คุณแม่น้องแฝด ฮานากะฮารุ ^^

เมื่อฉันกระดูกเท้าหัก....T_T







ปฐมบทแห่งความซวย  Smiley


เริ่มต้นที่  


วันอาทิตย์ที่ 21 พค. 60  เก้าโมงเช้า

ระหว่างอิชั้นกำลังอุ้มฮารุออกจากห้องอาม่า

ปรากฏว่าจังหวะที่ก้าวลง มัวแต่มองลูกไม่มองข้างล่าง

เท้าก็ดันเหยียบพลาด เหยียบพรมแบบทางมะพร้าวของแม่แบบหมิ่นๆ  ทำให้เท้าขวาพลิกลงพื้น

ทันใดนั้น อิชั้นได้ยินเสียงดัง "กร๊อบบบ"

Smiley


ตอนนั้นคืออุ้มลูกอยู่  เลยพยายามอดทน เอาลูกลงพื้นก่อน แล้วลองเดินลงน้ำหนักดู

ปรากฏว่ามันเจ็บมากก จนน้ำตาเกือบไหล


พอดีโชคดีมากที่พิ่งทำประกันอุบัติเหตุผ่าน ป๊าเลยบอกให้ไปหาหมอที่รพ.ด่วนๆ  เราก็รีบไปโดยที่ให้คนที่บ้านขับรถให้


ระหว่างทางที่ไป ก็ภาวนาขอให้มันเป็นไม่เยอะ  ขอให้มันหายเร็วๆ


พอไปถึงรพ.  ก็รอเจอหมอกระดูกที่สนิทกัน พอเจอหน้ายังแซวกันเลยว่าเลี้ยงลูกหนักไปเหรอ ถึงขั้นขาเดี้ยงเชียว

เอ้าา ไปเอ็กซเรย์....

ตอนนันก้อยังคิดว่าไม่เป็นไรมากนะ  มากสุดก็น่าจะแค่เอ็นอักเสบ (คิดเข้าข้างตัวเองแท้หรา) ไม่กี่วันก็หาย

ปรากฏว่าพอเข็นกลับไปหาหมอใหม่  หมอบอก "อืมมม มันหักนะ "



อิชั้นถึงขั้นเหวออออ

"อะไรหักนะหมอ"

หมอ "กระดูกอ่ะ มันหัก"



อิชั้น Smiley


หาาา

กระ........ดูก.......หัก  Smiley



ม่ายยยยยยยย

Smiley Smiley Smiley





ที่สุดเมื่อความจริงที่แสนรวดร้าวปรากฏ

ผลสรุปคือ กระดูกเท้าขวาเราหัก  แต่ยังไม่แยกออกจากกัน เพราะเราไปหาหมอเร็ว


หมอแนะนำให้เราใส่เฝือก เพราะบอกว่าเราจะหายเร็วขึ้น
แต่ช่วงที่ใส่ต้องทนนะ จะเดินไม่ได้  ทำอะไรที่ใช้ขาไม่ได้เลย
ซึ่งเอาจริงๆเราก็ลำบากนะ เพราะเราต้องดูลูกอะไรด้วยสารพัด


แต่....เพราะมันจะหายเร็วขึ้นอย่างที่หมอบอกค่ะ เราจึงตัดสินใจ

เอาวะ

กุใส่ก็ได้


ขอให้มันหายเร็วจริงๆนะ



สุดท้ายก็ได้กลับบ้านพร้อมเพื่อนคู่ตัว คือเฝือกคู่กายอันนี้ค่ะ


(นั่งรถไปยังคิด นี่กุต้องใส่ไอ้เฝือกนี้เลี้ยงลูกจริงๆเหรอวะ)


คือมันลำบากมากกก เดินไม่ได้เลย มันงอเข่าไม่ได้  ต้องลากขาเอาอ่ะ



กลับมาบ้าน นั่งมองแล้วอยากร้องไห้ Smiley
ไม่น่าเลยเรา นึกเสียใจว่าถ้าระวังตัวมากกว่านี้สักนิด อาจจะไม่เป็นขนาดนี้ก็ได้

(แต่มานึกๆไป อาจจะเป็นเพราะอุ้มลูกอยู่ นน.ที่ลงไปที่เท้าเลยเยอะกว่าปกติจนถึงขั้นกระดูกหักรึเปล่า)



หมอแนะนำให้ใช้ walker ด้วย จะเดินง่ายขึ้น



สามวันต่อมา ค่อยยืนไหว ยืนถ่ายบ้าง



เรื่องปั๊มนม เพราะเรายังต้องปั๊มให้ลูกกินอยู่

ช่วงแรกๆนี่วัดใจมากเลย ว่าเราจะปั๊มนมต่อดีไหม คือแบบตูจะเลิกเลยดีไหมว้าา  ตัวเองก็เอาตัวจะไม่รอดแล้ว


คืออยู่ในสภาพนี้อ่ะคะ  คิดไม่ออกว่าจะปั๊มไหวมั้ย



แต่ที่สุดก็กลั้นใจ เอาวะ ปั๊มต่อ ให้ลูกหมูสองคนกิน อดทนหน่อยๆๆ

ลากขากลับไปเก็บกรวยปั๊มนม ฮึ่บๆ


เป็นคุณแม่ต้องอดทน Smiley



........


