Chapter 84
ตอนที่ 84 "พี่กลาง จะไปทำงานจริงๆหรอ? แต่นี่มันยังไม่ถึงเวลา....." ไจ่ไจ๋ยิงคำถามกับพี่ชายแต่พูดยังไม่ทันจบเคนก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน "นายอย่าบ่นมากได้มั๊ย?" เคนแกล้งตำหนิน้องชายในขณะที่ตัวเองยังก้มหน้าก้มตาเก็บของต่อ "แต่ว่า....." ไจ่ไจ๋ไม่อยากให้พี่ชายไปแต่ก็ไม่รู้จะแย้งยังงัยเหมือนกัน "คราวนี้จะไปนานแค่ไหน?" แล้วไจ่ไจ๋ก็เปลี่ยนคำถาม เคนหน้าเศร้าลงเล็กน้อย "น่าจะเดือนกว่าๆ พี่ขอหัวหน้าทำโอทีต่อด้วยเลยอาจจะนานกว่าทุกครั้ง" เคนตอบน้องเสียงแผ่ว "พี่กลางครับ....เราทุกคนรักพี่มากนะ" ไจ่ไจ๋บอกพี่ชาย เขาได้ฟังเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้วและเขาเองก็เสียใจไม่แพ้พี่ชายเลย "พี่รู้ แต่ขอพี่อยู่กับตัวเองซักระยะนะ บางทีอาจจะเข้าใจตัวเองได้ดีกว่านี้" เคนเองก็บอกน้องชายตามตรง "พี่ไม่อยากเจอกับเรื่องวุ่นวายอะไรอีกแล้ว พี่ไม่อยากมีความกังวลใจ ไม่อยากต้องห่วงโน้นห่วงนี่อีก" เคนว่าแล้วก็สบตากับน้องชายตรงๆ "แต่จะไปทั้งที่เรื่องทุกอย่างยังคั่งค้างอยู่อย่างนี้หรอ?" น้องเล็กถามพี่ชายสีหน้าจริงจัง "มีเรื่องอะไรที่คั่งค้างอยู่อีกหละ? พี่ก็จัดการทุกอย่างเท่าที่พี่จะทำได้แล้ว" เคนแย้งแล้ววางเสื้อตัวสุดท้ายใส่กระเป๋า จากนั้นก็รูดซิปปิดอย่างเรียบร้อย "แล้วเรื่องบ้านอาเจียงหละ?" น้องเล็กถามตรงๆ ทำเอาเคนนิ่งไปครู่หนึ่ง "มันไม่ใช่ของพี่อีกแล้ว ใครจะทำยังงัยก็สุดแล้วแต่เถอะ" เคนว่าแล้วก็ยกกระเป๋าไปพิงกับกำแพงก่อนจะมาจัดของใช้ส่วนตัวลงกระเป๋าสะพายอีกใบ "พี่กลาง พี่ก็รู้ว่าพ่อแม่หวังดีกับพี่ไม่อยากให้พี่....." ไจ่ไจ๋ตั้งท่าจะอธิบายแทนพ่อแม่แต่เคนก็ขัดขึ้นก่อน "ไจ่ไจ๋.....เราเลิกพูดเรื่องพวกนี้ซักทีเถอะ อย่างน้อยก่อนไปขอให้พี่ได้คุยกับนายอย่างสบายใจได้มั๊ย?" คำพูดของพี่ชายทำเอาน้องเล็กหุบปากทันที "นายเองก็ไม่ต้องมาคอยคิดอะไรแทนพี่ด้วย คิดเรื่องตัวเองเถอะเพราะอีกไม่นานนายเองก็จะเปิดเทอมเหมือนกันนี่" เคนเปลี่ยนเรื่อง "เปิดเทอมก็ดีเหมือนกัน นายจะได้ไม่ต้องมาฟุ้งซ่านเรื่องอื่น เอาสมองไปคิดเรื่องเรียนอย่างเดียวก็พอ" ไจ่ไจ๋ถอนหายใจเบาๆแต่ก็เลยตามเลยเพราะเขาเองก็ไม่อยากให้พี่ชายต้องรู้สึกไม่ดีอีก "ผมเองก็อยากให้ถึงวันเปิดเทอมเร็วๆเหมือนกัน คิดถึงเพื่อนๆ" ไจ่ไจ๋ปรับน้ำเสียงให้ดูร่าเริงขึ้น "คิดถึงแฟนหละสิไม่ว่า" เคนเอ่ยแซวน้องแล้วยิ้มออกมาได้ในที่สุด "แหงหละ ไม่เจอกันตั้งหลายอาทิตย์" ไจ่ไจ๋ตอบรับหน้าตาเฉย แล้วขยับเข้าไปกอดพี่ชาย "แต่พอผมจะได้หายคิดถึงหลิงหลิงแล้วกลับต้องมานั่งคิดถึงพี่กลางอีก" เคนยิ้มกับลูกอ้อนของน้องชาย "น่าเชื่อ? พี่ว่านายคงพาแฟนไปเที่ยวเพลินจนลืมพี่น่ะสิ กลับมาอีกทีนึกชื่อพี่ไม่ออกแล้วมั้ง?" พูดจบก็บีบจมูกน้องชายเบาๆ "ไม่มีทาง! ยังงัยพี่กลางก็ต้องเป็นคนแรกที่ผมคิดถึงเสมอ" ไจ่ไจ๋ยืนกรานหนักแน่น "ชื่นใจจริงๆ" เคนว่าแล้วก็ขยี้หัวน้องชายอย่างเอ็นดู "อยู่บ้านก็อย่าดื้อหละ แล้วต้องตั้งใจเรียนรู้มั๊ย?" สั่งกำชับน้องชายต่อ "ครับ" ไจ่ไจ๋รับคำอย่างว่าง่าย "พี่กลางก็เหมือนกัน ต้องดูแลตัวเองดีๆ มีเวลาว่างเมื่อไหร่ต้องโทรมาหาผมทันทีเลยนะ และถ้าผมโทรไปหาก็ต้องรับสายผมอย่างไม่มีข้อแม้ด้วย" สั่งกำชับพี่ชายกลับไป "หึๆๆๆ ไอ้ตัวแสบ" เคนต่อว่าน้องพลางหัวเราะ "แล้วถึงเวลากลับบ้านต้องกลับนะครับ ห้ามทำโอทีเด็ดขาด!" สั่งพี่ชายต่อด้วยน้ำเสียงเข้มขึ้น "นายจะเลี้ยงพี่หรืองัยฮึ?" เคนย้อนถามเจ้าน้องชายตัวดี ไจ่ไจ๋ย่นจมูกใส่แต่ไม่ตอบว่าอะไร "ขืนพี่ไม่ทำล่วงเวลาคงไม่มีเงินเหลือมาซื้อขนมให้นายแหงๆ" เคนแกล้งแหย่น้องชาย "ผมไม่เอาก็ได้ พี่กลางไม่ต้องซื้ออะไรมาให้ผมเลย แค่กลับมาเร็วๆก็พอ" ไจ่ไจ๋พูดกับพี่ชายด้วยสีหน้าจริงจัง ทำให้เคนหัวเราะออกมาได้ "ไม่ต้องซีเรียสซะขนาดนี้หรอก กลัวพี่ไปไม่กลับจริงๆหรอ?" เคนยังแหย่น้องชายต่อ "พี่กลาง! ปากเสีย!" ไจ่ไจ๋เอามือตบปากพี่ชายเบาๆ เพราะไม่ชอบคำพูดที่ได้ยิน "กลัวแล้วครับ....." เคนแกล้งทำเสียงอ่อยๆ ไจ่ไจ๋ทำหน้ามุ่ยใส่พี่ชาย "ไม่เอาน่า พี่ก็แค่ไปทำงานเหมือนทุกครั้ง อย่าทำให้พี่ต้องห่วงสิ" เคนว่าแล้วก็ลูบหัวน้องชายอย่างรักใคร่ "พี่กลางนั่นแหละอย่าทำให้ผมต้องห่วง อยู่ตัวคนเดียวก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี จะทำอะไรก็คิดให้รอบคอบซะก่อนนะ" ไจ่ไจ๋ได้ทีย้อนพี่ชาย "ครับๆๆๆ คุณน้องชายสุดที่รัก" เคนว่าแล้วก็หอมแก้มน้องฟอดใหญ่ "ไม่คุยแล้วหละ พี่ต้องไปแล้วเดี๋ยวจะไปไม่ทัน" เคนว่าพร้อมกับเหลือบมองนาฬิกา ในตอนนั้นไจ่ไจ๋ก็มีสีหน้าหงอยลง "ไปเรียกแท๊กซี่ให้พี่หน่อยสิ" ว่าพลางเอามือตบแก้มน้องเบาๆ ไจ่ไจ๋พยักหน้าแล้วลุกขึ้นแต่โดยดี "เดี๋ยวพี่ถือลงไปเอง" เคนว่าเมื่อเห็นน้องทำท่าจะช่วยหิ้วของ ดังนั้นไจ่ไจ๋จึงเดินออกไปก่อน ในตอนนั้นแวนเนสก็เดินสวนเข้ามาพอดี "จะไปยังงัย?" แวนเนสถามน้อง "นั่งแท๊กซี่ไป" เคนตอบแล้วก้มลงหยิบของทั้งหมด "ชั้นขับรถไปส่งแล้วกัน" แวนเนสว่าแล้วเดินเข้ามาช่วยน้องถือ "ไม่ต้องหรอก ชั้นให้น้องไปเรียกแท๊กซี่ให้แล้ว" เคนว่าพร้อมกับส่ายหน้า "เฮ่อ!" แวนเนสถอนหายใจเบาๆ เคนมองพี่ชายแล้วนิ่งไปเขารู้ดีว่าแวนเนสไม่สบายใจ "ขอโทษนะที่ทำให้ลำบากใจ" เคนพูดออกมาเบาๆ "รู้แบบนี้แล้วยังทำอีก" แวนเนสไม่ปฏิเสธซ้ำยังต่อว่าน้องชายอีกด้วย "ชั้นอยากลองเห็นแก่ตัวดูบ้าง บางทีอาจทำให้ชั้นรู้สึกดีขึ้น" เคนบอกกับพี่ชายตามตรงแล้วก็นึกอะไรขึ้นมาได้ "เออนี่.....ชั้นฝากคืนให้เจอร์รี่ทีนะ" เคนว่าแล้วก็เดินไปหยิบสมุดบัญชีเงินฝาก "ไม่ได้อัพเดทข้อมูลมาตั้งแต่ช่วงที่ลาออกจากบริษัท แต่คิดว่าคงโอนเข้าบัญชีนี้แหละ ใบมอบฉันทะเบิกเงินชั้นเซ็นให้เรียบร้อยแล้ว เสียดายที่ไม่ได้ทำ ATM ไม่งั้นคงง่ายกว่านี้" เคนว่าพร้อมกัส่งส่งเอกสารทั้งหมดให้พี่ชาย "ทั้งที่หลักฐานก็อยู่นี่หมด ทำไมนายต้องไปเสี่ยงทำเรื่องแบบนั้นด้วย? รู้หรือเปล่าว่าถ้าอาเหลียนทำอะไรนายขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น?" แวนเนสรับมาแต่ไม่วายบ่นน้องชายอีก "อย่างมากก็แค่ตาย แต่หลักฐานก็ยังอยู่นี่" เคนพูดแล้วยิ้มบางๆก่อนจะตบไหล่พี่ชาย "เอาน่า! คนอย่างชั้นตายยากอยู่แล้ว ต่อให้อยากตายแค่ไหนมันก็ไม่ได้ดั่งใจซักครั้ง" พูดจบก็ก้มลงหยิบสัมภาระขึ้นมาอีกครั้ง "เดี๋ยวจะโดนตบปาก! พูดจาไม่ดีเลย" แวนเนสเอ็ดน้องชายแต่เดินเข้าไปดึงกระเป๋าจากมือน้อง "มานี่.....ชั้นถือลงไปให้" พูดจบก็หิ้วกระเป๋าของน้องชายเอาไว้ "แวนเนส....ขอบคุณมากนะ ยังงัยนายก็ดูแลทุกคนด้วย" เคนพูดกับพี่ชายด้วยน้ำเสียงจริงจัง "คนเห็นแก่ตัวเขายังมีการห่วงใยคนอื่นอีกหรืองัย?" แวนเนสย้อนคำน้องพร้อมกับเอามือผลักหัวน้องชายเข้าให้ด้วย "อยากเห็นแก่ตัวก็ต้องคิดถึงแต่ตัวเอง! เรื่องแบบนี้ยังต้องให้สอนอีก" แวนเนสบ่นน้องเสร็จก็หิ้วกระเป๋าเดินนำลงไปข้างล่าง เคนยิ้มแล้วส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินตามพี่ชายลงไปด้วยอีกคน
