Chapter 34

ตอนที่ 34

"เสี้ยวเทียนไปไหน? ทำไมไม่ลงมากินข้าว?" พี่ใหญ่เอ่ยถามเมื่อไม่เห็นเคนในมื้อเย็น

"ประท้วงอดข้าวมั้งพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วลงมือกินข้าวโดยไม่รอพี่ชายคนกลางอีกต่อไป

"ไม่มีใครตามมันลงมาเลยหรอ?" ถามต่ออย่างนึกเป็นห่วงน้อง

"ชั้นตามแล้วแต่มันบอกไม่หิว" แวนเนสตอบ

"กินๆไปเถอะเดี๋ยวมันหิวก็ลงมาเองแหละ" ตัดบทพร้อมกับบอกให้พี่ชายกินข้าว

"พี่รอง เดี๋ยวพี่ไปเอาเสื้อยืดสองตัวในห้องผมด้วยนะ" ไจ่ไจ๋พูดกับแวนเนสอย่างนึกขึ้นได้

"เสื้อยืด?" แวนเนสทวนคำงงๆ

"ใช่! พี่ใหญ่เขาซื้อให้พี่กลางแต่พี่กลางไม่เอา พี่รองเอาไปแทนแล้วกัน" ไจ่ไจ๋ขยายความ

"อ้าว! ตกลงมันไม่เอาหรอ?" เจอร์รี่ถามขึ้นบ้าง

"ก็ผมเอาไปให้ที่ห้องแล้วพี่เขาโยนออกมาแบบเนี่ยเขาเอาหรือเปล่าหละ?" น้องเล็กย้อนถามเป็นเชิงประชด

"นิสัยเสียใหญ่แล้ว" เจอร์รี่บ่นพลางส่ายหน้าไปมา

"มันไม่เอานายก็เอาไปแล้วกันแวนเนส ดีเหมือนกันต่อไปจะไม่ให้อะไรมันอีกแล้ว" แวนเนสได้ยินก็ย่นจมูก

"พี่ครับ ชั้นไม่ใช่ถังขยะนะที่พอใครไม่เอาอะไรก็จะมาโยนใส่" แวนเนสท้วงขึ้นกลายๆ

"ถ้านายไม่เอาก็โยนทิ้งถังขยะไปเลยก็ได้" เจอร์รี่ว่าเป็นเชิงประชด

"แค่นี้ทำเป็นอารมณ์เสีย เอางี้เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วชั้นขึ้นไปกล่อมมันเอง คงงอนอยู่หรอกถึงได้ทำแบบนั้น" แวนเนสตัดบทเพราะเห็นท่าพี่ใหญ่กับน้องเล็กดูจะเคืองเคนอยู่

"จะทำอะไรก็ตามใจ บอกมันด้วยว่าอยากแผลงฤทธิ์ยังงัยก็ตามสบายเลย ชั้นจะไม่สนใจอีกแล้ว" พูดจบก็พี่ใหญ่ก็ตักข้าวกินโดยไม่พูดอะไรอีก พอกินเสร็จก็เอาจานไปเก็บแล้วเดินออกไปเฉยๆ

"บอกพี่กลางด้วยนะว่าเพราะพี่กลางคนเดียวทำคนทั้งบ้านหัวเสียไปหมด" หลังจากพี่ใหญ่ออกไปไจ่ไจ๋ก็พูดกับแวนเนสอย่างอึดอัด

"นายก็ไปอะไรกับพี่เขามากเล่า?" แวนเนสพูดเป็นเชิงบ่น

"พี่รองก็ชอบเข้าข้างพี่กลาง" น้องเล็กต่อว่าพี่ชายเข้าให้

"พี่เข้าข้างมันที่ไหน? พี่อยู่ฝ่ายกลางไม่เข้าข้างใครทั้งนั้นแหละ" แวนเนสแย้งคำน้อง

"ฝ่ายกลางหรือฝ่ายพี่กลางกันแน่?" น้องเล็กย้อน

"ไจ่ไจ๋! นายนี่นะชักจะร้ายกาจขึ้นทุกวันแล้ว พี่พูดอะไรนายเถียงคำไม่ตกฟากเลย" แวนเนสต่อว่าน้องเล็กขึ้นมาบ้าง

"ผมไม่ได้เถียง ก็แค่พูดตามความคิดเห็นของผม" น้องเล็กแย้งทันควัน

"ยังอีก!" คราวนี้แวนเนสทำเสียงดุ ไจ่ไจ๋หน้ามุ่ยแต่ก็ก้มหน้ากินข้าวต่อเงียบๆจนหมดก็เดินตามพี่ใหญ่ออกไป

"เป็นอะไร?" เมื่อเห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ของน้องชายพี่ใหญ่ก็เอ่ยถาม

"พี่รองน่ะสิ เข้าข้างพี่กลางแล้วก็มาดุผม" ไจ่ไจ๋กระแทกเสียงตอบ

"เรื่องนี้พี่กลางเริ่มก่อนแท้ๆเลย อะไรไม่ได้ดั่งใจก็ชอบเอาผมขึ้นมาอ้างหาว่าพี่ตามใจแต่ผมคนเดียว เวลาดีๆหละไม่เคยเอามาพูดบ้าง" ไจ่ไจ๋บ่นออกมาอย่างอึดอัด

"ผมก็เห็นพี่ใหญ่เอาใจใส่เขาดีออก มีอะไรก็คิดเผื่อพี่กลางตลอดแล้วยังมีหน้ามาพูดอีกว่าพี่ใหญ่สนใจแต่ผมคนเดียว" พี่ใหญ่ได้ยินก็ถอนหายใจแล้วขยับเข้ามากอดคอน้อง

"เวลาโกรธต่อให้ใครทำดีซักเท่าไหร่ก็ยากที่จะเห็น นายอย่าคิดมากเลย ปล่อยเขาไว้อย่างนั้นแหละ ซักพักคงหาย" พูดปลอบน้องอย่างปลงๆ

"แต่ผมไม่ชอบนี่นา ผมไม่ชอบที่พี่กลางชอบเอาผมขึ้นมาเปรียบเทียบกับพี่เขาเรื่อยเลย" เจอร์รี่โน้มหัวน้องมาซบที่ไหล่ตัวเอง

"ทำยังงัยได้หละ? ก็เขารู้สึกอย่างงั้นนี่" น้องเล็กถอนหายใจเฮือกแต่ไม่ได้โต้ตอบอะไร

"พี่เองก็ยอมรับนะว่าพี่เอ็นดูนายมากกว่าพี่รองกับพี่กลาง" ได้ยินดังนี้น้องเล็กก็เหลือบตาขึ้นมองพี่ชาย

"ทำไมพูดแบบนี้หละพี่?" น้องเล็กเสียงอ่อนลงรู้สึกไม่สบายใจที่พี่ชายพูดแบบนี้

"มันเป็นเรื่องของความรู้สึกนะไจ่ไจ๋ อาจเป็นเพราะนายกับพี่อายุห่างกันค่อนข้างมากหละมั้งพี่ถึงรู้สึกเอ็นดูนายมากกว่าใครเพื่อน แล้วนายก็เป็นเด็กช่างอ้อนช่างเจรจาซะด้วยสิ พี่ถึงใจอ่อนกับนายได้ง่ายๆทุกที" เจอร์รี่อธิบายให้น้องฟัง ไจ่ไจ๋ได้ยินก็มีสีหน้ากังวลเพราะไม่อยากให้พี่ชายเอาใจใส่เขามากกว่าด้วยกลัวพี่ชายอีกสองคนจะน้อยใจ

