Chapter 36

ตอนที่ 36

"อือ!" เคนส่งเสียงครางอย่างรำคาญเมื่อถูกพี่ชายแหย่ในขณะที่กำลังหลับสบาย

"ตื่นได้แล้วไอ้ขี้เซา ไปบริษัทกับพี่ใหญ่เร็ว" เจอร์รี่ปลุกน้องชาย แต่เคนพลิกตัวหนีแล้วดึงผ้าห่มมาปิดหน้า

"ตื่นๆๆๆๆ!" พี่ใหญ่นั่งลงข้างๆแล้วดึงผ้าห่มออกจากหน้าน้องชาย

"โอ้ย! อย่ายุ่งได้เปล่า! ชั้นไม่ไป!" เคนแหวใส่พี่ชายหน้ายุ่ง

"ไม่ได้ เมื่อวานนายรับปากชั้นแล้วว่าจะไป ห้ามเบี้ยว" พี่ใหญ่ปฏิเสธพร้อมกับทวงคำน้อง

"ไม่รู้! จำไม่ได้!" เคนตวัดเสียงอย่างรำคาญแล้วพลิกตัวหนีอีก

"จำไม่ได้งั้นหรอ? แล้วแบบนี้หละจำได้มั๊ย?" พูดจบก็จี้เอวน้องชาย เคนหัวเราะออกมาแล้วดิ้นขลุกขลักอยู่บนเตียง

"ฮ่าๆๆๆ!!! โอ้ย! พอแล้ว! จำได้แล้ว! ฮ่าๆๆๆ!!!" ร้องบอกพลางหัวเราะไปด้วย เจอร์รี่เองก็หัวเราะที่แหย่น้องได้สำเร็จ

"ไป....ลุกไปอาบน้ำได้แล้ว....." หลังจากแกล้งน้องพอหอมปากหอมคอแล้วก็ไล่ให้น้องไปอาบน้ำ

"ชั้นไม่อยากไปก็บังคับอยู่ได้!" เคนบ่นอุบหน้ามุ่ยสนิท

"ทำไมถึงไม่อยากไปหละ? อยู่บ้านเฉยๆก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้วไม่ใช่หรอ?" ย้อนถามน้องชายกลับไป

"ทำไมชั้นต้องอยู่บ้านเฉยๆด้วย? ชั้นจะออกไปเที่ยวข้างนอกต่างหากหละ" เคนเถียงพี่ชายบ้าง

"เพื่อนๆนายก็ทำงานกันหมดไม่ใช่หรอ? เที่ยวคนเดียวมันสนุกที่ไหนกัน สู้ไปบริษัทกับพี่ดีกว่า ได้เม้าท์กับเพื่อนๆด้วยนะ" พี่ใหญ่ตะล่อมน้องชาย

"พอไปถึงนายก็ลากชั้นเข้าไปเก็บในห้องทำงานของนาย ชั้นคงได้เม้าท์กับเพื่อนอยู่หรอก" เคนย้อนเข้าให้อีก

"สรุปที่นายไม่อยากไปนี่เพราะไม่อยากอยู่กับชั้นใช่มั๊ย?" ถามน้องออกไปตรงๆ

"รู้เหมือนกันหนิ" ตวัดเสียงใส่พี่ชายแล้วล้มตัวนอนลงที่เตียงอีก

"ทำไม? นายอยู่กับชั้นเนี่ยอึดอัดใจมากนักหรอ?" ถามน้องต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"ก็นายชอบดุชั้นหนิ" เคนแย้งเสียงอ่อยๆ

"ชั้นชอบที่ไหนเล่า? ก็นายนั่นแหละทำตัวเกเร แล้วจะไม่ให้ดุได้ยังงัย?" พูดกับน้องอย่างอ่อนใจ

"สรุปแล้วยังงัยชั้นก็ต้องไปใช่มั๊ย?" เคนลุกขึ้นมาถามพี่ชาย

"ไม่อยากไปก็ตามใจ" ว่าแล้วเจอร์รี่ก็ลุกขึ้นยืน

"ไปก็ได้" เคนรู้สึกเห็นใจพี่ชายอยู่เหมือนกันเพราะรู้ดีพี่ชายต้องทำงานหนักขนาดไหน ว่าแล้วก็ทำท่าจะลุกไปอาบน้ำ

"ถ้าไม่อยากไปก็ไม่ต้อง" เจอร์รี่พูดย้ำขึ้นมาอีกเพราะนึกว่าที่น้องจำใจไป

"ชั้นจะไป" เคนพูดย้ำอีกครั้งหนึ่ง

"บอกแล้วงัยว่าไม่ต้องก็ได้" หันกลับมาพูดอีกครั้ง

"ก็บอกว่าจะไปงัยเล่า!" เคนเอะอะขึ้นมาบ้างเพราะนึกว่าพี่ชายประชดเขา

"อย่ามาใช้น้ำเสียงแบบนี้กับชั้นนะ! เดี๋ยวเถอะ!" พี่ใหญ่ดุเมื่อโดนน้องขึ้นเสียงใส่

"จะเอายังงัยกันแน่! ตอนไม่อยากไปก็บังคับให้ไปพอจะไปก็มาประชดแบบนี้อีก!" เคนเริ่มอารมณ์เสียกับคำพูดของพี่ชาย

"ชั้นประชดอะไร!?" เจอร์รี่แหวใส่น้องชายบ้าง

"ยังจะมาถามอีก! ก็ชั้นบอกแล้วงัยว่าจะไปทำไมต้องพูดประชดว่าไม่ต้องไปด้วยหละ? แล้วทีตอนแรกจะลากชั้นไปให้ได้! จะเอายังงัยกับชั้น!?" เคนก็เถียงพี่ชายอย่างไม่ยอมลดละ

"ชั้นไม่ได้ประชดโว้ย! ก็เห็นนายทำหน้าเหมือนไม่อยากจะไปก็เลยบอกว่าไม่ต้องไปก็ได้" เจอร์รี่โวยวายขึ้นมาบ้าง

"ทำไมต้องเสียงดังด้วย?" ต่อว่าพี่ชายออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนลงเมื่อรู้ว่าตัวเองเข้าใจผิดไปเอง

"ก็นายอยากมาขึ้นเสียงกับชั้นก่อนทำไมหละ?" เจอร์รี่ย้อนใส่น้อง เคนหน้ามุ่ยลงเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เถียงอะไรอีก

"จะไปก็รีบไปอาบน้ำเลย! เดี๋ยวก็สายกันพอดี" พูดจบก็ตีก้นน้องแถมให้ทีหนึ่งด้วยความหมั่นไส้ก่อนที่จะเดินส่ายหน้าออกไป หลังจากเคนอาบน้ำเสร็จก็เดินลงไปหาพี่ชายแล้วทั้งคู่ก็ไปที่บริษัทด้วยกัน

"ชั้นขอคุยกับเพื่อนก่อน" เคนบอกพี่ชายและเมื่อเห็นพี่ชายกำลังจะอ้าปากพูดเคนก็พูดต่อ

"ยังไม่ถึงเวลาเข้างานเลย ชั้นไม่ทำให้พนักงานของนายเสียการเสียงานหรอกน่า!" เจอร์รี่ถอนหายใจกับคำประชดของน้องชายแต่ก็พยักหน้ารับรู้แล้วเข้าห้องไปก่อน เคนจึงเดินเข้าไปหาเพื่อนร่วมงานเก่าที่เขาเคยร่วมงานด้วย

"อ้าว! วันนี้ก็มาหรอ?" เพื่อนเคนเอ่ยทักทายพร้อมกับชวนให้มานั่งกินขนมด้วยกัน

"โดนบังคับให้มาน่ะสิ! ไม่ได้อยากมาเท่าไหร่หรอก!" เคนว่าแล้วหยิบขนมเข้าปาก

"ไม่คิดถึงพวกเราหรอ?" เพื่อนพูดหยอกเข้าให้

"ชั้นคิดถึงพวกนายแต่ขี้เกียจมาช่วยทำงาน" เคนว่าแล้วยกขวดน้ำที่เพื่อนส่งให้ขึ้นดื่ม

"งานของนายท่าจะสบายเนอะ หยุดทีเป็นอาทิตย์เลยนี่หว่า" เพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้น เคนยิ้มออกมาแล้วส่ายหน้า

"หยุดเป็นอาทิตย์ก็จริงแต่ก็ทำเป็นอาทิตย์เหมือนกัน ชั้นทำงานสองสามอาทิตย์ติดต่อกันโดยไม่มีวันหยุดเลยซักวัน แถมต้องทำงานดึกดื่นเกินเวลาอีกต่างหาก ไม่สบายเท่าไหร่หรอก แต่อาศัยว่าชั้นชอบก็เลยไม่มีปัญหาอะไร" เคนตอบแล้วปัดเศษขนมปังกรอบที่ติดมือออก

"นายก็แปลกนะ ทำงานบริษัทตัวเองออกจะสบาย เงินเดือนก็เรียกได้ไม่อั้นแต่กลับไม่ยอมทำ ไปทำงานหามรุ่งหามค่ำต้องเดินทางไกลๆแบบนั้น" เพื่อนพูดอย่างไม่เข้าใจ

"สบายตายหละ! ชั้นทำที่นี่มันไม่ได้สบายอะไรเลยนะ แถมเวลาทำงานผิดพลาดยังโดนลงโทษหนักกว่าพวกนายอีก" เคนว่าพลางเบ้ปาก

"หนักยังงัยวะ? ชั้นยังไม่เคยเห็นผู้จัดการลงโทษใครซักที แค่ดุซักครั้งยังแทบจะไม่เคยเห็น" เพื่อนคนหนึ่งว่าแล้วที่เหลือก็พากันพยักหน้าเพราะเห็นด้วยกับคำพูดนั้น

"กับพวกนายเขาไม่ดุหรอก แต่กับชั้นเนี่ยดุยิ่งกว่ายักษ์อีก" เคนแอบนินทาพี่ชาย

"นายเคยเห็นยักษ์ด้วยหรอเสี้ยวเทียน?" เพื่อนถามกระเซ้าต่อ

"พวกนายไม่เคยเห็นหรอ? งั้นชั้นจะอธิบายให้ฟัง ยักษ์เนี่ยหน้าตาเหมือนผู้จัดการของพวกนายนั่นแหละผิดกันตรงที่มันจะมีเขี้ยวยาวๆงอกออกมาสองข้าง เวลาผู้จัดการเขาโกรธนะหน้าตาแบบนั้นเลย" เคนนึกสนุกเลยเอาพี่ชายมานินทาเล่น ทำให้เสียงหัวเราะดังขึ้นมาเป็นเท่าตัว

"เอ้าๆๆๆ!!! ถึงเวลาทำงานแล้วนะครับ!" เจอร์รี่เดินออกมาแล้วเอามือเคาะโต๊ะเบาๆ เสียงหัวเราะจึงได้ซาลง

"นินทาอะไรผม? ผมรู้นะ" เจอร์รี่ว่าพลางมองหน้าบรรดาพนักงานแต่สีหน้ายังคงยิ้มๆ

"เรื่องนี้ต้องถามเสี้ยวเทียนครับ เขาเป็นคนเริ่ม" จบคำนั้นเคนก็เอามือตบหลังคนพูดอย่างหมั่นไส้

"ผมก็พอจะรู้อยู่แล้วหละครับ" เจอร์รี่ว่าแล้วมองไปทางน้องชาย เคนทำเป็นไม่ได้ยินแล้วขยับตัวลุกขึ้น

"แล้วค่อยมาคุยนะ" เคนบอกเพื่อนๆแล้วเดินเข้าไปในห้องทำงานของพี่ชาย เจอร์รี่ส่ายหน้าก่อนที่จะเดินตามน้องเข้าไป

"เอ้า! งานของนายวันนี้" พี่ใหญ่หยิบแฟ้มงานมาวางให้น้อง

"งานของชั้น? งานของนายต่างหาก" เคนเถียงขึ้นมาเบาๆ พี่ใหญ่เอื้อมมือไปผลักหัวน้องอย่างหมั่นไส้

"ทำไปอย่าบ่น! ถ้าไม่เสร็จจะไม่ให้พักนะ!" พูดพลางทำหน้าเข้มใส่น้อง

"ก็ลองสิ! ชั้นจะได้ฟ้องร้องนาย" เคนว่าพลางค้อนใส่

"นายจะฟ้องร้องอะไรชั้น?" พี่ใหญ่เอามือเท้าเอวพร้อมกับย้อนถามน้อง

"ฟ้องว่านายขู่บังคับให้ชั้นทำงานโดยที่ชั้นไม่สมัครใจ แล้วก็ใช้แรงงานเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด แถมยังไม่ยอมจ่ายค่าจ้างอีกต่างหาก" เคนพูดฉอดๆ

"กล้าหรอไอ้ตัวดี?" พี่ใหญ่ผลักหัวน้องอีก เคนทำอะไรไม่ได้เลยได้แต่เม้มปากอย่างขุ่นเคือง

"รู้งี้ทุบหัวให้มันตายไปตั้งแต่เด็กๆแล้ว ไม่ให้อยู่มาทำหัวหมอกับชั้นหรอก" บ่นน้องออกมาอีก

"ไม่ได้ทำหัวหมอแค่รักษาสิทธิของตัวเอง" เคนหันไปเถียงอีก

"ไอ้นี่หนิ!" เมื่อเห็นพี่ชายเงื้อนมือขึ้นเคนก็ลุกหนีทันที

"มีปัญหาแต่เช้าแล้วนะ! ทำปากดีอีกครั้งชั้นไม่เอานายไว้แน่!" ชี้หน้าน้องชายพลางพูดขู่อีก เคนเบ้ปากใส่แต่ก็ไม่กล้าโต้ตอบพี่ชาย

"มาทำงาน!" พูดเสียงห้วนพร้อมกับชี้ไปที่แฟ้มงานทั้งหลายทั้งแหล่ที่วางกองให้น้อง

"บังคับอยู่ได้ น่าเบื่อชะมัด" เคนบ่นอุบกับตัวเองเบาๆแต่พอเห็นพี่ใหญ่มองมาก็รีบก้มหน้าลงอ่านแฟ้มงานด้วยความจำใจ



- ช่วงเย็น -

"อ้าว! หลับซะละไอ้ตัวดี!" เจอร์รี่ที่เพิ่งประชุมเสร็จเดินกลับเข้ามาในห้องก็เห็นเคนนอนหลับปุ๋ยอยู่บนโซฟาในห้องทำงานของเขา

"พอพี่ใหญ่ไม่อยู่ก็หาเรื่องอู้งานเลยนะ" นั่งลงข้างๆแล้วบีบจมูกน้องเบาๆ เคนปัดมือพี่ชายออกอย่างรำคาญ

"หึๆๆๆ" เจอร์รี่หัวเราะเบาๆแล้วถอดเสื้อนอกของตัวเองมาคลุมตัวให้น้อง ก่อนที่จะหันไปเก็บแฟ้มงานที่น้องทำค้างไว้ไปเก็บที่โต๊ะตัวเอง แล้วนั่งตรวจตราอีกรอบ

"ติ๊ดๆๆๆ" ผ่านมาได้ครู่ใหญ่เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เจอร์รี่จึงหยิบมาแล้วกดรับสาย

"ถึงแล้วหรอไจ่ไจ๋?" เอ่ยถามทันทีที่รับสาย

"ใกล้แล้วครับพี่ใหญ่ พี่เลิกงานหรือยัง? ถ้าหากยังยุ่งอยู่เดี๋ยวผมกลับแท๊กซี่เองได้" เสียงไจ่ไจ๋พูดโต้ตอบกับพี่ชายด้วยความร่าเริง

"ไม่ยุ่งหรอก พี่ประชุมเสร็จพอดีเลย" พี่ใหญ่บอกน้อง

"หรอ? งั้นผมรอที่มหาลัยแล้วกัน ไม่ต้องรีบก็ได้นะ แต่ผมเหนื่อย" น้องเล็กพูดหยอกพี่ชาย

"อารมณ์ดีเหลือเกินนะ" พี่ใหญ่เองก็หัวเราะไปด้วย

"เอาเป็นว่าเดี๋ยววางสายแล้วพี่ออกเลยแล้วกัน คงไปถึงพอๆกับที่นายถึงนั่นแหละ" พี่ใหญ่สรุปความ

"ไม่ต้องรีบก็ได้ ผมพูดเล่นน่ะ" ไจ่ไจ๋พูดกลับมาอย่างเกรงใจพี่ชาย

"ไม่รีบไม่ได้หรอก คิดถึงนายจะแย่อยู่แล้ว" เจอร์รี่ทำปากหวานกับน้อง

"ผมก็คิดถึงพี่ใหญ่ที่สุดเลย คิดถึงจนจะขาดใจอยู่แล้วเนี่ย" เจอร์รี่ได้ยินก็หัวเราะพลางส่ายหน้าไปด้วย

"งั้นพี่รีบไปรับนายดีกว่า เดี๋ยวนายจะขาดใจตายซะก่อน" น้องเล็กเองก็หัวเราะกับพี่ใหญ่ด้วย

"แค่นี้ก่อนนะไจ่ไจ๋ พี่ต้องงัดไอ้พี่กลางตัวดีของนายขึ้นมาก่อน แล้วเจอกัน" พูดจบเจอร์รี่วางสายแล้วเดินไปหาเคนที่นอนหลับอยู่

"เสี้ยวเทียน ตื่นได้แล้ว ไปรับไจ่ไจ๋กัน" เขย่าตัวพร้อมกับเรียกน้องเบาๆ

"เสี้ยวเทียน ตื่นได้แล้วเร็ว" เคนปรือตาขึ้นมามองแล้วทำท่าจะพลิกตัวหนีแต่พี่ใหญ่ก็รีบดึงตัวน้องให้ขึ้นมานั่ง

"ไปรับไจ่ไจ๋กัน น้องจะถึงมหาลัยแล้ว" เคนได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้ขัดขืน แต่ยังนั่งด้วยท่าทางงัวเงีย

"หลับเพลินจนไม่ทำงานเลยนะ! วันนี้ทำงานไม่เสร็จอดรางวัลไปแล้วกัน" ว่าพลางเอามือปัดผมเผ้าของน้องให้เข้าที่

"ไม่ได้อยากได้เลย" เคนว่าแล้วเอียงหัวหลบไม่ให้พี่ชายยุ่งกับผมของตัวเอง

"ไม่อยากได้จริงๆหรอ?" ย้อนถามน้องถามพลางอมยิ้มน้อยๆ เคนหันมามองหน้าพี่ชายแล้วเงียบไป

"ไม่อยากได้ก็ดีเหมือนกัน ชั้นจะได้ไม่ต้องเสียเงิน" พูดอย่างกวนๆแล้วยักคิ้วให้น้อง

"ชั้นหายอยากมาตั้งนานแล้วแหละ ไม่ต้องห่วงนายไม่ต้องเสียเงินเสียทองให้ชั้นหรอก" พูดจบก็ลุกเดินไปห้องน้ำ

"อ้าว! พูดเล่นแค่นี้ก็งอน อะไรของมันวะ!" เจอร์รี่เกาหัวแล้วเดินตามน้องไปด้วย

"เสี้ยวเทียน พี่ใหญ่พูดเล่นนะ งอนหรอ?" ถามน้องชายที่วักน้ำขึ้นมาล้างหน้า เคนไม่ตอบแต่ดึงทิชชู่มาเช็ดหน้าตัวเองลวกๆ

"ทำไมเดี๋ยวนี้นายขี้งอนจัง? ชั้นพูดเล่นนิดหน่อยก็งอนแล้ว" เคนมองพี่ชายผ่านกระจกตรงหน้า

"รีบไปสิ เดี๋ยวไจ่ไจ๋จะรอนาน" พูดตัดบทอย่างไม่อยากชวนทะเลาะแล้วเดินนำพี่ชายออกไปที่รถ เจอร์รี่เป่าปากอย่างหนักใจแล้วรีบสาวเท้าตามน้องไป

"รอตั้งนาน!" เสียงไจ่ไจ๋บ่นขึ้นมาทันทีที่รถยนต์ของพี่ชายจอดสนิท

"บ่นอะไร?" เจอร์รี่เปิดกระจกลงมาแล้วต่อว่าน้องชายด้วยสีหน้ายิ้มๆ

"บอกว่าคิดถึงพี่ใหญ่.....ม๊ากกก.....มากกกก....." ไจ่ไจ๋รีบทำเป็นปากหวานแล้วยื่นมือเข้าไปกอดคอพี่ชายจากทางหน้าต่างรถยนต์

"ปากหวานแบบนี้เดี๋ยวต้องมีข้อแลกเปลี่ยนแน่ๆ รีบเอากระเป๋าไปเก็บหลังรถแล้วขึ้นรถได้แล้ว" เจอร์รี่พูดดักคออย่างรู้ทันน้อง ไจ่ไจ๋หัวเราะแล้วหิ้วสัมภาระของตัวเองไปเก็บ ในขณะนั้นเคนที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับก็เปิดประตูรถลงมา

"คิดถึงพี่กลางที่สุดเลย แหม....ไม่ทักทายผมซักคำเลยนะ" ไจไจ๋เดินกลับมาเห็นพี่ชายก็ตรงเข้าไปสวมกอดพร้อมกับพูดต่อว่าไปด้วย

"ไม่รู้จะทักอะไร พี่ก็เห็นนายสบายดีเหมือนเดิมหนิ" คำพูดของเคนทำเอาไจ่ไจ๋ชะงักไปรู้สึกได้ว่าพี่ชายอารมณ์ไม่ดี

"พี่กลางเป็นอะไรไป? มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า?" ไจ่ไจ๋เอามือแตะแก้มพี่ชายพร้อมกับถามอย่างเป็นห่วง

"ไม่มีหรอก พี่มันก็เป็นคนเกเรแบบนี้แหละ นายไปนั่งข้างหน้าสิ" พูดจบเคนก็เปิดประตูขึ้นไปนั่งตอนหลังรถ ไจ่ไจ๋เกาหัวอย่างงงๆแล้วขึ้นไปนั่งคู่กับคนขับ

"พี่กลางเป็นอะไรอ่ะ?" เอนหัวไปกระซิบถามพี่ใหญ่

"มันงอนพี่ใหญ่อีกแล้วหละสิ" เจอร์รี่ตอบพลางยักไหล่

"ไปกินข้าวกันดีกว่า" แล้วเจอร์รี่ก็เสนอความคิดขึ้นมา

"ดีมั๊ย?" ถามน้องทั้งสองคนขึ้นมา เคนนั่งเฉยไม่ตอบว่าอะไรส่วนไจ่ไจ๋พยักหน้าเห็นดีด้วย

"ดีครับ ผมกะจะชวนพี่ไปหาอะไรกินพอดีเลย" น้องเล็กว่าพร้อมกับเอี้ยวตัวหันไปทางเคน

"ดีมั๊ยครับพี่กลาง กินข้าวกันก่อนพี่กลางจะได้ไม่ต้องวุ่นวายทำกับข้าว" เคนพยักหน้ารับแบบแกนๆ เจอร์รี่ถอนหายใจกับอาการของเคน

"กินอะไรดีไจ่ไจ๋?" หันมาถามน้องเล็กต่อ

"กิน...." ไจ่ไจ๋กำลังจะตอบสิ่งที่ตัวเองอยากกินแต่ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าควรเอาใจเคนมากหน่อยจึงหันมาถามเคนอีกทอดหนึ่ง

"พี่กลางอยากกินอะไรครับ?" เคนละสายตาจากบรรยากาศนอกรถมามองหน้าน้องชายแล้วยิ้มที่มุมปากหน่อยๆ

"ตามใจนายสิ พี่ไม่เคยมีสิทธิมีเสียงอะไรอยู่แล้วนี่" น้องเล็กอึ้งกับคำตอบของพี่ชาย

"เสี้ยวเทียน ให้มันน้อยๆหน่อยนะ นายไม่พอใจชั้นก็อย่าพาลไปประชดน้องสิ" เจอร์รี่ออกตัวปกป้องน้องเล็กทันที

"ขอโทษนะไจ่ไจ๋ พี่มันก็ปากไม่ดีแบบนี้แหละ" พูดจบเคนก็ตบปากตัวเอง

"พี่กลาง!" น้องเล็กร้องขึ้นอย่างตกใจ พี่ใหญ่เองก็นิ่งไปเช่นกัน บรรยากาศในรถจึงมีแต่ความเงียบ

"งั้นเรากลับบ้านเถอะครับพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋เอ่ยทำลายความเงียบขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

"เพราะตอนนี้ผมคงกินอะไรไม่ลงแล้วหละ" พี่ใหญ่เหลือบมองน้องเล็กก่อนที่จะพยักหน้ายอมตามนั้น เคนได้ยินน้องว่าเช่นนั้นก็เม้มปากแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอยู่ดี จนกระทั่งกลับมาถึงบ้านไจ่ไจ๋ก็หยิบกระเป๋าสัมภาระทั้งหมดลงจากรถแล้วหันมาพูดกับพี่ชายทั้งสองคนด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

"ผมเหนื่อยแล้ว ขอตัวขึ้นไปนอนก่อนนะ" พูดจบก็หิ้วของทั้งหมดเข้าบ้านไป เคนมองตามหลังน้องเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเอาแต่ใจเกินไปจนทำให้น้องเล็กพลอยรู้สึกไม่สบายใจไปด้วย

"มานี่!" พี่ใหญ่ว่าแล้วก็ลากตัวเจ้าน้องชายจอมเกเรขึ้นมาที่ห้องเขาก่อนที่จะหันไปล็อกประตูอย่างแน่นหนา

"จะเอายังงัย!?" ถามน้องชายเสียงเข้ม เคนสบตากับพี่ชายแล้วนิ่งไป

"ชั้นถามว่าจะเอายังงัย!?" เสียงเข้มขึ้นกว่าเดิม

"จะให้มันเป็นเรื่องขึ้นมาให้ได้เลยใช่มั๊ย?" พี่ใหญ่จ้องหน้าน้องชายตาเขม็ง เคนหลบตาพี่ชายแต่ยังคงนิ่งเงียบ

"ชั้นพูดกับนายอยู่เงยหน้าขึ้นมามองชั้น!" พูดเสียงเข้มขึ้นตามลำดับ

"ชั้นง่วงแล้ว จะไปนอน" พูดจบเคนก็ทำท่าจะเดินออกไปแต่ถูกพี่ชายดึงแขนไว้

"นายยังไปไหนไม่ได้จนกว่าจะพูดจากันให้เข้าใจ" เคนถอนหายใจเบาๆแล้วเงยหน้ามองพี่ชาย

"ชั้นขอโทษที่ทำตัวไม่ดี" เอ่ยปากขอโทษออกมาเพราะไม่อยากให้เรื่องยืดยาว

"คำขอโทษไม่ใช่สิ่งที่ชั้นต้องการ" พี่ใหญ่ว่าพลางจ้องหน้าน้องชาย

"งั้นนายต้องการอะไรหละ? ดุด่าชั้น? เฆี่ยนตีชั้น?" เคนย้อนถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

"อย่ามาประชดชั้นนะ! นึกพูดแบบนี้แล้วชั้นจะไม่กล้าทำอย่างนั้นหรอ!?" เจอร์รี่ทำเสียงดุพร้อมกับถลึงตาใส่น้องชาย

"ชั้นจะประชดนายไปทำไม? ในเมื่อเรื่องแบบนี้นายก็ทำกับชั้นเป็นปกติอยู่แล้วนี่" เคนพูดโต้ตอบพี่ชาย

"ถ้าจะตีชั้นก็ลงมือได้เลยไม่จำเป็นต้องบอกเหตุผลให้เสียเวลาหรอก ชั้นยอมรับผิดทุกอย่าง" พูดต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทำให้เจอร์รี่เริ่มโมโหเพราะเคนเอาแต่พูดประชด

"ได้! ในเมื่ออยากให้ชั้นใช้กำลังนักหละก็ชั้นจะสนองให้!" พูดจบก็จับตัวน้องหันหลังแล้วใช้มืออีกข้างตีลงไปที่ร่างน้องชายค่อนข้างแรง เคนสะดุ้งเฮือกแล้วเอามือลูบตรงที่ถูกตี รู้สึกตกใจเพราะไม่นึกว่าพี่ชายจะลงมือกับเขาจริงๆ

"เอามือออก!" พี่ใหญ่สั่งเสียงเข้มแล้วตีซ้ำอีก เคนเริ่มหน้าเหยเพราะฝ่ามือของพี่ชายที่กระทบลงมาตามเนื้อตามตัวเขาแต่ละทีนั้นไม่ใช่เบาๆเลย

"โอ้ย" ร้องครางออกมาเบาๆด้วยรู้สึกเจ็บ

"ร้องทำไม!? โดนแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้วไม่ใช่หรอ!?" พี่ใหญ่หยุดตีแล้วถามน้องชายเสียงดุ เคนไม่ตอบแต่หันกลับมามองพี่ชายน้ำตาคลอ

"ไม่ต้องมาบีบน้ำตา! ชั้นไม่ใจอ่อนกับนายหรอก!" เอ็ดใส่น้องเสียงดังทั้งๆที่ในใจสงสารน้องแทบตาย

"ชั้นรู้อยู่แล้วหละ มันเป็นเรื่องปกติหนิ" เคนเอ่ยขึ้นพร้อมกับแววตาที่แสดงความน้อยใจกับคำพูดของพี่ชาย

"อย่ามายอกย้อนชั้น!" เจอร์รี่ทำเสียงดุน้องก่อนที่จะลากตัวน้องมาที่เตียงแล้วกดไหล่ให้นั่งลง

"เมื่อไหร่ถึงจะเลิกนิสัยชอบพูดจาประชดประชันซักที ทำแบบนี้แล้วมันดีนักหรอ?" พูดกับน้องด้วยน้ำเสียงอ่อนลง

"ไปเอานิสัยแบบนี้มาจากไหน? พี่ไม่เคยสอนให้เราพูดจาไม่ดีกับผู้ใหญ่เลยนะ นอกจากจะไม่น่ารักแล้วมันยังทำให้เราดูเป็นเด็กก้าวร้าวอีกด้วย" เจอร์รี่เริ่มเปิดฉากอบรมน้องชาย เคนนั่งก้มหน้านิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

"พี่อบรมสั่งสอนชั้นอย่างดี แต่ชั้นเองต่างหากที่เลวโดยสันดานขัดเกลายังงัยก็ไม่ได้ผล" เคนพูดออกมาด้วยสีหน้าขมขื่น

"เสี้ยวเทียน! นายพูดแบบนี้ออกมาได้ยังงัย! ตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้!" พี่ใหญ่เองก็ตกใจกับคำพูดของน้องชาย

"ชั้นไม่ได้พูดอะไรผิด" เคนเงยหน้าขึ้นมามองพี่ชายทั้งน้ำตา

"ยังจะมาเถียงอีก!" เสียงตวาดของพี่ชายทำให้เคนร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น พี่ใหญ่นิ่งไปชั่วครู่ก่อนที่จะเดินเข้าไปใกล้แล้วค่อยๆดึงน้องเข้ามากอด

