Chapter 21

ตอนที่ 21
"อรุณสวัสดิ์ครับพี่กลาง!" ไจ่ไจ๋ร้องทักพี่ชายเมื่อเห็นว่าเคนกำลังเดินเล่นอยู่ในบริเวณสนามหญ้า เคนหันมาทางเสียงเรียกแล้วแกล้งขยี้ตา
"ตายหละ พี่ตาฝาดหรือเปล่านะที่เห็นนายตื่นพร้อมกับพระอาทิตย์ขึ้นน่ะ?" เอ่ยแซวน้องชายอย่างอารมณ์ดี
"พี่กลางหละก็! ชอบแขวะผมเรื่อยเลย" น้องเล็กทำเสียงกระเง้ากระงอดแต่ก็เดินเข้าไปกอดพี่ชาย
"ออกมาทำอะไรแต่เช้าครับ?" ย้อนถามพี่ชายกลับไปบ้าง
"มาเดินเล่นน่ะ คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ" เคนตอบน้องพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ
"ถ้าพี่กลางยังอาลัยอาวรณ์ที่นี่อยู่ก็ไม่น่าขายมันไปนะครับ อย่างน้อยเวลาคิดถึงก็ยังมีที่ให้มา" ไจ่ไจ๋พูดกับพี่ชายตรงๆ
"ไม่หรอก พี่ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแล้ว" เคนส่ายหน้า
"เรื่องบางเรื่องมันอาจจะมีผลกระทบต่อจิตใจมากในตอนแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปมันจะมีผลกระทบกับเราน้อยลง" เคนอธิบายให้น้องฟัง
"พี่ยอมรับนะว่าเมื่อตอนแรกๆที่พี่มาอยู่กับอาเจียง พี่ทรมาน พี่โกรธ พี่น้อยใจ พี่เกลียดที่นี่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้พักหนึ่งพี่ก็เริ่มคุ้นเคยทำให้ความรู้สึกที่ว่านั้นมันค่อยลดลงไปเรื่อยๆจนสุดท้ายพี่แทบจะบอกได้เลยว่าพี่มีความสุขที่อยู่กับอาเจียง" น้องเล็กฟังพี่ชายแล้วเงียบไป
"แล้วก็เหมือนกัน หลังจากที่พี่ต้องกลับมาอยู่ที่บ้านเราอีกครั้ง ความรู้สึกขัดแย้งในใจพี่มันก็เริ่มขึ้นมาอีก พี่กลัวนะ กลัวว่าซักวันนึงพี่อาจจะต้องจากบ้านจากครอบครัวเราไปอีก พี่ถึงต้องสร้างเกราะป้องกันตัวเอง ทำเหมือนไม่แคร์ไม่สนใจ แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีวันไหนที่พี่ไม่รักพ่อกับแม่ ไม่มีวันไหนที่พี่จะไม่คิดถึงพวกนาย พี่ก็รู้ว่าตัวเองสร้างความลำบากใจให้ทุกคน แต่ที่พี่ทำแบบนั้นเพราะพี่คิดว่านั่นคือวิธีการป้องกันความรู้สึกของตัวเอง พี่เลยปิดกั้นตัวเองจากพ่อแม่เพื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้องรู้สึกเสียใจมาก แต่ว่าตอนนี้ความรู้สึกแบบนั้นมันก็หายไปหมดแล้ว ตอนนี้เรื่องในอดีตไม่มีผลกระทบกับความรู้สึกของพี่เท่ากับเมื่อก่อนอีกแล้วหละ" เคนอธิบายให้น้องฟังด้วยน้ำเสียงสบายๆ
"พี่กลางครับ ผมชื่นชมพี่มากเลยรู้หรือเปล่า? ถ้าเป็นผมต้องเจอเรื่องอะไรแบบนี้ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเข้มแข็งได้เท่ากับพี่มั๊ย?" น้องเล็กว่าแล้วกอดเอวพี่ชายเอาไว้
"น้องพี่เข้มแข็งออกนะ แม้จะขี้แยไปหน่อยแต่เวลาเจอเรื่องอะไรร้ายแรงนายก็ผ่านมันมาได้ทุกครั้ง" เคนว่าพลางโยกหัวน้องอย่างเอ็นดู
"ผมก็เอาแบบอย่างมาจากพี่นั่นแหละครับ" ไจ่ไจ๋ได้ทีพูดยอพี่ชาย แล้วสองพี่น้องก็หัวเราะกันคิกคัก
"สองคนพี่น้องตื่นเช้ากันจังเลยนะ" เสียงแม่ทักขึ้นอย่างร่าเริง
"แม่ครับ! ตื่นแล้วหรอ?" ไจ่ไจ๋ผละออกจากพี่ชายแล้วหันไปกอดแม่แทน
"ตื่นแล้วจ๊ะ เมื่อคืนหลับสบายกันมั๊ยลูก?" แม่ถามลูกชายต่อ
"หลับสบายครับ" ไจ่ไจ๋ตอบ แม่ยิ้มแล้วมองเลยไปทางเคน
"สบายมากเลยครับ" เคนตอบแล้วส่งยิ้มให้แม่เช่นกัน
"เสี้ยวเทียน แม่จำได้ว่าเมื่อก่อนจะมีโจ๊กอยู่เจ้านึงทำอร่อยมาก เขามักจะขายเฉพาะช่วงเช้าตรู่ใช่มั๊ย?" แม่ชวนลูกชายคุย
"ใช่ครับแม่ เดินเลยออกไปนิดเดียวก็ถึงแล้ว งั้นเช้านี้เรากินโจ๊กกันดีมั๊ย?" เคนตอบพร้อมกับเอ่ยชวน
"ดีจ๊ะ แม่ก็คิดถึงรสชาดกลมกล่อมของโจ๊กเจ้านั้นเหมือนกัน" แม่ตอบรับ
"งั้นเราออกไปซื้อโจ๊กกันนะครับ พอพ่อกับพี่ใหญ่พี่รองตื่นขึ้นมาจะได้มีอะไรกิน ไม่งั้นเดี๋ยวบ่นหิวกันอีก" เคนชวนแม่พร้อมกับเดินเข้าไปหา
"ได้จ๊ะ ไปด้วยกันนะไจ่ไจ๋" แม่ชวนลูกชายคนเล็กด้วย
"ผมขี้เกียจเดิน แม่ไปกับพี่กลางสองคนเถอะนะ" ไจ่ไจ๋ปฏิเสธด้วยอยากให้แม่กับเคนได้พูดคุยกันตามลำพังบ้าง
"ก็ได้จ๊ะ งั้นลูกไปล้างหน้าแปรงฟังแล้วปลุกคนที่เหลือให้มารอกินโจ๊กเจ้าอร่อยด้วยนะ" แม่สั่งกำชับไจ่ไจ๋
"ได้เลยครับ ผมจะลากทุกคนขึ้นมาให้ได้เลย" ไจ่ไจ๋รับปากก่อนที่จะหันไปยิ้มให้เคนเล็กน้อย
"เราไปกันเลยนะครับ" เคนชวนแล้วเอื้อมมือไปจูงมือแม่ไว้
"จ๊ะ ถือว่าเดินออกกำลังกายตอนเช้าไปด้วย" แม่ตอบรับแล้วเดินเคียงคู่ไปกับลูกชาย ส่วนไจ่ไจ๋เข้าบ้านมาได้ก็รีบวิ่งขึ้นไปปลุกพี่ชายสองคนทันที
"พี่ใหญ่! พี่รอง! ตื่นได้แล้วครับ!" ร้องเรียกพลางเขย่าตัวพี่ชายไปด้วย
"อือ....ยังเช้าอยู่เลย นายจะรีบไปไหน?" พี่ใหญ่ลืมตาขึ้นมาถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
"แม่บอกให้ตื่นขึ้นมารอกินโจ๊กเจ้าอร่อย ลุกเร็วเข้าพี่ใหญ่!" น้องเล็กขึ้นไปนั่งบนเตียงแล้วเร่งพี่ชายอีก
"ขอนอนต่ออีกหน่อยนะ พี่ยังไม่หายง่วงเลย" พูดจบพี่ใหญ่ก็หลับตาลงอีก
"ไม่ได้นะ!! ตื่นแล้วก็ลุกขึ้นมาสิ! พระอาทิตย์ขึ้นสวยออก ไม่ไปดูหรอ? พี่รองก็ด้วย! ไม่ต้องมาทำเป็นไม่ได้ยินเลยนะ! ลุกเดี๋ยวนี้!" หันไปเขย่าตัวแวนเนสแรงๆ
"โอ้ย! ทำไมนายวุ่นวายนักนะ? มาเที่ยวพักผ่อนนะโว้ย! ยังจะเร่งให้ตื่นแต่เช้าอีก" แวนเนสบ่นอุบและพอบ่นเสร็จก็หลับต่อ
"อ้าวเฮ้ย!! ลุกได้แล้วพี่รอง! นานๆทีจะได้มาเที่ยวดันมานอนกินบ้านกินเมืองซะนี่! ลุกขึ้นมาดูบ้างสิว่าชาวบ้านเขาทำอะไรกันไปถึงไหนแล้ว" น้องเล็กโวยวายแล้วเขย่าตัวพี่ชายอีก
"เออๆๆๆ ให้พี่ใหญ่ไปล้างหน้าล้างตาก่อนเถอะ" แวนเนสยอมน้องในที่สุดแต่ก็บอกปัดให้พี่ชายจัดการตัวเองให้เสร็จก่อนด้วยหวังจะแอบงีบต่ออีกหน่อย
"ชั้นก่อนทั้งปี" เจอร์รี่บ่นเบาๆแต่ก็ยอมลุกขึ้นมาเพราะเจ้าน้องชายตัวดีเริ่มจะทำหน้างอแล้ว
"พ่อกับพี่กลางตื่นหรือยังหละ?" หันมาถามน้องชายต่อ
"พี่กลางไปซื้อโจ๊กกับแม่ ส่วนพ่อ....." ไจ่ไจ๋ยังพูดไม่ทันจบพ่อที่เดินมายืนดูลูกชายอยู่นานก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
"ตื่นตั้งนานแล้วลูก" เสียงพ่อทำให้ไจ่ไจ๋หันไปทางเจ้าของเสียง
"พ่อตื่นนานแล้วหรอ? ผมนึกว่าจะนอนขี้เซาเหมือนคนแถวนี้ซะอีก" ไจ่ไจ๋รีบเดินไปเกาะแขนพ่อแล้วพาเดินมาที่เตียง
"ว่าใครขี้เซาไจ่ไจ๋? เดี๋ยวโดนหรอก" แวนเนสผงกหัวขึ้นมาหาเรื่องน้อง
"ไม่ได้ว่าพี่รองหรอกครับ แต่ตอนนี้ไม่มีใครนอนอยู่ที่เตียงซักคน" น้องเล็กว่าประชดพี่ชายอีก พ่อหัวเราะออกมาเบาๆ ส่วนพี่ใหญ่ได้แต่ส่ายหัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
"ทำไม? นอนเล่นเฉยๆโว้ย! พี่ตื่นตั้งนานแล้ว ตื่นก่อนนายด้วยซ้ำไป" แวนเนสลืมตาขึ้นมาเถียงน้อง
"หรอ? ตื่นเมื่อไหร่ไม่ทราบ?" น้องเล็กถามด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
"ตื่นตั้งแต่ตีสี่แล้ว" แวนเนสตอบ ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ขมวดคิ้ว
"ตื่นมาทำไมตีสี่?" ย้อนถามพี่ชายอย่างไม่เข้าใจ
"ตื่นมาฉี่" แวนเนสพูดหน้าตาเฉย เลยโดนกำปั้นของน้องทุบเข้าให้ด้วยความหมั่นไส้
"ไอ้นี่หนิ! ใช้กำลังเรื่อยเลย ติดพี่ใหญ่มาหรืองัย?" ประโยคหลังบ่นอุบเบาๆ
"พี่ใหญ่ครับ!!! พี่รองนินทา!" ไจ่ไจ๋ร้องบอกพี่ชายคนโตทันที พ่อได้แต่หัวเราะด้วยขำกับการล้อเล่นกันเป็นเด็กๆของลูกชาย
"ลูกพ่อแต่ละยังไม่โตกันเลยนะเนี่ย" พ่อว่าพร้อมกับขยี้หัวไจ่ไจ๋อย่างเอ็นดู
"ลูกชายตัวดีของพ่อน่ะ ชักจะปากเก่งขึ้นทุกวันแล้ว ตอนนี้ไม่รู้ว่าผมเป็นพี่มันหรือมันเป็นพี่ผมกันแน่? โดนโขกสับทุกวันเลยเชียว" แวนเนสเอ่ยปากฟ้องพ่อทันที
"อย่ามาใส่ร้ายผมนะพี่รอง ก็พี่น่ะทำตัวไม่น่ารักเองหนิ" น้องเล็กเถียง
"นี่ๆๆๆ เราก็เกินไป เขาน่ะพี่เรานะ" พ่อปรามลูกชายคนเล็กด้วยน้ำเสียงดุๆ แวนเนสเลยยิ้มเยาะน้องชายเข้าให้
"ฝากไว้ก่อนเถอะ" ไจ่ไจ๋พึมพำเบาๆ
"บ่นอะไรอีก? พ่อสอนยังไม่เชื่อฟังอีกหรอ?" ไจ่ไจ๋เงยหน้ามองพ่อก่อนที่จะทำหน้างอใส่
"พ่อก็สอนให้พี่รองกวนประสาทให้น้อยลงมั่งสิ" เถียงพ่อออกมาอย่างอดไม่ได้
"ไจ่ไจ๋!!! ถ้าพี่ใหญ่ได้ยินเราเถียงพ่ออีกครั้งเดียวพี่จะตีนะ!" พี่ใหญ่ที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำพูดกับน้องเล็กเสียงดุจริงจัง ได้ยินดังนั้นน้องเล็กก็ก้มหน้าลงอย่างขัดใจ
"สมน้ำหน้า" แวนเนสเปรยขึ้นเบาๆ
"แวนเนส! ถ้าพี่เห็นเราแหย่น้องอีกพี่ก็จะตีเหมือนกัน!" แวนเนสได้ยินก็ทำหน้าเจื่อนๆ พ่อเห็นหน้าจ๋อยๆของลูกชายสองคนที่โดนพี่ชายดุแล้วก็อมยิ้ม
"แวนเนสไปล้างหน้าล้างตาไปลูก ไจ่ไจ๋ลงไปรอแม่และก็พี่กลางกับพ่อดีกว่า" พ่อพูดตัดบทเพราะไม่อยากให้แวนเนสกับไจ่ไจ๋โดนเจอร์รี่ดุอีก แวนเนสได้ยินก็รีบลุกเข้าห้องน้ำทันที ส่วนไจ่ไจ๋ก็รีบพยักหน้ารับแล้วจูงมือพ่อออกจากห้องไปทันที ทิ้งให้เจอร์รี่ได้แต่ถอดถอนใจอยู่คนเดียว

- เวลาต่อมา -
"ไม่เล่นกันต่อแล้วหรอจ๊ะ?" แม่เอ่ยถามเมื่อเห็นเจอร์รี่กับเคนเดินขึ้นมาจากน้ำทะเลในขณะที่แวนเนส ไจ่ไจ๋และพ่อยังเล่นน้ำกันอยู่อย่างสนุกสนาน
"พี่ใหญ่น่ะสิแม่ ไม่ยอมให้ผมเล่นต่อ" เคนฟ้องแม่ด้วยสีหน้ามุ่ยๆก่อนที่จะรับผ้าขนหนูจากแม่ขึ้นมาเช็ดหัว
"ให้เล่นตั้งชั่วโมงแล้วยังจะมาบ่นอีกหรอ? ไป....เข้าบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว" พี่ใหญ่ต่อว่าน้องแล้วดึงมือน้องให้ไปอาบน้ำ
"ให้น้องเล่นต่ออีกหน่อยก็ได้นี่ลูก" แม่ช่วยพูดแทนเคน
"แม่ครับ น้องเล่นมาร่วมชั่วโมงต่อกันแล้วนะ แถมตอนนี้แดดก็แรงขึ้นแล้วด้วย" ได้ยินเหตุผลนั้นแม่ก็เริ่มคล้อยตามในขณะที่เคนยังทำหน้ามุ่ยแล้วมองไปทางพ่อกับพี่น้องอีกสองคนที่กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนานด้วยความเสียดาย
"ไว้ลูกหายดีแล้วค่อยมาใหม่อีกรอบก็ได้นี่จ๊ะ แต่ตอนนี้ดูแลสุขภาพตัวเองสำคัญที่สุดนะจ๊ะ" หันไปพูดกับเคนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"น่าเสียดาย อุตส่าห์มาทั้งที ได้เล่นแค่นี้" เคนยังบ่นพึมพำแต่ก็ถอนหายใจอย่างยอมรับในที่สุดเพราะตอนนี้เขาก็รู้สึกเหนื่อยๆเหมือนกัน
"เจอร์รี่ แล้วลูกก็ไม่เล่นต่อแล้วหรอ?" แม่ถามลูกชายคนโตบ้าง
"ไม่แล้วครับ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเท่าไหร่ ว่ายน้ำมากๆแล้วปวดแขนไปหมดเลย" พูดพลางทำหน้านิ่วไปด้วย
"ฮ่าๆๆๆ!!! ปวดเมื่อยเป็นคนแก่เลย ขนาดพ่อยังไม่เห็นเป็นอะไรเลยซักนิด" เคนได้ทีแซวพี่ชาย เจอร์รี่ยิ้มๆแล้วหยิกแก้มน้องอย่างหมั่นไส้
"ใช่สิ พี่ใหญ่แก่ขึ้นทุกวันเพราะต้องรบรากับเจ้าตัวยุ่งตั้งสามคนหนิ" แม่เองก็พลอยหัวเราะไปกับการหยอกล้อของลูกชายไปด้วย
"งั้นรีบไปอาบน้ำกันเถอะจ๊ะ ใส่เสื้อผ้าเปียกๆนานๆเดี๋ยวจะเป็นหวัด" แม่ตัดบทเมื่อเห็นว่าลูกชายไม่ไปกันซักที
"ครับแม่ ไปเร็วเสี้ยวเทียน" เจอร์รี่ตอบรับคำแม่แล้วโอบไหล่น้องเดินเข้าไปในบ้าน หลังจากนั้นซักพักพ่อ แวนเนสและไจ่ไจ๋ก็เดินกลับขึ้นมาพร้อมกับเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน
"แม่! เมื่อกี้แข่งกันว่ายน้ำ ผมชนะด้วยนะ" ไจ่ไจ๋พูดอวดแทบจะในทันที
"พ่อกับพี่น่ะอ่อนข้อให้นายต่างหาก ถ้าพี่ใส่เต็มสปีดได้ทิ้งนายห่างไปหลายช่วงตัวเลย" แวนเนสว่าพร้อมกับตบไหล่น้องชายอย่างหมั่นไส้
"แหม....ไม่ต้องทำเป็นพูดหรอก ผมรู้น่าว่าพี่รองไม่มีแรง" น้องเล็กหันไปย่นจมูกใส่
"ฮึ! งั้นไปแข่งกันอีกรอบเลยมั๊ยหละ?" แวนเนสว่าพลางบีบจมูกน้องชายไปด้วย
"ไม่เอา เหนื่อยแล้ว" น้องเล็กปฏิเสธหน้าตาเฉย ทำให้สมาชิกที่เหลือได้แต่หัวเราะ
"เดี๋ยวจะเล่นกันต่อหรือเปล่าเนี่ย?" แม่ถามเมื่อเห็นว่าทุกคนต่างเอาผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดหัวกันแล้ว
"ไม่แล้วหละแม่ สงสารเสี้ยวเทียนน่ะ โดนบังคับให้ขึ้นแบบนั้นคงไม่พอใจอยู่หรอก ขืนพวกเรายังเล่นกันต่อเดี๋ยวลูกจะงอน" พ่อตอบพลางหัวเราะเบาๆ
"นั่นสิ เมื่อกี้ก็เห็นลูกบ่นๆเหมือนกัน" แม่เองก็พูดยิ้มๆ
"พวกเราเลิกเล่นเพื่อพี่กลางโดยเฉพาะเลยนะเนี่ย" ไจ่ไจ๋พูดขึ้นอย่างเป็นบุญเป็นคุณนักหนา
"เอาน่า! ไว้วันหลังก็มาใหม่ได้" พ่อว่าพร้อมกับขยี้หัวลูกชายไปด้วย
"พ่อพูดแล้วนะครับ! ห้ามเบี้ยวด้วย ผมน่ะความจำแม่นนะจะบอกให้" ไจ่ไจ๋รีบแทรกขึ้นพร้อมกับย้ำคำสัญญาทันที
"เรื่องแบบนี้หละความจำแม่น ไอ้เวลาให้ท่องศัพท์ภาษาอังกฤษไม่เห็นแม่นแบบนี้บ้างเลย โอดครวญว่ายากมั่งหละ ยาวเกินไปมั่งหละ ปวดหัวมั่งหละ หูย! หมั่นไส้!" แวนเนสแขวะน้องเข้าให้ชุดใหญ่
"ทำไม? ก็นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมถนัดนี่ แต่อย่าดูถูกผมนะเพราะอย่างน้อยตอนนี้ให้ใครมาพูดภาษาอังกฤษด้วยผมก็โต้ตอบได้หมดนะครับพี่รอง" ไจ่ไจ๋เถียงข้างๆคูๆแต่ไม่วายพูดอวดตัวด้วย พ่อกับแม่เลยได้แต่หัวเราะกับลูกชายตัวแสบทั้งคู่ที่ไม่มีใครกินใครลงซักที
"เออ! ลองไม่ได้เรียนเป็นภาคภาษาอังกฤษสิได้ใบ้รับประทาน" แวนเนสว่าพลางเบ้ปากใส่น้อง
"ทำไม? ถึงพูดไม่ได้ผมก็ไม่ผิด ไม่ได้เป็นภาษาบ้านเกิดซักหน่อย อีกอย่างผมก็มีความเป็นชาตินิยมอยู่เหมือนกัน" ไจ่ไจ๋เถียงพี่ชายอีก
"เออดีหละ ชาตินิยมนักก็อย่าขับรถสิ พวกนั้นมันรถต่างชาติทั้งนั้น ต่อไปนายก็ขี่จักรยานที่ผลิตในประเทศไปเรียนแล้วกัน" พูดจบแวนเนสก็เอานิ้วจิ้มหน้าผากน้องชายแล้วออกแรงผลักแรงๆอย่างหมั่นไส้
"ไม่เอาน่าลูก ทะเลาะกันเป็นเด็กๆไปได้ เดี๋ยวพี่ใหญ่มาได้ยินจะโดนดุกันอีกนะ" คำขู่ของแม่ได้ผลเพราะลูกชายสองคนหันไปทำหน้าเมื่อยให้กัน
"แม่.....แม่ก็น่าจะปรามพี่ใหญ่บ้าง พวกเราก็โตๆแล้วรู้จักแยกแยะอยู่หรอกว่าอะไรถูกอะไรผิดไม่ต้องคอยตามคุมแจขนาดนี้ก็ได้ แม่รู้มั๊ย? ไม่ว่าพวกเราทำอะไรไม่เคยรอดพ้นสายตาของพี่ใหญ่ไปได้เลย ผมว่านะพี่ใหญ่น่าจะเปลี่ยนอาชีพไปเป็นนักสืบซะเลยนะ" แวนเนสบ่นพี่ชายให้แม่ฟัง
"ลูกก็พูดเกินไป ปกติแม่ก็เห็นพี่เขาออกจะใจดีกับพวกลูกนี่นา" แม่แย้งลูกชายอย่างนุ่มนวล
"ใจดีกับมันคนเดียวน่ะสิ" แวนเนสค้านพร้อมกับชี้ไปที่น้องเล็ก
"ช่วยไม่ได้ คนมันน่ารักอ่ะนะ" ไจ่ไจ๋ตอบรับหน้าตาเฉย
"น่าเตะหละสิไม่ว่า! มารยาเก่งไม่มีใครเกิน!" แวนเนสว่าพลางขยับเท้าแต่ก็โดนแม่ห้ามไว้ซะก่อน
"ไปทำน้องแบบนั้นได้ยังงัย? ไม่น่ารักเลยนะลูก" แวนเนสทำหน้ามุ่ยแล้วลุกขึ้นไปกอดแขนพ่อ
"ใช่! นั่นมันลูกแม่หนิ โอ๋เข้าไปเอาใจเข้าไป ไม่ยุ่งด้วยแล้ว ไปอาบน้ำกันดีกว่าครับพ่อ" พูดจบก็กอดเอวพ่อพาเดินเข้าไปอาบน้ำในบ้าน
"จริงๆเลยลูกคนนี้" แม่บ่นอุบพลางมองตามหลังแวนเนส
"แม่ครับ เข้าบ้านกันดีกว่า อย่าไปสนใจคนแก่ขี้น้อยใจเลย" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วประคองแม่ลุกขึ้นมาอย่างประจบประแจง
"เดี๋ยวเถอะ! ไปว่าพี่เขาแบบนั้นได้ยังงัยกัน?" แม่ดุลูกชายคนเล็กด้วย
"แหม.....พูดเล่นนิดเดียวเอง....." ไจ่ไจ๋ครางเบาๆแต่ก็เกาะแขนแม่แล้วพาเข้าบ้านตามไปติดๆ
"อ้าว! เลิกเล่นกันหมดเลยหรอ?" เจอร์รี่เอ่ยทักเมื่อเห็นพ่อและน้องๆเดินตามกันเข้ามา
"เลิกแล้วครับพี่ใหญ่แบบว่าสงสารคนบางคนแถวนี้เดี๋ยวจะอกแตกตายซะก่อน" น้องเล็กว่าพลางเหลือบมองไปทางเคน
"จะไปไหนก็รีบไปเลย! ปากดีนัก!" เคนขยับมือจะเขกหัวน้องแต่ก็ไม่ทันเพราะไจ่ไจ๋เผ่นพรวดเข้าห้องน้ำไปซะก่อน
"ไอ้เด็กบ้า!" เคนด่าตามไล่หลังแต่แล้วก็ได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ
"เฮ่อ! แสบจริงๆเด็กคนนี้" แม่เองก็ส่ายหน้ากับความสุดแสบของลูกชายคนเล็ก
"พ่อกับแวนเนสก็รีบไปอาบน้ำเถอะ" แม่หันมาบอกสามีและลูกชาย จากนั้นจึงไปนั่งรวมกับลูกชายอีกสองคนที่โซฟา
"เสี้ยวเทียน กินยาซะ" พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับส่งเม็ดยาให้น้อง เคนรับไปกินแล้วดื่มน้ำตามจากนั้นก็เงยหน้าพิงที่พนักโซฟาแล้วหลับตาลง
"รู้สึกไม่สบายหรือเปล่าลูก?" เห็นท่าทางของลูกชายแล้วแม่ก็อดถามอย่างเป็นห่วงไม่ได้
"ไม่หรอกครับ แค่เพลียนิดหน่อย" เคนตอบทั้งๆที่ยังหลับตา
"ตัวอุ่นๆนะลูก" แม่เอามืออังที่หน้าผากเคนแล้วพูดขึ้นมาเบาๆ ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็ขยับเข้ามาใกล้แล้วเอามืออังที่หน้าผากน้องชาย
"นั่นสิ ชั้นบอกแล้วว่าอย่าลงน้ำก็ไม่เชื่อ" บ่นน้องชายออกมาอีก
"ไม่เป็นไรหรอกน่า งีบซักหน่อยก็หายแล้ว" เคนพูดเป็นเชิงตัดบทเพราะกลัวจะโดนพี่ชายบ่นอีก
"นอนลงมาสิลูก หนุนตักแม่นี่มา" แม่บอกพร้อมกับค่อยๆจับตัวลูกชายเอนนอนลงมา ตอนแรกเคนตั้งท่าจะปฏิเสธแต่แล้วก็ยอมแต่โดยดี
"เจอร์รี่ไปนั่งตัวอื่นสิลูก น้องจะได้เหยียดขา" เงยหน้าขึ้นมาพูดกับลูกชายคนโตเบาๆ
"แหม....เอาใจกันใหญ่เลยนะ" บ่นพึมพำแต่ก็ขยับตัวลุกขึ้นแล้วจับขาน้องให้เหยียดได้เต็มที่ก่อนที่จะเปลี่ยนที่ไปนั่งโซฟาตัวใกล้ๆแม่
"เล่านิทานกล่อมด้วยสิครับแม่ เสี้ยวเทียนมันชอบฟังนิทานก่อนนอน" เจอร์รี่พูดยิ้มๆยังผลให้คนถูกพูดพาดพิงถึงลืมตาขึ้นมาค้อนใส่
"โดยเฉพาะนิทานของผมนะแม่น้องชอบรบเร้าให้เล่าให้ฟังเรื่อยเลย" ยังแหย่น้องต่ออีก
"โอ้ย! เงียบๆได้มั๊ย?" เคนร้องโวยวายขึ้น เจอร์รี่เลยหัวเราะชอบใจ
"เราก็ชอบแหย่น้องเหมือนกันแหละ! นั่งเงียบๆเลยเชียว" ดุลูกชายคนโตเบาๆแล้วเอามือลูบหัวเคนอย่างอ่อนโยน
"เดี๋ยวพี่ใหญ่พูดขึ้นมาอีกคำเดียวแม่จะไล่ไปไกลๆเลยดีมั๊ยจ๊ะ?" เคนเลื่อนมือมาจับมือแม่มากอดไว้กับอกแล้วพยักหน้ารับเป็นเชิงเห็นด้วย เจอร์รี่เบ้ปากเล็กน้อยอย่างหมั่นไส้
"แม่รักลูกนะเสี้ยวเทียน" แม่ก้มลงพูดกระซิบกับลูกชาย เคนยิ้มบางๆแล้วพยักหน้าเล็กน้อยทั้งที่ยังหลับตา
"พี่ใหญ่ก็รักนายเหมือนกันนะเสี้ยวเทียน" เจอร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงกระแนะกระแหน แม่เลยเอื้อมมือมาบีบปากคนพูดเบาๆโทษฐานที่พูดจาล้อเลียน เจอร์รี่หัวเราะแล้วขยับตัวลุกขึ้น
"ไม่กวนแล้วก็ได้ครับ อื้ม! ผมจะออกไปเดินเล่นข้างนอกหน่อย" บอกกล่าวไว้พร้อมกับหอมแก้มแม่ฟอดหนึ่ง
"จ๊ะ อย่าไปไกลนักนะ เดี๋ยวต้องกลับมาเก็บของเย็นๆจะได้กลับบ้าน" แม่รับคำพร้อมกับกำชับลูกชาย
"ครับ" รับปากแม่แล้วโน้มตัวลงไปจุ๊บเบาๆที่หน้าผากน้องชายก่อนที่จะเดินออกไปข้างนอก ผ่านไปพักหนึ่งพ่อก็เดินกลับลงมาพร้อมกับลูกชายสองคน
"หลับไปแล้วหรอ?" พ่อเดินเข้ามาดูลูกชายที่นอนหลับสนิทด้วยแววตาอบอุ่น
"ลูกตัวรุมๆน่ะ แม่กลัวจะไข้กลับอีก" แม่บอกพ่อเบาๆ
"จริงหรอ? งั้นพาไปหาหมอดีมั๊ย?" พ่อเลิกคิ้วแล้วพูดต่ออย่างเป็นห่วง
"ลูกขอนอนพักซักงีบน่ะ เดี๋ยวลูกตื่นแล้วค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน" แม่บอกปัดแต่มือยังลูบไล้ใบหน้าลูกชายอย่างอ่อนโยน
"พี่กลางเป็นไข้อีกแล้วหรอแม่?" ไจ่ไจ๋ยื่นหน้าเข้ามาถามบ้าง
"แค่ตัวอุ่นๆน่ะ ลูกอย่าเสียงดังนะให้พี่เขานอนพักก่อน" แม่ตอบพร้อมกับเตือนลูกชายคนเล็กไปด้วย
"ได้ครับ" ไจ่ไจ๋รับปากแล้วนั่งลงที่พื้นก่อนที่จะเอื้อมมือไปลูบแขนพี่ชายอย่างแผ่วเบา
"แล้วมันกินยาหรือยังแม่?" แวนเนสถามขึ้นมาบ้างพร้อมกับเดินเข้ามาดูน้องด้วยอีกคน
"กินแล้วจ๊ะ พี่ใหญ่เขาเป็นคนให้กินเอง" แม่เงยหน้าขึ้นมาตอบก่อนที่จะเลื่อนสายตาลงมองเคนอีกครั้ง
"แล้วพี่ใหญ่ไปไหนครับ?" ไจ่ไจ๋ถามหาพี่ใหญ่บ้าง
"เห็นบอกจะออกไปเดินเล่นข้างนอกน่ะ" แม่ตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้บางๆ
"แหม....ไม่ชวนเลยนะ งั้นเราตามออกไปดีมั๊ยพี่รอง?" ไจ่ไจ๋หันไปชวนพี่ชาย
"ไปสิ ผมไปหาพี่ใหญ่นะพ่อแม่" แวนเนสหันมาบอกบุพการี ซึ่งพ่อกับแม่ก็พยักหน้ารับรู้ ดังนั้นแวนเนสจึงฉุดแขนน้องชายให้ลุกขึ้นแล้วชวนกันออกไปหาพี่ชายคนโต
"ลูกเหงื่อออกน่ะแม่" พ่อเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเคนมีเหงื่อซึมออกมาบนใบหน้า
"สงสัยยาออกฤทธิ์ พ่อหาผ้าขนหนูมาซับเหงื่อให้ลูกที" แม่ว่าพร้อมกับไหว้วานให้พ่อช่วย พ่อเองก็รีบกุลีกุจอไปหยิบผ้าขนหนูมาซับเหงื่อให้ลูกชายอย่างอ่อนโยน
"สงสัยตื่นมาก็วิ่งปร๋อได้แล้ว" แม่พูดกับพ่อยิ้มๆ
"เป็นแบบนั้นก็ดีสิ" พ่อว่าแล้วนั่งมองลูกชายพลางยิ้มไม่หุบ
"เป็นอะไรน่ะพ่อ? จ้องลูกใหญ่เลย" แม่เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าพ่อเอาแต่จ้องหน้าเคน
"เปล่าหรอก เพียงแต่มองหน้าลูกแล้วพ่อรู้สึกเหมือนกำลังส่องกระจกดูตัวเองตอนหนุ่มๆเลย แม่ว่ามั๊ย? ว่าเสี้ยวเทียนน่ะมีหน้าตาเหมือนพ่อเปี๊ยบเลย" แม่หัวเราะเบาๆเมื่อได้ยินแต่ก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
"เจ้าแวนเนสก็เหมือนแม่มากๆ ส่วนเจ้าคนโตกับคนเล็กของเราก็ได้จากเราสองคนไปคนละครึ่ง ครอบครัวเราลงตัวดีจังเลยเนอะแม่" พ่อพูดต่ออย่างมีความสุข แม่ยิ้มแล้วพยักหน้าอีกครั้ง ก่อนที่จะเปลี่ยนสายตามาทางลูกชายที่เริ่มขยับตัว
"นอนต่ออีกหน่อยสิลูก" แม่ก้มลงพูดกับลูกชายเบาๆ
"ผมร้อนจัง" เคนว่า เมื่อเป็นเช่นนั้นพ่อก็รีบคว้ากระดาษที่อยู่ใกล้มือมาพัดให้เคนทันที
"ขอบคุณครับพ่อ" เคนพึมพำพลางหลับตาลงอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่อบอุ่นและปลอดภัย