"พี่ทำแบบนี้บางทีพี่เขาสองคนอาจเกลียดผมก็ได้" ไจ่ไจ๋เอ่ยเสียงอ่อยๆ

"ไม่หรอก เพราะถ้าพูดถึงเรื่องอื่นพี่อาจจะรู้สึกกับพี่รองแล้วก็พี่กลางมากกว่าที่รู้สึกกับนาย" พี่ใหญ่โอบไหล่น้องพลางเขย่าเบาๆ ไจ่ไจ๋มองหน้าพี่ชายอย่างไม่ค่อยเข้าใจ

"อย่างเช่น การพูดคุยเรื่องส่วนตัวพี่จะสามารถพูดคุยกับพี่รองได้มากกว่านาย หรือว่าเรื่องที่เป็นหลักการหน่อยพี่จะคุยกับพี่กลางได้มากกว่าคนอื่นๆ" น้องเล็กได้ยินก็ค่อยพยักหน้าเริ่มเข้าใจในสิ่งที่พี่ชายพูด

"แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความรัก พี่ยืนยันว่าพี่มีให้น้องทุกคนเท่ากัน" พี่ใหญ่พูดทิ้งท้ายไว้ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ยิ้มออกก่อนที่จะขยับเข้าไปกอดพี่ชาย



- ห้องนอนเคน -

"งัย? ประท้วงไม่กินข้าวหรอ?" แวนเนสเดินเข้ามาขยี้หัวน้องชายที่กึ่งนั่งกึ่งนอนฟังเพลงด้วยสีหน้าเซ็งๆ

"เปล่า! แต่ไม่อยากกิน" เคนตอบเสียงห้วน

"ฮึ! ปากแข็ง" แวนเนสพึมพำพร้อมกับนั่งลงบนเตียงแล้วดึงเอาหูฟังออกจากหูน้อง

"คุยกันหน่อยซิ" เคนตีหน้าเซ็งแต่ก็ขยับตัวขึ้นมานั่ง

"ยังไม่หายงอนเจอร์รี่มันอีกหรอ?" แวนเนสถามน้องพร้อมกับยิ้มบางๆ

"ชั้นไม่ได้งอน" เคนปฏิเสธทันควัน

"แล้วที่เป็นอยู่เนี่ยนายเป็นอะไรหืม?" ได้ยินดังนั้นเคนก็หันหน้าหนีไปทางอื่น

"ไม่ได้เป็นอะไร" เคนปฏิเสธอีก แวนเนสส่ายหน้าแล้วโยนถุงเสื้อยืดที่พี่ใหญ่ซื้อให้ใส่บนตักน้องชาย

"งั้นก็รับไปซะ" เคนมองถุงนั้นแล้วหยิบขึ้นมาก่อนที่จะจับมือแวนเนสแล้วยัดถุงนั้นใส่มือพี่ชาย

"ชั้นให้นาย" พูดเสียงห้วนแล้วเอนตัวพิงหัวเตียง แวนเนสถอนหายใจแล้ววางถุงนั้นลงที่พื้น

"เฮ่อ! นายนี่นะบางทีก็ดูเหมือนจะแก่เกินวัยแต่บางทีก็งอแงอย่างกับเด็กๆ อะไรไม่ได้ดั่งใจหน่อยก็อาละวาดจนเขาอยู่กันไม่เป็นสุขไปทั้งบ้าน" แวนเนสบ่นน้องชาย

"ใครใช้ให้พวกนายมาเดือดร้อนด้วยหละ? ชั้นจะเป็นยังงัยมันก็เรื่องของชั้น" เคนตวัดเสียงใส่พี่ชาย

"นายนี่มันจริงๆเลย" แวนเนสไม่พูดเปล่าแต่ผลักหัวน้องอย่างหมั่นไส้เข้าให้ด้วย

"นายเลิกยุ่งกับชั้นซักทีเถอะ! จะไปไหนก็ไปเลยไป!" เคนเอ่ยปากไล่พี่ชายอย่างหงุดหงิด

"ไล่ชั้นหรอไอ้ตัวดี!" แวนเนสผลักหัวน้องอีก

"โอ้ย! ผลักอยู่นั่นแหละหัวคนนะไม่ใช่ลูกบอล!" โวยวายใส่พี่ชายอย่างไม่พอใจ

"อ้าว! หัวคนหรอเนี่ย? นึกว่าหัวหมูซะ....." แวนเนสหยุดพูดกระทันหันเมื่อเห็นน้องเงื้อนหมัดขึ้นมา

"เฮ้ยๆๆๆๆ!!! ล้อเล่นนิดเดียวเอง! หนอย! ทำเป็นโมโห" รีบคว้ามือน้องชายไว้ก่อนที่จะโดนหมัดหนักๆนั้น

"ไปเลยไป! กวนประสาทอยู่ได้!" เคนกระชากมือพี่ชายออกพร้อมกับแหวใส่

"เออ! ว่าจะซื้อกีต้าร์ให้ซักหน่อย พูดแบบนี้ก็ไม่ต้องเอาแล้วกัน" พูดจบแวนเนสก็ลุกขึ้นยืนแล้วหมุนตัวจะออกไป แต่โดนน้องฉุดแขนไว้จนแทบจะล้มลงที่เตียง

"นายพูดว่างัยนะ? นายจะซื้อให้ชั้นจริงๆหรอ?" เคนถามพี่ชายอย่างดีใจ

"โอ้ย!! ไอ้บ้านี่! ดึงลงมาได้เดี๋ยวหน้าทิ่มเสียโฉมหมด" แวนเนสบ่นอุบแต่ก็นั่งลงตามเดิม

"ขอโทษๆๆๆๆ ชั้นไม่ได้ตั้งใจดึงนาย ว่าแต่ที่นายพูดเมื่อกี้ไม่ได้ล้อเล่นใช่มั๊ย?" เคนรีบขอโทษพี่ชายเป็นการใหญ่พร้อมกับซักถามเพื่อเอาคำตอบที่ต้องการ

"ก็ล้อเล่นน่ะสิ!" แวนเนสพูดหน้าตาเฉย ได้ยินดังนั้นเคนก็ชะงักไป

"สนุกมากนักใช่มั๊ย!? มาทางไหนออกไปทางนั้นเลย!" เคนชี้นิ้วไปที่ประตูด้วยสีหน้าบึ้งตึง

"ก็ทำตัวแบบนี้มันน่าซื้ออะไรให้มั๊ยหละ? เฮ่อ!" แวนเนสบ่นอุบแล้วส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอา

"พรุ่งนี้ชั้นจะได้ค่าตัวถ่ายแบบ ไว้ตอนเย็นค่อยไปดูก็แล้วกัน" เคนได้ยินดังนั้นก็คลายสีหน้าบึ้งตึงลงเล็กน้อยแต่ยังไม่แน่ใจว่าพี่ชายแกล้งหลอกเขาอีกหรือเปล่า

"ชั้นจะซื้อให้จริงๆ พรุ่งนี้เย็นๆทำตัวให้ว่างก็แล้วกัน" แวนเนสย้ำคำ

"จริงๆนะแวนเนส? นายไม่หลอกให้ชั้นดีใจเก้อนะ" เคนยังไม่ยอมเชื่อง่ายๆ

"ชั้นจะหลอกนายทำไมกัน? ชั้นตั้งใจจะซื้อให้นายจริงๆเพราะเมื่อครั้งก่อนชั้นก็ซื้อเครื่องไอพอดให้ไจ่ไจ๋ไปแล้วแต่นายยังไม่ได้อะไรเลยหนิ" แวนเนสรับปากน้องชายจริงจัง

"แต่มันแพงนะ" เคนเริ่มรู้สึกเกรงใจพี่ชายขึ้นมา

"ไม่เป็นไรหรอก สำหรับนายชั้นให้ได้ทั้งนั้นแหละ" แวนเนสพูดด้วยความจริงใจ เคนได้ยินก็นิ่งไป

