ไปตัดไฝและถอดเล็บในวันเดียวกัน.....อะจ๊ากกกก เจ็บมากเลยอ่า
เรื่องมันมีอยู่ว่าอิชั้นมีไฝดำเม็ดเบ้อเฮิ่มที่กลางหลัง ซึ่งใครก็พูดกันว่าไฝนี้บ่ ดีเล้ย เป็นไฝแบกหามอ่ะ รู้หรือปล่าว
ตัวดิชั้นเองถึงแม้จะยังไม่ได้ทำงานเป็นกรรมกรก่อสร้างที่ไซด์งานไหน แต่เจอไซโคจากคนที่ทักไฝเจ้ากรรมเม็ดนี้บ่อยๆเข้า ก็บังเกิดอาการนอยด์ขึ้นมา เอ....หรือว่าเพราะไอ้ไฝนี่ทำให้เราทำงานหนักจริงๆ อย่ากระนั้นเลย....ถ้ามันไม่ดีก็กำจัดไปให้พ้นทางดีกว่า อย่าเอาไว้เลย.....
ตอนนั้นชักอยากทำนะคะ แต่ใจอิชั้นก็กลัวไปสารพัด กลัวเข็ม กลัวตอนหมอตัด กลัวทุกอย่าง แต่ในวูบนึงก็พยายามเชียร์อัพตัวเอง เอาวะ เพื่ออนาคตๆๆๆ เผื่อว่าตัดไฝออกแล้ว จะสบายจริงๆไง (อารมณ์ประมาณว่าหมอดูทักว่าเปลี่ยนชื่อแล้วจะรุ่งอะไรทำนองเนี้ย)
เออ....แล้วไหนๆก็จะเอาไฝออกแล้ว ต้องเจอกับหมอศัลยกรรมที่เอาสิ่งไม่พึงประสงค์ทุกอย่างออกจากตัวเราได้ อย่ากระนั้น สำรวจซิ ว่าเรายังมีอะไรแปลกปลอมที่ต้องการ reject ออกไป
สุดท้ายจากการสำรวจก็พบ...เล็บนิ้วก้อยที่เท้าสองข้างที่ผิวเป็นคลื่น สาเหตุน่าจะเกิดจากเล็บขบ หรือการใส่รองเท้าที่หัวแคบไป ทำให้การขึ้นของเล็บนิ้วก้อยผิดปกติ กลายมาเป็นคลื่นๆอย่างที่เราเป็นอยู่......
สองจิตสองใจ เอาไงดีวะ ทำมันทีเดียวหมดเลยดีไหม ไหนๆก็ไหนๆ จะได้ไม่ต้องหาหมอหลายๆรอบ เอามันออกให้หมดทั้งไฝทั้งเล็บ
แต่ใจก็กลับยิ่งกลัวขึ้นมาสองเท่าเลย ตะกี้แค่ไฝอย่างเดียว อิชั้นยังกลัวจะแย่ นี่ต้องถอดเล็บด้วย เรียกว่ามหาโหดเลยล่ะ ใครที่เคยถอดมีแต่คนบอกว่าเจ็บแบบโคตรๆๆๆๆ เราเองยังไม่เคยถอดสักเล็บ นี่คิดจะทำพร้อมตัดไฝ... จะไหวเหรอเนี่ยยยยย
ทำใจนานนนนนน จนสุดท้ายก็ตัดสินใจ เอาก็เอาวะ ทำมันทั้งหมดเลย เจ็บก็แค่ตอนทำ หลังจากนั้นก็สบายแล้ว (เรามีสูตรยาสำหรับอาการปวดมากๆ ที่กินพาราไม่หายเตรียมรออยู่แล้ว) เตรียมใจเสร็จแล้วก็ลุย ! เข้าไปหาหมอเลย
v v v v
เข้าไปถึง ก็แจ้งความจำนงกับหมอ สื่อสารกันไม่ยาก....รู้จักกันอยู่แล้ว คุยกันแป๊บเดียวหมอก็เข้าใจความต้องการของเราทุกอย่าง จึงถึงเวลาขึ้นเขียง โดยเริ่มแรกหมอจะตัดไฝก่อน เพราะผิวหนังมันสะอาดกว่า แล้วค่อยไปทำที่เท้า
