ขอรำลึกนึกถึงครั้งสุดท้าย
ว่าใจกายนั้นเป็นเช่นไรหนอ
หนึ่งปีก่อนที่ฉันเข้ารอพอ
เพื่อพบหมอซักถามถึงอาการ
ในตอนนั้นฉันคิดว่ามีญาณทิพย์
ที่จะหยิบคำพูดมาสื่อสาร
ใช้โทรจิตติดต่อกับวิญญาณ
และก็กับทางบ้านเขาดิบดี
มโนไปว่าเขานั้นยังอยู่
แต่ว่าเขานั้นดูไม่สดศรี
เพราะว่ายังเป็นห่วงบุพการี
เหมือนอย่างพี่อ๊อฟนี้ห่วงแม่เขา
ตอนนั้นคุยทางจิตกับแม่สีดา แม่ของพี่อ๊อฟด้วย และยังคิดว่าพี่ธรรม์นั้นยังอยู่
แต่เขาดูรู้สึกว่าแอบเหงา
คิดถึงเพื่อนในวงการนั้นไม่เบา
ให้ตัวเรานั้นมาช่วยติดต่อ
กับพี่ธรรม์นี้ก็เสิร์ชดูรูปเพื่อน ๆ ของพี่เขา แล้วใช้จิตคุยกัน ตอนนั้นฉันนั้นเพ้อไปมากมาย
มีเรื่องราวอีกหลากหลายกว่านี้หนอ
อย่างเช่นฉันนั้นมีสิทธิ์เรียนหลายมอ
ทั้งที่ความจริงนี้ก็ไม่มีทาง
คิดว่าตัวเองมีความสามารถหลากหลาย เรียนได้หลายคณะ หลายสาขาวิชา
ในมหาวิทยาลัยในประเทศ ฉันไม่ใช่คนเก่งอะไรเลย
แต่คิดไกลไปแล้วเหวยจนรุ่งสาง
มีให้คิดสารพันไม่ปล่อยวาง
มีแต่ร่างแต่จิตใจเพี้ยนไปหมด
เพลงที่ชอบฟังตอนนั้นฉันก็มี
โดยอิงสีการเมืองไม่ราลด
คิดว่าตัวเองนั้นไปปรากฏ
ไปสวมบทแทนที่ศิลปิน
คิดว่าตัวเองนั้นเป็นนักร้องนำถือไมค์สีแดงดูเอ็มวี.ท่องกูเกิลไปไม่หยุด
เหมือนอยากจุดประกายศาสตร์และศิลป์
แต่ความจริงเป็นเรื่องเพี้ยนในชีวิน
ที่ต้องกินยารักษาถึงหายเอย
---------------
ขอบคุณรูปภาพทั้งหมดจากอินเทอร์เน็ตปัจจุบันยังกินยาอย่างต่อเนื่อง แม้อาการต่าง ๆ เหล่านี้จะไม่ปรากฏแล้วก็ตาม