ตัวอะไรซักอย่างก็ได้" เคนมองหน้าน้องชายด้วยสีหน้าหวั่นๆ

"ไม่ดีหรอกไจ่ไจ๋ เดี๋ยวพี่ใหญ่เอาเรื่องขึ้นมานายจะแย่นะ" เคนปฏิเสธอย่างไม่เห็นด้วยเพราะการที่มาเที่ยวครั้งนี้เป็นความคิดเขาทั้งๆที่น้องชายก็แย้งไว้แต่ตอนแรกแล้ว

"เอาตามนี้เถอะครับ พี่ใหญ่ไม่ลงโทษผมหรอก" ไจ่ไจ๋ย้ำคำอย่างค่อนข้างมั่นใจ พูดจบก็พยักหน้ากับเคนให้กลับขึ้นฝั่งแต่ทันทีที่ทั้งคู่กลับขึ้นมาพี่ใหญ่ก็เดินปราดเข้ามาหาเคนแล้วจึบแขนน้องตรึงไว้แน่น

"คิดว่าจะหนีพ้นหรอ!? เกเรใหญ่แล้ว! งานการไม่ทำ! เอาเวลามาเที่ยวเล่น!" พี่ใหญ่ดุพร้อมกับมือที่ตวัดลงที่ขาน้องชาย เคนก็ได้แต่ร้องโอดโอยพร้อมกับพยายามเบี่ยงตัวหลบฝ่ามือพี่ชาย

"เฮ้ย!! มีอะไรค่อยกลับไปคุยที่บ้าน!" แวนเนสตรงเข้าห้ามพร้อมกับจับมือพี่ชายไว้ไม่ให้ตีน้อง

"ตอบชั้นมาซิมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่!?" แต่เจอร์รี่ยังไม่ยอมให้จบเรื่องง่ายๆเขาถามเคนต่อด้วยน้ำเสียงดุดัน

"เมื่อวาน" เคนตอบพี่ชายเสียงแผ่ว ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็เริ่มโมโหขึ้นมาอีกเพราะถ้าน้องมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อวานก็เท่ากับเมื่อคืนที่คุยกันนั้นน้องโกหกเขา

"พี่ใหญ่ครับ เรื่องนี้เป็นความผิดของผมเอง ผมรบเร้าอยากจะเที่ยวทะเล....." น้องเล็กยังพูดไม่ทันจบเจอร์รี่ก็พูดแทรกขึ้นมา

"นายไม่ต้องแก้ตัวแทนมันเลย! พี่รู้จักพวกนายดี!" ไจ่ไจ๋ถึงกับพูดอะไรไม่ออกเมื่อโดนพี่ชายตอกกลับมาเช่นนี้

"โดดงานมาเที่ยว!! สอนให้น้องโกหกชั้น!! ทำแต่ละอย่างเรื่องดีๆทั้งนั้น!!" เคนได้ยินก็เริ่มไม่พอใจที่พี่ชายกล่าวหาเขาเช่นนี้

"ชั้นไม่ได้โดดงาน!" เมื่อน้องเถียงอารมณ์ที่เดือดอยู่แล้วก็ยิ่งเดือดมากขึ้นไปอีกเขาเดินไปหาแล้วตีน้องแบบไม่นับ ท่ามกลางความอึ้งของแวนเนสกับไจ่ไจ๋

"เถียงคำไม่ตกฟาก! แบบนี้ต้องตีให้ตาย!" พี่ใหญ่ดุไปตีไปด้วยความโมโห เคนสะดุ้งไปมาหน้าตาเหยเกพยายามจะหนีแต่ก็ถูกพี่ชายดึงแขนไว้

"พี่ใหญ่พอเถอะครับ! พี่รองช่วยพี่กลางหน่อย!" เมื่อได้สติไจ่ไจ๋ก็ร้องห้ามพี่ใหญ่พร้อมกับบอกพี่รองให้รีบช่วยเคน

"พอได้แล้ว!! คนมองกันใหญ่แล้วไม่อายเขาหรืองัย!!?" แวนเนสรีบเดินเข้าไปห้ามทัพ

"ใจเย็นหน่อยได้มั๊ยเล่า!? ค่อยๆพูดกันก็ได้ไม่เห็นต้องลงมือกับน้องขนาดนี้เลย!" แวนเนสต่อว่าพี่ชายอย่างอ่อนใจ

"ไม่ทำขนาดนี้! นี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ! นายเห็นหรือเปล่าว่ามันทำอะไร?" เจอร์รี่หันมาเถียงแวนเนสด้วยอารมณ์ขุ่นมัว

"นายมานี่เลย มาสงบสติอารมณ์ซะก่อน" ว่าแล้วแวนเนสก็ดึงพี่ชายออกไปห่างๆจากน้อง ในขณะที่ไจ่ไจ๋ก็เดินเข้าไปดูเคน

"พี่กลาง.....เป็นยังงัยบ้าง?" ไจ่ไจ๋ถามเคนที่ทำหน้าเหยๆพร้อมกับเอามือลูบแขนลูบขาตัวเอง

"ก็เจ็บน่ะสิ" เคนร้องครางกับน้องเสียงแผ่ว

"เจ็บมากเปล่าพี่กลาง? เดินไหวมั๊ย?" ไจ่ไจ๋ถามต่ออีก แม้จะอารมณ์ไม่ค่อยดีที่เพิ่งโดนพี่ชายตีไปหยกๆแต่พอได้ยินคำถามน้องแล้วเคนก็เกือบจะหัวเราะออกมา

"ถ้ามือพี่ใหญ่ของนายตีจนพี่ขาหักได้มันก็ไม่ใช่คนแล้วหละ" ตอบด้วยน้ำเสียงขำๆ

"ยังจะทำเป็นเล่นอีก! เดี๋ยวพี่ใหญ่ก็ตีซ้ำอีกหรอก!" น้องเล็กต่อว่าพี่ชายแล้วกลายเป็นฝ่ายทำหน้ามุ่ยเสียเอง เคนได้ยินก็ยิ้มแหยๆแล้วมองไปทางพี่ใหญ่ที่ยังจ้องเขาไม่วางตา

"กลับโรงแรมไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเถอะไจ่ไจ๋" เคนชวนน้องเพราะอยากจะหนีพี่ชาย

"ครับ" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็หันไปทางพี่ชายอีกสองคน

"ผมกับพี่กลางจะกลับโรงแรมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน พี่ใหญ่กับพี่รอง......" ไจ่ไจ๋ยังพูดไม่ทันจบแวนเนสก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน

"อยากเพิ่งเปลี่ยนดิวะ! พี่มายังไม่ทันได้เล่นน้ำเลย" ได้ยินดังนั้นเคนกับไจ่ไจ๋ก็มองหน้ากัน

"แต่ชั้นกับน้องออกมาเล่นกันตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว" พูดคล้ายจะปฏิเสธกลายๆ

"โธ่...." แวนเนสทำหน้าน่าสงสาร

"พี่รองก็เล่นกับพี่ใหญ่แถวๆนี้ก่อนก็ได้เดี๋ยวผมกับพี่กลางเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วจะออกมาหานะ" ไจ่ไจ๋เสนอแล้วเมี่ยงมองไปทางพี่ใหญ่

"พี่ไม่เล่น!" เจอร์รี่ปฏิเสธเสียงแข็ง

"อ้าว! ก็ก่อนออกมานายบอกว่าจะลงเล่นน้ำกับชั้นงัยหละ" แวนเนสทวงคำมั่นกับพี่ชายทันที

"ไม่เล่น!" ปฏิเสธอีกครั้งแล้วเดินหนีไปทางอื่น เคนกับไจ่ไจ๋จึงได้แต่ทำหน้าเจื่อนๆ

"งั้นเราเล่นกันสามคนก็ได้เนอะพี่กลาง" เมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของพี่ชายคนรองแล้วไจ่ไจ๋ก็นึกเห็นใจจึงหันไปพูดกับเคนกลายๆ

"อืม.....เล่นต่ออีกก็ได้" เคนตอบรับเพราะเห็นใจแวนเนสเช่นกันที่อุตส่าห์มาถึงที่นี่แล้วแต่ต้องอดเล่นน้ำด้วยสาเหตุที่เกิดจากเขาโดยตรง

"ไม่ต้องแล้วหละ ไปโรงแรมกับพวกนายดีกว่า" เมื่อเห็นว่าไม่มีใครมีอารมณ์จะเล่นกับเขาด้วยแวนเนสจึงไม่อยากฝืนใจใคร

"ไหนๆก็มาแล้วเล่นหน่อยเถอะจะได้ไม่เสียเที่ยว" ไจ่ไจ๋ตื๊อพี่ชายต่อ

"ไม่เป็นไรแค่มาเจอพวกนายพี่ก็ไม่เสียเที่ยวแล้ว" แวนเนสตบไหล่น้องชายเบาๆแล้วพูดต่อ

"พวกนายรีบกลับไปอาบน้ำเถอะ ใส่เสื้อผ้าเปียกๆนานๆเดี๋ยวจะเป็นหวัดเอา" พูดจบก็พยักหน้าให้น้องๆกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

"เราพักอยู่โรงแรมตรงหน้านั้นน่ะ นายจะเดินไปด้วยกันหรือจะขับรถไปหละ?" เคนถามพี่ชายต่อ แวนเนสมองไปทางพี่ชายที่ยืนหน้าบึ้งอยู่ไม่ห่างนักก่อนจะบอกให้น้องเดินไปก่อน

"พวกนายเดินไปก่อนแล้วกันเดี๋ยวชั้นกับเจอร์รี่จะขับรถตามไป" พูดจบแล้วเคนกับไจ่ไจ๋ก็รีบเดินแยกจากไปทันที

"อายเขาชะมัดเลยว่ะ โตจะตายอยู่แล้วถูกตีโชว์ซะงั้น" เคนบ่นอุบทันทีที่เดินออกมาพ้นรัศมีของพี่ชายคนโต

"หึๆๆๆ" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็หัวเราะในลำคอเพราะมาคิดๆดูแล้วเรื่องนี้ก็น่าขำอยู่เหมือนกันแม้ว่าในขณะเกิดเรื่องจะไม่มีใครขำออกเลยก็ตาม

"คนมองพี่กลางกันเต็มเลยหละ ดีนะที่เป็นตอนเช้าแบบนี้คนยังไม่เยอะเท่าไหร่ถ้าเป็นตอนช่วงบ่ายๆนี่สิพี่กลางเอาหน้ามุดทรายหนีได้เลย" ไจ่ไจ๋ต่อคำพี่ชายอย่างขำๆ

"พี่ก็ว่างั้นแหละ แค่นี้พี่ก็อยากจะโดดน้ำตายอยู่แล้ว เฮ่อ!!!" เคนว่าก่อนที่จะถอนหายใจออกมาดังๆ

"กลับบ้านไประเบิดลงแหงๆ" น้องเล็กได้ยินก็พลอยทำหน้าเหยไปด้วย

"พี่กลางครับ ยังงัยพี่ก็ต้องพูดตามที่เราตกลงกันนะ บอกพี่ใหญ่ไปเลยว่าผมรบเร้าอยากเที่ยว" ไจ่ไจ๋ย้ำคำให้พี่ชายแบ่งความรับผิดชอบมาที่เขาด้วย

"นายก็รู้ว่าพี่ใหญ่เขาไม่เชื่อหรอก พี่ว่าพี่ยอมรับว่าโดดงานแล้วชวนนายมาเที่ยวน่าจะดีกว่าเพราะไหนๆเขาก็คิดแบบนั้นแล้ว" เคนพูดอย่างปลงๆ