"เป็นอะไร ตื้นตันจนจะร้องไห้เลยหรอ?" เมื่อเห็นน้องไม่พูดแวนเนสจึงแกล้งแหย่

"เปล่าซักหน่อย!" เคนว่าพลางค้อนใส่พี่ชาย แล้วก่อนที่ทั้งคู่จะพูดอะไรกันต่อเจอร์รี่ก็เปิดประตูเข้ามา

"คุยอะไรกันอยู่?" เอ่ยถามน้องชายทั้งคู่ เคนเห็นหน้าพี่ชายก็หันหน้าหนีไปทางอื่นด้วยนึกเคืองไม่หายที่พี่ชายตามใจแต่น้องเล็ก

"กำลังกล่อมเด็กดื้ออยู่ เกือบๆจะสำเร็จแล้วหละ" แวนเนสตอบพี่ชายยิ้มๆ

"ไม่กินข้าวหรอเสี้ยวเทียน? เมื่อตอนกลางวันก็ไม่ได้กินอะไรหนิ ไม่หิวหรืองัย?" พี่ใหญ่หันไปถามน้องอย่างห่วงใย เคนไม่ตอบคำถามพี่ชายซ้ำยังทำเหมือนไม่ได้ยินอีกต่างหาก

"เสี้ยวเทียน! พี่ใหญ่ถามแหนะ" แวนเนสต้องพูดกับน้องอีกแรง

"ชั้นง่วงแล้ว ค่อยนัดกันพรุ่งนี้นะแวนเนส" เคนไม่สนใจพี่ใหญ่แต่กลับพูดถึงเรื่องที่คุยค้างไว้กับแวนเนสแทน พอพูดจบก็เอนตัวนอนลงบนเตียง

"นัดกันไปไหน?" พี่ใหญ่หันมามองหน้าแวนเนส

"ชั้นว่าจะไปซื้อกีต้าร์ให้มัน" แวนเนสตอบ ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็มีสีหน้าขรึมลง

"ที่ชั้นพูดไปนายฟังไม่รู้เรื่องใช่มั๊ยเสี้ยวเทียน?" พี่ใหญ่พูดกับเคนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

"ชั้นเสนอจะซื้อให้มันเองแหละ" แวนเนสแทรกขึ้นเมื่อเห็นพี่ชายจะเอาเรื่องน้อง

"นายไม่ต้องแก้ตัวแทนมัน!" พี่ใหญ่เอ็ดใส่แวนเนสด้วยอีกคน

"เสี้ยวเทียน! ลุกขึ้นมานั่งเดี๋ยวนี้!" เคนมองหน้าพี่ชายแล้วถอนหายใจก่อนที่จะขยับตัวลุกขึ้นมานั่ง

"มันจำเป็นมากหรืองัยไอ้กีต้าร์ตัวนั้นน่ะ?" เคนไม่ตอบได้แต่นั่งก้มหน้า

"น้องมันไม่ได้ขอให้ชั้นซื้อ....." แวนเนสจะออกหน้าแทนน้องแต่ก็โดนพี่ชายตวาดใส่เสียก่อน

"นายเงียบไปเลยแวนเนส! ชั้นไม่ต้องการให้นายออกรับแทนมัน!" แวนเนสมองไปที่น้องอย่างสงสารแต่ก็พูดอะไรไม่ได้

"แล้วชั้นขอสั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้นายซื้อไอ้กีต้าร์นั้นให้มัน!" แวนเนสหลบสายตาพี่ชาย

"ชั้นจะดูซิว่าถ้ามันไม่มีกีต้าร์นั่นซักตัวมันจะตายมั๊ย!?" พูดจบก็หันมาจ้องเคนตาเขม็งก่อนที่จะหมุนตัวออกไป

"เสี้ยวเทียน" เมื่อพี่ชายออกไปแล้วแวนเนสก็เรียกน้องที่ยังนั่งก้มหน้านิ่งงันอยู่อย่างนั้น

"ขอโทษที่ทำให้นายโดนตำหนิไปด้วย นายออกไปก่อนเถอะแวนเนส" เคนบอกพี่ชายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

"เสี้ยวเทียน....." แวนเนสเห็นท่าทางน้องแล้วก็รู้สึกเป็นห่วง

"นายไม่ต้องไปสนใจมัน ยังงัยพรุ่งนี้นายจะได้ของที่นายต้องการ" หลังจากเงียบไปพักหนึ่งแวนเนสก็พูดขึ้นอย่างหนักแน่น

"ชั้นไม่เอาแล้ว ขอบคุณมากนะแวนเนส" เคนปฏิเสธพร้อมกับเอ่ยขอบคุณพี่ชาย

"ไม่! ชั้นพูดคำไหนคำนั้น" แวนเนสเองก็ดึงดันที่จะซื้อให้น้อง

"ก็บอกว่าไม่เอาแล้ว! นายฟังไม่เข้าใจหรืองัย?" เคนเริ่มเสียงดังขึ้นมาบ้าง แวนเนสมองน้องชายแล้วนิ่งไป

"ชั้นไม่เป็นไรหรอก นายอย่าลำบากเพื่อชั้นเลยนะ ไม่ได้ไม่ตายแต่ถ้าได้มาชั้นอาจจะตายก็ได้" พูดต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนลง แวนเนสถอนหายใจแล้วโอบไหล่น้องชายเขย่าเบาๆ

"แวนเนส....ชั้นอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะอะไรกันแน่?" จู่ๆเคนก็เอ่ยถามขึ้นมา ได้ยินดังนั้นแวนเนสก็มองน้องอย่างตกใจ

"ทำไมชั้นถึงไม่มีความสำคัญเหมือนกับคนอื่น?" เคนพูดไปน้ำตาก็เริ่มไหลออกมา

"บางทีชั้นก็นึกอิจฉาไจ่ไจ๋เหมือนกันนะ อิจฉาที่น้องมีแต่คนรัก มีแต่คนเอาใจตามใจทุกอย่าง อยากได้อะไรก็เพียงแค่พูดออกมาทุกคนก็จะรีบตอบสนองให้ทันที ต่อให้ทำผิดก็ไม่มีใครโกรธลงซักที เวลาผิดหวังหรือเสียใจก็มีคนคอยปลอบใจมีแต่คนคอยอ้าแขนรับอยู่ตลอดเวลา" เคนก้มหน้าลงพลางสะอื้นออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

"ผิดกับชั้นที่มีแต่คนหมั่นไส้ ทำผิดทีก็ถูกดุด่าถูกซ้ำเติมลงท้ายด้วยการถูกลงโทษอย่างหนัก ผิดหวังหรือเสียใจก็ต้องเก็บไว้ในใจ อยากร้องไห้ก็ต้องร้องไห้กับตัวเอง" แวนเนสนั่งอึ้งน้ำตาซึมเมื่อได้ยินเช่นนั้น

"ชั้นควรจะรู้ตัวตั้งนานแล้วว่าไม่ควรหวังอะไร แล้วก็ควรรู้ตั้งนานแล้วว่าตัวเองไม่มีสิทธิเรียกร้องเอาอะไรจากใครทั้งนั้น" แวนเนสส่ายหน้าแล้วดึงน้องเข้ามากอด

"ไม่ใช่นะเสี้ยวเทียน ทำไมนายพูดแบบนี้หละ? นายยังมีชั้นนะ นายยังมีพี่คนนี้อยู่นะเสี้ยวเทียน" แวนเนสว่าพร้อมกับร้องไห้ไปกับน้องด้วย

"ถ้านายอยากร้องไห้นายเดินเข้ามาบอกชั้น ชั้นยินดีที่จะร้องไห้เป็นเพื่อนนาย ยินดีที่จะปลอบใจนาย ยินดีที่จะอ้าแขนรับนายตลอดเวลา ว่างัยหละ?" เคนมองพี่ชายทั้งน้ำตาก่อนที่จะพยักหน้ารับ