- ตอนเย็น - "นี่หมายความกันว่ายังงัย? ตกลงอาหารฝีมือผมมันแย่มากเลยหรอทุกคนถึงได้แต่นั่งเขี่ยข้าวกันหมด" แวนเนสอดรนทนไม่ไหวจึงเอ่ยปากทำลายความเงียบขึ้นมา ตั้งแต่เคนกลับไปทำงาน ทุกคนก็ดูซึมไปถนัดตา "เปล่าหรอกลูก แต่แม่ไม่ค่อยหิวน่ะ" แม่รีบแย้งขึ้นมาก่อนจะยอมตักกินอาหารตรงหน้า คนอื่นๆเห็นดังนั้นจึงทำตามแม่ แต่สีหน้าแต่ละคนก็ยังดูไม่มีชีวิตชีวาเลย "เสี้ยวเทียนมันไปทำงานนะไม่ได้ไปรบ ทำหน้ากันอย่างกับว่ามันจะไปตายอย่างนั้นแหละ" แวนเนสบ่นสมาชิกทุกคนขึ้นมาอีก "ปากเสียน่ะพี่รอง! พูดอะไรก็ไม่รู้" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็เอ็ดพี่ชายทันที "อ้าว! ก็มันจริงนี่หว่า....." แวนเนสเถียงแล้วลอบถอนหายใจเบาๆ "ถ้าเสี้ยวเทียนมันรู้ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ทุกคนไม่สบายใจแบบนี้มันเองก็คงเครียดไม่น้อยหรอก" แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน "เฮ่อ!" พ่อถอนหายใจเบาๆแล้วรวบช้อนส้อม "พ่อกินไม่ลงหละ ขอตัวไปพักผ่อนแล้วกัน" พูดจบก็ลุกออกจากโต๊ะอาหารไปเงียบๆ "แม่ไปดูพ่อดีกว่า" แม่ว่าแล้วก็ลุกตามพ่อออกไปอีกคน คงเหลือแต่สามพี่น้องที่ยังนั่งกันนิ่ง "พวกนายสองคนหละจะกินข้าวหรือเปล่า?" แวนเนสถามประชดเมื่อเห็นว่าแม้พี่น้องจะนั่งอยู่ตรงนี้แต่กลับนิ่งเงียบเหมือนไม่มีตัวตน "ผมไม่ค่อยหิวเลยพี่รอง" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็รวบช้อนส้อมเช่นกัน "พี่กลางสัญญาว่าถ้าขึ้นเรือแล้วจะโทรมาแต่จนป่านนี้ยังไม่เห็นโทรมาเลย แถมโทรไปก็ติดต่อไม่ได้อีกต่างหาก" ไจ่ไจ๋พูดอย่างกังวลแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือมากดหาพี่ชายคนกลางอีกครั้ง แล้วก็ต้องทำหน้าผิดหวังเช่นเคยเพราะติดต่อไม่ได้ "กดให้ตายก็ไม่ติดหรอก" แวนเนสว่าแล้วก็ล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์มือถือของน้องชายคนกลางออกมา "อ้าว! ทำไมมาอยู่นี่หละ?" น้องเล็กถามขึ้นเสียงแหลม เจอร์รี่เองก็ขมวดคิ้ว "พี่บอกมันเองว่าไม่ต้องเอาไป เพราะอยากให้มันไปทำงานด้วยความสบายใจ" แวนเนสตอบ "ทำแบบนี้แล้วถ้าหากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นน้องจะทำยังงัย?" เจอร์รี่มีสีหน้าเคร่งเครียด "น้องไม่เป็นไรหรอกน่า! อีกอย่างใช่ว่าไม่มีมือถือมันจะติดต่อพวกเราไม่ได้นี่" แวนเนสว่าแล้วก็ถอนหายใจในตอนนั้นเองเสียงโทรศัพท์ไจ่ไจ๋ก็ดังขึ้น "สวัสดีครับ" ไจ่ไจ๋รับสายด้วยน้ำเสียงเนือยๆ "ไจ่ไจ๋ พี่เองนะ" แต่เมื่อได้ยินเสียงฝ่ายตรงข้ามท่าทีเหงาหงอยของน้องเล็กก็ยิ้มร่าทันที "พี่กลาง! กว่าจะโทรมาได้นะ! ผมรอพี่โทรมาตั้งนานแหนะ" เมื่อได้ยินน้องเล็กพูดแวนเนสก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ เขารู้ดีว่ายังงัยซะเคนก็ทำตัวเงียบเฉยกับน้องเล็กไม่ได้ "โทษที พอดีพี่ขึ้นเรือแล้วก็ยุ่งๆกับการจัดข้าวของเนี่ย เดี๋ยวก็ต้องไปเข้าครัวแล้ว" เคนแก้ตัวก่อนจะพูดแบบติดตลก "พี่โทรมารายงานตัวแล้ว พอใจหรือยัง?" ไจ่ไจ๋หัวเราะเบาๆ "ก็โอเค แต่ถ้าจะให้ดีต้องโทรมารายงานทุกวันนะ" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็ได้ยินเสียงหัวเราะของพี่ชาย "เปลืองตายเลย พี่หยอดเหรียญนะเนี่ย" เคนว่าพลางหัวเราะ "แล้วทำไมทิ้งมือถือไว้นี่หละ? แทนที่จะเอาไปด้วย" ไจ่ไจ๋บ่น "จะได้ไม่มีใครโทรจิกงัยหละ" เคนตอบกลับมาเป็นเชิงแหย่น้อง "ฮึ!" ไจ่ไจ๋ทำเสียงงอนๆ ในตอนนั้นเจอร์รี่นั่งเงียบอยู่นานก็เอ่ยปากขึ้นมา "ไจ่ไจ๋....