เมื่อวาน - วันนี้ (7 - 8 ก.พ. 64)
เมื่อคืนได้โพสต์ข้อความที่เขียนไว้ในบล็อกเมื่อวานลงเฟซบุ๊กเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักของเรา ตอนแรกก็ลังเลว่าจะโพสต์ดีหรือไม่ เพราะกลัวว่าจะมีคนเป็นห่วง และถามไถ่กันเข้ามา หรืออีกทางก็กลัวว่าจะเงียบมาก ประมาณว่าก็เรื่องของมึง ถ้าไม่มีไลก์ก็แอบเสียเซลฟ์เหมือนกันนะ
(น่าแปลกนะว่าทำไมเราต้องคาดหวังว่าคนจะมาไลก์ เวลาเราโพสต์เฟซบุ๊ก ทั้งๆ ที่เวลาเราโพสต์ลงบล็อก เราไม่คาดหวังว่าคนจะมาโหวต)
การคาดหวังก็ทำให้รู้ว่า เรายังเป็นมนุษย์ธรรมดา ยังมีความปรารถนาอยู่
ข้อความที่เราโพสต์ไป คือ
ความรักสอนให้ฉันเข้าใจการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน ไม่มีอะไรที่จะคงเดิมได้อยู่ตลอด แม้กระทั่งความรู้สึก วันหนึ่งฉันรักมาก วันหนึ่งฉันเจ็บมาก วันหนึ่งเคยสนิท วันหนึ่งกลายเป็นไม่สนิท ฉันอาจเคยโกรธเคืองการเปลี่ยนแปลงนั้น แต่สุดท้ายฉันก็รู้ดีว่าฉันเปลี่ยนแปลงความเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ได้ ที่ทำได้คือยอมรับ เข้าใจ ให้อภัย ถึงจะอยู่กับการเปลี่ยนแปลงนั้นได้โดยไม่ทุกข์ร้อน ปัจจุบันก็ยังอยู่กับการเปลี่ยนแปลงนี้อยู่ แม้ว่าเรื่องจะผ่านมานานแล้วก็ตาม วันนี้เราได้เข้าไปดู และได้เห็นว่ามีคนมากดไลก์ให้เรา 12 คน ซึ่งสำหรับเรา ถือว่ามากแล้ว หนึ่งในนั้นมีคนมาไลก์เป็นความรู้สึกว่าห่วงใย ทั้งๆ ที่เรากับเขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน (เขาเป็นลูกศิษย์ของแม่เพื่อนเรา แต่เราไม่รู้จักเขาหรอกนะ)
ส่วนอีกคนเป็นเพื่อนร่วมคณะ(แต่คนละเอก)สมัยเรียนปริญญาตรี เขาคนนี้ปกติก็จะไม่มากดไลก์อะไรให้เรานะ แต่เขามากดไลก์
การที่มีคนไม่รู้จัก หรือไม่สนิทมากดไลก์ให้นั้น เราก็รู้สึกดีใจ มันเป็นความดีใจระคนแปลกใจ
ส่วนคอมเมนต์ก็มี แต่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่เราโพสต์นัก เป็นคอมเมนต์เตือนให้เรานอนได้แล้ว คนมาคอมเมนต์คือนักเขียนร่วมสังกัดช่องนานาบันเทิง ตอนสายของวันนี้ก็มาโพสต์เพิ่มเติมว่าเรื่องผีที่ออนแอร์ไปเมื่อวันก่อน เรื่องที่เขาเขียน เขาเอาชื่อเราไปเป็นตัวละครในเรื่องด้วย วันนี้ก็เลยมีเรื่องให้ได้ฮา
------------------------------------