ว่าด้วยเรื่องขา



ช่วงอาทิตย์แรกก็มีอาการปวดตุ๊บๆนิดนึงค่ะ  หมอให้ยามาก็กินยา ก็ดีขึ้น

เราพยายามไม่ใช้ขาเยอะ  พยายามนอนยกขา

เฝือกนี่ก็พยายามไม่ให้โดนน้ำ  อาบน้ำต้องมัดถุงพลาสติกสองชั้น

ส่วนลูกนี่งดอุ้มชั่วคราว  ลำบากแต่ก็ต้องทนเนอะ

ลูกๆบางทีก็เหมือนไม่เข้าใจ  ทำไมแม่ไม่อุ้มหนูเลย

มันจำเป็นนะลูก แม่ก็อยากอุ้มหนูใจจะขาดอยู่แล้ว  Smiley





วันอาทิตย์ที่ 28 พค. 60 นัด f/u ครั้งที่1 มานัดดูขา


หมอชมว่ารอยหักมันดูดีขึ้นนะ  เหมือนมันมีการเชื่อมกันเกิดขึ้นดี


อาจเป็นเพราะเราไปหาหมอเร็ว  และใส่เฝือกด้วยค่ะ มันเลยดูเชื่อมกันเร็ว


แต่ก็ยังถอดไม่ได้ เพราะยังไม่หายขาด


 สรุปใส่เฝือกต่ออีกหนึ่งอาทิตย์



วันอาทิตย์ที่ 4 กค. 60นัด f/u ครั้งที่

หมอชมว่าดูดี  น่าจะหายได้ตามกำหนด

และให้เปลี่ยนเป็นเฝือกอ่อนแทน ให้ใส่ต่อ 10 วัน

ซึ่งอันนี้มันโอเคกว่าเดิมเยอะ  ถอดได้ไรได้ อาบน้ำสบายหน่อย


วันพุธที่ 14 กค. 60 นัด f/u ครั้งที่ 3 อาการดีขึ้นเยอะ  แทบไม่รู็สึกอะไรเวลาลงนน.แล้ว


หมอเลยสั่งให้เปลี่ยนเฝือกอ่อนให้มันสั้นลง     ใส่ต่อสองอาทิตย์ แต่ตอนกลางวันให้พันเป็นผ้ายืดแทน

ช่วงนี้คือชิลมาก  เดินเหมือนจะหายขาดแล้ว  แค่ระวังอย่าไปโดนอะไรแรงๆ เดี๋ยวหักอีก



ต่อมา


วันพุธที่ 28 กค. 60 นัด f/u ครั้งที่ 4  

หมอบอกรอยที่หักหายแล้ว  จะไม่ใส่เฝือกก็ได้แล้วนะ


สรุปว่าหายแล้วก๊าบบ  ไม่ต้องพันผ้าแล้วจ้า เย้ๆๆๆๆ 



SmileySmileySmiley




แบบว่าอินี่ดีใจมากกกก



เพราะที่ผ่านมาคือชีวิตนี้ลำบากกับการที่ต้องใส่เฝือกมากไม่อยากจะบอกว่าลำเค็ญขนาดไหน 


1 ช่วงแรกคือเดินแทบจะไม่ได้ต้องใช้วอร์คเกอร์ตลอด แล้วใส่รองเท้าไม่ได้เดินไปข้างนอก ก็ใส่ไม่ได้จ้าา ลำบากมาก


2 เลี้ยงลูกไม่ได้ อุ้มไม่ได้ สุดลำเค็ญ


3 อาบน้ำลำบาก เฝือกห้ามเปียก ยืนสระผมไม่ได้ ต้องให้คนไปส่งร้านทำผมโลด


4 ขึ้นลงบันไดไม่ได้ต้องใช้ก้นกระเถิบขึ้น อนาถกว่านี้มีอีกไหม


5 อดไปเดินนอกบ้านอย่างสมบูรณ์แบบ


6 อดพาลูกลงเรียนว่ายน้ำ


7 อดเล่นโยคะ อันนี้เฮิร์ดหนักมาก กำลังจะไปได้สวยแท้ๆ ท่ากำลังมา กำลังแขนกำลังมี นี่ก็ฝันสลายไปเลย


8 อ้วนขึ้นด้วย แทนที่จะได้เล่นโยคะชิลๆ ลดอ้วน  ดั๊นเจือกเล่นไม่ได้  จะโหมออกกำลังกายก็ไม่ได้ เพราะขาไม่เอื้อ ฮือๆๆ


9 กลัวอ้วน จะคุมอาหารก็ไม่ได้ กลัวแคลเซียมขาด เพราะ...


