อินเดีย vs. ปากีสถาน - แอบดูกำลังรบของสองชาติเอเชียใต้
การก่อวินาศกรรมที่เมืองมุมไบกลายเป็นข่าวใหญ่ที่กลบข่าวแทบทุกข่าวในวงการการทหารไปเลยทีเดียวครับ หลังจากเหตุการณ์ยุติลง มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน ผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก และที่สำคัญ อินเดียยังระบุว่าผู้อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์นี้คือกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงที่ปากีสถานให้การสนับสนุน แน่นอนปากีสถานปฏิเสธความเกี่ยวโยงใด ๆ ของรัฐบาลปากีสถานกับเหตุการณ์นี้ หลังจากเกิดเหตุไม่นานนางสาวคอนโดลีซซา ไรซ์ของสหรัฐและนายกอร์ดอน บราวน์ของอังกฤษเดินทางไปเยือนอินเดียและปากีสถานทันทีเพื่อเสนอความช่วยเหลือและป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลามไปจนถึงขั้นสงคราม
แม้ว่าตอนนี้ยังไม่มีสงครามหรือการปะทะใด ๆ ระหว่างสองชาติ แต่กองทัพทั้งสองประเทศอยู่ในภาวะเตรียมพร้อม และมีข่าวออกมาว่าปากีสถานกล่าวหาว่าอินเดียเริ่มส่งเครื่องบินรุกล้ำน่านฟ้าของตนครับ แม้ส่วนตัวผมจะเชื่อว่าไม่น่าจะมีสงครามระหว่างสองประเทศเหมือนเดิม แต่จากประวัติศาสตร์การรบระหว่างสองประเทศนี้ ทำให้อดกลัวไม่ได้ว่าสงครามมันจะเกิดขึ้นจริง ๆ ซึ่งนั่นเรื่องของนักการฑูตของทั้งสองประเทศจะดำเนินการเพื่อยุติสงครามรัฐนิวเคลียร์ของชาตินี้ครับ
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสงครามจะเกิดขึ้นหรือไม่ (ซึ่งผมภาวนาว่าอยาให้เกิดเลย) วันนี้ เราลองมาตรวจสอบกำลังรบของทั้งสองชาติเพื่อเป็นความรู้กันดีกว่าครับ
กองทัพบกอินเดีย
กองทัพบกอินเดียมีกำลังทหารประจำการเกือบ 1 ล้าน 5 แสนนาย ถือว่ามีกำลังพลมากที่สุดเป็นอันดับสามของโลกรองจากจีนและสหรัฐ แบ่งการบังคับบัญชาไปในกองบัญชาการยุทธกองทัพบก (Army Tactical Command) ทั้ง 6 กองบัญชาการคือกองบัญชาการภาคใต้, กองบัญชาการภาคตะวันออก, กองบัญชาการภาคกลาง, กองบัญชาการภาคตะวันตก, กองบัญชาการภาคเหนือ, และกองบัญชาการภาคตะวันตกเฉียงใต้ กำลังรบประกอบไปด้วย กองพลทหารราบ 18 กองพล, กองพลภูเขา 10 กองพล, กองพลยานเกราะ 3 กองพล, กองพลปืนใหญ่ 2 กองพล และกองพลน้อยอีกมากกว่า 30 กองพล
อาวุธหลัก ๆ ของกองทัพบกอินเดียนั้นมาจากหลายส่วนครับ ทั้งที่วิจัยและพัฒนาเองไปจนถึงจัดหาจากหลายประเทศทั่วโลก แต่ส่วนมากแล้วจะเป็นการจัดหาจากรัสเซียและอิสราเอลเป็นส่วนใหญ่