"ต่อไปนี้นายห้ามพูดอีกนะว่านายไม่มีใคร ถ้าชั้นได้ยินจะเขกให้หัวแตกเลย" พูดต่อด้วยน้ำเสียงดุๆ

"อืม" เคนตอบรับสั้นๆยังสะอื้นไม่หาย แวนเนสรั้งร่างน้องเข้ามากอดไว้อีก เขารู้ดีว่าเคนนั้นเป็นคนที่อ่อนไหวและเปราะบางบาง เมื่อมีสิ่งกระตุ้นเพียงนิดเดียวก็จะมีผลไปถึงความรู้สึกได้ง่ายๆ

"นี่....." เงียบไปพักหนึ่งแวนเนสก็เรียกน้องเบาๆ

"หืม?" เคนตอบรับแล้วผละตัวออกมาจากอ้อมกอดของพี่ชาย แวนเนสเช็ดน้ำตาให้น้องอย่างอ่อนโยนแล้วเลื่อนมือไปลูบหัวน้องเบาๆ

"สำหรับสิ่งของแล้วนายอาจจะต้องไขว้ขว้าเองบ้างบางอย่าง แต่ถ้าเป็นความรักและความห่วงใยนายไม่จำเป็นต้องไปหาจากที่อื่นเลยนะ" เคนได้ยินก็น้ำตาซึมออกมาอีก

"เพราะสำหรับนายแล้วชั้นมีให้อย่างไม่จำกัด ไม่ว่านายต้องการเท่าไหร่ชั้นก็ให้ได้ทั้งนั้น" แวนเนสพูดต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

"ขอบคุณมากนะ....พี่รอง...." แวนเนสหัวเราะแล้วหยิกแก้มน้องเบาๆ

"ถ้ามันฝืนนักไม่ต้องเรียกแบบนี้ก็ได้" แวนเนสว่าพลางขยี้หัวน้องอย่างเอ็นดู

"ไหน? เมื่อกี้นายฟังเพลงอะไร? ชั้นขอฟังด้วยคนนะ" แล้วแวนเนสก็ชวนให้น้องชายฟังเพลงต่อ

"ได้สิ เพลงเนี่ยเพลงโปรดของชั้นเลย" เคนตอบรับแล้วส่งหูฟังให้พี่ชายข้างหนึ่ง แวนเนสยิ้มแล้วรับมาจากนั้นก็เอนตัวนั่งฟังเพลงกับน้องชายเงียบๆ



- ตอนเช้า -

"อรุณสวัสดิ์ครับพี่กลาง" ไจ่ไจ๋เดินเข้ามากอดเอวเคนที่กำลังจัดเตรียมอาหารเช้าอยู่จากด้านหลังพร้อมกับพูดทักทายด้วยน้ำเสียงประจบ เคนไม่ได้พูดโต้ตอบอะไรเพียงแต่พยักหน้ารับน้อยๆเท่านั้น

"พี่กลาง วันนี้ทำอะไรกินหรอ?" ไจไจ๋ถามต่อพร้อมกับยื่นหน้าไปดูของที่พี่ชายเตรียมไว้

"ข้าวต้มรวมมิตร" ตอบด้วยน้ำเสียงเนือยๆ ไจ่ไจ๋ได้ยินก็มีสีหน้าสลดลงเล็กน้อย

"พี่ยังไม่หายโกรธผมอีกหรอ? เรื่องเมื่อวานผมขอโทษก็แล้วกัน ผมไม่ได้ตั้งใจจะหาเรื่องพี่เลยนะ" น้องเล็กเป็นฝ่ายง้อเมื่อเห็นพี่ชายดูนิ่งเงียบ

"พี่ไม่ได้โกรธอะไรนายเลย" เคนตอบพร้อมกับจับมือน้องชายที่กอดตัวเองออก

"ออกไปนั่งรอก่อนเสร็จแล้วพี่จะเรียกมากิน" พูดจบก็ลงมือทำอาหารเช้าต่อ น้องเล็กสังเกตเห็นว่าเคนนั้นตาบวมก็เริ่มเอะใจ

"พี่กลาง ทำไมตาบวมจัง? นอนไม่พอหรือเปล่า?" ถามต่ออย่างเป็นห่วง

"ถ้าพี่ยังง่วงอยู่ไม่ต้องทำก็ได้เดี๋ยวผมออกไปหากินเอง" เคนส่ายหน้าเล็กน้อย

"พี่ไม่ได้เป็นอะไร นายออกไปข้างนอกได้แล้วอย่าเกะกะ" พูดตัดบทเพื่อไม่ให้น้องถามต่อ ไจ่ไจ๋ได้ยินดังนั้นก็ไม่เซ้าซี้เดินกลับออกไปที่ห้องนั่งเล่น

"พี่ใหญ่ พี่กลางยังไม่หายงอนแน่ๆ" เมื่อเห็นว่าเจอร์รี่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นก่อนแล้วไจ่ไจ๋ก็เอ่ยปากทันที

"งั้นหรอ?" เจอร์รี่รับคำอย่างไม่ค่อยสนใจนัก

"พี่กลางดูซึมๆด้วยนะ ตาบวมอีกต่างหาก หวังว่าเมื่อคืนคงไม่ได้ร้องไห้นะ" น้องเล็กบ่นออกมาอีกเพราะไม่รู้ว่าเมื่อคืนพี่ชายได้เปิดศึกกันอีกรอบ ได้ยินเช่นนั้นแล้วเจอร์รี่ก็ชะงักไป

"แล้วเขาคุยกับนายปกติหรือเปล่า?" อดที่จะถามน้องไม่ได้

"ไม่ครับ ไม่ปกติเลย ถามคำตอบคำ หน้าตาก็ดูเพลียๆด้วย" น้องเล็กตอบ ในขณะนั้นแวนเนสก็เดินลงมาพอดี

"พี่รอง! อรุณสวัสดิ์ครับ!" ไจ่ไจ๋หันไปทักทายพี่ชายด้วยน้ำเสียงสดใส

"อืม" แวนเนสตอบรับสั้นๆแล้วเดินเลยเข้าไปครัวทันที

"อ้าว! อะไรวะ? เป็นอะไรอีกคนหละเนี่ย?" ไจ่ไจ๋เกาหัวงงๆอย่างไม่ค่อยเข้าใจพี่ชายนัก

"พี่ใหญ่ครับ พี่รองเป็นอะไรหรือเปล่า? ดูแปลกๆอีกคน" หันมาถามพี่ชายคนโตอีก

"ไม่หนิ พี่ว่าเขาก็ปกติ" เจอร์รี่ตอบแต่ก็รู้สึกได้ว่าแวนเนสนั้นไม่ร่าเริงเหมือนทุกวัน ซึ่งเขาเองก็พอจะรู้สาเหตุว่าคงเป็นเพราะเรื่องเมื่อคืน

"ไปในครัวกันดีกว่าครับพี่ใหญ่ อีกเดี๋ยวพี่กลางคงทำข้าวต้มเสร็จแล้ว" ไจ่ไจ๋ชวนพี่ใหญ่พร้อมกับเดินไปดึงมือพี่ชายแล้วพาเดินเข้าไปในครัว

"กลิ่นหอมออกไปถึงข้างนอกเลย แค่ได้กลิ่นก็รู้แล้วว่าต้องอร่อยแหงๆ" ไจ่ไจ๋พูดประจบพี่ชายอีก เคนหันมายิ้มรับคำน้องแบบฝืนๆ