10 นมก็ยังต้องปั๊มอยู่ จะเลิกได้ยังไง 


11 ตั้งใจเอาลูกหัดดื่มขวดก็อด เพราะขาไม่อำนวย


12 เอาลูกเข้านอนก็ไม่ได้ เพราะเข้าคอกกั้นเด็กไม่ได้ มันสูง ปีนไม่ไหว 


13 อยากจะเลิกนมมื้อดึก ช่วงนั้นก็ลำบากเพราะลำพังตัวเองยังเอาตัวไม่รอด


14 ช่วงนั้นฮารุดันมีไข้ เราก็ต้องเช็ดตัวตลอด ทั้งๆที่ใส่เฝือก ต่อมาฮารุหายฮานาเป็นอีกจ้า เช็ดตัววนไป ลากขาวนไป


15 เลยไม่ได้พาลูกฉีดวัคซีนสักที เลยนัดมาเป็นเดือนแล้ว


16 และไม่ได้พาเด็กไปหาหมอฟันด้วย ไม่รู้ป่านนี้ฟันผุถึงไหนแล้วรึเปล่า


17 ที่เสียใจอย่างคือช่วงนั้นอากู๋ (พี่ชายแม่)  ที่เรารักและเคารพมากๆ ประสบอุบัติเหตุอาหารติดคอ จนกลายเป็นเจ้าชายนิทรา ไม่ฟื้น  ที่สุดก็เสียชีวิตที่รพ. แต่เราแทบจะไม่ได้ไปเยี่ยมอากู๋เลย  จนไปก็วันเกือบสุดท้ายที่แกจะเสียนั่นแหล่ะ


18 และเราก็อดไปไหว้ศพอากู๋ที่วัด เพราะขาที่ไม่อำนวย


19 ตอนนั้นพี่ศักดิ์จะมีโปรเจ็คพาไปเที่ยวพัทยา รร.ที่เค้าสัมมนา และด้วยขาที่เดี้ยงเช่นนี้สรุปว่าก้ออดไปตามระเบียบ


20 เฮ้อออ พิมพ์จนเหนื่อย เกือบจะครบยี่สิบล่ะ อ่ะไหนๆก็ไหนๆ เอาให้ครบ

อดพาลูกเดินเที่ยวเล่นทั้งยามเช้าและยามเย็นตั้งหลายวัน   เสียดายโอกาสนั้นจริงๆ


อ่าครบยี่สิบข้อจนได้ ที่เราเสียโอกาสอะไรไปตั้งเยอะแยะ


 นี่ขนาดใส่แค่เฝือกแค่เดือนกว่าๆ เรายังเสียอะไรไปตั้งมากมาย


 แต่ก็โชคดีที่หมอก็บอกว่าหายเร็วนี่ เราดีขึ้นเร็วมาก ขาตอนนี้ก็เดินไปเกือบเป็นปกติ


แล้วก็ถือว่าเป็นการโชคดีของชีวิต ที่ผ่านตรงนี้มาได้ เพราะกว่าจะก้าวผ่านมาทีละก้าว มันเหมือนยาวนานมากกก ทั้งที่มันแค่เดือนกว่าเองนะ


เราคงต้องเพิ่มความระมัดระวังให้กับชีวิตให้มากขึ้นนะจะเดินเหินแบบไม่ระวังตัวไม่ได้แล้วล่ะ



 ที่สำคัญขาก็ยังไม่หายดี ถ้าเดินไประวังสะดุดอีก งานนี้แย่แน่ๆ ต้องระวังตัวมากๆแล้ว


กว่าจะหาย นานโคตร เข็ด !!!!!   Smiley




 

Create Date : 24 ตุลาคม 2560    
Last Update : 25 ตุลาคม 2560 7:13:10 น.
Counter : 16807 Pageviews.  