"พี่ขอโทษที่ตวาดนาย" บอกกับน้องเสียงอ่อนลง

"เงียบซะ.....ไม่ต้องร้อง....." ปลอบประโลมน้องชายต่อพร้อมกับลูบหลังให้น้องอย่างอ่อนโยน

"พี่ไม่เคยเกลียดนาย ไม่เคยไม่รักนาย ไม่เคยเห็นความสำคัญของนายน้อยไปกว่าใครเลย" เจอร์รี่เริ่มพูดให้น้องฟังเมื่อเห็นว่าน้องเริ่มเงียบเสียงลงแล้ว

"เสี้ยวเทียน เราน่ะโตแล้วนะ เวลาไม่พอใจอะไรก็หัดเก็บอาการหัดควบคุมอารมณ์ตัวเองซะบ้าง ในบ้านนี้แม้นายจะทำให้ใครโกรธหรือยั่วโมโหขนาดไหนทุกคนก็ให้อภัยและยังรักนายไม่เปลี่ยนแปลง แต่ถ้านายต้องไปใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกนายไม่สามารถไปทำแบบนี้กับคนอื่นได้เพราะคงไม่มีใครเขายอมให้นายเหมือนกับคนในครอบครัวหรอก" พี่ใหญ่ดันตัวน้องออกแล้วทรุดตัวนั่งลงบนเตียงพร้อมกับพูดสอนน้องด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

"ที่พี่ตีก็เพื่อสั่งสอน ไม่ใช่ว่าทำให้นายเจ็บแล้วพี่จะสะใจแต่ตรงกันข้ามเพราะยิ่งทำให้นายเจ็บมากเท่าไหร่พี่เองก็เจ็บมากขึ้นเท่านั้น" เคนได้ยินเช่นนั้นก็นิ่งไป

"พี่แค่อยากให้นายทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อที่ซักวันหนึ่งเมื่อนายก้าวออกจากบ้านหลังนี้ไปจะได้ไม่ถูกใครตำหนิเอาได้ เข้าใจพี่ใหญ่มั๊ย?" ถามพร้อมกับลูบหัวน้องอย่างอ่อนโยน

"อืม" เคนพยักหน้ารับ เจอร์รี่จึงค่อยยิ้มออก

"ชั้นกลับห้องได้หรือยัง?" เคนถามพี่ชายเสียงแผ่ว

"ยัง เพราะพี่ยังลงโทษนายไม่เสร็จ" เจอร์รี่ตอบพร้อมกับแกล้งทำหน้าเข้ม

"แต่เมื่อกี้ก็ตีไปตั้งหลายทีแล้วยังจะตีชั้นอีกหรอ?" แย้งขึ้นมาเสียงอ่อยๆเพราะคิดว่าพี่ชายจะตีเขาอีก

"ใครบอกว่าจะตีหละ?" พี่ใหญ่ย้อนถามพร้อมกับเอื้อมมือไปบีบจมูกน้องเบาๆ

"พี่จะลงโทษนายฐานที่เล่นตัวกับพี่มาตั้งหลายวัน" พูดจบก็กางแขนทั้งสองข้างออก

"มาเลยเร็วๆ" พูดเร่งน้องชาย เคนเห็นดังนั้นก็อมยิ้มก่อนที่จะโผเข้าสู่อ้อมกอดของพี่ชาย

"ไอ้ตัวแสบ! อื้มๆๆๆๆ!!!" พี่ใหญ่กอดน้องชายแน่นพร้อมกับหอมแก้มน้องอีกหลายที

"โอ้ย! พอได้แล้ว!" เคนร้องโวยวายขึ้นมาในที่สุดเมื่อโดนพี่ชายหอมแก้มไม่ยอมหยุด

"โดนลงโทษอยู่ยังจะโวยวายอีกหรอ?" พี่ใหญ่ทำเสียงดุ เคนทำหน้ามุ่ยใส่แล้วบีบจมูกพี่ชาย

"แหนะ! กล้าทำร้ายพี่ใหญ่หรอ? แบบนี่ต้องโดนลงโทษสถานหนัก!" พูดจบพี่ใหญ่ก็ผลักน้องนอนลงที่เตียงแล้วจัดการจี้เอวน้องเป็นการใหญ่ แล้วภายในห้องก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของสองพี่น้อง



- เช้าวันต่อมา -

"จะไปไหนหรอ?" เคนเอ่ยทักน้องชายเดินลงบันไดมาพร้อมกับโยนกุญแจรถเล่นไปด้วย

"ไปรับพี่รองงัยครับ" ไจ่ไจ๋ตอบพี่ชายแล้วยิ้มให้

"เออใช่! วันนี้พี่รองมันจะกลับบ้านแล้วนี่ พี่ลืมไปเลย! นายรอแป๊บนึงนะพี่จะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวเดียว พี่จะไปด้วย" เคนว่าแล้วก็รีบลุกจะขึ้นห้องไปอาบน้ำแต่ตอนนั้นพี่ใหญ่เดินลงมาพอดี

"เรียบร้อยหรือยังไจ่ไจ๋?" เอ่ยถามน้องเล็ก

"ผมน่ะเรียบร้อยแล้ว แต่พี่กลางจะไปด้วยนี่สิ" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วผงกหัวไปทางเคน

"ให้ชั้นไปด้วยนะ รอแป๊บนึง" เคนบอกพี่ชายแล้วทำท่าจะเดินไปแต่พี่ใหญ่ดึงแขนไว้ก่อน

"นายไม่ต้องไปหรอก รออยู่ที่บ้านนี่แหละ" ได้ยินดังนั้นเคนก็ชะงักไป

"แต่ชั้นอยากไปด้วย ขอไปด้วยนะ" ทำหน้าละห้อยใส่พี่ชาย เจอร์รี่จึงหันไปสบตากับน้องเล็ก

"ไม่ได้ ออกช้ากว่านี้เดี๋ยวรถติด ไปเร็วไจ่ไจ๋" พูดปฏิเสธแล้วรีบดุนหลังน้องเล็กให้เดิน

"ทำไมหละ? ทำไมชั้นถึงไปด้วยไม่ได้?" เคนประท้วงพี่ชายเป็นการใหญ่เมื่อถูกปฏิเสธไม่ให้ไปรับแวนเนสกลับบ้านด้วย

"เพราะพวกนายจะไปเที่ยวกันต่อหลังจากไปรับแวนเนสแล้วใช่มั๊ย? พวกนายอยากไปเที่ยวกันโดยไม่มีชั้นเพราะชั้นเป็นตัวปัญหาใช่หรือเปล่า?" คำพูดนั้นทำเอาพี่ใหญ่ถึงกับกุมขมับ

"เสี้ยวเทียน! นายจะบ้าหรืองัย!" แหวใส่น้องอย่างเอือมระอากับความคิดของน้องชาย

"นั่นสิพี่กลาง ถ้าเราจะไปเที่ยวก็ต้องอยากให้พี่ไปด้วยอยู่แล้ว แต่นี่เราแค่ไปรับพี่รองเอง" ไจ่ไจ๋พูดเสริม

"แค่ไปรับพี่รองแล้วทำไมพี่ถึงไปด้วยไม่ได้?" เคนย้อนถาม

"ก็บอกแล้วว่ามันสายแล้ว ขืนรอนายมันจะช้าไปกว่านี้ แล้วนายก็รู้ว่าแวนเนสน่ะมันเป็นที่รู้จักขืนให้มานั่งรอนานเดี๋ยวก็โดนรุมทึ้งน่ะสิ" เจอร์รี่พยายามอธิบายให้น้องฟัง

"เราไปกันแป๊บเดียวเอง เดี๋ยวก็กลับแล้ว ทำไมพี่กลางไม่ทำกับข้าวรอต้อนรับพี่รองอยู่ที่บ้านหละ?" ไจ่ไจ๋ช่วยพี่ใหญ่พูดอีกแรง

"ไม่เอา ก็พี่อยากไปด้วยนี่" เคนส่ายหน้าดิกไม่ยอมลูกเดียว ไจ่ไจ๋จึงเปลี่ยนสายตาไปทางพี่ใหญ่

"ชั้นไม่ให้ไป! อยู่รอที่บ้านนี่แหละ แล้วอย่ามางอแงนะ ไม่งั้นได้เจ็บตัวอีกแน่" พี่ใหญ่ทำเสียงเข้ม

"เอะอะอะไรก็จะตีชั้นอยู่เรื่อย ชั้นทำอะไรให้นายโกรธเคืองนักหนากันเชียว?" เคนพูดตัดพ้อพี่ชาย

"พี่ใหญ่.....เอางัยดีหละ?" น้องเล็กขยับเข้าไปกระซิบกับพี่ชายเป็นเชิงปรึกษา

"เดี๋ยวพี่จัดการเอง นายไปรอข้างนอกแล้วกัน" เจอร์รี่กระซิบตอบน้องแล้วดันหลังให้น้องออกไปหน้าบ้านก่อน

"ที่โดนไปเมื่อคืนน่ะไม่เข็ดใช่มั๊ย?" พูดด้วยน้ำเสียงดุๆ

"ขึ้นห้องไปเลย! อย่ามางอแงให้เห็นนะ!" เคนได้ยินก็เงยหน้ามองพี่ชายน้ำตาคลอ รู้สึกน้อยใจที่พี่ชายเอาแต่ดุเขา เห็นสีหน้าน้องเป็นแบบนั้นแล้วเจอร์รี่ก็เบือนหน้าหนีทันทีด้วยกลัวจะใจอ่อนกับน้องจนทำเสียแผน

"ได้ยินหรือเปล่า?" พูดเสียงเข้มกว่าเดิม

"ได้ยินแล้ว" เคนพูดเบาๆแล้วหันหลังเดินไปที่บันไดแต่ก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ชายถึงไม่ยอมให้เขาไปด้วย เสียงร้องไห้ของน้องทำเอาเจอร์รี่อดที่จะหันกลับไปมองด้วยความเป็นห่วงไม่ได้

"ติ๊ดๆๆๆ" โทรศัพท์มือถือดึงขึ้นเจอร์รี่จึงกดรับทันที

"มาได้หรือยัง? ชั้นลงเครื่องแล้วนะ" แวนเนสบ่นมาตามสาย

"เออ กำลังจะไปแต่ห่วงเสี้ยวเทียนว่ะ" เจอร์รี่ตอบพร้อมกับบอกน้องต่อด้วย

"ทำไม? มันไม่ยอมหรอ?" ถามกลับมาอย่างไม่แปลกใจนัก

"ไม่เชิงว่าไม่ยอม แต่มันร้องไห้น่ะสิ ทิ้งมันไว้คนเดียวจะดีหรอ?" เจอร์รี่ปรึกษาน้องชายคนรอง

"ทำไมหมู่นี้มันเปราะบางจังวะ? เฮ่อ! งั้นเอาไจ่ไจ๋อยู่เป็นเพื่อนมันดีมั๊ย?" แวนเนสเสนอความคิดเห็น

"อืม....แบบนั้นก็ดีเหมือนกัน" เจอร์รี่ตอบรับเพราะไม่เห็นทางอื่นที่จะดีกว่านี้แล้ว

"งั้นแค่นี้แล้วกันชั้นจะไปแล้ว" พูดจบเจอร์รี่ก็ตัดสายแล้วเดินไปหาน้องเล็กที่ยืนรออยู่หน้าบ้าน

"พี่กลางเป็นงัย?" เมื่อเห็นพี่ใหญ่ออกมาไจ่ไจ๋ก็ถามทันที

"ไจ่ไจ๋ เห็นทีนายต้องอยู่บ้านเป็นเพื่อนพี่กลางแล้วหละ มันน้อยใจจนร้องไห้ขึ้นห้องไปแล้ว" ได้ยินดังนั้นไจ่ไจ๋ก็มีสีหน้าตกใจ

"จริงหรอพี่ใหญ่? ก็พี่ใหญ่อ่ะดุพี่กลางอีกแล้วใช่มั๊ย?" ไม่วายที่จะต่อว่าพี่ชายคนโตไปด้วย

"พี่ไม่ได้ดุซักหน่อย แค่ขู่นิดเดียวเอง" แก้ตัวเสียงอ่อยๆ

"เฮ่อ! งั้นพี่ใหญ่รีบไปเถอะ ยังงัยก็รีบกลับก็แล้วกันนะอย่าปล่อยให้พี่กลางต้องเศร้านาน" พูดจบก็โบกมือไล่ให้พี่ชายรีบไป

"เออๆๆๆ แล้วพี่จะรีบกลับ นายขึ้นไปปลอบพี่กลางหน่อยแล้วกัน" สั่งกำชับน้องเสร็จก็รีบขับรถออกไป




 

Create Date : 30 ธันวาคม 2550    
Last Update : 30 ธันวาคม 2550 20:53:42 น.
Counter : 1519 Pageviews.  

Chapter 35

ตอนที่ 35

"เสี้ยวเทียน นายทำให้น้องไม่สบายใจนะ" แวนเนสเดินตามเคนขึ้นมาพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเครียด

"งั้นหรอ?" เคนตอบรับแบบไม่สนใจนักแต่ในใจก็รู้สึกผิดที่ทำแบบนั้นกับน้อง

"น้องมันห่วงความรู้สึกนายมาก น้องบอกชั้นว่าน้องอาจจะตัดสินใจไม่ไปเพื่อความสบายใจของนายก็ได้" เคนยังนั่งนิ่งไม่พูดโต้ตอบอะไร

"แล้วนายรู้มั๊ยว่าหากน้องไม่ไปผลที่ตามมาจะเป็นยังงัย?" แวนเนสเดินเข้ามาใกล้ก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ

"น้องก็ต้องดรอปเรียนวิชานี้เพราะไม่มีคะแนนในการทำโครงงาน" เคนอึ้งไปเมื่อได้ยินเช่นนี้

"ชั้นไม่ได้อยากจะห้ามน้องหรอก" เคนพูดแย้งขึ้นมาเสียงอ่อยๆ

"แล้วทำแบบนี้ทำไม?" แวนเนสย้อนถามเสียงเครียด

"ก็นายก็ต้องเดินทางไปวันเดียวกับน้องเหมือนกันหนิ แล้วชั้นก็ต้องอยู่บ้านกับเจอร์รี่ ชั้นไม่อยากอยู่กับมันแค่สองคน" ตอบคำถามพี่ชายเสียงแผ่ว แวนเนสได้ยินดังนั้นก็ทั้งฉุนทั้งขำ

"เสี้ยวเทียน! นายนี่มันเหมือนเด็กไม่รู้จักโตมากขึ้นทุกวันแล้วนะ! รู้จักแยกแยะซะบ้างสิว่าอะไรเป็นอะไร? คนเรามันก็ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบนะโว้ย! จะทำอะไรตามใจนายตลอดเวลาได้ที่ไหนกัน!" เคนหน้าจ๋อยเมื่อโดนพี่ชายเอ็ดเอาชุดใหญ่

"แล้วนายจะทิ้งชั้นอยู่กับมันจริงๆหรอ? ถ้าเกิดชั้นทำอะไรให้มันไม่พอใจขึ้นมาหละ?" เคนเงยหน้าพูดกับพี่ชายเสียงอ่อย

"นายเองก็รู้หนิว่าเจอร์รี่มันตีดุเดือดขนาดไหน ยิ่งไม่มีคนห้ามด้วยแล้วชั้นไม่ต้องโดนมันตีจนตายเลยหรืองัย? ชั้นไม่อยากเป็นผีเฝ้าบ้านนะ" แวนเนสอ้ำอึ้งกับคำพูดของน้องชาย

"นี่....เจอร์รี่มันไม่ใช่ยักษ์ไม่ใช่มารที่ไหนนะ มันเป็นพี่ชายของนาย ต่อให้นายจะทำผิดมากขนาดไหนมันก็ไม่เอานายถึงตายหรอก" แวนเนสพูดกับน้องอย่างอ่อนใจ

"ไม่ตายน้อยหละสิ ขนาดชั้นทำผิดเล็กๆน้อยๆมันด่าอยู่สามวันเจ็ดวันกว่าจะเลิก" เคนพูดด้วยสีหน้าสลดลง

"เฮ่อ!" แวนเนสถอนหายใจหนักๆอย่างเหนื่อยใจกับความคิดของน้องที่มองพี่ใหญ่ในแง่ร้าย

"นายก็เลยจะเอาชั้นกับไจ่ไจ๋คอยเป็นไม้กันหมาให้นายตลอดงั้นหรอ?" แวนเนสย้อนถาม

"ให้เป็นหมากันไม้ต่างหาก" เคนเถียงเบาๆ

"ก็เพราะนายมันเป็นแบบนี้งัยเล่าเจอร์รี่มันถึงได้ตีเอาบ่อยๆ! บอกตามตรงเลยนะบางทีชั้นก็อยากจะฟาดนายให้บ้างเหมือนกัน!" แวนเนสดุน้องจริงจัง

"แวนเนส.....งั้นวันมะรืนชั้นไปค้างบ้านเพื่อนน่าจะดีกว่าเนอะ" เคนเปลี่ยนเรื่องหน้าตาเฉย

"เสี้ยวเทียน!!!!" แวนเนสเอ็ดใส่น้องเสียงดังกว่าเก่าเมื่อเห็นว่าน้องไม่ได้ฟังที่เขาพูดเลย

"นายขอเจอร์รี่ให้ชั้นหน่อยนะ....นะแวนเนสนะ....." เคนขอร้องพี่ชายต่อด้วยสีหน้าละห้อย

"ไม่! ถ้าอยากจะไปก็ขอมันเอง!" พูดจบแวนเนสก็เดินออกไปอย่างหงุดหงิด

"แค่นี้ต้องโมโหด้วย!" เคนบ่นอุบตามหลังพี่ชายแล้วล้มตัวลงนอนอย่างเซ็งๆ

"พี่กลาง" เคนหันไปตามเสียงเรียกแล้วก็เห็นน้องเล็กเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าเครียดๆ

"ผมไม่ไปแล้ว พี่อย่าโกรธผมเลยนะ" เคนได้ยินก็ขยับตัวลุกขึ้นมานั่ง

"ไจ่ไจ๋ มานี่มา...." เคนเรียกน้องแล้วตบที่นั่งข้างๆตัวเอง

"ไม่เป็นไรครับ ผมจะเข้ามาบอกพี่แค่นี้" พูดจบไจ่ไจ๋ก็หมุนตัวจะออกไปแต่เคนรีบลุกไปดึงมือน้องไว้ก่อน

"อย่าเพิ่งไปสิ พี่ขอโทษที่พูดแบบนั้นกับนาย" เคนเอ่ยขอโทษน้องขึ้นมาก่อน ไจ่ไจ๋จึงไม่ดิ้นรนอะไร

"พี่ไม่ได้คิดว่านายจะไปเที่ยวเลยนะ พี่รู้ว่านายจำเป็นต้องไปทำการบ้านที่อาจารย์สั่ง พี่ผิดเองที่พูดจาแย่ๆ นายไปเถอะนะ ไปทำโครงงานของนายให้เสร็จจะได้มีคะแนนดีๆกลับมาฝากพี่" น้องเล็กเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก

"ไม่มีใครบังคับให้พี่พูดกับผมแบบนี้ใช่มั๊ย?" ย้อนถามอย่างไม่ไว้ใจนัก

"ไม่มีหรอก พี่เป็นคนที่ถูกชักจูงได้ง่ายๆหรืองัย?" เคนแกล้งถามแหย่น้อง ไจ่ไจ๋จึงยิ้มออกมาได้

"พี่กลางทำเอาผมใจไม่ดีเลย ยังนึกอยู่เลยว่าทำไมพี่ถึงไม่ไว้ใจผม" เคนกอดน้องเป็นการขอโทษ

"พี่ผิดเอง พี่มันเห็นแก่ตัวไม่เคยคิดถึงความจำเป็นของคนอื่น" น้องเล็กเอามือสองข้างประคองหน้าพี่ชายแล้วส่ายหน้าอย่างแรง

"ไม่จริง! พี่กลางไม่เคยเห็นแก่ตัว พี่กลางยอมให้ทุกคนตลอด" เคนยิ้มแบบเฝื่อนๆเมื่อได้ยินแต่ก็รู้สึกดีขึ้นกับคำปลอบใจของน้อง

"เห็นแก่ตัวสิ เพราะพี่ไม่อยากอยู่บ้านกับพี่ใหญ่สองคนพี่ถึงหาเรื่องมาอ้างเพื่อไม่ให้นายได้ไปทำโครงงานกับเพื่อน" น้องเล็กชะงักไปแล้วขยับเข้าไปกอดคอพี่ชายแทน

"พี่กลางยังไม่หายงอนพี่ใหญ่อีกหรอ?" เคนนิ่งไปเมื่อได้ยินคำถามนั้น

"เมื่อเช้าผมเห็นพี่ดูแปลกๆ พี่ใหญ่ก็เหมือนกัน พี่รองก็อีกคน ทำไมพี่มีอะไรกันถึงไม่ยอมบอกผมหละ?" เคนเอามือลูบหัวน้องเบาๆ

"นายเรียนอย่างเดียวก็หนักเกินพอแล้ว พี่จะเอาเรื่องไร้สาระมายัดใส่หัวนายอีกทำไม?" ไจ่ไจ๋ผละตัวออกจากพี่ชาย

"ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับพวกพี่ไม่ใช่เรื่องไร้สาระสำหรับผมเลยนะ ผมต้องอึดอัดใจทุกครั้งที่เห็นพวกพี่มีเรื่องกัน ผมไม่สบายใจเลย" ไจ่ไจ๋บอกพี่ชายตามตรง

"พี่ขอโทษ ขอโทษนะ" เคนบอกน้องซ้ำไปซ้ำมาด้วยรู้สึกผิดที่ทำให้น้องไม่สบายใจ

"พี่มีอะไรก็บอกผมได้นะ ผมอยากช่วยพี่ อยากทำให้พี่สบายใจ" เคนยิ้มแล้วพยักหน้ารับ

"เรื่องกีต้าร์นั่นผมคงไม่มีปัญญาซื้อมาให้พี่ได้หรอก แต่ผมช่วยพี่ออกเงินได้นะครับ เงินเก็บผมก็พอมีอยู่ มันอาจจะไม่มากเท่าไหร่แต่มันก็ไม่น้อยเหมือนกัน" น้องเล็กเสนอที่จะช่วยพี่ชาย เคนได้ยินก็อึ้งไปไม่นึกว่าน้องจะทำเพื่อเขาได้ขนาดนี้

"ไม่ต้องหรอกไจ่ไจ๋ ยังงัยพี่ก็ขอบใจนายมากนะ พี่ดีใจที่มีน้องน่ารักแบบนาย" เคนปฏิเสธน้องอย่างนิ่มนวล

"แต่ผมรู้ว่าพี่อยากได้" น้องเล็กแย้งขึ้นอย่างรู้ใจพี่ชาย

"เอาหละๆๆๆ พี่อยากได้ แต่พี่จะเก็บเงินซื้อเอง" เคนยอมรับกับน้องตรงๆ

"แต่ผมอยากช่วยพี่บ้าง เพราะทุกครั้งที่ผมอยากได้อะไรพี่ก็ซื้อให้ผมทุกอย่างไม่เคยปฏิเสธเลยซักครั้ง" น้องเล็กยังคงดึงดันจะช่วย

"เอางี้แล้วกัน ขอพี่เก็บเงินซักระยะก่อนแล้วถ้าไม่พอพี่จะขอให้นายช่วย โอเคมั๊ย?" เคนต้องโอนอ่อนผ่อนตามน้องแต่เขาก็ไม่คิดจะให้น้องช่วยเหลือจริงๆ

"โอเคครับ! พี่ต้องการเมื่อไหร่บอกผมได้ทันทีเลยนะ" ไจ่ไจ๋พูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงขึ้น

"อืม....พี่ต้องบอกนายแน่ๆ" เคนรับคำน้องพร้อมกับยิ้มให้ ไจ่ไจ๋ยิ้มตอบพี่ชายแล้วเอาหัวพิงซบที่ไหล่พี่ชายอีกครั้ง



- สองวันต่อมา -

"พี่กลาง ทำไมทำหน้าอย่างงั้นหละครับ?" ไจ่ไจ๋พูดขึ้นเมื่อเห็นเคนทำหน้าจ๋อยๆ

"เปล่า พี่แค่ไม่อยากให้นายไปเลย" เคนตอบเสียงอ่อยๆ ไจ่ไจ๋อมยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมา

"คราวนี้พี่รู้แล้วสิว่าเวลาผมไปส่งพี่ไปทำงานแล้วจะมีความรู้สึกยังงัย?" น้องเล็กได้ทีแหย่พี่ชาย

"รักษาตัวดีๆด้วยหละ ถึงแล้วโทรมาบอกพี่ด้วยนะ" เคนไม่มีอารมณ์จะเล่นกับน้องจึงกำชับกำชาไว้

"ได้ครับผม" ไจ่ไจ๋รับคำพี่ชายอย่างดีแล้วเดินไปกอดแวนเนสบ้าง

"พี่รองก็เดินทางปลอดภัยนะครับ เสียดายที่ผมไม่ได้ไปส่งพี่รอง" แวนเนสขยี้หัวน้องแล้วหัวเราะเบาๆ

"ไม่เป็นไรหรอก พี่ก็มาส่งนายแทนงัย รีบไปเถอะเดี๋ยวขึ้นรถไม่ทัน" แวนเนสว่าแล้วเร่งให้น้องรีบไป

"ครับ ผมไปแล้วนะครับพี่ใหญ่ ส่งพี่รองเผื่อผมด้วย" ไจ่ไจ๋หันมาลาพี่ชายคนโตบ้าง

"อืม....แล้วระวังตัวหน่อยหละ เวลาไปไหนอย่าไปคนเดียว รู้มั๊ย?" เจอร์รี่กำชับแล้วดึงน้องมากอดแรงๆ

"รู้แล้วครับ ไว้ผมจะโทรหาเป็นระยะๆแล้วกัน ผมไปนะครับ" พูดจบก็โบกมือให้พี่ชายทั้งสามคนแล้วสะพายเป้ใบใหญ่ขึ้นรถบัสที่จอดรออยู่

"ไป....คราวนี้ก็ไปส่งนายบ้าง" เมื่อเห็นน้องขึ้นรถและได้ที่นั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วเจอร์รี่ก็กอดคอแวนเนสแล้วชวนกลับไปที่รถ

"เสี้ยวเทียน" แวนเนสหันมาเรียกน้องด้วย เคนมองไปที่น้องชายอีกครั้งแล้วเดินตามพี่ชายทั้งคู่ไป

"มันไม่ยอมคุยกับชั้นมาตั้งหลายวันแล้ว ร้ายกาจชะมัด!" เจอร์รี่บ่นอุบในระหว่างเดินกลับมาที่รถ

"นายก็ไม่อ่อนข้อให้มันบ้างหนิ อยู่กับมันสองคนอย่ามีปัญหากันหละ ชั้นขี้เกียจบินกลับมาทำศพให้ใคร" แวนเนสว่าพร้อมกับแขวะพี่ชายไปด้วย

"ปากดี!" เจอร์รี่เอามือตบหัวน้องเบาๆ ตลอดทางมาสนามบินมีเพียงแวนเนสกับเจอร์รี่เท่านั้นที่นั่งคุยกันส่วนเคนได้แต่นั่งเงียบมาตลอดจนกระทั่งถึงที่หมาย

"เสี่ยวจือรออยู่นั่นงัย" พี่ใหญ่ชี้ไปทางผู้จัดการส่วนตัวของน้องชายที่โบกมือเรียกอยู่อีกทางหนึ่ง

"แหม....มาเช้ากว่าผมได้งัย?" แวนเนสเอ่ยทักเสี่ยวจืออย่างอารมณ์ดีพร้อมกับขยับแว่นตาและดึงหมวกลงมาปิดหน้าเพื่อกันไม่ให้คนสังเกตเห็น

"ก็มารอเธองัยหละ" เสี่ยวจือตอบยิ้มๆแล้วหันไปทักทายเจอร์รี่กับเคนด้วย เจอร์รี่เองก็ทักทายเสี่ยวจือด้วยสีหน้ายิ้มแย้มในขณะที่เคนมีสีหน้าหงอยๆ

"เสี้ยวเทียนเป็นอะไรหรือเปล่า? สีหน้าดูไม่ค่อยดี" เสี่ยวจือถามขึ้น แวนเนสมองไปที่น้องชายพลางอมยิ้ม

"มันไม่อยากให้ผมไป ไม่รู้เป็นอะไรช่วงนี้มันรักผมมากผิดปกติ" ว่าพลางโอบไหล่น้องแล้วเขย่าเบาๆ

"งั้นหรอ?" เสี่ยวจือเลยพลอยหัวเราะไปด้วย

"เดี๋ยวพี่ใหญ่จะเอานายไปบริษัทด้วยแหนะ เขาไม่ไว้ใจหากจะปล่อยนายอยู่บ้านคนเดียว" แวนเนสหันมาพูดกับน้องชาย

"ไม่เอา ชั้นไม่ไป ชั้นไม่ไปนะแวนเนส" เคนแย้งขึ้นทันที

"โน้น! ไปพูดกับมันเอง ชั้นไม่เกี่ยว" แวนเนสบอกปัดพร้อมกับพยักเพยิดไปทางพี่ชาย

"ชั้นว่าเข้าไปข้างในดีกว่าแวนเนส ตรงนี้คนเยอะเดี๋ยวจะเป็นจุดสังเกต" เสี่ยวจือบอกแวนเนสกลายๆ

"ครับ งั้นลากันตรงนี้แหละ" แวนเนสตอบรับคำผู้จัดการก่อนที่จะหันมาทางพี่น้องอีกสองคน

"เดินทางโดยสวัสดิภาพนะ ถึงแล้วโทรมาบอกด้วย" พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับจับไหล่ทั้งสองข้างของน้องเขย่าเบาๆ

"แล้วตั้งใจทำงานให้ดีๆ อย่าดื้ออย่างอแงอย่าทำให้เสี่ยวจือต้องลำบากใจด้วยหละ" กำชับกำชาน้องชายต่ออีก

"ครับผม" แวนเนสตอบรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เจอร์รี่ยิ้มตอบแล้วกอดน้องชายพร้อมกับตบหลังเบาๆ

"มานี่ซิไอ้ตัวแสบ" เมื่อลาพี่ชายเสร็จแล้วแวนเนสก็ดึงแขนน้องมาใกล้ๆ

"ไม่ลาพี่รองหน่อยหรืองัย? หืม?" พูดหยอกน้องยิ้มๆ

"นายรีบกลับนะแวนเนส ทำงานเสร็จเร็วๆแล้วกลับวันนี้ได้มั๊ย?" เคนถามพลางมองหน้าพี่ชาย

