คุณแม่น้องแฝด ฮานากะฮารุ ^^
มาโรงพยาบาลทำไมมีแต่คนถามเรื่องแพ้ยาๆๆๆน่าเบื่อจริงๆ

เป็นประโยคที่เราเคยโดนมาแล้วในจ่ายยาของเรา

ก็เข้าใจอยู่...ว่าคุณคงหงุดหงิดอ่ะนะ ที่พอเข้ามาโรงพยาบาล
ก็ดูหน้าตาไฮโซใช้ได้
คอมพิวเตอร์ก็มีตั้งหลายเครื่อง แล้วมันไม่ได้ลงข้อมูลไว้เรอะว่าชั้นแพ้ยาอะไร
ทำไมต้องมาถามๆๆๆๆ กันตั้งแต่วัดความดันยันเรียกรับยา
ที่ถามๆเนี่ย ตั้งกี่คนเข้าไปแล้ว ตั้งแต่เจ้าหน้าที่วัดความดัน พยาบาล หมอ เภสัช ฯลฯ
บอกแค่ครั้งเดียวก็น่าจะพอแล้ว เลิกถามได้ไหมมมมม

เจอมาแล้วจริงๆค่ะ กับคำๆนี้
มันเป็นสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจดิชั้นมานาน
และวันนี้ดิชั้นอยากตอบพวกคุณว่า.....


.....ดิชั้นรู้ค่ะ ว่าคุณหงุดหงิด
(ตอนนี้ดูไม่ออก ก็ตาบอดแล้วโว้ย)
แต่เพื่อชีวิตและความปลอดภัยของคุณ ดิชั้นต้องถาม
ต่อให้โดนคุณต่อว่า หรือประณามหยาดเหยียดดิชั้นเพียงใด ดิชั้นก็ต้อง
ปฎิบัติหน้าที่เภสัชที่ดี ซักคุณต่อไป....ฮือ
(โอ๊ะ...อันนี้ออกน้ำเน่าไปนิด เมือคืนดูรอยรักรอยบาปมากไปนิด เลยอินไปหน่อย นึกว่าตัวเองเป็นนู๋แก้ว หุหุ)

ต่อค่ะต่อ.......
เเหตุผลที่ทุกคนซักคุณซ้ำแล้วซ้ำอีกเรื่องการแพ้ยา
นั้นเพราะว่าการแพ้ยาเป็นอันตรายต่อคนไข้อย่างมาก

ขอวิชาการนิดนึงนะคะ การแพ้ยาแบ่งได้ 2 แบบ
1.การแพ้แบบที่สามารถคาดเดาได้
2.การแพ้ยาแบบที่ไม่สามารถคาดเดาได้

อย่างเช่นยาแก้อักเสบที่เรารู้จักกัน ที่ชอบเรียกว่าแคปซูลสีดำแดงนะคะ อันนั้นเค้าเรียกว่า Amoxycillin
เป็นยายอดฮิตที่ก่อให้เกิดอาการแพ้โดยอันดับต้นๆเลย
โดยอาการก็มีมากมาย ตั้งแต่ผื่นคันลมพิษ แปลว่าไปแสดงออกที่ผิวหนัง
แต่ถ้าไปเป็นที่หลอดลมน่ะ ถึงตายนะคะ
เพราะหลอดลมจะตีบจนหายใจไม่ออก
เป็นการแพ้ยาแบบคาดเดาได้ค่ะ เพราะเรามีสถิติการแพ้ในมือเราอยู่แล้ว

ส่วนอีกประเภทที่คาดเดาไม่ได้ ก็คือ เป็นยาที่ไม่ค่อยมีประวัติก่อให้เกิดแพ้ยา แต่เมื่อบางคนกินไปกลับเกิดอาการแพ้ เป็นต้น
อันนี้ป้องกันยากค่ะ มีวิธีเดียวที่ต้องระวังคือเฝ้าสังเกตตัวเองเวลารับประมานยาทุกครั้ง ว่ามีอาการผิดปกติใดๆเกิดขึ้นหรือไม่