อัพเดทชีวิต หลังจากที่ออกมาเป็น Part time.....แลจะว่างนะ



ตั้งแต่วันที่ 1 มกรา อิชั้นก็เปลี่ยนสถานะจาก Full time มาเป็น Part time แบบเต็มตัวแล้ว  Smiley



ข้อดีก็มีตรงที่มีเวลาว่างกว่าเดิมเยอะเลย  สามารถหยุดได้ตามที่ต้องการ  วันหยุดกำหนดเองได้  งานน้อยลง  เรื่องเครียดๆก็น้อยลงด้วย


แต่ข้อเสียข้อเดียวก็คือ  ตังค์ค่ะ  ทำงานน้อยลงเงินก็น้อยลงตามระเบียบ 555  เงินที่หาได้กับเงินที่ใช้เริ่มไม่สัมพันธ์กัน ( ต่อไปคงแปรสภาพเป็นชาวเกาะแบบเต็มภาคภูมิ เหอๆ)

ไหนๆช่วงนี้ก็ว่างแร่ะ  ก่อนที่จะไปหาหมอขอให้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์สักหน่อย



V
V

มีตติ้งวันนี้เป็นวันที่ภูมิใจมาก  เพราะสามารถนัดรวมตัวเพื่อนได้ครบเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี  (ตัวเบี้ยวก็ยัยผึ้ง เจ้าของกิจการร้านยา  ไม่รู้เป็นไง  อยู่ใกล้กันมากสุด แต่ดันหาตัวหล่อนยากสุด)  


เรามาหม่ำกันที่ร้านเปี๊ยกมันทะเล  วันนี้จัดเต็มทั้งกุ้ง กั้ง หอย ปู ปลา แมงดา....มากมายก่ายกอง กินกันจนท้องจะแตก  




กินไปก็เม้าท์ไป   คุยกันแบบสนุกสนานสำราญใจ  นานแค่ไหนแล้วเนี่ยที่ไม่ได้เจอกัน  พอได้มาอัพเดทชีวิตของกันและกันแล้วมีความสุขมาก



ต่อมา....ไปหาเพื่อนนิที่บำรุงราษฎร์

หม่ำมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารญี่ปุ่น Ayami อยู่ชั้นสองของรพ. 


ปล.ตั้งแต่ทำงานที่บำรุงราษฎร์ไม่เคยเข้ามากินเลย เพราะคิดว่าคงแพง พอวันนี้เข้ามากินก็เจอว่าแพงจริงๆด้วย 555)





เราก็เม้าท์สัพเพเหระกับเพื่อนต้ังแต่สากกะเบือยันเรือรบ ถึงเพื่อน พี่ น้องคนนู้นคนนี้ที่เคยทำงานด้วยกัน  บางคนก็ยังทำงานอยู่ตำแหน่งเดิม  บางคนก็เลื่อนตำแหน่งขึ้น  บางคนก็ลาออกไปที่อื่น


สำหรับตัวอิชั้น ที่นี่มีความผูกพันธ์มาก เพราะเป็นสถานที่ทำงานที่แรกๆในชีวิต  เป็นที่ๆให้ความรู้ ให้ประสบการณ์ ให้เพื่อน  เหมือนมหาลัยย่อมๆแห่งนึงเลยก็ว่าได้

แต่ถามว่าเครียดไหม...ฉันตอบเลยว่ามากกก Smiley

ก็ธรรมดาอ่ะเนอะ  ที่ๆเค้าต้องการความเฟอร์เฟ็กต์  มันก็ยอมรับความผิดพลาดได้น้อย แถมเรื่องยามันก็ซีเรียสด้วย จริงๆคือไม่ควรผิดเลย จริงๆก็ไม่มีใครอยากจ่ายยาผิดหรอก อยากจะจ่ายถูกทุกคนแหล่ะ  แต่บางทีมันก็มีปัจจัยมากมายที่ทำให้ชีวิตไม่ราบรื่นขนาดนั้น

เม้าท์มานาน  ไปเที่ยวที่อื่นต่อดีกว่า

V
V


ไปสีลม  อยู่ดีๆก็อยากมาเดิน  ลองมาสักหน่อยดีกว่า ไหนๆก็ว่าง

เดินๆถึงตอนห้าโมงก็หิว  เลยลองมาเข้าร้านนี้


รส' นิยม





แก้วน้ำ อินดี้มาก นึงถึงขันน้ำสมัยก่อน



เราหม่ำเป็นเส้นเล็กต้มยำสุโขทัย ใส่ไข่ต้มยางมะตูม



ชามนี้ราคาแรงอยู่นะ ร้อยกว่าบาทแน่ะ คงแพงเพราะอยู่ในสีลมคอมเพล็กซ์  



จริงๆที่เลือกหม่ำเป็นเส้นเล็กเพราะอยากเก็บท้องไว้กินขนม...