"นายนี่อ้อนไม่เข้าเรื่องเลย ถ่ายโฆษณานะไม่ได้ไปนั่งจิบน้ำชาถึงได้ไปเช้าเย็นกลับ อย่างอแงหน่า.....ทำตัวดีๆหน่อย พี่ใหญ่เขาพูดอะไรก็ต้องเชื่อฟัง เข้าใจมั๊ย?" แวนเนสสั่งเสียน้องชายอย่างเป็นการเป็นงาน เคนไม่ตอบแต่สีหน้ามุ่ยสนิท

"ไม่งั้นโดนพี่เขาตีเอาแล้วอย่ามาหาว่าพี่รองคนนี้ไม่เตือนก็แล้วกัน" เคนถอนหายใจแล้วสวมกอดพี่ชาย แวนเนสได้แต่ส่ายหน้าแต่ก็กอดน้องเอาไว้

"แวนเนส นายรีบไปได้แล้ว" เจอร์รี่ยืนอยู่ข้างๆพูดตัดบทแล้วพยักหน้าให้น้องรีบไป แวนเนสพยักหน้าแล้วดันตัวน้องชายออกอย่างนุ่มนวลนึกสงสารน้องอยู่เหมือนกันแต่ก็ต้องปล่อยตามเรื่องตามราว

"ไป....ไปหาพี่ใหญ่...." แวนเนสจับมือน้องไปให้พี่ชายคนโต เจอร์รี่จับมือเคนไว้แล้วยืนรอส่งจนกระทั่งแวนเนสเดินหายเข้าไปจึงค่อยหันมาทางน้องชาย

"หาข้าวกินกันก่อนนะแล้วค่อยเข้าบริษัทกัน" พยายามพูดเอาใจน้องชาย

"ทำไมถึงต้องเอาชั้นไปด้วย?" เคนถามเสียงห้วนๆแล้วดึงมือออก

"ก็เพราะนายเป็นแบบนี้งัย" เจอร์รี่ย้อนเสียงแข็ง

"อย่าทำตัวดื้อด้านให้มากนัก ชั้นไม่ตามใจนายเหมือนแวนเนสนะ" เคนได้ยินก็ทำหน้าง้ำแต่ก็ไม่กล้าโวยวายด้วยห่วงความปลอดภัยของตัวเอง

"อยากกินอะไรหละหืม?" ถามย้ำกับน้องชายอีก

"ชั้นไม่หิว!" พูดจบเคนก็เบือนหน้าหนีไปทางอื่นจนพี่ใหญ่นึกอยากจะซัดให้ซักเปรี้ยง

"งั้นก็เข้าบริษัท" พูดเสียงห้วนพร้อมกับลากน้องกลับไปที่รถ พอเจอร์รี่เข้านั่งประจำที่คนขับเคนก็เดินไปประตูขึ้นนั่งตอนหลังรถไม่ยอมนั่งคู่กับพี่ชาย

"นี่! ทำไมไม่มานั่งข้างหน้า? ชั้นเป็นคนขับรถของนายหรืองัย?" เจอร์รี่ต่อว่าน้องแล้วมองผ่านทางกระจกมองด้านหลัง

"เสี้ยวเทียน! มานั่งข้างหน้า!" เอ็ดใส่พร้อมกับออกคำสั่งเมื่อเห็นน้องยังนั่งเฉย

"พูดคำเดียวฟังไม่รู้เรื่องใช่มั๊ย?" เมื่อเป็นดังนั้นเจอร์รี่จึงเลื่อนมือไปปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วทำท่าจะลงจากรถ เคนเห็นก็รีบเปิดประตูลงมาแล้วย้ายมานั่งด้านหน้าทันที

"ดื้อนักนะ!" ไม่พูดเปล่าแต่เอามือหยิกลงที่ต้นแขนน้องด้วย

"ทำไมต้องหยิกด้วย!.....โอ้ยยย....." เคนจะต่อว่าพี่ชายแต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนเป็นเสียงร้องขึ้นมาเพราะโดนพี่ชายหยิกเอาอีกทีหนึ่ง

"จะถามอีกมั๊ย?" ทำเสียงเข้มใส่พร้อมกับมองด้วยสายตาดุๆ เคนเอามือลูบแขนแล้วก้มหน้าลงไม่กล้าต่อคำกับพี่ชายอีก

"คาดเข็มขัดด้วย!" บอกน้องต่อด้วยน้ำเสียงห้วนๆ เคนเบือนหน้าออกไปนอกหน้าต่างไม่ทำตามคำนั้น เจอร์รี่ส่ายหน้าแล้วโน้มตัวไปดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้น้องชายเสร็จแล้วก็ผลักหัวแถมให้อีกทีก่อนที่จะออกรถ ตลอดทางสองพี่น้องไม่ได้คุยอะไรกันเลยจนกระทั่งมาถึงบริษัทเคนก็ลงรถโดยไม่สนใจพี่ชายแล้วเดินดุ่มๆเข้าไปทักทายเพื่อนฝูงที่เคยร่วมงานกันอย่างสนิทสนม

"เสี้ยวเทียน! ไหงมาได้หละวันนี้? ได้ข่าวว่าไปเป็นเชฟบนเรือสำราญแล้วหรอ? โก้ดีนี่หว่า" เพื่อนร่วมงานเอ่ยทักพร้อมกับตบไหล่เคนเบาๆ

"เออ! ไม่โก้หรอก! เหมือนเป็นขี้ข้าเขานั่นแหละ" เคนตอบเพื่อนยิ้มๆก่อนที่จะหันไปทักทายเพื่อนๆคนอื่นด้วย

"อะฮึ่ม! เสียงดังกันเชียวนะครับ" เจอร์รี่ที่เพิ่งเดินตามน้องเข้าพูดหยอกบรรดาพนักงาน

"วันนี้ผู้จัดการเข้างานสายนะครับ" หนึ่งในนั้นหยอกกลับยิ้มๆ

"ผมไปส่งไจ่ไจ๋ที่มหาลัยแล้วก็เลยไปส่งแวนเนสที่สนามบินก็เลยมาสาย...." เจอร์รี่ว่าพร้อมกับยกนาฬิกาขึ้นมาดู

"มาสายไปแค่ 20 นาทีเอง" พูดแก้ตัวให้ตัวเองกลายๆ คนได้ฟังก็พากันหัวเราะ

"แวนเนสไปไหนหรอครับ?" พนักงานคนเดิมถาม

"ไปเมืองจีนน่ะ ถ่ายโฆษณาอะไรของเขาก็ไม่รู้ เดี๋ยวนี้เพื่อนคุณชักจะดังใหญ่แล้ว" ตอบยิ้มๆแล้วหันไปทางเคน

"เดี๋ยวช่วงเที่ยงผมค่อยปล่อยตัวเสี้ยวเทียนออกมาเม้าท์ก็แล้วกัน ตอนนี้ขอเอาไปใช้งานก่อน" พูดจบก็ดึงแขนน้องพาเข้าไปที่ห้องทำงานของตัวเอง

"หาอะไรกินก่อนสิ ข้าวเช้ายังไม่ได้กินเลยหนิ" เมื่อเข้ามาในห้องเจอร์รี่ก็บอกน้องอย่างเป็นห่วง เคนยักไหล่แล้วทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้

"ไม่กินก็เอาแฟ้มพวกนี้ไปตรวจให้ชั้นหน่อย!" พี่ใหญ่ถือโอกาสใช้งานน้อง เคนมองแฟ้มที่พี่ชายวางมาให้ตรงหน้าแล้วก็เบ้ปาก

"ทำให้เสร็จภายในวันนี้ด้วยนะ" พูดย้ำกับน้องแล้วเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง

"ใช้ใหญ่เลยนะ" เคนบ่นอุบแล้วหยิบแฟ้มขึ้นมาดูอย่างเซ็งๆ

"ดูให้รอบคอบอย่าให้ผิดพลาดหละ!" สั่งกำชับน้องชายตามมา

"นายคงลืมอะไรไปอย่างนะว่าชั้นไม่ได้เป็นพนักงานที่นี่แล้ว" เคนพูดเปรยขึ้นลอยๆคล้ายจะเตือนความจำพี่ชาย

"นายก็คงลืมไปว่าไอ้บริษัทนี้มันเป็นปากท้องที่นายอยู่นายกินเข้าไปทุกวันเหมือนกัน" พี่ใหญ่โต้ตอบน้องกลับมาบ้าง

"ทำเป็นทวงบุญคุณ!" เคนพึมพำเบาๆคนเดียวแต่เจอร์รี่ก็ได้ยินเพราะภายในห้องค่อนข้างเงียบ

"ชั้นไม่ได้ทวงบุญคุณแต่ชั้นกำลังจะบอกว่าที่นี่ไม่ใช่บริษัทของพ่อแม่ หรือว่าของชั้นเพียงคนเดียว แต่นายก็มีส่วนในการเป็นเจ้าของที่นี่ด้วยเหมือนกัน ฉะนั้นหน้าที่ความรับผิดชอบของนายมันไม่ได้สิ้นสุดลงเมื่อนายก้าวพ้นออกจากบริษัทนี้แต่นายยังคงมีหน้าที่รับผิดชอบที่นี่เท่าเทียมกับชั้นเหมือนกัน" พี่ใหญ่พูดยาวเหยียดก่อนที่จะชี้นิ้วลงที่แฟ้มงานตรงหน้าน้องชาย เคนถอนหายใจอย่างยอมจำนนที่ต้องทำตามคำสั่งของพี่ชาย

"เสร็จซักเล่มหรือยัง?" เวลาผ่านมาได้ครู่ใหญ่เจอร์รี่ก็ส่งเสียงถามน้องที่นั่งเอามือเท้าคางพลางอ้าปากหาวอย่างเบื่อหน่าย

"เสร็จแล้วเล่มนึง" เคนตอบด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ เจอร์รี่ส่ายหน้าอย่างระอาใจกับน้องชาย

"เอามาให้ชั้นตรวจดูอีกทีซิ" บอกกล่าวกับน้องพร้อมกับพยักหน้าเรียก เคนหยิบเอาแฟ้มงานที่ตัวเองตรวจดูเสร็จแล้วไปยื่นให้พี่ชาย

"ยืนอยู่นี่ก่อน" เจอร์รี่บอกแล้วรับแฟ้มมาเปิดดู เขากวาดสายตาดูคร่าวๆพร้อมกับเอาดินสอวงสิ่งที่ผิดพลาดไปด้วย

"นี่นายตรวจดูประสาอะไรของนาย? ผิดตั้งหลายจุดไม่เห็นนายจะทำสัญลักษณ์ไว้เลย" พี่ใหญ่บ่นพร้อมกับตรวจซ้ำอีกรอบ เคนตีหน้าเบื่อๆแล้วหันหน้าหนีไปทางอื่น

"ขยับเข้ามาใกล้ๆหน่อยซิ" เงยหน้าขึ้นมาเรียกน้อง เคนถอนหายใจแล้วเดินอ้อมเข้ามายืนข้างๆเก้าอี้ของพี่ชาย

"นั่งลง" พูดจบก็วางแฟ้มกางไว้บนโต๊ะเพื่อให้น้องดูด้วย เคนนั่งคุกเข่าลงที่พื้นพร้อมกับเอาแขนเท้าลงที่โต๊ะอย่างเบื่อๆ

"นี่หรอที่นายบอกว่าตรวจดูแล้ว?" พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับวงสิ่งที่ผิดในแฟ้มนั้นให้น้องดู

"ชั้นไม่ทำนาน ก็ต้องลืมมั่งสิ" เคนแก้ตัวน้ำขุ่นๆเพราะที่จริงแล้วเขาแทบจะไม่ได้ตั้งใจดูแฟ้มงานดังกล่าวเลย

"ลืมหรอ!?" พี่ใหญ่ทวนคำพร้อมกับเอาดินสอในมือเคาะลงที่หัวน้องชาย เขารู้ว่าน้องไม่ได้ลืมแต่ไม่สนใจมากกว่า

"โอ้ย!!" เคนร้องพลางเอามือคลำหัวตัวเอง

"ความจำเริ่มกลับคืนมาหรือยัง?" ถามน้องชายต่อพร้อมกับทำท่าจะซ้ำอีก เคนทำหน้ามุ่ยแล้วดึงเอาดินสอออกมาจากมือพี่ชายก่อนที่จะวางกระแทกลงบนโต๊ะ

"เอากลับไปดูใหม่ ถ้าไม่ตั้งใจทำจริงๆก็อย่าหวังเลยว่าชั้นจะให้ในสิ่งที่นายอยากได้" เคนได้ยินดังนั้นก็ชะงักไป

"นายรู้หรอว่าชั้นอยากได้อะไร?" เคนย้อนถามพี่ชาย

"ฮึ! ชั้นมองหน้านายแค่แว๊บเดียวก็รู้ไปถึงความคิดของนายแล้ว" พี่ใหญ่ผลักหัวน้องเบาๆ

"ถ้าชั้นตั้งใจทำจนเสร็จหมดทุกอันแล้ว นายจะให้สิ่งที่ชั้นอยากได้ใช่มั๊ย?" เคนถามพี่ชายอีก เจอร์รี่อมยิ้มแล้วพยักหน้ารับ

"ทำเสร็จก่อนแล้วชั้นถึงจะให้ แต่ต้องทำให้ดีด้วยนะไม่ใช่ทำแบบขอไปที" เจอร์รี่ตอบพร้อมกับพูดดักน้องไว้ด้วย เคนได้ยินก็ค่อยมีความหวังขึ้นมาหน่อยรีบหยิบแฟ้มอันเดิมเดินกลับไปนั่งตรวจอย่างตั้งอกตั้งใจ

"ต้องให้เอาของมาล่อ เหมือนเด็กไม่มีผิด" เจอร์รี่พึมพำเบาๆแต่ใบหน้าก็เจือไปด้วยรอยยิ้ม



- ตอนเย็น -

"เฮ่อ! เสร็จซักที" เคนบ่นอุบออกมาพร้อมกับปิดแฟ้มเล่มสุดท้ายลงแล้วรวบรวมแฟ้มงานทั้งหมดไว้ในกองเดียวกัน

"เจอร์รี่ ชั้นทำเสร็จหมดแล้วนะ" หันไปบอกพี่ชายที่กำลังง่วนอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์

"เสร็จแล้วหรอ? ไหนเอามาให้ชั้นดูอีกทีซิ" เคนไม่ว่าอะไรแต่หยิบแฟ้มงานทั้งหมดไปให้พี่ชายแต่โดยดี

"ชั้นตรวจละเอียดเลยนะ ไม่มีผิดแน่นอน" เคนพูดต่อพร้อมกับเอามือชี้ผลงานที่ตัวเองทำ เจอร์รี่ยิ้มแล้วพยักหน้า

"ดีมาก! เก่งจริงๆน้องพี่คนนี้" เอ่ยชมน้องชายต่อ เคนยิ้มแล้วนั่งคุกเข่าลงที่พื้นๆข้างๆเก้าอี้พี่ชาย

"งั้นเรากลับกันเถอะนะ ที่เหลือค่อยมาทำต่อพรุ่งนี้ก็ได้" พี่ใหญ่ยิ้มอย่างรู้ทันว่าน้องอยากจะให้เขาทำอะไร

"พรุ่งนี้นายจะมาช่วยพี่ใหญ่อีกหรือเปล่า?" แกล้งถามหยั่งเชิงน้องชาย

"มาสิ ถ้านายอยากให้ชั้นมาชั้นก็จะมาช่วย" เคนตอบเอาใจพี่ชาย

"น่ารักแบบนี้ต้องมีรางวัลให้ซะแล้วสิ" พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับมองหน้าน้องชาย

"งั้นเราไป....." เคนกำลังจะชวนพี่ชายไปห้างสรรพสินค้าเพื่อขอให้พี่ชายซื้อกีต้าร์ที่ตัวเองต้องการแต่เจอร์รี่กลับลุกขึ้นแล้วเปิดลิ้นชักออกมา

"อะ....ถือว่าเป็นค่าเหนื่อยสำหรับวันนี้" เจอร์รี่ยื่นซองใส่เงินให้น้องชาย เคนทำหน้าบอกไม่ถูกเพราะเขาไม่ได้อยากได้เงิน

"ทำไม? นายอยากได้สิ่งนี้ไม่ใช่หรอ?" เจอร์รี่แกล้งทำเป็นถามทั้งๆที่รู้ดีว่าที่จริงแล้วน้องอยากได้อะไรกันแน่

"ชั้น...." เคนมีท่าทีอึกอัก เจอร์รี่จึงจับมือน้องขึ้นมาแล้ววางซองไว้บนมือน้อง

"เล็กๆน้อยๆหน่า ไม่ต้องเกรงใจหรอก" เคนมองซองบนมือแล้วเหลือบมองหน้าพี่ชายก่อนที่จะรับมาแกะดู

"สองร้อย?" เคนว่าพลางสะบัดธนบัตรไปมาส่วนมืออีกข้างก็สะบัดซองเผื่อว่ายังมีหลงเหลืออยู่

"มากไปหรอ? ถ้านายเกรงใจพี่เอาคืนร้อยนึงก็ได้" พี่ใหญ่แกล้งแหย่น้องต่อ เคนหน้ามุ่ยลงแล้วพับเงินเก็บเข้ากระเป๋า

"ทำงานหัวแทบจะระเบิดให้มาแค่นี้! ขี้งก!" เคนบ่นอุบอิบแล้วเดินไปทิ้งตัวนั่งที่เก้าอี้

"กลับบ้านกันก็ได้ เพราะเดี๋ยวพรุ่งนี้นายก็จะมาช่วยชั้นอยู่แล้วหนิ" พี่ใหญ่แกล้งพูดต่อ

"ไม่มาแล้ว! ชั้นจะไปหาเพื่อน!" เคนพูดเสียงห้วน

"อ้าว! ได้ยังงัยหละ? ก็เมื่อกี้นายรับปากชั้นแล้วหนิ" พี่ใหญ่ค้านขึ้น

"รับปากแล้วก็บอกเลิกได้" เคนเถียงแล้วเบือนหน้าหนีด้วยยังติดเคืองพี่ชายอยู่

"ไม่ได้หรอก ชั้นไม่ยอมนะ งานมีตั้งเยอะชั้นทำคนเดียวไม่ไหวหรอก" พี่ใหญ่ส่ายหน้าแล้วเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าน้องชาย

"ทำไม่ไหวก็จ้างคนเพิ่มสิครับ" เคนพูดประชดพลางค้อนใส่พี่ชายด้วย

"จ้างทำไม? นายเองก็ยังอยู่บ้านว่างๆเรื่องอะไรต้องเสียเงินไปจ้างคนเพิ่งหละ? สู้ไหว้วานให้นายช่วยไม่ดีกว่าหรอ?" พี่ใหญ่แกล้งทำหน้าซื่อไม่รู้ไม่ชี้กับคำประชดของน้องชาย

"ไม่รู้โว้ย! ชั้นไม่สน! แล้วพรุ่งนี้ก็ไม่มาด้วย!" เคนแหวใส่พี่ชายแล้วลุกขึ้นยืน

"ชั้นจะกลับบ้านแล้ว!" พูดจบก็เดินปังๆออกไปก่อนอย่างอารมณ์เสีย เจอร์รี่ถอนหายใจเฮือกแล้วส่ายหน้าไปมาก่อนที่จะรีบเก็บของแล้วตามน้องชายออกไป

"กินข้าวกันก่อนนะ" เจอร์รี่เอ่ยชวนเมื่อขึ้นมาประจำที่คนขับเรียบร้อยแล้ว เคนไม่สนใจพร้อมกับนั่งหันหลังหนีพี่ชาย

"เป็นอะไรขึ้นมาอีกหละหืม?" เอื้อมมือไปขยี้หัวน้องอย่างหมั่นไส้

"อย่ามายุ่งกับชั้น!" เคนแหวใส่พี่ชายแล้วซบหน้าลงกับเบาะรถยนต์ เจอร์รี่ส่ายหน้าแล้วขับรถมาจอดลงหน้าร้านอาหาร

"ลงไปกินข้าว! เร็วๆเข้า!" หันไปเขย่าตัวน้องชาย

"ชั้นไม่อยากกิน" เคนปฏิเสธสีหน้ายังคงบึ้งตึง

"ไม่กินได้ยังงัยหละ? วันนี้นายกินแค่ขนมปังสองแผ่นกับกาแฟแก้วเดียวเองนะ เมื่อเช้านายก็ไม่ยอมกินอะไรด้วย เดี๋ยวโรคกระเพาะได้ถามหาหรอก ลุกเร็วเข้า!" พี่ใหญ่คะยั้นคะยอน้องชายด้วยความเป็นห่วง เคนโงหัวขึ้นมาแล้วมองหน้าพี่ชายอย่างเซ็งๆก่อนที่จะยอมลงจากรถในที่สุด

"จะกินอะไร?" เจอร์รี่ถามน้องอย่างเอาอกเอาใจ เคนเบือนหน้าหนีอย่างเบื่อๆ

"งั้นชั้นสั่งหละนะ" พูดจบก็หันไปสั่งอาหารมาสองสามอย่างเป็นการตัดปัญหาเพื่อกันการโต้เถียงกับน้องอีก

"โทรไปหาไจ่ไจ๋หน่อยดีมั๊ย? อยากคุยกับน้องหรือเปล่า?" เอ่ยชวนน้องคุยขึ้นมา เคนนั่งนิ่งไม่ตอบเช่นเดิม เจอร์รี่จึงได้แต่ส่ายหน้าแล้วต่อสายไปหาน้องเล็กซะเอง

"ไจ่ไจ๋....ทำอะไรอยู่?" เมื่อน้องรับสายเจอร์รี่ก็เอ่ยถาม

"กำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อเตรียมรายงานกับเพื่อนๆอยู่ครับ แล้วพี่ใหญ่หละกลับถึงบ้านหรือยัง?" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วย้อนถามพี่ชายกลับมาด้วยน้ำเสียงร่าเริง

"ยังไม่ถึงเลย พี่กินข้าวอยู่" เจอร์รี่ตอบน้องยิ้มๆ

"แหม....ที่งี้ออกไปกินข้าวข้างนอกได้นะ ทีผมอยู่ไม่เห็นจะได้ออกไปบ้างเลย" น้องเล็กทำน้ำเสียงงอนๆกลับมา

"ไม่ใช่หรอก พอดีวันนี้ทำงานเหนื่อยๆกันน่ะ พี่กลางของนายคงหมดแรงทำกับข้าวแล้ว ก็เลยแวะกินซะก่อนค่อยเข้าบ้าน" พี่ใหญ่อธิบายให้น้องฟัง

"พี่กลางอยู่ด้วยใช่มั๊ย? ผมขอสายพี่เขาหน่อยสิ" ไจ่ไจ๋ขอคุยกับเคน

"ได้สิ แป๊บนึงนะ" พูดจบเจอร์รี่ก็ส่งโทรศัพท์ให้เคน

"น้องจะคุยด้วยแหนะ" เคนรับโทรศัพท์มาแนบหู

"ว่างัยไจ่ไจ๋? กลับบ้านได้หรือยัง?" เคนถามน้องชายทันที

"พี่กลางคิดถึงผมขนาดนั้นเชียวหรอครับ? หึๆๆๆ" เสียงน้องเล็กตอบกลับมาพลางหัวเราะเบาๆ

"เออ! พี่เซ็งจะตายอยู่แล้ว!" เคนตวัดเสียงพร้อมกับแอบค้อนใส่พี่ชาย

"ทำไม? โดนพี่ใหญ่ขัดใจอีกแล้วหรอ?" น้องเล็กถามกลับมา

"โอ้ย! ไม่คุยด้วยแล้ว! พรุ่งนี้กลับมาเร็วๆก็แล้วกัน!" เคนโวยวายพร้อมกับยื่นโทรศัพท์คืนให้พี่ชาย

"แหย่อะไรพี่เขาหืม?" พี่ใหญ่รับโทรศัพท์พร้อมกับถามน้องเล็กด้วยสีหน้ายิ้มๆ

"เปล่าครับ ว่าแต่พี่ใหญ่ขัดใจอะไรพี่กลางหรือเปล่า? พี่กลางฟังดูอารมณ์ไม่ดีนะนั่น" ไจ่ไจ๋เป็นฝ่ายถามพี่ชายกลับบ้าง

"เรื่องเก่าดั้งเดิมตั้งแต่วันนั้นแหละ" พี่ใหญ่พูดเบาๆเมื่อเห็นเคนจ้องหน้าเขาอยู่

"โห! พี่กลางนี้งอนนานจริงๆ พี่ใหญ่ก็เอาใจเขาหน่อยสิครับ" ไจ่ไจ๋พูดไกล่เกลี่ย

"พี่เอาใจมันสารพัดจนไม่รู้จะทำยังงัยแล้ว" เจอร์รี่ว่าแล้วเหลือบมองน้องชายไปด้วย

"งั้นก็พยายามอย่ามีเรื่องกันจนกว่าผมจะกลับบ้านนะ เอ่อ.....พี่ครับ....ผมต้องวางแล้วหละเดี๋ยวเพื่อนหาว่าอู้งาน เอาเป็นว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ก่อนกลับผมจะโทรหาอีกรอบแล้วกัน แค่นี้นะครับ ฝากสวัสดีพี่กลางด้วยนะ" พูดจบน้องเล็กก็วางสายไป

"ท่าทางน้องจะสนุก เสียงดังเจี๊ยวจ๊าวกันเชียว" หันมาชวนน้องคุยอีก เคนทำเป็นไม่สนใจกับคำพูดนั้น

"เอ้า! ไม่พูดก็ไม่พูด กินข้าวซะสิจะได้รีบกลับบ้านไปพักผ่อนกันซักที" เคนยังนั่งนิ่งไม่สนใจกับอาหารตรงหน้า

"เสี้ยวเทียน! กินข้าวเดี๋ยวนี้!" พี่ใหญ่เน้นเสียงหนักพร้อมกับทำหน้าเข้มใส่น้อง เคนถอนหายใจก่อนที่จะตักข้าวกินอย่างจำใจ หลังจากกินข้าวเสร็จแล้วสองพี่น้องก็พากันกลับบ้าน และทันทีที่รถจอดสนิทเคนก็เดินลงจากรถแล้วเดินขึ้นห้องนอนโดยไม่บอกกล่าวอะไรเลย

"เฮ่อ! แผลงฤทธิ์ไม่เลิกเลยนะ" เจอร์รี่บ่นอุบพลางมองตามหลังน้องชายที่เพิ่งเดินขึ้นบันไดไปก่อนที่ตัวเองจะกลับเข้าห้องแล้วอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวจะเข้านอนบ้าง

"ติ๊ดๆๆๆ" เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นทำให้เจอร์รี่ที่กำลังจะเอนตัวนอนต้องลุกขึ้นมานั่งอีกครั้ง

"สวัสดีครับ" ส่งเสียงทักทายเมื่อกดรับสาย

"ชั้นเองนะ" เสียงแวนเนสพูดตอบกลับมา

"ว่างัย? ยังไม่นอนอีกหรอ?" ถามน้องชายกลับไป

"ยังเลย เนี่ย....เพิ่งทำงานเสร็จเองยังกลับไม่ถึงโรงแรมเลย เหนื๊อยยย....เหนื่อยยย...." เจอร์รี่อมยิ้มกับน้ำเสียงออดอ้อนของน้องชาย

"แล้วได้กินข้าวกินปลาหรือยัง?" ถามซักไซร้น้องชายต่ออีก

"ยังไม่ได้กิน ทำงานมาราธอนเลย" ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็เริ่มเป็นห่วงน้อง

"หาอะไรกินซะนะ เดี๋ยวปวดท้อง ห้ามนอนทั้งๆที่ท้องยังว่างหละ รู้มั๊ย?" พูดกำชับกำชาน้องชาย

"รู้แล้ว ขืนไม่กินชั้นนอนไม่หลับหรอก ว่าแต่นายเถอะแกล้งอะไรน้องชายชั้น?" เสียงแวนเนสถามคาดคั้นพี่ชายกลับมา

"ชั้นแกล้งอะไรใครที่ไหนเมื่อไหร่กัน?" ย้อนถามน้องกลับไปแบบซื่อๆ

"อย่าแกล้งโง่หน่อยเลย! เมื่อกี้เสี้ยวเทียนมันฟ้องชั้นหมดแล้ว" แวนเนสต่อว่าพี่ชาย

"นายไปคุยกับมันตั้งแต่เมื่อไหร่?" เจอร์รี่ย้อนถามน้องอีก

"ก่อนที่จะโทรมาหานายนี่แหละ ที่จริงชั้นพอคุยกับมันเสร็จแล้วชั้นก็ขอคุยกับนายแต่มันไม่ยอม ชั้นถึงต้องโทรมาหานายอีกรอบนี่งัย" ได้ยินดังนั้นพี่ใหญ่ก็ได้แต่ส่ายหน้า

"ไอ้นี่ชักจะอาละวาดมากเกินไปแล้ว เห็นทีชั้นต้องจัดการมันซะบ้าง" พูดเสร็จก็ถอนหายใจ

"เฮ้ย! นายห้ามทำอะไรมันนะโว้ย! ชั้นไม่อยากต้องกลับก่อนกำหนดอีก นายเองก็นะ....ตั้งใจจะซื้อกีต้าร์ให้น้องอยู่แล้วไม่ใช่หรอ? ก็ซื้อให้มันไปเลยจะได้สิ้นเรื่องสิ้นราว แบบนี้มันก็งอนจนพาลประชดคนโน้นคนนี้ไปทั้งบ้าน" แวนเนสบ่นพี่ชายมาตามสาย

"ไม่ต้องพูดมากหรอกน่า! ซื้อให้เมื่อไหร่ชั้นตัดสินใจเอง นายเองก็วางสายได้แล้วโทรข้ามประเทศมันเปลือง" พี่ใหญ่ว่าน้องเข้าให้บ้าง

"เออๆๆๆ แค่นี้ก็ได้วะ อย่างน้อยได้ยินนายบ่นแล้วคืนนี้ก็คงหลับสบาย" จบประโยคนั้นสายก็ถูกตัดไปก่อนที่เจอร์รี่จะทันได้อ้าปากพูดอะไรอีก

"ทะเล้นจริงๆ!" บ่นพึมพำแต่ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ จากนั้นก็วางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะข้างเตียงแล้วเอนตัวลงเพื่อนอนหลับพักผ่อน




 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 25 พฤษภาคม 2550 13:30:03 น.
Counter : 1233 Pageviews.  