"นั่งสิ รีบกินจะได้รีบไปเรียน" บอกกับน้องด้วยน้ำเสียงเนือยๆเช่นเดิม

"นายไปนั่งเถอะ ชั้นตักให้เอง" เคนหันมาบอกแวนเนสที่ทำท่าจะช่วยเขา

"ของชั้นเอากุ้งเยอะๆนะ" แวนเนสว่าพร้อมกับยิ้มกว้างให้น้อง เคนยิ้มรับแล้วพยักหน้าจากนั้นก็หันมาตักข้าวใส่จานให้พี่น้องทุกคน

"ผมเทน้ำให้นะครับ" ไจ่ไจ๋อาสาแล้วรีบลุกไปรินน้ำใส่แก้วมาเสริฟให้ทุกคน

"ทำไมมีแค่ 3 ชาม? แล้วของนายหละ?" แวนเนสพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเคนไม่ได้ตักข้าวในส่วนของตัวเอง

"ชั้นไม่หิว" เคนตอบพร้อมกับยิ้มบางๆ พี่ใหญ่ได้ยินก็เหลือบตาขึ้นมอง

"ไม่ได้ๆๆๆ เมื่อคืนก็ไม่ได้กินวันนี้ยังจะไม่กินอีกหรอ? ไปตักมากินเลย" แวนเนสแย้งแล้วพยักหน้าให้น้องตักข้าวมากิน

"ไม่เป็นไรหรอก ชั้นอยู่บ้านเฉยๆไม่เห็นต้องใช้พลังงานอะไรเลย อีกอย่างชั้นขี้เกียจเคี้ยวด้วย นายกินไปเถอะ" เคนตอบพร้อมหันไปล้างมือก่อน

"โหพี่กลาง! ขี้เกียจขนาดนั้นเชียว เอางี้....ผมเคี้ยวให้เอาเปล่า?" ไจ่ไจ๋พูดติดตลกขึ้นมา

"พี่ไม่กล้ารบกวนนายหรอก" ประโยคนั้นเหมือนจะเป็นคำหยอกล้อแต่สีหน้าของคนพูดกลับดูเหมือนเป็นการประชดมากกว่า ในขณะนั้นเองเจอร์รี่ก็ลุกขึ้นแล้วหยิบชามเปล่ามาตักข้าวต้มแล้วดึงมือเคนให้มานั่งลงที่เก้าอี้

"กินเข้าไป!" วางลงตรงหน้าเคยพร้อมกับสั่งเสียงเข้ม เคนมองหน้าพี่ชายนิดหนึ่งแล้วจึงก้มหน้าก้มตากินข้าวโดยไม่พูดอะไร น้องเล็กมองพี่ชายสามคนไปมารู้สึกได้ถึงความผิดปกติแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร

"พี่รองครับ วันนี้พี่รองทำงานหรอ?" หันไปชวนพี่ชายคนรองคุยบ้าง

"ใช่ วันนี้พี่ต้องเข้าห้องอัด" แวนเนสพูดคุยกับน้องเล็กเพื่อคลายบรรยากาศอึดอัดลง

"เข้าห้องอัดอีกแล้วหรอ? แล้วเมื่อไหร่จะเสร็จซักทีหละ? ผมจะได้ฟังเมื่อไหร่หละครับ?" น้องเล็กถามซักไซร้ต่อ

"ยังไม่กำหนดหรอกว่าจะเสร็จเมื่อไหร่คงอัดไปเรื่อยๆ ถ้าอยากฟังเดี๋ยวพี่ร้องให้ฟังเอง" แวนเนสตอบยิ้มๆ

"อย่าเลยไจ่ไจ๋ เมื่อคืนพี่ได้ฟังแล้ว ไม่เห็นได้เรื่องเลย" เคนพูดแทรกขึ้นมาบ้าง ทำให้บรรยากาศเริ่มผ่อนคลายลง

"อ้าวไอ้นี่! พูดงี้ก็สวยสิ ตอนนี้บอกไม่ได้เรื่องทีเมื่อคืนหละรบเร้าให้ร้องตั้งหลายรอบ" แวนเนสหันไปทางเคนอย่างหาเรื่อง เคนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วตักข้าวกินต่อ

"หึๆๆๆ" ไจ่ไจ๋หัวเราะออกมาได้ก่อนที่จะเหลือบไปมองพี่ชายคนโตที่นั่งกินข้าวด้วยสีหน้านิ่งเฉย

"ทำไมวันนี้พี่ใหญ่ไม่ค่อยคุยเลย? เป็นอะไรหรือเปล่า?" ไจ่ไจ๋เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เจอร์รี่จึงค่อยเงยหน้าขึ้นมา

"อ้อ! เปล่าหรอก พอดีช่วงนี้งานเยอะพี่ก็เลยเครียดๆ" เจอร์รี่แก้ตัว

"งานเยอะแบบนี้ก็เอาพี่กลางไปช่วยสิครับ ช่วงนี้พี่กลางอยู่บ้านว่างๆนี่นา" ไจ่ไจ๋พูดเสนอเพราะอยากให้พี่ชายสองคนได้ปรับความเข้าใจกันด้วยรู้ว่าเคนนั้นยังมีอาการงอนพี่ชายอยู่

"แล้วพี่ใหญ่ก็จ่ายค่าจ้างให้พี่กลางเป็นการตอบแทนที่พี่เขาไปช่วยงาน" น้องเล็กยังคงพูดต่ออย่างไม่รู้เรื่องราวอะไร คำพูดของน้องทำเอาพี่ชายสามคนหยุดมือพร้อมกัน

"พี่ว่า....ความคิดนายก็ดีเหมือนกันนะ....." เจอร์รี่ทำท่าเห็นดีกับน้องเล็กเพราะอยากจะพูดคุยกับเคนอย่างจริงจังตามลำพังแต่แล้วเคนกลับพูดแทรกขึ้นมาก่อน

"แวนเนส วันนี้นายไปอัดเสียงใช่มั๊ย? ชั้นขอไปกับนายด้วยนะ ครั้งที่แล้วไปชั้นชอบมากเลย นายให้ชั้นไปด้วยนะ" เคนหันไปขอร้องพี่ชายคนรอง แวนเนสเหลือบมองพี่ชายคนโตอย่างลำบากใจ

"นะ.....แวนเนส.....ชั้นขอไปด้วย.....นะๆๆๆ...." เคนยังตื๊อแวนเนสต่อเพราะไม่อยากไปกับพี่ใหญ่

"ก็ได้ๆๆๆ แต่นายต้องสัญญาว่าจะไม่ดื้อไม่ซนเพราะชั้นไปทำงานไม่มีเวลามานั่งดูแลนายมากนักนะ" แวนเนสยอมตามน้องแต่ไม่วายสั่งกำชับไว้ด้วย

"ชั้นสัญญาว่าจะไม่ทำให้นายวุ่นวายหรือลำบากใจเลย" เคนรีบรับปากพี่ชายทันที

"อืม! ว่าง่ายแบบนี้ค่อยดีหน่อย" แวนเนสว่าพร้อมกับโยกหัวน้องเบาๆ เจอร์รี่เห็นก็วางช้อนแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่มจากนั้นก็เดินออกไปทันที

"ผมอิ่มแล้ว ไปเรียนก่อนนะครับ" ไจ่ไจ๋เองก็ลุกตามพี่ใหญ่ออกไปอีกคน เคนมองตามหลังพี่น้องสองคนแล้วถอนหายใจเบาๆ

"ทำไมทำแบบนี้หละ? เจอร์รี่มันคงอยากปรับความเข้าใจกับนาย" เมื่อพี่ใหญ่กับน้องเล็กออกไปกันหมดแล้วแวนเนสก็หันมาพูดกับเคนอย่างเป็นการเป็นงาน