V
V

เจ้านี้



Kyo Roll En



จำชื่อเซ็ทไม่ได้อ่ะ  แต่คุ้นๆว่าราคา 179 บาท




roll ชุ่มฉ่ำ น่าหม่ำ



แต่พอหม่ำจริงๆ เราว่าครีมชาเขียวมันออกกลิ่นนมอ่ะ ปกติเราเป็นคนไม่ปลื้มนม  เลยไม่ชอบเท่าไหร่



ไอศกรีม เห็นว่าตรงสีเข้มๆทำจากถ่าน แล้วก็มีน้ำเชื่อมของเค้าด้วย  เวลากินให้ราดน้ำเชื่อมก่อนนะคะ



แล้วก็ผลไม้ตกแต่ง ในนี้ขอบอกว่า ชาเชียวที่เค้าทำมาเป็นก้อนๆ อร่อยมากกกก เหนียวหนึบ เจ้มจ้น  ว่าแล้วก็อยากกินอีก



อีกวันนึงมาเดินชิลๆที่พารากอน  ขากลับอยากลองบะหมี่เจ้านี้  บังคาระราเมง



ชามนี้ 190 บาทมั้ง (ราคาแรงมากกก )



เส้นเหนียวหนึบๆ อร่อยดีค่ะ น้ำซุปก็เข้มข้นมากก หอมมันสุดๆ
แต่ไม่รู้เป็นไร  เราว่าน้ำซุปมันออกขมๆนิดนึงค่ะ  เพราะอะไรไม่รู้เหมือนกัน



วันว่างๆของอิชั้น   แวะหาเพื่อนบ้าง แวะหาของหม่ำบ้าง  ช่างมีฟามสุขเหลือเกิน.....

นึกๆไป ได้พักได้ผ่อนคลายแบบนี้ก็ดี  ชีวิตตึงมามากพอแร่ะ


ไว้หาทริปไปหม่ำกับเพื่อนๆอีกดีกว่าาาา Smiley





 

Create Date : 24 มกราคม 2558    
Last Update : 11 ตุลาคม 2560 11:51:21 น.
Counter : 1267 Pageviews.  

ทำงานแบบพาร์ททาม ชีวิตที่ไม่คุ้นเคย

ว่าด้วยความเดิมที่บอกว่าได้ตัดสินใจลาออกตั้งแต่วันที่ 1 มค. 58 


ตอนนี้สถานะอิชั้นก็เลื่อน (ลง)   จากหัวหน้ามาเป็นเภสัชกรพาร์ททามธรรมด๊า ธรรมดาคนนึง  ที่อาจจะมีความสำคัญอยู่บ้าง ตรงที่ยังช่วยเค้าทำงานเอกสารเพื่อเตรียมรับ JCI แต่ในการทำงานลายเซ็นต์อิชั้นไม่มีค่า ไม่มีความหมาย และไม่มีใครต้องการแล้วนะคะ .....เฮ (อีนี่แปลกไหม ตำแหน่งลดแล้วดีใจ)


ก็มันมาถึงจุดนึง  เราก็ต้องเลือกในสิ่งที่เข้ากันได้กับชีวิตในช่วงนี้  และเมื่อชีวิตในช่วงนี้มีสิ่งให้โฟกัส เป็น mission  เป็น plan to do ของปี 2558  เป็นสิ่งที่เรา want อยากได้  อยากประสบความสำเร็จ  เราก็ต้องทำมันก่อน


จะว่าไปก็น่าเศร้า  คนไรชีวิตอาภัพจัง  เค้ามีลูกกันโครมๆๆไม่เห็นมีปัญหา  ไอ้เราจะมีสักคนนี้ยากแสนยาก  แล้วมีแล้วก็ดันมีปัญหา ทำให้ไม่สามารถไปได้ตลอดรอดฝั่งอีก....เฮ้อ  เฮ้อ  และเฮ้อ


ปีนี้ปีมะแม จริงๆเค้าว่าชงกับปีมะโรงประมาณ 25-50 % อะไรจำไม่ได้แล้ว  เมื่อวันอาทิตย์ก็เลยไปไหว้พระที่วัดไตรมิตร ที่เค้าบอกว่าให้ไปไหว้แก้ชง  ไอ้เราจริงๆก็ไม่ได้เชื่ออะไรขนาดนั้น  แต่คุณนายแม่บอกว่าไหว้เอาฤกษ์เอาชัยรับปีใหม่ดี  ทำอะไรจะได้สมปรถนา

.........................