"ไม่ได้นะพี่กลาง! พี่ไม่ได้โดดงานซักหน่อยทำไมต้องไปยอมรับว่าตัวเองเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบแบบนั้นด้วย" น้องเล็กแย้งขึ้นมาเสียงแข็ง

"โดดงานพี่ใหญ่ยังลงโทษไม่หนักเท่าที่พี่ถูกพักงานเพราะทะเลาะวิวาทหรอก อย่างน้อยก็ถือว่าโดนข้อหาเบากว่าก็แล้วกัน" เคนตอบพร้อมกับยิ้มให้น้องเป็นเชิงปลอบใจ

"ไม่เป็นไรหรอกน่า! เรื่องนี้พี่จัดการเอง นายก็ไม่ต้องแก้ตัวแทนพี่หรอกเพราะไม่งั้นแล้วพี่คงโดนพี่ใหญ่ลงโทษด้วยข้อหาหมั่นไส้อีกกระทงนึง" ไจ่ไจ๋ฟังแล้วก็ได้แต่ถอนใจ

"ถ้าผมไม่มาด้วยพี่กลางก็ไม่เดือดร้อนแบบนี้แน่ๆ เพราะผมแท้ๆเลยเชียว" เคนเอามือตบหลังน้องดังป๊าบ

"ไอ้บ้า! พี่บอกแล้วงัยว่าอย่าโทษตัวเอง!" ต่อว่าน้องชายเข้าให้

"แต่ข้อหาโดดงานนี่ผมไม่เห็นด้วยเลย พี่ใหญ่น่าจะรู้นะว่าพี่ทำงานแบบนั้นพอนึกไม่อยากทำก็หนีออกมาเลยจะได้หรอ?" ไจ่ไจ๋แย้งพี่ชายขึ้นอีก เคนได้ยินก็หัวเราะกับความซื่อของน้องชาย

"นี่.....นายคงไม่คิดว่าการโดดงานที่พี่ใหญ่พูดถึงน่ะคือการโดดลงน้ำแล้วว่ายกลับเข้าฝั่งอะไรประมาณนั้นหรอกนะ" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็มองหน้าพี่ชายอย่างงงๆ

"คำว่าโดดงานในที่นี้น่ะพี่ใหญ่เขาหมายถึงว่าพี่ลางานออกมานั่นแหละ แต่ว่าลางานออกมาโดยไม่มีเหตุผลเพราะต้องการจะเที่ยวก็เท่านั้นเอง เข้าใจมั๊ยไอ้บื้อ!" พอได้ยินเช่นนั้นไจ่ไจ๋ก็ทำหน้าเซ่อเพราะในตอนแรกนั้นเขานึกว่าพี่ใหญ่หมายความว่าพอเรือเทียบท่าเคนก็ชวนเขาวิ่งหนีออกมาโดยไม่บอกกล่าวใคร

"เฮ่อ! เมื่อไหร่นายจะโตซักทีนะ" เคนว่าพร้อมกับเอามือขยี้หัวน้องอย่างเอ็นดู

"แต่นายไม่ต้องห่วงหรอกเพราะพี่มีข้อแก้ตัวอีกอย่างนั่นก็คือ.....พี่เข้าเวรแทนเพื่อนมาหลายครั้งคราวนี้เพื่อนเลยอาสาจะแทนให้พี่บ้าง เหตุผลนี้อาจจะเป็นเหตุลดโทษลงได้นิดหน่อยด้วยเพราะอย่างน้อยพี่ก็ไม่ได้โดมาทั้งๆที่ขาดคนงานก็ไม่เสียหายอะไร" เคนบอกกับน้องโดยไม่แสดงอาการกังวลใจให้เห็น

"งั้นหรอ? แบบนี้ดีที่สุดแล้วหรอ?" ไจ่ไจ๋ถามย้ำพี่ชายอีก

"คิดว่าก็ฟังดูเข้าท่าที่สุดแล้ว" เคนตอบแล้วตัดบทเพราะไม่อยากให้น้องต้องซีเรียส

"พี่ว่าเรารีบเดินเถอะเดี๋ยวไปถึงช้าจะโดนด่าเอาอีก" ว่าแล้วเคนก็จูงมือน้องแล้วกระตุ้นให้เดินเร็วๆ



- ที่โรงแรม -

"เอ่อ.....ไม่ทราบว่าคนที่ชื่อเสี้ยวเทียนพักห้องไหนครับ?" แวนเนสเดินมาถามพนักงานหน้าเคาน์เตอร์เพราะลืมถามน้องชายเอาไว้ทั้งยังติดต่อน้องไม่ได้เพราะน้องปิดเครื่องโทรศัพท์กันทั้งคู่

"ซักครู่นะคะ" เจ้าหน้าที่บอกพร้อมกับคีย์ข้อมูลดูที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ก่อนจะเงยขึ้นมามองหน้าแวนเนส

"ขอโทษนะคะไม่ทราบว่าคุณเป็นอะไรกับคุณเสี้ยวเทียนคะ?" ถามตามกฎของโรงแรมเพราะไม่ต้องการให้ใครเข้าไปรบกวนลูกค้าโดยไม่มีเหตุจำเป็น

"ผมเป็นพี่ชายของเขาครับ จะมารับเขากลับบ้าน" แวนเนสตอบ พนักงานหญิงคนนั้นขมวดคิ้วเล็กน้อยในขณะมองหน้าแวนเนส

"เอ....คุณเป็นนักแสดงหรือใช่เปล่าคะ?" เมื่อเห็นหน้าคุ้นๆจึงเอ่ยถามออกไปอย่างตื่นเต้น แวนเนสยิ้มแหยๆก่อนจะพยักหน้ารับ

"งั้นรบกวนขอลายเซ็นหน่อยได้มั๊ยคะ? ชั้นชื่นชอบคุณมากเลยค่ะ" เธอว่าพร้อมกับหยิบกระดาษกับปากกายื่นให้แวนเนส

"เอ่อ....ไม่มีปัญหาครับ...." แวนเนสว่าแล้วก็เซ็นชื่อตัวเองลงในกระดาษนั้นให้ ในขณะนั้นเจอร์รี่ที่ยืนรออยู่ห่างๆก็เริ่มมองมาทางน้องชายอย่างไม่สบอารมณ์นัก

"ไม่ทราบว่าตอนนี้มีผลงานอะไรอื่นบ้างมั๊ยคะ?" เธอถามแวนเนสต่ออีก

"ตอนนี้กำลังทำอัลบั้มเพลงอยู่ครับ แต่ยังไม่กำหนดว่าจะออกเมื่อไหร่ ตกลงว่า....." แวนเนสตอบแล้วจะทวงถามเลขห้องแต่เธอก็ถามต่ออีก

"เป็นเพลงแนวไหนหรอคะ?" แวนเนสอ้าปากค้างก่อนจะยิ้มแห้งๆ

"อันนี้รอติดตามดีกว่านะครับเพราะผมบอกอะไรไม่ได้เนื่องจากบริษัทยังไม่ให้เปิดเผยครับ" แวนเนสตอบอย่างสุภาพ ซึ่งในขณะนั้นก็มีคนมาติดต่อที่เค้าน์เตอร์และพอได้เห็นแวนเนสก็ต่างพากันมาขอลายเซ็นเพิ่มอีก จากสองสามคนเป็นหลายๆคนเพราะบางคนก็เรียกคนรู้จักมาด้วย

"เฮ่อ! ไม่รู้จักเวล่ำเวลา" เจอร์รี่บ่นเมื่อเห็นน้องถูกผู้คนล้อมหน้าล้อมหลังก่อนจะเดินเข้าไปหาน้อง

"ขอโทษนะครับ" เจอร์รี่เอ่ยกับคนในที่นั้นอย่างสุภาพก่อนจะดึงตัวน้องชายออกมาแล้วพาเข้าไปในลิฟท์ทันที

"แค่ให้ถามเลขห้องอย่างเดียวดันไปยืนคุยกับเขาตั้งนานสองนาน กะล่อนนักนะ!" พี่ใหญ่ต่อว่าพร้อมกับเหน็บที่ต้นแขนน้องเข้าให้เพราะนึกว่าแวนเนสไปชวนคนอื่นคุย

"โอ้ยยยย.....ชั้นไม่ได้ชวนคุยซักหน่อย น้องคนนั้นเขาจำชั้นได้เลยถามโน้นถามนี่ต่างหาก" แวนเนสร้องโอดครวญก่อนจะเถียงพี่ชายกลับด้วยสีหน้ามุ่ยๆ เจอร์รี่มองเจ้าน้องชายตัวดีก่อนจะถอนหายใจ

"แล้วน้องพักอยู่ห้องไหน?" ถามกลับเสียงห้วนเล็กน้อย

"ไม่รู้" แวนเนสตอบเสียงแผ่ว

"ไม่รู้!" เจอร์รี่ทวนคำพร้อมกับตีแขนน้องดังเพี๊ยะ

"ก็เขาไม่ตอบอ่ะ มัวแต่ชวนชั้นคุย" แวนเนสแก้ตัวด้วยสีหน้าจ๋อยสนิท ทำเอาพี่ใหญ่ถึงกับอ่อนใจ

"โทรไปหาน้องเลย ป่านนี้มันคงกลับถึงห้องพักแล้ว" สั่งน้องต่อด้วยน้ำเสียงห้วนๆ แวนเนสจึงดึงโทรศัพท์มาโทรหาน้องแล้วคราวนี้ก็ติดต่อได้จริงๆ

"ห้อง 613" แวนเนสบอกในเวลานั้นลิฟท์ก็ขึ้นมาถึงชั้นหกพอดี เจอร์รี่กับแวนเนสจึงออกมาแล้วเดินไปเคาะประตูห้องพักของน้องชายทั้งสองคน

"ขับรถหรือเข็นรถมากันแน่ครับ?" ไจ่ไจ๋ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จหมาดๆเดินมาเปิดประตูพร้อมกับแกล้งเอ่ยถามพี่ชายทั้งคู่แบบติดตลกเพราะพี่ชายทั้งสองคนมาถึงช้ากว่าพวกเขาค่อนข้างนาน

"ไอ้พี่รองของนายน่ะสิไปยืนให้คนล้อมหน้าล้อมหลังขอลายเซ็นอยู่ได้ ไม่รู้จักเวล่ำเวลา!" พูดเสียงห้วนๆก่อนจะเดินไปนั่งที่เตียง ไจ่ไจ๋ทำหน้าเหวอๆที่พี่ใหญ่ยังอารมณ์เสียไม่เลิก

"ทิวทัศน์ข้างนอกดูดีนี่นา.....พี่ไปรับลมนอกระเบียงดีกว่า....." แวนเนสรีบหลบฉากออกไปก่อนทันทีเพราะกลัวจะโดนพี่ชายบ่นอีก

"ผมคิดถึงพี่ใหญ่จัง" ไจ่ไจ๋ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจเดินเข้าไปกอดพี่ชาย เจอร์รี่มีสายตาอ่อนลงก่อนจะกอดน้องตอบ

"พี่ก็คิดถึงนายเหมือนกัน ไหนดูซิไม่เจอกันเป็นอาทิตย์เปลี่ยนแปลงไปเยอะหรือเปล่า?" ว่าแล้วก็เชยคางน้องขึ้นมาสำรวจดู

"พี่ว่านายดูโทรมไปนะ" เจอร์รี่ว่าพร้อมกับจับหน้าน้องชายหันซ้ายหันขวา

"โทรมที่ไหนกันครับ? ผมว่าผมอ้วนขึ้นตั้งเยอะ วันๆกินแหลกเลย" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับหอมแก้มพี่ชายฟอดใหญ่