Chapter 34

ตอนที่ 34

"เสี้ยวเทียนไปไหน? ทำไมไม่ลงมากินข้าว?" พี่ใหญ่เอ่ยถามเมื่อไม่เห็นเคนในมื้อเย็น

"ประท้วงอดข้าวมั้งพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วลงมือกินข้าวโดยไม่รอพี่ชายคนกลางอีกต่อไป

"ไม่มีใครตามมันลงมาเลยหรอ?" ถามต่ออย่างนึกเป็นห่วงน้อง

"ชั้นตามแล้วแต่มันบอกไม่หิว" แวนเนสตอบ

"กินๆไปเถอะเดี๋ยวมันหิวก็ลงมาเองแหละ" ตัดบทพร้อมกับบอกให้พี่ชายกินข้าว

"พี่รอง เดี๋ยวพี่ไปเอาเสื้อยืดสองตัวในห้องผมด้วยนะ" ไจ่ไจ๋พูดกับแวนเนสอย่างนึกขึ้นได้

"เสื้อยืด?" แวนเนสทวนคำงงๆ

"ใช่! พี่ใหญ่เขาซื้อให้พี่กลางแต่พี่กลางไม่เอา พี่รองเอาไปแทนแล้วกัน" ไจ่ไจ๋ขยายความ

"อ้าว! ตกลงมันไม่เอาหรอ?" เจอร์รี่ถามขึ้นบ้าง

"ก็ผมเอาไปให้ที่ห้องแล้วพี่เขาโยนออกมาแบบเนี่ยเขาเอาหรือเปล่าหละ?" น้องเล็กย้อนถามเป็นเชิงประชด

"นิสัยเสียใหญ่แล้ว" เจอร์รี่บ่นพลางส่ายหน้าไปมา

"มันไม่เอานายก็เอาไปแล้วกันแวนเนส ดีเหมือนกันต่อไปจะไม่ให้อะไรมันอีกแล้ว" แวนเนสได้ยินก็ย่นจมูก

"พี่ครับ ชั้นไม่ใช่ถังขยะนะที่พอใครไม่เอาอะไรก็จะมาโยนใส่" แวนเนสท้วงขึ้นกลายๆ

"ถ้านายไม่เอาก็โยนทิ้งถังขยะไปเลยก็ได้" เจอร์รี่ว่าเป็นเชิงประชด

"แค่นี้ทำเป็นอารมณ์เสีย เอางี้เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วชั้นขึ้นไปกล่อมมันเอง คงงอนอยู่หรอกถึงได้ทำแบบนั้น" แวนเนสตัดบทเพราะเห็นท่าพี่ใหญ่กับน้องเล็กดูจะเคืองเคนอยู่

"จะทำอะไรก็ตามใจ บอกมันด้วยว่าอยากแผลงฤทธิ์ยังงัยก็ตามสบายเลย ชั้นจะไม่สนใจอีกแล้ว" พูดจบก็พี่ใหญ่ก็ตักข้าวกินโดยไม่พูดอะไรอีก พอกินเสร็จก็เอาจานไปเก็บแล้วเดินออกไปเฉยๆ

"บอกพี่กลางด้วยนะว่าเพราะพี่กลางคนเดียวทำคนทั้งบ้านหัวเสียไปหมด" หลังจากพี่ใหญ่ออกไปไจ่ไจ๋ก็พูดกับแวนเนสอย่างอึดอัด

"นายก็ไปอะไรกับพี่เขามากเล่า?" แวนเนสพูดเป็นเชิงบ่น

"พี่รองก็ชอบเข้าข้างพี่กลาง" น้องเล็กต่อว่าพี่ชายเข้าให้

"พี่เข้าข้างมันที่ไหน? พี่อยู่ฝ่ายกลางไม่เข้าข้างใครทั้งนั้นแหละ" แวนเนสแย้งคำน้อง

"ฝ่ายกลางหรือฝ่ายพี่กลางกันแน่?" น้องเล็กย้อน

"ไจ่ไจ๋! นายนี่นะชักจะร้ายกาจขึ้นทุกวันแล้ว พี่พูดอะไรนายเถียงคำไม่ตกฟากเลย" แวนเนสต่อว่าน้องเล็กขึ้นมาบ้าง

"ผมไม่ได้เถียง ก็แค่พูดตามความคิดเห็นของผม" น้องเล็กแย้งทันควัน

"ยังอีก!" คราวนี้แวนเนสทำเสียงดุ ไจ่ไจ๋หน้ามุ่ยแต่ก็ก้มหน้ากินข้าวต่อเงียบๆจนหมดก็เดินตามพี่ใหญ่ออกไป

"เป็นอะไร?" เมื่อเห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ของน้องชายพี่ใหญ่ก็เอ่ยถาม

"พี่รองน่ะสิ เข้าข้างพี่กลางแล้วก็มาดุผม" ไจ่ไจ๋กระแทกเสียงตอบ

"เรื่องนี้พี่กลางเริ่มก่อนแท้ๆเลย อะไรไม่ได้ดั่งใจก็ชอบเอาผมขึ้นมาอ้างหาว่าพี่ตามใจแต่ผมคนเดียว เวลาดีๆหละไม่เคยเอามาพูดบ้าง" ไจ่ไจ๋บ่นออกมาอย่างอึดอัด

"ผมก็เห็นพี่ใหญ่เอาใจใส่เขาดีออก มีอะไรก็คิดเผื่อพี่กลางตลอดแล้วยังมีหน้ามาพูดอีกว่าพี่ใหญ่สนใจแต่ผมคนเดียว" พี่ใหญ่ได้ยินก็ถอนหายใจแล้วขยับเข้ามากอดคอน้อง

"เวลาโกรธต่อให้ใครทำดีซักเท่าไหร่ก็ยากที่จะเห็น นายอย่าคิดมากเลย ปล่อยเขาไว้อย่างนั้นแหละ ซักพักคงหาย" พูดปลอบน้องอย่างปลงๆ

"แต่ผมไม่ชอบนี่นา ผมไม่ชอบที่พี่กลางชอบเอาผมขึ้นมาเปรียบเทียบกับพี่เขาเรื่อยเลย" เจอร์รี่โน้มหัวน้องมาซบที่ไหล่ตัวเอง

"ทำยังงัยได้หละ? ก็เขารู้สึกอย่างงั้นนี่" น้องเล็กถอนหายใจเฮือกแต่ไม่ได้โต้ตอบอะไร

"พี่เองก็ยอมรับนะว่าพี่เอ็นดูนายมากกว่าพี่รองกับพี่กลาง" ได้ยินดังนี้น้องเล็กก็เหลือบตาขึ้นมองพี่ชาย

"ทำไมพูดแบบนี้หละพี่?" น้องเล็กเสียงอ่อนลงรู้สึกไม่สบายใจที่พี่ชายพูดแบบนี้

"มันเป็นเรื่องของความรู้สึกนะไจ่ไจ๋ อาจเป็นเพราะนายกับพี่อายุห่างกันค่อนข้างมากหละมั้งพี่ถึงรู้สึกเอ็นดูนายมากกว่าใครเพื่อน แล้วนายก็เป็นเด็กช่างอ้อนช่างเจรจาซะด้วยสิ พี่ถึงใจอ่อนกับนายได้ง่ายๆทุกที" เจอร์รี่อธิบายให้น้องฟัง ไจ่ไจ๋ได้ยินก็มีสีหน้ากังวลเพราะไม่อยากให้พี่ชายเอาใจใส่เขามากกว่าด้วยกลัวพี่ชายอีกสองคนจะน้อยใจ

"พี่ทำแบบนี้บางทีพี่เขาสองคนอาจเกลียดผมก็ได้" ไจ่ไจ๋เอ่ยเสียงอ่อยๆ

"ไม่หรอก เพราะถ้าพูดถึงเรื่องอื่นพี่อาจจะรู้สึกกับพี่รองแล้วก็พี่กลางมากกว่าที่รู้สึกกับนาย" พี่ใหญ่โอบไหล่น้องพลางเขย่าเบาๆ ไจ่ไจ๋มองหน้าพี่ชายอย่างไม่ค่อยเข้าใจ

"อย่างเช่น การพูดคุยเรื่องส่วนตัวพี่จะสามารถพูดคุยกับพี่รองได้มากกว่านาย หรือว่าเรื่องที่เป็นหลักการหน่อยพี่จะคุยกับพี่กลางได้มากกว่าคนอื่นๆ" น้องเล็กได้ยินก็ค่อยพยักหน้าเริ่มเข้าใจในสิ่งที่พี่ชายพูด

"แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความรัก พี่ยืนยันว่าพี่มีให้น้องทุกคนเท่ากัน" พี่ใหญ่พูดทิ้งท้ายไว้ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ยิ้มออกก่อนที่จะขยับเข้าไปกอดพี่ชาย



- ห้องนอนเคน -

"งัย? ประท้วงไม่กินข้าวหรอ?" แวนเนสเดินเข้ามาขยี้หัวน้องชายที่กึ่งนั่งกึ่งนอนฟังเพลงด้วยสีหน้าเซ็งๆ

"เปล่า! แต่ไม่อยากกิน" เคนตอบเสียงห้วน

"ฮึ! ปากแข็ง" แวนเนสพึมพำพร้อมกับนั่งลงบนเตียงแล้วดึงเอาหูฟังออกจากหูน้อง

"คุยกันหน่อยซิ" เคนตีหน้าเซ็งแต่ก็ขยับตัวขึ้นมานั่ง

"ยังไม่หายงอนเจอร์รี่มันอีกหรอ?" แวนเนสถามน้องพร้อมกับยิ้มบางๆ

"ชั้นไม่ได้งอน" เคนปฏิเสธทันควัน

"แล้วที่เป็นอยู่เนี่ยนายเป็นอะไรหืม?" ได้ยินดังนั้นเคนก็หันหน้าหนีไปทางอื่น

"ไม่ได้เป็นอะไร" เคนปฏิเสธอีก แวนเนสส่ายหน้าแล้วโยนถุงเสื้อยืดที่พี่ใหญ่ซื้อให้ใส่บนตักน้องชาย

"งั้นก็รับไปซะ" เคนมองถุงนั้นแล้วหยิบขึ้นมาก่อนที่จะจับมือแวนเนสแล้วยัดถุงนั้นใส่มือพี่ชาย

"ชั้นให้นาย" พูดเสียงห้วนแล้วเอนตัวพิงหัวเตียง แวนเนสถอนหายใจแล้ววางถุงนั้นลงที่พื้น

"เฮ่อ! นายนี่นะบางทีก็ดูเหมือนจะแก่เกินวัยแต่บางทีก็งอแงอย่างกับเด็กๆ อะไรไม่ได้ดั่งใจหน่อยก็อาละวาดจนเขาอยู่กันไม่เป็นสุขไปทั้งบ้าน" แวนเนสบ่นน้องชาย

"ใครใช้ให้พวกนายมาเดือดร้อนด้วยหละ? ชั้นจะเป็นยังงัยมันก็เรื่องของชั้น" เคนตวัดเสียงใส่พี่ชาย

"นายนี่มันจริงๆเลย" แวนเนสไม่พูดเปล่าแต่ผลักหัวน้องอย่างหมั่นไส้เข้าให้ด้วย

"นายเลิกยุ่งกับชั้นซักทีเถอะ! จะไปไหนก็ไปเลยไป!" เคนเอ่ยปากไล่พี่ชายอย่างหงุดหงิด

"ไล่ชั้นหรอไอ้ตัวดี!" แวนเนสผลักหัวน้องอีก

"โอ้ย! ผลักอยู่นั่นแหละหัวคนนะไม่ใช่ลูกบอล!" โวยวายใส่พี่ชายอย่างไม่พอใจ

"อ้าว! หัวคนหรอเนี่ย? นึกว่าหัวหมูซะ....." แวนเนสหยุดพูดกระทันหันเมื่อเห็นน้องเงื้อนหมัดขึ้นมา

"เฮ้ยๆๆๆๆ!!! ล้อเล่นนิดเดียวเอง! หนอย! ทำเป็นโมโห" รีบคว้ามือน้องชายไว้ก่อนที่จะโดนหมัดหนักๆนั้น

"ไปเลยไป! กวนประสาทอยู่ได้!" เคนกระชากมือพี่ชายออกพร้อมกับแหวใส่

"เออ! ว่าจะซื้อกีต้าร์ให้ซักหน่อย พูดแบบนี้ก็ไม่ต้องเอาแล้วกัน" พูดจบแวนเนสก็ลุกขึ้นยืนแล้วหมุนตัวจะออกไป แต่โดนน้องฉุดแขนไว้จนแทบจะล้มลงที่เตียง

"นายพูดว่างัยนะ? นายจะซื้อให้ชั้นจริงๆหรอ?" เคนถามพี่ชายอย่างดีใจ

"โอ้ย!! ไอ้บ้านี่! ดึงลงมาได้เดี๋ยวหน้าทิ่มเสียโฉมหมด" แวนเนสบ่นอุบแต่ก็นั่งลงตามเดิม

"ขอโทษๆๆๆๆ ชั้นไม่ได้ตั้งใจดึงนาย ว่าแต่ที่นายพูดเมื่อกี้ไม่ได้ล้อเล่นใช่มั๊ย?" เคนรีบขอโทษพี่ชายเป็นการใหญ่พร้อมกับซักถามเพื่อเอาคำตอบที่ต้องการ

"ก็ล้อเล่นน่ะสิ!" แวนเนสพูดหน้าตาเฉย ได้ยินดังนั้นเคนก็ชะงักไป

"สนุกมากนักใช่มั๊ย!? มาทางไหนออกไปทางนั้นเลย!" เคนชี้นิ้วไปที่ประตูด้วยสีหน้าบึ้งตึง

"ก็ทำตัวแบบนี้มันน่าซื้ออะไรให้มั๊ยหละ? เฮ่อ!" แวนเนสบ่นอุบแล้วส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอา

"พรุ่งนี้ชั้นจะได้ค่าตัวถ่ายแบบ ไว้ตอนเย็นค่อยไปดูก็แล้วกัน" เคนได้ยินดังนั้นก็คลายสีหน้าบึ้งตึงลงเล็กน้อยแต่ยังไม่แน่ใจว่าพี่ชายแกล้งหลอกเขาอีกหรือเปล่า

"ชั้นจะซื้อให้จริงๆ พรุ่งนี้เย็นๆทำตัวให้ว่างก็แล้วกัน" แวนเนสย้ำคำ

"จริงๆนะแวนเนส? นายไม่หลอกให้ชั้นดีใจเก้อนะ" เคนยังไม่ยอมเชื่อง่ายๆ

"ชั้นจะหลอกนายทำไมกัน? ชั้นตั้งใจจะซื้อให้นายจริงๆเพราะเมื่อครั้งก่อนชั้นก็ซื้อเครื่องไอพอดให้ไจ่ไจ๋ไปแล้วแต่นายยังไม่ได้อะไรเลยหนิ" แวนเนสรับปากน้องชายจริงจัง

"แต่มันแพงนะ" เคนเริ่มรู้สึกเกรงใจพี่ชายขึ้นมา

"ไม่เป็นไรหรอก สำหรับนายชั้นให้ได้ทั้งนั้นแหละ" แวนเนสพูดด้วยความจริงใจ เคนได้ยินก็นิ่งไป

"เป็นอะไร ตื้นตันจนจะร้องไห้เลยหรอ?" เมื่อเห็นน้องไม่พูดแวนเนสจึงแกล้งแหย่

"เปล่าซักหน่อย!" เคนว่าพลางค้อนใส่พี่ชาย แล้วก่อนที่ทั้งคู่จะพูดอะไรกันต่อเจอร์รี่ก็เปิดประตูเข้ามา

"คุยอะไรกันอยู่?" เอ่ยถามน้องชายทั้งคู่ เคนเห็นหน้าพี่ชายก็หันหน้าหนีไปทางอื่นด้วยนึกเคืองไม่หายที่พี่ชายตามใจแต่น้องเล็ก

"กำลังกล่อมเด็กดื้ออยู่ เกือบๆจะสำเร็จแล้วหละ" แวนเนสตอบพี่ชายยิ้มๆ

"ไม่กินข้าวหรอเสี้ยวเทียน? เมื่อตอนกลางวันก็ไม่ได้กินอะไรหนิ ไม่หิวหรืองัย?" พี่ใหญ่หันไปถามน้องอย่างห่วงใย เคนไม่ตอบคำถามพี่ชายซ้ำยังทำเหมือนไม่ได้ยินอีกต่างหาก

"เสี้ยวเทียน! พี่ใหญ่ถามแหนะ" แวนเนสต้องพูดกับน้องอีกแรง

"ชั้นง่วงแล้ว ค่อยนัดกันพรุ่งนี้นะแวนเนส" เคนไม่สนใจพี่ใหญ่แต่กลับพูดถึงเรื่องที่คุยค้างไว้กับแวนเนสแทน พอพูดจบก็เอนตัวนอนลงบนเตียง

"นัดกันไปไหน?" พี่ใหญ่หันมามองหน้าแวนเนส

"ชั้นว่าจะไปซื้อกีต้าร์ให้มัน" แวนเนสตอบ ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็มีสีหน้าขรึมลง

"ที่ชั้นพูดไปนายฟังไม่รู้เรื่องใช่มั๊ยเสี้ยวเทียน?" พี่ใหญ่พูดกับเคนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

"ชั้นเสนอจะซื้อให้มันเองแหละ" แวนเนสแทรกขึ้นเมื่อเห็นพี่ชายจะเอาเรื่องน้อง

"นายไม่ต้องแก้ตัวแทนมัน!" พี่ใหญ่เอ็ดใส่แวนเนสด้วยอีกคน

"เสี้ยวเทียน! ลุกขึ้นมานั่งเดี๋ยวนี้!" เคนมองหน้าพี่ชายแล้วถอนหายใจก่อนที่จะขยับตัวลุกขึ้นมานั่ง

"มันจำเป็นมากหรืองัยไอ้กีต้าร์ตัวนั้นน่ะ?" เคนไม่ตอบได้แต่นั่งก้มหน้า

"น้องมันไม่ได้ขอให้ชั้นซื้อ....." แวนเนสจะออกหน้าแทนน้องแต่ก็โดนพี่ชายตวาดใส่เสียก่อน

"นายเงียบไปเลยแวนเนส! ชั้นไม่ต้องการให้นายออกรับแทนมัน!" แวนเนสมองไปที่น้องอย่างสงสารแต่ก็พูดอะไรไม่ได้

"แล้วชั้นขอสั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้นายซื้อไอ้กีต้าร์นั้นให้มัน!" แวนเนสหลบสายตาพี่ชาย

"ชั้นจะดูซิว่าถ้ามันไม่มีกีต้าร์นั่นซักตัวมันจะตายมั๊ย!?" พูดจบก็หันมาจ้องเคนตาเขม็งก่อนที่จะหมุนตัวออกไป

"เสี้ยวเทียน" เมื่อพี่ชายออกไปแล้วแวนเนสก็เรียกน้องที่ยังนั่งก้มหน้านิ่งงันอยู่อย่างนั้น

"ขอโทษที่ทำให้นายโดนตำหนิไปด้วย นายออกไปก่อนเถอะแวนเนส" เคนบอกพี่ชายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

"เสี้ยวเทียน....." แวนเนสเห็นท่าทางน้องแล้วก็รู้สึกเป็นห่วง

"นายไม่ต้องไปสนใจมัน ยังงัยพรุ่งนี้นายจะได้ของที่นายต้องการ" หลังจากเงียบไปพักหนึ่งแวนเนสก็พูดขึ้นอย่างหนักแน่น

"ชั้นไม่เอาแล้ว ขอบคุณมากนะแวนเนส" เคนปฏิเสธพร้อมกับเอ่ยขอบคุณพี่ชาย

"ไม่! ชั้นพูดคำไหนคำนั้น" แวนเนสเองก็ดึงดันที่จะซื้อให้น้อง

"ก็บอกว่าไม่เอาแล้ว! นายฟังไม่เข้าใจหรืองัย?" เคนเริ่มเสียงดังขึ้นมาบ้าง แวนเนสมองน้องชายแล้วนิ่งไป

"ชั้นไม่เป็นไรหรอก นายอย่าลำบากเพื่อชั้นเลยนะ ไม่ได้ไม่ตายแต่ถ้าได้มาชั้นอาจจะตายก็ได้" พูดต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนลง แวนเนสถอนหายใจแล้วโอบไหล่น้องชายเขย่าเบาๆ

"แวนเนส....ชั้นอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะอะไรกันแน่?" จู่ๆเคนก็เอ่ยถามขึ้นมา ได้ยินดังนั้นแวนเนสก็มองน้องอย่างตกใจ

"ทำไมชั้นถึงไม่มีความสำคัญเหมือนกับคนอื่น?" เคนพูดไปน้ำตาก็เริ่มไหลออกมา

"บางทีชั้นก็นึกอิจฉาไจ่ไจ๋เหมือนกันนะ อิจฉาที่น้องมีแต่คนรัก มีแต่คนเอาใจตามใจทุกอย่าง อยากได้อะไรก็เพียงแค่พูดออกมาทุกคนก็จะรีบตอบสนองให้ทันที ต่อให้ทำผิดก็ไม่มีใครโกรธลงซักที เวลาผิดหวังหรือเสียใจก็มีคนคอยปลอบใจมีแต่คนคอยอ้าแขนรับอยู่ตลอดเวลา" เคนก้มหน้าลงพลางสะอื้นออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

"ผิดกับชั้นที่มีแต่คนหมั่นไส้ ทำผิดทีก็ถูกดุด่าถูกซ้ำเติมลงท้ายด้วยการถูกลงโทษอย่างหนัก ผิดหวังหรือเสียใจก็ต้องเก็บไว้ในใจ อยากร้องไห้ก็ต้องร้องไห้กับตัวเอง" แวนเนสนั่งอึ้งน้ำตาซึมเมื่อได้ยินเช่นนั้น

"ชั้นควรจะรู้ตัวตั้งนานแล้วว่าไม่ควรหวังอะไร แล้วก็ควรรู้ตั้งนานแล้วว่าตัวเองไม่มีสิทธิเรียกร้องเอาอะไรจากใครทั้งนั้น" แวนเนสส่ายหน้าแล้วดึงน้องเข้ามากอด

"ไม่ใช่นะเสี้ยวเทียน ทำไมนายพูดแบบนี้หละ? นายยังมีชั้นนะ นายยังมีพี่คนนี้อยู่นะเสี้ยวเทียน" แวนเนสว่าพร้อมกับร้องไห้ไปกับน้องด้วย

"ถ้านายอยากร้องไห้นายเดินเข้ามาบอกชั้น ชั้นยินดีที่จะร้องไห้เป็นเพื่อนนาย ยินดีที่จะปลอบใจนาย ยินดีที่จะอ้าแขนรับนายตลอดเวลา ว่างัยหละ?" เคนมองพี่ชายทั้งน้ำตาก่อนที่จะพยักหน้ารับ

"ต่อไปนี้นายห้ามพูดอีกนะว่านายไม่มีใคร ถ้าชั้นได้ยินจะเขกให้หัวแตกเลย" พูดต่อด้วยน้ำเสียงดุๆ

"อืม" เคนตอบรับสั้นๆยังสะอื้นไม่หาย แวนเนสรั้งร่างน้องเข้ามากอดไว้อีก เขารู้ดีว่าเคนนั้นเป็นคนที่อ่อนไหวและเปราะบางบาง เมื่อมีสิ่งกระตุ้นเพียงนิดเดียวก็จะมีผลไปถึงความรู้สึกได้ง่ายๆ

"นี่....." เงียบไปพักหนึ่งแวนเนสก็เรียกน้องเบาๆ

"หืม?" เคนตอบรับแล้วผละตัวออกมาจากอ้อมกอดของพี่ชาย แวนเนสเช็ดน้ำตาให้น้องอย่างอ่อนโยนแล้วเลื่อนมือไปลูบหัวน้องเบาๆ

"สำหรับสิ่งของแล้วนายอาจจะต้องไขว้ขว้าเองบ้างบางอย่าง แต่ถ้าเป็นความรักและความห่วงใยนายไม่จำเป็นต้องไปหาจากที่อื่นเลยนะ" เคนได้ยินก็น้ำตาซึมออกมาอีก

"เพราะสำหรับนายแล้วชั้นมีให้อย่างไม่จำกัด ไม่ว่านายต้องการเท่าไหร่ชั้นก็ให้ได้ทั้งนั้น" แวนเนสพูดต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

"ขอบคุณมากนะ....พี่รอง...." แวนเนสหัวเราะแล้วหยิกแก้มน้องเบาๆ

"ถ้ามันฝืนนักไม่ต้องเรียกแบบนี้ก็ได้" แวนเนสว่าพลางขยี้หัวน้องอย่างเอ็นดู

"ไหน? เมื่อกี้นายฟังเพลงอะไร? ชั้นขอฟังด้วยคนนะ" แล้วแวนเนสก็ชวนให้น้องชายฟังเพลงต่อ

"ได้สิ เพลงเนี่ยเพลงโปรดของชั้นเลย" เคนตอบรับแล้วส่งหูฟังให้พี่ชายข้างหนึ่ง แวนเนสยิ้มแล้วรับมาจากนั้นก็เอนตัวนั่งฟังเพลงกับน้องชายเงียบๆ



- ตอนเช้า -

"อรุณสวัสดิ์ครับพี่กลาง" ไจ่ไจ๋เดินเข้ามากอดเอวเคนที่กำลังจัดเตรียมอาหารเช้าอยู่จากด้านหลังพร้อมกับพูดทักทายด้วยน้ำเสียงประจบ เคนไม่ได้พูดโต้ตอบอะไรเพียงแต่พยักหน้ารับน้อยๆเท่านั้น

"พี่กลาง วันนี้ทำอะไรกินหรอ?" ไจไจ๋ถามต่อพร้อมกับยื่นหน้าไปดูของที่พี่ชายเตรียมไว้

"ข้าวต้มรวมมิตร" ตอบด้วยน้ำเสียงเนือยๆ ไจ่ไจ๋ได้ยินก็มีสีหน้าสลดลงเล็กน้อย

"พี่ยังไม่หายโกรธผมอีกหรอ? เรื่องเมื่อวานผมขอโทษก็แล้วกัน ผมไม่ได้ตั้งใจจะหาเรื่องพี่เลยนะ" น้องเล็กเป็นฝ่ายง้อเมื่อเห็นพี่ชายดูนิ่งเงียบ

"พี่ไม่ได้โกรธอะไรนายเลย" เคนตอบพร้อมกับจับมือน้องชายที่กอดตัวเองออก

"ออกไปนั่งรอก่อนเสร็จแล้วพี่จะเรียกมากิน" พูดจบก็ลงมือทำอาหารเช้าต่อ น้องเล็กสังเกตเห็นว่าเคนนั้นตาบวมก็เริ่มเอะใจ

"พี่กลาง ทำไมตาบวมจัง? นอนไม่พอหรือเปล่า?" ถามต่ออย่างเป็นห่วง

"ถ้าพี่ยังง่วงอยู่ไม่ต้องทำก็ได้เดี๋ยวผมออกไปหากินเอง" เคนส่ายหน้าเล็กน้อย

"พี่ไม่ได้เป็นอะไร นายออกไปข้างนอกได้แล้วอย่าเกะกะ" พูดตัดบทเพื่อไม่ให้น้องถามต่อ ไจ่ไจ๋ได้ยินดังนั้นก็ไม่เซ้าซี้เดินกลับออกไปที่ห้องนั่งเล่น

"พี่ใหญ่ พี่กลางยังไม่หายงอนแน่ๆ" เมื่อเห็นว่าเจอร์รี่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นก่อนแล้วไจ่ไจ๋ก็เอ่ยปากทันที

"งั้นหรอ?" เจอร์รี่รับคำอย่างไม่ค่อยสนใจนัก

"พี่กลางดูซึมๆด้วยนะ ตาบวมอีกต่างหาก หวังว่าเมื่อคืนคงไม่ได้ร้องไห้นะ" น้องเล็กบ่นออกมาอีกเพราะไม่รู้ว่าเมื่อคืนพี่ชายได้เปิดศึกกันอีกรอบ ได้ยินเช่นนั้นแล้วเจอร์รี่ก็ชะงักไป

"แล้วเขาคุยกับนายปกติหรือเปล่า?" อดที่จะถามน้องไม่ได้

"ไม่ครับ ไม่ปกติเลย ถามคำตอบคำ หน้าตาก็ดูเพลียๆด้วย" น้องเล็กตอบ ในขณะนั้นแวนเนสก็เดินลงมาพอดี

"พี่รอง! อรุณสวัสดิ์ครับ!" ไจ่ไจ๋หันไปทักทายพี่ชายด้วยน้ำเสียงสดใส

"อืม" แวนเนสตอบรับสั้นๆแล้วเดินเลยเข้าไปครัวทันที

"อ้าว! อะไรวะ? เป็นอะไรอีกคนหละเนี่ย?" ไจ่ไจ๋เกาหัวงงๆอย่างไม่ค่อยเข้าใจพี่ชายนัก

"พี่ใหญ่ครับ พี่รองเป็นอะไรหรือเปล่า? ดูแปลกๆอีกคน" หันมาถามพี่ชายคนโตอีก

"ไม่หนิ พี่ว่าเขาก็ปกติ" เจอร์รี่ตอบแต่ก็รู้สึกได้ว่าแวนเนสนั้นไม่ร่าเริงเหมือนทุกวัน ซึ่งเขาเองก็พอจะรู้สาเหตุว่าคงเป็นเพราะเรื่องเมื่อคืน

"ไปในครัวกันดีกว่าครับพี่ใหญ่ อีกเดี๋ยวพี่กลางคงทำข้าวต้มเสร็จแล้ว" ไจ่ไจ๋ชวนพี่ใหญ่พร้อมกับเดินไปดึงมือพี่ชายแล้วพาเดินเข้าไปในครัว

"กลิ่นหอมออกไปถึงข้างนอกเลย แค่ได้กลิ่นก็รู้แล้วว่าต้องอร่อยแหงๆ" ไจ่ไจ๋พูดประจบพี่ชายอีก เคนหันมายิ้มรับคำน้องแบบฝืนๆ

"นั่งสิ รีบกินจะได้รีบไปเรียน" บอกกับน้องด้วยน้ำเสียงเนือยๆเช่นเดิม

"นายไปนั่งเถอะ ชั้นตักให้เอง" เคนหันมาบอกแวนเนสที่ทำท่าจะช่วยเขา

"ของชั้นเอากุ้งเยอะๆนะ" แวนเนสว่าพร้อมกับยิ้มกว้างให้น้อง เคนยิ้มรับแล้วพยักหน้าจากนั้นก็หันมาตักข้าวใส่จานให้พี่น้องทุกคน

"ผมเทน้ำให้นะครับ" ไจ่ไจ๋อาสาแล้วรีบลุกไปรินน้ำใส่แก้วมาเสริฟให้ทุกคน

"ทำไมมีแค่ 3 ชาม? แล้วของนายหละ?" แวนเนสพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเคนไม่ได้ตักข้าวในส่วนของตัวเอง

"ชั้นไม่หิว" เคนตอบพร้อมกับยิ้มบางๆ พี่ใหญ่ได้ยินก็เหลือบตาขึ้นมอง

"ไม่ได้ๆๆๆ เมื่อคืนก็ไม่ได้กินวันนี้ยังจะไม่กินอีกหรอ? ไปตักมากินเลย" แวนเนสแย้งแล้วพยักหน้าให้น้องตักข้าวมากิน

"ไม่เป็นไรหรอก ชั้นอยู่บ้านเฉยๆไม่เห็นต้องใช้พลังงานอะไรเลย อีกอย่างชั้นขี้เกียจเคี้ยวด้วย นายกินไปเถอะ" เคนตอบพร้อมหันไปล้างมือก่อน