ชีวิตช่วงนี้เลยมีเวลาว่างเยอะขึ้น (ชอบมาก !) เป็นมนุษย์เงินเดือนมาสิบกว่าปี  พอไม่ต้องเป็นเลยรู้สึกดีใจ ที่ไม่ต้องตื่นเช้าเพื่อเข้างานตอนแปดโมงแล้ว  มีเวลาทำงานแบบชิลๆ  (ซึ่งอาจจะไม่ดีเท่าไหร่  อนาคตอาจกลายเป็นคนขี้เกียจไปเลย แว๊กกกก)


จากเดิมที่เคยตื่นหกโมงครึ่ง  ตอนนี้กลายเป็นตื่นสายไปอีกชั่วโมง หรือชั่วโมงครึ่ง  ตอนแรกมันก็สบาย  แต่ก็เริ่มรู้สึกว่ามันสบายเกินไปแล้วนะยะหล่อน   ขืนตื่นสายอย่างนี้ต่อไปตายกันพอดี  ตอนนี้เลยพยายาม จะไม่โอ้เอ้เหมือนเมื่อก่อน  ตื่นแล้วก็พยายามตื่นเลย ไม่นอนต่ออีก


ส่วนการปรับตัวเรื่องเงิน ก็ยังพบว่าใช้เงินเก่งเหมือนเดิม (ไร้วินัยมาก)  ทั้งที่แปรสภาพเป็นคนทำงานรายวันแล้ว  แต่ให้ตายเถอะ !! ช่วงปีใหม่นี่มีหลายสิ่งจิงเกอเบลให้เลือกกซื้อมากมาย  อันนี้ก็น่าสน  อันโน้นก็ลิมิเต็ด   โอ้ววว สับสนๆๆๆ  ชั้นควรจะ...ประหยัด   แต่เห็นไหม  ว่ามันมีเรื่องจำเป็นต้องใช้เงินเยอะจริงๆ  จำเป็นท้างนานนน





 

Create Date : 13 มกราคม 2558    
Last Update : 5 เมษายน 2558 22:11:11 น.
Counter : 479 Pageviews.  

เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือก...

ในที่สุดก็ต้องตัดสินใจเรื่องอนาคตของเราในปี 2558 ว่าเราจะยังทำงาน หรือมุ่งไปสู่การทำอิ๊คซี่แบบเต็มตัว    เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา บอกตัวเองว่าไอ้สองอย่างนี้มันไม่ได้ไปด้วยกันได้เล้ย Smiley



งานก็ยังอยากทำ  เพราะปีหน้า JCI จะเข้ามาตรวจรพ.  ซึ่งถ้าหัวหน้าไม่อยู่ช่วย ไม่อยู่เตรียม แล้วใครจะทำ...


อิ๊คซี่นี่ไม่ต้องพูดถึง  ตั้งแต่เสียลูกน้อยตอนอายุครรภ์สามเดือนครึ่งไป  อิชั้นก็แทบจะนับวันรอให้ประจำเดือนมาไม่ไหวแล้ว เพราะจะได้เข้าสู่สภาวะฮอร์โมนปกตสักที  (แต่ตอนนี้  จะเดือนครึ่งแล้ว  ยังไม่มาเลยค่า  ฮือๆ Smiley)


ถามว่า "ถ้าจะทำงานไปด้วย ทำอิ๊กซี่ไปด้วยไม่ได้เหรอ"

ตอบเลยค่ะว่า "ทำได้"  แต่มันก็ทำได้แบบตะกุกตะกักหน่อย  เราเจอมากับตัวแล้ว  คือเราไปทำที่กทม.  ต้องลางานไปบ่อยๆ  ยังไม่ได้พูดถึงช่วงใส่ตัวอ่อนที่ต้องหยุดเป็นสิบวันนะคะ ที่มันโคตรเครียดดด  คือใส่ตัวอ่อนมันก็เครียดในตัวหน่อยๆแล้ว   ถ้ามีเรื่องงานมาบวกอีก...โอ๊ยยย ทรมานจิตใจค่ะ   แล้วงานมันแบบ..ปัญหาเย๊อะ  เรื่องแยะ Smiley


ไม่นับรวม ถ้าเกิดท้องขึ้นมาอีก  คือเมื่อก่อนอิชั้นไม่เคยคิดเลยนะว่าการท้องจะเป็นอุปสรรคกับการทำงาน  คิดว่าแค่อุ้มท้องโตๆไปเก้าเดือนแล้วก็คลอด...จบ  ไม่ได้มีอะไรลำบากเลย


พอมาเจอกับตัวนี่ซิค่ะ  โอ้ยยย ทรมานมากๆ  ของอิชั้นอาการแพ้คือการอ๊วก  อ๊วกได้อ๊วกดีทั้งวัน  จนถึงขั้นต้องแอดมิทมาแล้ว  


แถมอาการท้องอืด แน่นท้องเข้าไปอีก คือเวลาฟังสปอตโฆษณาในทีวี  บอกว่า "ท้องอืด.....แน่นท้อง.....ใช้....(ชื่อยา)........"  นี่มันเหมือนเป็นอาการสามัญเนอะ  แต่พอเป็นเข้าจริงมันไม่สามัญเลยค่ะ   มันทรมานมากก  แบบว่าแน่นไปหมด  อึดอัดสุดๆ  แล้วพออึดอัดมากๆก็พาลจะอ๊วกอีก Smiley