"พี่ใหญ่ต่างหากหละที่โทรม แอบทำงานจนดึกอีกหละสิ" พูดดักคอพี่ชายอย่างรู้ทัน

"ไม่ดึกมากซักหน่อย" เจอร์รี่แก้ตัวแล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เมื่อเห็นสายตาน้องชายมองอย่างจับผิด

"อย่ามาแก้ตัวเลย พอผมไม่อยู่ก็โหมงานหนัก แบบนี้โกรธซะดีมั๊ยเนี่ย?" ทำหน้าดุๆใส่พี่ชาย

"ไม่ดีหรอก.....อื้มๆๆๆๆ!!!....." พี่ใหญ่ตอบแล้วหอมแก้มน้องแรงๆเสียหลายทีด้วยความคิดถึง

"เอ๊ะ! แขนนายเป็นแผลหนิ" ว่าพร้อมจับแขนน้องขึ้นมาดูอย่างใส่ใจ

"ที่ผมหกล้มวันนั้นงัย" ไจ่ไจ๋บอกพี่ชาย

"นายมีแผลอยู่ไอ้พี่กลางยังให้ลงเล่นน้ำอีกแล้วแบบนี้ถ้าหากเชื้อโรคเข้าไปในแผลจนอักเสบหละจะทำงัย? ทำไมไม่รู้จักห่วงน้องบ้างนะ" เห็นเช่นนั้นแล้วเจอร์รี่ก็โวยวายจนพาลไปโทษเคนเอาดื้อๆ

"เอ่อ....พี่ใหญ่ครับ.....แผลนิดเดียวเองแล้วอีกอย่างมันก็ตกสะเก็ดแล้วด้วย ไม่เป็นไรหรอก" ไจ่ไจ๋รีบแย้งขึ้นมาทันที

"จะเล็กจะใหญ่ก็อันตรายทั้งนั้น พานายไปทำไมถึงไม่รู้จักดูแลให้ดี น้องชายคนเดียวแค่นี้ยังดูแลไม่ได้แล้วจะให้พี่ไว้ใจปล่อยให้นายไปไหนกับมันได้อีกหรืองัย? แย่จริงๆเลย...." ด้วยความเป็นห่วงน้องพี่ใหญ่จึงพูดโดยไม่ทันได้คิดจนไจ่ไจ๋ต้องเอามือปิดปากพี่ชายไว้

"อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่สิครับ พี่กลางดูแลผมอย่างดีทุกอย่างไม่ได้ปล่อยปะละเลยเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วไอ้ที่ผมหกล้มนี่ผมก็ซุ่มซ่ามเองด้วย" ไจ่ไจ๋แก้ตัวแทนเคน

"พี่ไม่สน! ดูแลดีแล้วทำไมถึงปล่อยให้นายหกล้มได้" พี่ใหญ่เถียง เมื่อเห็นว่าพี่ชายไม่เลิกราง่ายๆไจ่ไจ๋จึงรีบเปลี่ยนเรื่อง

"เจ้าพีพีกับถางถางเป็นงัยบ้างครับ? มันคิดถึงผมหรือเปล่า?" เจอร์รี่ได้ยินก็หัวเราะ

"เวลานายไม่อยู่บ้านจะมีใครบ้างไม่คิดถึง พี่เห็นมันวิ่งขึ้นไปร้องเหมียวๆหน้าห้องนอนของนายประจำเลย แต่พอเห็นไม่มีคนเปิดก็มาอ้อนพี่แทน" เจอร์รี่เล่าให้น้องฟังเริ่มรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นก่อนเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ระหว่างที่น้องไม่อยู่บ้านให้ฟัง ในขณะนั้นเคนเพิ่งอาบน้ำเสร็จจึงเปิดประตูออกมาเมื่อเห็นว่าพี่ใหญ่กับน้องเล็กคุยกันอยู่จึงเลี่ยงออกไปหาแวนเนสที่ระเบียง

"อาบน้ำเสร็จแล้วหรอ?" แวนเนสหันกลับมาถามน้องพร้อมกับยิ้มให้

"อืม" เคนพยักหน้ารับแล้วขยับเข้ามายืนข้างๆพี่ชาย

"เป็นงัยบ้าง? โห! โดนซะขนาดนี้เลยหรอเนี่ย" แวนเนสจับแขนน้องขึ้นมาดูพร้อมกับพูดอย่างตกใจเพราะแขนน้องชายเป็นรอยฝ่ามือแดงๆเต็มไปหมด

"นี่ยังถือว่ามันยังมีความเกรงใจกับสภาพแวดล้อมอยู่บ้างนะเนี่ย แล้วนายคิดดูว่ากลับบ้านไปชั้นจะโดนมันเฆี่ยนดุเดือดขนาดไหน?" เคนว่าพลางทำหน้าแบบบอกอารมณ์ไม่ถูก

"ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า! เจ้าไจ๋กลับมาสู่อ้อมอกมันแล้วคงสงบสติอารมณ์ได้พอสมควรหละ" แวนเนสพูดปลอบน้องชาย

"ภาวนาสาธุขอให้เป็นอย่างที่นายว่าเถอะ" เคนต่อคำพี่ชายอย่างปลงๆ ก่อนจะเงียบไปพักหนึ่งแล้วจึงเอ่ยถามพี่ชาย

"นึกยังงัยมาเที่ยวกันที่นี่?" เคนตั้งคำถามกับแวนเนส

"ชั้นก็ไม่รู้เจอร์รี่มันเหมือนกัน คือมันสัญญาว่าจะพาชั้นเที่ยวแล้วก็พามาที่นี่ ถ้ารู้อย่างนี้ชั้นน่าจะโทรหานายก่อน นายจะได้เตรียมตัวทัน" แวนเนสพูดกับน้องยิ้มๆ

"บทจะซวยอะไรก็ฉุดไม่อยู่จริงๆ ทะเลตั้งเยอะแยะไม่ไปดันเลือกมาที่นี่ แถมที่นี่มีชายหาดยาวไปจนสุดทางด้านโน้นก็ไม่ไปดันมาตรงนี้ซะนี่ เห็นความซวยของชั้นหรือยัง?" เคนพูดให้พี่ชายฟังแบบติดตลก

"หึๆๆๆ ก็จริงของนาย แต่จะว่าไปชั้นดีใจนะที่เจอนายที่นี่ ชั้นคิดถึงนายกับน้องจะแย่อยู่แล้ว" พูดจบก็เอามือโอบไหล่น้องชายแล้วเขย่าเบาๆ

"ตอนแรกชั้นตั้งใจจะค้างที่นี่ซักสองคืนนะเนี่ย แต่พอเป็นแบบนี้แล้วคงต้องอพยพกลับแหงๆ" เคนบอกความตั้งใจของตัวเองให้พี่ชายฟัง

"หึๆๆๆ....เออนี่.....ว่าแต่นายคงไม่ได้ไปก่อเรื่องอะไรไว้แล้วหนีมาหรอกใช่มั๊ย?" แวนเนสแกล้งถามน้องชายบ้างแต่คำถามนั้นทำเอาเคนสะดุ้ง

"ชั้น.....ชั้น....เปล่านะ" ปฏิเสธแบบตะกุกตะกัก จากที่แวนเนสไม่ได้คิดอะไรจนเมื่อเห็นท่าทางของน้องแล้วเกิดนึกสงสัยขึ้นมา

"แน่ใจ?" แวนเนสถามย้ำพร้อมกับสังเกตน้องชายไปด้วย

"แน่ดิวะ! นายเป็นอะไรน่ะฮึ? อยู่กับเจอร์รี่มากไปหละสิถึงได้ติดนิสัยชอบจับผิดคนอื่นมาน่ะ" เคนแกล้งโวยวายกลบเกลื่อน อันที่จริงแล้วเขาเองก็อยากบอกแวนเนส แต่ก็รู้ดีว่าพี่ชายคนนี้ชอบหลุดปากพูดอะไรออกไปโดยไม่ระวังจึงตัดสินใจไม่บอกดีกว่า

"ชั้นน่ะเป็นพี่นายไม่จำเป็นต้องจำผิดหรอกเพราะถ้านายมีอะไรผิดปกติไปชั้นก็สังเกตเห็นอยู่แล้ว คราวนี้จะบอกมาดีๆได้หรือยัง?" เมื่อเห็นท่าทางกลบเกลื่อนของน้องแล้วแวนเสก็ยิ่งมั่นใจว่าคงมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับน้องเป็นแน่

"ก็บอกว่าไม่มีงัยเล่า! แค่เจอร์รี่มันจับผิดชั้นคนเดียวก็สยองเกินพอแล้วนายไม่ต้องไปร่วมด้วยช่วยกันกับมันหรอก" เคนต่อว่าพี่ชายแต่มีสีหน้าเลิ่กลั่กอย่างมีพิรุธ

"ไม่บอกก็ตามใจ แต่นายอย่าลืมนะว่าชั้นกับพ่อของกลอเรียก็สนิทกันพอควร ถ้าชั้นอยากรู้ว่านายไปก่อเรื่องอะไรไว้หรือเปล่าโทรถามเขาก็น่าจะรู้" แวนเนสพูดอย่างผู้ที่เหนือกว่า เคนหันควับมามองพี่ชาย

"อยากโทรก็โทรสิ! ชั้นไม่ได้ทำอะไรไม่เห็นต้องกลัวเลย" พูดเสียงห้วนๆแล้วจับมือพี่ชายที่กอดคอเขาอยู่ออกทันที

"จะให้โอกาสอีกครั้งถ้าบอกกับชั้นตอนนี้ชั้นจะช่วยนายปิดบังเจอร์รี่ แต่ถ้าต้องให้ชั้นโทรไปสอบถามเรื่องราวทั้งหมดจากหัวหน้าของนายแล้วหละก็.....นอกจากเจอร์รี่มันจะตีนายจนน่วมแล้วชั้นยังจะช่วยซ้ำด้วยอีกคน" แวนเนสเล่นบทโหดกับน้อง ทำเอาเคนถึงกับพูดอะไรไม่ออก

"ว่างัย?" แวนเนสคาดคั้นเอาคำตอบจากน้อง เคนทำท่าลังเลใจนึงก็อยากบอกพี่ชายตรงๆแต่อีกใจนึงก็กลัวแวนเนสจะเก็บความลับไม่อยู่

"ชั้น....เอ่อ....." เคนมีท่าทีอึกอักแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อไจ่ไจ๋ก็เปิดประตูระเบียงออกมาช่วยชีวิตเขาได้ทัน

"คุยอะไรกันอยู่ครับ? ทำไมไม่เข้าไปข้างในกันหละ?" เคนรีบหันไปแล้วกอดคอน้องชายทันที

"กำลังจะเข้าไปพอดีเลย เดี๋ยวเราต้องลงไปเช็คเอ้าท์ก่อนเที่ยงด้วย เก็บข้าวของครบหมดหรือยัง?" เคนรีบหันมาเริ่มบทสนทนากับน้องชาย ทำให้แวนเนสถึงกับถอนใจเบาๆกับการเอาตัวรอดของน้อง

"ไม่มีของอะไรต้องเก็บนี่ครับ" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วเดินเข้าไปกอดแวนเนส

"เจอหน้ายังไม่ได้กอดพี่รองเลย คิดถึงม๊ากกก.....มากกกก....." แวนเนสอดที่จะยิ้มด้วยความเอ็นดูน้องชายคนนี้ไม่ได้