"โหพี่กลาง! ขี้เกียจขนาดนั้นเชียว เอางี้....ผมเคี้ยวให้เอาเปล่า?" ไจ่ไจ๋พูดติดตลกขึ้นมา

"พี่ไม่กล้ารบกวนนายหรอก" ประโยคนั้นเหมือนจะเป็นคำหยอกล้อแต่สีหน้าของคนพูดกลับดูเหมือนเป็นการประชดมากกว่า ในขณะนั้นเองเจอร์รี่ก็ลุกขึ้นแล้วหยิบชามเปล่ามาตักข้าวต้มแล้วดึงมือเคนให้มานั่งลงที่เก้าอี้

"กินเข้าไป!" วางลงตรงหน้าเคยพร้อมกับสั่งเสียงเข้ม เคนมองหน้าพี่ชายนิดหนึ่งแล้วจึงก้มหน้าก้มตากินข้าวโดยไม่พูดอะไร น้องเล็กมองพี่ชายสามคนไปมารู้สึกได้ถึงความผิดปกติแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร

"พี่รองครับ วันนี้พี่รองทำงานหรอ?" หันไปชวนพี่ชายคนรองคุยบ้าง

"ใช่ วันนี้พี่ต้องเข้าห้องอัด" แวนเนสพูดคุยกับน้องเล็กเพื่อคลายบรรยากาศอึดอัดลง

"เข้าห้องอัดอีกแล้วหรอ? แล้วเมื่อไหร่จะเสร็จซักทีหละ? ผมจะได้ฟังเมื่อไหร่หละครับ?" น้องเล็กถามซักไซร้ต่อ

"ยังไม่กำหนดหรอกว่าจะเสร็จเมื่อไหร่คงอัดไปเรื่อยๆ ถ้าอยากฟังเดี๋ยวพี่ร้องให้ฟังเอง" แวนเนสตอบยิ้มๆ

"อย่าเลยไจ่ไจ๋ เมื่อคืนพี่ได้ฟังแล้ว ไม่เห็นได้เรื่องเลย" เคนพูดแทรกขึ้นมาบ้าง ทำให้บรรยากาศเริ่มผ่อนคลายลง

"อ้าวไอ้นี่! พูดงี้ก็สวยสิ ตอนนี้บอกไม่ได้เรื่องทีเมื่อคืนหละรบเร้าให้ร้องตั้งหลายรอบ" แวนเนสหันไปทางเคนอย่างหาเรื่อง เคนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วตักข้าวกินต่อ

"หึๆๆๆ" ไจ่ไจ๋หัวเราะออกมาได้ก่อนที่จะเหลือบไปมองพี่ชายคนโตที่นั่งกินข้าวด้วยสีหน้านิ่งเฉย

"ทำไมวันนี้พี่ใหญ่ไม่ค่อยคุยเลย? เป็นอะไรหรือเปล่า?" ไจ่ไจ๋เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เจอร์รี่จึงค่อยเงยหน้าขึ้นมา

"อ้อ! เปล่าหรอก พอดีช่วงนี้งานเยอะพี่ก็เลยเครียดๆ" เจอร์รี่แก้ตัว

"งานเยอะแบบนี้ก็เอาพี่กลางไปช่วยสิครับ ช่วงนี้พี่กลางอยู่บ้านว่างๆนี่นา" ไจ่ไจ๋พูดเสนอเพราะอยากให้พี่ชายสองคนได้ปรับความเข้าใจกันด้วยรู้ว่าเคนนั้นยังมีอาการงอนพี่ชายอยู่

"แล้วพี่ใหญ่ก็จ่ายค่าจ้างให้พี่กลางเป็นการตอบแทนที่พี่เขาไปช่วยงาน" น้องเล็กยังคงพูดต่ออย่างไม่รู้เรื่องราวอะไร คำพูดของน้องทำเอาพี่ชายสามคนหยุดมือพร้อมกัน

"พี่ว่า....ความคิดนายก็ดีเหมือนกันนะ....." เจอร์รี่ทำท่าเห็นดีกับน้องเล็กเพราะอยากจะพูดคุยกับเคนอย่างจริงจังตามลำพังแต่แล้วเคนกลับพูดแทรกขึ้นมาก่อน

"แวนเนส วันนี้นายไปอัดเสียงใช่มั๊ย? ชั้นขอไปกับนายด้วยนะ ครั้งที่แล้วไปชั้นชอบมากเลย นายให้ชั้นไปด้วยนะ" เคนหันไปขอร้องพี่ชายคนรอง แวนเนสเหลือบมองพี่ชายคนโตอย่างลำบากใจ

"นะ.....แวนเนส.....ชั้นขอไปด้วย.....นะๆๆๆ...." เคนยังตื๊อแวนเนสต่อเพราะไม่อยากไปกับพี่ใหญ่

"ก็ได้ๆๆๆ แต่นายต้องสัญญาว่าจะไม่ดื้อไม่ซนเพราะชั้นไปทำงานไม่มีเวลามานั่งดูแลนายมากนักนะ" แวนเนสยอมตามน้องแต่ไม่วายสั่งกำชับไว้ด้วย

"ชั้นสัญญาว่าจะไม่ทำให้นายวุ่นวายหรือลำบากใจเลย" เคนรีบรับปากพี่ชายทันที

"อืม! ว่าง่ายแบบนี้ค่อยดีหน่อย" แวนเนสว่าพร้อมกับโยกหัวน้องเบาๆ เจอร์รี่เห็นก็วางช้อนแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่มจากนั้นก็เดินออกไปทันที

"ผมอิ่มแล้ว ไปเรียนก่อนนะครับ" ไจ่ไจ๋เองก็ลุกตามพี่ใหญ่ออกไปอีกคน เคนมองตามหลังพี่น้องสองคนแล้วถอนหายใจเบาๆ

"ทำไมทำแบบนี้หละ? เจอร์รี่มันคงอยากปรับความเข้าใจกับนาย" เมื่อพี่ใหญ่กับน้องเล็กออกไปกันหมดแล้วแวนเนสก็หันมาพูดกับเคนอย่างเป็นการเป็นงาน

"ปรับความเข้าใจงั้นหรอ? มันจะหาเรื่องมาด่าชั้นอีกหละไม่ว่า" เคนเถียงกลับ

"นายก็มองมันในแง่ร้ายเกินไป ดีไม่ดีมันอาจจะใจอ่อนยอมแพ้นายก็ได้นะ" แวนเนสบอกให้น้องพยายามคิดในด้านดี

"เคยมีเหตุการณ์แบบนั้นด้วยหรอ? มีแต่ชั้นจะโดนเล่นงานจนน่วมเลยต้องยอมแพ้มันน่ะสิ" ได้ยินดังนั้นแวนเนสก็ถอนหายใจเลิกคิดที่จะต่อล้อต่อเถียงกับน้องอีก

"ช่างเถอะ! นายไปเปลี่ยนชุดไป เดี๋ยวเสี่ยวจือมาจะได้ไปกันเลย" แวนเนสตัดบทแล้วไล่ให้น้องไปเปลี่ยนชุด



- ตอนเย็น -

"อ้าว! นายกลับมาแล้วหรอ?" แวนเนสเอ่ยทักพี่ชายคนโตที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่คนเดียว

"อืม" เจอร์รี่พยักหน้ารับแล้วมองเลยไปยังเคนที่เดินตามแวนเนสเข้ามา เคนเห็นพี่ชายมองอยู่ก็ทำท่าจะเดินเลยขึ้นห้อง

"เสี้ยวเทียน!" พอได้ยินพี่ใหญ่เรียกเคนก็ชะงักไป

"มานี่ซิ!" เคนหันกลับมามองเจ้าของเสียงก่อนที่จะมองไปที่แวนเนส

"แวนเนส วันนี้ชั้นสนุกมาก ขอบคุณที่ให้ชั้นไปด้วยนะ แต่ตอนนี้ชั้นรู้สึกเพลียๆขอขึ้นไปพักผ่อนก็แล้วกัน" พูดจบเคนก็เดินขึ้นไปข้างบนโดยไม่สนใจพี่ชายคนโตเลย

"เสี้ยวเทียน!!!" พี่ใหญ่เห็นดังนั้นก็ลุกพรวดจะตามน้องขึ้นไปแต่แวนเนสขวางไว้ก่อน

"อย่าเพิ่งน่า! ใจเย็นๆก่อน!" ร้องห้ามพร้อมดึงตัวพี่ชายไว้

"ชักจะมากเกินไปแล้ว! มันเห็นคำพูดชั้นไม่มีความหมายหรืองัย!?" เจอร์รี่โวยวายแต่ก็ไม่ได้ดิ้นรนอะไรนัก

"มันไม่ได้รู้สึกแบบนั้นหรอก น้องมันก็บอกแล้วว่ามันเพลีย" แวนเนสพูดไกล่เกลี่ย เจอร์รี่หันมามองหน้าน้องชายก่อนที่จะทิ้งตัวนั่งลงตามเดิม

"ไปทำอะไรกันมาหละวันนี้?" สอบถามน้องชายด้วยน้ำเสียงห้วนๆ แวนเนสจึงค่อยนั่งลงข้างพี่ชาย

"วันนี้ชั้นอัดเสียงทำอัลบั้ม เจ้าเสี้ยวเทียนมันก็ไปป้วนเปี้ยนอยู่ในห้องอัดนั่นแหละ นี่.....มีอะไรให้ฟัง...." พูดจบแวนเนสก็หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา

"อะไรน่ะ?" พี่ใหญ่มองโทรศัพท์ในมือน้องพลางขมวดคิ้วอย่างสงสัย

"เดี๋ยวสิ อะ....ได้แล้ว ฟังดูสิ" แล้วแวนเนสก็ยื่นโทรศัพท์ตัวเองให้พี่ชายฟัง เจอร์รี่รับมาฟังอย่างตั้งใจ

"เพราะหรือเปล่า?" เมื่อจบเพลงแวนเนสก็ถามพี่ชาย พี่ใหญ่ยิ้มแล้วพยักหน้ารับ

"เสี้ยวเทียนมันเล่นกีต้าร์เองแล้วก็ร้องเองคนเดียวเลยนะ ชั้นแอบอัดมาไม่บอกมันไม่งั้นมันได้โวยวายแน่ๆ" แวนเนสเฉลยให้พี่ชายฟัง

"ขนาดโปรดิวเซอร์ของชั้นได้ยินยังชมว่ามันเก่งเลย" ได้ยินดังนั้นพี่ใหญ่ก็นิ่งไป

"น้องมันมีพรสวรรค์ด้านนี้นะเนี่ย เราน่าจะส่งเสริมมัน" แวนเนสพูดแทนน้องกลายๆ

"เฮ่อ! ตกลงแล้วชั้นต้องเสียเงินเพื่อเสริมพรสวรรค์ให้มันใช่มั๊ย?" พี่ใหญ่พูดเป็นเชิงบ่น แวนเนสไม่ตอบแต่นั่งอมยิ้มเพราะลองพี่ใหญ่พูดแบบนี้แล้วเป็นอันว่ายังงัยก็ต้องยอม

"ไม่ต้องมายิ้ม! ให้ท้ายกันดีนักแหละ!" ว่าพลางดึงหูน้องอย่างหมั่นไส้

"ก็แหม....น้องมันเก่งจริงๆนี่" แวนเนสพูดเสียงอ่อยๆ เจอร์รี่มองหน้าน้องก่อนที่จะถอนหายใจออกมาแล้วหยิบโทรศัพท์ตัวเองมา

"ส่งมาให้ชั้นหน่อยซิ!" พูดเสียงห้วนๆอย่างไว้ฟอร์ม

"ส่งอะไร?" แวนเนสแกล้งทำเป็นไม่รู้

"เพลงนั่นน่ะ" พูดรัวๆเร็วๆแล้วหันหน้าไปทางอื่น

"เพลงไหน? มีตั้งเยอะ" แวนเนสยังแหย่พี่ชายไม่เลิก

"เดี๋ยวก็ซัดเปรี้ยงเข้าให้หรอก! อย่ามากวนชั้นนะ!" พี่ใหญ่ไม่พูดเปล่าทำท่าจะเอาศอกกระทุ้งใส่น้อง แวนเนสรีบกดแขนพี่ชายลงแล้วยิ้มแหยๆ

"ไม่กวนแล้วก็ได้ มาสิ....เดี๋ยวส่งให้" ว่าแล้วแวนเนสก็รับโทรศัพท์มาแล้วจัดการส่งเพลงที่เคนร้องเข้าเครื่องพี่ชาย

"ไจ่ไจ๋ยังไม่กลับอีกหรอ?" แวนเนสชวนพี่ชายคุย

"ยัง น้องบอกว่าต้องอยู่ประชุมเรื่องไปทำโครงงานนอกสถานที่" เจอร์รี่ตอบน้อง

"ทำโครงงานนอกสถานที่? ที่ไหนหรอ?" แวนเนสย้อนถาม

"ชั้นเองก็ยังไม่รู้รายละเอียดอะไรมากนักน้องมันยังไม่มีเวลาคุยให้ฟัง รอมันกลับมาก่อน
ค่อยถาม" เมื่อได้ยินดังนั้นแวนเนสจึงไม่ถามต่อ

"เสร็จแล้ว นอนฟังให้เคลิ้มไปเลยนะ" แวนเนสยังไม่วายแหย่เจอร์รี่อีก

"เดี๋ยวเหอะ!" พี่ใหญ่ทำหน้าดุใส่น้องแล้วรับโทรศัพท์มาเก็บไว้

"ตกลงนายจะซื้อกีต้าร์ให้มันมั๊ย?" แวนเนสถามพี่ชายขึ้นมาอีก

"ไม่รู้! รอดูความประพฤติมันก่อน" พี่ใหญ่ตอบเสียงห้วนๆ

"แหม....ทำเป็นลีลา...." แวนเนสแขวะพี่ชายกลาย แต่พอเห็นเจอร์รี่มองหน้าก็ปั้นยิ้มกลบเกลื่อน

"แล้วนี่กินข้าวกินปลากันมาหรือยัง?" ถามน้องด้วยน้ำเสียงติดห้วนเล็กน้อย

"เรียบร้อยแล้วครับ" แวนเนสตอบเสียงหวานจ๋อย

"จะกินก่อนก็ไม่โทรมาบอก! รู้งี้ไม่หิ้วท้องรอก็ดี!" เจอร์รี่บ่นอุบแล้วขยับตัวลุกขึ้น

"ก็เสี้ยวเทียนมันบ่นหิวชั้นก็เลยพามันกินข้าวก่อนกลับ" แวนเนสแก้ตัวแล้วลุกตามพี่ชายไปด้วย

"ชั้นไปนั่งกินเป็นเพื่อนนายอีกก็ได้" พูดอย่างเอาใจแล้วกอดเอวพี่ชายไว้

"ไม่ต้อง! กินแล้วกินอีก เปลือง!" พี่ใหญ่แหวใส่แล้วเดินหายเข้าไปในครัว แวนเนสได้แต่เกาหัวแล้วเดินกลับไปนั่งดูโทรทัศน์ ผ่านมาพักหนึ่งไจ่ไจ๋ก็กลับเข้ามา

"พี่รอง! กลับมาแล้วหรอครับ?" ไจ่ไจ๋เอ่ยทักพี่ชายด้วยน้ำเสียงร่าเริง

"อืม....นายกลับค่ำนะวันนี้" แวนเนสรับคำน้องพร้อมกับทักทายกลับ

"ครับ พอดีประชุมกันเรื่องเดินทางไปทำโครงงาน" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วมานั่งลงข้างพี่ชาย

"ต้องเดินทางไปไหนหรอ?" แวนเนสถามซักไซร้รายละเอียดกับน้อง

"ไปไม่ไกลหรอกครับ แต่ต้องค้างคืนนึง คือเทอมนี้มีรายวิชาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมน่ะครับ เลยปรึกษากับเพื่อนๆในห้องว่าจะเดินทางไปสำรวจพวกพรรณไม้เพื่อทำเป็นโครงงานของห้อง" ไจ่ไจ๋อธิบายให้พี่ชายฟัง

"คงต้องไปวันมะรืนนี้แล้วหละครับ ที่จริงอาจารย์สั่งงานตั้งนานแล้วแต่เพิ่งจะมาทำกัน" น้องเล็กพูดต่อยิ้มๆ

"นิสัยไม่ดี ต้องรอใกล้ๆแล้วค่อยมาคิดจะทำกัน" แวนเนสต่อว่าน้องชายพร้อมกับบีบจมูกน้องอย่างหมั่นไส้

"แหม....มันไม่ใช่งานเดียวนี่ที่คิดจะทำก็ทำได้ตามใจตัวเอง งานนี้กว่าจะตกลงกันได้ก็ตั้งเกือบอาทิตย์นะครับ" น้องเล็กแย้งเป็นการแก้ตัวกลายๆ

"เอ....นายเดินทางวันมะรืนหรอ? วันเดียวกับที่พี่ต้องไปเมืองจีนเลยสิ" แวนเนสพูดขึ้นอย่างนึกขึ้นได้

"พี่รองต้องไปเมืองจีนหรอ?" น้องเล็กย้อนถามอย่างแปลกใจ

"อืม พี่ต้องไปถ่ายโฆษณาน้ำอัดลมน่ะ" แวนเนสตอบ

"ได้เที่ยวไกลเลยนะ แบบนี้ก็ดีเลยสิ" น้องเล็กพูดยิ้มๆ

"ไม่ได้เที่ยวหรอก แค่ไปทำงาน ทำเสร็จก็กลับ พี่เองก็ไปแค่สามวันเท่านั้นเอง" แวนเนสตอบยิ้มๆเช่นกัน

"หรอ? แบบนี้ก็ดีเราจะได้ไม่ต้องคิดถึงกันนาน" พูดจบก็เอาหัวซบลงที่ไหล่ของพี่ชาย แวนเนสหัวเราะกับท่าทางประจบประแจงของน้องเล็ก

"ไจ่ไจ๋กลับมาแล้วหรอ?" เสียงเคนที่เพิ่งเดินลงมาเอ่ยทักน้องชาย

"พี่กลาง! เป็นงัยบ้าง? วันนี้ไปกับพี่รองสนุกมั๊ย?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายกลับแล้วเดินไปเกาะแขนอย่างเอาใจ เคนยังไม่ตอบในทันทีแต่มองไปรอบๆคล้ายจะหาอะไรบางอย่าง

"เจอร์รี่มันขึ้นไปอาบน้ำข้างบน ไม่ต้องระแวงว่ามันจะเห็นนายหรอก" แวนเนสชิงตอบขึ้นมาอย่างรู้ทันน้องแต่ไม่วายแขวะไปด้วยกลายๆ

"ไม่ได้ถามซักหน่อย" เคนพึมพำคนเดียวแล้วเดินไปตามแรงดึงของน้องมานั่งลงที่โซฟาตัวเดียวกับแวนเนส

"วันนี้พี่กลางไปทำอะไรมาบ้าง?" ไจ่ไจ๋ถามย้ำอีก

"ไม่ได้ทำอะไรหรอก ก็ไปดูพี่รองเขาอัดเสียงน่ะ มันร้องท่อนเดียวตั้งหลายรอบแหนะ" เคนเล่าให้น้องฟังอย่างอารมณ์ดี แวนเนสได้ยินก็ยิ้มๆแล้วพูดแทรกขึ้นมา

"ก็นี้มันเป็นการทำอัลบั้มมันก็ต้องให้ออกมาดีที่สุดน่ะสิ" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็มีท่าทีสนใจขึ้นมา

"จริงหรอ? ผมอยากไปดูบ้างจัง" น้องเล็กว่าขึ้นมาบ้าง

"ก็หาวันว่างๆแล้วได้วยกันกับพี่สิ แล้วนายจะเห็นว่าพี่ทำงานจริงจังขนาดไหน" แวนเนสบอกพร้อมกับยกตัวขึ้นมา

"อืม ผมจะหาเวลาว่างไปกับพี่ครับ" น้องเล็กรับคำแล้วหันไปทางเคนอีก

"แล้ววันนี้พี่กลางได้เล่นอะไรหรือเปล่า?" เคนส่ายหน้าไปมาแต่พอนึกได้ว่าตัวเองเข้าไปขอเล่นกีต้าร์เปลี่ยนมาเป็นพยักหน้าแทน

"พี่ได้ลองเล่นกีต้าร์ไฟฟ้า เสียงดีมากเลย นักดนตรีที่ทำเพลงให้พี่รองให้พี่ลองเล่น เขาใจดีมากเลยแหละ" แวนเนสหัวเราะแล้วขยับเข้าไปกระซิบกับน้องเล็กเบาๆ

"มันร้องเพลงด้วย พี่แอบอัดเอาไว้ เดี๋ยวพี่จะให้นายฟังแต่อย่าเพิ่งบอกมันนะ เดี๋ยวมันโวยวาย" น้องเล็กได้ยินก็ทำตาโตแต่ก็พยักหน้ารับพร้อมกับรอยยิ้ม เคนเห็นสองพี่น้องซุบซิบกันก็เริ่มทำหน้ามุ่ยเพราะรู้ว่าตัวเองกำลังเป็นเป้าในการซุบซิบกันของพี่น้อง

"นินทาอีกแล้วนะ!" พูดเสียงห้วนขึ้นมา

"เปล่าซักหน่อย" แวนเนสรีบปฏิเสธ

"ใช่! พี่รองไม่ได้นินทาพี่กลางเลย พี่รองแค่บอกว่า....." น้องเล็กหยุดคิดข้อแก้ตัวให้พี่ชาย

"บอกว่าอะไร?" เคนถามย้ำสีหน้ายังดูมุ่ยๆอยู่

"บอกว่าวันมะรืนพี่รองจะไปเมืองจีน" เคนได้ยินดังนั้นก็มีสีหน้าแปลกใจ

"นายจะไปเมืองจีนหรอ? ไม่เห็นบอกชั้นเลย" หันไปหาพี่ชายพลางพูดเป็นเชิงตัดพ้อ

"ก็กำลังจะบอกอยู่นี่งัย ทำไม? ไม่อยากให้ชั้นไปหรอ?" แวนเนสพูดแหย่น้อง

"อืม....ไม่อยากให้ไป" เคนตอบออกมาตรงๆ

"อ้าว! ซะงั้น" แวนเนสอุทานออกมาอย่างงงๆเพราะปกติแล้วน้องชายคนนี้ไม่ค่อยอะไรกับเขานัก

"ทำไมหละครับพี่กลาง? ทุกครั้งไม่เห็นพี่กลางงอแงเวลาพี่รองเขาไปไหนนี่นา" ไจ่ไจ๋เองก็ไม่เข้าใจเคนเช่นกัน

"ก็แค่รู้สึกว่าไม่อยากให้ไปช่วงนี้" เคนตอบเสียงอ้อมแอ้มไม่กล้าพูดตรงๆว่าที่ไม่อยากให้แวนเนสไปเพราะกลัวจะไม่มีคนกันพี่ใหญ่ให้

"ช่วงนี้มันเป็นอะไร?" แวนเนสย้อนถามยิ้มๆ เคนทำหน้าครุ่นคิดแล้วกำลังจะอ้าปากพูดแต่เห็นพี่ใหญ่เดินลงมาพอดีจึงไม่ได้พูดต่อ

"กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไจ่ไจ๋? ไม่เห็นขึ้นไปทักพี่ใหญ่เลย" เจอร์รี่พูดเป็นเชิงต่อว่าน้อง ไจ่ไจ๋ได้ยินก็รีบลุกขึ้นไปกอดเอวพี่ชายอย่างประจบ

"ก็พี่รองบอกว่าพี่ใหญ่อาบน้ำอยู่เลยยังไม่ขึ้นไปกวน อื้ม! หอมจังเลย" พูดจบก็หอมแก้มพี่ชายฟอดใหญ่ เจอร์รี่ยิ้มแล้วเอามือขยี้หัวน้องอย่างเอ็นดูก่อนที่จะเปลี่ยนสายตาไปที่น้องชายคนกลาง เคนเห็นพี่ชายมองมาก็แสร้งหันไปดูโทรทัศน์

"คุยอะไรกันอยู่?" ถามขึ้นลอยๆแล้วเดินเข้ามานั่งร่วมวงสนทนากับน้องๆ

"ชั้นกำลังบอกน้องว่าวันมะรืนชั้นจะไปเมืองจีน ส่วนไจ่ไจ๋มันก็จะไปทำโครงงานวันมะรืนเหมือนกัน" แวนเนสเป็นตัวแทนตอบคำถามพี่ชาย

"นายไปทำโครงงานอะไร? ที่ไหน?" เคนถามแทรกขึ้นมาทันที

"ทำโครงงานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมครับ ไปไม่ไกลจากไทเปหรอกแต่ต้องค้างคืนนึง" ไจ่ไจ๋ตอบพี่ชายเสียงเจื้อยแจ้ว

"ไม่ได้นะ! พี่ไม่ให้ไป!" เคนร้องเสียงหลงเมื่อได้ยินว่าวันมะรืนนี้ทั้งแวนเนสและไจ่ไจ๋จะต้องเดินทางไปค้างคืนที่อื่นและนั่นหมายความว่าเขาต้องอยู่บ้านกับพี่ใหญ่เพียงลำพังเท่านั้น คำพูดของเคนทำเอาพี่น้องอีกสามคนมองหน้ากันอย่างแปลกใจ

"ทำไมหละครับพี่กลาง? ผมจำเป็นต้องไปนะเพราะมันเป็นงานของทั้งห้อง ขืนไม่ไปเพื่อนๆจะหาว่าไม่ช่วยงาน" น้องเล็กแย้งพร้อมกับยกเหตุผลขึ้นมา

"จะเดินทางมันก็ต้องมีการเตรียมการไว้ก่อนสิ แต่ของนายนี่มันเดินทางแบบชุกละหุกไม่ได้วางแผนอะไรไว้ก่อนเลย แล้วจะให้พี่แน่ใจได้ยังงัยว่านายจะปลอดภัย?" เคนยกเหตุผลขึ้นอ้างลอยๆ

"ปลอดภัยสิครับ ที่ที่ผมจะไปพักเนี่ยก็เป็นที่พักของญาติเพื่อน เขารับรองความปลอดภัย หรือถ้าพี่ไม่แน่ใจเดี๋ยวผมเอาเบอร์โทรของที่พักทิ้งไว้ให้ก็ได้" ไจ่ไจ๋อธิบายพร้อมกับพูดยืนยัน

"ปกตินายไม่อะไรกับน้องขนาดนี้นี่หว่า ทำไมวันนี้ดูแปลกๆ น้องมันก็ไม่ได้ไปเที่ยวแต่มันต้องทำงานที่อาจารย์สั่ง ขืนไม่ทำก็ไม่มีคะแนนน่ะสิ" แวนเนสช่วยน้องพูดอีกแรง

"แต่....แต่มันไม่จำเป็นต้องเดินทางก็ได้ โครงงานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมหาทำที่บ้านเรายังได้เลย ทำไมต้องไปทำที่อื่นแถมยังต้องค้างคืนอีกต่างหาก แบบนี้ไปทำการบ้านหรือไปเที่ยวกันแน่? ไม่รู้หละ! ยังงัยพี่ก็ไม่ให้นายไป!" เคนเถียงข้างๆคูๆพร้อมกับพูดกดดันน้องเล็ก ไจ่ไจ๋ถอนหายใจแล้วหันไปทางพี่ชายอีกสองคน

"แต่ชั้นให้น้องไป!" แวนเนสแย้งขึ้นแล้วพูดต่อ

"ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการไปเที่ยวชั้นก็ไม่ห้ามน้อง เพราะน้องมันโตแล้วคงรู้ดีว่าอะไรควรไม่ควร และที่สำคัญก็คือชั้นเชื่อมั่นว่าน้องมันต้องรับผิดชอบตัวเองได้แน่นอน" เคนได้ยินคำพี่ชายก็หันหน้าไปทางอื่นอย่างไม่สบอารมณ์

"พี่ก็อนุญาตให้นายไปเหมือนกัน" เจอร์รี่พูดขึ้นมาบ้าง เคนเม้มปากแล้วขยับลุกขึ้น

"ช่างเถอะ! ชั้นมันไม่เคยมีสิทธิมีเสียงในบ้านนี้อยู่แล้ว!" พูดจบก็เดินขึ้นห้องไปอีก

"อ้าวไอ้นี่! เป็นบ้าอะไรของมันอีกวะ!" แวนเนสบ่นพลางมองตามหลังน้อง ไจ่ไจ๋เองก็รู้สึกไม่สบายใจและเป็นห่วงความรู้สึกเคนเช่นกัน




 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 25 พฤษภาคม 2550 13:29:03 น.
Counter : 1116 Pageviews.  