ขอพี่คุยกับพี่กลางหน่อย" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ทำหน้าแหยๆก่อนจะพยักหน้า "พี่กลางครับ มีคนอยากคุยด้วย" พูดจบก็ยื่นโทรศัพท์ให้พี่ชายคนโต "เสี้ยวเทียน" เจอร์รี่เรียกน้องชายเบาๆ แต่ฝ่ายตรงข้ามเงียบไป "ชั้นรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว อยากจะขอโทษนาย" เจอร์รี่พูดต่อเพราะรู้ว่าน้องฟังอยู่ "เขาทำร้ายนายด้วยใช่มั๊ย?" ถามน้องชายต่ออีก "เสี้ยวเทียน....." เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่นิ่งเงียบเจอร์รี่เองก็ไม่รู้จะทำยังงัย "ชั้นขอพูดหน่อย" แวนเนสเห็นดังนั้นจึงดึงโทรศัพท์มาจากพี่ชาย "เสี้ยวเทียน ชั้นเองนะ" แวนเนสพูดไปตามสาย "อืม" เสียงเคนตอบกลับมาสั้นๆ "โอเคมั๊ย?" ถามน้องชายอย่างห่วงใย "อืม" เคนตอบรับเหมือนเดิม "มีอะไรก็โทรมาได้ตลอดนะ นายไปทำงานเถอะ" เมื่อเห็นว่าน้องชายคนยังคงมีความไม่สบายใจอยู่แวนเนสจึงไม่พยายามชวนคุยอีก "อืม....ฝากบอกไจ่ไจ๋ว่าพรุ่งนี้จะโทรไปใหม่" เคนพูดทิ้งท้ายแล้วสายก็ตัดไป แวนเนสจึงส่งโทรศัพท์คืนให้น้องชาย "พี่กลางบอกว่าพรุ่งนี้จะโทรมาหานายอีก" พูดกับน้องเล็กเบาๆ ไจ่ไจ๋เพียงแต่พยักหน้ารับรู้แล้วส่งสายตาไปทางพี่ชายคนโตอย่างเป็นห่วง แต่จู่ๆเจอร์รี่ก็ลุกขึ้น "พี่ใหญ่ครับ กินข้าวกันก่อนดีมั๊ย?" น้องเล็กเอ่ยชวน "นายสองคนกินไปกันก่อนนะ พี่ขอตัวไปคุยกับพ่อแม่หน่อย" เจอร์รี่พูดจบก็เดินออกไปทันที "เฮ่อ! จะทำยังงัยได้เนี่ย?" แล้วน้องเล็กก็หันมาบ่นกับพี่ชายคนรอง "กินข้าวงัย" แวนเนสยักไหล่พร้อมกับพยักเพยิดให้น้องชายกินข้าว
- วันต่อมา - "จะไปไหนแต่เช้า?" แม่เอ่ยถามลูกชายคนเล็กที่แต่งตัวหล่อเดินลงบันไดมา "กะจะออกไปดูหนังกับเพื่อนน่ะครับ" ไจ่ไจ๋ตอบไปตามตรง ตอนนี้เขาเองก็เบื่อกับบรรยากาศเงียบงันภายในบ้านเลยอยากจะออกไปหาอะไรทำเพื่อคลายเครียดบ้าง "งั้นหรือจ๊ะ" แม่เพียงแต่รับคำ ไจ่ไจ๋เห็นดังนั้นก็มานั่งลงข้างแม่ "แม่ครับ อย่าคิดมากเลย" ไจ่ไจ๋พูดกับแม่ตามตรง "ตอนนี้พี่กลางเองก็คงกำลังทบทวนเรื่องราวทั้งหมดอยู่ ผมว่าอีกไม่นานพี่กลางเขาต้องคิดได้แน่ว่าที่พ่อกับแม่ทำไปก็เพราะหวังดีทั้งนั้น" ไจ่ไจ๋ปลอบโยนมารดา "ไม่หรอกลูก ความจริงแม่รู้สึกดีมากกว่าที่พี่กลางเขาพูดออกมาตรงๆแบบนั้น" แม่ว่าแล้วก็มีสีหน้าเศร้าลง อันที่จริงแม่ไม่ได้เล่ารายละเอียดทั้งหมดว่าเคนได้พูดอะไรออกมาบ้าง "พ่อแม่เองก็เคยเข้าใจมาตลอดว่าที่พี่กลางต่อต้านพ่อกับแม่ก็เพราะความน้อยใจแบบเด็กๆเท่านั้น ทั้งที่ความจริงมันเป็นเรื่องที่กระทบกับจิตใจของพี่กลางมาก" ไจ่ไจ๋เงยหน้ามองมารดาอย่างสงสาร เขาเองก็รู้ว่าแม่ก็พยายามทุกอย่างเพื่อให้พี่ชายคนกลางพอใจ "เอ่อ....วันนี้พ่อกับแม่จะไปไหนกันครับ?" เมื่อเห็นว่าแม่ดูเศร้าๆไจ่ไจ๋เลยเปลี่ยนเรื่องทันที "วันนี้แม่ก็อยู่บ้านนี่แหละ ส่วนพ่อเขาออกไปจัดการเรื่องที่บริษัท" แม่ตอบแล้วลูบหัวลูกชายอย่างรักใคร่ "ออกไปกับพี่ใหญ่หรอ?" ไจ่ไจ๋ถามต่ออีก "เปล่าจ๊ะ....