"พี่ก็โครตจะคิดถึงนายเลย ดีใจที่นายจะกลับบ้านซักทีไม่งั้นบ้านเรามันเงียบเหงายังงัยก็ไม่รู้" แวนเนสว่าแล้วก็กอดน้องชายแน่นๆ เคนยืนดูสองพี่น้องพร้อมกับรอยยิ้ม

"เข้าไปข้างในเถอะครับ แดดเริ่มไล่มาแล้ว" ไจ่ไจ๋ตัดบทแล้วชวนพี่ชายทั้งสองคนเข้าไปในห้องพัก

"พี่ใหญ่น่ะพอได้ตากแอร์ซักพักก็เริ่มอารมณ์ดีขึ้นแล้ว" คล้ายจะบอกเคนกลายๆ

"เป็นงั้นจริงก็ดีสิ" เคนพึมพำเบาๆแล้วเดินตามพี่น้องเข้าไปแต่ทันทีที่ก้าวขาเข้ามาเสียงพี่ใหญ่ก็ดังขึ้น

"เสี้ยวเทียน! มานี่ซิ!" เคนถึงกับชะงักมองหน้าพี่ใหญ่ก่อนจะมองไปทางพี่น้องอีกสองคน

"อะไรนักหนาวะ! เจอหน้ามันปุ๊บก็จะด่ามันยันเลย น้องมันหูอื้อหมดแล้ว" แวนเนสจึงต้องออกหน้าช่วย

"ชั้นไม่ได้ด่านาย เดือดร้อนอะไรด้วย" เจอร์รี่เปลี่ยนสายตาไปยังน้องชายอีกคน

"เดือดร้อนดิวะ! นายด่ามันแต่ชั้นก็ได้ยินนี่หว่า เจอน้องแทนที่จะดีใจกลับเอาแต่บ่นแต่ด่ามันอยู่ได้ ชั้นเซ็งจะตายอยู่แล้ว!" เจอร์รี่ได้ยินก็ถึงกับเถียงไม่ออก

"ถ้าอยากจะด่านายก็อย่าเลือกปฏิบัติ น้องมันไปไหนมาไหนด้วยกันมันทำอะไรกันมามีอย่างหรอที่อีกคนจะไม่รู้ไม่เห็นแต่นายกลับโยนความผิดให้เสี้ยวเทียนมันโต้งๆเห็นหน้าปุ๊บก็จับมันฟาดทันที ส่วนไจ่ไจ๋กลับกอดรัดฟัดเหวี่ยงพร่ำบอกคิดถึงนักหนาแบบนั้นน่ะชั้นเห็นแล้วเหลืออดจริงๆโว้ย!" ตวัดเสียงใส่พี่ชายอย่างรำคาญ

"นี่นายอยากจะมีเรื่องกับชั้นใช่มั๊ย?" พี่ใหญ่ชี้หน้าน้องชายอย่างขุ่นเคือง

"พี่ครับ! ผมว่าเราเช็คเอ้าท์แล้วกลับบ้านกันดีกว่ามั๊ย? อย่าเพิ่งเถียงกันเลย.....นะๆๆๆๆ....ผมขอร้องพี่ทุกคนเลย" น้องเล็กรีบห้ามทัพขึ้นมาก่อนที่จะเกิดเรื่องราวอะไรขึ้นมาอีก

"นั่นสิ นี่ก็จวนเที่ยงแล้วต้องเช็คเอ้าท์แล้วหละ" เคนก็พูดไกล่เกลี่ยขึ้นมากลายๆ พี่ใหญ่เลยได้แต่ถอนใจ

"งั้นก็หยิบข้าวของแล้วเอาลงไปใส่ไว้หลังรถ" พูดจบก็มองไปทางแวนเนส

"เซ็งชะมัด! มาถึงยังไม่ทันได้ทำอะไรก็ต้องกลับบ้านอีกแล้ว! รู้งี้ไม่ต้องมาแต่แรกดีกว่า" แวนเนสบ่นดังๆให้พี่ชายได้ยินก่อนที่จะเดินดุ่มๆลงไปที่รถอย่างหงุดหงิด

"พี่ใหญ่ครับ แวะเที่ยวซักหน่อยดีมั๊ย? สงสารพี่รองเขา" ไจ่ไจ๋หันไปพูดกับพี่ใหญ่

"เฮ่อ! น่าเบื่อจริงๆ!" ว่าแล้วพี่ใหญ่ก็เดินตามแวนเนสออกไปอีกคน เหลือแต่เคนกับไจ่ไจ๋ที่ได้แต่ยักไหล่ให้กัน




 

Create Date : 30 ธันวาคม 2550    
Last Update : 30 ธันวาคม 2550 21:35:34 น.
Counter : 1457 Pageviews.  

Chapter 47

ตอนที่ 47

"ไจ่ไจ๋! พรุ่งนี้ช่วงบ่ายเรือจะเทียบท่าอีกครั้ง พี่ว่าเราลงจากเรือไปเที่ยวกันดีกว่าเสร็จแล้วก็กลับบ้านกันเอง" เคนเสนอความคิดขึ้นมาหลังจากที่พวกเขาเที่ยวเล่นทุกอย่างบนเรือสำราญจนครบหมดแล้ว

"ผมว่าแบบนี้ไม่ดีนะ แล้วถ้าพี่ใหญ่ยืนยันว่าจะมารับหละครับ?" ไจ่ไจ๋แย้งความคิดของเคนขึ้นหลังจากที่ฟังจบแล้ว

"ไม่หรอก เดี๋ยวพี่บอกมันเอง เพราะไหนๆพี่เองก็ว่างอยู่แล้วแถมเรายังมีเวลาว่างกันอีกตั้งสองวัน หรือว่านายไม่อยากไปเที่ยวกับพี่?" เคนว่าพร้อมกับย้อนถามน้อง

"อยากสิครับ แต่ถ้าเรื่องที่พี่ถูกพักงานรู้ไปถึงหูพี่ใหญ่แล้วมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมานะ" แม้จะอยากไปแต่ไจ่ไจ๋ก็ยังห่วงพี่ชายอยู่

"เรื่องนั้นน่ะช่างมันก่อนเถอะ" เคนบอกปัดอย่างไม่สนใจนัก

"พี่อยากเที่ยวทะเล เราลงเรือแล้วไปหาเช่าโรงแรมนอนซักสองคืนแล้วค่อยหารถกลับบ้าน เอาแบบว่าเหมือนกลับไปเซอร์ไพรส์พี่ใหญ่พี่รองงัย" เคนให้เหตุผลกับน้องอีก

"งั้นก็ตามใจพี่กลางเถอะ ผมน่ะยังงัยก็ได้เพราะเที่ยวฟรีอยู่แล้ว" เมื่อเห็นว่าพี่ชายอยากเที่ยวไจ่ไจ๋จึงไม่โต้แย้งอีกแม้ในใจจะกลัวพี่ชายคนโตสงสัยก็ตาม

"ฮึ! สบายจริงๆเลยเชียว" เคนพูดกระแนะกระแหนน้อง

"เออพี่.....แล้วถ้าหากพี่ใหญ่โทรมาตอนเราไม่อยู่บนเรือแล้วหละจะทำยังงัย?" ไจ่ไจ๋ไม่วายกังวลต่อไปอีก

"ไจ่ไจ๋เอ้ยไจ่ไจ๋......" เคนว่าพลางจับหัวน้องชายโยกไปมาอย่างระอา

"โทรศัพท์มือถือของพี่ใหญ่น่ะมันมีเรด้าติดอยู่ด้วยหรืองัยพี่เขาถึงรู้ความเคลื่อนไหวของนายทุกฝีก้าวน่ะ" น้องเล็กได้ยินเช่นนั้นก็เพิ่งคิดได้จึงยิ้มแหยๆให้พี่ชาย

"ทำไมถึงซื่อบื้อแบบนี้วะ? พี่ก็ออกจะฉลาดเชื้อมันไม่ได้ตกทอดไปถึงนายบ้างหรืองัย?" เคนต่อว่าน้องชายออกมาอีก

"หูยยยย.....ฉลาดตายหละ.....อยากรู้จังเวลากลับบ้านเจอหน้าพี่ใหญ่พี่กลางจะทำหน้าระรื่นแบบนี้ได้อีกหรือเปล่า?" ไจ่ไจ๋หมั่นไส้เลยพูดจาเหน็บแนมพี่ชายเข้าให้บ้าง เคนได้ยินก็ตวัดสายตาใส่น้อง

"นั่นมันก็อีกเรื่องนึง! อนาคตเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถหยั่งรู้ได้ฉะนั้นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกังวลไปก่อน" เคนเถียงเจ้าน้องชายตัวแสบเสียงแข็ง

"แล้วใครน้า.....เวลานอนต้องเอามือก่ายหน้าผากแถมต้องพลิกตัวกลับไปกลับมาหลายตลบเพราะนอนไม่หลับเนื่องจากกังวลเรื่องอะไรซักอย่างน่ะ" น้องเล็กพูดขึ้นมาอย่างรู้ทันพี่ชาย

"เฮ้ย! พี่ไม่ได้กลัวพี่ใหญ่ซักหน่อย พี่แค่นอนคำนวณค่าใช้จ่ายในเวลาหนึ่งเดือนที่ไม่ได้รับเงินเดือนต่างหาก" เคนเถียงข้างๆคูๆเมื่อน้องชายรู้ทัน

"อ้อ.....อย่างนั้นเองน่ะหรอ?" ไจ่ไจ๋ทำหน้าล้อเลียนพี่ชาย เคนเลยผลักหัวน้องด้วยความหมั่นไส้

"พี่กลาง ค่าใช้จ่ายของพี่เดือนหน้านี้ให้ผมช่วยนะ" หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งไจ่ไจ๋ก็พูดด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงานขึ้นเพราะเขาเองก็มีส่วนต้องรับผิดชอบกับการที่พี่ชายถูกพักงานเช่นกัน

"ไม่ต้องหรอก พี่ไม่ถังแตกขนาดนั้น เงินเก็บพี่น่ะมีตั้งเยอะเชียวนะ" เคนรีบปฏิเสธทันที

"แต่นั่นมันเป็นเงินเก็บพี่เผื่อพี่ต้องการใช้อะไรฉุกเฉิน" น้องเล็กแย้งขึ้นมาอีก คำพูดของน้องทำเอาเคนหลุดหัวเราะออกมาจนได้

"ไอ้บ้า! เดือนนึงพี่ใช้เงินไม่กี่ตังค์เอง นายคิดว่าพี่จะถอนเงินหมดบัญชีเพื่อมาใช้ภายในเดือนเดียวหรอ?" เคนย้อนถามพลางหัวเราะไปด้วย

"ก็.....เอ่อ.....นั่นสินะ....." น้องเล็กตั้งท่าจะเถียงแต่พอคิดๆไปแล้วก็จริงอย่างที่พี่ชายพูด

"แต่ถึงพี่ไม่มียังงัยพี่ก็ไม่รบกวนนายหรอก ไถ่พี่ใหญ่นิดไถ่พี่รองหน่อยเดี๋ยวพี่ก็มีพอกินไปทั้งเดือนแล้ว" เคนพูดต่อยิ้มๆ

"ทำไมพี่กลางถึงไม่อยากให้ผมช่วยหละครับ?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายอย่างไม่เข้าใจเพราะพี่ชายไม่เคยเอ่ยปากขอให้เขาช่วยเหลือเรื่องการเงินเลยซักครั้ง