แต่สรุปแล้ว.....หากคนไข้มีประวัติแพ้ยาตัวไหน
ก็ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะไปจ่ายให้อีก
เพราะหากเกิดอาการแพ้ยามา จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อคนไข้มากค่ะ
อาจถึงขั้นเสียเงินเสียทอง ต้องนอน admit
แถมยังอาจเกิดความขุ่นเคืองใจ ที่หมอจ่ายยาที่ตนเองแพ้มาให้...
ทำให้รพ.เค้าถึงได้กลัวนักกลัวหนาในการจ่ายยาที่คนไข้แพ้
เพราะถือว่าเป็นความรับผิดชอบอันดับหนึ่งเลยในการให้การบริบาลคนไข้

นั่นคือ คนไข้ที่แจ้งชื่อยาที่ตนเองแพ้แล้ว ไม่สมควรได้รับยานั้นอีก
โดยระบบคอมพิวเตอร์จะต้องแจ้งเตือนทุกครั้งที่ทำการคีย์ยา
หากพบว่าเป็นยาที่คนไข้แพ้ ต้องแจ้งเตือนทันที
เป็นสิ่งที่ทุกรพ.ปฎิบัติอย่างเคร่งครัดค่ะ

นอกจากนี้ผู้ปฎิบัติงานในจุดต่างๆ
ต้องร่วมกันตรวจสอบข้อมูลการแพ้ยาของคนไข้
เพื่อไม่ให้เกิดการหลุดจ่ายยาที่คนไข้แพ้ออกไป
ถือเป็นหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบทุกคนค่ะ...

....และข้อมูลแพ้ยาก็จะเป็นหน้าที่ของเภสัชกรอย่างอิชั้นนี้แหล่ะคะ
เป็นผู้ลงบันทึกในระบบคอมพิวเตอร์
แต่ถ้าหากมีผู้ใดหลงลืม ลืมซักหรือลืมแจ้งเภสัชล่ะคะ
ข้อมูลก็อาจจะไม่ได้ส่งมาที่เรา....

อย่าลืมว่าคนทำงานในรพ.ก็เป็นมนุษย์ปุถุชนเหมือนเราๆท่านๆที่แหล่ะคะ
มีทำงานผิดพลาด เอ๋อๆลืมๆกันบ้าง ก็มีให้เห็นมาแล้ว
ก็คนนะคะ ไม่ใช่เครื่องจักร
เค้าถึงได้มีคำว่า Human Error ออกมา
และเป็นค่าสากลที่ทุกคนรู้ว่าจะต้องมีเกิดขึ้นคะ
เป็นศูนย์ไม่ได้ เพราะคนไม่ใช่เครื่องจักรอย่างที่บอกไป


แล้วทีนี้อิชั้นจะแน่ใจได้ยังไงค่ะ ว่าเค้าส่งข้อมูลมาให้ครบหรือเล่า
ทางเดียวที่จะป้องกันชีวิต (ของคุณ)และทรัพย์สิน (ของโรงพยาบาลในกรณีเกิดการฟ้องร้องขึ้นมา) ได้ก็คือ.......

ตัวเราเองเท่านั้นแหล่ะคะ
ปากเรามี...ถามมันทุกเคส
เผื่อจะเจอมีลืม มีหลุด
(ซึ่งเราก็เจอจริงๆนะคะ บ่อยด้วย)
เราจะได้ป้องกันได้ทันท่วงทีไงค่ะ

อย่าลืมค่ะ....ยาไม่ใช่ขนม
เป็นสารเคมีที่รักษาโรคให้คุณได้ฉันใด
ก็สามารถก่อให้เกิดปฎิกริยาไม่พึงประสงค์ (ในกรณีที่คุณแพ้มัน)ได้ฉันนั้น
ใส่ใจสักนิด.....สังเกตดูว่าเวลาไปหาหมอ หมอถามคุณเรื่องแพ้ยาหรือไม่
เพราะการซักแพ้ยาคือความใส่ใจค่ะ ห่วงใยคนไข้
และหากมีคนห่วงใยคุณมากกว่าหนึ่งคน...มันไม่ดีเหรอค่ะ
อย่ารำคาญกันเลยคะ คิดซะว่าทุกอย่างที่เราทำ
คำถามแพ้ยาที่ทุกคนพากันซักคุณ จนบางครั้งอาจดูน่ารำคาญนั้น

ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองยังไงคะ....



Create Date : 07 กันยายน 2552
Last Update : 19 มกราคม 2557 15:49:10 น. 0 comments
Counter : 570 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

hi hacky
Location :
ชลบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]




Life is a journey....
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add hi hacky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.