.. แล้ว เรา จะเลือก มอง แบบไหน ...
นำมาฝาก จากเวบไทยคลินิก ...
เรื่องราวที่คุณกำลังจะอ่านนี้ ช่างงดงาม
ขอใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที เพื่อที่คุณจะได้อ่านเรื่องนี้ แล้วความคิดของคุณจะเปลี่ยนไป
ชาย2คน ป่วยหนักทั้งคู่นอนอยู่ในโรงพยาบาล ห้องเดียวกัน
ชายคนแรก ได้รับอณุญาติให้ลุกนั่งได้วันละ1ชั่วโมงในช่วงบ่าย เพื่อช่วยระบายของเหลวในปอด เตียงของเขาอยู่ติดกับหน้าต่าง ซึ่งมีเพียงบานเดียวในห้องนั้น
ส่วนชายอีกคน หมอให้นอนราบตลอดเวลา...อยู่บนเตียง
ชายทั้งสองที่ร่วมห้องกัน ได้คุยถึงเรื่องราวชีวิตของตน พวกเขาเล่าให้กันฟังถึงเรื่องภรรยา เรื่องครอบครัว เรื่องบ้าน การงาน เรื่องสมัยเมื่อถูกเกณฑ์ทหาร เรื่องที่ไปเที่ยวที่ต่างๆในวันพักร้อน
ทุกวันในช่วงบ่าย ชายที่นอนริมหน้าต่างจะบรรยายให้เพื่อนร่วมห้องฟังว่า มีอะไรเกิดขึ้นภายนอกบ้าง ชายคนที่นอนราบอยู่ก็รู้สึกดีขึ้นจากเวลาแค่ 1 ชั่วโมงที่เพื่อนที่นอนริมหน้าต่างบรรยายให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง มันทำให้เขารู้สึกเหมือนว่า เขาได้ดำเนินชีวิตตามปกติ โลกของเขาดูกว้างขวางขึ้นและมีชีวิตชีวาขึ้น จากกิจกรรมหลากสีสันของชีวิตที่ดำเนินไปในโลกภายนอก
ชายที่ได้รับโอกาศให้ลุกนั่ง ได้บรรยายให้ชายที่นอนราบตลอกเวลา เห็นภาพว่า หน้าต่างที่มองออกไป เห็นทะเลสาบที่สวยงาม ฝูงเป็ดและหงษ์ลอยล่องอยู่บนน้ำ ในขณะที่เด็กๆเล่นเรือใบจำลอง คู่รักวัยเยาว์เดินจูงมือกัน มีดอกไม้สีสันสวยงามเบ่งบานอยู่รอบๆและเห็นตึกรามที่ทันสมัยของตัวเมืองอยู่ ไกลๆ
ในขณะที่ชายที่นอนริมหน้าต่างบรรยายให้เพื่อนๆฟังถึงรายละเอียดต่างๆด้านนอก ชายที่นอนราบอยู่ก็หลับตาลง จินตนาการให้เห็นภาพตามไป
ยามบ่ายวันที่อบอุ่นวันหนึ่ง ชายที่นอนอยู่ริมหน้าต่างได้เล่าว่า มีขบวนพาเหรดขบวนหนึ่งกำลังเดินผ่านไป
แม้ว่าชายอีกคนไม่ได้ยินเสียงของขบวนพาเหรดนั้นเลย แต่เสมือนเขาสามารถได้รับฟังและแลเห็นได้จากคำบรรยายที่พรรณนาได้อย่างละเอี ยดละออของเพื่อนที่อยู่ริมหน้าต่าง
วันเวลา เป็นสัปดาห์ เป็นเดือน ผ่านไปเช่นนั้น เช้าวันหนึ่งเมื่อพยาบาลจะเข้าไปดูแลคนไข้ พยาบาลเวรเช้าได้พบร่างที่สงบนิ่งไร้ชีวิตของชายที่นอนริมหน้าต่าง เขาได้จากไปอย่างสงบขณะนอนหลับ เธอเศร้าใจมาก และได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายฌาปนกิจมารับศพของเขาไป เมื่อการจัดการศพผ่านไปเรียบร้อย ชายที่เป็นเพื่อนร่วมห้องได้เอ่ยปาก ขอย้ายเตียงไปนอนที่ริมหน้าต่างแทนเพื่อนผู้จากไปของเขา พยาบาลรู้สึกดีที่ได้มีการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ และเมื่อจัดที่ทางให้คนไข้เรียบร้อย เธอก็ออกไปจากห้อง ทิ้งให้เขานอนที่ตียงใหม่คนเดียว
ชายผู้ซึ่งต้องนอนราบกับเตียงเป็นเวลานาน ได้พยายามยันร่างของเขาขึ้นด้วยศอก แม้มันจะเจ็บปวดและยากลำบาก ด้วยความกระหายที่จะมองเห็นโลกภายนอกด้วยตาของตนเอง และ....เมื่อเขายันกายขึ้นมองผ่านหน้าต่างไปได้.... เขากลับเห็นเพียงแค่....ผนังตึกว่างๆ!!! ด้วยความข้องใจ..เขาได้ถามพยาบาลผู้ดูแลเกี่ยวกับเพื่อนร่วมห้องผู้เพิ่งจาก ไป..ผู้ซึ่งได้พรรณนาถึงความงามของโลกภายนอกที่อยู่นอกหน้าต่างนั้นให้เขาฟัง
นางพยาบาลเล่าว่า...ชายผู้เพิ่งจากไปนั้น ที่แท้เป็นคนตาบอด ไม่สามารถแม้แต่จะมองเห็นว่ามีผนังว่างเปล่านอกหน้าต่างบานนี้ เธอบอกว่า
ที่เขาเล่าให้คุณฟังถึงโลกภายนอกที่สวยงามนอกหน้าต่างนั้น อาจเพราะแค่อยากให้กำลังใจคุณ
เรื่องนี้บอกเราว่า
ยังมีเรื่องราวอีกมากมายในโลก ที่เราสามารถทำให้คนอื่นมีความสุข ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม
การแบ่งปันเรื่องทุกข์ใจให้คนอื่นรับรู้ อย่างมากก็ลดความทุกข์ของเราไปครึ่งหนึ่ง
แต่ถ้าแบ่งปันความสุขที่เรามีให้คนอื่น เราก็สุข..เขาก็สุข..ความสุขก็จะเป็น2เท่า
ถ้าเราอยากรู้สึกว่ารวย..จงอย่านับแต่เงินและทรัพย์สินที่มี จงนับสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขที่เงินไม่สามารถซื้อหาได้..เข้าไปร่วมด้วย.
Today is gift,that is why it is called The Present.
จาก FW mail ถ้าซ้ำก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ
ส่งโดย: DrT031
Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2552 |
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2552 20:00:59 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1390 Pageviews. |
|
|
|
|
| |