"เพราะมันยังไม่ถึงเวลาน่ะสิ ไจ่ไจ๋.....ตอนนี้นายยังเรียนอยู่ยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเองพี่ถึงไม่ต้องการความช่วยเหลือจากนายในเรื่องนี้ แต่เมื่อไหร่เมื่อนายเรียนจบมีงานทำแล้วเมื่อนั้นหละถ้านายอยากจะเลี้ยงข้าวพี่หรือพาพี่ไปเที่ยวพี่จะไม่ปฏิเสธนายเลย" ไจ่ไจ๋ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกเข้าใจเหตุผลของพี่ชายอย่างง่ายดาย

"พี่กลาง.....ผมสัญญาว่าเมื่อไหร่ที่ผมทำงานมีเงินเดือนเป็นของตัวเองผมจะเป็นคนพาพี่ไปเที่ยวเอง จะพาไปทุกที่ที่พี่อยากไปเลยด้วย" เคนได้ยินก็ยิ้มอย่างปลื้มใจกับเจ้าน้องชายคนเดียวของเขา

"พูดแล้วห้ามลืมนะ เพราะพี่จะให้นายพาพี่เที่ยวรอบโลกเลย" เคนพูดกระเซ้าน้องชายต่อ

"ได้แน่นอน ถ้าผมเรียนจบเมื่อไหร่ผมจะรีบหางานทำแล้วตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงิน พอผมได้เงินก้อนหนึ่งผมจะพาพ่อแม่แล้วก็พวกพี่สามคนไปเที่ยว" ไจ่ไจ๋ให้คำมั่นกับพี่ชายเสียงหนักแน่น

"พี่ภูมิใจในตัวนายมากเลยนะไจ่ไจ๋ แม้ว่าน้องพี่คนนี้จะซื่อไปนิดหรือจะบื้อไปหน่อยแต่พี่ก็ภูมิใจที่นายไม่เคยลืมครอบครัว" เคนเอ่ยชมแล้ววาดแขนออกไปโอบไหล่น้องชาย

"ผมก็ภูมิใจที่มีพี่ชายที่แสนดีอย่างพี่กลาง ถึงแม้พี่ชายผมคนนี้จะดื้อไปบ้างจะชอบโวยวายไปหน่อยแต่ผมก็ภูมิใจที่พี่ไม่เคยทอดทิ้งผม" ไจ่ไจ๋เอาคำพี่ชายพูดย้อน

"เดี๋ยวเถอะ! ปากเก่งนักนะเรา" เคนแกล้งดุน้องแต่สีหน้ากลับยิ้มแย้ม

"นอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราก็จะได้เที่ยวกันแล้ว" แล้วเคนก็พูดตัดบทเมื่อเห็นว่าน้องอ้าปากหาวตาเริ่มปรือแล้ว

"อืม....." ไจ่ไจ๋พยักหน้าแล้วเอนตัวลงนอนที่เตียงอย่างว่าง่าย ซึ่งเคนเองก็นอนลงข้างน้องเขาเฝ้ามองดูเจ้าน้องชายของเขาจนกระทั่งน้องหลับสนิทแล้วจึงค่อยกลับห้องพักของตัวเองเพื่อพักผ่อนบ้าง



- วันต่อมา -

"ลมพัดเย็นสบายจังเลย ว่าแต่เราจะไปพักที่ไหนกันดีหละครับ?" ไจ่ไจ๋เอ่ยถามพี่ชายขึ้นมาหลังจากที่ทั้งคู่เดินหอบสัมภาระทั้งหมดเดินเลาะตามชายหาดไปเรื่อยๆ

"ตรงข้างหน้านั้นที่พักเยอะเลย เราเลือกแบบแค่พออยู่ได้ก็พอแล้วหละ ประหยัดเงินดี" เคนตอบน้องชายแล้วชวนน้องเดินต่อ

"ความจริงไม่ต้องเช่าโรงแรมก็ได้ เรานอนริมหาดนี้ก็ท่าจะดีนะ" ไจ่ไจ๋ให้ความเห็นกับพี่ชาย

"จะบ้าหรืองัย! เดี๋ยวนอนดิ้นตกทะเลจะตายไม่รู้ตัวนะ แล้วน้ำท่าน่ะไม่ต้องอาบหรืองัยไอ้เซ่อ?" เคนรีบแย้งความเห็นนั้นโดยพลัน

"แหม.....ใครจะนอนดิ้นลงน้ำได้หละ แต่เอาเถอะนอนโรงแรมก็ดีเหมือนกันยุงจะได้ไม่กัด" น้องเล็กเถียงแต่ก็คิดว่านอนโรงแรมท่าจะดีกว่า

"เดี๋ยวหาโรงแรมได้แล้วเราออกมาเล่นน้ำกัน เล่นซักพักแล้วกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วไปหาอาหารทะเลกินกัน ดีมั๊ย?" เคนถามความเห็นน้องชาย

"ดีครับ!" ไจ่ไจ๋ตอบรับพร้อมกับรอยยิ้มรู้สึกมีความสุขที่จะได้เที่ยวเล่นแบบจริงๆจังๆเสียที และแล้วสองพี่น้องก็มาเจอโรงแรมหนึ่งที่ถูกใจจึงตัดสินใจเข้าพักที่นี่

"เปิดห้องพักหนึ่งห้องครับ" เคนเดินไปจัดการเปิดห้องพัก จากนั้นเจ้าหน้าที่ของโรงแรมก็พาสองพี่น้องขึ้นมาที่ห้อง

"บรรยากาศดีจัง มองเห็นทะเลด้วย" ไจ่ไจ๋เปิดผ้าม่านแล้วชี้ทิวทัศน์ข้างนอกให้พี่ชายดู

"อืม.....บรรยากาศดีราคาก็ไม่แพง แบบนี้วันหลังชวนพวกพี่ๆเขามาเที่ยวแถวนี้ก็ดีนะ" เคนตอบรับแล้วเดินมายืนข้างน้องชาย ไจ่ไจ๋เหลือบมองพี่ชายแล้วยิ้ม

"นั่นสิ แต่ถ้าพี่ใหญ่กับพี่รองมาด้วยต้องเปิดห้องใหญ่เลยเราจะได้นอนด้วยกันทั้งสี่คน" เคนยิ้มตอบน้องแล้วเดินกลับมานั่งลงบนเตียง

"อยากออกไปเล่นน้ำหรือยัง? หรือว่าจะหาอาหารว่างรองท้องก่อน?" เคนถามความต้องการของน้องชาย

"อย่างหลังท่าจะดีกว่า" น้องเล็กตอบพร้อมกับยิ้มเขินๆ เคนจึงหัวเราะออกมาอย่างขำๆ

"ได้! ไป.....เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงไปหาอะไรรองท้องเสร็จแล้วเราไปเล่นน้ำกัน" พูดจบสองคนพี่น้องก็รีบเปลี่ยนชุดสำหรับจะไปลงเล่นน้ำทะเล

"เอากระเป๋าเงินใส่ในถุงพลาสติกด้วยนะพี่กลาง" ไจ่ไจ๋เอ่ยเตือนเมื่อเห็นพี่ชายสอดกระเป๋าเงินลงในกระเป๋ากางเกง

"เออใช่! ขอบใจนะที่เตือน" เคนว่าพร้อมกับตบไหล่น้องเบาๆแล้วเดินไปหาถุงพลาสติกกับหนังยางติดตัวไปด้วย

"จะกินอะไร?" หลังจากมานั่งในห้องอาหารของโรงแรมแล้วเคนก็ถามน้องชาย

"เอาแซนวิสทูน่ากับน้ำสับปะรดก็แล้วกัน" ไจ่ไจ๋ตอบ ได้ยินดังนั้นเคนจึงหันไปสั่งของที่น้องต้องการให้และสั่งในส่วนของตัวเองด้วย

"นายดูออกมั๊ยว่าฝั่งตรงข้ามโน้นน่ะเป็นแถบทะเลที่อยู่แถวบ้านอาเจียง" เคนชี้นิ้วไปทางทิวทัศน์ด้านนอกพร้อมกับถามน้องชาย

"จริงหรอ? พี่กลางรู้ได้ยังงัย? ผมดูไม่ออกเลย เพราะดูแล้วมันก็เหมือนๆกันทุกที่" ไจ่ไจ๋หันไปดูก่อนจะหันกลับมาทำหน้ายุ่งกับพี่ชาย

"หึๆๆๆ พี่ก็ดูจากแผนที่น่ะสิ แถมพี่น่ะทำงานบนเรือมาเป็นปีแล้วก็เลยพอรู้ทิศทางการเดินเรือว่าจะไปที่ไหนบ้าง" เคนตอบน้องยิ้มๆ

"งั้นถ้าเรานั่งเรือจากตรงนี้ไปก็ไปบ้านอาเจียงได้น่ะสิ" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายต่อ เคนได้ยินรอยยิ้มก็ค่อยๆจางลงเพราะเริ่มคิดถึงบ้านนั้นขึ้นมา

"ก็ไปได้ แต่ก็ไกลพอสมควรเลย" ไจ่ไจ๋เห็นสีหน้าของพี่ชายสลดลงก็พอจะรู้ความรู้สึกของพี่ชาย

"พี่กลางครับ ตอนนี้ยังไม่มีคนติดต่อขอซื้อบ้านพี่ยังกลับใจทันนะ" ไจ่ไจ๋เอ่ยขึ้นโดยไม่รู้แผนการของพ่อแม่เพราะพี่ใหญ่ไม่เคยบอกให้เขารู้

"ไม่หรอก ขายไปนั่นแหละดีแล้ว พี่จะได้ทำบุญให้อาเจียงด้วย" เคนตอบแล้วยิ้มบางๆให้น้องชาย

"ไม่น่าขายเลย น่าจะเก็บไว้เป็นบ้านพักเวลาที่พวกเราอยากไปเที่ยวก็ได้" ไจ่ไจ๋ยังคงรู้สึกเสียดายแทนพี่ชายอยู่

"โธ่! ถ้านายอยากได้บ้านพักตากอากาศเดี๋ยวพอถึงวันเกิดก็อ้อนพ่อแม่กับพี่ใหญ่พี่รองหน่อยสิ ไม่วายเขาจะรีบหามาให้" เคนพูดแบบติดตลก

"หูยยย.....ของมีค่าขนาดนั้นผมไม่กล้าขอหรอกครับ" ไจ่ไจ๋ส่ายหน้าปฏิเสธทันที ในขณะนั้นอาหารที่พวกเขาสั่งก็มาเสริฟให้

"ขอบคุณครับ" ไจ่ไจ๋เอ่ยขอบคุณแล้วยกจานมาไว้ตรงหน้าตัวเอง

"หอมมากเลยพี่กลาง" บอกพี่ชายด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเหมือนเด็กๆได้ขนม

"งั้นก็รีบกินซะสิ" เคนว่าแล้วเร่งให้น้องรีบกิน ใช้เวลาเพียงไม่นานของว่างที่สั่งมาก็หมดลงไปอย่างรวดเร็ว สองพี่น้องจึงชวนกันไปเล่นน้ำทะเล

"อย่าไปไกลนะ" เคนไม่วายเตือนน้องด้วยความเป็นห่วงทั้งๆที่รู้ดีว่าน้องก็ว่ายน้ำออกจะเก่ง

"รู้แล้วครับ" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็ดำผุดดำว่ายอย่างสนุกสนาน ส่วนเคนก็คอยจับตาดูน้องอยู่ไม่ห่างจึงทำให้ไม่ค่อยได้ว่ายน้ำซักเท่าไหร่เพียงแต่เดินตามไปอยู่ใกล้ๆน้องชายเท่านั้น

"ไม่ว่ายน้ำหรอพี่กลาง? เดินตามอยู่ได้" ไจ่ไจ๋โผล่หน้าขึ้นมาจากน้ำแล้วก็ถามพี่ชายอย่างสงสัย