- บริเวณชายหาด -
"พี่ใหญ่!! ออกมาไม่เรียกกันเลยนะ!!" ไจ่ไจ๋ร้องเรียกมาแต่ไกลพอวิ่งเข้ามาใกล้ก็อดที่จะบ่นพี่ชายไม่ได้
"เฮ่อ! กะว่าจะเดินเหล่สาวๆให้มีความสุขซักหน่อยดันมีมารมาผจญซะได้" พี่ใหญ่แกล้งทำเป็นบ่น
"โอโห! พี่รองครับ ได้ยินหรือเปล่าว่าพี่ใหญ่พูดว่าอะไร?" ไจ่ไจ๋ทำตาโตด้วยความตื่นเต้น
"ได้ยินสิวะ แบบนี้กลับบ้านไปคงต้องปิดหมู่บ้านเลี้ยงซะละมั้ง? พี่ใหญ่คิดจะเหล่สาว!!" แวนเนสร่วมผสมโรงกับน้องอย่างสนุกปาก
"นี่ๆๆๆ!!! พี่พูดเล่นเท่านั้นแหละ เอากันเชียวนะ" พี่ใหญ่เลยต้องเป็นฝ่ายปรามน้องๆซะเอง
"ฮ่าๆๆๆ!!!" สองพี่น้องประสานเสียงหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน
"ไจ่ไจ๋! แล้วออกมานี่ทำไมไม่ใส่รองเท้า?" ถามเสียงดุเล็กน้อยเมื่อเห็นน้องเล็กเดินเท้าเปล่าออกมา
"แหม....ใส่ออกมาเดี๋ยวรองเท้าก็เลอะทรายอยู่ดี ผมก็เลยไม่ใส่ รองเท้าจะได้ไม่เลอะ" น้องเล็กตอบพร้อมกับยิ้มหวานจ๋อย
"เดี๋ยวเหยียบอะไรขึ้นมาจะว่ายังงัย? กลับไปใส่รองเท้าเดี๋ยวนี้เลย!" เจอร์รี่ทำหน้าเข้มแล้วสั่งน้องชายด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"พี่เตือนแล้วไม่เชื่อ" แวนเนสกระซิบตอกย้ำน้องชาย
"โธ่! ไม่เหยียบอะไรหรอกครับ มีแต่ทรายนิ่มๆ" น้องเล็กทำเสียงอ่อยๆ
"ดื้ออีกแล้วนะ พูดอะไรไม่เชื่อไม่ฟัง เดี๋ยวเป็นอะไรขึ้นมาพี่จะตีซ้ำ" น้องเล็กทำเป็นเมินไปทางอื่นเพื่อเบนความสนใจพี่ชาย
"เปลือกหอยนี่สวยดีเนอะ เก็บไว้เป็นที่ระลึกหน่อยดีกว่า" ว่าแล้วน้องเล็กก็นั่งยองๆจะเก็บ แวนเนสมองไปทางพี่ชายพลางหัวเราะอย่างจนใจกับความรั้นของน้องเล็กซึ่งเจอร์รี่เองก็ขี้เกียจจะพูดจะเตือนอีกแล้ว
"อย่าเก็บไปเลยไจ่ไจ๋ ปล่อยมันไว้แบบนี้แหละ ระบบนิเวศจะได้ไม่เสีย" แวนเนสนั่งยองๆลงข้างน้องพร้อมกับเอ่ยปากบอก
"แค่ไม่กี่อันเอง ไม่เป็นไรหรอก" ไจ่ไจ๋แย้งแล้วหยิบเปลือกหอยขึ้นมาส่องดู
"ถ้าทุกคนคิดแบบนายหมด ซักวันนึงเปลือกหอยบนหาดทรายก็คงไม่มีให้เห็นอีกแล้วหละ" น้องเล็กได้ยินก็หันมามองหน้าพี่ชาย
"หยิบคนละไม่กี่อันก็จริง แต่หลายคนเข้ามันก็เยอะอยู่นะ" ได้ยินดังนั้นไจ่ไจ๋ก็วางเปลือกหอยลงที่เดิมอย่างพอเข้าใจเหตุผล
"น่ารักมาก" แวนเนสยิ้มแล้วขยี้หัวน้องชายอย่างเอ็นดู ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนแล้วขยับมาใกล้พี่ชาย
"ชั้นว่านะไจ่ไจ๋น่ะมันไม่ได้ดื้อด้านอะไรเลย ถ้านายรู้จักใช้น้ำเสียงให้มันนุ่มลงกว่านี้ซักหน่อยทำให้น้องไม่รู้สึกเหมือนโดนด่าหรือโดนบังคับ บางทีน้องมันอาจจะเชื่อฟังนายก็ได้นะ" แวนเนสพูดอย่างผู้เชี่ยวชาญ เจอร์รี่เหล่มองน้องชาย
"ไม่ต้องมาสอน! ชั้นรู้หรอกว่าเวลาไหนควรแข็งเวลาไหนควรอ่อนกับน้องน่ะ!" ว่าพลางเอานิ้วจิ้มหน้าผากน้องอย่างหมั่นไส้ แวนเนสเบ้ปากใส่พี่ชายก่อนที่จะเดินไปกอดคอน้องชาย
"ไปกันดีกว่าว่ะไจ่ไจ๋ เบื่อคนแก่ขี้บ่นแถวนี้จริงๆ" ชวนพร้อมกับโอบไหล่น้องเอาไว้
"ว่าชั้นแก่หรอ?" เจอร์รี่รีบเดินเทียบเคียงขึ้นมาข้างๆแล้วย้อนถามอย่างหาเรื่อง
"ชั้นว่าตอนไหน?" แวนเนสทำหน้าเหรอ
"ตอนไหนหรอ?" ดึงหูน้องอย่างหมั่นไส้
"หูย! นายอ่ะทำชั้นเจ็บๆเรื่อยเลย" แวนเนสบ่นอุบแต่ก็ไม่กล้าว่าอะไรมากมาย
"ไปเลย กลับเข้าบ้านไปได้แล้ว ป่านนี้เสี้ยวเทียนตื่นแล้วหละมั้ง?" มองค้อนน้องแล้วชี้นิ้วให้น้องกลับเข้าบ้าน
"วิ่งแข่งกันมั๊ยไจ่ไจ๋?" แวนเนสหันมาถาม
"เอาสิครับ" น้องเล็กตอบรับแล้วเหล่มองไปทางพี่ใหญ่
"พี่ใหญ่วิ่งแข่งกันมั๊ย?" ถามพี่ชายคนโตบ้าง
"จะวิ่งทำไม? เดินดีๆไม่เป็นกันหรอ?" ย้อนถามน้องชายกลับเสียงห้วนๆ
"แหม.....อยู่บ้านนายก็ไม่ให้วิ่ง ตอนนี่ที่ออกจะกว้างยังจะ....." เมื่อเห็นน้องตั้งท่าจะบ่นพี่ใหญ่เลยรีบพูดแทรกขึ้นมาก่อน
"ชั้นยังไม่ได้ห้ามพวกนายซักคำเลยนะ อยากจะทำอะไรก็ทำไปสิ" ได้ยินดังนั้นพี่น้องสองคนก็หันไปอมยิ้มให้กัน
"งั้นเรามาวิ่งแข่งกัน" ไจ่ไจ๋ชวนพี่ชายทั้งคู่อย่างอารมณ์ดี
"นายไปกันสองคนเถอะ พี่ขอเดินเรื่อยๆดีกว่า" พี่ใหญ่ปฏิเสธแล้วถอดรองเท้าเตะไปให้น้องเล็ก
"ใส่เข้าไปด้วย วิ่งไม่ดูเดี๋ยวจะไปเหยียบอะไรเข้า" พูดด้วยน้ำเสียงติดห้วนเล็กน้อย ไจ่ไจ๋แอบอมยิ้มแต่ก็ใส่รองเท้าของพี่ชาย
"ขอบคุณนะครับ ผมให้พี่ใหญ่ทายไว้ก่อนว่าผมหรือพี่รองจะชนะ?" ไจ่ไจ๋ให้พี่ชายเดา
"คงไม่ต้องคิดอะไรมากหรอกนะ ชั้นน่ะเข้าฟิตเนททีวิ่งนานเป็นชั่วโมงยังไม่ค่อยจะกระเทือนอะไรเลย" แวนเนสพูดเกทัพน้องขึ้นมาทันที เจอร์รี่ได้ยินก็อมยิ้มแล้วพยักหน้าเล็กน้อย
"ก็แค่ในฟิตเนท แต่บนหาดทรายเนี่ยผมอาจจะวิ่งได้ดีกว่าพี่รองก็ได้" ไจ่ไจ๋เถียง
"น่าเชื่อหละ" แวนเนสทำเสียงล้อๆ ไจ่ไจ๋ชักสีหน้าใส่แล้วหันไปทางพี่ใหญ่อีกครั้ง
"ตกลงพี่ว่าพี่รองถึงก่อนผมหรอ?" ถามด้วยสีหน้าบังคับขู่เข็ญเล็กน้อย
"เอ่อ....พี่ว่านาย....." พี่ใหญ่ตอบเอาใจน้อง ได้ยินเช่นนั้นไจ่ไจ๋ก็มีสีหน้าดีขึ้นแล้วหันไปยักคิ้วให้แวนเนส
"นายน่าจะถึงทีหลังพี่เขาน่ะ" เจอร์รี่กระซิบบอกก่อนที่จะเดินเลี่ยงไปพลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดีที่ได้แหย่น้อง เลยโดนไจ่ไจ๋ค้อนใส่เสียหลายตลบแต่แล้วไจ่ไจ๋ก็กลับยิ้มออกมา
"ผมอาจจะแพ้พี่รองก็จริง แต่ถ้าพี่ใหญ่แข่งด้วยผมอาจจะเป็นที่สองนะ" เจอร์รี่ได้ยินก็เบ้ปากใส่น้อง
"ดีไม่ดีอาจจะต้องกลับมาหิ้วปีกพี่กลับบ้านก็ได้" ได้ยินน้องพูดแบบนั้นแวนเนสก็พลอยหัวเราะไปด้วย
"เพราะคนแก่มันเหนื่อยเร็วใช่มั๊ย?" ต่อแทนน้องให้อย่างเสร็จสรรพ พี่ใหญ่เหล่มองน้องทั้งคู่แล้วเตะทรายที่พื้นใส่น้องๆ ไจ่ไจ๋เห็นก็รีบดึงมือแวนเนสออกวิ่งทันที
"วิ่งเร็วพี่รอง!! อยู่ไม่ได้แล้ว!!" จากนั้นสองพี่น้องก็วิ่งลิ่วๆตามกันไปติดๆ
"นึกว่าจะหนีพ้นกันหรืองัย!?" เจอร์รี่ตะโกนไล่หลังน้องแล้ววิ่งตามไปได้ระยะหนึ่ง แวนเนสกับไจ่ไจ๋ได้ยินก็วิ่งใส่กันเต็มที่โดยไม่ยอมหันหลังมามองเพราะคิดว่าพี่ใหญ่วิ่งตามพวกเขามาต่อ แต่เจอร์รี่ไม่ได้ตามต่อเพียงแต่ยืนมองพลางส่ายหัวให้กับความไม่รู้จักโตของน้องๆ




 

Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2550 22:24:54 น.
Counter : 1091 Pageviews.  

Chapter 20

ตอนที่ 20
"กลับมาแล้วครับ!!" เคนแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงน้องชายร้องทัก เขาเลื่อนสายตาไปมองที่นาฬิกาที่เดินบอกว่าเวลายังไม่ทันจะเที่ยงเลยด้วยซ้ำ
"ทำไมกลับเร็วนักหละ? ทำรายงานเสร็จแล้วหรอ?" ถามน้องชายออกไปอย่างงุนงงเพราะน้องบอกว่าต้องออกไปทำรายงานกับเพื่อนๆให้เสร็จเพราะอาจารย์เร่งส่งเร็วขึ้น
"ผมรีบทำงานส่วนของผมเสร็จก็รีบบึ่งรถกลับมาเลยแหละ บอกเพื่อนว่ามีธุระที่บ้าน" น้องเล็กตอบอย่างอารมณ์ดี
"ต้องรีบมาจัดเสื้อผ้า จะได้ไปเที่ยวทะเล" คำพูดประโยคถัดมาก็ทำให้เคนได้รับคำตอบทั้งหมด เขายิ้มน้อยๆกับท่าทางตื่นเต้นดีใจเหมือนเด็กๆของไจ่ไจ๋
"ไปแค่คืนเดียวนายจะต้องจัดอะไรนักหนา แล้วอีกอย่างยังไม่มีใครเลิกงานกลับมาเลยซักคน" น้องเล็กได้ยินก็ย่นจมูก
"เดี๋ยวก็กลับมาหรอก ผมโทรตามหมดแล้ว" เคนหัวเราะเมื่อได้ยินดังนั้น
"พี่ว่าครั้งนี้คนที่อยากเที่ยวที่สุดไม่ใช่พี่ซะละมั้ง?" ไจ่ไจ๋ยิ้มแล้วนั่งลงข้างพี่ชาย
"ผมรู้ว่าพี่ก็อยากเที่ยวแต่ทำเป็นเก็บอาการไว้หรอก" ไจ่ไจ๋พูดแซวพี่ชาย เคนเลยผลักหัวเข้าให้เบาๆ
"แล้วเจ้าพีพีกับถางถางไปไหนซะหละ?" ถามหาแมวน้อยทั้งสองตัวเมื่อไม่เห็นมันมาป้วนเปี้ยนเช่นทุกครั้ง
"พี่เอาไปฝากไว้ที่คลีนิกแล้วหละ" เคนตอบน้องชายยิ้มๆ
"น่าจะเอาพวกมันไปด้วยเนอะ" พูดพึมพำเบาๆ
"ได้โดนพี่ใหญ่สวดยับเลยน่ะสิ" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็หัวเราะขำๆ
"ตกลงพ่อแม่จองห้องพักที่ไหนเนี่ย? เมื่อกี้ก็ลืมถาม" น้องเล็กเปลี่ยนมาคุยเรื่องอื่น เคนเงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะมองหน้าน้องชาย
"พี่บอกพ่อแม่เองว่าไม่ต้องจองห้องพักที่ไหน" น้องเล็กได้ยินก็ทำหน้างงๆ
"พี่อยากไปพักบ้านอาเจียง" คำพูดประโยคต่อมาทำเอาน้องเล็กอึ้งไป
"จะได้ไม่เปลืองเงินด้วยงัย แถมน้ำทะเลแถวนั้นก็สะอาดอีกต่างหาก คนก็ไม่ค่อยมี เราจะได้เที่ยวแบบเป็นส่วนตัว" เคนอธิบายให้น้องฟัง แต่น้องเล็กก็รู้ว่าพี่ชายมีอะไรมากกว่านั้น
"หรอครับ" ไจ่ไจ๋เพียงแต่ตอบรับสั้นๆ
"พี่รองมันมันกลัวจะมีแฟนๆตามไปด้วย พี่ก็เลยคิดว่าถ้าเป็นที่ส่วนบุคคลจะสะดวกกว่า อีกอย่างพ่อแม่พี่ใหญ่พี่รองก็เห็นดีด้วยนะ" เคนพูดเสริมแต่ไจ่ไจ๋คิดว่าถึงแม้จะไม่เห็นด้วยก็คงไม่มีใครกล้าขัดใจเคนเป็นแน่
"ก็ดีเหมือนกันครับ" ไจ่ไจ๋เองก็ไม่กล้าขัดแม้จะรู้สึกแปลกๆไปบ้างก็ตาม
"เมื่อเช้าพี่ออกไปซื้อเสบียงตุนไว้ให้นายเพียบเลย ไปดูในครัวสิว่าพอหรือเปล่า?" เคนบอกพร้อมกับชวนน้องไปดูข้าวของที่เขาซื้อไว้
"แหม....พี่กลางเนี่ยน่ารักที่สุดเลย รู้ใจผมไปซะทุกอย่าง" เมื่อเห็นขนมนมเนยของโปรดแล้วไจ่ไจ๋ก็ปากหวานขึ้นมาทันที
"พี่มีน้องคนเดียวไม่รู้ใจนายแล้วจะไปรู้ใจใครได้หละ?" เคนขยี้หัวน้องอย่างเอ็นดู
"เดี๋ยวพี่อยากให้นายช่วยซักหน่อย" เคนพูดต่อเมื่อเห็นว่าสบโอกาสใช้น้อง
"ช่วยอะไรครับ?" ไจ่ไจ๋ย้อนถามแล้วเดินตามพี่ชายที่เดินไปเปิดตู้เย็น
"ช่วยพี่เสียบไม้บาร์บีคิวหน่อย จะเอาไปปิ้งกินกันคืนนี้" เคนตอบแล้วหยิบเนื้อหมูเนื้อไก่ออกมาส่งให้น้องชาย
"โห! พี่กลางเตรียมเองเลยหรอ?" น้องเล็กว่าพลางรับของมาวางที่โต๊ะ
"อืม....กะว่าไปถึงก็ปิ้งกินกันได้เลยงัย ไม่ต้องเสียเวลาไปหาซื้อที่ไหนอีกด้วย" พูดจบก็เอาส่วนประกอบของบาร์บีคิวมาจัดวางไว้บนโต๊ะ
"เสียบยังงัยก็ได้ให้เครื่องมันครบทุกอย่าง แล้วก็ใส่เนื้อเข้าไปหลายชิ้นหน่อยก็ได้เพราะพี่เตรียมไว้เยอะ" เคนบอกแล้วทำเป็นตัวอย่างให้น้องดู น้องเล็กดูแล้วพยักหน้าก่อนจะทำตามที่พี่ชายบอก
"นอกจากบาร์บีคิวแล้วยังมีอะไรอีกหรือเปล่าครับ?" ไจไจ๋ถามหาของกินอย่างอื่นด้วย
"ก็คงจะมีทำพวกอาหารทะเลกันหละมั้ง? แต่พวกนั้นค่อยไปหาซื้อที่นู้นเพราะจะได้ราคาที่ถูกกว่า" เคนตอบน้องยิ้มๆ
"แต่พี่มีทำน้ำจิ้มไปแล้วนะ รับรองรสชาดเด็ดเลย" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็หัวเราะแล้วพยักหน้า
"ผมเชื่อครับว่าฝีมือพี่กลางเด็ดขาดที่สุดแล้ว!" เคนได้ยินน้องชมก็ยิ้มหน้าบาน จากนั้นสองพี่น้องก็ช่วยกันเสียบไม้บาร์บีคิวกันจนเสร็จ
"เอาหละ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทีนี้นายก็ขึ้นไปจัดกระเป๋าได้แล้วหละ" เคนพูดขึ้นพร้อมกับเก็บอุปกรณ์ทั้งหมดไปล้างแล้วไล่ให้น้องขึ้นไปจัดกระเป๋า ไจ่ไจ๋พยักหน้าแล้ววิ่งขึ้นห้องไปอย่างอารมณ์ดี
"ทำอะไรอยู่น่ะ" ผ่านไปครู่หนึ่งเสียงพี่ใหญ่ก็ร้องทักขึ้นมา เคนเอี้ยวตัวหันมามองต้นเสียงแล้วส่งยิ้มให้
"ล้างจาน" ตอบพี่ชายแล้วหันหน้ากลับไปจัดการงานตรงหน้าต่อ
"ไจ่ไจ๋กลับมาแล้วสิ" เดินเข้ามาแล้วชวนน้องคุย
"อืม ขึ้นไปจัดกระเป๋าอยู่ข้างบน" เคนตอบคำถามนั้นแล้วคว่ำกะละมังใบสุดท้ายก่อนที่จะหยิบผ้ามาเช็ดมือ
"พ่อแม่กลับมาด้วยหรือเปล่า?" ย้อนถามพี่ชายกลับไปบ้าง
"พ่อแม่เลยไปรับแวนเนส ชั้นกลับมาก่อน" เจอร์รี่ตอบแล้วลากเก้าอี้ที่สอดอยู่ใต้โต๊ะกินข้าวออกมานั่ง
"ไม่ขึ้นไปจัดกระเป๋าหรอ? เดี๋ยวไจ่ไจ๋ก็บ่นแย่หรอก" เคนท้วงติงพี่ชายแล้วหันหน้ากลับมาทางคู่สนทนาโดยใช้หลังพิงอยู่กับเคาเตอร์เตรียมอาหาร
"ไม่บ่นหรอกเพราะชั้นรู้ว่าเดี๋ยวมันก็คงจัดการให้เสร็จสรรพ" เจอร์รี่ตอบยิ้มๆแล้วมองหน้าน้องชาย
"หน้าชั้นมีอะไรหรอ?" เคนถามขึ้นมาแก้เก้อเมื่อเห็นพี่ชายจ้องหน้า
"เปล่าหรอก ชั้นอยากจะถามอะไรนายซักอย่างน่ะ" พี่ใหญ่ปฏิเสธแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน
"อะไรหรอ?" เคนย้อนถามทั้งที่พอจะรู้แล้วว่าพี่ชายจะถามเรื่องอะไร
"ทำไมถึงอยากไปพักที่บ้านอาเจียง?" เคนผลุบสายตาลงมองพื้น
"พ่อแม่ไม่สบายใจใช่มั๊ย?" เคนย้อนถามพี่ชายกลับ พี่ใหญ่ไม่ตอบแต่ถอนใจออกมาเบาๆ
"ชั้นแค่อยากจะไป.....ไปอยู่ที่นั่นเป็นครั้งสุดท้าย....." พี่ใหญ่ได้ยินก็มีท่าทีแปลกใจ
"นายหมายความว่ายังงัย?" ย้อนถามน้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ชั้นคิดจะขายบ้านหลังนั้น" เคนบอกพี่ชายตรงๆ เจอร์รี่ได้ยินก็อึ้งไปก่อนที่จะลุกแล้วเดินเข้าไปหาน้อง
"ทำไมหละเสี้ยวเทียน?" เคนเหลือบตาขึ้นมามองพี่ชาย
"เพราะชั้นคิดว่าชั้นควรจะทำอะไรให้อาเจียงบ้าง" เจอร์รี่ยังคงมองน้องอย่างไม่เข้าใจ
"ชั้นจะขายบ้านหลังนั้นแล้วเอาเงินที่ได้ทั้งหมดยกให้มูลนิธิสำหรับเด็ก แบบนั้นคงมีประโยชน์มากกว่าปล่อยทิ้งไว้เฉยๆและอาเจียงคงได้บุญด้วย" พี่ใหญ่ได้ยินเหตุผลของน้องแล้วก็รู้สึกภูมิใจในตัวน้องชายคนนี้ยิ่งนัก
"อาเจียงเป็นคนรักเด็ก ถ้าชั้นทำแบบนี้คิดว่าอาเจียงต้องเห็นด้วยแน่ๆ" เคนเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายอย่างขอความเห็นซึ่งพี่ใหญ่ก็พยักหน้า
"แต่นายไม่เสียดายหรอ? ที่นั่นมันเป็นความทรงจำของนายนะ" แม้จะเห็นด้วยแต่เจอร์รี่ก็ยังห่วงความรู้สึกของน้อง
"ความทรงจำของชั้นมันอยู่ในหัวหมดแล้ว ตอนนี้บ้านนั้นก็เป็นแค่บ้านหลังนึงเท่านั้นเอง" เคนว่าแต่มีน้ำตาคลอๆ
"เวลาชั้นคิดถึงอาเจียงชั้นก็ยังไปเยี่ยมเขาได้นี่นา เพราะชั้นรู้ว่าอาเจียงพักอยู่ที่ไหน?" เจอร์รี่รั้งร่างน้องชายเข้ามากอด
"เสี้ยวเทียน พี่ใหญ่ภูมิใจในตัวนายที่สุดเลย" เคนซุกหน้าลงที่ไหล่ของพี่ชายปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ

- ที่บ้านอาเจียง -
"เย้!!! มาถึงซักที!!" ไจ่ไจ๋ร้องขึ้นมาอย่างดีใจพร้อมกับรีบกระโดดลงจากรถ
"อากาศดีจัง! เย็นสบายด้วย!" ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาสูดอากาศเข้าไปเต็มปอด บรรดาสมาชิกที่เหลืออดที่จะยิ้มกับท่าทางของเจ้าน้องเล็กไม่ได้
"ไจ่ไจ๋! มาขนของ! อย่าทำเป็นดีใจแล้วเนียน!" เคนร้องบอกน้องอย่างรู้ทัน น้องเล็กหันมายิ้มแหยๆแล้ววิ่งกลับมาที่รถช่วยหยิบข้าวของลงไป
"คืนนี้เราจะตั้งเตาบาร์บีคิวกันตรงไหนดีหละ? แล้วเมื่อไหร่จะออกไปซื้ออาหารทะเล?" ไจ่ไจ๋ถามไถ่อย่างร่าเริง
"เรื่องซื้ออาหารปล่อยให้คนรู้เรื่องทำเถอะ ส่วนนายอยู่เฉยๆเดี๋ยวก็ได้กิน" พี่ใหญ่พูดกับน้องเล็กอย่างเอ็นดู
"ก็ผมหิวแล้วหนิ นี่ก็เย็นแล้วน้า....." ไจ่ไจ๋แย้งขึ้น
"งั้น ให้พ่อแม่กับเสี้ยวเทียนไปซื้ออาหารทะเลก็แล้วกัน ส่วนพวกเราจะเตรียมอุปกรณ์ กลับมาปุ๊บจะได้ทำกินกันเลย" แวนเนสเสนอ
"ดีๆๆๆ ไปกันเลยนะครับ ไป! พี่กลางขึ้นรถ" น้องเล็กเห็นด้วยแล้วรีบดันให้เคนกลับไปที่รถอีกรอบ
"อะไรวะ? ก่อนออกมานายก็ยัดเข้าไปตั้งหลายอย่าง หิวอีกแล้ว" เคนบ่นอุบแต่ก็เดินไปตามแรงดันของน้องชาย
"โอเคๆๆๆ งั้นพวกลูกสามคนเตรียมฟืนไฟเตาถ่านไว้แล้วกัน พ่อแม่จะรีบไปรีบกลับ" พูดจบพ่อกับแม่ก็เดินกลับไปขึ้นรถแล้วขับออกไป
"คราวนี้เสี้ยวเทียนคงได้เปิดใจคุยกับพ่อแม่แล้วหละ" หลังจากรถเคลื่อนออกไปแล้วพี่ใหญ่ก็เอ่ยขึ้น
"เรื่องขายบ้านนี้ใช่มั๊ย?" แวนเนสถามต่อ
"พี่กลางนึกยังงัยจะขายแถมได้เงินมาจะให้เอาไปทำบุญหมดเลยด้วย เป็นผมนะแบ่งไว้หน่อยก็คงดี" น้องเล็กพูดต่ออย่างไม่เข้าใจพี่ชายนัก
"พี่กลางมีเหตุผลของเขา ไม่รู้สินะ แต่พอได้มาบ้านนี้พร้อมกับพี่กลางทีไรพี่เห็นเขาดูเศร้าๆทุกที" พี่ใหญ่เปรยขึ้นเบาๆ
"ก็บ้านนี้ให้ทั้งความสุขและก็ความทุกข์กับมันนี่นา เป็นธรรมดาแหละ ขายไปก็ดีเหมือนกัน น้องจะได้เลิกคิดถึงแต่อดีตซักที" แวนเนสให้ความเห็น ไจ่ไจ๋มองพี่ชายทั้งคู่และก็เงียบไป
"เอาเถอะ! เราอย่าคิดมากเลย แค่ได้มาเที่ยวด้วยกันก็นับว่าเป็นความสุขของครอบครัวเราแล้ว" เมื่อเห็นน้องๆดูหงอยๆลงพี่ใหญ่ก็พูดตัดบทแล้วนำน้องๆเอาข้าวของเข้าไปเก็บ จากนั้นทั้งสามคนก็ช่วยกันยกเตาและอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบอาหารออกมาตั้งริมชายหาดโดยไม่ห่างจากบ้านนัก
"บาร์บีคิวเนี่ยผมช่วยพี่กลางเสียบไม้มากับมือเลยนะ" ไจ่ไจ๋พูดอวดในระหว่างจัดวางบาร์บีคิวลงถาด
"พี่ว่าต้องเค็มแหงๆ" แวนเนสได้ทีแซวน้อง
"อะไร? ผมล้างมือสะอาดแล้วนะ" น้องเล็กเถียงแต่แล้วกลับอมยิ้มขึ้นมา
"เออ! เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้ล้างนี่นา ออกมาจากห้องน้ำปุ๊บก็หยิบหมูขึ้นมาเสียบไม้เลย" แวนเนสได้ฟังก็เบ้ปาก
"งั้นนายก็กินเองคนเดียวเลยนะ" น้องเล็กหัวเราะอย่างอารมณ์ดีที่แกล้งพี่ชายได้สำเร็จ
"ไปเชื่อมัน ขืนมันทำแบบนั้นจริงเสี้ยวเทียนตีมันมือหักไปแล้ว" พี่ใหญ่เอ่ยขึ้นพลางส่ายหน้าไปมา
"เล่นน้ำได้มั๊ยพี่ใหญ่? พ่อแม่กับพี่กลางยังไม่กลับมาเลย" น้องเล็กหันไปถามพี่ชาย
"อืม....ตามใจสิ แวนเนส นายจะลงน้ำกับน้องด้วยหรือเปล่า?" พี่ใหญ่พยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตแล้วหันไปหาแวนเนสด้วย
"จะดำมั๊ยอ่ะ?" แวนเนสสองจิตสองใจอยากเล่นก็อยากแต่ก็กลัวดำ
"พี่รองนี่น่าหมั่นไส้! ถ้ากลัวนักก็ไม่ต้องเล่น!" ไจ่ไจ๋แหวใส่ด้วยระอากับความสำอางค์ของพี่ชาย
"ถ้าพี่ไม่ต้องทำงานอยู่หน้ากล้องก็ไม่กลัวหรอกโว้ย!" แวนเนสเถียงแต่แล้วก็ลุกขึ้น
"เล่นก็ได้ ไป.....ไปเปลี่ยนชุดกัน" ว่าแล้วสองพี่น้องก็พากันเข้าไปเปลี่ยนชุดแล้วลงมาเล่นน้ำกันโดยมีพี่ใหญ่นั่งดูน้องเล่นอยู่บนชายหาด ผ่านไปได้ซักครู่ใหญ่ๆพ่อแม่และเคนก็กลับมาพร้อมกับอาหารทะเลมากมาย
"โหย! ไปเล่นน้ำกันไม่รอเลยนะ!" เมื่อเคนเห็นแวนเนสกับไจ่ไจ๋กำลังเล่นน้ำกันอยู่ในทะเลก็โวยวายขึ้นมาทันที
"ถึงมันรอแล้วนายลงได้หรืองัยหืม?" พี่ใหญ่เดินเข้าไปกอดคอน้องพร้อมกับเอ่ยถาม เขาสังเกตดูสีหน้าของน้องชายก็ค่อยโล่งใจที่น้องไม่มีแววโศกเศร้าให้เห็น
"ทำไมถึงลงไม่ได้หละ?" เคนย้อนถามอย่างแปลกใจ
"เราน่ะเพิ่งหายป่วยใช่มั๊ย?" ได้ยินคำพี่ชายเคนก็ทำหน้ามุ่ย
"แต่เมื่อกี้พ่อกับแม่สัญญาว่าจะให้ชั้นเล่นน้ำได้นะ" เคนเอาพ่อกับแม่ขึ้นมาอ้าง ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็หันไปทางบุพการี
"เราพูดอะไรพ่อแม่กล้าขัดใจที่ไหนกัน? พี่ใหญ่ไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำ" ก่อนที่จะหันกลับมาพูดกับน้องด้วยน้ำเสียงดุๆ
"โธ่....พี่ใหญ่ครับ.....ชั้นขอเล่นแป๊บเดียว มาทั้งทีไม่ให้เล่นจริงๆหรอ?" เคนอ้อนพี่ชายหน้าละห้อย
"แล้วเดี๋ยวไข้กลับจะทำยังงัย?" ย้อนถามน้องกลับแต่ก็เริ่มใจอ่อน
"ชั้นจะกินยาดัก จะไม่เล่นนาน ให้ชั้นเล่นเถอะนะ.....นะครับพี่ใหญ่....." เจอลูกอ้อนแบบนี้เจอร์รี่ก็พลอยใจอ่อนไปอีกคน
"ก็ได้.....แต่พี่ใหญ่เรียกแล้วต้องขึ้นทันทีห้ามต่อรองเลยนะ" แม้จะยอมแต่ก็ตั้งข้อแม้กับน้อง
"อืม" เคนพยักหน้ารับ พี่ใหญ่จึงปล่อยตัวให้เคนไปสมทบกับน้องๆอีกสองคน
"ลูกว่าแต่พ่อกับแม่ตามใจน้อง เราก็เหมือนกัน" แม่ต่อว่าลูกชายขึ้นมากลายๆ เจอร์รี่หัวเราะเบาๆพลางส่ายหน้า
"ตกลงน้องบอกพ่อกับแม่แล้วใช่มั๊ยครับเรื่องจะขายบ้านนี้" เจอร์รี่ถามเข้าเรื่อง
"บอกแล้ว พ่อดีใจที่เสี้ยวเทียนคิดได้อย่างนั้น ลูกอยากรู้มั๊ยว่าเหตุผลที่แท้จริงที่น้องอยากมาพักที่บ้านอาเจียงในครั้งนี้คืออะไร?" พ่อย้อนถามลูกชายกลับไปบ้าง
"น้องบอกว่าอยากอยู่ที่นี่เป็นครั้งสุดท้าย คงอยากจะบอกลาหละมั้ง?" เจอร์รี่ตอบแล้วเงยหน้ามองพ่อกับแม่
"จ๊ะ แล้วน้องยังบอกพ่อกับแม่อีกด้วยว่าที่น้องอยากให้พวกเรามาพักอยู่ที่นี่เพราะอยากสร้างความทรงจำในบ้านหลังนี้กับครอบครัวเรา" เจอร์รี่ได้ยินก็ยิ้มออกมาได้
"พักหลังๆมานี้น้องเปิดใจคุยกับพ่อแม่เยอะขึ้นมาก น้องไม่ค่อยปิดบังความรู้สึกเหมือนที่แล้วๆมาอีกแล้ว ตอนนี้พ่อกับแม่มีความสุขที่สุดเลย" เจอร์รี่พยักหน้าไปกับคำพูดของแม่
"แต่ลูกอาจต้องเหนื่อยหน่อยนะ เพราะน้องดูท่าจะเอาแต่ใจมากขึ้นเหมือนที่ลูกชอบบ่นนั่นแหละ พ่อแม่เองก็ไม่อยากขัดใจน้องไม่อยากทำให้น้องไม่พอใจอีก" พ่อพูดขึ้นมาบ้าง
"พ่อแม่ครับ การตามใจมันไม่ได้มีผลดีเสมอไปนะ ผมไม่อยากให้พ่อแม่เออออตามน้องทุกอย่าง อะไรที่พ่อแม่ไม่เห็นด้วยก็บอกน้องไปตรงๆเถอะครับ เสี้ยวเทียนเป็นคนมีเหตุผล ผมเชื่อว่าเขาต้องรับฟังความคิดของพ่อกับแม่แน่นอน" เจอร์รี่พูดกับบุพการีตรงๆ
"อืม....ที่ลูกพูดก็ถูก เอาเป็นว่าพ่อกับแม่จะพยายามใจแข็งมากกว่านี้ก็แล้วกัน" พ่อรับปากลูกชาย
"ไปเรียกน้องขึ้นมาช่วยกันทำอาหารดีกว่า พ่อเขาบ่นหิวมาตั้งแต่ในรถแล้ว" เจอร์รี่รับคำแม่แล้วเดินไปตะโกนเรียกบรรดาน้องชายทั้งสามคนขึ้นมา
"ชั้นได้เล่นแค่แป๊บเดียวเอง" เคนบ่นอุบในขณะที่เดินตามแวนเนสและไจ่ไจ๋ขึ้นมาด้วยท่าทีอิดออด
"เดี๋ยวยันโครมไปโน้นเลย! เมื่อกี้รับปากกับชั้นว่ายังงัย?" หันไปทำหน้าดุใส่เคน
"พ่อครับ...." เคนเรียกบิดาเพื่อจะหาตัวช่วย
"ไปอาบน้ำได้แล้วลูก พ่อหิวแล้ว มาช่วยกันทำของกินดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ยังมีเวลาเล่นอีกทั้งวัน" พ่อพูดคล้อยตามเจอร์รี่
"พ่อหิวแล้วหรอ? งั้นทำก่อนค่อยไปอาบน้ำ" เคนว่าแล้วขยับเข้าไปจะช่วยพ่อแกะถุงก็ถูกพ่อตีมือเสียก่อน
"พ่อบอกให้ไปอาบน้ำ เดี๋ยวก็ไข้ขึ้นอีกหรอก" เคนมองหน้าพ่องงๆเพราะปกติพ่อไม่ดุเขาแบบนี้
"สมน้ำหน้า" แวนเนสกับไจ่ไจ๋หันไปหัวเราะด้วยกัน
"ไปก็ได้" เคนพูดงอนๆแล้วกำลังจะเดินเข้าบ้านแต่พ่อก็เรียกไว้ก่อน
"เสี้ยวเทียน!" เคนหันมาตามเสียงเรียก
"อาบน้ำอุ่นนะลูก" พูดด้วยน้ำเสียงห่วงใย เคนยิ้มรับแล้วพยักหน้าก่อนที่จะหมุนตัวกลับไปอีกแต่พ่อก็เรียกขึ้นอีกครั้ง
"เสี้ยวเทียน!" เคนหมุนตัวกลับมาอีกรอบ
"ยาลืมกินยาดักไว้ด้วยนะ" พ่อพูดต่อ
"ครับ" เคนรับปากแล้วเดินยิ้มเข้าไปในบ้าน
"เยี่ยมเลยพ่อ!" เจอร์รี่เอ่ยชมพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้
"ถ้าน้องงอนพ่อลูกต้องรับผิดชอบนะ" พ่อหันไปขยี้หัวลูกชายคนโตพลางหัวเราะ
"พี่ใหญ่เป่าหูพ่อหรอ?" ไจ่ไจ๋ถามขณะหยิบขนมขึ้นมากิน
"ยังไม่ไปอาบน้ำอีก!" เจอร์รี่หันมาเอ็ดน้องเล็ก
"ผมหิวนี่" ทำเสียงอ่อยๆแล้วหยิบขนมกินอีก
"เฮ่อ! เดี๋ยวค่อยมากิน ไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวเป็นหวัดหรอก แวนเนส เราก็ด้วยรีบๆไปอาบน้ำ" เจอร์รี่ไล่น้องชายทั้งคู่ที่ยืนหยิบโน้นหยิบนี่เข้าปาก
"ไปก็ได้ ไปไจ่ไจ๋....." แวนเนสพูดเสียงอู้อี้เพราะเคี้ยวขนมอยู่เต็มปาก หลังจากสามพี่น้องอาบน้ำเสร็จแล้วก็พากันเดินออกมาสมทบอย่างร่าเริง
"เดี๋ยวผมย่างอาหารทะเลให้" เคนเสนอแล้วหยิบถุงอาหารทะเลไปที่เตาย่างขนาดใหญ่
"ชั้นช่วย" แวนเนสว่าแล้วรีบวิ่งตามน้องชายไปทันที
"ไปปิ้งบาร์บีคิวกันพี่ใหญ่" น้องเล็กเอ่ยชวน
"ไปสิ" เจอร์รี่พยักหน้าแล้วยกถาดบาร์บีคิวไปวางไว้ใกล้ๆเตา ในขณะที่พ่อแม่ก็จัดการแกะกับข้าวอย่างอื่นที่ซื้อมาใส่จาน
"ต้องรอนานมั๊ยกว่าจะสุกน่ะ?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายเพราะอยากกินแล้ว
"ซักพักนึงน่ะ ทำไม? อยากกินแล้วหละสิ" พูดดักคอน้องชายอย่างรู้ทัน
"อืม....อยากกินตั้งแต่ตอนเสียบไม้แล้วหละแต่พี่กลางไม่ยอมปิ้งให้กิน อดใจรอมาถึงตอนนี้เชียวนะ" น้องเล็กจีบปากจีบคอพูด เจอร์รี่หัวเราะอย่างขำๆกับน้องชาย
"เออพี่ใหญ่ เมื่อก่อนพวกพี่เคยมานอนค้างบ้านอาเจียงหรือเปล่า?" น้องเล็กชวนพี่ชายคุย
"เคยสิ" พี่ใหญ่เล่าให้น้องฟังยิ้มๆ
"เวลาได้มานอนค้างที่นี่อาเจียงก็เอาใจพี่กับพี่รองเป็นอย่างดีเชียวแหละ แล้วพี่ก็ได้เห็นกับตาว่าอาเจียงดีกับพี่กลางจริงๆ เขาเอาใจใส่พี่กลางทุกเรื่อง คอยถามด้วยความห่วงใยตลอดเวลา พี่ยังแอบคิดเลยว่าถ้าพี่กลางเขาอยู่กับอาเจียงนานกว่านี้บางทีเขาอาจจะไม่กลับมาอยู่กับพวกเราแล้วก็ได้" น้องเล็กได้ยินก็ส่งสายตาไปทางเคนที่กำลังย่างอาหารทะเลกับแวนเนสอย่างสนุกสนาน
"บ้านเราถ้าขาดใครไปก็คงเหงาไปเหมือนกันเนอะ" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับพลิกไม้บาร์บีคิวกลับด้าน
"นั่นสิ ตอนแรกๆที่พี่กลางมาอยู่กับอาเจียงนะพี่กับพี่รองยังร้องไห้คิดถึงมันเลย เมื่อก่อนพี่กลางมันเป็นเด็กน่ารักนะ ช่างพูดเหมือนนายนี่แหละแล้วก็อ้อนเก่งใช่ย่อยเลย แต่หลังจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนั้นมันก็กลับกลายเป็นเด็กที่ค่อนข้างเงียบ บางทีมันนั่งเงียบเป็นชั่วโมงแบบไม่ยอมปริปากพูดอะไรเลยซักคำ" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็รู้สึกสงสารเคน
"ถ้าอาเจียงยังอยู่ ป่านนี้ไม่รู้ว่าผมจะมีพี่ชายที่แสนดีแบบพี่กลางคอยอยู่เคียงข้างผมหรือเปล่า?" พี่ใหญ่ได้ยินก็ชะงักไป
"นายรู้มั๊ยช่วงที่พี่กลางกลับมาอยู่บ้านแรกๆน่ะคนที่ทำให้พี่เขายอมคุยยอมเล่นน่ะเป็นใคร?" พี่ใหญ่ถามน้องยิ้มๆ น้องเล็กส่ายหน้าโดยไม่ได้มองคู่สนทนา
"ก็นายงัยหละ ตอนนั้นนายอายุประมาณ 2-3 ขวบ วัยกำลังน่ารักเลย แล้วก็ชอบไปนัวเนียกับพี่เขาประจำแต่ก็โดนแกล้งเอาแทบจะทุกครั้งเหมือนกัน" เจอร์รี่เล่าให้น้องฟังพลางหัวเราะ น้องเล็กได้ยินก็พลอยหัวเราะไปด้วย
"ผมก็พอจำได้นะว่าพี่กลางชอบแกล้งผมแต่ผมก็อดที่จะเข้าไปเล่นกับพี่เขาไม่ได้เพราะพี่กลางมักมีอะไรแปลกๆมาชวนผมเล่นทุกครั้ง" น้องเล็กได้ทีผสมโรงนินทาเคน
"หึๆๆๆ" พี่ใหญ่หัวเราะพลางมองน้องชายอย่างเอ็นดู
"อันนี้สุกแล้วหละไจ่ไจ๋ ลองชิมซิ" เมื่อเห็นว่าสุกแล้วพี่ใหญ่จึงหยิบขึ้นมาให้น้องลองชิมดูเพราะเห็นน้องอยากกินมาตั้งแต่แรกแล้ว
"ระวัง....ร้อน....." พี่ใหญ่เอ่ยเตือนแต่ไม่ทันแล้วเพราะทันทีที่น้องเล็กรับมาก็กัดกินทันที
"อู้ยยยย....ร้อนๆๆๆๆ....." น้องเล็กอ้าปากแล้วเอามือพัดเป็นการใหญ่ ส่วนเจอร์รี่ได้แต่ยืนขำน้อง
"แล้วไม่เป่าก่อน พี่พูดไม่ทันขาดคำเลยเชียว" ต่อว่าอย่างระอากับความตะกละของน้องชาย
"หูยยย.....ลิ้นแทบพอง แต่อร่อยดีนะครับ" หลังจากจัดการบาร์บีคิวลงไปได้ไจ่ไจ๋ก็บ่นอุบ
"ไหนชิมบ้างซิ" พี่ใหญ่ขอชิมพร้อมกับชี้ไปที่ไม้บาร์บีคิวที่น้องชายถืออยู่
"ชิ้นเดียวนะ เดี๋ยวหมด" น้องเล็กให้แต่ไม่วายมีข้อแม้กับพี่ชาย
"ไอ้ขี้งก! มีอยู่นี่ตั้งเยอะแยะมาบอกว่ากลัวหมด" พี่ใหญ่ต่อว่าน้องแต่ก็ชิมเพียงเล็กน้อย
"ก็อร่อยนะ แต่พี่ว่ามันขาดอะไรไปหรือเปล่า?" ได้ยินพี่ชายพูดเช่นนั้นน้องเล็กก็ทำหน้างงๆ
"พี่ว่ามันแห้งไปน่าจะมีซอสมาทามั๊ย?" เมื่อได้ยินเช่นนั้นไจ่ไจ๋ก็นึกขึ้นมาได้จึงรีบวิ่งไปที่โต๊ะตั้งวางของขนาดใหญ่แล้วหยิบซอสบาร์บีคิวมาทา จากนั้นสองพี่น้องก็ช่วยกันปิ้งบาร์บีคิวกันต่อไป
"ทำไมมันไหม้แบบนั้นหละแวนเนส?" เคนโวยวายขึ้นมาเมื่อเห็นว่ากุ้งที่พี่ชายกำลังย่างมีสีดำเป็นปื้นไปทั่วตัว
"มันดำแต่ข้างนอกเท่านั้นแหละตัวมันข้างในรับรองว่าอร่อย" แวนเนสเถียงข้างๆคูๆ
"ให้มันแน่เถอะ ย่างกุ้งมันต้องหมั่นกลับไปกลับมาไม่ใช่แช่ให้มันดำปี๋อย่างนั้น เดี๋ยวมะเร็งได้ถามหา" เคนบ่นอุบกับความไม่รู้เรื่องของพี่ชาย
"กุ้งบ้านนายมันกินทั้งเปลือกหรืองัย? ชั้นบอกแล้วว่าตัวมันไม่ดำ" แวนเนสเถียงน้องกลับแล้วหยิบตัวที่สุกแล้วมาแกะให้น้องดู
"เห็นมั๊ยว่ามันไม่ดำ" แวนเนสยื่นกุ้งที่แกะเสร็จแล้วให้น้องดูเพื่อยืนยัน
"ไอ้ขี้โกง! ตัวนั้นชั้นเพิ่งย่างเสร็จ!" เคนเอาที่คีบอาหารตีมือพี่ชายพร้อมกับร้องโวยวาย
"อ้าวหรอ? ชั้นว่าชั้นเป็นคนย่างนะ" แวนเนสหัวเราะแล้วหยิบกุ้งเข้าปาก เคนมองค้อนพี่ชายแล้วรีบคีบเอาส่วนที่ตัวเองกำลังย่างอยู่หนีมาอีกด้านหนึ่งเพราะกลัวพี่ชายจะแย่งไปอีก
"เอาไปไหนเล่า!?" แวนเนสหัวเราะแล้วทำท่าจะคีบส่วนของน้องมาเป็นส่วนของตัวเองอีก
"อย่านะ! อันนี้ของพ่อชั้นย่างให้พ่อ!" เคนโวยวาย
"อ้าว! แล้วไม่ย่างให้พี่รองบ้างหรอ?" แวนเนสแหย่น้องพลางหัวเราะอย่างร่าเริง
"ไม่ให้! นายก็ทำเองสิ" เคนว่าแล้วจัดการพลิกกุ้งกลับด้าน
"ฮึ! งั้นชั้นทำให้แม่ดีกว่า" แวนเนสว่าแล้วหันไปหยิบถาดใส่กุ้ง
"ไม่ต้อง! ของแม่ชั้นก็จะทำเอง นายทำให้พี่ใหญ่กับไจ่ไจ๋ไปโน้น!" เคนแหวใส่
"ไม่เอา ชั้นจะทำให้แม่ ทำให้พ่อด้วย" แวนเนสยังแกล้งน้องไม่เลิก
"ชั้นทำแล้ว ชั้นทำให้พ่อกับแม่ ทั้งสองคนเลย นายอย่ายุ่งนะ" เคนเอาที่คีบอาหารชี้หน้าพี่ชาย
"ไม่รู้โว้ย! ใครทำเสร็จเร็วกว่าพ่อแม่ก็กินของคนนั้นแหละ!" พูดจบแวนเนสก็รีบเอาอาหารบนเตาไปวางตรงไฟแรงๆ เคนเองก็รีบทำเช่นเดียวกับพี่ชาย พ่อกับแม่ที่นั่งอยู่ใกล้มองบรรดาลูกชายด้วยความปลื้มใจ
"บาร์บีคิวมาแล้วครับ" ไจ่ไจ๋ร้องบอกแล้วทรุดตัวนั่งลงข้างแม่
"อร่อยมากเลยครับ แม่กินเร็ว" ไจ่ไจ๋หยิบบาร์บีคิวขึ้นมาส่งให้แม่
"ขอบใจจ๊ะ" แม่รับมาแล้วกินตามคำเร่งเร้าของลูกชาย
"อร่อยมั๊ยครับ?" ไจ่ไจ๋ถามแล้วมองแม่อย่างรอคอยคำตอบ
"อร่อยมากเลยลูกรัก" แม่ตอบพร้อมกับยิ้มให้ลูกชาย
"พ่อกินสิครับ" ไจ่ไจ๋หันมาทางพ่อบ้าง
"นึกว่าลูกจะไม่มาเอาใจพ่อซะแล้ว" พ่อว่าพลางหัวเราะแล้วรับบาร์บีคิวมากิน
"เอามาเพิ่มแล้วครับ" เจอร์รี่ถือถาดบาร์บีคิวที่ย่างเสร็จเข้ามาสมทบ
"นั่งกินก่อนสิลูก เดี๋ยวค่อยไปทำเพิ่มก็ได้" พ่อว่าเมื่อเห็นว่าลูกชายยกอันที่เสร็จแล้วมารวมไว้กับที่ไจ่ไจ๋ยกมาตอนแรก
"ได้ครับ" เจอร์รี่ว่าแล้วทรุดตัวนั่งลงร่วมวงด้วย
"แวนเนส!!!! เอาอีกแล้วนะ!!!" เสียงเคนโวยวายดังลั่นทำให้พ่อแม่ เจอร์รี่และไจ่ไจ๋หันไปทางต้นเสียงพร้อมกัน
"อะไรกันน่ะ?" พี่ใหญ่ร้องถาม
"แวนเนสมันแย่งของชั้นไป! ชั้นจะย่างให้พ่อกับแม่" เคนฟ้องเป็นการใหญ่
"ไม่เอาน่า.....ทะเลาะกันเป็นเด็กๆ จะใครทำให้ พ่อแม่ก็กินทั้งนั้นแหละ" พี่ใหญ่ว่าพลางส่ายหน้าไปในขณะที่พ่อกับแม่ได้แต่ยิ้มไม่หุบ
"ไม่รู้หละนายเอาของชั้นไป เอาคืนมาเลย" เคนบ่นอุบแล้วคีบส่วนของตัวเองคืนมา
"งั้นเอาอันนี้" แวนเนสแย่งของน้องมาอีก
"แวนเนส!!" คราวนี้เคนไม่พูดเปล่าแต่กระทืบลงบนเท้าของแวนเนสด้วย
"โอ้ยยย!!!!" แวนเนสร้องลั่นกระโดดเหยงๆไปมา
"เสี้ยวเทียน!!" พี่ใหญ่ทำเสียงดุ
"กล้าทำชั้นหรอ? มานี่เลย มาให้เอาคืนเดี๋ยวนี้" แวนเนสทำท่าจะล้างแค้นน้องชาย แต่เคนก็ขยับหนีแล้วเงื้อนง่าจะสู้
"ไอ้พวกนี้หนิ!" เจอร์รี่ลุกขึ้นแล้วหันไปหยิบไม้สำหรับเขี่ยถ่านขึ้นมาแล้วเดินไปตีก้นน้องคนละที
"โอ้ย!" เคนเอามือลูบก้นตัวเองป้อยๆหน้ามุ่ยลงทันตาเห็น
"อู้ยย...." แวนเนสเองก็ร้องครางเบาๆเช่นกัน
"ถ้าเห็นทะเลาะกันอีกทีโดนหนักกว่านี้แน่!" ชี้หน้าน้องทั้งคู่พร้อมกับพูดขู่ด้วยเสียงดุๆ แวนเนสกับเคนทำหน้ามุ่ยใส่กันแล้วกลับมาย่างอาหารต่อเงียบๆ
"ตีน้องทำไมหละลูก?" แม่ต่อว่าลูกชายคนโต
"ก็มันพูดไม่ฟังนี่นา เดี๋ยวแม่คอยดูนะมันเงียบกันได้ไม่นานหรอก" เจอร์รี่พูดอย่างรู้จักน้องๆดี แล้วยังไม่ทันขาดคำแวนเนสกับเคนก็โวยวายขึ้นมาอีกจนได้
"หึๆๆๆ" พ่ออดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ในขณะที่ไจ่ไจ๋เองก็หัวเราะด้วยคุ้นเคยกับการโต้เถียงกันของพี่ชายสองคนนี้
"พ่อ....เสร็จแล้วครับ" เคนเดินหน้ามุ่ยเดินมานั่งลงข้างพ่อโดยมีแวนเนสวิ่งตามมาติดๆ
"กินของผมดีกว่าพ่อ ของเสี้ยวเทียนน่ะมันมีแต่น้ำลาย มันเอาแต่บ่น" แวนเนสยังตามมาแกล้งน้องไม่เลิก
"นายไปห่างๆได้มั๊ย?" เคนไม่กล้าโวยวายอะไรมากเพราะกลัวพี่ใหญ่ดุ
"ทำไม? ชั้นก็ทำให้พ่อกินเหมือนกันหนิ" แวนเนสยื่นหน้าเข้าไปยั่วน้อง
"ยังไม่เลิกกันอีกใช่มั๊ย!?" พี่ใหญ่ดุน้องแต่พอเห็นหน้าน้องชายสองคนชัดๆก็หัวเราะออกมา
"ขำอะไรหรอพี่ใหญ่?" ไจ่ไจ๋ที่นั่งกอดแม่อยู่ค่อยเงยหน้าขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะ
"ขำเด็กมอมแมมสองคน" เจอร์รี่ตอบแล้วผงกหัวไปทางแวนเนสกับเคน ไจ่ไจ๋หันมาเห็นหน้าพี่ชายสองคนดำเป็นปื้นก็หัวเราะออกมาอีกคน
"หน้าเลอะหมดเลยลูก มา.....พ่อเช็ดให้" พ่อพูดกับเคนยิ้มๆแล้วหันไปดึงทิชชู่มาเช็ดหน้าให้ลูกชายอย่างอ่อนโยน
"แม่เช็ดหน้าให้ผมมั่งสิ" แวนเนสหันไปอ้อนแม่แต่พอแม่จะขยับตัวไจ่ไจ๋ก็ยิ่งกอดแน่นกว่าเดิม
"แม่เช็ดหน้าให้พี่รองก่อนลูก" แม่บอกลูกชายจอมขี้อ้อนเบาๆ
"ไม่เอา พี่เขาทำเลอะเองก็ให้เช็ดเองสิ" ไจ่ไจ๋ปฏิเสธแล้วชี้ไปที่ปลาหมึกย่าง
"ผมอยากกินปลาหมึกแม่หั่นให้หน่อยสิ" แม่ได้แต่ส่ายหน้ากับอาการหวงของลูกชาย
"นี่ๆๆๆ แม่พี่เหมือนกันนะโว้ย อ้อนคนเดียวเลยนะ" แวนเนสสะกิดไหล่น้องแล้วพูดด้วยน้ำเสียงกวนๆ
"ไม่รู้ ผมมาก่อน" ไจ่ไจ๋ลอยหน้าลอยตาแล้วอ้าปากรับปลาหมึกย่างที่แม่เอามาป้อนให้ถึงปาก
"ฮึ! ไม่ง้อก็ได้" แวนเนสค้อนใส่น้องชายแล้วขยับไปอ้อนพี่ใหญ่แทน
"งั้นพี่ใหญ่เนี่ยพี่จองนะ เวลาพ่อแม่กลับไปอย่ามาแย่งก็แล้วกัน" ว่าพลางเอาหน้าซบลงที่ไหล่พี่ชาย
"เฮ้ยๆๆๆๆ!!! อย่าเอาหน้ามาเช็ดกับเสื้อชั้นนะเดี๋ยวเปื้อนหมด!" พี่ใหญ่โวยวายแล้วเอามือดันหัวน้องขึ้นก่อนที่จะรับทิชชู่จากพ่อมาเช็ดหน้าให้น้อง
"กินกุ้งมั๊ยเสี้ยวเทียน? พ่อแกะให้ หรือจะเอาปูดี?" พ่อหันมาถามเคนอย่างเอาใจ
"ผมแกะให้พ่อดีกว่าครับ" เคนว่าแล้วทำท่าจะหยิบอาหารขึ้นมาแต่พ่อขัดขึ้นมาก่อน
"ไม่ต้องลูก พ่อนั่งกินอย่างอื่นไปตั้งเยอะแล้วแต่ลูกมัวไปไปย่างอาหารทะเลยังไม่ได้กินอะไรเลยนี่ นั่งพักก่อนเดี๋ยวพ่อแกะให้" พูดจบพ่อก็แกะกุ้งและปูให้ลูกชาย
"ขอบคุณครับพ่อ" เคนรับมากินอย่างเต็มอกเต็มใจ ท่ามกลางสายตาของสมาชิกคนอื่นที่มองมายิ้มๆ
"ปูหวานมากเลยครับ ของเขาสดจริงๆด้วย" เคนว่าอย่างพึงพอใจแต่เมื่อรู้สึกได้ว่าคนอื่นๆเงียบเสียงไปก็ค่อยเงยหน้าขึ้นมาพอเห็นสายตาของทุกคนมองมาที่เขาเคนก็รู้สึกเขินจนไม่กล้ากินต่อ
"ฮ่าๆๆๆ!!!" แล้วไจ่ไจ๋ก็หัวเราะออกมาคนแรก
"ขำอะไรเล่า" เคนพึมพำพลางมองหน้าน้องชาย
"เปล่าครับ แต่รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้พี่กลางน่ารักขึ้นเยอะเลยนะ" เมื่อโดนน้องชมซึ่งหน้าเคนก็เขินหนักกว่าเก่า
"ไปแซวพี่เขา!" แม่ว่าลูกชายคนเล็กเบาๆก่อนที่จะเลื่อนจานบาร์บีคิวไปให้เคน
"กินนี่สิจ๊ะ ไจ่ไจ๋เขาอวดนักแหละว่าปิ้งเองกับมือ" เคนยิ้มแล้วรับมากิน
"อร่อยมั๊ยพี่กลาง?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชาย
"อร่อยสิ เนื้อหมูเนี่ยพี่หมักเองกับมือ" เคนตอบพร้อมกับยกยอตัวเอง
"แต่คนปิ้งเนี่ยต้องมีฝีมือด้วยนะพี่ ไม่งั้นไม่อร่อยแบบนี้หรอก" น้องเล็กพยายามจะพูดให้พี่ชายชมตัวเองด้วย
"ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย ใครปิ้งก็เหมือนกันแหละ" เคนแกล้งพูดแหย่น้อง ไจ่ไจ๋เลยได้แต่ทำหน้ามุ่ย
"ไม่คุยด้วยละ กินดีกว่า" ไจ่ไจ๋หมดอารมณ์คุยทันทีที่พี่ชายไม่ยอมเออออกับเขา
"เอามากินบ้างสิ" แวนเนสเอ่ยขอขึ้นมาบ้าง เจอร์รี่เอื้อมมือไปหยิบมาส่งให้น้อง
"ระวัง.....ร้อน....." อ้าปากเอ่ยเตือนแต่ยังพูดไม่ทันจบแวนเนสก็เอาใส่ปากเข้าไปคำใหญ่แต่แล้วก็ต้องคายออกมาเพราะร้อน
"ไม่รู้จักเป่าก่อน พอกันทั้งพี่ทั้งน้อง!" พี่ใหญ่บ่นแล้วเอาทิชชู่มาเช็ดปากให้น้องชาย
"แล้วทำไมไม่รู้จักเป่าให้หละ?" แวนเนสโทษพี่ชายหน้าตาเฉย
"จะให้พี่ใหญ่เคี้ยวให้ด้วยมั๊ยครับ?" ว่าประชดน้องต่อออกมาทันที
"ก็ดีเหมือนกันนะ" ตอบกวนๆแล้วยักคิ้วให้พี่ชายด้วย เจอร์รี่ผลักหัวน้องเบาๆแต่ก็เป่าบาร์บีคิวให้น้อง
"หายร้อนยัง?" แวนเนสถามยิ้มๆ
"หายแล้ว!" กัดฟันพูดพร้อมกับหยิกแก้มน้องอย่างหมั่นไส้
"ขอบคุณครับ" แวนเนสหัวเราะก่อนจะเอ่ยขอบคุณพี่ชายแล้วรับมากินอย่างเอร็ดอร่อย ในขณะที่พ่อกับแม่หันไปสบตากันยิ้มๆด้วยสุขใจที่เห็นลูกชายทุกคนรักใคร่กลมเกลียวกันเช่นนี้ไม่เปลี่ยนแปลง