ออกไปคนเดียว" แม่ตอบพร้อมกับส่ายหน้า "อ้าว! แล้วพี่ใหญ่ไปไหนหละ? เมื่อเช้าเข้าไปดูที่ห้องก็ไม่อยู่" ไจ่ไจ๋นิ่วหน้าอย่างแปลกใจ "คงไปเที่ยวพักผ่อนแหละ เมื่อวานตอนเย็นพี่เขามาคุยกับพ่อแม่ว่าอยากจะไปเที่ยวพักผ่อนซักระยะ พ่อแม่เห็นว่าพี่เขาก็เครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากแล้วเลยเห็นดีด้วย เห็นพี่เขาก็ออกไปตั้งแต่เช้าแล้วหละ" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ยิ่งคิ้วขมวดมากขึ้นอีก "ทำไมไม่เห็นบอกผมเลย" บ่นพึมพำออกมา "พี่ใหญ่คงกลัวลูกตามไปด้วยมั้ง?" แม่เอ่ยแซวลูกชาย ไจ่ไจ๋เลยทำหน้ามุ่ย "ไม่ไปด้วยหรอก ไปด้วยก็เครียดเปล่าๆ คนอะไรทำหน้าขรึมได้ทั้งวัน" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็ถอนหายใจ "ว่าแต่พี่ใหญ่ไปที่ไหนหรอ?" ถามต่ออีก เขาเองก็นึกเป็นห่วงพี่ชาย "ไม่รู้สิ แต่เห็นพี่เขาโทรไปจองตั๋วจองห้องพักอะไรของเขาไว้แล้วหละ" แม่ตอบ "คงไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีกนะ" ไจ่ไจ๋นึกกังวล "ไม่มีอะไรหรอกลูก" แม่พูดปลอบแล้วเปลี่ยนเรื่องถามลูกชายต่อ "เมื่อไหร่จะพาสะใภ้คนเล็กมาเจอแม่บ้างหละ?" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็มีท่าทีเขินๆ "แม่ก็พูดไปซะนั่น อนาคตยังอีกยาวไกลนะครับ" แม่ได้ยินลูกชายพูดเช่นนี้ก็หัวเราะออกมาได้ "ทำไมหละ? ยังไม่แน่ใจกับคนนี้หรอ?" ถามแหย่ลูกชายต่ออีก "แน่ใจสิครับ แต่ว่าเขาจะแน่ใจกับผมหรือเปล่าไม่รู้" ไจ่ไจ๋ว่าด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ "อ้าว....เป็นงั้นไป.....ไหนบอกแม่ซิว่าแฟนลูกเป็นคนยังงัย?" แม่ถามซักไซร้ลูกชายคนเล็ก "ก็น่ารักครับ คุยเก่ง เอาใจเก่ง บางทีก็งอแงเหมือนเด็ก แต่บางทีก็ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าผมซะอีก" ไจ่ไจ๋พูดด้วยรอยยิ้มภาคภูมิใจ "นัดไปดูหนังกันหรอ?" แล้วแม่ก็ตามตรงๆ ไจ่ไจ๋อ้าปากค้างไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าหงึกๆ "ไปกับแฟนก็บอกมาตรงๆสิ ทำไมต้องเอาเพื่อนมาอ้างด้วย" แม่ว่าพร้อมกับบีบจมูกลูกชายคนเบาๆ "แหม....ก็มีเพื่อนๆไปด้วยหนิ" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็ยิ้มให้แม่ "แม่ไปมั๊ยครับ?" ชวนแม่พร้อมกับรอยยิ้มเหมือนเด็กๆ "เจ้าลูกแห่ง จะเอาแม่ไปออกเดทกับแฟนด้วยหรืองัย?" แม่ว่าพร้อมกับหัวเราะ "ถ้าแม่ไปผมไม่มีอะไรขัดข้องแน่นอน" ไจ่ไจ๋พูดจริงจัง ทำเอาแม่รู้สึกขำ "จ๊ะๆๆๆ แม่รู้ว่าลูกไม่ได้คิดอะไร แต่ลูกไปเถอะ วันนี้แม่อยากอยู่บ้านพักผ่อนซักวัน ดีไม่ดีอาจจะไปที่บริษัทกับพ่อด้วย" เมื่อได้ยินดังนั้นไจ่ไจ๋ก็ขยับเข้าไปหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่ "งั้นผมไปนะครับ แล้วจะซื้อขนมอร่อยๆมาฝาก" แม่ยิ้มแล้วพยักหน้า ดังนั้นไจ่ไจ๋จึงออกจากบ้านไป หลังจากไจ่ไจ๋ออกจากบ้านไปได้ครู่หนึ่งแวนเนสก็วิ่งตึกตักลงมาด้วยหน้าตาตื่น "แม่ครับ!" แม่ได้ยินก็ตกใจรีบลุกขึ้นไปจับแขนลูกชายเอาไว้ "แวนเนส เกิดอะไรขึ้น? ลูกเป็นอะไรหรือเปล่า?" แม่ถามอย่างพลอยตกใจไปด้วย "เปล่าครับ แต่ว่า....." แวนเนสว่าพลางหอบแฮ่กๆ "แต่ว่าอะไร?" แม่ถามย้ำ "พี่ใหญ่หนีออกจากบ้าน ผมเข้าไปดูที่ห้องไม่เจอพี่ใหญ่พอเปิดตู้เสื้อผ้าดูก็มีกระเป๋าเดินทางกับเสื้อผ้าส่วนนึงหายไป" แวนเนสละล่ำละลักบอกแม่ "แม่! พี่ใหญ่ต้องเครียดกับเรื่องของเสี้ยวเทียนมากแน่ๆถึงได้เตลิดแบบนั้น เมื่อวานผมก็เห็นแล้วว่าพี่เขาอารมณ์ไม่ดีแต่ก็ไม่ได้ซักถามอะไร ไม่น่าเลย!" แวนเนสบ่นชุดใหญ่ แม่อ้าปากจะพูดแต่แวนเนสก็ยังร่ายยาวต่ออีก "ผมโทรไปหาพี่ใหญ่ก็ไม่ยอมรับสาย โทรไปตั้งหลายครั้งแล้ว