"ไม่หละ" เคนปฏิเสธ ได้ยินดังนั้นน้องเล็กจึงทำหน้าเจ้าเล่ห์แล้วรีบว่ายน้ำหนีพี่ชาย

"เฮ้ยไจ่ไจ๋!!!" เคนตะโกนเรียกน้องแล้วรีบว่ายน้ำตามไปด้วย ไจ่ไจ๋เห็นพี่ชายว่ายน้ำตามมาก็รีบเร่งให้เร็วขึ้นอีก จนเมื่อว่ายตามมาทันเคนก็ดึงตัวน้องชายไว้

"ทำไมพี่เรียกแล้วไม่หยุด" เคนดุพร้อมกับบิดหูน้องชายไปด้วย

"โอ้ยๆๆๆๆ......ขอโทษครับพี่กลาง....." ไจ่ไจ๋ส่งเสียงร้องพลางขอโทษขอโพยพี่ชาย

"หูย! ก็พี่อ่ะเอาแต่เดินตามผม ว่ายน้ำก็ไม่ว่ายผมก็เลยอยากให้พี่ได้ว่ายน้ำออกกำลังมั่งสิ" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับทำหน้ามุ่ยเล็กน้อย

"ไม่ต้องยุ่งกับพี่นักเลย! ชอบทำให้พี่ใจหายใจคว่ำอยู่เรื่อย ถ้านายเป็นอะไรไปแม้แต่นิดเดียวพี่เตรียมหาที่อยู่ใหม่ได้เลย" เคนเอ็ดใส่น้องแล้ววักน้ำสาดใส่ด้วยความหมั่นไส้

"แหมๆๆๆ พี่ใหญ่ไม่โหดขนาดนั้นหรอก แล้วอีกอย่างผมน่ะอึดกว่าที่พี่คิดอีกนะ ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับหยิกแก้มพี่ชายทั้งสองข้างไปด้วย

"ว่ายน้ำแข่งกันขึ้นฝั่ง ไปก่อปราสาททรายกัน" ไจ่ไจ๋เสนอ เคนได้ยินก็หัวเราะ

"ไอ้บ้าเอ้ย.....อายุเท่าไหร่แล้วจะมานั่งก่อปราสาททราย" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ค้อนใส่

"ทำไมหละ? โตแล้วก่อปราสาททรายไม่ได้หรอ? ผมเห็นคู่รักเขายังนั่งปั้นกองทรายกันกระหนุงกระหนิงเลย" ไจ่ไจ๋เถียงพี่ชายกลับ

"เฮ้ย! งั้นพี่ขอบายว่ะ กลัวใครจะมาหาว่าพี่เป็นแฟนกับนายอีก" เคนพูดเป็นเชิงแซวน้องชาย น้องเล็กได้ยินก็ทำหน้าแหยๆ

"พี่กลางอ่ะ! อุตส่าห์ลืมๆไปแล้วเชียวดันพูดขึ้นมาอีก" เคนหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดีที่แหย่น้องได้

"เอางี้ดีกว่า ในเมื่อนายอยากให้พี่ว่ายน้ำงั้นก็ได้ แต่แข่งกันสองรอบไปกลับ ว่ายเข้าหาฝั่งแล้วว่ายกลับมาแถวๆนี้เอาธงที่ปักตรงนั้นเป็นแนวกั้นโอเคมั๊ย?" เคนพูดท้าน้องชาย ไจ่ไจ๋มองระยะทางก่อนที่จะพยักหน้ารับคำท้านั้น

"แต่ว่า.....ถ้าเหนื่อยหรือเป็นตะคริวต้องหยุดทันทีแล้วเรียกพี่ดังๆเลยนะ ห้ามฝืนว่ายต่อไป" ตั้งข้อแม้เพิ่มอีกเพราะรู้ว่าเวลาแข่งอะไรกันแล้วน้องชอบทุ่มสุดตัวเพื่อที่จะเอาชนะ

"ครับ" ไจ่ไจ๋รับปากอย่างหนักแน่นแล้วขยับเข้ามายืนข้างๆเคน

"เอาหละนะ หนึ่ง....สอง.....สาม!" สิ้นการนับของเคนสองพี่น้องก็ว่ายน้ำเข้าหาฝั่งกันอย่างรวดเร็ว ในตอนแรกเคนปล่อยให้น้องนำไปก่อนเมื่อเเห็นว่าน้องไปได้ครึ่งทางและบริเวณนั้นพอมีคนเล่นอยู่บ้างซึ่งน่าจะปลอดภัยสำหรับน้องแล้วเขาจึงออกแรงว่ายตามจนทัน

"เฮ้ย! มาได้งัยเนี่ย!" เมื่อว่ายมาถึงบริเวณน้ำตื้นจนไม่สามารถว่ายต่อไปได้แล้วไจ่ไจ๋จึงยืนขึ้นแต่พอเห็นพี่ชายยืนยิ้มพลางยักคิ้วให้เขาอยู่ข้างๆก็อุทานอย่างแปลกใจ

"ทำไมมาเร็วจัง เมื่อกี้ยังห่างกันตั้งเยอะ" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายอย่างทึ่งๆ

"ไม่รู้หรอว่าพี่น่ะเกาะหลังปลาโลมามา" เคนแกล้งพูดแบบติดตลก

"บ้าเปล่า! ปลาโลมาที่ไหนจะพาพยูนมาเกยตื้นได้ ฮ่าๆๆๆๆ!!!" พูดจบไจ่ไจ๋ก็หัวเราะชอบใจที่ได้แขวะพี่ชาย

"ไอ้ตัวดี!" เคนผลักหัวน้องชายแล้วใช้ช่วงที่น้องเผลอเตรียมพร้อมที่จะว่ายกลับออกไปอีก

"การแข่งขันยังไม่จบนะต้องว่ายกลับไปอีก พี่ไปหละนะ" พูดจบเคนก็ว่ายน้ำออกไปทันที

"อ้าวเฮ้ย! ขี้โกงนี่นา" ไจ่ไจ๋โวยวายแล้วรีบว่ายน้ำตามพี่ชายไป แม้เคนจะว่ายน้ำห่างออกไปแล้วแต่ก็ยังเหลียวมามองน้องชายเรื่อยๆแต่ไม่ใช่เพราะเขากลัวน้องจะตามมาทันแล้วเขาจะแพ้แต่เขามองเพราะห่วงความปลอดภัยของน้อง

"โอ้ย.....เหนื่อย....." เมื่อเห็นว่าตัวเองตามพี่ชายไม่ทันแน่แล้วไจ่ไจ๋จึงหยุดว่ายแล้วมองตามพี่ชายอย่างเคืองๆก่อนที่จะตัดสินใจไม่ตามไปแต่ดำน้ำเล่นอยู่แถวๆนั้น

"อ้าว! หายไปไหนของมัน" เมื่อเคนว่ายมาถึงจุดหมายแล้วเขาก็เหลียวกลับไปมองหาน้อง

"เอ....เมื่อกี้ก็ตามมาอยู่นี่นา....." เคนพำพึมกับตัวเองแล้วกวาดสายตามองหน้าน้องจนทั่วแต่ก็ไม่เจอ คราวนี้เคนเริ่มใจเสียเพราะกลัวว่าน้องจะเป็นตะคริวแล้วจมน้ำ เขาไม่รอช้ารีบว่ายน้ำกลับไปบริเวณที่เห็นน้องว่ายอยู่ครั้งสุดท้ายแต่เขาก็ยังหาน้องไม่เจออยู่ดี

"ไจ่ไจ๋!!!! ไจ่ไจ๋!!! นายอยู่ไหน!!???" เคนตะโกนเรียกน้อง ไจ่ไจ๋ที่ดำน้ำเล่นอยู่ไม่ไกลจากพี่ชายนักโผล่หัวขึ้นมาพอเห็นพี่ชายก็นึกอยากแกล้งจึงดำน้ำลงไปแล้วเอามือจับขาพี่ชาย

"เฮ้ย!!!!!" เคนร้องอุทานอย่างตกใจแต่พอตั้งสติได้เขาก็พอจะรู้ว่าต้องเป็นฝีมือเจ้าน้องชายตัวดีแน่ๆ

"ไจ่ไจ๋!!! ถ้าไม่โผล่หัวขึ้นมาให้เห็นตอนนี้หละก็เราไม่ต้องมาพูดกันอีก!!" เสียงประกาศของเคนทำเอาไจ่ไจ๋ที่หลบอยู่ด้านหลังพี่ชายถึงกับสะดุ้ง

"ทำไมใจร้ายแบบนี้หละ?" ไจ่ไจ๋ว่ายน้ำไปขี่หลังพี่ชายพร้อมกับทำเสียงประจบ

"สนุกมากมั๊ย?" เคนดึงมือน้องออกแล้วหันมาจ้องหน้าน้องชายตาเขม็ง

"ผมขอโทษ ก็ผมเห็นว่าผมว่ายตามพี่ไปไม่ทันแล้วก็เลยดำน้ำเล่นอยู่แถวนี้" ไจ่ไจ๋แก้ตัวเสียงอ่อยๆ

"พี่ไม่คิดว่านายจะไม่รู้ว่าพี่กำลังหานายอยู่" เคนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไจ่ไจ๋หน้าจ๋อยเมื่อคำแก้ตัวของตัวเองฟังไม่ขึ้น

"กลับไปเล่นใกล้ๆฝั่ง พี่ให้เวลาอีกครึ่งชั่วโมง" พูดจบก็เดินขึ้นฝั่งไปอย่างหงุดหงิด ไจ่ไจ๋มองตามพี่ชายอย่างรู้สึกผิดก่อนจะเดินตามพี่ชายไปด้วย

"ผมขอโทษครับพี่กลางที่เล่นอะไรไม่รู้จักคิด" ไจ่ไจ๋ง้อพี่ชายเมื่อเคนกลับมานั่งหน้าขรึมอยู่บนชายหาด

"พี่จะด่าว่าผมหรือจะตีผมก็ได้แต่พี่อย่าทำหน้าเครียดแบบนี้เลย เดี๋ยวไม่หล่อนะ" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วขยับเข้าไปกอดพร้อมกับซบหน้าลงที่ไหล่ของพี่ชาย เคนเหลือบตามองเจ้าน้องชายตัวดีก่อนจะถอนหายใจ

"ฟังให้ดี พอกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่โรงแรมเสร็จแล้วพี่จะตีเรา" บอกน้องด้วยสีหน้าขรึมๆ ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ชะงักไปเพราะไม่นึกว่าพี่ชายจะตีเขาจริงๆ

"จะเล่นน้ำก็ไป พี่จะรอตรงนี้" เคนบอกน้องเสียงดุๆทั้งที่จริงแล้วเขาเองก็ไม่ได้โกรธอะไรน้องมากมายเพียงแต่ขู่ให้กลัวเพื่อที่น้องจะได้ไม่กล้าทำซ่าส์กับเขาเท่านั้น

"ไม่ไป" ไจ่ไจ๋ส่ายหน้าดิกแล้วขยับเข้าไปกอดแขนพี่ชายเอาไว้

"ไม่ไปก็กลับโรงแรมแล้วเตรียมตัวโดนตีไว้ด้วย" เคนว่าพลางเหลือบมองเจ้าน้องชายตัวดี

"กลับก็กลับสิ" พูดเสียงแผ่วแล้วแอบลอบถอนใจที่พี่ชายดูท่าจะไม่ใจอ่อนกับเขา

"ดี! งั้นก็ลุกขึ้น!" ว่าแล้วเคนก็ขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะหันมามองเจ้าน้องเล็กที่ทำท่าอิดออด