"ปรับความเข้าใจงั้นหรอ? มันจะหาเรื่องมาด่าชั้นอีกหละไม่ว่า" เคนเถียงกลับ

"นายก็มองมันในแง่ร้ายเกินไป ดีไม่ดีมันอาจจะใจอ่อนยอมแพ้นายก็ได้นะ" แวนเนสบอกให้น้องพยายามคิดในด้านดี

"เคยมีเหตุการณ์แบบนั้นด้วยหรอ? มีแต่ชั้นจะโดนเล่นงานจนน่วมเลยต้องยอมแพ้มันน่ะสิ" ได้ยินดังนั้นแวนเนสก็ถอนหายใจเลิกคิดที่จะต่อล้อต่อเถียงกับน้องอีก

"ช่างเถอะ! นายไปเปลี่ยนชุดไป เดี๋ยวเสี่ยวจือมาจะได้ไปกันเลย" แวนเนสตัดบทแล้วไล่ให้น้องไปเปลี่ยนชุด



- ตอนเย็น -

"อ้าว! นายกลับมาแล้วหรอ?" แวนเนสเอ่ยทักพี่ชายคนโตที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่คนเดียว

"อืม" เจอร์รี่พยักหน้ารับแล้วมองเลยไปยังเคนที่เดินตามแวนเนสเข้ามา เคนเห็นพี่ชายมองอยู่ก็ทำท่าจะเดินเลยขึ้นห้อง

"เสี้ยวเทียน!" พอได้ยินพี่ใหญ่เรียกเคนก็ชะงักไป

"มานี่ซิ!" เคนหันกลับมามองเจ้าของเสียงก่อนที่จะมองไปที่แวนเนส

"แวนเนส วันนี้ชั้นสนุกมาก ขอบคุณที่ให้ชั้นไปด้วยนะ แต่ตอนนี้ชั้นรู้สึกเพลียๆขอขึ้นไปพักผ่อนก็แล้วกัน" พูดจบเคนก็เดินขึ้นไปข้างบนโดยไม่สนใจพี่ชายคนโตเลย

"เสี้ยวเทียน!!!" พี่ใหญ่เห็นดังนั้นก็ลุกพรวดจะตามน้องขึ้นไปแต่แวนเนสขวางไว้ก่อน

"อย่าเพิ่งน่า! ใจเย็นๆก่อน!" ร้องห้ามพร้อมดึงตัวพี่ชายไว้

"ชักจะมากเกินไปแล้ว! มันเห็นคำพูดชั้นไม่มีความหมายหรืองัย!?" เจอร์รี่โวยวายแต่ก็ไม่ได้ดิ้นรนอะไรนัก

"มันไม่ได้รู้สึกแบบนั้นหรอก น้องมันก็บอกแล้วว่ามันเพลีย" แวนเนสพูดไกล่เกลี่ย เจอร์รี่หันมามองหน้าน้องชายก่อนที่จะทิ้งตัวนั่งลงตามเดิม

"ไปทำอะไรกันมาหละวันนี้?" สอบถามน้องชายด้วยน้ำเสียงห้วนๆ แวนเนสจึงค่อยนั่งลงข้างพี่ชาย

"วันนี้ชั้นอัดเสียงทำอัลบั้ม เจ้าเสี้ยวเทียนมันก็ไปป้วนเปี้ยนอยู่ในห้องอัดนั่นแหละ นี่.....มีอะไรให้ฟัง...." พูดจบแวนเนสก็หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา

"อะไรน่ะ?" พี่ใหญ่มองโทรศัพท์ในมือน้องพลางขมวดคิ้วอย่างสงสัย

"เดี๋ยวสิ อะ....ได้แล้ว ฟังดูสิ" แล้วแวนเนสก็ยื่นโทรศัพท์ตัวเองให้พี่ชายฟัง เจอร์รี่รับมาฟังอย่างตั้งใจ

"เพราะหรือเปล่า?" เมื่อจบเพลงแวนเนสก็ถามพี่ชาย พี่ใหญ่ยิ้มแล้วพยักหน้ารับ

"เสี้ยวเทียนมันเล่นกีต้าร์เองแล้วก็ร้องเองคนเดียวเลยนะ ชั้นแอบอัดมาไม่บอกมันไม่งั้นมันได้โวยวายแน่ๆ" แวนเนสเฉลยให้พี่ชายฟัง

"ขนาดโปรดิวเซอร์ของชั้นได้ยินยังชมว่ามันเก่งเลย" ได้ยินดังนั้นพี่ใหญ่ก็นิ่งไป

"น้องมันมีพรสวรรค์ด้านนี้นะเนี่ย เราน่าจะส่งเสริมมัน" แวนเนสพูดแทนน้องกลายๆ

"เฮ่อ! ตกลงแล้วชั้นต้องเสียเงินเพื่อเสริมพรสวรรค์ให้มันใช่มั๊ย?" พี่ใหญ่พูดเป็นเชิงบ่น แวนเนสไม่ตอบแต่นั่งอมยิ้มเพราะลองพี่ใหญ่พูดแบบนี้แล้วเป็นอันว่ายังงัยก็ต้องยอม

"ไม่ต้องมายิ้ม! ให้ท้ายกันดีนักแหละ!" ว่าพลางดึงหูน้องอย่างหมั่นไส้

"ก็แหม....น้องมันเก่งจริงๆนี่" แวนเนสพูดเสียงอ่อยๆ เจอร์รี่มองหน้าน้องก่อนที่จะถอนหายใจออกมาแล้วหยิบโทรศัพท์ตัวเองมา

"ส่งมาให้ชั้นหน่อยซิ!" พูดเสียงห้วนๆอย่างไว้ฟอร์ม

"ส่งอะไร?" แวนเนสแกล้งทำเป็นไม่รู้

"เพลงนั่นน่ะ" พูดรัวๆเร็วๆแล้วหันหน้าไปทางอื่น

"เพลงไหน? มีตั้งเยอะ" แวนเนสยังแหย่พี่ชายไม่เลิก

"เดี๋ยวก็ซัดเปรี้ยงเข้าให้หรอก! อย่ามากวนชั้นนะ!" พี่ใหญ่ไม่พูดเปล่าทำท่าจะเอาศอกกระทุ้งใส่น้อง แวนเนสรีบกดแขนพี่ชายลงแล้วยิ้มแหยๆ

"ไม่กวนแล้วก็ได้ มาสิ....เดี๋ยวส่งให้" ว่าแล้วแวนเนสก็รับโทรศัพท์มาแล้วจัดการส่งเพลงที่เคนร้องเข้าเครื่องพี่ชาย

"ไจ่ไจ๋ยังไม่กลับอีกหรอ?" แวนเนสชวนพี่ชายคุย

"ยัง น้องบอกว่าต้องอยู่ประชุมเรื่องไปทำโครงงานนอกสถานที่" เจอร์รี่ตอบน้อง

"ทำโครงงานนอกสถานที่? ที่ไหนหรอ?" แวนเนสย้อนถาม

"ชั้นเองก็ยังไม่รู้รายละเอียดอะไรมากนักน้องมันยังไม่มีเวลาคุยให้ฟัง รอมันกลับมาก่อน
ค่อยถาม" เมื่อได้ยินดังนั้นแวนเนสจึงไม่ถามต่อ

"เสร็จแล้ว นอนฟังให้เคลิ้มไปเลยนะ" แวนเนสยังไม่วายแหย่เจอร์รี่อีก

"เดี๋ยวเหอะ!" พี่ใหญ่ทำหน้าดุใส่น้องแล้วรับโทรศัพท์มาเก็บไว้

"ตกลงนายจะซื้อกีต้าร์ให้มันมั๊ย?" แวนเนสถามพี่ชายขึ้นมาอีก

"ไม่รู้! รอดูความประพฤติมันก่อน" พี่ใหญ่ตอบเสียงห้วนๆ

"แหม....ทำเป็นลีลา...." แวนเนสแขวะพี่ชายกลาย แต่พอเห็นเจอร์รี่มองหน้าก็ปั้นยิ้มกลบเกลื่อน