แบบนี้เราจะไปตามพี่ใหญ่ที่ไหนดี?" แวนเนสถามพร้อมกับเขย่ามือแม่ไปด้วย "แวนเนส....." แม่ตั้งท่าจะพูดแต่เสียงโทรศัพท์มือถือของแวนเนสก็ดังขึ้นมาก่อน "โทรมาแล้ว!" แวนเนสมีท่าทางดีใจแล้วรีบกดรับสายทันที "เจอร์รี่! นายไม่เห็นต้องทำแบบนี้เลย มีอะไรมาคุยกันก็ได้ หนีออกจากบ้านไปแบบนี้มันไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกนะ" แวนเนสต่อว่าพี่ชายชุดใหญ่ แม่ได้ยินก็อดที่จะขำไม่ได้ "พูดอะไรของนาย? ใครหนีออกจากบ้าน? จะบ้าหรืองัย!" เสียงพี่ชายต่อว่ากลับมาทำให้แวนเนสมีสีหน้างงๆ ยิ่งหันมาเห็นแม่กำลังหัวเราะอยู่ก็ยิ่งงง "อ้าว....ก็นาย....." แวนเนสอ้าปากจะพูดแต่พี่ชายก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน "ชั้นขอพ่อแม่มาพักร้อนซักระยะนึงก็เท่านั้นเอง" พอได้ยินเช่นนั้นแวนเนสจึงเข้าใจ เขาทำหน้าเขินๆ "ไอ้บ้า! แทนที่จะบอกกันก่อน!" แวนเนสไม่รู้จะทำยังงัยจึงต่อว่าพี่ชายซะอย่างนั้น "เรานั่นแหละที่ไม่ยอมฟังเลย แม่กำลังจะบอกแต่ลูกก็เอาแต่ร่ายยาวจนไม่เปิดช่องให้แม่พูดเลย" แม่ว่าพลางหัวเราะขำๆ "แม่อ่ะ!" แวนเนสครางพร้อมกับทำหน้ามุ่ยๆยิ่งได้ยินเสียงพี่ชายหัวเราะด้วยอีกคนก็พาลงอน "ไม่คุยแล้ว แค่นี้แหละ" พูดจบก็จะกดวางแต่เสียงเจอร์รี่ร้องห้ามไว้ก่อน "เฮ้ย!! อย่าเพิ่งวาง....." ดังนั้นแวนเนสจึงเอาโทรศัพท์มาแนบหูตามเดิม "พี่ใหญ่จะไม่อยู่ช่วงนึง เราอย่าดื้อกับพ่อแม่นะ" สั่งกำชับน้องชายเอาไว้ "ไปไหนทำไมไม่บอกกันบ้าง?" แวนเนสไม่รับปากแต่ยังต่อว่าพี่ชายต่ออีก "เอาน่า.....วันหลังจะพามาด้วย" เจอร์รี่ปลอบน้องชาย "เราน่ะช่วยแม่ดูน้องด้วยนะ แล้วถ้ามีอะไรก็โทรมาหาพี่ใหญ่ทันทีเลยรู้มั๊ย?" แวนเนสเบ้ปากเล็กน้อย "กดโทรศัพท์มือจะหงิกไม่เห็นจะรับสายเลย" ต่อว่าพี่ชายกลับไป "ขอโทษ พอดีชั้นกินข้าวอยู่แล้วใส่โทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเดินทางเลยไม่ได้ยินเสียงน่ะ แต่พอเห็นแล้วก็รีบโทรกลับทันทีเลยนะ" แวนเนสมีสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย "แล้วไปไหน? จะกลับเมื่อไหร่?" ถามพี่ชายต่ออีก "อืม....เดี๋ยวกลับไปแล้วจะเล่าให้ฟัง ตอนนี้พี่ใหญ่ต้องขึ้นรถแล้ว" พูดจบสายก็ตัดไปเฉยๆ "ไอ้บ้า นึกจะวางก็วาง" แวนเนสมองโทรศัพท์ก่อนจะบ่นออกมา แล้วก็หันไปทำหน้ามุ่ยใส่แม่ที่ได้แต่อมยิ้ม
- บนเรือสำราญ - "เสี้ยวเทียน เลิกงานแล้วใช่มั๊ย?" หัวหน้าเดินเข้ามาถามเคนที่กำลังถอดผ้ากันเปื้อนอยู่ "เลิกแล้วครับ หัวหน้าจะให้ทำโอทีต่อหรือเปล่า?" เคนตอบแล้วถามกลับ "เปล่าหรอก แต่เมื่อกี้เธอทำอาหารที่รับออเดอร์มาจากห้อง A427 หรือเปล่า?" หัวหน้าถามเคนกลับ "เอ่อ....ใช่ครับ? มีอะไรหรือครับ?" เคนตอบแล้วถามต่ออีก "พอดีลูกค้าอยากพบน่ะ เดี๋ยวแวะไปหาลูกค้าหน่อยนะ" หัวหน้าบอกแล้วตบไหล่เคนเบาๆ "อาหารมีปัญหาอะไรหรือครับหัวหน้า?" เคนเริ่มมีท่าทีวิตกกังวล "เขาไม่ได้บอกไว้ เพียงแต่บอกว่าอยากพบเชฟที่ทำอาหารเสริฟให้เขา" หัวหน้าตอบแล้วยิ้มปลอบใจ "ถ้ามีปัญหาอะไรก็เรียกชั้นแล้วกัน เดี๋ยวจะไปช่วยเคลียร์ให้" เคนก้มหัวให้หัวหน้าเล็กน้อยก่อนจะรีบไปล้างมือแล้วเดินไปพบลูกค้าด้วยใจพะว้าพะวง "ทำไมมีแต่เรื่องวะเนี่ย!" บ่นกับตัวเองอย่างเซ็งๆแล้วก็มาหยุดยืนอยู่หน้าห้องดังกล่าว เคนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็เคาะประตูห้องเบาๆ เสร็จแล้วก็ยืนก้มหน้าอย่างสำรวม ซักพักประตูก็ถูกเปิดออก "สวัสดีครับ ผมเป็นเชฟที่ทำอาหารให้คุณเมื่อซักครู่ ไม่ทราบว่าอาหารมีปัญหาอะไรหรือครับ?" เคนพูดอย่างสุภาพโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา แต่อีกฝ่ายหนึ่งกลับไม่ตอบเคนจึงเงยหน้าขึ้นมองแต่แล้วก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที "นาย....." เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นพี่ชายคนโตเขาก็ทั้งงงทั้งแปลกใจ "คุณเชฟใหญ่ เข้ามาก่อนสิ" เจอร์รี่ยิ้มรับ แต่เคนไม่ยอมเข้าไปในห้องพักของพี่ชาย "นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังงัย?" เคนถามเสียงห้วน "ชั้นก็เดินทางมาขึ้นเรือที่ท่า โดยโทรมาจองตั๋วล่วงหน้างัยหละ" เจอร์รี่ตอบยิ้มๆ เคนตวัดสายตามองพี่ชายด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ "ถ้าไม่มีอะไรชั้นไปหละ" พูดจบก็ทำท่าจะเดินจากไป "พนักงานที่นี่ถูกอบรมมาให้เดินหนีลูกค้าหรืองัย?" คำพูดของพี่ชายทำเอาเคนชะงัก "ขอโทษครับ ตกลงว่าอาหารที่สั่งมีปัญหายังงัยครับ?" เคนถามประชดพี่ชาย "ถ้าอย่างนั้นผมจะคืนเงินให้คุณแล้วจะให้คูปองทานอาหารเช้าฟรีเป็นการขอโทษ ไม่ทราบว่าแบบนี้คุณจะพอใจหรือไม่?" ประชดพี่ชายต่ออีก "ไม่พอใจ" เจอร์รี่ว่าอย่างคนที่เหนือกว่า "งั้นจะเอายังงัยก็ว่ามา" เคนเสียงห้วนลงอีกครั้ง เจอร์รี่ยิ้มเล็กน้อย "เข้ามาก่อนสิ" ว่าพร้อมกับชวนให้น้องเข้าไปคุยกันข้างในห้องพัก "ชั้นเป็นพนักงานเข้าไปในห้องผู้โดยสารไม่ได้" เคนบอกกับพี่ชายอย่างเซ็งๆ "แล้วถ้าเข้าไปเพื่อคุยเรื่องอาหารพวกนี้หละ?" เจอร์รี่ย้อนถาม เคนเริ่มหน้าตึง "เอาเถอะ ถ้านายโดนต่อว่าชั้นจะออกหน้าให้เอง" พี่ใหญ่รับรองแล้วดึงตัวน้องเข้ามาจนได้ "เสี้ยวเทียน ชั้นอยากจะ....." เมื่อเข้ามาอยู่กันตามลำพังแล้วเจอร์รี่ก็เอ่ยปากแต่เคนกลับพูดแทรกขึ้นมาก่อน "ขอโทษนะ ถ้าไม่ใช่เกี่ยวกับเรื่องอาหารชั้นต้องขอตัว แบบนี้มันผิดกฎ" เจอร์รี่มองหน้าน้องชายด้วยสีหน้าเศร้าๆ "งั้นนายก็ออกไปเถอะ" เจอร์รี่ไม่รั้งตัวน้องชายไว้อีก เคนเองก็ลุกขึ้นทันที "ชั้นจะขอบคุณมากถ้านายจะไม่รบกวนเวลางานของชั้นอีก" เคนพูดทิ้งท้ายอย่างเฉยเมยแล้วเปิดประตูออกไปอย่างรวดเร็ว เจอร์รี่มองตามหลังน้องชายแล้วถอนหายใจเบาๆ เขายืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก็เดินออกจากห้องเพื่อไปเดินเล่นสูดอากาศข้างนอก แต่เดินอยู่ได้พักหนึ่งเขาก็รู้สึกมึนหัวเหมือนจะเมาเรือ "คุณครับ เป็นอะไรหรือเปล่า?" ชายคนที่อยู่แถวนั้นเห็นอาการของเจอร์รี่ก็เดินเข้ามาสอบถาม "ผมรู้สึกเหมือนจะเมาเรือน่ะครับ" เจอร์รี่ตอบไปตามตรง "เพิ่งเคยมาสินะ" ชายคนนั้นว่าพร้อมกับยิ้มให้ "มา....ผมจะพาไปห้องพยาบาล" ว่าแล้วก็เข้าไปช่วยพยุงเจอร์รี่ "ขอบคุณมากนะครับ" เจอร์รี่พูดเบาๆก่อนจะยอมให้ชายคนนั้นพาไปห้องพยาบาล "ส่งแค่นี้ก็พอครับ ขอบคุณมากจริงๆ" เมื่อมาถึงที่หมายเจอร์รี่ก็หันไปขอบคุณอีกครั้ง ชายคนนั้นยิ้มให้แล้วปล่อยให้เจอร์รี่เดินเข้าไปเอง "ขอโทษครับ คือว่าผม....." เจอร์รี่เอ่ยปากแต่ก็ต้องหยุดพูดเมื่อพบว่าในห้องนั้นไม่ได้มีแค่พยาบาลคนเดียวแต่กลับมีน้องชายของเขาอยู่ด้วย "สวัสดีค่ะ เป็นอะไรมาคะ?" พยาบาลสาวรีบลุกขึ้นมาสอบถามเจอร์รี่ "นายเป็นอะไร? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?" เจอร์รี่กลับไม่ตอบคำถามนั้นแต่หันไปถามน้องชายแทน "เปล่า" เคนตอบแล้วมองพี่ชาย "เป็นอะไรขึ้นมาอีก?" ถามพี่ชายขึ้นมาบ้าง พยาบาลสาวจึงได้แต่ทำหน้างงๆ "เหมือนจะเมาเรือ" เจอร์รี่ตอบน้องชายด้วยท่าทางเบลอๆ "เอ่อ...." เมื่อเห็นว่าบุคคลอีกคนหนึ่งกำลังงงๆอยู่เคนจึงไขข้อข้องใจ "อี้เจวียน นี่พี่ชายผม" เคนแนะนำ เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจอร์รี่ก็เลิกคิ้วล็กน้อยเพราะเขาเคยได้ยินชื่อนี้มาบ้างแล้ว "เดี๋ยวจัดยาให้นะคะ รบกวนนั่งรอซักครู่" อี้เจวียนว่าแล้วก็เดินไปหยิบยา ในระหว่างนั้นเจอร์รี่ก็รู้สึกอยากจะอาเจียน "เฮ้ย! ไปที่ห้องน้ำโน้น!" เคนเห็นพี่ชายเอามือปิดปากก็ร้องบอกอย่างตกใจ เขารีบดึงพี่ชายไปเข้าห้องน้ำทันที "เป็นยังงัยบ้าง?" เคนเอามือลูบหลังให้พี่ชายพร้อมกับถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง "โอเค" เจอร์รี่ตอบเสียงแหบแห้ง แล้วอาเจียนออกมาอีกรอบ "แบบนี้น่ะหรอที่บอกว่าโอเค? อวดเก่งเหลือเกิน" ต่อว่าพี่ชายเข้าให้แต่ก็ยังลูบหลังให้พี่ชาย "เป็นยังงัยบ้างคะ?" พยาบาลสาวเดินเข้ามาดูอาการเจอร์รี่พร้อมกับสอบถาม "อาเจียนใหญ่เลยครับ กินยาแก้เมาเรือเข้าไปแล้วต้องรอนานหรือเปล่ากว่าจะออกฤทธิ์?" เคนตอบแทนพี่ชายเสร็จสรรพ "ประมาณยี่สิบนาทีค่ะ แต่อาเจียนแล้วน่าจะรู้สึกดีขึ้น" เธอว่าพร้อมกับมองเจอร์รี่ "ดีขึ้นครับ" เจอร์รี่ตอบรับแล้วรับเม็ดยาจากหญิงสาวมากิน "ขอบคุณมากนะครับ" เอ่ยขอบคุณอีกครั้งแล้วส่งแก้วน้ำคืนให้ "นอนพักที่นี่ซักครู่ดีกว่ามั๊ยคะ?" อี้เจวียนว่าเมื่อเห็นท่าทางของเจอร์รี่เดินเซๆ "ผมกลับไปที่ห้องพักดีกว่าครับ จะได้หลับยาวเลย" เจอร์รี่แย้งเสียงเหนื่อยๆ "ก็นอนดูอาการซักหน่อยจะเป็นไรไป? เดี๋ยวเป็นอะไรขึ้นมาอีกใครจะเห็น" เคนไม่เห็นด้วยที่พี่ชายจะกลับไปนอนที่ห้องพักคนเดียว "เสี้ยวเทียน พี่แค่เมาเรือคงไม่ถึงตายหรอก" เจอร์รี่ว่าแล้วยืนกรานจะกลับไปนอนพักที่ห้อง "ถ้าตายไปจะสมน้ำหน้าให้!" เคนกระแทกเสียงแต่ก็เข้าไปโอบไหล่พี่ชาย "ผมพาเขาไปเอง ขอบคุณมากนะครับ" เคนบอกกับอี้เจวียนเสร็จก็พาพี่ชายเดินกลับห้องพัก "อี้เจวียนคนนี้เองหรอ?" ในระหว่างที่เดินกลับเจอร์รี่ก็ถามน้องยิ้มๆ "ยังจะพูดมากอีก!" เคนเอ็ดใส่พี่ชายกลบเกลือนเพราะรู้ว่าพี่ชายต้องซักถามเขาต่อแน่นอน พี่ใหญ่ไม่พูดอะไรเพียงแต่ยิ้มเล็กน้อย "แล้วรู้ว่าจะเมาเรือทำไมไม่กินยาดักไว้ก่อน มารอให้มีอาการแล้วค่อยกินเดี๋ยวก็ได้อ้วกไม่หยุด!" เคนบ่นพี่ชายไปจนกระทั่งมาถึงห้องพักในที่สุด "นอนไปเลยนะไม่ต้องลุกขึ้นมาเดินแล้ว และพรุ่งนี้เช้าก็กินยาเข้าไปอีกด้วย" เมื่อพยุงพี่ชายมาที่เตียงแล้วเคนก็สั่งกำชับ พี่ใหญ่ยิ้มบางๆกับความห่วงใยของน้องชาย "ขอบใจมากนะที่เป็นห่วงพี่" เจอร์รี่บอกกับน้อง เคนได้ยินก็ตีหน้าขรึม "ไม่ได้ห่วงแต่มันจำเป็นต่างหาก!" พูดจบก็ทำท่าจะหมุนตัวออกไป "ทั้งที่นายดีกับพี่ขนาดนี้แต่พี่ยังสงสัยนายได้ ตอนนี้ต่อให้นายโกรธพี่จนตายพี่ก็จะยอมรับแต่โดยดีเลย" คำพูดของพี่ชายทำเอาเคนชะงักไป "ต่อจากนี้ไปนายไม่ต้องนับถือพี่ในฐานะพี่ชายอีกแล้วก็ได้เพราะพี่เองก็ไม่คู่ควร" เจอร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ "พล่ามอยู่นั่นแหละ หุบปากแล้วนอนซักที!" เคนอึ้งไปกับคำพูดของพี่ชายแต่ก็ยังทำเสียงแข็งๆ พูดจบก็เดินออกไปทันที ปล่อยให้พี่ชายได้แต่มองตามอย่างเศร้าใจ
Create Date : 17 มิถุนายน 2557 | | |
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2558 14:41:08 น. |
Counter : 975 Pageviews. |
| |
|
|
|