"จะนั่งอยู่ตรงนี้ให้เป็นหวัดตายหรืองัย!?" เอ็ดใส่พร้อมกับทำหน้าเข้ม ไจ่ไจ๋ทำตาละห้อยใส่พี่ชายแล้วยื่นมือจะให้พี่ชายดึงขึ้นมาแต่เคนกลับทำเมินแล้วเดินหนีไป

"ใจร้าย! คอยดูกลับไปจะฟ้องพี่ใหญ่!" ไจ่ไจ๋บ่นอุบอิบคนเดียวแล้วขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะวิ่งตามพี่ชายไป

"พี่กลางรอด้วยสิ!" ร้องเรียกพี่ชายให้ชะลอฝีเท้า เคนได้ยินแล้วแต่ทำเป็นไม่ได้ยินแล้วไม่เหลียวมามองด้วย

"ฮึ! นึกว่าง้อหรืองัย!" เมื่อเห็นพี่ชายใจร้ายกับเขาเกินไปไจ่ไจ๋จึงไม่เดินต่อแล้วนั่งลงตรงแนวชายหาดตรงนั้นเอาดื้อๆ ส่วนเคนนั้นเมื่อไม่ได้ยินเสียงน้องชายก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับมามอง

"อ้าว! ไปไหนอีกหละเนี่ย" บ่นพึมพำแล้วกวาดสายตามองหาน้องแล้วก็เห็นเจ้าน้องชายตัวแสบนั่งเอาไม้เขี่ยพื้นทรายด้วยสีหน้ามุ่ยๆ เห็นเช่นนั้นแล้วเคนก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้เพราะตอนนี้น้องเล็กของเขาเหมือนกับเด็กซนๆที่ถูกขัดใจ

"ตกลงคืนนี้จะนอนตรงนี้ใช่มั๊ย?" เคนเดินกลับไปหาน้องแล้วเอ่ยด้วยสีหน้าขรึมๆ

"ใช่" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วใช้ไม้ในมือเขียนอักษรที่พื้นที่มีใจความว่าพี่ชายใจร้าย เคนเหลือบมองที่น้องเขียนแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา

"ดื้ออีกแล้วนะ" ทำเสียงดุน้องแต่ก็นั่งยองๆลงข้างๆ ไจ่ไจ๋หมุนตัวนั่งหันหลังให้พี่ชายอย่างงอนๆ เคนยิ้มนิดๆแล้วหันไปดึงเศษไม้ในมือน้องมาเขียนบนพื้นทรายบ้าง

"เด็กดื้อไม่มีใครรัก" พูดพร้อมกับออกเสียงให้น้องได้ยินด้วย ไจ่ไจ๋หันหน้ากลับมาแล้วมองที่พี่ชายเขียนก่อนที่จะแย่งไม้ในมือพี่ชายมาแล้วเขียนโต้ตอบพี่ชายอีก

"ไม่รักก็ช่างสิ คนใจร้าย" เคนยิ้มกับข้อความนั้นแล้วเหลือบมองเจ้าน้องชายตัวดีก่อนจะดึงไม้ในมือน้องมาเขียนต่อ

"ใจร้ายกับเด็กดื้อเท่านั้น" ไจ่ไจ๋มองข้อความนั้นแล้วก็เขียนโต้ตอบพี่ชายอีก

"แถวนี้ไม่มีเด็ก" เคนหัวเราะเบาๆแล้วเขียนตอบน้องอีก

"มีสิ นั่งอยู่ตรงนี้งัย" เคนเขียนเครื่องหมายลูกศรชี้ไปทางน้องชาย ไจ่ไจ๋เห็นก็รีบกระเถิบตัวหนีให้พ้นหัวลูกศรของพี่ชายที่ชี้มาทางเขา

"หึๆๆๆ" เคนหัวเราะในลำคอแล้วขยับเข้าไปกอดคอน้องชาย

"ยอมแพ้แล้ว ลุกขึ้นแล้วกลับโรงแรมกัน เดี๋ยวจะเป็นหวัด" เอ่ยปากง้อน้องชายขึ้นมาก่อน

"ไม่กลับ เดี๋ยวถูกตี" ไจ่ไจ๋ทำเสียงกระเง้ากระงอดใส่พี่ชาย

"ถ้าไม่กลับนี่แหละจะถูกตี โดนตีตรงนี้อายคนอื่นด้วยนะจะบอกให้" เคนว่าแล้วลุกขึ้นก่อนจะยื่นมือไปหาน้อง แต่ไจ่ไจ๋ยังทำหน้างออยู่

"เอ้า! ไม่ตีก็ได้ ลุกขึ้นเร็วเข้า" พอได้ยินดังนั้นไจ่ไจ๋ก็ค่อยยิ้มออก

"จริงนะ! ถ้ากลับคำผมฟ้องพี่ใหญ่ด้วย" ไจ่ไจ๋ย้ำคำด้วยสีหน้าเปลี่ยนอารมณ์แบบกระทันหัน

"จริงสิ" เคนรับปากน้องอีกครั้ง ดังนั้นไจ่ไจ๋จึงยื่นมือไปหาพี่ชายแล้วลุกขึ้น

"ฮัดเช้ย!!!" แล้วก็จามตามออกมา เคนเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจ

"เห็นมั๊ย? นั่งใส่เสื้อผ้าเปียกๆตากลมแบบนี้หวัดจะถามหาอยู่แล้ว" บ่นน้องชายออกมาอย่างเอือมระอา

"ก็เพราะใครหละ? ฮัดเช้ย!!!" น้องเล็กโทษพี่ชายหน้าตาเฉยก่อนที่จะจามออกมาอีกครั้ง

"เฮ่อ! ไม่เถียงด้วยแล้ว กลับโรงแรมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยเร็วๆ ขืนนายเป็นหวัดกลับไปมีหวังพี่โดนพี่ชายสุดที่รักของนายเทศน์สามวันเจ็ดวันไม่เลิกแน่" เคนตัดบ่นแต่ไม่วายบ่นน้องชายไปด้วย

"หนาวจัง" ไจ่ไจ๋บอกพี่ชายเพราะรู้สึกหนาวขึ้นมาตะหงิดๆ

"นั่นงัย! ไม่สบายแล้วใช่มั๊ยเนี่ย? เฮ่อ!....." เคนได้ยินก็บ่นออกมาอีกแต่ยังมีแก่ใจโอบไหล่น้องเอาไว้เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้น้องด้วย

"เดินเร็วๆหน่อย เดี๋ยวก็ถึงโรงแรมแล้ว" พูดจบก็รีบพาน้องเดินกลับโรงแรมโดยเร็ว



- ตอนกลางคืน -

"เป็นงัย? นอนพักแล้วดีขึ้นมั๊ย?" เคนถามทันทีที่น้องลืมตาตื่น ไจ่ไจ๋เอามือขยี้ตาด้วยท่าทางงัวเงีย

"กี่โมงแล้วครับพี่กลาง?" ถามพี่ชายเสียงแหบๆ

"ทุ่มกว่าๆแล้ว นายงีบยาวเลย" เคนตอบแล้วเอามือปัดผมเผ้าของน้องให้เข้ารูป

"มีน้ำมูกไหลหรือเปล่า? แล้วปวดหัวมั๊ย?" ถามน้องต่ออย่างเป็นห่วงเพราะกลัวน้องจะไม่สบาย

"ไม่ครับ แต่เจ็บคอนิดหน่อย" ไจ่ไจ๋ตอบไปตามจริง

"ตายหละ จะเป็นไข้แหงๆเลยแบบนี้ เดี๋ยวนายต้องกินยาดักไว้แต่เนิ่นๆเลยนะ" พอได้ยินเช่นนั้นเคนเองก็พลอยว้าวุ่นไปด้วย เขารีบลุกไปหายามาให้น้องกิน

"ยังไม่ได้กินข้าวเลยนะพี่กลาง" ไจ่ไจ๋ท้วงติง

"กินยาเข้าไปก่อนเถอะ เดี๋ยวพี่จะสั่งอาหารขึ้นมาให้" เคนว่าแล้วหันไปรินน้ำใส่แก้วให้น้อง

"อ้าว! ไหนบอกว่าจะออกไปหาอาหารทะเลกินกันยังงัยหละ?" ไจ่ไจ๋ทักท้วงพี่ชายอีกเพราะอยากกินอาหารทะเลอยู่เหมือนกัน

"จะออกไปยังงัย? ข้างนอกลมแรงออกเดี๋ยวนายจะไม่สบายเอาง่ายๆอีก" เคนให้เหตุผลแต่พอเห็นสีหน้าผิดหวังของน้องแล้วก็พูดต่ออย่างเอาใจ

"เดี๋ยวไว้พรุ่งนี้แล้วค่อยกินอาหารทะเล" แม้จะเสียดายที่ไม่ได้ออกไปในค่ำคืนนี้แต่ไจ่ไจ๋ก็ไม่งอแงอีกเพราะรู้ว่าเขาทำให้พี่ชายเป็นห่วงอีกแล้ว

"เอางั้นก็ได้ครับ" ไจ่ไจ๋รับคำก่อนจะกินยาลงไป

"งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าคืนนี้เราจะกินอะไรกันดี" เคนว่าแล้วก็เอาเมนูมานั่งดูกับน้อง

"ข้าวผัดอเมริกันก็น่ากินนะ" ไจ่ไจ๋ดูแล้วชี้เมนูที่หมายตาไว้

"นายเอาอันนี้ใช่มั๊ย?" เคนว่าแล้วถามน้องเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง

"อืม.....แต่เสต็กปลาก็น่ากินเหมือนกัน" พอพี่ชายถามย้ำไจ่ไจ๋ก็เริ่มลังเล เคนจึงยิ้มออกเมื่อเห็นความตะกละของน้อง

"สลัดกุ้งก็ท่าจะดีนะเนี่ย" เคนพูดต่อเป็นเชิงแหย่น้อง

"นั่นสิ เขาทำดูแล้วน่ากินจังเนอะ" ไจ่ไจ๋เองก็ไม่ปฏิเสธ

"ป่อเปี๊ยะทะเลก็น่าสนด้วยเหมือนกัน" เคนพูดต่อแล้วรอดูว่าน้องจะปฏิเสธอะไรบ้างหรือไม่

"ใช่เลยพี่กลาง อันนี้ผมก็มองอยู่" แต่ไจ่ไจ๋ก็ไม่ปฏิเสธเลยซักอย่าง

"แบบนี้นายคงเลือกไม่ถูกแหงๆ" เคนพูดดักคอน้องชายขึ้นมาอีก ไจ่ไจ๋มองพี่ชายแล้วยิ้มเขินๆ

"ฮึ! ไอ้ตะกละ! พานายมาด้วยค่ากินของนายแต่ละวันเท่ากับพี่ใช้เป็นอาทิตย์เลย" เคนผลักหัวน้องชายอย่างหมั่นไส้

"งั้นเอาข้าวผัดสองจาน แล้วเอาสเต็กปลา สลัดกุ้ง แล้วก็ป่อเปี๊ยะทะเลมาแบ่งกันกิน โอเคมั๊ย?" เคนถามไปงั้นๆเพราะรู้ว่าน้องก็คงไม่แย้งอะไรอยู่แล้ว

"ผมตามใจคนจ่ายครับ" น้องเล็กพูดเป็นเชิงหยอกพี่ชาย

"ตามใจคนจ่ายงั้นข้าวไข่เจียวสองจานก็พอ" เคนแหย่น้องกลับ

"แหมๆๆๆ อย่างกนักเลย เงินเก็บมีเยอะไม่ใช่หรอ? ใช้จ่ายกับน้องกับนุ่งเท่านี้ทำงกไปได้" ไจ่ไจ๋รีบแย้งขึ้นมาทันที