ปืนเล็กยาวประจำกายหลักของทหารราบอินเดียคือปืน INSAS ใช้กระสุน 5.56x45mm ของ NATO ครับ ปืนนี้เป็นปืนที่อินเดียพัฒนาขึ้นมาใช้งานเอง นอกจากนั้นหน่วยรบพิเศษของอินเดียก็ยังใช้ปืน TAR-21 Tavor ของอิสราเอล รวมไปถึงปืนอีกหลายชนิดจากรัสเซียอีกด้วยครับ
ยานเกราะของอินเดียนั้นส่วนมากเป็นยานเกราะจากทางรัสเซียครับ
กองทัพบกอินเดียใช้รถถัง T-90S เป็นกำลังรบหลัก โดยอินเดียซื้อลิขสิทธิ์จากรัสเซียมาผลิตเองในประเทศมากกว่า 1,000 คัน นอกนั้นก็ยังมีรถถัง T-72M1 จากรัสเซียจำนวนอีกราว 2,000 คัน ซึ่ง T-72 นี้จะได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้นครับ นอกจากนั้นอินเดียยังมีรถถัง T-55 ประจำการอยู่ แต่ใช้ในภารกิจการสนับสนุนทหารราบเนื่องจากความเก่าของมัน บทบาทจะคล้าย ๆ รถถัง M41 ในกองทัพบกไทยครับ
อินเดียยังพัฒนารถถังใช้เองอีกด้วยครับนั่นคือรถถัง Arjun อินเดียพัฒนารถถังแบบนี้มาตั้งแต่ช่วงทศวรรตที่ 70 แล้วครับ แต่การพัฒนาและการผลิตประสบปัญหามากมายเช่น เครื่องยนต์และระบบควบคุมการยิงทำงานล้มเหลวในอากาศที่ร้อนจัดเนื่องจากปัญหาการปลดปล่อยความร้อนที่มากเกินไปของรถถัง ระบบความคุมการยิงนั้นไม่แม่นยำเพียงพอ และงบประมาณที่บานปลายจนไม่คุ้มค่า การทดสอบและการฝึกหลายครั้งชี้ให้เห็นว่ารถถังมีประสิทธิภาพต่ำกว่ามาตราฐาน ทำให้กองทัพบกอินเดียตัดสินใจยุติการผลิตรถถัง Arjun ไว้ที่ 124 คัน และจัดหารถถัง T-90S เพิ่มเติมครับ
ส่วนรถเกราะนั้น กองทัพบกอินเดียมีรถเกราะ BMP-1 และ BMP-2 จำนวนรวมกันเกือบ 3,000 คันเป็นกำลังรบหลักครับ โดยรถเกราะเหล่านี้บางคันติดตั้งเครื่องยิงลูกระเบิดและอาวุธต่อสู้รถถังอีกด้วยครับ
Arjun Main Battle Tank
อินเดียมีปืนใหญ่และระบบจรวดหลายลำกล้องหลายพันระบบครับ และยังมีแผนจะปรับปรุงกำลังรบด้วยการจัดหาปืนใหญ่เพื่อทดแทนของเก่าทั้งปืนใหญ่ลากจูงและปืนใหญ่อัตตาจรอีกมากถึง 4,000 ระบบ
ปืนใหญ่หลักของกองทัพบกอินเดียคือ FH-77 ขนาด 155 mm จากสวีเดน และ M46 ขนาด 130 มม. ของรัสเซียครับ ปืนใหญ่อัตตาจรนั้นมีปืนใหญ่อัตตาจรแบบ FV433 Abbot และ M46 Catapult หลายพันระบบ ซึ่งอินเดียกำลังจัดหาปืนชนิดใหม่เพื่อทดแทน ส่วนระบบจรวดหลายลำกล้องนั้นอินเดียมี Pinaka ที่อินเดียผลิตเองและ BM-30 Smerch จากรัสเซีย เข้าประจำการ
สำหรับจรวดต่อสู้อากาศยานนั้น อินเดียมีจรวดต่อสู้อากาศยานหลายชนิดใช้งานเช่น SA-18, SA-13, SA-6, SA-10, SA-16 หรือ Igla และมีปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานอีกหลายพันกระบอกครับ
อากาศยานของกองทัพบกอินเดียนั้นมีหลายพันลำครับ กำลังหลักมีเฮลิคอปเตอร์แบบ Alouette III ซึ่งอินเดียซื้อลิขสิทธิมาผลิตเองในชื่อ Chetak โดยกองทัพบกอินเดียกำลังมองหาเฮลิคอปเตอร์แบบใหม่ทดแทน Chetak อยู่ครับ แต่กองทัพบกอินเดียยกเลิกการจัดหา AS 550 จาก Eurocopter ไปเนื่องจากพบความผิดพลาดในการประเมินค่า และทำให้การจัดหาล่าช้าออกไปอีก นอกจากนั้นอินเดียยังวางแผนที่จะจัดหาฮ. Dhruv ซึ่งอินเดียพัฒนาเองจำนวน 220 ลำด้วยครับ ส่วน UAV นั้นอินเดียมี UAV แบบ Searcher II และ Heron ประจำการ และยังพัฒนา Nishant ใช้งานเองอีกด้วยครับ
Dhruv Utility Helicopter. Sarang Aerobatic Team. Indian Air Force
กองทัพเรืออินเดีย
กองทัพเรืออินเดียมีกองบัญชาการทั้งหมด 3 กองบัญชาคีอคือกองบัญชาการภาคตะวนัออก ภาคตะวันตก และภาคใต้ มีเรือรบทั้งหมด 156 ลำ ประกอบไปด้วยเรือบรรทุกเครื่องบิน 1 ลำ, เรือพิฆาต 8 ลำ, เรือฟริเกต 13 ลำ, เรือคอร์แวตต์ 24 ลำ, เรือดำน้ำ 17 ลำ, เรือสนับสนุน 22 ลำ ครับ
เรือบรรทุกเครื่องบินหลักในตอนนี้คือเรือ INS Viraat ซึ่งมีเครื่องบิน Sea Harrier เป็นเครืองบินหลักครับ เรือลำนี้กำลังจะถูกปลดประจำการลงและทดแทนด้วยเรือ INS Vikramaditya ซึ่งมี MiG-29K และ Sea Harrier ประจำการ
INS Vikramaditya เป็นเรือมือสองที่ถูกปรับปรุงมาจากเรือ Admiral Gorshkov ของรัสเซียครับ โดยอินเดียจัดหาและว่าจ้างรัสเซียปรับปรุงด้วยเงินจำนวน 8 ล้านเหรียญสหรัฐพร้อมกับ MiG-29K จำนวน 16 ลำอีก 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่โครงการประสบปัญหาด้านเทคนิคและความล่าช้ามากมาย โดยรัสเซียขอให้อินเดียจ่ายเงินเพิ่มอีกกว่า 1.2 พันล้านเหรียญเพื่อปรับปรุงเรือให้เสร็จ โดยเรือมีกำหนดที่จะเข้าประจำการได้ในปี 2012 ครับ
ส่วนเรือผิวน้ำที่สำคัญก็มีหลายลำครับ มีทั้งที่ต่อในรัสเซียและอินเดีย ส่วนมากแล้วจะใช้ระบบอาวุธของรัสเซียและอิสราเอล เรือชั้นที่เด่น ๆ ก็เช่นเรือชั้น Delhi ขนาด 6,700 ตันและเรือชั้น Talwar ขนาด 4,000 ตันครับ (เรือ INS Tabar ในชั้น Talwar คือเรือที่ยิงเรือประมงไทยจนจมครับ)
INS Tabar
เรือดำน้ำของอินเดียมีเรือดำน้ำดีเชล-ไฟฟ้าชั้น Type 209 ของฝรั่งเศสและ Kilo ของรัสเซียเป็นกำลังหลักครับ และกำลังจัดหาเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้าชั้น Scorpene จากฝรั่งเศสจำนวน 6 ลำและชั้น Amur จากรัสเซียจำนวนอีก 6 ลำ และยังวางแผนที่จะต่อเรือดำน้ำนิวเคลียในประเทศ รวมถึงยังมีรายงานว่ากองทัพเรืออินเดียมีเรือดำน้ำชั้น Akula ของรัสเซียใช้งานด้วยครับ