Chapter 33

ตอนที่ 33

"พี่ใหญ่ว่าเราว่างเว้นจากการไปเดินเล่นซื้อข้าวของกันนานหรือยังครับ?" ไจ่ไจ๋เดินเข้ามาทรุดตัวนั่งลงข้างพี่ชายพร้อมกับเอ่ยถามอย่างมีแผนการ

"จะชวนพี่ไปไหน?" เจอร์รี่บีบจมูกน้องพลางย้อนถามกลับอย่างรู้ทันเช่นกัน ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ยิ้มเขินๆที่พี่ชายรู้ทันทุกที

"ไปห้างกันมั๊ย?" เอ่ยชวนพี่ชายอย่างไม่อ้อมค้อม เจอร์รี่หัวเราะเบาๆแล้วพยักหน้าตามใจน้อง

"ผมไม่ได้ชวนพี่ไปฟุ่มเฟือยนะ แต่เสื้อผ้าน่ะไม่ได้ซื้อใหม่มาตั้งนานแล้ว" น้องเล็กพูดคล้ายจะเกรงใจพี่ชาย

"อืม....เดี๋ยวพี่พาไปซื้อ" เจอร์รี่ตอบรับคำน้องอย่างว่าง่าย

"ขอบคุณครับ! รักพี่ใหญ่ที่สุดเลย!" ว่าแล้วน้องเล็กก็หอมแก้มพี่ชายฟอดใหญ่

"ชวนพี่กลางไปด้วยมั๊ย?" ถามพี่ใหญ่ต่ออีก

"ตามใจสิ นายลองไปถามมันก็แล้วกันว่าอยากไปหรือเปล่า?" พี่ใหญ่ว่าพลางพยักหน้าให้น้อง

"อยากไป" เสียงเคนพูดแทรกขึ้นมาก่อนพร้อมกับเดินมาทิ้งตัวนั่งลงกับพี่น้อง

"รู้หรอว่าเขาจะไปไหนกัน?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายยิ้มๆ

"ไม่รู้หรอกแต่จะไปด้วย" เคนตอบหน้าตาเฉย เจอร์รี่กับไจ่ไจ๋จึงหัวเราะออกมา

"พี่ใหญ่จะพาเด็กดื้อไปขาย รู้แบบนี้แล้วจะไปด้วยมั๊ย?" เจอร์รี่พูดหยอกน้อง

"ขายได้เท่าไหร่? ชั้นได้ส่วนแบ่งเปล่า?" เคนกวนพี่ชายกลับเช่นกัน

"ไม่มีให้หรอก ขายได้ปุ๊บพี่ใหญ่เก็บคนเดียว" จบคำพูดพี่ชายสามพี่น้องก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน

"ผมชวนพี่ใหญ่ไปเดินห้างครับ ว่าจะซื้อเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ใหม่น่ะ" ไจ่ไจ๋หันมาบอกกับเคน

"ดีเลย! พี่กำลังอยากได้อยู่เหมือนกัน" เคนดีดนิ้วเปราะอย่างโดนใจ เจอร์รี่ส่ายหน้าไปมาเล็กน้อยแล้วลุกขึ้นยืน

"เอ้า! งั้นก็ไปกันซักที เดี๋ยวสายมากแล้วคนเยอะ" เจอร์รี่พูดตัดบทแล้วขับพาน้องๆไปยังที่หมาย

"พี่ใหญ่มาดูนี่สิ" ไจ่ไจ๋ลากพี่ชายมาดูโมเดลรถที่ตัวเองสะสมอยู่

"คันนี้สวยดีเนอะพี่ใหญ่" ว่าพลางชี้ไปทางโมเดลรถยนต์สวยหรูให้พี่ชายดู เจอร์รี่ยิ้มอย่างรู้ทันว่าน้องอยากได้

"สวยดี แต่พี่ว่าถ้าอยู่ในบ้านเรามันจะดูไม่สวยเท่าไหร่นะ" แกล้งพูดปฏิเสธน้องกลายๆ ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ทำหน้าละห้อยใส่

"ฮ่าๆๆๆ!!! เอ้า! อยากได้ก็เลือกดูสิ" แล้วพี่ใหญ่ก็ยอมตามใจน้องในที่สุด

"เลือกได้ 2 คันใช่มั๊ย?" ไจ่ไจ๋แกล้งถามหยั่งเชิงพี่ชายเพราะมีที่หมายตาอยู่สองแบบแล้ว เคนที่ยืนอยู่ข้างๆหัวเราะกับความเจ้าเล่ห์ของน้องชาย

"เรื่องแบบนี้หละถนัดนัก!" พี่ใหญ่บีบจมูกน้องโยกเบาๆอย่างหมั่นไส้ ท่าทางแบบนี้เป็นอันว่าพี่ใหญ่ก็ตามใจน้องทุกที

"อันนี้สวยมั๊ยพี่กลาง?" ไจ่ไจ๋หันไปขอความเห็นจากเคน

"สวย อันที่โชว์อยู่ก็สวย" เคนตอบแล้วชี้ให้น้องดูอีกอัน

"นั่นแหละ ผมก็มองอันนั้นอยู่" น้องเล็กตอบรับแล้วเดินไปดูอันที่หมายตาไว้

"นี่....เสร็จแล้วไปดูของชั้นมั่งนะ" เคนขยับเข้าไปสะดิกแขนพี่ชาย

"อะไร? ของนายก็ไปดูเองสิ ทำไมต้องลากชั้นไปด้วย?" เจอร์รี่ทำเสียงห้วน

"แหม....ก็เงินเดือนชั้นยังไม่ออกนี่" เคนตอบพลางสะกิดแขนพี่ชายไม่เลิก

"ไม่ออกก็ไม่ต้องเอา!" พูดจบเจอร์รี่ก็เดินหนี

"โหยยย....แบบนี้มันลำเอียงนี่นา ชั้นก็น้องนายเหมือนกันนะ" เคนโอดครวญ

"ใช่! นายเป็นน้องชั้นแต่ว่านายทำงานแล้วมีเงินเดือนเป็นของตัวเอง ฉะนั้นชั้นหมดหน้าที่รับผิดชอบนายแล้ว" พี่ใหญ่แย้งกลับ

"ของชั้นไม่แพงหรอกแค่ไม่กี่ร้อยเอง" เคนยังตื๊อพี่ชายไม่เลิก แต่พี่ใหญ่ไม่สนใจเดินเข้าไปหาน้องเล็กแทน

"ได้แล้วครับพี่ใหญ่ สองคันนี้ดีมั๊ย?" ไจ่ไจ๋หยิบของมาให้พี่ชายดู

"อืม สวยดีนี่ เอามาสิพี่จะได้เอาไปจ่ายเงิน" ว่าแล้วก็รับของไปจากมือน้องส่งให้พนักงานเพื่อชำระเงิน

"เป็นอะไรอ่ะพี่กลาง?" เมื่อเห็นสีหน้าของเคนดูไม่ค่อยสบอารมณ์นักไจ่ไจ๋ก็เอ่ยถาม

"เปล่า!" เคนปฏิเสธแล้วหันหน้าหนีไปทางอื่น

"พี่กลางอยากดูอะไรหรือเปล่า? ผมเดินไปดูเป็นเพื่อน" ไจ่ไจ๋ถามเอาใจพี่ชายอีก

"ก็อยาก แต่คงได้แต่ดู" เคนตอบเป็นเชิงประชดน้อยๆ

"อ้าว! ทำไมหละ?" น้องเล็กก็ยังไม่เข้าใจพี่ชายนัก

"ช่างเถอะ! ไม่ต้องสนใจพี่หรอก" พูดจบเคนก็เดินไปนั่งรอตรงเก้าอี้ว่างด้านหน้า น้องเล็กเกาหัวงงๆกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของพี่ชายก่อนที่จะเดินไปสะกิดพี่ใหญ่เพื่อถามไถ่

"มันงี่เง่าอีกน่ะสิ จะให้พี่ซื้อของให้แต่พี่ไม่ยอม" เจอร์รี่ตอบหลังจากที่ได้ยินน้องชายถาม

"ทำไมพี่ใหญ่ไม่ซื้อให้พี่กลางหละครับ?" น้องเล็กถามต่ออย่างไม่เข้าใจ

"พี่กลางมันทำงานแล้ว มีเงินเดือนเป็นของตัวเองมันควรจะต้องหัดจัดสรรปันส่วนเงินของมันเองได้แล้ว อยากได้อะไรก็ต้องรู้จักเก็บเงินซื้อเอง" เจอร์รี่อธิบายให้น้องฟัง

"ต่อไปถ้านายเรียนจบแล้วมีงานทำ นายก็ต้องรับผิดชอบตัวเองเหมือนกัน รู้มั๊ย?" น้องเล็กพยักหน้ารับรู้

"แล้วนี่มันไปไหนแล้วหละ?" เจอร์รี่ถามถึงเคน

"นั่งงอนอยู่โน้นงัย" ไจ่ไจ๋พยักหน้าไปทางเคนที่นั่งหน้ามุ่ยรออยู่ เมื่อจ่ายเงินเสร็จเจอร์รี่กับไจ่ไจ๋จึงเดินเข้าไปหาเคน

"ไป....เดินต่อได้แล้ว" พี่ใหญ่ว่าพลางดึงแขนน้องชายให้ลุกขึ้น

"นายมาดูนี่ก่อนสิเจอร์รี่" เมื่อลุกขึ้นได้เคนก็ดึงพี่ชายมาดูของที่เขาต้องการจนได้

"ไหน? อะไรของนาย?" พี่ใหญ่ถามพลางมองไปตามมือที่น้องชายชี้

"ตลับเกมส์อีกแล้ว! ไม่ต้องเลยนะ!" เมื่อรู้ว่าน้องอยากได้ตลับเกมส์บอยพี่ใหญ่ก็ส่ายหน้าปฏิเสธทันที

"อย่าเพิ่งสิ นายดูก่อน นี่งัย....เห็นมั๊ย?" เคนชี้ให้พี่ชายดูราคาที่ลดลงครึ่งหนึ่ง

"เขาลดราคาอยู่เหลือแค่ร้อยกว่าๆเท่านั้นเอง" แม้จะเห็นดังนั้นแต่พี่ใหญ่ก็ส่ายหน้าปฏิเสธอยู่ดี

"ไม่! ที่มีอยู่ที่บ้านก็กองจนล้นหมดแล้ว ไม่ต้องซื้อไปเพิ่มเลย" พูดพลางทำหน้าดุใส่น้อง

"โมเดลรถของไจ่ไจ๋ก็มีอยู่ที่บ้านตั้งเยอะเหมือนกันแล้วทำไมถึงซื้อให้มันได้หละ?" เคนย้อนเอาบ้าง ไจ่ไจ๋ได้ยินพี่ชายพาดพิงถึงตัวเองก็สะดุ้งเล็กน้อย

"พี่กลางก็นะ...โมเดลรถเนี่ยมันมีประโยชน์ออก เวลาต่อก็ได้ฝึกสมาธิไปด้วย แถมพอต่อเสร็จก็เป็นของตกแต่งบ้านได้ด้วย มันไม่ได้ไร้สาระนะครับ" ไจ่ไจ๋รีบแก้ตัวขึ้นมาทันที

"ที่ต่อแล้วนายก็รื้อออกมาต่อใหม่ได้ไม่เห็นต้องซื้อใหม่เลย" เคนเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้

"เสี้ยวเทียน! เราโตแล้วนะ งอแงแบบนี้ไม่อายเด็กๆบ้างหรืองัย?" พี่ใหญ่ต่อว่าน้องชายแล้วดึงมือน้องให้ออกมาจากบริเวณนั้น

"ชั้นซื้อเองก็ได้!" เคนว่าพร้อมกับสะบัดมือพี่ชายออก

"ซื้อเองก็ไม่ได้! ชั้นไม่ให้นายซื้อ มันไม่ได้มีความจำเป็นอะไรเลย ไอ้ที่มีๆอยู่เอาออกมาเล่นให้ครบก่อนเถอะ!" พูดจบก็กึ่งลากกึ่งจูงน้องลงไปชั้นอื่น

"ไปดูเสื้อผ้าสิไจ่ไจ๋" เมื่อลงมาได้เจอร์รี่ก็บอกให้น้องเข้าร้านเสื้อผ้า เคนดึงมือพี่ชายออกแล้วออกไปยืนหน้าง้ำหน้างออยู่หน้าร้าน

"พี่กลางท่าจะเป็นเอามาก" น้องเล็กกระซิบกับพี่ใหญ่ เจอร์รี่เองก็ได้แต่ถอนใจ

"นายเลือกไปก่อนนะ" พูดจบเจอร์รี่เดินไปดึงแขนเคนเข้ามาในร้าน

"อยากได้เสื้อผ้าใหม่ไม่ใช่หรอ? เลือกดูสิ" พี่ใหญ่พยายามพูดเอาใจน้อง

"ชั้นไม่มีปัญญาซื้อเสื้อผ้าแพงๆแบบนี้หรอก!" พูดจบก็ทำท่าจะเดินออกไปแต่เจอร์รี่ก็ดึงไว้อีก

"อันนี้ชั้นซื้อให้ เลือกเอาสิ" เคนมองหน้าพี่ชายแล้วสะบัดมือออกอีก

"ไม่เอา! ชั้นใส่ไม่ลงหรอก แพงก็แพงแบบก็เห่ยอยากรู้นักใส่แล้วจะบินได้หรือเปล่า?" คำพูดของเคนทำเอาเจ้าของร้านแล้วพนักงานหันมามองเป็นตาเดียว เจอร์รี่กับไจ่ไจ๋หน้าเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

"พูดจาอะไรแบบนี้!" พี่ใหญ่ฟาดเพี๊ยะลงที่ต้นแขนน้อง

"ออกไปข้างนอกเดี๋ยวนี้เลย!" กระซิบกับน้องด้วยน้ำเสียงดุๆ เคนหน้างอยิ่งกว่าเดิมแล้วก้าวฉับๆออกไปโดยไม่พูดอะไร

"เอ่อ....ขอโทษด้วยนะครับ...." เจอร์รี่ก้มหัวขอโทษทุกๆคนในร้านแล้วจูงมือไจ่ไจ๋ออกไปทันที

"ฮู้ย! เกือบหัวแตกกันแล้วไหมหละ พี่กลางนี่จริงๆเลย" เมื่อออกมาได้ไจ่ไจ๋ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกพร้อมกับบ่นพี่ชายตามมา

"มันแผลงฤทธิ์แผลงเดชได้ทุกที่สิน่า! เฮ่อ! ไม่น่าเอามาด้วยแต่แรกเลย" เจอร์รี่เองก็บ่นออกมาด้วยเช่นกัน

"ยอมๆเขาหน่อยเถอะพี่ใหญ่ เรากลับไปซื้อตลับเกมส์ให้พี่เขาก็แล้วกัน ไม่งั้นต่อไปเราอาจมาเดินห้างไม่ได้อีกนะ" น้องเล็กเสนอความเห็น

"ไม่เอา! ตามใจมันเดี๋ยวทีหลังจะเอาอะไรก็อาละวาดอีก พี่ไม่ยอมเด็ดขาด!" พี่ใหญ่ส่ายหน้าหนักแน่น

"มีปัญหามากก็ไล่มันกลับไปเลย" พูดต่อเสียงห้วนอย่างเซ็งๆกับน้องชายคนนี้

"ไม่ดีมั้งพี่ใหญ่ เดี๋ยวพี่กลางน้อยใจตายเลย" น้องเล็กแย้งทันที เจอร์รี่มองหน้าน้องเล็กแล้วถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนใจ

"ไป! เราเดินดูของกันเองก็ได้ไม่ต้องไปสนใจมันแล้ว" ว่าแล้วพี่ใหญ่ก็จูงมือน้องเดินเข้าร้านขายเสื้อผ้าอีกร้านหนึ่ง โดยที่เคนได้แต่เดินตามหน้ามุ่ย

"ตัวนี้สวยดีนะไจ่ไจ๋ นายใส่ท่าจะเท่ห์ดี" เจอร์รี่หยิบเสื้อยืดสีน้ำเงินเข้มขึ้นมาให้น้องดู

"อืม....สวยดีครับพี่ใหญ่ สีเทานี่ก็ดีเนอะ" ไจ่ไจ๋ยกเสื้อตัวที่ตัวเองกำลังเลือกดูอยู่ให้พี่ชายดูเช่นกัน

"เออ! เข้าท่าแฮะ! งั้นนายเอาสองตัวนี้แล้วกัน" เมื่อผ่านความเห็นชอบของพี่ชายไจ่ไจ๋ก็ตกลงง่ายๆ

"เอ่อ....นายเลือกเผื่อไอ้พี่กลางซักสองตัวสิ" เจอร์รี่บอกน้องชาย

"ขืนให้มันเข้ามาเลือกเองคราวนี้ได้หัวแตกกันแน่ๆ" น้องเล็กหัวเราะออกขำๆแล้วพยักหน้ารับก่อนที่จะเลือกเสื้อให้เคนด้วย

"พี่กลางเขาตัวใหญ่ใส่เสื้อสีทึบๆท่าจะดีกว่านะ" เจอร์รี่ได้ยินก็หัวเราะตามไปด้วยเพราะรู้ว่าน้องกำลังจะกัดพี่ชายว่าอ้วน

"อืม พี่ก็ว่างั้นแหละ สีดำนี่เป็นงัย? เรียบๆไม่มีอะไรมากดูเหมาะกับมันดี" ว่าพลางชี้ไปยังเสื้อสีดำที่แขวนอยู่

"โอเค อีกตัวนึงเอาเป็นสีเขียวขี้ม้าแล้วกันนะ" แล้วไจ่ไจ๋ก็เลือกขึ้นมาอีกตัวหนึ่ง หลังจากได้ของครบตามที่ต้องการแล้วสองพี่น้องก็พากันเดินออกมาจากร้าน

"นี่! เดินห้างกับพี่น้องมันน่าเซ็งมากเลยหรืองัย?" เมื่อเห็นหน้าเคนแล้วเจอร์รี่ก็อดปากไว้ไม่ไหว เคนไม่ตอบว่าอะไรแต่ทำเป็นเหมือนไม่ได้ยิน

"เฮ้อ! ชั้นหละเชื่อนายเลยจริงๆ พักหลังๆมาทำไมถึงงี่เง่างอแงนักนะ? หา!!" เคนยักไหล่แล้วเดินเลี่ยงไปอีกทาง

"เอาน่าพี่ใหญ่ มีอะไรค่อยไปคุยกันที่บ้าน อย่าเพิ่งให้เป็นเรื่องขึ้นมาเลย" ไจ่ไจ๋พูดเตือนพี่ชาย เจอร์รี่ถอดถอนใจออกมาอีกครั้งก่อนที่จะสาวเท้าไปหาเคนแล้วดึงแขนน้องไว้ ไจ่ไจ๋เห็นท่าไม่ดีก็รีบจะเข้าไปห้ามแต่ก็พบว่าพี่ใหญ่ไม่ได้จะดุเคนอีก

"เสี้ยวเทียน เรามาตกลงกันดีมั๊ย?" พี่ใหญ่พยายามพูดกับน้องอย่างใจเย็น เคนไม่ตอบว่าอะไรแต่มองหน้าพี่ชายเป็นเชิงถาม

"นายเลิกทำหน้างอแล้วเดินเที่ยวกันดีๆ ถ้าอยากได้อะไรชั้นจะซื้อให้ ยกเว้นอย่างเดียวคือตลับเกมส์เพราะมันไม่จำเป็นเลย โอเคมั๊ย?" พี่ใหญ่ตั้งข้อแม้กับน้อง เคนได้ยินก็หยุดคิด

"ว่างัยหละ?" พี่ใหญ่ถามย้ำ ส่วนไจ่ไจ๋ก็ยืนลุ้นอยู่ด้วย

"จะไปไหนก็ไปสิ" เคนตอบรับในที่สุด สองพี่น้องเลยค่อยโล่งอกขึ้นมาหน่อย

"พี่กลาง เมื่อกี้พี่ใหญ่ซื้อเสื้อยืดให้พี่ด้วยนะ ซื้อให้ตั้งสองตัวแหนะ" เมื่อเห็นเคนมีท่าทีอ่อนลงไจ่ไจ่ก็เดินมาเกาะแขนพี่ชายพร้อมกับบอกกล่าว

"ซื้อทำไม? ไม่ได้อยากได้ซักหน่อย" เคนว่าแต่พอเห็นพี่ชายหันมามองเคนก็เปลี่ยนคำพูดใหม่หน้าตาเฉย

"ก็ดีนะ พี่กำลังอยากได้อยู่พอดีเลย" น้องเล็กได้ยินก็ยิ้มแบบขำๆ ส่วนเจอร์รี่ได้แต่ส่ายหน้า

"ไจ่ไจ๋ นายบอกว่าหูฟังอันเก่าพังไปแล้วใช่มั๊ย? จะดูอันใหม่หรือเปล่า?" เจอร์รี่ถามน้องเล็กอย่างนึกขึ้นมาได้

"เออใช่! ดูครับพี่ใหญ่ ว่าแต่มันอยู่ตรงไหนเอ่ย?" น้องเล็กตอบรับพร้อมกับถามต่อ

"ไปดูแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าสิ น่าจะมีนะ" เคนเป็นคนตอบคำถามนั้นแทน เจอร์รี่กับไจ่ไจ๋จึงหันไปยิ้มให้กัน

"อืม งั้นเราไปแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้ากัน" พูดจบก็เดินมากอดคอน้องชายทั้งคู่แล้วพาเดินไปยังจุดหมาย

"มีแต่แพงๆทั้งนั้นเลยพี่ใหญ่" หลังจากเดินดูได้ซักครู่ไจ่ไจ๋ก็บ่นเบาๆกับพี่ชาย

"ไม่เป็นไรหรอก มันแพงก็จริงแต่ประสิทธิภาพมันก็ดีกว่าของถูกๆที่ใช้ได้ไม่เท่าไหร่ก็พัง นายเลือกตามสบายเลยไม่ต้องเกรงใจพี่" เจอร์รี่พูดเปิดทางให้น้องเพราะรู้ว่าน้องเกรงใจ

"ขอบคุณมากนะครับพี่ใหญ่!" เมื่อได้ยินดังนั้นไจ่ไจ๋ก็ยิ้มออกทันที

"นายหละ? เอาอะไรมั๊ย?" หันมาถามน้องชายอีกคนอย่างเอาใจ เคนส่ายหน้าน้อยๆ

"ชั้นขอเดินไปดูตรงนั้นหน่อยแล้วกัน" เคนว่าแล้วผงกหัวไปอีกด้านหนึ่ง

"โอเค เดี๋ยวพอไจ่ไจ๋เลือกเสร็จแล้วชั้นจะเดินไปหา" เจอร์รี่พยักหน้ารับรู้

"พี่กลางไปไหนหรอ?" ไจ่ไจ๋เอ่ยถามเจอร์รี่เมื่อเห็นว่าเคนเดินแยกไปอีกทาง

"ไปดูอะไรของมันซักอย่างนั่นแหละ" เจอร์รี่ตอบแล้วพยักหน้าให้น้องเลือกของต่อ

"เอาอันนี้แล้วกันครับ เขารับประกันด้วยปีนึง" ในที่สุดไจ่ไจ๋ก็เลือกได้ เจอร์รี่หยิบมาแล้วจัดการชำระเงินให้เสร็จสรรพ

"แล้วพี่ใหญ่ไม่เอาอะไรบ้างหรอ? ไม่เห็นพี่ซื้ออะไรของตัวเองเลย" ไจ่ไจ๋หันมาถามถึงตัวพี่ชายบ้าง

"พี่ไม่อยากได้อะไร ไม่ซื้ออะไรหรอก" น้องเล็กทำจมูกย่นกับนิสัยมัธยัสธ์ของพี่ชาย

"ทำไม? จะกัดอะไรพี่อีก?" พี่ใหญ่วาดแขนออกไปล็อกคอน้องอย่างรู้ดีว่าน้องจะว่าเขางก

"เปล่าซักหน่อยพี่ใหญ่ ผมไม่ได้พูดอะไรเลยนะ" น้องเล็กปฏิเสธแต่ก็หัวเราะออกมา

"ฮึ! ไม่พูดแต่คิดหละสิ หน้าแบบนี้พี่มองปร๊าดเดียวก็รู้แล้วว่านายคิดอะไรอยู่" ว่าพลางขยี้หัวน้องแรงๆอย่างหมั่นไส้

"อู้ย! พี่ใหญ่อ่ะ เดี๋ยวผมยุ่งหมดหล่อกันพอดี" ไจ่ไจ๋บ่นอุบแล้วรีบจัดการเสยผมให้เข้าที่เข้าทางตามเดิม เจอร์รี่จึงกลายเป็นฝ่ายหัวเราะบ้าง

"เจอร์รี่!" เคนที่เพิ่งเดินกลับมาส่งเสียงเรียกพี่ชาย

"อ้าว! กำลังจะเดินไปหาพอดี ไปดูอะไรมา?" เจอร์รี่หันไปตามเสียงแล้วถามน้องชายบ้าง

"นายได้ของแล้วหรอ?" เคนไม่ตอบแต่เปลี่ยนสายตาไปทางน้องเล็ก

"ได้แล้วครับ แล้วพี่กลางหละได้อะไรหรือยัง?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายกลับ

"ยัง แต่จะมาชวนพี่ใหญ่ไปดู" ว่าแล้วก็เมียงมองไปทางพี่ชาย

"จะดูอะไร? ไม่ใช่เกมส์อีกนะ" พี่ใหญ่ดักคอ

"ไม่ใช่เกมส์" เคนส่ายหน้าปฏิเสธ แล้วดึงมือพี่ชายไปดูของที่ตัวเองอยากได้

"กีต้าร์หรอ?" เมื่อเห็นของที่เคนเซ้าซี้ให้เขามาดูแล้วเจอร์รี่ก็พึมพำออกมาเบาๆ

"อืม เนี่ย....กำลังลดราคาด้วย ช่วงนี้เขาบอกว่าลดทั้งห้างเลย เมื่อสองเดือนที่แล้วมาดูกับอันโดแพงกว่านี้ตั้งเยอะ นี่ลดเหลือแค่หกหมื่นกว่าๆเอง นายดูสิ สวยมากเลย เสียงก็ดีมากด้วย" เคนสาธยายพลางชี้ชวนให้พี่ชายดูเจ้ากีต้าร์ตัวหรู พี่ใหญ่ทำหน้าบอกไม่ถูกเมื่อพอจะรู้ว่าน้องกำลังอ้อนให้เขาซื้อให้ ส่วนไจ่ไจ๋ได้แต่หัวเราะเพราะพี่ใหญ่มีเกณฑ์จะต้องเสียเงินก้อนใหญ่แทนเงินเพียงแค่ร้อยกว่าๆ

"พี่ว่ามันก็สวยดีเหมือนกันนะ" เจอร์รี่เกริ่นนำ

"ใช่ๆๆๆ เสียงก็ดีแถมอุปกรณ์ทุกอย่างเป็นของแท้หมดเลย ยิ่งได้ราคานี้ด้วยแล้วถือว่าคุ้มมากเลย" ได้ยินน้องพูดแบบนี้แล้วเจอร์รี่ก็เริ่มหนักใจ เขาพยักหน้าแล้วดึงมือน้องออกมา

"เขารับบัตรเครดิตนะ" เคนพูดขึ้นต่อเป็นการบอกกล่าวขอให้พี่ชายซื้อให้แบบอ้อมๆ

"เสี้ยวเทียน ฟังพี่ใหญ่นะ...." ได้ยินเช่นนั้นเคนก็สบตากับพี่ชายอย่างพร้อมที่จะฟัง เจอร์รี่เมียงมองไปทางน้องเล็กที่ทำท่าปาดเหงื่อเป็นกำลังใจให้เขาในการปฏิเสธคำขอของเคน

"กีต้าร์ตัวนั้นน่ะมันสวยก็จริง แล้วพี่ก็ว่าประสิทธิภาพมันก็ต้องดีสมราคาแน่ๆ" เจอร์รี่พยายามเกริ่นนำอย่างมีเหตุผล

"ใช่ๆๆ ชั้นถึงบอกงัยว่าถ้าได้ไปก็คุ้มมากเลย" เคนเองดูเหมือนจะยังไม่เข้าใจว่าพี่ชายกำลังจะปฏิเสธเขา

"แต่ตัวที่นายมีอยู่มันก็ยังใช้งานได้ดีไม่ใช่หรอ?" ได้ยินคำถามต่อมาเคนก็ชะงักไป

"มัน....มันไม่เหมือนกันนะ นี่มันเป็นกีต้าร์ไฟฟ้าแต่ที่มีมันเป็นกีต้าร์โปร่งธรรมดา" เคนแย้งพี่ชาย

"นั่นแหละ แต่ตัวเก่ามันก็ยังใช้งานได้ดี แล้วพี่ก็เห็นว่านานๆจะมีซักครั้งที่นายจะหยิบมันออกมาเล่น" พี่ใหญ่อธิบายเหตุผลให้น้องฟังอย่างใจเย็น

"ไม่หรอก ที่ชั้นไม่เอามันมาเล่นบ่อยเพราะว่าเสียงมันเพี้ยน" เคนแย้งพี่ชายขึ้นมาอีก เจอร์รี่ลอบถอนใจแล้วเหลือบตาไปทางน้องเล็กที่ส่งสัญญาณให้กำลังใจเขาอีกรอบ

"ก็ไหนนายบอกว่านอกจากตลับเกมส์แล้วชั้นอยากได้อะไรนายก็จะซื้อให้ไม่ใช่หรอ? ปกติชั้นก็ไม่ค่อยขออะไรจากนายอยู่แล้ว ถ้านายซื้อกีต้าร์ให้ ชั้นสัญญาว่าจะไม่รบเร้าเอาอะไรจากนายอีก จะไม่ดื้อกับนายด้วย ชั้นขอแค่อย่างเดียวเองนะ" เมื่อเห็นพี่ชายจะปฏิเสธเคนเลยพูดเป็นเชิงตัดพ้อปนอ้อนหน่อยๆ

"มันไม่จำเป็นนะเสี้ยวเทียน นายเองก็ไม่ได้เล่นกีต้าร์เป็นอาชีพซักหน่อยไม่จำเป็นต้องใช้แบบเลิศเลอนักหรอก ของที่มีอยู่ก็ใช้ได้แล้ว" พี่ใหญ่อ้างเหตุผลสารพัด เคนได้ฟังแล้วก็หน้ามุ่ยลงทันตาเห็น

"ใช่! ชั้นมันไม่คู่ควรกับของราคาแพงๆแบบนี้หนิ ถ้าลองเป็นไจ่ไจ๋อยากได้บ้างนายคงไม่เกี่ยงเลยใช่มั๊ย?" พูดจบก็หันหลังหนีพี่ชาย

"ลากผมมาเกี่ยวอีกแล้ว พี่กลางมีเหตุผลหน่อยสิ กีต้าร์ตัวนั้นราคากว่าครึ่งแสนเชียวนะ จะซื้อทั้งทีใช้เวลาตัดสินใจแค่สิบนาทีได้หรืองัย?" ไจ่ไจ๋พูดขึ้นอย่างเหลืออดที่เคนลากเขามาเป็นข้ออ้างหาเรื่องพี่ใหญ่ทุกที

"นายก็พูดได้หนิเพราะตลอดมานายไม่เคยถูกปฏิเสธอยู่แล้ว" เคนหันไปพาลใส่น้องบ้าง

"เอ๊ะพี่กลาง! อย่าหาเรื่องกันหน่อยเลย" ไจ่ไจ๋เริ่มหน้าตึง

"หยุดเลยทั้งคู่! พอเลย! กลับบ้านกันได้แล้ว" พี่ใหญ่พูดตัดบทขึ้นมาเมื่อเห็นน้องตั้งท่าจะทะเลาะกัน

"แต่ผมหิวข้าว!" ไจ่ไจ๋หันไปบอกพี่ชายเสียงแข็ง

"งั้นกินข้าวกันก่อนค่อยกลับ" พี่ใหญ่ยอมตามน้อง เคนมองน้องชายอย่างหมั่นไส้แล้วเบือนหน้าหนี

"กินข้าวกันนะเสี้ยวเทียน" หันมาพูดกับเคนอย่างเป็นห่วงความรู้สึกน้องเช่นกัน

"ผมอยากกินไก่ทอด กินไก่ทอดกันนะพี่ใหญ่ ไม่ได้กินนานแล้ว" ไจ่ไจ๋ชวนพี่ชาย

"อืม งั้นไปกัน" พี่ใหญ่ตอบรับแล้วดึงมือเคนไปด้วยแต่เคนกลับขืนตัวไว้

"ชั้นไม่กินไก่ทอด!" เคนเอ่ยขึ้นมาบ้าง ไจ่ไจ๋หันขวับไปมองคนพูดที่จ้องหน้าเขาอย่างหาเรื่อง