เรานอนคว่ำ ให้หมอฉีดยาชาที่ไฝ มันก็เจ็บๆนิดนึง แต่ก็พอทนได้ พอเริ่มชา หมอก็เริ่มตัดๆ สงสารก็แต่ผู้ช่วยพยาบาลที่ช่วยหมอ เห็นมันทำท่าสยองนิดๆ เวลาที่หมอตัด เลยถามว่าทำไมทำหน้าอย่างนั้นอ่ะ เจ้าน้องบอกมันเสียวอ่ะ เวลาหมอดึงไฝขึ้นมา แล้วก็ตัดแหง็บๆ (เออ พูดซะตรูเสียวตามเลย ไม่รู้ไม่เห็นภาพเหมือนเดิมน่าจะดีกว่า) ก็เลยหลับตาปี๋ ท่องไว้เดี๋ยวก็เสร็จแล้วๆ สุดท้ายก็เสร็จจริงๆจนได้
มาถึงเท้า หมอให้เรานอนหงาย แล้วผู้ช่วยพยาบาลก็มาเช็ดเบตาดีนเพื่อทำความสะอาด แต่อันนี้พิเศษกว่านะตรงที่มีบุรุษพยาบาลสุดหล่อเจ้าแบงค์เดินเข้ามาด้วย มันมาทำไรหว่า ตะกี้ตัดไฝก็ยังไม่เห็นมาเลยนี่
สงสัยได้เพียงแป๊บเดียว พอหมอฉีดยาชาเข้าไปที่นิ้วแถวๆซอกเล็บ เราจึงได้รู้ว่าบุรุษพยาบาลนี่เข้ามาทำไม เพราะเจ้าแบงค์จัดการล็อคขาเราทันทีที่หมอฉีด แล้วก็บอกว่าเราว่า หมอฉีดยาชา จะเจ็บหน่อยนะพี่
v v v v
โอ้ย !!!!!! มันเจ็บมากๆๆๆๆๆๆ เลยโว้ย โคตรจะเจ็บ จนน้ำตาเราแทบไหลเลย ขาเรากระตุกเลยอ่ะ แบบควบคุมตัวเองไม่ได้ เจ็บ เจ็บ เจ็บ เจ็บ แบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ต่างกับตอนที่หมอฉีดเข้าไปในไฝล้านเท่า โอย หาเรื่องจริง ตรูจะตายมั้ยเนี่ย ฮือๆๆ
แถมที่สำคัญ เราทำสองข้างด้วยนะ นี่ฉีดเข้าไปข้างเดียว ก็ทำเราปวดร้าวเจียนตายได้ขนาดนี้ อีกข้างชั้นไม่ทำได้ไหมเนี่ย เจ็บจะตายอยู่แย้ว หมอเหมือนรู้ใจ รีบจิ้มอีกข้างทันที เจ็บๆๆๆๆๆ ไม่ต่างกับครั้งแรกเลย เราเกร็งไปทั้งตัวเลย ความเจ็บมันแล่นเข้าสมอง พอหมอถอนเข็มออกมา เราก็ถอนหายใจยาวววววว เฮ้อ ความทรมานแสนสาหัสมันผ่านพ้นไปเลย ช้านรอดตายแล้วววววว เย้
จากนั้นก็ถึงกระบวนการถอดเล็บ โดยหมอจะใช้วิธีแหย่อุปกรณ์เข้าไปในเล็บ แล้วก็ตวัดงัดมันออกมา (ไม่ได้เห็นเองหรอก น้องที่เข้าเคสมาเล่าให้ฟังทีหลัง) แต่รู้สึกเบากว่าฉีดยาชาเยอะเลย อันนั้นมันเจ็บโคตรๆๆๆ
สุดท้าย..พอทำเสร็จ เราก็มีผ้าก๊อซแปะที่ตัดไฝ 1 ที่ นิ้วก้อยซ้ายสองข้างพันผ้าก๊อซหนาเตอะ 2 ข้าง รวมเป็น 3 จุด sensitive ที่ห้ามโดนน้ำในช่วงนี้ (ตายล่ะ ชั้นจะอาบน้ำยังไงละเนี่ย) หมอสั่งห้ามโดนน้ำอาทิตย์นึง เพื่อไม่ให้แผลติดเชื้อ สุดท้าย หมอถามว่าเอาใบรับรองแพทย์กี่วัน
เราบอกหมอว่าไม่เอาค่ะ ไม่หยุดต้องทำงาน หมอร้องเฮ้ย ไหวเหรอ ผู้ชายตัวโตๆ ถอดเล็บแค่นิ้วเดียวยังต้องหยุดอย่างต่ำวันนึงเลย แล้วนี่คุณไม่หยุดจริงเหรอ เลยต้องคอนเฟริมว่าไม่หยุดจริงค่ะ หนูหยุดไม่ได้ ช่วงนี้หนูยุ่งมาก งานเข้าตลอด หมอก็พยักหน้า อือๆ เข้าใจ ก็กินยาเอาแล้วกัน