 

Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2550 10:47:08 น.
Counter : 1197 Pageviews.  

Chapter 19

ตอนที่ 19
"เสี้ยวเทียนหลับหรือยัง?" แวนเนสที่จูงมือน้องเล็กเข้ามาในห้องนอนของเคนเอ่ยถาม
"ยังหรอก ชั้นเพิ่งเช็ดตัวให้มันเสร็จ" เจอร์รี่หันไปตอบ
"แล้วพี่กลางอยู่ไหน? ไจ่ไจ๋ถามต่อเพราะไม่เห็นเคนอยู่ในห้อง
"แปรงฟันอยู่ในห้องน้ำ พวกนายสองมีอะไรหรือเปล่า?" ถามต่อเมื่อเห็นน้องถืออะไรเข้ามาด้วย
"จะมาชวนพี่สองคนเล่มเกมส์จับคู่กัน" น้องเล็กว่าแล้วเขย่ากล่องที่ถือมา
"ฮึ! จะเล่นอีกแล้วหรอ?" เจอร์รี่ยิ้มๆแต่ก็ไม่ขัดคำน้อง
"จะทำอะไรหรอ?" เคนที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำเอ่ยถามบรรดาพี่น้องสามคน
"มาเล่นเกมส์จับคู่กันพี่กลาง เล่นไหวหรือเปล่า? หรือว่าจะนอน?" น้องเล็กถามพี่ชายอย่างเป็นห่วง
"เล่นสิ พี่ยังไม่นอนหรอก" เคนตอบแล้วเดินมานั่งลงบนเตียงร่วมวงกับพี่ๆน้องๆ
"เมื่อวานเสี่ยวจือเล่าเรื่องผีให้ฟังด้วยแหละ" แวนเนสหาเรื่องขึ้นมาชวนคุย คำพูดนั้นทำเอาไจ่ไจ๋ชะงักไปคนแรก
"ไหนเล่ามาซิ" เคนเห็นสีหน้าของน้องชายก็รีบพูดต่อทันที
"ไม่เอานะพี่รอง ผมไม่อยากฟัง" น้องเล็กร้องห้ามเสียงหลง พี่ชายสามคนเลยหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน
"คนอยู่ตั้งเยอะกลัวอะไรหืม?" เจอร์รี่ว่าพลางขยี้หัวน้องไปด้วย
"ไม่เอา ผมกลัวนี่" น้องเล็กยังคงส่ายหน้า
"แต่พี่จะฟัง นายไม่ฟังก็เอามืออุดหูไว้สิ" เคนแย้งขึ้น
"ไม่เอา! พี่รองห้ามเล่านะ!" ไจ่ไจ๋ยังคงส่ายหน้าไม่ยอมอยู่ดี
"เล่าเลยแวนเนส เล่าเลย!" เคนหันไปยุพี่ชายบ้างเพราะอยากแกล้งน้อง
"งั้นผมไม่เล่นแล้ว" ไจ่ไจ๋ตวัดเสียงแล้วลุกพรวดขึ้นทำท่าจะกลับห้องแต่เมื่อเห็นพี่ชายทั้งสามคนไม่มีใครขยับจะตามก็ต้องชะงักไปเอง
"ผมจะกลับห้อง!" ไจ่ไจ๋ประกาศบอกเพราะคิดว่าพี่ชายไม่รู้ แต่เมื่อพูดไปแล้วบรรดาพี่ชายสามคนก็ยังไม่มีใครว่าอะไรอยู่ดี
"ผมจะกลับห้องแล้วนะ" พูดต่อคล้ายจะให้พี่ชายหันมาสนใจ
"อืม ก็กลับไปสิ พี่จะฟังเรื่องผีที่พี่รองเล่า" เคนทำเป็นไม่สนใจน้อง น้องเล็กเริ่มหน้ามุ่ยเมื่อไม่มีใครสนใจ
"ฮ่าๆๆๆ!!!" แล้วพี่ชายสามคนก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน น้องเล็กเห็นดังนั้นก็รู้สึกเสียฟอร์มเพราะรู้ว่าพี่ชายหัวเราะเยาะเขาที่กลัวผีจนไม่กล้ากลับห้องคนเดียว
"โอ๋ๆๆ มานี่มา....มานั่งกับพี่ใหญ่ เดี๋ยวพี่ใหญ่เอามืออุดหูให้ดีมั๊ย?" แล้วพี่ใหญ่ก็ต้องลุกขึ้นมาง้อน้องชายอยู่ดี
"ไม่ต้องเลย! ชอบแกล้งนักนะ!" แหวใส่พี่ชายแต่ก็ยอมเดินมานั่งตามแรงจูงของพี่ใหญ่
"หึๆๆๆ" พี่ชายสามคนมองหน้ากันเองแล้วอดที่จะยิ้มกับท่าทางแง่งอนของน้องเล็กไม่ได้
"เอาหละ พี่ใหญ่ปิดหูไจ่ไจ๋ไว้นะ จะเล่าเรื่องสยองขวัญแล้ว" แวนเนสพูดแหย่น้องขึ้นมา เจอร์รี่ก็นึกสนุกเลยเอามือปิดหูน้อง
"โอ้ย! ไม่ต้องปิด! ผมไม่กลัวหรอก!" น้องเล็กรู้สึกรำคาญที่โดนพี่ๆรุมแกล้งเลยทำเป็นปากเก่ง
"จริงหรอ???" พี่ชายทำเสียงสูงถามขึ้นมาพร้อมกันเลยโดนไจ่ไจ๋ค้อนใส่เสียหลายตลบ หลังจากที่แกล้งน้องพอหอมปากหอมคอแล้วแวนเนสก็เริ่มเล่าเรื่องที่ได้ฟังมาให้พี่น้องฟัง
"เสี่ยวจือเล่าว่าเมื่อก่อนนี้เขาก็เคยเป็นผู้จัดการส่วนตัวของศิลปินคนนึง แต่ตอนนี้ศิลปินคนนั้นตายไปแล้ว" ได้ยินเรื่องเกริ่นนำขึ้นมาการเล่นเกมส์จับคู่ก็ถูกหยุดค้างไว้แค่นั้น
"เขาเป็นอะไรตายหรอ?" เคนถามพี่ชาย
"ผูกคอตาย เห็นบอกว่ามีปัญหาชีวิตที่คิดไม่ตกหลายเรื่อง" แวนเนสตอบแล้วเล่าต่อ
"เสี่ยวจือบอกว่าเขาสนิทกันมาก เมื่อก่อนไม่ว่าไปทำงานที่ไหนต่อไหนก็จะพักห้องเดียวกันตลอด จนเมื่อศิลปินคนนั้นตายไปเสี่ยวจือก็เลยได้ไปดูแลคนอื่นแทน" สามพี่น้องนั่งฟังพลางพยักหน้าหงึกๆ
"เสี่ยวจือเล่าว่าหลังจากศิลปินคนนั้นตายไม่นานเสี่ยวจือก็ต้องเดินทางไปเมืองจีนเพื่อดูแลศิลปินคนใหม่ ก็เข้าพักโรงแรมที่เขาเคยพักกับคนที่ตายน่ะ แล้วตอนกลางคืนเสี่ยวจือได้ยินเสียงเคาะประตูห้องแต่พอเปิดออกไปก็ไม่มีใครเลย" ฟังมาถึงตรงนี้น้องเล็กก็ขยับเข้าไปเบียดพี่ใหญ่
"เป็นแบบนี้อยู่หลายรอบมากจนหนสุดท้ายที่ได้ยินเสี่ยวจือเลยมองไปที่ตาแมวก็เห็นศิลปินคนที่ผูกคอตายยืนอยู่หน้าห้องนั้น" คำบอกเล่านั้นทำเอาทุกคนต่างนิ่งเงียบ ไจ่ไจ๋เองถึงกับขนลุกซู่มือเย็นเฉียบขึ้นมาเฉยๆ
"แล้วเสี่ยวจือทำงัย?" เจอร์รี่ถามขึ้นมาต่อ
"เสี่ยวจือก็คลุมโปรงสิครับ ไม่ยอมลืมตาขึ้นมามองอะไรอีกเลยตลอดทั้งคืน" แวนเนสตอบแล้วเลื่อนสายตาไปที่น้องเล็ก
"งัย? ไม่กลัวไม่ใช่หรอ?" พูดแซวน้องขึ้นมา น้องเล็กค้อนใส่แล้วกอดแขนพี่ใหญ่แน่น
"เก่งแต่ปากน่ะสิ! มา....เล่นต่อดีกว่า" เคนว่าน้องก่อนจะตัดบทชี้ชวนให้เล่นเกมส์กันต่อเพราะเห็นว่าน้องกลัวมากแล้ว
"ก๊อกๆๆ!!!" เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำเอาสี่พี่น้องชะงักงัน มองหน้ากันไปมาเลิ่กลั่ก
"ก๊อกๆๆ!!!" เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง คราวนี้ไจ่ไจ๋ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
"พี่รองไปพูดถึงเขาอ่ะ เขาเลยมาให้เห็นเลย" ต่อว่าแวนเนสเข้าให้ คนถูกว่าทำหน้าเหวอ
"พี่แค่ฟังมาแล้วก็มาเล่าให้เฉยๆ" แวนเนสเองก็เริ่มหน้าเสีย
"ไม่ใช่ผีหรอก ขโมยหรือเปล่า?" พี่ใหญ่พูดปลอบใจน้อง
"ขโมยอะไรจะมารยาทดีแบบนี้หละครับพี่ใหญ่? คิดหรอว่าพอเปิดไปแล้วขโมยมันจะยกมือไหว้พี่แล้วพูดว่าขอปล้นบ้านหน่อยน่ะ?" เคนยังไม่วายพูดประชดพี่ชาย
"ก๊อกๆๆ!!!" เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้งแต่แรงกว่าเดิม
"ปากดีนักนะ ลุกไปเปิดประตูซิ" เจอร์รี่หันไปสั่งเคน แต่คนถูกสั่งส่ายหน้าดิกแม้ไม่กลัวมากนักแต่เรื่องแบบนี้ไม่เจอเป็นดีที่สุด
"ปอดแหกกันหมดทั้งบ้าน" พี่ใหญ่บ่นแล้วรวบรวมความกล้าลุกขึ้นเสียเอง
"พวกนายหาอะไรไว้ป้องกันตัวหน่อย เผื่อมีอะไรเกิดขึ้น" ไม่วายหันมาเตือนน้องอย่างรอบคอบ
"ชั้นมียันต์อยู่แล้ว" เคนพูดขึ้น พี่ใหญ่เกาหัวแล้วส่ายหน้า
"ไม่ใช่เครื่องรางกันผี! แต่เป็นอาวุธป้องกันตัว!" เอ็ดใส่น้องเบาๆ แล้วหันไปทางแวนเนส
"นายดูแลไจ่ไจ๋ด้วยนะ" พูดจบก็หยิบร่มที่วางพิงอยู่มุมห้องขึ้นมาถือไว้แล้วเดินไปที่ประตูอย่างมาดมั่นในขณะที่น้องๆอีกสามคนก็หาทางหนีทีไล่ไว้เผื่อมีเหตุร้าย เมื่อเห็นว่าน้องๆอยู่ในท่าเตรียมพร้อมแล้วเจอร์รี่ก็เปิดประตูออกอย่างระแวดระวัง แต่กลับไม่พบใครเลย
"ไม่ใช่ขโมยแล้วครับพี่ใหญ่" น้องเล็กแทบจะปล่อยโฮออกมาอยู่แล้ว ในขณะที่พี่ชายสามคนก็เริ่มหน้าเสีย แต่ในขณะนั้นเจอร์รี่เห็นหลังใครไวๆเดินลงบันไดไปก็แน่ใจทันทีว่าคงไม่ใช่ผีสางอย่างแน่นนอนดังนั้นเขาจึงรีบหันไปสั่งน้อง
"พวกนายอยู่ในห้องแล้วล็อกประตูให้ดี! ถ้าได้ยินเสียงอะไรห้ามออกมาเด็ดขาดให้โทรแจ้งตำรวจ! เข้าใจมั๊ย?" สั่งเสร็จก็วิ่งพรวดลงบันไดไปท่ามกลางความตกใจของน้องๆ
"ชั้นตามมันลงไปดีกว่า" แวนเนสบอกอย่างเป็นห่วงพี่ชาย
"แต่พี่ใหญ่สั่งให้เราอยู่ในห้องนะ" น้องเล็กแย้งขึ้น
"แล้วถ้าพี่ใหญ่เป็นอะไรขึ้นมาเล่า?" ย้อนถามน้องอย่างหงุดหงิด ตอนนี้เขาไม่กลัวผีแล้วแต่กลัวจะเกิดเหตุร้ายขึ้นมาต่างหาก
"ชั้นว่าเราโทรแจ้งตำรวจไว้ก่อนดีกว่าว่าบ้านเรามีอะไรไม่ชอบมาพากล ขอให้ตำรวจมาช่วยรักษาความปลอดภัยให้" เคนเสนอ เมื่อทุกคนเห็นดีด้วยเคนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแต่ยังไม่ทันได้โทรพี่ใหญ่ก็เคาะประตูเรียก
"เปิดประตูให้พี่ซิ!" เสียงเจอร์รี่ร้องเรียกน้องๆ ไจ่ไจ๋รีบวิ่งไปเปิดให้อย่างรวดเร็ว
"ดูซิว่าพี่จับใครมาได้?" พี่ใหญ่บอกน้องๆก่อนที่จะเดินไปควงแขนพ่อกับแม่มาคนละข้าง
"พ่อ!! แม่!!" แวนเนสกับไจ่ไจ๋ร้องเรียกขึ้นมาพร้อมกัน ในขณะที่เคนยังคงงงๆอยู่
"พ่อแม่แกล้งพวกเราหรอ? ทำไมทำแบบนี้หละครับ? ผมกลัวแทบตายแหนะ" ไจ่ไจ๋ต่อว่าบุพการีทั้งคู่ด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด
"แม่ไม่ได้แกล้งซักหน่อย พวกลูกนั่นแหละชักช้าไม่ยอมมาเปิดประตูให้ซักที ขึ้นมาอยู่ข้างบนประตูบ้านก็ไม่ยอมปิดกันเดี๋ยวเกิดขโมยขโจรขึ้นบ้านจะทำยังงัยกัน?" แม่อธิบายให้ลูกชายฟังด้วยน้ำเสียงดุๆ
"พี่รองน่ะไม่ยอมปิด ผมเตือนพี่เขาแล้วเชียว" น้องเล็กหันไปโทษพี่ชายหน้าตาเฉยแล้วกอดประจบแม่เสียเป็นการใหญ่
"อ้าวไอ้เด็กนี่! โทษกันหน้าตาเฉยเลยนะ" แวนเนสต่อว่าน้องชายแต่ก็หันไปกอดพ่อ
"คิดถึงพ่อที่สุดเลย ทำไมมาเงียบๆหละครับ?" พ่อยิ้มแล้วกอดแวนเนสแรงๆ
"เซอร์ไพรส์งัยลูก แหม....ได้ผลซะด้วยสิ....." พ่อพูดล้อๆแล้วหอมแก้มลูกชายเสียฟอดใหญ่
"พ่อครับแม่ครับ....สงสัยเสี้ยวเทียนจะเซอร์ไพรส์ที่สุดหละมั้ง? ยังไม่หายงงเลย" พี่ใหญ่พูดแล้วเดินไปนั่งลงข้างเคนแล้วขยี้หัวน้องที่ยังนั่งทำหน้างงๆไม่หาย
"ไม่ได้งงซักหน่อย" เคนแย้งขึ้นมาเบาๆแล้วยิ้มให้พ่อกับแม่
"ได้ยินว่าลูกไม่สบาย ไหนแม่ดูซิ" แม่จูงไจ่ไจ๋มาที่เตียงนอนของเคนแล้วเอามือลูบหน้าลูกชายอย่างอ่อนโยน
"ไม่เป็นไรแล้วครับ" เคนพูดเพราะไม่อยากให้แม่เป็นห่วง
"ไม่เป็นอะไรที่ไหนกัน? ตัวยังร้อนอยู่เลย" แม่ว่าแล้วจับตามเนื้อตามตัวลูกชาย
"พ่อดูซิ" พ่อเอื้อมมือมาสัมผัสตัวลูกชายด้วยเช่นกัน
"นั่นสิ ตัวยังร้อนอยู่เลย ทำไมถึงรีบให้น้องกลับบ้านหละเจอร์รี่? น่าจะให้น้องนอนโรงบาลจนไข้ลดซะก่อน" พ่อหันไปพูดกับลูกชายคนโต
"ผมก็อยาก....." เจอร์รี่ยังพูดไม่ทันจบเคนก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
"พี่ใหญ่บอกว่านอนไปก็เปลืองตังค์ กลับมานอนที่บ้านก็มีค่าเท่ากันแหละครับ" ได้ยินน้องใส่ร้ายซึ่งหน้าเจอร์รี่ก็ได้แต่อ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก
"เจอร์รี่ ลูกก็ประหยัดอะไรไม่เข้าเรื่อง อยู่โรงบาลใกล้หมอน่าจะอุ่นใจกว่า" แม่ได้ยินก็หันไปต่อว่าเจอร์รี่ทันทีในขณะที่เคนได้แต่อมยิ้มที่แกล้งพี่ชายได้สำเร็จ ส่วนแวนเนสกับไจ่ไจ๋หันไปหัวเราะกันคิกคัก
"ผมไม่เคยพูดแบบนั้นเลยนะแม่ เสี้ยวเทียนต่างหากที่ไม่ยอม มันร้องจะกลับบ้านตลอดเวลาเลย" เจอร์รี่รีบแก้ตัวก่อนที่จะหันไปค้อนใส่น้องชาย พ่อกับแม่เลยได้แต่ทำหน้างงๆไม่รู้ว่าลูกชายคนไหนกันแน่ที่พูดจริง
"แม่อย่าเชื่อพี่ใหญ่นะครับ ผมไม่เคยทำแบบนั้นเลยซักนิด" เคนยังใส่ไฟพี่ชายต่อไป
"ไม่เคยหรอ?" พี่ใหญ่ทวนคำแล้วใช้มือเหน็บที่ต้นแขนน้อง
"โอ้ยๆๆๆ!!! ไม่พูดแล้วๆๆๆ!!!" เคนร้องเสียงหลงพร้อมกับจับมือพี่ชายออก
"ทำน้องทำไมหละเจอร์รี่! น้องไม่สบายอยู่นะ!" แม่ตีมือลูกชายคนโตเบาๆแล้วต่อว่าไปด้วย
"ก็มัน....." เจอร์รี่พูดไม่ออกเพราะรู้ว่ายังงัยแม่ก็เข้าข้างเคนแน่นอน
"งั้นพ่อพาเราไปโรงบาลดีกว่า ไปนอนค้างที่โรงบาลซักสองสามคืนนะลูก" พ่อพูดขึ้นมาบ้าง คำพูดนั้นทำเอนเคนชะงักแต่ทำให้พี่น้องอีกสามคนหัวเราะออกมาอย่างสะใจ
"ขำอะไรกันลูก?" พ่อหันไปถามลูกชายอีกสามคนอย่างงงๆ
"พี่กลางคงยอมไปอยู่หรอกครับพ่อ" ไจ่ไจ๋ว่าก่อนที่จะหันไปยักคิ้วให้เคนอย่างกวนๆ
"พามันไปเลยครับพ่อ! เงินพ่อผมไม่กลัวเปลืองหรอก" พี่ใหญ่พูดแขวะน้องอย่างผู้ที่เหนือกว่า เคนเลยเป็นฝ่ายค้อนใส่พี่ชายให้บ้าง
"ไม่ไปนะครับพ่อ ผมไม่ไปนะ" ก่อนที่จะหันมาทำหน้าละห้อยกับบิดา
"ทำไมหละลูก? ลูกไม่สบายอยู่นะ ตัวก็ร้อน หน้าก็แดงออกอย่างนี้" พ่อย้อนถามอย่างไม่เข้าใจ
"ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ ไม่ต้องนอนโรงบาลหรอก" ได้ยินดังนั้นพ่อแม่ก็รู้ทันทีว่าใครพูดจริงในตอนแรก
"ตัวร้อนขนาดนี้ยังว่าไม่เป็นไรอีก" แม่พูดขึ้นบ้าง
"ไม่เป็นไรจริงๆครับ ตัวร้อนแค่นี้มันเป็นปกติน่ะครับ" เคนแย้งขึ้นทันควัน
"หมายความว่างัยลูก? ไข้ขึ้นแบบนี้ยังบอกว่าปกติอีกหรอ?" แม่ถามต่อ
"ปกติของโรคไข้เลือดออก หมอยังบอกเลยว่าไข้สูงแบบนี้ธรรมดา อีกสองสามวันก็หายแล้ว อีกอย่างผมไม่รู้สึกเหมือนเจ็บไข้อะไรเลยนะครับ อย่าให้ผมไปนอนโรงบาลเลยนะ ผมไม่อยากไป" เคนขอร้องพ่อกับแม่เป็นการใหญ่
"ไม่ได้หรอก นายป่วยขนาดนี้นอนอยู่บ้านได้ยังงัย? อยู่ใกล้หมอน่าจะอุ่นใจกว่านะ" แวนเนสได้ทีแกล้งแหย่น้องขึ้นมา
"ใช่ๆๆๆ ที่โรงบาลมีคนดูแลมีหมอเวรประจำอยู่ตลอดเวลา ไม่ต้องกลัวเผื่อว่ามีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นด้วย" เจอร์รี่รีบพูดเสริมต่อจากแวนเนสทันที
"อีกอย่าง ตอนนี้พี่กลางก็คงมีพ่อแม่คอยไปเฝ้าที่โรงบาลอีกต่างหาก แบบนี้น่าจะสบายขึ้นเยอะนะครับ" ไจ่ไจ๋กล่าวปิดท้าย
"ไม่เอา ไม่เอานะครับ ผมอยากนอนที่บ้าน อยู่บ้านแล้วผมสบายใจกว่า อยู่โรงบาลแล้วเครียดออก" เคนรีบหันไปอ้อนพ่อกับแม่ทันที ท่าทางของเคนทำเอาพี่น้องสามคนหันไปยิ้มให้กันเพราะแกล้งแหย่เคนได้สำเร็จ
"ไม่ไปก็ได้จ๊ะ นอนพักที่บ้านก็ได้" แล้วแม่ก็ยอมตามที่เคนขอจนได้ด้วยไม่อยากขัดใจลูกชาย
"อ้าวแม่! ไหนบอกว่าอยากให้น้องอยู่ใกล้หมอไม่ใช่หรอ?" เจอร์รี่ถามอย่างรวนๆ
"คิดอีกทีแม่ว่าอยู่ที่บ้านเราดีกว่า อะไรก็สะดวกสบายกว่าเยอะ" แม่เข้าข้างเคนจนออกนอกหน้า
"โหย! หมั่นไส้คนแถวนี้จริงๆ มีผู้ปกครองกิตติมศักดิ์คอยให้ท้ายอยู่เรื่อย ไปดีกว่า!" เจอร์รี่เปรยขึ้นดังๆแล้วเดินออกจากห้องไป
"ผมก็ไปมั่งดีกว่า ไม่อยากอยู่ใกล้คนป่วยเอาใจยาก" พูดจบไจ่ไจ๋ก็เดินตามพี่ชายออกไป
"ผมก็ไม่อยู่เหมือนกัน งอนพ่อแม่ละ ไม่สนใจผมเลย" แวนเนสทำหน้ากระเง้ากระงอดใส่บุพการีแล้วเดินออกไปอีกคน
"เฮ่อ! ลูกชายบ้านนี้ขี้งอนกันหมด" พ่อว่าพลางส่ายหน้ายิ้มๆ
"พ่อแม่มาครั้งนี้จะอยู่นานแค่ไหนครับ?" เคนเอ่ยถามบุพการีทั้งสองขึ้นมา พ่อกับแม่หันไปสบตากันอย่างแปลกใจเพราะปกติแล้วเคนไม่เคยถามคำถามนี้กับพวกเขาเลย
"ประมาณอาทิตย์นึงจ๊ะ พ่อกับแม่คิดถึงลูกๆมากเลย" แม่ตอบแล้วเอามือเกลี่ยผมลูกชายที่ตกลงมาปรกหน้าออก
"ดีจัง" เคนพึมพำออกมาเบาๆ
"ลูกอยากให้เราอยู่นานๆหรือเปล่า?" พ่อถามขึ้นมาบ้าง
"อยากสิครับ มีพ่อแม่ผมจะปลอดภัยจากฝ่ามือพิฆาตของพี่ใหญ่" เคนตอบพร้อมกับทำหน้าขยาดกับบุคคลที่เขาพาดพิงถึง พ่อแม่ได้ยินก็ยิ้มออกมาได้
"พ่อรับรองนะ จะไม่ให้พี่ใหญ่แตะลูกได้เลย" พ่อพูดยืนยัน เคนเลยกลายเป็นฝ่ายยิ้มบ้าง
"อย่าเลยครับ เดี๋ยวผมจะโดนหมั่นไส้มากกว่านี้ แค่นี้ผมยังโดนเจ้าตัวแสบแขวะเอาบ่อยๆ" เคนพูดนินทาน้องชาย
"เรื่องงานเป็นงัยบ้างจ๊ะ? ราบรื่นดีหรือเปล่า?" แม่หันมาถามไถ่เรื่องงานของลูกชายบ้าง
"ดีครับ หัวหน้ากับเพื่อนร่วมงานใจดีทั้งนั้นเลย แต่เสียดายว่าไม่ค่อยได้เที่ยวเท่าไหร่ เพราะเวลาเรือเทียบท่าทีไรผมก็ไม่มีอารมณ์ลงไปเดินเที่ยวแต่อยากงีบหลับมากกว่า" เคนเล่าให้พ่อแม่ฟังอย่างกระตือรือร้น
"แม้แต่น้ำทะเลผมยังไม่เคยได้แตะเลย ได้แต่ว่ายน้ำในสระที่อยู่บนเรือเท่านั้นเอง" เมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของลูกชายพ่อก็เสนอจะพาเที่ยวทันที
"งั้นเราไปเที่ยวทะเลกันดีมั๊ยลูก?" เคนได้ยินก็มีสีหน้าดีใจ
"ไปครับพ่อ สัญญาแล้วนะว่าจะพาไป" เคนตอบรับทันทีซ้ำยังย้ำคำสัญญากับพ่ออีก
"แต่ลูกไม่สบายอยู่นะพ่อ" แม่แย้งขึ้นกลายๆ เมื่อนึกขึ้นมาได้พ่อก็อึ้งๆไป
"ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวผมก็หายแล้ว ไปอาทิตย์นี้เลยนะ ไปสุดสัปดาห์นี้เลยนะครับ" เมื่อโดนลูกตื๊อของลูกชายคนนี้แล้วพ่อกับแม่ก็ปฏิเสธไม่ลง
"เอาหละจ๊ะ พ่อกับแม่รับปากว่าจะพาไป แต่ตอนนี้คนดีของแม่ต้องนอนแล้วนะจ๊ะ พักผ่อนมากๆจะได้หายเร็วๆแล้วจะได้เที่ยวอย่างสนุกสนานงัยหละ" แม่พูดกับเคนราวกับหลอกล่อเด็กเล็กๆ เคนเองก็ไม่ปฏิเสธขยับตัวเอนลงนอนแต่โดยดี
"ลูกแม่น่ารักมากจ๊ะ นอนซะนะลูก พ่อกับแม่จะอยู่เป็นเพื่อนลูกเอง" แม่ว่าและจับมือลูกชายไว้ พ่อเองก็จับมือลูกชายอีกข้างหนึ่งเช่นกัน
"ราตรีสวัสดิ์นะครับ" เคนพูดเบาๆแล้วหลับตาลงอย่างว่าง่าย