"แล้วนายจะกินอะไร?" เจอร์รี่ถามเคนอย่างอ่อนใจ

"ไม่รู้! แต่ไม่กินไก่ทอด!" เคนตอบเสียงแข็ง

"ผมจะกินไก่ทอด!" น้องเล็กขึ้นเสียงบ้าง

"ชั้นไม่กิน!" สองพี่น้องเหมือนจะพูดกับพี่ใหญ่แต่กลับจ้องหน้ากันเองในขณะที่พูด

"หยุด! เลิกเถียงกันได้แล้ว!" พี่ใหญ่เดินเข้ามากั้นตรงกลางระหว่างน้องทั้งสองคน คราวนี้เคนกับไจ่ไจ๋ต่างมองหน้าพี่ใหญ่อย่างต้องการคำชี้ขาด

"ไป....พี่ก็อยากกินไก่ทอดเหมือนกัน....." พูดจบก็โอบไหล่น้องเล็กแล้วเดินไปด้วยกัน เคนมองตามอย่างเคืองๆแต่ก็จำใจเดินตามพี่น้องไปด้วย

"ไม่อยากกินไก่ทอดงั้นกินสลัดทูน่า เอามั๊ย?" เมื่อนั่งลงกันได้เจอร์รี่ก็หันมาถามเคนพร้อมกับโยกหัวน้องเบาๆ เคนปัดมือพี่ชายออกไม่ตอบว่าอะไรแต่ฟุบหน้าลงที่โต๊ะ

"งั้นเราไปซื้อกันดีกว่า" เมื่อเป็นดังนั้นเจอร์รี่จึงหันไปชวนน้องเล็ก

"พี่กลางทำตัวน่าเบื่อ! เห็นแล้วหมั่นไส้!" เดินคล้อยหลังออกมาได้หน่อยเดียวไจ่ไจ๋ก็บ่นอุบ พี่ใหญ่ตบไหล่น้องเบาๆเป็นเชิงปลอบ

"เอาน่า! มันคงงอนที่พี่ไม่ซื้อกีต้าร์ให้ ปล่อยมันซักพักเดี๋ยวก็คงดีขึ้น" น้องเล็กไม่ตอบว่าอะไรแต่เดินไปที่เคาเตอร์แล้วสั่งอาหารอย่างชำนาญ

"จะเอาสลัดให้พี่กลางด้วยใช่มั๊ย?" ไจ่ไจหันมาถามพี่ชาย

"อืม เอาไปเผื่อมันด้วย" พอได้คำตอบไจ่ไจ๋ก็หันไปสั่งอาหารเพิ่ม เมื่อได้อาหารครบตามที่สั่งไจ่ไจ๋ก็ถือถาดเดินกลับมาที่โต๊ะซึ่งเคนยังนั่งหน้าง้ำหน้างออยู่ไม่หาย ไจ่ไจ๋เห็นแล้วก็ยิ่งหมั่นไส้หนักกว่าเดิมจึงแกล้งเดินผ่านแล้วเอาถาดชนกับหัวพี่ชาย

"โอ้ย!" เคนร้องพร้อมกับเอามือกุมหัวตัวเอง

"ไจ่ไจ๋!!!" เจอร์รี่ที่เดินตามมาเห็นเหตุการณ์ก็ทำเสียงดุน้องเล็ก

"ขอโทษ ผมไม่ทันเห็น อยากนั่งเกะกะเองหนิ" แม้จะเอ่ยขอโทษแต่ก็ไม่วายแอบด่าส่งท้ายด้วย เคนเงยหน้าขึ้นมองน้องชายด้วยแววตาขุ่นเคือง

"เสี้ยวเทียน! เราก็นั่งให้ดีๆหน่อย ขวางทางแบบนี้คนอื่นจะเดินยังงัยกัน?" หันมาดุเคนด้วยอีกคน

"ทำไม? ไม่เห็นมีป้ายห้ามนั่งหนิ ชั้นจะนั่งตรงนี้ใครจะทำไม?" เคนย้อนพี่ชายอย่างหาเรื่อง เจอร์รี่ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจแล้ววางถาดอาหารลงไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วย

"กินได้แล้วไจ่ไจ๋ เสร็จแล้วจะได้กลับบ้าน พี่รู้สึกเหนื่อยจริงๆ" เจอร์รี่พูดกับน้องเล็ก เคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะมองพี่น้องที่นั่งอยู่สองข้างของเขาแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

"หมั่นไส้!" น้องเล็กพูดขึ้นลอยๆแต่ตั้งใจจะให้เคนได้ยิน

"ไจ่ไจ๋!" เจอร์รี่ปรามน้องพลางส่ายหน้าไม่ให้น้องยั่วพี่ชาย

"กินสิเสี้ยวเทียน ซื้อมาตั้งเยอะ กินซักหน่อยนะ" ว่าพลางหั่นเนื้อไก่แล้วใส่จานให้น้องอย่างเอาใจสุดๆ

"หรือจะกินสลัดก็ได้ อันนี้ซื้อมาให้นายโดยเฉพาะเลย" เลื่อนกล่องสลัดทูน่าให้น้องอีกด้วย

"หรือจะกินเฟรนซ์ฟรายก็มี" เคนเบ้ปากแล้วผลักอาหารตรงหน้าออกไป

"ไม่เอา! ไม่อยากกิน!" ไจ่ไจ๋เห็นดังนั้นก็เอื้อมมือมาจิ้มเนื้อไก่ที่พี่ใหญ่อุตส่าห์หั่นให้เคนมากินเสียเอง

"พี่กลางไม่อยากกินผมกินเองก็ได้" พูดจบก็ยกส่วนของเคนไปทั้งจาน

"ทำไมไม่กินซักหน่อยหละ? ไม่หิวหรอ?" เจอร์รี่ยังอดห่วงเคนไม่ได้

"ไม่กิน! กินแต่อาหารไม่มีประโยชน์มันถึงได้สมองฝ่อแบบนี้!" เคนตั้งใจจะว่ากระทบน้องเล็ก ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ชะงัก

"ว่าใครพี่กลาง?" ถามเสียงห้วนทั้งที่ในมือยังถือน่องไก่ค้าง

"ว่าหมา!" เคนกระแทกเสียง

"เสี้ยวเทียน!" คราวนี้พี่ใหญ่ทำเสียงดุ

"ตัวเองสิหมา หมาวัยทองซะด้วย!" น้องเล็กโต้ตอบพี่ชายอย่างไม่ยอม

"ไจ่ไจ๋!" หันมาดุน้องเล็กด้วย เมื่อโดนดุไจ่ไจ๋ก็หน้าง้ำด้วยอีกคน

"พอกันทั้งคู่เลย! ฆ่ากันให้ตายเลยดีมั๊ย?" พี่ใหญ่เอ็ดน้องทั้งสองคนอย่างเอือมระอา เคนกับไจ่ไจ๋ค้อนใส่กันแล้วเบือนหน้าหนีไปคนละทาง

"เฮ่อ! รีบกินเข้าไปเลยจะได้กลับบ้านกันซักที" พี่ใหญ่ถอนหายใจเฮือกก่อนจะเร่งให้น้องรีบกินให้เสร็จ



- ที่บ้าน -

"แหม....ช้อปปิ้งกันสนุกเลยนะ" เมื่อเห็นพี่น้องพากันเดินกลับเข้ามาในบ้านแวนเนสก็ร้องทัก

"สนุกจนลืมไม่ลงเลยหละ!" ไจ่ไจ๋พูดด้วยน้ำเสียงประชดแล้วเดินปังๆขึ้นไปบนห้อง แวนเนสมองตาหลังน้องอย่างงงๆ

"ได้อะไรมาบ้างวะเสี้ยวเทียน?" แวนเนสจึงเปลี่ยนไปคุยกับน้องชายคนกลางแทน

"ไม่ได้อะไรทั้งนั้นแหละ!" เคนตอบเสียงห้วน

"อ้าว! เป็นไปได้งัยวะ? ไปทั้งทีไม่ได้อะไรเลยหรอ?" แวนเนสถามซักไซร้ต่อ

"บอกไม่ได้ก็ไม่ได้สิวะ! ถามอยู่ได้!" พูดจบก็เดินขึ้นไปยังชั้นบนด้วยเช่นกัน แวนเนสเกาหัวแกรกๆด้วยไม่เข้าใจอารมณ์น้องชาย

"มันเป็นอะไรวะ?" ดังนั้นแวนเนสจึงหันกลับมาถามพี่ใหญ่แทน

"ชั้นขอชาร้อนๆซักถ้วยเถอะแวนเนส" เจอร์รี่พูดเป็นเชิงไหว้วานน้องชาย แวนเนสพยักหน้ารับแล้วเดินหายไปในครัวชงชาให้พี่ชาย

"ขอบใจมากนะ" เมื่อถ้วยชาถูกยื่นมาตรงหน้าเจอร์รี่ก็เอ่ยขอบคุณน้อง

"ตกลงไอ้สองคนนั่นมันเป็นไร?" แวนเนสนั่งลงข้างพี่ชายแล้วถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

"ไม่มีอะไรมากหรอก เจ้าเสี้ยวเทียนมันงอนที่ชั้นไม่ยอมซื้อของให้มัน ส่วนเจ้าไจ๋ก็หมั่นไส้เสี้ยวเทียนที่ชอบพูดกระแนะกระแหนมัน" เจอร์รี่เล่าให้น้องฟัง

"งั้นหรอ? แล้วเสี้ยวเทียนมันจะเอาอะไรนายถึงไม่ยอมซื้อให้มัน" แวนเนสถามต่อ

"มันจะเอาตลับเกมส์ แต่ชั้นไม่ให้มันซื้อ มีกองอยู่เต็มบ้านไปหมดแล้วยังจะซื้ออยู่นั่นแหละ" เจอร์รี่ตอบเป็นเชิงบ่นๆ

"ฮึ! นายก็นะ....ความสุขของมันก็ไม่น่าจะห้าม" แวนเนสเข้าข้างน้องชาย

"ก็รู้ แต่ไอ้ที่มีๆอยู่น่ะมันเล่นครบหรือยัง? บางอันแทบจะไม่เคยแตะเลยด้วยซ้ำ" เจอร์รี่เถียงกลับ

"แต่ที่มันงอนจริงๆสงสัยจะเป็นเรื่องกีต้าร์" แวนเนสได้ยินก็ขมวดคิ้ว

"กีต้าร์หรอ?" ทวนคำพี่ชายอย่างงงๆ

"อืม....ชั้นตกลงกับมันว่าจะซื้ออย่างอื่นที่ไม่ใช่ตลับเกมส์ให้ มันเลยจะเอากีต้าร์ไฟฟ้า ตัวนึงตั้งหกหมื่นกว่า" ได้ยินพี่ชายพูดดังนั้นแวนเนสก็หัวเราะ

"นายก็พลาดดันไปพูดแบบนั้นแต่แรก" พี่ใหญ่ได้ยินก็พลอยหัวเราะไปด้วย

"นั่นสิ ชั้นไม่นึกว่ามันจะเอาคืนขนาดนี้นี่หว่า พอชั้นปฏิเสธ คราวนี้แหละมันพาลไปทั่วเลย ถึงได้ทะเลาะกับเจ้าไจ๋เนี่ยแหละ" พี่ใหญ่เล่าให้น้องฟังคร่าวๆ

"คิดๆไปชั้นนะไม่อยากให้มันกับพ่อแม่ดีกันเลย เพราะดีกันแล้วมันก็มีพ่อแม่คอยให้ท้ายตามใจมันทุกอย่าง ขนาดชั้นเองยังขัดใจมันไม่ค่อยจะได้เลย" แวนเนสได้ฟังก็หัวเราะ

"เอาน่า! ดีกันนั่นแหละดีแล้ว ไม่งั้นนายจะให้ครอบครัวเรากลับไปมึนตึงใส่กันแบบเมื่อก่อนหรอ? ส่วนไอ้เรื่องที่มันเอาแต่ใจยอมได้ก็ยอมมันหน่อย ถือว่าชดเชยให้มันไปแล้วกัน" พูดปลอบพร้อมกับตบไหล่พี่ชายเบาๆ

"แต่ไอ้เรื่องกีต้าร์เห็นทีจะยอมไม่ได้ว่ะ ตัวนึงไม่ใช่ถูกๆ" เจอร์รี่ว่าแล้วยกชาที่เหลือดื่มจนหมดแก้ว

"เอางี้ หารกันมั๊ย? คนละครึ่งก็ได้" แวนเนสเสนอ

"ไม่เอา ชั้นไม่ซื้อให้มันหรอก ดูสิว่ามันไม่ได้กีต้าร์ตัวนั้นแล้วจะตายมั๊ย?" เจอร์รี่ยืนกราน

"นายเองก็ไม่ต้องไปตามใจมันมากนะ น้องมันไม่ใช่เด็กๆแล้ว การงานก็มีทำเงินเดือนก็ใช้ ถ้ามันอยากได้จริงๆมันก็ต้องเก็บเงินซื้อเอง" พูดดักคอแวนเนสไว้ก่อนเพราะรู้นิสัยแวน
เนสดีว่าชอบตามใจน้อง

"แหม....แต่ถ้าช่วยมันได้นิดๆหน่อยๆก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ปกติเสี้ยวเทียนมันก็ไม่ค่อยรบเร้าเอาอะไรอยู่แล้วนี่" แวนเนสแย้งแต่พอเห็นพี่ชายมองหน้าก็เลยเปลี่ยนเรื่องคุย

"เออนี่ วันมะรืนชั้นต้องไปเมืองจีนนะ ไปทำงาน" ได้ยินดังนั้นพี่ใหญ่ก็เลิกคิ้ว

"ไปกี่วัน?" ย้อนถามน้องชายกลับไป

"สามวัน ไปถ่ายโฆษณาน้ำอัดลม" พูดจบก็เอาหัวซบที่ไหล่พี่ชาย

"ไปตั้งสามวันแหนะ ชั้นต้องคิดถึงนายแน่ๆเลย" พี่ใหญ่ยิ้มออกมาได้เมื่อเจอกับลูกอ้อนของน้อง

"งั้นหรอ? แต่ทำไมพอได้รู้พี่รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกเลยหละ?" แกล้งพูดแหย่น้องบ้าง แวนเนสเงยหัวขึ้นมาแล้วทำหน้ามุ่ยใส่

"ล้อเล่นๆๆ นายไม่อยู่ชั้นคงเหงาแย่" ว่าพลางโอบไหล่น้องชายเอาไว้

"แหงหละ ถ้านายขาดชั้นแล้วจะรู้สึก" แวนเนสพูดพร้อมกับเอามือจิ้มหน้าผากพี่ชาย

"ลามปามใหญ่แล้ว! เดี๋ยวโดน!" เจอร์รี่ทำเสียงดุน้อง

"ลามปามตรงไหน? ยังไม่เล่นถึงหัวเลยนะ" แวนเนสทำหน้ากวนๆพร้อมกับวนมือขึ้นเหนือหัวพี่ชาย

"กล้าเล่นถึงหัวเชียวหรอ?" พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับเหน็บเข้าที่ต้นแขน

"อู้ยยยย.....ไม่กล้า.....ชั้นแค่ล้อเล่นเฉยๆ....." แวนเนสร้องครางด้วยสีหน้าเหยเกพลางเอามือลูบที่ต้นแขนตัวเอง

"ทำไมเดี๋ยวนี้นายดุจัง? เล่นอะไรด้วยก็ไม่ได้" ขยับเข้าไปกอดพร้อมกับต่อว่าพี่ชาย

"ชั้นเป็นเพื่อนเล่นนายหรืองัย?" ก้มหน้าลงถามน้องด้วยน้ำเสียงดุเล็กน้อย

"หรืออยากจะเป็นวัตถุโบราณให้ชั้นบูชาหละ?" ย้อนถามพี่ชายอย่างติดทะเล้น

"อย่าทะเล้นให้มันมากนัก! ทำตัวดีๆไม่มีปัญหาให้ชั้นสบายใจซักคนเถอะ!" พี่ใหญ่ผลักหัวน้องออกพร้อมกับเอ็ดเข้าให้

"แหม....ทุกวันนี้มันลำบากใจมากเลยหรืองัย?" แวนเนสยอกย้อน

"เออ! ลำบากใจ เหนื่อยใจ ที่มีน้องดื้อแบบนี้!" ตอบรับด้วยน้ำเสียงห้วนๆ

"ชั้นไม่ดื้อนะ ชั้นน่ารักออกจะตายไป" แวนเนสจีบปากจีบคอพูด จนพี่ใหญ่อดที่จะยิ้มไม่ได้

"อืม! น่ารักให้มันตลอดเถอะ!" ว่าพลางหยิกแก้มน้องชายอย่างหมั่นไส้ แวนเนสหัวเราะออกมาแล้วลุกขึ้นดึงมือพี่ชาย

"ไปซื้ออะไรมากินกัน ตั้งแต่กลับมาชั้นยังไม่ได้กินข้าวเลย" เอ่ยชวนพี่ชายไปข้างนอกอีก

"แล้วทำไมไม่กิน?" ย้อนถามพร้อมกับหยิกแก้มน้องอีก

"ก็ชั้นกะว่าพวกนายไปช้อปปิ้งกลับมาคงมีของกินติดไม้ติดมือมาฝากชั้นบ้างหนิ ที่ไหนได้มีแต่คนใจร้ายไม่คิดถึงชั้นเลยซักคน" แวนเนสทำเสียงกระเง้ากระงอด

"โอ๋ๆๆๆ ชั้นก็กะว่าจะซื้อมาให้นายเหมือนกันแต่เจ้าสองคนนั่นมันงี่เง่าเลยหมดอารมณ์ซื้อของ.....ไปๆๆนายอยากกินอะไรชั้นพาไปซื้อ อย่างอนเลยนะ" พี่ใหญ่รีบโอ๋น้อง แวนเนสยิ้มรับแล้วยักคิ้วให้พี่ชาย จากนั้นสองพี่น้องก็พากันไปซื้อของกิน




 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 25 พฤษภาคม 2550 13:27:52 น.
Counter : 1073 Pageviews.  

Chapter 32

ตอนที่ 32

"พี่รองหลับแล้วหรอครับ?" ไจ่ไจ๋เอ่ยถามพี่ใหญ่เสียงเบา วันนี้หลังเลิกเรียนไจ่ไจ๋ก็ตรงดิ่งมาโรงพยาบาลทันที

"อืม" พี่ใหญ่พยักหน้ารับขรึมๆ น้องเล็กเลยได้แต่ยิ้มแหยๆเพราะรู้ว่าพี่ใหญ่ยังติดใจเรื่องที่เขาต่อล้อต่อเถียงกับพี่ชายเมื่อวันก่อน

"พี่ใหญ่.....หิวมั๊ย? ผมซื้อของกินมาด้วยนะ" ชูถุงของกินที่ซื้อมาให้พี่ชายดู

"ไม่หิว เพิ่งลงไปกินมา" เจอร์รี่ตอบแล้วหันไปสนใจกับคอมพิวเตอร์โน๊คบุ๊คที่เขาหิ้วมาทำงานต่อ

"พี่ใหญ่ แต่ผมหิวนี่ กินเป็นเพื่อนกันหน่อยนะ" ไจ่ไจ๋ง้อพี่ชายเต็มที่

"ถ้ากินคนเดียวไม่ได้ก็ไม่ต้องกิน" เจอร์รี่ตอบแบบไม่ใส่ใจน้องชาย น้องเล็กลอบถอนหายใจเบาๆ

"พี่ใหญ่ครับ ผมขอโทษที่คืนนั้นพูดจาไม่ดีกับพี่ แล้วก็ขอโทษที่เมื่อวานผมต่อว่าพี่" ไจ่ไจ๋ขยับเข้าไปกอดแขนพี่ชายพร้อมกับพูดง้อพี่ชายอีก

"อืม! พี่รู้แล้ว" เจอร์รี่พยักหน้ารับรู้แล้วหันกลับไปสนใจกับงานตรงหน้าก่อน

"พี่ใหญ่......" ไจ่ไจ๋เรียกพี่ชายแบบลากเสียง ติดไม่พอใจเล็กน้อยที่อุตส่าห์ง้อเต็มที่แต่พี่ชายกลับไม่สนใจ

"พี่จะทำงาน นายหิวก็ไปหาที่นั่งกินที่อื่น" พี่ใหญ่เอ่ยปากไล่โดยไม่เงยหน้ามองน้องเลย ไจ่ไจ๋ถอนหายใจออกมาดังๆบ่งบอกความเหนื่อยหน่ายแล้วลุกไปนั่งที่ข้างเตียงแวนเนส

"ขี้งอนชะมัด! อุตส่าห์ง้อแล้วยังทำเป็นไม่สนใจอีก!" ไจ่ไจ๋บ่นอุบอิบพร้อมกับหยิบของกินใส่ปากไปด้วย เจอร์รี่เหลือบตามองเจ้าน้องชายตัวแสบพร้อมกับส่ายหัวไปมายิ้มๆ ความจริงเขาไม่ได้โกรธเคืองอะไรเจ้าน้องชายตัวดีแล้ว

"อยากงอนก็งอนไปเลย! ไม่ง้อแล้วก็ได้! เดี๋ยวพี่กลางก็จะกลับแล้ว คราวนี้แหละอย่ามาง้อ......อุ๊บ! แค่กๆๆๆ!!!" ไจ่ไจ๋บ่นไปในขณะที่ยังเคี้ยวของกินอยู่เต็มปากยังผลให้ของกินนั้นติดคอ เสียงไอของน้องชายทำให้เจอร์รี่หันไปมอง

"มาไม้เดียวกันเลยนะ พี่ไม่หลงกลง่ายๆหรอกไอ้แสบ" เจอร์รี่พูดกับตัวเองยิ้มๆเพราะคิดว่าไจ่ไจ๋แกล้งทำอาหารติดคอเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา

"ไจ่ไจ๋....." แวนเนสที่หลับสนิทได้ยินเสียงน้องไอก็ตื่นขึ้นมาด้วยสีหน้างัวเงียต่อเมื่อเห็นน้องไอจนหน้าดำหน้าแดงก็ตกใจ

"ไจ่ไจ๋!! เป็นอะไร?" น้ำเสียงของแวนเนสดูจะตกใจเป็นอย่างมาก ไจ่ไจ๋ไม่ตอบเพียงแต่ชี้ไปที่แก้วน้ำ

"เดี๋ยวนะๆๆๆ" แวนเนสรีบกระวีกระวาดเทน้ำใส่แก้วให้น้อง ไจ่ไจ๋รีบรับแก้วน้ำขึ้นมาดื่มแต่พอดื่มเร็วไปก็สำลักออกมาอีก แวนเนสเห็นก็รีบลูบหลังให้น้องชาย เห็นเช่นนั้นแล้วพี่ใหญ่จึงรีบลุกขึ้นมาดูทันที

"เฮ้ย!!!" เจอร์รี่ทำหน้าตกใจเมื่อเห็นน้องน้ำหูน้ำตาไหล ใบหน้าแดงกล่ำไปหมด

"หายหรือยัง?" แวนเนสถามน้องด้วยความเป็นห่วง ไจ่ไจ๋พยักหน้าก่อนที่จะค้อนใส่พี่ชายคนโต

"เฮ่อ! เกือบตายแหนะ" ตอบพร้อมกับเอามือลูบหน้าตัวเอง

"อาหารมันติดคอน้องทำไมนายถึงนั่งมองเฉยๆหละ? มันตายไปจะว่างัย?" แวนเนสหันมาต่อว่าพี่ชายทันทีเมื่อเห็นว่าน้องไม่เป็นไรแล้ว

"ก็.....ก็นึกว่ามันแกล้งนี่หว่า....." เจอร์รี่ตอบเสียงอ้อมแอ้ม

"แกล้ง? ผมจะแกล้งทำอะไรปัญญาอ่อนแบบนั้น! มีแต่คนบ้าเท่านั้นแหละที่จะทำแบบนั้นได้!" ไจ่ไจ๋แหวใส่พี่ชาย แต่คำพูดนั้นกลับทำให้เจอร์รี่หัวเราะก๊ากในขณะที่แวนเนสได้แต่อ้าปากค้าง

"ไจ่ไจ๋!!! พูดจาน่าเตะเหลือเกินนะ! เมื่อกี้น่าจะปล่อยให้มันตายไปเลย!" แวนเนสโวยวายเป็นการใหญ่ น้องเล็กได้ยินก็มองหน้าพี่ชายสองคนสลับกันไปมาอย่างงงๆ

"เรื่องอะไรมาด่าผมหละ? ผมพูดอะไรผิด?" น้องเล็กยังไม่เข้าใจอยู่ดี

"งั้นนายอยากรู้จักคนบ้าที่แกล้งทำอาหารติดคอเพื่อเรียกร้องความสนใจมั๊ยหละ?" เจอร์รี่กอดคอน้องเล็กพร้อมกับย้อนถามด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะ

"หา???" ไจ่ไจ๋เลยยิ่งงงเข้าไปใหญ่เพราะไม่รู้ว่าพี่ชายพูดถึงเรื่องอะไรกัน

"วันนี้มีคนบ้าคนนึงมันแกล้งทำแอปเปิ้ลติดคอเพื่อเรียกร้องความสนใจจากพี่ใหญ่น่ะ" ขยายความพร้อมกับเหล่มองแวนเนสที่นั่งหน้าง้ำอยู่เตียง

"ทำแอปเปิ้ลติดคอ?" น้องเล็กทวนคำแล้วแวนเนสตามสายตาพี่ชายคนโต จากอารมณ์ที่กำลังเคืองๆพี่ใหญ่กลับกลายมาเป็นการระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นเมื่อเข้าใจทุกอย่างแล้ว

"ฮ่าๆๆๆๆ!!!!!" ในขณะที่พี่น้องสองคนหัวเราะอยู่นั้นแวนเนสได้แต่ค้อนใส่แล้วล้มตัวนอนหันหลังให้ทันที

"พี่รอง.....คิดได้ยังงัยเนี่ย?.....ฮ่าๆๆๆ....." ไจ่ไจ๋พูดพลางหัวเราะพลางเพราะไม่คิดว่าแวนเนสจะทำแบบนี้ได้

"หุบปากซักที! พี่จะพักผ่อน!" แวนเนสตวัดเสียงแต่ไม่ยอมหันกลับมาเพราะติดเคืองอยู่

"ไจ่ไจ๋ แล้วนายว่าการเรียกร้องความสนใจด้วยการร้องไห้แงๆเสียงดังๆน่ะเป็นการเรียกร้องความสนใจที่ผู้ใหญ่ตัวโตๆเขาจะทำกันมั๊ย?" เจอร์รี่ได้ทีเผาแวนเนสต่อ

"โอ้ย!!! ถ้าจะคุยกันก็ออกไปให้พ้นๆหน้าชั้นเลยนะ! รำคาญ!!!" แวนเนสลุกขึ้นมาแว๊ดใส่แล้วทิ้งตัวนอนลงไปอีกครั้ง เจอร์รี่กับไจ่ไจ๋หันไปอมยิ้มให้กัน

"งั้นลงไปหาอะไรกินกันดีกว่า เดี๋ยวมาแล้วกันนะ" พี่ใหญ่ชวนน้องเล็กพร้อมกับบอกกล่าวให้แวนเนสรู้ด้วย แวนเนสได้ยินแล้วแต่ไม่ตอบรับอะไร

"ไป.....เราไปกันเถอะ นายเอาของที่ซื้อมาลงไปกินด้วยก็ได้" เจอร์รี่บอกไจ่ไจ๋

"ไม่เอาหรอก! ไม่กินแล้วไอ้ลูกชิ้นบ้านี่! กินแล้วติดคอ!" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับเบ้ปาก

"โทษไปโน้น เรานั่นแหละที่พูดๆๆๆในขณะที่เคี้ยวอาหาร สอนไม่จำ!" เจอร์รี่ว่าน้องกลับพร้อมกับเอานิ้วจิ้มที่หน้าผากน้องเบาๆ

"ไปหาอะไรกินกันเถอะ ผมหิวแล้ว" น้องเล็กรีบเปลี่ยนเรื่องโดยการโอบรอบเอวพี่ชายแล้วชวนลงไปข้างล่าง



- วันต่อมา -

"แต่งตัวซะหล่อเชียว จะไปไหนหรอไจ่ไจ๋?" แวนเนสที่นอนหนุนตักพี่ชายดูโทรทัศน์อยู่เอ่ยถามน้องเล็กที่กำลังเตรียมตัวจะออกไปข้างนอก

"ไปรับพี่ชายสุดที่รักของมันงัย" เจอร์รี่ตอบแทนน้อง ไจ่ไจ๋ยิ้มบางๆแล้วเดินมาหาพี่ชายทั้งสองคน

"พี่ทุกคนก็เป็นสุดที่รักของผมทั้งนั้นแหละ" พูดเสียงอ่อนเสียงหวาน ทำให้พี่ชายทั้งคู่อดที่จะยิ้มไม่ได้

"พี่ไปด้วยสิ" แวนเนสว่าพร้อมกับขยับตัวจะลุกขึ้นแต่พี่ใหญ่เอาเอาแขนพาดบนหน้าอกน้องกันไว้ไม่ให้ลุก

"เดี๋ยวจะโดน! นายยังไม่ทันจะหายดีเลยจะออกไปข้างนอกได้ยังงัย?" พูดกับแวนเนสเสียงดุๆ

"ชั้นหายแล้ว ไม่เป็นอะไรแล้วซักหน่อย นายจะขังชั้นให้อยู่แต่ในบ้านตลอดเลยหรืองัย?" แวนเนสทำเสียงอ่อยๆเพราะอยากไปรับเคนกลับบ้านด้วย

"ชั้นไม่ให้ไป ถ้าอยากมีปัญหากับชั้นอีกก็เอาสิ" เจอพี่ใหญ่มาไม้นี้แวนเนสเลยไม่กล้าแย้งอะไรอีก

"หึๆๆๆ" ไจ่ไจ๋แอบหัวเราะแวนเนส

"พี่รองครับ ผมจะรีบไปรีบกลับ พี่นอนพักให้หายดีเถอะนะ" พูดปลอบใจแวนเนสยิ้มๆ

"ก็ได้ อย่าเถลไถลกันนักหละ" แวนเนสสั่งกำชับน้องชายเอาไว้

"ครับผม" ไจ่ไจ๋รับคำแล้วหยิบกุญแจรถก่อนที่จะเดินออกไป ตลอดทางที่ขับรถไปรับพี่ชายไจ่ไจ๋ก็เปิดเพลงและร้องคลอไปตลอดทางอย่างอารมณ์ดี

"ติ๊ดๆๆ" ไจ่ไจ๋ได้ยินเสียงโทรศัพท์ก็กดรับ

"ยังมาไม่ถึงอีกหรอ? พี่รอนานแล้วนะ" เสียงเคนบ่นอุบมาตามสาย

"กำลังจะถึงแล้วครับ อีกแป๊บเดียว" ไจ่ไจ๋ตอบพี่ชายด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะ

"อารมณ์ดีเหลือเกินนะ ไหนหละ? ถึงหรือยัง? แป๊บเดียวยังงัยกัน" เคนบ่นน้องชายออกมาอีกโดยไม่รู้ว่าไจ่ไจ๋จอดรถอยู่ด้านหลังเขานั่นเอง