วันนี้เมื่อเข้ามาในบล็อกแก๊ง อันดับแรกเลยคือ เข้าบล็อกของพี่ก๋า ตอนแรกที่เห็นหัวข้อ นึกว่าจะเป็นคำสอนสำหรับเด็กเล็ก แต่ปรากฏว่าเมื่ออ่านแล้ว เป็นคำสอนสำหรับเด็กโต วัยผู้ใหญ่ ไปจนถึงวัยชราเลยทีเดียว
เราชอบข้อความของหนังสือที่ยิ่งใหญ่ เพราะมันทำให้นึกถึงการเขียนของเรา เราเคยบันทึกความรักสมัยมัธยมในตอนนั้น ตอนที่เรายังเป็นวัยรุ่น เราคิดว่าถ้าเราค้นเจอ และเราเปิดในตอนนี้ความรู้สึกที่ได้อ่านก็คงจะไม่ใช่ความฟุ้งความฝัน แต่เป็นความคิดถึง คิดว่าป่านนี้เขาจะเป็นยังไงบ้างนะ เขาจะแต่งงานมีลูกหรือยัง และถ้าเลยไปอีกช่วงเวลาหนึ่งที่โตกว่านี้ ความรู้สึกก็คงจะโตขึ้นตาม
ยังมีงานเขียนอีกหลายงาน หลายแบบที่เมื่อเราโตขึ้น ย้อนกลับมาอ่าน ก็อาจจะคิดว่าเราเขียนไปได้ยังไงวะ หรือ เคยมีความรู้สึกแบบนี้ด้วยเหรอ และบางทีก็อาจทำให้เราเข้าใจได้มากขึ้น
ถ้าเราเติบโตจากการอ่านหนังสือที่ยิ่งใหญ่ได้ เราก็เติบโตได้จากงานเขียนเล็กๆ ของเราได้เช่นกัน
(ขอบคุณที่มาจากบล็อกพี่ก๋า)
------------------------------------
เมื่อวานฟังพี่อ้อยพี่ฉอด On Tour พูดถึงเรื่องรักไม่มีสถานะ เขาแนะนำว่าให้เดินจากมา เพราะอยู่กับรักที่ไม่มีสถานะ 4 ปี ถ้าไปเรียนปริญญาตรี ป่านนี้ก็จบแล้ว
เราเองก็อยู่กับรักที่ไม่มีสถานะนะ เวลาเพื่อนถามว่ามีแฟนหรือยังก็ตอบว่าโสด ทั้งที่ความจริง เรามีคนที่รักอยู่ แต่เราก็อยู่มันไปแบบนี้แหละ เพราะไม่คาดหวังอะไรอยู่แล้ว ไม่คิดว่าตัวเองจะมีคนมาจีบอีก แต่ถ้ามีคนมาจีบ แล้วทำให้หวั่นไหวได้ ก็ไม่รู้จะเป็นยังไงเหมือนกัน
แต่ที่แน่ๆ ถ้าจะลาจากกันก็ต้องคุยกันก่อนล่ะ คงไม่ใช่อยู่ๆ จากไปอย่างเงียบๆ
(คนที่เรารักปัจจุบันเป็นผู้หญิงนะ ไม่ใช่ผู้ชาย)
(ความรักครั้งนี้ทำให้เราค้นพบว่าเราเป็นไบ)
------------------------------------
เมื่อวานพ่อทำเฟซบุ๊กใหม่ แล้วแอดแม่เป็นเพื่อน (ที่รู้เพราะเอาโทรศัพท์แม่มาเล่น) นี่ถ้าพ่อมาแอดเราเป็นเพื่อน เราคงไม่รู้ว่าจะรับแอดดีไหม แต่เราก็คงต้องรับแหละ ยังไงก็ต้องรับ แต่เราคงไม่ให้พ่อเห็นงานเขียนทั้งหมดของเราหรอก
วันนี้พ่อมาหาที่บ้านก็คุยกันหลายเรื่อง แต่ไม่ใช่เรื่องของเรา เรื่องของเราส่วนใหญ่พ่อจะไม่ค่อยรู้หรอกโดยเฉพาะเรื่องของความรัก
------------------------------------
วันนี้เราฟังเพลงเหตุเกิดจากความรักไปหลายรอบ และก็ยังฟังอยู่ในขณะที่กำลังเขียนบล็อกนี้
VIDEO Cr. Youtube :: [Official Audio] เหตุเกิดจากความรัก Ost.Club Friday The Series 7