Ortho knowledge for all @ Do no harm patient and myself @ สุขภาพดี ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ ต้องสร้างเอง

แท็กซี่ส่งความสุข: Chuo Taxi



แท็กซี่ส่งความสุข: Chuo Taxi

สามีภรรยาคู่หนึ่ง เรียกแท็กซี่จากวัดกลับไปที่โรงแรม
ระหว่างทาง สามีเมารถจนอาเจียนและเลอะเสื้อนอก
ภรรยากลัวว่ารถจะเหม็นกลิ่นอาเจียน
จึงรีบให้สามีถอดเสื้อใส่ถุงพลาสติกและมัดปากถุงจนแน่น
เมื่อถึงโรงแรม เธอฝากให้คนขับแท็กซี่นำเสื้อไปทิ้งให้

วันถัดมา ขณะที่สามีภรรยาคู่นั้นจะเช็คเอ้าท์
พนักงานโรงแรมแจ้งว่า มีคนฝากพัสดุไว้ให้
เมื่อพวกเขาเปิดดู ก็พบเสื้อสเวตเตอร์ซักสะอาดเรียบร้อย
....จากคนขับแท็กซี่คนนั้นนั่นเอง
+++++++++++++
จุดประสงค์ของบทความนี้
ไม่ได้มุ่งเชิดชูการบริการแท็กซี่ญี่ปุ่น
เพื่อกระทบกระเทียบแท็กซี่บ้านเรา
หรือตะโกนแห้งๆ ว่า “ทำไมบ้านเราไม่มีอย่างนี้บ้าง”

จริงๆ แล้ว สถานการณ์แท็กซี่ญี่ปุ่นเมื่อ 30 ปีก่อน
ก็ไม่แตกต่างจากเมืองไทย
คนขับไม่อยากขับไปส่งผู้โดยสารที่เรียกรถใกล้ๆ
กิริยามารยาทคนขับไม่ดี

Utsunomiya Tsunehisa (宇都宮恒久)
ชายหนุ่มวัย 25 ก็รู้สึกหดหู่ในวงการแท็กซี่ญี่ปุ่นเช่นกัน
เขาตัดสินใจพลิกวงการแท็กซี
โดยปฏิรูปบริษัท Chuo Taxi ในจังหวัดนากาโนะ
ให้กลายเป็นบริษัทที่มุ่งมั่นบริการผู้โดยสารอย่างแท้จริง

เขาสร้างหลักปรัชญาบริษัทว่
"ลูกค้ามาก่อน กำไรมาทีหลัง"
++++++++++
ในปีค.ศ. 1975 พ่อของ Utsunomiya
เข้าซื้อบริษัทแท็กซี่เล็กๆ แห่งหนึ่ง

สมัยนั้น คนขับแท็กซี่ส่วนใหญ่มารยาทไม่ดี
หน้าร้อน ก็ใส่เสื้อกล้ามตัวเดียวขับรถรับส่งผู้โดยสาร
วันใด รายได้น้อย คนขับก็บ่นและตะคอกผู้โดยสา

Utsunomiya ต้องเข้าไปช่วยบิดาบริหารบริษัท
ที่คนขับแท็กซี่เหมือนเป็นยากูซ่าเหล่านี้

วันหนึ่ง Utsunomiya เห็นลูกน้อง 3-4 คนถือสายฉีดน้ำ
ไล่ฉีดผู้ชายคนหนึ่งอยู่ตรงด้านหลังบริษัท

เมื่อเขาถามว่าเกิดอะไรขึ้น
ลูกน้องบอกว่า “ไอ้คนนี้มันไม่ยอมจ่ายเงิน”

Utsunomiya หันไปถามผู้ชายที่นั่งกอดเข่าตัวสั่นๆ คนนั้น
เขาบอกว่า
“ผมเมาเหล้า พอขึ้นรถ ใกล้จะถึงปลายทาง
ผมบอกเขาว่า ผมลืมกระเป๋าสตางค์
ขอให้ไปส่งถึงที่บ้าน แล้วเดี๋ยวจะหยิบเงินให้
แล้วพวกนี้ ก็หาว่าผมเมาแล้วเบี้ยว จนทำกับผมแบบนี้
ผมจะไม่นั่งแท็กซี่บริษัทคุณอีกต่อไปแล้ว!”