"แล้วนี่กินข้าวกินปลากันมาหรือยัง?" ถามน้องด้วยน้ำเสียงติดห้วนเล็กน้อย

"เรียบร้อยแล้วครับ" แวนเนสตอบเสียงหวานจ๋อย

"จะกินก่อนก็ไม่โทรมาบอก! รู้งี้ไม่หิ้วท้องรอก็ดี!" เจอร์รี่บ่นอุบแล้วขยับตัวลุกขึ้น

"ก็เสี้ยวเทียนมันบ่นหิวชั้นก็เลยพามันกินข้าวก่อนกลับ" แวนเนสแก้ตัวแล้วลุกตามพี่ชายไปด้วย

"ชั้นไปนั่งกินเป็นเพื่อนนายอีกก็ได้" พูดอย่างเอาใจแล้วกอดเอวพี่ชายไว้

"ไม่ต้อง! กินแล้วกินอีก เปลือง!" พี่ใหญ่แหวใส่แล้วเดินหายเข้าไปในครัว แวนเนสได้แต่เกาหัวแล้วเดินกลับไปนั่งดูโทรทัศน์ ผ่านมาพักหนึ่งไจ่ไจ๋ก็กลับเข้ามา

"พี่รอง! กลับมาแล้วหรอครับ?" ไจ่ไจ๋เอ่ยทักพี่ชายด้วยน้ำเสียงร่าเริง

"อืม....นายกลับค่ำนะวันนี้" แวนเนสรับคำน้องพร้อมกับทักทายกลับ

"ครับ พอดีประชุมกันเรื่องเดินทางไปทำโครงงาน" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วมานั่งลงข้างพี่ชาย

"ต้องเดินทางไปไหนหรอ?" แวนเนสถามซักไซร้รายละเอียดกับน้อง

"ไปไม่ไกลหรอกครับ แต่ต้องค้างคืนนึง คือเทอมนี้มีรายวิชาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมน่ะครับ เลยปรึกษากับเพื่อนๆในห้องว่าจะเดินทางไปสำรวจพวกพรรณไม้เพื่อทำเป็นโครงงานของห้อง" ไจ่ไจ๋อธิบายให้พี่ชายฟัง

"คงต้องไปวันมะรืนนี้แล้วหละครับ ที่จริงอาจารย์สั่งงานตั้งนานแล้วแต่เพิ่งจะมาทำกัน" น้องเล็กพูดต่อยิ้มๆ

"นิสัยไม่ดี ต้องรอใกล้ๆแล้วค่อยมาคิดจะทำกัน" แวนเนสต่อว่าน้องชายพร้อมกับบีบจมูกน้องอย่างหมั่นไส้

"แหม....มันไม่ใช่งานเดียวนี่ที่คิดจะทำก็ทำได้ตามใจตัวเอง งานนี้กว่าจะตกลงกันได้ก็ตั้งเกือบอาทิตย์นะครับ" น้องเล็กแย้งเป็นการแก้ตัวกลายๆ

"เอ....นายเดินทางวันมะรืนหรอ? วันเดียวกับที่พี่ต้องไปเมืองจีนเลยสิ" แวนเนสพูดขึ้นอย่างนึกขึ้นได้

"พี่รองต้องไปเมืองจีนหรอ?" น้องเล็กย้อนถามอย่างแปลกใจ

"อืม พี่ต้องไปถ่ายโฆษณาน้ำอัดลมน่ะ" แวนเนสตอบ

"ได้เที่ยวไกลเลยนะ แบบนี้ก็ดีเลยสิ" น้องเล็กพูดยิ้มๆ

"ไม่ได้เที่ยวหรอก แค่ไปทำงาน ทำเสร็จก็กลับ พี่เองก็ไปแค่สามวันเท่านั้นเอง" แวนเนสตอบยิ้มๆเช่นกัน

"หรอ? แบบนี้ก็ดีเราจะได้ไม่ต้องคิดถึงกันนาน" พูดจบก็เอาหัวซบลงที่ไหล่ของพี่ชาย แวนเนสหัวเราะกับท่าทางประจบประแจงของน้องเล็ก

"ไจ่ไจ๋กลับมาแล้วหรอ?" เสียงเคนที่เพิ่งเดินลงมาเอ่ยทักน้องชาย

"พี่กลาง! เป็นงัยบ้าง? วันนี้ไปกับพี่รองสนุกมั๊ย?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายกลับแล้วเดินไปเกาะแขนอย่างเอาใจ เคนยังไม่ตอบในทันทีแต่มองไปรอบๆคล้ายจะหาอะไรบางอย่าง

"เจอร์รี่มันขึ้นไปอาบน้ำข้างบน ไม่ต้องระแวงว่ามันจะเห็นนายหรอก" แวนเนสชิงตอบขึ้นมาอย่างรู้ทันน้องแต่ไม่วายแขวะไปด้วยกลายๆ

"ไม่ได้ถามซักหน่อย" เคนพึมพำคนเดียวแล้วเดินไปตามแรงดึงของน้องมานั่งลงที่โซฟาตัวเดียวกับแวนเนส

"วันนี้พี่กลางไปทำอะไรมาบ้าง?" ไจ่ไจ๋ถามย้ำอีก

"ไม่ได้ทำอะไรหรอก ก็ไปดูพี่รองเขาอัดเสียงน่ะ มันร้องท่อนเดียวตั้งหลายรอบแหนะ" เคนเล่าให้น้องฟังอย่างอารมณ์ดี แวนเนสได้ยินก็ยิ้มๆแล้วพูดแทรกขึ้นมา

"ก็นี้มันเป็นการทำอัลบั้มมันก็ต้องให้ออกมาดีที่สุดน่ะสิ" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็มีท่าทีสนใจขึ้นมา

"จริงหรอ? ผมอยากไปดูบ้างจัง" น้องเล็กว่าขึ้นมาบ้าง

"ก็หาวันว่างๆแล้วได้วยกันกับพี่สิ แล้วนายจะเห็นว่าพี่ทำงานจริงจังขนาดไหน" แวนเนสบอกพร้อมกับยกตัวขึ้นมา

"อืม ผมจะหาเวลาว่างไปกับพี่ครับ" น้องเล็กรับคำแล้วหันไปทางเคนอีก

"แล้ววันนี้พี่กลางได้เล่นอะไรหรือเปล่า?" เคนส่ายหน้าไปมาแต่พอนึกได้ว่าตัวเองเข้าไปขอเล่นกีต้าร์เปลี่ยนมาเป็นพยักหน้าแทน

"พี่ได้ลองเล่นกีต้าร์ไฟฟ้า เสียงดีมากเลย นักดนตรีที่ทำเพลงให้พี่รองให้พี่ลองเล่น เขาใจดีมากเลยแหละ" แวนเนสหัวเราะแล้วขยับเข้าไปกระซิบกับน้องเล็กเบาๆ

"มันร้องเพลงด้วย พี่แอบอัดเอาไว้ เดี๋ยวพี่จะให้นายฟังแต่อย่าเพิ่งบอกมันนะ เดี๋ยวมันโวยวาย" น้องเล็กได้ยินก็ทำตาโตแต่ก็พยักหน้ารับพร้อมกับรอยยิ้ม เคนเห็นสองพี่น้องซุบซิบกันก็เริ่มทำหน้ามุ่ยเพราะรู้ว่าตัวเองกำลังเป็นเป้าในการซุบซิบกันของพี่น้อง

