Ortho knowledge for all @ Do no harm patient and myself @ สุขภาพดี ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ ต้องสร้างเอง

๔ คำสำคัญในยุค ๒๐๐๐ ... จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๑๒๔




จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๑๒๔

๔ คำสำคัญในยุค ๒๐๐๐


เด็กที่เริ่มรู้ความในวันนี้ จะโตมาพร้อมกับการรู้จักคำหลักของยุค เช่น อินเตอร์เน็ต กูเกิ้ล เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์
เด็กคนไหนจะไม่เคยได้ยินคำใดอื่นนอกเหนือจากนี้ไม่เป็นไร
แต่ถ้าไม่ได้ยิน ๔ คำข้างต้น ก็แปลว่าอยู่ในที่ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้


คุณอาจนึกว่าผมลืมคำว่า "คอมพิวเตอร์" ไป
ความจริงไม่ลืมครับ แต่ผมมองว่าคนยุคเรา จะเริ่มรู้สึกว่าคอมพิวเตอร์เป็นเพียงส่วนประกอบของอินเตอร์เน็ต
ทำนองเดียวกับที่รู้สึกว่านึกถึงคำว่า "บ้าน" ก็พอ ไม่ต้องนึกถึงประตูรั้วหรือประตูเข้าบ้านก็ได้
คำว่า "บ้าน" ครอบคลุมพออยู่แล้ว ยังไงต้องมีประตูแน่ๆอยู่แล้ว
เราจะพูดคำว่า "เล่นเน็ต" มากกว่า "เล่นคอมพ์"
เราเริ่มไม่รู้ตัวว่าโทรศัพท์มือถือคือคอมพิวเตอร์ แม้แต่นาฬิกาก็เริ่มกลายเป็น "ประตูเข้าเน็ต" เต็มรูปแบบได้แล้ว

และใน ๔ คำสำคัญประจำยุค ๒๐๐๐ ทั้งหมด
ถ้าพูดถึงความเป็นอมตะ อินเตอร์เน็ตก็อมตะที่สุด เพราะอินเตอร์เน็ตคือรากเหง้าของกูเกิ้ล เฟสบุ๊ค และทวิตเตอร์
สามตัวหลังจะไม่เกิดขึ้นถ้าไม่มีอินเตอร์เน็ต เหมือนกับที่ลูกขาดพ่อแม่ไม่ได้
กูเกิ้ล เฟสบุ๊ค และทวิตเตอร์อาจล้มหายตายจาก ถ้าเจอคู่แข่งทำยอดผู้ใช้ได้มากกว่า
แต่อินเตอร์เน็ตจะยังคงเป็นอินเตอร์เน็ตตลอดไป ต่อให้มีระบบเครือข่ายล้ำยุคมาแทนที่แบบแผนในปัจจุบันก็ตาม

ข้อมูลจาก //www.internetworldstats.com/stats.htm
บอกเราว่าปัจจุบันมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตไม่ต่ำกว่าสองพันล้าน
คิดคร่าวๆคือ ๑ ใน ๓ ของประชากรโลกทั้งหมด
ทั้งที่เมื่อสิบปีก่อนเพิ่งมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเพียง ๓๖๐ ล้าน เท่านั้น
เรียกว่าเว้นแต่ท้องที่ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีใครไม่ใช้อินเตอร์เน็ตแล้ว

มีคนเขียนหนังสือขึ้นมาบอกว่า
อินเตอร์เน็ตเมื่อร่วมมือกับกูเกิ้ลแล้ว ทำให้คนยุคเราโง่ลง
เพราะอยากรู้อะไรก็ได้รู้เร็วเกินไป
คีย์คำที่ต้องการเดี๋ยวเดียวก็ได้คำตอบ
ต่างจากสมัยก่อน กว่าจะรู้อะไรทีต้องหืดจับ
ทำให้สมองของเราไม่จดจำ
เหมือนทุกอย่างผ่านมาเพื่อผ่านไปแบบสายฟ้าแลบ

บางคนก็บอกว่าเฟสบุ๊คทำให้คนไม่อยู่ในโลกความเป็นจริง
หมกมุ่นอยู่แต่กับเพื่อนที่คุยถูกคอ
เล่นแต่เกมที่ถูกใจ แล้วก็ใช้เป็นเครื่องมือจับผิดแฟน
เรียกว่าเริ่มจีบกันในเฟสบุ๊ค
น้อยกว่าเริ่มตีกันเพราะเฟสบุ๊คเยอะ
ผมยังจำข่าวได้ว่าหนุ่มขี้หึงยิงเมียตัวเองดับคาแป้นพิมพ์เฟสบุ๊ค
เพื่อนในเฟสบุ๊คของเธอคงนั้นคงสยองพิลึก
หากรู้ว่าเธอถูกฆาตกรรมเพราะคุยกับเขาอยู่