- ห้องนอนเจอร์รี่ -
"โอ๋ลูกชายสุดที่รักเสร็จแล้วหรอ?" แวนเนสพูดประชดขึ้นเมื่อเห็นพ่อกับแม่เดินตามกันเข้ามา
"เสร็จแล้ว กำลังจะมาโอ๋ลูกชายขี้อิจฉาอีกสามคน" แม่ตอบยิ้มๆแล้วเดินมานั่งลงบนเตียงสมทบกับบรรดาลูกชายทั้งสามคน
"น้องหลับแล้วหรอครับ?" เจอร์รี่ถามแม่อย่างงงๆเพราะไม่คิดว่าเคนจะยอมหลับง่ายๆ
"หลับแล้วลูก หลับปุ๋ยเชียวแหละ" พ่อเป็นคนตอบคำถามนั้นแทน
"นี่! นายคงต้องหาเวลาไปศึกษาวิธีปราบเซียนจากพ่อแม่แล้วว่ะ" แวนเนสเอ่ยแซวพี่ชายพลางหัวเราะไปด้วย
"พูดมาก!" พี่ใหญ่เอาศอกกระทุ้งแขนน้อง
"พ่อแม่เหนื่อยมั๊ยครับ? นั่งเครื่องมาตั้งหลายชั่วโมงเมื่อยตรงไหนหรือเปล่า?" ไจ่ไจ๋ถามเอาใจบุพการีเป็นการใหญ่
"เมื่อยสิลูก ช่วงไหล่นี่ปวดไปหมดเลย" พ่อได้โอกาสให้ลูกชายปรนนิบัติ
"พี่รอง พ่อเมื่อยน่ะ" ไจ่ไจ๋หันไปโบ้ยให้พี่ชายหน้าตาเฉย
"หรอ? พี่ไม่เมื่อยหนิ" แวนเนสเองก็ตีหน้าซื่อไม่รู้ไม่ชี้ พ่อเลยได้ส่ายหน้ากับความทะเล้นกับลูกชายทั้งคู่
"ว้า....รู้งี้ไม่กลับมาหรอก ทนนั่งหลังขดหลังแข็งทนปวดทนเมื่อยอยู่บนเครื่องตั้งหลายชั่วโมง กลับมาดันเจอลูกชายน่ารักไม่มีใครเหมือนแบบนี้" พ่อเปรยขึ้นมาดังๆ
"แหม....ล้อเล่นหรอกครับ ผมต้องนวดให้พ่ออยู่แล้ว ไหน? เมื่อตรงนี้ใช่มั๊ย? แล้วตรงนี้หละเมื่อยหรือเปล่า?" ไจ่ไจ๋รีบลุกไปบีบนวดให้พ่ออย่างเอาใจ ทำเอาพ่อถึงกับยิ้มไม่หุบ
"ตรงนั้นแหละดีแล้วลูก เออๆๆ ตรงนั้นแหละ อืม....สบายจริงๆ" พ่อเอ่ยชมลูกชาย
"พ่อมาครั้งนี้อยู่นานมั๊ย?" ไจ่ไจ๋นวดไปถามไป
"ซักอาทิตย์นึงพอมั๊ย?" พ่อไม่ตอบแต่ย้อนถามลูกชายแทน
"ไม่พอ ผมอยากให้อยู่ตลอดไปเลย" น้องเล็กเลื่อนมือลงมากอดคอพ่ออย่างรักใคร่ พ่อจึงเหนี่ยวคอลูกชายลงมาใกล้แล้วหอมแก้มเสียฟอดใหญ่
"อีกหน่อยพ่อจะกลับมาอยู่จนลูกเบื่อหน้าเลยแหละ" แม่กับพี่ชายสองคนมองสองพ่อลูกแล้วก็อดยิ้มไม่ได้
"เออ....แวนเนส สุดสัปดาห์นี้ว่างมั๊ยลูก?" แม่หันมาถามแวนเนสอย่างนึกขึ้นมาได้
"ผมยังไม่แน่ใจ ทำไมหรอครับ?" แวนเนสตอบแล้วย้อนถามด้วย
"เสี้ยวเทียนอยากไปทะเลน่ะ พ่อแม่เลยว่าจะพาน้องไปสุดสัปดาห์นี้ กะจะไปวันเสาร์แล้วค้างซักคืนค่อยกลับ" แม่บอกกล่าวให้รู้
"ไปทะเลหรอแม่? ผมว่างครับ" ไจ่ไจ๋รีบตอบขึ้นมาก่อน
"แม่ไม่ถามเราซักหน่อยเจ้าตัวแสบ" แม่หันไปพูดหยอกน้องเล็ก
"จะไม่ให้ผมไปด้วยหรอ?" น้องเล็กทำหน้ามุ่ย
"ไม่ให้ไปได้ยังงัย? แม่รู้อยู่แล้วว่าเราน่ะว่างแน่นอน ถึงยังไม่ถามงัยหละ" แม่ว่าแล้วขยี้หัวลูกชายอย่างเอ็นดู
"งั้นผมจะบอกเสี่ยวจือล่วงหน้า ยังงัยก็ไม่น่ามีปัญหาเพราะช่วงนี้มีแต่เข้าห้องอัด" แวนเนสตอบแล้วเตรียมวางแผนเสร็จสรรพ
"ไปทำอาหารทะเลกินกันด้วยนะ ไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นนานแล้ว" พ่อแม่ได้ยินก็หันไปยิ้มให้กัน
"ต้องปิ้งบาร์บีคิวด้วยถึงจะได้บรรยากาศ" ไจ่ไจ๋พูดเสริมด้วยแววตาเป็นประกาย
"แต่เสี้ยวเทียนไม่สบายอยู่นะครับ" คำพูดของพี่ใหญ่ทำเอาฝันหวานของน้องชายสองคนหายวับไปทันที
"ก็น้องอยากไปนี่ พ่อไม่รู้จะขัดยังงัย บางทีถึงปลายอาทิตย์แล้วน้องอาจจะหายดีแล้วก็ได้" พ่อแก้ตัวกลายๆ
"เฮ่อ! ผมไม่สงสัยเลยว่าทำไมพักหลังเสี้ยวเทียนถึงได้เอาแต่ใจนัก" เจอร์รี่บ่นอุบ
"โธ่! พี่ใหญ่ครับ ไม่เห็นเป็นไรเลย ถ้าพี่กลางไม่หายเราก็ไม่ต้องให้พี่เขาลงเล่นน้ำสิ แค่ได้ไปเที่ยวด้วยกันแค่นั้นพี่กลางก็น่าจะพอใจแล้ว ดีกว่าต้องนอนแหมะอยู่ในบ้านเป็นไหนๆ" น้องเล็กยกเหตุผลมาอ้าง
"ตัวเองน่ะอยากไปจนตัวสั่นน่ะสิ!" พี่ใหญ่เอานิ้วจิ้มหน้าผากน้องเบาๆ
"ก็อยากไปน่ะสิ เราตกลงกันตั้งนานแล้วว่าจะไปทะเลแต่ก็ยังไม่ได้ไปกันซักที คราวนี้เป็นโอกาสดีเพราะมีพ่อกับแม่ไปด้วย จะให้พลาดได้ยังงัยหละ?" น้องเล็กทำเสียงโอดครวญ
"ไม่รู้! วันเสาร์พี่ใหญ่ทำงาน" เจอร์รี่ตวัดเสียงเล็กน้อย
"ไม่ต้องไปทำ พ่อให้ลูกหยุด" พ่อพูดแทรกขึ้นมาทันควัน
"ผมงานเยอะ หยุดทีนึงต้องมานั่งสางงานอีกเป็นอาทิตย์" เจอร์รี่ยังคงส่ายหน้า
"งั้นทำแค่ครึ่งวันก็ได้ เราไปกันตอนเย็นอยู่แล้วนี่" พ่อแย้งต่อ
"ครึ่งวันผมก็ต้องสางงานต่อวันอื่นอยู่ดี" เจอร์รี่ตอบทันควัน
"พี่ใหญ่อ่ะ" น้องเล็กทำกระเง้ากระงอดแล้วหันหลังหนีพี่ชายอย่างงอนๆ เจอร์รี่แอบยิ้มกับท่าทางของน้อง
"พี่ใหญ่ไม่ไปก็ดีเหมือนกันว่ะไจ่ไจ๋ อย่างน้อยก็ไม่มีคนขัดใจพวกเราหละวะ ดีไม่ดีไอ้พี่กลางอาจจะได้โอกาสลงไปเล่นน้ำด้วย ถือว่าเป็นโอกาสดีเลย" พี่ใหญ่ได้ยินก็หันมาค้อนขวับ
"ชั้นไม่มีทางปล่อยให้พวกนายสบายขนาดนั้นหรอก! จะตามบ่นตามด่าพวกนายจนถึงที่สุดเลย!" ว่าพลางชี้หน้าน้องชายสองคนไปด้วย
"หึๆๆๆ ไม่แน่จริงนี่หว่า" แวนเนสแอบหัวเราะเบาๆ
"ตกลงไปมั๊ย?" แม่ถามย้ำอีกครั้ง
"ไปครับ" เจอร์รี่ตอบแบบไม่เต็มเสียงเท่าไหร่
"ไปทำไม? วันเสาร์ต้องทำงานไม่ใช่หรอ? หยุดทีต้องสางงานเป็นอาทิตย์ไม่ใช่หรอ?" ไจ่ไจ๋แขวะพี่ชายขึ้นมาได้
"ทำครึ่งวันก็ได้ อย่างน้อยงานก็ไม่ค้างมากหละ แล้วอีกอย่าง.....เพื่อแลกกับการไปทำลายความสุขของพวกนายเนี่ยพี่ยอม" พี่ใหญ่พูดประชดน้องเข้าให้บ้าง
"แหม....พี่ใหญ่เนี่ย น่ารักที่สุดในโลกเลย" ไจ่ไจ๋ขยับเข้าไปกอดแล้วหอมแก้มพี่ชายอย่างประจบ
"หึๆๆๆ" ในที่สุดเจอร์รี่ก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
"พ่อแม่ครับ เพิ่งมาเหนื่อยๆไปอาบน้ำแล้วนอนพักผ่อนเถอะครับ" เจอร์รี่พูดตัดบทเพราะเห็นว่าตั้งแต่มาถึงบุพการียังไม่ได้พักเลย
"อืม....ก็ดีเหมือนกัน พ่อก็รู้สึกเพลียๆแล้วสิ" พ่อเห็นด้วยกับคำพูดของลูกชาย
"งั้นมีอะไรเราคุยกันพรุ่งนี้นะลูก" แม่พูดทิ้งท้ายแล้วขยับตัวลุกขึ้น
"เดี๋ยวก่อนแม่" ไจ่ไจ๋ดึงแขนแม่ไว้แล้วยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่ให้หายคิดถึง
"อื้ม!!! ต้อนรับกลับบ้านแล้วก็นอนหลับฝันดีครับ" แม่ยิ้มแล้วพยักหน้าก่อนที่จะหอมแก้มลูกชายกลับ
"ฝันดีจ๊ะลูกรัก" จากนั้นก็เข้าไปหอมแก้มเจอร์รี่และแวนเนสด้วยก่อนที่จะเดินออกไปพร้อมกับพ่อ
"เราสองคนก็ไปนอนได้แล้ว" หลังจากพ่อแม่ออกไปพี่ใหญ่ก็หันมาบอกน้องๆ
"นอนนี่แหละ" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วล้มตัวนอนลงบนเตียงพี่ชายทันที
"ทั้งปีเลยเชียว" พึมพำเบาๆอย่างพอจะรู้แกลวน้องชาย
"แวนเนสนาย....." หันมาจะไล่แวนเนสกลับห้องแต่ยังพูดไม่จบพื้นที่บนเตียงเขาก็ถูกยึดครองไปอีกซีกหนึ่ง
"เฮ่อ!" ถอนหายใจแล้วส่ายหน้าไปมาแต่ก็เอาผ้าห่มมาห่มให้น้องชายทั้งคู่
"อยากไปเที่ยวเร็วๆจัง" ไจ่ไจ๋เอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
"พี่กลางนี่ก็ใช้ได้หนิ อ้อนพ่อแม่จนได้ไปเที่ยวเร็วซะขนาดนี้" แวนเนสหัวเราะแล้วพลิกตัวหันมาทางน้องชาย
"นายไม่รู้หรอว่าตอนนี้นายตกกระป๋องไปแล้ว พ่อแม่น่ะโอ๋พี่กลางอย่างกับอะไรดี" น้องเล็กค้อนใส่พี่ชาย
"ไม่จริงหรอก พ่อแม่น่ะก็ยังรักผมเหมือนเดิมแหละ" เถียงพี่ชายกลับ เจอร์รี่ได้ยินเสียงน้องๆคุยกันก็พลิกตัวหันมาฟังด้วย
"ไม่เหมือนเดิมแล้ว นายไม่เห็นหรอว่าพอเห็นหน้าปุ๊บพ่อแม่เดินรี่เข้าไปหาพี่กลางคนเดียวเลย" แวนเนสยังพูดแกล้งน้องต่อ
"ไม่ใช่! เพราะพี่กลางไม่สบายต่างหากพ่อแม่ถึงได้เข้าไปดูอาการพี่เขา" น้องเล็กเถียงกลับมาอีก
"ใช่ที่ไหน? ต่อให้พี่กลางไม่เป็นไรพ่อแม่ก็ต้องเข้าไปโอ๋พี่กลางอยู่ดี ไม่เชื่อนะรอดูตอนเช้าสิ ไม่พ่อก็แม่หละต้องไปนอนอยู่ห้องไอ้พี่กลาง หรือไม่อาจจะทั้งสองคนเลยก็ได้" แวนเนสเห็นน้องยุขึ้นก็แหย่น้องต่ออย่างสนุกปาก
"ก็พี่กลางป่วยอยู่พ่อแม่ก็ต้องเข้าไปดูแลอยู่แล้ว" ไจ่ไจ๋เถียงอีกแต่เริ่มหน้ามุ่ย
"ต่อให้มันไม่ป่วยพ่อแม่ก็ต้องหาโอกาสเข้าไปนอนกับมัน" เจอร์รี่ผงกหัวขึ้นมามองน้องชายทั้งสองคนก่อนที่จะยิ้มพลางส่ายหน้า
"โอ้ย!! จะพูดอีกนานมั๊ยพี่รอง!?" ในที่สุดน้องเล็กก็แหวใส่อย่างอดรนทนไม่ได้
"ทำไม? พูดแค่นี้ก็ฟังไม่ได้หรอ?" แวนเนสย้อนถามด้วยสีหน้าล้อๆ
"เงียบไปเลยนะ! กวนประสาท!" น้องเล็กไม่พูดเปล่าแต่กำหมัดทุบแขนพี่ชายเข้าให้ด้วย
"โอ้ย! ลงไม้ลงมือกับพี่เลยหรอไอ้ตัวแสบ!" แวนเนสคำรามแล้วจ้องหน้าน้องชายตาเขม็ง
"พี่ใหญ่.....ช่วยผมด้วย....." เห็นสีหน้าของแวนเนสแล้วไจ่ไจ๋ก็เริ่มไม่ไว้ใจ
"ช่วยไม่ได้หรอก! ตายซะเถอะ!" พูดจบแวนเนสก็พลิกตัวขึ้นไปทับน้องชายแล้วจับมือน้องทั้งสองข้างชูขึ้นเหนือหัวพร้อมกับกดไว้ไม่ให้ดิ้นและใช้มืออีกข้างจี้เอวน้อง ยังผลให้ไจ่ไจ๋หัวเราะเสียงดังลั่น
"ฮ่าๆๆๆๆ!!! โอ้ย!!! ยอมแล้วๆๆๆๆ!!! ฮ่าๆๆๆ!!!!" แวนเนสเองก็หัวเราะในขณะที่ยังจี้เอวน้องไม่หยุด
"เฮ้ยๆๆๆ!!! พอได้แล้ว!!" ร้อนถึงพี่ใหญ่ต้องลุกขึ้นมาห้ามปราม แวนเนสจึงพลิกตัวกลับมานอนที่เดิมแต่ยังหัวเราะไม่เลิก
"เล่นอะไรกันไม่เข้าเรื่องเลย พ่อแม่จะพักผ่อนนะ เสี้ยวเทียนมันก็ป่วยอยู่ยังจะทำเสียงดังกันอีก" เอ็ดน้องชายทั้งคู่แต่สีหน้ากลับพยายามกลั้นยิ้ม
"ก็พี่รองแกล้งผมก่อนนี่" น้องเล็กเถียงออกมาเบาๆ
"ยังจะเถียงอีก" พี่ใหญ่ทำเสียงดุๆ
"พี่รองจี้เอวผมด้วย ผมไม่ยอมหรอก" น้องเล็กประกาศแล้วทำท่าจะเอาคืนแต่เจอร์รี่ถลึงตาใส่น้องก่อน
"ถ้าพูดไม่ฟังก็กลับไปนอนที่ห้องเลย!" ไจ่ไจ๋มองพี่ใหญ่หน้ามุ่ยไม่พอใจที่พี่ชายเข้าข้างแวนเนส
"บอกแล้วว่านายตกกระป๋อง พ่อแม่ก็โอ๋แต่พี่กลาง พี่ใหญ่ก็เข้าข้างพี่ซะงั้น โดดเดี่ยวแล้วไอ้น้องรัก" แวนเนสเปรยขึ้นลอยๆ น้องเล็กหน้างอหนักกว่าเก่า
"นอนกันเถอะนะพี่ใหญ่" แวนเนสหันมาพูดกับพี่ชายเสียงหวานจ๋อย เจอร์รี่พยักหน้าแล้วขยับตัวลงนอน ในขณะที่ไจ่ไจ๋ยังนั่งมองพี่ชายทั้งคู่ด้วยสีหน้าขัดใจ
"หาววว.....ง่วงจริงๆ....." แวนเนสหาวและได้ทีขยับเข้าไปกอดพี่ชาย พี่ใหญ่เองก็เต็มใจกอดน้องตอบเช่นกัน น้องเล็กเห็นก็เบือนหน้าหนีด้วยรู้สึกน้อยใจที่พี่ชายไม่สนใจ
"ไจ่ไจ๋" เจอร์รี่ผงกหัวขึ้นมาเรียกน้องเบาๆ ไจ่ไจ๋หันกลับมามองด้วยสีหน้าบึ้งตึง แต่พอเห็นพี่ชายส่งสัญญาณให้ล้างแค้นแวนเนสก็เริ่มยิ้มออก
"จัดการ" พูดโดยไม่ออกเสียงแล้วกอดแวนเนสไว้แน่นเพื่อที่ว่าจะได้ต่อสู้ไม่ได้
"เฮ้ย!!! ฮ่าๆๆๆ!!! ไจ่ไจ๋!!! ไม่เอา!! โอ้ยๆๆๆ!!! ฮ่าๆๆๆ!!!!" แวนเนสได้แต่ส่งเสียงโวยวายพร้อมกับดิ้นแต่ก็สู้ไม่ได้เพราะโดนพี่ใหญ่กอดไว้แน่น
"นี่แหนะๆๆๆๆ แกล้งนักใช่มั๊ย? นี่ๆๆๆๆ" ไจ่ไจ๋แกล้งพี่ชายกลับอย่างสนุกสนาน หลังจากได้เสียงหัวเราะกันพอหอมปากหอมคอแล้วสงครามย่อยๆก็ยุติลง
"โอ้ยยย....ปวดเอวไปหมดเลย....." แวนเนสบ่นอุบออกมา
"หึๆๆๆ" พี่ใหญ่กับน้องเล็กหัวเราะเบาๆ
"พรุ่งนี้แอ๊คท่าไม่ออกพวกนายตายแน่" พูดขู่พี่น้องไว้แล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมหน้าหันหน้าเข้าหากำแพง
"โอ๋ๆๆๆ อย่างอนเลยนะครับ อื้ม!" น้องเล็กขยับเข้าไปหอมแก้มพี่ชายเป็นเชิงง้อ แวนเนสแกล้งทำเป็นนิ่งแต่แล้วก็อดที่จะยิ้มไม่ได้
"พี่จะนอนแล้ว ฝันดีนะ" พูดจบแวนเนสก็เหนี่ยวคอน้องเข้ามาใกล้แล้วจุ๊บเบาๆที่หน้าผาก
"ฝันดีครับ" น้องเล็กพูดตอบรับเบาๆแล้วนอนลงข้างๆแวนเนส
"ฝันดีครับพี่ใหญ่" แวนเนสพูดพึมพำต่อเบาๆแล้วหลับตาลงด้วยรู้สึกง่วงนอนเต็มที
"ครับ" พี่ใหญ่ตอบรับแล้วเอื้อมมือมาขยี้หัวน้องอย่างเอ็นดู จากนั้นก็ตรวจดูความเรียบร้อยของน้องๆก่อนที่จะนอนลงบ้าง
"ผมดีใจจังที่พ่อแม่กลับมา" น้องเล็กพลิกตัวกลับมาทางพี่ใหญ่แล้วพูดกระซิบเบาๆ
"พี่ก็ดีใจเหมือนกัน" เจอร์รี่พูดตอบโต้กับน้องเบาๆเช่นกัน
"พรุ่งนี้ให้พ่อกับแม่ไปส่งที่มหาลัยดีกว่า ไม่ต้องขับรถเอง" น้องเล็กวางแผน
"หึๆๆๆ นอนได้แล้วไอ้ตัวยุ่ง" พี่ใหญ่หัวเราะก่อนที่จะพูดตัดบทแล้วขยับตัวเข้าไปกอดน้อง
"ราตรีสวัสดิ์ครับพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋พึมพำแล้วหลับตาลงในอ้อมกอดของพี่ชาย
"ครับ" ตอบรับคำน้องสั้นๆแล้วหลับตาลงด้วยเช่นกัน




 

Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2550 22:48:30 น.
Counter : 1046 Pageviews.  