"นินทาอีกแล้วนะ!" พูดเสียงห้วนขึ้นมา

"เปล่าซักหน่อย" แวนเนสรีบปฏิเสธ

"ใช่! พี่รองไม่ได้นินทาพี่กลางเลย พี่รองแค่บอกว่า....." น้องเล็กหยุดคิดข้อแก้ตัวให้พี่ชาย

"บอกว่าอะไร?" เคนถามย้ำสีหน้ายังดูมุ่ยๆอยู่

"บอกว่าวันมะรืนพี่รองจะไปเมืองจีน" เคนได้ยินดังนั้นก็มีสีหน้าแปลกใจ

"นายจะไปเมืองจีนหรอ? ไม่เห็นบอกชั้นเลย" หันไปหาพี่ชายพลางพูดเป็นเชิงตัดพ้อ

"ก็กำลังจะบอกอยู่นี่งัย ทำไม? ไม่อยากให้ชั้นไปหรอ?" แวนเนสพูดแหย่น้อง

"อืม....ไม่อยากให้ไป" เคนตอบออกมาตรงๆ

"อ้าว! ซะงั้น" แวนเนสอุทานออกมาอย่างงงๆเพราะปกติแล้วน้องชายคนนี้ไม่ค่อยอะไรกับเขานัก

"ทำไมหละครับพี่กลาง? ทุกครั้งไม่เห็นพี่กลางงอแงเวลาพี่รองเขาไปไหนนี่นา" ไจ่ไจ๋เองก็ไม่เข้าใจเคนเช่นกัน

"ก็แค่รู้สึกว่าไม่อยากให้ไปช่วงนี้" เคนตอบเสียงอ้อมแอ้มไม่กล้าพูดตรงๆว่าที่ไม่อยากให้แวนเนสไปเพราะกลัวจะไม่มีคนกันพี่ใหญ่ให้

"ช่วงนี้มันเป็นอะไร?" แวนเนสย้อนถามยิ้มๆ เคนทำหน้าครุ่นคิดแล้วกำลังจะอ้าปากพูดแต่เห็นพี่ใหญ่เดินลงมาพอดีจึงไม่ได้พูดต่อ

"กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไจ่ไจ๋? ไม่เห็นขึ้นไปทักพี่ใหญ่เลย" เจอร์รี่พูดเป็นเชิงต่อว่าน้อง ไจ่ไจ๋ได้ยินก็รีบลุกขึ้นไปกอดเอวพี่ชายอย่างประจบ

"ก็พี่รองบอกว่าพี่ใหญ่อาบน้ำอยู่เลยยังไม่ขึ้นไปกวน อื้ม! หอมจังเลย" พูดจบก็หอมแก้มพี่ชายฟอดใหญ่ เจอร์รี่ยิ้มแล้วเอามือขยี้หัวน้องอย่างเอ็นดูก่อนที่จะเปลี่ยนสายตาไปที่น้องชายคนกลาง เคนเห็นพี่ชายมองมาก็แสร้งหันไปดูโทรทัศน์

"คุยอะไรกันอยู่?" ถามขึ้นลอยๆแล้วเดินเข้ามานั่งร่วมวงสนทนากับน้องๆ

"ชั้นกำลังบอกน้องว่าวันมะรืนชั้นจะไปเมืองจีน ส่วนไจ่ไจ๋มันก็จะไปทำโครงงานวันมะรืนเหมือนกัน" แวนเนสเป็นตัวแทนตอบคำถามพี่ชาย

"นายไปทำโครงงานอะไร? ที่ไหน?" เคนถามแทรกขึ้นมาทันที

"ทำโครงงานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมครับ ไปไม่ไกลจากไทเปหรอกแต่ต้องค้างคืนนึง" ไจ่ไจ๋ตอบพี่ชายเสียงเจื้อยแจ้ว

"ไม่ได้นะ! พี่ไม่ให้ไป!" เคนร้องเสียงหลงเมื่อได้ยินว่าวันมะรืนนี้ทั้งแวนเนสและไจ่ไจ๋จะต้องเดินทางไปค้างคืนที่อื่นและนั่นหมายความว่าเขาต้องอยู่บ้านกับพี่ใหญ่เพียงลำพังเท่านั้น คำพูดของเคนทำเอาพี่น้องอีกสามคนมองหน้ากันอย่างแปลกใจ

"ทำไมหละครับพี่กลาง? ผมจำเป็นต้องไปนะเพราะมันเป็นงานของทั้งห้อง ขืนไม่ไปเพื่อนๆจะหาว่าไม่ช่วยงาน" น้องเล็กแย้งพร้อมกับยกเหตุผลขึ้นมา

"จะเดินทางมันก็ต้องมีการเตรียมการไว้ก่อนสิ แต่ของนายนี่มันเดินทางแบบชุกละหุกไม่ได้วางแผนอะไรไว้ก่อนเลย แล้วจะให้พี่แน่ใจได้ยังงัยว่านายจะปลอดภัย?" เคนยกเหตุผลขึ้นอ้างลอยๆ

"ปลอดภัยสิครับ ที่ที่ผมจะไปพักเนี่ยก็เป็นที่พักของญาติเพื่อน เขารับรองความปลอดภัย หรือถ้าพี่ไม่แน่ใจเดี๋ยวผมเอาเบอร์โทรของที่พักทิ้งไว้ให้ก็ได้" ไจ่ไจ๋อธิบายพร้อมกับพูดยืนยัน

"ปกตินายไม่อะไรกับน้องขนาดนี้นี่หว่า ทำไมวันนี้ดูแปลกๆ น้องมันก็ไม่ได้ไปเที่ยวแต่มันต้องทำงานที่อาจารย์สั่ง ขืนไม่ทำก็ไม่มีคะแนนน่ะสิ" แวนเนสช่วยน้องพูดอีกแรง

"แต่....แต่มันไม่จำเป็นต้องเดินทางก็ได้ โครงงานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมหาทำที่บ้านเรายังได้เลย ทำไมต้องไปทำที่อื่นแถมยังต้องค้างคืนอีกต่างหาก แบบนี้ไปทำการบ้านหรือไปเที่ยวกันแน่? ไม่รู้หละ! ยังงัยพี่ก็ไม่ให้นายไป!" เคนเถียงข้างๆคูๆพร้อมกับพูดกดดันน้องเล็ก ไจ่ไจ๋ถอนหายใจแล้วหันไปทางพี่ชายอีกสองคน

"แต่ชั้นให้น้องไป!" แวนเนสแย้งขึ้นแล้วพูดต่อ

"ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการไปเที่ยวชั้นก็ไม่ห้ามน้อง เพราะน้องมันโตแล้วคงรู้ดีว่าอะไรควรไม่ควร และที่สำคัญก็คือชั้นเชื่อมั่นว่าน้องมันต้องรับผิดชอบตัวเองได้แน่นอน" เคนได้ยินคำพี่ชายก็หันหน้าไปทางอื่นอย่างไม่สบอารมณ์

"พี่ก็อนุญาตให้นายไปเหมือนกัน" เจอร์รี่พูดขึ้นมาบ้าง เคนเม้มปากแล้วขยับลุกขึ้น

"ช่างเถอะ! ชั้นมันไม่เคยมีสิทธิมีเสียงในบ้านนี้อยู่แล้ว!" พูดจบก็เดินขึ้นห้องไปอีก

"อ้าวไอ้นี่! เป็นบ้าอะไรของมันอีกวะ!" แวนเนสบ่นพลางมองตามหลังน้อง ไจ่ไจ๋เองก็รู้สึกไม่สบายใจและเป็นห่วงความรู้สึกเคนเช่นกัน



Create Date : 25 พฤษภาคม 2550
Last Update : 25 พฤษภาคม 2550 13:29:03 น. 0 comments
Counter : 1114 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

loving_zai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




[Add loving_zai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com