อากาศยานของกองทัพเรืออินเดียก็มีหลายแบบครับ เครื่องบินขับไล่หลักก็คือ MiG-29K จำนวน 16 ลำ ประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน INS Vikramaditya ครับ นอกจากนั้นก็ยังมี Sea Harrier จำนวนเกือบ 20 กว่าลำครับ เครื่องบินลาดตระเวนหลักก็จะมี Tu-95 จำนวน 8 ลำ เฮลิคอปเตอร์ Dhruv, Sea King, Chetak, และฮ.ตระกูล Kamov อีกจำนวนหนึ่งครับ
MiG-29K
กองทัพอากาศอินเดีย
กองทัพอากาศอินเดียมีเครื่องบินที่ใช้ในการรบกว่า 1,400 ลำ และเครื่องบินที่ไม่ใช่ในการรบอีก 1,700 ลำครับ มีฝูงบินรบกว่า 40 ฝูง และเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีความสามารถในการพัฒนาเครื่องบินรบเองได้
กำลังรบหลักประกอบไปด้วยเครื่องบินขับไล่ครองอากาศแบบ Su-30MKI จำนวนมากกว่า 100 ลำ ซึ่งอินเดียซื้อลิขสิทธิ์มาผลิตเอง โดยโครงการทั้งหมดจะผลิตให้ได้รวม 270 ลำครับ Su-30MKI เป็นเครื่องบินขับไล่ตระกูล Su-27/30 ที่ทันสมัยที่สุด โดยใช้ระบบเอวิโอนิคส์จากหลายประเทศและใช้ระบบอาวุธจากรัสเซียครับ
นอกจากนั้นก็ยังมีเครื่องบินขับไล่แบบ Mirage 2000H อีกเกือบ 70 ลำ, MiG-29SMT อีกเกือบ 70 ลำ, MiG-21Bison,Bis,M,MF อีกเกือบ 500 ลำ ซึ่งอินเดียกำลังดำเนินโครงการ MMRCA (Meduim Multi-Role Combat Aircraft) เพื่อจัดหาเครื่องบินขับไล่ขนาดกลางทดแทน MiG-21 อีกในจำนวนเบื้องต้น 129 ลำครับ โดยแบบแผนอากาศยานที่สนใจคือ MiG-35, Typhoon, Rafale, Gripen IN, F/A-18E/F, และ F-16IN ครับ
ส่วนเครื่องบินโจมตีนั้นมี Jaguar จำนวน 150 ลำ, MiG-27ML ราว 50 ลำ, MiG-23BN/UM 25 ลำ ครับ และยังมีเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือน (AWAC) ซึ่งใช้เครื่องบินขนส่งแบบ Il-76 ติดเรด้าร Phalcon จากอิสราเอลจำนวน 6 ลำ และยังร่วมพัฒนาเครื่องบินขนส่งและเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 กับรัสเซีย รวมถึงกำลังนำเครื่องบิน Tejas ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่ขนาดเบาที่อินเดียออกแบบเองเข้าประจำการด้วยครับ
LCA Tejas
กองทัพบกปากีสถาน
กองทัพบกปากีสถานมีกำลังพลประจำการจำนวน 620,000 นาย ประกอบไปด้วย กองพลทหารราบ 17 กองพลและกองพลยานเกราะ 3 กองพล ส่วนหน่วยปืนใหญ่นั้นไม่ได้ถูกจัดในระดับกองพลครับ
ทหารราบของปากีสถานใช้ปืนหลายแบบเช่น AK-103 จากรัสเซีย, Type 81 จากจีน, และ H&K G3 จากเยอรมันเป็นต้นครับ
รถถังหลักของกองทัพบกปากีสถานคือรถถัง Al-Khalid ซึ่งพัฒนามาจากรถถัง Type-90 จีนจำนวน 600 คัน, Al-Zarrar ซึ่งปากีสถานพัฒนามาจาก Type-59 ของจีนจำนวน 500 คัน, และรถถัง T-80D ซึ่งจัดหาจากยูเครนจำนวนอีกกว่า 600 คัน