Utsunomiya สะเทือนใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก
จนเขาบอกกับตัวเองไว้ว่า
“เราต้องเปลี่ยนบริษัทแท็กซี่แห่งนี้ให้ได้”

เขาค่อยๆ ใช้เวลาเกือบ 10 ปี
ในการปรับความคิดของพนักงาน
ทว่า... ไม้แก่ดัดยากเหลือเกิน
Utsunomiya จึงใช้นโยบายใหม่
ค่อยๆ เริ่มจ้างพนักงานที่ “ไม่เคยมีประสบการณ์ขับแท็กซี่มาก่อน” เท่านั้น

เขาค่อยๆ ฝึกพนักงานหน้าใหม่เหล่านี้
เมื่อเวลาผ่านไป พนักงานเก่าแบบยากูซ่าก็ลาออกไปเรื่อยๆ
เขาก็รับพนักงานหน้าใหม่น้ำดีเข้ามาเรื่อยๆ

Utsunomiya จัดงานเลี้ยงและกิจกรรมต่างๆ บ่อยๆ
เพื่อให้พนักงานสนิทกันและร่วมมือร่วมใจกันมากขึ้น

Utsunomiya วางกฎไว้แค่ 3 ข้อ
1. เมื่อลูกค้าขึ้นรถ ต้องกล่าวสวัสดี และแนะนำชื่อตัวเอง
2. พกร่มติดรถไว้เสมอ วันไหนฝนหรือหิมะตก ต้องคอยดูแลผู้โดยสาร
3. บริการแบบ door to door
ช่วยลูกค้าขนของหรือพยุงไปส่งถึงหน้าประตูบ้าน

การบริการต่างๆ นอกเหนือจากที่กำหนดไว้
ล้วนเป็นสิ่งที่พนักงานทำเองทั้งสิ้น

ฝาหนังบริษัท มีมุม Heartful card
ให้พนักงานเขียนการ์ดเล่าเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้น
พนักงานก็อ่านกันเอง และซึมซับเรื่องราวดีๆ จากเพื่อนร่วมงาน

ครั้งหนึ่ง แม่ลูกจากโตเกียวมางานแต่งงานที่นากาโนะ
อากาศที่นั่นหนาวกว่าที่โตเกียวมาก
คุณแม่จึงขอให้คนขับพาไปร้านขายถุงเท้า
เพื่อจะซื้อให้ลูกชายใส่

เนื่องจากตอนนั้นยังเช้าอยู่มาก
ยังไม่มีร้านค้าที่ไหนเปิด
แม่ลูกจึงจำใจต้องตัดใจและมุ่งไปที่โบสถ์

แต่ก่อนที่พิธีจะเริ่ม
คนขับคนเดิมได้มาที่สถานที่จัดงานอีกครั้ง
พร้อมยื่นถุงเท้า 2 คู่ให้กับแม่ลูก

"ผมไม่แน่ใจว่า น้องใส่ไซส์ไหน
จึงลองซื้อมาทั้ง 2 คู่ครับ
หวังว่าจะช่วยให้น้องอุ่นขึ้นนะครับ"

คนขับไปรอร้านขายถุงเท้าเปิ
และรีบซื้อถุงเท้ามาให้แม่ลูก

แม่ลูกประทับใจจนน้ำตาไหล
วันที่เด็กชายคนนี้เรียนจบ
เขาใส่ถุงเท้าคู่นี้เข้าพิธีสำเร็จการศึกษา
แม่ลูกยังเก็บถุงเท้า 2 คู่นั้นจนถึงบัดนี้
+++++

Utsunomiya บอกลูกน้องเสมอว่า
“อาชีพของเรา ได้เข้าไปสัมผัสชีวิตของผู้โดยสาร
อย่าคิดว่า “ก็แค่ขับแท็กซี่”"

