กลับมาเล่าเรื่องราวของเราต่อ
หลังจากออกจากรอพอในครั้งนั้น
ฉันยังคงเล่นโซเชียลไปทุกวัน
จินตนาการคล้ายความฝันไปมากมาย
เวลาออกจากบ้านฉันนั้นคิด
ว่าชีวิตเรานั้นมีความหมาย
กับผู้คนที่อยู่รอบรอบกาย
เขาทั้งหลายสนใจในเรื่องเรา
อะไรที่เราชอบคนอื่นชอบ
อย่างน้ำปั่นคือคำตอบที่เขาเหมา
เด็กนักเรียนมารุมซื้อกันไม่เบา
ทำเอาเราตกอกและตกใจ
ภาพเด็กนักเรียนประถมรุมล้อมรถน้ำปั่นยังติดตาเราอยู่ เราไปซื้อน้ำกระเจี๊ยบ ‘กระเจี๊ยบทุกวัน’
เราก็ยืนงงงันกันไปใหญ่
กระเจี๊ยบทุกวันนั้นหมายความว่าอะไร
หรือจะบอกว่าเราไงคล้ายหมอเจี๊ยบ
ป้าย ‘กระเจี๊ยบทุกวัน’ ทำให้เราสงสัยจริง ๆ รถกับข้าวก็แซวเราเรื่องผิวขาว
คล้ายเราเป็นผู้สาวผิวขาวเนี้ยบ
ในตอนนั้นเรายืนอย่างเงียบเงียบ
ในความคิดเราเพียบด้วยจินตนาการ
เรื่องที่เกิดขึ้นกับเราเป็นเรื่องจริง
หรือไม่จริงเราก็ยากจะสื่อสาร
รู้แต่ว่าเป็นอย่างนี้อยู่ก็นาน
ความคิดดลบันดาลให้มันเป็น
เรื่องเหลืองแดงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เรานั้นอึ้งกับสิ่งที่ได้เห็น
เมื่อต่างสีต่างพวกเป็นประเด็น
ก็จะเป็นว่าโดนแยกออกมา
เคยคิดว่ารถไฟฟ้าไม่รับเรา เพราะเราเป็นคนละสีกับคนในรถนั้น
(แต่ความจริง คือ รถมันเต็ม) เรื่องสีรุ้งก็มีเข้ามาด้วย
ให้เราช่วยกลุ่มเขาแก้ปัญหา
เวลาไปเดินวิ่งสะดุดตา
เขาจะมาขวางหน้าเราทุกที
ตอนนั้นจะเจอเกย์ เจอทอมดี้มายืน หรือเดินผ่านหน้า หรืออยู่ข้างหน้าบ่อยมาก ตอนตากผ้าเจอกางเกงดาวแดงพ่อ
จินตนาการไปต่อว่าพ่อนี้
เข้ากับกลุ่มพวกเข้าป่าในทันที
เป็นสหายคลุกคลีกับการเมือง
เจอกางเกงดาวแดงพ่อ กับ ผ้าขาวม้า ก็จินตนาการไปว่าพ่อเข้าป่า เป็นคอมมิวนิสต์
(ความจริง คือ พ่อไม่เคยเข้าป่า แต่เพื่อนพ่อน่ะเคยเข้า) เป็นอะไรที่ไม่คิดว่าจะเกิด
จินตนาการเตลิดไปหลายเรื่อง
เรื่องต่างต่างก็ไม่ค่อยจะประเทือง
เรื่องการเมืองเรื่องบันเทิงเรื่องมายา
เรื่องบันเทิงก็มีหลากรูปแบบ
ก็จะแอบบันทึกไว้ให้หรรษา
เรื่องเพลงที่ชอบฟังเรื่องดารา
เดี๋ยวตอนหน้าจะมาเขียนให้ได้ดู
ส่วนตอนนี้ขอเขียนแค่นี้ก่อน
อย่าพึ่งรีบหลอนหลอนนะหนูหนู
เพราะตอนหน้ายังมีหลอนให้ได้รู้
แล้วจะรู้ว่าเราอยู่ไม่ง่ายเลย