บางคนก็บอกว่าทวิตเตอร์ทำให้คนเพ้อเจ้อเก่งขึ้น
อยากพล่ามอะไรก็พล่ามไปเรื่อยเปื่อย
ตัวเลข follower ทำให้สำคัญผิดไปว่าพูดอะไรไป
จะมีใครต่อใครได้ยินเป็นจำนวนเท่านั้น
มันทำให้คนยุคเรารู้สึกว่า
มีที่ที่เปิดโอกาสให้ตัวเองเป็นคนสำคัญ
พูดอะไรแล้วมีคนฟังเยอะๆ
เลยพูดทุกอย่างที่คิด เหมือนได้โชว์พาว
เหมือนได้เครื่องกระตุ้นให้พูดๆๆ อยากพูดอะไรก็พูด
หลายคนเริ่มงง หลังจากทวีตอย่างต่อเนื่องเป็นชั่วโมง
นี่เราทำอะไรลงไป พูดอยู่กับใครกันแน่ ใครบ้างที่ฟังเราอยู่

จะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม
๔ คำสำคัญกำลังมีบทบาทกับโลกมนุษย์อย่างใหญ่หลวง
ทุกข้อดีเป็นพันๆข้อของอินเตอร์เน็ต
กลายเป็นการเสพติด และกลายเป็นตัวกำหนดกรรม
กรรมทางความคิด คำพูด ตลอดจนการลงมือทำของคนรุ่นใหม่
แทบจะมีศูนย์กลางอยู่ที่ ๔ คำสำคัญนี้ไปแล้ว

สำหรับโลกภายนอกยกไว้
แต่สำหรับเรา อินเตอร์เน็ตก่อกุศลหรืออกุศลมากกว่ากัน?
ถามตัวเองง่ายๆ อินเตอร์เน็ตทำให้เรารู้เห็นได้ทุกอย่าง
เราเลือกที่จะรู้เห็นอะไรบ้าง?
อินเตอร์เน็ตทำให้เราพูดคุยได้ตลอดเวลา
เราเลือกที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องใดบ้าง?

ดังตฤณ
กรกฎาคม ๕๔






Create Date : 08 กรกฎาคม 2554
Last Update : 8 กรกฎาคม 2554 17:27:55 น. 0 comments
Counter : 1354 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมอหมู
Location :
กำแพงเพชร Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 762 คน [?]




ผมเป็น ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ หรือ อาจเรียกว่า หมอกระดูกและข้อ หมอกระดูก หมอข้อ หมอออร์โธ หมอผ่าตัดกระดูก ฯลฯ สะดวกจะเรียกแบบไหน ก็ได้ครับ

ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปี ( เรียกว่า แพทย์ทั่วไป ) แล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง ออร์โธปิดิกส์ อีก 4 ปี เมื่อสอบผ่านแล้วจึงจะถือว่าเป็น แพทย์ออร์โธปิดิกส์ โดยสมบูรณ์ ( รวมเวลาเรียนก็ ๑๐ ปี นานเหมือนกันนะครับ )

หน้าที่ของหมอกระดูกและข้อ จะเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วย ของ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ข้อ และ เส้นประสาท โรคที่พบได้บ่อย ๆ เช่น กระดูกหัก ข้อเคล็ด กล้ามเนื้อฉีกขาด กระดูกสันหลังเสื่อม ข้อเข่าเสื่อม กระดูกพรุน เป็นต้น

สำหรับกระดูกก็จะเกี่ยวข้องกับกระดูกต้นคอ กระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกราน กระดูกข้อไหล่ จนถึงปลายนิ้วมือ กระดูกข้อสะโพกจนถึงปลายนิ้วเท้า ( ถ้าเป็นกระดูกศีรษะ กระดูกหน้า และ กระดูกทรวงอก จะเป็นหน้าที่ของศัลยแพทย์ทั่วไป )

นอกจากรักษาด้วยการให้คำแนะนำ และ ยา แล้วยังรักษาด้วย วิธีผ่าตัด รวมไปถึง การทำกายภาพบำบัด บริหารกล้ามเนื้อ อีกด้วย นะครับ

ตอนนี้ผม ลาออกจากราชการ มาเปิด คลินิกส่วนตัว อยู่ที่ จังหวัดกำแพงเพชร .. ใช้เวลาว่าง มาเป็นหมอทางเนต ตอบปัญหาสุขภาพ และ เขียนบทความลงเวบ บ้าง ถ้ามีอะไรที่อยากจะแนะนำ หรือ อยากจะปรึกษา สอบถาม ก็ยินดี ครับ

นพ. พนมกร ดิษฐสุวรรณ์ ( หมอหมู )

ปล.

ถ้าอยากจะถามปัญหาสุขภาพ แนะนำตั้งกระทู้ถามที่ .. เวบไทยคลินิก ... ห้องสวนลุม พันทิบ ... เวบราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์ หรือ ทางอีเมล์ ... phanomgon@yahoo.com

ไม่แนะนำ ให้ถามที่หน้าบล๊อก เพราะอาจไม่เห็น นะครับ ..




New Comments
[Add หมอหมู's blog to your web]