Chapter 18

ตอนที่ 18
"พี่ใหญ่กับพี่กลางยังไม่กลับมาอีกหรอ?" แวนเนสเอ่ยถามน้องชายที่กำลังง่วนอยู่กับการเปิดตำราอาหาร
"ยังครับ พี่ใหญ่โทรมาบอกว่าพอออกจากโรงบาลได้พี่กลางก็อ้อนให้พี่ใหญ่พาไปบ้านอาเจียงก่อน พี่ใหญ่ไม่อยากขัดใจก็เลยพาไปน่ะครับ" ไจ่ไจ๋ตอบทั้งๆที่ยังก้มหน้าทบทวนตำราอาหารอยู่
"ไปบ้านอาเจียงหรอ? มันจะไปทำอะไร?" แวนเนสถามต่อ
"ไม่รู้เหมือนกัน เห็นว่าจะไปเอาของ" ไจ่ไจ๋แล้วเงยหน้าขึ้นมามองพี่ชายเป็นครั้งแรก
"ซื้ออะไรมาน่ะ?" ถามเสียงห้วนเล็กน้อยเมื่อเห็นแวนเนสถือถุงพะรุงพะรัง
"อ้อ! เปล่าหรอก พี่แค่ซื้ออาหารแช่แข็งมาน่ะ กะว่าเวลาว่างๆก็เอามาทอดกินเล่นๆงัย" แวนเนสรีบแก้ตัวเพราะกลัวน้องจะหาว่าตัวเองไม่ไว้ใจฝีมือทำกับข้าวของน้อง
"ไม่ใช่กลัวผมจะทำอาหารออกมาไม่ได้เรื่องนะ!" ไจ่ไจ๋ดักคอพี่ชายเสียงเข้ม
"ไม่ใช่ซักหน่อย นี่.....พี่ซื้อแต่ของกินเล่นทั้งนั้น ไม่มีกับข้าวอะไรเลย ดูสิ....มีพวกเฟรนส์ฟราย ปลาทิพย์ กุ้งชุบแป้งทอด ซาลาเปา ขนมจีบ เห็นมั๊ย? ไม่มีอะไรเป็นกับข้าวได้เลย" แวนเนสว่าพลางกางถุงให้น้องดู
"งั้นก็ดี เอาไปเก็บในตู้เย็นสิ แล้วมาช่วยกันทำกับข้าว" เมื่อได้เห็นของแล้วไจ่ไจ๋ก็ยอมเชื่อ แวนเนสทำหน้าหน้าเบ้แต่ก็เอาของไปเก็บแล้วเดินกลับออกมาอีก
"นายจะทำอะไรบางหละ?" แวนเนสนั่งลงข้างน้องพร้อมกับถามเมนูอาหารที่น้องจะทำ
"ทำกระเพราหมูกรอบ ปลานึ่งมะนาว คะน้าผัดน้ำมันหอย แล้วก็แกงจืดสาหร่ายใส่เต้าหู้ไข่" ไจ่ไจ๋ร่ายเมนูให้พี่ชายฟัง
"ทำตั้งหลายอย่างเชียว จะเสร็จหรอวันนี้?" แวนเนสอดปากไว้ไม่ได้ น้องเล็กจึงหันมาค้อน
"เอ่อ....เปล่าซักหน่อย พี่ไม่ได้ว่าอะไรเลย" แวนเนสแก้ตัวทันที ไจ่ไจ๋ปิดเมนูแล้วฉุดแขนพี่ชายให้ลุกขึ้น
"หยุดพูดมากซักที! เข้ามาช่วยผมเลยเร็วๆ" พูดจบก็ลากพี่ชายเข้ามาในครัว
"นายซื้อของมาครบแล้วหรอ?" แวนเนสถามน้องพร้อมกับเปิดตู้เย็นหาส่วนประกอบ
"ครบแล้วครับ ขนาดหมูกรอบเนี่ยผมยังซื้อหมูสามชั้นมาทอดเองเลยนะ" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วหยิบถุงหมูสามชั้นออกมา แวนเนสทำหน้าแปลกๆพิกลแต่ก็ยิ้มแหยๆแล้วพยักหน้า
"งั้นเราจะเริ่มทำอะไรก่อนดี?" แวนเนสถามต่อ
"ล้างผักก่อนดีกว่า พี่รองทำนะ" ไจ่ไจ๋หางานให้พี่ชาย
"เออได้ แล้วนายหละจะทำอะไร?" แวนเนสถามถึงน้องชายบ้าง
"ผมจะทำปลา" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วหยิบปลาออกมาล้างน้ำ
"นายทำเป็นหรอ?" แวนเนสถามต่ออย่างไม่แน่ใจ ไจ่ไจ๋อึ้งไปเล็กน้อยก่อนที่จะยิ้มแหยๆให้พี่ชาย
"ทำไม่เป็น" แวนเนสเอามือตบหน้าผากตัวเองอย่างเหนื่อยใจ
"พี่รองทำเป็นหรือเปล่าหละ?" ย้อนถามพี่ชายบ้าง แวนเนสทำหน้าเบ้แล้วส่ายหน้าปฏิเสธ
"ตอนนายซื้อมาน่ะเลือกเองหมดเลยหรอ?" แวนเนสถามพร้อมกับพยักหน้าไปทางข้าวของที่วางกองอยู่บนโต๊ะ
"เปล่า หลิงหลิงช่วยเลือก" ไจ่ไจ๋ตอบสีหน้าเจื่อนๆ
"หลิงหลิง?" แวนเนสทำหน้างงๆ
"อ๋อ! หลิงเอ๋อแฟนนาย?" พูดเป็นเชิงถาม ไจ่ไจ๋ยักคิ้วให้พี่ชายแล้วหันกลับมามองปลาเจ้าปัญหาอย่างหนักใจ
"ทำไมไม่ลากเขามาทำให้ซะเลยหละ?" แวนเนสถามต่อพร้อมกับหยิบผักออกมาล้าง
"ผมอยากทำเอง ความจริงหลิงหลิงก็เสนอจะมาช่วยทำนะแต่ผมปฏิเสธเพราะอยากทำให้พี่กลางแปลกใจ" ไจ่ไจ๋เล่าให้ฟัง
"ว่างๆพามาบ้านเราหน่อยก็ดีนะ พวกพี่จะได้รู้จักด้วย" แวนเนสบอกน้องกลายๆ
"รู้แล้วครับ เพิ่งจะเริ่มคบกันเอง ขออีกระยะนึงนะ" ไจ่ไจ๋ตอบด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว แวนเนสยิ้มแล้วเอามือผลักหัวน้องเบาๆ
"ผมรู้ละต้องทำยังงัย?" หลังจากที่ยืนจ้องมองปลาอยู่ครู่หนึ่งไจ่ไจ๋ก็ร้องขึ้น
"ทำงัยหละ?" แวนเนสถามต่อ
"นึ่งมันทั้งแบบนี้แหละ ยังงัยซะพอสุกแล้วก็กินได้หมด" ไจ่ไจ๋ตอบด้วยน้ำเสียงร่าเริง
"ไจ่ไจ๋เอ้ย! แล้วเกร็ดมันไม่คิดจะเอาออกหรอ?" แวนเนสท้วงติง
"ต้องเอาออกด้วยหรอครับ?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายซื่อๆ แวนเนสถึงกับถือผักค้างเมื่อได้ยินคำถามน้อง
"ต้องเอาออกสิครับ คุณน้องจะนั่งแทะเกร็ดปลาด้วยหรืองัย?" ถามเป็นเชิงประชดเล็กๆ
"ก็คนมันไม่รู้หนิ อย่าทำให้เสียกำลังใจสิ" ไจ่ไจ๋ต่อว่าพี่ชาย เริ่มหนักใจกับการทำอาหารขึ้นมา
"พี่ว่านายมาล้างผักดีกว่า เดี๋ยวไอ้ปลาตัวนั้นพี่จัดการเอง" แวนเนสตัดบทเพราะเห็นท่าว่าขืนปล่อยให้น้องทำปีนี้ก็คงไม่เสร็จแน่ ไจ่ไจ๋เองก็ยอมแลกหน้าที่กับพี่ชายโดยดี จนเมื่อล้างผักเสร็จแล้วไจ่ไจ๋ก็จะทอดหมูสามชั้นเพื่อจะทำหมูกรอบ
"พี่รองว่าใส่น้ำมันแค่นี้พอมั๊ย?" ไจ่ไจ๋หันมาถามพี่ชายเป็นเชิงปรึกษา แวนเนสหันมาตามเสียงน้อง
"น้อยไป ใส่ลงไปอีก" แวนเนสว่าแล้วบอกให้น้องเติมลงไปอีก
"ไม่พอหรอก ทอดของพวกนี้ต้องใช้น้ำมันเยอะๆ" พูดจบแวนเนสก็เทน้ำมันลงไปทั้งขวด
"เยอะขนาดนี้เลยหรอ?" ไจ่ไจ๋มองน้ำมันในกะทะอย่างอึ้งๆ แวนเนสคว้าหนังสือตำราอาหารขึ้นมาอ่านๆดูแต่ก็ไม่มีบอกไว้ในนั้นว่าให้ใช้น้ำมันมากแค่ไหน
"เออ! แค่นี้แหละ เอ....หรือว่าน้อยไปหว่า?" สองพี่น้องมองหน้ากันไปมา
"ลองดูก่อนซักชิ้นนึงก็ได้" ไจ่ไจ๋พูดปลอบใจตัวเองและปลอบใจพี่ชายด้วย แวนเนสพยักหน้าตามนั้นแล้วมายืนช่วยลุ้นกับน้อง
"น้ำมันเดือดแล้วอ่ะ พี่รองใส่ให้หน่อยสิ" ไจ่ไจ๋บอกให้พี่ชายเอาหมูสามชั้นใส่ลงในกะทะ
"ทำไมนายไม่ใส่เองหละ?" แวนเนสย้อนถาม
"ผมไม่ถนัดเท่าไหร่" น้องเล็กตอบแล้วยื่นจานที่ใส่หมูสามชั้นให้พี่ชายอย่างบังคับ แวนเนสรับมาอย่างจำใจแล้วโยนหมูลงไปทั้งจาน ยังผลให้ควันขึ้นโขมงพร้อมกับน้ำมันที่พร้อมใจกันกระเด็นขึ้นมาอย่างไม่ปรานี สองพี่น้องกระโดดหนีกันโดยไม่ได้นัดหมาย
"ไอ้หย่า! ทำไมเป็นแบบนี้หละ? พี่รอง! ปิดเตาหน่อย!" ไจ่ไจ๋ร้องบอกพี่ชาย
"หนอย! ใช้ใหญ่เลยนะ นายเป็นคนคิดจะทำเอาก็ไปปิดเองดิวะ เดี๋ยวน้ำมันกระเด็นใส่เสียโฉมหมด!" แวนเนสปฏิเสธไม่ยอมเข้าไปใกล้เลยแม้แต่น้อย
"ก็ผมบอกให้ใส่ชิ้นเดียวแต่พี่รองเล่นโยนลงไปหมดเลยนี่นา" ไจ่ไจ๋โทษพี่ชายหน้าตาเฉย
"ก็นายส่งมาให้พี่ทั้งจานนี่หว่า" แวนเนสเถียงกลับ
"โอ้ย! แล้วจะทำยังงัยเนี่ย?" น้องเล็กร้องโอดครวญ แวนเนสถอนหายใจเฮือกแล้วทำท่าจะเข้าไปปิดเตาแต่พอเห็นน้ำมันยังกระเด็นกระดอนอยู่ก็เกิดอาการรีๆรอๆ
"เฮ้ย!!! ทำอะไรกันวะเนี่ย!!!" และแล้วบุคคลที่ช่วยชีวิตก็ปรากฏขึ้น แวนเนสกับไจ่ไจ๋หันไปทางต้นเสียงอย่างดีใจ
"พี่ใหญ่! ไปปิดเตาให้หน่อยสิ" ไจ่ไจ๋ร้องบอกพี่ชายคนโต เจอร์รี่รีบเดินเข้าไปแล้วเอื้อมมือไปปิดเตาแก๊สในทันที
"จะเผาบ้านกันหรืองัย?" หันมาเอ็ดใส่น้องชายทั้งคู่ที่ได้แต่ทำหน้าจ๋อยๆ
"โห! ทำอะไรกันเนี่ย?" เคนที่เดินตามเข้ามาเอ่ยขึ้นอย่างงงๆ
"ก็ไจ่ไจ๋น่ะสิ นึกอยากจะทำกับข้าวให้นายกิน ก็เป็นแบบที่เห็นนี่แหละ" แวนเนสโทษน้องเล็กทันที
"หา?? นายเนี่ยนะจะทำกับข้าวให้พี่กิน?" เคนพูดขึ้นอย่างไม่ค่อยเชื่อ ไจ่ไจ๋หน้าจ๋อยหนักกว่าเดิม
"ก็ผมเห็นพี่ไม่สบาย อยากทำกับข้าวเพื่อต้อนรับพี่กลับบ้านซักหน่อย ไม่นึกว่ามันจะเป็นแบบนี้" น้องเล็กพูดเสียงอ่อย
"ผมขอโทษที่ก่อเรื่องวุ่นวาย ทำไม่เป็นแล้วยังไม่เจียมตัวอีก" น้องเล็กเริ่มน้ำตาซึมด้วยความผิดหวังที่ทำไม่สำเร็จ พี่ชายสามคนมองหน้ากันไปมา
"เอ่อ....ไม่มีใครโทษนายหรอก พอดีพี่ตกใจน่ะนึกว่าเกิดอะไรขึ้นเลยเผลอทำเสียงดังใส่นาย พี่ขอโทษนะ" เจอร์รี่กอดคอน้องชายพร้อมกับพูดปลอบ
"ใช่ๆๆๆ ความจริงพี่ผิดเองแหละที่โยนหมูลงไปทั้งจานน้ำมันเลยเป็นแบบนี้ นายอย่าเสียใจไปเลย เดี๋ยวเราช่วยกันทำต่อนะ" แวนเนสเองก็รู้ตัวว่าพูดเกินไปจึงรีบโอ๋น้องทันที
"ไม่หรอก พี่รองพูดถูกแล้วหละ ผมไม่น่าคิดทำอะไรโง่ๆแบบนี้เลย เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมออกไปซื้ออะไรมาให้พวกพี่กินดีกว่า" ไจ่ไจ๋ส่ายหน้าพร้อมกับพูดตัดบทแล้วทำท่าจะเดินออกไปแต่เคนดึงแขนน้องไว้ก่อน
"ทำแบบนี้ได้ยังงัย? พี่ยังไม่ทันได้ชิมฝีมือนายเลยนะ จะหลอกให้พี่ดีใจเก้อหรอ?" ไจ่ไจ๋เงยหน้ามองพี่ชายที่กำลังมองมาที่เขาด้วยแววตาอ่อนโยน
"แต่ผมทำไม่ได้" น้องเล็กแย้งน้ำตาร่วงเผาะลงมาทันที
"ทำได้สิ นายต้องทำได้ มีพี่ชายเป็นเชฟบนเรือสำราญขนาดนี้ขืนน้องชายทำอาหารไม่เป็นก็ขายหน้าเขาแย่เลย เชื้อพี่มันต้องตกไปถึงนายบ้างแหละ" เคนว่าพลางเอามือเช็ดน้ำตาให้น้องอย่างแผ่วเบา
"พี่จะรอชิมฝีมือนายนะ หืม?" เคนพูดเป็นเชิงย้อนถาม ไจ่ไจ๋เอามือปาดน้ำตาตัวเองแล้วพยักหน้ารับ
"ต้องอย่างนี้สิ ทำให้สุดฝีมือเลยนะ" พูดจบก็ขยี้หัวน้องอย่างเอ็นดู
"นายไม่ต้องห่วงเสี้ยวเทียน รับรองว่าอาหารมื้อนี้จะทำให้นายลืมไม่ลงเลยหละ ไป.....ขึ้นไปนอนพักก่อนเดี๋ยวเสร็จแล้วจะตามลงมากิน" แวนเนสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริง
"ได้....ชั้นจะรออย่างใจจดใจจ่อเลยหละ" เคนรับปากแล้วหันไปยิ้มให้กำลังใจน้องเล็ก ไจ่ไจ๋ยิ้มตอบพี่ชายแล้วพยักหน้าให้
"ตอนนี้นายมีลูกมือเพิ่มขึ้นอีกคนนึงแล้ว เพราะพี่ใหญ่ก็จะช่วยเราด้วย ใช่มั๊ยครับ?" แวนเนสหันมาถามพี่ชาย เจอร์รี่อึ้งไปเล็กน้อยก็ที่จะพยักหน้ารับ
"อืม! พี่จะช่วยพวกนายด้วย แต่ขอพาคนป่วยขึ้นไปพักก่อนนะ" พูดจบก็พาเคนไปนอนพักข้างบน
"ไหม้หมดแล้วอ่ะพี่รอง" ไจ่ไจ๋เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าๆแล้วเอาตะหลิวตักหมูสามชั้นในกะทะขึ้นมาทิ้ง
"ช่างมันเถอะ เพิ่งลองทำเป็นครั้งแรกก็แบบนี้แหละ ในตู้เย็นมีหมูสับอยู่แหนะ เปลี่ยนเมนูเป็นกระเพราหมูสับแล้วกัน" แวนเนสพยายามปลอบใจน้อง
"อืม....เอางั้นก็ได้" ไจ่ไจ๋พยักหน้ารับแล้วเดินไปหยิบหมูสับออกมา แวนเนสเห็นน้องซึมๆจึงเดินเข้าไปกอดหลวมๆ
"ผมไม่เป็นไรหรอกครับพี่รอง แค่ผิดหวังนิดหน่อยที่ไม่เป็นเหมือนที่ตั้งใจไว้" ไจ่ไจ๋บอกพี่ชาย แวนเนสหอมแก้มน้องชายเบาๆ
"อย่าคิดมากเลยนะ เรามาช่วยกันทำอีกครั้ง คราวนี้ต้องสำเร็จแน่ๆ" พูดให้กำลังน้องชาย น้องเล็กยิ้มแล้วพยักหน้ารับ
"อะฮึ่ม! มัวแต่อ้อนกันอยู่นั่นแล้ววันนี้จะได้กินมั๊ยครับ?" พี่ใหญ่ส่งเสียงแซวขึ้นมา แวนเนสจึงผละออกจากน้อง
"นายล้างกะทะให้ทีซิ" แวนเนสหันมาใช้พี่ชาย
"ได้ทีเลยนะไอ้ตัวแสบ!" เจอร์รี่ต่อว่าน้องแต่ก็เดินไปหยิบกะทะมา
"โอโห! ทำไมน้ำมันเยอะขนาดนี้หละ?" เมื่อเห็นน้ำมันในกะทะพี่ใหญ่ก็อุทานออกมา
"พี่รองเขาใส่หมดขวดเลยพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋ได้ทีฟ้อง
"อ้าว! เรื่องอะไรมาโทษพี่หละ?" แวนเนสโวยวายต่อทันที
"ก็มันจริงหนิ ผมใส่ไปนิดเดียวแต่พี่รองมาถึงเทหมดขวดเลยพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋ฟ้องต่อ เริ่มรู้สึกอารมณ์ดีขึ้น
"ฮึ! เรานั่นแหละไม่รู้เรื่องยังมีหน้าไปโทษน้องอีก ใส่เยอะแบบนี้น่ะสิควันถึงโขมงขนาดนั้น แล้วมันเปลื้องมั๊ยฮึ?" พี่ใหญ่เข้าข้างน้องเล็กโดยหันไปว่าแวนเนสเข้าให้
"ไม่รู้! ไม่เคยทำนี่หว่า" แวนเนสยักไหล่อย่างไม่สนใจ
"หยิบเอาชามใบใหญ่มาให้ชั้นซิ เร็วๆด้วย!" เจอร์รี่ใช้น้องต่อ แวนเนสเบ้ปากใส่แต่ก็หยิบชามมาให้พี่ชายแต่โดยดี
"พี่ใหญ่จะทำอะไรหรอ?" น้องเล็กถามอย่างสงสัย
"จะเทน้ำมันเก็บไว้น่ะสิ วันหลังจะทอดอะไรก็ใช้น้ำมันนี่ได้อีก" เจอร์รี่อธิบายให้น้องฟัง
"แล้วมันไม่เสียหรอ? ใช้แล้วใช้ต่อได้อีกหรอ?" น้องเล็กซักไซร้อีก
"ได้สิ ส่วนใหญ่น้ำมันที่เขาใช้ทอดเนี่ยจะใช้ต่อกันทั้งนั้นแหละไม่เสียหรอก" ไจ่ไจ๋พยักหน้าหงึกๆ
"เอ้า! ลงมือทำต่อสิ เดี๋ยวพี่กลางมันหิวขึ้นมาแล้วอาละวาดจะแย่กันหมดนะ" เจอร์รี่ตัดบทให้น้องๆลงมือเตรียมกับข้าวต่อ หลังจากเตรียมเครื่องปรุงครบหมดแล้วเจอร์รี่กับแวนเนสก็ตัดสินใจปล่อยให้น้องลงมือทำเอง
"อะ....ผัดกระเพราก่อน" พี่ใหญ่พยักหน้าให้น้องชายจัดการทำอาหาร ไจ่ไจ๋ทำหน้าแหยๆ
"พี่ใหญ่ผัดก็ได้นะ" บอกปัดให้พี่ชายทำ
"ไม่เอา พี่กลางมันอยากชิมฝีมือนาย ทำเร็วเข้า" พี่ใหญ่ปฏิเสธพร้อมกับกระตุ้นให้น้องทำ ไจ่ไจ๋จึงเดินไปเปิดเตาแล้วใส่กระเทียมลงไปผัดแต่พอใส่ลงไปแล้วน้ำมันก็กระเด็นขึ้นมาโดนที่นิ้ว
"อู้ย!! น้ำมันกระเด็น!" ไจ่ไจ๋ร้องอุทานพลางกระโดดไปมาแต่ก็เอาตะหลิวแหย่ๆลงไปผัดในกะทะด้วย พี่ชายสองคนที่ยืนดูอยู่พากันหัวเราะกับท่าทางของน้อง
"อยู่ห่างซะขนาดนั้นจะเห็นหรอว่ามันสุกหรือยัง? เข้าไปใกล้ๆหน่อยสิ!" แวนเนสว่าแล้วผลักน้องเบาๆ
"อู้ยๆๆๆ!!! ก็น้ำมันมันกระเด็นใส่อ่ะ อู้ยยย....แสบๆๆๆ" ไจ่ไจ๋ร้องโวยวายแล้วเอื้อมมือไปปิดเตาแก๊ส
"อ้าว! ปิดทำไมหละ? ยังไม่ทันใส่อย่างอื่นเลย" เจอร์รี่พูดด้วยเสียงปนหัวเราะ ไจ่ไจ๋วางตะหลิวลงแล้วเอานิ้วใส่ปาก
"เอ้ย! เอานิ้วเข้าปากทำไม? สกปรก! เอาออกมา" เจอร์รี่ว่าพร้อมกับดึงมือน้องออกจากปาก
"ไม่ต้องยุ่งน่า! อมไว้แบบนี้แหละเดี๋ยวก็หาย" น้องเล็กสะบัดมือพี่ชายออกแล้วเอานิ้วเข้าปากดังเดิม
"จะบ้าหรืองัย! ไปล้างน้ำแล้วเอายามาทา" พี่ใหญ่ดึงมือน้องออกมาแล้วพาไปล้างน้ำ
"แวนเนส ไปเอายามาทาให้น้อง" หันไปร้องบอกแวนเนส
"ฮ่าๆๆๆ!!! อาหารมื้อนี้กว่าจะเสร็จได้ต้องผ่านวิบากกรรมอย่างหนักแน่เลย" แวนเนสพูดอย่างขำๆในระหว่างทายาให้น้องชาย
"ไม่ต้องพูดมากหรอกน่า! พี่รองหละ? ทำได้หรือเปล่า?" ไจ่ไจ๋ต่อว่าแวนเนสเข้าให้บ้าง
"ทำได้สิ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้" แวนเนสพูดหน้าตาเฉย เจอร์รี่มองน้องชายทั้งคู่แล้วส่ายหน้าไปมา
"พี่ว่าว่างๆจะจับพวกนายไปเข้าคอร์สทำอาหารซักหน่อยดีกว่า เรียนไว้ให้มีพื้นฐานต่อไปเวลาทำพี่จะได้ไม่ต้องเข้ามาคุม" น้องชายสองคนได้ยินก็หันไปทำหน้ามุ่ยใส่พี่ชาย
"ยังจะมามองอีก ไปทำต่อเลยเร็วๆ" เมื่อเห็นน้องมองพี่ใหญ่ก็แกล้งเอ็ดใส่
"ไม่เอาแล้ว พี่ใหญ่ไปทำเองเหอะ นิ้วเจ็บทำไม่ได้แล้ว" ไจ่ไจ๋โยนไปให้พี่ชายหน้าตาเฉย
"เรื่องอะไร? นายรับปากพี่กลางว่าจะทำให้มันกินเองไม่ใช่หรอ?" เจอร์รี่ส่ายหน้าปฏิเสธ
"งั้นพี่รองไปทำซิ" หันไปโยนให้แวนเนสแทน
"ไม่เอา! พี่ไม่ได้อยากทำให้มันกินซักหน่อย" แวนเนสเองก็รีบปฏิเสธเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนั้นน้องเล็กจึงค้อนใส่พี่ชายแล้วเดินกลับไปจัดการกับมื้ออาหารเจ้าปัญหาเสียเอง จนในที่สุดอาหารทุกอย่างก็ออกมาเสร็จสมบูรณ์โดยฝีมือไจ่ไจ๋ล้วนๆ

- ห้องนอนของเคน -
"พี่กลางครับ" ไจ่ไจ๋เดินมาคุกเข่าข้างเตียงพี่ชายพร้อมกับร้องเรียกเบาๆ
"หืม? มีอะไร?" เคนตอบรับเสียงอ้อแอ้เพราะเพิ่งตื่น
"กับข้าวเสร็จแล้ว ลงไปกินข้าวเร็ว" ไจ่ไจ๋บอกพี่ชายพร้อมกับใช้มือตบแก้มพี่ชายเบาๆ
"เสร็จแล้วหรอ? อืม....ได้ๆๆๆ" เคนรับคำแต่ก็หลับตาลงตามเดิม
"อ้าว! ยังไม่ตื่นอีก ไหนบอกอยากกินฝีมือผมนักหนางัย?" น้องเล็กเริ่มหน้าง้ำ เคนหรี่ตาขึ้นมามองน้องก่อนที่จะอดยิ้มเล็กน้อย
"ก็อยากกินแต่นอนก่อนไม่ได้หรอ?" เคนแกล้งถาม
"ไม่ได้! เดี๋ยวเย็นชืดหมดก็ไม่อร่อยกันพอดี" น้องเล็กตวัดเสียงเล็กน้อย
"ถ้าของมันอร่อยจริงทิ้งไว้นานแค่ไหนก็ต้องอร่อยเหมือนเดิมสิ" เคนพูดแหย่น้อง
"ถ้าไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน! นอนต่อไปเลยละกัน!" พูดจบไจ่ไจ๋ก็ลุกพรวดขึ้น เคนลืมตาขึ้นมาแล้วรีบคว้าตัวน้องไว้ก่อน
"ใครบอกไม่อยากกินหละ? น้องชายสุดที่รักทำให้ทั้งทีถ้าไม่ได้กินต้องเสียชาติเกิดแหงๆ" พูดจบก็หอมแก้มน้องฟอดใหญ่
"แหวะ! ตัวเหม็นเชียว!" แล้วเคนก็ทำหน้าเบ้เมื่อได้กลิ่นน้ำมันที่ปนกับกลิ่นเหงื่อไคลของน้องชาย
"แค่นี้ทำเป็นรังเกียจ! ตัวเองน่ะไม่ได้อาบน้ำมากี่วันแล้ว?" น้องเล็กโวยวายพร้อมกับต่อว่าพี่ชายกลับ เคนเลยหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี
"โอ๋ๆๆๆ พูดเล่นเองน่า ใครจะรังเกียจน้องชายคนนี้ได้หละ?" ว่าพลางขยี้หัวน้องอย่างเอ็นดู
"ไม่ต้องมาทำเป็นปากหวาน! ลุกเร็วเข้าสิ!" แหวใส่พี่ชายเข้าให้อีกครั้งแล้วหมุนตัวจะออกไปก่อน
"ไจ่ไจ๋....ปกติเวลานายป่วยพี่ก็ดูแลนายอย่างดีเลยใช่มั๊ย?" คำถามของพี่ชายทำเอาน้องเล็กชะงักไป
"แล้วตอนนี้พี่ป่วยขึ้นมาบ้างนายจะยอมดูแลตามใจพี่เหมือนที่พี่เคยทำให้นายหรือเปล่า?" ไจ่ไจ๋หมุนตัวกลับมาแล้วมองหน้าพี่ชาย
"พี่กลางจะให้ผมทำอะไรก็บอกมาสิครับ ผมเต็มใจทำให้ทุกอย่าง" ไจ่ไจ๋รับคำพี่ชายหนักแน่น
"นายพูดจริงๆนะ" เคนย้ำคำน้อง
"ครับ พี่ว่ามาได้เลย" ไจ่ไจ๋ผงกหัวรับดยไม่ทันคิดว่าจะโดนพี่ชายแกล้ง
"คือว่าพี่เวียนหัวน่ะเดินไม่ค่อยไหวนายแบกพี่ลงไปได้เปล่า?" คำขอร้องนั้นทำเอาไจ่ไจ๋มีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
"แบกพี่ลงไปเนี่ยนะ?" น้องเล็กทวนคำอย่างอึ้งๆ
"อืม....ทำไม? แค่นี้ช่วยไม่ได้หรอ?" เคนตีหน้าเศร้าเมื่อเห็นน้องทำท่าจะปฏิเสธ
"เอ่อ....แหะๆๆๆ พี่ล้อผมเล่นเปล่าเนี่ย?" น้องเล็กทำหน้าแหยๆ
"ว่าแล้วว่านายต้องปฏิเสธ พี่เดินเองก็ได้ตกบันไดก็ช่างหัวมัน" พูดจบเคนก็ลุกเดินออกไปอย่างงอนๆ ไจ่ไจ๋เห็นก็รีบวิ่งไปดักหน้าแล้วพูดง้อทันที
"ผมยังไม่ทันปฏิเสธเลยนะ มา....แบกก็แบก...." แล้วน้องเล็กก็ย่อตัวลงตรงหน้าพี่ชาย เคนยิ้มเมื่อเห็นน้องยอมให้ตัวเองในที่สุด
"แบกไหวหรอ?" เคนถามพลางขยับเข้าไปกอดคอน้อง
"ขึ้นมาเถอะน่า! แล้วเกาะแน่นๆนะ" น้องเล็กว่าแล้วเอามืออ้อมไปข้างหลังเพื่อรองรับน้ำหนักตัวของพี่ชาย
"เฮ้ยๆๆๆ!!! ไม่ต้องๆๆๆ!!! ปล่อยโว้ย!!! พี่พูดเล่น!!!" เมื่อน้องลุกขึ้นมาจริงๆเคนก็ร้องลั่นเพราะไม่นึกว่าน้องจะเอาเขาไหว
"อยู่นิ่งๆสิ! อย่าโวยวาย! เดี๋ยวตกนะ!" ไจ่ไจ๋ร้องบอกพี่ชายพลางหัวเราะที่ได้แก้แค้นคืน เขาหมุนตัวซ้ายทีขวาทีเพื่อแกล้งพี่ชายเล่น
"ไม่เอาๆๆๆ!!! ไจ่ไจ๋!! ปล่อยพี่ลง!!!" เคนร้องบอกน้องอย่างหวาดเสียวเพราะไจ่ไจ๋แกล้งเดินเซๆเหมือนจะล้ม เมื่อเป็นดังนั้นไจ่ไจ๋จึงพาเคนไปที่เตียงนอนแล้วจับเหวี่ยงลงที่เตียง
"อู้ยย....ไอ้เด็กบ้า! ทิ้งลงมาได้!" เคนต่อว่าน้องพลางเอามือคลำแผ่นหลังที่กระแทกกับเบาะบนเตียงดังอั๊ก
"อ้าว! ก็พี่บอกจะลงเองนี่" น้องเล็กพูดหน้าตาเฉยแต่ก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้
"เดี๋ยวหัวหูแตกหมด! เล่นอะไรไม่รู้เรื่องเลย" เคนบ่นอุบแล้วลุกขึ้นยืนอีกรอบ
"ตัวเองเป็นคนเริ่มไม่ใช่หรอ?" ไจ่ไจ๋ย้อนถามพี่ชายเสียงสูงและเมื่อเห็นเคนง้างมือขึ้นไจ่ไจ๋ก็เผ่นพรวดออกไปจากห้องทันที
"เฮ้ย! อย่าวิ่ง!" เจอร์รี่เอ็ดน้องเล็กที่วิ่งตื่อนำหน้าเคนลงมา
"อ้าว....แล้วนั่นไปโดนใครแหย่มาหละ? หน้ามุ่ยเชียว" มองเลยไปทางเคนแล้วเอ่ยถาม
"คุณน้องชายสุดที่รักของพี่งัย จะมีใครเสียอีกหละ?" เคนตวัดเสียงแล้วค้อนใส่น้องชาย เจอร์รี่หันไปมองไจ่ไจ๋ที่นั่งขำอยู่คนเดียวแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า
"มา.....มากินข้าวดีกว่า...." แล้วแวนเนสก็ตัดบทโดยการชวนพี่ๆน้องๆเข้าไปกินข้าว
"ไจ่ไจ๋มันทำเองกับมือเลยนะเสี้ยวเทียน แล้วมันก็ทำเพื่อนายโดยเฉพาะด้วย ฉะนั้น....นายชิมก่อนคนแรก" แวนเนสพูดเหมือนจะให้เกียรติแต่ที่แท้จะเอาน้องเป็นทัพหน้า
"แหม....ทีงี้ยกให้ชั้นก่อนเชียวนะ" เคนบ่นอุบแต่ก็หยิบช้อนแล้วมองไปยังอาหารบนโต๊ะ
"เอาอันนี้ก่อนแล้วกัน" เคนว่าแล้วตักผัดกระเพราหมูสับขึ้นมาใส่ปาก ท่ามกลางสีหน้าลุ้นๆของไจ่ไจ๋
"เป็นงัยพี่กลาง?" ไจ่ไจ๋ถามเสียงแผ่วเมื่อเห็นสีหน้าเรียบเฉยของพี่ชาย
"อืม" เคนพยักหน้าพร้อมกับครางเสียงรับเบาๆ
"อืม? หมายความว่า?" ไจ่ไจ๋ถามต่อ เคนหันมามองหน้าน้อง
"ไม่....." เคนพูดทิ้งไว้แค่นั้น ยังผลให้น้องเล็กมีสีหน้าสลดลงทันทีเพราะคิดว่าพี่ชายจะบอกว่าไม่อร่อย
"ไม่เลว" เคนพูดต่อเสร็จแล้วก็หัวเราะร่าทำให้พี่ชายอีกสองคนพลอยหัวเราะไปด้วย ส่วนไจ่ไจ๋ก็ยิ้มอายๆแล้วตีแขนพี่ชายเบาๆแก้เขิน
"บ้า! แล้วก็พูดทิ้งไว้เฉยๆเล่นเอาใจหายหมด" ต่อว่าพี่ชายแต่ก็ยิ้มด้วยความภูมิใจ
"ไหนลองชิมอย่างอื่นดูสิว่าเป็นงัย?" เคนพูดต่อแล้วชิมกับข้าวทุกอย่าง
"โอเคเลยนะเนี่ย เก่งจริงๆเลยน้องพี่ แบบนี้พี่ต้องยกนายขึ้นมาเป็นมือวางอันดับสองต่อจากพี่ซะแล้วหละ" เคนเอ่ยชมน้องชายไม่ขาดปาก
"หูยยย....ชมเข้าไป หมั่นไส้จริงๆ!" แวนเนสพูดแทรกขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
"ชมดิ! ก็น้องมันทำอร่อยจริงๆนี่หว่า ไม่เหมือนนายหรอก....." เคนหยุดพูดกระทันหันเมื่อแวนเนสยกมือชี้หน้าเขา
"ทำไม? ชั้นทำไมไอ้อ้วน?" แวนเนสแหวใส่อย่างหาเรื่อง
"ฮึ่ม!!" พี่ใหญ่ส่งเสียงกระแอมเตือน เคนเลยได้แต่ยักไหล่แล้วหันไปชมน้องชายอีก
"นี่ถ้านายฝึกทำบ่อยๆนะเปิดร้านอาหารได้เลย เอางี้มั๊ย? นายเรียนจบปุ๊บเราหุ้นกันเปิดร้านอาหารดีกว่า พี่เป็นมือวางอันหนึ่งส่วนนายเป็นมือวางอันดับสอง ให้พี่ใหญ่เป็นผู้จัดการร้าน รับรองธุรกิจเรารุ่งเรืองแน่ๆ" ไจ่ไจ๋หัวเราะกับคำพูดของพี่ชาย
"นี่ๆๆๆ คุณน้องครับแล้วเอาพี่รองไปไว้ไหน?" แวนเนสสะกิดแขนเคนพร้อมกับเอ่ยถาม
"พี่รองหรอ? พี่รองทำอะไรไม่เป็นซักอย่างก็เป็นเด็กเสริฟไปแล้วกันนะครับ" เคนพูดออกมาหน้าตาเฉยยังผลให้เจอร์รี่กับไจ่ไจ๋ปล่อยก๊ากออกมาพร้อมกัน
"หนอย! อย่างชั้นเนี่ยนะให้เป็นเด็กเสริฟ แต่เออ....ก็ดีเหมือนกันเพราะถ้าใครมาเจอเด็กเสริฟหน้าตาดีแบบนี้คงติ๊บหนักน่าดู ดีไม่ดีชั้นรวยกว่าพวกนายอีก" จบคำพูดของแวนเนสสี่พี่น้องก็ประสานเสียงหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน
"ไม่เอาแล้ว กินข้าวกันดีกว่า" พี่ใหญ่พูดตัดบทเมื่อเห็นน้องยังพูดเล่นกันไม่เลิก
"กินก็กิน พี่ใหญ่ชิมดูซิ" ไจ่ไจ๋ตักกับข้าวใส่จานให้พี่ชาย
"อืม....อร่อยจริงๆด้วย" เจอร์รี่หันไปชมน้อง ไจ่ไจ๋เลยได้แต่ยิ้มไม่หุบ
"พี่รองกินสิครับ" ไจ่ไจ๋หันไปตักให้แวนเนสบ้าง
"ขอบใจ นายก็กินๆเข้าไปได้แล้วมัวแต่อวดฝีมืออยู่นั่น" แวนเนสกัดน้องกลายๆ ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ทำจมูกย่น
"คนมันฝีมือดีไม่ต้องอวดหรอก" พูดย้อนพี่ชายแล้วตักข้าวกินอย่างอารมณ์ดี
"เสี้ยวเทียน เห็นไจ่ไจ๋บอกว่าวันนี้นายแวะไปเอาของที่บ้านอาเจียง ไปเอาอะไรมาหรอ?" แวนเนสหันมาถามเคน
"อ้อ! เอากีต้าร์น่ะ" เคนตอบทั้งๆที่ยังเคี้ยวอาหารตุ้ยๆ
"ไม่สบายแล้วยังมีอารมณ์ศิลปินอีก" เจอร์รี่แขวะขึ้นมาลอยๆ เคนหันไปมองหน้าพี่ชายแล้วเบ้ปากใส่
"ก็ชั้นฟังเสียงบ่นเสียงด่าของนายจนปวดหัวไปหมด ก็เลยอยากเอากีต้าร์มาเล่นแก้เซ็งน่ะสิ" เคนย้อนพี่ชายเข้าให้ เจอร์รี่ถือช้อนค้างก่อนที่จะชี้หน้าน้องอย่างเคืองๆ
"ฮ่าๆๆๆ!!!" แวนเนสกับไจ่ไจ๋หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน
"ขำอะไร? เดี๋ยวเถอะ!" เมื่อทำอะไรเคนไม่ได้เจอร์รี่จึงหันมาพาลเอากับน้องชายอีกสองคนแทน
"ระวังจะนอนละเมอเป็นบทสวดนะ" แวนเนสแหย่พี่ชายด้วยอีกคน
"นี่งัยนอนละเมอ!" พี่ใหญ่แจกมะเหงกคนช่างแกล้งให้ทีหนึ่ง
"แล้วพรุ่งนี้มีงานหรือเปล่า?" ถามแวนเนสต่ออีก แต่แวนเนสกลับทำเป็นไม่ได้ยิน
"ไอ้ลูกลิง! อย่ากวนชั้นให้มากนักนะ!" แหวใส่เจ้าน้องชายตัวแสบ
"โอ้ย! แหกปากอยู่ได้ หูแตกกันพอดี!" แวนเนสบ่นอุบแต่พอเห็นสายตาของพี่ชายก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ
"ไม่มีงานอะไร" เจอร์รี่ถอนหายใจเฮือกกับความกวนประสาทของน้องชาย
"งั้นอยู่บ้านดูน้องก็แล้วกัน ชั้นลางานมาสองวันแล้ว" พูดต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
"อืม" แวนเนสรับปาก ซึ่งเคนได้ยินแล้วก็ยิ้มดีใจเพราะถ้าอยู่กับแวนเนสเขาสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจ
"ไม่ต้องยิ้ม! ชั้นรู้หรอกนะว่านายคิดอะไรอยู่!" เจอร์รี่เบนสายตาไปทางเคนแล้วพูดดักคออย่างรู้ทัน เคนไม่พูดว่าอะไรแต่ก้มหน้ากินข้าวต่อ
"ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวชั้นบังคับให้มันนอนเอง แล้วก็จะขังมันไว้ในห้องไม่ให้ออกไปไหนเลยรับรอง" แวนเนสว่ากระทบพี่ชายขึ้นมาอีก
"พี่รองเนี่ย ทำไมชอบแขวะพี่ใหญ่จัง" ไจ่ไจ๋ต่อว่าพี่ชายคนรองแทนพี่ใหญ่
"ใช่ๆๆ!! น้องสามคนเห็นจะมีนายนี่แหละที่ดีหน่อย พี่ดีใจนะที่ยังมีนายเข้าใจพี่อยู่บ้าง" เจอร์รี่รีบหันไปชมเมื่อน้องพูดเข้าข้างตัวเอง
"ผมเข้าใจครับว่าพี่ใหญ่เป็นห่วงพวกเรา พี่รองกับพี่กลางก็นะ....ทำตัวดีๆหน่อยสิ" ไจ่ไจ๋ได้ทีสั่งสอนพี่ชายอีกสองคน
"ไอ้...." แวนเนสทำท่าจะด่าน้องแต่มีสายตาของพี่ชายคอยข่มอยู่ก็ได้แต่ค้อนใส่
"อย่างพี่กลางเนี่ยที่พี่ใหญ่เขาบังคับหรือที่เขาบ่นพี่ก็เพราะเขาเป็นห่วงอยากให้พี่หายเจ็บป่วยเร็วๆ พี่ใหญ่ไม่ได้อยากจับผิดพี่ซักหน่อย" เจอร์รี่ยิ้มพลางพยักหน้ากับคำพูดของน้อง
"พี่รองก็เหมือนกัน ถ้ามีเวลาว่างๆก็ช่วยแบ่งเบาภาระพี่ใหญ่เขาบ้างหรือถ้าทำไม่ได้ก็แค่ทำตัวดีๆไม่สร้างปัญหากวนใจให้พี่เขาก็พอแล้ว" แวนเนสทำตาโตใส่น้อง
"พูดดีมากไจ่ไจ๋! พวกนายสองคนจำไว้นะ!" พี่ใหญ่ได้ทีผสมโรงไปกับน้อง คราวนี้ไจ่ไจ๋กลับอมยิ้ม
"ผมพูดดีหรอ?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายบ้าง
"อืม! ดีมากเลย นี่แหละคือสิ่งที่พี่กำลังอยากจะพูด" พี่ใหญ่ตอบรับ
"งั้น.....ขอสองร้อยนะ ค่าจ้างพูดแทนพี่ใหญ่" จบคำพูดของน้องเล็กแวนเนสกับเคนก็ปล่อยก๊ากออกมาพร้อมกัน ส่วนพี่ใหญ่นั้นได้อ้าปากค้างเมื่อโดนเจ้าน้องชายตัวแสบแกล้งเข้าให้อีกคน