รถเกราะของกองทัพบกปากีสถานนั้นมีทั้งที่พัฒนาเองและจัดซื้อจากสหรัฐและรัสเซียหลายแบบเช่น Hamza, Al-Fahd, Sa'ad, Thalha ซึ่งพัฒนาเอง และยังมี M115 ของสหรัฐและ BTR-70 จากรัสเซียอีกด้วย
Al-Khalid Main Battle Tank
ปืนใหญ่ของกองทัพบกปากีสถานนั้นมีหลากหลายแบบจากหลายค่ายจำนวนรวมเกือบ 2,000 กระบอกครับ หลัก ๆ ที่น่าสนใจก็มีปืนใหญ่ M198 ขนาด 155 มม. จากสหรัฐ หรือ Type 59I ซึ่งก็คือ M46 แบบเดียวกับอินเดียครับ ปืนใหญ่อัตตาจรก็มี M109 จำนวนกว่าร้อยระบบครับ
อากาศยานในกองทัพบกปากีสถานนั้นมี AH-1F จำนวน 38 ลำ และมีเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปทั้งจากสหรัฐ ยุโรป และรัสเซียใช้งานเช่น Bell 412, Mi-17, และ Puma เป็นต้นครับ
กองทัพเรือปากีสถาน
กองทัพเรือปากีสถานมีเรือทั้งหมดราว 50 ลำหรือน้อยกว่านั้นครับ ส่วนมากแล้วเป็นเรือที่ใชระบบอาวุธของสหรัฐและจีน กองทัพเรือปากีสถานมีเรือฟริเกตุ 11 ลำ เรือดำน้ำ 5 ลำ เร็วเร็วโจมตี (อาวุธปล่อยนำวิถี) ราว 6 ลำครับ
เรือที่น่าสนใจก็มีเช่นเรือฟริเกตุชั้น F-22P ของจีนซึ่งกองทัพเรือปากีสถานกำลังได้รับมอบครับ
F-22P Frigate of Pakistani Navy
กำลังทางอากาศของกองทัพเรือปากีสถานเป็นกำลังของเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลเป็นส่วนใหญ่ครับ โดยอากาศยานที่เด่น ๆ ก็มี P-3C จำนวน 10 ลำ, F-27-200 จำนวน 5 ลำ, Sea King, จำนวน 6 ลำ, Z-9 จำนวน 18 ลำ เป็นต้นครับ
กองทัพอากาศปากีสถาน
ปากีสถานมีเครื่องบินรบราว 500 ลำ และเครื่องบินที่ไม่ได้ใช้ในการรบอีกราว 200 ลำครับ โดยมีกำลังหลังคือ F-16C/D จำนวน 18 ลำซึ่งกำลังรอรับมอบ และ F-16MLU อีกราว 44 ลำ, Mirage ในรุ่นต่าง ๆ ทั้งเก่าและที่ถูกปรับปรุงใหม่อีกราว 80 ลำ ส่วน A-5 จำนวนราว 40 ลำและ F-7 อีกราว 100 ลำกำลังถูกปลดประจำการลงเพื่อทดแทนด้วยเครื่องบินแบบใหม่ที่ปากีสถานและจีนร่วมกันพัฒนาคือ JF-17
ในการปรับปรุงกองทัพอากาศปากีสถานนั้น ปากีสถานได้วางแผนที่จะจัดหา JF-17 หรือ FC-1 ทั้งหมดราว 250 ลำ โดยเครื่องบินกำลังเริ่มเข้าประจำการในกองทัพอากาศปากีสถาน นอกจากนั้นยังสั่งซื้อ J-10A หรือ FC-20 จากจีนอีก 36 ลำ กำลังได้รับมอบ Saab 2000 AEW&C ซึ่งเป็นเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนอีก 5 ลำครับ
JF--17/FC-1. Pakistani Air Force
สำหรับวันนี้ จบเพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกท่าน สวัสดีครับ
Create Date : 22 ธันวาคม 2551 |
Last Update : 22 ธันวาคม 2551 14:10:53 น. |
|
35 comments
|
Counter : 21244 Pageviews. |
|
|
|