"ฮึ! ไอ้เจ้าเล่ห์" เคนต่อว่าน้องแล้วเดินไปโทรสั่งอาหารตามที่น้องชายต้องการ

"อุ๊ย! จะสองทุ่มแล้ว ยังไม่ได้โทรไปคุยกับพี่ใหญ่เลย" แล้วน้องเล็กก็อุทานขึ้นมาอย่างนึกขึ้นได้

"ทำไมต้องโทรหามันด้วย ถ้ามันอยากคุยก็ให้มันโทรมาเองสิ" เคนต่อว่าน้องชายกลายๆ

"ไม่ได้ครับ พี่ใหญ่บอกว่าช่วงนี้พี่รองเขางอนที่พี่ใหญ่เอาแต่โทรมาคุยกับผม เลยบอกให้ผมเป็นคนโทรไปหาพี่เขาเองพี่รองจะได้ไม่งอแงมาก" เคนได้ยินเหตุผลก็หัวเราะอย่างนึกขำพี่ชายคนรอง

"ไอ้พี่รองของนายนี่บางทีก็นึกว่ามันเป็นน้องชายคนเล็กนะเนี่ย" เคนได้ทีนินทาพี่ชาย

"นั่นน่ะสิครับ เห็นพี่ใหญ่บ่นอุบเลยว่าพี่รองขี้งอนมากแล้วก็เรียกร้องความสนใจตลอดจนพี่ใหญ่อ่อนใจเลย" ไจ่ไจ๋รีบผสมโรงทันที

"กรรมของพี่ใหญ่....." เคนว่าพลางหัวเราะไปด้วยก่อนจะพยักหน้าให้น้องโทรไปหาพี่ชาย

"พี่ใหญ่ครับ" เมื่อฝ่ายตรงข้ามรับสายไจ่ไจ๋ก็ทักทายออกไป

"ทำไมวันนี้โทรมาช้าจัง? พี่รอตั้งนาน" เสียงพี่ชายโอดครวญตามมาทันที

"แหม....ผมงีบหลับยาวไปหน่อยเลยโทรมาช้า พี่รองอยู่เปล่า?" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วถามหาแวนเนส

"อยู่สิ นอนหลับปุ๋ยหนุนตักพี่อยู่เนี่ย แหม.....อยากจะหยิกแก้มมันให้ช้ำซะจริงจริ้งงง......โครตอ้อนเลย....." ไจ่ไจ๋ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะ

"ก็ดีแล้วนี่ พี่รองเขาช่วยอ้อนพี่ใหญ่แทนผม แบบนี้พี่ใหญ่ก็ไม่เหงาแล้วงัย" พูดโต้ตอบพี่ชายอย่างอารมณ์ดี

"ไม่เหมือนกันเพราะไอ้พี่รองตัวดีของนายมันอ้อนได้น่าเตะกว่านายเยอะ" แม้จะพูดแบบนั้นแต่น้ำเสียงของพี่ชายก็เหมือนจะเอ็นดูแวนเนสมากกว่าจะหมั่นไส้เหมือนที่พูด

"ฮึ! ให้ผมเดานะว่าตอนนี้พี่ใหญ่ต้องกำลังแอบหอมแก้มพี่รองอยู่แน่ๆ" ไจ่ไจ๋แกล้งพูดแหย่พี่ชายไป

"นายรู้ได้ยังงัยเนี่ย?" พี่ใหญ่ถามกลับมาด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะ

"รู้สิ เพราะโทรศัพท์ผมติดเรด้าอยู่" พูดจบไจ่ไจ๋ก็หัวเราะกับมุกของตัวเองที่ได้มาจากเคนอีกทีหนึ่ง เคนได้ยินน้องพูดก็ได้แต่ส่ายหัวยิ้มๆ

"ไอ้เจ้าพี่กลางหละ?" ไจ่ไจ๋เหลือบมองหน้าเคนเมื่อได้ยินพี่ใหญ่ถาม

"ทำงานอยู่" เคนบอกน้องแบบไม่ออกเสียง

"พี่กลางทำงานอยู่ครับ" ไจ่ไจ๋ตอบไปตามนั้น

"งั้นนายก็อยู่คนเดียวน่ะสิ" พี่ใหญ่ถามกลับมาอีก

"ครับ แต่เดี๋ยวว่าจะไปกินข้าว" ตอบพี่ชายกลับไป

"วันนี้กินข้าวกับอะไรหละ? หรือว่ากินแบบปุฟเฟ่อีก?" ซักถามน้องชายไม่เลิก

"ก็.....บุฟเฟ่เหมือนเดิม....." ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับยิ้มแหยๆเพราะก็รู้สึกไม่ดีที่ปิดบังพี่ชาย

"ก๊อกๆๆๆ!!! อาหารมาส่งค่ะ" เสียงเคาะประตูห้องพักดังขึ้น เคนรีบลุกพรวดไปเปิดประตูทันที

"เอ๊ะ! พี่ว่าพี่ได้ยินเหมือนใครมาเคาะประตูห้องนายหรือเปล่า? สั่งอาหารมาหรอ? ไหนบอกว่าจะไปกินบุฟเฟ่งัย?" เสียงพี่ใหญ่ถามซักออกมาอีกยาวเหยียด

"เอ่อ....คือว่า.....เดี๋ยวนะครับพี่ใหญ่......" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็เอามือปิดลำโพงโทรศัพท์แล้วหันมาทำหน้าแหยๆกับเคน

"ส่งผิดห้อง" เคนส่งซิกส์ให้น้องโกหกพี่ชาย ไจ่ไจ๋พยักหน้ารับหงึกๆแล้วรออีกครู่หนึ่งจึงยกโทรศัพท์ขึ้นมาใหม่

"เขามาส่งผิดห้องน่ะครับ งงเหมือนกันที่จู่ๆมีคนเอาอาหารมาเสริฟ" ไจ่ไจ๋ว่าพลางหัวเราะกร่อยๆ ส่วนเคนเองพอจ่ายเงินเสร็จก็รีบยกอาหารทั้งหมดเข้ามาวางไว้

"งั้นหรอ?" เสียงพี่ชายพึมพำมาตามสาย

"พี่ใหญ่ครับ คือว่าผมมีสายซ้อนของพี่กลางเข้ามาน่ะ พี่ถือสายรอก่อนนะ" ไจ่ไจ๋ตั้งใจจะตัดบทพี่ชาย

"อืม.....เดี๋ยวพี่รอ....." แต่พี่ชายกลับตอบรับ ไจ่ไจ๋จึงได้แต่ยิ้มเฝื่อนๆให้พี่ชายคนกลาง เคนถอนหายใจเฮือกแล้วดึงโทรศัพท์ในมือน้องไปกดวางสายแล้วปิดเครื่องทันที

"พี่กลาง! ทำแบบนี้พี่ใหญ่จะยิ่งสงสัยนะ" ไจ่ไจ๋ร้องท้วงอย่างไม่เห็นด้วย

"ไม่หรอก นายก็แก้ตัวว่าแบตหมด" เคนตอบแล้วบอกให้น้องมานั่งกินข้าว

"รู้สึกไม่ดีเลยที่โกหกพี่ใหญ่" น้องเล็กพูดเสียงอ่อยๆ เคนเองก็รู้สึกเช่นเดียวกับน้องแต่เขาก็ไม่กล้าพอที่จะบอกพี่ชายว่าเขาถูกพักงาน

"ไม่ได้โกหกซักหน่อยแค่เราบอกความจริงไม่หมดเอง" เคนแย้งขึ้นแล้วจัดเรียงอาหารที่สั่งมาลงที่โต๊ะ

"กินข้าวเถอะ" ว่าแล้วก็บอกให้น้องลงมือกินข้าว และในระหว่างที่กำลังจะลงมือกินข้าวนั้นเสียงมือถือของเคนก็ดังขึ้น

"โอ้ย! ไม่เลิกเลยโว้ย!" เคนบ่นเมื่อเห็นว่าเป็นพี่ใหญ่โทรมา

"ครับ" เคนรับสายแล้วเอานิ้วทาบปากเป็นเชิงบอกให้น้องไม่ต้องพูดอะไร

"อยู่ไหน?" เสียงพี่ชายถามกลับมา

"เอ่อ.....ทำงานอยู่" เคนตอบ

"ทำงานอยู่หรอ? ทำไมเสียงในครัวเงียบจัง?" เคนกลืนน้ำลายเอื๊อกเมื่อพอจะรู้ว่าพี่ชายโทรมาเพื่อจับพิรุธพวกเขา

"อ้อ! ชั้นออกมาเข้าห้องน้ำพอดีน่ะ กำลังจะกลับเข้าไปในครัว นายมีอะไรหรือเปล่า?" เคนแก้ตัวแล้วถามพี่ชายกลับไป

"เมื่อกี้นายโทรหาน้องหรือเปล่า?" เคนได้ยินก็เหลือบตาไปทางน้องชาย

"โทร ชั้นจะบอกให้มันรีบลงไปกินข้าวแต่ยังคุยกันไม่จบเลยสายก็หลุดไป สงสัยแบตมันหมด" เคนตอบพร้อมกับแก้ตัวแทนน้องอย่างลื่นไหล จนไจ่ไจ๋ที่นั่งฟังอยู่ต้องยกนิ้วโป้งให้

"อ้อ! งั้นไม่มีอะไรหรอก เพราะน้องคุยกับชั้นอยู่แล้วสายก็หลุดไปเหมือนกัน แค่นี้แหละนายไปทำงานต่อเถอะ" เมื่อได้ยินดังนั้นเคนก็ค่อยโล่งอกขึ้นมาหน่อย

"ครับ" เคนรับคำก่อนจะวางสายไป

"เฮ้ย! อะไรมันจะจับผิดเก่งแบบนี้วะเนี่ย เกือบไปแล้วเชียว" พอวางสายจากพี่ชายได้เคนก็บ่นออกมาด้วยความโล่งใจ

"แหม.....พี่กลางนี้ก็เนียนอย่างชนิดที่ว่าใครก็ไม่สามารถนะเนี่ย" ไจ่ไจ๋พูดเหมือนจะชมแต่เคนถือว่าเป็นคำด่ามากกว่า

"นี่! ถ้าไม่พูดแบบนั้นนายก็โดนด่าด้วยกันนั่นแหละ" พูดกับน้องเสียงห้วน

"ครับๆๆๆ สรุปว่าพี่กลางเก่งที่สุดเลย" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็ยิ้มให้พี่ชาย เคนทำท่าจะเขกหัวน้องแต่ก็ไม่ได้ทำ

"ช่วงนี้พี่หละกลัวเสียงโทรศัพท์ดังจริงๆ" เคนไม่วายบ่นต่ออีกด้วย

"เอาเถอะๆๆๆ จะเกิดอะไรขึ้นแล้วค่อยว่ากันแต่ว่าตอนนี้ท้องผมร้องขออาหารแล้ว" พูดจบไจ่ไจ๋ก็ตักอาหารตรงหน้ากินทันที เคนเหลือบตามองน้องแล้วก็อดยิ้มกับความตะกละของน้องไม่ได้เพราะไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ไหนน้องเล็กของเขาก็มีความสุขกับสิ่งเล็กๆน้อยๆได้เสมอ




 

Create Date : 30 ธันวาคม 2550    
Last Update : 30 ธันวาคม 2550 21:34:54 น.
Counter : 1108 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  
 
 

loving_zai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




[Add loving_zai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com