สรุปว่าอิชั้นแพ้ได้สะใจมาก  สาแก่ใจคุณพ่อที่แอบตั้งข้อสงสัยตอนแรกว่าแพ้ท้องจริงรึป่าว  ตอนนี้เห็นสภาพแล้วก็สงสารค่ะ...จะว่าไปอิชั้นก็แอบสงสารตัวเองเหมือนกัน ถ้าเลือกได้ก็อยากพักมากกว่าทำงานนะ


เลยหันไปปรึกษาป๊ะป๋ากับคุณนายแม่ ก็ได้ความว่า.... ป๊ะป๋าอยากให้มีเวลาพักมากกว่านี้ อย่างตอนใส่ตัวอ่อน หรือตอนแพ้ท้อง ท้องอ่อนๆก็อยากให้พักเต็มที่ ไม่ต้องทนไปทำงานไปแบบทุกวัน  ส่วนคุณนายแม่นะเหรอ อยากให้ออกตั้งแต่แต่งงานกับพี่ศักดิ์แล้ว  พูดมาตลอด คนไม่ได้อยู่ด้วยกัน มันไม่เหมือนครอบครัวเดียวกัน  บลาๆๆๆ 


พี่ศักดิ์ในฐานะลูกเขยที่ดี  แน่อนว่าไม่มีปากเสียง  ให้ทำยังไงก็ต้องว่าตามกันอยู่แล้ว Smiley


ทีนี้พอจะไม่ได้ทำงาน ก็จะไม่มีเงิน....แต่โชคดี๊ดี ตรงที่มีคนขันอาสา จะให้เงินอิชั้นใช้ไม่ขาดสาย


คือไม่นับรวมพี่ศักดิ์ที่ยังไงก็ต้องเลี้ยงดูเมียอยู่แล้วนะ   แต่ทั้งป๊า แม่   บอกว่าจะส่งเงินให้อิชั้นเป็นรายเดือน   ไม่เว้นกระทั่งน้องสาว บอกว่าเจ้ลาออกเลย มาอยู่บ้าน แล้วเดี๋ยวหนูเลี้ยงเจ้เอง  โห....ช่างน่าชื่นใจจริงๆ 


 (บางแว๊บในใจอิชั้นก็มีคิดนะ นี่กรูเป็นพี่สาวคนโตหรือลูกสาวคนเล็ก  แต่งงานหรือยังไม่แต่งกันเนี่ย  รู้สึกได้รับความอบอุ่นจากบ้านเหลือเกิน Smiley)


เรื่องเงินสรุปว่าไม่มีปัญหา...แต่เรื่องงานก็ยังทำใจ สลัดตัวหนีจากน้องๆไม่ได้ ยังรู้สึกผิดอยู่  ถ้าเราจะไม่ได้ช่วยพวกเค้า  ในโปรเจคที่เรารับมาตั้งแต่ต้น


V
V


ในที่สุด  ก็ตัดสินใจได้คะ Smiley

เราจะลาออกจากการเป็นฟูลไทม์ที่ต้องทำงานตามชั่วโมงที่รพ.กำหนด

มาเป็นพาร์ททามที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาแทน


...เพราะว่าช่วงแรกๆ ที่เรายังไม่ได้ไปหาหมอ เราก็จะยังมีเวลาว่างค่อนข้างเยอะ เราจะเอาเวลาตรงนี้มาทำงานค่ะ


ส่วนช่วงไหนที่ต้องให้เวลากับการทำอิ๊คซี่  ซึ่งจะต้องพักยาวๆหลายวัน อันนี้ถ้าเรารู้ล่วงหน้านานๆแบบนี้ก็น่าจะเตรียมตัวได้ง่าย  และอีกอย่าง  ถ้าไม่มีข้อจำกัดว่าจะต้องหยุดงานยาวๆอย่างเดียว  เช่นช่วงปีใหม่ หรือสงกรานต์   อิชั้นก็สามารถใส่ตัวอ่อนได้ทุกเมื่อโดยไม่ต้องห่วงงานแล้ว



ก็คือตัดสินใจแล้วโน๊ะว่าจะมาทำอิ๊คซี่แบบเป็นงานหลัก  แล้วทำงานแบบเป็นงานเสริม   เพียงแต่ช่วงนี้...ว่าง  ก็ทำงานไปก่อนเยอะๆๆๆ  จะได้เก็บตัวไว้จ่ายค่าอิ๊คซี่งัย  ยังต้องใช้อีกหลายเงินเนอะ


เมื่อตัดสินใจแล้วก็ต้องทำให้ได้ดีที่สุด Smiley




 

Create Date : 25 ธันวาคม 2557    
Last Update : 4 มกราคม 2558 19:07:31 น.
Counter : 686 Pageviews.  