ด้วยการบริการที่สุภาพนอบน้อม จริงใจ
และมุ่งมั่นทำเพื่อลูกค้าอย่างแท้จริง

Chuo Taxi มีลูกค้าประจำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
จนคนขับไม่ต้องไปจอดรถรอรับลูกค้าที่หน้าสถานีรถไฟเหมือนบริษัทอื่น
ร้อยละ 90 ของผู้โดยสาร มาจากการโทรจองทั้งหมด
+++++++
"ลูกค้ามาก่อน"

ในปี 1998 มีการจัดกีฬาโอลิมปิคที่จังหวัดนากาโนะ
ทางรัฐก็เสนอบริษัทแท็กซี่ รวมถึงบริษัท Chuo
ว่า จะมีออเดอร์พิเศษ ให้คอยรับส่งนักกีฬาและนักข่าว

Utsunomiya เห็นว่านี่เป็นโอกาสที่ดี
จึงเล่าให้พนักงานคนหนึ่งฟัง ขณะที่นั่งรถกลับจากการประชุม
พนักงานคนนั้นกล่าวว่า
“แล้วอย่างนี้ ใครจะไปรับคุณยายที่โรงพยาบาลล่ะครับ
แกต้องไปโรงพยาบาลทุกวันนะครับ”

Utsunomiya ชะงักไป และตัดสินใจเรียกพนักงานทั้งหมดมาหารือว่า
ควรรับออเดอร์งานโอลิมปิคหรือไม่
ปรากฎว่า ทุกคนเห็นตรงกันว่า
พวกเขาควรรับใช้ลูกค้าประจำเช่นเดิมดีกว่า

นั่นทำให้รายได้ของบริษัทหล่นจากที่ 1 ลงมาเป็นที่ 6
เพราะไม่ยอมรับรายได้พิเศษจากงานโอลิมปิค

แต่น่าแปลก ...
หลังจากกีฬาโอลิมปิคจบ
Chuo Taxi กลับมียอดขายที่สูงขึ้น
นั่นอาจเป็นเพราะผู้โดยสารของบริษัทอื่น
ได้ลองใช้บริการช่วงโอลิมปิค จนติดใจ
และกลายมาเป็นลูกค้าของบริษัทอีก

แม้คู่แข่งเจ้าอื่นจะลดราคามาแข่ง
แต่ก็ไม่สามารถแย่งลูกค้ากลับคืนมาได้
Chuo Taxi ก้าวขึ้นเป็นเจ้าตลาดอีกครั้ง
+++++++
“ลูกค้ามาก่อน กำไรตามมาทีหลัง”
นี่เป็นคำกล่าวที่พนักงานทุกคนของ Chuo ต้องท่องพร้อมกันทุกเช้า

นี่คงเป็นเหตุผลที่พนักงานขับรถแท็กซี่คนหนึ่ง
ตัดสินใจนำเสื้อสเวตเตอร์เลอะอาเจียนของผู้โดยสารกลับไปซัก
และนำกลับมาส่ง
โดยที่เขาไม่ได้ทิปหรือไม่สามารถเบิกค่าซักแห้งใดๆ ได้เลย

เพียงเพราะเขาเห็นว่า เสื้อสเวตเตอร์ที่ผู้โดยสารใส่มาเที่ยว
คงจะเป็นเสื้อตัวเก่งของเขาแน่ๆ
เขาจึงตัดสินใจซัก แทนที่จะนำไปทิ้ง

คุณยายคนหนึ่งเขียนจดหมายมาถึงบริษัทว่า
“ฉันมีความสุขมากที่ได้นั่งรถแท็กซี่ของ Chuo
คนขับทุกคนใส่ใจฉัน ดูแลฉันเป็นอย่างดี
บางครั้ง แม้ว่าฉันเดินๆ อยู่ และไม่ได้นั่งแท็กซี่
แต่พอเห็นรถของ Chuo วิ่งผ่านมา
ฉันก็รู้สึกอบอุ่นแบบดีใจนะ ฉันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ”