ทีนี้มาถึงการกินยา ด้วยว่าเราเป็นเภสัชกร เราจึงรู้สูตรยาที่แก้ปวดได้อย่างแรง ชนิดที่ว่าแรงน้อยกว่ามอร์ฟีนหน่อยนึง และสามารถหามาทานได้อย่างถูกกฎหมาย ถ้าใครที่ต้องการทราบก็สามารถสอบถามได้เน้อ ประมาณว่าถอนฟันคุดเสร็จ กินยานี้เข้าไปยังเฉยๆ ยาวิเศษจริงๆ โฮก
สำหรับคืนนี้นอนหลับฝันดีเลยคะ ได้เคลียร์สิ่งที่อยากเอาออกมานาน ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ ที่ไม่คิดตังค์เราสักบาทหุหุ บายจร้า
ปอลิง....เนื่องจากมีผู้สนใจสอบถามสูตรยาที่อิชั้นกินเยอะเหลือเกิน ซึ่งอิชั้นก็ตอบหลังไมค์ไปเยอะแล้ว แต่เพื่อนๆบางคนก็ไม่มี log in เป็นขาจรทำให้ส่งหลังไมค์ไม่ได้ เราจึงขออนุญาติโพสสูตรยาที่เราทานในบล๊อคเลยแล้วกัน จะได้ตอบข้อสอบถามของเพื่อนๆค่ะ อนึ่ง ! การจะรับประทานยาแต่ละครั้ง ขอให้ตรวจสอบให้มั่นใจว่าท่านไม่ได้แพ้ยาชนิดนั้น และหากถึงแม้จะไม่แพ้ แต่ทานเขาไปแล้วมีอาการผิดปกติกับร่างกาย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน แน่นหน้าอก ผื่นขึ้น ขอให้ท่านพึงสังวรณ์ว่าอาจแพ้ยาชนิดนี้เข้าให้แล้ว ให้หยุดยาทันที ดื่มน้ำมากๆและหากอาการผิดปกตินั้นไม่ดีขึ้น ขอให้ไปพบแพทย์ด่วนค่ะ V V
สูตรยาค่ะ เราทานสองตัวนะ 1 Tramal 50 mg ยานี้เป็นยาแก้ปวดที่ค่อนข้างแรง ไม่สามารถซื้อจากร้าขายยา แต่สามารถพบแพทย์เพื่อขอซื้อยาได้ค่ะ ทานครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า เย็น 2 Idarac 200 mg ตัวนี้แก้ปวดได้ดีเหมือนกัน แต่จะอ่อนกว่าตัวแรกหน่อย ข้อดีคือสามารถหาซื้อในร้านขายยาได้ ทานครั้งละ 1 เม็ด สามเวลาหลังอาหาร กรณีที่ไม่สามารถหาซื้อยาตัวที่ 1 ได้ สามารถใช้ยานี้ทดแทนได้ (ทานร่วมกับตัวที่สอง) คือ Ibuprofen 400 mg ทานครั้ง 1 เม็ด สามเวลาหลังอาหารทันที ข้อดีคือสามารถซื้อตามร้านขายยาได้.... หลังจากที่เราถอดเล็บ เราทาน Tramal+ Idarac ค่ะ มีอาการปวดแบบตุ๊บๆ บริเวณที่ถอดเล็บแป๊บเดียว แต่ปวดไม่มากค่ะ และหลังจากนั้นไม่ถึงหนึ่งชม. แล้วก็ไม่ปวดอีกเลย แต่มีผลข้างเคียงจาก Tramal คือง่วงนอนค่อนข้างมาก เพราะยากดระบบประสาท วันนั้นต้องงดขับรถค่ะ ขอให้ทุกท่านโชคดีนะคะ...
Create Date : 16 ตุลาคม 2552 | | |
Last Update : 19 มกราคม 2557 15:42:59 น. |
Counter : 4197 Pageviews. |
| |
|
|
|