อัพเดทชีวิต 22 ธันวาคม 2557

วันนี้ไปทำบัตรประชาชนใหม่มา  เป็นครั้งแรกที่ได้ทำด้วยสาเหตุ "ต่ออายุ"
เพราะที่ผ่านมา ชีวิตอิชั้นมีแต่ "บัตรหาย" ค่าาา


ครั้งแรกคือตอนอายุ 15 ทำเสร็จบัตรหายเลย  รวดเร็วมาก

ครั้งสองคือลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ที่โต๊ะนั่งริมระเบียงรพ.  แป๊บเดียวหายวับไปกับตา ทำใหม่อีกรอบ

ครั้งที่สาม  โดนทุบกระจกที่ฟิตเนสครับ  กระป๋งกระเป๋ามันเอาไปทั้งใบ  ครั้งนี้เจ็บสุด เฮิรทสุด  แต่เหมือนมันจะมาให้เป็นบทเรียนสอนใจ  เพราะหลังจากนั้นอิชั้นก็ไม่เคยทำอะไรหายอีกเลยย (เข็ด)

ไปทำบัตรมา...ดูๆไปเจ็ดปีที่ผ่านเนี่ย  ทำให้เราแก่ขึ้นเยอะเลย ขอสารภาพตามตรง  แก้มก็ห้อย  อ้วนขึ้นอีกตะหาก อุตส่าห์แต่งหน้าแบบจัดเต็มแต่ไม่ช่วยอะไรเล้ยย  เศร้าแป็บ Smiley


..........................


ช่วงนี้เป็นนกขมิ้นเหลืองอ่อนตัวอ้วนๆ ที่บินไปค้างบ้านนู้น บ้านนี้บ่อยมาก ตั้งแต่ท้องจนไปทำแท้ง อยู่บ้านคุณนายแม่ตลอดเลย  เวลาที่พี่ศักดิ์จะมานอนบ้านนี้ก็ต้องหอบเสื้อผ้าเสื้อผ่อน ข้าวของเครื่องใช้เทียวไปเทียวมา  เวลาขนนี่ไม่เคยต่ำกว่าสามกระเป๋า  ของที่ต้องขนก็มีสารพัด.....ตั้งแต่

- เสื้อผ้า ชุดชั้นใน  ทั้งแบบธรรมดา  และแบบออกกำลังกาย
- เครื่องสำอาง  ขนทั้งกุรุส รวมครีมบำรุงด้วย
- มือถือ  + แทปเล็ต  และที่ชาร์จ
- ยาบำรุงร่างกาย  วิตามิน
- spint ใส่กันกัดฟันตอนกลางคืน

นอกจากนี้ก็จะมีของอะไรนักหนาก็ไม่รู้ ที่เกิดต้องใช้ขึ้นมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  บางทีเราก็เหนื๊อย เหนื่อย  กับการต้องขนของไปขนของมาบ่อยๆ  แต่ดูๆไปเวลาพี่ศักดิ์กลับบ้านก็มาแค่กระเป๋าสะพายใบเดียวนี่หว่า  อิจฉาจุง  ทำไมผู้ชายสัมภาระน้อยอย่างนี้น้อ


............................

บางทีก็อยากให้หนึ่งวันมีมากกว่า 24 ชม. รู้สึกว่าเหนื่อย  ทำอะไรก็ไม่ค่อยทัน  แป๊บๆหมดวัน   ไม่ได้ทำอะไรเบย

งานช่วงนี้ก็โหดอิ๊บอ๋าย  ประกอบสุขภาพที่ผ่านช่วง culture shock กับการ terminate น้อง  ทำให้เรารู้สึกว่ามันเหนื่อย  มันล้า  อยากจะพักผ่อนร่างกายและจิตใจให้มากกว่านี้


อันที่จริงงานเราก็ค่อนข้างอยู่ตัวนะ  ถึงไม่อยู่ก็ยังมีคนพอทำแทนได้เลย  เพียงแค่ว่าถ้าเป็นงานเอกสารหรืองานประชุมเค้าต้องรอเราอยู่บ้าง  แต่เท่านี้ก็ยังไม่พอ (โลภได้อีก)   คือมันเหนื่อย  + ขาดแรงกำลังใจในการทำงานเยอะอ่ะ  อาจเพราะเราอิ่มตัวจากงานแล้ว 


ปีหน้าคาดว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่เกิดขึ้นในชีวิต  โปรดรอต่อด้วยใจระทึก




 

Create Date : 22 ธันวาคม 2557    
Last Update : 25 ธันวาคม 2557 20:41:48 น.
Counter : 718 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  

hi hacky
Location :
ชลบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]




Life is a journey....
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add hi hacky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.