 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2550 11:21:12 น.
Counter : 1056 Pageviews.  

Chapter 17

ตอนที่ 17
"ตื่นแล้วหรอ?" ไจ่ไจ๋ที่นั่งเฝ้าพี่ชายอยู่ข้างๆเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเคนลืมตาขึ้นมา
"ชูวววว์...." เคนเอามือทาบปากพลางส่งสัญญาณไม่ให้น้องส่งเสียง
"ทำไมหรอ?" ไจ่ไจ๋ก้มหน้าลงมากระซิบถาม
"พี่ใหญ่อยู่มั๊ย?" เคนกระซิบถามน้องชายกลับ
"พี่ใหญ่เดินออกไปส่งพี่กลอเรียเป็นเพื่อนพี่รองน่ะครับ พี่กลางจะเอาอะไรบอกผมก็ได้" น้องเล็กเสนอตัวช่วย
"เปล่าหรอก" เคนปฏิเสธแล้วถอนหายใจโล่งอก
"เป็นอะไร? ถามหาพี่ใหญ่ทำไมหรอ?" น้องเล็กยังซักถามพี่ชายต่ออย่างสงสัย
"ไม่ได้จะหามัน" เคนตอบสีหน้ามุ่ยลงเล็กน้อย
"ถ้าไม่ถามหาก็แสดงว่าถามเพราะไม่อยากเจอหละสิ" น้องเล็กพูดพลางหัวเราะอย่างรู้ทันพี่ชาย
"เออสิ! มันอยู่พี่ขยับตัวทำอะไรไม่ได้เลย" เคนตวัดเสียงเล็กน้อย
"เว่อร์น่า! พี่ใหญ่ไม่ได้อะไรมากมายซักหน่อย เขาก็แค่อยากให้พี่กลางนอนพักผ่อนมากๆ" ไจ่ไจ๋แก้ตัวแทนพี่ชายกลายๆ
"ให้พักผ่อน ไม่ถามพี่ซักคำว่าอยากพักผ่อนแบบไหน" เคนต่อว่าพี่ชายคนโตด้วยยังเคืองไม่หาย
"เอาน่า! พี่เขาก็ห่วงของเขา พี่กลางก็นอนให้มากๆจะได้หายเร็วๆ พอหายแล้วพี่ใหญ่ก็ไม่ยุ่งกับพี่แล้วหละ" ไจ่ไจ๋ปลอบใจพี่ชาย
"แล้วรู้สึกเป็นยังงัยบ้างหละ? ดีขึ้นบ้างหรือยัง?" หันมาถามอาการพี่ชาย
"ไม่ดี! ไม่เห็นมีอะไรดีซักอย่าง!" ตอบด้วยน้ำเสียงกระแทก
"เตียงก็แข็ง! ชุดก็เหม็นอับ! ผ้าห่มก็คัน!" หันไปโทษสิ่งต่างๆรอบตัว ไจ่ไจ๋ทำหน้าเหวอๆเมื่อโดนพี่ชายอาละวาดใส่
"ห้องน้ำก็ไม่ดี! แคบก็แคบ! แอร์ก็เสียงดัง!" เคนพูดต่ออย่างรู้สึกไม่พอใจ
"ไม่เห็นดังตรงไหนเลยนี่ครับ เตียงก็ออกจะนิ่มนะ" ไจ่ไจ๋แย้ง
"ไม่นิ่ม! ไม่เห็นเหมือนที่บ้านเลย" เคนเถียง
"ก็มันเป็นเตียงคนละอย่างกันจะให้เหมือนกันได้งัย?" ไจ่ไจ๋พูดอย่างอ่อนใจ
"ก็พี่อยากนอนเตียงของพี่หนิ!" เคนร้องโอดครวญออกมาอีก
"งั้นก็ต้องนอนพักให้หายเร็วๆจะได้กลับบ้านกันงัย" ไจ่ไจ๋พูดเหมือนโอ๋เด็กๆ
"จะไม่หายก็เพราะอยู่ที่นี่นั่นแหละ!" เคนเถียงน้องอย่างหงุดหงิด
"มีอะไรกันน่ะ?" เสียงพี่ใหญ่ดังขึ้น สองพี่น้องจึงหันไปทางต้นเสียงพร้อมกัน
"ตื่นขึ้นมาก็โวยวายอีกแล้วนะ! ชั้นบอกไว้ว่ายังงัย? จำไม่ได้แล้วใช่มั๊ย?" พี่ใหญ่ทำเสียงดุพร้อมกับเดินสาวเท้าเข้ามาที่เตียง
"จำไม่ได้! ไม่อยากจำ! ปวดหัว!! เบื่อ!!" เคนกระแทกเสียงใส่พี่ชายอย่างหงุดหงิด
"อย่าใช้น้ำเสียงแบบนี้กับชั้นนะ! หุบปากแล้วนอนลงไปเดี๋ยวนี้!" เจอร์รี่ดุน้องจริงจัง
"ไม่นอน!" เคนตะเบงเสียงใส่พี่ชาย พี่ใหญ่เงื้อนมือขึ้นทันที
"เฮ้ยอย่า!!" แวนเนสร้องห้ามแล้วรีบดึงพี่ชายออกมา
"นายก็ใจเย็นๆหน่อยได้มั๊ยหละ? น้องมันไม่สบายอยู่ งอแงบ้างก็ยอมๆมันหน่อย" แวนเนสเอ่ยเตือนพี่ชาย
"แต่นี่มันมากเกินไปแล้ว ตื่นขึ้นมาทีไรก็มีปัญหาทุกที" เจอร์รี่เถียงกลับ
"แล้วนายโมโหใส่มันแบบนี้มีอะไรดีขึ้นมาหรือเปล่าหละ?" แวนเนสย้อนถามพี่ชายกลับไปบ้าง เจอร์รี่จึงนิ่งไปก่อนที่จะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
"ชั้นขอออกไปเดินข้างนอกซักหน่อย ถ้าพวกนายจะกลับบ้านก็ค่อยโทรบอกชั้นแล้วกัน" พูดจบเจอร์รี่ก็เปิดประตูเดินออกไปนอกห้อง เคนมองตามร่างพี่ชายแล้วนิ่งไป
"งัย! ทำมันอารมณ์เสียได้แล้วสบายใจขึ้นมั๊ย?" แวนเนสหันมาพูดเป็นเชิงต่อว่าน้องชายกลายๆ เคนไม่ตอบซ้ำยังทำหน้าไม่สนใจ ไจ่ไจ๋สบตากับแวนเนสอย่างอ่อนใจ
"พี่กลางหิวมั๊ยครับ? อยากกินอะไรหรือเปล่า?" ไจ่ไจ๋ขยับขึ้นมานั่งบนเตียงกับพี่ชายพร้อมกับเอ่ยถามอย่างเอาใจ
"ไม่!" ตอบน้องด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
"งั้นดูทีวีมั๊ย? หรือจะฟังเพลงดี?" ไจ่ไจ๋หากิจกรรมให้พี่ชายทำ
"ไม่อยากอะไรทั้งนั้น! อยากกลับบ้านอย่างเดียว!" เคนปฏิเสธพร้อมกับแจ้งความจำนง
"กลับได้ยังงัยหละ? หมอเขาบอกให้นอนดูอาการก่อน แค่คืนเดียวเอง จะตายหรืองัย!" แวนเนสเอ็ดน้องเข้าให้อย่างเหลืออด
"เออ! ชั้นก็อยากตายเหมือนกันแหละ! อยู่ไปไม่เห็นมีอะไรดีเลยมีแต่คนสั่งให้ทำนู้นทำนี่ตลอด!" เคนย้อนพี่ชาย
"เฮ่อ! นายนี่มันรั้นจริงๆ" แวนเนสถอนใจอย่างเอือมระอา
"พี่กลางอย่าพูดแบบนี้สิครับ ตายแล้วดีที่ไหนกัน? เวลาตายเอาอะไรติดตัวไปไม่ได้เลย เสื้อผ้าก็เอาไปไม่ได้ เดินไปไหนมาไหนโป๊ๆไม่อายเขาแย่หรอ?" ไจ่ไจ๋พูดผ่อนคลายบรรยากาศ
"ไม่มีใครเห็นหรอก!" เคนเถียงข้างๆคูๆ
"มีสิ คนที่เขาตายไปแล้วมีเยอะแยะไป" แวนเนสผสมโรงกับไจ่ไจ๋
"ถ้าชั้นโป๊คนอื่นก็โป๊เหมือนกัน" เคนเถียงกลับอีก
"แล้วพี่กลางไม่อายหรอเวลาที่เห็นใครมามอง....." น้องเล็กลดสายตาลงต่ำแล้วทำหน้ากรุ้มกริ่ม เคนจึงเอื้อมมือไปผลักหัวน้องโทษฐานที่พูดจากำกวม
"แถมนายยังเอาเงินติดตัวไปไม่ได้ด้วย เวลานึกอยากกินเหล้าขึ้นมาทำยังงัยหละทีนี้?" แวนเนสพูดต่อ
"ไม่เห็นต้องใช้เงินเลย ชั้นเป็นวิญญาณเวลากินอะไรแค่ดมกลิ่นเฉยๆก็อิ่มแล้ว" เคนย้อน
"ต้องใช้สิ งั้นเวลาไหว้บรรพบุรุษทำไมถึงต้องเผาเงินไปให้หละ?" ไจ่ไจ๋แย้งขึ้น
"มันเป็นแค่ความเชื่อของคนที่ยังอยู่ต่างหาก" เคนตอบน้องชายด้วยสีหน้ามุ่ยๆ
"งั้นเวลาพี่ตายไปผมไม่เผาไปให้แล้วกัน จะได้ไม่เปลือง" ไจ่ไจ๋ว่าพลางหัวเราะเบาๆ
"ไม่เคยขอร้องเลย!" เคนว่าพลางทำหน้างอใส่น้องชาย
"อ้าว! นี่ตกลงเตรียมตัวจะตายแล้วใช่มั๊ย?" แวนเนสเองก็รู้สึกขำท่าทางงอแงเหมือนเด็กของเจ้าน้องชายตัวดีเช่นกัน
"เออ! แล้วทีนี้ไม่ต้องมาร้องไห้ร้องห่มกันเลยนะ ชั้นรำคาญ!" พูดจบก็เบือนหน้าหนีไปทางอื่น
"จะตายไปทำไม? ตายแล้วนายจะลำบากกว่าอยู่เป็นคนอีกนะ" แวนเนสทรุดตัวนั่งลงบนเตียงคนป่วยด้วยเช่นกัน
"ลำบากยังงัย?" หันมาถามต่อความอย่างชวนทะเลาะ
"ก็ถ้าเกิดนายตายไปจริงๆเนี่ย พี่ใหญ่เขาคงรับไม่ได้แล้วตรอมใจตายตามนายไปด้วยแน่ๆ" แวนเนสพูดยิ้มๆเคนๆได้ยินก็ชักสีหน้าใส่ ส่วนไจ่ไจ๋ก็ได้แต่หัวเราะ
"แล้วคิดดูสิว่าทีนี้พี่ใหญ่ก็จะมีนายเป็นน้องชายคนเดียวแล้ว คราวนี้แหละมันก็เอาเวลาทั้งหมดไปทุ่มให้นายคนเดียว โดนด่าก็โดนคนเดียวแถมเวลาโดนตีก็ไม่มีใครช่วยด้วยนะ" แวนเนสพูดขู่น้อง
"ทำอย่างกับมีพวกนายแล้วจะช่วยชั้นได้อย่างนั้นแหละ!" เคนย้อนเข้าให้
"ช่วยห้ามไม่ได้แต่ก็ช่วยโอ๋ได้นะครับ เหมือนตอนนี้งัย" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็ขยับเข้าไปกอดพี่ชาย เคนเหลือบมองน้องแล้วค้อนใส่
"ทำเป็นพูดดี! แล้วนี่นายหายหัวไปมา?" เคนหันมาถามน้องด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
"ผมไปหาพี่กลอเรีย" น้องเล็กตอบ
"โกหก! พี่เห็นอยู่หรอกว่านายน่ะงอนพวกพี่แล้วหนีออกไป" เคนต่อว่าน้อง ไจ่ไจ๋ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วเอาหัวซบลงที่ไหล่พี่ชาย
"ไม่ต้องมาอ้อนเลย! เพราะนายนั่นแหละทำพี่ปวดหัวไม่หายซักที!" เคนโทษน้องชายหน้าตาเฉย
"โดนแล้วงัยไจ่ไจ๋ ฮ่าๆๆ!!!" แวนเนสอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
"อ้าว....เป็นงั้นไป....โอเคๆๆๆ ผมขอโทษก็ได้ หายปวดหัวได้แล้ว" ไจ่ไจ๋จับแก้มทั้งสองข้างของพี่ชายบีบเบาๆ
"ประสาท! พูดแค่นี้ก็หายได้หรอ?" เคนเอานิ้วจิ้มหน้าผากน้องเบาๆแต่แล้วก็ยิ้มออกมาได้ในที่สุด
"หายสิ หายได้แล้ว เพี้ยง!" พูดจบไจ่ไจ๋ก็ทำท่าจะหอมแก้มพี่ชายแต่เคนเอามือดันแก้มน้องออกห่าง
"นายอย่าเข้าใกล้พี่มากเลย เดี๋ยวติดไข้แล้วจะยุ่ง" เคนพูดด้วยความเป็นห่วงน้อง
"ไม่หรอกครับ ผมแข็งแรงจะตาย" น้องเล็กพูดอวดตัว
"แน่ใจหรอว่าแข็งแรง? ไม่ใช่ว่าแข็งแต่แรงไม่มีนะ" เคนแหย่น้องพร้อมกับหัวเราะร่วน แวนเนสเองก็พลอยหัวเราะไปด้วย ส่วนน้องเล็กหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาทันที
"บ้า! พี่กลางเนี่ยทะลึ่งจริงๆ!" ไจ่ไจ๋ทุบแขนพี่ชายแก้เขิน
"พี่หมายถึงขาต่างหาก! นายแหละทะลึ่ง! คิดไปถึงไหน!?" เคนย้อนพลางผลักหัวน้องเบาๆ
"พอกันทั้งคู่แหละ! ทีเรื่องแบบนี้น่ะร่าเริงขึ้นมาทันทีเชียวนะ!" แวนเนสจับหัวน้องทั้งคู่โขกกันเบาอย่างหมั่นไส้
"ฮ่าๆๆๆ!!!" เคนกับไจ่ไจ๋ประสานเสียงหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน
"สามทุ่มกว่าแล้ว จะกลับบ้านหรือยังไจ่ไจ๋?" หลังเสียงหัวเราะซาลงแวนเนสก็หันไปถามน้องเล็ก
"พวกนายจะกลับบ้านกันแล้วหรอ?" เคนได้ยินก็ถามขึ้นมาอย่างเสียดาย
"พรุ่งนี้น้องมันเรียนแต่เช้า ชั้นเองก็มีงานแต่เช้าเหมือนกัน" แวนเนสหันมาตอบ
"ไจ่ไจ๋ นายไปโทรบอกพี่ใหญ่ให้เข้ามาได้แล้ว" ตอบเคนเสร็จก็หันมาสั่งน้องเล็ก ไจ่ไจ๋พยักหน้าแล้วเดินเลี่ยงออกไปโทรหาพี่ชาย
"อยู่ต่ออีกหน่อยไม่ได้หรอ?" เคนพูดเสียงอ่อยๆ
"ไม่ต้องกลัวเหงาหรอก เจอร์รี่มันจะนอนเฝ้านายที่นี่" แวนเนสพูดต่อเพราะนึกว่าน้องกลัวว่าจะไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน เคนได้ยินก็เบ้ปาก
"ดูทำหน้าเข้า! เจอร์รี่มันเป็นพี่ชายของนายนะไม่ใช่ศัตรูคู่อาฆาตที่ไหน อย่าดื้อกับมันนักเลย" แวนเนสต่อว่าน้องชายกลายๆ
"ก็มันชอบขัดใจชั้นหนิ เกมส์ชั้นก็โดนยึดไปแล้ว" เคนย้อนอย่างนึกเคืองพี่ใหญ่ไม่หาย
"แลกโทรศัพท์กับชั้นมั๊ยหละ? เครื่องของชั้นเพิ่งโหลดเกมส์มาใหม่เยอะเลย" แวนเนสเสนออย่างอดใจอ่อนกับน้องไม่ได้
"ได้หรอ? นายยอมแลกเครื่องกับชั้นจริงๆหรอ?" เคนย้อนถามตาเป็นประกายขึ้นมาด้วยความดีใจ
"อืม.....แต่ออกจากโรงบาลเมื่อไหร่ต้องคืนให้ชั้นนะ" แวนเนสตั้งข้อแม้
"ได้ๆๆๆ งั้นถอดซิมส์เปลี่ยนเครื่องเลย" พูดจบเคนก็เอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์ของตัวเองมาแต่แล้วก็ชะงักไป
"ไม่เอาดีกว่าว่ะ" จู่ๆเคนก็ปฏิเสธขึ้นมาเฉยๆ ทำเอาแวนเนสงงกับอารมณ์ของน้อง
"ทำไมหละ?" ย้อนถามน้องกลับไป
"ถ้าเจอร์รี่มันรู้ว่าชั้นแลกโทรศัพท์กับนายเพราะจะเล่นเกมส์ได้โดนมันสวดยับแน่เลย" เคนให้เหตุผล
"เอ่อ....เออว่ะ....." แวนเนสเองก็ทำหน้าแหยๆเมื่อได้ยิน
"งั้น....นายก็พยายามนอนให้หลับแล้วกัน พอตื่นขึ้นมาพรุ่งนี้ก็ได้กลับบ้านแล้ว" แวนเนสพูดปลอบใจน้อง เคนไม่ได้พูดอะไรได้แต่พยักหน้ารับเซ็งๆ ในขณะนั้นไจ่ไจ๋ก็เดินกลับเข้ามาพร้อมกับพี่ใหญ่
"ผมไปก่อนนะพี่กลาง นอนพักมากๆหละจะได้หายเร็วๆ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน" ไจ่ไจ๋จับมือพี่ชายพร้อมกับเอ่ยลา
"อืม....ฝันดีนะ" เคนรับคำน้องแล้วพูดราตรีสวัสดิ์กับน้องในทีเดียว
"พี่กลางก็เหมือนกัน ฝันดีครับ" ไจ่ไจ๋ยิ้มให้พี่ชายแล้วพยักหน้าให้เล็กน้อย
"ชั้นไปหละ แล้วอย่าดื้อให้มากนักรู้มั๊ย? ไม่งั้นโดนพี่ใหญ่ตีชั้นไม่รู้ด้วยนะ!" แวนเนสว่าพลางเอามือขยี้หัวน้อง เคนปัดมือพี่ชายออกทำหน้ามุ่ยใส่ แวนเนสหัวเราะขำๆเมื่อได้แกล้งน้องแล้ว
"รีบไปกันได้แล้ว ถึงบ้านแล้วโทรมาบอกพี่ด้วย" พี่ใหญ่ตัดบทพร้อมกับกำชับน้องอีกสองคน
"ครับ" แวนเนสกับไจ่ไจ๋รับคำพร้อมกันแล้วพากันเดินออกไปจากห้อง เมื่อพี่น้องสองคนออกไปแล้วเจอร์รี่ก็หันมามองน้องชายคนกลาง เคนเห็นก็ทิ้งตัวลงนอนอย่างเซ็งๆ
"หิวมั๊ย? จะกินอะไรหรือเปล่า?" เอ่ยถามน้องเสียงห้วนๆ เคนส่ายหน้าแทนคำตอบแล้วพลิกตัวหนีไปอีกทาง เจอร์รี่ถอนหายใจเบาๆแล้วเดินกลับไปนั่งที่โซฟาพร้อมกับหยิบหนังสือที่หยิบติดมาจากบ้านขึ้นมาอ่าน เคนลอบมองไปทางพี่ชายแล้วเผลอตัวถอนหายใจอย่างไม่รู้ตัว
"เฮ่อ!!" พี่ใหญ่ลดหนังสือในมือลงมองกลับไปทางต้นเสียงพอเห็นน้องนอนพลิกไปพลิกมาพลางเอามือเขี่ยเตียงเล่นก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ จึงลุกแล้วเดินไปที่เตียงคนป่วย
"เป็นอะไรน่ะ?" ถามน้องด้วยน้ำเสียงอ่อนลง เคนส่ายหน้าโดยที่ไม่หันกลับมามองพี่ชายเลย
"งอนหรอ?" ถามต่อพร้อมกับเอามือขยี้หัวน้องไปด้วย เคนทำเฉยไม่พูดว่าอะไรเช่นเดิม
"เด็กดื้อ! หันหน้ามาหาพี่เดี๋ยวนี้เลยนะ! พี่กำลังคุยกับนายอยู่!" เจอร์รี่ทำเสียงดุน้องแต่สีหน้ากลับมีรอยยิ้มบางๆ เคนพลิกตัวกลับมาอย่างเสียไม่ได้
"อยากอ่านหนังสือมั๊ย? หรือจะดูทีวี?" ถามเอาใจน้องชายเพราะรู้ว่าน้องรู้สึกเบื่อที่ต้องนอนทั้งวัน เคนส่ายหัวด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์นัก
"งั้นไอ้นี่หละเอามั๊ย?" พี่ใหญ่หยิบเกมส์บอยของน้องยื่นให้ตรงหน้า แต่พอน้องจะหยิบเจอร์รี่กลับชักมือกลับทำเอาเคนยกมือค้าง
"ตกลงกันก่อน" พี่ใหญ่ตั้งข้อแม้แล้วขยับตัวขึ้นมานั่งบนเตียงกับน้องชาย
"ให้เล่นแค่ 20 นาทีเท่านั้น" ว่าพลางชูนิ้วขึ้นมาสองนิ้ว เคนมองหน้าพี่ชายเล็กน้อยแล้วจับนิ้วของพี่ชายขึ้นมาอีกนิ้วหนึ่งเป็นการต่อรองว่าขอเล่นสามสิบนาที
"ไม่ได้" พี่ใหญ่เน้นเสียงหนัก
"ทำไมหละ?" เคนย้อนถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ
"นายยังปวดหัวอยู่ไม่ควรใช้สายตาเพ่งมองอะไรนานๆ ไม่งั้นก็ไม่หายซักที" เจอร์รี่ให้เหตุผล
"ไม่เห็นเป็นไรเลย" เคนแย้งอย่างไม่ยอมแพ้
"ถ้าดื้อแบบนี้จะไม่ให้เล่นเลยนะ" เจอร์รี่พูดอย่างผู้ที่เหนือกว่า เคนลอบถอนหายใจแล้วดึงเกมส์ออกมาจากมือพี่ชาย
"นี่แหนะ! แย่งของจากมือคนอื่นแบบนี้ได้หรอ!?" ว่าพลางตีมือน้องชายด้วยทีหนึ่ง
"ชั้นทำอะไรก็ผิดหมดเลยใช่มั๊ยเนี่ย?" เคนร้องโวยวายขึ้นมาบ้าง
"พี่สอนพี่เตือนก็เพราะหวังดีทั้งนั้นไม่ได้จ้องจะจับผิดนายซักหน่อย ทำไมต้องอารมณ์เสียด้วย" พี่ใหญ่แย้งขึ้นอย่างเหนื่อยใจ
"จะสอนก็พูดดีๆก็ได้ทำไมต้องตีด้วยหละ?" เคนย้อนพี่ชายอีก
"ที่ต้องตีเพราะว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่สอนเรื่องนี้ให้ฟัง พี่พูดเรื่องนี้ให้เราฟังหลายครั้งแล้วนะ" พี่ใหญ่พูดเน้นให้ฟัง
"พูดเมื่อไหร่? ไม่เคยได้ยิน!" เคนยอกย้อนพี่ชายอย่างหาเรื่อง
"โอเค....ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็ไม่ต้องเล่นแล้ว เอามานี่" เจอร์รี่ว่าพร้อมกับยื่นมือออกไปรับเกมส์จากน้อง
"ส่งมาให้ชั้นเดี๋ยวนี้!" เสียงเข้มขึ้นตามลำดับเมื่อเห็นน้องยังเฉย เคนหน้ามุ่ยแต่ก็ส่งเครื่องเกมส์ดังกล่าวให้พี่ชายอย่างเลี่ยงไม่ได้
"นอนลงไป! แล้วอย่าให้ชั้นเห็นนายลืมตาขึ้นมาอีกนะ!" สั่งด้วยน้ำเสียงดุดัน
"แต่ชั้นยังไม่ง่วง....." เคนพูดเสียงอ่อยลงอย่างเห็นได้ชัด
"ไม่ได้ยินที่ชั้นพูดใช่มั๊ย!?" หันมาถามย้ำกับน้องด้วยสีหน้าจริงจัง เคนจึงไถลตัวลงนอนแล้วหลับตาลงอย่างจำใจ ผ่านไปครู่หนึ่งเคนก็ค่อยหรี่ตาขึ้นมาแต่พอเจอกับสายตาของพี่ใหญ่ที่จ้องอยู่ก็รีบหลับตาลงตามเดิม จนเมื่อพี่ชายเดินเข้าห้องน้ำเคนจึงคว้าโทรศัพท์แล้วเดินลงจากเตียงออกไปนอกระเบียงห้อง พอเจอร์รี่กลับมาไม่เห็นน้องก็ตกใจรีบออกจากห้องไปตามหาทันที
"เอ่อ.....ไม่ทราบว่าเห็นคนไข้ห้องนี้เดินออกมาบ้างหรือเปล่าครับ?" เจอร์รี่ยื่นหน้าเข้าไปถามพยาบาลที่เข้าเวร
"เอ.....ไม่มีนี่คะ เขาไม่อยู่ที่ห้องหรอ?" นางพยาบาลตอบพร้อมกับย้อนถามเจอร์รี่
"ผมไม่เห็นเขาครับ" เจอร์รี่ตอบด้วยสีหน้าร้อนใจ พยาบาลสาวจึงรีบออกมาแล้วเดินนำเจอร์รี่เข้าไปในห้องเพื่อดูให้แน่ใจ
"พอดีเมื่อกี้ผมเข้าห้องน้ำอยู่ก็ยังเห็นเขาหลับอยู่ที่เตียงแต่พอผมออกมาก็ไม่เห็นเขาแล้ว" เจอร์รี่เล่าให้ฟัง
"หรอคะ? แต่ชั้นนั่งอยู่ตรงนั้นแน่ใจเลยว่าไม่เห็นคนไข้ออกมาเลย" พยาบาลเองก็ยืนยันแล้วเธอก็ฉุกคิดได้จึงเดินไปเปิดม่านตรงประตูที่จะออกไปยังระเบียง
"นั่นงัยคะ" เธอหันกลับมาบอกยิ้มๆ เจอร์รี่เปิดประตูออกไปแล้วมองน้องชายด้วยสีหน้าบึ้งตึง เคนที่กำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่เพลินๆหันกลับมามองพี่ชายอย่างงงๆ
"แค่นี้ก่อนนะแวนเนส ดูท่าชั้นจะซวยแล้วว่ะ" พูดโทรศัพท์เบาๆแล้วตัดสายทิ้งทันที
"คุณพยาบาลจะเข้ามาวัดไข้ผมหรอ?" เคนถามขึ้นแก้เก้อพร้อมกับมองไปทางพยาบาลสาว
"เปล่าหรอกค่ะ พอดีคุณคนนี้หาคุณไม่เจอชั้นเลยเข้ามาช่วยหา เอ่อ....คนไข้ไม่ควรออกมาตากลมข้างนอกนะคะ" นางพยาบาลเตือนเคนกลายๆ
"ครับ ผมแค่ออกมายืดเส้นยืดสาย" พูดจบเคนก็เดินกลับเข้ามาในห้อง
"ขอบคุณมากนะครับ ขอโทษที่รบกวน" เจอร์รี่หันไปบอกกับนางพยาบาลอย่างสุภาพพร้อมกับก้มหัวให้น้อยๆ
"ไม่เป็นไรค่ะ" เธอรับคำแล้วก้มหัวให้เจอร์รี่เช่นกันก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง
"เพี๊ยะ!" เมื่อพยาบาลออกไปแล้วพี่ใหญ่ก็ใช้มือตีลงที่ขาน้อง
"โอ้ย!" เคนสะดุ้งเฮือกพลางร้องเสียงหลง
"ออกไปทำไม?" ถามน้องเสียงเข้ม
"ชั้นออกไปโทรศัพท์" เคนตอบเสียงอ่อยๆพลางเอาขาอีกข้างยกขึ้นมาถูขาข้างที่ถูกตี
"จะโทรศัพท์ก็คุยในห้องนี้ก็ได้! ออกไปข้างนอกลมก็แรงยุงก็เยอะ! อยากตายนักหรืองัย!" เอ็ดใส่น้องต่ออีกชุดหนึ่ง เคนหน้ามุ่ยแต่ก็ก้มหน้าลงไม่ได้เถียงอะไร
"ไม่สบายแทนที่จะรักษาตัวให้ดีดูแลตัวเองให้ดีกลับสรรหาเรื่องทำแต่ละอย่างไม่เข้าท่าทั้งนั้น!" เคนลอบถอนหายใจเบาๆก่อนที่จะเป็นฝ่ายยุติศึกโดยขยับเข้าไปเกาะแขนพี่ชาย
"ชั้นหิว มีอะไรกินมั๊ย?" พูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ เจอร์รี่เหลือบมองหน้าน้องชายแล้วถอนหายใจดังเฮือก
"ไปที่เตียงไป เดี๋ยวชั้นปอกผลไม้ให้ ที่กลอเรียเอามาเยี่ยมนายน่ะ" พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงพร้อมกับดุนหลังน้องไปที่เตียง เคนยอมปีนขึ้นไปนอนบนเตียงแต่โดยดี
"อยากกินอะไร? มีหลายอย่างเลย" หันมาถามน้องอย่างใส่ใจ
"เอาส้มก็ได้ กินง่ายดี" เคนตอบพร้อมกับชี้ไปที่ผลส้ม
"ออกไปโทรหาใคร?" เจอร์รี่เอ่ยถามน้องในขณะที่แกะเปลือกส้ม
"โทรหาไอ้สองคนนั้น มันแอบหนีไปเที่ยวกันด้วย ไปกินข้าวกันสองคน" เคนเล่าให้ฟังคล้ายกับจะฟ้องกลายๆ เจอร์รี่หัวเราะเบาๆเมื่อได้ยิน
"พวกมันโทรมาบอกชั้นแล้ว" เจอร์รี่บอกแล้วขยับขึ้นไปนั่งกับน้องบนเตียงแล้วส่งส้มป้อนให้ถึงปาก
"เสียดายหละสิที่ไม่ได้ออกไปตะเวนกับพวกมัน" พูดดักคออย่างรู้ทัน เคนพยักหน้ารับง่ายๆแล้วก้มตัวลงไปข้างๆเตียง
"จะทำอะไร?" พี่ใหญ่ดึงตัวน้องไว้พร้อมกับเอ่ยถาม
"ชั้นจะเอาถังขยะมาทิ้งเม็ด" เคนตอบแล้วจะก้มตัวลงไปหยิบอีกแต่พี่ใหญ่ก็ดึงน้องไว้
"ไม่ต้องหยิบ คายออกมานี่" ว่าพลางเอามือไปรองใกล้ปากน้องชาย
"ความจริงชั้นไม่ได้ป่วยหนักขนาดที่จะขยับตัวทำอะไรไม่ได้เลยซักหน่อย นายไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้" เคนบอกอย่างเกรงใจแต่ก็คายเม็ดส้มลงที่มือพี่ชาย
"จะหนักหรือไม่หนักชั้นก็ไม่สบายใจทั้งนั้นแหละ ฉะนั้นถ้าไม่อยากให้ชั้นต้องกังวลใจแล้วหละก็ช่วยว่าง่ายๆแล้วเชื่อฟังชั้นหน่อยก็พอ" พี่ใหญ่ว่ากระทบน้องชายกลายๆพลางป้อนส้มให้น้องกินอีก จนเมื่อน้องกินพอแล้วเขาก็เอาเม็ดไปทิ้งแล้วขยับขึ้นมาเอนตัวลงข้างๆน้องชาย
"นอนได้แล้ว" บอกน้องชายเบาๆแล้วหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวน้อง
"ถ้าชั้นตายไปนายจะเสียใจมั๊ย?" เคนพูดขึ้นมาลอยๆ
"พูดอะไรแบบนี้!" เจอร์รี่หันไปทำเสียงดุๆใส่น้อง
"ก็แค่ลองถามดูเฉยๆ" พูดเสียงอ่อยๆ
"ไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น! แล้วห้ามพูดเรื่องอะไรตายๆให้พี่ได้ยินอีก!" พี่ใหญ่พูดกับน้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง เคนไม่ว่าอะไรแต่พลิกตัวมาทางพี่ชายแล้วขยับเข้าไปกอด
"ทำไมวันนี้นายดุจัง?" พี่ใหญ่กอดน้องตอบพร้อมกับชำเลืองมองน้องที่ซบหน้าอยู่ที่อกตัวเอง
"ก็เรามันดื้อใช่มั๊ย? หืม?" ย้อนถามพลางหยิกแก้มน้องเบาๆ
"ถามเรื่องตายไม่ได้แล้วถามเรื่องคนตายได้มั๊ย?" เคนย้อนกลับไปถามเรื่องเดิม
"เรื่องคนตายก็ถามไม่ได้ ห้ามพูดคำว่าตายเด็ดขาด" พี่ใหญ่ว่าพลางส่ายหน้าไปด้วย
"แต่ชั้นมีเรื่องสงสัยนี่นา" เคนแย้งแล้วตีหน้าซื่อมองหน้าพี่ชาย
"เอ้า! ให้ถามได้หนึ่งคำถามก็แล้วกัน" เมื่อเห็นน้องสงสัยนักหนาจึงยอมให้ถามได้
"คนตายเนี่ยเอาอะไรไปไม่ได้เลยจริงๆหรอ?" เจอร์รี่นิ่งไปก่อนที่จะพยักหน้ารับ
"งั้น....พอตายแล้วทุกคนก็ต้อง....." เคนเงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มเมื่อเห็นพี่ชายเริ่มทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
"ต้องอะไร?" ถามน้องอย่างไม่ค่อยเข้าใจ
"ก็ต้องโป๊น่ะสิ" พูดจบเคนก็หัวเราะร่า
"ไอ้บ้านี่! ทะลึ่งนักนะ!" พี่ใหญ่ทุบหัวน้องเบาๆ
"ไจ่ไจ๋มันบอกมา" เคนโยนความผิดไปให้น้องหน้าตาเฉย
"พอกันหมดทั้งสามคน! เรื่องแบบนี้หละเก่งนัก!" แม้จะทำเสียงดุแต่สีหน้ากลับแดงระเรื่อขึ้นมาด้วยรู้สึกกระดากเสียเอง
"เป็นอะไร? ไม่ใช่นึกอยากตายขึ้นมานะ แหม....หน้าแดงเชียว" เคนเอ่ยแซวพี่ชายพลางหัวเราะไปด้วย
"เดี๋ยวตีตายเลย! ยังไม่หยุดอีก!" เคนหยุดหัวเราะแต่ก็ยังอมยิ้มอยู่
"นอนเดี๋ยวนี้เลย! หลับตาเลยนะ! ไม่งั้นโดนแน่!" พูดพร้อมกับแกล้งยกมือขึ้นจะตี เคนกดมือพี่ชายลงแล้วซุกหน้าลงที่อกพี่ชายก่อนที่จะหลับตาลงอย่างว่าง่าย พี่ใหญ่ส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วเอามือลูบหัวน้องอย่างรักใคร่จากนั้นก็เอนหัวซบลงที่หัวน้องชายแล้วหลับตาลงเช่นกัน

- ที่บ้าน -
"พรุ่งนี้พี่เลิกงานกี่โมง?" ไจ่ไจ๋ถามแวนเนสพร้อมกับทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟามือก็เอื้อมหยิบรีโมทมาเปิดโทรทัศน์
"ยังไม่รู้เลย ทำไมหรอ?" แวนเนสย้อนถามน้อง
"เปล่า ผมกะว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นจะทำกับข้าวต้อนรับพี่กลางกลับบ้าน" น้องเล็กพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มในขณะที่แวนเนสมีสีหน้าบอกไม่ถูก
"นายจะทำกับข้าว.....หรอ?....." พูดพึมพำอย่างไม่ค่อยจะเชื่อมือ ไจ่ไจ๋เห็นสีหน้าพี่ชายก็ทำหน้ามุ่ยใส่
"อย่ามาดูถูกผมนะ!" ไจ่ไจ๋ตวัดเสียงอย่ารู้ทันความคิดพี่ชาย
"พี่ยังไม่ทันว่าอะไรซักคำเลยนะ แต่พรุ่งนี้พี่แวะซื้อกับข้าวอย่างอื่นกลับมาด้วยดีมั๊ย?" แวนเนสแก้ตัวแต่แอบแขวะน้องไปด้วย
"ซื้อมาทำไม? ผมบอกแล้วงัยว่าจะทำเอง" ไจ่ไจ๋พูดเสียงแข็งแล้วทำหน้าดุใส่พี่ชาย แวนเนสเลยได้แต่ยิ้มแหยๆ
"เอางั้นหรอ? เอ่อ....ถามพี่กลางก่อนดีมั๊ยว่าอยากกินอะไร?" แวนเนสแนะนำ
"ไม่ต้องหรอก ผมจะทำตามตำราของพี่เขา ยังงัยซะพี่กลางเขากินทุกอย่างอยู่แล้ว เนี่ย....ถ้าพี่รองกลับเร็วก็มาช่วยกันทำสิ พี่กลางเขาคงดีใจที่พวกเราทำเพื่อพี่เขาเชียวนะ" น้องเล็กพูดอย่างกับว่าการกระทำของตัวเองนั้นยิ่งใหญ่นักหนา
"นายคิดงั้นหรอ? พี่เคยทำข้าวต้มให้มันกินไม่เห็นมันจะซึ้งอะไรนักหนาเลย" แวนเนสแย้งกลายๆ
"เคยด้วยหรอ? เมื่อไหร่อ่ะ? ผมไม่เคยรู้เลย" ไจ่ไจ๋ซักถามเป็นการใหญ่
"เออน่า! เคยแล้วกัน" แวนเนสบอกปัด
"แล้วรสชาดเป็นงัย?" ถามต่อด้วยความอยากรู้ แวนเนสไม่ตอบแต่เปลี่ยนสายตาไปดูโทรทัศน์แทน
"พี่รอง! ตอบมาสิว่ารสชาดเป็นงัย? สงสัยต้องกินไม่ได้แน่เลยใช่มั๊ย?" น้องเล็กได้ทีล้อพี่ชาย
"กินได้โว้ย! แต่ตอนนั้นมันผิดพลาดนิดหน่อย" แวนเนสเถียง ไจ่ไจ๋หัวเราะออกมาอย่างพอรู้ว่าผลที่ออกมานั้นเป็นเช่นไร
"ขำอะไร! เดี๋ยวเถอะ!" เมื่อโดนน้องแซวแวนเนสก็แกล้งทำเป็นเอ็ดกลบเกลื่อน ไจ่ไจ๋หยุดหัวเราะแต่ยังยิ้มกริ่ม
"เปล่าซักหน่อย ทุกคนต้องมีครั้งแรกทั้งนั้นแหละ ครั้งแรกอาจจะไม่ดีแต่ครั้งต่อๆไปมันต้องดีขึ้นสิจริงมั๊ย?" น้องเล็กพูดปลอบพี่ชาย
"เห็นหน้ามันตอนกินก็หมดอารมณ์จะทำครั้งที่สองแล้วหละ พี่ว่านะเราแค่ซื้อของโปรดไว้รอมันแค่นั้นก็น่าจะพอแล้วหละ" แวนเนสว่าพร้อมกับเสนอความคิดใหม่
"ไม่เอา! ผมจะทำ! พี่ไม่ช่วยก็ไม่เป็นไรผมจะทำเอง!" ไจ่ไจ๋ไม่คล้อยตามพี่ชายซ้ำยังตั้งใจไว้อย่างแน่วแน่
"พี่ไม่กลัวอะไรหรอก แต่ไม่อยากให้มันต้องเข้าโรงบาลอีกรอบน่ะ" แวนเนสพูดยิ้มๆ น้องเล็กตีแขนพี่ชายอย่างหมั่นไส้
"พูดเกินไปแล้ว! คอยดูเถอะแล้วพวกพี่จะต้องมาง้อให้ผมทำกับข้าวให้กินทุกวัน!" ไจ่ไจ๋พูดอย่างมั่นใจ
"นายคงไม่คิดเอายาบ้ามาใส่ในกับข้าวให้พวกพี่ติดหรอกนะ" แวนเนสแหย่น้องอีก
"พี่รอง! ไอ้บ้านี่! คิดกับน้องในแง่ร้ายเรื่อยเลยนะ!" ไจ่ไจ๋แหวใส่พี่ชายหน้ามุ่ย
"โอ๋ๆๆๆ ล้อเล่นๆๆๆ อย่างอนนะ" แวนเนสรีบขยับเข้าไปกอดน้องแต่ไจ่ไจ๋ผลักพี่ชายออกอย่างงอนๆ
"ไปไกลๆเลย! ไม่อยากคุยด้วยแล้ว" น้องเล็กทำเสียงห้วน แวนเนสมองน้องชายแล้วก็คิดหาทางแกล้งน้องได้อีก
"ไปก็ได้ เออ! พี่เพิ่งนึกอะไรออก....." แวนเนสทำท่านึกขึ้นมาได้ทำให้ไจ่ไจ๋อดที่จะหันมาฟังไม่ได้
"เมื่อวันก่อนพี่ได้ข่าวว่าคุณตาที่อยู่บ้านเราถัดไปสามหลังน่ะเขาตายแล้วนะ ตายในบ้านด้วย เห็นคนแถวนี้บอกว่าตอนกลางคืนมีคนเห็นคุณตาเดินเล่นอยู่แถวนี้บ่อยๆ อึ๋ย! คิดแล้วขนลุก!" แกล้งน้องเสร็จแวนเนสก็เดินขึ้นห้องไปทันที ทิ้งให้ไจ่ไจ๋นั่งอึ้งๆกับเรื่องที่ได้ฟังอยู่คนเดียว
"เฮ้ย! พี่รอง!" แล้วเมื่อคิดตามคำพี่ชายไจ่ไจ๋ก็ร้องเรียกพี่ชายเป็นการใหญ่ รีบปิดโทรทัศน์แล้ววิ่งตามพี่ชายขึ้นไปทันที
"พี่รอง!! เปิดประตู!!" ไจ่ไจ๋เคาะประตูห้องแวนเนสไม่หยุด
"มีอะไรอีก?" แวนเนสแกล้งตีหน้าซื่อออกมาถามน้อง
"ชอบแกล้งนักนะ! คอยดูผมจะฟ้องพี่ใหญ่!" ไจ่ไจ๋ต่อว่าพี่ชายแต่กลับพาตัวเองเข้ามาในห้องแวนเนส
"อ้าว! ก็พี่พูดความจริงนี่หว่า นายอยากฟ้องก็ฟ้องไปสิ" แวนเนสทำหน้าไม่สนใจแต่แอบยิ้มขำกับสีหน้าตื่นกลัวของน้องชาย
"ผมฟ้องแน่! จะให้พี่ใหญ่ตีให้ตายเลย!" น้องเล็กหน้ามุ่ยใจเต้นแรงด้วยยังกลัวไม่หาย
"โอ๋ๆๆๆ ขวัญเอ้ยขวัญมา.....พี่ไม่แกล้งแล้ว ไม่ต้องกลัวนะ" เมื่อเห็นน้องกลัวแวนเนสก็เริ่มใจอ่อนแกล้งน้องต่อไม่ลง
"ไม่ต้องมายุ่ง!" น้องเล็กเอาศอกกระทุ้งหน้าอกพี่ชายดังอั๊ก
"โอ้ย! อะไรวะ? โมโหร้ายจัง" แวนเนสยังไม่ละความพยายามเขาโน้มหัวน้องชายเข้ามากอดไว้ แต่น้องเล็กก็ดิ้นออกมาจนได้
"บอกว่าไม่ต้องมายุ่ง! ไปไกลๆเลย!" แหวใส่พี่ชายอย่างฉุนๆ
"จะให้ไปไหนหละ? นี่มันห้องพี่นะ!" แวนเนสย้อนเข้าให้บ้าง ไจ่ไจ๋หันมาค้อนแต่ก็ไม่ยอมไปไหน
"เออ! ไปก็ได้! แล้วอย่าตามมาอีกนะ" แวนเนสหมั่นไส้เข้าจริงๆจึงทิ้งให้น้องอยู่คนเดียวในขณะที่ตัวเองเดินออกจากห้องไป หลังพี่ชายออกไปแล้วไจ่ไจ๋ก็หันไปแลบลิ้นใส่แล้วทิ้งตัวนอนลงบนเตียงแต่แล้วก็ต้องชะงักไปเพราะได้ยินเสียงหมาหอนรับกันเป็นช่วงๆ เล่นเอาไจ่ไจ๋ขนลุกเกรียวขึ้นมาเฉยๆ
"หมาบ้า! มาหอนอะไรตอนนี้วะเนี่ย" ไจ่ไจ๋พึมพำด่าหมาอยู่คนเดียวอยากจะเดินไปง้อแวนเนสแต่ก็กลัวจะเสียฟอร์มจึงทำใจกล้านอนลงที่เตียงพี่ชาย
"พรึ่บ!!" จู่ๆในห้องก็ดับลง ห้องทั้งห้องมืดสนิท ไจ่ไจ๋มือเย็นเฉียบขึ้นมาทันที
"พี่รอง! อย่าแกล้งกันแบบนี้นะ!" ไจ่ไจ๋ร้องต่อว่าพี่ชายน้ำตาพาลจะไหลเพราะรู้สึกกลัวจริงๆ
"พี่รอง ผมกลัว" คราวนี้ไจ่ไจ๋ร้องไห้ออกมาจริงๆเพราะนึกว่าพี่ชายแกล้ง ซักครู่ประตูห้องก็ถูกเปิดออกพร้อมกับแสงไฟฉายที่ส่องเข้ามา
"ไจ่ไจ๋! มานี่มา...." แวนเนสส่งเสียงร้องเรียกน้อง ไจ่ไจ๋ไม่ได้ขยับตัวเพราะโมโหพี่ชายอยู่
"ไจ่ไจ๋....เป็นอะไร? ลุกขึ้นมากับพี่สิ" แวนเนสเดินเข้ามาใกล้แต่พอเห็นน้องร้องไห้ก็ตกใจ
"ไจ่ไจ๋ นายร้องไห้ทำไม? โอ๋ๆๆๆ ไม่ต้องกลัวนะ พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งนายอยู่คนเดียว" แวนเนสดึงน้องเข้ามากอดไว้อย่างปลอบประโลม
"พี่สนุกมากหรอที่แกล้งผมให้กลัวได้? พี่สนุกมากใช่มั๊ย?" ไจ่ไจ๋ต่อว่าพี่ชายเป็นเสียงสะอื้นแต่ก็กอดพี่ชายเอาไว้แน่น
"พี่ไม่ได้แกล้งนะ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมไฟถึงดับ อย่าร้องไห้เลยไจ่ไจ๋" แวนเนสแก้ตัวแล้วลูบหลังน้องอย่างปลอบประโลม
"พี่ไม่ได้แกล้งดับไฟหรอ?" ไจ่ไจ๋ผละตัวออกมาเล็กน้อยแล้วตั้งคำถามกับพี่ชาย
"เปล่า พี่ไม่ได้ทำ บ้านอื่นไฟก็ดับเหมือนกันหมด คงมีปัญหาอะไรหละมั้ง?" แวนเนสปฏิเสธแล้วดึงตัวน้องขึ้น
"ออกไปหน้าระเบียงกันดีกว่า ข้างในนี้มันร้อน" พูดจบก็พาน้องที่กอดเขาไม่ยอมปล่อยออกไปที่ระเบียง
"ฮึ! อวดเก่งนี่เรา" เมื่อออกมาได้แวนเนสก็จัดการเช็ดน้ำตาให้น้องพร้อมกับต่อว่าไปด้วย
"ถ้าไม่ไล่พี่ออกไปก็ไม่ต้องนั่งร้องไห้คนเดียวแบบนี้หรอก เฮ่อ! เด็กน้อเด็ก....." พูดจบก็โน้มหัวน้องมาซบที่อกตัวเอง มือน้องชายที่กอดเขาอยู่นั้นยังเย็นเฉียบไม่หาย
"ทำไมไฟถึงดับหละพี่รอง?" ไจ่ไจ๋เอ่ยถามพี่ชายหลังจังหวะของหัวใจกลับมาเต้นเป็นปกติแล้ว
"พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน รออีกเดี๋ยวถ้าไฟยังไม่มาพี่จะโทรแจ้งเขา" แวนเนสตอบพร้อมกับโยกหัวน้องไปมาเบาๆอย่างเอ็นดู
"ไม่ต้องยิ้มเลยนะ! ถ้าพี่ไม่หลอกผมก่อนผมก็ไม่กลัวหรอก" น้องเล็กทำเสียงกระเง้ากระงอดใส่พี่ชาย
"โอเค....ไม่ยิ้มก็ได้ หายงอนพี่เถอะนะ" แวนเนสรีบโอ๋น้องทันที ไจ่ไจ๋ไม่ตอบว่าอะไรแต่ซบหน้าลงที่ไหล่ของพี่ชายอย่างรู้สึกอุ่นใจ
"นั่นงัย! ไฟมาแล้ว!" แวนเนสบอกน้องพร้อมกับค่อยๆดันตัวน้องชายออก
"กลับเข้าไปข้างในกันดีกว่า" แวนเนสชวนแล้วจูงมือน้องชายกลับเข้ามาในห้องแต่แล้วก็ต้องหัวเราะเพราะไจ่ไจ๋ไม่ยอมปล่อยมือเขาเลย
"จะนอนทั้งๆที่ยังจับมือพี่แบบนี้หรอ?" แวนเนสถามพร้อมกับมองมือน้องชายที่ยังจับมือเขาอยู่
"ใช่! เดี๋ยวพี่รองหนีผมไปอีก" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วล้มตัวนอนลงโดยที่ยังไม่ยอมปล่อยมือพี่ชาย
"เด็กโง่! พี่จะหนีนายไปไหนกัน?" แวนเนสว่าพลางบีบจมูกน้องชายอย่างเอ็นดู ไจ่ไจ๋ปล่อยมือพี่ชายแล้วเลื่อนมาบีบจมูกแวนเนสบ้าง
"พี่ติดค้างผมครั้งนึงนะ ถ้าแกล้งผมอีกครั้งหละก็ผมจะฟ้องพี่ใหญ่จริงๆด้วย" น้องเล็กทำท่าคาดโทษพี่ชายไว้
"โอ้ย....กลัวแล้วครับคุณน้องเล็ก....." แวนเนสลากเสียงยาว
"กลัวก็อย่าทำอีกนะ!" ไจ่ไจ๋ได้ทีทำเป็นดุพี่ชาย
"อืม ไม่ทำอีกแล้ว" แวนเนสรับปาก
"งั้นก็นอนสิ ห้ามปิดไฟด้วย" ไจ่ไจ๋ออกคำสั่ง แวนเนสนอนลงแล้วขยับตัวเข้าไปกอดน้องเอาไว้
"ตามบัญชาเลย!" พูดจบก็หอมแก้มน้องชายแรงๆอย่างหมั่นไส้ น้องเล็กจึงหัวเราะออกมาได้ในที่สุด
"ราตรีสวัสดิ์ครับพี่รอง" น้องเล็กกระซิบกับพี่ชายเบาๆแล้วหอมแก้มพี่ชายบ้าง
"ราตรีสวัสดิ์ครับผม" แวนเนสตอบรับแล้วกระชับผ้าห่มให้น้อง จากนั้นก็หลับตาลงเข้าสู่นิทราเช่นเดียวกับน้องชาย





 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2550 11:20:36 น.
Counter : 1103 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  
 
 

loving_zai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




[Add loving_zai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com