"อีกแป๊บนึง" ไจ่ไจ๋แกล้งพี่ชายต่ออย่างนึกสนุก ทั้งๆที่เห็นพี่ชายยืนตากแดดคุยโทรศัพท์อยู่ตรงหน้า

"พี่ร้อนนะโว้ย! นายขับรถมาหรือเข็นรถมากันแน่?" เคนโวยวายน้องชายออกมาอีก ไจ่ไจ๋หัวเราะคิกคักอย่างขำๆ

"เข็นมาครึ่งทางแล้วค่อยมาขับตอนใกล้จะถึงเนี่ยแหละ" ตอบพี่ชายอย่างกวนๆ

"ไอ้เด็กบ้า! อย่ามากวนประสาทพี่ให้มากนักนะ! วันหลังไม่ต้องมารับเลยนะพี่กลับเองสบายกว่าเยอะ!" เคนต่อว่าน้องชายอย่างหงุดหงิด ไจ่ไจ๋หัวเราะเสียงดังแล้วเอามือกดแตรรถ เคนหันมาตามเสียงก่อนที่จะทำหน้าเข้มใส่เจ้าน้องชายหน้าทะเล้นแล้วเดินดุ่มๆมาหา

"สวัสดีครับพี่กลาง" น้องเล็กลงจากรถแล้วเอ่ยทักทายพี่ชาย

"สวัสดีครับ!" เคนกัดฟันพูดพร้อมกับแถมมะเหงกให้น้องอีกทีหนึ่ง

"หึๆๆๆ พี่กลางนี่ขี้โวยวายไม่หายซักทีนะเนี่ย" ไจ่ไจ๋หัวเราะแล้วช่วยพี่ชายเอาสัมภาระใส่ท้ายรถ เคนไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่หันไปค้อนใส่น้อง

"โอ๋ๆๆๆ รีบขึ้นรถเถอะ อากาศร้อนเดี๋ยวเส้นเลือดในสมองแตกตาย" รีบโอ๋พี่ชายแต่ไม่วายจิกกัดไปด้วยในตัว

"เดี๋ยวเถอะ!" เคนชี้หน้าเจ้าน้องชายจอมกวนแล้วก้าวขึ้นไปนั่งด้านหน้า ไจ่ไจ๋อมยิ้มแล้วจัดการปิดท้ายรถเสร็จแล้วก็ไปประจำที่คนขับ

"ไอ้พี่รองมันเป็นยังงัยบ้าง? หายดีหรือยัง?" เมื่อรถเริ่มออกตัวเคนก็ถามไถ่เอาจากน้อง

"ก็ดูเหมือนจะหายดีแล้วนะครับ แต่พี่ใหญ่ยังไม่แน่ใจเลยห้ามพี่รองออกจากบ้านเด็ดขาด พี่รองคงเซ็งอยู่เหมือนกันแต่ก็ไม่กล้าขัดใจพี่ใหญ่อีก" ตอบพี่ชายยิ้มๆ

"สมน้ำหน้ามัน! ไม่สบายแล้วยังไปทำงานอีก" เคนพูดซ้ำเติมแวนเนส

"พี่กลางต้องมาเห็นตอนที่พี่รองโดนพี่ใหญ่โกรธว่าพี่รองน่ะหน้าจ๋อยขนาดไหน? ตอนนั้นบรรยากาศในบ้านกร่อยๆพิลึก" น้องเล็กเล่าให้พี่ชายฟัง

"แต่พี่ใหญ่ก็โกรธได้ไม่นานใช่มั๊ยหละ?" เคนพูดต่ออย่างรู้จักพี่ใหญ่ดี

"ก็ไม่นานหรอกครับ เพราะพี่รองเขาแผนสูง" ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับหัวเราะออกมาเมื่อคิดถึงวีรกรรมที่แวนเนสก่อไว้ที่โรงพยาบาล

"หืม? พี่รองมันทำอะไรหรอ?" เคนเลิกคิ้วถามน้องกลับอย่างสงสัย

"พี่รองเขาแกล้งทำแอปเปิ้ลติดคอ พี่ใหญ่เห็นก็ตกใจเลยรีบเข้าไปดู" เคนได้ยินก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

"แต่พี่ใหญ่ก็จับได้ว่าพี่รองเขาแกล้งก็เลยโกรธมากกว่าเดิม คราวนี้พี่รองทำงัยรู้มั๊ย?" ไจ่ไจ๋เล่าต่อพร้อมกับย้อนถามพี่ชาย

"ทำยังงัย?" เคนถามอย่างสนใจ

"ร้องไห้ลั่นโรงบาลเลย จนนางพยาบาลวิ่งเข้ามาดูกันตั้งหลายคน" ไจ่ไจ๋เฉลยให้พี่ชายฟัง

"ฮ่าๆๆ!!! ไอ้พี่รองมันหน้าด้านดีนี่หว่า กล้าแหกปากร้องซะขนาดนั้นเชียว" เคนได้ยินถึงกับหัวเราะก๊าก

"ใช่....แต่พี่ใหญ่เขาหน้าบางเลยต้องยอมตามข้อต่อรองของพี่รองที่บอกพี่ใหญ่ต้องหายโกรธไม่งั้นจะไม่หยุดร้อง" น้องเล็กเองก็หัวเราะด้วย

"พี่ว่าพี่ใหญ่เขาก็คงไม่ได้โกรธไอ้พี่รองมากมายนักหรอก แต่เก๊กไปงั้นๆแหละ" เคนนินทาพี่ใหญ่ แล้วสองพี่น้องก็หัวเราะกันคิกคัก

"ว่าแต่นายเองเถอะ เดี๋ยวนี้พอมีแฟนก็อยู่ไม่ติดบ้านแล้วใช่มั๊ย?" เคนหันมาพูดถึงตัวน้องชายบ้าง

"อะไรกัน? ไม่ใช่ซักหน่อย ไปฟังมาจากไหน" น้องเล็กตอบเสียงอ้อมแอ้ม

"ฟังมาจากพี่ใหญ่ของนายน่ะสิ รายนั้นโทรมาบ่นกับพี่บ่อยๆ ระวังเถอะเดี๋ยวพี่ใหญ่น้อยใจขึ้นมาแล้วจะลำบาก คนแก่น่ะเอาใจยากจะตาย" เคนว่าแต่ไม่วายแขวะพี่ชายไปด้วย

"เดี๋ยวผมจะฟ้องพี่ใหญ่" น้องเล็กย่นจมูกพร้อมกับพูดยิ้มๆ

"ฟ้องไปเถอะ! ไม่กลัวหรอก" เคนยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจเพราะรู้ว่าน้องไม่ทำแบบนั้นแน่

"ไม่กลัวจริงหรอ?" น้องเล็กทำเสียงสูง เคนเลยผลักหัวน้องอย่างหมั่นไส้

"แล้วพี่กลางหละ? ทำงานเป็นงัยมั่ง?" หันมาถามพี่ชายบ้าง

"ก็เรื่อยๆ ไม่มีอะไรพิเศษ" เคนตอบแล้วเอนตัวลงกับเบาะรถ

"เดี๋ยวแวะตลาดซื้อกับข้าวไปทำกินกันดีกว่า พวกนายคงไม่ได้เตรียมมื้อเย็นกันไว้ใช่หรือเปล่า?" เคนบอกน้อง

"ไม่ได้เตรียม เดี๋ยวนี้แต่ละคนไม่ค่อยกลับมากินข้าวบ้านหรอก ตอนเย็นจะกินเข้ามากันเลย" ไจ่ไจ๋รายงานให้พี่ชายรู้

"ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ พี่ไม่อยู่ซักคนข้าวปลาอาหารก็ไม่มีใครใส่ใจจะทำ ไปกินข้างนอกจะมีสารอะไรปนเปื้อนบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้" เคนบ่นพี่น้องไปตามประสา

"แหม....ก็ไม่มีใครว่างทำนี่ครับ ปกติตอนเช้าพี่ใหญ่จะเป็นคนออกไปซื้อมาให้ แต่ถ้าเป็นวันหยุดก็ทำกินกันเองแหละ" น้องเล็กแย้งขึ้นแล้วถามต่อ

"ว่าแต่วันนี้เราจะทำอะไรกินกันดีหละครับ?" เคนเหลือบมองหน้าน้องชายเล็กน้อย

"แล้วนายอยากกินอะไรหละ?" ไม่ตอบแต่ย้อนถามน้องแทน

"ผมกิน....." ไจ่ไจ๋ยังตอบไม่ทันจบประโยคเคนก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างรู้ทันน้อง

"ผมกินอะไรก็ได้" น้องเล็กยิ้มแหยๆแล้วพยักหน้ารับ

"หึๆๆ.....งั้นวันนี้ทำสุกี้กินกันดีกว่า ดีมั๊ย?" เคนเสนอพร้อมกับถามความเห็นน้อง

"ดีครับ เราไม่ได้ทำสุกี้กินกันนานแล้วเหมือนกัน" ไจ่ไจ๋เห็นดีด้วย เมื่อเป็นดังนั้นแล้วสองพี่น้องก็แวะซื้อของสดที่ตลาดเพื่อกลับไปทำอาหารเย็นกินกัน

"กลับมาแล้วครับ!!!" เคนร้องทักทันทีที่ก้าวขาเข้าบ้าน

"เสี้ยวเทียน!! คิดถึงที่สุดเลย!" แวนเนสเด้งตัวลุกขึ้นจากโซฟาจะวิ่งเข้าไปกอดน้องแต่แล้วก็ต้องชะงักเพราะไจ่ไจ๋ที่เดินตามเข้ามารีบวิ่งมาบังตัวเคนไว้

"อะไรของนายวะไจ่ไจ๋?" แวนเนสว่าน้องอย่างงงๆ

"อย่าเพิ่งนะพี่รอง ผมยังไม่ได้กอดพี่เขาเลย อุตส่าห์ไปรับมา ห้ามแซงคิว" คำพูดของน้องทำเอาเคนถึงกับส่ายหน้าแต่ก็ยังมีรอยยิ้มเจืออยู่

"ไอ้บ้า! เห็นพี่เป็นอะไรเนี่ยจะกอดจะทักทายต้องมีบัตรคิวด้วย" ต่อว่าน้องยิ้มๆแล้วก็กอดเข้าน้องชายสุดที่รักซะแน่น

"อื้มๆๆๆ!!! พอใจหรือยัง?" หอมแก้มน้องชายแรงๆหลายๆทีอย่างหมั่นไส้

"พอใจแล้ว อื้มมมมมม....." ไจ่ไจ๋ตอบแล้วหอมแก้มพี่ชายค้างไว้นานๆ พี่ชายอีกสองคนมองน้องชายทั้งคู่ยิ้มๆ

"พอได้แล้ว" เคนจับหน้าน้องชายออกพร้อมกับกัดฟันพูด น้องเล็กมองหน้าพี่ชายแล้วอมยิ้มก่อนที่จะหิ้วถุงกับข้างเข้าไปในห้องครัว

"มากอดบ้างซิ!" แวนเนสเรียกน้องแต่เมื่อเคนหันหน้ามาแวนเนสก็หัวเราะ

"ขำอะไร?" เคนถามพี่ชายงงๆ เพราะไม่รู้ว่าแก้มตัวเองที่ถูกน้องหอมนั้นมีรอยแดงๆปรากฎอยู่

"เปล่า" แวนเนสส่ายหน้าแล้วรั้งตัวน้องเข้ามากอดแน่นด้วยความคิดถึง

"นายหายดีแล้วหรอ?" เคนถามพี่ชายอย่างห่วงใย

"หายแล้วหละ" แวนเนสตอบแล้วเชยคางน้องขึ้นมา

"นายบวมขึ้นหรือเปล่าเนี่ย? หน้าบานมากเลย" เคนได้ยินก็หน้ามุ่ยลงทันตาเห็น

"ไปไกลๆเลย! ปากดีเหลือเกิน!" ผลักพี่ชายออกแล้วจะเดินไปนั่งพักที่โซฟา

"เดี๋ยวก่อนสิ!" แวนเนสดึงมือน้องไว้ก่อน

"อะไรอีกหละ!?" เคนตวัดเสียงใส่ แวนเนสไม่ตอบแต่เหนี่ยวคอน้องเข้ามาใกล้แล้วหอมแก้มน้องแรงๆซึ่งเป็นที่เดียวกับที่ไจ่ไจ๋เพิ่งหอมไปเมื่อกี้ ยังผลให้รอยแดงๆนั้นชัดเจนมากขึ้น

"ซื้อของมาทำกินใช่มั๊ย? ชั้นไปช่วยไจ่ไจ๋หละ" พูดจบแวนเนสก็เดินผิวปากเข้าห้องครัวตามน้องเล็กไป

"อะไรของมัน" เคนเอามือถูแก้มตัวเองแล้วจะเดินไปนั่งอีกแต่คราวนี้ถูกพี่ใหญ่รั้งไว้ก่อน

"เดี๋ยวๆๆๆ แล้วไม่ทักพี่ใหญ่หรืองัย?" เคนได้ยินคำทักท้วงก็สวมกอดพี่ชายโดยไม่พูดจาอะไร

"นายอ้วนขึ้นเหมือนที่แวนเนสมันว่าจริงๆแหละ พี่ใหญ่จะโอบรอบตัวนายไม่ได้แล้วเนี่ย" เอ่ยแซวน้องชายขึ้นมาบ้าง

"พูดจากวนประสาทอีกคนแล้ว!" เคนเงยหน้าขึ้นมาค้อนใส่พี่ชาย

"หึๆๆๆ" เจอร์รี่หัวเราะแล้วแกล้งหอมแก้มเคนแรงๆซ้ำกับที่ไจ่ไจ๋และแวนเนสหอมไปเมื่อกี้นี้ด้วย

"ไป....ไปในครัวกันดีกว่า....." เสร็จแล้วก็ชวนน้องเข้าไปสมทบกับพี่น้องอีกสองคน เมื่อเคนเดินเข้ามาแวนเนสกับไจ่ไจ๋ก็หันไปอมยิ้มให้กันเพราะที่แก้มเคนนั้นเป็นรอยแดงที่เห็นได้อย่างชัดเจน เจอร์รี่เองก็ยักคิ้วให้น้องอีกสองคนด้วย

"ชั้นจะทำสุกี้นะวันนี้ ไม่ได้กินนานแล้ว" เคนพูดขึ้นโดยไม่รู้ว่าตัวเองถูกพี่น้องแกล้งเอาอีกแล้ว

"นี่! เป็นอะไรกัน? มองหน้าชั้นอยู่ได้!" แหวใส่เมื่อเห็นพี่น้องทั้งสามคนมองหน้าเขาพลางอมยิ้มไปด้วย

"เปล่าหรอกครับ เพียงแต่พวกเราสามคนคิดถึงพี่มากเท่านั้นเอง ไม่เห็นหน้ากันตั้งสองอาทิตย์กว่าก็เลยต้องมองให้นานๆหน่อยจะได้หายคิดถึง ใช่มั๊ยครับพี่ใหญ่พี่รอง?" หันไปขอเสียงสนับสนุนจากพี่ชายอีกสองคนด้วย

"อืม" เจอร์รี่กับแวนเนสพยักหน้ารับพร้อมกัน

"ประสาท! ทุกทีไม่เห็นจะเคยคิดถึง" เคนบ่นอุบแล้วหันมาหยิบของออกจากถุง

"มานี่กันเลย มาช่วยๆกันทำ เจอร์รี่นายเอาหม้อใบใหญ่ใส่น้ำแล้วไปต้มทำเป็นน้ำซุป แวนเนสกับไจ่ไจ๋มาเอาผักไปล้าง เดี๋ยวชั้นจัดการพวกเนื้อเอง" เคนออกคำสั่งกับพี่ๆน้องๆ

"ครับ" สามพี่น้องรับคำเคนแล้วแยกย้ายไปช่วยกันเตรียมอาหารเย็น ส่วนเคนนั้นเดินไปที่ตู้เย็นจะไปหยิบไข่ไก่และนมสดมาหมักพวกเนื้อแต่แล้วก็ต้องชะงักไปเมื่อเห็นเงาตัวเองที่สะท้อนอยู่ที่ประตูตู้เย็น

"เฮ้ย!!!" ร้องอุทานออกมาแล้วเอามือแตะๆที่แก้มตัวเอง ในตอนนั้นเองที่พี่น้องอีกสามคนพากันหัวเราะก๊ากออกมา เคนจึงหันควับมาทางต้นเสียง

"สนุกกันจริงๆนะ!" แหวใส่พี่น้องแล้วเอามือถูแก้มตัวเองแรงๆ

"อย่าถูสิ! เดี๋ยวก็ยิ่งแดงเข้าไปใหญ่!" เจอร์รี่เอ่ยห้ามแล้วเดินมาจับมือน้องไว้

"นิสัยไม่ดี! ชอบแกล้ง!" เคนไม่ว่าเปล่าแต่ทุบแขนพี่ชายเข้าให้ด้วย

"โอ้ย! อะไรวะ? แวนเนสกับไจ่ไจ๋มันแกล้งนายก่อนนะ ทำไมไม่ไปโวยวายกับพวกมันหละ?" เจอร์รี่บ่นอุบแต่ก็ยังคงยิ้มๆอยู่

"โอ๋ๆๆๆ พี่กลางอย่างอนเลยนะ รักหรอกจึงหยอกเล่น เอางี้....งั้นเราสามคนให้พี่เอาคืน หอมแก้มได้ตามสบายเลย" ว่าแล้วไจ่ไจ๋ก็ป่องแก้มให้เคนหอม

"อย่ามาแผนสูงหน่อยเลย!" เคนดันหน้าน้องชายออกไปไกลๆ

"ไม่เอาคืนหรอ?" ไจ่ไจ๋ยังตามแหย่พี่ชายอีก

"ไม่เอา!" เคนตวัดเสียง พี่ชายสองคนจึงได้แต่หัวเราะ

"เอาหน่อยน่า! เร็วๆๆๆๆ....." น้องเล็กยังแหย่พี่ชายไม่เลิก

"อยากโดนเตะหรืองัย?" เคนพูดขู่น้องชาย น้องเล็กย่นจมูกใส่แล้วถอยห่าง

"น้องแค่ล้อเล่นทำเป็นหงุดหงิด" พี่ใหญ่ต่อว่าน้อง

"ไม่เล่นด้วยโว้ย!" เคนแหวใส่หน้ามุ่ยสนิท สามพี่น้องได้แต่หันไปยิ้มให้กัน

"แล้วที่สั่งให้ทำน่ะทำกันหรือยัง? จะกินกันมั๊ยเนี่ย? ถ้าไม่อยากกินชั้นจะได้ไม่ต้องทำแล้ว!" พาลใส่พี่น้องต่ออย่างหงุดหงิด

"กินคร้าบบบบ....." ตอบพร้อมกันแล้วรีบแยกย้ายกันทำหน้าที่ตามคำสั่งของเคนกันอย่างแข็งขันเพราะกลัวเคนจะโวยวายแล้วทำให้มื้อเย็นต้องเป็นอันยกเลิกไป



- หลังอาหารเย็น -

"พีพีถางถาง มานี่เร็วลูก" หลังมื้ออาหารเคนก็มานั่งที่ห้องนั่งเล่นแล้วร้องเรียกแมวน้อยแสน
รักของตัวเอง เจ้าพีพีกับถางถางได้ยินเสียงเจ้านายก็รีบวิ่งมาออดอ้อนกันยกใหญ่

"น้องเรามีลูกเป็นแมวไปแล้ว" แวนเนสพูดกับพี่ใหญ่อย่างขำๆ

"เวลาพ่อไม่อยู่ซนหรือเปล่าเนี่ย? เอ้า! อ้อนกันใหญ่เลยนะ คิดถึงหรอลูก?" เคนพูดกับแมวทั้งสองตัวอย่างรักใคร่

"อย่าไปหอมมัน" เจอร์รี่ร้องห้ามเมื่อเห็นเคนเอาหน้าชนกับเจ้าถางถาง

"เฮ่อ! ความรักของเราสามพ่อลูกมีคนกีดกันอีกจนได้ แต่ถึงพ่อจะหอมหนูไม่ได้แต่พ่อรักหนูนะ" เคนไม่ได้โต้แย้งอะไรพี่ชายแต่พูดแขวะกลายๆ คำพูดนั้นทำเอาแวนเนสหัวเราะคิก

"เมี้ยวๆๆๆ!!" เจ้าพีพีกับถางถางร้องรับคำของเคนอย่างแสนรู้แต่ก็ยังป้วนเปี้ยนอยู่ไม่ยอมห่าง

"ปากคอเลาะร้ายเหลือเกินนะ!" เจอร์รี่ผลักหัวน้องก่อนจะมานั่งลงข้างๆน้อง เจ้าพีพีกับถางถางก็เดินมาอ้อนเจอร์รี่ด้วย

"ว่างัย? หิวอีกแล้วหรอ?" เจอร์รี่ถามเจ้าแมวน้อยทั้งสองตัวอย่างเอ็นดู

"มันร้องทีไรเจอร์รี่ก็ว่ามันหิวทุกที ให้มันกินทั้งวันนั่นแหละ" แวนเนสที่เดินมานั่งลงอีกข้างหนึ่งของน้องบอก

"ไม่น่าหละเดี๋ยวนี้ตัวกลมเป็นลูกบอลเชียว นายอ่ะอย่าให้มันกินพร่ำเพรื่อสิ แบบนี้ก็เสียนิสัยหมด" เคนต่อว่าพี่ชายคนโต

"อ้าว! ก็มันหิวแล้วจะไม่ให้กินได้งัยหละ?" เจอร์รี่เถียง

"มันไม่ได้หิวหรอก แมวน่ะกินวันหละสองมื้อก็เหลือเฟือแล้ว" เคนแย้งคำพี่ชาย

"แล้วเราหละต้องกินวันละกี่มื้อถึงจะอิ่ม?" พี่ใหญ่เปลี่ยนเรื่องแล้วโน้มหัวน้องชายมาซบที่ไหล่ตัวเอง

"ถ้าชั้นกินวันละห้ามื้อ พี่ใหญ่เลี้ยงไหวมั๊ยครับ?" เคนต่อความกับพี่ชายอย่างนึกสนุก

"แถมให้อีกวันละสามมื้อเลย แต่นายต้องลาออกจากงานมาอยู่บ้าน โอเคมั๊ย?" พี่ใหญ่ย้อนถามน้อง

"ชั้นโอเค!" แวนเนสรีบตอบขึ้นมาทันที

"ชั้นไม่ได้ถามนายซักหน่อย นายน่ะต้องทำงานหาเงินมาช่วยชั้นเลี้ยงน้องถึงจะถูก" เจอร์รี่พูดยิ้มๆ

"งั้นเดี๋ยวชั้นโทรบอกหัวหน้าขอลาออกเลยแล้วกัน" เคนแกล้งพูดแหย่พี่ชาย

"พูดแล้วห้ามคืนคำนะ" ก้มหน้าย้ำคำกับน้อง

"จะบ้าหรืองัย! ชั้นพูดเล่นเฉยๆ เรื่องอะไรจะลาออกง่ายๆ เดือนหน้าชั้นจะได้เพิ่มเงินเดือนแล้ว" เคนเงยหน้าขึ้นมาบอกกล่าวกับพี่ชาย

"จริงหรอ? เพิ่มเท่าไหร่?" แวนเนสถามน้อง

"สามพัน" เคนตอบยิ้มๆ

"แสดงว่านายทำผลงานเข้าตากรรมการใช่มั๊ย?" แวนเนสถามต่อ

"ประมาณนั้นแหละ" เคนพยักหน้าแล้วหันไปทางพี่ใหญ่

"ถ้าชั้นได้เพิ่มเงินเดือนแล้ว ไว้จะพาไปเลี้ยงนะ" เจอร์รี่ยิ้มรับอย่างภูมิใจ

"เลี้ยงมันคนเดียวหรอ? แล้วชั้นหละ?" แวนเนสสะกิดน้องยิกๆ

"นายรวยแล้วหนิ ทำไมชั้นต้องเลี้ยงนายด้วย?" เคนพูดแหย่แวนเนส

"เจอร์รี่มันรวยกว่าชั้นอีก นายยังเลี้ยงมันได้เลย" แวนเนสทำเสียงกระเง้ากระงอด เคนเลยหัวเราะออกมาได้ในที่สุด

"เลี้ยงก็ได้ แต่ชั้นต้องได้เงินเดือนเพิ่มก่อนนะ เพราะตอนนี้กรอบเหลือเงินไม่เท่าไหร่เอง" คำพูดของน้องทำให้พี่ชายทั้งคู่หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน

"เออ....แล้วไจ่ไจ๋หละ? กินข้าวเสร็จหายหัวไปเลย" เคนถามหาน้องชาย

"รายนั้นไม่ต้องไปหามันหรอก ต้องคุยโทรศัพท์หลังอาหารสามเวลา" พี่ใหญ่พูดเสียงห้วนๆ

"ก็น้องมีแฟนนี่เนอะ มันก็ต้องเอาใจใส่กันเป็นธรรมดา" เคนพูดเข้าข้างน้อง

"เอาใจใส่แบบไม่ธรรมดาหละสิไม่ว่า! ทีพี่น้องไม่เห็นมันจะมานั่งคุยด้วยเลย" บ่นอุบต่อเบาๆ

"เวลาตัวเองไม่มีเวลาให้น้องแล้วน้องมันบ่นก็หาว่าน้องงอแง แต่ทีนี้พอน้องไม่มีเวลาให้บ้างตัวเองก็งอน" แวนเนสกระซิบนินทาพี่ใหญ่เบาๆ

"คนมันแก่แล้วเลยต้องการคนเอาใจตลอดเวลางัย" เคนกระซิบกลับแล้วทั้งคู่ก็หัวเราะกันคิกคัก

"นี่! นินทาชั้นหละสิ" หันมาเห็นสีหน้าน้องๆก็รู้ว่าตัวเองต้องตกเป็นเป้าการนินทาแน่นอน

"เปล่าซักหน่อย" เคนแก้ตัว ในขณะนั้นไจ่ไจ๋ก็เดินลงมาพอดี

"คุยอะไรกันอยู่ครับ?" เอ่ยถามบรรดาพี่ชายทั้งสามคน

"คุยเรื่อยเปื่อยน่ะ นายหละหนีขึ้นไปคุยกับใคร?" เคนตอบพร้อมกับย้อนถามน้อง

"แหม....ก็มีนิดนึง แต่เดี๋ยวนี้ผมไม่คุยนานๆแล้วนะครับ คุยแต่ละครั้งก็ไม่เกินครึ่งชั่วโมง" ประโยคหลังคล้ายจะบอกพี่ใหญ่กลายๆ

"เรื่องของนาย! ไหนๆก็ออกค่าโทรศัพท์เองแล้วไม่ใช่หรอ?" เจอร์รี่ลอยหน้าลอยตาตอบแต่ทำเอาไจ่ไจ๋สะดุ้ง

"ผมพูดตอนไหนครับพี่ใหญ่?" ย้อนถามพี่ชายเสียงอ่อย

"นายพูดตอนที่พี่คุยถึงเรื่องการจำกัดค่าโทรศัพท์ของนาย" พี่ใหญ่ตอบอย่างฉะฉาน

"งั้นหรอ? สงสัยตอนนั้นผมละเมอหละมั้ง? ผมไม่เห็นจำได้เลยว่าพี่เคยพูดเรื่องโทรศัพท์กับผม" ตีหน้าเซ่อใส่พี่ชายซะอย่างงั้น

"พี่ใหญ่ก็ลืมๆไปเถอะนะ เพราะตอนนั้นสติสตังของผมคงไม่อยู่ในสภาพเต็มร้อย" เจอร์รี่ส่ายหน้ากับความทะเล้นของน้อง

"ไม่รู้หละ ถ้าเดือนนี้ค่าโทรศัพท์มันมากกว่าเดือนที่แล้ว ส่วนที่เหลือนายต้องออกเอง" พูดกับน้องเสียงเข้ม

"ก็ได้ๆๆๆ ยังงัยซะผมก็ยังมีพี่รองกับพี่กลางอยู่" พูดจบก็หันไปกอดแขนเคน

"ไจ่ไจ๋น้องรัก เรื่องอื่นเรายังพอคุยกันได้นะ แต่เรื่องเงินทองนี่ยกเว้นไว้ซักเรื่องเถอะนะ" เคนบอกน้องยิ้มๆ

"หูยยย....ขี้งก! ทำงานมีเงินเดือนแล้วยังงกกับน้องกับนุ่งอีก!" น้องเล็กต่อว่าพี่ชายทั้งๆที่รู้ว่าถ้าหากเขาเอ่ยปากพี่ชายก็ไม่เคยปฏิเสธเขาเลยซักครั้ง

"ต้องพี่รองนี่สิ น่ารักที่สุดเลย" หันไปอ้อนแวนเนสแทน

"เอ่อ....ไจ่ไจ๋.....พี่เองก็อยากให้แหละนะแต่นายรู้หรือเปล่าว่ากว่าพี่จะได้เงินมาน่ะพี่ต้องทำงานให้เขาจนเสร็จหมดทุกอย่างก่อนถึงจะได้มาซักก้อนนึง พี่น่ะไม่ได้มีเงินทุกเดือนนะ" แวนเนสบอกกับน้องยิ้มๆ

"แต่พี่ได้ทีก็ใช้ได้ไปหลายปีเลยไม่ใช่หรอ?" ถามรุกพี่ชายต่ออีก

"ไม่ขนาดนั้นหรอก แล้วค่าภาษีหละพี่ไม่ต้องจ่ายหรือยังงัย?" แวนเนสว่าพลางบีบจมูกน้องอย่างหมั่นไส้

"ก็ได้ๆๆๆ ผมไม่ขอพวกพี่หรอก ยังงัยซะผมมั่นใจว่าเงินเก็บของผมเองก็มีไม่น้อยแหละน่า" ไจ่ไจ๋พูดอย่างไม่ง้อ

"นี่ๆๆๆ มีแล้วจะใช้ให้มันหมดหรือยังงัย? แทนที่จะคิดวางแผนการใช้เงินให้....." เมื่อเห็นพี่ชายตั้งท่าจะบ่นน้องเล็กก็รีบขยับเข้าไปหอมแก้มพี่ชายทันที

"อื้ม! ผมพูดเล่นน่ะครับ ผมสัญาว่าจะปรับปรุงพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ของตัวเอง ดีมั๊ย?" พี่ใหญ่ค้อนใส่น้องเสียหลายตลบ

"ยังไม่ตอบผมเลยนะว่าดีหรือเปล่า?" ดึงแก้มทั้งสองข้างของพี่ชายแล้วถามย้ำ

"ก็ดี.....แต่ทำให้ได้อย่างที่พูดก็แล้วกัน!" กัดฟันตอบคำถามน้องอย่างหมั่นไส้




 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 25 พฤษภาคม 2550 13:26:41 น.
Counter : 1110 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  
 
 

loving_zai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




[Add loving_zai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com