Bloggang.com : hi hacky - ไปตัดไฝและถอดเล็บในวันเดียวกัน.....อะจ๊ากกกก เจ็บมากเลยอ่า

สวัสดีครับ...ผมก็พึ่งถอดมาสดๆร้อนๆครับ ณ วันนี้ล้างแผลไปแล้ว2ครั้ง วันและครั้ง ไม่รู้ต้องล้างอีกเท่าไหร่ ผมต้องใส่รองเท้าเซฟตี้ทำงานด้วย บรรยกาศในห้องERไม่ดีเลยพยาบาลแดยาชาที่นิ้วโป่งข้างขวาเข็มแทงลงล่างแล้วกดยาเสร็จแล้วคุณพยาบาลก็ถอยเข็มมานิดนึงแล้วทแยงขึ้นบนเลย พยาบาลบอกให้ผมนอน แตผมก็อดที่จะดูไม่ได้เพราะนี้เป็นครั้งแรกของผม และไม่ควรจะมีครั้งต่อไป คุณเอ่ยทรมารมากๆ ฉีดเข้านิ้วเท้าทั้ง2ด้าน เสร็จแล้วพยาบาลกดแผล ถามว่าเจ็บไหม คุณพระ... ยายังไม่ไปไหนกดซะแรง..ผมตอบไปว่าเจ็บครับ พยาบาลถามต่อว่าเจ็บหรือรู้สึก ผมตอบอย่างมั่นใจครับ..เจ็บ ไม่นานเครื่องมือชำแหละก็ปรากฏแก่สายตา หน้าตาคล้ายกรรไกรตรงหัวคล้ายที่คีบเพชร พลอย แล้วคุณพยาบาลก็ลงมือทันที ภาพทีผมแอบดูนั้นคุณพยาบาลนำคีบที่ว่าแซะเข้าไปที่เล็บเท้าพร้อมงัดขึ้นมา เล็บฉีกครึ่งแต่ไม่ขาด คุณพยาบาลจึงแซะเข้าไปอีกหวังว่าจะเอาออกให้หมด และไม่เกินความสามารถของเธอจริง...ผมหมดความรู้สึกไปแล้ว แตก็ภวานาว่าอย่าพึ่งหายชานะ มีคุณพยาบาลเข้ามาสมทบดูแผล แล้วบอกว่าแซะเข้าไปอีก โอยยังไม่เสร็จ พยาบาลก็ก้มหน้าลงไปอีก คีมกดลึกลงไปจนได้จมูกเล็บอีกหนึ่งชิ้น แผลเป็นรูเลย ยาอย่าพึ่งหมดนะ คุณพยาบาลล้างแผลแล้วเอาสำลีชุบยาเช็ดๆ และมีสำลีชี้นเล็กๆมายัดที่รูดโบ๋ตรงจมูกเท้า ถ้ายาหมดผมคงตายแน่ๆ ล้างจนเสร็จก็ ปิดแผลด้วยตาข่ายชิ้นเล็กๆและสำลีชุบยาอุดไว้ที่รูอีก พันแผลเรียบร้อย...เริ่มรู้สึกปวดตุ๊บๆทีแผลแล้ว อยากกลับบ้านไม่เอาแล้ว ขอสารภาพว่าเหตุที่ทำให้ผมต้องมาถอดเล็บเนื่องจาก ผมตับเล็บที่จมูกเท้าแล้วชอบฉีกขึ้นบน เพราะเข้าใจว่ามันจะไม่กดที่หนังอีกนาน แต่ครั้งนี้โชคร้ายได้เลือดเพราะมันคงเช้าลึกไปทำให้เกิดแผล ผมพยายามทีจะรักษาด้วยตัวเองทั้งพยาตัดเล็บทีมันจะทิ่มแผลเช็ดให้แห้งหลังอาบนำ รวมแล้วเกือบปีนึง มีคนแนะให้ไปถอดเล็บตั้งแต่ทีแรก ผมไม่เอากลัวเจ็บ บอกเค้าไปว่าเดี๋ยวก็หายแล้ว จนรู้สึกว่าพึ่งหมอน่าจะดีกว่า จึงได้รวบรวมกำลังใจไปโรงพยาบาลเพื่ออนาคตทีดีกว่า หวังว่าคงจะไม่ตัดเล็บแบบเคยอีก เข็ดจนตาย ขอขอบคุณพยาบาลน่ารักทุกท่านที่ช่วยทำแผลให้ผมอย่าถนุดถนอม ขอบคุณเภสัชกรทีจ่ายยาดีๆมาให้ทาน ขอบคุณคุณ hackyที่ทำให้ผมมีที่ระบายความเจ็บปวด ขอบคุณครับ dogpitbull