ลูกค้ามาก่อน กำไรมาทีหลัง ....
และตามมาอย่างงดงาม

ปัจจุบัน Chuo Taxi มีรายได้เฉลี่ยต่อคันเดือนละ 4 แสนบาท
ขณะที่ค่าเฉลี่ยของบริษัทอื่นๆ อยู่ที่เดือนละ 2.5 แสนบาท

จากบริษัทที่มีแต่พนักงานที่ขับรถไปวันๆ โวยวายลูกค้า
เปลี่ยนเป็นบริษัทที่พนักงานยินดีทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกค้ามีความสุขที่สุด

เราเปลี่ยนองค์กร เปลี่ยนสังคมได้ค่ะ

Japan Gossip by เกตุวดี Marumura

ป.ล. รายการ "ดูให้รู้" เคยมาถ่ายทำบริษัทนี้ สนใจชมบรรยากาศและสีหน้าสดใสของพนักงานได้ทางนี้เลยค่ะ -> https://www.youtube.com/watch?v=r2aIaBupaGw



Create Date : 07 มีนาคม 2559
Last Update : 7 มีนาคม 2559 22:38:56 น. 1 comments
Counter : 1463 Pageviews.  

 
สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาทักทาย สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: nokyungnakaa วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:18:42:36 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมอหมู
Location :
กำแพงเพชร Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 762 คน [?]




ผมเป็น ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ หรือ อาจเรียกว่า หมอกระดูกและข้อ หมอกระดูก หมอข้อ หมอออร์โธ หมอผ่าตัดกระดูก ฯลฯ สะดวกจะเรียกแบบไหน ก็ได้ครับ

ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปี ( เรียกว่า แพทย์ทั่วไป ) แล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง ออร์โธปิดิกส์ อีก 4 ปี เมื่อสอบผ่านแล้วจึงจะถือว่าเป็น แพทย์ออร์โธปิดิกส์ โดยสมบูรณ์ ( รวมเวลาเรียนก็ ๑๐ ปี นานเหมือนกันนะครับ )

หน้าที่ของหมอกระดูกและข้อ จะเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วย ของ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ข้อ และ เส้นประสาท โรคที่พบได้บ่อย ๆ เช่น กระดูกหัก ข้อเคล็ด กล้ามเนื้อฉีกขาด กระดูกสันหลังเสื่อม ข้อเข่าเสื่อม กระดูกพรุน เป็นต้น

สำหรับกระดูกก็จะเกี่ยวข้องกับกระดูกต้นคอ กระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกราน กระดูกข้อไหล่ จนถึงปลายนิ้วมือ กระดูกข้อสะโพกจนถึงปลายนิ้วเท้า ( ถ้าเป็นกระดูกศีรษะ กระดูกหน้า และ กระดูกทรวงอก จะเป็นหน้าที่ของศัลยแพทย์ทั่วไป )

นอกจากรักษาด้วยการให้คำแนะนำ และ ยา แล้วยังรักษาด้วย วิธีผ่าตัด รวมไปถึง การทำกายภาพบำบัด บริหารกล้ามเนื้อ อีกด้วย นะครับ

ตอนนี้ผม ลาออกจากราชการ มาเปิด คลินิกส่วนตัว อยู่ที่ จังหวัดกำแพงเพชร .. ใช้เวลาว่าง มาเป็นหมอทางเนต ตอบปัญหาสุขภาพ และ เขียนบทความลงเวบ บ้าง ถ้ามีอะไรที่อยากจะแนะนำ หรือ อยากจะปรึกษา สอบถาม ก็ยินดี ครับ

นพ. พนมกร ดิษฐสุวรรณ์ ( หมอหมู )

ปล.

ถ้าอยากจะถามปัญหาสุขภาพ แนะนำตั้งกระทู้ถามที่ .. เวบไทยคลินิก ... ห้องสวนลุม พันทิบ ... เวบราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์ หรือ ทางอีเมล์ ... phanomgon@yahoo.com

ไม่แนะนำ ให้ถามที่หน้าบล๊อก เพราะอาจไม่เห็น นะครับ ..




New Comments
[Add หมอหมู's blog to your web]